ช่วงนั้นชีวิตคนในวงค่อนข้างลำบาก ‘โตโน่’ ต้องนําเงินที่ได้จากการโชว์ตัวหรือเงินละครมาแบ่งให้เพื่อนและคนที่ทํางานให้วง ตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่ต้องมีเงินเก็บก็ได้ แต่ขอให้เพื่อนๆอยู่ได้ แต่จุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นตอนคอนเสิร์ต 7 Wonders เมื่อกลางปีก่อนที่ทําให้คนรู้จักวงมากขึ้น ตั้งแต่วันนั้น The Dust ก็ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดเลยจนถึงตอนนี้ จากไม่มีคนจ้าง ตอนนี้โดนจองตัวเดือนละประมาณ 10 งาน “แต่พอวงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผมก็ไม่เพิ่มค่าตัวนะ หมายความว่า สมมุติเมื่อก่อนวงเรารับงานละสี่หมื่นบาท ผมอาจได้ส่วนแบ่งหนึ่งหมื่นบาท แต่พอช่วงหลังได้เพิ่มเป็นงานละหนึ่งแสน หรือหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท ค่าตัวผมก็เท่าเดิม แล้วนําส่วนต่างไปให้เพื่อนๆ เขาจะได้มีเงินไปดูแลครอบครัว ดูแลแฟน และมีชีวิตอยู่ได้”
“ผมเห็นมาหมดแล้ว ไม่ว่าคนที่สวยที่สุด หรือใครที่เขากรี๊ดกร๊าดกัน แต่ความรักไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียง หน้าตา รวยหรือจน เราเห็นแล้วว่าคนรวยก็เลิกกันได้ เดี๋ยวเวลาจะบอกเองว่าใครเป็นตัวจริง หรือใครที่อยู่กับผมไปตลอดชีวิตได้”
“ผมเชื่อว่าการเก็บข้าวทั้งหม้อไว้กินคนเดียว ไม่มีทางมีความสุขเท่ากับการแบ่งให้คนที่รัก เอ้า! รับไปคนละถ้วยสองถ้วยแล้วล้อมวงกินด้วยกัน เราอาจไม่อิ่มที่สุด แต่แค่นั้นเราอยู่ได้แล้ว แถมยังทําให้คนรอบข้างมีความสุข พ่อแม่ของเขามีความสุข ผมว่าเป็นเรื่องดีนะ มาดูกันนะ แต่ถ้างานไหนที่ทําเพราะเป็นกระแส ผมไม่ค่อยกล้าพูดหรอก แต่ถ้าเป็นงานที่ตั้งใจทําเต็มที่ พูดกี่ครั้งก็เป็นความจริง”
เรื่อง : นิตยสารแพรว
ภาพ : mootono29