เชื่อว่า คนไทย ไม่ว่าจะอยู่บนแผ่นดินไทยหรือแผ่นดินนอก ต้องเคยได้อ่านหรือได้ยินพระราชดำรัสทรงคุณค่าที่ว่า “…ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” มาแล้วแน่ๆ
ทว่าจะมีสักกี่คนที่เคยอ่านพระราชดำรัสนี้แบบเต็มๆ ประโยค วันนี้แพรวขออัญเชิญความตอนนี้ซึ่งอยู่ในพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีไปถึงพระสหายในต่างประเทศ ภายหลังจากที่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ดังนี้
“…เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนอยู่ในยุโรป ข้าพเจ้าไม่เคยตระหนักว่าประเทศของข้าพเจ้าคืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าแค่ไหน ไม่ทราบตราบจนกระทั่งข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะรักประชาชนของข้าพเจ้า เมื่อได้มีการติดต่อกับเขาเหล่านั้น ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าสำนึกในความรักอันมีค่ายิ่ง ข้าพเจ้าไม่เป็นโรคคิดถึงบ้านที่จริงจังอะไรนัก แต่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้โดยการทำงานที่นี่ว่า ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง…”
นั่นทำให้เราคนไทยมีภาพความทรงจำแสนคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก ประทับยืน หรือนั่ง อยู่ท่ามกลางประชาชน และหลายครั้งก็ทรงคุกพระชานุต่อหน้าพสกนิกรของพระองค์ กระทั่งมีคำพูดว่า ไม่มีพื้นที่ตารางนิ้วไหนของประเทศไทยที่พระองค์ไม่ได้เสด็จฯไป
กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์หนึ่งเดียวในโลกที่ไม่สมัครพระทัยอยู่แต่ในปราสาทราชวัง แต่ทรงเลือกที่จะดูแลทุกข์สุขของประชาชนแบบลงพื้นที่ด้วยพระองค์เอง ภาพพระเสโทหยดริน พระวรกายเปียกชุ่มจากสายฝน ทั้งบุกป่าฝ่าดง ไม่เว้นแม้กระทั่งยามค่ำคืน
คนไทย โชคดีนัก เพราะไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ไหนในโลกนี้ที่จะทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรได้เทียบเทียมพระองค์อีกแล้ว
และหากนับว่าวันที่พระองค์เสด็จฯขึ้นครองราชย์ยังทรงเป็นยุวกษัตริย์ ด้วยทรงมีพระชนมายุยังไม่เต็ม 19 พรรษาดีนัก ย่อมกล่าวได้ว่าตลอดห้วงแห่งการครองราชย์ 70 ปี พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อความกินดีอยู่ดีของอาณาประชาราษฎร์มาตลอดพระชนมายุ สมดังพระราชหัตถเลขาที่เปรียบประหนึ่งพันธะสัญญาที่ว่า…
ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง อย่างแท้จริง