เมื่อพูดกล่าว ‘ผ้าทวีด’ เชื่อว่าหลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ที่จะนึกถึง ชาเนล เพราะเป็นไอคอนิคที่อยู่คู่กับแบรนด์มาอย่างยาวนาน ซึ่งผ้าทวีดถูกรังสรรค์ขึ้นครั้งแรกสำหรับแจ๊กเก็ตของบุรุษ และภายหลังได้ถูกนำมาตัดเย็บในชุดของสตรี รวมไปถึงผ้าทวีดยังปรากฏในแอคเซสเซอรี่ต่างๆ อาทิ กระเป๋า และ รองเท้า จนกระทั่งในปี 2020 ที่ผ้าทวีดได้โลดแล่นเข้ามาสู่โลกจิเวลรี่ครั้งแรกของ ชาเนล
Tweed de Chanel คอลเล็คชั่นไฮจิเวลรี่ที่อุทิศให้กับ ผ้าทวีด ไอคอนิคของแบรนด์
โดยคอลเล็คชั่นแรกเริ่มจากจิเวลรี่ 45 ชิ้นสุดพิเศษที่ทุ่มเทให้กับเนื้อผ้าชนิดนี้ โดย ปาทริซ เลอเกโร ผู้อํานวยการสตูดิโอสร้างสรรค์ไฟน์จิเวลรี่ของชาเนลได้เปิดตํานานบทใหม่ของชาเนลไฮจิวเวลรีด้วย ‘TWEED DE CHANEL’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากความมีชีวิตชีวาของผ้าทวีดและการเปลี่ยนผ้านี้ให้กลายเป็นแพรพรรณอันลํ้าค่า
ในปี 2023 ปาทริซ เลอเกโร หวนคืนสู่ความมหัศจรรย์ของผ้าทวีดเป็นครั้งที่สองพร้อมกับการสร้างสรรค์ไฮจิวเวลรี่ 63 ชิ้นขึ้นมาใหม่ โดยในคอลเล็คชั่นนี้ชู 5 ไอคอนอันเป็นที่รักของ กาเบรียล ชาเนล ได้แก่ ริบบินสีขาว ดอกคามิลเลียสีชมพู ดาวหางบนพื้นหลังสีนํ้าเงิน ดวงอาทิตย์สีเหลือง และสิงโตที่ขับเน้นด้วยประกายแสงสีแดง
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเครื่องประดับชั้นสูงซึ่งเป็นหัวใจของคอลเล็คชั่นนี้คือ สร้อยคอ TWEED ROYAL สร้อยคอแบบแผงประดับหน้าอกถักทอด้วยเยลโลว์โกลด์ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตและตกแต่งด้วยสายโซ่ พร้อมประดับด้วยเพชร และทับทิมอันงดงาม 37 เม็ด หัวสิงโตที่อยู่ตรงกลางสามารถใช้เป็นเข็มกลัดหรือสวมเป็นสร้อยคอบนแผงประดับหน้าอก ขณะที่เพชร D FL Type IIa นํ้างามนํ้าหนัก 10.17 กะรัตทรงลูกแพร์ก็สามารถถอดออกเพื่อสวมเป็นแหวนได้