แบบนี้ก็มีด้วย! ‘พล สัตย์สงวน’ หนุ่มใหญ่วัย40อัพ เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ …สุดยอด!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ เพราะ ‘พล สัตย์สงวน’ มีดีเอ็นเอทางการศึกษาเต็มตัว คุณตาเปิดโรงเรียน ‘หาดใหญ่อำนวยวิทย์’ ส่วนคุณยายมีโรงเรียน ‘สัตย์สงวนวิทยา’ แต่ทายาทอย่างเขากลับเอ็นทรานซ์ไม่ติด จึงเลือกที่จะจัดระบบการเรียนให้ตัวเองตั้งแต่ม.5 จนถึงวันนี้ในตำแหน่ง หัวหน้าลูกเรือการบินไทยวัย 43 ปี เขามีปริญญาอยู่ในครอบครอง 21 ใบแล้ว จนหลายคนหาว่าบ้า!

 คุณพอลน่าจะเป็นตัวอย่างกับคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’ เพราะไม่ว่าจะเป็นประตูการศึกษาสถาบันไหน เขาพร้อมที่จะตบเท้าเข้าไปเสมอ

 

“เมื่อก่อนเรียนควบคู่กัน 3 ที่เลย ทั้งสาขาภาษาเยอรมัน คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร   และอีกสองสาขาคือภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันจากคณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง  และที่มสธ. เรียกว่ามีปริญญา 3 ใบอยู่ในมือแล้ว หลังจากนั้นพอเรียนจบก็ลงเรียนสาขาศึกษาศาสตร์ที่มสธ.ต่อ ได้ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาการแนะแนว ระหว่างนั้นลงม.รามฯ ด้วย กำลังจบก็ลงเรียนสาขาภาษาไทยอีก เพราะอยากเป็นนักเขียน ต่อด้วยรัฐศาสตร์ เพราะตอนนั้นอยากทำงานกระทรวงการต่างประเทศ มีความรู้สึกว่าการเป็นทูตวัฒนธรรมน่าสนใจ จึงเลือกเรียนนอกจากสาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาแล้ว ผมลงเรียนต่อทั้งสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือการทูต การบริหารรัฐกิจ การปกครอง แล้วสาขาบริหารงานยุติธรรม เพิ่งเปิดหลักสูตรใหม่ก็เรียน เพราะโอนเทียบหน่วยกิตได้ กลายเป็นจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ทั้ง 4 สาขาจากม.รามฯเลย!

IMG_1062 rt copy

แม้เวลาผ่านมาเป็นสิบปี จนผมทำงานการบินไทยเข้าปีที่ 23 ก็ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยยุคนี้ต้องสอบ GAT/PAT สอบ O Net และสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ต้องใช้คะแนนจากม.6 กฎใหม่ เกรดต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งมศว. ไม่นับเกรดเฉลี่ยของม.ปลาย ผมจึงเรียนได้ แต่หากจะเข้าจุฬาฯ ต้องใช้ แล้วตอนที่ผมจบม.6 ได้เกรดแค่ 1.49 ด้วยความอยากทำฝันให้เป็นจริง ผมยอมเรียนม.6 ใหม่ที่สถาบันการศึกษาทางไกล เวลาเรียนชอบมาก เพราะไปเรียนกับเด็กแว๊นซ์ บางคนมีพ่อแม่มาเรียนด้วย เพราะอยากให้จบ พวกนี้ทำสอบโดยไม่อ่านคำถาม ฝนคำตอบเลย ผมเรียนได้เกรด 3.32 ได้แล้วก็ไปสอบ GAT/PAT และ O Net และวิชาสามัญ ปีนั้นมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ก็เลื่อนไปมา บางวิชาสอบไม่ได้ ตอนนั้นผมเลือก ธรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ พลศึกษา เกษตรและครุศาสตร์ จุฬาฯ ก็คิดว่าอดแล้วละ ผมเปิดดูคู่มือด้วยความอาลัย ต้องสะดุด เพราะอักษรฯ จุฬาฯ ใช้แค่คะแนน PAT ภาษาเยอรมัน ผมมีวิชาสามัญ 3 วิชา สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมสอบ แต่ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ เด็กต้องเก่งมากๆ ปรากฏมีตัวช่วย ปกติอักษรฯ จุฬาฯ รับปีละ 240 คน ปีที่ผมสอบรับ 270 คน เพราะเปิดวิชาเอกภาษารัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งผมสอบได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนต่ำสุด 200 คะแนน พอดีมีคนสละสิทธิ์ ผมนี่น้ำตาไหลเลย ไม่คิดว่าจะได้ ตอนนี้เรียนปี 2 แล้วครับ ชอบเข้าชั้นเรียนมาก เพราะได้เจอสังคมที่น่ารักเสมอ คาดว่าเรียนคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จบ 3 ปี ซึ่งตามกฎของจุฬาฯ ให้เรียน 3 ปีครึ่ง หรือ 4 ปี ผมจึงตั้งใจว่าอยากจบใน 3 ปีจะได้ใช้เวลาที่เหลือเรียนอย่างอื่นที่ชอบไปด้วย เช่น นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และวาทศิลป์ เพราะคิดว่าตัวเองยังพูดไม่เก่ง

“สำหรับผม การเรียนเป็นงานอดิเรกที่ทำให้มีความสุข เป้าหมายปริญญาใบต่อไปที่มองไว้คือ พลศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศษสตร์ ครับ

ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งของ พล สัตย์สงวน ได้ใน คอลัมน์ Live Stories นิตยสารแพรว ฉบับ 25 กรกฏาคมนี้

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up