เปิดใจ 4 ผู้บริหารแห่ง สยามไบโอไซเอนซ์ กับความสำเร็จในการผลิตยา จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ผลงานหนึ่งเดียวของคนไทย สร้างสรรค์เพื่อคนไทย
การมีสุขภาพดี ถือเป็นรากฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นหนึ่งในปัจจัย 4 อย่าง ‘ยารักษาโรค‘ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ จึงนับว่ามีความสำคัญมากในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ แพรวดอทคอม จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก สยามไบโอไซเอนซ์ กับผลงานความสำเร็จในการผลิตยา ฝีมือของคนไทยเพื่อคนไทย ผ่านมุมมองของ 4 ผู้บริหารคนสำคัญ ได้แก่ คุณอภิพร ภาษวัธน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด คุณธวัชชัย พิเศษกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด และคุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด

บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดยมีจุดเริ่มต้นจากเจตนารมณ์อันแน่วแน่ ซึ่งมุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้ยาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงในราคาที่ถูกลง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านยารักษาโรค และเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย ประกอบด้วย 2 บริษัทหลัก คือ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ดำเนินการวิจัย พัฒนา และผลิตยา ชุดตรวจโรค รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยมีการวิจัย พัฒนา และผลิตครบวงจร ตั้งแต่ตัวยาสำคัญ สารออกฤทธิ์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และบริษัทเอเพ็กซ์เซล่า ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการขายทั้งในประเทศและส่งออก
เป้าหมายหลักของสยามไบโอไซเอนซ์ คือการผลิตยาชีววัตถุ หรือยาไบโอฟาร์มา ซึ่งเป็นยาที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลข้างเคียงต่ำ เช่น ยาเพิ่มเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว ยารักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น โดยขึ้นชื่อว่าเป็นโรงงานยาชีววัตถุแห่งเดียวของประเทศไทยที่สามารถทำเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบ อีกทั้งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล PIC/s GMP, ISO 9001 และ ISO 17025 รวมถึงยาดังกล่าวยังได้รับการบรรจุเข้าบัญชียาของหน่วยงานด้านสุขภาพต่างๆ
นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2560 สยามไบโอไซเอนซ์ยังมีการจัดตั้งอีก 2 บริษัทย่อย เพื่อต่อขยายธุรกิจ คือ บริษัท เอบินิส จำกัด ซึ่งร่วมทุนกับ CIMAB รัฐวิสาหกิจยาอันดับหนึ่งของประเทศคิวบา เพื่อวิจัย พัฒนา ผลิต และส่งออกยาชีววัตถุอย่างครบวงจร โดยเน้นยารักษาโรคมะเร็ง โรคโลหิตจาง และโรคแพ้ภูมิตนเอง และบริษัท อินโนไบโอคอสเมด จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและชีวเวชสำอาง
ดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้เล่าถึงความสำคัญของการผลิตยาชีววัตถุในประเทศไทยว่า
การมุ่งมั่นผลิตยาชีววัตถุ ถือเป็นดีเอ็นเอของเรา อีกทั้งยังเป็นวัตถุประสงค์หลักตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที โดยยาชีววัตถุมีความสำคัญมาก แต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วยังเป็นช่องโหว่ของประเทศไทย ทั้งปัญหาความขาดแคลนและราคาที่สูงมาก เพราะการผลิตยาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตในรูปแบบใดก็ตาม มักมีสัดส่วนการผลิตที่ลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งยาที่ผลิตได้ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นยาทั่วไป ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องนำเข้ายาชีววัตถุ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงเล็งเห็นความสำคัญของการผลิตยาชีววัตถุ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
สำหรับขั้นตอนคร่าวๆ ในการผลิตยาชีววัตถุจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ที่เราสามารถทำเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบแบบครบวงจร เริ่มต้นจากการใส่โปรแกรมเข้าไปในเซลล์ เพื่อให้เซลล์ผลิตโปรตีนเหมือนที่ร่างกายมีทั้งหมด จากนั้นจึงนำเซลล์ไปเลี้ยงเพื่อสกัดโปรตีนออกมาและทำให้บริสุทธิ์ รวมถึงมีการปรุงสูตรให้เก็บได้นาน แม้ออกจากโรงงานไปแล้วก็ยังคงคุณภาพอยู่ ต่อมาก็กระจายไปสู่โรงพยาบาลต่างๆ โดยขั้นตอนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การวิจัย พัฒนา รวมถึงการตรวจผลการวิจัยและการตรวจรับรองต่างๆ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ อย. ซึ่งใช้เวลาดำเนินการนานกว่า 6 ปี ถึงสามารถนำยาออกสู่ท้องตลาดได้
ความสำเร็จในการผลิตยาชีววัตถุของสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับความร่วมมือจากประเทศคิวบา โดยคุณอภิพร ภาษวัธน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า
เราใช้เทคโนโลยีชีวภาพชั้นสูงในการผลิตยาชีววัตถุ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดพลังงาน โดยก่อนหน้านี้มีการเดินทางไปทั่วโลก เพื่อเรียนรู้วิทยาการต่างๆ จนในท้ายที่สุดก็ได้รับความร่วมมืออันดีจากประเทศคิวบา ที่แบ่งปันความรู้ เทคโนโลยี และประสบการณ์ โดยใช้เวลาติดต่อนานถึง 2 ปี กว่าที่เราจะสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวกลับมาวิจัยและพัฒนาต่อได้ในประเทศไทย
เหตุผลที่ลงเอยที่ประเทศคิวบา เพราะเขามีวิสัยทัศน์ที่ดีมากๆ ในเรื่องสุขภาพและการศึกษา โดยมีการส่งนักเรียนไปเรียนที่ต่างประเทศเยอะมาก แล้วนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง จนเทคโนโลยีได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพสูง รวมถึงยังได้ทำธุรกิจร่วมกับประเทศใหญ่ๆ เช่น จีน อินเดีย บราซิล เราจึงมั่นใจในศักยภาพของเขา
จากเจตนารมณ์ของสยามไบโอไซเอนซ์ ที่มุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้ยาที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ถูกลง คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้เน้นย้ำว่า
เราถือเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยและทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สามารถผลิตยาชีววัตถุได้จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่งตอบโจทย์ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่ทุกคนให้ความสำคัญกันมากที่สุด เพราะการเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความขาดแคลนหรือราคา นับเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ประโยชน์เหล่านี้จะกลายเป็นความยั่งยืนในระยะยาวของวงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย รวมถึงของโลกด้วย
นอกจากนี้ คุณธวัชชัย พิเศษกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด ยังให้ความรู้เกี่ยวกับกลไกราคายาเอาไว้ด้วยว่า
ยาชีววัตถุของเราถือว่าถูกกว่ายานำเข้า แต่ก็ไม่อยากให้มองความสำคัญแค่เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว เพราะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพมากที่สุด โดยเฉพาะมาตรฐานที่ต้องทัดเทียมกับของต่างชาติได้ สำหรับเรื่องกลไกราคายานั้น พอเรามีการใช้ยามากขึ้น ราคายาก็จะถูกลง หรือพอมีการนำเข้ายามากขึ้น หลายๆ บริษัทก็จะแข่งกันปรับราคาลง ดังนั้นการที่เราสามารถผลิตยาได้แบบครบวงจร จึงช่วยให้ราคายาถูกลงแน่นอน ซึ่งช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น และประเทศไทยก็มีความมั่นคงทางคุณภาพมากขึ้นตามไปด้วย
สุดท้าย ดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ฝากถึงก้าวต่อไปของสยามไบโอไซเอนซ์เอาไว้ว่า
ตอนนี้เราได้รับความร่วมมือจากบริษัทต่างชาติ ด้วยวิสัยทัศน์เดียวกันที่เชื่อมั่นว่า หากก้าวไปด้วยกันก็จะช่วยให้ก้าวไปได้เร็วขึ้น ซึ่งเริ่มจากการนำเข้ายาจากประเทศเยอรมนี เป็นยาระงับปวดรุนแรงที่ใช้สำหรับการผ่าตัด โดยหลังจากที่นำเข้าได้ประมาณ 1 ปี ก็เริ่มมีการเจรจาขอทำเทคโนโลยีทรานเฟอร์ คาดว่าในช่วงปีหน้าเราก็น่าจะเริ่มผลิตยาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังมีเวชสำอางที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหามลภาวะในปัจจุบัน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย บอบบาง รวมถึงการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งหมดนี้คือการต่อยอดความสำเร็จมาจากเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงของสยามไบโอไซเอนซ์นั่นเอง