ฮือฮากันทั้งโซเชียล เมื่อ G-Dragon เป็นคนเกาหลีคนแรกที่ได้ขับรถ TESLA Cybertruck ซึ่งยังไม่มีเปิดตัวในประเทศ
แม้เมืองไทยจะได้ยลโฉม TESLA Cybertruck กันไปแล้ว เนื่องจากตารางโชว์ตัวที่ร่ายยาวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลเวิร์ล, สยามพารากอน, เซ็นทรัลอีสวิลล์ และอีกมากมาย แต่หลายประเทศก็ยังไม่เคยสัมผัสรถคันนี้เลยสักครั้ง หนึ่งในนั้นคือเกาหลีใต้ ยิ่งเมื่อแฟชั่นนิสต้าตัวพ่ออย่าง G-Dragon ปรากฏตัว ณ สนามบินอินชอน ขณะเตรียมตัวเดินไปชมแฟชั่นโชว์ CHANEL Cruise 2024/25 ที่ Hong Kong Design Institute พร้อมรถดีไซน์เก๋คันนี้ก็กลายเป็นไวรัลไปชั่วขณะ
สำหรับ TESLA Cybertruck สร้างขึ้นเพื่อให้ขับขี่ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งแข็งแรงและทนทาน พร้อมรับมือกับทุกสิ่งด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ปรับระดับได้อัตโนมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีระยะการยุบตัวได้ถึง 305 มม. มีระยะห่างระหว่างใต้ท้องรถกับพื้นถึง 406 มม. ความสามารถในการลากจูง 4,990 กิโลกรัม และหากชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ถึง 547 กิโลเมตร
ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องสีเงินไม่ใช่เกิดจากการทำสีเหมือนที่เรารู้จักทั่วไป แต่รถคันนี้โครงสร้างภายนอกทำจากเหล็กกล้าไร้สนิมที่แข็งเป็นพิเศษช่วยลดการเกิดรอยบุบ ความเสียหาย และการกัดกร่อนในระยะยาว การซ่อมแซมทำได้ง่ายและรวดเร็ว รับรองว่าสีไม่มีกะเทาะแน่นอน รวมถึงกระจกยังสามารถมนความรุนแรงของลูกเห็บตกระดับ 4 ได้อีกด้วย จึงทำให้ห้องโดยสารภายในเงียบสงบ ปราศจากเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบคันรถ
ความสามารถของ TESLA Cybertruck ยังจุสัมภาระได้เยอะกว่าที่เราคิด เพราะแบรนด์ได้เคลมไว้ว่า “สามารถจุน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,134 กก. และพื้นที่เก็บของแบบล็อกได้ 1,897 ลิตร และเบาะนั่งแถวที่สองยังพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของอีก 1,530 ลิตร” ทีเดียว
เรื่องของความเร็วก็ไม่เป็นรองใคร เพราะคันนี้ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้โดยใช้เวลาเพียง 2.7 วินาที2 ในโหมด Beast ในขณะที่ยังรักษาเสถียรภาพไว้ได้ที่ความเร็วสูง ด้วยระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าและการบังคับเลี้ยวด้านหลัง คุณจะได้สัมผัสกับการควบคุมแบบรถสปอร์ตพร้อมกับรัศมีวงเลี้ยวที่เหนือกว่ารถซีดานส่วนใหญ่
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เมื่อพูดถึง TESLA นั่นคือเทคโนโลยีทันสมัยทั้งคันรถไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสแบบอินฟินิตี้ (หน้าจอสัมผัสไร้ขอบ) ขนาดใหญ่ 18.5” ที่ด้านหน้า และขนาด 9.4” ที่ด้านหลัง พร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ใหม่ทั้งหมด, ลำโพง 15 ตัว ลำโพงซับวูฟเฟอร์แบบเฉพาะ 2 ตัว และเครื่องขยายเสียงที่ติดตั้งแบบกระจาย, ชาร์จโทรศัพท์ แล็ปท็อป หรือเครื่องมือต่าง ๆ ของคุณได้อย่างรวดเร็วจากที่นั่งด้านหน้า เบาะหลัง หรือเตียงด้วยการชาร์จแบบไร้สาย ด้วย เต้ารับไฟฟ้า USB-C ขนาด 65W และ 120V/240V สุดท้ายแผ่นกรอง HEPA เกรดโรงพยาบาลในตัว ให้การปกป้องจากอนุภาคในอากาศได้ถึง 99.97%
มาถึงจุดนี้หลายคนคงอยากรู้ราคา TESLA Cybertruck แบ่งเป็น 3 รุ่นนั่นคือ
- Rear-Wheel Drive 60,990 USD (ประมาณ 2,152,000 บาท)
- Dual Motor AWD 79,990 USD (ประมาณ 2,822,000 บาท)
- Cyberbeast AWD 99,990 USD (ประมาณ 3,527,000 บาท)
**ข้อมูลราคาจาก https://autolifethailand.tv/**
รูป: Getty Images และ tesla.com
ข้อมูล: autolifethailand.tv และ tesla.com