ประเทศไทยเป็นประเทศที่รักความสงบ ไม่ชอบการรุกราน นั่นเป็นสิ่งที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเข้าพระราชหฤทัยและตระหนักรู้เกี่ยวกับประเทศไทยเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นพระองค์ก็ได้ตรัสว่า การมีกำลังรบย่อมเป็นสิ่งจำเป็น
ในสังคมยุคใหม่ ภาพทหารรบราฆ่าฟัน ถือดาบ ถือปืน อาจเป็นภาพที่ไม่ค่อยคุ้นตาหรือเห็นได้น้อยสำหรับใครหลายๆ คน ด้วยมีเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษาที่เข้ามาเป็นตัวแข่งขัน เพื่อพิชิตความเป็นที่หนึ่งหรือขัดเกลาความสามารถให้เก่งและชำนาญขึ้นแทนเสียมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหน้าที่ของเหล่าทหารผู้กล้า ผู้เข้มแข็งจะลดน้อยลงหรือมีความสำคัญน้อยลงแต่อย่างใด


ย้อนไปในวันที่เหล่าพสกนิกรไทยเฝ้าถวายสักการะพระบรมศพ เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 ณ ท้องสนามหลวง หลายคนคงได้เห็นภาพเหล่าทหารผู้จงรักภักดีปฏิบัติหน้าที่อารักขาขบวนพระบรมศพริมถนนเป็นจำนวนมาก บางนายมีน้ำตาซึม บางนายยืนโครงเครงตากแดดคล้ายจะเป็นลม แต่ก็ยังใจสู้ตั้งมั่นยืนตรงทำหน้าที่สุดท้ายเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้สำเร็จ หรือแม้แต่เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ อย่างเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในช่วงปี พ.ศ.2554 ทหารก็เป็นหนึ่งหน่วยอาสาที่เข้ามาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนชาวไทย และที่สำคัญคือ ปกป้องดูแลประเทศชาติให้สงบร่มเย็น ดังที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่เหล่าทหารในวันกองทัพบก เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2499 ไว้ดังนี้
“…หลักสำคัญอันแรกที่ทหารทุกคนต้องระลึกถึงอยู่เสมอ คือความหมายและหน้าที่ของทหาร ประเทศเราเป็นประเทศที่รักความสงบ ไม่ชอบการรุกราน แม้กระนั้นก็ดี การมีกำลังรบย่อมเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบและอิสรภาพของประเทศ เมื่อทหารมีไว้สำหรับประเทศชาติ ทหารก็ต้องเป็นของประเทศชาติ หาใช่เป็นของบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ โดยเฉพาะไม่…”
(พระบรมราโชวาท พระราชทานในวันกองทัพบก
25 มกราคม 2499)
นับว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใส่พระราชหฤทัยและทรงปกครองดูแลประเทศไทยทุกด้านเลยจริงๆ วันนี้แพรวจึงได้รวมพระบรมฉายาลักษณ์ที่พ่อหลวงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมาให้ได้ชมกัน
ภาพ : นิตยสารแพรว ปีที่ 33 ฉบับที่ 774 (25 พ.ย. 54), Facebook – Jakawin Photography,ด.ญ.พฤกษชาติ เชิดฉาย, Supitcha Prakham