ใครว่าเพชรแท้แตกไม่ได้

จริงอยู่ว่าเพชรนั้นนับได้ว่าเป็นสสารที่มีความแข็งม้ากกก… ที่สุดในโลกแต่สิ่งที่หลายคนยังไม่เคยรู้นั้นก็คือ “เพชรแท้” นั้นก็มีสิทธิที่จะ “แตกได้” เหมือนอัญมณีชนิดอื่นๆ ทั่วไป

จริงอยู่ว่าเพชรนั้นนับได้ว่าเป็นสสารที่มีความแข็งม้ากกก… ที่สุดในโลกแต่สิ่งที่หลายคนยังไม่เคยรู้นั้นก็คือ “เพชรแท้” นั้นก็มีสิทธิที่จะ “แตกได้” เหมือนอัญมณีชนิดอื่นๆ ทั่วไป

เพราะสิ่งที่เรียกว่า “ความแข็ง” นั้นแยกออกได้เป็น 3 แบบก็คือ
1. Hardness ที่รู้จักกันในชื่อค่าความแข็งตามโมห์ สเกล โดยตั้งชื่อตามคุณ Moh ผู้ค้นพบโดยการเอาวัตถุหลายอย่างมาขูดขีดกันไปมา หากเบอร์ 1 ทำให้เบอร์ 2 เป็นรอยได้ก็เท่ากับเบอร์ 1 มีความแข็งเหนือกว่า
2. Toughness ขอเรียกแบบเข้าใจง่ายว่า ความอึดหรือความทนทานต่อการกระทบกระเทือน พูดง่ายๆ ก็คือแตกง่ายแค่ไหน ขอให้ดูจากแก้วและเหล็กเป็นตัวอย่าง หากเราโยนแท่งแก้วและแท่งเหล็กลงบนพื้น เหล็กจะยังคงสบายดีในขณะที่แก้วแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แต่หากนำแก้วมาขูดเหล็ก เหล็กจะเป็นรอยขีดข่วนทันที นั่นหมายความว่าแก้วมี Hardness ที่สูงกว่าเหล็กแต่เหล็กมี Toughness ที่สูงกว่าแก้วนั่นเองค่ะ
3. Stability หรือความอยู่ยงคงกระพัน ไม่ว่าจะอุณหภูมิสูงปรี๊ดแตกหรือความดันสูงระดับปรอทแตกซึ่งงานนี้น้องเพชรเม็ดน้อยชนะเลิศระดับเหรียญทองเพราะเธอยังคงอยู่รอดปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดสนั่นหวั่นไหวมากี่ร้อยกี่พันทศวรรษก็ตาม

เมื่อเพชรมีค่า Hardness สูงสุดก็แปลได้ตรงตัวว่าผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือน้องเพชร Diamond เนื่องจากไม่มีใครทำให้นางเป็นรอยขีดข่วนได้เลยยกเว้นตัวนางเองแต่เนื่องจากเพชรไม่ได้มี Toughness สูงสุด เพชรจึงยังคงแตกได้เหมือนอัญมณีชนิดอื่นๆ

เมื่อเพชรจึงยังคงเป็นรอยได้ แตกได้ดังนี้ จึงบังควรที่จะเก็บรักษาอย่างดีโดยการแยกชิ้นเก็บ ไม่นำไปปะปนให้ขีดข่วนจนเสียราคา หรือทิ้งขว้างไม่สนใจ แต่ควรสวมใส่อย่างทะนุถนอมและเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เพชรเม็ดน้อยๆ จะได้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ

blog โดย ธมลวรรณ เอกบัณฑิต.