ช่วงที่เปิ้ลเริ่มใส่ใจสุขภาพและพยายามลดน้ำหนักใหม่ๆ เปิ้ลได้ลองดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไอโฟนมาเป็นตัวช่วยเต็มโทรศัพท์ไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นนับแคลอรี่ หรือแอพพลิเคชั่นช่วยออกกำลังกายหลากหลายชนิด แต่เพราะมีตัวเลือกเยอะแยะมากมาย
ช่วงที่เปิ้ลเริ่มใส่ใจสุขภาพและพยายามลดน้ำหนักใหม่ๆ เปิ้ลได้ลองดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไอโฟนมาเป็นตัวช่วยเต็มโทรศัพท์ไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นนับแคลอรี่ หรือแอพพลิเคชั่นช่วยออกกำลังกายหลากหลายชนิด แต่เพราะมีตัวเลือกเยอะแยะมากมาย เปิ้ลก็เลยเลือกไม่ถูก ลองไปหมดทุกอย่าง เสียเวลากว่าจะหาแอพพลิเคชั่นที่ใช้ง่ายๆเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลดน้ำหนักก็นานเป็นเดือนเลยค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้เปิ้ลอยากจะเอาประสบการณ์ของตัวเองมาช่วยประหยัดเวลาเพื่อนๆที่อยากจะเริ่มต้นลดน้ำหนัก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี โดยการเอา 3 แอพพลิเคชั่นที่เปิ้ลใช้แล้วเห็นว่าใช้ง่ายและมีประโยชน์มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ
1. MyFitnessPal
หนึ่งในแอพพลิเคชั่นช่วยนับแคลอรี่ที่คนทั่วโลกใช้เยอะที่สุด โดยมีวิธ๊ใช้ง่ายๆคือเราใส่ข้อมูลน้ำหนัก ส่วนสูง และตั้งเป้าหมายว่าในแต่ละวันเราต้องการรับประทานกี่แคลลอรี่ ตลอดวันเราก็ใส่รายการอาหารที่เรารับประทาน รวมทั้งใส่ตารางออกกำลังกายของเรา แล้วแอพพลิเคชั่นก็จะช่วยคำนวนปริมาณแคลอรี่ที่เรารับประทาน(รวมทั้งจำนวนสารอาหารที่ได้รับ) และนำไปลบกับแคลอรี่ที่เราเผาผลาญจากการออกกำลังกายค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถดูกราฟการพัฒนาการของเราเทียบกับเมื่อวาน สัปดาห์ที่แล้ว หรือเดือนที่แล้วได้อีกด้วยค่ะ
ข้อดีของแอพพลิเคชั่นนี้คือความหลากหลายของรายการอาหารและกิจกรรมออกกำลังกาย เนื่องจากมีผู้ใช้เยอะมาก ฐานข้อมูลของแอพพลิเคชั่นนี้จึงใหญ่มากเป็นอันดับต้นๆเทียบกับแอพพลิเคชั่นนับแคลลอรี่อื่นๆ แถมยังมีปริมาณสารอาหารติดมาด้วย ทำให้คอยเตือนเราให้รับประทานอาหารอย่างครบหมู่ แถมระหว่างวันเวลาที่เราคิดอยากจะรับประทานอาหารสักอย่าง เราก็สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นดูว่าวันนี้เราเหลือโควต้าในการทานเท่าไหร แถมยังสามารถลดน้ำหนักร่วมกับเพื่อน คอยช่วยกันเตือนกันและกันด้วยค่ะ แต่แน่นอนว่าข้อเสียหลักของแอพพลิเคชั่นนี้คือเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นข้อมูลแคลลอรี่และสารอาหารของอาหารไทยอาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ
เปิ้ลชอบแนะนำแอพพลิเคชั่นนี้ให้หับคนที่เริ่มลดน้ำหนักใหม่ๆ โดยที่ใช้แอพพลิเคชั่นเป็นตัวช่วยให้เราคิดถึงปริมาณอาหารและสารอาหารที่เรารับประทานไปแต่ละวัน ไม่ต้องเครียดมากกับการที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายเป๊ะๆ บางวันอาจจะทำได้ตามเป้าแต่บางวันก็อาจจะไม่ อย่าไปเครียดอย่าไปท้อนะคะ สิ่งหลักที่อยากให้ได้จากแอพพลิเคชั่นนี้คือการเปลี่ยนนิสัยการรับประทานที่ไม่ดีเป็นการรู้จักเลือกรู้จักคิดถึงอาหารที่เรารับประทานไปในแต่ละมื้อ โดยการใช้แอพพลิเคชั่นไปสักระยะหนึ่งจะช่วยให้เราคำนึงถึงอาหารที่มีประโยชน์เป็นนิสัยไปเองค่ะ
2. Equalculator
แอพพลิเคชั่นนี้มีลักษณะคล้ายกับ MyFisnessPal ที่เป็นภาษาไทยและมีอาหารไทยให้เลือกมากมาย โดยที่เหมือนกับ MyFisnessPal ตรงที่ต้องใส่สัดส่วนของเรา ตั้งเป้าหมายแคลอรี่ในแต่ละวัน แล้วเราก็จดรายการอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อของวัน และสามารถหักลบการออกกำลังกายได้ค่ะ
ข้อดีของแอพพลิเคชั่นนี้คือเป็นภาษาไทย มีตัวเลือกอาหารไทยให้เยอะ และมีกราฟฟิคที่สวยกว่า MyFisnessPal ทำให้ใช้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียอาจจะอยู่ตรงที่ไม่มีฟังค์ชั่นตรงสารอาหารเหมือนกับ MyFisnessPal แต่ถ้าใครไม่เคร่งมากก็อาจจะไม่เป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ และอีกข้อคือเมนูอาจจะยังไม่เยอะถูกใจบางคน แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการเพิ่มเมนูของตัวเองและใส่ปริมาณแคลลอรี่โดยประมาณเองได้ค่ะ
ใครที่เริ่มหัดนับแคลอรี่ใหม่ๆ และอยากได้แอพพลิเคชั่นภาษาไทย เมนูไทย โดยที่ไม่ต้องการฟังค์ชั่นอะไรมากมาย แนะนำตัวนี้เลยค่ะ
3. 5K Runner: 0 to 5K run training
ตอนเปิ้ลหัดวิ่งใหม่ๆ เปิ้ลท้อมากเลยค่ะ เพราะไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ไม่สนุกกับการวิ่ง วิ่งไม่กี่นาทีก็เบื่อและไม่อยากวิ่งแล้ว คิดว่าวิ่งไกลๆคงทำไม่ไหวแน่ๆ ถ้ามีใครรู้สึกแบบนี้เปิ้ลอยากให้ลองแอพพลิเคชั่นนี้ค่ะ โดยที่แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยเป็นเทรนเนอร์ให้เรา สอนจากที่ไม่เคยวิ่งเลยจนวิ่งได้ 5 กิโลเมตรภายใน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ฟังดูน่าสนใจไหมคะ ในแต่ละครั้งที่วิ่ง แอพพลิเคชั่นจะบอกเราว่า ในนาทีที่เท่าไรถึงเท่าไร เราควรจะเดินหรือวิ่ง โดยที่ความยากจะค่อยๆปรับขึ้นตามลำดับค่ะ
ข้อดีของแอพพลิเคชั่นนี้คือทำให้คนที่วิ่งไม่เป็นรู้ว่าจะต้องวิ่งหรือเดินเมื่อไหร่ เพราะคนที่ไม่เคยวิ่งเลยแล้วอยู่ดีๆมาวิ่งเร็วๆเลยอาจจะปรับตัวไม่ทันค่ะ และอาจจะรู้สึกเหมือนที่เปิ้ลเคยเป็นคือไม่ชอบวิ่งเลย และถ้ารู้สึกว่าโปรแกรมของวันนี้ยากเกินไปสามารถเลือกวิ่งแบบครั้งที่แล้วได้ค่ะ ส่วนข้อดีอีกข้อคือสามารถฟังเพลงไปวิ่งไปได้ด้วย ข้อเสียอาจจะอยู่ตรงที่ต้องใจแข็งและไม่โกงแอพพลิเคชั่น คือเวลาที่ควรจะวิ่งต้องวิ่งจริงๆไม่เดิน เพราะไม่มีเทรนเนอร์จริงๆมาคอยจี้ค่ะ
เปิ้ลอยากให้เพื่อนๆ ที่เพิ่งหัดวิ่งหรืออยากจะเริ่มวิ่งลองดูค่ะ เปิ้ลลองแล้วประสบความสำเร็จมากกับแอพพลิเคชั่นนี้ เพราะรู้สึกว่า แค่ 8 สัปดาห์เอง วิ่งไม่กี่ครั้งก็เก่งแล้ว ส่วนคนที่ครบโปรแกรมของแอพพลิเคชั่นนี้แล้วก็สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่น 10 กิโลเมตรได้ค่ะ
ถามคำถามเรื่องสุขภาพอะไรเพิ่มเติมได้ที่:
เฟซบุ๊ก Facebook.com/healthylivingbyaraya
อินสตาแกรม @Healthylivingbyaraya
ภาพจาก iTunes
blog โดย Araya.