ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่

6 ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่ จากพฤติกรรมชอบเผลอก้มตัวงุ้มไปด้านหน้าประจำ

Alternative Textaccount_circle
ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่

แปะ 6 ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่ เพราะพนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ มักจะมีพฤติกรรมนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานเอกสารบนโต๊ะ ก้มหน้าทั้งวัน ทำให้มีอาการปวดคอบ่าไหล่ได้ง่าย

ปัญหาเหล่านี้ หากเริ่มมีอาการ แล้วจัดการตัวเองเบื้องต้นได้ จะทำให้ปัญหาไม่บานปลาย คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำนักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้ให้ข้อมูลอาการปวดคอบ่าไหล่ว่า อาการดังกล่าวข้างต้น เป็นผลจากความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อด้านหน้ากับด้านหลังที่ทำงานผิดสมดุล เกิดจากท่าทางที่เราคุ้นชินจนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของความยาว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ อาจมาจากท่าทางเหล่านี้

  • นั่งกอดอก
  • ก้มคอเล่นโทรศัพท์
  • นั่งหลังค่อมใช้คอมพิวเตอร์
  • นอนตะแคงตัวงอเป็นกุ้ง
  • ชอบยืนหรือนั่งงอตัว เอาอกไปวางบนพุง
  • ห่อไหล่

หรือรวมไปถึงกิจวัตรประจำวันต่างๆ ในชีวิตเราก็มักก้มตัวงุ้มไปด้านหน้าเป็นปกติอยู่แล้ว เช่น กินข้าว แปรงฟัน อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ฯลฯ และทั้งหมดก็เป็นเหตุให้มีอาการดังได้กล่าวที่เรียกว่ากล้ามเนื้อขาดความสมดุลหรือ Muscle Imbalance ภาวะนี้เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหน้าอกมัดตื้นและมัดลึก หรือกล้ามเนื้อที่เกาะระหว่างชายโครงด้านหน้า หดสั้นเกร็งมากกกว่าปกติ ส่วนกล้ามเนื้อด้านหลัง ช่วงสะบักทั้งหมด จะยาวโก่งออก เส้นใยกล้ามเนื้อจะถูกยืด เหมือนหนังยางที่ยืดค้างไว้นานๆ ก็จะหดกลับยาก ทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้อ่อนแรง

หน้าที่กล้ามเนื้อเหล่านี้คือพยุงก้านคอ และทำให้หลังตรง ซึ่งพออ่อนกำลังหลังก็ค่อม ไหล่ก็จะห่อลง ฯลฯ กล้ามเนื้อเหล่านี้คนส่วนใหญ่มักไปยืด ซึ่งยิ่งยืดอาจจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้น แต่ยืดใหม่ๆ ก็จะรู้สึกสบายค่ะ ในระยะยาวจะยิ่งเกิดผลเสียต่อโครงสร้างร่างกาย  เราจึงมึ 6 ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่ มาแนะนำ 

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 1

ท่าที่ 1 มือประสานกัน เหยียดแขนสุดขึ้นเหนือศีรษะ กระดกข้อมือวาดแขนเหยียดตรงไปด้านหลัง พร้อมยืดอกเหลือบหน้ามองบน แขม่วงท้อง ค่อยๆ วาดลงช้าๆ

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 2

ท่าที่ 2 มือคว่ำจับยางยืดพอตึงๆ เหยียดแขนขึ้นบนศีรษะ ดึงยางยืดแยกออกจากกันพร้อมงอศอกตั้งฉาก ผลักแขน ไหล่ไปด้านหลัง แล้วค่อยๆ ดึงลงล่าง ดึงสะบักเข้าหากัน ค้างไว้ 5 วินาที

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 3

ท่าที่ 3 กางแขน งอศอก 90 องศา หันหน้าไปด้านตรงกันข้าม พร้อมหมุนไหล่กว้าง ดันไปด้านหลัง (เหมือนใช้ศอกวาดเป็นวงกลมกว้างๆ) เป็นจังหวะพร้อมๆ กัน

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 4

ท่าที่ 4 กางแขนงอศอก 90 องศา หันหน้าไปด้านตรงกันข้าม พร้อมผลักหัวไหล่ แขนไปด้านหลังดึงสะบักแน่นๆ ค้างไว้ 3 วินาที แล้วผ่อนกลับท่าเริ่มต้น

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 5

ท่าที่ 5 มือประสานกันด้านหลัง เหยียดศอกให้ตึง ดึงสะบักเข้าหากัน ดันมือไปด้านหลัง ยืดอก เงยหน้าเหลือบมองบน ค้างไว้ 3 วินาที แล้วผ่อนกลับท่าเริ่มต้น

ท่าบริหารแก้ปวดคอบ่าไหล่
ท่าที่ 6

ท่าที่ 6 จับยางยืดดึงพอประมาณหงายมือ งอศอกไว้ระดับสะดือ ดึงยางยืดแยกออกจากกัน ดึงสะบัก ผลักไหล่ไปด้านหลังแล้วยืดอก แขม่วท้อง ค้างไว้ 3 วินาที แล้วกลับท่าเริ่มต้น

ทำท่าละประมาณ 5 ครั้ง 3 รอบต่อวัน หรือทำได้บ่อยๆ เวลาที่มีอาการเลยค่ะ


ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฝ่าด่านความอ้วนจากพันธุกรรม ปรับพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์

ตามใจปากจนเผละ! ถึงเวลากู้หุ้นพังตามสูตรทั้ง 7 ข้อ ฟิตหุ่นย้วยให้เฟิร์มเพอร์เฟ็ค

เช็คลิสต์ 11 อาการว่า ปวดหลังธรรมดา หลังเสื่อม หรือแค่กล้ามเนื้อเกร็งธรรมดา

 

 

น้อยแต่มากด้วยมงคล! กับข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว และงา ของสำคัญในงานแต่งไทย

account_circle

ของที่ต้องใช้ใน งานแต่งไทย นั้นมีมากมายหลายอย่าง และแต่ละอย่างก็ล้วนแฝงความหมายอันเป็นมงคลไว้ทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว และงา สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เพียงไม่กี่หยิบมือ แต่กลับให้ความหมายที่มีพลังมหาศาล 

ข้าวตอก – ธัญพืชเมล็ดสีขาวที่เกิดจากการนำเมล็ดข้าวเปลือกไปคั่วจนแตกพองออกมาเป็นสีขาว เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้ความรักของบ่าวสาวเบ่งบานเช่นเดียวกับข้าวตอก

งานแต่งไทย

ดอกไม้ – กลีบดอกไม้มงคลที่มักจะนำมาใช้โรยสินสอด ได้แก่ ดอกรัก ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ และดอกบานไม่รู้โรย โดยเปรียบเสมือนการอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันมั่นคง ยืนยาว และให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข เจริญรุ่งเรือง

ถั่ว งา – เป็นธัญพืชที่เติบโตง่าย เพราะฉะนั้นการโปรยถั่วและงาลงบนสินสอด เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้สิ่งของมีค่าเหล่านั้นงอกงาม เพิ่มพูน หรือหากว่าทำการค้าใดๆ ก็ให้เจริญรุ่งเรืองด้วยดี

รู้อย่างนี้แล้วก็รีบเตรียมมาไว้กันด่วนๆ นะคะ จะได้ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตคู่

สาระหน้ารู้เกี่ยวกับข้าวตอกดอกไม้ยังมีอีกเพียบ
>> ตีแผ่ให้รู้จะได้เตรียมถูก ‘ข้าวตอกดอกไม้’ ในงานแต่งไทย
>> ข้าวตอก-ดอกไม้-ถั่วงา ของหาง่ายในพิธีแต่งงานที่ต้องพิถีพิถันในการซื้อ

ภาพข้าวตอก : www.jatiewpainai.coma a a

รวม เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ทำตามได้ไม่ยาก

account_circle

เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งแบบเอ้าท์ดอร์ เย็นชื่นใจทั้งบ่าวสาวและแขก

หากใครอยากจะจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์อาจจะคิดหนักกันเสียหน่อย ยิ่งถ้าหากจัดในช่วงซัมเมอร์ที่ร้อนจนทอดไข่ดาวสุกด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะแยกไปออกว่าอยู่ในงานแต่งหรืองานสงกรานต์ แต่ถ้าวางแผนเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องจัดแบบเอ้าท์ดอร์ให้ได้ ก็ไม่ต้องเครียดไปนะจ๊ะ เพราะทุกปัญหามีทางออก แพรว wedding เลยนำ เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์มาฝาก ที่ทำตามได้แบบไม่ยากเลย แถมไม่ต้องเล่นใหญ่ไฟกระพริบก็สามารถทำให้แขกในงานเย็นได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มกิมมิคให้งานน่าสนใจอีกด้วยน้า มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีวิธีใดบ้าง

1. พัด

ไอเทมง่ายๆ ที่ราคาไม่สูง บ่าวสาวสามารถแจกพัดให้กับแขกในงานได้ ถ้าใครร้อนก็สามารถพัดเองได้เลย ระดับความเย็นขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะพัดแรงขนาดไหน ขอบอกเลยว่าพัดนั้น สามารถเพิ่มไอเดียความน่ารักกุ๊กกิ๊กได้เยอะมากนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเลือกเป็นพัดไม้ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย หรือพัดจักรสานของคนไทยก็เก๋ แต่ถ้าอยากให้เป็นไอเดียเฉพาะงานแต่งบ่าวสาวเท่านั้นก็สามารถสั่งทำพัดเป็นโลโก้งานแต่งงานขึ้นมา แจกแก้ร้อนแถมยังเป็นของชำร่วยได้อีกน้า

เทคนิคคลายร้อน

2. เครื่องดื่มคลายร้อน

สิ่งที่ดับร้อนที่ดีที่สุดคือน้ำเย็นๆ ในแก้วน้ำแข็ง จะเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำอัดลม น้ำสมุนไพร หรือม็อคเทลก็แล้วแต่สะดวก เพราะถ้าเสิร์ฟมาคูลๆ แล้วล่ะก็ยังไงก็คลายร้อนได้แน่ๆ ยิ่งถ้าหากมีรสหวานหน่อยๆ ก็จะยิ่งช่วยดับกระหายได้อย่างดีเยี่ยมไปอีก หรือบ่าวสาวอาจลองหาน้ำสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการดับกระหายมาลองเสิร์ฟดูก็ได้นะจ๊ะ ทั้งชื่นใจทั้งดีต่อสุขภาพด้วย

> เครื่องดื่มในงานแต่ง เตรียมเองง่ายๆ แบบไม่ต้องง้อบาร์เทนเดอร์

> เครื่องดื่มในงานแต่ง ครีเอทใหม่ได้ให้เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะงานแต่งของเรา

เทคนิคคลายร้อน

3. ร่ม

หลบร้อนไม่ได้ก็สู้แดดไปเลย กับไอเดียการแจกร่มที่ช่วยกันแดดได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งถ้าหากร่มนั้นมีสีสันสดใสหรือลวดลายน่ารักๆ ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่ารักสดใสให้กับงานแต่งงานของบ่าวสาวได้อีกด้วยนะ อาจจะลองดูธีมงานของเราก็ได้ว่าเป็นสไตล์ไหน แล้วก็แค่เลือกใช้ร่มให้เหมาะกับธีมงานหรือสถานที่ เช่น ถ้าธีมงานเป็นแนวโมเดิร์น ก็อาจเลือกใช้เป็นร่มกันยูวีเฉดสีสดใส แต่ถ้าเป็นงานแต่งไทยก็แค่เปลี่ยนมาใช้ร่มสไตล์บ่อสร้างก็เพิ่มความเป็นออเจ้าทันทีเลยหนา

เทคนิคคลายร้อน

4. พัดลมไอน้ำ

ถ้าในกรณีที่ต้องการความเย็นแบบชัวร์ๆ เราขอแนะนำพัดลมไอน้ำค่ะ จัดเตรียมนำมาไว้ในงานแต่งงานให้ทั่วบริเวณไปเลย เพราะนอกจากจะได้ความเย็นฉ่ำจากพัดลมขนาดใหญ่แล้ว ยังได้ไอน้ำนิดๆ ที่ช่วยลดความร้อนเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี แต่ควรจัดตำแหน่งพัดลมดีๆ นะจ๊ะ เพราะถ้ามากเกินไปแขกในงานอาจจะเปียกแทนที่จะร้อนก็ได้น้า และที่สำคัญเตรียมงบกันไว้ด้วยนะ หรืออาจจะลองสอบถามกับทางสถานที่จัดงานดูก็ได้ว่ามีบริการเสริมให้ในส่วนนี้หรือเปล่า จะได้ช่วยบ่าวสาวประหยัดงบไปอีกแรง

แต่งงานoutdoor

5. ไอศครีม

ของหวานที่เย็นชื่นใจและไม่ค่อยมีใครปฏิเสธก็คือไอศกรีม ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมแท่ง ไอศกรีมแบบตัก หรือไอศกรีมโคน ก็แล้วแต่ดีไซน์ได้ตามความชอบของบ่าวสาวแต่ล่ะคู่เลยค่ะ แต่ถ้าอยากให้สดชื่นลองเลือกไอศครีมที่มีส่วนผสมของผลไม้ หรือเพิ่มความเป็นโซดาเพื่อความซาบซ่าชื่นใจ

แต่งงานoutdoor

เป็นยังไงค่ะกับเทคนิคคลายร้อน ง่ายมากเลยใช่มั้ย แถมยังคลายร้อนอย่างเห็นผลอีกด้วย … แต่ถ้าอัพเลเวลการคลายร้อนขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป ลองทำตามคำแนะนำนี้ดีไหมจ๊ะกับ >> ดับความร้อนด้วยธีมงานแต่งงานสีเขียวสุดคูลที่ทั้งสวยและดูแพง

ภาพจาก : marthastewartweddings.com , Pinterest.com

ข้อควรรู้ชีวิตหลังแต่งงาน ให้สามีภรรยาป้ายแดงสดใสเหมือนข้าวใหม่ปลามันทุกวัน

account_circle

ชีวิตหลังแต่งงาน ที่สามี-ภรรยาป้ายแดงทั้งหลายต้องรู้ มาทำชีวิตคู่ให้เป็นข้าวใหม่ปลามันในทุกวันกันเถอะ

ละครแนวแฮปปี้เอนดิ้งหลายเรื่องมักจะปิดฉากด้วยงานวิวาห์ของพระเอกและนางเอกที่ทำให้ละครจบอย่างสวยงาม แต่ในความเป็นจริงเมื่อคืนแห่งความสุขนั้นสิ้นสุดลง ชีวิตหลังแต่งงาน ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเช้าวันใหม่ แพรวเวดดิ้งเลยนำข้อควรรู้มาฝากคู่ชีวิตป้ายแดงกันค่ะ ทำตามนี้ประจำสม่ำเสมอคอนเฟิร์มเลยว่าคุณจะเป็นคู่รักข้าวมันปลามันในทุกวันแน่นอน 

ข้อที่ 1 นับหนึ่งแล้วเดินหน้า

วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุด ตื่นเต้นที่สุด และมีความสุขที่สุด ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อวันวิวาห์ผ่านพ้นไป บ่าวสาวก็จะกลับมาสู่ชีวิตประจำวันตามปกติ เจ้าสาวบางคนอาจจะรู้สึกเศร้าใจที่วันแห่งความสุขนั้นช่างผ่านไปไวเหลือเกิน บางคนอาจจิตตกเล็กน้อยที่สูญเสียความโสด อย่ามัวทำหน้าหงอยคอยแต่นึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านไปเลยค่ะ เพราะว่าหนทางแห่งชีวิตคู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ยังมีอะไรรอให้พบเจออีกเยอะ!

ข้อที่ 2 ขอให้เหมือนเดิม

เมื่อผ่านการแต่งงานไปแล้วดูเหมือนว่าระดับความหวานของคู่รักหลายคู่จะลดลง ปล่อยไว้นานอาจทำให้ความรักจืดจาง คุณควรเอาใจใส่กันและกันให้เหมือนกับก่อนจะเซย์เยส ไหนๆ ก็มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นแล้ว ทำทุกวินาทีให้มีค่า ให้สมกับที่รอคอยคู่ชีวิตมาตั้งนานดีกว่า

ข้อที่ 3 วางแผนเรื่องลูก

ในช่วงเวลาที่คุณกำลังจะแต่งงาน แน่นอนว่าหัวข้อที่คนรอบข้างจะหยิบยกมาคุยกับคุณมักจะเป็นเรื่องการเตรียมงาน แต่หลังจากคืนสมรสผ่านพ้นไปแล้ว คราวนี้เรื่องที่จะได้ยินได้พูดกันอยู่เสมอคงหนีไม่พ้นเจ้าตัวเล็กที่จะมาเป็นโซ่ทองคล้องใจคุณทั้งคู่ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาแล้วที่คุณทั้งคู่จะต้องปรึกษาเรื่องนี้กันอย่างจริงจังเสียทีว่าจะมีหรือไม่มี และถ้ามีควรเตรียมความพร้อม เตรียมสุขภาพ และวางแผนให้เจ้าตัวน้อยอย่างไร

สำหรับคู่ชีวิตมือใหม่อาจมีความรู้สึกแปลกๆ บ้างเล็กน้อยที่สถานะของพวกคุณเปลี่ยนจากคำว่าแฟนมาเป็นคำว่าสามีภรรยา แต่นั่นหมายถึงว่าความรักได้ถูกพัฒนาไปอีกขั้น อย่าลืมนะคะว่าคุณเพิ่งจะผ่านพ้นคืนวันวิวาห์มาหมาดๆ เก็บภาพความทรงจำและบรรยากาศที่สวยงามไว้ในใจแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปพร้อมๆ กัน

อ่านบทความเพิ่มเติม

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

5 วิถีคนขี้กั๊ก ความรักไม่ชัดเจน ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณคือตัวเลือก

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/91682

ภาพ : pexels.com

วางแผนชีวิตคู่ให้ปลอดภัย เพื่องานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็ก

account_circle

การ วางแผนชีวิตคู่ เป็นอีกก้าวสำคัญในชีวิต เกิดจากคนสองคนต่างครอบครัวตัดสินใจสร้างครอบครัวร่วมกัน ช่วยกันสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไป โดยทั้งก่อนและหลังสร้างครอบครัวใหม่ ต้องทยอยเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายใหญ่ 3 ประเภท คือ งานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็กในอนาคตนั่นเองนะคะ เพราะการเตรียมตัวเพื่ออนาคตนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แพรวเวดดิ้งจึงนำเทคนิคดีๆ มีประโยชน์โดยกูรูเรื่องการวางแผนจากธนาคารกรุงศรีอยุยามาฝากกันค่ะ ว่า 3 เรื่องหลักที่ว่านั้น เราควรจัดการอย่างไรให้ไม่พลาดกัน 😉

 

งานแต่งงาน         

ชีวิตคู่

  • จงวางแผนใช้ชีวิตร่วมกัน

หลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้ชีวิตคู่ ก็ควรพูดคุยทำความเข้าใจกันเพื่อให้ชีวิตคู่ราบรื่น โดยเรื่องเงินเป็นประเด็นหลักอันหนึ่งที่ควรคุยกันให้ชัดเจน ตกลงกันว่าเป้าหมายทรัพย์สินที่ต้องการมีมากน้อยเพียงใด จะบริหารทรัพย์สินเหล่านี้ยังไง รายได้-ค่าใช้จ่ายต่างๆ ใครเป็นผู้ดูแล เงินออม-หนี้สินควบคุมควรอยู่ในระดับใด อะไรประะมาณนี้เป็นต้นนะคะ

  • จงหาข้อมูลก่อนจ่ายเงินเสมอ

เคยไหมจ่ายเงินไปแล้วรู้สึกว่าเสียดายเงิน รู้งี้หาข้อมูลก่อนซื้อน่าจะดี สมัยนี้ข้อมูลมีให้ศึกษากันเต็มโลกออนไลน์ ควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าที่เล็งเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายขนาดใหญ่อย่างงานแต่ง หากพลาดไปแล้วเทียบเท่ากับทำงานฟรีไม่รับเงินเดือนไปนานหลายเดือนเชียวนะคะ

  • จงควบคุมค่าใช้จ่ายในงานแต่ง

จริงอยู่ว่าปกติจัดงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตควรจัดออกมาให้ดูดี สถานที่สวยงาม อาหารอร่อย แขกผู้ใหญ่เพื่อนสนิทมากันพร้อมหน้า แต่ก็ไม่ควรจัดจนถึงขั้นมีปัญหาเรื่องเงินกลายเป็นหนี้ ควรควบคุมค่าใช้จ่ายโดยดูจากตัวเลข ค่าใช้จ่ายต่อหัวและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณรับไหว ไม่ให้สูงจนเกินกำลังทรัพย์ที่มี โดยพิจารณาดูว่าค่าใช้จ่ายบางรายการลดได้ไหม ตัวอย่างเช่น ค่าถ่ายภาพแต่งงาน ซึ่งสตูดิโอขนาดใหญ่คิดรูปละพันกว่าบาท พอรวมทั้งอัลบั้มก็เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท อาจเปลี่ยนไปจ้างช่างภาพอิสระหรือเพื่อนที่มีฝีมือถ่ายภาพทำให้แทนก็ย่อมได้

  • จงเขียนรายชื่อแขกมาร่วมงานแต่ง

หลายงานเจอกับปัญหาจำนวนแขกมาผิดคาดมากมีทั้งเยอะเกินหรือน้อยไป ปริมาณอาหารก็เช่นกันมีสิทธิ์ผิดคาดไปได้มาก วิธีแก้ไขทำได้ด้วยการลิสต์รายชื่อแขกที่มาร่วมงานและสอบถามไปตรงๆ เลยว่าสะดวกมาร่วมงานมงคลหรือไม่ เหตุผลเพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ได้เพียงพอ ซึ่งช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายจัดงานได้ถูกต้องอีกด้วย

 

บ้านหลังใหม่

ชีวิตคู่

  • จงเลือกซื้อบ้านไม่เกินฐานะ

คนไทยกว่า 80% ซื้อบ้านด้วยการกู้ธนาคารเพราะบ้านที่น่าอยู่มีราคาหลายล้านบาทเกินกำลังจะจ่ายไหวในคราวเดียว ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกกู้ธนาคารแล้วค่อยผ่อนจ่ายทีละเดือนเอา หากผ่อนจ่ายทุกงวดตามค่างวดบ้านที่มาเรียกเก็บแบบไม่โปะเลย ดอกเบี้ยที่จ่ายไปทั้งหมดเทียบเท่ากับซื้อบ้านได้อีกหลังเลยนะครับ จึงควรซื้อบ้านที่ราคาไม่แพงเกินไป ช่วยให้ยอดผ่อนชำระรายเดือนน้อยลง จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง และควรโปะบ้างถ้ามีเงินเหลือเก็บเพื่อไม่ให้เป็นภาระในระยะยาว

  • จงเยี่ยมชมโครงการบ้านหลายแห่งก่อนตัดสินใจซื้อ

ก่อนซื้อบ้านควรไปดูคอนโด ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ตึกแถว หรือบ้านมือสอง ในหลายทำเลในหลายโครงการที่คุณสนใจ เพื่อมาเปรียบเทียบทำเลที่สะดวก ความคุ้มค่าด้านราคา โปรโมชั่น วัสดุและการออกแบบ ประโยชน์ใช้สอย  ฯลฯ เลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับครอบครัวคุณเองนะคะ

  • จงเก็บเงินอย่างน้อย 20% ของราคาบ้านก่อนซื้อ

ปกติธนาคารให้กู้ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินนั้น หมายถึง ส่วนที่เหลือประมาณ 10% ผู้ซื้อบ้านต้องเตรียมเงินสดมาจ่ายเอง แล้วเงินเก็บอีก 10% ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ช่วงโอนและสำหรับค่าตกแต่งบ้านอีกด้วย กรณีที่ดินเปล่า ตึกแถว และบ้านมือสอง อาจต้องเตรียมเก็บเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ของราคาบ้าน เพราะธนาคารอาจให้กู้ได้น้อยกว่า 90% อาจให้กู้ในระยะเวลาที่สั้นลง และอาจต้องเตรียมจ่ายค่าปรับปรุงซ่อมแซมเพิ่มเติมไว้ด้วยนะคะ

  • จงรักษาประวัติการชำระเงินให้ดี

ข้อนี้สำคัญมากเลยนะคะ เพราะประวัติการชำระเงินบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ของคุณจะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่สำนักงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของคุณในอนาคต ดังนั้นวางแผนชำระเงินให้ดีและะตรงเวลานะคะ

 

เจ้าตัวเล็ก

ชีวิตคู่

  • จงวางแผนเรื่องมีเจ้าตัวเล็ก

ควรพูดคุยกันเรื่องต้องการมีลูกหรือไม่ แล้วถ้าต้องการมีอยากมีซักกี่คน เพื่อเตรียมเงินไว้ให้พร้อมสำหรับการเลี้ยงดูซึ่งค่าใช้จ่ายลูกแต่ละคนเลี้ยงจนโตเป็นหลักล้าน และจำนวนเงินที่ใช้มีความไม่แน่นอนซะด้วย ควรแบ่งเงินไว้เลี้ยงลูกแยกต่างหากจากเงินก้อนอื่น โดยเฉพาะเงินที่เอาไว้ลงทุนเพราะมีความเสี่ยงสูญหายไปจากการขาดทุน

  • จงอย่ารอนานไปที่จะมีเจ้าตัวเล็ก

เพราะสังคมสมัยนี้แข่งขันสูงมีความเครียดมากขึ้น จึงมีลูกกันช้าลงและน้อยลงทุกที โดยอาจลืมไปว่าอายุยิ่งมากโอกาสมีลูกน้อยลงทวีคูณ จนทำให้บางคนอยากมีลูกตอนอายุมากแต่หมดโอกาสไป บางคนโอกาสเหลือน้อยต้องใช้เทคโนโลยีการแพทย์เข้าช่วยแต่ไม่มีเงินที่จะทำ ซึ่งน่าเสียดายมากเลย ดังนั้นอย่าลืมคิดเรื่องนี้กันไว้แต่เนิ่นๆเลยนะคะ

  • จงเลี้ยงดูลูกตามกำลังทรัพย์ที่มี

บางคนส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติทั้งๆ ที่เกินกำลังทรัพย์จะจ่ายไหว เหนี่ยวกันสุดชีวิตจนบางทีก็ไม่ไหว จนลืมไปว่าการศึกษาในห้องเรียนนั้นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสมัยนี้การศึกษานอกห้องเรียนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคำสอนจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และคนที่อยู่ใกล้ชิดลูก จึงควรเอาความรู้เอาประสบการณ์ที่มีบวกกับหาความรู้เพิ่มเติมจากสื่อต่างๆ มาสอนลูก แล้วอาจเลือกให้เข้าโรงเรียนสองภาษาหรือโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี ปลูกฝังให้ลูกเป็นคนดีของสังคมแทน

  • จงมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพียงพอ

การเติบโตและพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยมีความสำคัญไม่แพ้ความสำเร็จเรื่องงาน ดังนั้นควรมีเวลาเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยตั้งแต่เล็กจนโต โดยเลือกงานเลือกวิธีการหาเงินให้มีเวลาเพียงพอ โอกาสมีเข้ามาในชีวิตเสมอขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเห็นและคว้าโอกาสนั้นได้หรือเปล่า

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เปิดโอกาสให้แชร์แนวคิดเตรียมเงินสร้างครอบครัวที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง แพรวเวดดิ้งขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านประสบความสำเร็จในการมีชีวิตครอบครัวกันนะคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

5 วิถีคนขี้กั๊ก ความรักไม่ชัดเจน ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณคือตัวเลือก

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/91682

cr : krungsri.com, asyouwishweddings.ca, quickenloans.com, nationalpost.com

แพร ธรรมวัฒนะ จัดเบบี้ชาวเออร์ต้อนรับลูกสาว โพสต์หวานสามีทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม

account_circle

หล้งจากเข้าพิธีวิวาห์สุดชื่นมื่นไปเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 ล่าสุด แพร-แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ และ สามี ไทร-กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ก็เตรียมต้อนรับทายาทคนแรกที่รอมานานอย่างน้องพริมา ลูกสาวคนแรก ซึ่งสาวแพรคุณแม่คนสวยก็ใกล้ครบกำหนดคลอดน้องเร็วๆ นี้แล้วจ้า

ธรรมวัฒนะ

ใกล้คลอดลูกสาวคนแรกเต็มทีแล้วสำหรับ แพร-แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ และ สามี ไทร-กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ซึ่งล่าสุดทั้งคู่จัดงาน Baby Shower (เบบี้ชาวเออร์) ชวนเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิดมาร่วมงานเลี้ยงฉลองทารกใกล้คลอด งานนี้ทำเอาสาวแพรปลื้มใจสุดๆ เพราะเพื่อนๆ เห่อหลานคนแรกมาก ซื้อของมาให้เป็นเยอะสุดๆ ทำเอาว่าที่คุณแม่เกรงใจเลยทีเดียว ซึ่งสาวแพรได้โพสต์ถึงโมเม้นต์ในงานนี้ว่า

ธรรมวัฒนะธรรมวัฒนะ

Thank you everyone for coming to Prima’s baby shower… ตอนจัดงานคิดแค่ว่าอยากจัดงานให้เพื่อนๆเอาลูกๆมาเจอกัน มาเล่นกัน อยากได้บ้านบอลลูน Clowns มาที่งาน ละมีวงดนตรีมาเล่นระหว่างทานข้าว… งานกลางวันที่ให้คนมาชิวๆกันได้… ขอบคุณทุกคนที่มานะคะ ละก็ซื้อของกันมาเยอะมาก ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องซื้อมาเลย (แพรฟาดมาครบเองหมดแล้ว) ขอบคุณที่รักและเอ็นดูหลานกันค่ะ… วันนี้ยืนและเดินเยอะไปหน่อยพึ่งได้พักและถึงบ้าน… ขอพักร่างไว้รอคลอดก่อนน้า มีเป้าคือเดือน 9 ต้องไปให้ถึงพริมาจะได้นิสัยแบบพ่อ หากเดือนนี้คือนิสัยแม่แน่นอน!!! นอนติดเตียงยาวๆละค่ะ With Love, Prair Sai and Baby Prima 💋💋💋 #prairsaibabyfinally

ทั้งนี้ แพรพรรณ ยังได้โพสต์หวานถึงหนุ่มไทร คุณสามีอีกด้วยว่า คบกันมา 9 ปี ครบรอบแต่งงาน 2 ปี พยายามมีลูกกันมาปีกว่าๆ ตอนนี้ท้องได้ 9 เดือนนิดๆ น้ำหนักแพรขึ้น 9 กิโลกรัม น้ำหนักพี่ไทรขึ้นน่าจะ 19 กิโลกรัม ไม่รู้ลูกสาวจะคลอดตอนไหน แต่ Mommy กับ Daddy พร้อมรอต้อนรับหนูทุกเมื่อละค่ะ แต่หากทนได้ 9/9 จะดีมากเลยเพราะวันนี้ดีและนิสัยหนูจะเหมือนDaddy นิ่งแต่ดื้อเงียบ….

9 เดือนที่ผ่านมาแพรกับพี่ไทรก็ไม่รู้หรอกว่าเราพร้อมหรือยังที่จะเป็นพ่อและแม่คน แต่การตั้งท้องนี้ทำให้เราก็มีกิจกรรมร่วมกันหลายอย่างเลยเช่น ทุกเช้าและเย็นพี่ไทรต้องทาครีมกันท้องลายให้แพรเพื่อที่จะได้ bonding กับลูก, เตรียมวิตามินให้แพรทานทุกเช้าเพราะไม่งั้นลืมทานแน่นอน, อยากกินอะไรก็พาไปกินไม่ว่าจะหายากหรือง่าย, เป่าให้แห้งทุกคืนเพื่อไม่ให้แพรป่วย, ชาร์ตมือถือให้ทุกคืนเพราะขยับตัวหยิบไม่ไหว และอีกหลายสิ่งที่แพรบางทีแกล้งใช้เพื่อทดสอบสมรรถภาพความอดทนของพี่ไทร  พริมาคลอดมาคงจะมีอะไรใหม่ให้ได้ทดสอบพี่ไทรอีก….

ไม่รู้ว่าหลังจากนี้กี่วันกว่าจะคลอดเพราะหมอบอกมาได้ทุกเมื่อหัวพริมาลงพร้อมออกตั้งแต่ 3 อาทิตย์ก่อนละแต่พยุงกันมาตลอด…. ออกมาตอนไหนก็ขอแค่หนูแข็งแรงพอนะคะลูก ที่เหลือ Mommyกับ Daddy จะทำให้หนูมีความสุขที่สุดเอง

แพรวดอทคอมขอแสดงความยินดีกับ คุณแพร และ คุณไทรด้วยนะคะ เตรียมรอดูความน่ารักของพริมารัวๆ แล้วค่า


CR : prair_tumwattana

สวยจับใจ คุณแพร วทานิกา ในชุดไทยจิตรลดา ครอบครัวพร้อมหน้าทำบุญในวันเกิด

โคโค่ ชาเนล เมืองไทย เรียนทำขนมเลอกอร์ดองเบลอเพื่อทำหน้าที่สะใภ้เกาหลีเต็มตัว

จาก ด.ช. เปลี่ยนเป็นนาย คุณโชค-สู่ขวัญ ฉลองวันเกิดปีที่ 15 ของ ปราบ บูลกุล

ดีแทคเปิดเส้นทางการเดินทางของขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากถังสีฟ้า ‘ทิ้งให้ดี’ ที่ดีแทคฮอลล์ และอุปกรณ์ส่งสัญญาณทั่วประเทศ สู่เป้าหมายไม่ทิ้งซากเป็นขยะฝังกลบ (ZERO Landfill) ภายในปี 2565

ดีแทค ‘ทิ้งให้ดี’ คัดเลือกบริษัทที่ให้บริการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากล จัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อคืนโลหะมีค่าและวัตถุดิบสำคัญ สู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ได้ 96-98% ของจำนวนขยะที่เก็บได้

ดีแทคและเทส หนึ่งในบริษัทรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีแทคเลือก ให้จัดการขยะอย่างมีความรับผิดชอบ

ดีแทคเริ่มต้นที่กระบวนการจัดหาบริษัทรีไซเคิลตามนโยบายการจัดซื้อจัดหาสินค้าและบริการ ด้วยการประเมินความเสี่ยงด้านต่างๆ อาทิ ธรรมาภิบาล การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ผู้รับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์จะต้องลงนามในเอกสารว่าด้วยข้อตกลงในการปฏิบัติธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Agreement of Responsible Business Conduct และต้องแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการประเภท 106 ออกโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยระบุประเภทกิจการที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดหรือรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และต้องมีใบรับรองมาตรฐาน NIST 800-88R1 ซึ่งเป็นมาตรฐานการกำจัดข้อมูลต่างๆ ที่ยังอาจคงค้างอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก ดีแทคมีหน่วยงานกำกับดูแลห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Sustainability Management) ทำหน้าที่ตรวจประเมินบริษัทผู้ให้บริการรีไซเคิลเหล่านี้เป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทผู้ให้บริการที่ได้รับคัดเลือกมานี้ยังคงรักษามาตรฐานกระบวนการรีไซเคิล มีการพัฒนาระบบการทำงานและเทคโนโลยีอยู่เสมอ

เส้นทางขยะเริ่มต้นที่ ถังสีฟ้า ‘ทิ้งให้ดี’ สู่เป้าหมาย Zero Landfill

ดีแทคทำงานร่วมกับเทสมานาน 8 ปี เมื่อเทสรับซากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากโครงการ “ทิ้งให้ดี” มาถึงยังโรงงานแล้ว เทสจะทำการตรวจนับและชั่งน้ำหนัก เพื่อรายงานจำนวนและน้ำหนักและสถานที่รับเพื่อแจ้งให้ดีแทคทราบและยืนยันว่าได้รับอุปกรณ์เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจะนำเข้าพื้นที่จัดเก็บและจะทำการคัดแยกวัสดุตามประเภทหลักๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ หูฟัง สายชาร์ตแบตเตอรี่ พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น เพื่อนำวัสดุหลักดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการแกะแยก เช่น โทรศัพท์มือถือ หลังการแกะแยกจะทำการบรรจุวัสดุตามแต่ละประเภท วัสดุทั้งหมดจะถูกนำส่งออกไปยังโรงงานของเทสที่สิงคโปร์ เพื่อทำลายหน่วยความจำในเครื่อง และสกัดเป็นโลหะมีค่า ได้แก่ ทองคำ ทองแดง พาราเดี้ยม เหล็ก อลูมิเนียม ลิเทียม และวัสดุประเภทพลาสติก เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าใหม่ต่อไป ทั้งนี้ 96-98% ของขยะทั้งหมดที่ดีแทคเก็บได้สามารถนำเข้าสู่กระบวนกำจัดที่ถูกต้อง และช่วยลดการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือลดคาร์บอนฟุตพรินต์ รวมทั้ง ไม่ทิ้งเศษซากขยะเป็นขยะฝังกลบเลย หรือ Zero Landfill ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555

ทำไมต้อง ‘ทิ้งให้ดี ทิ้งที่ดีแทค’

ผลการสำรวจพฤติกรรมการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์เมื่อไม่ใช้งานแล้วของสำนักสิ่งแวดล้อม พบว่า กว่าร้อยละ 50% ของผู้ใช้งานจะเลือกขายซากขยะอิเล็กทรอนิกส์กับผู้รับซื้อของเก่า หรือ รถขายของเก่า ซึ่งมักจะนำขยะไปแยกชิ้นส่วน โดยจะเลือกเฉพาะส่วนที่มีมูลค่าเพื่อนำไปขายต่อได้ และจะกำจัดซากขยะที่เหลือด้วยการทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป ปัญหาสำคัญ คือ การทิ้งซากผลิตภัณฑ์ปะปนกับขยะทั่วไป และการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อแหล่งน้ำ พื้นดิน และอากาศ

นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอคเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทค ‘ทิ้งให้ดี’ ต้องการเป็นทางออกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ให้สามารถทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทมือถือและอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานไม่ได้แล้วอย่างอย่างถูกวิธี ปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมโลกและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในแต่ละปี ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นผู้จัดจำหน่ายมือถือหลายแสนเครื่องต่อปี เราจึงมุ่งมั่นนำขยะมือถือจากผู้ใช้งาน ซึ่งคิดเป็น 19% ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีแทคเก็บได้ เข้าสู่กระบวนการการรีไซเคิลและไม่มีเศษขยะที่เหลือไปฝังกลบ (ZERO Landfill) ซึ่งเราทำได้แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 นอกจากนี้ ดีแทคยังเดินหน้าจัดกระบวนการควบคุมเพื่อนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของดีแทคเองโดยไม่ใช้วิธีฝังกลบเลย (ZERO Landfill) ภายในปี พ.ศ. 2565 ตามนโยบายด้านการจัดการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสภาวะอากาศ หรือ Environment Management System and Climate ตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่ดีแทค”

ดีแทค ‘ทิ้งให้ดี’ จัดการขยะโครงข่ายสัญญาณและอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินธุรกิจ

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านโทรคมนาคม ส่วนใหญ่มาจากโครงข่ายสัญญาณ เฉพาะในปีพ.ศ. 2562 ดีแทคสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 213,476 ชิ้น แบ่งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับจากผู้ใช้งานทั่วไป จำนวน 46,221 ชิ้น คิดเป็น 21% และขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการการขยายโครงข่าย 167,255 ชิ้น หรือคิดเป็น 79% ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่เก็บได้ ดีแทคให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่ใช้เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสื่อมสภาพ โดยจะต้องเป็นคลังสินค้าที่มีระบบการควบคุมรักษาความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานอาคารคลังสินค้าของกรมการค้าภายใน และสามารรองรับระบบการจัดเก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ของดีแทคได้ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับอุปกรณ์ จะไม่สร้างความเสียหายหรือมลภาวะใดๆ สู่ชุมชนรอบข้าง

สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มาจากหน่วยงานภายในดีแทค อย่างศูนย์บริการดีแทคและสำนักงาน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องโทรศัพท์มือถือสำหรับทดลองใช้ อุปกรณ์เสริมที่ตกรุ่น เป็นต้น ดีแทคจะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบจำนวนและสภาพของอุปกรณ์โดยเฉพาะ หากยังมีสภาพดี ก็จะนำกลับมาใช้ซ้ำในกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม ส่วนที่เสื่อมสภาพถาวรแล้ว ก็จะเข้ากระบวนการกำจัดและรีไซเคิลต่อไป

ความอ้วนจากพันธุกรรม

ฝ่าด่านความอ้วนจากพันธุกรรม ปรับพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์

Alternative Textaccount_circle
ความอ้วนจากพันธุกรรม
ความอ้วนจากพันธุกรรม

ฝ่าด่าน ความอ้วนจากพันธุกรรม ปรับพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์

วิวัฒนาการทางการแพทย์สาขาพันธุศาสตรการแพทย์และจีโนมิกส์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นองค์ความรู้ที่สามารถอธิบายการก่อโรคต่างๆ ที่เป็นผลมาจากยีนและโครโมโซมในร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยพบว่าปัจจัยที่ควบคุมสุขภาพและความอ้วน มีผลมาจากทั้งพันธุกรรม ประวัติครอบครัว พฤติกรรมการกิน การดำรงชีวิต รวมถึงการรับสารกระตุ้นจากภายนอกเช่น ยา หรือ ฮอร์โมนต่างๆ

พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทางการแพทย์ จิณณ์ เวลเนส คลินิก โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เล่าถึงปัญหาความอ้วนเป็นปัญหาที่มีสาเหตุร่วมจากหลายปัจจัย และยังก่อให้เกิดโรคเรื้อรังได้ในหลายอวัยวะ เช่น หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไต ตับ ดังนั้น การประเมินปัญหาและการดูแลรักษาจึงต้องครอบคลุมตั้งแต่ระดับพันธุกรรม การกินอาหาร การออกกำลังกาย การเผาผลาญพลังงาน อาทิเช่น ถ้าบุคคลนั้นมีประวัติครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้องมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือมีโรคที่เป็นความผิดปกติของการใช้พลังงานของร่างกายในครอบครัวหลายคน เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เก๊าท์ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมองตีบแตกตัน หรือมีคนในครอบครัวเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ คนกลุ่มนี้ควรจะเข้ามารับคำแนะนำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น เช่น การควบคุมน้ำหนัก การกินอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย การออกกำลังกายที่เพียงพอ รวมถึงการปรับพื้นฐานสภาพจิตใจให้แข็งแกร่งพร้อมต่อสู้กับความเครียดในสังคมปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความอ้วนและความผิดปกติด้านการเผาผลาญสารอาหารบางชนิด เป็นผลจากระดับยีนเป็นตัวหลักเด่นเหนือสิ่งแวดล้อม เช่น ยีนควบคุมความอิ่มเสียไป หรือยีนที่ควบคุมการสร้างไขมันในร่างกายผิดปกติ เป็นต้น คนกลุ่มนี้จะต้องเข้มข้นในการปรับพฤติกรรมเพื่อต่อสู้กับพันธุกรรม รวมถึงอาจมีความจำเป็นต้องใช้ยา ซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

ความอ้วนจากพันธุกรรม

สู้พันธุกรรมด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการดำรงชีวิต?

รศ.ดร.นพ. โอบจุฬ ตราชู แพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรศาสตร์และเวชพันธุศาสตร์ ศูนย์จิณณ์ เวลเนส คลินิก โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เล่าเพิ่มเติมว่า หลายคนถอดใจเรื่องความอ้วน เนื่องจากเห็นคนในตระกูลอ้วนมาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ หรือหลายคนเครียดว่าพยายามลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ลง การพบแพทย์ที่สามารถดูแลอย่างองค์รวมและบูรณาการร่วมกับศาสตร์ต่างๆ จะวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การประเมินทางด้านพันธุกรรม โภชนาการ กายภาพบำบัด และฟื้นฟูสภาพจิตใจ การเลือกอาหารให้เหมาะสมในแต่ละบุคคลไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงมีข้อมูลที่สำคัญทางการแพทย์อย่างครบถ้วนในการวางแผน

จะรู้ได้อย่างไร ว่าตัวเรามียีนที่เสี่ยงต่อโรคอะไรบ้าง 

การสืบประวัติการเจ็บป่วยของคนในครอบครัวตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ ก็สามารถเป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงได้ส่วนหนึ่ง แต่หลายครั้งที่พบคนไข้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งที่คนในครอบครัวไม่มีประวัติการเป็นโรคดังกล่าว เนื่องจากรูปแบบการใช้ชีวิต และอาหารบางชนิดมีผลต่อการทำงานของยีนที่มีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม จึงอาจส่งผลต่อความรุนแรงของโรคที่แฝงมากับยีนทางพันธุกรรมได้

จึงควรไปตรวจสุขภาพยีน ซึ่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถตรวจวิเคราะห์ยีนได้อย่างละเอียด และหากพบว่ามีความเสี่ยง ก็จะมีการพูดคุยเพื่อรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น มีความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ก็ต้องวางแผนการคัดกรองมะเร็งเพิ่มเติมด้วยวิธีต่างๆ หรือเป็นคู่สมรสที่เสี่ยงต่อการเกิดลูกมีโรคพันธุกรรมผิดปกติ เช่น ปัญญาอ่อน ตาบอด หูหนวก ก็สามารถวางแผนเลือกวิธีการมีบุตรด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ ถ้ามีพันธุกรรมผิดปกติต่อการเผาผลาญไขมันหรือน้ำตาล ก็ต้องพูดคุยทางเลือกการรักษา และปรับการรับประทานให้ทานอาหารที่มีโภชนาการที่ถูกต้อง ฝึกออกกำลังกายให้เพียงพอเหมาะสม จะลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและความทุพพลภาพได้


ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตามใจปากจนเผละ! ถึงเวลากู้หุ้นพังตามสูตรทั้ง 7 ข้อ ฟิตหุ่นย้วยให้เฟิร์มเพอร์เฟ็ค

หุ่นเซี้ยะสุขภาพดีได้ แค่ปรับนิสัยกินหนัก-กินตามใจอยาก ให้อยู่หมัดตามทริคนี้

Optimal Health Level อีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคบนวิถี New Normal เพื่อสุขภาพ

 

 

มุกดา นรินทร์รักษ์ ในละครเรื่องล่าสุด โซ่เวรี

ถอดแบรนด์มาให้รู้! ส่องคอสตูม ‘มุกดา นรินทร์รักษ์’ จากละครโซ่เวรี

มุกดา นรินทร์รักษ์ ในละครเรื่องล่าสุด โซ่เวรี
มุกดา นรินทร์รักษ์ ในละครเรื่องล่าสุด โซ่เวรี

ถอดลุคถอดแบรนด์ของนางเอกดัง มุกดา นรินทร์รักษ์ ในละครเรื่องล่าสุด โซ่เวรี งานนี้มีแต่แบรนด์ปังๆ การันตีว่าสวยทุกซีน

นอกจากเรียกเสียงฮือฮา ชื่นชมนางเอกสาวสุดฮ็อต ‘มุกดา นรินทร์รักษ์’ กับการพลิกมารับบทบาทสุดท้าทาย ‘ปารมิตา’ สาวสวยอนาคตไกลที่ชีวิตพลิกผันมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในละครโซ่เวรี ว่าเรื่องนี้พลิกลุคได้แซ่บสวยถึงใจแล้ว ชุดที่ใส่ในละครแต่ละชุดยังถูกพูดถึงความสวยปัง อลังการด้วย

ไหนๆ ก็เป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจแล้ว วันนี้เราเลยขอประมวลชุดสวยเป๊ะในละครและถอดแบรนด์มาให้รู้กันไปเลยค่ะ ขอบอกว่าสวยเด็ดทุกซีน ทุกลุค ตั้งแต่สาวหวาน สาวเซ็กซี่ ไปจนถึงลุคเวิร์กกิ้งวูแมน

SENSE’S STUDIO : Echoes คอลเล็คชั่น Fall / Winter 2018
เดรสจาก PATINYA ราคาเกือบครึ่งแสน มาพร้อมชุดเครื่องเพชรหลักล้าน
เสื้อสีขาวจาก Calista Boutique
ชุดจาก SRETSIS : Paradiso Spring / Summer 2017
เดรสจาก ZIMMERMANN รุ่น Heathers Off Shoulder Dress in Garden Floral
เสื้อฉลุลายดอกไม้จาก Self-Portrait รุ่น Asymmetric White Circle Floral Broderie Top
ชุดสูทสีเทาจาก Calista Boutique : C’est Magnifique คอลเล็คชั่น Autumn/Winter 2018
เดรสสีขาวจาก Self-Portrait : Deep V-neck Broderie-anglaise Dress
เดรสจาก For Love & Lemons : Tarta Cap Sleeve Dress
ชุดสวยๆ เข้าเซ็ตจาก For Love & Lemons : Indio Lace Crop Top Las Palmas Lace Shorts
เดรสสูทจาก INSOMNIA by VARA
เดรสเกาะอกจาก Calista Boutique : Gala Extravaganza คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2019
ชุดจาก Fendi และเสื้อคลุมจาก Burberry
ชุดเดรสสีขาวจาก Insomnia by Vara

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชุดไทย สายกูตูร์! ส่องลุคสวยทำบุญราคาหลักแสนของเหล่าคนดัง

นี่แหละทางถนัด ‘ซงฮเยคโย’ ในลุคเรียบเท่ ดูสบาย แต่งตัวน้อยๆ แต่สวยปังมาก

งานหนังต้อง Bottega Veneta เจาะดีเทลกระเป๋า 2 รุ่นใหม่ มีความพิเศษยังไง

 

Wedding

Wedding is coming soon? คนดังที่กำลังจะมีงานแต่งงานในปี 2020

Alternative Textaccount_circle
Wedding
Wedding

Wedding is coming soon? โฉมหน้าเจ้าบ่าว&เจ้าสาว ยุคCovid-19  ที่กำลังจะมีงานแต่งงานในปี 2020 นี้

อันที่จริงแล้วปี 2020 นี้เป็นปีที่จะมีงานแต่งงานของคนดังเยอะมากๆ แต่เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้หลายคู่ต้องจำใจเลื่อนงานสำคัญออกไประยะหนึ่งก่อน ซึ่งกลายเป็นว่าในปลายปีนี้จะมีคู่รักคนดังจ่อคิวจัดงาน Wedding เยอะมาก ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นไปติดตามในบทความนี้เลยค่ะ

ก้อย & ตูน

ระยะเวลาเกือบ 10 ปี บนเส้นทางความรักนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ คู่นักรักวิ่ง ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ  และ  ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย ทั้งคู่ผ่านบททดสอบความรักทั้งสุขและทุกข์มาพอสมควร จนในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้นักร้องหนุ่มวัย 41 ปี ก็ได้ตัดสินใจขอแฟนสาว ก้อย-รัชวิน แต่งงานอย่างเซอร์ไพร้ส์ที่ฟิตเนส แม้จะไม่ได้อลังการใหญ่โต แต่อบอวลไปด้วยความรักโดยทั้งคู่มีแผนที่จะวิวาห์ในวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ทำให้งานมงคลต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ว่าล่าสุดทั้งสองได้ฤกษ์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็คือในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 โดยธีมงานจะถูกออกแบบให้คล้ายกับสวนสนุกเพื่อสร้างความสุขให้กับแขกที่มาร่วมในงานทุกคนด้วย

ตู่-ปิยวดี & มาวิน

ถึงหลายคนจะบอกว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ในความจริงเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนรอบตัวมีอิทธิพลต่อความรักไม่น้อย เช่นเดียวกับคู่ของ ผู้จัดสาว ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์ กับ  มาวิน ทวีผล ทั้งคู่ถูกจับตามองในเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่ม เนื่องจากความสัมพันธ์แบบเจ้านายและลูกน้อง  ทำให้ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคพร้อมกับข่าวมากมาย มาตลอด 10 ปี จนในที่สุดเส้นทางรักเติบโตอย่างมั่นคง และพร้อมที่จะก้าวสู่สถานะใหม่ โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา หนุ่มมาวิน ได้ทำเซอร์ไพร้ส์ขอผู้จัดสาวแต่งงาน ซึ่งพิธีมงคลสมรสจะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 และจะจัดงานฉลองมงคลสมรสในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564

ตู่-ปิยวดี & มาวิน

จ๊ะจ๋า & จิ๊บ-วสุ

แม้จะมีวัยต่างกันถึง 16 ปี แต่ไม่ได้ทำให้หัวใจทั้งคู่ห่างกันเลย สำหรับนักแสดงสาวตาหวาน “จ๊ะจ๋า – พริมรตา เดชอุดม”  กับดารารุ่นใหญ่ “จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว” โดยคู่นี้ได้ขอแต่งงานกันในช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ในระหว่างทริปกระชับรักที่ทิเบต ดินแดนแห่งหลังคาโลก สำหรับฤกษ์นั้นทั้งคู่บอกว่าขอใช้ฤกษ์สะดวกในช่วงปลายปี 2563 นี่แหละค่ะ

Wedding

แก้ว-จริญญา & โทนี่

จากโมเม้นต์ในละครสู่โมเม้นต์ในชีวิตจริง เมื่อไม่นานมานี้ คู่รักนักเดินทาง โทนี่ รากแก่น และ แก้ว-จริญญา  ศิริมงคลสกุล ได้ตัดสินใจสิ้นสุดทางแฟนและขยับสถานะใหม่เป็นว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว หลังจากที่คบหาดูใจกันมานาน 2 ปี โดยจากข่าวที่อัปเดตล่าสุดคู่รักคู่หวานนี้จะจัดงานมงคลในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่เที่ยวเขาใหญ่ ปากช่อง

Wedding

นาตาลี & ฟลุค 

ส่วนคู่นี้! สาวสวยสุดเพอร์เฟ็กต์ นาตาลี-ณัฏฐินี เจียรวนนท์ กับคาสโนวาฆ่าไม่ตาย ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช คู่รักมาราธอน 10 ปี  ที่ได้เข้าพิธีแบบไทยไปเป็นที่เรีบร้อยแล้วเมื่อช่วงมีนาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์เชื้อไวรัส “COVID-19” จึงขอเลื่อนกำหนดจัดงานฉลองมงคลสมรส จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดใจคู่ ‘นาตาลี-ฟลุค’ ไม่ง่ายกว่าจะมีวันนี้ พิสูจน์รัก 10 ปี ลบคำว่าคาสโนวาเกลี้ยง

ก้าวไปด้วยกัน! ตูน & ก้อย รัชวิน กับเส้นทางความรักที่กำลังขยับเข้าสู่เส้นชัย

จากลูกนายไม่กล้าจีบ สู่คู่รักมาราธอน ” ปิยวดี มาลีนนท์ – มาวิน ทวีผล “

 

เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

เปิดใจ “เฌอปราง” จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

Alternative Textaccount_circle
เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย
เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

เปิดใจเอ็กซ์คลูซีฟ “เฌอปราง อารีย์กุล” เบื้องลึกเบื้องหลังจากวันแรกถึงวันนี้ วันที่ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่ความคิดความอ่านเต็มร้อยเกินวัย

แคปเฌอ BNK48 หรือ “เฌอปราง อารีย์กุล” ไอดอลสาววัย 24 ปี เธอเป็นทั้งต้นแบบและแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มากมาย ไม่เพียงความสามารถในการร้อง เต้น แสดง ยังมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พยายาม เพราะเธอเชื่อว่า “ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยง่าย”

ย้อนกลับไปวันแรกของการเป็น BNK48 (2560) ถึงวันนี้ ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างคะ

“เยอะมากๆ ค่ะ แต่คงเพราะเฌอเข้ามาด้วยความไม่คาดหวังมั้งคะ ช่วงแรกจึงไม่รู้ว่าตัวเอง กดดันขนาดไหน กระทั่งพอเริ่มเปิดตัว ก็เริ่มลุ้นเหมือนกันว่ายอดฟอลโลว์จะขึ้นเท่าไร คนจะชอบไหม ซึ่งพอขึ้นมาอยู่ระดับบน ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าเราก็น่าจะมีฐานแฟนคลับในระดับหนึ่งนะ จึงพยายามพัฒนา และดันตัวเองไปในจุดที่เราพอจะทำได้

“ความกดดันต่อมาคือ จะพิสูจน์ตัวเองอย่างไรให้เร็วที่สุด จะเพิ่มสกิลตัวเองอย่างไรให้พอ ไปวัดไปวาได้ คืออาจไม่ดีที่สุด แต่ขอให้อยู่ในเกณฑ์ที่ทำงานได้ เพราะอย่างที่บอกว่าเฌอมาจาก ศูนย์ ความจริงต้องบอกว่ายิ่งกว่าศูนย์อีกค่ะ น่าจะติดลบด้วยซ้ำ เพราะเฌอไม่เคยทำงานด้านนี้

“จะมีก็แค่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ตอนประถม กับมีทักษะการพรีเซ็นเทชั่น การพูด การนำเสนอ ส่วนเรื่องการใช้เสียง สกิลการร้องเพลง การวอร์มเสียงต่าง ๆ ไม่มีเลย ชอบฟังอย่างเดียวมาตลอด ตอนแรกจึงไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเลือก แต่พอได้เข้ามาจริง ๆ จึงต้องเปลี่ยน ต้องพัฒนาตัวเอง แม้จะต้องพยายามอย่างหนักและใช้เวลาพอสมควร ซึ่งเฌอเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองผ่านมาตรฐานก็ช่วง ปีนี้เองค่ะ”

เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

เฌอหมายถึงมาตรฐานของตัวเอง?

“ค่ะ ทั้งมาตรฐานของตัวเองและเกณฑ์ของวงที่เราคิดว่าควรจะเป็น คือรู้สึกว่าตัวเองร้องได้ ไวขึ้น ดีขึ้น อย่างงานที่ผ่านมา (ซีรี่ส์ของ Cat Radio TV) เฌอได้ซ้อมร้องเพลงก่อนเข้าห้องอัดจริง แค่วันเดียว แต่ก็สามารถทำได้ ซึ่งเฌอดีใจกับตัวเองมากนะ เหมือนเราก้าวมาอีกขั้นแล้ว ทั้งแฮ็ปปี้ สบายใจ และรู้สึกว่าเรามาอยู่ในมาตรฐานที่ใช้ช่องเสียงได้มากขึ้น ร้องเพลงได้หลากหลายขึ้นในระยะ เวลาอันสั้น

“จากเมื่อก่อนไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง เสียงก็ไม่ดี เวลาร้องเพลงพี่ ๆ ทีมงานเคยบอกว่า ‘ร้องได้แค่นี้ก็พอแล้ว’ เพราะเฌอร้องไม่เก่ง ร้องได้ไม่กี่แบบ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นแล้ว คำพูดของ พี่ ๆ เปลี่ยนเป็น ‘ร้องดีแล้วนะ แต่ขอลองร้องแบบอื่นอีกได้ไหม’ ซึ่งมันทำให้รู้ว่าเราพัฒนาไปอีกขั้น แล้ว…แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ” (ยิ้ม)

ระยะเวลา 3 ปีของเฌอปราง BNK48 ช่วงไหนโหดที่สุด

“สำหรับเฌอคือตอนเลือกตั้งครั้งแรกค่ะ (BNK48 6th Single Senbatsu General Election เดือนมกราคม 2562) แล้วมีคอนเสิร์ตของวงด้วย ทุกคนยังมึน ๆ กันอยู่ ต้องซ้อมในส่วนงานของตัวเอง ด้วย กดดันไปหมด ถ้าใครได้ดูภาพยนตร์สารคดี One Take จะเห็นเบื้องหลังว่าหลายคนรู้สึกว่าพี่เฌอได้อยู่แล้ว พี่เฌออยู่อันดับ สูงอยู่แล้ว ไม่ต้องกดดันเลย

“แต่สำหรับเฌอ ตอนนั้นกลับรู้สึกว่าเขาไม่ลุ้นกับเราหน่อยเหรอ หรือน้อง ๆ จะไม่ดีใจกับการที่เราได้อยู่ตรงนี้ มันทำให้เฌอกังวล และถ้าเฌอไปปลอบน้อง ๆ เขาก็คงรู้สึกว่าก็เพราะเราได้อยู่แล้วไง กลัวความรู้สึกในตอนนั้นมาก ๆ เฌอจึง เลือกที่จะนิ่งแล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งพอวันที่ประกาศผลด่วนรอบแรก เฌอดีใจมากนะ พอผลด่วนรอบสองออก ก็รู้สึกอีกว่าน้อง ๆ ไม่ดีใจกับฉันนิดหนึ่ง เหรอ คือก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดีด้วยนะคะ แต่ประมาณแค่ 10 คน

“ซึ่งเฌอเข้าใจว่าทุกคนกังวลเรื่องของตัวเองอยู่ แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า เขาไม่ยินดีกับเราเหรอ พอวันประกาศผลจริง เฌอจึงเลือกพูดบนเวทีว่า ไม่รู้ว่า จะมีใครยินดีกับเราไหม เพราะไม่อย่างนั้นเรื่องนี้…ก็จะค้างคาใจเฌออยู่แบบนั้น”

การพูดครั้งนั้น…ส่งผลอย่างไรบ้าง

“ทุกคนเข้ามากอดเฌอ…ซึ่งทำให้เฌอมีแรงทำงานตรงนี้ต่อค่ะ เพราะ กลายเป็นว่าที่ 2 คือจุดที่ดี ที่สุดสำหรับเฌอในตอนนี้ เพราะจากที่หลายคน พูดว่าเฌอแบกวงไว้… วงถึงอยู่ได้ มันไม่จริง เฌอเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ส่วนเดียว แต่ตอนนี้ เราลบล้างคำนั้นได้แล้วจริง ๆ แล้วเฌอรู้สึกว่าไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนก็ตาม เฌอรู้ว่าแฟน ๆ จะไปกับเฌอ คอยดู คอยสนับสนุนอยู่ตลอด

“แต่จุดสำคัญที่ทำให้การทำงานตรงนี้มีความที่สุดก็คือเพื่อนร่วมงาน อันนี้ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เฌอตอบคำถามตัวเองได้ว่าฉันควรทำงานตรงนี้ต่อไปไหม เพราะเรื่องฝั่งบริหาร ผู้ใหญ่ ทีมงาน ก็เรื่องหนึ่งนะคะ อันนั้นทุกอย่างโอเค มีแฟนคลับเราก็แฮ็ปปี้ แต่สิ่งสำคัญคือเมมเบอร์ทุกคน เพราะเราต้องทำงาน ด้วยกัน ต้องเต้น ต้องซ้อม อยู่ด้วยกันตลอด

“ในการทำงาน อย่างหน้าที่กัปตันวง ถ้าเราทำไปแล้วเกิดคำถามว่าที่ทุ่มเทไป ทำเพื่ออะไร มันก็คงจะไม่ดี ตัวเราเองก็นอยด์ ซึ่งเฌอไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะ เรายังเต็มใจที่จะทำ ฉะนั้นถ้าเราเคลียร์ใจกับเมมเบอร์ได้ในระดับหนึ่ง เราก็อยาก ทำให้สบายใจ เราจะเต็มที่ มีความสุขที่จะทำงาน วันนั้นจึงเหมือนเป็นการ ปลดล็อกเฌอเลยค่ะ ทำให้เข้าใจว่ามีเมมเบอร์ที่เข้าใจและยังให้กำลังใจกันอยู่

“คือช่วงนั้นมีจุดพีคหลายอย่างค่ะ ทั้งร้อง เต้น งานแสดง ทุกอย่างใหม่ สำหรับเฌอมาก แต่พอปรับตัวได้ เริ่มเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น ใจเราก็ดีขึ้นค่ะ บวกกับช่วงที่ไปได้ World Senbatsu ที่ญี่ปุ่น เป็นความรู้สึกที่ว่าเป็นตัวแทนของวง ทำให้เห็นว่าทุกคนยินดีกับเราจริง ๆ นะ แฮ็ปปี้มาก ๆ ค่ะ

“ส่วนอีกความรู้สึกก็คือ เฌอดีใจมากที่ได้อยู่ในซีนประวัติศาสตร์ตรงนั้น ได้ไปอยู่ในจุดที่ไอดอลที่เราชื่นชอบอยู่ และอันดับที่เราอยู่ก็สูงกว่าไอดอลญี่ปุ่น บางคนที่เราติดตามมาตลอด มันจึงเกิดอีกความรู้สึกว่า…นี่เรื่องจริงเหรอ จริงใช่ไหม ซึ่งเฌอภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ BNK48 เป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้ทุกคน ได้รู้ว่าไอดอลไทยมีความสามารถอย่างไร ตรงนี้แหละค่ะที่ภูมิใจมาก” (ยิ้มกว้าง)

เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

สำหรับเฌอ ความท้าทายของการเป็นไอดอลคืออะไรคะ

“ส่วนหนึ่งคือการทำงานกับคนหมู่มากค่ะ เป็นเรื่องจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ซึ่งเฌอมีความสนใจเรื่องนี้อยู่แล้วบ้าง ต้องขอบคุณโรงเรียนตั้งแต่สมัยมัธยม จนถึงมหาวิทยาลัยที่มีกิจกรรม ได้ลงพื้นที่ ได้เจอผู้คนหลากหลาย ได้ทำงาน สังคมค่อนข้างเยอะ และช่วงมหาวิทยาลัย เฌอได้เรียนวิชาเลือก Educational Psychology จิตวิทยาการเรียนรู้ของมนุษย์ เพื่อให้เข้าใจว่ามนุษย์มีการเรียนรู้ ยังไง จะได้พอเข้าใจหรือจินตนาการออกว่าเวลาใครแสดงออกแบบนี้เพราะ อะไร หรือควรเข้าหาคนนี้อย่างไร และพอเราเข้าใจมากขึ้น ก็ทำให้มีทักษะที่จะ เข้าหาคน พูดคุย หรือเข้าใจคนอื่น ไม่อย่างนั้นก็คงเป๋มากกว่านี้

“เพราะยิ่งคนเยอะ ยิ่งหลากหลายความคิด แต่เราจะทำอย่างไรให้บาลานซ์ที่สุด จุดไหนที่ต้องแข็ง ตรงไหนที่ต้องอ่อน เนื่องจากการทำงานตรงนี้ไม่ได้ มีแต่เรื่องงาน แต่คือเรื่องชีวิตทั้งหมด ทักษะสำคัญคือการพูดคุย เข้าใจกัน และมี Empathy มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน”

แล้วเวลาเจอคอมเมนต์ด้านลบในโลกโซเชียล เฌอรับมืออย่างไร

“บอกตามตรงว่าเจอทีไรก็เศร้าและนอยด์ค่ะ เพราะยังปล่อยวางไม่ได้ ขนาดนั้น ซึ่งวิธีจัดการก็แล้วแต่ครั้งไป บางครั้งเฌอก็ปล่อยให้ตัวเองคิดมาก ไปเลย บางครั้งใช้วิธีระบายออกมาในคลาสแอ๊คติ้ง (การแสดง) คือระบายมัน ออกมา ดีดมันออกมาให้สุด เพื่อให้หมดไป

“ก่อนหน้านี้เฌอไม่ค่อยรู้วิธีจัดการอารมณ์ตัวเอง กระทั่งได้เรียนคลาสแอ๊คติ้งค่ะ เพราะเราต้องจัดการอารมณ์ตัวเองเพื่อจะเข้าถึงตัวละคร ซึ่งเป็น การทำงานที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้

“อย่างบางคนอาจจะนั่งสมาธิหรือกำหนดจิตอยู่กับตัวเอง เพื่อให้เข้าใจ ตัวเองมากขึ้น แต่สำหรับเฌอ การแสดงคือทางลัดค่ะ เพียงแต่คุณต้องเปิดใจ และยอมรับตัวเองให้ได้จริง ๆ เฌอรู้สึกว่าการแสดงกับการกำหนดจิตทำสมาธิ ใกล้กันมาก เพราะคือการเข้าใจตัวเอง

“มีช่วงหนึ่งเฌอเลือกตัดอารมณ์ไม่ดีทิ้ง เพื่อจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ จนกลายเป็นว่าช่วงหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหุ่นยนต์ เพราะเราแค่เก็บกดอารมณ์ นั้นไว้ ไม่ได้ปล่อยออกมา พอได้เรียนการแสดงแล้วได้ระเบิดทุกอย่าง มัน เหมือนเราคลายเลยค่ะ ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าจริง ๆ ฉันเป็นอย่างไร ได้เห็นตัวเอง และได้รู้วิธีจัดการอารมณ์ของตัวเอง”

มักจะเครียดกับเรื่องอะไรที่สุดคะ

“ช่วงหลังไม่ค่อยมีแล้วค่ะ ถ้าจะมี…ก็เรื่องงาน คงเพราะเฌอปลดล็อกตรงนั้นมาแล้ว ปล่อยวางได้ง่ายขึ้นกับหลาย ๆ เรื่องเลย แน่นอนว่าต้องมีเรื่องเครียดบ้างอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่หนักเท่าเมื่อก่อน เหมือนเราเห็นวงโคจรของปัญหาว่าเดี๋ยวมันก็เป็นแบบนั้น ต่อด้วยอย่างนั้น แล้วก็วนกลับมาเหมือนเดิม ใช้คำว่าเข้าใจโลกมากขึ้นก็ได้ค่ะ

“อย่างตอนวัยรุ่น เวลาเจอเรื่องใหม่ ทุกอย่างจะเป็นจะตายมากสำหรับเรา แต่พอเจอเยอะขึ้น บ่อยขึ้น ก็เข้าใจเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราแค่ต้องอยู่กับมันให้ได้ ต้องอึด (ยิ้ม) อาจดูเหมือนคนแก่เนอะ แต่เฌอเพิ่งจะอายุ 24 เองนะ” (หัวเราะ)

ตอนนี้เดินทางมาถึงเป้าหมายของตัวเองหรือยัง

“ถ้าเป็นเป้าหมายหรือความฝันในวง สำเร็จแล้วค่ะ ได้ไปอยู่ในจุดที่ตั้งใจแล้ว แต่เป้าหมายระยะสั้นตอนนี้ก็คือทำทุกวันให้ดีที่สุด ในระยะเวลาที่เรายังอยู่ตรงนี้ (ยิ้ม)

“คำว่าไอดอล ถ้าคุณร้องเก่ง เต้นเก่ง ก็ต่อยอดออกยูนิตไปเป็นศิลปินได้ ซึ่งเฌอก็กำลังเอาใจช่วยน้อง ๆ ในวงอยู่ค่ะ แต่สำหรับเฌอ ตอนนี้เลือกสายนักแสดง แต่ถามว่ายังสนุกกับการขึ้นเวทีไหม เอนจอยมากค่ะ มีความสุขที่ได้อยู่กับทุกคน แต่ถ้าต้องร้องเดี่ยวคงไม่มั่นใจ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ได้ร้องเพลงเก่งขนาดนั้น

“ส่วนความฝันอย่างอื่นก็คืออยากไปท่องอวกาศค่ะ (ยิ้ม) อีกอย่างคือออกเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่ใดที่หนึ่งสักปีสองปี เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม เรียนรู้ผู้คนและรู้จักอะไรใหม่ ๆ ซึ่งจริง ๆ เวลาดูภาพยนตร์ก็ค่อนข้างเห็นเยอะนะคะ แต่สุดท้ายก็อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองจริง ๆ ถ้าตอนนี้เลือกได้คงอยากไปทำงานในดิสนีย์แลนด์ สหรัฐอเมริกาค่ะ เพราะมีเพื่อนไปทำงานที่นั่นแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ยิ่งเฌอชอบพวกคอสเพลย์ อินกับตัวละครต่าง ๆ อยู่แล้ว และเป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก ๆ ที่เขาสามารถทำให้เด็ก ๆ เชื่อพวกเขาได้ เฌอว่ามันสุดยอดและมีพลังมาก แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เขาอาจจะทำให้เด็กคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้ตลอดกาล

“คงเพราะเฌอโตมากับการ์ตูนด้วย สมัยเด็กตื่นมาดูทุกเช้าเสาร์ – อาทิตย์ สิ่งหนึ่งที่ได้จากการ์ตูนก็คือความไม่ค่อยยอมแพ้ ถ้าแพ้หรือล้มก็ต้องเริ่มใหม่ ซึ่งเนื้อเรื่องการ์ตูนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ คงเพราะเฌอถูกปลูกฝังมาแบบนี้ก็ได้มั้ง ทำให้รู้สึกว่าล้มยังไง…ก็ต้องไปต่อ” (ยิ้ม)

เปิดใจ "เฌอปราง" จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

เคยคิดไหมว่าถ้าไม่ได้เป็นเฌอปราง BNK48 ตอนนี้จะทำอะไรอยู่

“ตอนนี้น่าจะไปเรียนต่ออะไรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ค่ะ สันนิษฐานจากความชอบนะคะ เฌอสนุกกับการได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ ยิ่งเป็นการค้นพบด้วยตัวเองจะรู้สึกว่ามหัศจรรย์มาก ๆ เฌอชอบความรู้สึกที่เห็นสิ่งที่ทดลองสำเร็จ แบบฉันฟิน ความเหน็ดเหนื่อยของฉันสัมฤทธิ์ผลแล้ว แม้มันจะเป็น 1 ใน 1,000 ก็ตาม

“เฌออาจจะไม่ได้เก่งขนาดคิดค้นอะไรใหม่ได้ แต่ชอบที่จะลงมือทำ เป็นลูกมือปฏิบัติการ ซึ่งในไทยยังขาดตรงนี้นะคะ ทั้งที่มีเด็กเก่ง ๆ เยอะมาก แต่อาจจะไปทำงานในต่างประเทศกัน เพราะไม่มีงานรองรับในเมืองไทย ซึ่งทำให้เฌออยากสนับสนุนงานด้านนี้ให้เป็นที่รู้จัก”


ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 961

ภาพเพิ่มเติม : cherprang.bnk48official

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง “เป๊ก-ผลิตโชค” ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก

สวยไม่ได้จำกัดแค่ขาว! Samina ขอพิสูจน์ ค่านิยมความงาม เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง?

เส้นทางสู่แชมป์ไม่ง่าย แมมมอธ วัย 18 ปี ลายมือสวยขั้นเทพ มุ่งฝึกฝนจนเป็นที่หนึ่ง

 

เป๊ก ผลิตโชค

ลมหายใจของผลิต..ที่นุชต้องมี! BREATH กลิ่นหอมสื่อรักจาก “เป๊ก ผลิตโชค”

Alternative Textaccount_circle
เป๊ก ผลิตโชค
เป๊ก ผลิตโชค

เป๊ก ผลิตโชค ออก “COLOUR SOUL BREATH” น้ำหอมรุ่นใหม่ล่าสุดที่นุชต้องมี! BREATH “ลมหายใจ” กลิ่นหอมสื่อกลางรักระหว่างเป๊กกับนุช

หลังจาก “เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร” เปิดตัวน้ำหอมแบรนด์ตัวเอง COLOUR SOUL SECRET EAU DE PARFUM (คัลเลอร์ โซล ซีเครท โอ เดอ พาร์ฟูม)  ครั้งแรกไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีจากแฟนคลับ ล่าสุดตามความตั้งใจของ “เป๊ก ผลิตโชค” เจ้าของแบรนด์ได้ผลิตน้ำหอม รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาในปีนี้ เพื่อเอาใจแฟนๆ และตอบรับกระแสที่ยังคงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีชื่อรุ่นว่า “BREATH” ที่มาของชื่อนี้ มาจาก “เป๊ก ผลิตโชค” อยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นตัวเอง สิ่งที่ตนชอบ และรัก เป็นเหมือนลมหายใจ จึงได้แรงบันดาลใจกับคำว่า “BREATH” ซึ่งมีความหมายว่า “ลมหายใจ” ลมหายใจของผลิต ลมหายใจของแฟนๆ (นุช) กลิ่นหอมนี้ที่เป็นสื่อกลางให้เราสื่อถึงกันได้ ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้ “เป๊ก ผลิตโชค” ยังคงพิถีพิถัน ตั้งชื่อ เลือกรูปแบบ และออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง คัดเลือกโรงงานผู้ผลิต และนำเข้าวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานสากล คัดเลือกส่วนผสม และกลิ่นเอง ได้ทดลองใช้สินค้าจริง จนมั่นใจในคุณภาพของสินค้าก่อนจะมาส่งต่อถึงทุกคน

“COLOUR SOUL BREATH” เป็นสินค้า Limited Edition โดยจัดจำหน่ายพร้อมกับบัตรเข้างาน THE BREATH FANMEET และ MERCHANDISE อื่นๆ มีให้เลือกทั้งหมด 3 BOXSET ได้แก่ COLOUR SOUL BREATH – BOXSET VIP, BOXSET A และ BOXSET B โดยการออกแบบ MERCHANDISE ในแต่ละแพค ได้แรงบันดาลใจมาจากทะเล ชายหาด และการถ่ายทำหนังโฆษณาที่เมือง LOS ANGELES ประเทศ สหรัฐอเมริกา

และทุกๆ การสนับสนุน COLOUR SOUL BREATH Limited Edition (ทุกขวด) คือการสมทบทุนเพื่อต่อลมหายใจ ให้โอกาสชีวิตใหม่กับเด็กๆ และผู้ซื้อจะได้มีสิทธิเข้าร่วมบริจาคเงินร่วมด้วยกับ “เป๊ก ผลิตโชค” ในงาน THE BREATH DONATION EVENT นำรายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้กับมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ได้แก่ 1) ทุนโครงการผู้ป่วยมะเร็งในเด็ก มูลนิธิรามาธิบดี 2) กองทุนเพื่อผู้ป่วยเด็ก โรงพยาบาลศิริราช ศิริราชมูลนิธิ 3) มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 4) มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก

“เป๊ก ผลิตโชค” บอกว่า “COLOUR SOUL BREATH” เป็นลมหายใจที่อยากส่งต่อให้แฟนๆ ผ่านทางกลิ่นหอมสดชื่น เลยตั้งใจว่าซีรี่ย์นี้ต้องเป็น BREATH แน่นอน ประเทศไทยเป็นเมืองซัมเมอร์ตลอดเวลา อยากให้น้ำหอมมีกลิ่น Fresh ให้ทุกคน ได้ใช้จะได้หายคิดถึงกัน และแน่นอนว่าได้แรงบันดาลใจมาจากทะเล ซึ่งคอนเซ็ปต์มาจากสีฟ้า นึกถึง ทะเล สีทอง นึกถึง แสงแดด หาดทราย เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก และที่สำคัญได้ประสบการณ์ที่เยี่ยมมาก ได้มาทำงานที่เมือง LOS ANGELES ประเทศ สหรัฐอเมริกา กับทีมงาน Professional Hollywood ทุกอย่างออกมาเฟอร์เฟคมาก”

แพรวดอทคอม รีวิว “กลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ฟีลสดชื่นเย็นๆ​ แต่ก็มีความละมุน​ ฟีลกลิ่นคล้ายๆ น้ำหอมหรูแบรนด์ดัง ซึ่งถ้าใครเป็นเพอร์ฟูมเลิฟเว่อร์จะต้องรักขวดนี้เช่นกัน ส่วนตัวด้วยความที่กลิ่นจะเฟรชๆ เลยรู้สึกว่าเหมาะกับผู้ชายมากกว่า แต่ผู้หญิงที่ชอบกลิ่นแนวนี้ก็เยอะ ฉะนั้นก็มองว่าเป็นน้ำหอมUnisex หญิงก็ใช้ได้ ชายก็ใช้ดีค่ะ บอกเลยว่านุชต้องมีขวดนี้!!”

ปักหมุด! เริ่มให้จับจอง “COLOUR SOUL BREATH” แบรนด์น้ำหอมของนักร้อง เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร ครั้งแรกในวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 น. ที่ https://www.thaiticketmajor.com/coloursoulbreath/ และจุดจำหน่ายหลักของ THAITICKETMAJOR 14 สาขา หรือสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://takemybreath.com/ และ https://www.facebook.com/Peckpalitchoke/

แพรวดอทคอม ถ่ายรูปรีวิวมาให้นุชชมจุกๆ ด้วยค่ะ

เป๊ก ผลิตโชคเป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค

เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค เป๊ก ผลิตโชค


ภาพ : แพรวดอทคอม (www.praew.com)

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หอมฟุ้งพาใจนุชละลาย! รีวิวน้ำหอม ‘เป๊ก-ผลิตโชค’ COLOUR SOUL

7 น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ หอมหวานชวนหลงใหล ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูละมุนขึ้น

นุชฟินจัด! ตามส่องครั้งแรกของ “เป๊ก-ผลิตโชค” กับทริปโปแลนด์ ดินแดนในฝันที่ต้องไปให้ได้

 

 

กระเป๋า Bottega Veneta Pre Fall 2020

งานหนังต้อง Bottega Veneta เจาะดีเทลกระเป๋า 2 รุ่นใหม่ มีความพิเศษยังไง

กระเป๋า Bottega Veneta Pre Fall 2020
กระเป๋า Bottega Veneta Pre Fall 2020

เปิดลิสต์กระเป๋ารุ่นใหม่! Bottega Veneta นำเสนอกระเป๋าสุดไอคอนิกประจำซีซั่น มาใน 2 สไตล์ 2 ดีไซน์ จากคอลเล็คชั่น Pre Fall 2020 

สำหรับแอคเซสซอรี่ประจำคอลเล็คชั่น Pre Fall 2020 แสดงถึงส่วนผสมของงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bottega Veneta ไอเท็มอย่างกระเป๋านั้นยังคงสานต่อเทคนิคการสานหนัง Intrecciato อันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้นำมาสร้างสรรค์ รวมไปถึงการนำเสนอสีสันอันสวยงามของคอลเล็คชั่นนี้

สำหรับซีซั่นนี้ โดดเด่นด้วยโซ่ทองขนาดใหญ่ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักของกระเป๋า Padded Cassette โดยผลงานการออกแบบสุดไอคอนิกจาก แดเนียล ลี (Daniel Lee) ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ รังสรรค์ขึ้นจากหนังนัปป้า (Nappa) ที่มอบสัมผัสนุ่มนวลและน่าหลงใหล ผสานเข้ากับเทคนิคการสานหนังแบบ Intrecciato โดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของ Bottega Veneta ตัวกระเป๋าถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบการถือผ่านตัวกระเป๋าและใช้งานด้วยสายสะพายไหล่

อีกหนึ่งไอเท็มที่ แดเนียล ลี (Daniel Lee) ได้ต่อยอดการสร้างสรรค์อย่าง Fringe Pouch ที่ดีไซน์เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบนเรียบ ผลิตขึ้นจากหนังแกะ (Nappa) ประดับด้วยริ้วเส้นหนังจากวัสดุชนิดเดียวกัน สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพับลงเสมือนกระเป๋าคลัทช์ หรือปรับเปลี่ยนให้เป็นสะพายไหล่พร้อมกับสายหนังที่ปรับระดับได้


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วางขายแล้ว! หน้ากากอนามัยคุณภาพสูงจาก Burberry มาพร้อมลายซิกเนเจอร์

โฉมใหม่ไอเท็มฮ็อต! กระเป๋า Fendi Peekaboo ISeeU เริ่มหลักพันจนถึงหลักแสน

อยากได้ต้องจ่ายเท่าไหร่? กระเป๋า SAINT LAURENT 2 ดีไซน์สไตล์สาวสตรอง

 

‘หากเคลิบเคลิ้มกับเด็ก คุณอาจตกเป็นมือที่สาม’ดูดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2563

ดูดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : เช้าวันจันทร์ที่คุณไม่อยากตื่นไปทำงาน แต่วันนี้หากคุณไม่ขี้เกียจ คุณจะโดดเด่นในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง มีโอกาสได้บุกเบิกธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่รวดเร็ว และขาดสติ และการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความผิดพลาดล้มเหลวได้อย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน : มีโชคลาภ จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด เงินทองไหลมาไม่ขาดสาย อาจได้รับมรดก ที่ดินจากความสิเน่หา  หรือลาภลอยจากการเสี่ยงโชค

ความรัก :  คุณได้รับความรักและเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างดีมาตลอด ซึ่งคุณก็รักเดียวใจเดียว กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ลึกๆ แล้วความคิดเห็นในเรื่องของการใช้ชีวิตคู่ยังไปกันไม่ได้ คนโสด คุณมีเสน่ห์ น่าประทับใจและดึงดูดเพศตรงข้าม แม้คุณจะเจ้าชู้ แต่คุณก็รักเดียวใจเดียวนะ

สุขภาพ : ออกจากบ้านต้องระวังเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล อย่าประมาท การ์ดอย่าตก โควิด-19 ยังอยู่ โดยเฉพาะการใช้สิ่งของสาธารณะ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายการศึกษา เช่น ครูบาอาจารย์ นักวิเคราะห์ วิจัยโค้ชชิ่ง เทรนนิ่ง วันนี้หากคุณตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ใครก็ขวางไม่ได้ จึงมีความเสี่ยงที่จะทำงานหนักและเหนื่อยจนสายตัวแทบชาด ถึงอย่างไรควรอดทน ใจเย็น และรอคอย ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา เพราะจะปิดบังพลังแห่งปัญญา จนอาจทำให้งานเกิดความเสียหายขึ้นในภายหลัง

การเงิน :  รายได้หลักมาจากงานประจำ แต่วันนี้คุณอาจมีช่องทางหาเงินพิเศษ ในสายงานที่ไม่สีเทา แม้ได้เงินเพิ่ม แต่คุณก็ต้องเสียเงินไปกับการเลี้ยงดูเพื่อนฝูงญาติมิตร จนเงินที่ได้มาหมด

ความรัก : คุณอาจเซอร์ไพรส์ที่เห็นคู่คุณกลับมาบ้านก่อนคุณ ไม่ไปดื่มสังสรรค์ต่อ จนถึงอาจเข้าห้องพระสวดมนต์ หรือคร่ำเคร่งอยู่กับตำราเลยก็ได้ แม้ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ก็ปล่อยเขาไป อย่าแซว หรือพูดเหมือนเป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะเขาอาจไม่ทำอีกเลย คนโสด วันนี้อาจเกิดศึกหน้านางกันนะคะ จนต้องเดือดร้อนผู้ใหญ่เข้าามาไกล่เกลี่ยเลยทีเดียว  

สุขภาพ : ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด ปรุงสุกๆ ดิบๆ รวมถึงเครื่องดื่มหมักดอง เฃ่น แอลกอฮอลล์ เพราะอาจทำให้คุณท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงมีพยาธิ์

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  วันนี้คุณอาจได้รับมอบหมายให้เป็นหลักในการทำงาน หรือเป็นแกนหลักของทีม ก็ควรลดอีโก้ หรือความมั่นใจในตัวเองลงบ้าง เพราะการที่คุณไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จะทำให้มีคนแอบไม่พอใจอยู่ ฉะนั้นหากคุณพลาดก็ไม่ต้องเดาเลยว่า จะถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติมขนาดไหน จึงควรวางตัวเป็นกลาง ใช้ความคิดและจินตนาการที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การเงิน : คุณทำงานมากกว่าคิดถึงตัวเงิน เพราะฉะนั้นจึงควรหาคู่คิดมาช่วยดูแลผลประโยชน์แทน ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียเปรียบ หรือถูกโกง ถูกต้มตุ๋น

ความรัก :  คุณทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่อย่างน้อยก็ควรจัดสรรเวลาให้กับครอบครัวด้วย เพราะอย่างไรเขาก็ต้องการคุณเสมอ  คนโสด คนรักเก่าอาจกลับมาขอคืนดี แต่คุณมีครอบครัวที่ต้องดูแล จึงอาจปฏิเสธไปเลยก็ได้

สุขภาพ :  ระวังเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ความดัน ระบบน้ำเหลืองและต่อมไร้ท่อต่างๆ สืบเนื่องจากขาดการบำรุงเลือด ควรรับประทานผักและผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงเลือด หรือวิตามินเสริม

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  บอกเลยว่า ความสำเร็จไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง แล้วหากมารไม่มีบารมีก็ไม่เกิด วันนี้ต้องระวังเพื่อนร่วมงาน หรือคนใกล้ชิดที่จะแทงข้างหลัง รับแต่ความชอบ แล้วโยนความผิดมาให้ จนคุณถูกเจ้านายพิจารณา ณ จุดนี้จึงควรระวังคำพูด ใจเย็นๆ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงมากกว่านี้

การเงิน : หากคิดจะลงทุน โดยเฉพาะในธุรกิจสีเทาต้องระวังถูกโกง ได้รับผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม หรืออาจถูกขโมยทรัพย์สิน

ความรัก : ก็ยังคงเป็นปัญหาเรื่องมือที่สามอยู่นะคะ ซึ่งวันนี้คุณอาจจับได้ว่า คู่คุณอาจแอบเลี้ยงใครอื่นอยู่ในสถานที่เที่ยวกลางคืน เมื่อคุณรู้จึงเกิดความหึงหวงจนออกนอกหน้า  คนโสด หากวันนี้คุณมีนัดดื่มสังสรรค์ปาร์ตี้ ต้องระวังเด็กหนุ่มหน้าที่การงานดีจะเข้ามาฉวยโอกาส ก็อย่าเคลิบเคลิ้มไปกับเขาล่ะ เพราะคุณจะตกเป็นมือที่สามทันที  

สุขภาพ : คุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองดีอยู่แล้ว แต่หากคุณประมาท อาจเสี่ยงต่อการถูกของมีคมบาดเป็นแผลตามร่างกาย หรือติดเชื้อโดยไม่ระวัง

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ให้การบริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม โรแงรม สปา มัคคุเทศก์ ฯลฯ วันนี้ควรลดอีโก้และความเป็นตัวเองลง รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง หาไม่แล้วหากคุณพลาดอาจถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติม จนการงานเสียหายร้ายแรงกลายเป็นคดีความโดยไม่คาดคิด

การเงิน : หากคุณคิดจะทำธุรกิจกับแฟน จะได้ผู้ใหญ่ช่วยอุปถัมภ์ ซึ่งคุณอาจดูแลเรื่องเงินได้ไม่ดี อาจต้องให้แฟนช่วยจัดการผลประโยชน์แทน

ความรัก :  คุณให้ความสำคัญกับการทำงานมากกว่าครอบครัว วันนี้จึงอาจมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ดีให้กับครอบครัว ด้วยการพึ่งอำนาจทางกฎหมายเพื่อขอรับอุปถัมภ์บุตร  คนโสด คุณทำงานหนัก เป็นหลักของครอบครัว อาจเพื่อต้องการหาเงินมาอุปการะบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนติดเป็นนิสัย เพราะอาจทำให้กรวยไตหรือกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  วันนี้หากคุณมีโครงการที่จะเดินทางไปบุกเบิกงานในสถานที่แปลกใหม่ หรือทำธุรกิจที่เกี่ยวกับโรงแรมและการท่องเที่ยว หรือยวดยานพาหนะ  คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดบ้าง เพราะหากคุณยังยืนกรานในความคิดของตัวเอง ก็อาจต้องรับศึกที่จะประดังเข้ามาจากทุกๆ ทาง ซึ่งงานนี้คุณไม่ควรตอบโต้ด้วย เพราะจะเหนื่อยเปล่า

การเงิน : พี่คนนี้ที่มีแต่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน วันนี้คงต้องหวังผลแล้วล่ะค่ะ  เพราะคุณอาจถูกหลอกจนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เงินไม่พอใช้แล้ว

ความรัก : เป็นเรื่องของอีโก้ ความยึดมั่นถือมั่น การไม่ยอมกัน ซึ่งคุณก็ไม่ชอบให้ใครมาวางกฎเกณฑ์ หรือยื่นเงื่อนไขบังคับให้คุณต้องทำหรือไม่ทำอะไร วันนี้จึงอาจทะเลาะกันบ้านแตกเลยทีเดียว   คนโสด คุณอาจต้องการโยกย้ายถิ่นฐานไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ซึ่งคุณยังไม่อยู่ในภาวะที่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากใคร แต่พร้อมที่จะเปิดฉากทะเลาะ หากถูกขัดใจ

สุขภาพ :  สภาพร่างกายอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะอากาศ อาจป่วย ไม่สบาย เป็นภูมิแพ้ ต้องระวังเพราะอาจเป็นขั้นรุนแรง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด หรือผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้ภาษาเป็นหลัก วันนี้หากคุณคิดจะบุกเบิกงานใหม่ หรือนำโครงการเก่าขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ วันนี้ก็ถือว่าคุณโชคดี เดินทางไปติดต่องาน เข้าหาผู้ใหญ่ก็ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมให้ได้ทำงานสมกับที่ตั้งใจไว้

การเงิน : อาจได้เงินจากการซื้อขายที่ดิน แต่ก่อนที่จะรับปากหรือเซ็นสัญญาใดๆ ควรพิจารณาให้ดี ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียเปรียบ หรือเกิดความผิดพลาด

ความรัก : วันนี้เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ได้ เดี๋ยวก็ขยันลุกขึ้นมาทำงานแบ่งเบาภาระในการหาเลี้ยงครอบครัว เดี๋ยวก็อยากอยู่บ้าน เรียกว่าคนอยู่ใกล้ๆ เดาใจลำบากทีเดียว คนโสด  คุณขยัน และรักครอบครัว หาเงินได้เท่าไหร่ก็นำมาให้ที่บ้าน ขณะที่เรื่องแฟน เรื่องความรักก็เบื่อๆ อยากๆ เดี๋ยวก็อยากมี เดี๋ยวก็ไม่อยากมี

สุขภาพ :  บิ๊กคลีนนิ่งบ้านบ้างหรือยังคะ เพราะหากสังแกตุสมาชิกในบ้านเริ่มเป็นภูมิแพ้กันแล้ว

 เช็กดวงย้อนหลังกันได้ที่นี่

ระวัง!! เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ลอบตีท้ายครัวจนแตก ดูดวงรายวัน 22 สิงหาคม

 

วาสนารัก

วาสนารัก อีกหนึ่งผลงานจักรวาลนครสวรรค์ของ จุฬามณี

Alternative Textaccount_circle
วาสนารัก
วาสนารัก

จาก ทุ่งเสน่หา สู่ วาสนารัก อีกหนึ่งผลงานจักรวาลนครสวรรค์ของ จุฬามณี โดย 2 นักแสดงนำ ณิชา-ณัฏฐณิชา และ ไอซ์-ภาณุวัฒน์ รับไม้ต่อ ความรักซับซ้อน

เรื่องราวของชาวบ้านหนองน้ำผึ้งยังไม่จบ!

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ ละคร วาสนารัก ช่อง 3 ซึ่งเป็นละครภาคต่อจาก “ทุ่งเสน่หา” โดยเป็นการส่งไม้ต่อจากรุ่นพ่อแม่ มาถึงรุ่นลูกที่ยังไม่ถึงจุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของ “ความรัก” ที่ดูเหมือนจะ “ไร้วาสนา” ผลงานของ เมคเกอร์ เค ภายใต้การดูแลของ มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช และ กฤษณ์ ศุกระมงคล บทประพันธ์ จุฬามณี บทโทรทัศน์ ธีระพัสตร์ ถนัดสอนสาร กำกับการแสดงโดย กฤษณ์ ศุกระมงคล และ อดุลย์ ประยันโต เป็นเรื่องราวความรักที่ซับซ้อน บวกกับบรรยากาศยุค 90’s ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนต่างชนชั้น ต่างที่มา ต่างความคิด จนนำมาซึ่งเรื่องราววุ่นวาย และบททดสอบที่ถาโถมตลอดเส้นทางของแต่ละชีวิต “วาสนา” จะนำพาให้พวกเขาได้ “รัก” หรือ “ต้องจากลา” ต้องตามลุ้น นำแสดงโดย พระเอกป้ายแดง ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์ ประกบคู่ นางเอก ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ร่วมด้วย แพร์-พิชชาภา ,โบ๊ท-ธารา ,เต้-ดาวิชญ์ ,ฝ้าย-นันท์ฑณัฐ ,นิวส์-นริศสันต์ ,แก๊ป-ชนกสุดา ร่วมด้วยนักแสดงเรื่องราววัยเด็ก ยอร์ช-ยงศิลป์ ,อ๊ะอาย-กรณิศ ,มิ้ม รัตนวดี ฯลฯ และนักแสดงรุ่นใหญ่ แม่ก้อย-ทาริกา ,อาโย-ทัศน์วรรณ ,ชาย-ชาตโยดม ,เต๋า-สโรชา ,เพชร-กรุณพล ,กิ๊ฟ-อัญชิสา ,ต้อม-รชนีกร ฯลฯ ติดตามชมได้ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.15 น. มาร่วมลุ้นเอาใจช่วยพวกเขาไปพร้อมกัน ตอนแรก วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ทาง ช่อง 3 กด 33

เรื่องราวของรุ่นพ่อ-แม่ จาก “ทุ่งเสน่หา” ส่งต่อมาถึงรุ่นลูกที่ยังไม่ถึงจุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของ “ความรัก” ที่ดูเหมือนจะ “ไร้วาสนา” คณะลิเกไผท เทพทอง ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ เป็นเหตุให้ “ไผท เทพทอง” พระเอกลิเกชื่อดังเสียชีวิต ทำให้ “ดวงมณี ศรีนคร” (ต้อม-รชณีกร พันธุ์มณี) อดีตนางเอกลิเกคู่ขวัญของไผท ต้องกลายมาเป็นหญิงแกร่งดูแลชาวคณะลิเกทั้งหมดด้วยตัวเองตามลำพัง รวมถึงดูแลลูกๆ “บดินทร์ (เต๋า ภูศิลป์) เด่นดวง ( แจ๊ค- จักรพันธ์ จันโอ) เมฆินทร์ (นิวส์-นริศสันต์ โลกวิทย์ ) ” และ “ใกล้รุ่ง เทพทอง” (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์)

วาสนารัก

“กันตพล สมัครเขตกรณ์” (ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์) อยู่กับฝันร้ายซ้ำๆ ที่ใครต่างก็บอกว่าเขาไม่ใช่ลูกของ “ไพรวัลย์ สมัครเขตกรณ์” เมื่อตื่นจากฝัน เขาก็เดินหน้าใช้ชีวิต โดยมีความฝันแค่ว่าอยากเรียนให้จบและกลับไปดูแล “ย่าจ๋า” หรือ สำเภา (แม่ก้อย-ทาริกา ธิดาทิตย์) แต่โชคชะตามักเล่นตลก เมื่อ “กันตพล” ได้มาเจอ “ใกล้รุ่ง” ที่ทั้งคู่เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว และต่างถูกชะตากัน เมื่อเขารู้ว่าใกล้รุุ่งเป็นลูกของบ้าน “ไผท เทพทอง” ที่กันตพลจำชื่อนี้ได้แม่น เพราะเป็นชื่อเดียวกันกับ “พ่อ” ที่ชาวบ้านต่างก็ลือกันว่า เป็นพ่อที่แท้จริงของเขา?! กันตพลพยายามจะเบนเข็มชีวิต (รัก) ให้ออกห่างจากใกล้รุ่ง เพราะกลัวว่าสักวันมันจะกลายเป็น “รักต้องห้าม”

เรื่องราวว้าวุ่นของวัยรุ่นยุค 90’s ยังพัวพัน เมื่อ “พรรณษา ขันธ์ทอง” (แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา) ลูกคนโตของ “มิ่งขวัญ” (ชาย-ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) และ “ยุพิณ” (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) ที่คอยตามตื๊อกันตพล แต่ไม่เคยได้รับความสนใจ เช่นเดียวกับ “เพทาย สมัครเขตกรณ์” (โบ๊ท-ธารา ทิพา) ลูกพี่ลูกน้องของกันตพล ที่ตามจีบพรรณษา แต่ก็ไม่ได้รับความรักสักครั้ง ทำให้พี่ชายคนสนิทอย่างกันตพลต้องถนอมน้ำใจเพทาย โดยตีตัวออกห่างพรรณษา เพื่อไม่ให้ “แก๊งสมัครเขตกรณ์” ต้องแตกคอ แต่พอหนีจากพรรณษา กันตพลก็เจอ “เอกชัย โค้วพิสุทธิ์” (เต้-ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์) เพื่อนสนิทที่แอบชอบกันตพลอย่างลับๆ แต่ดูเหมือนเอกชัยต้องตัดสินใจใหม่ว่า เขาจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่?! เพราะดันไปหวั่นไหวให้กับ “จันทร์เพ็ญ สมัครเขตกรณ์” (ฝ้าย-นันท์ฑณัฐ โล่ห์สุวรรณ) พี่ใหญ่แก๊งสมัครเขตกรณ์

ความรักฝั่งพี่ว่าวุ่นแล้ว ฝั่งน้องมีหรือจะยอมแพ้ เมื่อน้องสาวของพรรณษา ”อาภากร ขันธ์ทอง” (ปาณิสรา หยาง) ไม่กล้าแสดงออกซึ่งความรักที่มีต่อน้องเล็กของแก๊งค์สมัครเขตกรณ์ อย่าง “ไพรัช สมัครเขตกรณ์” (แดนนี่ ลูเซียโน่) แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะได้รัก ส่วนทางไพรัชก็แอบซุ่มชอบเพื่อนสนิทอย่าง “ใกล้รุ่ง” อยู่ห่างๆแต่ก็ยังไม่รู้จะบอกเขาไปยังไง

ทางฝั่งเพื่อนสนิทของพรรณษาก็ยังมีเรื่องมาให้แม่ยกเอาใจช่วย เมื่อ “จินตนา โค้วพิสุทธิ์” (แก๊ป-ชนกสุดา รักษนาเวศ) ลูกสาวคนเล็กจากบ้านคนจีนที่ปฏิเสธการคลุมถุงชน มาเจอกับ “เมฆินทร์ เทพทอง” (นิวส์-นริศสันต์ โลกวิทย์) ที่มาจากครอบครัวลิเก แต่ดูทว่ารักครั้งนี้จะผ่านด่านเพื่อน และ “หม่าม๊ากิมเตียง” (ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ) ได้ยาก เพราะไม่รวยและไม่ใช่คนจีน

เรื่องราวของบ้านคนจน คนรวย ลิเก คนจีนที่ต่างที่มา ต่างความเชื่อ ต่างความคิดที่มาเจอกัน นำมาซึ่งเรื่องราววุ่นวายมากมาย บททดสอบที่ถาโถมตลอดเส้นทางของแต่ละชีวิตจะลงเอยอย่างไร “วาสนา” จะนำพาให้พวกเขาได้ “รัก” หรือ “ไม่รัก” ต้องติดตามและเอาใจช่วยพวกเขาใน “วาสนารัก”

ณิชา-ณัฏฐณิชา

ณิชา กล่าวว่า “ความยากของบทนี้ คือ ตัวใกล้รุ่ง จะเป็นคนที่ค่อนข้างผ่านเรื่องราวมามากพอสมควร เวลาส่งอารมณ์หรือสื่อสารอะไรก็ต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น มีการปรึกษากับพี่หนุ่ม พี่ดุลย์ ผู้กำกับ ด้วยว่าเราควรปรับเรื่องของการแสดงตรงไหนบ้าง กับพี่ไอซ์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้มาทำงานด้วยกัน วันแรกที่ต้องเข้าคู่กัน ก็คือเป็นฉากละลายพฤติกรรมเลย ด้วยความที่พี่เค้าเป็นคนสบายๆ มีอะไรก็คุยกันได้เลยทำให้แต่ละฉากที่เล่นด้วยกันผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ”

วาสนารัก

ไอซ์-ภาณุวัฒน์

ไอซ์ เผยว่า “ผมรับบทกันตพล เค้ามีปมปัญหาเยอะ ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องความรัก เลยทำให้เราต้องเข้าใจตัวละครตัวนี้มากๆ ในช่วงแรก และเราต้องเข้าฉากกับนักแสดงรุ่่นใหญ่ อย่าง แม่ก้อย ทาริกา ด้วย ก็มีตื่นเต้นครับ แต่แม่ก้อยใจดี ให้คำปรึกษาตลอดเลย ทำให้เราไม่รู้สึกเกร็ง ระหว่างการถ่ายทำพี่ดุลย์ พี่หนุ่มก็จะคอยสร้างพลัง เพิ่มเอเนอร์จี้ให้เรา กับณิชาได้มีการเวิร์คช็อปการแสดงด้วยกันก่อนถ่ายทำมาแล้ว และเราอายุห่างกันไม่มากเลยคุยปรึกษากันได้ตลอด น้องจะคอยซัพพอร์ตเราตลอดตอนเข้าฉากด้วยกันครับ”


 

เทคนิคการจองคิวช่างหน้าช่างผมระดับตัวท็อปมาไว้ในงานแต่ง

account_circle

เคล็ดลับได้ ช่างหน้าช่างผม ที่อยากได้ พร้อมสร้างลุคให้เป๊ะปังในวันวิวาห์

ว่าที่เจ้าคนไหนที่กำลังวางแผนแต่งงาน หลายคนอาจจะมี ช่างหน้าช่างผม อยู่ในใจกันแล้ว แต่จะทำยังไงถึงจะได้เหล่าตัวท็อปมาเสกความงามเนรมิตความสวยให้ได้กันล่ะ เพราะช่างระดับคิวทองเหล่านี้อาจจะมีงานที่รับไปจนถึงปลายปีหน้าแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งเสียอกเสียใจและอย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะ แพรว wedding มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณว่าที่เจ้าสาวนั้นได้ช่างในดวงใจมาไว้ที่งานแต่ง

เช็คตัวเองรอบด้าน

ก่อนที่เจ้าสาวจะยกหูโทรจองคิวช่างแต่งหน้าและช่างทำผม คุณจะต้องเช็คความต้องการและข้อจำกัดของตัวเองซะก่อน โดยเราขอแนะนำให้ทำการบ้านสำรวจตัวเองให้แน่ใจ 100 % ดังนี้

1. เช็คสไตล์หน้าผมที่คุณชื่นชอบ จะสายแบ๊ว สายหวาน หรือสายเปรี้ยวเผ็ช แต่ถ้านึกไม่ออกก็ลองหาเรฟเฟอร์เรนซ์ได้ใน Real Wedding 

2. สรุปวันจัดงานแต่งงานให้เป๊ะ จะ 100% หรือหย่อนๆ แค่ 98% ก็ได้ แต่คุณเจ้าสาวต้องกำหนดวันแต่งงานให้ชัวร์ก่อนแล้ว เพื่อจะได้ระบุวันกับช่างหน้าผมได้แบบไม่ลังเล ประมาณว่าถามปุ๊บตอบได้ปั๊บแบบทันใจ เพื่อที่ช่างจะได้มั่นใจว่าจะไม่โดนคุณเท และอีกเรื่องสำคัญคือจัดที่ต่างจังหวัดหรือกรุงเทพฯ เพราะเรื่องสถานที่ก็มีผลต่อราคาด้วยเหมือนกันนะคะ

3. หาช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ที่รู้สึกชื่นชอบผลงานเป็นพิเศษถึงขั้นติดตามอินสตาแกรมและกดเข้าไปดูเป็นว่าเล่น ประมาณว่าช่างคนนี้แหละที่เกิดมาเพื่อฉัน ซึ่งระหว่างทางเจ้าสาวอาจจะเจอช่างคนใหม่ที่ถูกใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคนก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ลองจัดลำดับความเลิฟและความอยากได้เผื่อไว้สำหรับเป็นตัวสำรอง เผื่อว่าช่างคิวทองคนแรกที่เล็งไว้ไม่ว่าง ก็ยังมีช่างอีกคนที่เรารู้สึกไว้ใจ

4. ตั้งงบประมาณค่าหน้าผมไว้เท่าไหร่ เรื่องนี้ถึงเราไม่บอกคุณเจ้าสาวก็น่าจะรู้กันดี ว่าช่างระดับตัวท็อปหน่ะถ้างบไม่ถึงก็ต้องทำใจ และช่างแต่งหน้าทำผมระดับนี้จะคิดราคาแยกเป็นงานนะคะ เพราะฉะนั้นเริ่มสตาร์ทออมเงินกันได้เลย

เช็คช่างแต่งหน้า ช่างทำผมให้ชัวร์

หลังจากรู้ความต้องการและความสามารถในการจ่ายเงินของตัวเองแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณว่าที่ต้องทำก็คือ เช็คช่างแต่งหน้าซึ่งข้อมูลทั้งหมดสามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต

1. เช็คเอกลักษณ์ของช่างแต่งหน้าที่คุณจัดลิสต์ไว้ในใจว่าตรงกับจริตและสไตล์ที่คุณชื่นชอบหรือเปล่า อย่างบางคนเน้นที่การปรับรูปหน้า หรือบางคนเน้นน้อยแต่มาก หรือแต่งบางๆ แบบเผยผิว

2. ราคาค่าตัวของช่างที่คุณปิ๊งในฝีมือ ว่ามีราคาแรงแค่ไหน และคุณต้องมั่นใจนะว่าราคาที่ได้มาเป็นราคาอัพเดตล่าสุด ไม่ใช่ราคาสมัยพระเจ้าเหายังไม่เกิด และลองดูว่างานเช้ากับงานเย็นคิดเท่ากันหรือเปล่า หรือว่ามีโปรราคาพิเศษเหมาทั้งงานเช้างานเย็นหรือไม่ สอบถามให้ชัวร์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองนะจ๊ะ

3. เขาทำงานเป็นทีมแบบที่ต้องมีผู้ช่วยข้างกายหรือเปล่า ช่างบางคนอาจไม่ได้ทำงานแค่คนเดียวแต่มีคู่หูในการทำผมแต่งหน้าร่วมกัน หรือบางทีคุณอาจจะเจอว่าจ้างช่างแต่งหน้าแล้วพ่วงช่างทำผมมาด้วยก็ได้ ซึ่งตรงนี้อาจทำให้งบประมาณงอกเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นเช็กให้ชัวร์ถามให้ดีนะคะ

4. เช็คคอมเม้นท์และรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคุณช่างในดวงใจ ว่าเหวี่ยงประมาณไหน มาตรงเวลาที่นัดเป๊ะหรือเปล่า หรือแต่งหน้าช้าละเมียดสุดๆ เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะเดินหน้าโทรหาหรือพอแค่นี้ แต่ถ้าอยากเดินหน้าต่อก็อย่าลืมเผื่อเวลากันไว้ให้ก็แล้วกัน

5. เช็คความชอบส่วนตัวของช่างในดวงใจ ดูเหมือนไม่สำคัญแต่อยากบอกว่าจะช่วยเพิ่มคะแนนจิตพิสัยของคุณได้ค่ะ เช่น ช่างคนนี้ไม่ชอบการพูดจาเยิ่นเย้อประมาณว่ายกสายปั๊บยิงข้อมูลได้ทันที แบบนี้เป็นต้น

6. เช็คเบอร์ติดต่อ ว่าสามารถติดต่อช่างได้โดยตรงหรือว่าท็อปฮิตขนาดต้องมีผจก.แบบดารา เช็กให้ดีจะได้โทรไปหาได้ถูกคน

7. เช็ดว่าแต่งให้เองหรือเปล่า ช่างเบอร์ใหญ่บางคนบอกราคาเสร็จปุ๊บคุณว่าที่เจ้าสาวตกลงปั๊บ แต่พอถึงวันจริงกับเจอแต่ลูกทีมไม่เจอตัวแม่ก็มีถมไป เพราะฉะนั้นเช็คให้ชัวร์ว่าราคานี้คือตัวแม่มิใช่ตัวลูก(ทีม)

เตรียมตัวก่อนยกหู

เป็นช่วงที่คุณเจ้าสาวต้องตั้งสติให้ดี เพราะต้องจับข้อมูลของตัวเองและของช่างมาชนกันเพื่อจดสรุปเป็นข้อๆ จะได้มั่นใจว่าได้ทั้งคิวและใจของช่างด้วย

1. มั่นใจเรื่องงบประมาณ ต่อให้คุณช่างเรียกมาเท่าไหร่คุณก็ไม่ยั่น ประมาณว่าเรามันสายเปย์อยู่แล้ว

2. มั่นใจในวันและเวลาแต่งงาน กำหนดวันและเวลานัดว่าวันไหน เวลาไหน งานเช้าหรืองานเย็น ซึ่งการกำหนดเวลาก็อย่าลืมเผื่อสำหรับช่างที่ต้องใช้เวลาแต่งหน้านานๆ หรือช่างบางคนที่ชอบสายด้วย

3. มั่นใจในลุคเจ้าสาวที่อยากได้ อธิบายลุคที่คุณอยากได้แบบคร่าวๆ อย่าแบบ “แล้วแต่พี่เลยค่ะ” แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะช่างอาจเกิดอาการมึนตึ๊บๆ จนอาจจะแต่งออกมาไม่ได้แบบที่คุณเจ้าสาวหวังไว้ก็ได้

4. เผื่อใจไว้เจ็บ เป็นกรณีที่ช่างที่คุณอยากได้ คิวแน่นเต็มเอี๊ยดมากจริงๆ อย่าเสียใจนานรีบโทรหาช่างในใจลำดับที่ 2 3 4 ต่อไป สู้เขาค่ะ

ถ้าคุณเจ้าสาวทำการบ้านได้ครบ เซย์เยสไดหมดทุกเงื่อนไข ก็อย่ารอช้ารีบโทรจองคิวกันด่วนๆ อย่าชะล่าใจ เพราะในขณะที่เราคิดว่าเราเร็วแล้ว ก็ยังมีเจ้าสาวคนอื่นที่อยากได้และเร็วกว่าเราเหมือนกันนะคะ ยิ่งโทรจองไว้เนิ่นๆ นานเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้คิวมาก็มากเท่านั้น ได้ปุ๊บแจ้งรายละเอียดวันเวลาและสถานที่ให้เรียบร้อย รับรองได้ชัวร์!!

>> ดูไอเดียความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ : www.southernliving.com

สารพัดเรื่องที่บุพการีและญาติผู้ใหญ่ควรรู้เมื่อลูกหลานจะแต่งงาน

account_circle

เคยได้ยินคำบ่นมากมายจากบ่าวสาวที่ผ่านประตูวิวาห์มาแล้วว่าช่วง แต่งงาน เนี่ย ทำให้รู้อิทธิฤทธิ์บุพการีมากกว่าที่เคยรู้ เพราะบางบ้านก็จุกจิกใส่ใจเกินเหตุ บางบ้านปล่อยเบลอมาตลอดแต่มาวุ่นวายเอาตอนวันใกล้งาน แบบนี้ ความเครียดที่บ่าวสาวมีในช่วงนั้นยิ่งทวีคูณสิคะ

แต่แหม…ทำไงได้ละ ก็การ แต่งงาน เป็นเรื่องของสองครอบครัวนี่นา จะให้ผู้หลักผู้ใหญ่วางเฉยไปก็กระไรอยู่ แพรวเวดดิ้งจึงสรุปมาให้ว่า มีเรื่องไหนบ้างที่บ่าวสาวเคยเจอและบ่นกันมากๆ และอยากให้บุพการีและญาติผู้ใหญ่รู้ถึงความในใจ เมื่อถึงเวลาช่วยลูกหลานจัดงาน จะได้เจอกันตรงกลางแบบไม่มีขัดแย้งไงละคะ

1. อย่ารีบเชิญแขกโดยไม่ปรึกษาบ่าวสาว

เรื่องนี้บ่อนกันมาอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ทราบข่าวดีของลูกๆ แล้ว ขอนะคะว่าอย่าตื่นเต้น รีบโทรศัพท์ไปเชื้อเชิญทุกคนที่คุณรู้จัก รอให้ได้ฤกษ์วันดีที่แน่นอนซะก่อน แล้วค่อยมาคิดและปรึกษากันว่าจะจัดงานใหญ่แค่ไหน เชิญแขกกี่คน และเชิญใครบ้าง

2. จะช่วยออกค่าจัดงานก็ต้องชัดเจนกันนิดนึง

เรื่องเงินก็ต้องคุยค่ะ เพราะถ้าเกิดคุณพ่อคุณแม่ใจดีอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ตรงนี้ก็อย่าขัดใจ แต่สิ่งที่อยากให้โฟกัสก็คือท่านจะออกเงินให้ในส่วนไหนและเท่าไหร่บ้าง รบกวนคุณพ่อคุณแม่ชี้แจงความใจดีนี้ให้ละเอียดค่ะ บ่าวสาวเขาจะได้จัดสรรปันส่วนงบประมาณได้ลงตัว

3. อย่าพูดเปรียบเทียบ

ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไปเห็นงานแต่งของลูกเพื่อน หรือได้รับเชิญไปงานแต่งของใครก่อนหน้านี้ก็ตาม อย่าได้นำมันมาพูดเปรียบเทียบว่า ทำแบบนั้นสิดีกว่า ทำแบบนี้สิดีกว่า งานนู้นสวยอย่างนั้น งานนั้นสวยอย่างนี้ ให้ถือคติว่า งานแต่งใครงานแต่งมัน บ่าวสาวเขาชอบแบบนี้ก็ควรจะสนับสนุนการตัดสินใจของลูกๆ ให้เต็มที่เนอะ

 4. ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาความสงบ

ถ้าแขกที่คุณพ่อคุณแม่เชิญมาเกิดมีเซอร์ไพร้ส์แบบที่ว่าคนนั้นไม่ถูกกับคนนี้ คุณป้าคนนั้นไม่ชอบคุณน้าคนนี้ ก็คงต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นผู้ใหญ่ช่วยดูแลความสงบนิดนึงนะคะ อย่าให้พวกท่านมีปากเสียงกันกลางงาน ไม่อย่างนั้นงานคงกร่อย และไม่สนุกแน่ๆ

5. เป็นกำลังใจให้ลูกๆ เสมอ

เชื่อเถอะค่ะว่าระหว่างเตรียมงานแต่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องเครียดกันแน่นอน ในฐานะของคนเป็นพ่อแม่และรักลูกไม่แพ้ใครๆ เราอยากแนะนำว่า ลองอ้าแขนกอดคุณลูกแน่นๆ และให้กำลังใจเขาทั้งคู่นะคะ เขาจะได้มีแรงเตรียมวันสำคัญในชีวิตให้ดีและสวยงามตามที่เขาต้องการ

6. แม่เจ้าบ่าว แม่เจ้าสาว ต้องเป็นทีมเดียวกัน!

งานนี้ทั้งสองแม่จะมาเปิดศึกใส่กันเองไม่ได้นะคะ ต้องเป็นทีมเดียวกันค่ะ ทำความสนิทกันเข้าไว้ บ่าวสาวเขาจะได้มีกำลังใจและมีความสุขในวันแต่งงานของเขาเนอะ แพรวเวดดิ้งเคยเห็นคุณแม่เจ้าบ่าวและคุณแม่เจ้าสาวช่วยกันเลือกชุด เลือกดอกไม้ คุยกันถูกปากถูกคอ งานนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวยิ้มหน้าบานเลยจ้า

7. “ถ้าเป็นงานแต่งแม่/พ่อ แม่/พ่อจะ…”

เอิ่ม… เจอประโยคนี้บางทีบ่าวสาวก็ไปไม่ถูกนะคะ เอาเป็นว่าให้อิสระในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เขาต้องการละกันเนอะ (แต่ถ้าพ่อแม่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่อันนี้บ่าวสาวต้องคิดหนักหน่อย) เพราะนี้ก็เป็นวันสำคัญของชีวิตลูก ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกก็อยากจะได้งานที่ตัวเองชอบและสะท้อนสไตล์ของบ่าวสาว เพราะฉะนั้นให้ถือคติที่ว่า “ลูกว่าดีแม่ก็ว่าดีค่ะ!”

Cr. Pinterest

8. อย่าจู้จี้จุกจิก

เราเชื่อว่า ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคนคงเตรียมพร้อมและเตรียมการสำหรับงานแต่งมาเป็นอย่างดีแล้วค่ะ ฉะนั้นขอให้คุณพ่อคุณแม่วางใจหายห่วง ไม่จำเป็นต้องจู้จี้จุกจิก คอยเตือนเรื่องนั้นเรื่องนี้กับบ่าวสาวเช้าค่ำนะคะ เดี๋ยวพวกเขาจะอึดอัด พาลให้รู้สึกหงุดหงิดเอาได้ ถ้าเป็นห่วงจริงๆ ลองเตือนกันเป็นรายอาทิตย์ หรือถามความคืบหน้าของการเตรียมงานจะดีกว่าค่ะ

9. ผู้ปราบ Bridezilla และ Groomzilla

ลูกเรา เราเลี้ยงมา เราก็ต้องรู้จักเขาดีที่สุดใช่ไหมละคะ เพราะฉะนั้นแพรวเวดดิ้งอยากบอกว่า เมื่อไหร่ที่ว่าที่บ่าวสาวเริ่มจะออกอาการเหวี่ยงวีน ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ได้ดั่งใจ และกำลังจะแปลงร่างเป็น Bridezilla หรือ Groomzilla จนเพื่อนฝูงไม่สามารถทัดทานได้ รบกวนคุณพ่อคุณแม่ช่วยเอาน้ำเย็นเข้าลูบให้เขาใจเย็นลงทีนะคะ สถานการณ์จะได้กลับมาปกติ

10. ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางนะคะ

เราเชื่อว่า 90% ของคุณพ่อคุณแม่บ่าวสาวคงไม่ได้ชอบทุกสิ่งอย่างที่มีในงานแต่งหรอกคะ บางท่านก็ไม่ชอบดอกไม้ บางท่านก็ไม่ชอบธีมสี บางท่านก็บอกว่าตรงนั้นไม่สวย หรือทำไมชุดเจ้าสาวดูโป๊จัง แต่ค่ะแต่! เพื่อความสุข ความสบายใจ และเพื่อรอยยิ้มในวันสำคัญของลูกเรา ถ้าอะไรมันเล็กๆ น้อยๆ ปล่อยวางได้ก็ควรทำ ที่สำคัญอย่าเก็บเอาไปบ่นให้คนอื่นฟัง ลูกๆ รู้เข้าจะเสียใจนะ

11. เตือนสติลูกเสมอ

หลายๆ ครั้งที่บ่าวสาวกระทบกระทั่งกันเองระหว่างเตรียมงาน คนที่เขาเลือกจะเล่าปัญหาให้ฟังก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อคุณแม่แน่นอน หากว่าปัญหามันรุนแรงเราอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยเตือนเขาสักนิดว่า เขาทั้งคู่แต่งกันเพราะอะไร และอย่าให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายความตั้งใจและความรักของเขาสองคนเด็ดขาด

Cr. http://thebigfatjewishwedding.com

12. มีความสุขกับวันพิเศษ

แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ต่างก็เคยผ่านวันสำคัญอย่างนี้มาแล้ว แต่เชื่อเถอะค่ะว่าความรู้สึกมันไม่เหมือนกันแน่นอน แพรว Wedding อยากให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับทุกวินาทีในวันสำคัญของลูก จดจำทุกโมเม้นต์ภายในงาน เพราะนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะเก็บเป็นความทรงจำตลอดไป

13. อย่าเอาแต่จ้องจับผิดคนทำงาน

คนทำงานในที่หมายถึงทีมงานทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ นักดนตรี คนจัดดอกไม้ หรือช่างภาพ ควรปล่อยให้เขาทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยไปดูว่าเขาจะทำอะไร ถูกใจไหม ดีหรือเปล่า จะเปิดเพลงอะไร จัดดอกไม้เป็นยังไงบ้าง เชื่อเรานะคะว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างจะต้องออกมาดี ถ้ายังเป็นห่วงแนะนำว่าว่าคอยดูห่างๆ ก็ได้ แต่ถ้าเขาขอความช่วยเหลือก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ

14. เตรียมบทพูดซึ้งๆ ให้กับลูก

เชื่อค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่คงมีหลายสิ่งหลายอย่างอยากจะบอกบ่าวสาวแน่นอน เพื่อเป็นการกันลืมก็ต้อง “จด” ค่ะ อยากพูดอะไร อยากบอกสิ่งไหน จะฝากฝังลูกสาวกับว่าที่ลูกเขยอย่างไรก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนโลด แล้วก็คิดไว้ด้วยว่าจะพูดตอนไหน บนเวที หรือในห้องส่งตัวแบบบรรยากาศครอบครัว รับรองว่านี่ต้องเป็นอีกช่วงเวลาที่ซึ้งกินใจแน่ๆ เลย ที่สำคัญไม่ควรจะยาวเกินไป เพราะนอกจากบ่าวสาวจะจำไม่หมดแล้ว คนอื่นๆ ในพิธีอาจจะไม่อินไปกับเราก็ได้

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่ได้ยากเกินฝีมือคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมคะ ลองนำไปทำตามดูเผื่อว่างานแต่งครั้งนี้จะได้มีความสุขกันทั้งพ่อ แม่ ลูกเนอะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

คิดจะแต่งงานกันทั้งที 5 เรื่องต่อไปนี้ต้องคุยกันให้ดีก่อนแต่งงาน

เช็กเลย 10 พฤติกรรมที่ทำให้เดทแรกของหนุ่มๆ สาวๆ แป้กไม่เป็นท่า

https://praewwedding.com/love-and-relationships/29506

ภาพเปิด : www.easyweddings.com.au

9 เทคนิคใช้ได้จริงกับการจัดงานแต่งงานแบบประหยัดราคาไม่เกินงบ

account_circle

เทคนิค จัดงานแต่งงานแบบประหยัด มีเพียบ แต่จะจัดยังไงให้ไม่เกินงบ Ladawan the Wedding Planner มีคำตอบมาฝากค่ะ

1. เช็กของตกแต่งที่ทางโรงแรมให้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นปรับให้เข้ากับความต้องการ เช่น หากโรงแรมให้ดอกไม้มา 5 จุด อาจใช้จริงตามแพ็คเกจเพียง 2 จุด ดอกไม้ที่เหลือนำไปตกแต่งส่วนอื่นตามธีมที่วางไว้

2. ตกแต่งเฉพาะจุดใหญ่ๆ ให้โดดเด่นสะดุดตา เช่น ฉากถ่ายภาพ แกลเลอรี่ เวทีเค้ก ดีกว่าตกแต่งทั่วทุกจุด เพราะสุดท้ายแล้วจุดเล็กๆ ก็จะกลืนไปกับฝูงชนที่มาร่วมยินดี

3. ไม่ใช้ดอกไม้สด 100% แต่นำวัสดุอื่นมาผสมให้กลมกลืน เช่น ดอกไม้ผ้าหรือดอกไม้กระดาษ

4. เช่าพร็อปส์สำเร็จมาตั้ง

>> รวม 8 ร้านเช่าเต็นท์ที่บ่าวสาวจัดงานกลางแจ้งควรดูไว้

>> รวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง งานดี ดีไซน์เก๋ และราคาประหยัด

>> 5 ร้านเช่าเก้าอี้สำหรับงานแต่งงาน

5. ไม่จำเป็นต้องพริ้นต์ภาพถ่ายขนาดใหญ่เว่อร์ แค่ขนาด 20 × 24 นิ้วก็เพียงพอ หลังจากตั้งโชว์ในงานแล้วยังนำไปตกแต่งต่อที่บ้านได้ด้วย

6. ดอกไม้ตามฤดูกาลไม่ได้ประหยัดเสมอไป เพราะในช่วงที่คนนิยมแต่งงาน ไม่ว่าดอกไม้ชนิดใดก็แพงทั้งนั้น ถ้าไม่จำเป็นแนะนำให้เลี่ยงสีขาว ชมพู ฟ้า เพราะตัวเลือกน้อยทำให้ราคาแพงทุกฤดูกาล

7. ใช้ใบไม้ปูพื้นแทนการปักดอกไม้สดแน่น ๆ ทั้งผืน เช่น ใบยูคาลิปตัส ใบสน ใบปรง ใบเฟิร์น ใบพุด เป็นต้น

8. ในกรณีที่เช่าห้องเปล่าๆ จัดงาน ให้หามุมสวย ๆ ไว้เป็นมุมโชว์ ถ้าไม่มีแนะนำให้ใช้การจับผ้ามาสร้างจุดเด่นให้มุมที่ต้องการแล้วตกแต่งดอกไม้เพิ่มอีกนิดหน่อย

9. ดอกไม้ไทยประหยัดกว่าดอกไม้นอกครึ่งหนึ่ง แม้ดอกจะเล็กกว่า แต่หากใช้เป็นก็สวยได้

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : unsplash.com

keyboard_arrow_up