นอกจากเจ้าชายแฮร์รี่ และ อาร์ชี จะเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของ ดัชเชสเมแกนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคนสำคัญที่เป็นทุกอย่างในชีวิตคือ ดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ที่คอยอยู่เคียงข้างดัชเชสเมแกนทั้งยามทุกข์ และ ยามสุข
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ หนึ่งในนั้นที่กล้องจับภาพตลอดเวลาจนได้โมเม้นต์สุดประทับใจ ไม่ต่างกับ แครอล มิดเดิลตัน พระมารดาของดัชเชสเคท ในปี 2011 คือ ดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ของดัสเชสเมแกนที่กำลังยิ้มอย่างปลื้มปิติ และอิ่มใจที่ได้เห็นลูกสาวกำลังมีความสุขในวันสำคัญที่สุดในชีวิต

ดอเรีย แร็กแลนด์ เป็นบุตรสาวของ นางเจเนตต์ อาโนลด์ กับสามีคนที่สอง นายอัลวิน แร็กแลนด์ เธอมีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งทำให้ดัชเชสเมแกนทรงมีเชื้อสายนี้ด้วย ตามประวัติของตระกูลแร็กแลนด์นั้นว่ากันว่าสืบเชื้อสายมาจากชาวอเมริกัน-แอฟริกันที่ถูกจับไปเป็นทาสในประเทศจอร์เจีย เดิมครอบครัวแร็กแลนด์อาศัยกันอยู่ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ก่อนย้ายไปลอสแอนเจลิสในเวลาต่อมา โดยเด็กหญิงแร็กแลนด์เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนแฟร์แฟกซ์ ไฮสคูล

ด้วยนิสัยสดใส ร่าเริง ทำให้เธอเข้ากับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันได้ดี หลังจากเรียนจบไฮสคูล ดอเรียเริ่มอาชีพแรกด้วยการเป็นช่างแต่งหน้า และได้เข้าไปเป็นพนักงานในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Genaral Hospital ที่นี่เองที่ทำให้เธอได้พบรักกับนายโทมัส มาร์เคิล กระทั่งแต่งงานกันในปี 1979 และได้ถือกำเนิดลูกสาวตัวน้อย เมแกน มาร์เคิล ในปี 1981 และยังเป็นลูกสาวคนเดียวของเธออีกด้วย


แต่ชีวิตคู่ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ใจหวัง อีกแปดปีต่อมาเธอได้หย่าร้างกับนายโทมัส มาร์เคิล ในขณะที่ลูกสาวมีอายุเพียง 6 ขวบ ดัชเชสเมแกนทรงอยู่ในความดูแลของดอเรียนับแต่นั้น แต่เธอก็ให้ลูกสาวติดต่อพ่อได้อย่างสม่ำเสมอ
สองแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตามอัตภาพ โดยดอเรียครองตัวเป็นโสดมานับแต่หลังการหย่าจนถึงปัจจุบัน ครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าว่ามีความสุขมากที่ได้ดูแลนางฟ้าตัวน้อยๆ การได้เห็นเด็กหญิงเมแกนเติบโตขึ้นทุกวันคือคุณค่าของการเป็นมนุษย์แม่ แม้จะต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ตาม
นอกจากอาชีพช่างแต่งหน้า และพนักงานในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์แล้ว ดอเรียยังทำงานอีกหลายหลายอาชีพ เช่น แอร์โฮสเตส และในวัย 62 ปี เธอยังเป็นครูสอนโยคะ และเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เธอให้ความสำคัญอย่างมากในด้านงานช่วยเหลือสังคม เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ของดัชเชสแห่งซัสเซกส์ที่ว่า ในตอนที่พระองค์ยังเป็นเด็กนั้น แม่ของพระองค์เป็นนักบำบัดทางจิตให้กับผู้ที่ต้องการปรึกษาฟรี แม่ของพระองค์มุ่งเน้นการทำงานให้กับคนในพื้นที่ยากจน และยังสอนพระองค์ให้รู้จักคำว่าให้ และเป็นที่มาให้พระองค์เขียนใน The Tig บล็อกส่วนตัวในปี 2016 ว่า “การซื้อไก่งวงให้กับคนไร้บ้านในวันขอบคุณพระเจ้า นำอาหารไปให้กับผู้ป่วย หรือจะเป็นการกอด การยิ้ม ถือเป็นการให้กำลังใจต่อคนอื่นที่ไม่ต้องลงทุน ลงแรงมากมายอะไร”
เรียกได้ว่านางดอเรียคือต้นแบบที่สอนดัชเชสเมแกนให้ทรงรู้จักการให้ และถึงแม้จะมีกระแสข่าวโจมตีเรื่องถูกเหยียดหยาม จงเกลียดจงชังด้านเชื้อชาติอย่างหนัก หลังจากที่มีข่าวเจ้าชายแฮร์รี่ทรงหมั้นหมายกับลูกสาวเธอ แต่นางดอเรียก็ยังคงทำงานเป็นนักจิตบำบัดอยู่ที่ศูนย์สุขภาพ Didi Hirsh ควบกับการเป็นครูสอนโยคะที่เมืองคัลเวอร์ รัฐแคลิฟอเนียร์ จนถึงปัจจุบัน

นอกจากเรื่องงานที่นางดอเรียตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เธอไม่คิดทิ้งคือเรื่องเรียน ถึงแม้อายุจะล่วงเลยจนเข้าวัยสูงอายุแล้วก็ตาม โดยเธอเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี 2015 ในหัวข้อวิชา Master of Social Work (MSW) สาขาที่เน้นด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของบุคคล และสังคม ที่มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับดัชเชสเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าด้วยความมีน้ำจิตน้ำใจเปี่ยมล้น ทำงานเพื่อผู้อื่นมาตลอด เธอจึงเป็น ‘แม่ยาย’ ที่ลูกเขยอย่างเจ้าชายแฮร์รี่ทรงให้การยอมรับอย่างแท้จริง โดยเจ้าชายเคยให้ประทานสัมภาษณ์กับ สื่อ BBC ว่า “Her mum’s amazing”(แม่ของเธอนั้นน่าทึ่ง) โดยดอเรียได้พบกับเจ้าชายแฮร์รี่ในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาอินวิคตัสเกมส์ ที่นครโตรอนโต ประเทศแคนาดาเมื่อกันยายน ปี 2016
และเมื่อครั้งที่ดัชเชสเมแกนให้กำเนิด อาร์ชี ลูกชายคนแรกนั้น คุณยายดอเรีย ก็บินมาจากอเมริกาเพื่อมาคอยมาดูแลหลานคนแรกอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก
แม้ดัชเชสเมแกนจะเจอมรสุมต่างๆ มากมาย แม้คนมากมายจะไม่ค่อยปลื้มใจเธอมากนัก แต่หนึ่งคนที่ไม่เคยห่าง ไม่เคยหนีไปไหน อยู่ด้วยทั้งยามทุกข์ และยามสุข ก็คือ แม่….
ขอบภาพและข้อมูล : http://www.dailymail.co.uk, www.townandcountrymag.com, www.thesun.co.uk, www.express.co.uk