เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย! เจ้านครดูไบ ถูกศาลตัดสิน ลักพาตัว-ข่มขู่ อดีตพระชายา

เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย! เจ้านครดูไบ ถูกศาลตัดสิน ลักพาตัว-ข่มขู่ อดีตพระชายา

account_circle

เจ้านครดูไบ “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม” ถูกศาลอังกฤษตัดสิน ลักพาตัว พระราชธิดา และ ข่มขู่ อดีตพระชายา (เจ้าหญิงฮายา) หลังจากที่พระองค์ทรงเป็นผู้ฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ดูแลลูกๆ

กลายเป็นมหากาพย์ที่ซับซ้อน ราวกับเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่ง และท้ายที่สุดก็เดินทางมาสู่ตอนจบ (หรือเปล่า) สำหรับเรื่องราวของ เจ้าผู้ครองนครดูไบ และ เจ้าหญิงฮายา หลังจากที่ “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม” ได้ยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ดูแลพระโอรส และ พระธิดา ที่เจ้าหญิงฮายาทรงพาหนีไปด้วยที่อังกฤษ

เจ้านครดูไบ

ล่าสุดศาลอังกฤษได้ตัดสินข้อหาที่ เจ้าหญิงฮายาได้ทรงกล่าวหาอดีตพระสวามีว่า ลักพาตัว, บังคับให้กลับ, ทรมาน และข่มขู่ ซึ่งทั้งหมดเป็นความจริง โดยสำนักข่าว BBC โดย ชีค โมฮัมเหม็ด ทรงพยายามที่จะไม่ให้มีการเผยแพร่คำตัดสินนี้ต่อสาธารณชน แต่ไม่สำเร็จ คำอุทธรณ์ของพระองค์ทรงถูกปฏิเสธ ศาลให้เหตุผลว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจของสาธารณชน พร้อมกับระบุว่าเจ้าผู้ครองนครดูไบทรง “ไม่เปิดเผยและซื่อสัตย์กับศาล”

ในแถลงการณ์ที่ออกมาหลังคำตัดสินได้รับการเผยแพร่ ชีค โมฮัมเหม็ด ทรงระบุว่า “ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ข้าพเจ้าไม่สามารถเข้าร่วมในกระบวนการค้นหาความจริงของศาลได้ เรื่องนี้จึงส่งผลให้มีการเผยแพร่คำตัดสินค้นหาความจริง ที่พูดถึงเรื่องราวเพียงด้านเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย! เจ้านครดูไบ ถูกศาลตัดสิน ลักพาตัว-ข่มขู่ อดีตพระชายา

เจ้านครดูไบ

พระองค์ทรงยืนกรานว่า คดีนี้เป็นเรื่องส่วนพระองค์ “ข้าพเจ้าขอให้สื่อเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกๆ ของเรา และอย่ารุกล้ำชีวิตของพวกเขาในสหราชอาณาจักร” พระองค์ทรงระบุ

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่กระฉ่อนไปทั่วโลกเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. ปี 2019 ที่ผ่านมา โดยมีข่าวรายงานว่า เจ้าหญิงฮายาได้เสด็จหนี โดยพาพระโอรสและพระธิดา พร้อมกับเงินจำนวน  £31 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.2 พันล้านบาทไปซ่อนพระองค์ยังทาวน์เฮ้าส์บนถนน Kensington Palace Gardens

ต่อมา “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม” ได้ออกมาโพสต์ประณามพระชายา ว่า “คุณได้ทรยศความไว้ใจที่มีค่ามากที่สุด” ทั้งนี้เจ้าหญิงฮายายังเผยด้วยว่า อดีตพระสวามีได้เคยตรัสกับพระองค์ว่า “เจ้าและลูกจะไม่มีวันปลอดภัย ” รวมถึง ชีค โมฮัมเหม็ดยังได้เผยแพร่บทกวีที่ชื่อว่า “You lived, you died” ซึ่งบทกวีนี้มีใจความว่า

…ความผิดบางอย่างมักถูกเรียกว่า การทรยศ และเธอได้บังอาจทรยศไปแล้ว
เธอทรยศต่อความไว้ใจ เธอได้เปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองให้ได้รู้…
ฉันไม่มีที่สำหรับเธออีกแล้ว จงไปหาคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเถิด
ฉันไม่สนใจอีกแล้ว ว่าเธอ “จะอยู่หรือตาย”…

ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงทำให้ศาลอังกฤษมองว่า ชีค โมฮัมเหม็ดนั้น ได้ใช้สื่อโซเชียลในการเผยแพร่ด้านลบของ เจ้าหญิงฮายา ซึ่งหลายบทความนั้นมีความคลาดเคลื่อนจากสิ่งที่เป็นจริง

ชีคเคาะห์ ลาติฟา

การตัดสินใจหนีของเจ้าหญิงฮายานั้นเกิดขึ้นจากการที่พระองค์ทรงหวาดกลัว และเกรงว่าชีวิตของพระองค์, พระโอรส และ พระธิดา จะไม่ปลอดภัย รวมถึงเจ้าหญิงฮายาทรงค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับการเสด็จหนีไปของชีคเคาะห์ ลาติฟา ซึ่งเป็นพระธิดาในชีค โมฮัมเหม็ด เมื่อต้นปี 2018 และถูกนำพระองค์กลับมาหลังจากถูกพบที่ชายฝั่งอินเดีย และเห็นครั้งสุดท้ายจากภาพเสวยพระกระยาหารในพระราชวัง ก่อนจะไม่มีผู้ใดได้รับรู้ข่าวคราวของพระองค์อีกเลย

ทั้งนี้ก่อนที่ เจ้าหญิงลาติฟา จะทรงหนีนั้นพระองค์ได้ทำการอัดคลิป เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงอ้างว่า “ชายคนหนึ่งว่าเกี่ยวพันกับสตรีหลายคน การเผาบ้านหลายหลังเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง การทรมาน การช่วยญาติผู้หญิงของเธอหนีออกจาก ดูไบ ยูเออี” พระองค์เล่าว่าทรงถูกขังเอาไว้ 3 ปี 4 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจหนีในครั้งนั้น โดยการอัดคลิปนี้จะเป็นหนทางสุดท้าย และเป็นหนทางเดียว ที่จะทำให้เธอมีชีวิตรอดไปได้ ซึ่งพระองค์ยังได้บอกอีกด้วยว่า “สิ้นคลิปนี้อาจจะตายไปแล้วก็ไม่รู้” 

เจ้านครดูไบ
ชีคเคาะห์ ชัมซา

รวมถึงก่อนหน้านี้ พระธิดาอีกพระองค์ของเจ้าผู้ครองนครดูไบ “ชีคเคาะห์ ชัมซา” ก็ทรงถูกนำพระองค์กลับประเทศหลังจากเสด็จหนีและถูกพบที่เมืองเคมบริดจ์ เมื่อปี 2000 ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า “ชีคเคาะห์ ชัมซา” ถูกฉีดยาสลบและถูกพาตัวกลับมาดูไบอย่างไม่เต็มใจ

ทั้งนี้ ชีค โมฮัมเหม็ด ได้ทรงอธิบายและตรัสกับ เจ้าหญิงฮายาว่า พระธิดาทั้งสองไม่เป็นอะไร และตอนนี้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามในกระบวนการไต่สวนของชั้นศาลมีการเผยว่า

“ในช่วงต้นปี 2019 เจ้าหญิงฮายา ทรงเริ่มสงสัยและแสดงความกังวล พระองค์ยังได้ทรงเป็นชู้กับองครักษ์ชาวอังกฤษด้วย สายลับของ เชค โมฮัมเหม็ด จึงเริ่มการข่มขู่ และศาลได้รับฟังว่า มีการวางปืนไว้บนพระเขนย (หมอน) ของพระองค์ 2 ครั้ง มีเฮลิคอปเตอร์ลงมาจอดที่ด้านนอกพระตำหนักพร้อมด้วยคำขู่ว่าจะพาพระองค์ไปไว้ที่เรือนจำในทะเลทรายอันห่างไกล”

การกระทำเช่นนี้ของ “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม” จึงทำให้ศาลมองว่า พระองค์ทรงกำลังข่มขู่ และทำให้เจ้าหญิงฮายา อดีตพระชายา ทรงหวาดกลัว รวมถึงยังให้ผู้อื่นกระทำเหตุการณ์ดังกล่าวแทนพระองค์ด้วย

นอกจากนี้ พระองค์ยังถูกตัดสินว่า มีส่วนในการลักพาตัว พระธิดาทั้ง 2 พระองค์ คือ ชีคเคาะห์ ลาติฟา และ ชีคเคาะห์ ชัมซา และบังคับให้กลับดูไบ จากการที่พยานจำนวนมากได้ขึ้นให้การ

การตัดสินของศาลอังกฤษซึ่งผลออกมาเป็นแบบนี้ทำให้ เจ้าครองนครดูไบ (ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตูม) ทรงอับอายมาก ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่พระองค์ไม่อยากให้มีการเผยแพร่คำตัดสินนี้สู่สาธารณชน

เจ้านครดูไบ

ทั้งนี้พระองค์ยังได้ออกมาแถลงการณ์ภายหลังที่ศาลได้มีการตัดสินคดีดังกล่าวว่า “การอุทธรณ์ทำขึ้นเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์และสวัสดิภาพของลูกๆ คำตัดสินนี้ไม่ได้คุ้มครองลูกๆ ของข้าพเจ้าจากความสนใจของสื่อในแบบที่เด็กคนอื่นๆ ในครอบครัวที่ดำเนินการในชั้นศาลในสหราชอาณาจักรได้รับความคุ้มครอง”


ข้อมูล : BBC, BBC THAI

ภาพ : Getty Image

Praew Recommend

keyboard_arrow_up