พบกับ 4 เรือนเวลา จากแบรนด์หรูที่มาพร้อมความหรูหราพร่างพรายของสุดยอดเรือนเวลา ที่มากับความเลอค่าของอัญมณีน้ำงามและศิลปะการสร้างสรรค์ดั่งงานศิลป์ชิ้นเอกบนข้อมือ
พบกับ 4 เรือนเวลา แบรนด์หรู ที่เต็มไปด้วยศิลปะการสร้างสรรค์ ดั่งงานศิลป์ชั้นเอก
MÉTIERS D’ART THE LEGEND OF THE CHINESE ZODIAC
นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่รังสรรค์เรือนเวลาปีนักษัตรออกมาให้ชมกันเสมอ และในปีเถาะ 2023 Vacheron Constantin (วาเชอรอง กองสตองแตง) นำเสนอ เรือนเวลาขนาด 40 มิลลิเมตร กลไกคาลิเบอร์2460 G4 สองเวอร์ชั่น แบบ ตัวเรือนโรสโกลด์18K ลงตัวกับพื้นหน้าปัดสีน้ำตาลลุ่มลึก กับแบบตัวเรือนแพลทินัม พื้นหน้าปัดสีน้ำเงิน
โดยความพิเศษอยู่ที่การนำรูปแบบงานศิลปะการตัดกระดาษ ของจีนโบราณ “Jianzhi” (เจี๋ยนจื่อ) มาสร้างสรรค์เป็นลวดลายเครือเถาและดอกไม้ บนพื้นหน้าปัด โดยตัวกระต่ายรังสรรค์งานฝีมือแกะสลักจากแพลทินัมและโรสโกลด์ วัสดุเดียวกับตัวเรือน เมื่อผสมผสานกับการเคลือบสีลงยาด้วยเทคนิค “Grand Feu” (กรองด์เฟอ) ยิ่งทำให้สีหน้าปัดมีความหรูหราโดดเด่นขึ้นอีก เพื่อไม่ให้ตำแหน่งบอกเวลาบดบังความงดงามของหน้าปัด ช่องแสดงเวลา จึงติดตั้งอยู่ที่มุมทั้งสี่ โดยช่องหน้าต่างมุมบนฝั่งซ้ายทำหน้าที่แสดงชั่วโมงแบบ “Jumping Hour” (จัมปิงอาวร์) ขณะที่ฝั่งขวาแสดงนาที มุมล่างซ้ายระบุวัน ส่วนมุมล่างขวาแสดงวันที่ มาในสายหนังจระเข้โทนสีเข้ากันกับพื้นหน้าปัด ตัวล็อก วัสดุเดียวกับตัวเรือน ที่สำคัญแต่ละเวอร์ชั่นผลิตเพียง 9 เรือนเท่านั้น
AQUANAUT LUCE “RAINBOW” CHRONOGRAPH
นับตั้งแต่เปิดตัวในปีค.ศ.2004 รุ่น “Aquanaut Luce” ก็สร้างความสำเร็จ อย่างล้นหลามในหมู่สุภาพสตรีที่หลงใหลสไตล์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะ สง่างาม สำหรับทุกโอกาส โดยมีประกายเพชรอันเจิดจรัสประดับตกแต่งไว้บนขอบตัวเรือน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Luce” ในภาษาอิตาลีที่หมายถึงแสง สำหรับ Aquanaut Luce “Rainbow” Chronograph Ref. 7968/300R มากับตัวเรือนโรสโกลด์18 กะรัต ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.9 มิลลิเมตร ติดตั้ง กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์CH 28-520 พร้อมดิสก์คลัตช์แนวตั้ง รวมถึงหน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟ 60 นาทีขนาดใหญ่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
โดยในขณะที่เข็มจับเวลาโครโนกราฟอยู่ ยังสามารถใช้เป็นเข็มแสดงวินาทีต่อเนื่องได้ ด้วยปุ่มกด ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งควบคุมฟังก์ชันฟลายแบ็ก (Flyback Function) ทำให้สามารถเริ่มต้นการจับเวลาครั้งใหม่ได้ในทุกเวลา นอกจากฟังก์ชันที่เหนือระดับ ยังมีความพร่างพรายของอัญมณีล้ำค่าประดับ ตกแต่งบนขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมด้วยอัญมณีบาแก็ตต์คัต (Baguette-cut) สองแถว แถวในประกอบด้วยเพชรสีขาวไร้ตำหนิหายากระดับ Top Wesselton จำนวน 40 เม็ด (2.05 กะรัต) ส่วนแถวนอกที่มีมุมเอียงเล็กน้อยเจิดจรัสไปด้วย แซปไฟร์40 เม็ดในหลากหลายเฉดสี(2.31 กะรัต) ซึ่งการจัดวางอัญมณีในรูปแบบ
สองแถวนี้ Patek Philippe เลือกใช้เทคนิคประดับตกแต่งแบบ ไร้หนามเตย โดยประดับไว้บน “รางโลหะ” (Metal Rails) ที่มอง ไม่เห็นจากด้านนอก ลงตัวกับหน้าปัดเปลือกหอยมุก แกะสลัก ด้วยลวดลายต้นตำรับของ Aquanaut พร้อมทั้งมาร์กเกอร์ชั่วโมง ทำจากโรสโกลด์ ประดับด้วยแซปไฟร์บาแก็ตต์(0.31 กะรัต) กับ เฉดสีที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ผสมผสานอย่างลงตัวเข้ากับ อัญมณีบนหน้าปัดเรือนเวลา
ขณะที่เข็มชี้ทรงบาตอง (Baton) เรืองแสงทำจากโรสโกลด์ ภายใต้ตัวเรือนซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.9 มิลลิเมตร ติดตั้งด้วยปุ่มกดโครโนกราฟทั้งสองปุ่มที่ผ่านการขัดเงาด้วยมือ และตกแต่งด้วยงานขัดด้านแบบซาติน (Satin-finished) อย่าง ประณีตโดยศิลปินช่างฝีมือของโรงงานการผลิต ทั้งยังสอดรับ อย่างสมบูรณ์ตรงตามเกณฑ์กำหนดของ Patek Philippe Seal (ปาเต็ก ฟิลิปป์ ซีล) ด้วยกลไกคาลิเบอร์CH 28-520 ซึ่งได้รับ การตกแต่งอย่างวิจิตรประณีตเช่นเดียวกัน โดยสามารถชื่นชม การทำงานและความงดงามของกลไกนี้ผ่านทางฝาหลังกระจก แซปไฟร์ นาฬิการุ่นนี้ยังมากับสาย 3 สไตล์ ซึ่งทำจากวัสดุ คอมโพสิตที่มีความทนทานสูง โดยสายหนึ่งมาพร้อมสีแดง (เวอร์ชั่น ดั้งเดิม) ขณะที่อีกสองสายมาพร้อมกับสีเบจแบบด้านและสีขาว แบบด้าน ตัวล็อกสายแบบบานพับสิทธิบัตรของ Patek Philippe ที่ประดับตกแต่งไว้ด้วยเพชรบาแก็ตต์10 เม็ด (0.36 กะรัต)
NAUTILUS JOAILLERIE
เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี “Nautilus Ladies” เปล่ง ประกายในเวอร์ชั่นประดับอัญมณี ภายใต้ความแวววาวเจิดจรัส อันลุ่มลึกของโรสโกลด์ที่หล่อหลอมอย่างกลมกลืนเข้ากับเฉดสี อันอบอุ่นของอัญมณีสเปสซาร์ไทต์(Spessartite) ทรงบาแก็ตต์คัต 68 เม็ด ในรุ่น Ref. 7118/1300R-001 Nautilus Joaillerie ที่ประดับอย่างงดงามล้ำค่าบนขอบตัวเรือนโรสโกลด์18K ผ่าน เทคนิคไล่ระดับของสองเฉดสีอันชวนหลงใหล ทั้งระหว่างอัญมณี สีคอนญัก (Cognac-colored Stones) ณ ตำแหน่ง 12 กับ 6 นาฬิกา และระหว่างอัญมณีสีแชมเปญ (Champagne-colored Stones) ณ ตำแหน่ง 9 กับ 3 นาฬิกา ลงตัวกับอัญมณีสเปสซาร์ไทต์สีคอนญักรูปทรงโค้งยอดแหลมอีก 11 เม็ดที่ตำแหน่ง บอกชั่วโมง
ขณะที่การตกแต่งอย่างประณีตวิจิตรของกลไกจักรกล ไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์324 S C ยังสามารถชมได้ผ่านฝาหลัง กระจกแซปไฟร์ เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยสายโลหะ ตัวล็อกสาย แบบบานพับสิทธิบัตรของ Patek Philippe ที่ประกอบด้วยตัวจับ ล็อกอิสระ 4 ตัว
PIAGET JOYFUL SHARING
ถ้าให้พูดถึงผลงานนาฬิกาไฮจิเวลรี่ที่โดดเด่น หนึ่งในนั้นต้องมีเพียเจต์ ที่ได้รับการพูดถึงอยู่เสมอในความเป็นเลิศของเทคนิค รวมถึงศิลปะในการ ออกแบบ และนี่คือหนึ่งในสุดยอดผลงานที่เพียเจต์ได้คอลลาบอเรชั่นกับ ศิลปินชั้นครูอย่าง Anita Porchet และ Dick Steenman โดดเด่นด้วย หน้าปัดที่วิจิตรบรรจง ชวนให้นึกถึงสูตรค็อกเทลที่เสิร์ฟในแก้วใบหรู เริ่มต้นชิ้นงานด้วยฝีมือแกะสลักของ Dick Steenman ที่เนรมิต ส่วนผสมหลักของค็อกเทลอย่างไลม์หั่นแว่นและใบมินต์ได้อย่างมีมิติ ก่อน ส่งต่อให้Anita Porchet แต่งแต้มสีสันด้วยการเคลือบสีลงยาแบบโปร่งแสง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของก้อนน้ำแข็งและใบมินต์ที่สมจริงยิ่งขึ้น
แน่นอนว่า ความหรูสะกดตาอยู่ที่เพชรน้ำงามประดับรอบไลม์หั่นแว่นและใบมินต์แต่ละชิ้น ซึ่งองค์ประกอบเลอค่าแต่ละชิ้นได้รับการวางประดับซ้อนลดหลั่นกันอย่าง สวยงามละลานตาเต็มหน้าปัด ลงตัวกับขอบตัวเรือนที่ประดับเพชรทรง บาแก็ตต์โดยรอบ และสายนาฬิกาอัลลิเกเตอร์ในโทนสีเขียวหรู
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 989