“แพทตี้-พริษฐ์ชยาดา พิริยะเมธา” แชร์ทิปส์เติมสวย ถึงเป็นคุณแม่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยตัวโทรม

แพทตี้ – พริษฐ์ชยาดา พิริยะเมธา เจ้าของเพจ Forever on Vacation เจ้าของแบรนด์ เสื้อ dustymiller และดูแลการตลาดให้ร้าน Chocolate Ville รวมถึงล่าสุดกับบทบาทคุณแม่มือใหม่ของ น้องเวนิส – เวนิสา เจนอัครเศรษฐ์ วัย 1 ขวบ วันนี้เธอพกความสวย รูปร่างฟิตเฟิร์มมาเผยทุกเคล็ดลับว่า ทำอย่างไรจึงเป๊ะได้เบอร์นี้

Beauty Routine

Routine“ถ้าเป็นเรื่องบำรุงผิว แพทลงทุนกับสกินแคร์มากค่ะ แต่ละวันใช้ประมาณ 10 ขั้นตอน ใครว่าตัวไหนดี ขอซื้อมาลอง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โชคดีที่ผิวไม่แพ้ง่าย ไม่มีสิวหรือริ้วรอยที่น่าห่วง แค่ต้องระวังไม่ให้ผิวแห้งค่ะ

“สำหรับตอนเย็น พอกลับถึงบ้านจะล้างเครื่องสำอางด้วย Balancing Cleansing Oil ของ THREE เรียกว่าใช้ตัวเดียวจบ ทั้งมาสคารา ลิปสติก ออกหมด จากนั้นต้องตามด้วยโฟมล้างหน้า Clinique Rinse-off Foaming Cleanser ใช้มาหลายหลอดแล้ว ไม่เคยนอกใจเลย หน้าสะอาดดีแล้วซับเบาๆ ก่อนหยดโทนเนอร์ของ Kiehl’s Calendula Toner บนสำลีให้ชุ่ม เช็ดทั่วใบหน้า ตัวนี้เหมาะกับวันที่ไม่ได้แต่งหน้าจัด แต่ถ้าวันไหนแต่งหน้าเยอะ ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษ จะใช้โทนเนอร์ของ Pixi Glow Tonic รับรองว่าสะอาดชัวร์

“หลังจากที่โทนเนอร์ซึมลงผิวจนแห้งแล้ว ก็ถึงคิวของน้ำตบ แพทชอบลองของใหม่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ปลื้ม Lamer Treatment Lotion มาก รู้สึกเลยว่าเนื้อบางเบา แต่ซึมดี ผิวดูฉ่ำน้ำทันที ใช้สลับกับ Lancóme Clarifique Double Essence ก็เริด บางวันถ้าต้องการบำรุงเยอะๆ แพทใช้ทั้งสองอย่างเลยค่ะ

“หลังจากน้ำตบก็ต่อด้วยเซรั่ม Biotherm Life Plankton Serum ใช้แล้วหน้าใสวิ้ง แต่ถ้าช่วงไหนผิวแห้งกร้านจะเพิ่ม Dior Capture Youth Intense Rescue เป็นออยล์เบสเซรั่มที่ต้องมีติดบ้านไว้เสมอ ช่วยเรื่องริ้วรอยตื้นๆ กับเรื่องความแห้งกร้าน ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเลยว่าผิวนุ่มดีจัง

“จากนั้นถึงคิวของครีม เบอร์หนึ่งของแพทคือ Kanebo The Exceptional ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าทั้งหมดทั้งมวลของมนุษย์ผู้หญิง ทั้งจุดด่างดำ ความแห้งกร้าน ริ้วรอย ตื่นขึ้นมารับรองผิวเด้งฉ่ำ จากนั้นค่อยทาออยล์ ใช้แค่ 2 – 3 หยด แตะทั่วหน้าและคอ ตอนนี้ชอบ Panpuri Aruna Youth ใช้สลับกับ Rosehip Oil ปิดท้ายด้วย Overight Mask ของ Biotherm Life Plankton Mask เนื้อเจล เบาๆ เย็นผิว สบายหน้า สบายใจ เข้านอนได้แล้วค่ะ

“สำหรับกลางวัน สเต็ปการใช้เหมือนตอนกลางคืน แต่ตัดออยล์ออก ไม่ให้มันเกินไป แล้วใช้ครีมกันแดดของ Kanebo Global Skin Protector SPF 50+ PA++++ แพทใช้มานานแล้ว เนื้อเนียนนุ่ม ไม่มัน อยู่ทนโดยไม่ต้องเติมระหว่างวัน ใช้ได้ทั้งเวลาอยู่ในเมืองและไปทะเล แนะนำสาวๆ ว่า เวลาทาครีมกันแดดต้องทาทั่วหน้า แม้กระทั่งเปลือกตาก็ไม่ควรเว้นนะคะ”

อยากหน้าสวย ต้องหาหมอที่ใช่

“นอกจากสกินแคร์แล้ว แพทก็พึ่งหมอพอสมควร ทั้งทำทรีตเมนต์ อัลเทอร่า เทอร์มาจ ฉีดฟิลเลอร์ และฉีดโบท็อกซ์ช่วยด้วยค่ะ อย่างอัลเทอร่ากับเทอร์มาจปีละครั้งก็พอ ส่วนโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ 4 – 5 เดือนเติมครั้งหนึ่ง สำหรับโบท็อกซ์ แพทฉีดแค่หน้าผากเท่านั้น เพราะถ้าฉีดทั่วหน้าจะดูไม่ธรรมชาติ ส่วนฟิลเลอร์ฉีดปีละครั้ง ตรงใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม เพื่อความดูดีแบบองค์รวม (ยิ้ม)

“แต่ต้องหาหมอที่ทำให้เราสวยด้วยนะ เพราะของแบบนี้คล้ายงานศิลปะ หมอต้องเป็นอาร์ติสต์ กว่าแพทจะเจอหมอที่คลิกก็ผ่านการลองผิดลองถูกมาพอสมควร เคยเจอที่ไม่ถูกใจบ้าง ทั้งๆ ที่เลือกร้านมีมาตรฐานแล้วนะคะ เพราะบางทีหมออาจจะทำให้เพื่อนเราสวย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราสวยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาไปหาหมอ เราต้องบอกความกังวลให้ละเอียด ขณะเดียวกัน หมอก็ต้องมองภาพเดียวกับเราได้ นั่นแหละจึงจะออกมาใช่ ตอบโจทย์อย่างใจเรา”

ผิวสวย & ร่างเฟิร์มแบบคุณแม่

“ตอนท้องแพทผิวตัวแห้งและคันมาก ลองใช้ครีมอาบน้ำของ L’OCCITANE Almond Shower Oil คือนอกจากกลิ่นดี แพ็คเกจจิ้งดีแล้ว ผิวยังนุ่มชุ่มชื้นสุดๆ จึงใช้มาตลอด พออาบน้ำเสร็จ ตัวเปียกหมาดๆ ให้ลงออยล์บำรุงผิวทันที ชอบของ Susanne Kaufmann กลิ่นดีมากค่ะ ส่วนออยล์ของ L’OCCITANE กับ Clarins ก็ดี อย่างคลาแรงส์ใช้แล้ว ท้องไม่แตกลายเลย หรือถ้าง่ายที่สุดคือ น้ำมันมะพร้าวก็ดีงามเหมือนกันค่ะ

“จากนั้นทาโลชั่นทั้งตัว สำหรับว่าที่คุณแม่ แพทแนะนำบัตเตอร์ครีมของ Endota คือดีที่สุด เน้นทาตรงท้อง สะโพก หน้าอก นอกจากไม่เจออาการแตกลาย ผิวยังเนียนประหนึ่งไม่เคยท้อง นอกจากสรรพคุณแล้ว แพทยังเน้นโลชั่นที่แพ็คเกจจิ้งสวย กลิ่นผู้หญิงหวานๆ ออกแนวฟรุตตี้หน่อยอย่าง Jo Malone, L’OCCITANE และ Dior ทาแล้วสดชื่น ส่วนแฮนด์ครีมก็ขาดไม่ได้ ต้องพกในกระเป๋าตลอด ชอบกลิ่นสปาอย่าง Divana, THREE หรือ L’OCCITANE

“สำหรับผิวหน้าเจอวิกฤติเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีฝ้าหรือกระเลย ปรากฏว่ามีน้องแล้วขึ้นเฉย คุณหมอบอกว่ามันคือฝ้าลึกๆ ที่เคยมีอยู่แล้ว พอตั้งท้อง เม็ดสีเข้มขึ้นจึงเห็นชัด ตอนนั้นเครียดมากเลยค่ะ อยากเลเซอร์ ซึ่งตอนนั้นแพทท้องไตรมาสแรก คุณหมอไม่อนุญาต เพราะจะอันตรายกับน้อง จึงใช้วิธีทาครีมกันแดดแบบจริงจัง แม้จะอยู่บ้านก็ต้องทา ปรากฏว่าพอคลอดปุ๊บ ทั้งฝ้าและกระหายไปเหมือนดีดนิ้ว เดาว่าคงเพราะฮอร์โมน

“ส่วนเรื่องรูปร่าง ก่อนท้องแพทหนัก 49 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักที่มากที่สุด ตอนท้องคือ 63 ตอนท้องว่ายน้ำบ้าง และให้ครูมาสอนโยคะที่บ้าน เพื่อให้กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้คลอดง่าย เหมาะสำหรับใครที่อยากคลอดลูกเอง แต่แพทกลัวเจ็บ ที่สุดก็ตัดสินใจผ่าค่ะ ส่วนเรื่องอาหารกินตามใจปากทุกอย่าง ที่แปลกคืออะไรที่ไม่ชอบกลับชอบ ประหลาดมาก เดิมแพทไม่ชอบมังคุด แต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายกินวันละ 2 กิโลทุกวัน โชคดีที่น้ำตาลไม่ขึ้น แต่พอคลอดปุ๊บ มังคุดก็ไม่ใช่ของโปรดเหมือนเดิม

“หลังจากคลอด ช่วงที่น้ำหนักลดลงเยอะคือ 2 เดือนแรก ลงไปเกือบเท่าเดิมเลยค่ะ ทั้งที่แพทแทบไม่ออกกำลังกายเลย แค่ให้นมเท่านั้น ซึ่งการให้นมแต่ละครั้งเหมือนเราไปว่ายน้ำมา จะเหนื่อย โหย หิว น้ำหนัก จึงลงเร็ว พอผ่านไป 3 เดือน แผลผ่าตัดหายดีแล้ว ก็ให้เทรนเนอร์มาสอนเล่นบอดี้เวตสัปดาห์ละครั้ง สารภาพว่าแพทขี้เกียจ ไม่ใช่สายออกกำลังกาย แต่ก็ต้องทำไว้บ้าง เพราะไม่อยากมีเซลลูไลต์ พอครบ 5 เดือนหลังคลอด น้ำหนักกลับมาอยู่ที่ 49 เหมือนเดิมเป๊ะ”

ผมบลอนด์ต้องมา!

“งานผมต้องบอกว่ามหากาพย์ เพราะเพิ่งย้อมบลอนด์เป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนหน้านี้ไม่กล้าเพราะกลัวผมเสีย แต่นี่คือสีที่อยากทำ กลัวว่าถ้าอายุเยอะกว่านี้จะทำไม่ได้ แพทให้ช่างมาทำให้ที่บ้าน เพราะใช้เวลาทำ 6 ชั่วโมง ต้องกัดสี 2 รอบ

“สำหรับคนทำสีผม แพทแนะนำแชมพูของ Schwarzkopf BlondMe Keratin Restore Bonding Shampoo ใช้ตัวนี้ยืนพื้น เพราะมีส่วนผสมของเคราติน ช่วยให้ผมแข็งแรง บางวันก็สลับกับ Schwarzkopf Goodbye Yellow เหมาะกับผมบลอนด์ ช่วยไม่ให้สีเปลี่ยน นอกจากนี้ทุกสัปดาห์จะหมักผมด้วย Alfaparf Milano Semi Di Lino Reconstruction Reparative Mask เป็นครีมหมักสูตรเยื่อไผ่ ช่วยให้ผมที่ผ่านการทำเคมีไม่เปราะขาด ชอบมาก เริดที่สุดในบรรดาครีมหมักผมที่เคยใช้ เท่านั้นไม่พอ แพทลงทุนซื้อหมวกอบไอน้ำไว้ที่บ้าน พอหมักด้วยครีมตัวนี้ก็อบไอน้ำ 20 นาที…ผมจะนุ่มเชียว

“แต่ถ้ามีเวลาจะไปหมักผมที่ร้าน เขามีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Olaplex เป็นตัวเชื่อมพันธะแกนผมไม่ให้ขาดจากกัน ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงมากขึ้น เหมาะกับผมที่โดนเคมีมาก”

Make up, Make Fresh

“สำหรับ Everyday Look แพทให้ความสำคัญกับงานผิว เพราะถ้าผิวดีก็ไม่ต้องแต่งเยอะ ก่อนแต่งหน้าต้องฉีดน้ำแร่แล้วซับความมันออก จากนั้นลงไพรเมอร์ ซึ่งมีหลายแบรนด์มาก ทั้ง It Cosmetics, Naked Urban Decay, Shu Uemura แต่ที่เด็ดคือ Kanebo The Primer ได้งานผิวอมชมพูและช่วยให้เมคอัพติดทน ใช้ได้ทุกวัน สำหรับรองพื้นจะใช้เฉพาะวันที่ออกงาน ถึงอย่างนั้นก็ยังซื้อมาลองทุกยี่ห้อที่เขาว่าดี ทั้ง Kanebo, Tom Ford, Yves Saint Laurent, Hourglass เหล่านี้จะให้งานผิวเนี้ยบกริบ แต่ถ้าอยากดูเป็น ธรรมชาติ แนะนำ Shu Uemura Unlimited Glow ไม่เน้นการปกปิด แต่ช่วยเรื่องปรับสีผิว มีความโกลว์เป็นธรรมชาติ เทคนิคการทารองพื้นให้เนียนคือ ฉีดน้ำแร่ลงบนพัฟฟ์ จากนั้นค่อยๆ เกลี่ยรองพื้น รับรองความใสฉ่ำน้ำ

“สำหรับคอนซีลเลอร์ แพทชอบ Hourglass เวลาทาจะใช้แปรงเกลี่ยหรือไม่ก็ใช้ฟองน้ำ ทำให้คอนซีลเลอร์ไม่ตกร่อง เสร็จแล้วเขียนคิ้ว แพทชอบพาเล็ตต์เขียนคิ้วของ Dior และใช้มาสคาราปัดขนตาของ Etude House Dr. Mascara Fixer For Perfect Lash ปัดทับ คิ้วจะตั้งสวย ขณะเดียวกันพอทำผมบลอนด์ สีคิ้วก็สำคัญนะ ต้องให้ช่างผมกัดสีคิ้วให้อ่อนลงนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นคิ้วจะเข้มโดด

“จุดที่แพทไม่ค่อยเน้นคือตา อย่างอายไลเนอร์ปกติจะไม่เขียนเลย ปัดแค่ขนตาอย่างเดียว อายแชโดว์ก็ลงบางๆ ตามด้วยบลัชออน ชอบโทนพีช เพราะเหมาะกับผิวเหลือง อย่าง Nars สี Orgasm รู้สึกเลยว่าใช่ และตลับหนึ่งใช้ได้ ชั่วลูกชั่วหลาน นานมากกว่าจะหมด ส่วนบรอนเซอร์ ไฮไลต์ และแป้งฝุ่น แพทใช้ของ Hourglass ที่งานผิวเขาขึ้นชื่อว่าสุดยอด

“พอถึงงานปาก แพททา Dior Lip Glow ทุกวัน ปกติไม่เคยใช้ลิปสติกหมดแท่งเลยนะคะ แต่แท่งนี้คือหมดค่ะ แต่ถ้าให้โหวตลิปสติกในดวงใจ ที่มีเยอะที่สุดคือ Yves Saint Laurent ประมาณ 20 แท่ง ชอบตรงที่ถ้าหากเป็นเนื้อแมตต์ก็ไม่แห้งมาก ส่วนกลอสก็ติดทน พิกเมนต์สีแน่นและทาง่าย รองลงมาคือ M.A.C กับ Dior แพทชอบโทนสีสดใสอย่างชมพู ส้ม พีช ส่วนโทนนู้ด ไม่ค่อยถนัด แต่ด้วยความเป็นผู้หญิง เราก็มีครบทุกสี (หัวเราะ) ตั้งแต่ม่วง เบอร์กันดี จนถึงนู้ดที่คิดว่าไม่ใช่ ก็ยังมีติดบ้านไว้ก่อน เผื่อออกงาน

“ระหว่างวันแพทแทบไม่ได้ทัชอัพเลยค่ะ ใช้แค่แป้งตลับไม่ผสมรองพื้น ของ Naked Urban Decay แตะตรงร่องจมูกกับพกลิปสติกไว้เติมบ้างเท่านั้น”

คุณแม่…อย่าหยุดสวย

“แพทเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนต้องยุ่งจากการดูแลลูกจนอาจจะเหนื่อยกับการ แต่งหน้า แต่งตัว…ไม่ได้นะคะ เราจะโทรมไม่ได้ อย่างแพทแม้จะอยู่บ้านก็ยังต้องแต่งหน้ากรุบกริบเล็กน้อย คือการแต่งหน้าเหมือนไปอาบน้ำ มันช่วยให้เราสดชื่น ถึงจะเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ถ้าปล่อยให้หน้าโทรม ส่องกระจกทีไรจะรู้สึกเหมือนโดนดูดพลังชีวิต

“สำหรับแพทการเลี้ยงลูกต้องบาลานซ์กับการใช้ชีวิตด้วย คือแพทรู้ตัวว่า ถ้ามีลูกต้องติดลูกมาก เราก็กลัวว่าชีวิตด้านอื่นจะหายไป ทั้งงาน ความสัมพันธ์กับสามีหรือเวลาที่มีให้เพื่อน ก็พยายามบอกตัวเองว่าวันหนึ่งลูกต้องไปมีชีวิตของเขา เขาจะไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดกาล อย่าลืมพาร์ตอื่นของชีวิตเราเองด้วย “มาสร้างความแฮ็ปปี้เล็กๆ ด้วยการออกกำลังกาย แต่งหน้า แต่งตัว สวยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ”

---

ข้อมูลและภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 973 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“เอพริล-นภัสรดา กาญจนเจริญ” แชร์ทริคสวยโกลว์จากภายใน สดใส สุขภาพดี

“แอน ทองประสม” แชร์ประสบการณ์ออกกำลังกายยังไงให้ได้ผล กี่วันต่อสัปดาห์ ทำอะไรบ้าง

นวดหน้าสไตล์คุณนายเบ็คแฮม “Victoria Beckham” ลดอาการหน้าบวม ผิวยกกระชับ