นาฬิกาโรเล็กซ์

ปิดเมืองเป็นเหตุ ชาวจีนแห่ขาย นาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าแอร์เมส หลังเศรษฐกิจตกต่ำ

account_circle
นาฬิกาโรเล็กซ์
นาฬิกาโรเล็กซ์

ปิดเมืองเป็นเหตุ ชาวจีนแห่ขาย นาฬิกาโรเล็กซ์ และ กระเป๋าแอร์เมส เพื่อหาเงินมาใช้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หลังจากปิดประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2019

ปิดเมืองเป็นเหตุ ชาวจีนแห่ขาย นาฬิกาโรเล็กซ์ และ กระเป๋าแอร์เมส หลังเศรษฐกิจตกต่ำ

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ที่ผ่านมากำลังการซื้อสินค้าแบรนด์หรูนั้นส่วนใหญ่มาจากชาวจีน แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการแพร่ระบาดทำให้จีนต้องปิดประเทศมานานร่วม 3 ปี ถึงแม้ปัจจุบัน หลายๆ ประเทศทั่วโลกกำลังเปิดพรมแดน และรุกพัฒนาเศรษฐกิจ

แต่ในทางกลับกัน ประเทศจีนยังใช้มาตราการที่เข้มงวดเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย “Dynamic COVID-zero” (การทำให้โควิดเป็นศูนย์) ซึ่งเหตุนี้ทำให้เศรษฐกิจในประเทศจีนเริ่มตกต่ำ ส่งผลในธุรกิจหลายด้านรวมถึง ตลาดมือสองสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยระดับไฮเอนด์

C

ทั้งนี้มีรายงานว่า ชาวจีนจำนวนมากเริ่มนำสินค้าหรูอย่าง นาฬิกาโรเล็กซ์ และ กระเป๋าแอร์เมส ออกมาทยอยขาย ซึ่งสาเหตุมาจาก “ต้องการหาเงิน” อย่างไรก็ตาม ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเผยว่า “ในช่วงที่ผ่านมา ราคาสินค้าในตลาดมือ 2 ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว และ ต่อเนื่อง ซึ่งการขายต่อของ ผู้ขายที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ทำให้พบกับราคาที่ขาดทุน”

ทั้งนี้ ตามรายงานของ Financial Times ราคาของ Rolex Submariners มือสอง ซึ่งเป็น ‘นาฬิกา’ ที่นักสะสมทุกคนต้องมี ราคาร่วงลงเกือบ 46% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

ขณะเดียวกัน กระเป๋ารุ่นไอคอนิคอย่าง แอร์เมส เบอร์กิ้น พบว่ามีมูลค่าลดลงถึง 1 ใน 5 ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมูลค่าที่ลดลงนี้สร้างความตกใจ เมื่อมีการสังเกตว่า 6 เดือนก่อนการปิดเมืองในเซี่ยงไฮ้ ราคาของนาฬิกาโรเล็กซ์ ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 240% ทั้งนี้ ผู้ขายนาฬิกาหรูในประเทศจีน กล่าวว่า “หมดช่วงเวลาที่รุ่งเรืองแล้ว เรากำลังอยู่ในช่วงของการแก้ไข ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน”

ตามรายงานโดย WION เผยว่า นโยบาย “Dynamic COVID-zero” เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนที่ประชาชนชาวจีนเจอกับมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ซึ่งกำหนดโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ส่งผลให้การผลิตลดลง เนื่องจากโรงงานและสำนักงานต่างๆ ยังคงปิดทำการเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ จีนยังกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุด ความร้อนจัดทำให้แม่น้ำแยงซีแห้ง ในขณะที่โครงข่ายไฟฟ้าต้องเผชิญกับสภาวะที่ต้องทนทุกข์ในการตอบสนองความต้องการของใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่าน Goldman Sachs (ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติ และ บริษัทให้บริการทางการเงินสัญชาติอเมริกัน) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีนลง 0.3% จาก 3.3% เป็น 3% ด้าน Nomura บริษัทโฮลดิ้งด้านการเงินของญี่ปุ่นปรับลดประมาณการจาก 3.3% เป็น 2.8%

ซึ่งการปรับที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากเศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.4% ในไตรมาสนี้ ขณะที่ Politburo ยกเลิกอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 5.5% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนี้เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยมือสองในจีน อยู่ในภาวะวิกฤิต


ที่มา : www.wionews.com, www.scmp.com

ภาพ : Getty Image

Praew Recommend

keyboard_arrow_up