ช่วงนี้เห็นคนดังหลายคู่จูงมือแต่งงานกันจนคนโสดชักจะเริ่มอิจฉา เพราะเห็นสินสอดของเจ้าสาวแล้วอลังการกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับอย่างแหวนเพชรก็ไม่ธรรมดาสักคน วันนี้เลยต้องมาเล่าว่าด้วยเรื่องของเพชรกันสักหน่อยว่าวิธีการสังเกตนั้นดูอย่างไรถึงว่าเม็ดนี้งามจริงสมกับราคาที่จะต้องจ่าย
สำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดส่องเพชร สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือการเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือจริงๆ เพราะไม่งั้นโอกาสที่จะเจอเพชรน้ำงามจริงๆ ก็ยาก และอาจจะเสียตังค์ฟรีด้วย ซึ่งเพชรที่น้ำงามจริงๆ จะหายากมาก และจะต้องได้รับมาตรฐานเหนือ 4Cs ทั่วไป เพราะสิ่งที่โดดเด่นของเพชรชนิดนี้คือ จะมีการควบคุมและคัดสรรจากเหมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม
อีกทั้งเพชรทั้งหมดที่ได้มาจะถูกคัดแล้วคัดอีก เหลือเพชรที่ได้มาตรฐานเหนือ 4Cs ทั่วไปไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ ซึ่งวิธีการดูว่าเพชรเม็ดไหนที่เข้าข่ายว่าเป็นเพชรน้ำงามหายากแบบนี้ มีวิธีสังเกตได้จากสีของเพชร ความสะอาด น้ำหนัก และการเจียระไน โดยทั้งหมดจะผ่านขั้นตอนการดูแลทั้งเลือกการคัดเพชร การเจียระไนขัดแต่งด้วยช่างฝีมืออย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่สวยสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเพชรที่ถูกคัดมาแล้วนั้นจะมีการจารึกสัญลักษณ์และรหัสเพชรไม่ซ้ำกันและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (FOREVERMARK Inscription)
กว่าจะได้เพชรอย่างที่ว่ามานี้ดูยากแสนยาก และไม่ได้หาใส่กันง่ายๆ มันเลยกลายเป็นของที่เซเลบริตี้ระดับโลกนิยมใส่เฉิดฉายเวลาเดินพรมแดงในเวทีการประกาศรางวัลกันอยู่บ่อยๆ ทั้งนิโคล คิดแมน, กวินเนธ พัลโทรว์, เคต ฮัดสัน, เคต วินสเลต, ดาโกต้า จอห์นสัน ฯลฯ




เห็นประกายเพชรที่น่าแสบตาของเหล่าสาวๆ ฝั่งฮอลลีวู้ดกันไปแล้ว สำหรับบ้านเราจริงๆ เพชรหายากแบบนี้ก็มีขายนะ ซึ่งการออกแบบจะมาจากกรุงมิลาน ประเทศอิตาลีทุกชิ้น และเท่าที่สืบมา 1 กะรัตจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาท (เฉพาะเพชรยังไม่รวมดีไซน์) ราคานี้เศรษฐีกระเป๋าหนักของบ้านเรารับไหวอยู่แล้ว
ภาพ: FOREVERMARK by DeBeers/วาระ สุทธิวรรณ