รองเท้า ASICS x BAPE ปรับลุคชวนนึกถึงยุค 2000s

สนีกเกอร์ไลฟ์สไตล์! รองเท้า ASICS x BAPE ปรับลุคชวนนึกถึงยุค 2000s

รองเท้า ASICS x BAPE ปรับลุคชวนนึกถึงยุค 2000s
รองเท้า ASICS x BAPE ปรับลุคชวนนึกถึงยุค 2000s

รองเท้า ASICS (เอสิคซ์) ร่วมมือกับแบรนด์สตรีทแฟชั่นชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น “BAPE” เผยโฉมสนีกเกอร์ SportStyle ในโมเดล GEL-1090™ นับว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่างดีไซน์ของรองเท้าวิ่ง ASICS ในช่วงยุค 2000s อันแสนคลาสสิก เข้ากับแพทเทิร์นกราฟิกสุดไอคอนิกตามแบบฉบับของ BAPE® ให้กลายมาเป็นสนีกเกอร์ไลฟ์สไตล์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

โมเดล GEL-1090™ ที่เคยเป็นรองเท้าวิ่งมาก่อน วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2003 กลับมาในครั้งนี้ได้มีการนำเทคโนโลยี GEL™ ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกมาใช้ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และได้กลายมาเป็นสนีกเกอร์ SportStyle สุดคูลที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน และการร่วมมือกับ BAPE® ในครั้งนี้ได้ปรับลุคและดีไซน์ของคู่นี้ที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายบรรยายกาศของย่านฮาระจูกุ (Harajuku) ในช่วงต้นของยุค 2000s อีกด้วย

สนีกเกอร์ไลฟ์สไตล์! รองเท้า ASICS x BAPE ปรับลุคชวนนึกถึงยุค 2000s

นอกจากนี้ ยังมีลวดลายกรงเล็บเสือที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรองเท้า ที่นับว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจและเอกลักษณ์ของ GEL-1090™ และสำหรับอัปเปอร์และพื้นรองเท้าด้านในยังมาพร้อมกับลวดลาย คาโม่แพทเทิร์นสุดเท่ตามแบบฉบับของ A BATHING APE®

ในส่วนบริเวณด้านข้างของสนีกเกอร์นั้นเป็นลวดลายไอคอนฉลามสีส้มสุดจี๊ดของ BAPE ที่ทำให้สนีกเกอร์คู่นี้ยิ่งดูโดดเด่น และโลโก้ ASICS ที่อยู่บนลิ้นรองเท้าและส้นรองเท้าได้ถูกปรับให้เป็นภาพการ์ตูนเสือเพื่อสะท้อนถึงหนึ่งในโลโก้ระดับตำนานของ BAPE®

ASICS x BAPE® GEL-1090™ จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 สิงหาคม นี้ ในราคา 4,900 บาท ทางออนไลน์ที่ ASICS.com และ BAPE Thailand


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รองเท้าแก้วเวอร์ชั่นใหม่ Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella สวยวิบวับ

ไอเท็มโปรดคนดัง! รองเท้า Keds รุ่นฮ็อต อยู่คู่กับหนัง-ซีรีส์ มาหลายสิบปี

ต้องเปย์สักคู่ ASICS SPORTSTYLE ฉลอง 35 ปี ให้กับ GT-II™ รองเท้าสุดคลาสสิก

 

วิถีชีวิตเรียบง่ายของ ราชวงศ์นอร์เวย์ เรียนโรงเรียนรัฐบาล ขึ้นรถสาธารณะ

account_circle

วิถีชีวิตเรียบง่ายของ ราชวงศ์นอร์เวย์ การปรับตัวให้เข้ากับทันสมัย เรียนโรงเรียนรัฐบาล ขึ้นรถสาธารณะ ใกล้ชิดประชาชน

หนึ่งในราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคงต้องยกให้กับ ราชวงศ์อังกฤษ ภาพของสมาชิกราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ความหรูหรา อู้ฟู้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงติดอันดับกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดโนโลก เป็นเครื่องยืนยันถึงความมั่งคั่งของราชวงศ์อังกฤษได้อย่างแท้ทรู หรือแม้กระทั่ง สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน ก็ทรงร่ำรวยไม่น้อยกว่าควีนเอลิซาเบธที่ 2 เช่นกัน

ในขณะที่หลายคนอาจมองภาพของเจ้าหญิง เจ้าชาย ที่ได้รับสิทธิพิเศษในแง่ต่างๆ แต่สำหรับ สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งราชวงศ์นอร์เวย์ นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะกษัตริย์ที่ร่ำรวยน้อยที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก

ทั้งนี้เว็บไซต์ Yahoo รายงานว่า ทรัพย์สินของราชวงศ์นอร์เวย์ รวมมูลค่าสุทธิอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ มีงบสถาบันกษัตริย์ ซึ่งในที่นี้รวมถึง การรักษาความปลอดภัย และ ค่าใช้จ่ายในราชสำนัก เป็นจำนวนเงิน  72.3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณฯ 2.3 พันล้านบาท ในขณะที่สหราชอาณาจักรใช้งบประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ, โมนาโก (1 พันล้านเหรียญสหรัฐฉ และ ซาอุดีอาระเบีย (1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ปัจจุบัน สมาชิกราชวงศ์นอร์เวย์ ประกอบด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์,  สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์, เจ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และ พระชายา เจ้าหญิงเม็ตเตอ-มาริต มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ พร้อมด้วย พระโอรส และ พระธิดา เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซันดราแห่งนอร์เวย์, เจ้าชายสแวร์เรอ มักนุสแห่งนอร์เวย์ ปิดท้ายด้วย เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอแห่งนอร์เวย์ พระธิดาองค์เล็กใน สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 

แม้ราชวงศ์นอร์เวย์จะมีงบสถาบันกษัตริย์ ที่น้อยกว่าราชวงศ์อื่นๆ แต่ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่ปัญหา เพราะสมาชิกทุกๆ พระองค์สามารถใช้ชีวิตปกติได้เหมือนสามัญชนทั่วไป

วิถีชีวิตเรียบง่ายของ ราชวงศ์นอร์เวย์ เรียนโรงเรียนรัฐบาล ขึ้นรถสาธารณะ

สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ผู้ชื่นชอบการเล่นกีฬา

กษัตริย์หลายพระองค์ทรงโปรดการเล่นกีฬา เช่นเดียวกับ สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ที่ทรงชื่นชอบกีฬาทางน้ำเป็นอย่างมาก ทั้งนี้พระองค์ทรงเคยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเรือใบ ในกีฬาโอลิมปิกตลอดช่วงปี 1960 และ 1970 อีกทั้งทรงเคยได้รับรางวัลที่ 2 ในการแข่งขัน Sailing World Championships ในโตรอนโต เมื่อพระชนมายุ 79 ปี อีกด้วย ปัจจุบัน สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ในวัย 84 พรรษา ยังคงทรงเล่นกีฬาเรือใบเป็นงานอดิเรกอยู่

พระตำหนัก 9 แห่ง

หนึ่งในทรัพย์สินส่วนพระองค์ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ คือ เหล่าอสังหาริมทรัพย์ 9 แห่งไม่ว่าจะเป็นพระราชวังในกรุงออสโล,  Prinsehytta กระท่อมสกีสุดหรู  ใน Jotunheimen, บ้านไร่ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Bygdøy และบ้านพักตากอากาศส่วนตัวชื่อที่ชื่อว่า Mågerø

พระตำหนักหรูหรา เมื่อเทียบกับสามัญชนอาจดูมั่งคั่ง แต่หากเทียบกับราชวงศ์อื่นๆ อย่างราชวงศ์อังกฤษที่มี พระตำหนัก รวมแล้วกว่า 26 แห่ง ราชวงศ์สวีเดนก็ดูธรรมดาไปโดยปริยาย

สมาชิกราชวงศ์เรียนโรงเรียนรัฐบาล

อาจเป็นเพราะ โรงเรียนเอกชน ไม่ได้มีแพร่หลายในประเทศนอร์เวย์ เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซันดรา และ เจ้าชายสแวร์เรอ มักนุสแห่งนอร์เวย์ จึงเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลทั่วไปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เช่นเดียวกับ เสด็จปู่ สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 และ เสด็จพ่อ เจ้าชายโฮกุน ก็เคยทรงศึกษาที่  Oslo Cathedral School หนึ่งในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์

ใกล้ชิดประชาชน ชอบเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

แม้บางราชวงศ์จะกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ต้องมีผู้ติดตาม และคุ้มกันเป็นพิเศษ แต่สำหรับสมาชิกราชวงศ์นอร์เวย์ มักถูกพบเห็นบ่อยครั้งในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือแม้แต่ขึ้นเครื่องบินภายในประเทศ เช่นเดียวกับสามัญชนทั่วไป นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากคุณจะนั่งข้างเจ้าชายในเที่ยวบินหรือรถไฟในนอร์เวย์

รวบงานเฉลิมฉลอง

คงไม่มีราชวงศ์ไหนที่จะประหยัดไปเกินกว่านี้แล้ว!! วันสำคัญส่วนใหญ่ของราชวงศ์ต่างๆ ในโลกมักถูกกำหนดให้เป็นวันพิเศษ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมถึงให้มีการจัดงานงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่วันเฉลิมพระชนมพรรษาของ กษัตริย์ฮารัลด์ และ ราชินีซอนยา ซึ่งทั้งสองพระองค์ประสูติในปี 2480 ได้ถูกจัดงานเฉลิมฉลองร่วมกับวันสำคัญๆ ต่างของราชวงศ์ เช่น วันคล้ายวันพระราชสมภพ 80 พรรษา และ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์


เรียบเรียงจาก : www.scmp.com

ภาพ : @detnorskekongehus/Instagram

แพทย์ผิวหนังไขข้อข้องใจเรื่อง กลิ่นตัว

แพทย์ผิวหนังไขข้อข้องใจเรื่อง “กลิ่นตัว” พร้อมแนะวิธีป้องกัน และแนวทางรักษา

Alternative Textaccount_circle
แพทย์ผิวหนังไขข้อข้องใจเรื่อง กลิ่นตัว
แพทย์ผิวหนังไขข้อข้องใจเรื่อง กลิ่นตัว

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของ กลิ่นตัว ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลต่อกระทบคุณภาพชีวิต ชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม รวมถึงสุขภาพจิตของผู้ที่มีปัญหานี้ พร้อมแนะวิธีการป้องกัน และแนวทางการรักษากลิ่นตัว

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กลิ่นตัวเป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย พบบ่อยในช่วงท้ายของวัยรุ่นจนถึงช่วงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ สาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นตัว ได้แก่

สาเหตุหลักของการเกิด กลิ่นตัว ได้แก่

1. แบคทีเรียประจำถิ่นบริเวณรักแร้ ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและความชื้นของอากาศ

2. การสร้างเหงื่อจากต่อมเหงื่อชนิดอะโพครายน์ (Apocrine sweat glands) ในผู้ที่มีกลิ่นตัวอาจมีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังชนิดนี้ขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก ต่อมเหงื่อนี้ยังถูกกระตุ้นได้ด้วยฮอร์โมนเพศชาย Androgen

เมื่อเหงื่อรวมกับแบคทีเรียประจำถิ่น จึงทำให้เกิดกลิ่นตัว การมีกลิ่นตัวมากหรือน้อยขึ้นกับทั้งสองปัจจัยข้างต้นของแต่ละบุคคล และมีปัจจัยกระตุ้น เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน การรับประทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีเครื่องเทศ หอม กระเทียม การรับประทานยาบางชนิด หรือความเครียด เป็นต้น

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การป้องกันการเกิดกลิ่นตัว ทำได้โดย

1. รักษาสุขอนามัยให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ

2. ลดเหงื่อ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ซึ่งมีขายทั่วไปในท้องตลาด มีทั้งชนิดที่มีน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่น และชนิดที่ไม่มีน้ำหอม

3. กำจัดหรือโกนขนบริเวณรักแร้

4. การใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย จะช่วยลดแบคทีเรียประจำถิ่นได้ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

หากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วยังไม่ได้ผล หรือมีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง ซึ่งจะสามารถประเมินความรุนแรง ประเมินโรคร่วมอื่น เช่น การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หาสาเหตุของการแพ้สารเคมีหรือน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละราย การรักษากลิ่นตัวโดยทั่วไป เริ่มต้นจาก การใช้ยาทากลุ่ม Aluminium chloride หากไม่ได้ผล จึงจะพิจารณาการรักษาในลำดับถัดไป เช่น การฉีด Botulinum toxin, การทำ Tap water iontophoresis ไปจนถึงการผ่าตัด


ข้อมูล : กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กระเป๋า Chanel 11.12

ไอคอนตัวจริง! เปิดที่มา กระเป๋า Chanel 11.12 ผลงานชิ้นเอกที่ควรมีสักใบ

กระเป๋า Chanel 11.12
กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12 ที่เมื่อพบเห็นก็จะสามารถจดจำได้ในทันทีนี้คือไอคอนที่แท้จริง โดยเป็นผลงานรังสรรค์ที่รวมประวัติความเป็นมาของแบรนด์ชาเนล (CHANEL) และวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าของกาเบรียล ชาเนล (Gabrielle Chanel) ไว้ในใบเดียว

กระเป๋ารุ่นนี้เองคือดาวเด่นในแคมเปญใหม่ที่ชื่อว่า The CHANEL Iconic ซึ่งถ่ายทำโดยอิเนซ วาน ลอมสเวยด์ (Inez van Lamsweerde) และวินู้ด มาตาแด็ง (Vinoodh Matadin) ที่บริเวณแซงต์-แฌร์แมง-เดส์-เพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) ในกรุงปารีส

กระเป๋าที่เป็นไอคอนของแบรนด์นี้โดดเด่นภายใต้แสงไฟจากสปอตไลท์เมื่อนำมาคล้องแขนของแอนนา มูกลาลิส (Anna Mouglalis) , ริอานน์ วาน รอมปาย (Rianne van Rompaey) , เออมานน์ เฮอมาม (Imaan Hammam) , หลุยส์ เดอ เซอวิกนี่ (Louise de Chevigny) และโซเอ้ อาดจานี (Zoé Adjani)

กระเป๋า Chanel 11.12 กระเป๋า Chanel 11.12 กระเป๋า Chanel 11.12

ไอคอนตัวจริง! เปิดที่มา กระเป๋า Chanel 11.12 ผลงานชิ้นเอกที่ควรมีสักใบ

กระเป๋า 11.12 เป็นการนำกระเป๋า 2.55 ซึ่งกาเบรียล ชาเนลออกแบบไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1955 มาตีความหมายใหม่ และได้กลายเป็นไอคอนของแบรนด์ภายใต้การสนับสนุนของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 กระเป๋า 11.12 แตกต่างจากกระเป๋าต้นแบบด้วยการเพิ่มตัวล็อคประดับตัวอักษร C ไขว้และสายโซ่โลหะที่ร้อยด้วยเส้นหนัง

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

ทุกรายละเอียดเปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูด ซึ่งสะท้อนคุณสมบัติที่สืบทอดต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอย่างชาญฉลาด และความงามประณีตทั้งภายในและภายนอก กระเป๋า 11.12 ยังคงรักษารายละเอียดทั้งหมดของกระเป๋า 2.55 ที่นักออกแบบแฟชั่นผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้สร้างสรรค์ไว้ ด้วยแนวคิดกระเป๋าซ้อนกระเป๋าจึงได้ผสานเทคนิคกลับด้านและเย็บ (Piqué Retourné) และเย็บเข้าด้วยกันด้วยตะเข็บห่วง (Points de Bride)

ซึ่งทำให้นึกถึงรายละเอียดในการตัดเย็บเสื้อผ้า เช่นเดียวกับช่องกระเป๋าใส่ของทั้ง 7 ช่อง ลายควิลท์ที่เย็บบนตัวกระเป๋าใช้ฝีเข็มตามแพทเทิร์น “ลายเพชร” โดยใช้เทคนิคการเนาแบบช่างเสื้อ (Point Droit de Couturière) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโลกของการขี่ม้าอันเป็นกีฬาที่กาเบรียล ชาเนลชื่นชอบ ในขณะที่สายโซ่โลหะที่ปรับได้จะมอบความสะดวกในการเคลื่อนไหวให้แก่ร่างกาย เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่ดีไซเนอร์ผู้เป็นตำนานผู้นี้ได้ออกแบบไว้

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋าที่ออกแบบโดยผู้หญิง หรือกระเป๋าของช่างเสื้อ แตกต่างจากกระเป๋าที่ทำโดยช่างทำเครื่องหนังในยุคนั้น ซึ่งเป็นความแตกต่างข้อแรกของ 11.12  รายละเอียดอื่นๆ ทำให้แอคเซสซอรี่ชิ้นนี้มีเอกลักษณ์ที่ท้าทายกาลเวลาและเทรนด์ความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง กระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงทุกคนนี้มีทั้งความเป็นสากลและความใกล้ชิดผูกพันกับผู้ใช้ในเวลาเดียวกัน จึงสามารถส่งต่อให้เป็นมรดกส่วนตัวที่เปี่ยมด้วยคุณค่าได้เป็นอย่างดี

สำหรับการออกแบบให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงเน้นความอ่อนนุ่มและความประณีตพิถีพิถันขั้นสูงด้วยการใช้หนังแกะเนื้อนิ่ม ซึ่งเดิมสงวนไว้สำหรับการทำถุงมือเท่านั้น รวมทั้งใช้หนังลูกวัวลายเกรนที่เรียกว่า “หนังคาเวียร์” และวัสดุอื่นๆ จากคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าชาเนล ทั้งผ้าเจอร์ซี่ย์ ผ้าทวีด ผ้าไหม ผ้ากำมะหยี่ และผ้าเดนิม คงความเป็นอมตะและบริสุทธิ์ไม่เปลี่ยนแปลง กระเป๋ารุ่นนี้เหมาะสำหรับพกพา เคียงข้างวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของผู้หญิง โดยยังคงความทันสมัยไว้ไม่เสื่อมคลาย

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

“กระเป๋า 11.12 ของชาเนลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณตลอดกาล มีความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงในด้านการแบ่งสัดส่วน ความเรียบง่าย และโดยเฉพาะความหรูหราไร้กาลเวลา ผู้หญิงทั้งห้าคนในแคมเปญนี้เป็นไอคอนในแบบของตัวเอง พวกเธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงรุ่นต่างๆ ที่ตัวชาเนลเองก็เคยผ่านมาก่อน” อิเนซ วาน ลอมสเวยด์ และวินู้ด มาตาแด็งกล่าว

กระเป๋า 11.12 ของชาเนลเป็นมากกว่าความคลาสสิก เพราะเป็นเพื่อนเคียงข้างวิถีชีวิตประจำวันของผู้หญิงอย่างแท้จริง เป็นศูนย์รวมความฝัน อารมณ์ ประวัติศาสตร์ และความหรูหราที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีต จึงยังคงเป็นไอคอนของความงามสง่าเหนือกาลเวลา ซึ่งจะเป็นตัวแทนเสน่ห์ความน่าหลงใหลในแบบฉบับชาเนลตราบนิรันดร์

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12

กระเป๋า Chanel 11.12


ภาพ : Chanel

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดอกไม้มาทั้งสวน! กระเป๋า Gucci x Ken Scott ของ ‘ดาวิกา-อารยา’ สวยละลานตามาก

ใบจิ๋วแต่ราคาไม่จิ๋ว! กระเป๋าใส่มือถือ Bijou Baguette จาก FENDI

เผยดีเทลใหม่ กระเป๋า Givenchy Antigona รุ่นคลาสสิก คนดังเป็นเจ้าของกันเพียบ!

 

รองเท้า adidas Superstar

เพราะอะไร รองเท้า adidas Superstar ถึงครองใจแฟนๆ มาตลอด 50 ปี

รองเท้า adidas Superstar
รองเท้า adidas Superstar

เป็นระยะเวลา 50 ปีแล้วที่ รองเท้า adidas Superstar ยืนหยัดเคียงข้างผู้มีอิทธิพลทางด้านวัฒนธรรมแถวหน้าของโลกมากมาย เป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นชั้นนำ

รองเท้าอาดิดาส

สร้างมาตรฐานใหม่ให้รองเท้ากีฬาที่เคยโดดเด่นอยู่แค่ในสนามแข่งได้มาโลดแดล่นในโลกแฟชั่นได้อย่างงดงาม และกลายเป็นไอเท็มชิ้นโปรดของทั้งศิลปิน ดีไซเนอร์ นักดนตรี และนักกีฬา ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำและสะท้อนตัวตนของบุคคลผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้เสมอ

adidas Superstar

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งแรกเริ่ม adidas Superstar นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อยกระดับกีฬาบาสเก็ตบอลโดยเฉพาะ โดยทีมออกแบบของอาดิดาสประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศสได้พยายามหาทางในการนำยางมาประกอบที่หัวรองเท้าเพื่อปกป้องปลายเท้าของนักกีฬาที่สวมใส่ เชื่อมกับโครงรองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์แบบที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน และเมื่ออาดิดาสประเทศฝรั่งเศสนำรองเท้าที่มีหัวเป็นยางหน้าตาคล้ายเปลือกหอยนี้ออกสู่สาธารณะ มันก็ได้รับความนิยมถล่มทลายจนเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการรองเท้าเลยก็ว่าได้

adidas Superstar

adidas Superstar

กลายเป็นที่โด่งดังในวงการบาสเก็ตบอล NBA อย่างรวดเร็วผ่านสุดยอดผู้เล่นระดับตำนานอย่าง คารีม อับดุล-จาร์บาร์ และอีกมากมาย เพราะนอกจากจะมีดีไซน์ที่แปลกใหม่จนเป็นที่ฮือฮาแล้ว ยังเป็นรองเท้าที่ส่งเสริมศักยภาพของนักกีฬาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งซับแรงกระแทกได้มากขึ้น เพิ่มความหนึบในการยึดเกาะ และป้องกันอาการบาดเจ็บได้ดีกว่ารองเท้ารุ่นอื่นในสมัยนั้น โดยคริส เซอร์เวิร์น ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบ adidas Superstar

ความยิ่งใหญ่ของ adidas Superstar ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในโลกของบาสเก็ตบอลยุค 70s และ 80s เท่านั้น แต่ยังลุกลามมาถึงวงการสตรีทแฟชั่นผ่านวัฒนธรรมฮิปฮอปในมหานครนิวยอร์กด้วย และเมื่อศิลปินระดับแถวหน้าอย่าง Run DMC ใส่ adidas Superstar ขึ้นคอนเสิร์ตในสไตล์ที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร ด้วยการเอาเชือกรองเท้าออกและเอาลิ้นรองเท้ามาไว้ด้านนอก adidas Superstar ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณเสรีและความมีชีวิตชีวาของวัยรุ่น

adidas Superstar

รวมถึงยังเป็นเครื่องสะท้อนตัวตนของเหล่าคนเมืองและนักสเก็ตบอร์ดนับตั้งแต่นั้น และความนิยมแบบไร้พรมแดนวัฒนธรรมกั้นนั้นก็ทำให้ adidas Superstar เป็นรองเท้าที่ครองใจผู้คนทั่วโลก เป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง และเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน

ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นตัวตนของศิลปินระดับแถวหน้ามากมายที่ถ่ายทอดอยู่บนรองเท้า adidas Superstar ไม่ว่าจะเป็นลายพรางแบบ BAPE หรือสีสันจัดจ้านแบบครบสเปคตรัมของ Pharrell รวมถึง Undefeated, Bad Boy Records และคนอื่นๆ จนสามารถบอกได้ว่า รองเท้าอาดิดาส สุดคลาสสิกอายุ 50 ปีคู่นี้นี้คือผืนผ้าใบชั้นดีที่พร้อมจะรองรับทุกความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

adidas Superstar

จากจุดเริ่มต้นในสนามบาสเก็ตบอลยุค 70s adidas Superstar ได้สร้างมรดกตกทอดเอาไว้มากมาย ระหว่างการเดินทางร่วมกับบุคคลผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมทั่วโลก และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน adidas Superstar ก็จะถูกจดจำในฐานะ สนีกเกอร์ ระดับตำนานที่เป็นดั่งฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการขับเคลื่อนวงการสตรีทแฟชั่นเสมอ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น่ารักยกคอลเล็คชั่น! Marc Jacobs Resort 2020 ผลงานคอลแลปที่น่าตำ

เคยเป็นเด็กฝึกงานมาก่อน! ‘มิว-นิษฐา’ เจาะจงเลือกชุดเข้าพิธีหมั้นจาก Asava

ยอมรับเสียดายตังค์ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ชอบกระเป๋าผ้า มากกว่า กระเป๋าแบรนด์เนม

ใบแรกและใบเดียว! กระเป๋า Chanel ดัชเชสเคท ดียังไง ทำไมทรงใช้มาตลอด 3 ปี

รุ่นดังที่ควรมี! ส่องราคา กระเป๋า Celine ของไอดอลตัวแม่ ‘ยุนอา-เจสสิก้า’

ราคานี้เปย์ได้! ‘Skechers’ ปล่อย 2 คอลเล็คชั่นเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งเรียบง่ายและขี้เล่น

น่ารัก เรียบง่าย ‘มิว’ ควงคู่ ‘ไฮโซเซนต์’ ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ถ่ายพรีเวดดิ้ง

สวยผงาดดั่งนกอินทรี ‘แคทรีโอนา เกรย์’ ส่งต่อตำแหน่งบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2019

เดรสแดงสวยตรงปก! ชุดราตรี ฟ้าใส-ปวีณสุดา รอบ 5 คนสุดท้าย บนเวที MU 2019

สวยเฉียบ เรียบโก้! ส่องสไตล์ ฟ้าใส ปวีณสุดา รอบเก็บตัวที่อเมริกา

เปิดคลังแสง! กระเป๋าแบรนด์เนม ไคลีย์ เจนเนอร์ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

เพราะอะไร ‘ดัชเชสเคท’ สวมเดรสสีดำ แต่ไม่ผิดกฎราชวงศ์อังกฤษ

ลิสต์เอาไว้! กระเป๋า Louis Vuitton 6 เฉดสีหวาน สวยละมุน ชวนเสียตังค์

 

กันธิชา ฉิมศิริ

การาจรถสะสมสุดหรู กันธิชา ฉิมศิริ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย นี่แหละ! รักหมดใจ

กันธิชา ฉิมศิริ
กันธิชา ฉิมศิริ

เปิดการาจรถสะสมสุดหรู กันธิชา ฉิมศิริ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย นี่แหละ! รักหมดใจ

ยังคงจำกันได้ดี คุณยุ้ย-กันธิชา ฉิมศิริ ซินเดอเรลล่าเมืองไทย  สาวไทยพบรักมหาเศรษฐีเจ้าของ ชวาร์สคอฟ สานฝันในวัยเด็กด้วยการเป็นเจ้าของตำแหน่ง  มิสซิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถเก่งเกินตัวอีกเพียบ เพราะเธอเป็นทั้งนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังมีใจรักรถมาก..ก ถึงขั้นลงสนามแข่งขันรถซูเปอร์คาร์ระดับโลกในฐานะนักแข่งรถสปอร์ตหญิงไทยเลยทีเดียว

กันธิชา ฉิมศิริ
การาจรถสะสมสุดหรูของคุณยุ้ย

ความรักรถแบบทุ่มทั้งใจเช่นนี้ ก็ทำให้ของสะสมของ คุณยุ้ย-กันธิชา ไม่ได้เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป เพราะแทนที่จะสะสมรองเท้า กระเป๋า แต่เธอกลับเป็นนักสะสมรถยนต์ต่างๆ ทั้งรถซูเปอร์คาร์ และรถคลาสสิก ซึ่งคุณยุ้ยก็ยอมเปิดการาจรถสะสมสุดหรูที่เพิ่งสร้างหมาดๆ ที่เขาใหญ่มาให้แฟนๆ แพรวได้ชมเป็นครั้งแรกด้วย

กันธิชา ฉิมศิริ
รถอเมริกันคลาสสิก Chevrolet Camaro Gen 1 ปี 1973 อะไหล่ของแท้ทั้งคัน ปรับแต่งโดยช่างฮง ช่างทำรถอเมริกัน ฝีมือดีที่สุดของประเทศมาทำให้ รอคิวนานกว่า 3-4 ปี และเมื่อปี 2016 คุณยุ้ยส่งรถคันนี้เข้าประกวด ของสมาคมรถโบราณ และได้รางวัลที่ 2

สาวนักแข่งบอกเล่าถึงความชอบที่มีต่อรถสปอร์ตและรถคลาสสิกที่จอดเรียงรายอยู่เบื้องหน้าว่า

คุณยุ้ย: “เริ่มต้นจากความที่ชอบรถมาก…ก ยุ้ยขับรถตั้งแต่อายุ 20 ปี พอเริ่มทำงานมีรายได้มากขึ้น ก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งเพื่อนก็ชวนไปงานแสดงรถยนต์ต่างๆ เช่น มอเตอร์โชว์ พอเห็นบ่อยขึ้น ก็ยิ่งซึมซับจนกลายเป็นตกหลุมรัก อย่างพวกเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกาแบรนด์เนมที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมกัน ยุ้ยก็ชอบนะคะ แต่ใช้เงินไม่มากเท่ารถที่แต่ละคันใช้เงินจำนวนหลายหลักมาก (หัวเราะ) ถ้าให้เลือกซื้อระหว่างนาฬิกา 20 ล้านบาทกับรถยนต์ 20 ล้านบาท ยุ้ยเลือกซื้อรถค่ะ ผู้หญิงหลายคนอาจมีความสุขเมื่อได้ใส่เครื่องเพชร ถือกระเป๋าแบรนด์เนม แต่ยุ้ยมีความสุขเวลาขับรถ ยิ่งรถสปอร์ต ยิ่งขับสนุกมาก จริงๆ แค่นั่งดูรถของตัวเองก็รู้สึกแฮ็ปปี้แล้ว ดูไปก็นึกว่ากว่าที่จะได้แต่ละคันมาไม่ใช่ง่ายๆ บางคันต้องผ่อนเป็นปีๆ บางคันจ่ายสด บางคันได้มาเป็นซากต้องเอามาทำสี ขัดเงา เคลือบแว็กซ์”

กันธิชา ฉิมศิริ
Benz รุ่น SLC300 เปิดประทุน คุณยุ้ยใช้สำหรับซ้อมแข่งรถในประเทศไทย รอบคันติดสติ๊กเกอร์ 3 มิติ ถ้าวิ่งด้วยความเร็ว คนจะมองเห็นเป็นเส้นเคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วนเบาะคนขับ คุณยุ้ยเปลี่ยนเป็นเบาะนักแข่ง สั่งทำที่อเมริกา โดยวัดขนาดของเบาะให้พอดีกับตัว เวลาขับเข้าโค้งแล้วรถเหวี่ยง ตัวของผู้ขับจะไม่ขยับ เพราะเบาะล็อกบริเวณหัวไหล่ไว้แล้ว

กันธิชา ฉิมศิริ
ทะเบียนรถครบทั้ง 50 รัฐของอเมริกาที่คุณยุ้ยนำมาเรียงกัน คล้ายๆ เป็นวอลล์เปเปอร์ของผนังด้านหนึ่งในการาจ

ในการาจที่มีรถจอดเรียงรายกันหลายคัน แพรวย้อนถามถึงรถคันแรกในชีวิตของคุณยุ้ย

คุณยุ้ย: “จำได้ว่ารถคันแรกเป็นรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ เริ่มจากค่อยๆ ผ่อน ส่วนคันที่สองได้มาประมาณ ปี 2005 เป็นรถ Maserati ใช้วิธีทยอยจ่ายเหมือนกันค่ะ เงินที่นำมาผ่อนได้จากการเล่นหุ้น ซื้อกองทุน อสังหาริมทรัพย์ กับอีกส่วนหนึ่งที่ได้จากแฟน”

หลังจากครอบครองรถสองคันแล้ว ความชอบก็ส่งเธอไปยังการเป็นเจ้าของรถสปอร์ตในฝันของคนทั่วโลก

คุณยุ้ย: “คันที่สามเป็น Ferrari F430 สีแดง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ยุ้ยหลงรักรถสปอร์ต หลังจากผ่อนเฟอร์รารี่คันนี้หมด ยุ้ยก็มีแพลนซื้อรถคันใหม่ทันที รู้สึกว่าคันนี้สวย คันโน้นก็ดูดี สุดท้ายจึงซื้อเพิ่มมาอีกเรื่อยๆ อาศัยศึกษาด้วยตัวเอง คือไปดูตามงานแสดงรถ สืบข้อมูลว่าแต่ละแบรนด์มีรถรุ่นพิเศษอะไรบ้าง อย่าง Porsche คันที่ใช้อยู่ก็เป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น จากนั้นก็เริ่มสะสมรถคลาสสิกบ้าง เช่น Rolls-Royce และ MG หลังจากมีรถสปอร์ตแล้ว ยุ้ยเริ่มตามเพื่อนไปออก track day (การขับรถบนสนามแข่ง โดยได้รับการเทรนด์จากนักแข่งรถมืออาชีพ) ที่สนามแข่งรถพีระ เซอร์กิต พัทยา และที่สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี”

กันธิชา ฉิมศิริ
Porsche 911 รุ่นลิมิเต็ด เป็นหนึ่งในรถที่คุณยุ้ย ใช้ซิ่งในชีวิตประจำวัน

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอติดใจจนบินไปเรียนขับรถแข่งกับแบรนด์ระดับโลก

คุณยุ้ย: “ยุ้ยไปเรียนขับรถกับค่าย BMW, Porsche และ Ferrari โดยใช้รถของแบรนด์เขา เป็นบริการพิเศษสำหรับดูแลลูกค้า คือเราสามารถใช้เลขตัวถังรถคันที่ซื้อไปลงทะเบียนที่ต่างประเทศเพื่อเรียนการขับรถแข่งในสนามแข่งจริง ยุ้ยได้ลองขับรถรุ่นท็อปๆ ของเขาด้วย โดยใช้เวลาเรียนแต่ละค่ายประมาณ 2 วัน

“อย่าง BMW บริษัทแม่อยู่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ค่าเรียนประมาณ 4,000 ยูโร จากนั้นเรียนกับ Porsche ราคาใกล้เคียงกันคือ 4,500 – 5,000 ยูโร ส่วนที่ Ferrari ยุ้ยได้ขับหลายรุ่น สนุกมาก ครึ่งชั่วโมงแรกลองขับ 458 Speciale ที่ราคากว่า 25 – 35 ล้านบาท อีกครึ่งชั่วโมงได้ลอง F12 จากนั้นต่อด้วย 458 Challenge โอ้โฮ ดีใจมาก (หัวเราะ) รู้สึกเอนจอยกับการขับตลอดสองวัน”

กันธิชา ฉิมศิริ
ถ้วยรางวัล Ferrari Challenge Asia Pacific Ladies Cup 2017 ได้มาจากการลงแข่งในรายการ Ferrari Challenge ครบทั้ง 7 สนาม รวม 14 รอบ โดยขับได้อย่างปลอดภัย ไม่ประสบอุบัติเหตุ

พอเรียนจบคอร์สรับประกาศนียบัตร สาวผู้ชื่นชอบรถสปอร์ตก็ตัดสินใจ ร่วมแข่งขันในรายการ Ferrari Challenge เมื่อปีที่แล้ว เป็นการลงสนามแข่งระดับอินเตอร์ครั้งแรกของเธอ

คุณยุ้ย: “รายการใหญ่ของอิตาลี Ferrari Challenge คนที่ลงแข่งส่วนใหญ่ ขับรถมากว่าสิบปี บางคนเป็นเจ้าของรถเฟอร์รารี่ 4 – 5 คันแล้ว มีผู้ชมนับหมื่นคน แต่การได้เข้าร่วมแข่งไม่ใช่แค่ว่าเป็นเจ้าของเฟอร์รารี่เท่านั้น แต่ต้องไปเข้าคอร์สเรียนอย่างที่ยุ้ยเรียนที่อิตาลีมาแล้ว ตอนแรกยุ้ยใช้วิธีเช่ารถ 488 Challenge ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในเวลานั้น หลังจากแข่งขันเสร็จก็ตัดสินใจซื้อเลย มีผู้ลงแข่งทั้งหมด 35 คน ยุ้ยเป็นผู้หญิงคนเดียว จากนั้นก็ลงแข่งอีก 6 เมือง คือ อาบูดาบี เซี่ยงไฮ้ เจ้อเจียง ฟุจิ สิงคโปร์ และฟุกุโอะกะ

“การแข่งรถที่สนามอินเตอร์ยากกว่าที่เมืองไทยมาก เพราะมีความโค้ง เอียง เวลาเข้าโค้งจะมองไม่เห็นโค้งถัดไป ต่างจากเมืองไทยที่สนามจะเป็นทางตรงมากกว่า ทำให้รู้ว่าอีก 200 เมตรจะถึงโค้งแล้ว เราต้องเบรกที่ระยะเท่าไหร่ ส่วนสนามต่างประเทศไม่ใช่อย่างนั้น ยุ้ยเคยหลุดโค้งด้วย แต่ไม่ถึงกับคว่ำนะคะ จริงๆ เป็นเรื่องปกติมาก เพราะรถขับด้วยความเร็วสูง 200 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีว่าเวลาหลุดโค้ง ข้างสนามที่ทำเป็นหินไว้จะคอยกันไม่ให้รถกระเด็นไปไกล

“สนามที่โหดสุดยกให้ที่สนามมูเจียโร ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็น Final World นักแข่งทุกคนต้องไปเจอกันที่สนามนี้ ที่มีความโค้งคล้ายๆ เลข 8 ถ้าฝีมือไม่ถึงจริงๆ หลุดโค้งแน่ แถมอากาศที่มูเจียโรหนาวจัด ทำให้ถนนลื่น ฉะนั้นเทคนิคการขับสำหรับนักแข่งรถต้องวอร์มยางวอร์มเบรกก่อน

 

เพราะความชอบรถและความเร็วส่งผลให้การาจของเธอละลานตาไปด้วยรถสปอร์ตและรถคลาสสิก ที่หาซื้อไม่ได้ทั่วไป

คุณยุ้ย: “ยุ้ยชอบรถที่ไม่เหมือนใคร เช่น รุ่นลิมิเต็ด หรือสีที่ผลิตน้อยๆ เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่พอเรามี รถที่คนทั่วไปไม่มีจะภูมิใจ อารมณ์เหมือนสะสมเพชร ต้องเป็นพลอยชิ้นนี้ที่คนอื่นไม่มี” (ยิ้ม)

กันธิชา ฉิมศิริ
โซฟาตัวนี้ทำมาจากท่อนหลังของรถเบนซ์คลาสสิก โดยมีการติดตั้งลำโพงเปิดเพลงได้ และมีที่วางแก้วน้ำ เป็นโซฟาที่รวมทั้ง ความคลาสซี่และทันสมัยได้อย่างลงตัว

คุณยุ้ยเดินไปที่โซนเก็บรถแล้วเล่าถึงรถแต่ละคัน

คุณยุ้ย: “Rolls-Royce รุ่น Silver Shadow ปี 1970 ชอบตรงความเรียบหรู โดยเฉพาะโทนสีบรอนซ์ แล้วยังนั่งสบายมาก เวลาขับขึ้นเนินหรือตกหลุมแทบไม่รู้สึกเลย ยุ้ยเคยใช้ออกงานแสดงรถโบราณบ้าง จึงต้องดูแลทำสีให้ดูเงาดูใหม่ตลอดเวลา คันนี้ซื้อต่อมาจากเพื่อนเมื่อ 4 – 5 ปีที่แล้ว ต้องผ่อนจ่ายเพื่อน เดือนหนึ่งต้องจ่ายเช็คให้เขา 3 ใบ (หัวเราะ) ราคาบอกไม่ได้ เพื่อนกำชับให้เก็บเป็นความลับ (หัวเราะ) ในเมืองไทยมีไม่เกิน 10 คัน เวลาขับออกไปไหนแล้วจะรู้สึกมีความสุขเล็กๆ เพราะมีแต่คนมอง

“Porsche 911 รุ่นครบรอบ 50 ปีของ Porsche ได้มาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผลิตออกมาประมาณ พันคันเศษ คันของยุ้ยหมายเลข 882 ความพิเศษคือ ปกติเสียงเครื่องยนต์ซูเปอร์คาร์จะมีแค่หนึ่งเสียง แต่รถรุ่นนี้สามารถทำเป็นเสียงเครื่องยนต์เทอร์โบได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งคันที่ใช้บ่อย สลับกับเฟอร์รารี่

“คันต่อมาคือ Benz 190E Vetton ประมาณปี 1968 เห็นครั้งแรกก็ชอบเลย เพราะเป็นสไตล์ รถโบราณ กระจกใส สีตัวรถเป็นสีเทาเข้ม เบาะสีแดง ตัดกันพอดี พวงมาลัยสีขาวทำให้ดูเด่นขึ้นมา ทันที รถคันนี้หายากมากในเมืองไทย ไม่มีออริจินัลทั้งคันแบบนี้”

กันธิชา ฉิมศิริ
Volkswagen คันนี้คุณยุ้ยเล่าว่าค่าซ่อมแพงกว่าราคาตอนซื้อ 5 เท่า

กันธิชา ฉิมศิริ
MG คันนี้อะไหล่แท้ทั้งคัน

เดินชมรถสักพัก แพรวเพิ่งสังเกตถึงความพิเศษอีกอย่างของรถคลาสสิกที่เธอสะสม ทะเบียนรถ เกือบทุกคันจะมีเลข 7 เข้ามาเกี่ยวข้อง

คุณยุ้ย: “เลข 7 เป็น lucky number ของยุ้ยค่ะ เพราะยุ้ยเกิดวันที่ 7 เดือน 11 เหมือนเป็น birthday signature แล้วเลข 7 จะเกี่ยวกับการเดินทาง ยุ้ยเชื่อในเรื่องไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บางคนอยู่กับที่ บางคนได้เดินทางตลอด สำหรับยุ้ยต้องเดินทางต่างประเทศต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เลยมีความเชื่อที่ว่าเลขจะช่วยเสริมบารมี เวลาไปไหนมาไหนจะราบรื่นและมีเงินใช้ไม่ขาด จึงพยายามเลือกเลข 7 ให้อยู่ในทะเบียนรถคันสำคัญหรือคันที่รัก

“อย่างรถ Volkswagen ประมาณปี 1960 คันนี้ราคาไม่แพง ตอนซื้อเรียกว่าสภาพเกือบเป็นซากก็ได้ ยุ้ยสั่งทำสีใหม่ทั้งคัน เลือกสีชมพู ช็อกกิ้งพิ้งค์ ความที่ยุ้ยเป็นผู้หญิงอยากให้ดูหวานแตกต่างจากคันอื่น พอรวมค่าซ่อมกลายเป็นว่าราคาแพงกว่าตัวรถ 4-5 เท่า ที่สำคัญคือ มีซิกเนเจอร์ประจำตัวของยุ้ย คือมีสติ๊กเกอร์หมายเลข 77 อยู่ข้างรถ

“มาถึงรถ MG รุ่น MGB ประมาณปี 1960 ออริจินัลทั้งคันอีกเช่นกัน ยุ้ยทำใหม่หมด สารภาพว่าตอนได้มายุ้ยไม่รู้ว่าเจ้าของเก่าใช้เครื่องยนต์ของรถญี่ปุ่น เพราะอะไหล่แท้ของ MG รุ่นนี้หายากมาก แต่พอมาอยู่กับยุ้ยแล้วก็อยากให้เขากลับมาอยู่ในสภาพเดิมของตัวเอง จึงปรึกษาเพื่อนที่ชอบสะสมรถโบราณเหมือนกัน ให้เขาช่วยหารูปถ่ายของรถคันนี้อย่างละเอียด เพื่อมาดูว่าใช้เครื่องยนต์แบบไหน กระจกข้างแบบไหนจนถึงล้อรถ จากนั้นก็ค่อยๆ ติดต่อสั่งอะไหล่แท้จากเมืองนอกเข้ามาทีละชิ้น ใช้เวลากว่า 7 เดือนจึงได้อะไหล่แท้ทั้งหมด นี่จึงเป็นรถอีกหนึ่งคันที่ยุ้ยภูมิใจมากๆ”

กันธิชา ฉิมศิริ
Ferrari 488 Spider สีน้ำเงินในเมืองไทยมีไม่เกิน 3 คัน

มาถึงคันที่คุณยุ้ยบอกว่ารักมากที่สุดและใช้งานบ่อยที่สุด

คุณยุ้ย: “ยุ้ยเพิ่งได้ Ferrari 488 Spider มาเมื่อปีก่อน คันนี้ซื้อเงินสดเลย ขับสนุกมาก เวลาเร่งความเร็วไปถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถยังนิ่ง และเกาะถนนดีมาก ยุ้ยเลือกสีน้ำเงินเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ คือถ้าเป็นรถเฟอร์รารี่ เรามักจะคิดถึงสีแดง แต่ยุ้ยชอบอะไรที่ไม่เหมือนใคร ต้องเป็นสีพิเศษ และเป็นสีที่คนอื่นไม่ค่อยมี อย่างรุ่นนี้ที่เป็นสีน้ำเงิน เมืองไทย น่าจะมีไม่เกิน 3 คัน” (ยิ้ม)

แพรว ถามถึงความรู้สึกของผู้หญิงรักรถเมื่อได้เห็นรถทุกคันจอดเรียงรายอยู่ตรงหน้า

คุณยุ้ย: “รู้สึกภูมิใจที่สามารถทำได้ สำหรับยุ้ยรถเหมือนกับเสื้อผ้าที่ใส่ ยุ้ยดูแลรถทุกคันเหมือนมีชีวิตจิตใจจริงๆ เพราะกว่าจะมีวันนี้ต้องใช้เวลานานอย่างที่เล่าให้ฟัง นี่คือเหตุผลที่ยุ้ยสร้างการาจเก็บรถที่เขาใหญ่ โดยสั่งทำเฟอร์นิเจอร์และเลือกวัสดุต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์มาตกแต่ง เวลาเข้ามาข้างในจะสัมผัสได้ทันทีว่าเรารักรถมากขนาดไหน (ยิ้ม) ยุ้ยโชคดีที่แฟนไม่ว่าเรื่องใช้เงินกับรถยนต์ แม้กระทั่งการขับรถแข่ง เขาขออย่างเดียวว่าให้ดูแลตัวเองดีๆ เท่านั้น ซึ่งยุ้ยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นมากๆ เช่นกัน

“ยุ้ยทำโต๊ะทำงานเล็กๆ ไว้ในการาจด้วย เวลานั่งทำงานแล้วมองผ่านกระจกออกไปเห็นรถแต่ละคันจะมีความสุขและภูมิใจมากๆ แต่ การสะสมรถยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนภาพยนตร์ ตอนนี้รถที่ยุ้ยมียังเป็นแค่ภาคที่ 1 คงมีรถตามมาอีกหลายคันให้เป็นภาค ที่ 2 และ 3 (หัวเราะ)

“ถ้าภาคใหม่พร้อมเมื่อไรจะชวนแพรวมาดูด้วยกันนะคะ” (ยิ้ม) .. กันธิชา ฉิมศิริ

กันธิชา ฉิมศิริ

กันธิชา ฉิมศิริ


ที่มา: นิตยสารแพรว ฉบับที่ 927 เรื่อง ปารัณ, กิดานันท์ ภาพ เนาวพจน์ โพธิเกษม

ชีวิตดั่งซินเดอเรลลา อดีตนางงาม ยุ้ย-กันธิชา พบรักมหาเศรษฐีเจ้าของ Schwarzkopf

‘ติดบ่วงเงินบ่วงทองจนดิ้นไม่หลุด ยอมไปอยู่กับเขาง่ายๆ เลย’ ดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2564

ดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘ติดบ่วงเงินบ่วงทองจนดิ้นไม่หลุด ยอมไปอยู่กับเขาง่ายๆ เลย’

ดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ว่า จะมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นกับการติดต่อประสานงาน หรือการเจรจาประนีประนอม การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รวมถึงความเชี่ยวชาญชำนาญในการใช้ภาษาให้คุณต้องวิตกกังวล โดยเฉพาะการขัดแย้งกับบุคคลอื่น จนรู้สึกท้อแท้กับโชคชะตาเลยทีเดียว ดังนั้น วันนี้คุณจึงควรเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น อย่ายึดติดอยู่แค่ในกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่ของตัวเอง หรือคนที่เห็นดีเห็นงามกับคุณเท่านั้น

การเงิน  :  ที่ผ่านมาคุณพยายามใช้เงินอย่างประหยัด อดออม จนมาถึงวันนี้มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินกับเรื่องความรัก คนรัก และลูกหลานในบ้าน

ความรัก : แม้ว่าวันนี้คุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการและเหตุผล ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม จนหมดอารมณ์ไปเลย คนโสด อาจเพราะคุณเลือกมากจนกลายเป็นเจ้าชู้ไปเลย วันนี้มีโอกาสที่จะได้พบปะกับชาวต่างชาติที่ฉลาดขั้นเทพ แต่ก็ยังต้องดูใจกันไปนานๆ

สุขภาพ  :  คุณคิดมากและจริงจังไปเสียทุกเรื่อง จึงมีอาการปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะเป็นโรคผิวหนัง รวมถึงกระดูกและข้อ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  หากคุณกำลังอยู่ในช่วงหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ผลสำเร็จ ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงานจนไม่สนใจปฏิบัติภารกิจอื่นเลย แม้คุณจะมีปฏิภาณไหวพริบ และความรับผิดชอบที่ดี เป็นที่ไว้วางใจของเจ้านายแค่ไหนก็ตาม แต่หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การประนีประนอม การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ฯลฯ จนถึงงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญหรือความชำนาญในการใช้ภาษา วันนี้มีความเป็นไปได้ที่ต้องทำงานแค่พอเอาตัวรอด เพื่อป้องกันความเสียหายและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

การเงิน :  มีความเสี่ยงที่จะเสียทรัพย์ให้กับคนรัก หรือลูกหลานในบ้านด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่มาจากความใจดีของคุณที่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนได้ง่ายๆ

ความรัก :  หากคุณกำลังไม่แน่ใจในเรื่องความรักว่า จะดำเนินต่อไปดีไหม เพราะความเจ็บปวดที่ผ่านมามีผลให้คุณคิดว่าจะไปต่อไม่ไหว  แต่ใครจะคิดว่า วันนี้นอกจากจะตัดใจไม่ขาดแล้ว แถมจะรักขึ้นมากอีกต่างหาก  คนโสด อยู่นิ่งไม่ได้แล้ว เพราะวันนี้คุณเจ้าชู้ อาจเพราะผิดหวังมามากจนไม่อยากจะจริงจังกับใครแล้ว

สุขภาพ  : มีดวงได้รับอันตรายจากการเดินทาง ทั้งทางบกและทางน้ำ จึงควรระวังตัวให้ดี อย่าประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  หากคุณตัดสินใจเลือกงานโดยมีจุดประสงค์ที่ชื่อเสียง เงินทอง ความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแล้วล่ะก็ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานหรือเกี่ยวข้องกับสายเอ็นเทอร์เทน เช่น ดีเจ พิธีกร นักร้อง นักดนตรี พริตตี้ หรือธุรกิจสีเทา จนถึงร้านอาหาร ก่อนทำสัญญาควรพิจารณาให้ดี เพราะมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะถูกผูกมัด ไม่ว่าจะสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจ จนไม่สามารถไปทำงานที่ไหนต่อได้

การเงิน :  คุณมีโอกาสได้รายได้อย่างงดงามตามที่หวังไว้ แต่ก็มีโอกาสที่จะต้องเสียเงินให้กับการเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนฝูงอย่างอิ่มหมีพีมัน แต่ก็ไม่ควรรับเป็นนายหน้าให้กู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ใคร เพราะมีความเสี่ยงที่จะต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินแทน

ความรัก :  มีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีมือที่สามเข้ามาหลอกให้คุณรัก แต่จริงๆ แล้วเขาทำเพื่อผลประโยชน์ อย่าได้หลงกล ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียทั้งเงินและคู่ครอง คนโสด วันนี้ไม่ควรให้ความสำคัญกับเงินหรือของนอกกาย เพราะมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น ยอมไปอยู่กับเขาก่อน

สุขภาพ : มีโอกาสที่จะเป็นโรคเลือด ลูมีเมีย ดีซ่าน ไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ จึงไม่ควรทำงานหนักจนร่างกายไม่ได้พักผ่อน หรือดื่มแอลกอฮอลล์เป็นประจำ เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าไม่สบาย อาจรับไม่ไหวแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  ก็ยังอยู่ในโหมดสายงานเอ็นเทอร์เทน เช่น ดีเจ พิธีกร พริตตี้ นักร้อง นักดนตรี หรือธุรกิจสีเทา ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหาร มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้รับเลือกให้เป็นหลักหรือหัวหน้าทีมทำงาน แต่คุณไม่ควรเชื่อมั่นในตัวเองจนไม่คิดถึงความรู้สึกของผู้ร่วมงานเลย เพราะมีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องทำงานนอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่คุณไม่ได้กระทำ ทางที่ดีควรยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป

การเงิน :  ก็ยังคงมีรายได้อย่างงดงามจากงานสีเทา ซึ่งจริงๆ แล้วแม้คุณไม่ทำงาน ก็มีเงินเข้ามาให้ใช้อย่างสบายมือ ดังนั้น คุณจึงควรระวังถูกเอาเปรียบด้วย เพราะวันนี้จ้างร้อย คุณทำให้เป็นล้าน

ความรัก :  คุณให้เวลากับการทำงานเป็นหลัก และก็ยังคงหลงอยู่กับความบันเทิง ความยั่วยุภายนอก ซึ่งวันนี้คู่คุณยอมตามใจคุณโดยดี จะเพื่อให้เรื่องจบๆ หรือจะเรียกร้องความเห็นใจเพื่อให้คุณใจอ่อน ก็สุดแล้วแต่ใจ  คนโสด คุณทำงานเป็นหลัก เรื่องรักเป็นรอง ไม่ค่อยแคร์กับคำว่า ‘รักจริงหวังแต่ง’ เท่าไหร่

สุขภาพ :  โหมงานหนักจนพักผ่อนนอนหลับได้ไม่เต็มที่ รับประทานอาหารน้อย แต่ดื่มมาก จึงมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาในเรื่องระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย ต่อมไร้ท่อต่างๆ จะทำให้ภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง เลือด และน้ำเหลืองไม่ดี

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้จะมีปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากความล่าช้าในการทำงาน ซึ่งจะมีผลให้คุณถูกลดบทบาทความสำคัญ ไม่ว่าจะเสนอไอเดียอะไรไป เจ้านายก็ไม่สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานที่เกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ มูลนิธิ จิตอาสา ฯลฯ จนถึงนักจิตวิทยา นักปรัชญา สิ่งที่เข้ามาจะทำให้คุณรู้สึกท้อแท้กับการทำงาน ก็ขอให้ขยันและตั้งใจทำงานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย คิดบวกไว้ เดี๋ยวโชคดีจะเป็นของคุณ

การเงิน : คุณประหยัดมากถึงมากที่สุด แต่จะมาเสียเงิน ก็เพราะความใจดี ใจบุญของคุณนี่ล่ะ วันนี้มีความเสี่ยงที่คนใกล้ชิด ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเงินคุณ

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ว่า ปัญหาและอุปสรรคในชีวิตคู่ที่คุณพยายามร้องขอความเห็นใจมาตลอดจะเป็นจริง วันนี้ครอบครัวจึงอยู่กันได้อย่างราบรื่นและราบเรียบ   คนโสด  มีความเป็นไปได้ว่า คนที่คบอยู่วันนี้จะไม่เหมาะสมกับคุณ ก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ ควรคบต่อไปให้นานๆ

สุขภาพ :   ก็ยังอยู่ในเรื่องของอาหารนะคะ แต่วันนี้จะเป็นเรื่องน้ำหนัก กับปัญหาที่มาจากความเครียด มีผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานแปรปรวน เป็นได้หมด ทั้งท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องผูก

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานบันเทิง งานศิลปะ งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ จนถึงสินค้าหรือบริการที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นทำธุรกิจกับเพื่อนสนิท (ผู้หญิง)  ซึ่งหากคุณนิ่ง หรือพึงพอใจในจุดนี้แล้ว วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องทำงานเพิ่มที่อยู่นอกเหนือจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ ดังนั้น จึงควรปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ด้วย

การเงิน :  แม้ไม่ต้องทำงานหนัก แต่คุณก็มีเงินเข้ามาให้ใช้จ่ายอยู่ตลอด ซึ่งคุณสมถะ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แต่เพื่อนคุณนี่สิที่วันนี้จะชวนให้คุณซื้อของฟุ่มเฟือย หรือเครื่องประดับราคาแพง

ความรัก :  เน้นความสัมพันธ์ระหว่างญาติผู้หญิง วันนี้ก็อยู่กันอย่างสมถะ พอเพียงพอใจ ร่มเย็นดี   คนโสด   มีโอกาสที่คุณจะได้คบกับเพื่อนหญิงคนสนิท ซึ่งจะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่คุณจะเป็นหวัด ปอดบวม หรือภูมิแพ้ รวมถึงระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกายจะมีปัญหา  ต่อมไร้ท่อต่างๆ จะทำให้ภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง เลือด และน้ำเหลืองไม่ดี

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน หรือนักบริหาร นักเจรจาต่อรอง ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะเฉพาะตัวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือมีโอกาสโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปยังหน่วยงานที่มีผลตอบแทนสูง ซึ่งมีความท้าทาย และแข่งขันสูงถูกจริตคุณ วันนี้ก็นับว่าคุณโชคดี มีโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสูง

การเงิน :  มีโอกาสหาเงินได้มาก แต่ก็ไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง หรือการเสี่ยงโชค เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะล้มละลายได้เลย

ความรัก :  คุณให้ความรักและความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวอย่างมาก โดยแบกรับเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้กับตัวทั้งหมด ซึ่งวันนี้มีแนวโน้มว่าปัญหาต่างๆ จะเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น  คนโสด  เสน่ห์ของคุณอยู่ที่บุคลิกที่โดดเด่น และความเป็นผู้นำ ซึ่งคุณก็ตั้งมาตรฐานผู้ที่จะมาเป็นแฟนไว้สูง โดยเฉพาะในเรื่องการให้เกียรติต้องสูงถึงสูงมาก

สุขภาพ :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า มีความเสี่ยงที่จะแพ้สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาทำความสะอาด ที่ใกล้ตัวน่าจะเป็น แอลกอฮอลล์ ทั้งแบบเจลและสเปรย์ ซึ่งจะทำให้คุณเป็นผื่นคันบริเวณที่ใช้ หากในกรณีรุนแรงจะบวมแดง และเกิดการอักเสบ

วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

Alternative Textaccount_circle
วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต
วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo อดีตนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต

ไม่ใช่แค่คุณแม่หลังคลอดเท่านั้น สาวเคยอวบอั๋นก็รู้ดีเช่นกันว่าปัญหา ผิวแตกลาย คือหนามตำใจที่ทำเอาหลายคนถึงกับสติแตก ก็ระหว่างตั้งครรภ์นั้นผิวเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปตามน้ำหนักของทารก บวกกับน้ำหนักของคุณแม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างกายขยายไม่ทัน ผิวจึงเกิดปัญหาแตกลายไม่ต่างจากสาวที่เคยอวบอ้วน

ซึ่งปัญหานี้รักษาเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี โดยต้องหมั่นทาครีมหรือออยล์บำรุงไว้แต่เนิ่นๆ ร่วมกับการดื่มน้ำให้มาก จะช่วยฟื้นฟูได้อีกทางหนึ่ง นี่คือเบสิคที่สาวๆ หลายคนทราบ แล้วเคล็ดลับแก้ปัญหาผิวแตกลายของหวานใจหนุ่ม Adam Levine อย่าง Behati Prinsloo นางแบบสาวชาวแอฟริกาใต้-นามิเบีย อดีตหนึ่งในนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ต ที่มีรูปร่างแสนเซ็กซี่และเพอร์เฟกต์ หลังคลอดลูกเธอดูแลผิวยังไงไม่ให้แตกลาย

วิธีป้องกัน ผิวแตกลาย ให้สวยเนียนแบบ Behati Prinsloo

“ฉันหวงผิวตัวเองมาตลอด ไม่อยากให้มีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยใดๆ จึงปรึกษาคุณหมอตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ว่าควรควบคุมน้ำหนักให้ขึ้นได้ไม่เกินเดือนละ 2 กิโลกรัม เพื่อให้ผิวหนังหน้าท้อง มีเวลาปรับตัว น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวแตกลายมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น เตือนว่าที่คุณแม่ให้ระวัง ควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติจะดีต่อผิวพรรณมากกว่า

“ฉันเริ่มทาครีมกันท้องลายตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ และเพิ่มปริมาณครีมขึ้นตามอายุครรภ์ คุณแม่หลายท่านหยุดทาครีมเมื่อคลอด ซึ่งไม่ควรเลย เพราะผิวต้องใช้เวลาหดตัวสู่สภาพเดิม ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ทิ้งรอยประทับไว้ให้เจ็บใจ ก็ต้องทาครีมต่อเนื่องไปอีก 2 – 3 เดือนหลังคลอด

Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 3

“ที่อยากเตือนบรรดาคุณแม่คือ แม้จะคันท้องแค่ไหนก็ห้ามเกาเด็ดขาด เพราะการเกาจะกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดรอยแตกมากขึ้น ลามไปถึงขั้นเกิดแผลติดเชื้อได้ คุณแม่ต้องอ่อนโยนกับผิวกันหน่อยนะคะ”

Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 2 Behati Prinsloo แก้ ผิวแตกลาย 1


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 973
ภาพ : behatiprinsloo

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นางแบบสาว Candice Swanepoel แนะทิปส์ฟื้นฟูผิวแห้งคล้ำเสียให้กระจ่างใสไวขึ้น

เคล็ดลับสวยเป๊ะไม่เปลี่ยนของ “ไคลีย์ เจนเนอร์” เมคอัพกึ่งถาวรคือคำตอบ

วิธีดูแลรูปร่างให้เซ็กซี่แบบ MEGAN FOX เน้นกินคาร์โบไฮเดรต หุ่นไม่พังปังกว่าเดิม

 

 

LISA BLACKPINK

ภาพโซโล่เดี่ยว LISA BLACKPINK ติดเทรนด์พร้อมกัน 20 ประเทศ

Alternative Textaccount_circle
LISA BLACKPINK
LISA BLACKPINK

หลังจากที่ เจนนี่ (Jennie) และ โรเซ่ (Rosé)  สองสมาชิกวงแบล็กพิงก์ ได้ปล่อยเพลงโซโล่ของพวกเธอออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ล่าสุดถึงคิวของ LISA BLACKPINK ที่เตรียมปล่อยผลเดี่ยวของเธอออกมาให้แฟนคลับได้ฟังในเร็วๆ นี้

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา YG Entertainment ต้นสังกัดของวงแบล็กพิงก์ ได้ออกมาเปิดเผยข่าวดีว่าในฤดูร้อนปีนี้แฟนๆ จะได้เห็นผลงานโซโล่ของสาวลิซ่า หลังจากที่ทุกคนตั้งตารอคอยกันมานาน ล่าสุดเมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา (ตามเวลาเกาหลีใต้) ได้มีการปล่อยภาพทีเซอร์แรกของลิซ่าออกมาให้ได้เห็น ผ่านทางอินตราแกรมของศิลปินสาวที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 57.8 ล้านคน พร้อมกับข้อความ LISA coming soon

ArtisteLalisa
ภาพจากทวิตเตอร์ : @LisaFamilyClub2

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาแฮชแท็ก #ArtisteLalisa ติดอันดับบนทวิตเตอร์มากถึง 20 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม,ไทย ,เปรู ,สาธารณรัฐ ,โดมินิกัน ,รัสเซีย ,อาร์เจนตินา ,ซาอุดีอาระเบีย ,ปานามา ,สเปน ,คูเวต ,สิงคโปร์ ,โปรตุเกส ,อิตาลี ,ชิลี ,เปอร์โตริโก ,แอลจีเรีย ,บราซิล ,สหรัฐอเมริกา ,โคลัมเบีย และ  เอกวาดอร์ รวมถึงยังติดอันดับท็อป 3 บน ทวิตเตอร์ world wide ด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่าศิลปินสาวสายเลือดไทยคนนี้จะมีผู้คนชื่นชอบเธอมากมายถึงเพียงนี้

 LISA BLACKPINK

ภาพโซโล่เดี่ยว LISA BLACKPINK ติดเทรนด์พร้อมกัน 20 ประเทศ

LISA BLACKPINK 02 LISA BLACKPINK 01 ลิซ่า แบล็กพิงก์ 02 ลิซ่า แบล็กพิงก์ 01


ภาพจาก : IG @lalalalisa_m

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

4 แง่มุมดีๆ ที่ทำให้เด็กไทย ลิซ่า-ลลิษา ประสบความสำเร็จระดับโลก

10 เรื่องของ ลิซ่า แบล็กพิงก์ อาชีพในฝัน ทาสแมว ลายมือ ไอดอลผู้มีจิตใจงดงาม

แมสแล้ว! ลิซ่า ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลี แนะนำเมนูอาหารไทย น้ำพริกจรั๊วะโดง

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta

เบาสบาย กันน้ำได้! รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta ในโทนสีจี๊ดๆ

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta
รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta

รองเท้าบู๊ท The Puddle ที่หลายคนพูดถึง เป็นการนำกลับมาทำอีกครั้งของ THE PUDDLE BOOTS ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง 2020 ที่ผ่านมา เป็นไอเท็มที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าจับตามอง เพราะการออกแบบของรองเท้าบู๊ทได้คำนึงถึงการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

โดยใช้วัสดุที่ทำจาก Biodegradable Polymer ที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ทำจากโมเลกุลธรรมชาติ ผสมผสานซิกเนเจอร์ของ Bottega Veneta ด้วยรูปทรงด้านหน้าของรองเท้าที่กลมและหนา ตกแต่งด้วยเส้นหยักที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากรองเท้าบู๊ท ‘LUG’ ของคอลเล็คชั่นก่อนฤดูใบไม้ร่วง 2020 สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้หลายลุคทั้งลุคสบายๆ หรือแม้กระทั่งลุคทางการก็เอาอยู่!

เบาสบาย กันน้ำได้! รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta ในโทนสีจี๊ดๆ

รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta รองเท้าบู๊ท The Puddle จาก Bottega Veneta-1 รองเท้าบู๊ท The Puddle รองเท้าบู๊ท The Puddle-1 รองเท้าบู๊ท The Puddle-2 รองเท้าบู๊ท The Puddle-3 รองเท้าบู๊ท The Puddle-4

ถือว่ารองเท้าบู๊ท The Puddle เป็นจุดเด่นตลอดคอลเล็คชั่นนี้ เป็นการหยิบเอาความหรูหราและสตรีทแวร์ มามิกซ์กันได้อย่างลงตัวด้วยการออกแบบที่ให้ความแข็งแรงของตัวรองเท้า สามารถนำมาสไตลิ่งให้เข้ากับซิลลูเอทที่หลากหลายในคอลเล็คชั่นเพื่อให้ได้ลุคที่คอมพลีตมากยิ่งขึ้น

ดีไซน์รองเท้าบู๊ท The Puddle มาพร้อมน้ำหนักเบาสบายและสามารถกันน้ำได้ดี เข้ากันทั้งผู้หญิงและผู้ชายเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และในคอลเล็คชั่นนี้ได้เพิ่มรองเท้าบู๊ทข้อสูงจากเดิมที่มีแค่รองเท้าบู๊ทข้อสั้น มาในโทนสีสดใส สีเขียว (grass) สีชมพู (flamingo) สีเหลือง (egg yolk) สีน้ำเงิน (cobalt) และสีดำ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เหตุผลที่ Tod’s เปิดตัว JOY จากวง Red Velvet เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด

รองเท้าแก้วเวอร์ชั่นใหม่ Onitsuka Tiger เปิดตัว สนีกเกอร์ Cinderella สวยวิบวับ

เปิดวาร์ปร้าน สร้อยข้อมือผีเสื้อ ของขวัญที่ พัคแจออน ทำให้ ยูนาบี

 

มาดามแป้ง

เรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการฟุตบอลของ “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติไทยคนล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
มาดามแป้ง
มาดามแป้ง
“มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ” ถือเป็นผู้หญิงแกร่งแห่งยุคตัวจริงเสียงจริง ซึ่งควบหลายบทบาทหน้าที่ และสามารถทำได้ดีแบบไร้ข้อกังขา โดยเฉพาะในวงการกีฬาที่เธอคร่ำหวอดอยู่กว่า 15 ปี กระทั่งล่าสุดวันนี้ (23 สิงหาคม 2564) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์แต่งตั้ง “มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ” เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างเป็นทางการ ซึ่งนี่คือเรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการกีฬาฟุตบอลของผู้หญิงคนนี้

เรื่องราวกว่า 15 ปี ในวงการฟุตบอลของ “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมชาติไทยคนล่าสุด

“แป้งจะเลือกทำในสิ่งที่รักและศรัทธาเสมอ เพราะมันคือ สิ่งที่จะพาเราเดินหน้าไปกับสิ่งนั้นจนสุดทาง เส้นทางสายกีฬาเริ่มต้น เมื่อถูกเชิญให้เป็นผู้จัดการทีมกีฬาคนพิการในปี 2549 การคลุกคลี อยู่สองปีทำให้เห็นความยากลำบากในการใช้ชีวิตและการเข้าถึง โอกาสขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ปัจจุบันแป้งจึงยังทำงานตรงนี้อยู่ ผ่าน โครงการส่งเสริมอาชีพผู้พิการ ให้ผู้พิการมีอาชีพและรายได้อยู่ที่ บ้านเกิด ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน โดย เรายังชวนหลาย ๆ องค์กรเข้ามาร่วมโมเดลนี้กับเรา เพื่อให้เกิด ผลลัพธ์ในภาพที่ใหญ่ขึ้นและมีคนเข้ามาช่วยผู้พิการมากขึ้นด้วย

มาดามแป้ง

“จากนั้นปลายปี 2551 อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ คุณวรวีร์ มะกูดี ก็เชิญให้แป้งเป็นผู้จัดการ ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ตอนนั้นแป้งก็บอกว่าเล่นฟุตบอล ไม่เป็น คุณวรวีร์บอกว่าให้มาดูแลเท่านั้น จึงตอบตกลงไป หลัง จากนั้นแป้งก็ใช้ทุกสรรพกำลังและการเรียนรู้จากอาจารย์ในวงการปลุกปั้นฟุตบอลหญิงอยู่นานหลายปี จนเรามีชื่อขึ้นมาตอนคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา เพราะมีการถ่ายทอดสด หลัง ๆ แป้งเลยควักเงินส่วนตัวขอช่องทีวี ถ่ายทอดสดเอง อยากให้น้อง ๆ มีกำลังใจมาก ๆ จนมาแจ้งเกิดอย่างที่สุดก็เมื่อเราไป แข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่เวียดนาม เราคว้าโควตาอันดับที่ 5 ของเอเชียไปเล่น ฟุตบอลโลก 2015 เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย จนตอนนั้นต้องจัดคิว ตระเวนออกสื่อทุกช่อง แน่นอนว่าการไปฟุตบอลโลกครั้งแรกย่อมสร้างความกดดัน และความคาดหวัง แต่ไม่น่าเชื่อ เราสร้างชื่อเสียงให้ประเทศอีกครั้งด้วยการคว้า 3 แต้มสำคัญจากทีมไอเวอรี่โคสต์จากทวีปแอฟริกา แม้จะผ่านเข้ารอบต่อไปไม่ได้ แต่มันก็คือที่สุดของพวกเรา

มาดามแป้ง

“หลังจบช่วงนั้น ด้วยความผูกพันที่มีกับเด็ก ๆ ทำให้แป้งขอสู้อีกตั้ง ฝ่าฟัน ปัญหาอุปสรรคที่เพิ่มขึ้น ทั้งอายุของน้อง ๆ ที่มากขึ้น ทำให้ต้องหานักเตะรุ่นใหม่ ทดแทน หรือการเพิ่มขีดความสามารถในมิติต่าง ๆ แป้งทำงานหนักจนอีก 4 ปีต่อมา จากไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะทำได้ เราก็ได้ไปฟุตบอลโลกติดต่อกันเป็นสมัยที่สอง มันคือที่สุดสำหรับความตั้งใจ 12 ปีเต็ม เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่เพียง ไม้ประดับของรายการ จากการยิงประตูทีมชาติสวีเดนซึ่งเป็นอดีตรองแชมป์โลกได้ แม้จะเป็นเพียง 1 ลูก แต่มันช่างตราตรึงในหัวใจของคนไทยจนถึงวันนี้

มาดามแป้ง

“การทำงานกับทีมฟุตบอลหญิงถึง 12 ปี ทำให้แป้งเห็นความเหลื่อมล้ำในทุก รูปแบบชัดเจน ทั้งความนิยม รายได้ ผู้สนับสนุน เงินอัดฉีด มีช่องว่างห่างกัน หลายช่วงตัว ในต้นปี 2558 จึงตัดสินใจเข้ามาทำสโมสรฟุตบอลอาชีพ “การท่าเรือ เอฟ.ซี.” ทีมระดับตำนานไทยลีกที่มีชื่อชั้นทั้งในสนามและแฟนบอล ตอนนั้นมีเสียง วิพากษ์วิจารณ์เยอะมากว่าแป้งจะเล่นการเมือง บอกว่าแป้งมองฟุตบอลเป็นของเล่น คนรวย หรือแม้แต่แป้งจะไปไม่รอด แต่แป้งมาด้วยความจริงใจ และต้องการ พิสูจน์ว่าในสนามที่มีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงอย่างแป้งจะทำให้ได้

มาดามแป้ง

“ปีแรกของแป้งกับการท่าเรือไม่สวยนัก ตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 1 ทันทีแบบ น้ำตาท่วมสนาม แต่แป้งก็กล้าประกาศต่อหน้าแฟนบอลกว่า 6 พันคนว่าจะไม่ทิ้ง ไปไหน คำมั่นสัญญานั้นคือการใช้ใจแลกใจที่ให้ไว้กับทุกคน สุดท้ายเพียงปีเดียว เราก็กลับมาได้ ชีวิตบนสนามหญ้าของประธานสโมสรคนนี้ไม่ได้มุ่งหวังผลการ แข่งขันในสนามเท่านั้น แต่แป้งมาเพื่อสร้างครอบครัวฟุตบอลด้วย แป้งคิดว่าถ้าคนใน ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี เด็ก ๆ ได้แรงบันดาลใจจากนักบอลที่เขารัก ได้ใช้เวลา ห่างไกลยาเสพติด พ่อค้าแม่ค้าขายของดี มีรายได้ ทีมก็จะอยู่ได้จากแรงสนับสนุน กลับมาเป็นวงกลม เราจึงทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าฟุตบอลมาตลอด 7 ปี มุ่งสู่เป้าหมาย สำคัญคือความยั่งยืนของสโมสรและชุมชน

มาดามแป้ง“สำหรับแป้ง เรามองชุมชนคลองเตยเป็นครอบครัวและเป็นพื้นที่แห่ง โอกาส โอกาสที่เราจะช่วยกันพัฒนาให้ดี เราได้รับเลือกจากวิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ให้มีส่วนร่วมกับการวิจัยและออกแบบพื้นที่ ให้ตอบโจทย์ทางภูมิศาสตร์และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ภายใต้โครงการ คลองเตยดีดี ซึ่งนอกจากงานด้านการวิจัยแล้ว เรายังมีทีมอาสากล้าใหม่เมืองไทยฯ ของบริษัทกว่า 64 รุ่นลงพื้นที่ทำกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดทุกเดือน ตั้งแต่ ปี 2556 เป็นต้นมา ผ่านทุนสนับสนุนจากบริษัทรวม 640,000 บาท โดยมี พนักงานเป็นอาสากล้าใหม่มาแล้วมากกว่า 1,000 คน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ของคนในองค์กร”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 972

ภาพ : panglamsam

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดใจคู่กันครั้งแรก มาดามแป้ง & ดร.ณรัชต์ ความรักดั่งบุพเพสันนิวาสครั้งสุดท้าย

ชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มาดามแป้ง นวลพรรณ CEO นักสู้หญิงเหล็ก

เวิร์คกิ้งวูแมนตัวจริง มาดามแป้ง-นวลพรรณ กับแนวคิดการทำงานสร้างพลังบวก

ไอเดียจัด ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสด

account_circle
อีกหนึ่งกิมมิคที่ว่าที่เจ้าสาวให้ความสำคัญคือ การมอบ ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสดซึ่งเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ บ้านเราเองเหล่าเซเลบ คนดังก็จัดของขวัญเก๋ๆ ให้กับเพื่อนเจ้าสาวเหมือนกันค่ะ
โดยมากนั้นจะเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ เครื่องสำอาง เสื้อคลุม เทียนหอม และการ์ดขอบคุณ แต่สำหรับใครที่อยากเพิ่มของขวัญแบบอื่นแต่ไม่รู้จะให้อะไร แพรวเวดดิ้งมีไอเดียมิกซ์แอนด์แมตช์ของขวัญให้ดูเก๋และเข้าธีมมาให้สาวๆ ได้ดูกันค่ะ

ไอเดียจัด ของขวัญให้กับเพื่อนเจ้าสาว ในวันฉลองปาร์ตี้สละโสด

ชาวจีนคว่ำบาตร จางเจ๋อฮั่น เหตุภาพหลุด หาว่าไม่รักชาติ

account_circle

จางเจ๋อฮั่น นักแสดงจาก Word of Honor วัย 30 ปี เปลี่ยนจากการเป็นหนึ่งในดาราดังสุดฮอตของจีนมาเป็นบุคคลที่ไม่มีเกียรติในชั่วข้ามคืน เมื่อภาพถ่ายเก่าๆ ของเขาขณะไปเยือน “ศาลเจ้ายาสุคุนิ” ในประเทศญี่ปุ่นถูกขุดขึ้นมาและเผยแพร่ทางออนไลน์

กลายเป็นประเด็นร้อนหลังมีภาพ จางเจ๋อฮั่น ร่วมงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่ ศาลเจ้าโนกิ ประเทศญี่ปุ่น และยังมีรูปถ่ายคู่กับ เดวี ซูการ์โน ภรรยาของอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นประเด็นกับฝั่งจีนไปเมื่อปี 2017 กับการออกมาสนับสนุนหนังสือที่ปฏิเสธการกระทำของฝ่ายญี่ปุ่นใน “เหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง”

นอกจากประเด็นเรื่องภาพถ่ายการร่วมงานแต่งของเพื่อนที่ ศาลเจ้าโนกิ แล้ว ยังมีภาพที่นักแสดงหนุ่มแดนมังกร เที่ยวชม “ศาลเจ้ายาสุคุนิ” ที่คนจีนส่วนใหญ่รับไม่ได้ เพราะเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมป้ายวิญญาณเพื่อสักการะเหล่าทหารและอาชญากรทางสงครามหลายคนในกองทัพญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม แม้ จางเจ๋อฮั่น จะออกโพสต์ขอโทษถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้น รวมถึงน้อมรับทุกคำวิจารณ์แล้ว แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด ชาวเน็ตจีนส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์นักแสดงหนุ่มโดยเฉพาะประเด็นในเรื่องความไม่รักชาติ

ทั้งนี้ “สมาคมอุตสาหกรรมการแสดงของจีน” (China Association of Performing Arts) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้คว่ำบาตร จางเจ๋อฮั่น ตามมาตรการการจัดการตามวินัยข้อบังคับของคนในวงการอุตสาหกรรมการแสดง

เครื่องดื่มจีน อาจสูญเงิน 100 ล้านหยวน หลังมีภาพ จางเจ๋อฮั่น บนกระป๋อง

ภายหลังจากดราม่าครั้งนี้เป็นเหตุให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ออกมายุติการทำงานของ จางเจ๋อฮั่น ซึ่งการคาดการณ์ว่าเขาสูญเงินกว่า 50 ล้านหยวน อีกทั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาได้ถูกลบออกไปทั้งหมดอีกด้วย

ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้ Weibo ได้แชร์รูปภาพคลังสินค้าที่ภายในมีเครื่องดื่มจีนยี่ห้อหนึ่งซึ่งถูกบรรจุเป็นแพคไว้นับไม่ถ้วน โดยกระป๋องเหล่านี้มีภาพของจางเจ๋อฮั่นสกรีนไว้ที่กระป๋อง และไม่สามารถออกจำหน่ายได้แล้ว เนื่องจากการคว่ำบาตร ของสมาคมอุตสาหกรรมการแสดงของจีน ภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเครื่องดื่มทั้งหมดนี้อาจถูกทำลายทิ้ง และมีการคาดการณ์ว่า เครื่องดื่มยี่ห้อนี้อาจสูญเสียอย่างเงินอย่างน้อย 100 ล้านหยวน

ทั้งนี้ชาวเน็ตได้ต่างออกมาคอมเม้นต์ โดยส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจกับเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ พวกเขากล่าวว่า แบรนด์ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาโชคร้ายจริงๆ มีวิธีลบภาพของ จางเจ๋อฮั่น ออกหรือไม่ น่าเสียดายที่ต้องทิ้งมันไป


ที่มา : www.todayonline.com,mgronline.com

ผิวดีไม่ต้องพึ่งหมอ บิวตี้ทริคง่ายๆ ของ เซเลบสาว “มูลี่ วัชรพล”

account_circle

นอกจากงานซีอีโอของแบรนด์เครื่องสำอาง และสกินแคร์สุดคิวต์อย่าง Everpink แล้ว มูลี่ – อัญชิสา วัชรพล ยังมีสไตล์ที่เก๋ชวนมอง รวมถึง บิวตี้ทริคง่ายๆ ที่สาวๆ ชอบความน้อยแต่มาก ต้องเลิฟฟฟ

Mulee’s Routine

มู่มีกฎเหล็กอยู่ว่า ทุกครั้งที่จะจับใบหน้าต้องมั่นใจว่ามือสะอาด เพราะฉะนั้นสิ่งทิ่มีติดตัวทั้งที่โต๊ะทำงานและในกระเป๋าคือเจลฆ่าเชื้อโรคของเดทตอล จะได้เช็ดมือสะดวก อย่างเวลาอาบน้ำ มู่จะไม่ล้างหน้าที่อ่างล้างหน้า  แต่จะล้าง ระหว่างอาบน้ำ โดยเลือกทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อทำความสะอาดได้หมดจด มั่นใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างแน่นอน

ส่วนบิวตี้รูทีนของมู่เริ่มต้นที่การลบเมคอัพด้วย Cleansing Balm ของ Dior กับอีกตัวคือ Clean It Zero ของแบรนด์เกาหลี Banila Co ติดใจเพราะนอกจากล้างได้หมดจดยังกลิ่นหอมดีด้วย หลังจากล้างหน้าเสร็จ มู่จะใช้เอสเซ้นส์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเคยใช้แล้วปรากฏว่าหน้าแห้งและรูขุมขนใหญ่ขึ้นจึงเลิกเด็ดขาด

ส่วนตัวติดใจ Erb Seven Pollen Balancing Essence ที่เขาสกัดจากดอกไม้ไทย 7 ชนิด อ่อนโยนสุดๆ ช่วยให้ผิวหน้าบาลานซ์ เพราะมู่ผิวผสม คือแก้มไม่แห้งก็จริง แต่ก็ไม่ชุ่มชื้น ถ้าล้างหน้าด้วยโฟม ผิวจะแห้งตึง  ขณะที่ ผิวบริเวณทีโซนจะมันชัดเจน เอสเซ้นส์ตัวนี้ดีมากช่วยให้ส่วนที่มันไม่มันเกินไป และทำให้ส่วนที่ผิวแห้งมีความชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัด รักมาก ใช้มาหลายขวดแล้ว

บิวตี้ทริคง่ายๆ

“มู่เชื่อเรื่องการเติมน้ำให้ผิว เพราะ ผิวที่ฉ่ำน้ำจะเกิดริ้วรอยยาก ฉะนั้นในขั้นตอนของการใช้มอยส์เจอไรเซอร์จึงเลือก Everpink ช่วยเติมน้ำให้ชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป ปกติแล้วคนมักจะเข้าใจว่าไฮยาลูโรนิก เป็นตัวเติมน้ำที่ดีให้ผิว ซึ่งก็จริงค่ะ แต่ไม่ใช่ที่สุด เพราะไฮยาลูโรนิกจะเคลือบแค่ผิวชั้นนอก เวลาเราล้างหน้าก็จะหลุดออกตามไปด้วย ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์ของ Everpink มีส่วนผสมของเพนตาไวติน (Pentavitin) เป็นสารให้ความชุ่มชื้นผิว  ช่วยกักเก็บน้ำจนถึงผิวชั้นใน อยู่กับผิวนาน 72 ชั่วโมง แม้จะล้างหน้าก็ไม่หลุด

สำหรับเซรั่มตอนกลางคืนใช้ Face Oil ส่วนกลางวันจะเป็นเซรั่มเบาๆ อย่างของแบรนด์ Saturday Skin ก็เวิร์คมาก มีส่วนผสมของโพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียชนิดดี รวมทั้งมีพรีไบโอติกที่เป็นสารอาหารของแบคทีเรียโพรไบโอติก สองตัวนี้จะช่วยสร้างความบาลานซ์ให้หน้าใช้แล้วผดน้อยลงมาก

สำหรับ ครีมกันแดดใช้ของ BRISUTHI (บริสุทธิ์) เป็นแบรนด์ออร์แกนิกไทย ตัวนี้มีกลิ่นลาเวนเดอร์ เวลาทาจะรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ทิ้งคราบขาวและไม่อุดตัน แต่ถ้าอาบแดดมู่จะใช้ครีมกันแดดของนีเวีย SPF 30 ทาทับอีกชั้น  ตัวนี้ดีตรงที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ มู่จะทาบริเวณโหนกแก้ม เพราะตรงนั้นเกิดกระได้ง่าย รวมทั้งทาที่ตัวด้วย

อ้อ แม้จะรู้ว่าการไม่นอนตะแคง จะช่วยให้หน้าไม่เกิดริ้วรอย มู่เคยพยายามฝึกนอนตรงๆ ซึ่งทำยากมาก ถึงขั้น นอนไม่หลับเลย (หัวเราะ) ตอนนี้จึงอาศัยตัวช่วยใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหมช่วยลดการเสียดสีผิวหน้า  เรียกว่าถ้าเผลอนอนตะแคงก็วางใจได้บ้าง

ไม่พึ่งคลินิกความงาม

บิวตี้ทริคง่ายๆ

บอกเลยว่าทั้งชีวิตนี้มู่เข้าคลินิกความงามไม่เกิน 5 ครั้ง รวมทั้งไม่นวดหน้า ไม่ทำทรีตเมนต์ใดๆ ด้วย เพราะสมัยวัยรุ่นเคยเข้าคลินิกกดสิวแล้วเจ็บมาก รู้สึกว่าคลินิกกับเราไม่ค่อยเวิร์ค จึงจบกันไป อีกอย่างคือมู่อยากให้ผิวเราปกป้องตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องอัดทรีตเมนต์เยอะๆ

ถ้าต้องตัดสินใจทำจริงๆ ก็คือช่วงที่ผิวแย่หนักๆ ชนิดที่ครีมที่ใช้เป็นประจำเอาไม่อยู่ แต่ที่ผ่านมาผิวมู่อยู่ได้ด้วยตัวเอง อาจจะเป็นเพราะเราไม่รบกวนผิวมาก อย่างสครับหน้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำเลยค่ะ เพราะคิดว่าถ้าสครับเม็ดใหญ่ไปอาจจะบาดผิวได้ จึงใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดที่ผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA หรือ BHA เช่น  แบรนด์ Herbivore ใช้ติดต่อแค่ 3 – 5 วันแล้วก็พักหน้าไปยาวๆ จะช่วยผลัดผิวอย่างอ่อนโยน

และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจผิว มู่พยายามหาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ จึงศึกษาสกินแคร์เยอะ  เวลาซื้อโปรดักต์สักชิ้นจะดูส่วนผสมละเอียด นอกจากต้องไม่มีแอลกอฮอล์แล้ว สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแพลงก์ตอนก็ไม่เวิร์คสำหรับมู่ เพราะเราแพ้กุ้งหนัก กลัวจะแพ้ที่หน้าด้วย จึงป้องกันไว้ก่อน แต่มีสกินแคร์แบรนด์หนึ่งที่มีส่วนผสมจากทะเลแล้วเวิร์คมาก นั่นคือ ลาแมร์ ตอนแรก ก็กล้าๆ กลัวๆ แต่ปรากฏว่าทาแล้วผิวดีจึงใช้มาตลอด

Make up น้อยแต่พอดี

มู่แต่งหน้าไม่เก่ง สมัยเด็กกว่านี้เคยลองแต่งเยอะๆ แล้วรู้สึกว่าแก่ ทุกวันนี้จึงแต่งน้อยมาก ถ้าไม่ออกงานก็ไม่ลงรองพื้นเลย ใช้แค่คอนซีลเลอร์ ชอบของ Nars ที่เป็นเนื้อแมตต์ ขั้นตอนต่อมาคือทาตาด้วยครีมแชโดว์ ปัดคิ้ว  ปัดขนตา แตะครีมบลัชที่แก้มนิดหน่อยให้ดูเป็นธรรมชาติ คือแตะตรงแก้มโดยไม่ลงมาเกินปีกจมูก ไม่อย่างนั้นแก้ม จะดูแดงเป็นพวงไปหมด เหมือนแต่งหน้าฉ่ำเกินไป

มู่ปลื้มโทนสีแทนๆ อารมณ์น้ำตาลแดง ส่วนลิปสติก  วันธรรมดาจะทาแค่ลิปมันอย่างเดียว ชอบของ Kosasport ดีมากค่ะ เนื้อเนียนและช่วยให้ปากไม่ลอก ที่สำคัญ คือ ชุ่มชื้นอยู่นาน บวกกับมู่ดื่มน้ำเยอะ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ก็ช่วยได้

บิวตี้ทริคง่ายๆ

สำหรับลิปสติกจะทาตอนออกงานเท่านั้น และไม่ทาแบบแมตต์ เพราะ จะตกร่องที่ปากทำให้ปากแห้งยิ่งกว่าเดิมนอกจากนี้มู่ยังชอบให้ผิวดู เป็นสีแทนบ่มแดดจึงขาดบรอนเซอร์ไม่ได้ ชอบของ Hourglass ทาแล้วผิวดูนวลเนียน อีกอันที่ชอบมากๆ คือ บรอนเซอร์จาก No7 เป็นแบบเนื้อครีม ทาแล้วเกลี่ยได้เลย มู่จะทาตรงแนวผม  โหนกแก้ม นิดๆ ให้ผิวดูฉ่ำแดดขึ้นมาหน่อย

สำหรับผิวตัว เวลาอาบน้ำมู่จะใช้ถุงมืออาบน้ำของ The Body Shop ถูตามตัวเหมือนสครับสัปดาห์ละครั้ง เพราะมู่อยากให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง ไม่อยากไปรบกวนเยอะ อย่างครีมทาตัวจะทานานๆ ครั้ง เพราะไม่ชอบให้ตัวเหนียว

แต่ถ้าผิวแห้งมากก็จะซื้อกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งมีขายตามร้านเวชสำอาง มีลักษณะคล้ายเจล บีบผสมกับครีมบำรุงผิว ก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้เช่นกันค่ะ หรืออีกวิธีคือนำฮาดะ ลาโบะ ที่เป็นโลชั่นน้ำผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ทาผิว ก็ช่วยกักเก็บน้ำได้ดีมาก และความที่ชอบตากแดด มู่จึงชอบใช้ Tanning Oil ของ Nuxe หรือไม่ก็บอดี้ออยล์ของ Ouai ดีมาก เช่นกัน

แต่สำหรับน้ำมันมะพร้าวที่บางคนใช้แล้วดี มู่ต้องขอข้าม เพราะมีปัญหาผิวอุดตันง่าย แล้วน้ำมันมะพร้าวทำให้อุดตันเยอะ มันจะไปอุดตันรูขุมขนกลายเป็นขนคุด”

เคล็ดลับความงามจากคุณยาย

บิวตี้ทริคง่ายๆ

มู่อยู่กับคุณยาย (คุณหญิงประณีตศิลป์  วัชรพล) ตั้งแต่เด็ก ท่านสอนว่าต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวสม่ำเสมอ จำได้ว่าคุณยายซื้อของ Shiseido รุ่น White Lucent มาให้มู่เป็นขวดแรก ซึ่งตอนนี้เขาเลิกผลิตไปแล้ว คุณยายดูแลผิวดีมาก ใช้ลาแมร์ตั้งแต่ยังไม่นำเข้าในเมืองไทยและใช้มาตลอด

จนเราเห็นผลว่าทุกวันนี้คุณยายยังไม่เหมือนคนอายุ 88 เลย ผิวท่านยังสวย ซึ่งคุณยายไม่เคยเข้าคลินิกเหมือนกัน เคล็ดลับที่ท่านสอนมู่คือ เวลาทาครีมต้องทาขึ้น และอย่าลืมทาบริเวณคอ อก กับหัวไหล่ด้วย

Multistyle

มู่แต่งตัวแล้วแต่อารมณ์กับกาลเทศะ บางวันอยากเท่แบบบอยๆ บางวันอยากชิล บางวันก็อยากได้ลุคสวย ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าชอบสไตล์ไหนเป็นพิเศษ อย่างตอนนี้อินกับสีสัน เพราะรู้สึกว่าเสื้อผ้าสีดำในตู้เยอะแล้ว จึงเลิกซื้อสีดำไปก่อนในลุควันทำงานมู่จะเน้นความคล่องตัว เพราะบางวันต้องไปโรงงานเลือกแพ็คเกจจิ้ง  นอกจากนี้ยังคำนึงถึงกาลเทศะ ถ้าวันไหนเจอแขกผู้ใหญ่ก็จะแต่งตัวสวยงาม อาจใส่เดรสบ้าง

จะซื้ออะไรต้องใส่ให้ได้เกิน 10 ครั้ง

บิวตี้ทริคง่ายๆ

จริงๆ เทคนิคการเลือกซื้อของไม่ยาก คือต้องชอบและดูดีสำหรับตัวเรากับต้องคิดว่าจะสามารถใส่ชุดนั้นได้มากกว่า 10 ครั้ง อย่างชุดเดรสลายพริ้นต์ของ DVF ที่ใส่มาถ่ายกับแพรว วันนี้เสื้อกับกระโปรงแยกชิ้นกันได้ จึงแมตช์ได้หลายอย่าง สามารถใส่ได้หลายงานหลายโอกาส จะไปต่างประเทศก็ได้ กินข้าว ชิลๆ ก็ได้ หรือใส่มาทำงานก็ได้ เรียกว่าคุ้มมาก ทุกครั้งที่ซื้อของมู่จะคิดว่า จะนำไปแมตช์กับชุดที่มีในตู้ได้อย่างไร มู่ไม่ชอบแต่งตัวแบบโททัลลุคชนิดที่ เสื้อผ้าเข้ากันจนเกินไป อย่างเดรสมู่เลือกที่จะใส่คู่กับบู๊ตแทนส้นสูงให้มีความคอนทราสต์สนุกๆ บ้าง

ไม่โป๊

โป๊สุดในชีวิตมู่คือคอลึก อย่างเกาะอก ชีวิตประจำวันจะไม่ใส่เลย ยกเว้นเวลาออกงานอาจมีเดรสเกาะอกบ้าง  และจะไม่ใส่ชุดค็อกเทลเดรสสั้น มู่มั่นใจที่จะใส่ปิดๆ มากกว่า อย่างเวลามีเดรสที่ดูโป๊หน่อยก็จะนำไปมิกซ์กับ  เสื้อผ้าชิ้นอื่นไม่ให้เผยผิวเกินไป เช่น ใส่เสื้อแขนยาวคอเต่าที่แนบผิว บางทีก็ใส่เบลเซอร์ทับให้ดูมีอะไรมากขึ้น

บิวตี้ทริคง่ายๆ

แบรนด์โปรด

ตอนนี้ปลื้ม DVF โดยเฉพาะ Wrap Dress (เดรสที่มีผ้าพันเอว) คัตติ้งเขาสวย ดีไซน์ดี ใส่วนไปได้เรื่อยๆ จนเพื่อนแซว อีกแบรนด์คือ Proenza  Schouler ที่เด่นเรื่องการใช้สีและเนื้อผ้าดี ส่วนแบรนด์ Jacquemus ชอบที่เขาเล่นดีไซน์กับรูปร่าง มีความเซอร์เรียล เช่น ชุดเดรสยาวเรียบๆ แต่ตรงสะโพกมีกระเป๋าใบใหญ่โผล่ออกมาชนิดที่สอดมือเข้าไปได้ ลูกเล่นเขาสนุกดีและเข้ากับหุ่นมู่ด้วย

ตอนนี้มู่ชอบลงทุนกับการแต่งตัวทุกอย่าง จากที่เคยลงทุนแค่รองเท้ากับกระเป๋า แต่ตอนนี้รวมถึงเสื้อผ้าด้วย  เพราะอยากให้ของอยู่กับเราไปนานๆ แม้กระทั่งเสื้อยืดก็ยังเลือก มู่ชอบของแบรนด์ James Perse เพราะซักแล้วไม่ยืด คัตติ้งดี อีกแบรนด์ที่ชอบคือ Isabel Marant ดีไซน์ดีงาม ตอนอยู่ลอนดอนไปซื้อจนเป็นเพื่อนกับคนขายเสื้อยืดของ Alexander Wang ก็ใส่สบาย คอตต้อนของเขานิ่มมาก

“มู่ว่าการแต่งตัวคือการลงทุนชนิดหนึ่ง ซื้อของสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องคุณภาพดีและใส่ได้นานๆ ด้วย”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 954

Shizenlabs Innogro

ชิเซนแลบ อินโนโกร (Shizenlabs Innogro™) ผสานคุณค่าธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์ เป็นเซรั่มและแชมพู ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น

Shizenlabs Innogro
Shizenlabs Innogro

สิงหาคม 2564 – ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) เซรั่มและแชมพู ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น โดย บริษัท บอดี้ เวิร์คส์ จำกัด ผู้เชี่ยวด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะประเทศไทย นำเสนอคอนเซ็ปต์  ชิเซนแลบ ไม่เคยทิ้งผม …ผมก็จะไม่ทิ้งคุณ” โดยเปิดตัว นักแสดงหนุ่ม “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด เพื่อตอกย้ำผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเยี่ยม ที่ช่วยเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจในทุกกิจกรรมของผู้ชาย ปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีเส้นผมหนา ดกดำ สุขภาพดีนั้น เป็นส่วนหนึ่งให้เขายืนหนึ่งในตำแหน่งพระเอกตลอดกาล

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ‘ชิเซนแลบ’ (Shizenlabs) คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ‘ชิเซน’ (Shizen) หมายถึง ‘ธรรมชาติ’ ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อหลอมรวมกับนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ‘อินโนโกร’ Innogro™ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตจนกลายมาเป็น ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) ผลิตภัณฑ์จากความมุ่งมั่น พิถีพิถันสร้างสุขภาพจากภายใน สู่ภายนอก เพราะมนุษย์เรานั้น ปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างมีพลัง สุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้คนล้วนต้องการสิ่งที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก เพราะปราศจากผลกระทบจากสารเคมี

ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะสุดพรีเมียม ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)  ยึดหลักแนวคิด ‘อินโนโกร’ (Innogro™) ผสานคุณค่าทางวิทยาศาสตร์จากฝั่งตะวันตก และสมุนไพรจากฝั่งตะวันออกเพื่อที่จะขจัดต้นตอต่างๆของปัญหาผมหลุดร่วงผมบาง นอกจากนี้ Shizenlabs ยังได้คัดสรรสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด นำมาสกัดคุณค่าบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผ่านมาตรฐานการผลิตของญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่า ‘ประสิทธิภาพต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอ’ จึงเกิดเป็นนวัตกรรมสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งคุณค่าจากธรรมชาติแต่ละหยด ในระดับโมเลกุลที่ลงลึก จะช่วยปรับสมดุล ผลัดเซลล์ และแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ ‘ชิเซนแลบส์ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)  ยังถ่ายทอดศิลปะธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น ผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์บ่งบอกถึงสุนทรียศาสตร์ และความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้งาน เช่น หัวลูกกลิ้งของเซรั่ม ที่จะช่วยให้สะดวกขึ้นเวลาใช้ โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องนวด ดูดซึมเซรั่มเข้าสู่หนังศีรษะอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งมอบคุณค่าจากเมล็ดพันธุ์แห่งธรรมชาติที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และสร้างความรู้สึกดีทุกครั้งที่สัมผัส

‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) แชมพูและเซรั่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ได้นำส่วนผสมหลักสุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ ปาล์มเลื่อย (Saw Palmetto) มีคุณสมบัติป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชายเป็น DHT ช่วยแก้ปัญหาการหดตัวของรูขุมขน โสม (Panax Ginseng Root) เพิ่มการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอรโมนเพศชายเป็น DHT สำหรับ สึบากิ (Tsubaki) สารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะลดการอักเสบ ทำความเส้นผมให้สะอาดสดชื่น และถั่วเหลือง (Soyamine) อุดมด้วยสารไอโซฟลาโวน กระตุ้นการสร้างเซลล์เส้นผม ป้องกันการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชายเป็น DHT นอกจากส่วนผสมหลักแล้วยังมีสมุนไพรสุดพรีเมี่ยมอีก 14 ชนิด เช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, เมนทอล, เมล็ดกาแฟ, น้ำมันเปลือกส้ม, น้ำมันมะกรูด, น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันแมคคาเดเมีย, น้ำมันมะกอก, มดยอบ, ใบโรสแมรี่, พุดแสงอุษาและไบโอติน

*** DHT – Dihydrotestosterone ฮอร์โมนเพศชาย มีหน้าที่พัฒนาลักษณะทางเพศของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นการมีขนบริเวณต่างๆ ของร่างกาย การมีเสียงที่ทุ้มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และที่สำคัญทำให้เกิดอาการศีรษะล้าน-เถิกขึ้นได้

 

‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™)

3 ผลิตภัณฑ์ลดผมร่วง ผมบาง ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Serum for Men

ขนาด 40 มล. ราคา 1,590 บาท

ชิเซนแลบ อินโนโกร เซรั่มบำรุงผม ลดผมร่วง ผมบางสำหรับผู้ชาย โดยนวัตกรรมการผลิตจากญี่ปุ่น อุดมสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด อาทิ ปาล์มเลื่อย, โสม และส่วนผสมสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดปัญหาผมหลุดร่วงและเร่งการเจริญเติบโต เซรัมมาในบรรจุภัณฑ์รูปแบบของโรลเลอร์บอล จึงตรงเข้าสู่หนังศีรษะและแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดี

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Serum for Women

ขนาด 40 มล. ราคา 1,590 บาท

เซรั่มบำรุงผม ลดผมร่วง ผมบางสำหรับผู้หญิง โดยนวัตกรรมการผลิตจากญี่ปุ่น พร้อมสารสกัดธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุด  อาทิ ปาล์มเลื่อย, โสม และส่วนผสมสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ลดปัญหาผมหลุดร่วงและเร่งการเจริญเติบโต มาในรูปแบบของโรลเลอร์บอล จึงตรงเข้าดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้ง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดี

 

 

Shizenlabs Innogro

Shizenlabs Innogro™ Anti-Hair Loss Shampoo

ขนาด 200 มล. ราคา 590 บาท

แชมพู ลดผมร่วง สำหรับทุกสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยนวัตกรรมการผลิตสุดทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมสารสกัดที่ให้คุณประโยชน์สูงสุด อาทิ สึบากิ, ถั่วเหลือง และสมุนไพร 14 ชนิด จึงช่วยให้ผมนุ่มสลวย หวีง่าย ไม่ชี้ฟู  ปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญช่วยลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม ป้องกันไม่ให้เส้นผมถูกทำลายและเสียสมดุล พร้อมกลิ่นหอมและเย็นสดชื่นทันทีที่ใช้

สามารถซื้อ ‘ชิเซนแลบ อินโนโกร’ (Shizenlabs Innogro™) เซรั่มและแชมพู สุดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่นได้แล้ววันนี้ที่ ห้ามสรรพสินค้าสยามทาคาชิมายะ (Siam Takashimaya) และช่องทางออนไลน์ www.shizenlabs.com , Shopee และ Lazada

 

 

 

AP OPEN HOUSE 2021

เอพี ไทยแลนด์ ไม่หยุดปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ชูแนวคิด Design for Living มุ่งเสริมทักษะรีสกิล รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

AP OPEN HOUSE 2021
AP OPEN HOUSE 2021

• รักษาระยะห่างทางสังคม ยกระดับโปรแกรมการฝึกงานด้านอสังหาฯ ที่ดีที่สุด AP OPEN HOUSE 2021 ชูแนวคิด DESIGN FOR LIVING ปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ติดอาวุธเสริมทักษะรีสกิล ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบเจาะลึก Virtual Class เต็มรูปแบบ พร้อมโค้ชอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของเอพี

• ล่าสุด มอบ 5 รางวัลชนะเลิศนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ แก่นิสิตนักศึกษาที่มีผลงานโดดเด่น กับการปล่อยพลังไอเดียดีไซน์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตตอบโจทย์ยุคโควิด

ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ กับ โครงการ “AP OPEN HOUSE 2021” ต่อเนื่องปีที่ 6 ปั้นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ให้กับประเทศไทย ติดอาวุธ เสริมทักษะรีสกิล เอ็มพาวเวอร์ศักยภาพนิสิตนักศึกษา เตรียมพร้อมรับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ลงลึกทุกขั้นตอน ทั้งทักษะ องค์ความรู้ ศักยภาพ และสามารถก้าวเข้าสู่การทำงานในภาคธุรกิจอสังหาฯ อย่างมีคุณภาพ โดยเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมกับการยกระดับโปรแกรมการฝึกงานด้านอสังหาฯ ภายใต้แนวคิด Design for Living พร้อมการโค้ชแบบเจาะลึกผ่านแพลตฟอร์ม Virtual Class อย่างเต็มรูปแบบ ตลอดระยะเวลา 2 เดือน เพื่อให้การเรียนการสอนด้านอสังหาฯ สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไม่สะดุดเพราะวิกฤตโควิด

 

โดยสำหรับโครงการในครั้งนี้ มีนิสิตนักศึกษารวม 25 คน ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า 1,000 คน จาก 67 สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ
ล่าสุด เอพีได้จัดพิธี Virtual Award Ceremony มอบประกาศนียบัตรให้กับ 25 นักคิดนักสร้างสรรค์ รุ่นใหม่ พร้อมประกาศผลตัดสิน 5 ผู้แข่งขันที่มีผลงานโดดเด่น ทั้งประเภททีมและประเภทเดี่ยว

AP OPEN HOUSE 2021

นางสาวทิพวรรณ ศิริคูณ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เอพีในฐานะผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ AP OPEN HOUSE ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยสำหรับโปรแกรม DESIGN FOR LIVING ในครั้งนี้ เอพีมุ่ง เอ็มพาวเวอร์ศักยภาพนิสิตนักศึกษา สู่การเป็นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ให้พร้อมเข้าสู่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการสร้างคนคุณภาพ ที่จะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ตลอดจนการใช้ชีวิต Next Normal ในปัจจุบัน สำคัญมากที่บุคลากรในภาคอสังหาฯ ต้องสามารถหาและถอดรหัสตีความ Unmet Need ที่ลูกค้ามองหาอย่างลึกซึ้งภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่รอบด้าน สู่การนำเข้ากระบวนการคิดสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและวิธีการใหม่ๆ เพื่อแก้ pain point ของลูกค้า เพื่อเอ็มพาวเวอร์ชีวิตและประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“แม้ว่าวิกฤตโควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย แต่เอพีกลับมองเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพราะเรื่องของการสร้างคนคุณภาพ โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ๆ สู่วงการอุตสาหกรรมนั่นเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่แพ้การประคับประคองธุรกิจที่ไม่สามารถหยุดพักได้เช่นเดียวกัน จึงนำมาสู่การยกระดับโครงการ AP OPEN HOUSE 2021 ชูแนวคิด DESIGN FOR LIVING – ออกแบบการใช้ชีวิต รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นรายแรกของวงการ โดยจัดกิจกรรมฝึกงานด้านอสังหาฯ ผ่าน Virtual Class แบบ 100% ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งคงความเข้มข้นของ เนื้อหา องค์ความรู้ รีสกิลและทักษะชีวิต กระบวนการทำงานจริงในวิถีใหม่แบบเจาะลึก พร้อมดีไซน์เกณฑ์ประเมินผลทั้งการทำงานกลุ่มและงานเดี่ยว รวมถึง Mentor ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และทีมผู้บริหารเอพีและพาร์ทเนอร์แถวหน้าจากหลากหลายวงการ” นางสาวทิพวรรณ กล่าวเสริม

โครงการ AP OPEN HOUSE 2021 โปรแกรม DESIGN FOR LIVING ได้เปิดรับสมัครนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมโครงการเมื่อเดือน ก.พ. 2564 และได้คัดเลือกอย่างเข้มข้น กระทั่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ 25 คน (จากผู้สมัครกว่า 1,000 คน จาก 67 สถาบันอุดมศึกษา) เข้าร่วมเรียนรู้ผ่าน Virtual Class เป็นระยะเวลา 2 เดือน ภายใต้คำแนะนำของพี่ๆ Mentor ผู้เชี่ยวชาญจากเอพี ทั้งนักการตลาด นักออกแบบ เพื่อเติมเต็มศักยภาพการเป็น นักคิด นักพัฒนาอย่างมืออาชีพ ด้วยสาระความรู้แบบจัดเต็มผ่าน 4 คลาสหลัก เริ่มต้นจาก Design Thinking”  จาก Stanford Center for Professional Development สอนโดย YourNextU by SEAC บริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการสอน Design Thinking ซึ่งเป็นหลักสูตรออริจินอลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกด้านนวัตกรรม ที่ช่วยให้ค้นพบ Unmet Need และเข้าใจ Living Experience ที่ลูกค้ามองหา พร้อมได้รับ Certificate การันตีจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นอกจากนี้

AP OPEN HOUSE 2021

AP OPEN HOUSE 2021

ผู้ร่วมกิจกรรมยังได้ความรู้เรื่องเทรนด์ก่อนใคร อัปเดตและเข้าใจแนวทางการสร้างเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต ที่จะทำให้ทุกคนเป็นนักการตลาด ตัวจริง รู้จักกระบวนการคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ AP OneClickNewHome ทัวร์ชมโครงการเสมือนจริงพร้อมฟีเจอร์ขายโครงการตอบยุค Next Normal  และรู้ลึกข้อมูลลูกค้าเป้าหมายผ่านเครื่องมือ Digital Marketing จุดตั้งต้นการพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัย จากโจทย์ Final  Project ที่ท้าทายในคอนเซ็ปต์ DESIGN FOR LIVING – ออกแบบการใช้ชีวิต รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ให้ผู้ร่วมแข่งขันได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบนวัตกรรมสินค้าและบริการ เพื่อยกระดับการใช้ชีวิต รองรับเทรนด์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย โดยผลงาน “คุณวาน แชทบอต” คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทกลุ่มไปครอง และจัดมอบประกาศนียบัตร AP OPEN HOUSE CONTEST 2021 ในรูปแบบ Virtual Ceremony

AP OPEN HOUSE 2021

นางสาวจิรชยา บุญมาก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตัวแทนผู้ชนะประเภทกลุ่ม เล่าให้ฟังว่า “คุณวาน แชทบอท เป็นคอนเซ็ปต์การสร้างแพลตฟอร์มเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ในการบริหารจัดการเวลาคนเมือง โดยเฉพาะในช่วงของการ Work from Home ที่ตารางการทำงานมักจะซ้อนทับกับเวลาส่วนตัว โดยเฉพาะคนเมืองรุ่นใหม่ ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพียงคนเดียว ที่มีปัญหาการหักโหมทำงานจนอาจนำไปสู่ภาวะความเครียด ซึมเศร้า เป็นต้น โดยแนวคิดของ คุณวาน แชทบอทนี้ จะมี AI ค่อยทำงานในการช่วยคำนวณวันและเวลาว่างที่ตรงกันของลูกค้าและเพื่อนๆ ในกลุ่ม ให้สามารถนัดเจอแบบ Virtual แม้ในช่วงของการที่ยังต้องรักษาระยะห่างทางสังคม แต่จากการถอดรหัสจากกลุ่มตัวอย่างการนัดเจอเพื่อนๆ หรือครอบครัวแม้จะเป็นในรูปแบบการเสมือนจริงนั้น ก็ช่วยคลายความเหนื่อยล้า ความเหงา เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน สร้างพลังบวกได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการมี AI ที่ช่วยคำนวณเวลาว่างให้ ทำให้การนัดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นจริงได้ ไม่ล่ม ช่วยให้หมดปัญหาการหาวันว่างที่ตรงกับเพื่อน โดยทางกลุ่มได้ทำการทดลองหลายรอบจนในที่สุดได้เป็นโปรโตไทป์ คุณวาน เวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้และยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกในอนาคต”

AP OPEN HOUSE 2021

ด้านนายปวเรศ เทวหสกุลทอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทเดี่ยว กล่าวว่า “AP OPEN HOUSE โปรแกรม DESIGN FOR LIVING ในครั้งนี้ได้มอบโอกาสและมอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เป็นการเรียนรู้เทรนด์การตลาดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะยกระดับการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ รวมถึงหลังจากจบหลักสูตรของโครงการแล้ว เกิดความเข้าใจในระบบการทำงานด้านอสังหาฯ ชัดเจนขึ้น ตั้งแต่แนวคิด กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ และที่สำคัญคือการได้มีโอกาสมาเรียนรู้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking อย่างเจาะลึกจากหลักสูตรต้นฉบับ ผ่านการลงมือทำจริง ทำให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ซึ่งส่วนตัวมองว่าสามารถนำไปต่อยอด ทั้งในเรื่องกระบวนการความคิดในชีวิตส่วนตัว การเรียน และการทำงานในอนาคต ต้องขอบคุณเอพี พี่ๆ Mentor และโค้ชทุกท่านมากๆ ที่ได้จัดโครงการที่ดีๆ เช่นนี้ รวมถึงความใส่ใจ ห่วงใย และการดูแลอย่างทั่วถึงที่มีให้น้องๆ ทุกๆ คนที่เข้าร่วมโครงการ และสุดท้ายยังได้ Networking จากเพื่อนๆ ในคลาส ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากสำหรับผมและเพื่อนๆ ครับ อยากให้โครงการดีๆ แบบนี้จัดอย่างต่อเนื่อง”

AP OPEN HOUSE 2021

AP OPEN HOUSE 2021

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ มุ่งส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น และแนะวิธีป้องกัน

Alternative Textaccount_circle
แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น
แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น และแนะวิธีป้องกัน

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนอันตรายจาก น้ำยาทาเล็บ เป็นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง อุบัติการณ์ เป็น 1 – 3 เปอร์เซ็นต์ ในผู้ใช้บริการและผู้ที่ประกอบอาชีพ สีที่มีการแพ้บ่อยคือ สีแดง พร้อมแนะวิธีป้องกันและการรักษาที่ถูกวิธี

ทาเล็บสีแดง

แพทย์ผิวหนังเตือนคนที่นิยม ทาเล็บสีแดง มีโอกาสแพ้มากกว่าสีอื่น

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การทาสีเล็บโดยทั่วไป สีที่มีการแพ้บ่อยคือ สีแดง สารเคมีที่พบการแพ้บ่อยที่สุดคือ โทซิลาไมด์ ฟอร์มาดีไฮด์เลซิน เบนโซฟรีโนน ไดบิลทิลทาลเลตฟอร์มาดีไฮด์ ส่วนการต่อเล็บแบบอะคริลิค มักแพ้ส่วนประกอบของกาว เรียกว่า cyanoacrylate ส่วนประกอบในขั้นตอนการรองพื้น และขั้นตอนการเคลือบเล็บสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้บ่อยคือ methacrylate ส่วนการทาสีเจล มีสาร methacrylate ก่อภูมิแพ้เช่นเดียวกับการต่อเล็บอะคริลิค

ทาเล็บสีแดง 2

วิธีสังเกตอาการแพ้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแพ้สังเกตได้หลังจากทาเล็บ 1 – 2 วัน รอบเล็บที่แพ้จะบวม แดง คัน ชาที่ปลายนิ้ว รวมถึงบริเวณที่เล็บไปสัมผัส เช่น รอบตา ริมฝีปาก ใบหน้า ลำคอ เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้ไปสัมผัสบริเวณดังกล่าว ในการต่อเล็บอะคริลิค และการทาสีเจล อาจมีอาการเล็บแห้ง หลุด ลอก เล็บเปลี่ยนสีได้

ทาเล็บสีแดง 3

วิธีป้องกันและการรักษาที่ถูกวิธี

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การป้องกัน คือ หลีกเลี่ยงการทาสีที่แพ้ การเลือกน้ำยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมี การรักษาสามารถทำได้โดยการทายาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ การเคลือบปกป้องผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อปกป้องชั้นผิวหนังกำพร้าจากการสัมผัสสารเคมี และสามารถทำการทดสอบผื่นแพ้สัมผัส patch test ที่อ่านผลโดยแพทย์ผิวหนัง


ข้อมูล : กรมการแพทย์
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฝ่าฝืนปรับ 1 แสน! ราชกิจจาฯ ประกาศห้ามใช้ ครีมกันแดด ที่มีสารเคมีอันตรายเข้าอุทยานฯ

พักกลอสฉ่ำๆ! รวบตึงลิป 4 แบบสวมแมสก์แล้วรอด พร้อมทริคเลือก ลิปติดแน่น สไตล์จีซู

สวยแท้แม้ปิดแมสก์ แนะ 3 บลัชออนสีน่ารัก ปัดแล้วพวงแก้มสวยระเรื่อ ดูอ่อนเยาว์

 

เสื้อสไตล์แหวกอก

ยั่วๆ บดๆ เสื้อสไตล์แหวกอก ยอดขายพุ่ง หลังนางแบบเอลิสต์ใส่กันให้ลึ่ม

account_circle
เสื้อสไตล์แหวกอก
เสื้อสไตล์แหวกอก

ปั๊วะปัง ยั่วๆ บดๆ เสื้อสไตล์แหวกอก หรือ The curtain reveal กำลังฮ็อตฮิตสุดๆ ยอดขายพุ่งกว่า 78% หลังนางแบบ และซุป’ตาร์ระดับเอลิสต์หยิบมาใส่กันให้ลึ่ม

มาแรงสุดๆ สำหรับ The curtain reveal เสื้อสไตล์แหวกอก กลัดด้วยเข็มกลัด สุดเซ็กซี่ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ นางแบบ เซเลบฯ และนักแสดงฮอลลีวู้ด และกำลังเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับสาวๆ เพราะหลังจากนักแสดงสาว เมแกน ฟ็อกซ์ ได้สวมเสื้อสไตล์นี้จากแบรนด์ Jacquemus ส่งผลให้การค้นหาของสินค้าชิ้นนี้พุ่งสูงขึ้นถึง 52% ใน 48 ชั่วโมง

 เสื้อสไตล์แหวกอก

 เสื้อสไตล์แหวกอก

 เสื้อสไตล์แหวกอก

ทั้งนี้นิตยสารชื่อดังได้อธิบายว่า The curtain reveal กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เมื่อเหล่านางแบบเอลิสต์ไม่ว่าจะเป็น เคนดัล เจนเนอร์, เบลล่า ฮาดิด, เอมิลี่ ราทาจโคว์สกี้, ไคอา เกอร์เบอร์ และ เฮลลี่ บีเบอร์ หยิบมาใส่

นอกจากนี้ เว็บไซต์ Lyst ได้รายงานการค้นหาว่า ‘เสื้อผูกหน้า’, ‘เสื้อลูกไม้’ และ ‘เสื้อสายเดี่ยว’ มีการค้นหาถึง 78% ในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ PrettyLittleThing รายงานว่ามีการค้นหาเพิ่มขึ้น 841% นับตั้งแต่เริ่มเทรนด์


 

keyboard_arrow_up