รู้ลึกเรื่อง “ข้าวโอ๊ต”

เชื่อว่าข้าวโอ๊ตเป็นหนึ่งในอาหารที่เพื่อนๆที่รักสุขภาพชอบทานกันบ่อยๆ แต่เวลาไปซื้อข้าวโอ๊ตแต่ละที เคยปวดหัวกันบ้างไหมคะ เพราะมีข้าวโอ๊ตให้เลือกตั้งหลายแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาไขเคล็ดลับเรื่อง “ข้าวโอ๊ต” กันดีกว่าค่ะ มารู้จักเจ้าข้าวโอ๊ตกันว่า มีกี่แบบและแตกต่างกันอย่างไร

เชื่อว่าข้าวโอ๊ตเป็นหนึ่งในอาหารที่เพื่อนๆที่รักสุขภาพชอบทานกันบ่อยๆ แต่เวลาไปซื้อข้าวโอ๊ตแต่ละที เคยปวดหัวกันบ้างไหมคะ เพราะมีข้าวโอ๊ตให้เลือกตั้งหลายแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาไขเคล็ดลับเรื่อง “ข้าวโอ๊ต” กันดีกว่าค่ะ มารู้จักเจ้าข้าวโอ๊ตกันว่า มีกี่แบบและแตกต่างกันอย่างไร

ข้าวโอ๊ตทำมาจากเมล็ดธัญพืชที่นำไปคั่ว (toasted) เพื่อให้เก็บรักษาได้นาน ข้าวโอ๊ตหลากหลายประเภทที่ขายอยู่ในซุปเปอร์แตกต่างกันหลักๆตรงวิธีการแปรรูป (processed) ซึ่งไอเดียหลักๆก็คือ ถ้าเมล็ดข้าวโอ๊ตยิ่งบางก็จะยิ่งสุกเร็วและเวลาสุกจะให้สัมผัสที่นุ่มนิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ

ข้าวโอ๊ตมี 4 ประเภทดังนี้

1. Steel-cut oats (Irish oats) – เมล็ดข้าวโอ๊ตจะถูกแยกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้เวลาต้มนานที่สุด
2. Old-fashioned and rolled oats – เมล็ดข้าวโอ๊ตจะถูกนำไปนึ่ง (steamed) รีดให้แบน (rolled) และตากให้แห้ง (dried)
3. Quick-cooking oats – เมล็ดข้าวโอ๊ตจะถูกนำไปรีดให้แบนยิ่งกว่า old-fashioned oats ทำให้สุกเร็วกว่า
4. Instant oats – เป็นแบบที่ถูกรีดให้แบนแบบบางที่สุด และเป็นแบบที่นิ่มที่สุดด้วยค่ะ

เพราะฉะนั้นเพื่อนๆคนไหนที่อยากได้ข้าวโอ๊ตแบบที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เปิ้ลแนะนำแบบ steel-cut เลยค่ะ แต่ถ้าใครรีบๆใช้แบบ instant ก็ไวดีค่ะแถมนิ่มมากๆด้วย ขอสารภาพว่าที่บ้านเปิ้ลมีทุกแบบเพราะว่าในเช้าแต่ละวันรีบไม่เท่ากัน ถ้าเสาร์อาทิตย์ก็จะมีเวลามากหน่อยเลยต้มแบบ steel-cut หรือ old-fashioned ได้ แต่ถ้าวันไหนตื่นสายมากก็จะใช้แบบ quick หรือ instant เลยค่ะ

ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อแบบไหนดี อยากให้เพื่อนๆลองดูหลายๆแบบก่อน จะได้รู้จักรสสัมผัสที่ชอบที่ใช้ระยะเวลาต้มเหมาะกับไลฟสไตล์ตัวเองมากที่สุดค่ะ

ถามคำถามเรื่องสุขภาพอะไรเพิ่มเติมได้ที่:
Facebook.com/healthylivingbyaraya
IG @Healthylivingbyaraya

รูปและข้อมูล แปลและเรียบเรียงจาก thekitchn.com (http://bit.ly/ZeUu0R)

blog โดย Araya.

Praew Recommend

keyboard_arrow_up