กษัตริย์สวาซิแลนด์ เปย์หนักซื้อรถหรู โรลส์-รอยซ์ 19 คัน BMW 120 คัน ให้ชายา 14 คน

account_circle

สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ เปย์หนักทุ่มเงินกว่า £13 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 505 ล้านบาท ซื้อรถ โรลส์-รอยซ์ 19 คัน และ BMW อีก 120 คัน ให้กับพระมารดาและพระชายา 14 พระองค์ รวมถึงลูกๆ อีก 23 พระองค์!

หลังการประท้วงของข้าราชการในประเทศกว่า 700 คน เพื่อเรียกร้องให้พนักงานของรัฐบาลได้รับค่าตอบแทนที่ดีขึ้นจากสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ดูเหมือนว่าพระองค์จะโนสนโนแคร์ ดูจะไม่สนใจใยดีในคำเรียกร้องนั้น กลับใช้เงินกองทุนสาธารณะนำมาซื้อรถหรูเพื่อพระราชทานเป็นของขวัญให้กับสมาชิกราชวงศ์

โรลส์-รอยซ์

ทั้งนี้ TimesLIVE หนังสือพิมพ์รายวันของแอฟริกาใต้ ได้ออกมาเผยว่านาย Wandile Dludlu  (วันดิเล ดลูดลู) นักการเมืองฝ่ายค้านได้ออกมาประณามการซื้อรถยนต์หรูของสมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ว่าพระองค์ทรงทำเพื่อตัวเอง และครอบครัว แต่กลับไม่สนใจปัญหาที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน

“ในสวาซิแลนด์คนงานของภาครัฐไม่ได้รับการปรับเงินเดือนในช่วงสามปีที่ผ่านมา  และระบบสาธารณสุขก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง” รวมถึง “สถาบันอุดมศึกษาก็ปิดตัวลงเช่นกัน เนื่องจากความล้มเหลวของรัฐบาลที่จะไม่รับผิดชอบค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าที่พัก รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ”

ทั้งนี้นายวันดิเล ดลูดลู ยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า “เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรถ โรลส์-รอยซ์ ทั้งหมด 19 คันถูกส่งมอบให้กับสวาซิแลนด์เพื่อการใช้งานอย่างเป็นเอกสิทธิ์ของ สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 พระมารดาและพระชายาของพระองค์”

นอกจากนี้ยังมีรถ BMW รุ่น X3 และ Series 5  อีกจำนวน 120 คัน ซึ่งตกคันละมากกว่า £30,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.16 ล้านบาท โดย BMW ทั้งหมด 120 คันนี้จะมีไว้เพื่อใช้ในราชวงศ์โดยเฉพาะ ซึ่งในที่นี้รวมถึงชายา 14 คน (เดิมทีพระองค์มีพระชายา 15 พระองค์ แต่ปัจจุบันเหลือ 14 พระองค์ เนื่องจากพระชายาองค์หนึ่งได้สิ้นพระชนม์จากโรคมะเร็งผิวหนัง) รวมถึงลูกๆ อีก 23 คน สิ่งที่พระองค์ทำเผยให้เห็นถึงความหยิ่งยโส การไม่สนใจประชาชนของสวาซิแลนด์ เปรียบเสมือนการชูนิ้วกลางให้กับผู้ที่ไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระองค์คือเจ้าของกฎหมายจะทำการสิ่งใดก็ได้

ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่ภาพรถหรูหลายคันที่ถูกหุ้มพลาสติกอย่างดีและกำลังถูกขนส่งจากแอฟริกาใต้ไปยังสวาซิแลนด์ผ่านทวิตเตอร์ โดยแอคเคาท์ที่ชื่อว่า Mzilikazi wa Afrika นักข่าวสายสืบสวนของแอฟริกาใต้ ซึ่งเขายังได้เขียนข้อความใต้ภาพด้วยว่า “ท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำของเอสวาตินี แต่สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 กลับตัดสินใจซื้อของขวัญที่มีราคาแพง เพื่อเอาใจพระชายาของพระองค์ โดยที่ไม่สนประชาชนที่กำลังอดอยาก”

สำหรับ สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ทรงเป็นกษัตริย์แห่งสวาซิแลนด์ หรือราชอาณาจักรเอสวาตีนี ทรงเป็นหนึ่งในกษัตริย์ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ โดยพระองค์ทรงมีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี, สมาชิกของคณะรัฐมนตรี และตุลาการ ทรงสำเร็จการศึกษาที่โรงเรียน Sherborne ในเมืองดอร์เซ็ต ประเทศอังกฤษ

โรลส์-รอยซ์

ด้าน Daily Mail ได้ออกมาเผยเช่นกันว่า ด้วยอำนาจทางการเมืองที่ไม่จำกัด ทรงปกครองดูและประชากรกว่า 1.3 ล้านคน รวมถึงยังเป็นหนึ่งในกษัตริย์ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่มีสิทธิขาดในประเทศทั้งหมด ซึ่งพระองค์ทรงมีชื่อเสียงมากว่าเป็นกษัตริย์ที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

นับตั้งแต่ครองราชย์เมื่อปี 1986 สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ทรงมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 2 ลำมูลค่า $13.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งพระองค์ทรงได้มันมาเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อครั้งพระชนม์มายุครบ 50 ชันษา และพระองค์ยังทรงเป็นเจ้าของโรลส์-รอยซ์ มูลค่า 625,000 ดอลลาร์, มายบัค 62,000 ดอลลาร์, BMW X6 รวมถึง Mercedes Benz S600 Pullman อีก 20 คัน

ท่ามกลางความยากจนและมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากลำบากของประชากรในประเทศสวาซิแลนด์ เฉลี่ยแล้วมีเงินเดือนอยู่ที่ £10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 388,776 บาททั้งปี ซึ่งโครงการอาหารโลกประมาณการว่าร้อยละ 63 ของประชากรประเทศอาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน

จากข้อมูลของ NGOs (องค์การพัฒนาเอกชน) เผยว่าร้อยละ 10 ของประชากรมีส่วนรับผิดชอบต่อการบริโภคประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศ  ซึ่งหากนำรถโรลส์-รอยซ์ 1 คันมาคิดเป็นเงินเดือนเฉลี่ยของประชากรในประเทศ พวกเขาต้องทำงานหนักและเก็บเงินถึง 70 ปี กว่าที่จะซื้อรถคันนี้ได้ อีกทั้งมากกว่า 1 ใน 4 ของคนอายุ 15-49 ปี เชื่อว่าติดเชื้อ HIV อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 Alistair Burt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าสหราชอาณาจักรได้ให้ความช่วยเหลือแก่สวาซิแลนด์เป็น เงิน £6.8 ล้านปอนด์ ตั้งแต่ปี 2540 และเมื่อปี 2561 ตามรายงานของรัฐบาล สหราชอาณาจักรยังให้ความช่วยเหลือสวาซิแลนด์เป็นจำนวนเงิน £3 แสนปอนด์ หรือประมาณ 11 ล้านบาท

ท้ายนี้ นายวันดิเล ดลูดลู ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ถึงเวลาที่เราทุกคนต้องลุกยืนขึ้นและเผชิญหน้ากับระบอบการปกครองที่ชั่วร้าย ซึ่งทำให้เราตกเป็นทาส ถึงเวลาที่เราต้องสู้และเรียกคืนสิ่งที่เราเป็นเจ้าของอย่างถูกต้อง


ข้อมูล : www.dailymail.co.uk, www.timeslive.co.za

ภาพ : Getty Image

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up