ใครบ้างจะไม่หลงรัก! ‘ดยุกแห่งซัสเซกซ์’ ไม่โสดแต่ทำไมยังฮ็อต…ชั่วโมงนี้คงไม่มีเจ้าชายคนไหนถูกพูดถึงเท่ากับเจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษ หรือดยุกแห่งซัสเซกซ์อีกแล้ว ยิ่งตอนนี้อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน เพิ่งจะเข้าพิธีเสกสมรสกับสาวชาวอเมริกันไปหมาดๆ แต่กระแสความฮ็อตของพระองค์ก็ไม่มีตกเหมือนเมื่อครั้งยังครองตัวเป็นโสดแม้แต่น้อย
ดยุกแห่งซัสเซกซ์หรือเจ้าชายแฮร์รี่ไม่ได้ทรงมีดีแค่รูปร่างหน้าตา หรือชาติตระกูล และทรัพย์สมบัติเท่านั้น พระองค์ยังทรงเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพระทัยงดงาม ทรงทุ่มเทให้งานการกุศล ไม่ว่าจะเป็นงานที่สืบทอดต่อมาจากพระมารดาเจ้าหญิงไดอาน่า หรืองานมูลนิธิและโครงการต่างๆที่ทรงก่อตั้งขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้เมื่อปี 2016 ยังได้มีผลสำรวจความคิดเห็นของสาวอังกฤษจำนวน 1,000 คนว่าใครคือเชื้อพระวงศ์ที่ฮ็อตสุดๆ ปรากฏว่าสาวๆส่วนใหญ่พร้อมใจกันเทคะแนนให้เจ้าชายแฮร์รี่อย่างถล่มทลาย ซึ่งตามปกติเจ้าชายทรงติดอันดับเป็นหนึ่งในลิสต์ท็อปเท็นตลอดอยู่แล้ว
ใครบ้างจะไม่หลงรัก! ‘ดยุกแห่งซัสเซกซ์’ ไม่โสดแต่ทำไมยังฮ็อต
เหตุผลที่ทำให้เจ้าชายแฮร์รี่ทรงชนะใจเหล่าสาวๆได้นั้นมีมากมายหลายข้อ เอาเฉพาะแค่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นพระวรกายสูงโปร่งมาดแมน พระอังสากว้างผึ่งผาย ทรงพระสิริโฉมสไตล์หนุ่มอังกฤษ ชาติตระกูลอันสูงส่งห้อยท้ายด้วยคำว่ารัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล นอกจากนั้นยังทรงมีพระอุปนิสัย “แมนๆ” เป็นหนุ่มนักกีฬา รักการผจญภัย ท่องเที่ยวซาฟารี แถมยังทรงพระอารมณ์ดี ทรงแย้มสรวลร่าเริง ติดดิน ไม่ถือพระองค์ มีแต่ความสนุกสนานกับชีวิต
ส่วนอีกด้านของเจ้าชายแฮร์รี่คือ ทรงมีน้ำพระทัยดี มีเมตตา และทรงทุ่มเทให้งานการกุศล ช่วยเหลือทั้งเพื่อนมนุษย์ที่ด้อยโอกาส และงานด้านการอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์และพืชพรรณสิ่งแวดล้อมของโลก


ใครบ้างจะไม่หลงรัก! ‘ดยุกแห่งซัสเซกซ์’ ไม่โสดแล้ว แต่ทำไมยังฮ็อต
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 เป็นช่วงเว้นวรรค Gap Year หลังจากเจ้าชายแฮร์รี่ทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนอีตัน ขณะนั้นมีพระชันษา 20 ปี พระองค์เสด็จไปประเทศเลโซโทเป็นครั้งแรก และทรงพบกับเจ้าชายซีอีโซ ซึ่งเป็นพระอนุชาในสมเด็จพระราชาธิบดีเล็ทซีที่ 3 แห่งเลโซโท ในการเสด็จเยือนครั้งนั้นเจ้าชายแฮร์รี่เสด็จไปยังบ้านพักช่วยเหลือเด็ก Mants’ase Children’s Home เนื่องจากเลโซโทกำลังประสบปัญหามีประชากรติดเชื้อเอชไอวีสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และมีเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 37,000 คน ทั่วประเทศมีเด็กกำพร้า 360,000 คน และร้อยละ 10 ของเด็กทั้งประเทศมีสุขภาพอ่อนแอ นั่นคือครั้งแรกที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงพบกับเด็กชายมัทซู พ็อทเซ็น ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กน้อยวัย 4 ขวบ ตัวเล็กจิ๋ว เจ้าชายทรงจูงมือเด็กชายมัทซูขณะปลูกต้นไม้ที่บ้านพักช่วยเหลือเด็ก และกลายเป็นภาพประทับใจเผยแพร่ไปทั่วโลก
ความสดใสร่าเริงของเจ้าชายแฮร์รี่ทำให้ทรงเข้ากับเด็กๆได้ดี ทรงเล่นหยอกเย้าทำท่าตลกต่างๆอย่างไม่ถือพระองค์เพื่อสร้างความสนุกสนาน จึงไม่น่าแปลกที่เด็กๆจะติดเจ้าชายมาก ไม่เว้นแม้แต่เด็กชายมัทซู ซึ่งประทับใจเจ้าชายจนถึงกับเขียนจดหมายไปหาพระองค์ในภายหลัง เพื่ออัพเดตชีวิตความเป็นอยู่หลังจากที่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิที่เจ้าชายทรงก่อตั้ง และรายงานว่า “ผมโตแล้ว”
การเสด็จเยือนในครั้งนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้เจ้าชายแฮร์รี่ทรงร่วมมือกับเจ้าชายซีอีโซก่อตั้ง Sentebale ในปี 2006 เพื่อช่วยเหลือคนวัยหนุ่มสาวและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในเลโซโท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กกำพร้าที่เป็นผลมาจากเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ มูลนิธินี้เป็นการต่อยอดมาจากความสำเร็จของ British Red Cross’s Lesotho Fund ซึ่งก่อตั้งโดยเจ้าชายแฮร์รี่และเจ้าชายซีอีโซในปี 2004 และประสบความสำเร็จในการระดมเงินบริจาคได้มากมาย สามารถนำไปแบ่งสันปันส่วนให้องค์กรในชุมชนต่างๆ 18 องค์กรทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือคนหนุ่มสาวและเยาวชนที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ
นอกจากนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังทรงร่วมมือกับเจ้าชายซีอีโซสร้างศูนย์ช่วยเหลือเด็ก Mamohato Children’s Centre มูลค่า 2 ล้านปอนด์ ในแถบชนบทเล็กๆแห่งหนึ่งของเลโซโท ซึ่งประชากรร้อยละ 23 ติดเชื้อเอชไอวี และเด็ก 1 ในทุก 3 คนเป็นเด็กกำพร้า ในวันนั้นเจ้าชายแฮร์รี่ทรงพบเด็กชายมัทซูอีกครั้ง ซึ่งโตเป็นหนุ่มน้อยวัย 16 ปี เจ้าชายทรงสวมกอดมัทซูอย่างแนบแน่น และทรงหยอกเย้ากระเซ้าว่า มัทซูโตแล้วนะ แถมยังทรงแกล้งดึงหมวกของเขาเล่น แน่นอนว่านั่นยิ่งทำให้มัทซูประทับใจในตัวพระองค์มากยิ่งขึ้น เขาบอกนักข่าวว่า เป็นประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว

เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาผู้ล่วงลับ ในการช่วยเหลือเด็กๆผู้ด้อยโอกาสทั่วโลก เจ้าชายแฮร์รี่ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์แก่องค์กรการกุศลช่วยเหลือเด็กต่างๆ เช่น Well Child – องค์กรช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่เจ็บป่วยรุนแรงในอังกฤษ Dolen Cymru – องค์กรการกุศลซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเวลส์และเลโซโท ฯลฯ ราวกลางปี 2007 เจ้าชายแฮร์รี่และเจ้าชายวิลเลียมทรงจัดคอนเสิร์ต Concert for Diana เพื่อรำลึกถึงพระมารดา และนำรายได้มอบให้ Sentebale กองทุน Diana, Princess of Wales Memorial Fund และ Centrepoint ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลช่วยเหลือคนเร่ร่อนอายุระหว่าง 16 – 25 ปีในอังกฤษ
นอกจากการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนแล้ว เจ้าชายแฮร์รี่ยังทรงใส่ใจด้านกีฬา ในปี 2004 เจ้าชายทรงเข้ารับการฝึกอบรมเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนากีฬารักบี้ให้สมาพันธ์กีฬารักบี้ และทรงเป็นโค้ชฝึกสอนนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กหันมาสนใจกีฬา นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงเข้าร่วมการแข่งขันโปโลเช่นเดียวกับพระเชษฐาและพระบิดา เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่างๆอีกด้วย
งานด้านการอนุรักษ์ก็เป็นอีกแคมเปญที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงใส่พระทัย ทรงเคยห่างหายจากแวดวงสังคมในอังกฤษนานนับเดือน เพื่อไปทำหน้าที่เป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ให้โครงการ “500 Elephants” ในประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะเคลื่อนย้ายช้างหลายร้อยตัวจากพื้นที่อันตรายไปยังเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งอยู่ใจกลางของประเทศ
ข่าวว่าเจ้าชายแฮร์รี่ทรงวางองค์ติดดินมาก ทรงสวมหมวกเบสบอลและทีเชิ้ต สภาพเหมือนเจ้าหน้าที่เอ็นจีโอผิวขาวทั่วไป ทรงปฏิบัติหน้าที่ขับเฮลิคอปเตอร์ ยิงยาสลบช้าง และตกค่ำก็มานั่งร้องเพลงรอบกองไฟร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ข่าวเจ้าชายแฮร์รี่เสด็จไปทรงงานที่แอฟริกานานนับเดือนมีให้เห็นแค่นี้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่นั่นทุกคนจะปิดปากเงียบ ไม่ยอมแพร่งพรายรายละเอียดใดๆ เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าเจ้าชายแฮร์รี่ทรงหลงใหลแอฟริกามาก และทรงถือว่าดินแดนแห่งนี้คือสถานที่หลบลี้หนีความวุ่นวายของสังคม จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นพระองค์เสด็จเยือนประเทศในแถบนี้เสมอ พร้อมกับทำงานด้านการกุศลไปด้วย
อบอุ่่น ขี้เล่น และเป็นกันเองจริงๆ สำหรับเจ้าชายพระองค์นี้ เชื่อว่าถ้าพระองค์มีทายาทคงต้องเป็นพระบิดาที่คูลสุดๆไปเลยล่ะ
ที่มา : คอลัมน์ ROYAL UPDATE จากนิตยสารแพรว ฉบับ 891 ปักษ์วันที่ 10 ตุลาคม 2559
ภาพ : Getty Images,IG@princeharryofengland