ยุคนี้เกษตรกรจะมาหว่านไถ ทำนา ปลูกพืชไร่แบบ alone ไม่ได้ มันต้องมีการรวมกลุ่มเชื่อมโยงตลาด เพื่อจะกลายเป็นเครือข่ายหรือชุมชนที่เข้มแข็ง
นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จับมือกับ ดีแทค เพื่อผูกสองฟันเฟืองคือข้าราชการและเกษตรกร ให้สมัครสมานพัฒนาคน พัฒนางาน จนก้าวขึ้นสู่การเป็น Smart Officer และ Smart Farmer สุดเข็มแข็ง
ย้อนไปเมื่อปี 2551 นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรฯ ในขณะนั้น ได้ผุดภารกิจ 5 Smart ขึ้นเพื่อสร้าง Smart Farmer หรือเกษตรกรปราดเปรื่อง โดยมีความเชื่อว่า Young Smart
Farmer หรือกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 17-45 ปี คือกลุ่มที่มีองค์ความรู้ในเชิงคิดใหม่ ทำใหม่ เน้นใช้วิธีการที่สะดวก รวดเร็ว ได้ผลผลิตเยอะ ราคาดีขึ้น ซึ่งเมื่อคนกลุ่มนี้ได้ทำงานเข้าขากับ Smart Officer หรือเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรที่เป็นคนรุ่นใหม่ด้วยกัน เชื่อได้ว่าทั้งสองฝ่ายที่มีความคิดทันกัน จะคอยประสานงานให้ข้อมูลต่อกันว่าจุดไหนมีดี แล้วลงไปทำงานด้วยกันภายใต้พื้นที่ของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ซึ่งทางกรมฯจัดสรรไว้มากถึง 50 ศูนย์ทั่วประเทศ เป็น Smart Office
ที่มีทั้งเครื่องมือที่จะให้บริการ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่เหมือนห้องสมุดที่จะเชื่อมโยงข้อมูลให้นำไปสู่การปฎิบัติจริงได้ โดยโมเดลนี้มุ่งเน้นให้เป็นการจับมือกันในระดับชุมชน กล่าวคือเป็น Smart Group หรือเครือข่ายเกษตรกรที่เข้มแข็ง
เพื่อสร้างผลิตผลที่ขายได้ในราคาที่เหนือตลาด กลายเป็น Smart Product ของชุมชนนั้นๆ นั่นเอง
จุดนี้แหละที่ ดีแทค ได้นำเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยเพื่อพัฒนาเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ทันกับยุคสมัย โดยนายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยว่า
“ผมดีใจนะครับที่เห็นภาคเอกชนร่วมงานกับภาครัฐ อย่างที่ดีแทคเข้ามาช่วย ซึ่งตรงกับความต้องการของพี่น้องเกษตรกร ขณะเดียวกันกรมส่งเสริมการเกษตรก็อยากเพิ่มช่องทางด้านสารสนเทศให้ Young
Smart Farmer ซึ่งสิ่งที่เราเห็นพ้องต้องกันคือ ทำอย่างไรให้ผลประโยชน์อยู่กับพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด ทุกคนเป็นพระเอกด้วยกันหมด ช่วยกันประคับประคองให้สังคมน่าอยู่ขึ้น พี่น้องเกษตรกร อุปกรณ์ต่างๆ
ก็พัฒนาดีขึ้น กระจายข้อมูลข่าวสารดีขึ้น การรับรู้กว้างขวาง จึงเป็นที่มาของบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับดีแทค เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ในการให้ความร่วมมือด้านการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อการพัฒนาการเกษตร การเชื่อมองค์ความรู้ เชื่อมโยงตลาด เชื่อมโยงเทคโนโลยี ซึ่งดีแทคมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ ขณะที่กรมมีความรู้
มีเจ้าหน้าที่ มีประสบการณ์ เมื่อนำมาผนวกกันจึงเป็นความร่วมมือที่สุดยอด
นายสงกรานต์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ต้องยอมรับว่ายุคนี้ ไม่ว่าทำธุรกิจจนถึงการส่งความคิดถึง
ต้องทำผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งนั้น ทางกรมจึงร่วมกับดีแทคลงพื้นที่ไปพบเกษตรกร แนะนำให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์
เพื่อวางแผนก่อนเริ่มดำเนินการ และบริหารจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ เป็นการทำงานร่วมกันโดยไม่หวังผลประโยชน์ ดีแทคพาทีมงานมาสอนการใช้อินเทอร์เน็ต หวังให้พี่น้องเกษตรกรได้ใช้เครื่องมือสื่อสารเป็น ส่วนกรมอยากให้เกษตรกรได้มีความสุขทางใจที่ได้คุยกับลูกหลาน
ภาพ : www.dtac.co.th
“แม้ปัจจุบันคนรุ่นใหม่จะหันมาทำเกษตรมากขึ้น แต่หากเทียบกันจริงๆ Young Smart Farmer ยังถือว่ามีอัตราน้อยหากเทียบกับจำนวนเกษตรกรที่มีในขณะนี้ คือเด็กรุ่นใหม่พอเรียนจบก็มุ่งไปทำงานในเมือง เราจึงพยายามสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม หลักของเกษตรกรรมคือความอยู่รอด หากไม่มีใครทำเกษตรจะเกิดปัญหาขึ้นในระยะยาว พื้นที่การเกษตรจะรกร้างว่างเปล่า ประเทศต้องสั่งอาหารเข้ามาจากต่างชาติ จะเกิดความไม่มั่นคงทางอาหาร คนไทยอยู่ลำบากขึ้น เพราะสังคมอยู่ได้อย่างยั่งยืนต้องมีความมั่นคงทางด้านอาหาร ผลิตเอง บริโภคเอง เหลือจึงนำไปขาย
“หากถามผมว่า ทำแล้วรวยไหม(ยิ้ม) ก็คงต้องตอบว่าเกษตรกรยุคนี้รวยกว่ายุคที่แล้ว ยุคนี้ปลูกแคนตาลูปไม่เกิน 10 ไร่ หรือปลูกข่าแค่ 5 ไร่ ได้เงินมากกว่าเกษตรกรยุคก่อนทำนา 50 ไร่ สิ่งสำคัญอยู่ที่การปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต เกษตรกรต้องรู้ว่าตลาดต้องการอะไร
คุณภาพเป็นอย่างไร ทำแล้วขายใคร คุ้มทุนไหม การเลือกสายพันธุ์
วิถีการตลาด ฤดูกาล การเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายบนการตัดสินใจที่มีข้อมูล หากเราไม่ศึกษาตลาดก็ล้มเหลว
อยู่ที่เกษตรกรต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดในการปรับเปลี่ยน ทำพื้นที่ให้เล็ก
แต่ทรงคุณค่ามากขึ้น เมื่อรวมกันจนกลายเป็นผืนใหญ่ก็จะประสบความสำเร็จ
“ผมมั่นใจว่า ดีแทค ทำสิ่งนี้ด้วยความสุข จึงขอบคุณมากที่มาร่วมกันสร้าง Smart Farmer เพราะท้ายที่สุดแล้วผมเชื่อว่าสังคมจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการมอบสิ่งดีๆ ให้แก่กันนั่นเอง”
ข้อมูลเรื่อง/ภาพ: นิตยสารแพรว และ www.dtac.co.th