Forbes จัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีของไทย ประจำปี 2566 ซึ่งปีนี้มีความมั่งเพิ่มขึ้นเกือบ 15% หรือประมาณ 173 พันล้านเหรียญสหรัฐ (6 ล้านล้านบาท) โดยอันดับ 1 ในปีนี้คือ “ตระกูลเจียรวนนท์” ด้วยทรัพย์สินสุทธิ 34 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1,194,760,000,000 บาท)
รวยวนไป! 10 อันดับ “มหาเศรษฐีไทย” ปี 2566 “เจียรวนนท์” ครองอันดับ 1

หนึ่งสาเหตุที่ทำให้ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นคือ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ควบรวม กิจการโทรคมนาคมของกลุ่ม True และคู่แข่งอย่าง Total Access Communications หรือ DTAC ซึ่งปีนี้เจียรวนนท์มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 7.5 พันล้านดอลลาร์ (263,550,000,000 บาท) จากครั้งก่อน

ขณะที่ “เฉลิม อยู่วิทยา” ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 2 ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 33.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (1,173,676,000,000 บาท) ทั้งนี้มีรายงานว่า ยอดขายของกระทิงแดงพุ่งสูงถึง 1.16 หมื่นล้านกระป๋องทั่วโลก สร้างรายได้กว่า 10 พันล้านดอลลาร์ (351,400,000,000 บาท) ในปี 2565 เพิ่มความมั่งคั่งให้กับเขาอีก 7 พันล้านดอลลาร์ (245,980,000,000 บาท)
ด้าน “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” แห่งไทยเบฟเวอเรจยังคงอยู่ในอันดับ 3 ด้วยมูลค่า 13.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (477,904,000,000 บาท) เพิ่มขึ้น 2.4 พันล้านดอลลาร์จากปีที่แล้ว
ยังคงเกาะกลุ่ม Top 5 สำหรับกลุ่มเซนทรัล โดย “ตระกูลจิราธิวัฒน์” ปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าสุทธิ 12.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (435,736,000,000 บาท) เพิ่มขึ้น 1.8 พันล้านดอลลาร์จาก 10.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว อีกหนึ่งตัวเต็งที่เคยขึ้นอันดับ 1 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศไทยอย่าง “สารัชถ์ รัตนาวะดี” มหาเศรษฐีด้านพลังงานจากกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายการด้วยมูลค่า 11.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (397,082,000,000 บาท) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากก่อนหน้านี้ 11.1 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากความมั่งคั่งของ Top 5 ที่ร่ำรวยมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งตระกูลใหญ่ที่ยังไม่เคยหลุดจาก Top 10 คือ “ศรีวัฒนประภา” ซึ่งปีนี้อยู่อันดับที่ 8 โดย “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานกรรมการบริหารของคิง เพาเวอร์ มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็นจำนวน 3.5 พันล้านดอลลาร์ (122,990,000,000 บาท)
ขณะที่นักธุรกิจหญิงผู้มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของไทยอย่าง “ศุภลักษณ์ อัมพุช” มหาเศรษฐีอันดับที่ 15 ผู้บริหารอาณาจักรค้าปลีก เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งมีห้างสรรพสินค้ายอดนิยมหลายแห่ง เช่น สยามพารากอน ไอคอนสยาม เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเดอะมอลล์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 2 พันล้านดอลลาร์ (70,280,000,000 บาท)
สำหรับ 2 มหาเศรษฐีรายใหม่ที่เพิ่งติดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยในปีนี้ คนแรกคือ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งครอบครัวของเขาถือหุ้นในเดอะมอลล์ กรุ๊ป รวมถึงถือหุ้นในธุรกิจอื่นๆ เปิดตัวในอันดับที่ 27 ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (49,196,000,000 บาท) อีกคนคือ “อนันต์ รักอริยะพงษ์” อันดับที่ 50 ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มเซ็ปเป้ มีทรัพย์สินสุทธิมูลค่า 590 ล้านเหรียญสหรัฐ
10 อันดับแรกที่รวยที่สุดในประเทศไทย ได้แก่
- ตระกูลเจียรวนนท์ 34 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1,194,760,000,000 บาท)
- เฉลิม อยู่วิทยา 33.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1,173,676,000,000 บาท)
- เจริญ สิริวัฒนภักดี 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (477,904,000,000 บาท)
- ตระกูลจิราธิวัฒน์ 12.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (435,736,000,000 บาท)
- สารัชถ์ รัตนาวะดี 11.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (397,082,000,000 บาท)
- วานิช ไชยวรรณ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (136,578,000,000 บาท)
- ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (133,076,000,000 บาท)
- อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (122,570,000,000 บาท)
- สมโภชน์ อาหุนัย 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (105,060,000,000 บาท)
- ตระกูลโอสถานุเคราะห์ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (87,550,000,000 บาท)