ฉายชีวิตคนทำหนัง ผู้กำกับจีทีเอชเลือดใหม่ ‘หมู-ชยนพ ไหน…ไฟแรงเฟร่อ’

moo9หายจากการทำหนังไปพักใหญ่ หลังจากจบเรื่อง Suck seed ช่วงที่หายไปทำอะไรอยู่

หมู ชยนพ : ผมไปทำงานกำกับโฆษณาครับ อาจจะเคยคุ้นตากันอยู่ เป็นโฆษณามันฝรั่งที่มีณเดชน์กับญาญ่า และก็มีไปกำกับMV ให้กับนักร้องอินโดนีเซีย อย่างงานอื่นๆ ก็มีทำกำกับ TVC ด้วย

กดดันไหมกับการกลับมากำกับหนังเรื่องที่ 2 เพราะเรื่องแรกรายได้ถึง 80 ล้านแล้ว

หมู ชยนพ : ถ้าจะกดดันคงเป็นเรื่องการทำงานมากกว่า ว่าจะสามารถเล่าเรื่องให้คนดูรู้สึกสนุกกับหนังได้ไหม ส่วนเรื่องรายได้ เป็นเรื่องที่คาดเดายากมาก คิดไปก็เท่านั้น คือจะไปคาดหวังสิ่งนี้ไม่ได้เลย เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมมากเกินไป ปัจจัยมันเยอะมาก ทั้งเรื่องของเวลาที่เข้าฉาย และหนังเรื่องอื่นๆ ที่ชนโรงอยู่ในช่วงเดียวกัน เหตุการณ์บ้านเมืองก็มีผล หนังที่เข้าก่อนหน้าและหลัง อารมณ์ของคนดูในช่วงนั้น การโปรโมทมีผลหมดเลย สิ่งที่ผมทำได้ก็คือ ต้องทำหนังออกมาให้ดีที่สุด มันเลยกดดันแค่เรื่องนี้ว่าจะทำเท่ากับหรือมากกว่าเรื่องเดิมหรือเปล่า

moo3การทำงานของหนังเรื่องเมย์ไหน ฯ มีข้อแตกต่างจากหนังเรื่องแรกบ้างหรือเปล่า

หมู ชยนพ : ถ้าจะเอาแบบหยาบๆ ความต่างที่เห็นชัดเลยคือ ซัคซี้ดคือหนังดนตรี แต่อันนี้มีความคล้ายคือ ทั้งสองเรื่อง ตัวเอกของเรื่องมันดูมีความห่วย มีความสู้คนอื่นไม่ได้ แต่รายละเอียดของเรื่องซัคซี้ด ตัวเอกมันไม่ได้คิดว่ามันห่วย มันคิดว่ามันทำเต็มที่ของมันแล้ว แต่ผลออกมามันดันห่วย ส่วนเรื่องเมย์ไหนฯ ตัวเอกเป็นคนวาดการ์ตูนเก่งจัดจ้านมาก วาดรูปเทพมาก แต่มันคิดว่ามันไม่เก่งตั้งแต่ต้น และมีความเชื่อว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้เลย

กลับมาทำหนังรอบนี้ ความรู้สึกเหมือนตอนทำเรื่องแรกไหม

หมู ชยนพ : ช่วงแรกที่โปรโมทก็มีตื่นเต้นเหมือนกัน พอคนเห็นตัวอย่างหนัง กับโปสเตอร์อาจจะคิดว่าหนังเด็กไปหรือเปล่า มีเหมือนกันที่คนไม่กล้าอ่านชื่อถ้าเป็นผู้ใหญ่หน่อย เพราะมันดูเป็นคำวัยรุ่นมาก แต่พอรอบสื่อฉายออกไป ก็ยังมีนักข่าวมาบอกว่าไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่

moo5เลยมีกระแสออกมาว่าหน้าหนังที่ตัดต่อเสร็จไม่ค่อยน่าสนใจด้วย รู้สึกอย่างไรบ้าง

หมู ชยนพ : จริงๆ ผมรู้ตัวเองอยู่เหมือนกันว่ายังปล่อยของออกมาไม่หมด ตอนแรกก็กังวล มันเหมือนเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่อาจจะทำให้คนตัดสินไปแล้วว่าไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ ก็เสียวๆ เหมือนกัน แต่พอฟีตแบ็ครอบสื่อออกไปมันดีเหลือเชื่อ คนที่เหมือนง้างปากรอจะด่า ก็เปลี่ยนเป็นชอบ ทั้งจากคนดูและนักวิจารณ์หนังที่ไปวันนั้น ฟีตแบ็คบวกมาก ก็ดีใจและตื่นเต้นมากที่ผลออกมาเป็นแบบนี้

ก่อนหนังเข้าฉาย กระแสและการคาดการณ์เป็นในแนวทางไหน

หมู ชยนพ : ไม่เคยมีมาบอกก่อนครับ แต่จะมารู้กันเอาตอนที่หนังเข้าฉายรอบสื่อกันเสร็จ ก็จะมีคำวิจารณ์ มีคนพูดถึงว่าแนวโน้มของหนังจะไปในทิศทางไหน ได้เงินหรือเปล่า แต่พอรายได้ออกมาระยะนึงก็รู้เลยว่าเออหน้าหนังมันทำให้คนตัดสินไปเยอะเลย โดยเฉพาะผู้ใหญ่ เหมือนเขาฟันธงไปแล้วว่าอาจจะไม่เหมาะกับหนังเรื่องนี้ แต่คนที่เข้าไปดูแล้ว คือชอบหมดเลยนะ ผู้ใหญ่เข้าใจกว่าวัยรุ่นหรือ ม.ต้นด้วยซ้ำ

moo11

 “เมย์ไหน…ไฟแรงเฟร่อ” ชื่อเรื่องนี้ใครเป็นคนตั้ง

หมู ชยนพ : บอร์ดบริหารสักท่านนี่แหละครับ ส่วนที่มาของชื่อนี้ “เมย์ไหน” คือชื่อเล่นของนางเอก และเป็นชื่อที่โหลมากที่สุดของคนไทย ในเรื่องมีคนชื่อเมย์เยอะ เลยมีคำสร้อยเรียกต่อท้าย และด้วยคาแร็กเตอร์ของเมย์ไหน เป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าไหร่ แต่ตัวเขาก็มีพลังงานพิเศษคือ กระแสไฟฟ้าที่จะปล่อยออกมาจากตัวเวลาที่หัวใจเต้นเร็ว เลยเป็นที่มาของคำว่า “ไฟแรงเฟร่อ”

ภาพยนตร์ของจีทีเอชหลายเรื่องจะโปรโมทกันเป็นเดือน ทำไมเรื่องนี้ถึงใช้เวลาสั้นมาก

หมู ชยนพ : เพราะมันต่อเนื่องกับฟรีแลนซ์ฯ ระยะการฉายห่างกันไม่ถึงเดือน ส่วนว่าทำไมไม่ขยับออกมา เพราะจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้มันเลื่อนมาก่อนแล้วครับ ตอนแรกมีกำหนดจะเข้าฉายช่วงเมษายน ไม่ก็สิงหาคม เพราะถ่ายเสร็จตั้งแต่กุมภาพันธ์ และเลื่อนมาเรื่อยๆ ก็จะมีคนชอบบอกว่าเป็นเพราะนักแสดงที่ไปสร้างเรื่องอะไร และต้องงดรับงานหรือเปล่า จริงๆ ก็ไม่ใช่หรอกครับ ไม่เกี่ยวเลย เพราะถ่ายเสร็จตั้งแต่ก่อนมีเรื่องแล้ว แต่ที่ต้องเลื่อนฉายมาสองครั้ง เพราะหนังเรื่องนี้มีอนิเมชั่นในหนังเยอะตั้งแต่เคยทำมาเลย เราไม่เคยทำงานอนิเมชั่นที่สเกลใหญ่เท่านี้ เลยต้องใช้เวลานานกว่าจะปรับแก้ให้มันลงตัว

moo7ทำไมถึงกล้าเอาอนิเมชั่นมาใส่ในหนัง เพราะเอาจริงๆ สำหรับจีทีเอชอาจจะเป็นเรื่องที่ยังใหม่อยู่ แม้ว่าจะเคยลองแตะๆมาบ้าง

หมู ชยนพ : คือกับหนังเรื่องแรกของผม ก็มีทำสั้นๆ ประมาณนาทีสองนาที อันนี้สิบกว่านาที มันก็สนุก ผมเป็นคนชอบทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อยากทำอะไรใหม่ๆ บ้าง ไม่อยากทำอะไรซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ

รู้สึกกดดันไหมกับคำว่า ผู้กำกับค่ายหนังจีทีเอช

หมู ชยนพ : ผมโตมากจากที่นี่ตั้งแต่ก่อนมาเป็นผู้กำกับด้วยซ้ำ เข้าปีหนึ่งก็ดูหนังเรื่องแฟนฉัน และพี่ๆ ผู้กำกับก็เป็นรุ่นพี่ที่คณะด้วย เคยไปเที่ยวเล่นด้วยกันมา มันก็รู้สึกว่าพวกเขาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของผม ทำให้ผมอยากทำหนังแบบนี้ ให้คนหมู่มากมีความสุขให้ได้บ้าง มันเป็นเป้าหมายอีกอันนึงเลยในชีวิตที่อยากจะมาทำงานด้านนี้ พอได้ยินคำว่าเป็นผู้กำกับหนังจีทีเอช ผมไม่กดดันนะ รู้สึกดีใจ และภูมิใจมากกว่า เพราะเราอยากมาอยู่เส้นทางนี้

moo2ผลงานของผู้กำกับรุ่นพี่ มีผลต่อการทำงานบ้างไหม

หมู ชยนพ : อืม… ก็มีนะครับ คือพอเราเห็นผลงานของผู้กำกับคนอื่นๆ ที่หนังฉายจบแล้วประสบความสำเร็จมาก ก็มีคิดว่าโห… เขาสร้างมาตรฐานไว้สูงมาก เราจะทำให้ได้แบบที่พี่ๆ เขาทำหรือเปล่า มันก็ตื่นเต้น และรู้สึกว่าเราต้องขยัน ต้องจริงจังกับทุกรายละเอียดไม่ให้มาตรฐานมันตกลง มันไม่ใช่แค่ชื่อของตัวผมเอง แต่มันเป็นชื่อของจีทีเอชด้วย

การเป็นผู้กำกับจีทีเอช มาพร้อมกับความคาดหวังและมาตรฐานสูง แบบนี้วันๆต้องคิดและทำอะไรบ้าง

หมู ชยนพ : ผมว่ามันเป็นการตั้งธงไว้มากกว่า จริงๆ ผมไม่ได้ไปกดดันหรือซีเรียสกับตัวเองขนาดนั้น แต่พอเราชอบมันแล้ว ก็จะอยากจะใช้เวลาอยู่กับสิ่งนี้ตลอดเวลา ชีวิตประจำวันตอนนี้ก็จะคิดเรื่องหนัง อย่างวันก่อนผมไปเดินสายโปรโมท ผมเห็นน้องฝึกงานที่มาจากทางภาคเหนือกลุ่มนึงเขายืนอยู่แถวๆ ทุ่งดอกเข็ม แล้วเขาก็เด็ดดอกเข็ม ดึงเกสรออกมาแล้วดูดน้ำหวานกินกัน ตอนนั้นผมคิดในใจว่าซีนนี้ถ้าเป็นฉากที่คนกำลังจีบกันในหนังมันคงน่ารักมาก เลยรีบถ่ายภาพเก็บไว้เลย

moo6ผมรู้สึกว่ามันสนุกดีที่เราได้มองอะไรรอบด้าน มันสามารถนำมาคิดต่อทำงานได้เสมอๆ อย่างตอนที่ทำหนังเรื่องซัคซี้ด กับเมย์ไหนฯ มันก็มาจากสิ่งที่ผมเคยเจอมาก่อนในช่วงชีวิตนึง และเอามาดัดแปลง

กำกับภาพยนตร์มาสองเรื่องแล้ว แบบนี้พอจะให้คนดูตัดสินได้หรือยังว่าสไตล์หนังของคุณเป็นแบบไหน

หมู ชยนพ : เอาเป็นว่าผมไม่ได้อยากทำหนังมัธยมไปตลอด แต่ถ้าอะไรเป็นเอกลักษณ์ของผมบ้าง ผมว่ามันมีหลายอย่างที่มันเป็นส่วนผสมอยู่ในนั้น ผมเป็นคนชอบกวน ในหนังผมจะกึ่งล้อเลียน อะไรที่มันดูจริงจังจะชอบเอามาล้อเลียนเยอะมาก

รู้สึกอย่างไรที่หลายคนอาจเริ่มติดภาพว่าคุณอาจจะกำกับเป็นแต่หนังแนวนี้

หมู ชยนพ : เป็นเรื่องธรรมดาที่เราตัดสินคนจากผลงานที่ผ่านมาของเขา ผมเพิ่งทำสองเรื่อง ซึ่งมันเป็นแนวนี้ คนอาจเข้าใจว่าทำได้แต่แนวนี้หรือเปล่า ส่วนหนังเรื่องต่อไปจริงๆ ก็ยังไม่รู้หรอกว่าเป็นแนวไหน แต่ตั้งใจว่าคงไม่เว้นการทำหนังนาน คงประมาณสองปีก็อาจจะได้เห็นอีก เดี๋ยวพอโปรโมทเรื่องนี้เสร็จผมก็คงเริ่มลุยเลย

moo4วิธีคิดหรือหลักในการทำงานให้ได้หนังสักเรื่อง สำหรับคุณมันเกิดจากอะไรอีกบ้าง นอกจากการหยิบเรื่องใกล้ตัวมาทำ

หมู ชยนพ : ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนขี้เสือก ยิ่งมาทำงานด้านนี้ยิ่งต้องเสือกเรื่องชาวบ้านให้เยอะ เพราะว่าเรื่องชาวบ้านเป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนทำหนัง เพราะคนทำหนังคือคนเล่าเรื่อง และเราต้องเป็นคนที่คอยอยากรู้อยากเห็นเรื่องดี ๆ เราต้องมีเรดาร์ในการคัดกรองเรื่องดีๆ เข้ามาและเก็บมันเอาไว้ใช้เป็นทรัพยากร ถ้าทำแบบนี้เราจะทำหนังได้ไม่มีจบสิ้นตลอดชีวิตครับ

moo8 อยากฝากอะไรถึงคนที่ยังไม่ได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไหม

หมู ชยนพ : จากฟีตแบ็คคนดูหลายคนบอกว่าสนุก และมีความประทับใจมาก และพบว่าการดูหนังตลกในโรงมันมีความสุขมาก เพราะเราได้ขำไปพร้อมกับคนอื่น ผมว่ามันแฮปปี้กว่าการที่เราดูคนเดียวที่บ้านนะ ดูในโรงเราได้สัมผัสประสบการณ์หลายอย่างร่วมกัน และสำหรับหนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าไปดูผมว่า มันก็ได้เป็นการรำลึกถึงช่วงชีวิตในวัยมัธยมดี ผมอยากให้ทุกคนไปรับความสุข รับพลังในหนังเรื่องนี้ ต้องดูในโรงมันถึงจะฟินครับ

moo12

 

เรื่อง : SRIPLOI

ภาพ : วาระ สุทธิวรรณ

สถานที่ : GTH

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up