‘มีดวงคบเพื่ออะไรบางอย่าง ภาพตรงหน้ากับความเป็นจริงจึงไม่ตรงปก’ ดวงรายวัน 22 กันยายน 2565

‘มีดวงคบเพื่ออะไรบางอย่าง ภาพตรงหน้ากับความเป็นจริงจึงไม่ตรงปก’

ดวงรายวัน 22 กันยายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายศิลปะ ศิลปิน ความสวยงาม ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ หากวันนี้คุณจะเข้าสู่การแข่งขัน ไม่ว่าจะประมูลงาน ประกวดผลงาน หรือสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์  สื่อมวลชน หรืองานส่งเสริมการขายทุกชนิด คาดว่าคุณจะได้รับข่าวดี มีเฮ

การเงิน  :  ร่ำรวยๆ เงินทองไหลมาเทมา มีโอกาสได้เงินพิเศษ หรือเงินรางวัล ค่าคอมฯ ก็ควรเก็บไว้บ้าง อย่าเพิ่งไปซื้อของฟุ่มเฟือย หรือเลี้ยงเพื่อนฝูงหมดล่ะ

ความรัก  :  จริงๆ แล้วคุณสามารถรับผิดชอบทั้งงานในบ้านและงานนอกบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่จะด้วยความน้อยใจหรืออย่างไร ทำให้วันนี้อารมณ์คุณขึ้นลงง่ายมาก เดี๋ยวก็อยากให้ทุกคนอยู่ใกล้แบบไม่คลาดสายตา แต่เดี๋ยวก็อยากให้ไปไกลๆ   คนโสด คุณมีเสน่ห์มากมาย แต่เป็นไปได้ว่าจากความผิดหวังในอดีตที่ร้าวลึกจนไม่สามารถเริ่มต้นใหม่กับใครได้ง่ายๆ แม้จะเห็นโครงการแต่งงานอยู่ตรงหน้าก็ตาม  

สุขภาพ  :   ระวังเรื่องการรับประทานนิดนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมัน ความดัน เบาหวาน ตัวอันตรายที่มากับอาหาร คาดว่าจะสะสมอยู่ในร่างกายจนใกล้จะแสดงสัญญาณเตือนแล้ว จึงควรลดละเลิกของหวาน ของมันบ้าง

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายบุญ สายธรรมะ สาย CSR เพื่อสังคม แม้คุณจะได้รับการนับหน้าถือตาในสังคม รวมถึงได้ทำงานกับผู้มีชื่อเสียงมีอำนาจและบารมี แต่อาจสวนทางกับเรื่องรายได้  วันนี้จึงเป็นไปได้ว่าคุณจะรับผิดชอบงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อจุดประสงค์ในการเพิ่มรายได้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ ประกอบกับคุณก็ขยัน หนักเอาเบาสู้ด้วย จึงสามารถหาเงินได้มากขึ้นอย่างที่ต้องการ

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะทำงานหนักขึ้นจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัวเลยทีเดียว ซึ่งผู้ใหญ่ในครอบครัวก็เห็นใจ เป็นไปได้ว่าจะช่วยเหลือในเรื่องหน้าที่การงานให้กับคุณด้วย   คนโสด  วันนี้อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องความรัก คิดถึงเรื่องเงินไว้ก่อน เพราะคุณมีโอกาสได้พบผู้มีบุญบารมีที่จะช่วยเหลือในเรื่องเงินทอง ชื่อเสียง และความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน

สุขภาพ  :   ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ยิ่งหากวันนี้คุณโหมงานหนักโดยไม่ได้นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จึงมีโอกาสที่ร่างกายจะพ่ายแพ้ให้กับอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ยิ่งหากเป็นไซนัสยิ่งจะกำเริบได้ง่ายๆ  

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  หากคุณมีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์สูงมาก ซึ่งคุณก็คาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้าเสียด้วย แต่เพราะดวงการงานยังไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ขลุกขลักไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารทางราชการ มีโอกาสเป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่ง และอาญา แต่ก็ยังไม่นับว่าเลวร้ายไปเสียทุกอย่าง เพราะคุณยังมีผู้ใหญ่ผู้หญิงที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนคุณอยู่ ดังนั้น วันนี้ควรเข้าหาเธอ  

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะสร้างรายได้จากวาสนาและบารมี รวมถึงผู้ใหญ่ผู้หญิงให้การสนับสนุนด้วย แต่วันนี้ด้วยความใจดีของคุณที่จะช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :   เป็นไปได้ว่าจะมีวาระโอกาสพิเศษที่สมาชิกในบ้านจะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่คาดว่าบรรยากาศจะไม่รื่นเริงบันเทิงใจ เพราะคุณกับคู่มาแบบแค่เพียงในนามเท่านั้น คนโสด  หากคุณกำลังอยู่ในห้วงความสุขกับคนรัก เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะได้พบปะสนทนากับผู้คนในสังคมอีกด้วย ซึ่งมีโอกาสที่จะเปลี่ยนสถานะกับคนรักได้เลยนะเนี่ย

สุขภาพ  :  อวัยวะที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทุกชนิด รองลงมาคือสายตา ตระกูลต้อมาเยือนแล้ว นอกจากนั้นหากเพิ่งผ่าตัดหรือผ่าคลอด ควรระวังแผลมีโอกาสอักเสบ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจทางด้านติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้บริการคำปรึกษาในด้านต่างๆ ที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร รวมถึงงานส่งเสริมการขายทุกประเภท แม้คุณจะมีปฏิภาณไหวพริบที่ดีเยี่ยม รับผิดชอบงานชั้นยอด แต่วันนี้ทางที่ดี ไม่ควรเป็นวัน (วู) แมนโชว์ ใจร้อน ตัดสินใจอย่างวู่วาม ควรรับผิดชอบงานในหน้าที่ตัวเองให้เต็มที่ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง  

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะได้เงินจากการลงทุน แต่ก็ไม่ควรคาดหวังมากกว่านั้นด้วยการทุ่มเงินลงไป เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะเสียรู้ให้กับคนใกล้ชิดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงควรมีสติ

ความรัก  :  วันนี้คาดว่าอารมณ์คุณเปลี่ยนแปลงง่ายมาก เดี๋ยวก็โรแมนติก อยากอยู่ใกล้ๆ คู่ชีวิตตลอดเวลา แต่เดี๋ยวก็ไม่ไว้ใจ หวาดระแวงสูง คนโสด  เช่นกันค่ะ วันนี้คาดว่าคุณจะโรแมนติก วาดฝันถึงความรักไว้อย่างสวยงามจนถึงขั้นแต่งงานกันเลย แต่อีกใจก็หวาดระแวง ไม่ไว้ใจซะงั้น   

สุขภาพ  :   หากคุณมีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ และมดลูกอยู่ ทางที่ดีควรรีบไปเช็กๆๆ โดยด่วน เพราะคาดว่าจะมีการพัฒนามากขึ้น

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   หากคุณกำลังถูกลดบทบาทความสำคัญ หรือเพื่อนร่วมงานชิงลาออกไปโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า วันนี้คาดว่าคุณต้องใช้ความสามารถในทางวาทศิลป์เจรจาในเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทอง ชื่อเสียง และความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน เพื่อเปลี่ยนความคิดเจ้านายจากที่เขาไม่เคยสนใจให้กลับมาให้โอกาสคุณให้ได้  

การเงิน  :  วันนี้มีโอกาสเสียรู้เสียเงินเสียทองให้กับคนใกล้ตัวอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะคะ ซึ่งคุณก็พยายามที่จะทำงานหนัก เก็บเงินเก็บทองสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่  

ความรัก :   วันนี้เป็นไปได้ว่าอารมณ์คุณจะเปลี่ยนแปลงง่ายมาก เดี๋ยวคุณก็เรียกร้องเวลาจากครอบครัว แต่เดี๋ยวคุณก็ทำงานโดยไม่สนใจครอบครัว คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับคนที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทั้งเงินทอง ชื่อเสียง และตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่ด้วยอารมณ์ก็จะทำให้คุณฝืนคบกันไป   

สุขภาพ  :  หากคุณกำลังหักโหมทำงานจนไม่ได้นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา คาดว่าโรคประจำตัวที่เป็นอยู่จะส่งสัญญาณเตือนขึ้นมา รวมถึงสุขภาพจิตด้วย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจกับเพื่อนสนิท (ผู้หญิง) ทางด้านงานบันเทิง ศิลปะศิลปิน ความสวยงาม รวมถึงสินค้าและบริการที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ วันนี้หากคุณจะติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน หรือทำงานทางด้านภาษาแล้วล่ะก็  ควรระวังเอกสารทางราชการจะเกิดความผิดพลาด สามารถเป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีควรคัดสรรเพื่อนที่รู้ใจจริงๆ มาเป็นหุ้นส่วนหรือปรึกษาผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ  

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะสร้างรายได้อย่างมั่นคงด้วยวาสนาและบารมีของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันวันนี้คุณก็จะมีรายจ่ายสูงถึงสูงมากกับคนรักและเพื่อนสนิท

ความรัก :   เป็นไปได้ว่าเพื่อนสนิทจะเข้ามาตีท้ายครัวนะคะ แม้ว่าคุณกับคู่จะอยู่ด้วยกันเพราะเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ตาม แต่สามีใครก็รักอะเนอะ แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ยอมไม่ได้ คนโสด  วันนี้เป็นไปได้ว่าแฟนที่ออกหน้าออกตาอยู่ในสังคม ก็เพราะจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วคุณสนิทกับเพื่อนหญิงมากกว่า  

สุขภาพ  :  อวัยวะที่ควรให้ความสำคัญที่สุดคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ นอกจากนั้นมีโอกาสที่คุณจะป่วยด้วยโรคเลือด หรือโลหิตจาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นความดัน และน้ำในหูไม่เท่ากันอยู่แล้ว ระวังจะกำเริบ  

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   หากคุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้า จนทุ่มเททำงานอย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นและฉกฉวย ทั้งผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง เป็นไปได้ว่าจะเกิดการขัดแย้งจนถึงขั้นงานสะดุดหยุดลงกลางคัน แต่ก็นับได้ว่ายังไม่สุด เพราะคุณจะได้ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดคอยส่งเสริมสนับสนุนให้คุณทำงานได้อย่างที่ตั้งใจไว้

การเงิน  :  มีโชคทางการเงินและการลงทุน รวมถึงผู้ใหญ่ให้ความอุปถัมภ์สนับสนุนด้วย แต่ถึงอย่างไรวันนี้ก็ไม่ควรทุ่มเงินลงทุนกับตัวที่ยังไม่เห็นผลตอบแทนชัดเจน

ความรัก   :  หากวันนี้คุณเชื่อมั่นและมีความเป็นตัวเองสูงมาก เป็นไปได้ว่าคุณจะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขที่สุด จนมีความเสี่ยงที่จะไปถึงขั้นมีปากเสียงกัน โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การไม่ให้เกียรติกัน คนโสด  คุณรักง่ายหน่ายเร็วนะคะ โดยวันนี้มีโอกาสที่จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์การแย่งชิงเลยทีเดียว เป็นไปได้ว่าคุณจะทิ้งเขาง่ายๆ อย่างไม่เหลือเยื่อใยเลย  

สุขภาพ  :   มีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บจากการทะลาะวิวาท รวมถึงการขับขี่ จึงควรระมัดระวังตัวเองให้ดี อย่าประมาท อย่าใจร้อน

เหนื่อยแต่สุขหัวใจ เผยหลักในการทำงานของ ปลา-อัจฉรา คือ แพชชั่น

account_circle

เผยความสำเร็จในการเป็นนักธุรกิจด้านอาหารแถวหน้าของไทย ของ ปลา ไอเบอร์รี่ (iberry) หรือชื่อเต็ม ๆ ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ ซีอีโอผู้ก่อตั้งแบรนด์ร้านอาหารไทยชื่อดัง

เหนื่อยแต่สุขหัวใจ เผยหลักในการทำงานของ ปลา-อัจฉรา คือ แพชชั่น

จากก้าวเล็กๆ ของธุรกิจไอศกรีม โฮมเมดที่ปลอดภัยต่อสุขภาพที่ประสบความสำเร็จ จนแตกแขนงเป็นอาณาจักรแบรนด์ดังร้านอาหารไทยที่หลายคนรู้จัก อาทิ กับข้าว กับปลา , รสนิยม , โรงสีโภชนา , ทองสมิทธิ์ , เจริญแกง และอีกมากมายภายในห้างดัง ล่าสุดขอก้าวออกมาสแตนอโลน กับอาหารต่างชาติภายใต้แบรนด์ใหม่ แฟรนส์ บลัช&กรีนส์ (FRAN’S Brunch & Greens) และ อันเกิม-อันก๋า (Ăn Cơm Ăn Cá) ณ ซอยงามดูพลี สาทร 1 โดย คุณปลา เปิดใจถึงความสำเร็จให้ฟังผ่านรายการ “DNA TALK บุกคนต้นแบบ” ว่า

“อันที่จริงแล้วเราไม่ใช่นักธุรกิจร้อยเปอเซ็นต์ แต่เป็นนักคิด หัวใจหลักคือทำตามแพสชั่น บอกตรง ๆ ยังไม่เคยคิดภาพใหญ่ขนาดนี้มาก่อน คิดแค่รถไอศครีมติดโลโก้ส่งตามสาขาต่าง ๆ แค่นั้น เพราะตอนเด็ก ๆ แค่ทำไปเรื่อย ๆ จนมีคนเสนอพื้นที่มาใหญ่มาเรื่อย ๆ เราก็คิดว่ามันใหญ่เกินตัวเราด้วยซ้ำ

อย่างที่บอกทำเพราะแพสชั่นบวกกับเราเป็นคนชอบทำอาหาร เลยขอลองเริ่มดูหน่อยละกัน ก็เกิดลูกคนแรกคือร้าน กับข้าว กับปลา ขึ้นมาค่ะ และจากนั้นลูกก็ดกมาตลอด ยาวมาเป็นร้านอาหารไทยต่าง ๆ ที่ทุกคนเห็นกันแหละค่ะ มีหลายคนถามไม่เหนื่อยหรอ? เหนื่อยมากค่ะ แต่เราชอบความเหนื่อย เรามีภาพในหัว เราอยากเห็นคอนเซ็ปต์อาหารแบบนี้ มองร้านอาหารเหมือนสิ่งมีชีวิต แล้วอยากสร้างให้มันเป็นจริง พอทำสำเร็จแล้วมันสะใจ ทำให้มันเป็น Happy Problem ทำงานส่วนตัวให้เป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเราก็พร้อมที่จะเหนื่อยอย่างมีความสุข

อีกอย่างคือให้ความสำคัญกับทีม เราเคี่ยงบ่าเคียงไหล่อยู่กันแบบครอบครัว เมื่อธุรกิจเราอัปเวลไปเรื่อยๆ เรายิ่งต้องมีทีมงานที่เก่งพากันไปแบบครอบครัว Iberry Group ค่ะ”


ไอดอลหญิง ไหล่สวย

4 ไอดอลหญิง ที่ถูกมองว่า ‘ไหล่สวย’ สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานความงามเกาหลี

Alternative Textaccount_circle
ไอดอลหญิง ไหล่สวย
ไอดอลหญิง ไหล่สวย

การที่มีบ่าและไหล่ทำมุม 90 องศา ถือเป็นลักษณะสวยงามที่หลายคนในเกาหลีปรารถนาที่จะมี แม้จะส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมก็ตาม และนี่คือ 4 ไอดอลหญิงเคป็อป ที่ชาวเน็ตเกาหลีมองว่า พวกเธอมี ‘ไหล่สวย’ สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานความงามเกาหลี ซึ่งองค์รวมของ สะบักไหล่ และต้นแขนบางๆ ทำให้พวกเธอดูเซ็กซี่และมีสัดส่วนสวยงามน่ามอง 

4 ไอดอลหญิง ที่ถูกมองว่า ‘ไหล่สวย‘ สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานความงามเกาหลี

1. ลีอา (ITZY)

กระดูกไหปลาร้าที่โดดเด่นและไหล่ตรงของลีอา มักได้รับคำชมจากแฟนๆ ชาวเกาหลี แม้ว่าเธอจะมีรูปร่างเพรียว แต่ไหล่ที่กว้างของเธอก็ดูโดดเด่น

2. เจนนี่ (BLACKPINK)

เจนนี่มักสวมเสื้อเปิดไหล่บ่อยๆ ซึ่งไหล่ที่โค้งมนของเธอทำให้เธอดูสง่างามไม่น้อย

3. แทยอน (Girls’ Generation)

ไหล่ที่โค้งมนทำมุมของแทยอนดูสวยเพรียวบาง เมื่อเธอประดับด้วยสร้อยคอโช้คเกอร์ ยังช่วยเน้นย้ำถึงรูปร่างที่สวยงามของเธอ

4. แชยอง (TWICE)

แชยองโชว์ไหล่เฉียงด้านข้างในชุดคอสูง ในทำนองเดียวกัน เมื่อเธอใส่เสื้อเปิดไหล่เน้นความตรงของไหล่ ก็ยิ่งดูสวยโดดเด่น


ข้อมูล : koreaboo

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แอนนา เสืองามเอี่ยม

เอ็กซ์คลูซีฟ! คุ้ยทุกแง่มุม “แอนนา เสืองามเอี่ยม” กองขยะหล่อหลอมชีวิตให้รู้คุณค่าตัวเอง

Alternative Textaccount_circle
แอนนา เสืองามเอี่ยม
แอนนา เสืองามเอี่ยม

ถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ผู้คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (Miss Universe Thailand 2022) ที่มาพร้อมกับฉายา “นางงามที่เติบโตมาจากกองขยะ” และสตอรี่จับใจ จนจุดกระแสสังคมหลากหลายด้าน ทั้งฝั่งที่ชื่นชมยินดีกับเส้นทางการดำเนินชีวิตที่ไม่ย่อท้อ ในขณะที่อีกกระแสก็ว่าเป็นการสร้างสตอรี่ให้ดราม่าคว้ามงเก่ง

แพรว นัดพบกับ “แอนนา” เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวหลากหลายด้านในชีวิตของเธอ ตั้งแต่วัยเยาว์ในบ้านที่พ่อแม่ทำงานเก็บขยะ การเติบโตในฐานะเด็กวัด จนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ก่อนจะพบว่าไม่ว่าใครจะมองอย่างไร ไม่สำคัญเท่าเรามองชีวิตตัวเอง เพราะแม้ผู้หญิงคนนี้จะเติบโตมาท่ามกลางขยะ แต่ชีวิตขับเคลื่อนไปด้วยพลังของความรักที่เต็มเปี่ยม ทั้งความรักจากพ่อแม่ จากคนรอบข้าง สำคัญที่สุดความรักที่เธอมีให้ตัวเอง

เอ็กซ์คลูซีฟ! คุ้ยทุกแง่มุม “แอนนา เสืองามเอี่ยม” กองขยะหล่อหลอมชีวิตให้รู้คุณค่าตัวเอง

ขอแสดงความยินดีกับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 อีกครั้งนะคะ ย้อนกลับไปความรู้สึกบนเวทีตอนที่ทราบว่าได้รับตำแหน่งเป็นอย่างไรคะ

“จำได้ว่าตอนที่จับมือลุ้นตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์กับเพื่อน ๆ นางงาม แอนนาพยายามท่องชินบัญชรในใจ แต่สติไปแล้ว คือท่องไม่จบ โอ๊ย ถึงท่อน ไหนแล้ว เพราะตื่นเต้นมาก กระทั่งตอนประกาศชื่อคือช็อกมาก ไม่รู้เลยว่าต้องทำตัวอย่างไร ต้องร้องไห้หรือเปล่า ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกว่าเป็นวันสุดท้ายของเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เลย แต่รู้สึกเหมือนเป็น Episode สุดท้ายของแคมเปญหนึ่งเท่านั้น

“กระทั่งวันรุ่งขึ้น ตอนให้สัมภาษณ์สื่อแล้วเขาให้เล่าตั้งแต่วันแรกที่ เข้าร่วมประกวดจนถึงวันที่ได้รับมงกุฎ จึงได้มานั่งทบทวนตัวเองว่าเจออะไรมาบ้าง เท่านั้นแหละ น้ำตามาเลย เข้าใจแล้วว่าการร้องไห้เพราะความสุขคืออะไร ไม่ได้ เสียน้ำตาเพราะเหนื่อย แต่รู้สึกตื้นตันใจว่ามีคนคอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตเรา มาตลอด คือเวทีนี้ทำให้มีคนรักแอนนามากขึ้น รู้สึกว่าการสู้ด้วยตัวคนเดียว ก็ส่วนหนึ่ง แต่การเดินทางที่มีคนคอยซัพพอร์ตเราขนาดนี้มีความหมายมาก ทั้งทีมพี่เลี้ยงและแฟนนางงาม พอคิดถึงตรงนี้ก็เลยเข้าใจฟีลลิ่งของนางงามตอน รับมง (กุฎ) แล้วว่าต้องรู้สึกอย่างไร จากแต่ก่อนที่เคยสงสัยว่าเขาร้องไห้กันทำไม วันนั้นคือเข้าใจแล้วว่าเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ”

ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยแอบซ้อมรับตำแหน่งมาบ้าง

“ใช่ค่ะ แอนนาชอบจินตนาการ แล้วก็เชื่อเรื่องกฎแรงดึงดูดมาก ๆ จึง จินตนาการตั้งแต่เริ่มประกวดเลยว่าเวทีเป็นแบบนี้นะ เรากำลังทำอย่างนั้นอย่างนี้ พอเห็นชุดราตรี เห็นมงกุฎของจริง ก็ค่อย ๆ เติมเข้าไปในจินตนาการให้ภาพชัด และสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นการเสริมกำลังใจให้ตัวเอง แล้วพอช่วงใกล้วัน ประกวดรอบท้าย ๆ แอนนาซ้อมเดินและซ้อมจับมือกับโค้ชตลอด โดยจินตนาการ ความรู้สึกตอนรับตำแหน่งเลยว่าเป็นอย่างไร เห็นภาพเวที เห็นตัวเอง เห็น ทุกอย่าง แล้วทุกครั้งที่ซ้อมก็ขนลุกตลอด หรือเรามีสัมผัสพิเศษก็ไม่รู้ (หัวเราะ) หรืออาจจะเพราะแอนนาอินและตั้งใจอยากมายืนอยู่ตรงนี้ให้ได้จริงๆ

“แล้วพอวันที่ได้รับตำแหน่งและมงกุฎจริงๆ เชื่อไหมคะ เป็นความรู้สึกที่คล้ายกับตอนซ้อมเลย นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่แน่ใจว่านี่ใช่เรื่องจริงไหม ซ้อมอยู่หรือเปล่า แอนนาว่าสุดท้ายแล้วการที่เราคิดเรื่องดีก็เป็นเหมือนกำลังใจ ให้ตัวเอง และเสริมให้สิ่งที่หวังเกิดขึ้นจริง หรือการที่เจอแต่เรื่องแย่ อาจเป็น เพราะเราคิดไม่ดีกับตัวเองก็ได้นะ เพราะฉะนั้นคิดบวกไว้ก่อนดีกว่า”

แอนนา เสืองามเอี่ยม

ย้อนกลับไป แอนนาคิดว่าอะไรที่ทำให้ชนะใจกรรมการจนครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ได้สำเร็จคะ

“ความเป็นตัวเองค่ะ เวทีนี้สอนเยอะมาก โดยเฉพาะการรู้คุณค่าของตัวเอง ความจริงแอนนาเคยประกวดมาหลายเวที ก่อนหน้านี้เคยกดดันตัวเองมามาก พยายามทำอะไรก็ได้ให้คนอื่นชอบเรา จะพูดหรือทำอะไรก็จะคิดตลอดว่าถ้าพูด แบบนี้เขาจะโอเคไหม ถ้าทำแบบนี้เขาจะชอบเรามากกว่าหรือเปล่า เขาจะรัก เราไหม ซึ่งกลายเป็นว่าไม่เป็นตัวเองเลย เพราะนำความคิดคนอื่นมากำหนด การกระทำตลอด

“แต่ด้วยบริบทของเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ที่ต้องการผู้หญิงที่รู้คุณค่า ในตัวเองและสามารถส่งต่อคุณค่านี้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม การเป็นตัวเอง จึงดีที่สุด ถ้าใครจะรักเรา ก็ให้เขารักในแบบที่เราเป็น พอแอนนามาประกวดเวทีนี้ จึงไม่ได้ต้องการจะ‘Impress’ หรือทำให้ใครประทับใจในแบบที่ผ่านมา แต่เรา ต้องการจะ‘Express’ แสดงความเป็นตัวตนออกมาให้คนได้เห็นว่าเราเป็นแบบนี้

“แต่กว่าจะคิดได้ก็ทำการบ้านหนักมากนะคะ ว่าคุณค่าในตัวเราคืออะไร ก่อนจะพบว่าก็คือเรื่องราวของเราเอง ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ซึ่งก็คือนางงาม ที่เติบโตจากกองขยะ เพราะพ่อแม่ทำอาชีพเก็บขยะ แม้จะไม่ได้มีพร้อมเท่าคนอื่น แต่เรามีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งพอยอมรับในตัวเองได้ ไม่ฝืนเป็นอะไรที่ไม่ได้เป็น เราจึงสนุกและเต็มที่กับทุกกิจกรรม กรรมการก็น่าจะ เห็น ทำให้เราดูน่าสนใจขึ้น อยากรู้ประวัติเรามากขึ้น ประกอบกับสตอรี่ของ แอนนาอาจจะเหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ของปีนี้ที่เป็นTheNewBeginning หรือ การเริ่มต้นใหม่ด้วยค่ะ”

อะไรที่ทำให้กล้าเล่าเรื่องตัวเองที่อาจเป็นเรื่องน่าอายสำหรับบางคนได้อย่างไม่ปิดบังคะ

“ความจริงสมัยยังเด็ก เวลาใครถามก็เคยรู้สึกอายนะ ว่าทำไมพ่อแม่เรา ต้องทำอาชีพนี้ด้วย ซึ่งเป็นความไม่รู้ของเด็ก แต่พอเราโตขึ้น พบว่าอาชีพของ พ่อแม่ก็สุจริตและมีเกียรติ ทุกอาชีพล้วนมีคุณค่า ไม่มีใครด้อยกว่าใคร อย่าง แอนนาก็เรียนจบมาได้ด้วยอาชีพที่พ่อแม่ทำเพื่อหาเงินส่งเสียเรา แล้วทำไมเรา จะไม่ภูมิใจในตัวพ่อแม่ล่ะ แต่กว่าจะคิดได้ก็ต้องใช้เวลาสะสมและตกตะกอนทาง ความคิดพอสมควร ต้องบอกว่าการผ่านเวทีประกวดนางงามแต่ละเวทีช่วยสอน ให้แอนนาค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับตัวเอง และสอนให้รู้ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาและ คนรอบตัวที่ดีกับเรามีค่าแค่ไหน

“พอเดินทางมาถึงวันนี้ แอนนาคิดว่าทุกคนมีเรื่องราวที่สามารถเล่าและ สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้หมด ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะ เสียน้ำตาก็หลายครั้ง แต่ชีวิตไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถ้าเล่าแล้วทำให้คนอื่นร้องไห้ เสียใจ ไม่เกิดประโยชน์ อะไรก็คงไม่เล่า แต่ถ้าชีวิตที่คนมองว่าลำบากนี้สามารถนำไปเล่าแล้วสร้างอิมแพ็กต์ ในทางที่ดี เป็นพลังบวกให้คนอื่นได้ ฟังแล้วฮึดสู้ ทำให้เขามีกำลังใจ ช่วยให้ เขาประสบความสำเร็จ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แอนนาก็ยินดีและ ภาคภูมิใจที่จะเล่าค่ะ ดีใจด้วยซ้ำที่เราสามารถนำชีวิตที่ผ่านมาส่งต่อคุณค่าในชีวิต ให้คนอื่นได้ ให้เขารู้ว่าแม้ชีวิตจะลำบาก แต่เราก็สามารถสร้างคุณค่าให้คนอื่นได้เช่นกัน”

ถ้าอย่างนั้นช่วยเล่าถึงวัยเด็กที่เติบโตมาจากกองขยะและวัดให้ฟังได้ไหมคะ ว่าสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมให้เป็น “แอนนา” อย่างทุกวันนี้อย่างไร

“แอนนาเติบโตมาในครอบครัวพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับขยะค่ะ พ่อ (สมชาย เสืองามเอี่ยม) เป็นพนักงานเก็บขยะเขตตลิ่งชัน ส่วนแม่ (สมพร ศรีบุญเรือง) เป็นพนักงานกวาดขยะ แต่ทั้งสองท่านหย่ากันตั้งแต่สมัยแอนนาอยู่ อนุบาล ตอนแรกแอนนาอยู่กับคุณพ่อก่อน แต่ความที่ท่านต้องออกไปทำงาน ตั้งแต่ตี 3 – 4 แล้วด้วยสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างอันตรายกับเด็กผู้หญิงที่ต้องอยู่ คนเดียว คุณทวดซึ่งเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดช่างเหล็ก ตลิ่งชัน จึงขอให้พ่อพาแอนนา มาอยู่กับท่านและแม่ที่วัดแทนตั้งแต่ ป.3 จนถึงมหาวิทยาลัยเลย

“ตอนอยู่วัดแอนนาอยู่กับแม่ในห้องที่เป็นผนังไม้สี่ด้านเล็ก ๆ กับหลังคา ส่วน คุณทวดอยู่อีกห้อง แล้วใช้ห้องน้ำรวมกัน เช้ามาถ้ามีเรียนทวดก็จะตื่นมาต้มไข่ ให้กินแต่เช้า แต่ถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็จะได้กินข้าวก้นบาตรพระกับทวด ซึ่งจะมา ตอน 10 โมง กิจวัตรประจำวันหลังกินข้าวก็ล้างจาน ซักผ้า อ้อ ช่วยทวด ตำหมากด้วย เพราะสำหรับเด็กมองเป็นเรื่องสนุก เหมือนของเล่น ตำไปก็แอบ ชิมไปด้วย ฝาดมาก ไม่รู้ทวดกินได้อย่างไร (หัวเราะ) ถ้าวันไหนพ่อเก็บของเล่น จากกองขยะมาซ่อมให้เล่น ก็จะถือว่าเป็นของพิเศษหน่อย จะดีใจมาก

“เวลาเล่าเรื่องนี้ หลายคนอาจมองว่าลำบากจัง น่าสงสาร แต่แอนนา ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยนะคะ อย่างของเล่นจากขยะ เราก็มองว่าจุดประสงค์ของ การเล่นคือการทำให้เด็กสนุก ไม่ได้วัดที่มูลค่า ดีใจด้วยซ้ำที่คุณพ่อนำมาให้ หรือการกินข้าวก้นบาตรพระก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกน้อยใจ เพราะการกินข้าวจะมา จากไหนไม่สำคัญ ขอแค่อิ่มก็สบายใจแล้ว ชิลมาก ส่วนการอยู่วัดก็เป็นเรื่องดี เพราะสำหรับเด็กผู้หญิงแล้ว การมีที่อยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อม ที่ปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งโชคดีว่าแอนนาอยู่วัด พอ เรารู้สึกปลอดภัยก็จะมีความสุข สบายใจ และสนุกขึ้นมาเอง แม้จะไม่ได้อยู่แบบพ่อแม่ลูกพร้อมหน้าพร้อมตา แต่พ่อแม่ ก็รักแอนนามาก ทวดก็รัก และยังมีแม่ชีท่านอื่น ๆ ที่คอยดูแล เหมือนเราเป็นลูกหลาน จึงไม่เคยรู้สึกขาดอะไรเลย โชคดี ด้วยซ้ำที่คนรอบตัวรัก เข้าใจ และเติมเต็มให้เรา อย่างทุกวันนี้ ก็มีทั้งคนรอบตัวดี ๆ มีทีมที่เอ็นดูและทำทุกอย่างให้เราโดยไม่ ต้องการสิ่งตอบแทน แอนนาว่าสิ่งสำคัญคือไม่ว่าเราจะอยู่ในมิติ ไหน ขอแค่เราเลือกมองแต่มิติที่มีความสุข เราก็จะมีความสุข”

แอนนา เสืองามเอี่ยม

จุดเริ่มต้นของการอยากเป็นนางงามเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ

“ความจริงแอนนาก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปที่รักสวยรักงาม ชอบดูของสวย ๆ งาม ๆ แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเวทีนางงาม จริง ๆ คือตอนเป็นเชียร์ลีดเดอร์สมัยเรียน ม.ปลายที่โรงเรียน มหรรณพาราม เนื่องจากพี่ที่สอนเต้นลีดฯตอนนั้นมีเพื่อนอยู่ ในทีมประกวดของมิสทีนไทยแลนด์ ซึ่งกำลังหาเด็กไปประกวด อยู่พอดี เราก็เลยคิดว่าลองไปประกวดดูดีกว่า เพราะรักสวย รักงามอยู่แล้ว เวทีนี้อาจจะทำให้สวยและมีชื่อเสียงขึ้น ตอนแรก ก็คิดว่าไปเล่น ๆ แต่ปรากฏว่าไม่เข้ารอบเลยตั้งแต่แรก จากที่ คิดว่าจะลองเล่น ๆ กลายเป็นร้องไห้หนักมาก เรียกว่าเป็นครั้งแรก ที่เผชิญกับความล้มเหลว จากนั้นก็เลิกประกวดไปพักใหญ่เลย หันไปโฟกัสเรื่องเรียนแทน กระทั่งตอนเรียนปี 2 คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาการโรงแรม มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ก็ได้มีโอกาสกลับมาประกวดนางนพมาศของ มหาวิทยาลัย ซึ่งครั้งนั้นชนะอันดับ 1 ทำให้รู้ว่า อ๋อ…การจะไป ประกวดอะไร ต้องทำการบ้านศึกษาเรื่องบริบทของเวทีก่อน แต่เวทีแรกเราไปแบบไม่รู้อะไรเลย จึงตกรอบ

“หลังจากนั้นถ้ามีเวลาตรงกับเวทีไหน แอนนาก็จะลอง ประกวดดูบ้าง แต่ยังโฟกัสเรื่องเรียนเป็นหลัก ความจริงตอนแรก ตั้งใจอยากเป็นแอร์โฮสเตสด้วย เพราะสมัยเด็กไม่ค่อยได้เที่ยว เนื่องจากพ่อแม่ทำงานหนักทั้งวัน อย่างเก่งคือได้นั่งรถขยะไป กับพ่อ จึงคิดว่าถ้าเป็นแอร์ฯจะเป็นการทำงานที่ได้เงินด้วย ได้ เที่ยวด้วย แต่ปรากฏว่าพอเรียนมหาวิทยาลัยจบปุ๊บ โควิดมาจ้า จึงต้องเปลี่ยนความคิด จากแอร์ฯมาหางานประจำทำก่อน เริ่ม จากไปเป็นพนักงานที่คลินิกทันตกรรม แล้วก็มาเป็นพนักงานที่ ร้านขายขนมปัง จากนั้นได้ไปแคสต์งานกับ RS ปรากฏว่าโชคดี ได้เป็นทั้งนักแสดงและเออี (พนักงานขาย) ไปพร้อมกันเลย ซึ่ง กลายเป็นจังหวะให้ได้เข้าสู่เวทีประกวดมาเรื่อย ๆ แต่ยังไม่ ประสบความสำเร็จ (นางสาวถิ่นไทยงามและเวทีนางสาวไทย ปี 2020 ก่อนหน้านั้นก็มี Miss Mobile Thailand 2018) อาจ เพราะประสบการณ์ยังน้อย และความคิดความอ่าน มายด์เซต ยังไม่เท่าตอนนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเก็บประสบการณ์ที่ดีค่ะ”

แล้วกับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ล่ะคะ เข้ามาประกวดได้อย่างไร เตรียมตัวหนักแค่ไหนคะ

“ความจริงแอนนาฝันไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าเส้นทางการประกวด แล้วว่าเวทีใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่อยากลงประกวดเป็น ที่สุดท้ายคือมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พอรู้ตัวแล้วจึงทำการบ้านกับทีมหนักมาก เพื่อศึกษาว่าบริบทของเวทีนี้คืออะไร เขาต้องการหาผู้หญิงที่มีคุณสมบัติแบบไหน อย่างที่บอกไป กระทั่งตัดสินใจว่าจะลงประกวดตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่พี่แอนชิลี (แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส) ได้มงกุฎ

“พอตัดสินใจแล้วก็เริ่มจากการรักษารูปร่างให้สมส่วนตั้งแต่ตอนนั้น ออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วก็เริ่มติวเรื่องข่าวสารบ้านเมือง เพราะตอนนั้นแอนนา ยังทำงานเป็นนักแสดงและเออีให้กับบริษัท RS ทางช่อง 8 คือทำทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังแทบจะ 7 วันเลย วันธรรมดาทำงานเออีตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม พอเสาร์ – อาทิตย์รับงานนักแสดง เรียกว่าทำงานตลอดจนแทบไม่รู้ข่าวสารบ้านเมืองเลย จึงต้องอัพเดตเรื่องข่าวมากหน่อย นอกจากนี้ก็มีฝึกการพูด ฝึกเพอร์ฟอร์แมนซ์ ซึ่งต้องทำทุกอย่างนี้หลังเลิกงานตอน 1 ทุ่ม กว่าจะฝึกเสร็จก็ราวเที่ยงคืน ทำ แบบนี้แทบทุกวัน ยกเว้นวันไหนเหนื่อยมากจริง ๆ ก็อาจจะขอพักบ้าง แต่ทั้งหมด ที่ทำคือสนุกนะคะ ด้วยความชอบเรียนรู้ แม้จะเหนื่อย แต่ตื่นมาก็หาย

“กระทั่งหนึ่งเดือนก่อนการประกวดจริงจะเริ่ม แอนนาก็ลาออกจากงาน ประจำทั้งเออีและนักแสดง เพราะอยากทุ่มเทให้กับการประกวดเต็มที่ ไม่ได้ อยากฝึกแค่ 4 – 5 ชั่วโมงต่อวัน แต่อยากฝึกทั้งวันไปเลย ตารางช่วงนั้นจึงแน่น หน่อย แต่ละวันจะฝึกไม่เหมือนกัน บางวันก็ถ่ายรูป ถ่ายลุคบุ๊กบ้าง ที่เน้นคือ สปีชและเพอร์ฟอร์แมนซ์ ฝึกการเดิน โพส หมุนตัว ประมาณ 4 ชั่วโมง รวมถึงการออกกำลังกายกับเน้นการสร้างคอนเทนต์ด้วยค่ะ เพราะแอนนา ต้องการสร้างฐานแฟนคลับ จะได้มีกำลังใจคอยซัพพอร์ต จากที่แต่ก่อนไม่เคย เล่นโซเชียลเลย จู่ ๆ ก็อัพไอจีรัว ๆ เพื่อน ๆ คงตกใจ (หัวเราะ) เป็นหนึ่งเดือน ที่ใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก”

พอเข้าสู่ช่วงประกวดจริงๆ เป็นเหมือนที่คิดไว้ไหมคะ

“มีทั้งเหมือนและไม่เหมือนที่คิดไว้ค่ะ เพราะในโลกความเป็นจริงไม่มีอะไร ได้ดั่งใจไปทุกอย่าง บางเรื่องที่เราเตรียมตัวมาเยอะ ก็คาดหวังเยอะ รู้สึกว่าเรา น่าจะทำได้ดีกว่านี้ อย่าง Episode หนึ่งที่ชื่อว่า ‘Rock the Runway’ ที่ให้ผู้เข้า ประกวดเดินบนกระดานที่วางบนน้ำ แอนนาตีโจทย์ว่าเขาต้องการผู้หญิงที่เดินได้ โดยไม่ตกน้ำ แต่ความจริงคือเราจะตกหรือไม่ตกน้ำก็ได้ ขอแค่มีความมั่นใจ แต่พอเราตีโจทย์ว่าต้องไม่ตกน้ำ ทำให้การเดินดูเกร็งไปหมด ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่มั่นใจ เพราะกลัวตกตลอดเวลา ทำให้ไม่ได้คะแนนตามที่หวัง วันนั้นกลับมา ร้องไห้กับพี่เลี้ยงหนักมากว่า ‘ทำยังไงดี หนูตีโจทย์ผิด ได้คะแนนไม่ดีเลย’ ซึ่ง โชคดีว่าพี่เลี้ยงช่วยให้สติว่านี่เพิ่งเป็น Episode แรก ๆ จะทำพลาดไปบ้างก็ ไม่เป็นไร ดีด้วยซ้ำที่พลาดตั้งแต่แรก ๆ ต่อไปจะได้แก้ไขถูก จากนั้นแอนนาก็ ร้องไห้ออกมาหมด คือเป็นประเภทร้องแล้วต้องร้องให้เต็มที่ แล้วค่อยเริ่มใหม่ วันรุ่งขึ้นก็คิดแค่ว่าวันนี้ฉันต้องดีกว่าเมื่อวานให้ได้ ซึ่งกลายเป็นว่าเราปลดล็อก ตัวเองมาก ๆ ใน Episode ต่อมาที่เป็น Swimsuit Competition หรือชุดว่ายน้ำ คือถ้าให้วิจารณ์ตัวเอง รู้ว่าเราดีขึ้นแบบก้าวกระโดดมาก เพราะพอตีโจทย์ถูก มีความมั่นใจในตัวเอง ก็พบว่าเราทำได้นี่”

แอนนา เสืองามเอี่ยม

ชุดว่ายน้ำถือเป็นชุดปราบเซียนของผู้หญิง ต่อให้สวยแซ่บแค่ไหนก็จะมีจุดที่ไม่มั่นใจในรูปร่าง แอนนามีวิธีเรียกความมั่นใจอย่างไรคะ

“จริงค่ะ ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะมีสัดส่วนดีแค่ไหน ก็คงไม่สามารถ จะมีรูปร่างตรงใจ ตรงมาตรฐานของคณะกรรมการทุกคนได้ เพราะแต่ละคนชอบ ไม่เหมือนกัน ดังนั้นแอนนาคิดว่าเวทีนี้กรรมการคงไม่ได้มองแค่รูปร่าง แต่ มองหาความมั่นใจ ซึ่งเกิดจากการยอมรับในรูปร่างและหุ่นของตัวเองให้ได้ก่อน ถ้าเรารักตัวเองมากพอ และพอใจว่านี่คือทรวดทรงของฉัน ที่แม้จะไม่ได้ถูกใจ ทุกคนหรือตรงตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่ได้แย่ พอเรามั่นใจแล้ว มันจะออกมา ทางแววตา พี่อแมนด้า (อแมนด้า ออบดัม) สอนว่า ถ้าเราสามารถส่งอินเนอร์ และความมั่นใจผ่านสายตาออกไปได้ คนดูจะรู้สึกว่าเรากลมกล่อมหมดเลย แต่ถ้าเรารู้สึกไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง เขาจะไม่มองหน้า แต่จะไปมองหาว่าอะไร ที่ทำให้เราไม่มั่นใจ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องมั่นใจในตัวเองก่อน

“ซึ่งสำหรับแอนนา โมเมนต์นั้นเราเต็มที่ที่สุดแล้ว ต้องเดินต่อจาก ‘อาย – กันยารัตน์’ คือความจริงเป็นเพื่อนกันนะคะ แต่ความที่อายหุ่นสับมาก ในหัว ตอนนั้นคือต้องบอกตัวเองว่า ‘เธอสวยใช่ไหม…ได้ ฉันสวยกว่า’ (หัวเราะ) แล้วก็ เดินเลยค่ะ บอกตัวเองไปตลอดทางว่า ‘ฉันสวย มองมาที่ฉันสิ!’ ซึ่งพอเรามั่นใจ ก็รู้สึกว่าทำได้ดีเลยค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ดีทุกวันนะคะ แอนนาถือคติว่า พลาดแล้วก็แค่นำมาคุยกับทีมเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำอย่างไรก็ได้ให้เราค่อย ๆ มั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้นทุกวัน เหมือนกราฟที่ไต่ขึ้นเรื่อย ๆ”

อีกเรื่องที่แอนนาได้รับคำชมมากคือการตอบคำถามที่แสดงถึงทัศนคติที่ดี อยากรู้เคล็ดลับการตอบคำถามให้จับใจกรรมการและผู้ฟัง

“แอนนาใช้วิธีคิดว่าทุกข้อที่กรรมการถามมาเกี่ยวเนื่องกับชีวิตเราทั้งหมด ถ้าเรากลัวและคิดว่าคำถามนั้นอยู่นอกบริบทของชีวิตเรา เราจะตอบไม่ได้เลย ดังนั้นพอได้ยินคำถามปุ๊บ แอนนาจะคิดก่อนเลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องหรือสามารถ เชื่อมโยงกับชีวิตเราอย่างไรบ้าง พอรู้แล้วก็จะสามารถหาคำตอบที่มาจากชีวิตเราได้ แอนนาเชื่อว่าไม่มีใครรู้จักเราเท่าตัวเราเอง ถ้าเราพูดออกมาจากความจริงที่เกิด ในชีวิต ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกว่าเราจริงใจจริง ๆ

“อย่างคำถามที่แอนนาคิดว่าตัวเองตอบได้ดีและชอบมากที่สุดคือตอนที่ ให้เปรียบเทียบว่าตัวเองเป็นดอกไม้ชนิดไหน แล้วแอนนาตอบว่า ‘ดอกบัว ที่ แม้ว่าจะเกิดมาจากโคลนตม แต่สุดท้ายดอกบัวสามารถสวยสง่าบนผืนน้ำได้ อย่ายึดมั่นว่าเราเกิดมาจากอะไร แต่จงยึดมั่นว่าเราเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้ด้วย พลังของเรา’ เพราะรู้สึกว่าเป็นคำตอบที่สั้น กระชับ และกลมกล่อม ซึ่งเหมือน เรามีแรงบันดาลใจที่จะตอบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว เนื่องจากวันที่เปิดตัวมงกุฎ แล้ว เห็นว่ามงกุฎมีสัญลักษณ์ของนกยูงกับดอกบัว ซึ่งสื่อถึงความสง่างาม ก็รู้สึกเลย ว่ามงกุฎนี้มีอะไรเชื่อมโยงกับเรามาก แล้วทีมพี่เลี้ยงก็ส่งข้อความมาให้กำลังใจ เราว่า ‘แอนนาดูนะ สัญลักษณ์ของมงกุฎนี้เหมือนตัวเธอเลย’ ก็เลยคิดว่าดอกบัว นี่แหละคือตัวเรา แม้จะมาจากโคลนตม เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือก ที่จะเป็นได้ ขอแค่มี Power of Resilience คือรู้จักปรับตัว ล้มก็ลุก ไม่ยอมแพ้ ยึดมั่นเข้าไว้ เราก็จะประสบความสำเร็จได้ ตอนที่ได้ยินคำถามนี้ก็นึกถึงคำพูด ของพี่เลี้ยงขึ้นมาเลย จึงตอบไปแบบนั้น ทำให้ทุกคนสัมผัสถึงตัวตนเราได้ และ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย นี่ก็แอบคิดนะว่าเหมือนมงกุฎถูกสร้างมา เพื่อเราเลย” (หัวเราะ)

แอนนาพูดตลอดว่าเชื่อในเรื่องการพัฒนาตัวเอง ถ้าให้ยกตัวอย่างเรื่องที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดคือเรื่องอะไรคะ

“น่าจะเป็นเรื่องการพูดนี่แหละค่ะ เมื่อก่อนแอนนาพูดเหมือนท่องแคมเปญมาเลย ‘แอนนาคิดว่าโลกเราสมัยนี้…’ (ท่องให้ฟังเป็นตัวอย่าง) นั่นก็เพราะอย่างที่เล่าว่าเราพยายามทำให้คนอื่นชอบ แต่พอเราเรียนรู้และฝึกซ้อมมากขึ้น พัฒนาขึ้น ก็รู้ว่าจงพูดในสิ่งที่คิดและรู้สึก แล้วทุกคนจะเข้าใจว่าเราจะสื่อสารอะไร อาจจะไม่ได้เป็นคำพูดที่สวยหรู แพตเทิร์นงดงาม ภาษาทางการ หรือตรงแกรมมาร์ แต่ จุดประสงค์ในการพูดคือ หนึ่ง คนอื่นฟังแล้วเข้าใจ สอง รู้ว่าแอนนารู้สึก อย่างไร ซึ่งจะมีอิมแพ็กต์กว่ามาก แอนนาคิดว่าเรื่องนี้ตัวเองประสบความสำเร็จ ประมาณหนึ่งนะคะ เวลาที่เราตอบคำถามแล้วทุกคนรู้สึกตาม ก็เป็นพัฒนาการ ที่เกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝนมาตลอด”

โปรเจ็กต์ที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนนี้อยากทำให้เมืองไทยมากๆ คืออะไรคะ

“มีสองเรื่องค่ะ อย่างแรกเลยคือการศึกษา เพราะแอนนามีประสบการณ์ตรง อย่างที่รู้กันว่าแอนนาไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยสมบูรณ์แบบ แต่แม่บอกเสมอว่าการศึกษาจะเปลี่ยนชีวิตได้ แม่จบแค่ ป.6 ความจริงแม่รัก การเรียนมาก แต่เรียนต่อไม่ได้เพราะฐานะไม่อำนวย แต่เพื่อน ๆ ที่เรียนจบดี ๆ ได้ มีฐานะดี ชีวิตดีทุกคน แม่จึงสนับสนุนเรื่องการเรียนมาก ยอมทำงานสามที่ ต่อวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทั้งกวาดขยะ เป็นแม่บ้าน และพนักงานล้างจาน เพื่อ ส่งแอนนาเรียน ซึ่งพอถึงวันหนึ่งที่เราเรียนจบ ประสบความสำเร็จด้านการศึกษา ชีวิตก็เปลี่ยนไปจริง ๆ มีโอกาสเข้ามามากมาย มีผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ ได้เจอ การทำงานที่ดี และยังได้เข้าสู่เส้นทางนางงามและรับมงกุฎอย่างทุกวันนี้ ซึ่งการที่ แอนนาออกมาพูดก็เพื่อย้ำว่าการศึกษานั้นสำคัญจริง ๆ อยากให้สังคมช่วยกัน ดูแลคนข้างหลังที่ยังต้องการความช่วยเหลือและยังเผชิญความลำบากอยู่

“ซึ่งกว่าที่แอนนาจะเรียนจบได้ก็ลำบากมากจริง ๆ ทั้งที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรเป็นสิ่งที่เด็กไทยทั้งประเทศควรได้รับอย่างเท่าเทียมกัน แต่ยังมีเด็กอีกหลายคน ที่เข้าถึงการศึกษาได้ยากมาก แม้รัฐจะมีทุนการศึกษาให้ แต่กว่าจะได้ค่าเทอม จากรัฐก็ไม่ง่าย แอนนาเองต้องเสียค่าเดินทาง ค่าชุดนักเรียน ค่าหนังสือ ต้อง เรียนให้ดี กว่าจะได้ค่าเทอมที่รัฐจัดให้ หรือทุนจากบางหน่วยงานของรัฐก็ต้อง ทำความดีแลก ต้องเก็บขวดพลาสติก บริจาคเลือด เพื่อสะสมเป็นคะแนน เป็นหน่วยกิจแต่ละเทอมจึงจะได้ทุน หรือบางทีบอกทุนเรียนฟรี แต่จบออกมา ต้องใช้ทุน แอนนาจึงรู้สึกว่าถ้าเราบอกว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ แล้วทำไมจึง ไม่มีการสนับสนุนให้เต็มที่ ให้การศึกษาโดยไม่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรมากมาย แอนนายังโชคดีที่แม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ขณะที่บางบ้านที่แย่กว่าเรา ถ้าตื่นขึ้นมา แล้วเขาต้องเลือกระหว่างหนังสือเรียนกับข้าวหนึ่งจาน เป็นใครก็ต้องเลือกข้าวก่อน ซึ่งแอนนาคิดว่ามันไม่ควรจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ถ้าการศึกษาสำคัญ เด็กควร ได้รับการศึกษาฟรีทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งค่าเดินทาง ค่าเครื่องแบบ แบบเรียน อุปกรณ์การเรียน ฯลฯ แอนนาจึงอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงให้คนได้รู้ ว่ายังมีเด็กอีกมากมายที่รอความช่วยเหลือตรงนี้อยู่”

อีกเรื่องที่อยากทำล่ะคะ

“ขยะค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานเกี่ยวกับขยะ แอนนาจึงอยากพูด สองประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประเด็นที่หนึ่งคือ เรื่องของอาชีพ ‘คนเก็บขยะ’ แต่ก่อน คนมักคิดว่าอาชีพเก็บขยะไม่มีเกียรติ เพราะเกี่ยวข้องกับสิ่งสกปรก แต่ขอถาม หน่อยว่าถ้าไม่มีอาชีพนี้แล้วโลกจะเป็นอย่างไร ใครจะทำ ความจริงไม่ใช่แค่อาชีพ พนักงานเก็บขยะเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายอาชีพที่ถูกลดทอนคุณค่า ทั้ง ๆ ที่เขา ก็ทำประโยชน์เพื่อสังคม แอนนารู้สึกว่าถ้าอาชีพสุจริตใดไม่มีประโยชน์ต่อสังคม มันก็คงไม่มีอาชีพนั้นเกิดขึ้นมา ดังนั้นตราบใดที่อาชีพนั้นยังสุจริต ก็ถือว่า มีประโยชน์ต่อสังคมและทุกคนหมด ไม่อยากให้ใครดูถูกใคร

“นี่ขนาดแอนนาได้มงกุฎ ยังมีคนมาคอมเมนต์ว่าเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วทำไมพ่อยังต้องทำงานเก็บขยะอยู่อีก ทำให้แอนนานึกสงสัยว่า อ้าว แล้วการเก็บหรือกวาดขยะไม่ดีตรงไหนคะ ทำไมยังมีคนมองว่าอาชีพนี้ด้อยกว่าอาชีพ อื่น ทั้งที่ทำประโยชน์ให้สังคมเหมือนกัน สำหรับแอนนาภูมิใจมากที่พ่อเราคือ ผู้พิทักษ์ความสะอาด (น้ำเสียงภาคภูมิใจ) แอนนาจึงอยากเป็นกำลังใจให้คนทำงาน ภูมิใจในหน้าที่ของเขา และอยากเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ให้คนในสังคม ยอมรับ ให้เกียรติ และให้คุณค่ากับผู้คนที่ทำอาชีพนี้ด้วยค่ะ

“ประเด็นที่สองคือ เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งความจริงเป็นเรื่องเบสิกมาก ทุกคนทำได้ แต่ไม่ค่อยมีใครทำ อย่างการช่วยกันคัดแยกขยะ เพื่อนำบางส่วน ไปรีไซเคิล หรือการเปลี่ยนจากถุงพลาสติกมาเป็นถุงผ้าให้มากที่สุด คือประเด็น เรื่องขยะกับสิ่งแวดล้อมนั้นอาจจะไม่ได้เห็นผลกระทบชัดเจนสั้น ๆ แต่มันจะค่อย ๆ สะสมขึ้นเรื่อย ๆ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในอนาคตแน่นอน จึงอยาก รณรงค์ให้การเก็บขยะ คัดแยกหรือลดขยะ เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคม เริ่ม จากวันนี้เลย ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่เริ่ม แรก ๆ อาจรู้สึกไม่สะดวก เพราะไม่ชิน แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนเริ่มเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้ามากขึ้น แอนนาคิดว่าเราค่อย ๆ ปรับตัวไป ค่อย ๆ ทำจนเป็นนิสัยให้เคยชินและติดตัวไป อนาคตก็จะช่วยเปลี่ยน โลกได้ค่ะ

“ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเข้าพบและพูดคุยกับอาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม ขยะ และมลพิษ ในกรุงเทพฯเหมือนกัน พวกเรามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ทั้ง 5 คนก็อาสากับอาจารย์ ไปว่า ถ้ามีโครงการอะไรที่จะให้ช่วยรณรงค์ ขอให้แจ้งพวกเราได้เลย ยินดี ช่วยอย่างเต็มที่ อยากเป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนช่วยกันค่ะ”

แอนนา เสืองามเอี่ยม

สิ่งที่มาพร้อมกับการเป็นคนของสังคมคือคำวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ แอนนามีวิธีรับมือกับคำพูดเหล่านี้อย่างไรคะ

“ความจริงแอนนารู้สึกว่าหลายคอมเมนต์แรง จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนแรงที่สุด แต่อย่างที่บอกว่าเวทีนี้สอนให้รักตัวเอง และทำทุกอย่างโดยไม่ต้องการให้ใคร มาประทับใจหรือชอบเรา เรามาเพื่อที่จะแสดงตัวตนของเราให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็น แบบนี้ ดังนั้นถ้าใครจะชอบหรือไม่ชอบเราก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ถ้าใครติเพื่อก่อ แอนนาก็จะรับฟังแล้วนำไปพัฒนาตัวเองต่อไป แต่ถ้าติโดยไม่มีประโยชน์อะไรเลย ก็อยู่ที่เราแล้วว่าจะเลือกเก็บไว้ไหม แอนนาว่าสุดท้ายแล้วคนที่เราควรฟังมาก ที่สุดคือคนที่รักเรา ที่รู้จักเนื้อแท้ของเราจริง ๆ และตัวเราเอง ดังนั้นถ้าคำพูด ไหนเป็นทองก็เก็บไว้ คำพูดไหนเป็นหินก็โยนทิ้งไป ชีวิตยังมีดราม่าอีกเยอะ ถ้า ใส่ใจไปกับทุกคอมเมนต์ แอนนาคงเป็นไบโพลาร์แล้ว

“แต่ก็อยากฝากบอกถึงคนที่เขียนคอมเมนต์ว่าทุกคำพูดที่คุณเขียนมา คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคนฟังรู้สึกอย่างไร อยากให้กลั่นกรองความคิดก่อนพูดหรือ เขียนออกมา ว่าถ้าคุณโดนคำพูดแบบนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร แล้วหลาย ๆ ครั้ง บางคำพูดก็แสดงกิริยาหรือความคิดของผู้พูดเองนะคะ อยากให้ลองเอาใจเขามาใส่ ใจเรา ถ้าพูดแล้วคุณยังรู้สึก เขาก็รู้สึกได้เหมือนกัน เพราะเราก็มนุษย์เหมือนกัน”

ในฐานะมิสยูนิเวิร์ส แอนนามองว่าคุณค่าของผู้หญิงอยู่ที่ไหน

“คุณค่าของผู้หญิงเราน่าจะมีหลายอย่างประกอบกัน แต่สำคัญที่สุด คือ การรักตัวเอง อาจพูดง่าย แต่ทำยาก แต่ถ้าเราไม่รักตัวเองจริง ๆ เราจะหลงทาง ทันที ต้องมั่นใจก่อนว่าทุกอย่างที่คุณทำ ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูก จะมีตัวคุณเอง ที่คอยซัพพอร์ตตัวเองอยู่ จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ถ้าคิดไตร่ตรองมาดีแล้วให้ลงมือ ทำเลย เพราะต่อให้ออกมาไม่ดี คุณจะยังมีตัวคุณอยู่เคียงข้างตัวเองเสมอ แล้ว เชื่อไหม คุณจะกล้าทำอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ถ้ารักตัวเองได้ คุณจะมั่นใจ ในตัวเอง และไม่ว่าจะเจอกับอะไร คุณก็จะรู้ว่าตัวเองมีค่าพอ และไม่เก็บเอา เรื่องไม่เป็นเรื่องหรือเรื่องล้มเหลวมาใส่ใจ”

ขอวิธีรักตัวเองแบบที่แอนนาพูดถึงว่าต้องทำอย่างไรคะ

“ง่ายมากค่ะ สังเกตไหมคะว่าเวลาทำอะไร เรามักมีคำพูดในหัว ให้ลอง คิดว่าคำพูดนั้นเป็นเพื่อนของเรา สมมติว่าจะต้องเดินขึ้นบันได ตอนกำลัง จะก้าวขึ้น ถ้าเพื่อนบอกว่า ‘ลื่นล้มแน่นอน เธอทำไม่ได้หรอก’ คุณจะยังคบเพื่อน คนนั้นไหม ขณะเดียวกันถ้ามีเพื่อนอีกคนบอกเราว่า ‘เธอทำได้แน่นอน ลอง ก้าวขึ้นดูก่อนสิ ล้มก็ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้ เราจะต้องขึ้นไปด้วยกันจนได้’ คุณ จะคบเพื่อนแบบไหน เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณมีเพื่อนแบบไหนอยู่ในตัวเอง ถ้า ในชีวิตจริงไม่มีใครอยากคบเพื่อนร้าย ๆ แบบนั้น แล้วตัวคุณเองเป็นเพื่อนที่ดีกับ ตัวเองแค่ไหน จงใจดีกับตัวเอง เพราะต่อให้ไม่มีใคร คุณก็จะมีตัวเองคอย ซัพพอร์ตตัวเองเสมอ เพราะฉะนั้นรักตัวเองให้มาก ๆ มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ค่ะ”

ไหนๆ เข้าเรื่องรักแล้ว ขออนุญาตถามว่าสวยขนาดนี้ มีคนรู้ใจแล้วหรือยังคะ

“ยังไม่มีค่ะ (ถอนหายใจ) แต่ถ้าถามว่าที่ผ่านมาฮ็อตไหม ก็นิดหนึ่งนะ (หัวเราะ) คือเคยมีคนคุยด้วยบ้างตามประสาสาว ๆ เนอะ แต่เลิกกันไปตั้งแต่ช่วง เตรียมตัวก่อนประกวด เพราะแอนนาไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องอื่นเลย เราทุ่มเทกับ การประกวดเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสทำอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้อีกไหม ขอทำ ตรงนี้ให้ดีที่สุดและทำอนาคตให้มั่นคงก่อน ส่วนความรักน่าจะเป็นสิ่งที่เราหา ได้ในระหว่างทางหรืออนาคตข้างหน้า แต่ถ้าจะมีใครสักคน…แต่ก่อนอาจจะมอง คนหล่อบ้าง แต่ตอนนี้แอนนามองหาคนที่เข้าใจเรา ซัพพอร์ตเรา กล้าตักเตือน เวลาเราทำผิด กล้าพูด กล้าคุย กล้าบ้าและสนุกไปด้วยกัน แลกเปลี่ยนไอเดียกัน ซึ่งหายากมากนะ หาคนที่เข้าใจนี่หายากกว่าหล่ออีก” (หัวเราะ)

งั้นกลับมาเรื่องที่น่าจะง่าย คือเคล็ดลับความสวยแบบหัวจรดเท้าในแบบแอนนา

“เริ่มจากรักตัวเองก่อนนะคะ ถ้ารักตัวเองแล้ว เราก็อยากดูแลให้ตัวเอง ดูดีขึ้นในทุก ๆ วัน อย่างน้อยก็ต้องรักความสะอาดละหนึ่ง ความจริงในวงการ นางงามมีเคล็ดลับเยอะมากจนจำไม่ไหว ให้ทำอะไรก็ทำ แต่ที่แอนนาเน้นดูแล ตัวเองคือกินวิตามินเป็นประจำ หลัก ๆ คือวิตามินซี เพื่อบำรุงผิว เวลาแต่งหน้า เครื่องสำอางจะได้ติดหน้า แล้วก็นอนให้พอค่ะ ซึ่งความจริงแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะช่วงประกวดเวลานอนน้อยมาก อาศัยนอนเก็บสะสมแต้มไป ตอนแต่งหน้า ก็งีบได้ ช่างแต่งหน้าก็แต่งไปแอบถ่ายรูปไป แกงแอนนามาก (หัวเราะ) อย่างที่ บอกค่ะ ทำทุกอย่างเต็มที่ เรื่องนอนก็เต็มที่เหมือนกัน แต่ถ้านอนน้อยมาก ๆ ก็จะมาสก์หน้าในอีเว้นต์สำคัญ ๆ บ้าง แต่ปกติแอนนาผิวมันค่ะ ถ้ามาสก์หน้า บ่อยแล้วจะแต่งหน้าไม่ติด ส่วนเวลาแต่งหน้าช่างหน้าจะเน้นตากับคิ้วของแอนนา เพราะเป็นจุดเด่นของเรา ถ้าสวยก็จบเลย

“ส่วนเรื่องฟิตหุ่นก็ทำตามตารางออกกำลังกาย แต่ละวันอาจจะไม่เหมือนกัน และส่วนตัวคิดว่าไม่ผิดที่เราจะกินของชอบบ้าง แค่ต้องรู้ลิมิตและวิธีเอาออก จะใส่ทุกอย่างลงในร่างกายไม่ได้ อย่างขนมหวาน ถ้าอยากกินมาก ๆ ก็จะตักชิม ให้รู้รสพอ ไม่ถึงกับอด ไม่งั้นจะโหยและตบะแตก ที่เหลือก็เน้นกินให้ครบห้าหมู่ ทั้งสามมื้อค่ะ แต่อาจจะเลี่ยงเนื้อสัตว์นิดหนึ่ง เพราะแอนนากินมากไม่ได้ จะท้องผูก และท้องป่อง อาศัยกินเนื้อย่อยง่ายอย่างปลาและไก่ อ้อ! มีเคล็ดลับก่อนใส่ชุด ว่ายน้ำด้วยนะ คือตอนเช้าให้กินขนมปังสองแผ่น จะโฮลวีตหรือขนมปังขาว ก็ได้ เขาบอกกันว่าจะช่วยทำให้ผิวอิ่มน้ำมากขึ้น แต่ห้ามดื่มน้ำเยอะนะคะ ใช้แค่ จิบ ๆ เดี๋ยวท้องป่อง แต่พอหลังเดินชุดว่ายน้ำเสร็จก็กินปกติได้ค่ะ”

ทุกวันนี้ถ้าไม่ได้ทำงาน แอนนาชอบทำอะไร

“นอนค่ะ เพราะที่ผ่านมาได้นอนน้อยมาก รู้สึกว่าการนอนจะเยียวยา ทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักหนาสาหัสแค่ไหน ทุกอย่างดีขึ้นได้ด้วยการนอน พักผ่อน ตื่นขึ้นมาแล้วก็จะทำให้มีสติและเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น มีกำลังใจจะสู้ต่อ ใครที่กำลังท้อ แนะนำให้นอนก่อน (หัวเราะ) เราอาจจะแค่เหนื่อยจากการ พักผ่อนไม่เพียงพอก็ได้ค่ะ

“ปกติวันว่างแอนนาจะพยายามอยู่กับตัวเองให้มากที่สุด เพราะเวลาทำงาน เราเจอคนมาเยอะแล้ว พออยู่คนเดียวก็อยากอยู่กับตัวเองมากกว่าจะออกไป ข้างนอก ส่วนใหญ่ก็ดูหนังอยู่บ้าน ชอบดูหนังแนวเลือดสาด ไซไฟ หักมุม (หัวเราะ) เพราะเร้าใจ ลุ้นระทึกดี ดูแล้วอะดรีนาลินหลั่ง ได้ปลดปล่อย ไม่ก็ กินข้าวคนเดียวค่ะ การอยู่เงียบ ๆ เหมือนได้รีแล็กซ์ ได้ใช้เวลาคุยกับตัวเอง มีสมาธิ ทบทวนตัวเอง แล้วช่วงหลังอ่านหนังสือเยอะขึ้นมากเลยค่ะ เมื่อก่อน อ่านเฉพาะหนังสือเรียน (หัวเราะ) ตั้งแต่ประกวดมานี่ อ่านหนังสือแนวจิตวิทยา ฮาวทู และมายด์เซตมากขึ้น แล้วก็ฟังพอดแคสต์แนวนี้เยอะมากเหมือนกัน ค่ะ”

แอนนา เสืองามเอี่ยม

ภารกิจในอนาคตของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์หลังจากนี้คืออะไรคะ

“ต้องบอกว่าเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์สอนอะไรหลายอย่าง ทำให้แอนนา รู้สึกว่าชีวิตนี้คุ้มค่ามากที่ได้เกิดมา คุ้มค่ากับความพยายาม รู้สึกรักชีวิตตัวเอง มากขึ้น ชีวิตมีความหมายมากขึ้นเพราะเวทีนี้เลย พูดทีไรก็ขนลุกทุกที

“จากนี้ไปแอนนาจึงอยากพัฒนาปรับปรุงตัวเองในทุก ๆ ด้าน เป็นแอนนาที่ Better Version ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย ให้ดีที่สุดในการประกวดมิสยูนิเวิร์สบนเวทีโลก อยากคว้ามงที่สามมาให้ได้ แอนนาไม่รู้หรอกว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร และจะไม่กดดันตัวเองด้วย แต่ไม่อยากกลับมาเสียใจทีหลังว่าทำไม่เต็มที่ เพราะฉะนั้นแอนนาจะเติม ความสามารถในทุก ๆ เรื่องให้เต็มที่ ทั้งเรื่องการพูด การเดิน ภาษาอังกฤษ ต้องทำให้ดีขึ้นให้ได้ค่ะ แอนนาเชื่อเสมอว่าตัวเองเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว และต่อให้น้ำ มาเยอะแค่ไหน ก็พร้อมขยายขนาดแก้วให้ใหญ่ขึ้นได้เรื่อย ๆ เพื่อรองรับปริมาณ น้ำนั้น แอนนาคิดว่านี่เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่มาก ชีวิตนี้จะมีเป้าหมายที่ใหญ่ขนาดนี้ อีกไหมก็ไม่รู้ ต้องเต็มที่ไว้ก่อน”

ผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจของแอนนาคือใครคะ

“แม่ค่ะ อย่างที่บอกว่าแม่คือคนที่ทำงานสามอาชีพต่อวันเพื่อส่งเสีย แอนนาเรียน ถ้าไม่มีแม่ แอนนาก็คงไม่มีวันนี้ แม่ทำให้แอนนาเชื่อเรื่องการศึกษา และทำให้แอนนารู้สึกว่าต่อให้เกิดมาต้นทุนน้อยแค่ไหน ถ้าพยายามมากพอ ก็สำเร็จ ที่สำคัญสิ่งที่พ่อและแม่ทำให้แอนนาคือการแสดงความรักอันยิ่งใหญ่ ที่แม้จะไม่ได้บอกรักเป็นคำพูด แต่เป็นการบอกรักผ่านการกระทำ ทั้งสองท่าน ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้เราเติบโตมาเป็นคนดี มีชีวิตที่ดี แม้กระทั่งทวดที่เสียไป ก็ยังยอมตื่นเช้ามาต้มไข่ให้กินก่อนไปเรียน สำหรับแอนนานั่นคือความรักที่สัมผัส ได้ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดว่ารักเลย”

ถ้าใครคนหนึ่งอยากเดินตามความฝันให้สำเร็จเหมือนแอนนา อยากบอกอะไรกับเขาคะ

“เส้นทางสู่ความสำเร็จอาจต้องอาศัยหลายอย่างประกอบกัน สูตรสำเร็จ คงไม่มี แต่เราเริ่มได้จากการรู้คุณค่าในตัวเองและรักตัวเองก่อน เมื่อเรารักตัวเอง แล้ว เราจะมองหาแต่สิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง เราจะคิดต่อเองว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิต มีความสุขและมีอนาคตที่ดีขึ้น หากมีความฝันก็ลองดูว่าฝันนั้นจะทำให้ชีวิตคุณ ดีขึ้นไหม ถ้าใช่ก็ลงมือทำเลย ระหว่างทางอาจมีอุปสรรคบ้าง ล้มบ้าง แต่ อย่าท้อ ล้มแล้วจงเรียนรู้จากมัน แล้วก้าวต่อไป อย่าหยุดค่ะ มีคำสอนหนึ่ง ของทวดที่แอนนายึดถือมาตลอด และเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยิน คือ ‘ความ พยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ นี่คือ Power of Resilience ของจริง และเป็นเรื่องจริง แอนนากล้ายืนยัน ถ้าคุณพยายามมากพอ รักตัวเองมากพอ ให้คุณค่ากับตัวเองมากพอ แม้จะล้มก็ลุกใหม่ได้ ไม่ถอดใจไปเสียก่อน ไม่ว่า เป้าหมายจะไกลแค่ไหน แอนนาเชื่อว่าทุกคนจะทำได้สำเร็จค่ะ แล้วเมื่อวันนั้น มาถึง คุณจะรู้สึกแบบเดียวกับที่แอนนารู้สึก นั่นคือคุณจะรักและภูมิใจในตัวเองมากๆ”


 ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 986

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

หมั่นสังเกตตนเอง ‘มะเร็งต่อมน้ำเหลือง’ เกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย พบบ่อยในคนไทย

Alternative Textaccount_circle
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

กรมการแพทย์ชี้ “มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเองหากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย สามารถพบได้ทุกช่วงอายุแล้วแต่ชนิด โดยพบได้ประมาณ 3.000-4,000 คนต่อปี มะเร็งที่เกิดกับต่อมน้ำเหลืองเกิดได้ทุกบริเวณของร่างกาย ตั้งแต่บริเวณรักแร้ คอ ขาหนีบ ตามข้อพับ และในช่องอก ช่องท้อง นอกจากนี้แล้ว เซลล์ต่อมน้ำเหลืองยังมีอยู่ทุกอวัยวะในร่างกาย สามารถเกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ทั้งสิ้น เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง เป็นต้น

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งประเภทออกเป็น

  • มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) ผู้ป่วยมักจะมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอและช่องอก ให้การรักษาโดยการใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสง โอกาสหายขาดสูง
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-hodgkin lymphoma) พบมาก และแบ่งย่อยออกได้อีกประมาณ 30 ชนิด แต่แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็น 2 แบบคือ

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดรุนแรง (Aggressive lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายเกิดอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรง ดังนั้น จึงตอบสนองกับยาเคมีบำบัดซึ่งออกฤทธิ์กับเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วอยู่ค่อนข้างดี กลุ่มนี้ต้องรักษาทันที หากไม่รักษาผู้ป่วย อาจเสียชีวิตใน 6 เดือน ถึง 2 ปี แต่ถ้าได้รับการรักษาทันท่วงที มีโอกาสหายขาดจากโรคได้มาก แม้จะอยู่ในระยะไหนก็ตาม

– มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดค่อยเป็นค่อยไป (Indolent lymphoma) การแบ่งตัวและแพร่กระจายค่อนข้างช้า อาการเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่รุนแรงแต่เรื้อรัง กลุ่มนี้มักไม่ค่อยหายขาดด้วยเคมีบำบัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้ และติดตามอาการเป็นระยะ

ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เกิดได้จากทั้ง การติดเชื้อทั้งไวรัส เช่น HIV, HCV, EBV การติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง, พันธุกรรม, ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำจากการได้รับยา, สารเคมีที่มีสารก่อมะเร็งอยู่ เช่น สารกำจัดศัตรูพืช

ดังนั้น การป้องกันของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงทำได้โดยการหมั่นสังเกตตัวเอง ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หากเจ็บป่วยให้รีบไปรักษา หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งเป็น อาการทางระบบหรือ B-symptom เช่น อาการไข้ที่ไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์, เหงื่อออกตอนกลางคืน, น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือเบื่ออาหารผิดปกติ อาการเฉพาะที่ที่เกิดจากต่อมน้ำเหลืองโตในบริเวณนั้นๆ เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ปวดแน่นท้อง ท้องอืด ปวดศีรษะ เป็นต้น

การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ปัจจุบันให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดร่วมกับยาพุ่งเป้า (Targeted therapy) ที่เริ่มมีการศึกษาวิจัยและนำมาใช้มากขึ้นในปัจจุบัน ฉายแสงในบางกรณี และการปลูกถ่ายไขกระดูกในเคสที่กลับเป็นซ้ำ นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาใหม่สำหรับโรคที่กลับเป็นซ้ำด้วยการใช้เซลล์บำบัด (CAR-T cell) ซึ่งยังอยู่ในช่วงการศึกษาวิจัยในประเทศไทย

ติดตามความรู้ข่าวสารด้านโรคมะเร็งจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ส่งเสริมความรอบรู้สู้ภัยมะเร็ง http://allaboutcancer.nci.go.th/ เว็บไซต์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง https://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ และ Line : NCI รู้สู้มะเร็ง


ข้อมูล : แพทย์หญิงศศินิภา ตรีทิเพนทร์ แพทย์ที่ปรึกษาด้านอายุรศาสตร์โรคเลือด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ , กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ริต้า

ดราม่า!อยากให้ลูกติดดิน ริต้า ชี้แจงความหมายคือ Down To Earth  

Alternative Textaccount_circle
ริต้า
ริต้า

หลังจากก่อนหน้านี้นางเอกสาว ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น คุณแม่ของ น้องกวินทร์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวว่า “เราก็อยากให้กวินท์ติดดินเหมือนแม่นี่แหละ…” เพียงประโยคเดียวกลับทำเอาทัวร์ลงหนักมาก เนื่องจากที่ผ่านมาไลฟ์สไตล์ของสาวริต้าก็ไม่ธรรมดา ทำเองถูกวิพากษ์วิจารณ์ยกใหญ่

โดยล่าสุด ริต้า ได้มีโอกาสชี้แจงถึงประเด็นนี้ในงาน Unveil The Estelle Phrom Phong  พร้อมกับคุณสามี “กรณ์ ณรงค์เดช” ที่ออกมาช่วยแก้ไขความเข้าใจผิด

ริต้า 02

ริต้า : จริงๆ ริต้าก็พูดค่อนข้างยาวนะ พูดอะไรหลายอย่าง และริต้าอธิบายในแบบที่ไม่มีฟิลเตอร์อะไร ริต้าพูดจากใจ ซึ่งในความหมายของริต้า จริงๆ มันคือ Down To Earth  เราต้องมีสัมมาคารวะ เราต้องถ่อมเนื้อถ่อมตัว เราต้องสวัสดีทุกคนไม่ว่าจะไปเจอใครก็ตามรู้จักหรือไม่รู้จัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ริต้าอยากปลูกฝังเขามากๆ และไม่อยากปิดกั้นขีดจำกัดเขา อยากให้เขาได้ผจญภัยในโลกกว้าง แต่มีคนเอาแค่คำๆ เดียวมา

กรณ์ : อย่างที่ริต้าบอกเลยครับ ติดดินเราหมายถึงว่า Down To Earth  แบบเจอทุกคนก็ต้องไปมาลาไหว้ คงไม่ได้หมายถึงไปเล่นกับดินกับทรายขนาดนั้น และเราในฐานะพ่อแม่ เราก็เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก

ริต้า

ริต้า : แต่ริต้าเข้าใจ ในมุมมองคนอื่นที่มองเข้ามา อาจจะมองคำๆ นี้และก็รู้สึกว่า ตรงไหนของเธอ แต่ขอบคุณละกันนะคะในทุกๆ คอมเม้นต์ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่พี่ๆ ยังนึกถึงริต้าอยู่”

ริต้า : อย่างที่บอกขอบคุณที่นึกถึงเรา แต่โอเคเราอาจจะหมายถึงคำว่า Down To Earth  คือเราต้องรู้จักถ่อม ต้องเข้ากับทุกคนได้ อย่างริต้าเอง กว่าริต้าจะมีวันนี้ริต้าก็ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่อายุ 13 ริต้าก็เลยอยากให้เขาเรียนรู้ว่าทุกอย่างมันไม่ได้ได้มาง่ายดาย ถึงแม้วันนี้เขาจะอยู่ดีกินดี แต่เขาก็ต้องรู้จักแบ่งปันด้วยเหมือนกัน

ริต้า 01

ริต้า : ถามว่าคนเข้าใจผิดแบบนี้เสียใจไหม ไม่นะคะ ริต้าอยู่ตรงนี้มานาน อยู่มาตั้งแต่เด็กแล้ว เราเองก็เจอมาหลากหลายรูปแบบ นานาจิตตัง ทุกคนสามารถคอมเม้นต์ได้ เพราะในอีกมุมก็ยังมีคนเขาเข้าใจริต้าด้วยเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลย แต่สุดท้ายแล้วเราก็อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเรา

Sumner Stroh

รู้จัก Sumner Stroh นางแบบสาวสุดแซ่บที่อ้างเป็นกิ๊กกับ อดัม เลอวีน

account_circle
Sumner Stroh
Sumner Stroh

ทำเอาภาพลักษณ์ชายหนุ่มที่รักครอบครัว คุณพ่อที่แสนดี สามีที่เพอร์เฟคของ อดัม เลอวีน นักร้องหนุ่มวง Maroon 5 หมดลงทันที เมื่อล่าสุด Sumner Stroh นางแบบ และ อินฟลูเอนเซอร์สาวได้ออกมาเผยว่า อดัมกำลังเป็นกิ๊กกับเธอ!! แต่ที่ทำเอาแฟนๆ อึ้งกิมกี่ไปตามๆ กัน คือ นักร้องหนุ่มขอใช้ชื่อนางแบบคนนี้มาตั้งเป็นชื่อลูกที่ เบฮาติ กำลังจะให้กำเนิด

รู้จัก Sumner Stroh นางแบบสาวสุดแซ่บที่อ้างเป็นกิ๊กกับ อดัม เลอวีน

Sumner Stroh นางแบบสาวชาวเท็กซัส วัย 23 ปี ได้ออกมาแฉว่า อดัม เลอวีน กำลังนอกใจ เบฮาติ พรินส์ลู ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 โดย ซัมเนอร์ ได้แชร์ภาพหน้าจอที่ อดัม ส่งข้อความมาหาเธอผ่านอินสตาแกรมลงช่อง Tiktok ของเธอเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาจนกลายเป็นไวรัล

นางแบบสาวชาวเท็กซัสเผยว่า เธอกิ๊กกับอดัมได้ราว 1 ปีแล้ว ซัมเนอร์กล่าวต่อไปว่า เธอยังเด็ก และไร้เดียงสา อีกทั้งเธอยังอ้างว่า เธอรู้สึกถูกอดัมควบคุม และ หลอกว่ากำลังจะเลิกกับเบฮาติแบบเงียบๆ เพื่อไม่ให้เป็นข่าวแพร่ออกไป เธอคิดว่าพวกคนดังคงทำแบบนี้ และหลังจากที่เธอและอดัมเลิกติดต่อกันไปหลายเดือน ปรากฏว่า นักร้องหนุ่มได้ส่งข้อความมาหาเธอว่า

“ถามแบบซีเรียสเลยนะ ผมกำลังจะมีลูกอีกหนึ่งคน ถ้าเด็กเป็นลูกผู้ชาย ผมขอตั้งว่า Sumner คุณจะโอเคไหม นี่เรื่องซีเรียสนะ”

ซัมเนอร์กล่าวว่า ณ จุดๆ นี้ เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในนรก ศีลธรรมก่อตัวขึ้น และเธออยากจัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้อง นอกจากนี้ในข้อความอื่นๆ ยังปรากฏข้อความที่อดัมส่งไปหาซัมเนอร์ว่า “คุณไม่รู้เลยจริงๆ เหรอ ว่าคุณร้อนแรงมากแค่ไหน มันทำให้ผมทึ่งมาก”

ทั้งนี้ซัมเนอร์ได้ตอบกลับอดัมด้วยว่า “ฉันก็คิดเหมือนกัน ได้เจอคุณต่อหน้า ฉันก็แทบบ้า” ซึ่งอดัมก็ตอบไปอีกว่า “คุณร้อนแรงกว่า 50 เท่า ต่อหน้าคุณ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักๆ ที่เธอ ซัมเนอร์ตัดสินใจออกมาแฉเรื่องนี้ด้วยตัวเองเป็นเพราะ เธอได้ส่งรูปไปปรึกษาเพื่อนที่ไว้ใจ แต่หนึ่งในนั้นต้องการนำภาพพวกนี้ไปขายให้กับสื่อแทบลอยด์ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองจะดีกว่า

ขณะที่ อดัม เลอวีน วัย 43 ปี ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยอดัมกล่าวว่า เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับซัมเนอร์ แต่ยอมรับว่า มีการข้ามเส้นเกิดขึ้น และมีการพูดคุยกับในลักษณะเชิงเจ้าชู้กับคนที่ไม่ใช่ภรรยา อดัมเสริมว่า “ผมได้พูดคุยเรื่องนี้แล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผม”

“ภรรยาและครอบครัวของผม คือสิ่งเดียวที่ผมแคร์ที่สุดในโลกนี้  สิ่งเดียวที่สำคัญจริงๆ คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยทำ และ ผมจะไม่ทำมันอีก ผมจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เราจะผ่านมันไป เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

สำหรับ Sumner Stroh เกิดที่เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส  ซัมเนอร์ศึกษาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ด้านธุรกิจและการโฆษณาระหว่างปี 2016 ถึง 2020

ปัจจุบันเธอทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด นอกจากนี้เธอยังเป็นนางแบบในสังกัด Verge Agency  และยังเป็นอินฟลูเอนเซอร์บน YouTube, TikTok และ OnlyFans

ขณะที่ อดัม เลอวีน นักร้องนำวง Maroon 5 แต่งงานกับ เบฮาติ พรินส์ลู นางแบบ Victoria’s Secret มาตั้งแต่ปี 2014 ทั้งคู่มีลูกสาวสองคนคือ Dusty Rose วัย 5 ขวบ และ Gio Grace วัย 4 ขวบ ปัจจุบันเบฮาติกำลังตั้งครรภ์ทายาทคนที่ 3


ที่มา : pagesix.com

ภาพ : @SumnerStroh

cover

เบอร์1 GEN4! SUECOMMA BONNIE คว้า ‘จางวอนยอง’ นั่งแท่น MUSE คนใหม่

Alternative Textaccount_circle
cover
cover

ตำแหน่ง ‘เจ้าแม่พรีเซ็นเตอร์’ ในตอนนี้ ถ้าไม่ยกให้กับ ‘จางวอนยอง‘ คนนี้ แล้วจะเอาไปยกให้ใคร เรียกว่าสมตำแหน่งแล้วจริง ๆ สำหรับศิลปินหญิง หนึ่งในสมาชิกวง IVE ที่ถือเป็นวงที่น่าจับตามองสำหรับ Generation ที่ 4 ของวงการ K-POP เพราะ ‘ไอบึ’ ได้กวาดรางวัลเพลงมาแล้วนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมียอดวิวถล่มทลายในยูทูป ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากเดบิวต์

ด้วยความสามารถ รูปร่าง และหน้าตาของวอนยอง ทำให้มีแบรนด์ระดับโลกอยากดึงตัวเธอไว้มากมาย ซึ่งในตอนนี้เธอก็ได้ร่วมงานอยู่กับหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น MIU MIU, Kirsh, Gospheres และ Maison Chaumet ในที่นี้เราเอ่ยถึงแค่เพียงแบรนด์ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับเท่านั้น ยังไม่นับรวมแบรนด์เครื่องสำอาง สกินแคร์ และคอนแทคเลนส์ เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าถึงแม้เธอจะอายุเพียงแค่ 18 ปี แต่ความเป็น ‘จางวอนยอง’ ต่างส่งอิทธิพลต่อวงการอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

14

และเมื่อไม่นานมานี้ที่มีประกาศจากแบรนด์รองเท้า ‘SUECOMMA BONNIE‘ ที่เลือกให้ จางวอนยอง เป็น MUSE คนใหม่ของแบรนด์ พร้อมออกคอลเล็คชั่น WONYOUNG x Suecomma Bonnie ภายใต้คอนเซ็ปต์ YOUNG & RICH, Starring JANGWONYOUNG ที่มีทั้งหมด 6 ดีไซน์ โดดเด่นไปด้วยคริสตัลวิบวับแวววาวตอบโจทย์ที่ตั้งไว้

“Motor Fit Knit Ankle Boots” ดีไซน์แรกกับรองเท้าบูทหุ้มข้อส้นเข็ม โดยความพิเศษอยู่ที่ดีเทลการเลือกวัสดุเป็นผ้า ก่อนเพิ่มความสนุกด้วยสีเขียวสดและตัวติดรองเท้า จะนำไปแมทช์กับลุคที่มีสีสันก็ได้ หรือถ้าเอาไปแมทช์กับเสื้อผ้าสีเบสิก ๆ ก็จะช่วยเพิ่มความดึงดูดให้กับลุคได้

1
Motor Fit Knit Ankle Boots
7
Motor Fit Knit Ankle Boots

สำหรับคู่ที่สองเป็นรองเท้าทรงยอดฮิตอย่าง Loafer เพราะสามารถหยิบมาแมทช์ได้ง่าย และสวมใส่สบาย ‘SUECOMMA BONNIE’ ก็เลือกรองเท้าทรงนี้มาทำเช่นกัน กับ ‘Coco New Loafer’ โดยมีดีไซน์เป็นรองเท้าหัวแหลม พร้อมเชือกผูก เพิ่มดีเทลลูกปัดมุกรอบรองเท้าให้ดูน่ารักมากขึ้น

5
Coco New Loafer
12
Coco New Loafer

ดีไซน์ของ ‘Chain Mary Jane Pumps’ คู่นี้ บอกเลยว่าเจ้าหญิงแบบตะโกน ด้วยทรง Mary Jane พร้อมด้วยดีเทลสายคาดประดับคริสตัล ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับรองเท้า ซึ่งในดีไซน์นี้มีทั้งหมดสองสีด้วยกัน คือสีขาวดำ และสีเงินเมทัลลิคที่ผสมกลิตเตอร์

3
‘Chain Mary Jane Pumps’
10
‘Chain Mary Jane Pumps’
11
‘Chain Mary Jane Pumps’

คู่ถัดมาเหมาะสำหรับสายที่อยากเดินสบาย แต่ก็ยังอยากมีดีเทลความวิบวับอยู่กับ ‘Shine Dew Sneaker’ สนีกเกอร์ส้นหนาสีขาวดำประดับด้วยคริสตัลเพิ่มความแวววาวเล่นแสงรอบรองเท้า

4
‘Shine Dew Sneaker’
9
‘Shine Dew Sneaker’

ดีไซน์ต่อมาเรียกว่าแตกต่างจากคู่อื่น ๆ เพราะ ‘Runner Sneaker’ คู่นี้มาแบบเบสิก ๆ กับสนีกเกอร์สีขาวตัดดำ มีดีเทลเล็ก ๆ บนขอบรองเท้าที่สกรีนชื่อแบรนด์ลงไป

2
Runner Sneaker
8
Runner Sneaker

สำหรับคู่สุดท้ายนี้เหมาะสำหรับประเทศไทยของเราในตอนนี้มาก ๆ เพราะฝนตกแบบนี้ควรค่าแก่การหารองเท้าบูทมาใส่สุด ๆ และถ้าเป็น ‘Coco New Ankle Boots’ คู่นี้คงทำให้ดูเป็นคนเก๋ขึ้นมาทันตา ด้วยดีไซน์รองเท้าบูทหุ้มข้อสีดำที่มีความพิเศษเป็นคริสตัลประดับรอบข้อเท้า

6
Coco New Ankle Boots
13
Coco New Ankle Boots

ภาพ : @suecommabonnie และ @for_everyoung10

‘มีดวงติดต่อกับแฟนเก่า เพราะด้วยความสัมพันธ์ที่แรงกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ’ ดวงรายวัน 21 กันยายน 2565

‘มีดวงติดต่อกับแฟนเก่า ด้วยความสัมพันธ์ที่แรงกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ’

ดวงรายวัน 21 กันยายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   สำหรับพนักงานใหม่ นักธุรกิจมือใหม่ เป็นไปได้ว่าคุณจะได้ทำงานที่ไม่ได้อยากทำ หรือถูกบังคับให้ทำ แต่จำใจต้องทำ เพราะด้วยเหตุผลของเงินทอง ชื่อเสียง และความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน เพราะฉะนั้นวันนี้จึงต้องเตรียมรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาทดสอบ ทดลอง ความสามารถของคุณ เมื่อให้มากก็คาดหวังมาก แต่หากอดทนจนผ่านจุดนี้ไปได้ก็นับว่าผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่เสียไป  

การเงิน  :  วันนี้จะได้มาจากหยาดเหงื่อและแรงงานของตัวเอง ไม่ใช่มาจากการเสี่ยงโชค หรือธุรกิจที่ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย ไม่เช่นนั้นนอกจากจะเสียรู้เสียเงินแล้ว ยังเสียชื่อเสียงอีกด้วย

ความรัก  :   วันนี้มีโอกาสงานเข้าคุณ 2 เด้ง นอกจากจะถูกบุคคลที่ไม่หวังดีเข้ามาตีสนิทเพื่อหวังทรัพย์สินและผลประโยชน์แล้ว ยังจะถูกเม้ามอยว่า มีความสัมพันธ์ลับๆ อีก ก็ควรระวังตัวให้ดี  คนโสด   วันนี้หากอยากจะมีรักใหม่ก็ไม่สามารถ เพราะติดที่ความจำเป็นด้านเงินทองที่ผูกขาคุณไว้

สุขภาพ  :   ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่สดสะอาด ไม่ถูกสุขอนามัยและสุขลักษณะ เพราะมีโอกาสท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงลำไส้อักเสบ

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้หลักวิชาการขั้นสูง การต่างประเทศ หรือต้องใช้ความเชี่ยวชาญหรือความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น นักธุรกิจ นักการเมือง การปกครอง แพทย์ ซินแส หมอดู ฯลฯ วันนี้มีโอกาสได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ ประกอบกับความคิดและจินตนาการของคุณก็ยังคงกว้างไกล จึงเป็นไปได้ว่าจะได้เข้าไปทำงานในสายบันเทิงเริงรมย์ ความคิดสร้างสรรค์ ความสวยความงาม และศิลปิน  ฯลฯ รวมถึงไปเรียนต่อยังต่างประเทศด้วย แต่อย่างไรก็ตามควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง ไม่ควรยึดติดแต่ความคิดของตัวเอง เพราะจะทำให้งานไม่สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น

การเงิน  :   แม้คุณจะมีการบริหารจัดการการเงินอย่างดีเยี่ยมก็ตาม  แต่วันนี้ก็ไม่สามารถจะเก็บเงินไว้กับตัวได้ตลอดๆ  มีโอกาสถูกหลอกในเรื่องการลงทุน เช่น การกู้ยืมเงิน และการค้ำประกัน

ความรัก  :  วันนี้หากจะปฏิวัติชีวิตคู่ของคุณ โดยการใช้หลักการและเหตุผลในการสร้างครอบครัวที่ดี ยึดในขนบธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีงาม ซึ่งอาจทำให้ครอบครัวเครียดไปบ้าง ต้องค่อยๆ ใช้เวลาในการปรับตัว  คนโสด  หากใครที่แฟนเก่ากลับมาจากต่างประเทศ หรือเป็นชาวต่างชาติในแถบเอเชีย วันนี้มีโอกาสสูงที่เขาจะติดต่อกลับมา หากค่อยๆ ให้เวลาในการศึกษาเรียนรู้จิตใจกันไป ก็มีโอกาสที่ถ่านไฟเก่าจะกลับมาติดไฟได้ใหม่

สุขภาพ  :   คุณเครียดและจริงจังกับชีวิตง่ายมาก จึงมีโอกาสปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง ให้ระวังปัญหาในเรื่องหัวใจและระบบเส้นเลือด รวมถึงโรคผิวหนังด้วย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจด้านการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านภาษา หากวันนี้คุณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานบริการ หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับเด็ก เป็นไปได้ว่าคุณจะได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดี ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นเทพๆ หลายคน  หรือหากอยากจะไปศึกษาต่อก็ยังได้อยู่

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะเสียเงินให้กับลูกหลาน และคนในครอบครัว แต่คุณก็มีโอกาสที่จะได้กลับมาในรูปของงานที่ดีจากการสรรหาของทีมงานและผู้บังคับบัญชา

ความรัก :   สำหรับคู่ที่เพิ่งแต่งงาน หากคุณคิดถึงเรื่องการมีทายาท แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรเขาก็ไม่มาเสียที วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะตัดสินใจไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ระดับเทพทีเดียว  คนโสด  หากใครที่กำลังมีความรัก วันนี้จะมีเรื่องเด็กๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจควรปรึกษาผู้ใหญ่ในบ้านด้วย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

สุขภาพ  :  ควรระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางไม่ว่าจะทางบก ทางน้ำ บนฟ้า ใต้ดินใดๆ ก็ตาม นอกจากนั้นยังต้องระวังปัญหาในช่องปาก ซึ่งจะส่งผลไปถึงทางเดินหายใจ และหลอดลม  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจศิลปะ ศิลปิน ความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม การออกแบบดีไซน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเด็ก วันนี้ความสำเร็จของคุณแม้จะไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่แรงกล้า แต่อย่างน้อยก็ยังมีผู้ให้การสนับสนุนส่งเสริมที่จะเป็นแต้มต่อให้งานสำเร็จได้ไม่ยากนัก

การเงิน  :   จริงๆ แล้ววันนี้มีโชค สามารถหาเงินได้มากจากวาสนาและบารมีของตัวเอง แต่ก็มีรายจ่ายกับการเลี้ยงดูปูเสื่อญาติสนิทมิตรสหาย รวมถึงเด็กๆ ในบ้าน จนถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก   

ความรัก  :  วันนี้คุณลั้ลลามาก อาจเพราะมีข่าวดีหรือเปล่า ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้หมด ไม่ว่าจะสมาชิกใหม่ สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ หรือกิ๊กใหม่  คนโสด  หากคุณกำลังลั้ลลามีความสุขกับการหว่านเสน่ห์ รักๆ เลิกๆ เริ่มๆ วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณมีโอกาสจะหยุดๆ กับเด็กรุ่นน้องไฟแรง จิตใจดี และมีโอกาสที่จะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบเลย  

สุขภาพ  :   จริงๆ แล้วคุณดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี แต่วันนี้จะพลาดตรงที่เอ็นจอยกับการรับประทานอาหารและดื่มสังสรรค์ จนน้ำหนักขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีภาวะขาดสารอาหารหรือวิตามินบางตัวร่วมด้วย เช่น แคลเซียม

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจด้านความคิดสร้างสรรค์ โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานบันเทิง ดีไซเนอร์ออกแบบเครื่องประดับ เสื้อผ้า ฯลฯ วันนี้นับว่าคุณมีความเป็นอัจฉริยะในวิชาชีพสูง สามารถพลิกแพลงกลยุทธ์ในการทำงานได้หลากหลาย นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้พบและได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่ที่มีอำนาจบารมีด้วย

การเงิน  :  ก็ยังมีโอกาสได้รับมรดก ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าครอบครัวจะยกให้โดยที่คุณไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว แต่อย่างไรก็ตามควรเก็บรักษาไว้ให้ดีๆ อย่านำไปใช้ผิดประเภท

ความรัก :   เป็นไปได้ว่าคุณจะลังเลและโลเลจนไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเลย ส่วนหนึ่งอาจติดที่ครอบครัวของคู่ชีวิต ซึ่งวันนี้คุณอาจหาทางออกด้วยการเรียกร้องความสนใจ หรือหึงหวงมากกว่าปกติ คนโสด   เช่นกันค่ะ เป็นไปได้ว่าคุณจะลังเลและโลเลใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างความถูกต้องดีงามกับความสุขของตัวเอง จนกลายเป็นไม่เป็นตัวเอง

สุขภาพ  :  มีโอกาสที่คุณจะป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิแพ้ วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะแพ้อากาศ หายใจไม่สะดวก หากเป็นไซนัสมีโอกาสกำเริบ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายบันเทิงเริงรมย์ ศิลปะ ศิลปิน ความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม ฯลฯ  วันนี้หากคุณมีความคิดและจินตนาการที่กว้างไกล มีไอเดียใหม่ๆ มานำเสนอ แต่ก็คงต้องระวัง เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะได้พบกับผู้ร่วมงานประเภทต่อหน้าก็ ‘ดีครับท่าน ได้ครับพี่’ แต่พอลับหลังกลับเป็นอีกอย่าง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้คุณตกอยู่ในภาวะที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้อยากทำ แต่ต้องทำ เพราะติดที่เงื่อนไขข้อตกลง หรือเอกสารสัญญา รวมถึงสัญญาใจ   

การเงิน  :  มีโอกาสขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน และไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้นานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระวังจะถูกหลอกในเรื่องการลงทุน ทั้งการกู้ยืมเงิน และการค้ำประกัน  

ความรัก :   หากคุณครองคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมานาน วันนี้จากอุดมคติหรืออุดมการณ์ที่แรงกล้าของคุณ เป็นไปได้ว่าจะนำพาบุคคลที่ไม่หวังดีกับครอบครัวเข้ามา ซึ่งจริงๆ แล้วเขาหวังในทรัพย์สินและคู่ของคุณหรอก คนโสด มีโอกาสที่แฟนเก่าจะติดต่อกลับมา ด้วยสายสัมพันธ์ที่ยาวนานจะมีอิทธิพลกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ จนคุณไม่สามารถตัดใจจากเขาได้

สุขภาพ  :  มีโอกาสที่ระบบหมุนเวียนเลือด ความดัน และระบบน้ำเหลืองจะทำงานไม่เต็มร้อย จึงควรรับประทานอาหารและวิตามินที่ช่วยในการบำรุงเลือด   

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายกฎหมาย เช่น ทนายความ นักกฎหมาย อัยการ ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย ฯลฯ ควรเตรียมตัวรับมือให้ดี เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะพบกับปัญหาและอุปสรรคที่จะถาโถมเข้ามาอย่างชนิดตั้งรับไม่ทันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเสนองานหรือโครงการอะไรไป เป็นไปได้ว่าจะยังไม่ผ่านการพิจารณาในเร็ววัน ดังนั้น ควรใจเย็น หนักแน่น ใช้สมองและสติให้มากกว่าอารมณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้   

การเงิน  :  หากคุณกำลังจะร่วมหุ้นลงทุนกับคู่รัก วันนี้จากที่ผู้ใหญ่จะให้ความอุปถัมภ์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจนคุณต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงิน

ความรัก   :  เป็นไปได้ว่าชีวิตคู่ของคุณวันนี้มีความลึกลับซับซ้อน คาดเดาได้ยาก อาจมาจากสาเหตุที่คุณกำลังหลงใหลใฝ่ฝันถึงบางสิ่งบางอย่าง หรือบางคนที่คู่คุณไม่รู้ ซึ่งคุณก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ คนโสด  เช่นกันค่ะ หากคุณกำลังหลงใหลใฝ่ฝันถึงบางสิ่งบางอย่าง หรือบางคนโดยที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ วันนี้คาดว่าคุณจะต้องเปิดเผย เพราะมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นคดีความเสียแล้ว

สุขภาพ  :   ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ หากในกรณีเชื้อมีความรุนแรงจะมีโอกาสเข้าสู่กระแสเลือดได้เลย

cover

Airport Look เกือบครึ่งล้าน! ‘ใหม่ ดาวิกา’ บินลัดฟ้าไกล ไปมิลานแฟชั่นวีค

Alternative Textaccount_circle
cover
cover

เรามาวอร์มร่างกายรอแฟชั่นเต็ม ๆ ใน Milan Fashion Week ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน – 26 กันยายน ของ ‘ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่’ กัน ในคืนวันที่ 20 กันยายนของไทย ใหม่ ดาวิกา ได้ลงรูปภาพขณะเดินทางเข้าสนามบิน พร้อมแคปชั่นว่า ’Next station Milan’ บนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ ซึ่งในครั้งนี้เธอก็ได้ไปในนาม Friend of Gucci ต้องบอกว่า Airport Look ของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลย ที่เธอเลือกหยิบชุดออกกำลังกาย มาแมทช์กับแจ็คเก็ตตัวยาวแบบนี้ ถึงบางมุมจะมีความคอนทราสต์กัน แต่อีกมุมหนึ่งทุกอย่างก็ดูเข้ากันอย่างลงตัว

7

มาดูกันดีกว่าว่าทริคอะไรที่ทำให้ลุคนี้ของ ‘ใหม่ ดาวิกา’ ดูกลมกลืนเข้ากันได้ รวมถึงส่องดีเทลของแฟชั่นไอเท็มแต่ละชิ้นว่ามีอะไรบ้าง

  1. GG jersey jecquard cropped top ครอปท็อปตัวสั้นสีดำ พิมพ์ลายโมโนแกรมของแบรนด์
1
GG jersey jecquard cropped top ราคา 51,000 บาท

2. GG jersey jacquard จับคู่มากับเลกกิ้งในไลน์เดียวกัน ตัดด้วยเส้นสีส้มช่วยเพิ่มความสนุก ซึ่งเมื่อเป็นชุดกีฬารับรองว่าใส่สบายและไม่อึดอัดอย่างแน่นอน

2
GG jersey jacquard ราคา 30,900 บาท

3. Herringbone wool jecket คลุมทับด้วยแจ็คเก็ตขนสัตว์สีน้ำตาล ขนาดโอเวอร์ไซส์ตัวนี้ ที่ช่วยทำให้ลุคนี้เก๋ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

3
Herringbone wool jecket ราคา 125,700 บาท

4. Gucci Attache large shoulder bag สะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบนี้ ซึ่งสีอาจจะใกล้เคียงกับลายเส้นสีส้มของเสื้อและเลกกิ้งทำให้ช่วยหาจุดเชื่อมให้กับลุคได้ ดีเทลของกระเป๋าใบนี้นอกจากรูปทรงแล้ว ยังอยู่ที่ตะขอเกี่ยวรูปตัว G ที่สามารถปลดออกเพื่อขยายขนาดของกระเป๋า เพิ่มปริมาณการจุของได้

6
Gucci Attache large shoulder bag ราคา 124,500 บาท

5. Women’s Gucci Run sneaker เพิ่มความคล่องตัวให้กับลุคด้วยการใส่สนีกเกอร์สีดำขาว สกรีนสัญลักษณ์แบรนด์ไว้ข้างรองเท้า

4
Women’s Gucci Run sneaker ราคา 32,600 บาท

6. GG Supreme carry-on จบด้วยการลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก จาก Gucci สีน้ำตาลอ่อนสลับดำ ซึ่งเป็นอีกจุดที่สีของกระเป๋าลิงก์เข้ากับเสื้อแจ็คเก็ต และทำให้ลุคนี้ดูเข้ากันอย่างลงตัว

5
GG Supreme carry-on ราคา 121,000 บาท

ถึงจะเป็นแค่ลุคเรียกน้ำย่อยที่สนามบินแต่มูลค่ารวมลุคนี้ รวมทั้งหมดแล้วเกือบครึ่งล้านกันเลยทีเดียว และสำหรับลุคที่จะเกิดขึ้นในมิลานของ ใหม่ ดาวิกา จะอลังการขนาดไหน เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป

ภาพ : Instagram @davikah

ฉีกขนบด้วย Palace Décor กับจิวเวลรี่ จาก Piaget Possession

account_circle

หมุนรอบไปตามการเคลื่อนไหวและรูปทรงที่เย้ายวนกับคอลเล็คชั่น Piaget Possession ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวและลูกเล่นที่ชวนสนุก – Possession จึงเป็นเหมือนเทียบเชิญที่จุดประกายชีวิตให้เติมเต็มไปด้วยสีสัน มากกว่าการเป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่น ชื่อของ Possession ยังเหมือนเป็นเทียบเชิญที่ให้เราข้ามผ่านกฏเกณฑ์ ไร้ขีดจำกัดในเรื่องเพศ กล้าที่จะสนุกและปลดปล่อยตัวตนไปกับนิยามบทใหม่อย่างอิสระ

ฉีกขนบด้วย Palace Décor กับจิวเวลรี่ จาก Piaget Possession

ความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดาของ Possession ในแต่ละซีรีส์ จึงเป็นการอวดลูกเล่นและความคิดสร้างสรรค์อย่างมีชั้นเชิง ทั้งเป็นตัวแทนที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของผู้สวมใส่ได้อย่างมีสไตล์ เฉกเช่นเดียวกับซีรีส์ล่าสุด ที่แบรนด์เลือกฉีกขนบด้วยการผสานหัตถศิลป์เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ปี 1961 อย่าง Palace Décor ลงบนชิ้นงาน เพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่านี้ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด และลวยลายที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก

และนี่คือเซ็ตแหวนใหม่ทั้ง 7 วง จากคอลเล็คชั่น Possession ไปจนถึงตุ้มหูดีไซน์เก๋ ที่แต่ละชิ้นซุกซ่อนความพิเศษไว้ในตัวเอง ถือว่าเป็นอีกผลงานของเมซงที่น่าจับตามองในปีนี้

ซึ่งนอกจากเทคนิคแบบดั้งเดิมที่เผยให้เห็นศาสตร์แห่งการทำทองด้วยมือแล้ว ความเชี่ยวชาญด้านหัตถศิลป์อื่น ๆ ในแบบเฉพาะของเพียเจต์ ก็ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นคอลเล็คชั่น Possession ซีรีส์ที่ผ่านมาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

1. ความเชี่ยวชาญด้านอัญมณีศาสตร์ที่ให้คุณได้สัมผัสถึงดีเอ็นเอ คาแรคเตอร์ของ Possession อย่าง
การฝังอัญมณีแบบ “half-moon setting” ที่ประกายงามของเพชรถูกไฮไลต์ให้โดดเด่นด้วยทองคำทรงครึ่งวงกลม 2 ชิ้น กับการวางเซ็ตติ้งแบบประกบ ให้ความรู้สึกเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่กำลังเปล่งแสงแข่งกับความระยิบระยับของเพชรนั่นเอง

2. การเลือกใช้โทนสีให้ไล่เรียงกันอย่างสวยงาม จำนวน ขนาด เท็กซ์เจอร์ของอัญมณี ไปจนถึงขั้นตอนการเสาะหา ถือเป็นทักษะชำนาญการที่เมซงต้องอาศัยความทุ่มเทและพิถีพิถันอย่างสูง อาทิ จำนวนวงแหวนหมุนได้บนจิวเวลรีที่ดีไซน์ต่างกันควรประดับด้วยลูกเล่นแบบ 1 วง หรือ 2 วง, มีการฝังอัญมณีแบบ “half-moon setting” ด้วยหรือไม่, วัสดุเป็นไวท์โกลด์ หรือ โรสโกลด์

3.สร้างเซอร์ไพรส์ตามปรัชญา “Always do better than necessary” อย่างยึดมั่น หนึ่งในชิ้นไฮไลต์จากซีรีส์ล่าสุด จึงหลอมรวมความเชี่ยวชาญของเมซงไว้อีกขั้น กับ แหวน Possession เฉดสีรุ้ง (Possession Rainbow Ring) ซึ่งนอกจากจะแกะสลักลวดลายแบบ Palace Décor แล้ว ตัวเรือนยังประดับซาวอไรต์สีเขียว และ แซฟไฟร์ไล่เฉด อีกด้วย ซึ่งนับเป็นความท้าทายของเมซงอย่างมาก เพราะนอกจากอัญมณีสีจะต้องไล่เฉดอย่างสมบูรณ์แบบ ขนาดและคุณภาพระดับสูงก็ต้องอยู่บนมาตรฐานที่เมซงรับรองด้วยเช่นกัน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมแหวนชิ้นนี้จึงควรค่าแก่การครอบครอง


Jitta-Wealth-Jitta-Ranking-CAGR-Cover

จิตตะ เวลธ์ โชว์ผลตอบแทน Jitta Ranking ชนะตลาดพิสูจน์ฝีมือ AI คัดหุ้นดีราคาถูก ช่วยนักลงทุนเข้าถึงหุ้นนอก ชูตลาดเวียดนามยังสดใส ผลตอบแทนเฉลี่ย 31.92% ต่อปี

Jitta-Wealth-Jitta-Ranking-CAGR-Cover
Jitta-Wealth-Jitta-Ranking-CAGR-Cover

จิตตะ เวลธ์ พิสูจน์ความสำเร็จ “Jitta Ranking” ใช้ AI บริหารกองทุนส่วน บุคคลสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดได้จริง ช่วยนักลงทุนเข้าถึง หุ้นคุณค่าทั่วโลก รับกระแสความต้องการลงทุนหุ้นนอก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย ที่โตโดดเด่น เผยผลตอบแทนหุ้นเวียดนามเฉลี่ยสูงถึง 31.92% ต่อปี จากการนำเทคโนโลยีมาบริหารกองทุนส่วนบุคคล เดินหน้าลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ และค่าธรรมเนียมลง เอื้อนักลงทุนเข้าถึง หุ้นดีราคาถูกตาม แนวทาง Warren Buffett

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) สตาร์ตอัป สัญชาติไทยที่มีจำนวนกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารมากที่สุดในประเทศ เปิด เผยว่า ท่ามกลางความผันผวนในตลาดโลกรวมถึงประเทศไทย จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญกับความท้าทาย แต่บริษัทยัง เห็นความต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ที่บริษัทนำเทคโนโลยี AI มาคัดเลือกหุ้นดีราคาถูกให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนในหุ้นต่างประเทศแบบเน้นคุณค่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในหลายนโยบายการลงทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้น เอเชีย เช่นเวียดนามที่กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ปรับประมาณการณ์เศษฐกิจเวียดนามขยายตัว 7% และสถาบันจัดอันดับ Moody’s ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเวียดนามอีกด้วย ซึ่งผลตอบแทนของแผน การลงทุนใน Jitta Ranking ในช่วงที่ผ่านมาก็สามารถพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้นักลงทุน ทำกำไรสูงชนะดัชนีตลาดในระยะยาวได้จริง โดยแผน Jitta Ranking เวียดนาม ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 28.09% เทียบกับดัชนีผลตอบแทนรวมของตลาดหุ้นเวียดนาม (VNINDEXTR) ที่ 19.02%

จิตตะ เวลธ์ โชว์ผลตอบแทน Jitta Ranking ชนะตลาดพิสูจน์ฝีมือ AI คัดหุ้นดีราคาถูก ช่วยนักลงทุนเข้าถึงหุ้นนอก ชูตลาดเวียดนามยังสดใส ผลตอบแทนเฉลี่ย 31.92% ต่อปี

ไม่ใช่เพียงตลาดหุ้นเวียดนามเท่านั้น แต่นโยบายลงทุนของ Jitta Ranking ในประเทศอื่นก็สามารถสร้างผลตอบแทนเหนือตลาดได้เช่นกัน โดย Jitta Ranking จีน ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17.28% ต่อปี เทียบกับดัชนี CSI300 ที่ 10.06% Jitta Ranking หุ้นไทยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17.19% ต่อปี เทียบกับดัชนีผลตอบแทนรวมตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI) ที่ 8.29%

แม้กระทั่งแผนลงทุนที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวไปอย่าง หุ้นบริการสุขภาพสหรัฐฯ หรือ Jitta Ranking US Healthcare ให้ผลตอบแทน 23.82% เทียบกับ S&P Health Care Index TR ที่ 16.57% และแผนล่าสุดอย่าง Jitta Ranking ญี่ปุ่นที่ให้ผลตอบแทนถึง 26.12% เทียบกับดัชนี Topix ที่ 13.01%

ทั้งนี้จิตตะ เวลธ์ ให้บริการกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ด้วยการนำ อัลกอริทึมของ AI มาวิเคราะห์จัดอันดับจากหุ้นในประเทศนั้นๆ ราว 5-30 ตัว เพื่อเฟ้นหา “หุ้นดีราคาถูก น่าลงทุน” มาจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับการลงทุน ระยะยาวตามหลักการลงทุนเน้นคุณค่าของ Warren Buffett นักลงทุนระดับโลก โดย จะดูจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คุณภาพของธุรกิจ มูลค่าที่เหมาะสม และโอกาส เติบโตสร้างกำไรของธุรกิจ และจะมีการปรับพอร์ตอย่างเป็นระบบทุกๆ 3 เดือน เพื่อผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดในระยะยาว ซึ่งการใช้เทคโนโลยี AI มาบริหารกองทุน ส่วนบุคคลจะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศที่มีคุณภาพได้ด้วยวงเงินลงทุนขั้นต่ำที่ไม่สูงมากและมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนส่วนบุคคลที่มีในตลาดได้ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องใช้เวลาศึกษาหรือติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นในประเทศนั้นๆ ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking มีนโยบายลงทุนให้นักลงทุนได้เลือก ทั้งหมด 7 นโยบายด้วยกัน ประกอบด้วยหุ้นไทย หุ้นเวียดนาม หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน หุ้นสหรัฐฯ หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และหุ้นสุขภาพสหรัฐฯ

“โจทย์ของนักลงทุนในเวลานี้คือการมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศ แต่ไม่มี ความรู้และเวลามากพอที่จะไปศึกษาหุ้นในประเทศเหล่านั้น แต่ Jitta Wealth มีเทคโนโลยีและหลักการลงทุนที่จะมาช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศ ได้โดยที่ไม่ต้องทำความรู้จักหรือมีเวลาติดตามหุ้นเหล่านั้นเอง เพราะเราเชื่อมั่นว่า หลักการลงทุนที่ดีจะช่วยบริหารจัดการความมั่งคั่ง ให้นักลงทุนรายย่อยจัดสรรเงิน ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างเหมาะสมกับตัวเอง และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ต่ำได้ เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างยั่งยืนและมีเวลาไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เต็มที่ ซึ่งผลตอบแทนที่ผ่านมา ก็สามารถพิสูจน์ว่าทำได้จริง”

ล่าสุดบริษัทได้ปรับลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำของ Jitta Ranking ทุกนโยบายลงมาจาก 1,000,000 บาทมาเริ่มต้นที่ 500,000 บาท ตามพันธกิจที่บริษัทพยายามปรับลดวงเงินเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสการลงทุนหุ้นคุณค่าได้อย่างง่ายดาย ทั้งหุ้นในประเทศและต่างประเทศ  ซึ่งวงเงินลงทุนที่เหมาะสมจะมีนัยยะต่อการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จริง ขณะเดียวกันยังปรับลดเงินเพิ่มทุนจาก 100,000 บาทต่อครั้งเป็น 50,000 บาทต่อครั้ง พร้อมปรับค่าธรรมเนียมการโอนเงินจาก 1,000 บาทต่อครั้งเป็น 500 บาทต่อครั้ง ให้สอดคล้องกับวงเงินที่ลดลงไปอีกด้วย

“เราเดินหน้าปรับลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำใน Jitta Ranking อย่างต่อเนื่อง จากช่วงเริ่มต้นการลงทุน นักลงทุนต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 3,000,000 บาท เราก็ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1 ล้านบาท และล่าสุด เราลดลงมาเหลือ 5 แสนบาท รองรับความต้องการลงทุนจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในหลักการลงทุนของ Jitta Ranking ที่ให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตหุ้นเน้นคุณค่า ไม่ใช่เพียง Jitta Ranking เท่านั้นก่อนหน้านี้บริษัทได้ปรับลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำสำหรับแผนลงทุน Global ETF และ Thematic มาเหลือ 50,000 บาทแล้ว และแน่นอนว่าเราไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เราจะยังคงเดินหน้าปรับลดวงเงินเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนแบบคุณค่าได้ง่ายขึ้นอีกอย่างแน่นอน”

นายตราวุทธิ์กล่าวอีกว่า การปรับลดวงเงินลงทุนขั้นต่ำลง ไม่ได้ส่งผลกระทบกับ โอกาสในการสร้างผลตอบแทน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง จากการจำลอง Back Test ที่ได้ปรับลดวงเงินเริ่มต้นมาอยู่ที่ 500,000 บาทแล้วนั้นจะพบว่าผลตอบแทนที่ ได้แทบไม่แตกต่างกัน และส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเช่น Jitta Ranking เวียดนามที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 31.92% หุ้นไทย 17.50% หุ้นสหรัฐฯ อยู่ที่ 16.15% หุ้นสุขภาพสหรัฐฯ อยู่ที่ 23.86%

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth นโยบายการลงทุน Jitta Ranking ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด สามารถดูข้อมูลได้ที่ https://jitta.co/3RDYxxY หรือปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนได้ที่ LINE @JittaWealth

'ไอยู' กำลังรักษา 'โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ'

‘ไอยู’ กำลังรักษา ‘โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ’ อาการเสียงดังในหู 

Alternative Textaccount_circle
'ไอยู' กำลังรักษา 'โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ'
'ไอยู' กำลังรักษา 'โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ'

นักร้องสาวร่างเล็ก ไอยู (IU) ที่แฟนๆ  ต่างก็ยกให้เธอเปรียบเสมือนนางฟ้า เผยว่าเธอกำลังเข้ารับการรักษาสำหรับความผิดปกติทางการได้ยิน ซึ่งเธอยังบอกอีกว่า โชคดีที่เธอสามารถจบคอนเสิร์ตได้สำเร็จ หลังเธอรู้สึกถึงความผิดปกติจากการได้ยินมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้ว

‘ไอยู’ กำลังรักษา ‘โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ‘ อาการเสียงดังในหู

นางฟ้าก็คือนางฟ้าวันยังค่ำ เพราะเธออดทนต่อความผิดปกติในร่างกาย จนทำให้คอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 17-18 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา จบลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคอนเสิร์ตที่ว่านี้คือ “The Golden Hour: Under the Orange Sun” จัด ณ Olympic Main Stadium ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชมจำนวน 40,000 คน โดยนอกจากแฟนๆ ที่รักไอยูแล้ว ยังมีเหล่าคนดังไม่ต่ำกว่า 30 คนไปร่วมคอนเสิร์ตใหญ่ของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเธอถึงกลายเป็นไอดอลในหมู่ไอดอล

หลังจบคอนเสิร์ตใหญ่ ไอยูได้เผยว่า “หูของฉันมีปัญหาเล็กน้อย ดังนั้น ฉันจึงประหม่ามากขณะเตรียมคอนเสิร์ตนี้” พร้อมระบุอีกว่า ช่วงนี้หูไม่ค่อยดี การได้ยินของฉันคล้ายกับที่คุณได้ยินเวลาหาว เมื่อฉันได้ยินตัวเองร้องเพลง มันจะดังเกินไป”

โดย ไอยู เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคท่อยูสเตเชียนผิดปกติ ตามข้อมูลของ Hopkins Medicine โรคนี้ทำให้คนได้ยินเสียงตัวเองดังเกินไป ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย

“มันเป็นความผิดปกติของวาล์วของท่อยูสเตเชียนที่ทำให้ยังคงเปิดอยู่ เมื่อวาล์วยังคงเปิดอยู่ เสียงสามารถเดินทางจากโพรงจมูก-ไซนัสไปยังหู ทำให้คุณได้ยินเสียงของคุณเองหรือการหายใจของคุณดังเกินไป หรือแม้แต่เสียงของเลือดสูบฉีด”

ตามข้อมูลของ Hopkins Medicine ความผิดปกตินี้อาจเกิดจากการโรคทางกล้ามเนื้อเรื้อรังหรือโรคภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้จมูกเรื้อรัง และประวัติโรคกรดไหลย้อน ฯลฯ

และแม้จะรู้สึกไม่สบายตัวและไม่สบายใจ แต่ไอยูก็โชว์สปิริตแสดงคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยมและน่าทึ่งให้กับแฟนๆ ของเธอได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ ก็ขอให้ไอยูได้รับการรักษาและหายเป็นปกติได้ในเร็ววันนะคะ


ข้อมูล : koreaboo.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

1

สวยสะกด! สมคาแร็คเตอร์ ความละเมียดละไม ของ Six Characters มายาพิศวง

Alternative Textaccount_circle
1
1

Six Characters มายาพิศวง ผลงานชิ้นสุดท้ายของ ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับที่เป็นเหมือนครูของนักแสดง รวมถึงผู้สร้างภาพยนตร์หลาย ๆ คน ภาพยนตร์เรื่องนี้ มาจากนักประพันธ์ชาวอิตาเลียน ลุยจิ ปิรันเดลโล ที่ได้เขียนเรื่องนี้เมื่อ 101 ปีที่แล้ว ในชื่อเรื่อง Six Characters in Search of an Author ซึ่งบทประพันธ์ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง แต่รูปแบบการนำเสนอส่วนใหญ่มักคล้ายกับละครเวที ท่านจึงอยากที่ถ่ายทอดบทประพันธ์เรื่องนี้ออกมาใหม่โดยการนำเสนอเป็นศิลปะภาพยนตร์และการละครพร้อม ๆ กัน

โดยเรื่องย่อของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเล่าถึงนักแสดงและผู้กำกับที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอยู่ แต่จู่ ๆ ก็มีตัวละครปริศนา 6 คนโผล่เข้ามาในฉาก และแนะนำตัวเองว่าพวกเขาเป็นตัวละครจริงในภาพยนตร์ แต่ก่อนเรื่องราวในจะจบลงผู้ประพันธ์ที่ได้สร้างเขาขึ้นมากลับเสียชีวิตไปก่อน ทำให้พวกเขาต้องมาหาผู้กำกับที่สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวละครของพวกเขาให้จบได้ ถึงจะเป็นเรื่องที่ดูน่างงงวยสำหรับผู้กำกับแต่สุดท้ายเขาก็ตกลงและยินยอมที่จะถ่ายทอดทอดตัวละครทั้ง  6 ออกมา และเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะค่อย ๆ พบสู่ความพิศวง และความระทึกขวัญต่าง ๆ

อย่างเป็นที่รู้กันดีว่าการสร้างภาพยนตร์ของหม่อมน้อยนั้นมีความละเมียดละไมมากขนาดไหน ตั้งแต่การคัดเลือกบทละคร นักแสดง และทีมงานฝ่ายต่าง ๆ การใส่ใจกับองค์ประกอบฉากในทุกซีนเพราะแต่ละอย่างล้วนมีความสำคัญในการสื่อความหมายของภาพยนตร์ทั้งสิ้น รวมถึงเรื่องคอสตูมของตัวละครที่ท่านต่างใส่ใจไม่ต่างกัน

เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดคอสตูมผ่านบทสัมภาษณ์จากนักแสดงหลัก 2 คน ของภาพยนตร์เรื่องนี้กัน คือ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท อัมรา และ แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ รับบท น้ำฟ้า ดารณี

2

แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท อัมรา

3

แพนเค้ก : แพนต้องบอกตั้งแต่แรกที่ได้เห็นคือภาพที่หม่อนสเก็ตขึ้นมาในกระดาษ หม่อนวาดเองเลยว่า อยากให้อัมราแต่งตัวแบบนี้ ใส่รองเท้าแบบนี้ ผมต้องเป็นทรงนี้นะในยุคนั้น หม่อมเห็นภาพในตรงนั้นหมดเลย แล้วพี่โจ้ Surface ก็สามารถเนรมิตออกมาได้แบบดั่งภาพที่หม่อมสเก็ตขึ้นมา

5
ภาพสเก็ตคอสตูมของอัมรา โดย ม.ล.ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล

แพนเค้ก : อัมราเขาเป็นคนแต่งตัวสวย มั่นใจ ไม่แคร์ใคร ชุดทั้งบนทั้งล่างก็จะวับๆแวมๆตลอดเวลา เราต้องใส่ชุดจนเราคุ้นเคยและคุ้นชิน จนเป็นตัวอัมราจริง ๆ ไม่รู้สึกเคอะเขิน เช่น ถุงน่องจะใส่ยังไง เราต้องใส่เองทุกวันเพื่อให้เราเคยชินกับการใส่และถอด เหมือนเป็นชีวิตของเรา ในชีวิตไม่เคยใส่ถุงน่องแบบนี้ แล้วก็ตอนมีฉากที่ต้องถอดถุงน่องเหวี่ยงออกไป ก็ต้องทำให้ได้แบบที่ไม่ทุลักทุเล คือมันเหมือนกับทำให้เคยชินจนเป็นชีวิตของตัวละคร

6

แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ รับบท น้ำฟ้า ดารณี

แต้ว : ตั้งแต่ตอนที่แต้วอ่านบท แต้วก็จินตนาการภาพไว้ประมาณหนึ่ง แต่พอถึงวันที่ฟิตติ้งแล้วก็มาลองจริง ๆ จนกลายเป็นชุดนี้ เรารู้สึกว่า Classy ไม่ต่างจากบทประพันธ์เลย ดู Timeless มองยังไงก็ดูเป็นน้ำฟ้า อีกทั้งคอสตูมก็ยังเล่าได้ถึงตัวละครที่เหมือนถูกตีตราว่า ต้องเป็นคนแบบนี้ เหมือนกับภาพที่คนทั่วไปมองเห็นนักแสดงและดารายอดนิยมในสมัยนั้น ซึ่งก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ

7
ภาพสเก็ตคอสตูมของน้ำฟ้า ดารณี โดย ม.ล.ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล
8

แต้ว : รายละเอียดของเสื้อผ้าของน้ำฟ้าค่อนข้างเยอะ นอกจากเสื้อ ก็จะมีเครื่องประดับ ต่าง ๆ หมวก เวลาเคลื่อนตัวเราต้องดีไซน์ว่าจะหมุนยังไง เพราะวงเลี้ยวที่ใช้คือกว้างมาก ต้องมีการซ้อมกันเยอะนิดนึงเพื่อให้เราจัดการกับมูฟเมนท์ได้อย่างสมูท

Instagram : @khemanito และ @taewaew_natapohn


ROYAL-IVY-REGATTA-5-Cover

ROYAL IVY REGATTA ส่งคอลเลกชันพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี โดดเด่นด้วยดีไซน์ทอโลโก้สีทอง อวดเสน่ห์และความสง่างามสไตล์ American Elegance

ROYAL-IVY-REGATTA-5-Cover
ROYAL-IVY-REGATTA-5-Cover

ROYAL IVY REGATTA (รอยัล ไอวี รีกัตตา) แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ American Eleganceเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ ส่งไอคอนนิกดีไซน์ด้วยการทอโลโก้สีทอง (Embroidery Logo) ลงบนเสื้อผ้าหลากหลายไอเทม ทั้งชุดสูท บอมเบอร์แจ็กเกต เสื้อโปโล และเสื้อทีเซิ้ต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ครองใจสายแฟชั่นที่ชื่นชอบในความเรียบโก้ คลาสสิกร่วมสมัย แต่โดดเด่นด้วยเสน่ห์ สะท้อนบุคลิกภาพความเป็นผู้นำและสง่างาม

ROYAL IVY REGATTA ส่งคอลเลกชันพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี โดดเด่นด้วยดีไซน์ทอโลโก้สีทอง อวดเสน่ห์และความสง่างามสไตล์ American Elegance

ROYAL IVY REGATTA เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากความโดดเด่นสไตล์ American Eleganceของผู้คนในเขตนิวอิงแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศูนย์รวมของมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา หรือ Ivy League รวมไปถึงมีกีฬา Regatta หรือการแข่งขันพายเรืออันเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้น เสื้อผ้าของ ROYAL IVY REGATTA จึงสะท้อนรสนิยมและสไตล์ของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกการเป็นผู้นำ เฉลียวฉลาด ประสบความสำเร็จ วางตัวเหมาะสม สุภาพและมีเสน่ห์ โดยเสื้อผ้าและเครื่องประดับทุกคอลเลกชัน เราดีไซน์อย่างลงตัว เลือกใช้เนื้อผ้าและวัสดุระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงการตัดเย็บที่ประณีต เรียบร้อยทุกรายละเอียด ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและสะท้อนรสนิยมอันโดดเด่นของผู้สวมใส่

ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของ ROYAL IVY REGATTA เราพร้อมเปิดตัวคอลเลกชันสุดพิเศษ ด้วยการดีไซน์ไอคอนนิกโลโก้ของแบรนด์ทอเป็นสีทอง (Embroidery Logo) ที่ให้ความรู้สึกโก้ คลาสสิก ลงตัวกับเสื้อผ้าทุกดีไซน์ทั้งของผู้ชายและผู้หญิง รวมไปถึงการนำอักษรตัว Rสัญลักษณ์ของแบรนด์ ที่ออกแบบใหม่เป็นลวดลายโมโนแกรม ผสานความหรูหราให้สาว ๆ ได้แสดงออกตัวตนอย่างมั่นใจ

คอลเลกชันครบรอบ 10 ปีของ ROYAL IVY REGATTA ได้ดีไซน์ลงบนหลากหลายไอเทม เพื่อให้หนุ่มสาวที่มีความมั่นใจเลือกแม็ตช์ได้ในทุก ๆ โอกาส อาทิ ชุดสูท ทั้งชายและหญิง ทรงคลาสสิกที่เน้น cutting ทุกรายละเอียด และเพิ่มดีเทลความโก้ด้วยไอคอนนิกโลโก้ของแบรนด์ทอเป็นสีทอง, บอมเบอร์แจ็กเกต ออกแบบพิเศษสวมใส่ได้ 2 ด้าน (Reversible) ทั้งแบบทอลายโลโก้สีทองและสีเรียบ ปรับลุคให้ดูแคชชวลมากขึ้น แต่ยังคงความสมาร์ทและดูดี, เสื้อโปโล ดีไซน์เรียบ มีให้เลือกทั้งลายปริ้นท์โลโก้ และทอลายโลโก้สีทอง, เสื้อทีเซิ้ต ผ้านุ่ม เบา ใส่สบาย และสำหรับสาว ๆ พลาดไม่ได้! กับ Jumpsuit สีน้ำเงินทอลายโลโก้สีทอง เพิ่มความโดดเด่นด้วย Buckle หัวเข็มขัดรูปตัวRสีทอง พร้อมสายเข็มขัดเข้าชุด เน้นให้รูปร่างดูเพรียว และสง่างามในทุกโอกาส, หรือดูดีในวันสบาย ๆ ไปกับ เสื้อคาร์ดิแกน เนื้อหนา อุ่น นุ่ม ทอลายโลโก้สีทอง รวมไปถึงเสื้อผ้าดีไซน์พิเศษลวดลายอักษรตัว R สัญลักษณ์ของแบรนด์ ที่ออกแบบใหม่เป็นลวดลายโมโนแกรม ทั้งชุดเซต เดรส และชุดสูท ให้ความรู้สึกคลาสสิกร่วมสมัย ตอบโจทย์สาว ๆ ในทุกโอกาส

ร่วมเฉลิมฉลองไปกับแฟชั่นคอลเลกชันพิเศษครบรอบ 10 ปีของ ROYAL IVY REGATTA ได้ที่ร้าน ROYAL IVY REGATTA ทุกสาขา หรือช็อปออนไลน์ คลิก www.royalivyregatta.com

วี BTS

วี BTS ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ “ผมเคยเจ็บปวดมาก่อน”

account_circle
วี BTS
วี BTS

วี BTS หรือ คิมแทฮยอง เปิดใจให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vouge Korea เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงาน ความรัก และกำลังใจที่เขาได้รับจากแฟนคลับ (Army)

วี BTS ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ “ผมเคยเจ็บปวดมาก่อน”

หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ข่าวด้านความสัมพันธ์ของ “คิมแทฮยอง และ เจนนี่ BLACKPINK” กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังมีภาพที่คล้ายกับทั้งคู่ซึ่งถูกแอคเคาท์ทวิตเตอร์รายหนึ่งปล่อยออกมา

แม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ รวมถึง YG Entertainment ได้ออกมาตอบแค่เพียงว่า “ไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเสริมว่า หากมีอะไรจะแจ้งให้ทราบ” ทำให้เรื่องนี้ยังคลุมเคลือต่อไป

ล่าสุด คิมแทฮยอง ได้ถ่ายแบบขึ้นปก นิตยสาร Vouge Korea โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องความรักที่แฟนคลับ “ARMY” มอบให้ รวมไปถึงการทำงานร่วมกันของ BTS และ ผลงานของเขาในอนาคต นอกจากนี้เขายังได้เปิดเผยว่า “เคยถูกหลอกในความสัมพันธ์เพื่อหวังผลประโยชน์มาก่อน”

คิมแทฮยองเล่าว่า “ผมเป็นคนใส่ใจกับทุกๆ ความสัมพันธ์ ผมสนุกกับงาน กับผู้คนที่ร่วมงานด้วย” แต่ในขณะเดียวกัน “ผมก็ค่อนข้างเป็นคนระวังตัว เพราะเคยเจ็บปวดกับจากคนที่เห็นผมเป็นแค่ทรัพย์สินที่มีค่า มากกว่าเพื่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็ยังชอบที่รู้จักกับทุกคน”

ในขณะที่ ตอนนี้ BTS ได้หยุดพักและมุ่งเน้นไปที่โปรเจ็กต์เดี่ยว สมาชิกทุกคนในวงต่างก็สนับสนุนซึ่งกันและกันและมีส่วนร่วมในความสำเร็จของกันและกัน 

วีกล่าวว่า “พวกเราทุกคนมองโลกในแง่ดีจริง ๆ ทุกคนต่างก็กระตือรือร้นที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเราได้พบกันที่ SUGA สถานที่ที่เราทำงานด้วยกัน เพื่อเล่นดนตรี เต้นรำ และ ให้กำลังใจกันแบบไม่หยุด”

ทั้งนี้ คิมแทฮยองได้กล่าวปิดท้ายว่า “ARMY เข้าใจสิ่งที่เราพยายามจะแสดงออก ผมรู้สึกขอบคุณมากสำหรับสิ่งนั้น ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของพวกเขา การสนับสนุนของพวกเขาทำให้หัวใจของผมเบิกบาน”

“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างในสิ่งที่ผมทำ แต่ผมไม่เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป ผมอยากเป็นคนดีของคนที่รักผม. เหล่า Army สมาชิก BTS ครอบครัว และเพื่อนฝูงของผม ที่ทำให้ผมมีความสุข และ สุขภาพดี ในยามที่ผมเจ็บปวด และ ลำบาก” คิมแทฮยอง กล่าวเสริม


ที่มา : www.indiatvnews.com

ภาพ : @thv

cover

สไตลิสต์ไม่ต้อง! BOWKYLION แมทช์เอง ไม่ว่าจะลุคไหนก็ไม่หวั่น

Alternative Textaccount_circle
cover
cover

ถ้าพูดถึงเพลงยอดฮิตในตอนนี้ คงหนีเพลง ‘โต๊ะริม’ ของ นนท์ ธนนท์ ไปไม่ได้ ด้วยเสียงร้องแสนหวานจับใจที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องละลาย และในปัจจุบันมียอดเข้าชม MV ในยูทูปถึง 59 ล้านครั้งไปแล้ว ซึ่งเพลงนี้จะประสบความสำเร็จไปไม่ได้เลย หากขาดเนื้อเพลงสุดกินใจที่ได้ศิลปินหญิงมากความสามารถ อย่าง BOWKYLION มาเป็นคนเขียนด้วยตนเอง จนทำให้เพลง ๆ นี้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต และเป็นกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ภายใต้ความสำเร็จของเพลงโต๊ะริม ที่มี BOWKYLION จากค่าย What The Duck เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ความจริงเธอคนนี้ก็เป็นศิลปินอีกหนึ่งคนที่ขึ้นชื่อในเรื่องผลงานเพลงต่าง ๆ เพราะไม่ว่าเธอจะออกเพลงไหนมา ก็สามารถทำให้เพลงนั้นติดหูคนฟังได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง ลงใจ (Longjai), ทราบแล้วเแปลี่ยน (attention please), บานปลาย (best wishes) และวาดไว้ (recall) ที่เดินไปทางไหนก็ต้องได้ยินคนเปิดฟัง

ซึ่งนอกเหนือความสามารถเกี่ยวกับดนตรีแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ใครหลายคนไม่เคยรู้ คือ ความสามารถในการแต่งตัวของเธอนั่นเอง ที่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ออกมาบอกผ่านทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวทั้ง Twitter และ Instagram ว่า “ซื้อเอง แมทช์เอง ในทุกเพลงและทุกสเตจ สไตลิสต์โบกี้ไลอ้อน คือโบกี้ไลอ้อน” พร้อมลงรูปรวมหลายลุคที่เธอใส่ขึ้นเวที และถ่ายทำใน Music Video ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของตัวเธอเองทำให้ผู้คนแห่แหนมาชื่นชมกันอย่างมากมาย

วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาดูลุคที่โบกี้ไลอ้อน ทั้งบนสเตจ ออกงาน และใน Music Video กัน ว่าจะมีลุคไหนที่ถูกใจเราบ้าง

1

ลุคแรกถือเป็นลุคที่ทำให้เกิดกระแสในโซเชียลเกี่ยวกับโบกี้ไลอ้อน เมื่อมีคนพูดถึงเธอว่าลุคนี้ของโบกี้ไลอ้อนสวยมาก ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นลุคที่โดดเด่นมาก ๆ ทั้งหน้า ผม และชุดของเธอที่สุดจะเซ็กซี่ ด้วยเสื้อลูกไม้สีขาวบาง ๆ แมทช์คู่กับกระโปรงสั้นเอวต่ำสีขาวคาดเข็มขัดคริสตัล และรองเท้าบูทหนังกลับสีน้ำตาลอ่อน เพิ่มความฮ็อตด้วยปลอกแขนลูกไม้ลายเดียวกันกับเสื้อ และมีบราสีโรสโกลด์ที่ช่วยเข้ามาดึงความสนใจ

2

สำหรับในลุคนี้บกเลยว่าเก๋สุด ๆ เมื่อเธอหยิบเสื้อคล้องคอตัวเล็กสีดำมาใส่คู่กับกางเกงยีนส์ขายาวเอวต่ำสีน้ำเงินเข้ม แต่ความพิเศษไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่เป็นเข็มขัดกลิตเตอร์สีเงินเส้นนี้ที่เธอเลือกคาดไว้ตรงเอว ถึงจะแปลกตาแต่ก็ดูชิคขึ้นมาในขณะเดียวกัน

4

ลุคที่สามเพิ่มความน่ารักลงไปหน่อยแต่ก็ยังคงความเซ็กซี่เอาไว้ในฉบับโบกี้ไลอ้อน เมื่อเธอเลือกจับคู่ระหว่างสีน้ำตาลช็อกโกแลตกับสีชมพู กับดีไซน์เสื้อแยกชิ้นที่เผยให้เห็นช่วยเนินอก เพิ่มความน่ารักด้วยกระโปรงเทนนิสสีน้ำตาลและหมวกเบเร่ต์สีชมพู

5

ลุคถัดมามีความวินเทจนิดหน่อยจากเสื้อคอจีนลายดอกไม้วินเทจ จับคู่กับกระโปรงสั้นสีเขียวที่เข้ามาเพิ่มความสีสัน ก่อนคลุมด้วยเสื้อคาร์ดิแกนสีน้ำตาลเพื่อเพิ่มเลเยอร์

6

สำหรับลุคนี้โดดเด่นด้วยสีทองของเอเลเมนท์เล็ก ๆ อย่าง กลิตเตอร์บนเสื้อครอปสายเดี่ยว หรือเข็มขัดโซ่ทองที่คาดอยู่บนกระโปรงสีเบจ ด้วยลุคนี้ที่เลือกสีพื้นไว้ค่อนข้างอ่อน การดึงด้วยสีที่เป็นประกายอย่างสีทองจากส่วนประกอบเล็ก ๆ ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

ส่วนลุคที่จะพูดถึงในสองลุคต่อไปนี้เป็นลุคที่เราจะเห็นได้บ่อย ๆ ในศิลปินคนนี้ คือเธอมักเลือกใส่ท่อนล่างที่มีความเบสิก แต่เน้นสีสันความโดดเด่นไว้ในท่อนบน โดยเลือกเสื้อครอปหรือบราสีสดใส

7
8

และลุคต่อไปเป็นลุคที่เธอเลือกหยิบมาใส่ใน MV เพลง ทราบแล้วเแปลี่ยน (attention please) ซึ่งมาในธีมแอร์โฮสเตส โดยดึงให้สีแดงของแฟชั่นไอเท็มชิ้นต่าง ๆ ของเธอโดดเด่นขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นหมวกเบเร่ต์ ผ้าพันคอ เข็มขัด เข็มกลัด ถุงมือ และรองเท้ารัดข้อส้นเข็ม ที่เธอเลือกใส่คู่กับเดรสแขนกุดทรงเบสิกสีเบจ

9

มาดูในส่วนของลุคออกงานกันบ้างดีกว่า ซึ่งก็สวยสะกดไม่แพ้ตอนอยู่บนสเตจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลุคแรกกับเดรสปักเลื่อมทั้งตัว แต่โดดเด่นด้วยท่อนบนที่ปักเลื่อมสีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดงให้ออกมาเป็นลวดลาย และฟินิชลุคด้วยถุงมือยาวสีดำ

3

และในลุคกับเดรสสีหวานแต่คัตติ้งสุดเซ็กซี่ เธอมาในเดรสสายเดี่ยวโทนสีชมพู เข้ารูปทรงกระสอบ เว้าช่วงเอวและกลางอก ก่อนสวมถุงมือที่ยาวถึงแขนลายเดียวกับเดรสช่วยเพิ่มความเปรี้ยวให้กับลุค

10

ภาพ : Instagram @bowkylion

Ulthera The Origin Clinic Cover

ผิดด้วยหรือ ? ที่อยากยกกระชับหน้าแต่ไม่อยากเจ็บ

Ulthera The Origin Clinic Cover
Ulthera The Origin Clinic Cover

“อยากสวยแต่กลัวเจ็บนึกแล้วก็ปวดใจทุกที” ยิ่งเป็นคนกลัวเข็มด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ แต่จะปล่อยให้กาลเวลาคอยทำร้ายให้ผิวหน้าหย้อนยานไปอย่างนี้ ก็ใช่เรื่องพอไปปรึกษาเพื่อน ๆก็ได้ยินแต่ว่า “ความสวยมันต้องแรกกับความเจ็บปวด” ฮึบใจสู้แต่พอไปถึงหน้าคลีนิคเสริมก็พาใจแป๋วทุกที ต้องม้วนตัวกลับอย่างไว จะมีวิธีไหนหนอที่จะช่วยกำจัดความหย่อนคล้อย เก็บเหนียงให้กรอบหน้าชัดขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ และเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที งานเห็นที่นี้ต้องปรึกษา ”หมอปอม  พญ.ณัทดา สามัคยานุสรณ์  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์โดดเด่นด้านการทำ Ulthera “The Origin Clinic” พอจะมีวิธีไหนช่วยได้บ้าง

ผิดด้วยหรือ ? ที่อยากยกกระชับหน้าแต่ไม่อยากเจ็บ

หมอปอม  พญ.ณัทดา สามัคยานุสรณ์ 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์โดดเด่นด้านการทำ Ulthera “The Origin Clinic” 

หมอปอม  พญ.ณัทดา สามัคยานุสรณ์  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ โดดเด่นด้านการทำ Ulthera “The Origin Clinic” : สำหรับสาว ๆ หลาย ๆ คนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับความหย่อนคล้อย จัดกรอบหน้าให้เข้ารูป แต่กลัวเข็ม และกังวลในเรื่องความเจ็บปวด กลัวว่าจะต้องผ่าตัดยกกระชับใบหน้าในแบบสมัยก่อน หมออยากจะบอกสาว ๆ ทุกคนว่าต่อจากนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะในปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์มีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยการฟื้นฟูกระชับในหน้าได้ทันที แถวไม่ต้องเพิ่งเข็ม หรือ ใช้มีดหมอแต่อย่างใด และยังเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที โดยเจ้าสิ่งนี้มีชื่อว่า โปรแกรม Ulthera

การทำงานของเครื่อง Ulthera เขาจะปล่อยคลื่นพลังงานอัลตราวซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงในระดับความถี่สูง เพื่อรักษาปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยและริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าโดยคลื่นพลังงานอัลตราซาวด์จาก Ulthera มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร เจ้าเครื่อง Ulthera เขาสามารถสร้างความร้อนในประมาณ 60-70 องศา ที่ชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดังนั้น Ulthera จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและคนที่มีริ้วรอย แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำ Ulthera แล้วจะเจ็บไหม หมออยากขออธิบายก่อนเลยว่า ปกติแล้วก่อนทำ Ulthera ที่ The Origin Clinic เราจะทำการทายาชาและรอให้ยาออกฤทธิ์  ดังนั้นสาว ๆ ที่กลัวเข็มหมดความกังวลเรื่องนี้ได้เลยค่ะ หลังจากยาชาออกฤทธิ์ หมอก็จะเริ่มขั้นตอนการทำ Ulthera โดยหมอจะทำการยิงคลื่นเสียงความถี่สูงยิงลงไปที่ผิวหนัง แล้วเจ้าเครื่อง Ulthera จะทำการเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ซึ้งการยิงด้วยพลังความร้อนส่งไปถึงชั้นผิวนั้นอาจทำให้จะรู้สึกร้อนบริเวณจุดที่ยิง แต่จะเป็นความร้อนที่อยู่ในระดับทนได้ ไม่ร้อนจนเกินไป จะรู้สึกอุ่น ๆ หรือถ้าหากว่ารู้สึกร้อนเกินไปก็สามารถบอกแพทย์ได้ระหว่างการทำ

หลังจากทำ Ulthera เราจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ผลลัพธ์ที่เห็นนั้น จะแค่เพียง 20-30% เท่านั้น หลังจากนั้น ร่างกายจะค่อย ๆ กระตุ้นการการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินขึ้นมาเรื่อย ๆ และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดภายใน 1 เดือน และผลลัพธ์จากการทำ Ulthera ใบหน้าของเราจะยกกระชับอยู่แบบนี้นานถึง 2 ปี ด้วยกัน ดังนั้นสาว ๆ คนไหนที่อยากยกกระชับใบหน้า แต่กลัวเข็มและไม่อยากเจ็บ โปรแกรม Ulthera ถือเป็นทางเลือกที่ดีสุด แถมทำเพียง 1 ครั้งใบหน้ายกกระชับได้ถึง 2 ปี นับว่าเป็นการลงทุนยกกระชับความสวยที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ

สามารถปรึกษาเรื่องผิวหน้าฟรี

The Origin Clinic

The Walk Kaset Nawamin 1 Floor

Open : 11.00 – 20.00

Call Center : 02-578-4444 , 087-848-4444

Line : @theoriginclinic

>>> https://theoriginclinic.com

keyboard_arrow_up