New Normal ของผู้สูงวัย ดูแลอย่างเข้าใจ ให้ผู้สูงอายุสุขใจ ปลอดภัย ลูกหลานก็สบายใจไร้กังวล

หลังสังคมไทยปรับตัวเข้าสู่วิถี New normal อย่างรวดเร็ว ปฏิเสธไม่ได้เลยเกิดผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง เสี่ยงเจ็บป่วยหรือมีโรคแทรกซ้อนได้ง่าย อาจลุกลามกลายเป็นอาการเจ็บป่วยรุนแรงได้ เราในฐานะลูกหลานคนในบ้านอาจไม่ทันสังเกตว่าผู้สูงอายุในบ้านก็กำลังได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจจากการเปลี่ยนแปลงของโลกในครั้งนี้เช่นกัน

ลูกหลานจะมีวิธีดูแลผู้สูงอายุในเชิงป้องกันอย่างไรในยุคที่ทุกชีวิตบนโลกเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีชีวิต New Normal แบบฉับพลัน ให้พวกท่านมีความสุข สุขภาพดี ลดความเสี่ยงเจ็บป่วยที่ต้องพึ่งพาโรงพยาบาลเพื่อดูแลรักษาผู้สูงอายุ วันนี้เรามาหาคำตอบไปด้วยกัน

ชีวิต New Normal โจทย์ใหม่ของผู้สูงอายุภายในบ้าน

การมาถึงของ วิถี  New Normal ในโลกของผู้สูงอายุได้สร้างผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุที่เปลี่ยนไป ผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตครั้งสำคัญนี้ แบ่งได้เป็น  3  กลุ่มใหญ่

1. ผู้สูงอายุที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ดี 

จากที่เคยได้ใช้เวลาพบปะผู้คนนอกบ้าน เข้าสังคม พบปะเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน แต่เมื่อต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน ผู้สูงอายุกลุ่มนี้อาจเกิดความเหงา ซึมเศร้า ส่งผลต่อสมรรถภาพร่างกาย สมองถดถอยได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น

2. ผู้สูงอายุที่ชอบอยู่บ้าน 

แม้ดูผิวเผินแล้วน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุในกลุ่มนี้คือ ความรู้สึกการโดนแยกตัวออกห่างจากสมาชิกในครอบครัวหรือพบเจอกันน้อยลง ส่งผลให้รู้สึกเหงา คิดถึงลูกหลาน หรือรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับความสนใจจากลูกหลานเหมือนเดิม

3. ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง 

เป็นกลุ่มที่สุขภาพร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายที่สุด ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุกลุ่มนี้คือ เรื่องของการแยกตัวผู้สูงอายุออกจากคนในบ้าน เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ รวมถึงตัวคนดูแลที่จะต้องระมัดระวังการนำพาเชื้อโรคมาสู่ผู้สูงอายุ เนื่องจากคนดูแลจะเป็นคนที่สัมผัสใกล้ชิดผู้สูงอายุมากที่สุด 

ดูแลอย่างเข้าใจ จะกี่ New normal ผู้สูงอายุมีความสุขได้ 

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุเป็นวัยที่สภาพร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงตามวัย หรือมีโรคเรื้อรัง โรคประจำตัว ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายหากไม่ได้มีการดูแลและป้องกันอย่างดี ดังนั้นลูกหลานหรือสมาชิกในครอบครัวจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพที่ดีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม 

1. เว้นห่างระหว่างกัน แต่ใจยังใกล้กัน

เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง คนในครอบครัวหรือลูกหลานควรเพิ่มความเอาใจใส่ดูแลให้มากขึ้น หรือหากไม่สามารถใกล้ชิดได้ ให้ใช้การสื่อสารผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น การโทรศัพท์หาหรือวิดีโอคอล เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้งหรือขาดการเอาใจใส่จากคนในครอบครัว 

2. หากิจกรรมร่วมกัน 

แม้ว่าผู้สูงอายุจำเป็นต้องงดทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่ยังสามารถทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับความชอบ ความถนัดของตัวเองอยู่ภายในบ้านได้ เช่น การทำอาหาร เล่นดนตรี วาดรูป ประดิษฐ์สิ่งของ ดูโทรทัศน์ รดน้ำต้นไม้ หรือออกกำลังกายเบาๆ หรือพูดคุยเรื่องราวที่ทำให้ผู้สูงอายุเพลิดเพลิน มีความสุข สนุกสนานได้ 

3. สุขอนามัยผู้สูงวัยต้องเข้มข้น

ไม่เพียงสุขอนามัย ความสะอาดของตัวผู้สูงอายุเท่านั้นที่สำคัญ ลูกหลานในบ้านเมื่อกลับเข้ามาในบ้านควรล้างทำความสะอาดมือและร่างกายให้เรียบร้อย หลีกเลี่ยงการสัมผัสมือกับผู้สูงอายุ และไม่ให้ผู้สูงอายุไปสัมผัสมือ หมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ที่ผู้สูงอายุสัมผัสบ่อย ๆ ทุกวัน หากเป็นไปได้อาจมากกว่า 1 ครั้ง

4. ดูแลโภชนาการอาหารการกิน เน้นสร้างความแข็งแรง

เนื่องจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่เปราะบาง สุขภาพอ่อนแอ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับภูมิคุ้มกันในร่างกาย เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเสริมภูมิคุ้มกัน และควรให้รับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ 

5. ออกกำลังกายกระตุ้นความแข็งแรง

ในช่วงที่มีการกักตัวอยู่บ้าน ผู้สูงอายุนั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้าน ทำให้กล้ามเนื้อ ไขข้อเริ่มอ่อนแรงหรือมีปัญหา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งานกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ควรจัดสรรเวลาชวนผู้สูงอายุออกกำลังกายง่ายๆ เช่น การเดิน หรือแกว่งแขนออกกำลังกายในบ้านอย่าง สม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 – 60 นาที หรือเท่าที่ผู้สูงอายุทำได้

6. เมื่อต้องพาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ 

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปพบแพทย์ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เช่น อาการของโรคกำเริบ หรือผู้สูงอายุมีอาการผิดปกติ ควรเดินทางด้วยรถส่วนตัว เตรียมหน้ากากอนามัยให้กับผู้สูงอายุ งดการสัมผัสต่าง ๆ ที่ก่อนขึ้นรถกลับบ้าน และเมื่อถึงบ้าน ควรอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายทันที

ผู้สูงอายุบางท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องไปทำการพักฟื้นที่โรงพยาบาล  โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการพักฟื้นหลังผ่าตัดสะโพก เข่า หรือผ่าตัดสมอง หรือผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยเรื้อรัง สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมไปถึงกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ อัมพาต แผลกดทับ 

หากอาการของโรครุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ลุกลามหรือรุนแรงขึ้นจำเป็นต้องรับการดูแลใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือสถานที่ (บ้าน) อาจไม่เหมาะที่จะให้การดูแลผู้สูงอายุได้ การใช้บริการโรงพยาบาลที่ให้บริการรักษาดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับตัวผู้สูงอายุเองและลูกหลาน มากกว่าโรงพยาบาลทั่วไป ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา ที่ให้บริการไม่ครอบคลุมได้ทั้งหมด 

จำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัว ลูกหลานควรทำอย่างไร

เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายดี จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ลูกหลานเองก็สบายใจไร้กังวลเมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องฝากคนที่รักไว้กับใครสักคนเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง การเลือกสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลเพื่อผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องที่อยากให้ลูกหลานให้ความสำคัญเป็นพิเศษ 

ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ทีมแพทย์ พยาบาล สหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มาตรฐานการดูแลรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล รวมไปถึงควรเป็นสถานที่ที่ให้บริการได้ครบวงจร ตั้งแต่ รักษา ฟื้นฟูอาการ ดูแลพักฟื้นครบในที่เดียว ให้การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่กับลูกหลาน ส่วนญาติหรือลูกหลานเองก็สบายใจได้ว่าผู้สูงอายุมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด 

โรงพยาบาล ผู้สูงอายุ กล้วยน้ำไท 2 ดูแลคนที่คุณรัก ด้วยทีมแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพ มาตรฐานระดับโลก (JCI) 

โรงพยาบาล ผู้สูงอายุ กล้วยน้ำไท 2 เป็นโรงพยาบาลผู้สูงอายุที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุในระยะสั้นและระยะยาว รักษาโรคเจ็บป่วยเรื้อรัง สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ และให้บริการฟื้นฟูผู้สูงอายุที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัด กายภาพบำบัด  หนึ่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียนที่ได้รับรองมาตรฐานระดับโลก (JCI) ด้านการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว มาตลอด 9 ปี

ด้วยทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักโภชนาการ นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีเทคนิคที่ผ่านการตรวจสอบคุณวุฒิคุณลักษณะตามมาตรฐาน JCI รวมไปถึงแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ เช่น  แพทย์อายุรกรรมสมอง แพทย์อายุรกรรมทั่วไป แพทย์ศัลยกรรม แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์นิติเวช ที่พร้อมดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชม. โดยบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ จะทำงานเป็นทีมเพื่อให้การดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพที่ดี และใช้ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ ช่วยประสานสายสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและลูกหลาน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้สูงอายุมีความสุข ลูกหลานสบายใจที่จะฝากคนที่รักไว้ให้ทางโรงพยาบาลดูแล

โรงพยาบาลคำนึงถึงความรู้สึกของผู้สูงอายุที่ต้องห่างจากครอบครัวและลูกหลาน จึงมีการออกแบบห้องพักของผู้สูงอายุ ที่มุ่งเน้นความปลอดภัยจนได้รับรองมาตรฐาน JCI เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ และความสวยงาม สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายเพื่อให้ผู้สูงอายุได้พักผ่อนแบบเต็มที่ซึ่งจะช่วยให้อาการป่วยหายได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ โรงพยาบาลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตรวจคัดกรอง ซักประวัติ บุคลากรเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และผู้จะเข้ามาในพื้นที่ของทางโรงพยาบาลทุกท่าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้สูงอายุและลูกหลาน แม้สถานการณ์จะมีผ่อนปรนแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลยังคงมาตรการการป้องกันไว้เช่นเดิม

ข้อมูลเพิ่มเติม โรงพยาบาล ผู้สูงอายุ กล้วยน้ำไท 2 คลิก

Praew Recommend

keyboard_arrow_up