5 เหตุการณ์เดือนตุลาฯ แห่งความทรงจำ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มหาราชแห่งแผ่นดิน… นับตั้งแต่เดือนตุลาคมเมื่อปี พ.ศ. 2559 ความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติก็ไม่เหมือนเดิม และคงเป็นเดือนแห่งความทรงจำที่ทุกคนระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งอย่าง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
อีกทั้งจะเป็นความบังเอิญหรือชะตาลิขิตก็คงไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะนับตั้งแต่ที่พระองค์ทรงดำรงสถานะพระมหากษัตริย์แห่งสยามประเทศ ก็มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับพระองค์ในเดือนตุลาคม ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ถูกจารึกไว้ในพระราชประวัติของพระองค์ และประวัติศาสตร์ของไทยด้วย
3 ตุลาคม พ.ศ. 2491 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จประทับยังต่างประเทศ ขณะที่พระองค์ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเฟียส ทอปอลิโน จากเจนีวาไปยังเมืองโลซานน์ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกกระเด็นเข้าพระเนตรขวา พระอาการสาหัส หลังการถวายการรักษา พระองค์มีพระอาการแทรกซ้อนบริเวณพระเนตรขวา แพทย์จึงถวายการรักษาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง หากแต่พระอาการยังคงไม่ดีขึ้น กระทั่งวินิจฉัยแล้วว่าพระองค์ไม่สามารถทอดพระเนตรผ่านทางพระเนตรขวาของพระองค์เองได้ต่อไปแล้ว จึงได้ถวายการแนะนำให้พระองค์ทรงพระเนตรปลอมในที่สุด
22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ทรงผนวช
หลังจากเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงออกผนวชเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงได้รับฉายาว่า ภูมิพโลภิกขุ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จฯไปประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างที่ผนวชนั้น พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
โดยระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศพระภิกษุ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เช่น เสด็จลงพระอุโบสถทรงทำวัตรเช้า–เย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรมและพระวินัย นอกจากนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพิเศษอื่นๆ อีกด้วย
14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ทรงระงับเหตุความรุนแรงทางการเมือง
ในตลอดรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองขึ้นอยู่หลายครั้ง ซึ่งแม้พระองค์ทรงดำรงสถานะของการเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ตาม แต่เมื่อใดที่ความรุนแรงเกิดขึ้นจนทำให้ประชาชนต้องบาดเจ็บ พระองค์จะทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาช่วยบรรเทาและระงับให้เหตุการณ์สงบลง อย่างเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ก็ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งทางสถานีโทรทัศน์ว่า
“วันนี้เป็นวันมหาวิปโยคที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลา 7-8 วันที่ผ่านมาได้มีการเรียกร้องและเจรจากันจนกระทั่งนักศึกษาและรัฐบาลทําความตกลงกันได้ แต่แล้วการขว้างระเบิดขวดและยิงแก๊สน้ำตาขึ้น ทําให้เกิดการปะทะกันและมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีขึ้นทั้งพระนคร ถึงขั้นจลาจลและยังไม่สิ้นสุด มีคนไทยด้วยกันต้องเสียชีวิตนับร้อย ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้ง เพื่อให้ชาติบ้านเมืองคืนสู่สภาพปกติเร็วที่สุด
13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เสด็จสวรรคต


26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
