แมท-ภีรนีย์

สยบข่าว “กึ้ง-สงกรานต์” ตามจีบ “แมท ภีรนีย์” ขอโสดชิลๆ! ชีวิตยังไม่ได้มองหาใคร

Alternative Textaccount_circle
แมท-ภีรนีย์
แมท-ภีรนีย์

ซูมความรักของนางเอกสาวโสด แมท ภีรนีย์ กับข่าวลือกระหึ่มเมือง 2 หนุ่ม คาสโนวา “สงกรานต์ เตชะณรงค์” และ “กึ้ง- เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ตามจีบ

เมื่อไม่นานมานี้นางเอกสาว แมท ภีรนีย์ คงไทย ได้ออกมาประกาศว่าได้ยุติการคบหาดูใจกับหนุ่มตระกูลดัง “แพท-ทวิรัส อมาตยกุล” แม้จะจากกันอย่าเจ็บช้ำแต่คู่ก็จบกันด้วยดี โดยไม่นานหลังจากนั้นนางเอกสาวก็ได้ทำเซอร์ไพร้ส์อนุญาตให้เพื่อนนำภาพและข้อมูลไปลงในเพจหาคู่ชื่อดัง แม่สื่อแม่ชัก จนกลายเป็นที่ฮือฮา ทว่าล่าสุด “แมท” ได้เปิดใจว่า คุณแม่ของเธอไม่สนุกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเสียแล้ว เพราะแม้จะไม่ได้ลงข้อมูลติดต่อกลับ แต่บุคคลเหล่านั้นกลับโทรไปที่เบอร์ของคุณแม่ซึ่งเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวของเธอ จนทำให้ถูกดุเลยทีเดียว

แมท-ภีรนีย์

นางเอกสาวคนสวย แมท-ภีรนีย์ คงไทย

“คือเป็นความ เกรียนของแมทเองแหละ (หัวเราะ) แมทก็เกรียนในนั้นเองแหละว่าอยากลง เป็นคนพูดเองว่าอยากลงจังเลย เพื่อนเราก็เอาไปบอกกับแอดมินเพจ แต่ที่นี่มีกฎว่าเจ้าตัวต้องยินยอม เราก็แบบเอาเลยขำๆ แต่ว่าเราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าวที่จริงจังขนาดนี้ อันที่จริงแล้ว แมทไม่ได้ให้ช่องทางติดต่อไป แค่ลงไอจีไว้พอเป็นสังเขปเฉยๆ แต่ว่าเขาโทรศัพท์มาเบอร์แม่ ซึ่งเป็นเบอร์รับงานในไอจีว่าขอสมัคร รับเป็นแฟนไหม ก็ปฏิเสธไป แล้วก็โดนแม่ว่าตามระเบียบว่า เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง คือเราก็ไม่ได้ลงอะไรจริงจัง คือลงมั่วซั่วมาก เรื่อยเปื่อยมาก คือเพื่อนเป็นคนเขียนให้”

แมท-ภีรนีย์

แมท-ภีรนีย์

ภาพจาก MODEVENT

แม้จะเพิ่งโสดมาหมาดๆ แต่ก็มีข่าวลือว่ามีคนมีแจกขนมจีบแมทไม่ขาดสาย ซึ่งก็มีข่าวลือว่าหนึ่งในนั้นคือ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” โดยผู้ที่เป็นแม่สื่อในครั้งนี้คือ “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” นางเอกร่วมช่อง

“ไม่มีค่ะ ไม่ใช่ค่ะ ถามว่ามีโอกาสเจอกันไหมก็ไม่มีแต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ยืนยันว่าไม่เคยคุยกับมิ้นต์เรื่องนี้ไม่มีใครถามเรื่องส่วนตัว เพราะทุกคนเห็นจากข่าวอยู่แล้ว เจอกันไปทานข้าวก็คุยกันสนุกสนาน ไปเล่นกิจกรรมสนุกสนาน ไม่ได้มีอะไร นอกจากเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว”

แมท-ภีรนีย์

สงกรานต์ เตชะณรงค์ พี่ชายของ ภูผา แฟนหนุ่มของ มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

ขณะที่เมื่อถามถึงภาพทานข้าวกับกลุ่ม “กึ้ง- เฉลิมชัย มหากิจศิริ” เธอได้อธิบายว่า “ภาพคือไปทานข้าวกัน ซึ่งมันนานแล้วนะคะ แต่เข้าใจว่ามีคำถามนี้เกิดขึ้นเพราะแมทโสด มันเป็นประเด็นได้ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจค่ะ”

แมท-ภีรนีย์

นักธุรกิจหนุ่ม กึ้ง- เฉลิมชัย มหากิจศิริ

อย่างไรก็ตามนางเอกสาวคนดังได้เผยเกี่ยวกับการวางแผนความรักในอนาคตของเธอว่า “ตอนนี้โสดค่ะ ไม่ได้ปิดใจแต่อย่างที่บอกไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะต้องปิดหรือไม่ได้ปิด หรือจะต้องมองหาใครค่ะ”


 

COVER STORY : PRAEW ISSUE 934

เนื่องในมหามงคล วันเฉลิมชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร คณะทีมงานนิตยสารแพรว ขอพระราชทานถวายพรชัยมงคล  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ และเป็นมิ่งขวัญให้กับประชาชนชาวไทยตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

 

ปัญหาใหญ่เวลาที่สาวๆ ต้องเดินทางคือ ต้องแบกข้าวของเครื่องใช้ จำพวกสกินแคร์ และเมคอัพไปเป็นกุรุส ยิ่งเดินทางไกลด้วยแล้ว ปวดเฮดเลยใช่ไหมคะสาวๆ จะไปแบบสวยๆ ทั้งที แต่กลับเป็นบ้าหอบฟาง ก็คงจะไม่เวิรค์เนาะ Beauty Pedia ฉบับนี้ มีเทคนิค มืออาชีพในการจัดกระเป๋าแบบไม่เวิ่นเว้อ และรู้ว่าอะไรที่จำเป็น หรือไม่จำเป็นต้องพกไป รู้เอาไว้ ทริปหน้ารับรองว่าสวยสมู้ท ไม่มีทุลักทุเล

อายุมากขึ้น ยิ่งต้องบำรุง ยิ่งบำรุงผิวเร็วมากเท่าไหร่ ผิวยิ่งมีสุขภาพดีมากเท่านั้น Beauty Secret มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกันอีกเช่นเคย จากคุณมิกกิ – ภัทรนันท์ สิทธินววิธ เอ็มดีสาววัย 28 ปีแห่งบริษัทยิ่งเจริญ โกลด์ แอนด์ จิเวลรี่ จำกัด เจเนอเรชั่นที่ 2 ของธุรกิจร้านทองและจิเวลรี่ ดีกรีปริญญาโท ด้าน MBA ที่ University of Leeds ประเทศอังกฤษ ต้องยอมรับว่าเธอสวยออร่า จนต้องเหลียวหลังเลยจริงๆ

เหล่าดีไซเนอร์มักได้แรงบันดาลในการดีไซน์เสื้อผ้ามาจากสิ่งของหรือสถานที่ต่างๆ เช่นเดียวกับ คริสเตียน ดิออร์ ที่เขานั้นได้แรงบันดาลใจในการดีไซน์เสื้อผ้าทุกชิ้นจากบ้านของเขาเอง “เพราะทั้งชีวิตและสไตล์ของผมล้วนได้รับอิทธิพลจากบ้านหลังนี้” คำกล่าวถึงบ้านหลังนี้ในอัตชีวประวัติของเขา แฟนๆ ของดิออร์ล้วนรู้ดีว่า มิสเตอร์ดิออร์มีความผูกพันอยู่กับวิลล่าสีชมพูในวัยเด็ก ของเขาที่สุด เพราะที่นี่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นดั่งขุมทรัพย์แห่งแรงบันดาลใจที่ดล บันดาลให้เกิดความมหัศจรรย์ในแต่ละคอลเล็คชั่นของดิออร์อย่างมากมาย

ใครว่าเดินตลาดแล้วจะแต่งตัวจัดจ้านไม่ได้ ขอบอกว่าไม่ได้เว่อร์ แต่ชีวิตประจำวันของสาวสวยเจ้าของ ฉายา “Coco Chanel เมืองไทย” นัท – จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์ ใส่ชุดรันเวย์ไฮแบรนด์ไปเดินตลาดนัด เพื่อตามล่าหาสตรีทฟู้ดเจ้าอร่อย ไปเดินตลาด เยาวราช ซื้อกระเพาะปลา กานาฉ่าย สาหร่ายเส้นผม ฯลฯ ไปทำอาหาร เพราะนี่คือวิถีและไลฟ์สไตล์เจ้าของฉายา “โคโค่ ชาเนล เมืองไทย” จริงๆ เอ้ารู้แบบนี้ อย่าได้กลัวที่จะแต่งตัวให้สุดตามสไตล์ของเราเอง

มีแฟนเด็กแล้วงัย หัวใจกระชุ่ม กระชวยดีออก จากกระแสจากภาพยนตร์เรื่อง Something in the rain ทำเอาสาวรุ่นพี่่ ตกหลุมรักหนุ่มรุ่นน้องได้กรีดร้องกันบ้างหล่ะ โดยเฉพาะ สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากลองคบเด็กขึ้นมากันเป็นแถวส่วนในชีวิตจริงจะเวิร์คหรือไม่ ก็คงแล้วแต่คู่ แต่จากที่ แพรว ไปกระแซะสำรวจและสอบถามมาให้จากบรรดาคู่รักต่างรุ่น ทั้งไทยและเทศ ผลออกมาล้วนอยู่ในฝั่งที่ยืนยันว่า หนุ่มรุ่นน้องนี่แหละ…ดีย์ก็แหม…ความรักก็คือความรัก อายุหาใช่อุปสรรคไม่

มะเร็งโรคร้ายที่หลาคนกลัวและขยาด แต่สำหรับท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นั้นท่านเพียงแค่ยอมรับ แต่ไม่จำนน ตามอ่านเรื่องราวของท่านต่อได้ที่ ครั้งหนึ่ง กับเรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

ห้ามพลาดกับแฟชั่นสวยๆ ที่พร้อมให้คุณอัพเดต รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่อัดแน่นเต็มไปด้วยสาระอีกเช่นเคย ในนิตยสารแพรวฉบับ 934 ปักษ์ 10 กรกฎาคม 2561 ได้แล้วที่แผงหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือ สั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ https://www.naiin.com/

เมีย2018

โอ้ยยย! อยากมอบมง น้องนุดา เมีย2018 นักแสดงเด็กจิ๋วแต่แจ๋ว

Alternative Textaccount_circle
เมีย2018
เมีย2018

6 ข้อรู้จักกับ น้องนุดา นักแสดงรุ่นจิ๋วที่ฝีมือการแสดงแจ๋ว จากละคร เมีย2018  ไม่ว่าจะ น่ารักเกรี้ยวกราด หรือ ดราม่าน้ำตาท่วมจอ ก็เอาอยู่ทุกบทบาท

เมีย2018
น้องอินเตอร์-ด.ญ.รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ

กระแสแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆสำหรับละครเรื่อง เมีย2018 ซึ่งจากความฮิตนี้ส่งผลให้เหล่านักแสดงมีชื่อเสียงมากตามไปด้วย โดยเฉพาะเหล่านักแสดงเลือดใหม่แจ้งเกิดเป็นแถว ยกตัวอย่างเช่น “บอสวศิน” หรือ “ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ” แฟนคลับชื่นชอบจนได้รับฉายาสามีแห่งชาติคนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุดเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา มีอีกหนึ่งนักแสดงที่แจ้งเกิด และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ถึงการแสดงที่น่าสงสารบีบหัวใจคนดูเหลือเกิน จนอยากมอบมงกุฎให้นั่นก็คือ “น้องอินเตอร์-ด.ญ.รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ” ซึ่งรับบทเป็น “น้องนุดา” ลูกสาวสุดที่รักของ “อรุณา” รับบทโดย “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” และ “ธาดา” รับบทโดย “ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์”

เมีย2018

เมีย2018

เมีย2018

อันที่จริงแล้วสาวน้อยคนนี้นอกจากจะน่ารักสมวัยแล้วยังมีความสามารถไม่ธรรมดาอีกด้วย ถ้าเช่นกัน แพรวดอทคอม จึงอยากชวนทุกคนมารู้จักเธอให้มากขึ้นรับรองว่าตกหลุมรักเธออย่างแน่นอน


1. “น้องอินเตอร์” มีชื่อจริงว่า “ด.ญ.รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ” เป็นบุตรสาวของ “คุณแม่ไม้-พนาพรรณ รุ่งลิขิตเจริญ” เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2012 ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ มีความสามารถเฉพาะตัวคือ การแสดง,เดินแบบ,เต้นบัลเล่ต์ และร้องเพลง

เมีย2018


2. ความเก่งของ “น้องอินเตอร์” ไม่ได้อยู่แค่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่เธอยังเคยสร้างชื่อในต่างประเทศเมื่อครั้งประกวดเดินแบบระดับโลก WCOPA โดยสามารถคว้ารางวัล Junior Female Model WCOPA 2017 จากสหรัฐอเมริกา ชนะผู้ประกวดเยาวชนจากทั่วโลกได้

เมีย2018


3. “คุณแม่ไม้” เคยเปิดเผยว่าได้ค้นพบศักยภาพของลูกสาวที่เก่งเกินวัย จากการปลูกฝังให้ลูกเป็นเด็กรักการอ่าน เริ่มจากเวลาที่ไปเดินห้างก็จะชอบชวนเขาเข้าร้านหนังสือ นอกจากนี้ทุกคืนก่อนเข้านอนครอบครัวจะมีการเล่านิทานให้ฟัง ซึ่งคุณแม่ก็ได้ลองให้เธอใส่ความคิดเห็นดู ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร จึงเกิดการซึมซับ ทำให้ “น้องอินเตอร์” กลายเป็นนักเล่านิทานรุ่นจิ๋ว ก่อนจะหลายเป็นนักแสดงอย่างที่เก่งอย่างทุกวันนี้

เมีย2018
คุณแม่ไม้ และ น้องอินเตอร์

4. หลังจากที่ค้นพบความสามารถของลูก “คุณแม่ไม้” ก็ส่งเสริมด้วยการพาไปเรียนการแสดงทำให้ “น้องอินเตอร์” กลายเป็นนักแสดงเด็กที่คิวฮ็อตสุดๆ มีงานแสดงและงานโฆษณาเข้ามาไม่ขาดสาย และผลงานการแสดงที่ผ่านมาของเธอ อาทิ ไฮโซสะออน, เพชรร้อยรัก, ซิทคอมสุภาพบุรุษสุดซอย (บ้านสราญแลนด์) ,เมีย2018

เมีย2018


5. ศักยภาพทางการแสดงของ “น้องอินเตอร์” ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดตอนแสดงซิทคอมเรื่อง สุภาพบุรุษสุดซอย (บ้านสราญแลนด์) ซึ่งเธอรับบทเป็น “น้องเฌอ” โดยในเรื่องนี้เธอต้องร่วมงานกับนักแสดงดังและตลกรุ่นเก๋า แต่ก็สามารถรับมุกส่งมุกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ท่ามกลางความท้าทายที่เธอต้องพูดภาษาอีสานเกือบทั้งเรื่อง และหากใครรู้จัก app Tick Tok จะพบว่า 1 ในเสียงต้นแบบที่นิยมนำมาตัดต่อกันก็คือเสียงของเธอนี่แหละ!

เมีย2018


6. “คุณแม่ไม้” ยังได้เคยเปิดเผยอีกว่า “น้องอินเตอร์” ทำทุกอย่างด้วยความรักและความชอบและสมัครใจที่จะทำ ซึ่งโดยคุณแม่จะเป็นผู้อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมีจุดประสงค์อะไรและทำไปเพื่ออะไร ทั้งนี้ “น้องอินเตอร์” มีความสุขและภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้ชมผลงานของตนเอง

เมีย2018


สำหรับใครที่ชื่นชอบความสามารถและความความน่ารัก ของ “น้องอินเตอร์” สามารถติดตามผลงาน อัพเดทเรื่องราวต่างๆ ได้ผ่านอินสตาแกรม @inter_rungrada นะคะ

 

คนดังรุ่นใหญ่

เรื่องวัยไม่ใช่ปัญหา! เปิดสูตรสวยโกงอายุของ 5 คนดังรุ่นใหญ่

Alternative Textaccount_circle
คนดังรุ่นใหญ่
คนดังรุ่นใหญ่

วันนี้ แพรวดอทคอม มีสูตรสวยแบบเหมารวมทริคดูแลผิวพรรณดี มีหุ่นไม่เผละพัง ฉบับ 5 คนดังรุ่นใหญ่เข้าวัยทองมาฝาก บอกเลยว่าทุกท่านถือเป็นนักแสดงที่มีฝีมือขั้นเทพ ในยุคนั้นถือว่าเป็นตัวแม่ความสวยกันเลยทีเดียว และสมัยนั้นยังไม่รู้จักหรอกคำว่าศัลยกรรม บอกเลยสวยธรรมชาติ แต่เวลาผ่านไปอายุมากขึ้นก็ต้องอาศัยวินัยการดูแลตัวเอง เพราะปัจจุบันนี้บางท่านอายุ 50+ และบางท่านก็ปาเข้าไป 60+ แล้ว แต่อายุผิวหน้ากลับยังดูไม่ถึงอายุจริงเลย งั้นลองมาดูกันดีกว่าว่า 5 คนดังรุ่นใหญ่มีสูตรโกงอายุให้ผิวสวยราวกับสตั๊ฟฟ์ไว้ และไม่อ้วนฉุตามกาลเวลายังไงกันบ้าง

 

จินตหรา สุขพัฒน์

ปีนี้ก็อายุ 53 ปีแล้ว แต่ยังดูไม่แก่ขนาดนั้น ส่วนหนึ่งเพราะเพราะดูแลผิวดี “ตอนเช้าจะทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรเข้มข้นหลังอาบน้ำเป็นประจำเพื่อให้ผิวดูมีน้ำมีนวล และทาผิวตัวด้วยน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็นก่อนนอนทุกคืน ที่สำคัญไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งก็ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

“นอกจากนี้ยังออกกำลังกายตอนเช้าสัปดาห์ละ 3 – 4 วัน และเข้มงวดเรื่องอาหาร เพราะเป็นไทรอยด์ อ้วนง่าย ต้องเลี่ยงแป้ง ของทอด ของหวาน และเข้านอนไม่เกินเที่ยงคืน”


จารุณี สุขสวัสดิ์

56 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง ยิ้มเก่ง แล้วยังมีเคล็ดลับความสวยโกงอายุ “ล้างหน้าให้สะอาดที่สุดเท่าที่ทำได้ บำรุงผิวด้วยสมุนไพรธรรมชาติ เพราะเห็นคุณแม่ขัดผิวด้วยมะขามเปียกแล้วผิวยังเนียนสวยอยู่แม้อายุจะมากแล้ว ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ละมื้อกินผัก 3 ส่วน เนื้อสัตว์ 1 ส่วนใครอยากลดความอ้วนแนะนำให้งดกาแฟ เพราะขัดขวางระบบการเผาผลาญ”


มยุรา เศวตศิลา 

ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าเด็กกว่าอายุราวกับสตั๊ฟฟ์ไว้ อีกคนหนึ่งที่ต้องนึกถึงเลย คือ มยุรา เศวตศิลา แม้ปีนี้อายุจะ 60 ปี แล้ว แต่ใบหน้าอันสวยสดดูยังไงก็ไม่น่าถึงได้ ส่วนเคล็ดลับความหน้าเด็กก็คือ “ชอบทำทรีทเมนต์ผลักวิตามินเข้าผิว แต่ยังไม่คิดจะทำโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฯลฯ เพราะกลัวหน้าแข็ง ส่วนเรื่องรูปร่างอาศัยกินผักผลไม้และน้ำผลไม้คั้นแยกกาก ไม่แตะของมันหรือแกงกะทิเลย ออกกำลังโดยตีกอล์ฟสัปดาห์ละ 3 วัน ที่สำคัญคือ พยายามทำจิตใจให้ผ่องใส ปล่อยวาง จะได้นอนหลับสบาย”


อุทุมพร ศิลาพันธ์

คนนี้ก็สวยไม่เปลี่ยน จนแทบไม่รู้เลยว่าปีนี้อายุเข้า 60 ปีแล้วจ้า สูตรความสวยก็ง่ายๆ “ล้างหน้าให้สะอาดและบำรุงผิวอย่างเต็มที่ เพราะเราใช้ผิวเปลือง สิ่งสำคัญคือพยายามออกกำลังกายทุกวัน และดูแลอาหารการกิน กินผักผลไม้มากๆ พยายามงดของมันของทอด ถ้าทำอาหารเองได้จะดีมาก และต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ จะช่วยให้ผิวพรรณสดใสขึ้นค่ะ”


ดวงตา ตุงคะมณี

ใครว่าคนอายุหกสิบกว่าๆ ต้องงอม ดูนี่…ดวงตา ตุงคะมณี 64 ปีแล้วจ้า แต่ยังสดใส แข็งแรงอยู่เลย เคล็ดลับความสวยมีอยู่ว่า “ชั่งน้ำหนักทั้งเช้าและเย็นทุกวันเพื่อเช็กรูปร่าง เมื่อไหร่น้ำหนักขึ้นก็จะไดเอตด้วยการกินแต่ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล สาลี่ ไม่แตะแป้งเลย ถ้าหิวก็จะดื่มน้ำเยอะๆ

“เมื่อก่อนชอบตีเทนนิส แต่พอเข้าวัยทอง คุณหมอบอกว่ามันไม่ดีต่อเข่า เลยเปลี่ยนเป็นฝึกโยคะแทน แต่เป็นคนแอคทีฟอยู่แล้ว เคลื่อนไหวเร็ว เลยเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว”

 


เรื่อง : นิตยสาร Lemonade ในเครืออมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง ฉบับที่ 97 (ก.ย. 58)
เรียบเรียงเพิ่มเติม : PP_แพรวดอทคอม

ภาพ : jum_utoomporn, We love MAM Jintara, tooktung, tuckmayura, #plejarunee

‘งานเข้า!! มีคนมีเจ้าของมาชอบ ซึ่งท่านก็ชอบเขา’ ดูดวงรายวัน 25 กรกฏาคม 2561

ดูดวงรายวัน 25 กรกฏาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : หากท่านต้องไปเจรจาประนีประนอม หรือทำข้อตกลงในงานที่เกี่ยวกับศิลปะศิลปิน ความสวยความงาม ความบันเทิงเริงรมย์ ก็อย่าวางใจเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิด เพราะตอนนี้หลังของท่านกำลังพรุน และขาเก้าอี้ก็กำลังจะหัก

การเงิน :  ท่านจะได้โชคลาภเงินทองจากความสิเน่หา แต่อาจถูกขโมย ถูกโกง หรือมีการขัดแย้งผลประโยชน์

ความรัก : ผู้หญิงมีภาวะผู้นำสูง ส่งเสริมหน้าที่การงานของสามี แถมดูแลเศรษฐกิจในครอบครัวเสร็จสรรพ แต่ท่านอาจเก่งเกินไป ผู้ชายเลยต้องไปหาความหวานจากที่อื่น อย่าได้แคร์ค่ะ มีดีอยู่กับตัวกลัวอะไร คนโสด วันนี้จะมีคนมีเจ้าของแล้วเข้ามาติดพัน ปัญหาอยู่ที่ว่าท่านก็ชอบเขาด้วย

 สุขภาพ :  ระวังจะถูกของมีคมบาดจนเกิดบาดแผลตามตัว

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน :  วันนี้ต้องรับผิดชอบงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งท่านไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานและคนรอบข้างจนฝังใจรอวันเอาคืน จนเกิดการใส่ร้ายป้ายสีส่งผลต่อหน้าที่การงาน ควรให้ความสำคัญกับการเลือกบริวาร เพราะจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนหน้าที่การงาน

การเงิน  : ให้ความสำคัญกับเนื้องานมากกว่าค่าตอบแทน หน้าที่บริหารงานจึงต้องเป็นของแฟนจึงจะเวิร์ค

ความรัก :  วันนี้ก็ยังไม่เลิกลังเลสงสัยนะคะ แต่เพิ่มขึ้นมาอีกประเด็นว่า คนที่อยู่กับท่านทุกวันนี้จริงๆ แล้วชอบเพศอะไรกันแน่ คนโสด สั้นๆ แต่ชัด งานมาก่อนค่ะ

สุขภาพ :  มีปัญหาเรื่องระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี และต่อมน้ำเหลือง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  ยังพักไม่ได้ค่ะ เพราะวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทั้งภายนอกและภายใน ต้องเดินทางไปติดต่อประสานงานตลอดเวลา ซึ่งท่านมีแนวโน้มว่าจะได้โยกย้ายที่ทำงานใหม่ ติดขัดอะไร ขอให้เชื่อเซ้นส์ตัวเอง วันนี้แม่นพอๆ กับหมอดูเลยทีเดียว

การเงิน :  หาเงินง่ายใช้เงินคล่อง ไม่เหมาะกับการร่วมหุ้นทำธุรกิจ ควรทำคนเดียว อาจมีลาภลอย

ความรัก :  ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงจึงทำให้ท่านคาดหวังสูง ว่าคนอื่นจะต้องตามใจท่าน แต่เมื่อทำไม่ได้จึงเกิดภาวะบ่น และจู้จี้จุกจิกเพื่อให้ทำในสิ่งที่ท่านต้องการ  คนโสด ท่านทุ่มเทกับความรักมากมายจนน่ากลัว จึงคาดหวังว่าแฟนจะทุ่มเทเหมือนตัวเอง แต่ตรงกันข้ามนิ่ง ติดปลีกวิเวกเสียด้วยซ้ำ จึงทำให้ท่านอดไม่ได้ที่จะจู้จี้จุกจิกและจัดการ

สุขภาพ :  หากเดินทางไปในสถานที่แปลกถิ่น ให้ระวังการกินอยู่หลับนอนอาจติดเชื้อได้

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : วันนี้ท่านคาดหวังว่า การติดต่อประสานงานการเจรจาประนีประนอมจะจบแบบสวยงาม แต่กลายเป็นแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์อย่างรุนแรง ด้วยวิธีการต่างๆ นานา เพื่อกอบโกยตักตวง ลาภยศชื่อเสียงในที่ทำงาน ระวังจะเกิดการทะเลาะวิวาทและก่อศัตรูโดยไม่รู้ตัว

การเงิน :  หมดเงินไปกับความรักจนแทบหมดตัว

ความรัก :  ท่านลุ่มหลงอยู่กับความรักจนไม่เป็นอันทำงานทำการเลยทีเดียว อาจเพราะมีความตื่นเต้นท้าทายอะไรบางอย่าง แต่แค่วันนี้วันเดียว เพราะพรุ่งนี้ก็กลับไปสู่จุดเดิม คนโสด  คนที่ไปแย่งชิงมา สุดท้ายก็ต้องจบแบบไม่สวยด้วย

สุขภาพ :  ระวังตัวเบอร์ใหญ่เลยนะคะ โดยเฉพาะเรื่องความรัก และการทะเลาะวิวาท

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หลังจากผ่านวิกฤติมานาน ท่านอาจพักงานเรื่องที่ดิน เรือกสวนไร่นา งานทางการเกษตรไว้ก่อน แล้วมาลุยกับงานทางด้านศิลปะศิลปิน บันเทิงเริงรมย์ ความสวยงามต่างๆ แต่ระวังความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมาก อาจทำให้ท่านตัดสินใจประกอบอาชีพผิดพลาด

การเงิน :  จะมีโชคจากการลงทุนกับที่ดิน เรือกสวน ไร่นา แต่ควรทำคนเดียว อย่าร่วมหุ้นกับใคร

ความรัก : หลังจากรับผิดชอบดูแลครอบครัวทุกอย่าง รวมถึงวิ่งเต้นหน้าที่การงานให้สามี ซึ่งมาพร้อมๆ กับทิฐิมานะและไม่ลงรอยกันมานาน วันนี้ท่านจึงอยากพัก หรืออยากปลีกวิเวกบ้าง คนโสด สวยรวยเสน่ห์ เชื่อมั่นในตัวเองสูง จึงต้องเลือกเยอะหน่อย

สุขภาพ : หากท่านเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ระวังเรื่องการกินอยู่หลับนอน สัมผัสข้าวของคนอื่น เพราะอากาศชื้นแฉะ ติดเชื้อได้ง่าย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ยังอยู่ในช่วงของการเอาชนะอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ที่ท่านรับผิดชอบอยู่ วันนี้ก็ยังเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องแสดงออกด้วยการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก พวกงานเขียน งานแปล แต่งบทละคร จนไปถึงการติดต่อเจรจาประนีประนอม

การเงิน :  ท่านทำงานหนัก หาเงินเก่ง แต่วันนี้จะหมดไปกับเรื่องของความรัก การแต่งตัว ความสวยงาม

ความรัก : วันนี้ความรักความสัมพันธ์จะเน้นที่หญิงกับหญิง เช่น แม่กับลูกสาว พี่สาวน้องสาว เพื่อนสาว เหมือนท่านผูกติดกันมาก ต้องอยู่ดูแลกันจนไม่เป็นอันทำงานทำการเลย แต่แค่วันนี้นะคะ พรุ่งนี้ก็กลับไปสู่จุดเดิม คนโสด วันนี้ไม่ต้องทำงานกันละ เพราะเวลาส่วนใหญ่อาจยุ่งอยู่กับการสับหลีกคิว

สุขภาพ :  ระวังวันนี้อย่าอยู่ใกล้ของมีคมหรือไฟนะคะ จะบาดเจ็บได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านจะอยู่ท่ามกลางการแก่งขันชิงดีชิงเด่น ขัดผลประโยชน์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่การงาน ขอให้ท่านตั้งใจทำงานสู้กับอุปสรรคที่เข้ามา แม้ต้องใช้เวลานาน แต่สุดท้ายแล้วก็จะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  ได้เหงื่อจึงจะได้มา เพราะฉะนั้นหากได้มาโดยไม่เสียเหงื่อ ผิดคอนเซ็ปท์ไม่ควรรับ

ความรัก : ระวังจะมีผู้หวังดีประสงค์ร้ายมาเมาท์ให้ท่านฟังว่า คู่ท่านมีกิ๊ก หรือติดหนึ่งในกลุ่มที่ไปติดพันสาวในที่ทำงาน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะท่านย่อมรู้ดีกว่าคนอื่น   คนโสด เปิดศึกหน้านาง เพื่อแย่งคนที่เคยเป็นของท่านกลับคืนมา

สุขภาพ : วันนี้ท่านควรทานอาหารร้อน ช้อนกลาง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาหารเป็นพิษ ลำไส้อักเสบได้

 

4 ฟิตเนสยูทูปเบอร์กับ 4 สไตล์สายเฮลธ์ตี้ ที่อยากชวนเจ้าสาวเวลาน้อยมา ฟิตหุ่น กัน!

account_circle

การออกกำลังกายจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป กับฟิตเนสยูทูปเบอร์ที่จะทำให้ เจ้าสาวเวลาน้อย ฟิตหุ่น ให้ฟิตแอนด์เฟิร์มได้

ทุกวันนี้ การออกกำลังกายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในฟิตเนส ยิม หรือสวนสาธารณะเท่านั้น แต่คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ ขอเพียงแค่จัดสรรเวลาให้กับสุขภาพได้คลายเครียดจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน แต่การออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงไม่ได้เพียงแค่การเล่นกีฬา คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง การชกมวย เพราะแม้แต่การเล่นเทควันโด หรือศิลปะป้องกันตัว ก็ยังถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เพราะร่างกายได้เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจึงมีการผสมผสานและคิดค้นการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พิลาทีส โยคะ และเต้น เป็นต้น เพื่อให้ผู้หญิงได้มีทางเลือกมากขึ้น คุณเจ้าสาวก็เช่นกัน โดยเฉพาะเจ้าสาวเวลาน้อยที่ไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกาย แพรว wedding เลยอยากให้คุณได้พักจากตารางงานชีวิตประจำวัน และลองเข้า Youtube ที่นอกจากจะฟังเพลงยังใช้เพื่อการ ฟิตหุ่น ได้อีกด้วย เพียงแค่คุณลองเสิร์ชหาคลิปออกกำลังกาย และลองขยับตัวออกกำลังกายตามเท่านั้น

ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่า ฟิตเนสยูทูปเบอร์คนไหน มีการออกกำลังกายแบบไหนและน่าสนใจบ้างแล้วล่ะก็ วันนี้เราได้รวบรวม 4 ฟิตเนสยูทูบเบอร์ 4 สไตล์ ที่ช่วยให้การออกกำลังกายของคุณง่ายขึ้น และคุณจะได้รับพลังจากพวกเธอและเขาได้แน่นอน!

Tara Stiles’s channel

เริ่มต้นเบาๆ กับโยคะเทรนเนอร์ Tara Stiles ผู้เชี่ยวชาญด้านบัลเล่ต์ เต้น และโยคะ ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายกับกายบริหารที่สวยงามทุกทวงท่าจากโยคะและไทเก็ก ช่วยยกระดับจิตใจ ประสาทสัมผัส ตลอดจนพฤติกรรมการแสดงออก และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน จึงเป็นการพัฒนาบุคลิกและศักยภาพ ให้ผู้คนมีชีวิตชีวา สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตและมีความสุขอย่างยั่งยืน ดังนั้น การออกกำลังกายไม่ได้มีเพียงคาร์ดิโอ หรือเวทเทรนนิ่งเท่านั้น การโยคะยังช่วยยืดเส้นและกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะตอนเช้า หลังออกกำลังกาย หรือก่อนนอน เราแนะนำให้คุณลองเล่นโยคะสัปดาห์ละ 1 ครั้งดูสิ แล้วคุณจะถูกใจแน่นอน

Rebecca Louise’s channel

หากใครเคยติดตาม หรือดูคลิปออกกำลังกายจากช่อง XHIT Daily คงจะคุ้นหน้ากับเทรนเนอร์ Rebecca Louise ที่ตอนนี้เธอได้เปิดช่องยูทูปส่วนตัวแล้ว สไตล์การออกกำลังกายของเธอจะเน้นไปทางการสร้างกล้ามเนื้อมากกว่า ซึ่งค่อนข้างใช้สมาธิในการโฟกัสกับท่าออกกำลังกายที่ในแต่ละคลิปนั้นจะค่อนข้างโหดเลยทีเดียว แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะ เพราะการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง หรือการสร้างกล้ามเนื้อนี้ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ เพื่อผลลัพธ์เป็นมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาพลาญไขมันให้กับร่างกายอีกด้วย

The Fitness Marshall’s channel

เจ้าสาวสายแดนซ์ หรือใครที่อยากออกกำลังกายมิติใหม่กับการเต้นที่จะช่วยคาร์ดิโอ แต่เสียงเพลงจะช่วยทำให้คุณสนุกจนลืมว่ากำลังคาร์ดิโอไปเลย ถ้าคุณคิดว่า การเต้นเป็นเรื่องที่ยาก เราอยากให้คุณมาเรียนรู้การเต้นกับฟิตเนสแดนเซอร์ Caleb Marshall เพราะเขาจะช่วยปลุกจิตวิญญาณนักเต้นให้กับคุณ! เราไม่ได้ล้อเล่น จริงๆ นะ ไม่เชื่อลองคลิกเข้าไปดูคลิปของเขาสิ แล้วคุณก็จะได้รับพลังงานบวกเข้าไปเต็มๆ ทำให้คุณมีฟิลลิ่งและสนุกไปกับการเต้นจนลืมว่าจบเพลงไปแล้ว หรือว่าจะเต้นตามคลิปนี้ก่อนการออกกำลังกาย เพื่อวอร์มอัพร่างกายให้พร้อมก่อนการออกกำลังกายต่อไปก็ได้นะ

Blogilates’s channel

มาออกกำลังกายตั้งแต่คาร์ดิโอ ไปจนถึงเวทเทรนนิ่ง และพิลาทิส โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ใดๆ แล้วเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับเพลงป๊อป กับฟิตเนสเทรนเนอร์ Cassey Ho ผู้ก่อตั้งช่อง Blogilates ที่ประยุกต์การออกกำลังกายแบบพิลาทีสเข้ากับจังหวะเสียงเพลง เรียกว่า Pop Pilates นอกจากนี้ยังอัพโหลดคลิปซีรี่ส์ในทุกๆ สัปดาห์ ให้คุณได้ออกกำลังกายตามอย่างเป็นประจำ อีกทั้งเธอยังได้ทำ ตารางออกกำลังกายประจำทุกเดือน เพียงวันละ 40 นาที คุณจะไม่พลาดกับการออกกำลังกายเลย ตามเข้าไปในเว็บไซต์และสมัครติดตามทางอีเมล์ก็ได้นะ ที่สำคัญคือ ไม่เสียค่าสมัครสมาชิกด้วยล่ะ เพราะทุกคนก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพดีกันได้

หากเจ้าสาวสนใจโปรแกรมออกกำลังกาย เราได้รวบรวม คลิปออกกำลังกายเจ้าสาว จาก Youtuber ชื่อดัง ที่กำลังเป็นเจ้าสาวเช่นคุณ! มาให้ลองกัน

ภาพจาก stralayoga/ rebecca-louise/ thefitnessmarshall/ blogilates

เพิ่มความโรแมนติก ตกแต่งงานให้พิเศษไปกับ ไอเดียเทียนงานแต่ง

account_circle

สร้างความตราตรึงให้หัวใจอบอุ่นในวันพิเศษนี้กับ ไอเดียเทียนงานแต่ง

ไอเดียเทียนงานแต่ง ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศงานแต่งให้อบอวลไปด้วยความรักของบ่าว-สาว และเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความโรแมนติก ชวนฝัน และให้เป็นหนึ่งในความทรงจำที่สวยงามของคุณ และความประทับใจแก่แขก การใช้เทียนในการตกแต่งงานวิวาห์ไม่แค่เฉพาะสำหรับงานกลางคืนเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้ในเวลากลางวันเพื่อเพิ่มความน่าสนใจด้วย เพราะแสงสว่างจากเทียน คือสัญลักษณ์ของความอบอุ่นและความหวัง เปรียบเสมือนแสงนำทางให้กับชีวิต ดังนั้น เทียนจึงมีความสำคัญที่ช่วยเติมเต็มงานวิวาห์ของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

วันนี้ แพรว wedding ได้รวบรวม ไอเดียเทียนงานแต่ง ที่ไม่จำเป็นต้องวางตกแต่งบนโต๊ะอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถประดับประดาไว้บริเวณรอบงานแต่งได้อย่างสวยงาม เราแนะนำให้คุณเลือกรูปแบบเทียนและอุปกรณ์ที่ใช้รองตามธีมงานเพื่อเสริมให้งานโดดเด่น หรือจะใช้เป็นเทียนหอมก็จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอม และสร้างบรรยากาศให้งานได้เป็นอย่างดี โดยเลือกกลิ่นที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับแขกที่มาร่วมงาน ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

เทียนประดับเก้าอี้ในพิธี

จะช่วยส่องแสงสว่าง และยังใช้กั้นเป็นทางเดิน เพื่อนำทางให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินเข้าสู่พิธีงานแต่ง แต่ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยคือ ใส่เทียนในภาชนะปิด เพื่อป้องกันเปลวเทียน

ไอเดียเทียนงานแต่ง

เทียนประดับตามทางเดิน

ตั้งเทียนตามจุดต่างๆ เพื่อให้แสงสว่างในจุดมุมอับ และเพื่ออำนวยความสะดวกตามทางเดินให้กับแขก

ไอเดียเทียนงานแต่ง

เทียนบนโต๊ะและระเบียง

วางเทียนบนภาชนะน่ารักเก๋ไก๋ตามจุดต่างๆ หรือบนโต๊ะ เพื่อเน้นให้บริเวณนั้นโดดเด่นขึ้น

ไอเดียเทียนงานแต่ง

เทียมโคมไฟ

สร้างบรรยากาศกับแสงไฟบางเบา เหมือนล่องลอยในฝันกับการประดับเทียนห้อยเหมือนโคมไฟดีไซน์สวยงาม เพิ่มความหรูหราให้งานสวยมีระดับ

ไอเดียเทียนงานแต่ง

หากบ่าว-สาว กำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ หรือยังลังเลกับธีมงานแต่งอยู่ เราอยากแนะนำ 3 สถานที่จัดงานแต่งงานยอดฮิต กับไอเดียการตกแต่งงานให้สวยเริด 

ภาพจาก Pinterest

มิสไทยแลนด์เวิลด์

เวทีเยียวยาใจ! รวบตึงสาวงาม 14 ศิษย์เก่าจาก MUT สู่เวที MTW

Alternative Textaccount_circle
มิสไทยแลนด์เวิลด์
มิสไทยแลนด์เวิลด์

“ป้อม-วินิจ บุญชัยศรี” เผย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ( MTW ) เป็นเวทีที่ปลดปล่อยความทุกข์ของแฟนนางงาม สวยในแบบที่ไม่ต้องสะกดจิตหมู่ ด้านศิษย์เก่า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ( MUT ) ยกทัพประกวดเพียบ

เรียกว่าดราม่าไม่จบเลยสำหรับการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ( MUT ) ถึงแม้การตัดสินจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย แต่ยังคงถูกวิจารณ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นนิยามคำว่าสวยหรือไม่? ของเจ้าของมงกุฎ “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” ซึ่งประเด็นนี้ถูกนำกลับมาเป็นที่พูดถึงอย่างร้อนแรงอีกครั้ง เมคอัพอาร์ติสท์ระดับเทพของเมืองไทย “ป้อม-วินิจ บุญชัยศรี” ออกมาเปิดเผยความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อการประกวดเวที มิสไทยแลนด์เวิลด์ ( MTW ) และอีกเวทีหนึ่งอย่างร้อนแรงว่า “เวทีนี้จะต้องเป็นเวทีที่ปลดปล่อยความทุกข์ของแฟนนางงามทั้งประเทศ มองปุ๊ปต้องสวย ไม่ต้องสะกดจิตว่าสวย มองร้อยคนพันคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกัน” ทำเอาโลกออนไลน์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง

อันที่จริงแล้วถ้าสังเกตให้ดีๆ จะพบว่าปีนี้ เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 น่าจับตามองสุดๆ เพราะมีสาวสวยมากความสามารถตบเท้าเข้าคัดตัวอย่างคับคั่ง แถมแต่ละคนยังมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา แต่ที่เหนือความคาดหมายเพราะ ศิษย์เก่า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ยกทัพมาประกวดเพียบ และแต่ละคนก็ไม่ใช่ผู้สมัครธรรมดา แต่เป็นสาวๆ ที่เคยผ่านการคัดเลือกมากแล้ว วันนี้ แพรวดอทคอม เลยขอนำทั้ง 14 สาวมาให้ได้รู้จักกัน ซึ่งสาวเหล่านี้คือผู้ที่ผ่านรอบสัมภาษณ์ทั้ง 59 คน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ค่ะ


1.นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ 

MTW

“นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์” พี่สาวของ “น้องแนท-อนิพรณ์” เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 เธอลงประกวดในเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 แต่ก็พลาดหวังเมื่อเธอเข้ารอบลึกสุด 10 คนสุดท้าย ถึงจะตกรอบแต่เธอก็ขอสู้ต่อกับเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018


2.นิโคลีน-พิชาภา บุญชู 

MTW

สาวงามนักสู้ “นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์” วัย 19 ปี เธอเป็นลูกครึ่งไทย-สหรัฐอเมริกา กำลังศึกษาปริญญาตรีปี 2 คณะ General Education สาขา General Citrus College โดยก่อนที่จะมาประกวดในเวทีนี้เธอเคยได้ตำแหน่งสาวงามจากเวทีสหรัฐอเมริกา Miss Teen Asia USA ปี 2014 มาครอง ในด้านภาษาเธอเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ความสามารถเยอะขนาดนี้ “นิโคลีน” จึงเป็น 1 ในตัวเต็งของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แต่สุดท้ายเธอผ่านถึงรอบ 10 คนสุดท้าย แต่ถึงแม้จะผิดหวังเธอก็ขอทำตามฝันต่อไป


3.เทวี-ฤาชนก มีแสง 

MTW

เทวี-ฤาชนก มีแสง อีกหนึ่งผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองของเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่ล่าสุดเธอมาลงประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ โดยในประกวดครั้งที่ผ่านมา เธอโดดเด่นสุดๆ ในรอบชุดว่ายน้ำ เพราะนอกจากเดินดีแล้วก็ยังตอบคำถามได้น่าประทับใจมากกับประโยคที่ว่า “เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ แต่เรารักษาใจตัวเองได้”


4.ครีม-อรนารี วรรณประสาท 

MTW

“ครีม-อรนารี วรรณประสาท” อายุ 25 ปี ส่วนสูง 175 เซนติเมตร จบการศึกษา คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน สาขาการโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี


5.แป้ง-คุณัญญา ชมภูหลง

MTW

“แป้ง -คุณัญญา ชมภูหลง” สาวหน้าคมจากจังหวัดมหาสารคาม ที่มาพร้อมส่วนสูง174 เซนติเมตร ในวัย 25 ปี จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ปัจจุบัน เธอเป็นสถาปนิกให้กับบริษัทรับสร้างบ้านแห่งหนึ่ง มีผลงานการออกแบบสร้างคอนโดมามากมายหลายแห่ง


6.พลอย-พีรชาดา ขุนรักษ์ 

MTW

“พลอย-พีรชาดา ขุนรักษ์” อายุ 23 ปี สูง170 เซนติเมตร กำลังศึกษา ปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการประชุมนิทรรศการและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา


7.ปิ่น-ลลิตกาญจน์ พรนิพัทธ์กุล 

MTW

“ปิ่น-ลลิตกาญจน์ พรนิพัทธ์กุล” อายุ 24ปี สูง 167 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรีคณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันเป็นเภสัชกรหญิง


8.พั้นช์-ณัฐธิดา พึ่งนุ่ม 

MTW

“พั้นช์-ณัฐธิดา พึ่งนุ่ม” ส่วนสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 49 กิโลกรัม ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 2 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


9.แพรว-แพรววนิต เรืองทอง

MTW

“แพรว-แพรววนิต เรืองทอง” สาวเมืองชุมพร สูง 172 เซนติเมตร บัณฑิตสาวจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ด้วยความที่เป็นคนใต้หน้าคมเข้มทำให้เธอได้รับเลือกให้ติดโผตัวเต็ง ทว่าเธอก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะในปีที่เธอลงประกวดนั้นต้องเจอกับ”มารีญา พูลเลิศลาภ”นั่นเอง


10.มิ่ง-ธิดารัตน์ อ่อนเส็ง

MTW

หลังจาก 3 ปีที่แล้ว “มิ่ง-ธิดารัตน์ อ่อนเส็ง” พลาดหวังจากการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ล่าสุดเธอกลับมาสู้อีกครั้ง แต่เส้นทางสู่ฝันครั้งนี้คงไม่ง่ายเพราะ”นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์” พี่สาวของ “น้องแนท-อนิพรณ์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ก็มาลงประกวดด้วย ไม่รู้ว่าจะซ้ำรอยอีกหรือไม่? เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้เธอก็แล้วกันค่ะ


11.แพรวา -ภัทรภร สนธิภักดิ์

MTW

“แพรวา -ภัทรภร สนธิภักดิ์” เคยลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 หลังจาก 4 ปี ที่เธอหายหน้าไปเธอกลับมาพร้อมกับความมั่นใจมากขึ้น ฉะนั้น ลองมาดูกันว่าในคราวนี้เธอจะสร้างผลงานอย่างไรบ้าง


12.แมงปอ-พราวรวี กิตติวรประสารน์

MTW

“แมงปอ- พราวรวี กิตติวรประสาธน์” ส่วนสูง 172 เซนติเมตร การศึกษาระดับปริญญาตรี ปี3 คณะนิเทศศาสตร์ สาขา New Media มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เธอเคยลงประกวดในเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 1 ปี ที่เธอห่างหายการประกวดไปเชื่อว่าเธอซุ่มพัฒนาศักยภาพตัวเองมากๆ เลยทีเดียว


13.นาต้า-นาต้าชา คลีเมนเตอร์ วิลสัน

MTW

นาต้า-นาตาชา คลีเมนเตอร์ วิลสัน การศึกษาคณะการจัดการและการท่องเที่ยว สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา สำหรับเธอคนนี้เรียกว่ามีเลือดนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม เพราะเธอผ่านการคัดเลือกและร่วมประกวดในหลายเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 และ  มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 แม้จะยังสานฝันไม่สำเร็จแต่เธอก็ขอสู้ต่อไป


14.แนน-กันยารัตน์ วัจรินทร์

MTW

สาวงามสวยประกวดของแท้  “แนน-กันยารัตน์ วัจรินทร์” เรียกว่าผ่านสมรภูมิขาอ่อนมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2010, มิสซูปร้านครปฐม, มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013 ฯลฯ


เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสาวงามผู้ผ่านการเข้าร่วมคัดเลือก มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 เอาเป็นว่าในวันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม 251) ซึ่งเป็นรอบสัมภาษณ์ สาวคนไหนจะเข้ารอบ 30 คนบ้าง ต้องมาลุ้นกันค่ะ

4 เรื่องสุดเจ๋ง เทรนด์ไหนก็ทันทุกGen! ตอกย้ำแนวความคิด “ที่ 1 ดูแลด้วยใจ ให้ชีวิตดิจิทัล”

โลกเปลี่ยนไปเร็วจนใครหลายคนคิดว่าอาจจะตามไม่ทัน ทุกวันนี้หลายสิ่งหลายอย่างต่างก็ถูกขับเคลื่อนด้วยสังคมดิจิทัล และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว

โดยเฉพาะกับเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน สมัยก่อนเราอาจต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อไปจ่ายบิลต่างๆ  แต่ยุคนี้ทุกอย่างง่ายขึ้นเพียงมีสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็สามารถจัดการบิลจ่ายต่างๆ ได้เพียงไม่กี่คลิก นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ตอกย้ำแนวคิด “ที่ 1 ดูแลด้วยใจ ให้ชีวิตดิจิทัล” ที่เข้าใจ เข้าถึงความต้องการ ใส่ใจและดูแลลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยการผสานTechnology และHuman Touch เข้าด้วยกัน โดยให้ความสำคัญในเรื่องความรวดเร็ว สะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า รวมไปถึงการมอบบริการผ่านตัวบุคคลที่สามารถสื่อถึงความรู้สึกการให้บริการด้วยใจได้ ก็ยังจำเป็นอยู่เสมอ

ทั้งนี้ AIS ได้รังสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าครบทุก Generation ดังนี้

1.บริการ FullE ยกระดับความสะดวกสบายที่ครบทั้ง เช็ค จ่าย รับ บิลและใบเสร็จที่จบใน my AIS เพียงแอปเดียว โดยบริการ Full-E ช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ประหยัดทั้ง เวลา ลดความกังวลใจจากเอกสารสูญหาย หรือไปชำระค่าบริการไม่ทัน และยังช่วยลดการใช้กระดาษ ด้วย 1.eBill สมัครได้ง่ายๆ ผ่าน แอป my AIS โดยสามารถเช็คบิลค่าใช้บริการผ่านมือถือ พร้อมรับ SMS แจ้งเตือน 2.ePay เพิ่มความสะดวกด้วยการรวบรวมหลากหลายช่องทางการจ่ายค่าบริการไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Mobile Banking App, Rabbit LINE Pay รวมไปถึงการสมัครผูกบัญชีเพื่อหักค่าบริการอัตโนมัติกับบัตรเครดิตได้อีกด้วย และ 3.eReceipt สามารถเรียกดูใบเสร็จย้อนหลังได้สูงสุด 3 เดือน (eReceipt ใช้บริการได้ไตรมาส 4 ปีนี้)

2.จับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อร่วมพัฒนา Action on Google บน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะบนมือถือที่ให้ลูกค้าสะดวกสบายเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น โดยสามารถเข้าถึงแอป my AIS และ AIS PLAY ได้ทันที ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องพิมพ์ค้นหา ซึ่ง AIS เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมมือกับ Google ในฐานะ Official Partner เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วทันใจ พร้อมเปิดให้บริการได้ปลายเดือน ก.ค. นี้ดูแลความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างดีที่สุดด้วยระบบแสดงตนแบบพิสูจน์อัตลักษณ์ (Face Recognition) ที่มีประสิทธิภาพและความถูกต้องแม่นยำสูงสุด ปลดล็อกความกังวลใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว สำหรับการจดทะเบียนเพื่อเปิดเบอร์ใหม่ ในทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งที่ AIS Shop, AIS Telewiz และ AIS Buddy กว่า 20,000 แห่ง ทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น AIS เป็นรายแรกในประเทศไทย ที่พัฒนาระบบ Face Recognition บนตู้ Service Kiosk จำนวน 80 ตู้ เพื่อให้บริการจดทะเบียนเลขหมายใหม่ที่ AIS Shop 66 สาขาทั่วประเทศอีกด้วย

3.ยกระดับงานบริการด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

  • จับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อร่วมพัฒนา Action on Google บน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะบนมือถือที่ให้ลูกค้าสะดวกสบายเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น โดยสามารถเข้าถึงแอป my AIS และ AIS PLAY ได้ทันที ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องพิมพ์ค้นหา ซึ่ง AIS เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมมือกับ Google ในฐานะ Official Partner เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วทันใจ พร้อมเปิดให้บริการได้ปลายเดือน ก.ค. นี้

  • พัฒนา Alex Robot นวัตกรรมหุ่นยนต์ให้บริการอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถโต้ตอบและให้ข้อมูลสินค้าและบริการแก่ลูกค้าเป็นภาษาไทยได้ โดย AIS จะนำหุ่นยนต์ Alex ทั้ง 6 ตัว มาสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้ลูกค้าได้สัมผัสเร็วๆ นี้

4.ดูแล เข้าถึงใจกลุ่มสูงวัยไฮเทค อีกหนึ่งบริการที่ AIS ให้ความสำคัญเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าสูงวัยที่มีความสนใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย “Angel Team” จาก AIS Contact Center ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้มีหน้าที่ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งพนักงานในทีม เป็นผู้พร้อมด้วยประสบการณ์การบริการ ผ่านการอบรมหลักสูตร “ฟังด้วยความเข้าใจ และใช้ใจบริการ” มีคุณสมบัติ คือ มีความใจเย็น และสื่อสารด้วยภาษาเข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจตลอดเวลาที่รับบริการ อีกทั้งยังแนะนำวิธีการเป็นขั้นตอนที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ให้บริการเสมือนญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว พร้อมหนังสั้นที่แสดงถึงการให้บริการด้วยใจ รับชมหนังสั้นได้ที่ https://youtu.be/hIt5azwksvg

โดย AIS Contact Center ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพบริการในระดับนานาชาติจาก Asia Pacific Customer Service Consortium (APCSC) ถึง 2 รางวัล ได้แก่

  • Contact Center of the Year
  • CEO of the Year

นอกจาก 4 การบริการสุดเจ๋งนี้แล้ว ยังมี Workshop ที่ AIS Shop ทั่วประเทศตลอดทั้งปีมากกว่า 600 Workshops เพื่อเสริมความรู้ให้ลูกค้าก้าวทันเทคโนโลยียุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งานสมาร์ทโฟน การใช้โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันต่างๆ ตามความสนใจหรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และสามารถเข้าถึงการใช้งานให้ครอบคลุมทุกเจเนอเรชั่น

 

#AIS360 #ที่1ดูแลด้วยใจให้ชีวิตดิจิทัล #AISService #No1ServicewithHeart #AISContactCenter

 

ลดน้ำหนัก

ทำงานทั้งวันก็ฟิตได้! “โค้ชแม้ด” แชร์ทริคลดน้ำหนักให้สาวออฟฟิศบิ้วหุ่นแซ่บ

Alternative Textaccount_circle
ลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนัก

ใครๆ ก็อยากมีรูปร่างที่ดี โดยเฉพาะสาวๆ ยุค 4.0 เพราะการมีรูปร่างที่เป๊ะและปังนั้นย่อมหมายถึงสภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย แถมยังช่วยให้เราเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าได้หลายรูปแบบ เรียกได้ว่าจะใส่ชุดแบบไหนก็สวยหรูดูแพง มีความมั่นใจแบบอันลิมิตตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่อุปสรรคที่ทำให้ภารกิจ ลดน้ำหนัก บิ้วร่างให้ฟิตแอนด์เฟิร์มต้องเหลวไม่เป็นท่าก็คือ ตารางงานอันแน่นเอี้ยด หรือชั่วโมงโอทีที่ทำให้เราต้องสิงอยู่ที่โต๊ะทำงานนานกว่า 8 ชั่วโมงนั่นเอง ซึ่งถ้าเราลองทบทวนกันดีๆ ก็จะพบว่า การออกกำลังกายนั้นไม่จำเป็นว่าต้องไปที่ยิมหรือสวนสาธารณะเสมอไป สาวๆ ทุกคนสามารถเริ่มต้นฟิตหุ่นและหันมาดูแลรูปร่างของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา เริ่มตั้งแต่เลือกรองเท้าให้ถูกคู่แล้วก้าวเดินออกจากบ้านในตอนเช้า ในที่ทำงานระหว่างวัน หรือแม้กระทั่งตลอดทางกลับบ้านในช่วงเย็นด้วยเช่นกัน

ทำงานทั้งวันก็ฟิตได้! “โค้ชแม้ด” แชร์ทริคลดน้ำหนักให้สาวออฟฟิศบิ้วหุ่นแซ่บ

วันนี้ โค้ชแม้ด – พิมพ์อร โมกขะสมิต โค้ชด้านความแข็งแกร่งจาก Adidas Runners Bangkok จะมาแชร์วิธีออกกำลังกายที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลาในชีวิตประจำวันของเรา ที่จะทำให้การมีหุ่นสวยรวยเสน่ห์เป็นความฝันที่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส ใส่รองเท้าแล้วลุยกันเลย เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะไปทำงาน เดินเล่นกับเพื่อน หรือจะเดินเที่ยวกับแฟน สาวๆ มักเลือกหยิบรองเท้าวิ่งมามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าทุกสไตล์ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่มีเวลาจำกัดในการออกกำลังกาย รองเท้าวิ่งถือเป็นออพชั่นที่ดี เพราะสามารถเป็นตัวช่วยซัพพอร์ตเท้าในการพิชิตภารกิจ “ฟิตแอนด์เฟิร์ม” ได้ทุกวัน โดยเฉพาะรองเท้าที่น้ำหนักเบา พื้นรองเท้ากว้างใส่สบาย ซัพพอร์ตที่นุ่ม ใส่เดินเยอะแค่ไหน ยืนรอรถเมล์นานแค่ไหนก็ไม่เมื่อย แถมยังยืดเส้นยืดสายเบาๆ ระหว่างรอรถได้อีกต่างหาก

“บันไดรถไฟฟ้า-ออฟฟิศ” ตัวช่วยฟิตแอนด์เฟิร์ม การทำงานออฟฟิศย่อมหลีกหนีไม่พ้นการเดินขึ้น-ลงบันไดในแต่ละวันสำหรับสาวๆ บางคนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบันไดรถไฟฟ้าหรือว่าบันไดในที่ทำงาน เพียงแต่ว่าโดยส่วนมาก เรามักจะเลือกที่จะทุ่นแรงด้วยการใช้ลิฟท์หรือบันไดเลื่อนแทน แต่แท้จริงแล้วการเดินขึ้นบันไดนั้นทำให้ร่างกายของเราได้ขยับเขยื้อน (ช่วยแก้ง่วงยามบ่ายได้ด้วยนะ) ซึ่งก็เป็นการเคลื่อนไหวในท่าออกกำลังกาย “Step Up” หรือท่าที่สาวๆ มักนิยมทำเป็นประจำนั่นแหละ การออกกำลังกายท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อช่วงต้นขา สะโพก และน่อง ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้หญิงอย่างเราควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น การเดินขึ้นบันไดเป็นประจำยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะว่าการขึ้นบันได 15 นาที จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 150 แคลอรี่เลยทีเดียว

ขยับแขนขา บอกลา “ออฟฟิศซินโดรม” นั่งทำงานนานๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากขยับนิ้วและข้อมือไปตามจังหวะของเม้าส์และคีย์บอร์ด จะนำมาซึ่งโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน นั่นก็คือ “ออฟฟิศซินโดรม” ดังนั้น เราจึงควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถในระหว่างขณะนั่งทำงานบ้าง เช่น การลุกขึ้นเดิน การยืดเส้นยืดสาย หรือการออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในบริเวณโต๊ะทำงานของเรา

– ท่า Calve Raise หรือ ท่าเขย่งน่อง ท่านี้จะช่วยบริหารบริเวณกล้ามเนื้อน่องให้มีความแข็งแรงและกระชับ โดยเริ่มต้นจากการยืนแยกขา ปลายเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า เขย่งขึ้นจนสุด ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จากนั้นลดส้นเท้ากลับลงมาที่ท่าเริ่มต้นแล้วจึงนับเป็น 1 ครั้ง (ควรทำอย่างน้อย 3 เซตๆ ละ 15 ครั้ง)

– ท่า Back Lunge หรือ ท่าก้าวไปด้านหลัง การทำท่านี้จะช่วยบริหารบริเวณต้นขาและสะโพก รวมทั้งช่วยฝึกการทรงตัวด้วยเช่นกัน โดยท่านี้จะเริ่มจากการใช้เก้าอี้ทำงานเป็นอุปกรณ์เสริม แล้วเริ่มต้นด้วยการยืนตรง ให้ปลายเท้าทั้งสองข้างชี้ไปด้านหน้า จากนั้นใช้มือแตะเก้าอี้เพื่อทรงตัว แล้วก้าวเท้าไปด้านหลังในระยะที่เรายังสามารถทรงตัวได้ เสร็จแล้วจึงก้าวเท้ากลับมาที่เดิม โดยจะต้องเกร็งที่หน้าขาด้วย (ควรทำข้างละ 3 เซตๆ ละ 10 ครั้ง)

– ท่า Lateral Kick หรือ ท่ายืนและเตะขาไปด้านข้าง สำหรับท่านี้จะช่วยบริหารและกระชับกล้ามเนื้อช่วงสะโพกด้านข้าง โดยเริ่มต้นจากการยืนหันด้านข้างให้เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้มือของเราแตะเก้าอี้ไว้เพื่อพยุงตัว โดยจะต้องเปิดไหล่ เกร็งหน้าท้อง ลำตัวต้องตั้งตรง โฟกัสสายตาไปที่ด้านหน้า แล้วเตะขาออกด้านข้างให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อช่วงลำตัวอยู่ด้วย (ควรทำข้างละ 3 เซตๆ ละ 15 ครั้ง)

หมั่นคอยดูแลและรักษา “หัวใจ” ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สาวๆ หลายคนมักมองข้าม เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกให้ความสำคัญกับการบริหารกล้ามเนื้อจนละเลยการดูแล “หัวใจ” ของตัวเองไป ฉะนั้นแล้ว ใครที่ฝันอยากจะมีรูปร่างที่เพอร์เฟ็ค ก็อย่าลืมออกกำลังกายด้วยการวิ่งด้วยล่ะ เพราะการวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่เป็นผลดีต่อหัวใจ หลังเลิกงาน รถติดใช่ไหม? เปลี่ยนเสื้อผ้าผูกเชือกรองเท้าวิ่งคู่ใจ อย่าง “เพียวบูสท์ โก” ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่ง City Run โดยเฉพาะ พร้อมออกวิ่งไปตามทาง หรือถ้าลองลัดเลาะตามตรอกซอกซอยใหม่ๆ ก็จะทำให้เส้นทางที่พาเรากลับบ้านนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความท้าทายไม่ซ้ำแต่ละวันเลยล่ะ

เทคนิคการออกกำลังกายทั้งหมดนี้ถือเป็นการบริหารร่างกายแบบง่ายๆ ที่สาวๆ ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมที่เราต้องเจอแบบไหน ก็สามารถนำไปปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของชีวิตประจำวันของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การเริ่มต้นอย่างแน่วแน่ที่จะเลิกใช้ข้ออ้าง “ไม่มีเวลา” บวกกับอุปกรณ์ตัวช่วยดีๆ อย่างเพียวบูสท์ โก คอยซัพพอร์ทและคืนพลังทุกย่างก้าว แถมยังทำให้สาวๆ ทุกคนมั่นใจใน Every Day Look ของตัวเองและยังสามารถพิชิตเป้าหมายการมีหุ่นที่ดีได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ได้อีก

ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 แจกฟรีแสตมป์ที่ระลึก 6,700 ดวง

ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 28 กรกฎาคม 2561

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงความจงรักภักดี อาทิ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 67 รูป, จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล  การจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระราชกรณียกิจ, พระราชประวัติ พร้อมทั้งการจัดแสดงแสตมป์พระฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10  และแจกฟรีแสตมป์ที่ระลึกชุด “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” จำนวน 6,700 ดวง ระหว่างวันที่ 26 – 29 กรกฎาคม 2561 ณ แฟชั่นฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ

ทั้งนี้ภายในนิทรรศการได้นำเสนอพระราชประวัติ ผ่านพระฉายาลักษณ์ ในช่วงต่างๆ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ จนถึงทรงครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ของราชวงศ์จักรี และพระราชกรณียกิจต่างๆ โดยแบ่งเป็น ด้านการแพทย์, ด้านศาสนา, ด้านการศึกษา, ด้านการทหาร, ด้านสังคมสงเคราะห์, ด้านการต่างประเทศ, ด้านการพัฒนาการเกษตร พร้อมชมการแสดงเฉลิมพระเกียรติ บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ และการรำถวายพระพร

อีกทั้งยังมีการจัดแสดงแสตมป์พระฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10 โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.)      พร้อมทั้งจัดจำหน่ายแสตมป์ที่ระลึกชุด “วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร”  ซึ่งจะวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ในวันที่  28 กรกฎาคม 2561  ในราคาชุดละ 100 บาท โดยบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้จัดเตรียมแสตมป์ชุด วันเฉลิมพระชนมพรรษา จำนวน 6,700 ดวง มอบให้กับประชาชนทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ในบริเวณการจัดงาน ผู้ที่สนใจยังสามารถทำความดีแบ่งปันบริจาคสิ่งของใช้จำเป็นเพื่อน้องๆ ผู้พิการ กับมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ (มพก.) องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อการฟื้นฟูพัฒนาเด็กพิการ ห้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ร่วมกับ สำนักงานเขตบางกะปิ จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เชิญชวน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั่วไป และพนักงานบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมทำความสะอาดลำรางเชื่อมคลองบ้านม้า ซอยรามคำแหง 68 เขตบางกะปิ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

พร้อมกันนี้ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น. ยังได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 67 รูป ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ และศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และในเวลา 19.00 น. ได้จัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และขับร้องเพลงสดุดีจอมราชา ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา (ยกเว้นสาขารามคำแหง) ดิ เอ็มควอเทียร์ และบลูพอร์ต หัวหิน

บริษัทฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนแสดงความจงรักภักดี ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา ตั้งแต่วันที 26 – 29 กรกฎาคม 2561 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-310-1635

 

พลอย - เฌอมาลย์

บทนี้ไม่ต้องกำกับ! “พลอย เฌอมาลย์” ขอชัดเจน ถูกผิดเอาที่สบายใจ

Alternative Textaccount_circle
พลอย - เฌอมาลย์
พลอย - เฌอมาลย์

หากบอกว่านี่คือ การสัมภาษณ์นักแสดงหญิงที่มีลักษณะการตอบคำถามคล้ายผู้ชายมากที่สุด ก็คงไม่ผิดจากนั้น ตรง ชัดเจน ไม่ต้องถามซ้ำ ยังใช้ได้เสมอเวลาคุยกับ พลอย – เฌอมาลย์ นักแสดงมากฝีมือ ที่หากอยู่ในโลกของละคร เธอสามารถเล่นเป็นใครก็ได้ แต่ในชีวิตจริง พลอยไม่เคยเล่นตามบทใคร ไม่เคยเปลี่ยนตัวเองในสิ่งที่คนอื่นอยากเห็น เธอเลือกเขียนบทและกำกับชีวิตในแบบที่ต้องการ ส่วนใครจะถูกใจหรือไม่…ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจ

ถ้าคุณอยากอ่านชีวิตของนักแสดงที่ตอบคำถามตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิต ความรัก จนถึงข่าวคราวต่างๆ แบบไม่ต้องเติมน้ำตาล หรือผ่านก้นกรอง จะมีใครชัดเจนกว่านี้อีกล่ะ

ที่ผ่านมาน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราเห็นข่าวพลอยตามสื่อน้อยมาก

“ไม่ดีตรงไหน พลอยว่าดีนะ” (ยิ้ม)

นี่คือสิ่งที่ตามมา หลังจากเมื่อหลายเดือนก่อน พลอยโพสต์ในไอจีว่า หลังจากนี้จะสัมภาษณ์เฉพาะช่อง 3 สื่อบันเทิงบางช่อง และนิตยสารเท่านั้น

“ใช่ จริงๆ เป็นความตั้งใจนานแล้ว ประมาณปีกว่าๆ ที่ไม่ค่อยได้ออกสื่อ แต่แบบนี้ดีนะคะ ชีวิตไม่วุ่นวาย สงบมาก ไม่มีใครมาคอยกล่าวหาว่าพลอยไม่มากองถ่าย เดี๋ยวไปขโมยเงินคนนั้น แย่งผัวคนนี้ ตบดารา ไปทำแท้งในวัด หรือทำโน่นนี่นั่น ไม่ต้องตอบในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้ตัวเอง กับคนที่ติดตามผลงานของพลอย รวมถึงคนที่ติดตามวงการบันเทิงด้วย

พลอยทำงานในวงการนี้มาตั้ง 22 ปีแล้ว พอแล้วกับการเจอเรื่องแบบนั้น ไม่อยากเป็นข่าวไร้สาระ ดราม่า พลอยอยู่ตรงที่ที่ทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่จำเป็นต้องมีกระแสอะไรมากมายนัก แบบนี้แฮ็ปปี้กว่า”

หมายความว่า การเป็นกระแสไม่ได้จำเป็นสำหรับพลอยอีกแล้ว

“ใครให้ค่าพลอย พลอยอยู่ตรงนั้น ถ้าใครไม่ให้ค่า พลอยก็ไม่อยู่ แค่นั้นเอง อย่างการให้สัมภาษณ์สื่อ ถ้าเป็นสิ่งพิมพ์ พลอยจะให้สัมภาษณ์นิตยสารมากกว่าแนวแท็บลอยด์ เพราะดูเป็นเรื่องเป็นราวกว่า ดีกว่ามาพูดไร้สาระ และไม่ต้องโดนจ่อไมโครโฟนถามเหมือนเราเป็นนักโทษ อย่างเมื่อคืนก่อน พลอยดูข่าวของ…(นักแสดงชายคนหนึ่ง) ที่ต้องตอบผู้สื่อข่าวในงานอีเว้นต์ว่า “ไม่ครับ…ไม่จริงครับ ผมไม่ได้คุยแล้วครับ…ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ได้ยุ่งครับ ไม่ได้ซื้ออะไรให้เขาครับ” พลอยสงสารมาก เขาพยายามเบือนหน้าหลบแล้ว แต่ก็ถูกถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมา”

ดูแล้วเห็นภาพตัวเองในอดีตใช่ไหม

“ใช่ พลอยเห็นใจหลายคนที่โดนอะไรแบบนี้อยู่ พลอยจึงตัดสินใจไม่ให้สัมภาษณ์สื่อบันเทิง ไปอีเว้นต์ก็ขอไม่สัมภาษณ์ ไม่เดินไปที่แบ็กดร็อป ซึ่งคนจัดงานรู้ตั้งแต่แรกเพราะเราคุยกันชัดเจน เขาบอกว่าไม่เป็นไร ยังอยากจ้างพลอยอยู่ ขอให้มา คือเขาไม่ได้จ้างเราเพราะอยากได้กระแส แต่จ้างเพราะให้เกียรติจริงๆ อยากให้พลอยไปทำงานด้วย

จริงๆ พลอยยังมีงานอีเว้นต์เยอะเหมือนเดิมนะ แค่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในวงสัมภาษณ์ ตอนนี้นักข่าวทุกคนรู้ว่า ถ้าเป็นทีวี พลอยให้สัมภาษณ์เฉพาะช่อง 3 เท่านั้น ถ้าเป็นหนังสือแท็บลอยด์จะไม่มีคำสัมภาษณ์จากพลอย บางทีมีเรื่องที่เราเป็นข่าว แล้วเขาขอสัมภาษณ์ พลอยก็ไม่ให้ ใครจะพูดอะไรก็พูด ว่าอะไรก็ว่า เราไม่มีความเห็นอะไรทั้งสิ้น อยากคิดอะไรก็คิด เอาที่สบายใจ หลังๆ ก็เหมือนเขาเหนื่อยๆ กันไปเอง

จริงๆ แล้วพลอยไม่ใช่คนเยอะ มีช่วงหนึ่งที่ถามพลอยได้ทุกเรื่อง ตอบได้หมด ให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่พอง่ายก็โดนเหยียบหัว เขาแค่อยากใช้เราในจุดหนึ่งเท่านั้นเอง จึงทำให้พลอยคิดว่า แล้วทำไมต้องไปง่ายกับเขา เราทำดีแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็น เพราะฉะนั้น อย่าเสียเวลาเลย ไม่อยากให้ใครมาทำอย่างนั้นกับเราอีก เพราะฉะนั้นก็อย่าเอาตัวเข้าไปยุ่ง ตัดเลย ขอทำงานและอยู่ในที่ที่เราควรอยู่ดีกว่า”

ถ้าอย่างนั้น ช่วงที่เงียบหายไป ชีวิตพลอยเป็นอย่างไรบ้าง

“สะดุดเยอะเหมือนกันค่ะ มีเรื่องของงานที่ไม่ลงตัว ทำให้หลายคนอาจคิดว่าพลอยหายไปไหน ซึ่งจริงๆ ก็ทำงานแทบทุกวัน ถ้าไม่นับอีเว้นต์ ก็มีถ่ายภาพยนตร์ แต่ฉายปีหน้า เพราะรอเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รวมถึงละครอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งจริงๆ ต้องเปิดกล้องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน แต่นักแสดงคนหนึ่งหายไปไหนไม่รู้ ไม่มากองเลย ทีมงานต้องใช้เวลากว่า 2 เดือนหานักแสดงใหม่ ตารางจึงถูกเลื่อนออกไป แล้วตอนนี้ละครถ่ายทำด้วยระบบเอชดี ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากเหมือนถ่ายภาพยนตร์ กว่าจะปิดกล้องก็คงเดือนกุมภาพันธ์นี้ คือครบรอบหนึ่งปีพอดี งานของพลอยจึงเหมือนดีเลย์ออกไป ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพลอยนะ

สำหรับช่วงนี้มีถ่ายละครวันจันทร์ อังคาร พุธ นอกจากนี้มีถ่ายแฟชั่น อีเว้นต์ ซึ่งพลอยจะอัพเดตชีวิตผ่านอินสตาแกรม แต่ไม่ถึงขนาด
ว่าโพสต์ทุกอย่างแบบสด ๆ ตามเวลานั้น”

ชอบแฮชแท็คในอินสตาแกรมของพลอยมาก เช่น #สวยที่สุดในโลกส่วนตัว #อดีตเคยแรง #ตลกสายดาร์ก ทั้งหมดนี้สื่อถึงตัวตนได้ไหม

“(หัวเราะ) เป็นตัวพลอยในมุมขำๆ ที่เขียนแฮชแท็คแบบนั้นตั้งใจให้สนุก เป็นคำที่พลอยกับเพื่อนๆ เล่นกันมา 6 – 7 ปีแล้ว อารมณ์เหมือนสติ๊กเกอร์ติดท้ายรถบรรทุก สมัยก่อนเรานำคำพวกนี้ไปตัดสติ๊กเกอร์แล้วมาแจกกันเอง แปะตามคอมพิวเตอร์บ้าง อย่างเช่น อดีตเคยแรง ทิ้งกูละน่าดู (หัวเราะ)

พอตอนนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย พลอยจึงเขียนแฮชแท็คขำๆ บางทีเราเขินด้วย อย่างเวลาโพสต์รูปถ่ายเซลฟี่ จะให้พลอยพิมพ์ว่าอะไรล่ะ…วันนี้แต่งตัวดีจัง สวยไหมคะ ก็ไม่ใช่เนอะ (หัวเราะ) พลอยขอเขียนขำๆ ให้คนอ่านได้หัวเราะดีกว่า ซึ่งการมีอินสตาแกรมก็ดีนะ แฟนคลับของนักแสดงสามารถรู้ชีวิตส่วนตัวของศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบได้ว่าเขาทำอะไรบ้าง มีเรื่องไหนจริงหรือไม่จริงก็เปิดดู ไม่ต้องมานั่งอ่านจากหนังสือแท็บลอยด์ เพราะเป็นโลกของเราจริงๆ แม้กระทั่งหนังสือพวกนั้น ยังต้องมาเอารูปจากอินสตาแกรม เอาเรื่องราวของเราไปเป็นข่าวเลย เพราะฉะนั้นจุดที่พลอยเลือกอยู่ตรงนี้ถือว่าดีแล้ว โคตรมีความสุขเลย หลังจากก่อนหน้านั้นเจอเรื่องหนักมากมาตลอด”

ภาพหนักๆ ที่คนภายนอกเห็นคงเป็นการที่พลอยโพสต์รูปตัวเองร้องไห้ผ่านอินสตาแกรมเมื่อต้นปี 2558 หลังจากเจอข่าวแย่ๆ ต่อเนื่อง แต่ในสิ่งที่คนไม่เห็น…หนักกว่านั้นไหม

“ถ้าเป็นดาราบางประเทศคงฆ่าตัวตายไปแล้ว อย่างที่เล่าว่า พลอยต้องเจอข่าวอะไรมาบ้าง หรือเวลาเสิร์ชชื่อตัวเองในกูเกิล จะมีคำอะไรตามมาบ้าง ช่วงนั้นหดหู่มาก พอเห็นข่าวดาราต่างชาติฆ่าตัวตาย จึงเข้าไปหาอ่านในอินเทอร์เน็ตว่า ทำไมเขาตัดสินใจอย่างนั้น ต้องเจอเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งพออ่านก็มีทั้งพออายุมากขึ้นแล้วไม่ได้เป็นที่ยอมรับ รับไม่ได้กับข่าวเสียหาย โดนผู้ใหญ่รังแกบ้าง หรือทำผิดนิดเดียว แต่ประชาชนกล่าวโทษเยอะ”

ไม่ได้คิดจะทำเรื่องไม่ดีใช่ไหม

“ไม่ค่ะ เพียงแต่ช่วงนั้นจิตตก อยากรู้ว่าทำไมคนต้องฆ่าตัวตายและสงสัยว่าทำไมพลอยยังอยู่ได้ เราอึดเหมือนกันนะ…แต่นิสัยพลอย ถ้าอยากรู้อะไรจะหาคำตอบ แล้วไม่กลัวด้วย เปิดดูเลย บางครั้งดูภาพศพ จนแฟนพลอยต้องพูดว่า พอเถอะ อย่าดูได้ไหม แต่พลอยบอกว่า ไม่ อยากรู้ เพราะพลอยจะได้ไม่ทำแบบนั้น หรือตอนพี่สาวผ่าท้องคลอด พลอยก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนในห้องผ่าตัด คนรอบตัวยังบอกว่า เดี๋ยวไปเป็นลมในห้อง แล้วจะดูแลพี่ได้หรือ พลอยก็บอกว่า ได้ค่ะ เพราะก่อนหน้านั้นซ้อมดูการผ่าตัดทำคลอดในอินเทอร์เน็ตมา 6 – 7 รอบแล้ว (พลอยเล่าเรื่องประกอบกับการเปิดยูทูบที่เคยดูในโทรศัพท์มือถือ หัวข้อคือ ผ่าตัด คุณลูกๆ ดูไว้ 20+ ด้วยนะ) พอเพื่อนรู้ก็บอกว่า พลอยโรคจิตมาก อ้าว…ทำไมเราต้องกลัวความจริงล่ะ ต้องเผชิญหน้าสิว่า เราจะอยู่กับมันได้หรือเปล่า”

แล้วอะไรที่ทำให้พลอยผ่านเรื่องราวหนักๆ ทั้งหมดมาได้

“พลอยคิดว่าตัวเองโชคดีนะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ทั้งที่เจอเรื่องหนักมาก แต่ไม่ตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ผิด ถ้าจิตไม่แข็งพอ คงฆ่าตัวตายไปแล้ว พอผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ ก็ต้องขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณเบื้องบนที่ทำให้แข็งแรง ให้พลอยยังสู้ไหว เพื่อนสนิทยังบอกว่ามึงนี่ฆ่าไม่ตาย พอฟังแล้วก็ได้คิดว่า…นั่นสิ”

แต่วันที่อ่อนแอมากกว่าเข้มแข็งก็มีใช่ไหม

“มี พลอยทรุดหลายทีเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้บอกใคร ไม่ให้คนที่บ้านเห็น ทั้งที่ความจริงเหนื่อยมาก เคยนั่งร้องไห้เป็นวัน ตั้งแต่บ่ายสามถึงเที่ยงคืน จิตตกโดยไม่รู้สาเหตุ นั่งตาลอย ไม่ออกจากบ้าน ไม่พูดกับใคร บางทีดื่มไวน์เมามากๆ ก็ร้องไห้กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแบบจะเป็นจะตาย เพิ่งกลางปีก่อนนี้เองที่กลับมาร่าเริงสดใสได้ หลังจากดาร์กมาเกือบ 2 ปี”

แล้วดึงตัวเองกลับมาได้อย่างไร

“จู่ๆ ก็หาย อาจเพราะสองปีที่ผ่านมา พลอยพยายามจัดการระบบความคิดและจิตใจของตัวเองให้ดีขึ้น จริงๆ คนไม่ค่อยรู้ว่าพลอยหดหู่กับข่าวที่เกิดขึ้นมาก และพยายามรักษาตัวเองด้วยการดูโน่นดูนี่ อ่านๆทำไมเขาฆ่าตัวตาย เฮ้ย…เรื่องแค่นี้เองหรือ ไม่ได้สิ เราอยู่มาขนาดนี้ แล้วจะตัดสินใจแบบนั้นไม่ได้ ต้องแข็งแรง มีคำที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอนว่า “พลอย…ให้ค่าเฉพาะคนที่ให้ค่าเรา ใครไม่ให้ค่าก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา เขาจะว่าอะไร หนูก็หันหลังกลับ ปิดหู ปิดตา” ซึ่งพลอยก็ทำตาม เพราะบางทีโลกก็ไม่ยุติธรรม แต่พลอยคิดว่าถ้าโลกที่อยู่ตรงหน้าไม่ยุติธรรม เราก็แค่หันหลังให้มัน แล้วเดินต่อไปไม่ต้องไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องด้วย”

ดาราบางคนยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่ออยู่ในวงการได้นานๆ เช่น ลดความแรง ไหลตามน้ำบ้าง แต่เหมือนพลอยเลือกเป็น
ตัวเองตลอดเวลา

“เอาจริงๆ ที่ผ่านมา พลอยปรับเยอะนะ บางเรื่องที่ทำผิดก็ขอโทษ เพราะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่เหมือนสิ่งที่พยายามปรับโดยที่ไม่เสียความเป็นตัวเองจะไม่เวิร์ค เพราะสังคมมักมองเราอีกแบบ แต่พลอยเชื่อว่าพอเวลาผ่านมา หลายๆ อย่างในสังคมเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ที่คนไทยไม่ได้เสพข่าวบันเทิงแบบเก่าๆ หลายคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าบางเรื่องก็เกินไป หรือบางทีก็ไม่เป็นเรื่องอะไรเลย
แล้วเรื่องเป็นตัวเอง พลอยก็เป็นแบบนี้มาตลอด แฟนคลับยังเคยบอกว่า เวลาอ่านสัมภาษณ์พี่พลอย ถ้าเป็นเรื่องเดียวกัน เล่มแรกตอบแบบไหน เล่มอื่นๆ ก็ตอบแบบนั้น พูดเหมือนกันทุกเล่ม นั่นเพราะพลอยไม่มีการสร้างคำพูดที่สวยงามหรือให้ดูดี คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ค่อนข้างซื่อสัตย์กับความคิดของตัวเองมาตลอด”

วันนี้พลอยไม่มีผู้จัดการส่วนตัว ดูแลตัวเองอย่างไร

“พลอยทำเองทุกเรื่องเลยค่ะ ไม่ว่าละคร อีเว้นต์ ธุรกิจอาหารเสริม งานเอกสาร บัญชี ขับรถ วุ่นวายเหมือนกัน แต่ลงตัวมากกว่า ต่างจากก่อนหน้านี้ที่มีผู้จัดการ แต่เขาไม่ได้ดูแลปกป้องเราจริงๆ เวลาเกิดปัญหา เพราะเขาคงกลัวโดนคนเกลียด จึงไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราตรงๆ ทำให้เกิดปัญหาที่หน้างาน แต่พอใช้ระบบจัดการด้วยตัวเอง พลอยเคลียร์ทุกอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น ทำให้ปัญหาน้อยลง ยกตัวอย่างถ่ายแฟชั่น พลอยจะถามละเอียดว่า ถ่ายประมาณไหนคะ โลเกชั่นที่ไหน ช่างหน้าช่างผมคือใคร เคลียร์เช็คกับใคร จะทำทุกอย่างเป็นขั้นตอน เวลาทำงานจะได้รู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง แล้วพลอยได้ยินทุกอย่างเองกับหูด้วย เวลาที่เขาถามรายละเอียดด้านต่างๆ จึงตอบได้ทันทีว่า อันนี้โอเคค่ะ เรื่องนั้นไม่โอนะ แต่พอรับงานเองก็เหนื่อยเหมือนกัน บางทีวันอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนมีโทรศัพท์เข้าว่า ขอคิวพี่พลอยหน่อยค่ะ แล้วก็เงียบ พลอยต้องถามกลับว่า ต้องให้พลอยถามต่อไหมคะว่า ทำอะไร ที่ไหน อะไร อย่างไร บอกมาสิคะว่าทำอะไรบ้าง ทำไมหนูไม่พูดล่ะ เลยกลัวพลอยเป็นแถวเลย พลอยโหดไง”

ถามจริงๆ ตอนที่ตอบกลับไปแบบนั้น โมโห หงุดหงิด หรืออะไร

“จริงๆ ไม่เลยนะ (ยิ้ม) แต่พลอยเป๊ะไง เป็นสายเมเนเจอร์ที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ถึงที่ผ่านมาจะมีผู้ช่วยคอยประสานงาน แต่พลอย
ตัดสินใจเองว่า จะเลือกรับ หรือไม่รับงานไหน พลอยเป็นบอสตัวเองมาตลอด แต่ไม่เคยคิดว่าเราเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับบอสซี่ อยากเอาโน่น อยากได้นี่ ไม่ใช่ ไม่เคยรีเควสต์ขนาดนั้น แต่อยากคุยทุกอย่างให้ชัด จึงถามตรงๆ แต่จะให้ดัดจริตพูดหวานๆ ก็ไม่ใช่นิสัย บุคลิกพลอยชัดเจน ไม่ตอแหล ไม่ปากหวานไปทั่ว แต่สุดท้ายก้นเปรี้ยว”

วงการบันเทิงยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้พลอยมีความสุขอยู่ไหม

“มีค่ะ ถ้าได้ทำงานพลอยก็มีความสุข ถ้าทำแล้วเหนื่อยคงไม่อยากทำ แต่จริงๆ เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน เพราะอยู่มานานเกิน อยากมีโมเม้นต์ที่ได้ใช้ชีวิต หรือทำสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้าง อย่างตอนนี้พลอยกำลังวางแผนเรียนต่อปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงนี้พลอยสอบ CU-tep (การทดสอบความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อการศึกษาทางทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด) ตั้งใจยื่นสมัครภายในปีนี้ จึงเรียนพิเศษภาษาอังกฤษอยู่ด้วย”

ทำไมอยากกลับไปเป็นนักเรียนครับ

“เพราะสมัยเด็กพลอยไม่มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนนักแสดงสมัยนี้ ในยุคพลอย ถ้าเลือกทำงานในวงการบันเทิงก็แทบไม่มีโอกาสเรียน เพราะเวลาทั้งหมดจะถูกบีบให้การทำงาน แต่พอหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป พลอยจึงอยากเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป ส่วนจะใช้ความรู้ต่อยอดทำอย่างอื่นไหมก็เป็นอีกเรื่อง เพราะความตั้งใจแรกคือ อยากมีชีวิตที่ได้เรียนหนังสือบ้าง หลังจากที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จเรื่องงานมาเยอะแล้ว อยากเรียนปริญญาโทอีกสักใบ ให้คุณยายชื่นใจด้วย ตอนนี้คุณยายพลอยอายุจะ 90 ปีแล้วนะ (ยิ้ม)

ช่วงหลังพลอยมีเวลาให้ตัวเองกับครอบครัวมากขึ้น ทุกคนแฮ็ปปี้มาก แม่บอกว่า แม่ดีใจนะ ปกติเวลาพลอยเลิกงานดึกๆ จะไปกินข้าวกับเพื่อน แล้วโพสต์รูปลงไอจี แต่เดี๋ยวนี้พลอยพาแม่ไปกินข้าว มีเวลาได้นั่งคุยกับยาย ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่น้อยมาก ในหนึ่งหรือสองเดือนจะมีวันพักแค่หนึ่งวัน เป็นแบบนี้มา 20 ปีแล้ว เพิ่งมามีเวลาให้ตัวเองเมื่อสองปีมานี้เอง”

ไม่ได้หมายความว่าพลอยจะรับงานน้อยลงใช่ไหม

“ไม่รู้…ตอบไม่ได้ ถ้ามีโอกาสที่ดีอยู่ก็ยังทำ แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีแล้วก็ไม่เป็นไร ทุกคนต่างมีช่วงเวลาของตัวเอง พลอยอยู่ด้วยตัวเองมาได้ขนาดนี้ถือว่านานกว่าคนอื่น ครองแชมป์แล้วนะ หลังจากนี้ก็ให้เป็นไปตามอนาคต ชีวิตคงไม่ได้ดีหรือพีคอย่างนี้ไปตลอดหรอก แล้วทางในวงการนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลย อย่างน้อยก็ดีใจที่ทำมาได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่มีหลายคนที่เข้ามาแล้วก็ออกไป แต่เรายังอยู่ตรงที่เดิม พลอยโชคดีที่ได้สัมผัสกับความสำเร็จมาเยอะ ทั้งเรื่องอาชีพและชีวิต แค่นี้ก็น่าดีใจมากแล้ว

แล้วจริงๆ ช่วงหลังมีงานเสนอเข้ามาเยอะ แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้รับไม่ได้ เสียดายเหมือนกัน แต่พลอยมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่นะ คือพลอยอยู่มานานแล้ว คนรู้จักเรา ยังไงก็มีที่ยืน แต่ถ้าเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ทำงานไม่เก่ง แล้วยังโน่นนี่นั่น หลงไปกับชื่อเสียง วันหนึ่งก็ถูกลืม จบแค่นี้”

พลอยล่ะ เคยเฉียดกับความเหลิงหรือลืมตัวบ้างไหม

“มีบ้างค่ะ แต่โชคดีที่แม่คอยเตือนตลอด แม่จะคิดไปข้างหน้าให้พลอยหลายสเต็ป ท่านจะเน้นเรื่องความอดทนมาก ซึ่งพลอยก็บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงนะ พลอยยังเหมือนเดิมแน่นอน ไม่มีอะไรทำลายตัวตนพลอยได้ หรือช่วงหลังที่ใช้เงินเยอะขึ้น แม่ก็ห่วงว่า เก็บไว้เผื่ออนาคตบ้าง พลอยก็ตอบว่า เก็บมาเยอะมากแม่ พลอยให้แม่ดูแลเงิน ไม่น่าห่วง แล้วพลอยคิดว่า ถ้าไม่ใช้เงินเลย ตอนแก่จะมีเรี่ยวแรงนำเงินที่สะสมมาทั้งหมดไปใช้จ่ายให้ตัวเองมีความสุขได้ไหม ในเมื่อตอนนี้ยังมีแรงทำงาน มีพลังเดินทางไปต่างประเทศไกลๆ ก็ควรให้รางวัลตัวเองบ้าง”

ช่วงนี้ใช้เงินหนักไหม

“กลางๆ นะ แต่ถามว่า ใช้ไหม…ใช้ค่ะ เสื้อผ้าหรือของแบรนด์เนมก็มีบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นซื้อถล่มทลาย พลอยมองถึงอนาคตเหมือนกันว่าต้องเก็บเงินไว้เผื่อบ้าง ส่วนมากจะใช้ไปกับสิ่งที่มีคุณค่าทางใจมากกว่า แล้วก็เป็นของที่มีคุณค่า อย่างนาฬิกาที่ซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเอง หลังจาก 20 ปีมานี้ทำงานทุกวัน บางปีมีทั้งละครกับภาพยนตร์ถ่ายติดกัน 4 เรื่อง เวลาเกือบทั้งหมดอยู่แต่ในกองถ่าย แทบไม่มีเวลาให้ใครเลย มีแฟนก็ต้องเลิก”

แสดงว่าสองปีที่กระแสน้อย แต่พลอยมีความสุขมากขึ้น

“แฮ็ปปี้! แต่เอาจริงๆ งานไม่ได้น้อยลงเลย ยุ่งจะตาย เปิดสมุดงานมาจะเห็นคิวแน่นทุกวัน เพียงแต่พลอยคิดว่า งานอะไรที่บีบหัวใจหรือบังคับมากเกินไปก็ไม่อยากทำ เน้นความสบายใจดีกว่า จะได้นำเวลามาใช้กับคนที่เรารัก คนที่เรารู้สึกดี อย่างปีนี้ได้ไปร่วมงานแต่งเพื่อนเป็นสิบงานแล้ว ซึ่งถ้าเป็นชีวิตปกติของสมัยก่อนไม่ค่อยได้ไปหรอก ไม่เคยว่างเลย”

พูดเรื่องแต่งงาน ก่อนเจอกันวันนี้ พลอยถามทางโทรศัพท์ว่าจะสัมภาษณ์อะไรพลอยบ้าง แต่เรื่องแต่งงานไม่ตอบนะ เบื่อแล้ว

“ใช่ (ยิ้ม) พลอยตอบเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่อายุ 24 จนปีนี้จะ 34 แล้ว จะให้พูดอะไรล่ะ ก็ตอบเหมือนเดิม และก็ไม่ได้ปิดบัง ตอนนี้ยังคบคนเดิมอยู่ เวลาเลือกศึกษาใคร พลอยคบเป็นคนๆ โอเคว่าที่ผ่านมาพลอยอาจผ่านอะไรมาบ้าง อายุขนาดนี้แล้ว คงไม่ใช่ผู้หญิงที่
ไม่เคยเจออะไรมาเลย แต่ก็ไม่ได้ใช้ร่างตัวเองเปลืองเหมือนแจกใบปลิว”

คำนี้ใช้เป็นโค้ดรณรงค์ได้เลยนะ

(หัวเราะ) “เอาจริงๆ ก็มีใครมาเฉี่ยวมาชนในชีวิตบ้าง แต่สุดท้ายเราคือผู้หญิง ถ้าไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง แล้วผู้ชายคนไหนจะมาเห็นคุณค่า หรือถ้ามัวแต่แบบ อ๋อ…ฉันสวย จะเลือกใครก็ได้ ก็อาจใช่ แต่คนอื่นจะมองเราอย่างไรล่ะ”

คุณแม่ห่วงลูกสาวเรื่องคู่ครองบ้างไหม

“แม่ไม่ซีเรียสเลยค่ะ แค่พูดว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแล้วกัน (หัวเราะ) แต่พลอยรู้สึกว่า ถ้าอยากอยู่กับใครสักคน เขาต้องทำให้พลอยรู้สึกว่าเออ…โลกสีชมพูว่ะ”

วันนี้สีชมพูไหม

“ยังค่ะ”(ยิ้ม)

แล้วสีอะไร

“ไม่รู้…(ลากเสียง) ยังไม่มีใครทำให้เราจี๊ดได้ขนาดนั้น ต้องมีคนที่ทำให้รู้สึกว่า เขารักเราเท่ากับที่เรารักตัวเอง ซึ่งหายาก กับคนที่มีความสม่ำเสมอ และทำให้รู้สึกดี หรือตื่นเต้นตลอดเวลา แต่เดี๋ยวก็คงมีมั้ง ส่วนเรื่องแต่งงาน พลอยไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วว่า เจอกัน พบรักแล้วแต่งงาน เพราะคนแต่งแล้วเลิกกันเยอะแยะ แม่พลอยก็เลิก ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะ แต่โลกเป็นแบบนี้ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าใครอยู่กับเราได้ ก็อยู่ไป แต่อยู่แล้วต้องทำให้มีความสุข ถ้าไม่เป็นแบบนั้น อยู่คนเดียวดีกว่าไหม”

แล้วความสุขของพลอยยากไหม

“ไม่ยาก ง่ายมากถ้าใส่ใจ แล้วถ้าพลอยรักใครแล้วจะเป็นฝ่ายให้ด้วย ทุ่มเทให้ความรักเหมือนผู้ชาย แต่ถ้าวันหนึ่งให้แล้วรู้สึกว่า ทำไมเขาไม่แชร์หรือทำให้เรารู้สึกดีบ้าง ความรู้สึกที่เคยมากจะน้อยลง ถึงบอกว่าความรักเป็นเรื่องสำคัญมาก มันไม่ง่ายเลยสำหรับยุคนี้ที่มีทั้งอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก หรือองค์ประกอบอีกมากมายที่ทำให้มนุษย์หลายใจได้ง่ายขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ถ้าไม่จีบใคร ก็อาจไม่ได้เรียนรู้กันเลย หรือถ้าชอบกันแล้วก็อยู่ด้วยกันตลอดไป โลกเปลี่ยนไปแล้ว พลอยเลยคิดว่า ถ้าชีวิตนี้ไม่แต่งงาน ก็ไม่เห็นเป็นไร”

แล้วแฮชแท็คไหนที่เหมาะกับผู้หญิงอายุ 33 คนนี้มากที่สุด

“แป๊บนะ ขอดูก่อนได้ไหม (พลอยอมยิ้มแล้วเปิดอินสตาแกรมของตัวเองเพื่อดูแฮชแท็คที่เคยเขียน) อืม…เอาเป็นว่า #ฆ่าไม่ตายสักทีละกัน (หัวเราะ) หรือถ้าใครจะคิดแบบอื่นก็ได้นะ แต่พูดเลยว่า ชีวิตช่วงหลังของพลอยดีมาก ฟินมาก”

คิดเล่นๆ ถ้าชีวิตของพลอย – เฌอมาลย์ ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยเก็บเรื่องราวทั้งหมด ทั้งวงการบันเทิง ความรัก น้ำตาจนถึงข่าวต่าง ๆ นานา น่าจะเป็นเรื่องแนวไหน

“โอ้โฮ…คงดราม่าสุดๆ มีหลายเรื่องที่เข้ามาเยอะ เหนื่อยกับชีวิตมาตลอด ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายจริงๆ แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ทำให้เรา
แข็งแรงขึ้น ทำให้ในวันนี้ถ้าเจอปัญหาหรือเรื่องแรงๆ พลอยสามารถวางเรื่องเครียดไว้ที่จุดอื่น แล้วหาความสุขให้ตัวเองได้

เรื่องราวทั้งหมด 33 ปีบอกว่า พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว พรุ่งนี้คือวันใหม่ ต้องเดินไปต่อ เป็นช่วงชีวิตที่ต้องแข็งแรง อาจมีอนาคตที่เราอยู่ได้รออยู่ ใครจะรู้ อย่างช่วงที่พลอยเครียดมากๆ ถ้าตัดสินใจทำอะไรโดยไม่ใช้สมองไตร่ตรองให้ดี หรือฟังแต่หัวใจอย่างเดียวก็คงพัง พลอยได้เรียนรู้ว่า ชีวิตต้องใช้เหตุผลและหัวใจเดินทางไปคู่กัน จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าใช้เหตุผลอย่างเดียวก็คงเป็นแค่หุ่นยนต์ แต่ถ้าใช้ใจมากเกินไปก็แย่ ต้องบาลานซ์จึงทำให้เดินได้ตรง หรือถ้าสะดุดล้มก็ไม่เป็นไรหรอก แค่ทำแผลแล้วลุกขึ้นมาเดินใหม่ อย่าไปคิดอะไรมาก”


บทสัมภาษณ์จาก : นิตยสารแพรว ปี 2559 ฉบับที่ 874 (25 ม.ค. 59) หน้า 114-121
ภาพ IG : chermarn

กว่าจะมาเป็นกระเป๋า Bottega Veneta รุ่น The Cabat ผลงานระดับมาสเตอร์พีซอันโดดเด่น

“This is more about what you hide than what you show” นี่คือหนึ่งในประโยคที่ โทมัส เมเยอร์ (Tomas Maier) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) เคยกล่าวไว้ และน่าจะเป็นคำจำกัดความชั้นยอดที่บรรยายสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋า “เดอะคาบาท” (The Cabat) ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของแบรนด์อันโดดเด่นด้วยงานฝีมือชั้นครูและดีไซน์หรูหราตราตรึงใจ

ย้อนกลับไปในปี 2001 กระเป๋าเดอะคาบาทรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แสนจะเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยลวดลายขัดสานจากผืนหนังได้ถือกำเนิด ณ Bottega Veneta Atelier ในวิเซนซา (Vicenza) ถือเป็นผลงานการออกแบบกระเป๋าชิ้นแรกของโทมัส เมเยอร์ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ ณ เวลานั้น ก่อนเผยโฉมเต็มๆ ในคอลเล็คชั่น Spring / Summer 2002 ซึ่งมีให้เลือก 2 ขนาด คือขนาดกลางและขนาดใหญ่

 Bottega Veneta

 Bottega Veneta

โทมัส เมเยอร์ ตั้งใจรังสรรค์เดอะคาบาทให้เป็นกระเป๋าที่มีความสวยงามทั้งภายในและภายนอก โดยเลือกการถักเส้นหนังสองด้านด้วยมือ เพื่อให้เห็นลวดลายทั้งด้านนอกและด้านในของกระเป๋า กลายเป็นงานดีไซน์หรูชูตัวตนอันเด่นชัดของโบเตก้า เวเนต้า ที่เรียกได้ว่าทั้งหรูหรา ซับซ้อน คลาสสิกไร้กาลเวลา และยังใช้งานได้จริง ส่งผลให้เดอะคาบาทโดดเด่น เป็นกระเป๋าในดวงใจของหลายคนมาเกือบ 2 ทศวรรษ

The Spheres Cabat

สำหรับ Early Fall 2018 นี้ ไฮไลท์เด็ดที่โบเตก้า เวเนต้า เน้นย้ำว่าไม่ควรพลาดคือ เดอะคาบาทรุ่นใหม่นามว่า “The Spheres Cabat” “This is more about what you hide than what you show” นี่คือหนึ่งในประโยคที่ โทมัส เมเยอร์ (Tomas Maier) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของโบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta) เคยกล่าวไว้ และน่าจะเป็นคำจำกัดความชั้นยอดที่บรรยายสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋า “เดอะคาบาท” (The Cabat) ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของแบรนด์อันโดดเด่นด้วยงานฝีมือชั้นครูและดีไซน์หรูหราตราตรึงใจ ผสมผสานเทคนิคการสานหนังแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับลูกเล่นใหม่ๆ ก่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม โดย โทมัส เมเยอร์ นำแรงบันดาลใจจากลูกแก้วทรงกลมที่ชาวเวนิสนิยมใช้วางประดับในสวนเพื่อป้องกันวิญญาณชั่วร้าย มาทำเป็นลูกปัดทรงกลมเนื้อสัมผัสพิเศษกว่า 1,400 ชิ้น แล้วนำไปประดับตกแต่งลงบนกระเป๋าด้วยมือ ทำให้ได้มาซึ่งงานลูกปัดสามมิติที่เกาะอยู่บนกระเป๋าราวกับหยดน้ำพร่างพราว โดยไม่ทิ้งความเนี้ยบ เรียบ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในดีเทลต่างๆ ตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านใน สมความเป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซ

Simple, Seamless & Sophisticate

ว่าแต่อะไรที่ทำให้เดอะคาบาทเป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซ เรามาดูกัน

นอกจากเป็นงานออกแบบชิ้นแจ้งเกิดของโทมัส เมเยอร์ ในหมวดหมู่ของกระเป๋าแล้ว เดอะคาบาทยังจัดได้ว่าเป็นงานแฮนด์เมดชิ้นเริ่ดที่แสดงถึงงานฝีมือสุดบรรจง มีรูปทรงที่แข็งแรง ทว่าดูนุ่มนวลอยู่ในทีด้วยแผ่นหนัง เนื้อนุ่มที่ขัดสานเข้าด้วยกันอย่างชดช้อย ดังนั้นกว่าจะได้กระเป๋าเดอะคาบาทแต่ละใบ ต้องอาศัยกระบวนการผลิตที่ไม่ธรรมดาและลงลึกทุกรายละเอียดเลยทีเดียว

เริ่มจากการคัดเลือกหนังที่ต้องพิถีพิถันสุดๆ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นหนังจระเข้ ซึ่งมีลวดลายอยู่ในตัว เพื่อให้ได้ขนาดของหนังที่เหมาะสมกับขนาดของกระเป๋า รวมถึงแผ่นหนังนั้นต้องสามารถนำมาตัดเป็นเส้นยาวเพื่อใช้สานได้ด้วย

ในการทำกระเป๋าแต่ละใบต้องใช้หนังจระเข้จำนวน 20 – 30 ชิ้น ก่อนจะนำมาแปรรูปเป็นเส้นยาว 1.30 เมตร จำนวน 80 เส้น และขนาด 1.50 เมตร จำนวน 100 เส้น โดยกระเป๋าเดอะคาบาทขนาดกลางใช้เส้นหนังในการถักสาน 80 เส้น ส่วนกระเป๋าขนาดใหญ่ใช้เส้นหนัง 100 เส้นในการทำลวดลาย ขั้นตอนต่อจากนั้นคือการแบ่งเส้นหนังด้วยการจับคู่กับพื้นผิวเดียวกัน แล้วนำแต่ละเส้นมาขัดสานเป็นลาย (Intrecciato) ซึ่งในแต่ละแถวจะต้องสานเป็นรูปสามเหลี่ยมถึง 11 ครั้ง ช่างฝีมือจึงต้องแน่ใจทั้งในความถูกต้องของลายถักกับต้องคำนึงถึงความตึงและแนวการสานของเส้นหนังแต่ละเส้นด้วย เพื่อให้ได้งานเนี้ยบที่สุด

เมื่อกระบวนการถักสานเสร็จสิ้น ก็จะนำผืนหนังที่สานแล้วมาประกอบเป็นตัวกระเป๋าที่โชว์ลวดลายขัดสานทั้งด้านในและด้านนอกแบบเน้นๆ หลังจากนั้นช่างฝีมือก็จะยึดฐานกระเป๋าและหูจับเข้ากับตัวกระเป๋าด้วยการเย็บตะเข็บเพิ่มอีก 80 จุด

รวมแล้วกว่าจะได้กระเป๋าเดอะคาบาทหนึ่งใบต้องใช้เวลาในการสรรค์สร้าง อย่างน้อย 2 วัน จากช่างฝีมือ 2 คน แต่วงเล็บไว้ว่าระยะเวลานี้คือเวลาในการทำกระเป๋า เดอะคาบาทหนังนัปป้าขนาดกลางที่ถือว่าเรียบง่ายที่สุดแล้วนะ แต่หากเป็นหนังจระเข้ด้วยแล้ว ก็ต้องอาศัยระยะเวลา ความแม่นยำ ความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นอีก จึงไม่น่าแปลกใจที่ในแต่ละปี โบเตก้า เวเนต้า จะส่งเดอะคาบาทออกมาในจำนวนจำกัด เพราะต้องใช้เวลาและความพิถีพิถันขั้นเทพจากช่างฝีมือชั้นเซียนเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลงานอันคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริง

Bottega Veneta New Atelier

หนึ่งในสิ่งที่โบเตก้า เวเนต้า ให้ความสำคัญและขยับตัวเป็นแบรนด์แรกๆ ในโลกลักซ์ชัวรี่คือ ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม โดยได้ย้ายสถานที่ทำการจากวิเซนซา อันเป็นที่ตั้งของฐานทัพเดิมมาอยู่ที่เมืองมอนเตเบลโล วิเซนติโน (Montebello Vicentino) พร้อมกับขนย้ายพนักงานกว่า 300 ชีวิตตามมาด้วย

“Bottega Veneta Atelier” หรือที่ทำการใหม่ของแบรนด์นั้น สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม กินพื้นที่กว่า 55,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีตัวอาคารหลักคือ Villa Schroeder – Da Porto อาคารสมัยโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 แต่ทางโบเตก้า เวเนต้า รีโนเวตใหม่ โดยคงโครงสร้างเดิมไว้ แล้วต่อเติมส่วนขยายที่กินพื้นที่อีกกว่า 12,500 ตารางกิโลเมตร (วังดีๆ นี่เอง) ให้สวยสด งดงาม ทว่าทันสมัยด้วยโครงสร้างและกระบวนการสมัยใหม่ ที่คำนึงถึงทุกรายละเอียดเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการดำเนินการ ตั้งแต่ออกแบบจนถึงก่อสร้างและการใช้งานนั้น คำนวณมาแล้วว่าต้องลดการใช้น้ำและไฟฟ้า พึ่งพาพลังงานทดแทนและแสงธรรมชาติให้มากที่สุด แถมยังเลือกวัสดุก่อสร้างและมีระบบจัดการต่างๆ ที่ช่วยลดขยะและมลภาวะ จนได้รับการรับรองจาก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีองค์กรภาคแฟชั่นและสินค้าลักซ์ชัวรี่ได้รับการรับรองนี้


ภาพและที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 933 คอลัมน์ FASHION SCOOP หน้า 44-47

ตั๊ก บงกช

อย่าทิ้งความฝันเพียงเพราะเป็นคุณแม่ ตั๊ก บงกช กับชีวิตที่บาลานซ์ได้

Alternative Textaccount_circle
ตั๊ก บงกช
ตั๊ก บงกช

บาลานซ์หน้าที่ทุกอย่างได้อย่างลงตัว ตั๊ก บงกช ไม่ทิ้งความฝันเพียงเพราะการเป็นคุณแม่ นี่แหละ! แรงบันดาลใจผู้หญิงยุคใหม่

ตั๊ก บงกช

เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนทราบเป็นอย่างดีว่าลูกรักฝันอยากเป็นอะไร แต่ในทางกลับกันคุณแม่หลายคนลืมความฝันหรือทิ้งความฝันของตัวเอง เพราะต้องทุ่มเททุกอย่างให้กับครอบครัว ทว่ามีเหล่าคุณแม่ส่วนหนึ่งที่บาลานซ์หน้าที่ทุกอย่างได้อย่างลงตัวและสามารถเดินตามความฝันของตัวเองต่อไปได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ นักแสดงสาวมากฝีมือ “ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล”อดีตนางเอกชื่อที่มีผลงานภาพยนตร์ดังมากมาย อาทิ อีสา, บางระจัน, ไอ้ฟัก, อำมหิตพิศวาส

โดยเมื่อปี 2012 เธอได้ประกาศหมั้นและแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่ “เจ้าสัว บุญชัย เบญจรงคกุล” และมีลูกชาย 1 คนเป็นโซ่ทองคล้องใจ “น้องข้าวหอม-ด.ช.ชีวกิตติ์ เบญจรงคกุล” หลังจากที่เธอมีทายาทก็กลายเป็นคุณแม่แบบฟลูไทม์ ภาพของตั๊กเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ตั๊ก บงกช

ชีวิตตั๊กเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว เธอได้บาลานซ์ชีวิตใหม่ให้กับตัวเอง หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รูปร่างเปลี่ยนความกระฉับกระเฉงก็ปลุกไฟในตัวเธออีกครั้ง เธอลุกขึ้นมาทำตามฝันของตัวเองคือการเป็นผู้กำกับ แม้จะต้องมีภาระหน้าที่ของแม่แต่เธอก็ทำทุกอย่างอย่างตั้งใจ

ไม่ใช่ประสบความสำเร็จในบทบาทของคุณแม่เท่านั้น แต่ล่าสุด ตั๊กยังประสบความสำเร็จในฐานะผู้กำกับด้วย เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพยนตร์ “Sad Beauty เพื่อนฉัน ฝันสลาย” ที่เธอเป็นผู้กำกับได้รับเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival 2018 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเทศกาลภาพยนตร์ Bucheon International Fantastic Film Festival 2018 ที่ประเทศเกาหลีใต้

ตั๊ก บงกช

Subway Cinema และ Film Society of Lincoln Center เป็นเทศกาลภาพยนตร์เอเชียที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ โดยภาพยนตร์ได้ฉายในวันที่ 14 กรกฎาคม ที่โรงภาพยนตร์ SVA Theater แม้ว่าเธอจะไม่ได้เดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเองเพราะติดนำภาพยนตร์ไปประกวดในอีกเทศกาลที่เกาหลี แต่ก็ได้ ก้องเกียรติ โขมศิริ โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ ที่เดินทางไปร่วมงานในฐานะกรรมการตัดสินภาพยนตร์สายประกวด ขึ้นเวทีเพื่อแนะนำภาพยนตร์ Sad Beauty ก่อนการฉาย

ตั๊ก บงกช

ส่วนตั๊กได้ลัดฟ้าไปงานเทศกาล Bucheon International Fantastic Film Festival เพื่อฉายภาพยนตร์ถึง 3 รอบฉาย พร้อมเดินพรมแดงร่วมพิธีปิดเทศกาลด้วยชุดผ้าไหมไทยสีทองดอกจำปาของปักธงชัย ที่ทอสลับดิ้นทองทั้งผืน จากร้านผ้าไหมบงกช ที่เป็นร้านของตัวเธอเอง และเข้าลุ้นในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไทยเพียงเรื่องเดียว ที่ได้รับคัดเลือกจากทั่วโลก ให้เข้าชิงรางวัลใหญ่ที่สุด 4 สาขารางวัลคือ Best of Buchoen, Best Director Choice, Jury’s Choice และ Audience Award

ตั๊ก บงกช

สำหรับเทศกาลภาพยนตร์แฟนตาสติคนานาชาติบูชอน (Bucheon International Fantastic Film Festival) หรือ BIFAN เป็นเทศกาลภาพยนตร์ขนาดใหญ่หนึ่งในสามของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองบูชอน (Bucheon) เป็นเทศกาลภาพยนตร์สำคัญที่มีบุคลากรในวงการภาพยนตร์จากทั่วโลกเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่งในทุก ๆ ปี โดยในปี 2018 เทศกาลนี้ มีภาพยนตร์เข้าฉายถึง290 เรื่อง จาก 53 ประเทศทั่วทุกมุมโลก โดยคัดเลือกจากภาพยนตร์หลายพันเรื่องที่ส่งเข้ามา

ตั๊ก บงกช

ทั้งนี้ตั๊ก ได้เล่าให้ฟังว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณทุกกำลังใจจากคนที่รักหนังของเธอจากทุกมุมโลก “ตั๊กขอขอบคุณทุกกำลังใจ ที่ทุกคนส่งมาให้ตั๊กในทุกๆ ช่องทางนะคะ และรู้สึกดีใจที่หนังเรื่องนี้ที่ตั๊กตั้งใจทำ กำลังเดินทางไปตามเทศกาลต่างๆ ทั่วโลก ทั้งฉายโชว์ และเข้าประกวด ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากสำหรับตั๊ก เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกได้มีโอกาสดูหนังตั๊ก พร้อมยังได้แสดงความคิดเห็นจากนักวิจารณ์ และผู้ชม เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการทำหนังเรื่องต่อๆ ไป และยังได้พบเจอบุคคลสำคัญตามเทศกาลหนังต่างๆ ซึ่งตั๊กหวังว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกันกับพวกเขาในซักวันหนึ่ง

ทั้งนี้ ภาพยนตร์ “Sad Beauty เพื่อนฉัน ฝันสลาย” กำกับภาพยนตร์โดย “ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล” ยังคงเดินหน้าอวดสายตากับชาวโลกต่อไป โดยในเดือนกันยายนนี้ เข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Asian Pop-Up Cinema เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และอยู่ในช่วงพูดคุยกับประเทศสเปน และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบลำดับต่อไป

ตั๊ก บงกช

และนี่คือหนึ่งในแรงบัลดาลใจดีๆ ของคุณแม่ผู้ไม่ละทิ้งความฝัน ที่สามารถบาลานซ์หน้าที่ทุกอย่างได้อย่างลงตัว มีความภาคภูมิใจในตัวเองและยังมีความสุขกับชีวิตคุณแม่อีกด้วย


 

เจ้าหญิงเอลิซาเบธ รัชทายาทราชวงศ์เบลเยียม เผยสไตล์งดงามในวัย 16 ชันษา

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปป์และสมเด็จพระราชินีมาธิลด์แห่งเบลเยียม เสด็จฯ พร้อมด้วย เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งบราบันต์ มกุฎราชกุมารีแห่งเบลเยียม, เจ้าชายกาเบรียล, เจ้าชายเอ็มมานูเอล และเจ้าหญิงเอเลโอนอร์ ในพระราชพิธีวันชาติเบลเยียม และเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 5 ปี ณ มหาวิหารเซนต์ไมเคิล และเซนต์กูดูล่า กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม

ราชวงศ์เบลเยียมทรงสง่างามทุกพระองค์

ซึ่งต้องบอกว่าเจ้าหญิงเอลิซาเบธหรือดัชเชสแห่งบราบันต์ ในวัย 16 ชันษา ทรงเด่นสะดุดตามากเลยทีเดียวกับสไตล์การแต่งตัวที่งดงาม ในฉลองพระองค์เดรสสีดำลายดอกไม้สดใสจากแบรนด์ Maje ที่แมทช์เข้ากับเข็มขัดสีแดงและรองพระบาทสีแดงสดก็มาจาก Maje เช่นกัน ส่วนพระกุณฑลเป็นไข่มุกที่เข้ากับลุคนี้ได้เป็นอย่างดีและลงตัว

เจ้าหญิงเอลิซาเบธ

แต่ละไอเท็มทำให้ลุคนี้ของเจ้าหญิงเอลิซาเบธโดดเด่นและงดงามจริงๆ

ทั้งนี้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นว่าเจ้าหญิงเอลิซาเบธคือใคร พระองค์ทรงเป็นถึงรัชทายาทในราชบัลลังก์เบลเยียม เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปป์แห่งเบลเยียมและสมเด็จพระราชินีมาธิลด์แห่งเบลเยียม มีพระอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งบราบันต์ หลังจากที่สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม พระอัยกาธิราชของพระองค์ทรงสละราชสมบัติ โดยมีพระราชบิดาของพระองค์สืบราชสมบัติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2013

 

เจ้าหญิงเอลิซาเบธ เผยสไตล์งดงามในวัย 16 ชันษา

 

เจ้าหญิงแย้มพระโอษฐ์แล้วโลกสดใสขึ้นมาทันตา

 

(ซ้ายไปขวา) สมเด็จพระราชินีมาธิลด์แห่งเบลเยียม เจ้าชายเอ็มมานูเอล และ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ 

 

เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งบราบันต์ และ เจ้าชายกาเบรียล

 

ดัชเชสแห่งบราบันต์ทรงสดใสเสมอ

 

เจ้าหญิงและเจ้าชายแห่งราชวงศ์เบลเยียม

 

(ซ้ายไปขวา) เจ้าหญิงเอเลโอนอร์ , เจ้าชายกาเบรียล , เจ้าหญิงเอลิซาเบธ และเจ้าชายเอ็มมานูเอล 


ภาพ : IG@royaladdicted2   , queen.mathilde

สุดซาบซึ้ง! น้ำพระทัยของในหลวงรัชกาลที่ 10 กษัตริย์ผู้ทรงปิดทองหลังพระ

Alternative Textaccount_circle

จากเหตุการณ์การค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งจากเหตุการณ์นี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย และความมีน้ำใจจากคนทั่วโลกแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงคอยพระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ อย่างเงียบๆ ตามพระนิสัยส่วนพระองค์ จนขนานพระนามได้ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ทรงปิดทองหลังพระ ทั้งนี้หลายคนอาจไม่ทราบว่าพระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลืออะไรบ้าง แพรวดอทคอมจึงขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการรวบรวมน้ำพระทัยของพระองค์มาให้ทราบทั่วกัน

 

โรงครัวพระราชทาน

ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยและทรงติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อปรุงอาหารสำหรับแจกจ่ายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ปกครองของผู้สูญหาย และสื่อมวลชน ซึ่งนับว่าสร้างทั้งพลังกายและพลังใจให้กับทุกคนที่ถ้ำหลวง


 

พระราชทานเสื้อกันฝน 2,000 ตัว

ภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต ดำเนินท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายแทบจะตลอดเวลา ทำให้การค้นหายิ่งยากลำบากเป็นเท่าทวีคูณ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงพระราชทานเสื้อกันฝนเป็นจำนวน 2,000 ตัว เรียกว่าช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทุกคนที่ถ้ำหลวงเป็นอย่างมาก


 

พระราชทานหลอดไฟ LED

เป็นที่ทราบกันดีว่าภายในถ้ำหลวงนั้นมืดสนิท แสงสว่างจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล็งเห็นถึงความยากลำบากของการปฏิบัติงานในข้อนี้ จึงพระราชทานหลอดไฟ LED ที่สามารถชาร์จไฟได้ สำหรับนำไปแขวนให้แสงสว่างภายในถ้ำหลวง


 

พระราชทานอุปกรณ์กู้ภัย

หลังจากภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต สำเร็จ ทำให้โล่งใจไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ภารกิจการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันจากพายุฝน และปริมาณออกซิเจนในถ้ำที่เหลือน้อย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานอุปกรณ์กู้ภัยต่างๆ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยทรงพระราชทานชุดดำน้ำ 30 ชุด ถุงดำ 2 กระสอบ ถุงซิปล็อค 2 กระสอบ กาต้มน้ำ 2 ตัว ปลั๊กไฟ 1 กล่อง เทปกาว 1 กล่อง และผ้าห่ม 1 โหล ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ภารกิจการช่วยเหลือราบรื่นยิ่งขึ้น


 

พระราชทานถังอัดอากาศ

ถังอัดอากาศเป็นอุปกรณ์กู้ภัย 13 ชีวิตที่สำคัญและต้องใช้เป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการถึงการพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่สิ่งนี้คือการปิดทองหลังพระของพระองค์อย่างแท้จริง เพราะเมื่อทรงทราบว่าในภารกิจเกิดความติดขัด หรือหาอุปกรณ์ใดไม่ได้ ก็ทรงจัดหามาพระราชทานให้แบบไม่ออกพระนาม อีกทั้งด้วยพระบารมีจึงทำให้จัดหามาพระราชทานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย


 

ทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อการสละชีพของจ่าแซม

จากการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของ จ่าแซม-จ่าเอกสมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลผู้เป็นวีรบุรุษถ้ำหลวง  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้ง ด้วยการมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมพวงมาลาหลวงพระราชทาน นอกจากนี้ยังทรงรับศพจ่าแซมไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน อีกทั้งยังรับสั่งให้ประกอบพิธีศพอย่างสมเกียรติ และรับสั่งให้ดูแลครอบครัวจ่าแซมอย่างดีที่สุด และสุดท้ายทรงเชิดชูเกียรติจ่าแซมด้วยการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศ นาวาตรี เป็นกรณีพิเศษ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก เป็นกรณีพิเศษ


 

ทรงรับชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิต เป็นอาคันตุกะ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิตอยู่ตลอด ซึ่งนอกจากการพระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ แล้ว ยังทรงเห็นถึงความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยของผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีน้ำใจเดินทางมาช่วยเหลือจากทั่วทุกมุมโลก พระองค์จึงทรงตอบแทนน้ำใจดังกล่าวด้วยการรับสั่งให้ดูแลชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิตเป็นอย่างดี เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้พาท่องเที่ยว และทรงรับชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิต เป็นอาคันตุกะของพระองค์จนกว่าจะเดินทางกลับ


 

พระราชทานพระราชหัตถเลขา ทรงชื่นชมผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์

หลังจากภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงน้ำพระทัยเพื่อทรงชื่นชม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้วยการพระราชทานพระราชหัตถเลขาความว่า “ได้ติดตามการปฏิบัติแล้ว น่าชื่นชมที่ได้เห็นข้าราชการผู้ใหญ่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และมุ่งมั่นในภารกิจเฉพาะหน้า ที่ยากและท้าทาย แสดงถึงความมีสติปัญญา และมีการตัดสินใจที่ดี และวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง และเป็นศูนย์กลางแห่งการประสานการปฏิบัติจนภารกิจลุล่วงด้วยดี และได้ทราบว่าเป็นข้าราชการที่มีคุณภาพ กล้าต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และในเวลาเดียวกันก็มุ่งมั่นที่สร้างความดีและความถูกต้องให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ ขอชมเชยและให้กำลังใจ ขอให้รักษาความดีไว้ และขอให้มีความสุขความเจริญ” 


 

พระราชทานงานเลี้ยงขอบคุณ “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้รัฐบาลจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เวลา 08.00-21.00 น. ภายใต้ชื่องาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” หรือ “United as One” ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้รัฐบาลใช้พระลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดงาน อีกทั้งยังพระราชทานอาหารเลี้ยงผู้ร่วมงานร่วมกับรัฐบาลด้วย นับว่านำความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นแก่รัฐบาลและผู้ร่วมงานทุกคนเลยทีเดียว


 

ภาพ : เฟซบุ๊ก สุวิทย์ มิ่งมล, ไอจี @smaankunan

‘มีเสน่ห์จนเลือกไม่ถูก ต้องให้ผู้ใหญ่เข้ามาช่วยฟันธง’ ดูดวงรายวัน 24 กรกฏาคม 2561

ดูดวงรายวัน 24 กรกฏาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : วันนี้ท่านจะชีพจรลงเท้าออกไปติดต่องานกับผู้ใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องศิลปะศิลปิน ความบันเทิง ดนตรี หรือความงาม ท่านจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริม แต่ระวังก่อนตกปากรับคำ หรือเซ็นสัญญาก็ให้ดูให้รอบคอบ ระวังเสียเปรียบ

การเงิน :  หากท่านชวนใครไปช็อปปิ้ง นอกจากจะหมดกับการซื้อของสวยของงามแล้ว ยังต้องเป็นเจ้ามือดูแลตลอดเส้นทาง

ความรัก : ผู้หญิงมีภาวะผู้นำสูง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจในครอบครัว ทั้งส่งเสริมสนับสนุนหน้าที่การงานของสามี ยามรักจะชอบแสดงความเป็นเจ้าของ แต่หากเบื่อละก็หน้ายังไม่มองเลย คนโสด มีเสน่ห์เย้ายวน ทำให้เพศตรงข้ามหลงใหลได้ปลื้ม วันนี้จะมีผู้ใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกคู่ สุขภาพ :  น้ำหนักเริ่มขึ้นอีกแล้ว เดินก็ระวังจะสะดุดหกล้ม บาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน :  เหมาะกับการทำงานที่มีเนื้อหาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หรือต้องติดต่อประสานงานกับบุคคลอื่น วันนี้ควรใช้ความคิดและจินตนาการให้เป็นประโยชน์ ในการทำธุรกิจส่วนตัว เช่น ค้าขาย เปิดร้านอาหาร งานเสริมสวย เป็นต้น

การเงิน  : มีโชค จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง แต่ก็ให้ระวังจะโดนหลอกเรื่องการลงทุน ควรงดการกู้ยืมเงิน การค้ำประกัน

ความรัก :  ท่านมีความลังเล ไม่แน่ใจ ว่าคนที่อยู่กับท่านทุกวันนี้จะใช่ตัวจริงหรือไม่ อยู่ด้วยกันท่านจึงขบคิดประเด็นนี้อยู่ตลอดเวลา ทำให้ท่านกลายเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น คนโสด วันนี้คนที่จากกันไปจะกลับมาคืนดี

สุขภาพ :  จะมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร แล้วก็ตามมาเป็นแพ๊คมีทอลซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  จะมีอุปสรรคและปัญหาที่หนักหนาเกินกว่าจะแก้ไขได้ทันท่วงที ท่านจึงรู้สึกร้อนรุ่ม อึดอัดกับการทำงาน ทั้งบรรยากาศภายในองค์กร เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน  จนอยากจะลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านที่ดิน การเกษตร แต่ระวังความเชื่อมั่นในตัวเองจะทำให้ตัดสินใจในการประกอบอาชีพผิดพลาด

การเงิน :  วันนี้ก็เช่นกัน อาจเพราะนำไปลงทุนเรื่องบ้านจนหมด หรือที่ดินที่ได้เป็นมรดกอาจมีปัญหา ซึ่งท่านก็ไม่สามารถหันหน้าไปพึ่งใครได้

ความรัก :  อาจมีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาวุ่นวาย ไม่แน่เขาอาจมาถึงบ้าน หรือคู่ท่านอาจไปซื้อบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่กับใครก็ไม่รู้ คนโสด มีพฤติกรรมน่าสงสัยและอารมณ์รุนแรง ตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ก็ดีค่ะ จะได้ตัดสินใจง่ายหน่อย

สุขภาพ :  หากท่านดื่มและสูบ ควรเพลาลงหน่อย เพราะจะทำให้เกิดเจ็บป่วยอย่างกระทันหันและร้ายแรง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : ท่านได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการเรื่องเกี่ยวกับเรือกสวนไร่นา ผลิตผลทางเกษตร ซึ่งท่านขยัน ทำงานหนัก นอกจากงานตัวเองแล้วก็ยังช่วยงานคนอื่นด้วย

การเงิน :  จะหมดกับการทำบุญทำกุศล และใช้จ่ายเพื่อเลี้ยงบริวาร หรือผู้ใต้บังคับบัญชาจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : วันนี้คู่จะสามารถบริหารจัดการเรื่องทรัพย์สินที่ดิน เรือกสวนไร่นา แทนท่านได้ ซึ่งจะนำความร่ำรวยมาให้ คนโสด มีคนมากมายพร้อมที่จะหยิบยื่นความรักให้ วันนี้ท่านจะเลือกเด็กดี ตั้งใจ และขยันทำงาน

สุขภาพ :  ทานอาหารเยอะก็จริง แต่ไม่ได้ถูกสุขลักษณะเลย ระวังจะเป็นโรคขาดสารอาหาร

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  เหมาะกับการทำงานด้านการติดต่อประสานงาน ต้องใช้สติ ความสามารถในการประนีประนอม วันนี้ท่านกำลังอยู่ในภาวะที่ต้องตัดสินใจหรือมองหาคำตอบ และค้นหาเป้าหมายในสิ่งต่างๆ ก่อนที่จะลงมือกระทำ ซึ่งวันนี้ท่านสามารถใช้เซ้นส์ตัวเองได้เลย หรือจะเป็นหมอดูก็ได้

การเงิน :  ใช้เงินเก่ง จะหมดไปกับการช่วยเหลือผู้คน ทั้งญาติสนิทมิตรสหาย คนใกล้ชิด จนเก็บเงินไม่ได้

ความรัก : ท่านอาจแบกรับความรับผิดชอบชีวิตคนในบ้านมากไป แล้วแต่ละคนก็ขยันหาเรื่องมาให้จริงๆ ถึงเวลาที่ท่านจะต้องเลือกเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เพราะไม่เช่นนั้นท่านจะแย่ คนโสด พยายามมองคนอายุมากๆ เข้าไว้ หากเป็นต่างชาติด้วยแล้ว ใช่เลย

สุขภาพ : ระวังหกล้ม บาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลังตั้งแต่สะโพกลงมา

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  เป็นช่วงเวลาที่ท่านต้องเอาชนะอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ที่ท่านรับผิดชอบอยู่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับงานทางด้านศิลปะศิลปิน บันเทิงเริงรมย์ ความสวยงาม ซึ่งอาจเป็นงานบุญงานกุศล แม้จะต้องใช้เวลานาน แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

การเงิน :  ได้เหงื่อจึงจะได้มา แต่พยายามอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ชื่อเสียงท่านมัวหมอง

ความรัก : วันนี้ท่านอาจถูกผู้หวังดี แต่ประสงค์ร้ายปลุกกระแสว่า ท่านเป็นกิ๊กกับเจ้านาย หรือหัวหน้างาน หรือคนที่อยู่ในสังคมชั้นสูง จริงหรือไม่ก็ต้องดูกัน  คนโสด  ท่านอาจต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะครอบครัวของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นประมาณไฮโซโบใหญ่

สุขภาพ :  ทานอาหารที่สะอาด ถูกหลักอนามัยหน่อยนะคะ เพราะเสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และลำไส้อักเสบได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : วันนี้ท่านอาจทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่ง หรืองานสารพัดช่าง ซึ่งท่านกำลังวางแผนที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่และท้าทาย หากยิ่งเกี่ยวกับการเจรจาประชาสัมพันธ์จะยิ่งเหมาะกับท่านมาก

การเงิน :  ไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินเท่าไหร่ เพราะท่านได้รับการดูแลจากทางบ้านอยู่แล้ว

ความรัก : ค่อนข้างโชคดีเรื่องครอบครัว สามีลูกหลานดูแลท่านอย่างดี อาจกำลังวางแผนจะต่อเติมบ้านกันในเร็วๆ นี้    คนโสด ท่านบุคลิกดี ช่างพูดช่างคุย จึงมีคนเข้ามามากมาย แต่ท่านโลเลจึงทำให้เลือกผิดอย่างไม่น่าให้อภัย

สุขภาพ : ระวังจะมีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลัง ทำให้ปวดหลัง กล้ามเนื้ออักเสบได้

 

15 ชุดแต่งงานแบบสั้น จากโอต์ กูตูร์ รันเวย์ ซีซั่นนี้ ที่จะเพิ่มลุคให้เจ้าสาวสวยแพง!

account_circle

รวบรวมแฟชั่นโอต์ กูตูร์ มาให้ชมอย่างต่อเนื่องกับ ชุดแต่งงานแบบสั้น ที่สวยไม่แพ้ทรงบอลกาวน์เลยล่ะ

ถ้าลองเปลี่ยนดีไซน์เป็น ชุดแต่งงานแบบสั้น จะทำให้เจ้าสาวสวย ยิ้มรับพร้อมความมั่นใจ เดินบนรองเท้าส้นสูงได้อย่างสบายใจและสง่างาม จะดีกว่าชุดแต่งงานทั่วไปหรือเปล่านะ?

เพราะการเลือกชุดแต่งงานต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์ที่ใช่ หรือสไตล์ที่ชอบ รูปแบบการจัดงาน และงบประมาณ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความสบายใจของบ่าวสาวมากกว่า ในความเป็นจริงแล้ว ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ เอ-ไลน์ หรือเมอร์เมด ที่มักมีดีไซน์ที่ฟูฟ่อง ใหญ่ โตอลังการ มักจะทำให้ชุดแต่งงานมีน้ำหนักที่มากตามมาเช่นกัน อีกทั้งเจ้าสาวยังต้องสวมรองเท้าส้นสูง เพื่อเสริมบุคลิกให้ดูดี สง่างาม ซึ่งโดยรวมแล้วเจ้าสาวก็ต้องมีการเตรียมตัวอย่างมาก เพื่อที่จะสามารถยืนสู้กับน้ำหนักของชุดและความสูงของรองเท้าได้ตลอดงานที่ต้องยืนไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมงอีกด้วย ดีไม่ดีอาจทำให้เจ้าสาวเป็นลมระหว่างงานก็ได้นะ

และจากแฟชั่น Haute Couture Fall/Winter 2018-2019 ที่จัดไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2561 ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ผ่านมา ที่นอกจากนี้จะมีชุดแต่งงานและเดรสยาวๆ มาให้ชมกันแล้ว ยังมี ชุดแต่งงานแบบสั้น ที่มีดีไซน์เน้นความเรียบหรู แต่สวยโดดเด่นด้วยสไตล์โมเดิร์นมินิมอล สามารถเดินได้อย่างคล่องตัวและเฉิดฉายอีกด้วย เห็นแล้ว แพรว wedding จึงไม่พลาดเก็บภาพจากรันเวย์มาฝากทุกคนให้ได้หลงใหลไปกับทั้ง 15 ชุดนี้ รับรองได้ว่าจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณสวยพลิ้วไหวไปตามท่วงจังหวะการเดินและความเบาบางของผ้า จากดีไซน์หลักของชุดทรงเอ-ไลน์ ที่สวมใส่เข้ากันได้กับทุกคนแน่นอน!

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Alexis Mabille

เลอค่าดังเจ้าหญิง กับเดรสคอสูง เพิ่มความอ่อนโยนด้วยผ้าซีทรูลูกไม้ในท่อนบน และกระโปรงพองยาวพอดีตัว ใช้ลูกเล่นลายผ้าให้ชุดมีกลิ่นอายของความโมเดิร์น

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Alexis Mabille

โดดเด่นด้วยการใช้ผ้าลูกไม้ ดีไซน์ของชุดเหมาะสำหรับงานวิวาห์ริมทะเล หรือสไตล์โบฮีเมียน พร้อมความยาวของกระโปรงแบบทรงทีเล้นจ์ และความพลิ้วไหวของผ้าช่วยอำพรางหุ่นให้เจ้าสาวดูผอมเพรียวอีกด้วย

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจากซ้ายไปขวา Christian Dior และ Fendi

ชุดมาในโทนสีนู้ดแสดงถึงความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ท่อนบนเผยเรียวแขน และสัดส่วนช่วงเอว เพื่อให้บาลานซ์กับกระโปรงที่พองให้ดูเข้ากัน

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Fendi

เผยความมั่นใจอย่างผู้หญิงยุคใหม่กับเสื้อคล้องคอ อวดช่วงไหล่ที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม เสริมบุคลิกให้สง่ากับเสื้อตกแต่งด้วยขนนก รับกับกระโปรงซ้อนเป็นเลเยอร์

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Georges Hobeika

ชิคๆ เปี่ยมไปด้วยความเลิศหรูกับชุดเดรสสองส่วน จากสองโทนสีพาสเทลชวนฝัน เสื้อแขนยาวที่เข้ารูปช่วยเสริมบุคลิกกับกระโปรงทรงเอไลน์ที่ช่วยทำให้มีลุคอ่อนหวาน

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Georges Hobeika

เรียบหรู โดดเด่นจากคริสตัลที่ประดับเรียงรายเป็นแนวเส้นบนเดรสสั้นแบบแขนยาว พร้อมกระโปรงแบบมินิสเกิร์ตอวดเรียวขา แบบนี้สิมินิมอลแต่สวยแพงเบาๆ

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Georges Hobeika

เพิ่มความเบาบางของผ้า และความระยิบระยับจากกลิตเตอร์ กับชุดเดรสจัมพ์เอวที่ช่วยเสริมท่อนบนและเอวให้ดูโดดเด่น และยังทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้น แมตช์กับกระโปรงที่ยาวกำลังพอดี ฟูฟ่องได้ลุคคุณหนู

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
จากซ้ายไปขวา เดรสจาก Eva Minge และ Ulyana Sergeenko

สไตล์คลาสสิคอย่างทรงเกาะอกให้ลุคที่แฝงไปด้วยความเย้ายวนและน่ารักไปพร้อมๆ กัน เผยเอกลักษณ์ของเจ้าสาวด้วยดีไซน์ของกระโปรงที่เก๋ไก๋

 

ชุดแต่งงานแบบสั้น
เดรสจาก Ulyana Sergeenko

ความเบาบางจากผ้าซีทรูและผ้าชีฟอง ช่วยทำให้เจ้าสาวดูละมุน ใช้ผ้าคาดเอวเพื่อเน้นสัดส่วนให้ชัดเจน กระโปรงเล่นเลเยอร์จากการจับผ้าที่ไม่เท่ากัน ทำให้เจ้าสาวเต็มไปด้วยเสน่ห์

 

เมื่อเลือกชุดแต่งงานได้เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเลือกรองเท้าให้เข้ากันด้วยนะ กับ รองเท้าเจ้าสาว 40 แบบที่สวยเริดจนเจ้าสาวไม่อยากถอด 

ภาพจาก Georges Hobeika/ Vogue/ nowfashion/ WWD

keyboard_arrow_up