อั้ม พัชราภา

คลาสสิกซ่อนความน่ารัก! ส่องกระเป๋าเป้ CHANEL สไตล์ญี่ปุ่น ของ ‘อั้ม พัชราภา’

Alternative Textaccount_circle
อั้ม พัชราภา
อั้ม พัชราภา

ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กมัธยมอีกครั้ง เมื่อเห็นนักแสดงตัวท็อปของเมืองไทยอย่าง อั้ม พัชราภา สะพายกระเป๋าเป้ดีไซน์น่ารักให้ความรู้สึกเหมือนนักเรียนญี่ปุ่นเบา ๆ ไปเที่ยวไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัย

เมื่อพูดถึงเรื่องแบรนด์เนมแล้วเธอยังเป็นอีกคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการสะสม ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Hermès หรือ CHANEL รวมถึงแบรนด์อื่น เธอก็ไม่เคยพลาดใบเด็ด ๆ เลยสักใบ มั่นใจได้เลยว่าถ้าช้อปตามอั้มแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอน

สำหรับ CHANEL ใบที่ ‘อั้ม พัชราภา’ สะพายหลังอยู่นี้ ดีไซน์ทุกอย่างคล้ายกับ CHANEL Large Backpack ที่เจนนี่ BLACKPINK เคยสะพายไปไหนมาไหนอยู่พักหนึ่ง เพียงแต่กระเป๋าใบนี้ไม่ได้เคลือบเงา ทำให้ได้เห็นลวดลายของหนังชัดเจน มาพร้อมกับสายสะพายที่มีความยาวสายกำลังพอดี ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่คลาสสิกแต่ดูน่ารักแล้วยังมาพร้อมความจุ 31.5 × 31 × 9 เซนติเมตร เรียกได้ว่าใส่ของได้จุใจแน่นอน เหมาะสำหรับการพกไปเที่ยวต่างประเทศสุด ๆ สำหรับราคาใบนี้อยู่ที่ 181,500 บาท

ภาพ : Instagram @aum_patchrapa

นาฬิกาหรู

ซื้อบ้านแถมรถ! เจาะลึก “นาฬิกาหรู” ของเหล่าคนดังที่ราคาแต่ละเรือนไม่ธรรมดา

account_circle
นาฬิกาหรู
นาฬิกาหรู

หนึ่งในการแสดงออกถึงการประสบความสำเร็จ สำหรับหลายคน สะท้อนมายัง “นาฬิกาหรู” ระดับไฮเอนด์ที่เป็นดั่งสินทรัพย์มีมูลค่า วันนี้แพรว จะพามาเจาะลึกนาฬิกาหรูของคนดังที่แต่ละเรือนไม่ธรรมดา

ซื้อบ้านแถมรถ! เจาะลึก “นาฬิกาหรู” ของเหล่าคนดังที่ราคาแต่ละเรือนไม่ธรรมดา

Georgina Rodríguez

จอร์จิน่า โรดริเกซ ภรรยาคนสวยของคริสเตียโน โรนัลโด และหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ทรงอิทธิพล ลุคเดินทางบนเครื่องบินส่วนตัวขณะเดินทางไปซาอุดีอาระเบียหรูจัดเต็มด้วยเครื่องประดับเพชร เบอร์กิ้นหนังจระเข้ และนาฬิกา Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Detono ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 18k หน้าปัดสีเขียว Bright Green โครโนกราฟ  สาย Oyster

นาฬิกา Rolex รุ่น Oyster Perpetual Cosmograph Daytona นับเป็นไอคอนิกแห่งความสปอร์ตที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาด้วยการผสานความแม่นยำและความทนทาน ทำให้เรือนเวลารุ่นนี้เป็นอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผจญภัยในทุกช่วงของชีวิต

Cristiano Ronaldo

มาที่ฟากคริสเตียโน โรนัลโด เดินทางไปเซ็นสัญญากับอัล นาสเซอร์ในซาอุดีอาระเบียทั้งที ออปชั่นต้องท็อปฟอร์ม  กับนาฬิกายูนีคพีซแบรนด์หรู Jacob & Co Caviar Tourbillon Tasavorites สนนราคาราว 770,000ดอลลาร์สหรัฐ

นาฬิกาสุดหรูเรือนนี้เป็นหนึ่งในรุ่นมาสเตอร์พีซที่รวมความพิเศษในการสร้างสรรค์ระหว่างช่างฝีมือจิเวลรี่และช่างฝีมือนาฬิกาชั้นสูงไว้ด้วยกันตัวเรือนทองคำขาวขนาด 47 มิลลิเมตร ซึ่งทั้งหน้าปัด ตัวเรือน และเม็ดมะยมเตะตาด้วยซาโวไรต์ชั้นเยี่ยมเจียระไนทรงบาแก๊ตต์ในเฉดสีไล่โทนกันถึง 388 เม็ด ราว 38.57 กะรัต เพื่อสร้างมิติในทุกมุมมอง เฉพาะเวลาที่ใช้สรรหาซาโวไรต์สีที่ใช้ทุกเม็ดก็ยาวนานถึง 3 ปี ส่วนยอดเม็ดมะยมประดับมรกตเจียระไนโรสคัต 1 เม็ด น้ำหนัก 1.20 กะรัต สายหนังแอลลิเกเตอร์ ตัวล็อกสายทองคำขาว 18k ประดับซาโวไรต์ ทรงบาแก็ตต์ 18 เม็ด ราว 1.77 กะรัต

Zedd

เซดด์ หรืออันทอน ซาสลัฟสกี ดีเจเชื้อสายรัสเซีย – เยอรมันที่มีผลงานเพลงมากมาย เลือกนาฬิกา Rolex Oyster
Perpetual Yacht-Master 40 ซึ่งในเวอร์ชั่นล่าสุดโดดเด่นด้วยการประดับแซปไฟร์ไล่เฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงขั้วโลกเหนือและประกายแวววาวแห่งผืนฟ้ายามรุ่งอรุณ

ตัวเรือนทำจากทองคำขาว 18 กะรัต ขอบหน้าปัดหมุนได้ ประดับด้วยอัญมณี เพชร และซัฟไฟล์เจียระไนทรงสี่เหลี่ยมคางหมู เรียงลำดับเฉดสีอย่างพิถีพิถันจากแซฟไฟร์สีชมพู แซฟไฟร์สีฟ้าเพชร แซฟไฟร์สีม่วง และแซฟไฟร์สีน้ำเงินเข้ม แล้วยกระดับความหรูหราด้วยเพชรสามเหลี่ยมบนตำแหน่ง 12 นาฬิกา และ เพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรอีก 46 เม็ด ที่เปล่งประกายตั้งแต่สลักตะขอไปจนถึงขอบป้องกันเม็ดมะยม เวอร์ชั่นประดับอัญมณีใหม่ของ Yacht-Master 40 มาพร้อม Calibre 3235 กลไกการทำงานระดับแนวหน้าเทตโนโลยีการผลิตนาฬิกา ซึ่งได้รับการรับรองในฐานะ Superlative Chronometer เพื่อรับประกันสมรรถนะอันเป็นเลิศเมื่อสวมใส่บนข้อมือ

Jeon Somi

จอนโซมี แร็พเปอร์ นักร้อง นักเต้น นักแต่งเพลง โดดเด่นด้วยสไตล์แต่งตัวสุดคาแร็คเตอร์ หนึ่งในนาฬิกาเรือนโปรดของเธอคือ Patek Philippe Nautilus Ref. 7118/1R ตัวเรือนโรสโกลด์ 18k นับเป็นอีกรุ่นฮิตของ Patek Philippe
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ Nautilus เราไม่อยากให้พลาดโฉมใหม่ล่าสุดที่ยังคงความหรูกับฟังก์ชันในแบบฉบับ Patek Philippe

Nautilus ในรุ่น Ref.5712/1R-001 กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติบางพิเศษ คาลิเบอร์ 240 PS IRM C LU ซึ่งผสมระหว่างตัวเรือนและสายโลหะโรสโกลด์ พร้อมทั้งหน้าปัดตกแต่งแบบกระจายแสง (Brown Sunburst) และการไล่เฉดสีดำอันละเอียดอ่อนสู่รอบนอกของหน้าปัด วางตำแหน่งเข็มวินาทีไว้ตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกา วางตำแหน่งวันที่แบบ Pointing ล้อมรอบหน้าต่างบอก Moonphase ไว้ตรงตำแหน่ง 8 นาฬิกา วางเข็มบอกพลังงานสำรองไว้ตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา กันน้ำได้ถึงระดับ 60 เมตร มากับการเปลี่ยนบานพับล็อกสายรุ่นใหม่แบบ Butterfly  Clasp ที่ใช้ระบบปุ่มกดเพื่อล็อกและปลดล็อกทำให้ใช้งานได้สะดวกและหนาแน่นกว่าเดิม

อีกเรือนใหม่ในซีรีส์ Nautilus อีกรุ่นที่ผู้คนเฝ้ารอ Ref.5811/1G-001 โดยสานต่อนาฬิกาแห่งตำนานที่เปิดตัวมาแล้วอย่างรุ่น Ref.3700 Nautilus ในปี ค.ศ. 1976 ในเวอร์ชั่นใหม่แล้วได้ขยายตัวเรือนขึ้นจาก 40 สู่ 41 มิลลิเมตร ตัวเรือนเป็นแบบ 2 ชิ้น พร้อมเม็ดมะยมชนิดขันเกลียว ตัวเรือนไวท์โกลด์ลงตัวกับหน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งแบบกระจายแสง (Blue Sunburst) ผสานด้วยการไล่เฉดสีดำ กันน้ำได้ถึง 120 เมตร สำรองพลังงานได้ถึง 45 ชั่วโมง มาพร้อมระบบดึงเม็ดมะยมที่ออกแบบสร้างขึ้นใหม่และกำลังยื่นจดสิทธิบัตรอยู่ ซึ่งจะทำให้ดึงเม็ดมะยมขึ้นมาได้จากฝั่งด้านหน้า และระบบล็อกสายพับเก็บแบบใหม่

Chris Hemsworth & Park Seo-Joon

คริส เฮมส์เวิร์ท ในโททัลลุคสีดำสวมนาฬิกา Audemars Piguet Royal Oak ที่ยิ่งช่วยขับความเท่ให้อีกหลายเท่าตัว  ใส่แค่เรือนนี้ชิ้นเดียวเอาอยู่ทั้งลุค มูลค่าราคาตลาดตอนนี้อยู่ที่ 170,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตัวเรือนโรสโกลด์ 18k โครโนกราฟ ซึ่งเรือนนี้ออกมาในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของรุ่น Royal Oak

ซึ่งในรุ่นเดียวกันนี้เอง พัคซอจุน พระเอกขวัญใจฝั่งเกาหลีได้ใส่ Royal Oak Chronograph Ref. 26240ST เช่นกัน มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีล


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 981

ฮวงจุ้ย

“อาจารย์ช้าง” แนะทริคง่ายๆ! เช็ค + ปรับ ฮวงจุ้ย เสริมให้บ้านนี้ดี อยู่แล้วเฮง  

Alternative Textaccount_circle
ฮวงจุ้ย
ฮวงจุ้ย

ทริคง่ายๆ เช็ค + ปรับ ฮวงจุ้ย เสริมให้บ้านนี้ดี อยู่แล้วเฮง อยู่แล้วรวย โดย “อาจารย์ช้าง – ทศพร ศรีตุลา” นักทำนายดวงชะตาชื่อดัง เป็นที่ยอมรับในความแม่นยำทั้งการดูดวงตามหลักโหราศาสตร์ กราฟชีวิต ฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง ศาสตร์ตัวเลข ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายของพระราหู ด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จึงมีลูกศิษย์หลากวงการ ทั้งในและนอกประเทศ มีผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกว่า 2 ล้านคน รวมถึงมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊กหลากหลายเล่ม

อาจารย์ช้าง - ทศพร ศรีตุลา

“ก่อนจะพูดถึงฮวงจุ้ยที่ดี ผมขออธิบายให้คุณผู้อ่านเข้าใจก่อนว่า ฮวงจุ้ยไม่ใช่แค่การวางของ เพื่อปรับเปลี่ยนตำแหน่งในบ้านให้ดีขึ้น แต่เป็นการจัดการกับข้าวของที่ไม่จำเป็น จัดบ้านให้ดูสะอาด และมีพื้นที่ว่างเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ”

“อาจารย์ช้าง” แนะทริคง่ายๆ! เช็ค + ปรับ ฮวงจุ้ย เสริมให้บ้านนี้ดี อยู่แล้วเฮง

ห้องนอน

“เป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดในหลักฮวงจุ้ย เพราะ 1 ใน 3 ของชีวิตเราอยู่ในห้องนอน ซึ่งส่งผลกับชีวิต ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ยังมีผลในเชิงความสัมพันธ์ของสามี-ภรรยา หรือสุขภาพด้วย ผมฝากหลักไว้ว่า ‘เก็บของในห้องนอนได้ แต่อย่านอนในห้องเก็บของ’ ห้องนอนที่ดีจึงควรมีของน้อยชิ้นและเป็นของที่จำเป็นจริงๆ มีแค่เตียง โต๊ะหัวเตียง และโคมไฟก็พอแล้ว แต่ปัจจุบันห้องนอนถูกต่อขยายให้มีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องแต่งตัว ห้องทำงานอยู่ในนั้นด้วย ห้องนอนใครเข้าข่ายนี้ ให้คุณโฟกัสพื้นที่บริเวณรอบเตียงเป็นหลัก

“ตามหลักการห้องนอนควรมีสภาวะเป็นหยิน คือมืด สงบ ไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติมากเกินไป ใช้แสงจากโคมไฟหัวเตียงจะเหมาะกว่า ซึ่งคุณสามารถตั้งวางโคมไฟได้ทั้งด้านซ้ายและขวาของเตียง ในทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะช่วยบาลานซ์พลังชี่ (พลังที่ไหลเวียนอยู่ในสิ่งแวดล้อม) ช่วยให้การพักผ่อนอยู่ในจุดที่สมดุล

“สิ่งที่น่ากลัวในปัจจุบันคือเทคโนโลยีที่รุกล้ำพื้นที่พักผ่อน สมัยก่อนเราอาจกังวลเรื่องการวางโทรทัศน์ไว้ที่ปลายเตียง เพราะจะเกิดภาพสะท้อน เห็นเงาตัวคุณในจอ ซึ่งส่งผลเสียต่อฮวงจุ้ย เนื่องจากการสะท้อน เป็นตัวแทนพลังหยาง ซึ่งเป็นพลังแห่งการเคลื่อนไหว ไม่ควรมีอยู่ในห้องนอน แต่ปัจจุบันโทรทัศน์หลายยี่ห้อปรับหน้าจอเป็นพลาสติก การสะท้อนต่ำลง คุณสามารถวางทีวีไว้ปลายเตียงได้ แต่ก็ไม่ควรจะใหญ่เกินไปนัก

“แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าโทรทัศน์คือโทรศัพท์ เพราะอยู่ตรงหน้าเราตลอดเวลา ตามฮวงจุ้ยไม่ควรเล่นมือถือบนที่นอน ควรเล่นให้จบแล้วค่อยขึ้นเตียง เพราะโทรศัพท์มีคุณสมบัติเป็นพลังหยาง มีทั้งการเคลื่อนไหวและแสงสว่าง ส่งผลเสียต่อสมดุลชีวิต รวมถึงไม่ควรชาร์จแบตใดๆ แถวหัวเตียง เพราะจะส่งคลื่นความร้อนซึ่งเป็นพลังหยางเหมือนกัน แนะนำว่าควรชาร์จแบตให้ไกลจากหัวเตียงมากที่สุด

“ที่อาจจะจัดการยากคือกรณีอาศัยอยู่ในพื้นที่แบบสตูดิโอ ทั้งห้องนอน ห้องรับแขก ห้องทำงาน อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ต้องจัดการแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ชัดเจน คือทำงานที่โต๊ะ ไม่ควรมีโต๊ะทำงานไว้เพื่อวางของ ถ้าจะดูโทรทัศน์ควรนั่งที่โซฟา อย่าให้ทุกอย่างมาปนอยู่ที่เตียง และแถวที่นอนไม่ควรมีเครื่องออกกำลังกาย เพราะเป็นพลังงานแห่งการเคลื่อนไหว

“ถ้าอยากแต่งห้องนอน ผมแนะนำคริสตัลใส จะมาในรูปแบบของตุ๊กตารูปสัตว์หรือโคมไฟก็ได้ จะช่วยให้เกิดพลังชี่ที่สมดุล”

ห้องครัว

“ในตำราฮวงจุ้ยยกให้ผู้หญิงเป็นใหญ่ในห้องครัว เพราะฉะนั้นถ้าห้องครัวสะอาด ถูกหลักฮวงจุ้ย ก็จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นมีโชค โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ในวัฒนธรรมจีนมีความเชื่อว่าครัวมีเทพเจ้าอยู่ที่เตา ซึ่งจะมีการไหว้ส่งเทพเจ้า ที่อยู่ในเตาขึ้นไปรายงานเทพเจ้าเง็กเซียน (เทพเจ้าสูงสุดของจีน) บนสวรรค์ทุกปีก่อนเทศกาลตรุษจีน คนจีนจึงให้ความสำคัญกับครัวเป็นอันดับต้นๆ ไม่แพ้ห้องนอน และห้องครัวที่ดีควรเป็นพลังหยาง คือสว่างสดใส

“สำหรับปัญหาครัวไทยคือบางบ้านต่อเติมพื้นที่ครัวไว้ด้านหลังบ้าน ซึ่งอาจมีโอกาสเกิดการทรุดตัวด้วยปัญหาโครงสร้าง เช่น ลงเสาเข็มไม่เท่ากัน กา ที่ครัวมีรอยร้าวถือว่าไม่ดี เพราะทำให้เกิดปัญหาได้ แต่ถ้าสร้างครัวแยกจาก ตัวบ้านก็จะไม่มีปัญหา

“อีกอย่างคือครัวที่อยู่หลังบ้านอาจมืด เพราะแสงเข้าน้อย ยิ่งถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์อาจไม่มีแสงเข้าจากด้านข้างเลย แนะนำว่าถ้าทำได้ควรเลือกใช้วัสดุ มุงหลังคาครัวเป็นแบบโปร่งแสง เพื่อให้แสงจากธรรมชาติเข้ามาได้ แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ให้ใช้ไฟฟ้า หรือใช้โซลาร์เซลล์ซึ่งประหยัดไฟมากกว่า

“ต่อมาคือทุกวันนี้การใช้งานในครัวลดลง เพราะนิยมสั่งอาหารสำเร็จรูป มากินมากขึ้น ซึ่งไม่ดีต่อฮวงจุ้ย ห้องครัวที่ดีควรหมั่นใช้งาน โดยเฉพาะเตา เพื่อให้เกิดธาตุไฟ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของสรรพสิ่งหลายอย่าง เปรียบเสมือนผู้หญิง ที่เป็นผู้ให้กำเนิด

“ข้อควรระวังคือธาตุไฟไม่ถูกกับน้ำ เพราะฉะนั้นตรงข้ามเตาไม่ควรเป็น อ่างล้างจานหรือประตูส้วม หากบ้านไหนมีลักษณะนี้อาจจะแก้ยาก จึงมีเคล็ด ว่าให้หาธาตุไม้มาคั่นตรงกลาง เช่น ต้นไม้ เพราะเป็นวัฏจักรที่ส่งเสริมกันคือ น้ำเสริมไม้ ส่วนไม้ก็เสริมไฟ นอกจากนี้เราต้องนึกถึงสิ่งที่อยู่เหนือเตาด้วย เช่น ถ้าห้องพักชั้นบนตรงตำแหน่งเตาเป็นเตียงนอนหรือห้องน้ำจะไม่ดี เพราะไฟไม่เหมาะจะอยู่ใต้เตียงหรือห้องน้ำ

“ส่วนมากห้องครัวมักเป็นสีโทนขาวหรือดำ ไม่ค่อยมีสีสัน คุณสามารถ เพิ่มฮวงจุ้ยที่ดีด้วยการตกแต่งให้มีสีสันที่หลากหลาย และควรมีองค์ประกอบสี ทั้งหมด 5 ธาตุ ซึ่งสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ เช่น ธาตุน้ำคือสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน ธาตุไม้คือสีเขียว ธาตุไฟคือสีแดง สีชมพู หรือสีส้ม ธาตุดินคือสีเหลือง และ ธาตุทองคือโลหะหรืออะลูมิเนียม เป็นสีทองหรือสีเงิน คุณอาจใช้สีเหล่านี้ผ่าน อุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดจาน กล่องใส่ช้อนส้อม ไมโครเวฟ กาน้ำ ฯลฯ สุดท้ายถ้าห้องครัวกับโต๊ะกินข้าวอยู่ใกล้กัน แนะนำว่าบนโต๊ะควรมี สีสัน เช่น ธัญพืช 5 สี หรือผลไม้อย่างส้ม แอ๊ปเปิ้ล ซึ่งเป็นสีแดงส้ม สีแห่ง ธาตุไฟ และควรเป็นผลไม้ที่สามารถกินได้จริง ไม่ควรตั้งไว้หลอกๆ นอกจาก ได้สีที่ดีต่อฮวงจุ้ย ยังได้เรื่องสุขภาพด้วย” 

ห้องทำงาน

“ผมขอพูดถึงทั้งสองที่ คือออฟฟิศกับที่บ้าน หลายคนเข้าใจว่าการนั่งทำงานควรหันทิศ ไปทางที่ดี ความจริงต้องดูเรื่องอื่นประกอบด้วย สิ่งที่ควรระวังคือประตู ไม่ควรตรงกับ โต๊ะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง เพราะมีสภาวะเป็นหยางที่แรงเกินไป

“ต่อมาคือโต๊ะทำงานที่ดีควรสะอาด เป็นระเบียบ ถือเป็นต้นทุนที่ดีเกินครึ่ง ของที่วาง บนโต๊ะก็สำคัญ ฝั่งซ้ายมือเชื่อว่าคือพลังหยาง เป็นพลังของมังกรและการเคลื่อนไหว ถ้ามีของ เคลื่อนไหวได้ เช่น นาฬิกา แมวกวัก หรือของที่มีการเจริญเติบโต เช่น ต้นไม้จริงที่อยู่ในน้ำ อย่างพลูด่างหรือไผ่กวนอิมจะดีมาก และควรจะใส่ในภาชนะใสเพื่อให้เห็นน้ำด้วย เพราะ การมีน้ำบนโต๊ะสื่อถึงการประสานงาน จะช่วยให้การติดต่อกับผู้คนดีขึ้น ส่วนต้นไม้สื่อถึง การเจริญเติบโต

“ด้านหลังโต๊ะทำงานควรทึบแน่น อาจใช้ผนังกั้น ช่วยให้งานไม่วุ่นวายมากเกินไป ถ้านั่ง หั นหลั งให้ กระจกควรมี ผ้าม่าน มู่ลี่หรื อชั้นหนั งสื อมาวางเพื่อให้ เกิ ดสภาวะความมั่นคงในการทำงาน

“เรื่องของความโล่งโปร่งก็สำคัญ โดยเฉพาะแผนกที่ทำงานเกี่ยวกับการเงิน คุณอาจมี แฟ้มวางบนโต๊ะเยอะ ควรเคลียร์ด้านหน้าโต๊ะให้เปิดโล่ง อาจวางของแค่ด้านซ้ายหรือขวา จะช่วยลดปัญหาเรื่องบริวารและเปิดโอกาสที่ดีให้ตัวเองไปพร้อมกัน” 

ห้องนั่งเล่น

“ตามหลักฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่นสื่อถึงความสำเร็จ สุขภาพ การเงิน การงาน ของสมาชิกในครอบครัว แต่ปัจจุบันห้องนี้ถูกใช้งานน้อยลงเช่นกัน เพราะทุกคน มีโซเชียลของตัวเอง ต่างจากสมัยก่อนที่เราได้นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกัน ทำให้ความ ผูกพันหายไป ซึ่งตามหลักการของฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่นเป็นห้องสร้างความสามัคคี ของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นต้องใช้งานห้องนี้ให้เยอะที่สุด ผมแนะนำหลายบ้าน ให้ซื้อโทรทัศน์ราคาแพงๆ ไว้ในห้องนี้ เพื่อให้เกิดความรู้สึกเสียดายสตางค์แล้ว ต้องมาดูด้วยกัน ขณะเดียวกันห้องนี้สามารถเป็นห้องนั่งทำการบ้านของลูก หรือ วางเครื่องปั่นจักรยานไว้ออกกำลังกาย ก็จะได้พลังงานที่เป็นหยาง ยกเว้นอย่างเดียว ที่ไม่แนะนำคือนั่งกินข้าวในห้องนี้ เพราะไม่อย่างนั้นโต๊ะกินข้าวจะไม่ถูกใช้งานอีก

“โดยส่วนมากห้องนั่งเล่นจะอยู่โซนหน้าของบ้าน ซึ่งดี เพราะเป็นเส้นทาง ของพลังงานชี่ที่วิ่งเข้ามา ที่สำคัญคือควรปลอดโปร่ง มีแสงสว่าง มีสีสัน หลากหลาย ซึ่งสื่อถึงพลังงานหยาง สามารถตกแต่งด้วยคริสตัล หรือจะวาง เทพเจ้าฮกลกซิ่ว (เทพเจ้าแห่งความมงคล) ในจุดที่เห็นชัดเจน คือเดินเข้ามา แล้วเห็นเลย หรือถ้าวางรูปครอบครัวไว้ก็ดี

“สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคืออย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งตกแต่งห้องนี้ลำพัง เพราะ ควรให้มีตัวตนของสมาชิกทุกคนอยู่ด้วย ฉะนั้นภรรยาเลือกโซฟา สามีเลือกทีวี ลูกอาจเลือกของตกแต่ง เพราะพื้นฐานห้องนี้เป็นพลังของธาตุดิน ควรสามัคคี กลมเกลียวกันเข้าไว้ ต้องเป็นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้ ข้อต่อมาคือ ไม่ควรโชว์อาวุธ เช่น มีด ดาบ ปืน เพราะตามหลักฮวงจุ้ย การโชว์อาวุธ สื่อถึงชีวิตที่ต้องต่อสู้ตลอดเวลา นอกจากนี้บางบ้านชอบโชว์แอลกอฮอล์ ถ้าวาง ขวดสองขวดไม่เป็นไร แต่ไม่ควรวางไว้เต็มผนัง เพราะถือเป็นอบายมุข สื่อถึง ชีวิตที่มีสิ่งมอมเมา”

ห้องน้ำ

“ห้องนี้ไม่มีผลดีในแง่ฮวงจุ้ย บางทีเราทำ ฮวงจุ้ยมาอย่างดี แต่ห้องน้ำผิด ฮวงจุ้ยก็อาจเสีย เลย สำหรับห้องน้ำจะยึดโถสุขภัณฑ์กับประตูห้องน้ำ เป็นหลัก โต๊ะเครื่องแป้งเราไม่นับว่าเป็นห้องน้ำ

“ประตูห้องนี้ไม่ควรชนกับสิ่งสำคัญ เช่น เปิดประตูมาชนเตียง โต๊ะทำงาน ที่นั่งกินข้าว จะทำให้เกิดพลังงานที่ไม่ดี หรือเปิดประตูห้องน้ำ เข้าไปแล้วเจอโถเลยก็ไม่ควร ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ติด มู่ลี่ จะให้ความรู้สึกเหมือนประตูถูกปิดตลอดเวลา การไหลเวียนของพลังงานที่แรงก็จะลดน้อยลง หรืออาจใช้พลังของธาตุไม้มาช่วยดูดธาตุน้ำ โดย วางกระถางต้นไม้เล็กๆ ไว้เพื่อให้เกิดบาลานซ์ที่ดี”

รถยนต์

“รถเปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของหลายคน การทำความสะอาดเป็น เรื่องสำคัญ อย่างที่สองคือเวลารถไปที่แปลกๆ อาจมีพลังงานที่ไม่ดีติดกลับมา ถ้าเราไม่ใช่คนเห็นผีก็ตอบยากว่ามีจริงหรือไม่ ฮวงจุ้ยมีคำตอบในเรื่องนี้ ถ้าคุณขับรถไปงานศพ ไปต่างจังหวัดในสถานที่หลอนๆ ให้นำเกลือใส่ถ้วยวางไว้ที่พื้นรถ ตรงผ้ายางบริเวณคนขับหรือที่นั่งผู้โดยสาร ทิ้งไว้ตอนกลางคืน ตอนเช้าค่อยเก็บออก ทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าเกลือจะช่วยสลายพลังงานที่ไม่ดี เหมือนที่หลายวัฒนธรรม เชื่อว่าการวางเกลือไว้หน้าบ้านหรือหน้าร้านค้าช่วยป้องกันผี ปีศาจ วิญญาณ

“ต่อมาคือเครื่องรางที่อยู่ในรถ แนะนำให้พกที่เป็นหยกหรือหิน เพราะ สื่อถึงธาตุดินที่หมายถึงความหนักแน่นมั่นคง ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ตั้งได้ แต่ไม่ควรให้เยอะเกินไปจนถึงขั้นเป็นโต๊ะหมู่บูชา มีหลายคนถามว่าควรหันหน้า พระไปด้านไหน ผมแนะนำว่าควรให้ท่านหันมาหาเรา จะช่วยให้มีสติมากขึ้น

“สำหรับการออกรถใหม่ แนะนำให้นำพวงมาลัยดอกไม้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุ้มครอง หรือบางคนอาจใช้วิธีให้พ่อแม่มานั่งบนรถเพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ดี

“ข้อห้ามเกี่ยวกับรถคือห้ามเกิดการแตกร้าว โดยเฉพาะกระจก เพราะ มันคือสภาพที่ไม่สมบูรณ์ การมองผ่านสิ่งร้าวๆ ไม่ดี ควรจะเปลี่ยน อุด ซ่อม 

“ขณะเดียวกันเลขทะเบียนก็ส่งผลต่อรถเช่นกัน ให้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ บางคนมีรถไว้รับส่งลูก ตามฮวงจุ้ยแนะนำเลข 5 เพราะสื่อถึงความ มั่นคง ปลอดภัย ถ้าทำอาชีพส่งของ ต้องมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ผมแนะนำเลข 7 ซึ่งหลายคนกลัว เพราะสื่อถึงงานหนัก แต่ถ้าคุณไม่มีงานให้ทำก็ตกงานได้ ควร จะทำงานหนักเข้าไว้ดีกว่า ส่วนใครที่ต้องเดินทางไปหาลูกค้าบ่อยๆ แนะนำเลข 1 กับ 9 เพราะเป็นเลขแห่งการเดินทาง

“ส่วนเลขที่ควรเลี่ยงในทะเบียนรถคือ 03 หรือ 30 (อยู่ติดกัน) หลายตำรา บอกว่าเป็นเลขแห่งอุบัติเหตุ เป็นเลขแห่งการผ่าตัด แต่ถ้าคุณเป็นหมอศัลยกรรม แล้วใช้เลขนี้บนมือถือนับว่าดีทีเดียว เพราะคุณต้องผ่าตัดทุกวัน แต่ไม่ควร ใช้บนเลขทะเบียนรถ เพราะเราไม่ได้จะผ่ารถ

“ขณะเดียวกันความเชื่อเรื่องสีรถ เช่น การติดสติ๊กเกอร์รถคันนี้สีเขียว ที่จริงไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นนะครับ เหมือนซุกฝุ่นไว้ใต้พรมมากกว่า และสีรถไม่ได้ ดูแค่ตัวรถเท่านั้น แต่รวมถึงสีเบาะด้วย เพราะเรานั่งในรถเป็นหลัก นอกจากนี้ สามารถเสริมสีมงคลในรถได้ผ่านอุปกรณ์ใช้งาน เช่น กล่องใส่ทิชชู ที่หุ้ม พวงมาลัย สีพวงกุญแจ ทั้งหมดนี้ควรใช้สีมงคลที่เหมาะกับคุณเอง” 

“สำหรับปี 2566 ทิศที่ดีสำหรับปีเถาะ คือทิศใต้ ที่เด่นในเรื่องการเงิน สามารถเสริม ด้วยพลังของธาตุไฟ ทั้งแสงสว่าง สีส้มแดง นำมาตั้งทางทิศใต้ จะช่วยให้มีพลังแห่งการเงิน หรือจะวางเครื่องฟอกอากาศกับพัดลมก็ได้ ช่วยให้เกิดการกระจายลมที่ดี เปรียบเสมือน ได้กระจายโชค

“อีกทิศคือทิศเหนือ ให้ผลดีในเรื่องการแข่งขัน ถ้ามีคู่แข่งทางธุรกิจ การเสริมทิศเหนือด้วยธาตุไม้ เช่น ต้นไม้สีเขียว จะทำให้มีชัยชนะในการแข่งขัน

“ทิศที่แย่มากคือทิศตะวันออก ไม่ใช่ว่าใครนอนหันหัวทางนี้แล้วต้องย้ายเตียง แต่ไม่ควรต่อเติมหรือทุบอาคารสถานที่ในทิศนี้ เพราะจะส่งผลเสียต่อคนในบ้าน โดยเฉพาะคนปีชงอย่างคนที่เกิดปีระกา แนะนำให้วางต้นไม้หรือแขวนรูปในทิศนี้ อีกทิศที่ไม่ดีเหมือนกันคือทิศตะวันตก

“แนะนำให้ตกแต่งสองทิศนี้ด้วยธาตุของโลหะ ทอง สเตนเลส อะลูมิเนียม มาตกแต่งที่ออฟฟิศและที่บ้าน จะช่วยลดความแรงของดวงดาวลงได้ครับ” 


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 990

ขอบคุณภาพ : pixabay.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

https://praew.com/praewwedding/planning/413288.html
BLACKPINK 011

ความเป็นไปได้ที่ BLACKPINK จะต่อสัญญากับ YG ENTERTAINMENT

Alternative Textaccount_circle
BLACKPINK 011
BLACKPINK 011

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าในเดือนสิงหาคมนี้ BLACKPINK จะหมดสัญญากับต้นสังกัด YG ENTERTAINMENT ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กัเหล่าแฟนคลับอย่างมากเกี่ยวกับอนาคตของสมาชิกทั้ง 4 คน

ถือเป็นประเด็นที่หลายคนเฝ้าจับตามองเลยสำหรับ การกำลังจะสิ้นสุดสัญญาของ 4 สาว BLACKPINK กับต้นสังกัด YG ENTERTAINMENT โดยเมื่อไม่นานมานี้ ในรายการ “FM Korea” และ “Theqoo” ได้พูดถึงประเด็นนี้และมีแฟนเพลงจำนวนมากให้ความสนใจ โดยระบุว่า หากทั้งสี่สาวไม่ตกลงต่อสัญญา ทัวร์รอบโลกที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้จะเป็นกิจกรรมกลุ่มสุดท้ายของสาวๆ ขณะที่สื่อและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิงหลายรายมีความเห็นตรงกันว่า BLACKPINK อาจไม่สามารถต่อสัญญา เพราะอย่างที่เห็นชัดว่า อายุเฉลี่ยในตลาดไอดอลนั้นน้อยลงเรื่อยๆ รวมถึงสมาชิก BLACKPINK ได้พิสูจน์ความสามารถของแต่ละคนแล้ว พวกเธอทั้งสี่คนจะยังคงไปได้ดีแม้ว่าจะไม่มีกิจกรรมกลุ่มก็ตาม

BLACKPINK 012

อย่างไรก็ตาม YG Entertainment เดบิวต์ BLACKPINK ในปี 2016 เมื่อเกิร์ลกรุปรุ่นพี่2NE1ต่อสัญญา แต่หลังจากที่ BLACKPINK เดบิวต์ กิจกรรมของกลุ่ม 2NE1 ก็สิ้นสุดลงอย่างกะทันหันในวันที่ 25 พฤศจิกายนของปีเดียวกัน แฟนๆ กลัวว่าประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย เมื่อ YG กำลังวางแผนที่จะเดบิวต์เกิร์ลกรุปวงใหม่ BABY MONSTER ในปีนี้ แถม ยางฮยอนซอก ยังเป็นผู้อำนวยการสร้าง

BLACKPINK 013

อย่างไรก็ตาม แฟนคลับหลายคนต่างภาวนาว่าจะเป็นการดีกว่าหาก BLACKPINK ต่อสัญญาและทำงานเป็นทีม

‘ดวงปากกับใจไม่ตรงกัน ปากบอกจบ แต่ใจไม่จบ ยังตามหึงหวง จะใช่คุณไหม คงต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 16 กุมภาพันธ์ 2566

‘ดวงปากกับใจไม่ตรงกัน ปากบอกจบ แต่ใจไม่จบ ยังตามหึงหวง’

ดวงรายวัน 16 กุมภาพันธ์ 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายกฎหมาย เช่น ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา ที่ปรึกษากฎหมาย ฯลฯ  หากคุณกำลังตกอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ในเรื่องของผลประโยชน์ และหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะสวมวิญญาณผู้นำ มีเทคนิคและฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างแยบยล

การเงิน  :  หากคุณคิดจะลงทุนกับคนรัก วันนี้เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะสร้างรายได้อย่างมั่นคงและมีเข้ามาไม่ขาดสาย แต่ก็ระวังอย่าลงทุนในธุรกิจที่ยังไม่เห็นผลตอบแทนชัดเจน

ความรัก  :  หากสถานการณ์ชีวิตคู่เผชิญกับความขัดแย้งแบบไม่ให้เกียรติกันอย่างรุนแรง หากวันนี้คุณเลือกที่จะห่างกันสักพักหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดี เพราะเป็นไปได้ว่าจะกลับมาให้เกียรติกันมากขึ้น คนโสด  นับเป็นโอกาสดีที่คุณจะพบคนที่อยู่ในมาตรฐานที่ตั้งไว้ แต่เขาก็ไม่ได้นั่งรอคอยให้คุณมาจีบ มีความเนื้อหอมมีคนชอบเยอะ  เพราะฉะนั้นวันนี้จึงต้องแย่งชิงกันหน่อย  

สุขภาพ  :   หากคุณกำลังหนักใจเรื่องปัสสาวะไม่ปกติ กังวลว่ากรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอาจติดเชื้อ วันนี้คาดว่าอาการเหล่านั้นจะดีขึ้น

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  หากคุณกำลังรับอาสาเจ้านายไปปฏิบัติงานที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดและความเสียหายสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นประสานงาน ประนีประนอม หรือต่อรอง อย่างใดอย่างหนึ่งด้วยแล้ว วันนี้ควรเตรียมแผนสำรองมาด้วย เพราะเป็นไปได้สูงมากว่าการเจรจาจะไม่ประสบความสำเร็จ งานไปต่อไม่ได้

การเงิน  :   ที่ผ่านมาคุณสามารถเอาตัวรอดได้อย่างเฉียดฉิว แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะหมดเงินกับการเข้าสังคม การเดินทางท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเอาตัวไม่รอด

ความรัก  :  หากคุณกำลังตกเป็นที่รองรับอารมณ์หรือความเดือดร้อนของสมาชิกในบ้าน วันนี้เป็นไปได้ว่าจากที่คุณกำลังโลเลลังเลใจในชีวิตคู่มีโอกาสที่จะตัดสินใจสิ้นสุดได้เลย  คนโสด   หากยังไม่อยากจริงจังกับใคร เพราะรอคนที่เหมาะสมที่สุด วันนี้คาดว่าคุณจะไม่เหลือใครเลย

สุขภาพ  :  สำหรับผู้ที่มีกิจกรรมยืนและเดินเป็นเวลานาน เป็นไปได้ว่าวันนี้อาการปวดขาที่เป็นอยู่แล้วจะรุนแรงขึ้น ควรรีบรักษาไม่ว่าจะแผนปัจจุบัน หรือแผนไทย

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ใช้ความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญชำนาญงานขั้นเทพ เช่น นักกฎหมาย นักการเมือง การปกครอง การทูต การต่างประเทศ แพทย์ จนถึงซินแส หมอดู  วันนี้หากคุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้า จนถึงขั้นพลีชีพให้กับการทำงานแล้วล่ะก็อย่าประมาทกับสิ่งใกล้ตัว เพราะเส้นผมอาจบังภูเขา เป็นไปได้ว่าคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงานจะไม่จริงใจ ปากบอกอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง  

การเงิน  :  หากรายได้ไม่แน่นอน วันนี้มีโอกาสที่จะมีเงินโอนมาจากต่างประเทศ แต่ก็ต้องดูให้ดี อย่าใจอ่อนหรือช่วยเหลือใครง่ายๆ เพราะมีความเสี่ยงที่ตัวเองจะเดือดร้อน

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าคุณจะมีอุดมการณ์และความคิดเป็นของตัวเองสูงมาก นอกจากนั้นยังมั่นคงในหลักการและเหตุผลและขนบธรรมเนียมที่ดีงามอีก เพราะฉะนั้นวันนี้หากอะไรที่อยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง คุณสามารถตัดได้ง่ายๆ เลย    คนโสด  เช่นกัน คุณมีอุดมการณ์ในเรื่องความรักแน่วแน่มาก หากอุดมการณ์นั้นคือมีแฟนเป็นชาวต่างชาติแล้วล่ะก็ วันนี้เป็นไปได้ว่าจะสมหวังน้า…  

สุขภาพ   :   คุณเครียดและจริงจังมากไปหรือเปล่า เพราะมีโอกาสที่คุณจะปวดศีรษะจนกลายเป็นโรคประจำตัวได้ รวมถึงความเครียดยังลงไปที่กระเพาะอาหาร ทำให้ปวดเสียดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ  

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   ก็ยังไม่หายเครียด เป็นไปได้ว่าจะยิ่งเครียดหนัก เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะตกอยู่ในสถานการณ์การแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่นในเรื่องของผลประโยชน์ และตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างบ้าคลั่ง  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้เลือก แต่จำใจต้องทำเพราะติดที่เงื่อนไขข้อตกลงเดิมๆ ดังนั้น วันนี้จึงเป็นไปได้ว่าคุณจะใช้ทักษะความรู้ความสามารถที่มีกับความรับผิดชอบที่ดีเยี่ยม เพื่อเอาตัวให้รอดจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้

การเงิน  :  มีเงินเข้ามาตลอด แต่ก็ไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตัวได้นาน ยิ่งวันนี้ไม่ควรลงทุนร่วมหุ้น หรือให้ใครกู้ยืมเงิน หรือค้ำประกัน ทั้งนั้น เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ความรัก  :  หากกำลังมีบุคคลภายนอกมาทำดีกับคุณเป็นพิเศษ เป็นไปได้ว่าคนๆ นั้นจะไม่หวังดี เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับคู่อย่างรุนแรง จนถึงขั้นใช้วาจาไม่ให้เกียรติกัน   คนโสด  แม้คุณจะบอกว่าเลิกกันแล้ว แต่ก็เป็นไปได้สูงมากที่จะยังตัดใจไม่ขาด วันนี้คุณยังมาแย่งชิงด้วยความหึงหวงอยู่เลย  

สุขภาพ  :  วันนี้หากคุณเดินทางเปลี่ยนสถานที่ ควรให้ความสำคัญกับความสะอาดในเรื่องอาหาร ที่อยู่ และการใช้สถานที่สาธารณะ เพราะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส รวมถึงได้รับบาดเจ็บจากของมีคมบาดเป็นแผล

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   หากคุณกำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องทำงานงอกจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้กระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงงานขายด้วยแล้ว หากวันนี้คุณจะเข้าสู่การแข่งขัน ไม่ว่าจะประมูลงาน ประกวด จนถึงสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สอบสัมภาษณ์ สอบเข้าเรียนต่อ จึงเป็นไปได้ที่คุณจะคาดหวังความสำเร็จสูงมากจนสามารถทำได้แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมนัก เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากภาวะนั้น

การเงิน  :   แม้คุณจะลำบากอย่างไร แต่ก็ยังมีเงินเข้ามาให้จับจ่ายใช้สอยตลอดๆ วันนี้ก็เช่นกัน มีโอกาสได้เงินพิเศษ หรือรางวัลจากการทำงาน

ความรัก  :  หากความรักความสัมพันธ์ของคุณเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นไปได้ว่าจะมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับชีวิตคู่ ซึ่งเป็นไปได้ที่คุณจะรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของตัวเอง คนโสด  คุณมีเสน่ห์ แต่ก็อย่าเพิ่งรีบด่วนตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ เพราะมีโอกาสที่จะเสียดายความโสดในภายหลัง

สุขภาพ  :  มีโอกาสที่กระดูกและฟันจะมีปัญหา มีความเสี่ยงว่าฟันที่อุดหรือครอบไว้จะหลุด หรือครบกำหนดต้องขูดหินปูน ก็ไม่ควรละเลย นอกจากนั้นควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมด้วย

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายงานความคิดสร้างสรรค์ งานบันเทิง ความสวยความงาม ดีไซเนอร์ จนถึงงานวิชาการ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานทางด้านการเกษตรและอาหาร เช่น เกษตรกร ออกแบบตกแต่งสวน ศิลปวัฒนธรรม สินค้าโอทอปด้านอาหารด้วยแล้ว วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะใช้หลักวิชาและทฤษฏีมาใช้ในการทำงาน มีโอกาสได้พบได้ร่วมงานกับทีมที่ปรึกษาระดับปรมาจารย์ หรือหากจะศึกษาเพิ่มเติมก็มีแววรุ่ง

การเงิน  :  มีโชคลาภ เฮงๆ ปังๆ วันนี้มีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมงานและเจ้านายที่ดี มีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสายเลยทีเดียว

ความรัก :   วันนี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะช่วยเคลียร์ความขัดข้องหมองใจระหว่างคุณกับคู่ให้แจ่มชัดขึ้น จนเป็นไปได้ว่าสถานการณ์ชีวิตคู่ของคุณจะกลับมาดีกันเหมือนเดิม คนโสด  หากผู้ใหญ่กำลังตั้งชุดเฉพาะกิจหาคู่เดทให้ ก็ขอให้เชื่อในวิชชั่นของพวกท่านเหอะ เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบคนที่จริงใจและจริงใจล่ะ…ดูออก!

สุขภาพ  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะมีปัญหาในเรื่องของน้ำย่อย กระเพาะอาหาร และลำไส้ โดยวันนี้มีความเสี่ยงที่จะผิดปกติตั้งแต่อวัยวะในช่องปากเลยทีเดียว

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :   ก็ยังอยู่กับการใช้ความรู้ ความชำนาญและความเชี่ยวชาญในการเจรจา ไม่ว่าจะต่อรอง หรือประนีประนอม ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าผู้ใหญ่ผู้หญิงจะเมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ มีโอกาสที่เธอจะส่งเสริมสนับสนุนคุณให้ได้งานใหม่ หรือโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในหน่วยงานที่มั่นคงขึ้น

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าจะมีผู้ใหญ่ผู้หญิงอุปถัมภ์ กระนั้นก็ตามก็ยังมีโอกาสที่คุณจะหมดเงินกับการเดินทางท่องเที่ยว การเข้าสังคม และการลงทุนใหม่ๆ

ความรัก  :  ก็ยังอยู่กับการแบกรับความทุกข์ยากความเดือดร้อนของคนใกลชิดตามลำพังอยู่นะคะ แต่วันนี้ก็นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะมีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ มาช่วยแบ่งเบาภาระกันบ้างแล้ว คนโสด    จริงๆ คุณวางมาตรฐานของคนที่จะมาเป็นแฟนไว้สูงมาก ซึ่งวันนี้ก็นับว่าโชคดีได้พบคนที่ตรงเสปก แฮปปี้สุดๆ

สุขภาพ   :   ก็ยังอยู่กับการยืนและเดินเป็นเวลานาน วันนี้นอกจากจะมีความเสี่ยงที่จะปวดเมื่อยขาแล้ว หากเพิ่งผ่าตัดอวัยวะในช่องท้องหรือผ่าคลอดมา มีโอกาสที่แผลจะกระทบกระเทือนได้

Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon

มัดรวมความคิ้ว! ชวนส่องไอเท็ม Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon

account_circle
Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon
Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon

เหล่าอัศวินเซเลอร์ จะสำแดงฤทธา Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon ฉลอง 30 ปี เซเลอร์มูนผู้พิทักษ์แห่งดวงจันทร์

มัดรวมความคิ้ว! ชวนส่องไอเท็ม Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon

Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon collection คอลเล็คชั่นพิเศษฉลอง 30 ปี เซเลอร์มูนผู้พิทักษ์แห่งดวงจันทร์ ตัวละครสุดไอคอนิกที่ฉีกแม่พิมพ์เดิมๆ ของการ์ตูนมังงะ ‘แซนดร้า ชอย’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของจิมมี่ ชู จับมือ ‘นาโอโกะ ทาเคชิ’  นักเขียนผู้ให้กำเนิดเซเลอร์มูน สร้างสรรค์แคปซูลคอลเล็คชั่นที่นำเสนอแนวคิดคุณค่าร่วมของทั้งสองแบรนด์ ซึ่งมีตัวตนอันเด่นชัด ภาพลักษณ์ที่สะท้อนจิตวิญญาณ และการสนับสนุนพลังหญิง ซึ่งคอลเล็คชั่นพิเศษนี้ได้ถ่ายทอดพลังหญิงที่นำเซเลอร์มูนตัวละครทรงอิทธิพลทางป๊อปคัลเจอร์ผ่านสีสันและเสน่ห์ในสไตล์จิมมี่ชู 

เริ่มต้นด้วยการสร้างคาแรกเตอร์จากการ์ตูนมังงะหญิง ความเป็นผู้หญิง และ พลังหญิง คือ หัวใจของเซเลอร์มูนผู้พิทักษ์แห่งดวงจันทร์ที่ปรากฏบนรองเท้าทุกคู่ของจิมมี่ ชู การเคลื่อนไหวที่มีพลังและไดนามิกคือ ตัวแทนของผู้หญิง

โดยคอลเล็คชั่น ‘Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon’ นำคาแรกเตอร์ของเหล่าผู้พิทักษ์ ซึ่งเป็นตัวละครหลักมาตีความเป็นธีมให้กับเหล่าผลงานรองเท้า กระเป๋า และแอ็กเซสเซอรี่ ไม่ว่าจะเป็น เซเลอร์เมอคิวรี เซเลอร์มารส์ เซเลอร์จูปิเตอร์ เซเลอร์วีนัส รวมถึง ลูน่า แมวเมนเทอร์ และผู้พิทักษ์แห่งดวงจันทร์เซเลอร์มูน ที่นาโอโกะ ทาเคชิ ได้วาดจินตนาการออกมาทั้งหมดได้อย่างงดงาม

คอลเล็คชั่นนี้โดดเด่นด้วย “สี” ที่บ่งบอกตัวตนของอัศวินเซเลอร์ได้ทันที ซึ่งมีบุคลิก สไตล์เป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์ โดยเริ่มจากการยกย่องตัวละคร เซเลอร์มูน ผ่านรองเท้าบู๊ตคริสตัล ที่ต้อง made to order ดึงดูดสายตาด้วยส้นรองเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ประดับคริสตัลรูปพระจันทร์เสี้ยวด้วยมือและการประดับคริสตัลสวารอฟสกี้สีชมพูสดใส เพื่อให้เหมือนกับรองเท้าบู๊ตในภาพจินตนาการสุดไอคอนิกของตัวละครเอกของการ์ตูนอย่าง เซเลอร์มูน ที่สวมรองเท้าบู๊ตตลอดเส้นทางการผจญภัยแห่งชีวิต ความรัก โดยได้เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2565 ณ พิพิธภัณฑ์รปปงหงิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

สำหรับปี 2023 เหล่าอัศวินเซเลอร์ ผู้พิทักษ์ดวงจันทร์ กลับมาสำแดงฤทธาอีกครั้งในรูปแบบ Made-to-Order เริ่มต้นกับ Sailor Moon boots รองเท้าบู๊ตส้นสูงสีชมพู ความยาวสูงถึงเข่า เอกลักษณ์ของเซเลอร์มูน ซิลูเอ็ตแบบแนบเนื้อ เพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในทุกจังหวะการเคลื่อนไหว 

Sailor Mercury ankle boots รองเท้าบู๊ตหุ้มข้อเซเลอร์เมอร์คิวรี่ สีน้ำเงินหนังแก้วเงาวาว พร้อมแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานจริง 

Sailor Mars patent pumps รองเท้าส้นเข็มสีแดงของเซเลอร์มาร์สนำมารังสรรค์เป็นรองเท้าส้นสูงหัวแหลมหนังแก้ว

 Sailor Jupiter boots ความแข็งแกร่งที่เป็นลักษณะเฉพาะของเซเลอร์จูปิเตอร์ สะท้อนผ่านรองเท้าคอมแบทหนังผูกเชือกสีเขียวพร้อมพื้นรองเท้ายางและส้นตึก 

Sailor Venus platform pumps รองเท้าส้นสูงแพลตฟอร์มพร้อมสายรัดข้อเท้าประดับด้วยผ้าซาตินสีส้มสดใส ประดับด้วยคริสตัลเสะท้อนบุคลิกขี้เล่น น่ารักสดใสของเซเลอร์วีนัส

อย่างไรก็ตามการเปิดตัวทั่วโลกของคอลเล็คชั่น Jimmy Choo X Pretty Guardian Sailor Moon จากผลงานการ์ตูนมังงะ เซเลอร์มูนผู้พิทักษ์แห่งดวงจันทร์ ของ นาโอโกะ ทาเคอุ สู่แฟชั่นรองเท้าอันโดดเด่นของจิมมี่ ชู มาพร้อมกล่องสีรุ้งแวววาว เฉพาะรุ่น รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ซึ่งนอกจากนี้ จิมมี่ ชูยังได้ร่วมมือกับ DJ Honey Dijon แต่งเพลงประกอบ 2 เพลง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงซาวด์แทร็กเซเลอร์มูนในขณะแปลงร่าง เปรียบเสมือนเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่เปลี่ยนแฟชั่น


มินนี่ (G)I-DLE

ศิลปิน แอนน์-มารี เจ้าของยอดสตรีมมิ่งกว่าพันล้าน จะร่วมงานกับ มินนี่ (G)I-DLE

Alternative Textaccount_circle
มินนี่ (G)I-DLE
มินนี่ (G)I-DLE

สื่อเกาหลีใต้ Hankyung ได้รายงานว่า ศิลปินสาวชาวอังกฤษ แอนน์-มารี (Anne-Marie) ที่สื่อต่างๆพร้อมใจกันการันตีความสามารถ และเธอยังเป็นเจ้าของยอดสตรีมมิ่งกว่าพันล้านครั้งทั่วโลก จะร่วมงานกับ มินนี่ (G)I-DLE ไอดอลสาวเกาหลีสัญชาติไทย ซึ่งคาดว่าาแฟนเพลงทั่วโลกจะตอบรับการพบกันของสองศิลปินด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองศิลปิน

สำหรับ แอนน์-มารี เป็นป๊อปสตาร์ชาวอังกฤษที่ได้รับความรักมากมายจากชาวเกาหลี เธอจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในเกาหลีในเดือนเมษายน 2019 ต่อในปี 2022 แอนน์-มารีเยือนเกาหลีเพื่อเข้าร่วมเทศกาลดนตรี “Slow Life Slow Live” ในเวลานั้น ป๊อปสตาร์สร้างความยินดีให้แฟนๆ ด้วยการปรากฏตัวในเนื้อหาต่างๆ เช่น ช่อง YouTube “MMTG” และเพลง “Killing Voice” ของ Dingo Music

แอนน์-มารี

ในขณะเดียวกัน (G)I-DLE ซึ่งมีมินนี่เป็นสมาชิก เดบิวต์ในปี 2018 เกิร์ลกรุ๊ปได้รับความสนใจจากเพลงต่างๆ เช่น “LATATA”, “Hann”, “Senorita”, “Oh My God”, “LION”, “TOMBOY” และล่าสุด “Nxde”

มินนี่ (G)I-DLE 001
มินนี่ (G)I-DLE 002

อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่แล้ว (G)I-DLE ได้รับชือเสียงมากๆจากผลงาน”TOMBOY” ถึง “Nxde” พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบในเว็บไซต์เพลงในประเทศและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในฐานะ ” music powerhouse ” มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ของกลุ่ม “I LOVE” ซึ่งรวมถึง “Nxde” ก็อยู่ในอันดับที่ 71 ในชาร์ตอัลบั้มหลักของ Billboard ของสหรัฐอเมริกา “Billboard 200” ช่วยให้ (G)I-DLE เข้าสู่ชาร์ตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัว .

BTS

รู้หรือไม่! สมาชิก BTS คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ HYBE บริษัทที่เข้าซื้อ ค่าย SM

Alternative Textaccount_circle
BTS
BTS

จากบริษัทใต้ดินที่มีหนี้หลายพันล้านวอน แต่ตอนนี้ค่าย HYBE Labels ได้กลายเป็นบริษัทบันเทิงระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ค่ายดังกล่าวยังทำให้ตลาดเพลง K-POP ฮือฮาด้วยการกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SM Entertainment ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ หลังจากที่ผู้ก่อตั้งค่ายอย่าง อีซูมาน ได้ตัดสินในใจขายหุ้นให้ เนื่องจากปัญหาภายในของบริษัท

แม้ บังชีฮยอก อาจจะเป็นภาพจำของโลโก้ค่าย HYBE Labels แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้เลยก็คือแท้จีริงแล้วผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือสมาชิกวง บีทีเอส หรือ บังทันโซนยอนดัน

บังชีฮยอก

เมื่อไม่นานมานี้ Korea CXO Research Institute ได้เปิดเผยว่า HYBE Labels มีผู้ถือหุ้นอยู่ 11 ราย โดย 7 หุ้นซึ่งมากว่าครึ่งหนึ่งคือหุ้นของสมาชิกบีทีเอส โดย มินยุนกิ (Suga) พัคจีมิน (Jimin) คิมแทฮยอง (V) และ จอนจองกุก (Jungkook) ถือครองหุ้น 68,385 หุ้น ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 13,300 ล้านวอน ขณะที่ จองโฮซอก (J-Hope) ถือครองหุ้น 62,784 หุ้นมูลค่า 12,200 ล้านวอน ในขณะที่ คิมนัมจุน (RM) ลีดเดอร์วงมีหุ้นมูลค่า 11,300 ล้านวอน และ คิมซอกจิน (Jin)มีหุ้นมูลค่า 10,200 ล้านวอนตามลำดับ นั่นทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ HYBE Labels

BTS 001

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องแปลกที่สมาชิกวง BTS จะมีหุ้นมากมายขนาดนี้ เนื่องจากสมาชิกทั้ง 7 คน มักถูกพูดถึงในฐานะวงสร้างค่าย พวกเขาทุ่มเทอย่างหนักจนได้รับความนิยม จนสามารถทำให้ค่ายที่มีหนี้สินมากมายปลดหนี้หลายพันล้านได้สำเร็จ ไม่เพียงแค่พวกเขาจะประสบความสำเร็จในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังพาวง K-POP ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกอีกด้วย

BTS 002

ในทางกลับกันทุกการเคลื่อนไหวของสมาชิกวงบีทีเอส ก็ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ HYBE Labels ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมิถุนายน 2022 เมื่อ BTS ประกาศว่าพวกเขาจะหยุดพักกิจกรรมกลุ่ม หุ้นของ HYBE Labels ลดลง 28% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวบริษัทในปี 2020

จากนั้นข่าวเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารของ BTS ในเดือนตุลาคม 2022 ทำให้หุ้นลดลงเล็กน้อย 2.5% แต่เพียงหนึ่งวันต่อมา ปฏิกิริยาเชิงบวกก็เกิดขึ้นเมื่อ Jin เข้ารับราชการทหาร ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 6.52%

และนี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนของอำนาจ อิทธิพล และศักดิ์ศรีของบีทีเอส ใน HYBE Labels

ติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สยามวิจิตรรัตนาภรณ์

ความงดงามของ 3 Miss Universe 2022  ภายใต้ชุดไทย สยามวิจิตรรัตนาภรณ์

Alternative Textaccount_circle
สยามวิจิตรรัตนาภรณ์
สยามวิจิตรรัตนาภรณ์

เรียกว่าเป็นภารกิจจักรวาลส่งท้ายก่อนบินไปกัวลาลัมเปอร์มาเลเซีย สำหรับสามสาวงาม Miss Universe 2022  (มิสยูนิเวิร์ส 2022) ที่ได้ไปเยี่ยมชมวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ท่ามกลางบรรยากาศชุ่มฉ่ำของสายฝน โดยทั้งสามสาวมิสยูนิเวิร์สอยู่ในชุดไทย สยามวิจิตรรัตนาภรณ์ นับว่าเป็นอัตลักษณ์ของชาติ ที่สื่อถึงความเป็นไทย  จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชุดไทยประจำชาติให้กับ Miss Universe

สยามวิจิตรรัตนาภรณ์

โดยครั้งนี้ “ภูษาผ้าลายอย่าง” ได้นำเสนอ ความงามของรอยยิ้มสยาม ผ่านสีสันของพัสตราภรณ์ ที่สดใส รื่นเริง เปรียบกับเมื่อใครได้เห็นรอยยิ้มสยามต้องชื่นชอบและชื่นชม ในความร่างเริงของคนไทย  ซึ่งรูปแบบของการแต่งกายเป็นการแต่งกายตามอย่างโบราณ  กล่าวคือ การนุ่งห่ม ที่เย็บทีละส่วน ใช้ฝีมืออันประณีต พิถีพิถัน  ในการแต่งกาย ซึ่งได้นำแนวคิดจาก “ชุดไทยจักรพรรดิ์”  อันสง่างาม มาปรับให้เข้ากับสาวงาม  ชุดทั้งสามชุด จึงนุ่งผ้าผืนตามขนบโบราณ โดยมิได้ตัดเย็บ แล้วตรึงเข้ากันให้เป็นชุดอย่างงดงาม

โดย ทั้งสามคนมีการนุ่งห่ม เป็นส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ  ผ้านุ่ง  เป็นผ้าเขียนลายทอง “ลายสร้อยบุษบาบรรณ” และผ้าลายอย่าง ลายเกาะแก้วสุทธารมย์ , ลายอรุโณทัย  อันมีกระบวนการทำนับแรมเดือน กว่าจะได้ผ้านุ่งสัก1ผืน

ผ้าสไบ  เป็นผ้าหน้าแคบ ทำจากผ้าไหม สีสดสวย นำมาอัดจีบ ให้ได้เป็นกลีบงดงาม ห่มไว้ด้านใน

ผ้าสะพัก ผ้าอันมีกระบวนลายวิจิตรตระการตา สื่อถึงภูมิปัญญาของช่างชาวไทย ที่สั่งสมเป็นมรดกทางปัญญา  ปักด้วยโลหะที่เรียกว่า ดิ้นข้อ ดิ้นโปร่ง ประดับด้วยปีกแมลงทับ และอัญมณี

ถนิมพิมพาภรณ์   เป็นงานสลักดุนโลหะสกุลช่างเมืองเพชรบุรี และสกุลช่างทองหลวง ฝังอัญมณีสีต่างๆ

ชุดไทยชุดนี้ ออกแบบรังสรรค์เครื่องแต่งกาย โดย ภูษาผ้าลายอย่าง และ มาลัยครุยประดับชุด @chamchuristudio

มิว ศุภศิษฏ์

สายมูตัวจริง “มิว – ศุภศิษฏ์” เผยข้าวของต้องมู! และความเชื่อส่วนตัวพาเฮง

Alternative Textaccount_circle
มิว ศุภศิษฏ์
มิว ศุภศิษฏ์

ปีนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของ “มิว – ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” เพราะนอกจากจะมีผลงานปังๆ จ่อคิวมาให้แฟนๆ ชมรัวๆ ฟากชีวิตรักเจ้าตัวก็แง้มมาแล้วว่ามีคนคุยด้วย เบื้องหลังความลงตัวทั้งชีวิตและงานที่นอกจากฝีมือของเขาแล้ว มิวยังถือเป็นสายมูตัวจริง เกริ่นมาขนาดนี้ อยากรู้แล้วใช่ไหม มิวพกอะไรจึงช่วยให้เฮงและปังเบอร์นี้

สายมูตัวจริง “มิว – ศุภศิษฏ์” เผยข้าวของต้องมู! และความเชื่อส่วนตัวพาเฮง

“ผมเชื่อเรื่องมูมานานแล้ว อย่างสมัยเรียนอยากได้เกรดเอมาก ถ้าทำของตกก่อนสอบจะรู้สึกเป็นลางว่าอาจสอบตก ก็จะถือเคล็ดช่วยว่าถ้าของชิ้นที่ตกนั้น มีตัวอักษร A จะได้ A แน่ๆ แต่ถ้าไม่มีก็จะพยายามหาทางเชื่อมโยง เช่น ทำ ขวดน้ำตก ขวดคือ Bottle ผมก็จะลิงก์ไปว่า Bottle of Water เป็นต้น คือมี A อยู่ตรง Water (หัวเราะ) สำหรับผมรู้สึกว่าได้ผลในแง่จิตใจน่ะ เพราะพอเรามีกำลังใจทำข้อสอบ เกรดก็จะดี ส่วนอีกอย่างที่ต้องทำเสมอก่อนออกจากบ้านคือใส่เสื้อสีมงคลครับ หากรีบหรือจำไม่ได้ว่าวันนั้นใส่สีอะไรแล้วโชคดี ผมจะดูแค่ว่าอย่าใส่สีกาลกิณี เช่น วันจันทร์ห้ามใส่สีแดง เป็นต้น

“แต่ถ้าเป็นของที่ผมพกติดตัวเสมอคือแหวนครับ อย่าง LV Onyx แบรนด์หลุยส์ วิตตอง เป็นหินออนิกซ์สีดำ ผมเชื่อเรื่องพลังงานจากหิน ซึ่งออนิกซ์เป็นหินนำโชค ช่วยให้มีโชคลาภและช่วยเรื่องความกล้าหาญ ความเชื่อเกี่ยวกับแหวนคือนอกจากตัวแหวน นิ้วที่สวมก็มีผลด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้ช่วยเรื่องอะไร เช่น ถ้าเรื่องงานจะสวมที่นิ้วชี้ข้างขวา นิ้วชี้หมายถึงความเป็นผู้นำ การสวมแหวนที่นิ้วนี้ ช่วยเรื่องการจัดการ การบริหารงาน ถ้าอยากได้เรื่องความรัก เขาก็แนะนำให้สวมที่นิ้วนางมือซ้าย ซึ่งตอนที่ผมไปซื้อก็เหลือแค่ไซส์นี้ไซส์เดียวและวงเดียวด้วย

มิว ศุภศิษฏ์

“นอกจากวงนี้ผมยังมีแหวนอื่นๆ อีก รวมแล้วน่าจะประมาณ 10 วง เวลาใส่ ตามศาสตร์แล้วให้เป็นจำนวนเลขคี่ พอใส่แหวนแล้วรู้สึกว่าตัวเองอุ่นใจ แม้ผมจะไม่หวังอะไรจากแหวน แต่การมีอยู่ที่นิ้วก็ช่วยให้มั่นใจมากขึ้น

“นอกจากนี้ผมยังนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลากหลาย เช่น เทพเจ้าแชกง วัดแชกงหมิวหรือวัดกังหันลมที่ฮ่องกง ท่านช่วยให้ชีวิตโชคดี ปัดเป่าสิ่งไม่ดี ที่นั่นจึงมีเครื่องรางกังหันขายเยอะ ผมเองก็เช่ากลับมาเหมือนกัน นอกจากนี้ยังบูชาพ่อชูชก วัดป้อมรามัญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นองค์เล็กๆ ไว้ที่บ้าน ช่วยเรื่องโชคลาภครับ

“ส่วนเรื่องขอพรผมไม่ถนัด ผมว่าบางทีเวลาขอพร ใจเรารีบ จึงไม่ค่อยเห็นผล ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นการไหว้สักการะโดยไม่หวังผลอะไร รู้สึกดีกับใจมากกว่า เพราะเวลาอยากได้อะไร เราต้องลงมือทำด้วย แค่ไหว้ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เข้ามา ส่วนถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอำนวยพรอะไรให้ ก็แล้วแต่ท่านเลย

มิว ศุภศิษฏ์

“ส่วนตอนนี้ถ้ามีปัญหาหรืออยากขอคำแนะนำจะพึ่งหมอดู เฉพาะเวลาที่รู้สึกว่ามีเรื่องสำคัญต้องตัดสินใจแล้วยังไม่ค่อยแน่ใจนัก หมอดูท่านนี้แม่นมาก มีคนแนะนำมาอีกที ผมเริ่มดูเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตอนนั้นไปถ่ายซีรี่ส์ที่เกาหลี ใช้วิธีแอดไลน์ไป ซึ่งไลน์ของผมไม่ขึ้นชื่อ มีแค่รูปโปรไฟล์การ์ตูน คือดูไม่ออกเลยว่าเป็นมิว บวกกับไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร เขาขอแค่วันเดือนปีเกิดกับเวลาเกิดเท่านั้น แล้วก็ทักมาว่าตอนนี้คุณทำงานแถวๆ เกาหลี จีน ญี่ปุ่นใช่ไหม ซึ่งใช่ เขาบอกว่าผมมีดวงการเดินทางเยอะ เช่น เดือนตุลาคมก็จะไปอเมริกา โอ้โฮ แม่นมาก เพราะผมซื้อตั๋วไว้แล้ว แต่ไม่ได้บอกใคร ขนาดคุณแม่ยังไม่ได้บอกเลย 

“อย่างเรื่องงาน ซึ่งผมแพลนว่างานที่ยังค้างคาน่าจะจบช่วงเดือนเมษายนปีนี้ แต่เขาบอกว่าไม่ถึงหรอกนะ ธันวาคมทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็จริงตามนั้น อย่างความรักก็ถามจากเขาเหมือนกัน ผลออกมาตรงหลายอย่าง นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำให้ไปไหว้หลวงพ่อโสธร เพราะช่วงที่ผ่านมาผมเจอเรื่องยุ่งๆ หลายเรื่อง หลังจากไปไหว้ท่านและสวดมนต์ พบว่าปัญหาคลี่คลายดีขึ้น สิ่งสำคัญคือผมสวดมนต์ทุกวัน โดยเฉพาะบทชินบัญชร ไม่เคยขาดเลย เป็นบทสวดที่ป้องกันสิ่งไม่ดีและเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองครับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 990

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

MASKATEER LONDON

ถูกใจสายแฟ! MASKATEER LONDON ไอเท็มฮ็อตที่เป็นมากกว่า Waist Trainer ของเหล่าคนดัง

Alternative Textaccount_circle
MASKATEER LONDON
MASKATEER LONDON

ปฎิเสธไม่ได้เลยกับกระแสความฮ็อตของแฟชั่นชุดออกกำลังกาย รวมไปถึงชุดกระชับรูปร่าง (Waist Trainer) ที่เป็นหนึ่งในไอเท็มเด็ดมัดใจสาวๆ สายแฟ(ชั่น) ทั่วโลก และเมื่อ Waist Trainer จะไม่ใช่ชุดที่ต้องใส่เวลาออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยดีไซน์สุดชิคที่สามารถมิกซ์ไปกับแฟชั่นคอร์เซ็ตที่กำลังมาแรงสุดในปีนี้ จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตของเหล่าเซเลบตัวแม่คนดังใส่เดินสับๆ กันมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสาวสวยสุดเพอร์เฟ็กต์อย่าง Victoria Beckham นางแบบสาวชาวสเปน Georgina Rodriguez หวานใจ Cristiano Ronaldo ดาวฟิตเนสสาวชาวออสซี่ชื่อดังอย่าง Tammy Hembrow รวมถึงนักแสดงชาวอังกฤษมากความสามารถอย่าง Oliva Colman

และแน่นอนว่าแบรนด์ที่บรรดาสาวฮ็อตเหล่านี้เลือกสวมใส่ต้องเป็นแบรนด์ดังจากเกาะอังกฤษอย่าง MASKATEER LONDON ซึ่งมีวางขายทั่วโลกถึง 16 ประเทศ อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมัน ออสเตรีย นอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เป็นต้น ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้สาวไทยได้อัพเดทเทรนด์ฮิตกันเป็นที่เรียบร้อย ที่สำคัญประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกในเอเชียที่MASKATEER LONDON เข้ามาบุกตลาดในโซนนี้อีกด้วย

MASKATEER LONDON ไอเท็มฮ็อตของเหล่าคนดัง

Waist Trainer MASKATEER LONDON ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากคอร์เซ็ตของสาวชนชั้นสูงในอังกฤษยุค Victorian ที่ปัจจุบันได้กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง โดยทางแบรนด์ได้นำมา Redesign ใหม่ให้มีความ Classy มากขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นคอร์เซ็ตที่ช่วยกระชับรูปร่างให้ดูหุ่นดีเป็น V-Shape มีเอวคอดและสะโพกผายเท่านั้น แต่ยังผสานความเป็นแฟชั่นใส่เข้าไปด้วยเพื่อให้สาวๆ ได้สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ลงตัวกับทุกสไตล์ ใส่เป็น everyday look แบบง่ายๆ กับกางเกงยีนส์ มินิสเกิร์ตก็ดูเก๋ ซ่อนความเซ็กซี่เบาๆ ถ้าจะเพิ่มเลเยอร์สวมทับด้วยด้วยเสื้อเบลเซอร์สูท ก็ให้ความรู้สึกทะมัดทะแมง สะดุดตาไม่เหมือนใคร

Tammy Hembrow

สาวๆ สามารถเพิ่มลูกเล่นในการครีเอทลุคของตัวเองได้หลากหลายสไตล์ หรือสาวคนไหนจะไปออกงานอีเว้นท์และอยากอวดหุ่นเพรียวในชุดเดรสยาวก็ใส่ Waist Trainer ไว้ด้านในได้เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ ซึ่งMASKATEER LONDON ไม่ได้แค่ช่วยกระชับรูปร่างและเพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มสาวๆ อย่างเดียว แต่ใครๆ ก็ใส่ Waist Trainer นี้ได้ ตอกย้ำเทรนด์ Genderless Fashion ที่ทุกเพศสามารถใส่ได้อย่างสนุกสนาน ด้วยเหตุนี้MASKATEER LONDON จึงกลายเป็นแฟชั่นไอเท็มที่ครองใจสายแฟ(ชั่น) ทั่วโลกอย่างรวดเร็วจนต้องมีติดตู้เสื้อผ้าไว้

จุดเด่นที่ครองใจสาวๆ ทั่วโลก นอกจากดีไซน์ที่มีความเป็นแฟชั่นทันสมัยแล้ว ยังพิถีพิถันทุกขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การเลือกผ้าที่ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีล่าสุดที่คิดค้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและดีไซเนอร์ชาวอังกฤษของMASKATEER LONDON มาใช้ในการผลิตอีกด้วย ทำให้สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดีด้วยช่องว่างขนาดเล็กบนเส้นใย ทำให้ช่วยลดรอบเอวและหน้าท้องได้อย่างรวดเร็วกระชับสัดส่วนให้เฟิร์มยิ่งขึ้น มีลาเท็กซ์คุณภาพสูงที่ช่วยคุมหน้าท้องให้แบนราบ นอกจากนี้คอร์เซ็ตยังช่วยพยุงหลังและช่วยจัดท่าทางให้สาวๆ มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นได้ สามารถสวมใส่ได้ทุกวันจะใส่ทำงาน ใส่อยู่บ้านหรือใส่ออกกำลังกายก็ได้เช่นกัน มีให้เลือกหลายไซต์ตั้งแต่ XXS – XL สาวไทยเลือกอินเทรนด์ได้กับ 4 คอลเล็คชั่นล่าสุด ได้แก่

Breathable Air: มาพร้อมดีไซน์สวยเก๋และเทคโนโลยีระบายอากาศ บอกเลยว่าสาวสายฝอ ร่างเล็กร่างใหญ่พลาดไม่ได้

Couture: คอร์เซ็ตสีเรียบไอเท็ม Must Have ที่สาวๆ ต้องมีไว้ มิกซ์แอนซ์แมทช์ได้กับทุกลุค พาเหรดมาเลือกได้ถึง 4 สีสวย Couture Red Couture Nude Couture Lilac และ Couture Black

Nuage: เหมาะสำหรับสาวๆ ที่เริ่มต้นใส่คอร์เซ็ต เนื้อผ้ามีความบางเบาทำให้รู้สึกสบายไม่อึดอัดเวลาสวมใส่ และสามารถใส่ได้ทุกวัน

Active Me Black Gym Belt: เข็มขัดออกกำลังกาย (SPORT Belts) ผสานเทคโนโลยีซาวน่าเอฟเฟกต์ที่ช่วยเรียกเหงื่อเร่งการเผาผลาญและซัพพอร์ตหลังป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย

สาวๆ แฟชั่นนิสต้าชาวไทยมาสนุกกับการสไตลิ่งลุคสุดชิคของตัวเองด้วย MASKATEER LONDON Waist Trainer แบรนด์ดังส่งตรงจากอังกฤษได้แล้ววันนี้ ที่ Instagram: @maskateer.thailand LINE Official: @maskateerlondon LINE Shopping: MASKATEER LONDON และ Official Website www.maskateer.co.th


บทความอื่นๆ ที่น่ามสนใจ

ลิซ่า

บิวตี้ไอเท็มชิ้นหรูที่ ‘ลิซ่า’ พกติดตัวไว้ทัชอัพในงานแฟชั่นโชว์

Alternative Textaccount_circle
ลิซ่า
ลิซ่า

ยัยหนูตะลิซ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หยิบจับทำอะไรก็เป็นประเด็นเสมอ และเมื่อไม่กี่วันมานี้ในฐานะ Global Brand Ambassador จึงได้ร่วมชมแฟชั่นโชว์ Celine Men’s Fall 2023 ณ Le Palace กรุงปารีส ออร่าความปังก็คือปิดไม่ชิด ลิซ่ามาในลุคสวยคมสวมโค้ตขนเฟอร์สีดำ พร้อมกระเป๋าคู่ใจรุ่น Shoulder Bag Triomphe in Laminated Goatskin with Leopard Print

แต่ทีเด็ดจนกลายเป็นอีกหนึ่งไวรัลในครั้งนี้คือ บิวตี้ไอเท็ม ที่พกติดอยู่ในกระเป๋าที่ลิซ่าหยิบขึ้นมาทัชอัพ ขอบอกเลยว่าชิ้นนี้ซื้อตามได้ ราคาเบาๆ แค่ 2,930 บาทเท่านั้น ไว้พกเติมหน้าเก๋ๆ แบบยัยหนูตะลิซ

บิวตี้ไอเท็มชิ้นหรูที่ ‘ลิซ่า‘ พกติดตัวไว้ทัชอัพในงานแฟชั่นโชว์

ซึ่งบิวตี้ไอเท็มชิ้นหรูที่ลิซ่าพกติดกระเป๋าไปด้วยนั้นก็คือ GUERLAIN Parure Gold Cushion คุชชั่นรองพื้นตลับสีทองดีไซน์หรูหราควรค่าแก่การพกพาอย่างยิ่ง ตลับนี้เป็น Parure Gold สูตรใหม่ เพื่อผิวโกลว์สวยและมีสกินแคร์บำรุงผิวไว้ในหนึ่งเดียว แถมยังช่วยปกป้องผิวสวยจากแสงแดด ด้วย SPF 40 and PA+++ มีส่วนผสมสำคัญคือทองคำ 24 กะรัต เนื้อสัมผัสฟลูอิด เกลี่ยง่าย สบายผิว


ภาพ : lalalalisa_m

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เจมีไนน์ - โฟร์ท

หล่อละมุน ‘น้องฉัตร’ เมคอัพสองหนุ่ม ‘เจมีไนน์ – โฟร์ท’ พร้อมทริคเพิ่มมิติใบหน้า

Alternative Textaccount_circle
เจมีไนน์ - โฟร์ท
เจมีไนน์ - โฟร์ท

ทำสาวๆ ใจละลาย กับเช็ตภาพของสองหนุ่มฮอตจากซีรีส์แฟนผมเป็นประธานนักเรียน (My School President) เจมีไนน์-นรวิชญ์ฐิติเจริญรักษ์ และ โฟร์ท-ณัฐวรรธน์จิโรชน์ธิ ที่ล่าสุดมีโอกาสได้แต่งหน้าเปลี่ยนลุคกับ น้องฉัตร-ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ จากที่หล่อใสอยู่แล้ว น้องฉัตรเพิ่มความละมุนเข้าไปอีกด้วยเทคนิคการแต่งหน้าเฉพาะตัวที่แต่งออกมาแล้วต้องหล่อ แต่ยังคงความเป็นตัวของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ซ่อนรายละเอียดเล็กน้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติบนใบหน้าให้ชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น

หล่อละมุน ‘น้องฉัตร‘ เมคอัพสองหนุ่ม ‘เจมีไนน์ – โฟร์ท’ พร้อมทริคเพิ่มมิติใบหน้า

โดยน้องฉัตรได้เผยถึงที่มาการแต่งหน้า 2 หนุ่ม เจมีไนน์ – โฟร์ท ว่า “ที่เลือกเป็นคู่นี้เพราะว่าตอนนี้น้องเขาป๊อปปูล่ามากๆ และเราดูเรื่องแฟนผมเป็นประธานนักเรียนแล้วรู้สึกว่าอิน เป็นคู่ที่น่ารักทำให้นึกถึงวัยเด็กที่เวลาเราแอบชอบคน ก็เลยเลือกคู่นี้เป็นไอดอลของเดือนแห่งความรักปีนี้ครับ”

จุดเด่นบนใบหน้าของ 2 หนุ่ม
ใบหน้าของน้องมีผิวที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้น การแต่งหน้าในงานผิวจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวสวยยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคการลงรองพื้นบริเวณช่วงกรอบหน้าบางๆ แล้วก็ทับด้วยแป้งทูเวย์ปัดเบาๆ เทคนิคปกติเราจะใช้เป็นพัฟ แต่ครั้งนี้จะใช้เป็นแปรงปัดเกลี่ยเบาๆ เพื่อให้แนบเนียนไปกับผิว ส่วนเรื่องการเลือกสี ก็จะเลือกสีที่ดูสว่างหน่อยเป็นสไตล์แบบผิวดูบลิ๊งค์ ดูโกลว์ จะเลือกเป็นเฉดสีสองสี คือ สว่างจะลงตรงกลางหน้าตามด้วยสีเข้มบริเวณกรอบหน้า แล้วก็ใช้บลัชสติ๊กเนื้อครีมทาเปลือกตาเบาๆ ทาแก้ม แล้วก็ทาบริเวณมุมปากด้านบนเพื่อให้ปากมีสีระเรื่อมากขึ้น

การแต่งหน้าผู้ชายกับผู้หญิง แตกต่างกันไหม
มันมีทั้งความแตกต่างและไม่แตกต่างครับ ความแตกต่างคือ ผู้ชายต้องแต่งให้ดูผิวสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ให้เหมือนผิวที่ทานมะเขือเทศ ทานแครอทมาเยอะๆ เพื่อให้ดูอิ่มน้ำ ปกติถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปก็จะแต่งให้ผิวดูแทนนิดหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้อยากแต่งให้ดูสวีท มีความหวานๆ ลงไปนิดหนุึ่ง ก็จะทาสีแก้ม สีตา ทาสีปากให้มีความชมพูระเรื่อ เทคนิคของผู้ชายคือต้องเลือกเฉดสีให้ดี เพราะการแต่งหน้าผู้ชายต้องแต่งให้ดูนวลเนียนเป็นธรรมชาติ แต่ของผู้หญิงยังมีอายไลน์เนอร์ มาสคาร่า ลิปสติก บางทีแต่งได้เยอะกว่าของผู้ชายมาก ก็อาจจะทำให้ดูกลมกล่อมได้มากยิ่งขึ้น แต่งหน้าผู้ชายก็คือแต่งน้อยให้ดูมาก ส่วนของผู้หญิงจะแต่งมากให้ดูน้อยครับ”

อุปกรณ์แต่งหน้าที่ผู้ชายควรต้องมี
1. อย่างน้อยผู้ชายต้องดูแลเรื่องสกินแคร์ ก็คือต้องดูเรื่องมอยเจอร์ไรเซอร์ทาผิว บางทีอาจจะมีเรื่องผิวแห้ง เรื่องของสิว จะต้องดูเรื่องสกินแคร์ก่อน
2. ครีมกันแดด
3. ในปัจจุบันคนอาจจะมองว่าผู้ชายแต่งหน้าเป็นเรื่องแปลก แต่จริงๆ ผู้ชายที่แต่งหน้าดูมีเสน่ห์มากๆ นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนดูแลและรักตัวเอง คนภายนอกมองจะดูรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ดูแลตัวเอง ดังนั้นในยุคนี้การแต่งหน้าให้ดูไม่โป๊ะเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญ การเลือกสกินแคร์ เลือกเฉดสีรองพื้น หรือสีแป้ง จะเห็นเลยว่าในวงการบันเทิง ดารา เซเลบริตี้บางคน เวลาออกงานเขาก็จะมีการแต่งหน้า รวมถึงตัวน้องฉัตรเองก็มีการแต่งหน้าเพราะว่าบางทีเราอาจจะมีรอยสิวที่เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น บางทีอาจจะนอนน้อยขอบตาคล้ำ หรือบางทีริมฝีปากอาจจะแห้งดูสุขภาพไม่ดี คนมองอาจจะเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำ

ดังนั้น สิ่งที่ผู้ชายควรมีก็คือรองพื้นที่เข้ากับเฉดสีผิว แป้งที่สามารถแต่งเติมปิดรอยได้ ซึ่งต้องเลือกเฉดสี น้องฉัตรแนะนำว่า การเลือกแป้งผู้ชายต้องเลือกสักสองเฉดสีคือ สีพอดีผิว และอาจจะเป็นสีที่เข้ม หรืออ่อนกว่าสีผิวก็ได้แต่อย่างน้อยต้องมีสีที่พอดีผิวก่อน ส่วนเรื่องอันเดอร์โทนควรจะมีการเทสหรือเลือกอันเดอร์โทนตัวเอง เพราะว่าสีผิวแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน รวมถึงสิ่งที่ผู้ชายต้องมีอีกคือเรื่องคอนทัวร์ต่างๆ คอนทัวร์เฉดกรอบหน้า มาสคาร่าที่ใกล้หมดก็ได้นำมาปัดเส้นขนคิ้วให้ดูเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ และสุดท้ายที่ผู้ชายต้องมีคือ ลิปกลอส หรือลิปบาล์ม ที่ทำให้ริมฝีปากดูไม่แห้งและสุขภาพดี การเลือกสีลิปผู้ชายจะเลือกสีส้มพีช ส้มน้ำตาล หรือว่าส้มอมชมพูก็ได้ เพื่อให้ปากดูสุขภาพดียิ่งขึ้น

วิธีการแต่งหน้าสำหรับผู้ชาย
อันดับแรกเลยต้องเลือกโทนสีก่อนว่าวันนี้ต้องการแต่งตัวแบบไหน แล้วก็มาเลือกโทนเมคอัพกัน แนะนำเริ่มจากสกินแคร์ก่อน ไม่ว่าใครจะเลือกใช้โทนเนอร์ ครีมบำรุง มอยเจอร์ไรเซอร์ รวมถึงครีมกันแดด และตามมาด้วยรองพื้น ซึ่งเทคนิคทารองพื้นให้ดูบางได้ด้วยการบีบรองพื้นลงที่หลังฝ่ามือ หลังจากนั้นจะใช้แปรงที่ใหญ่เกลี่ยรองพื้นบางๆ เบลนด์แปรงให้รองพื้นทั่วขนแปรง หลังจากนั้นนำแปรงที่เปื้อนรองพื้น หรือที่โดนรองพื้นทั่วแล้ว นำมาเบลนด์ให้ทั่วหน้า

สิ่งที่น้องฉัตรจะแนะนำในการแต่งหน้าเลยก็คือช่วงบริเวณรอบดวงตา เพราะบริเวณรอบดวงตาจะมีผิวที่คล้ำ ต้องปิดผิวที่คล้ำก่อน การแต่งหหน้า ถ้าตรงไหนเรามีรอยดำรอยสิว หรือคล้ำใต้ตา ให้ใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ลงบริเวณนั้นก่อนเพื่อให้บริเวณนั้นดูสดชื่น สดใส ปิดรอย หลังจากนั้นค่อยนำที่เหลือมาลงบริเวณกรอบหน้า

หรือสำหรับใครที่อยากใช้รองพื้นคู่กับแป้งทูเวย์ก็ได้ สามารถใช้แป้งทูเวย์แตะเบาๆ บริเวณผิวหน้าในส่วนทีโซนที่มีความมัน แต่ถ้าบางคนชอบผิวที่ดูโกลว์ไม่ต้องลงแป้งก็ได้ หรือบางคนถ้าหน้ามันมากๆ แล้วอยากให้หน้าดูแมตต์ก็ลงแค่แป้งอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งการใช้แป้งทูเวย์ถ้าเป็นบริเวณรอบดวงตาที่มีรอยคล้ำใต้ตามากๆ ให้ใช้พัฟกดเบาๆ บริเวณรอบดวงตา หลังจากนั้นลงทั่วใบหน้าให้เปลี่ยนมาเป็นแปรงใหญ่ๆ ฝนแป้งให้ทั่วขนแปรงและนำไปเบลนด์ให้ทั่วหน้า ตามด้วยปัดแก้มกัน ลงคอนทัวร์ ปัดคิ้ว เพื่อเอาแป้งที่ติดบริเวณคิ้วออก และสุดท้ายอย่าลืมนะครับ ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก จะทำให้ใบหน้าสุขภาพดีเวลาคนมองจะรู้สึก ผู้ชายคนนี้สุขภาพดี ทำไมดูแลตัวเองดีจังเลย และเคล็ดลับสุดท้ายของการแต่งหน้าผู้ชายให้ดูธรรมชาตินั่นคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับผิวของตัวเอง และเลือกเมคอัพให้ดีครับ”


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“คิมป์ตัน” เปิดตัว Stay Human Concierges Cover

“คิมป์ตัน” เปิดตัว Stay Human Concierges พร้อมแพ็คเกจประสบการณ์สำหรับโรงแรมคิมป์ตันทั่วโลก ตอบโจทย์สไตล์การเดินทางที่หลากหลาย

“คิมป์ตัน” เปิดตัว Stay Human Concierges Cover
“คิมป์ตัน” เปิดตัว Stay Human Concierges Cover

แพ็คเกจ Stay Human ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทาง มาพร้อมประสบการณ์หลากหลายที่คาดไม่ถึง จากคอร์สเรียนปรุงน้ำหอมและการอาบคลื่นเสียงเพื่อการบำบัด ไปจนถึง elixir shot และคอร์สการต่อสู้ป้องกันตัว

วันนี้ คิมป์ตัน โฮเต็ล แอนด์ เรสเตอรองส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน Luxury & Lifestyle ของโรงแรมและรีสอร์ท IHG ได้ประกาศเปิดตัว แพ็คเกจประสบการณ์ Stay Human ที่โรงแรมที่ได้รับคัดเลือกทั่วโลกเพื่อตอบโจทย์สไตล์การเดินทางและบุคลิกที่หลากหลายของผู้คน ซึ่งมาพร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกของ Stay Human Concierges ประจำโรงแรมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวางแผนการเดินทางให้แขกที่เข้าพักตามความต้องการส่วนบุคคล

โดยสำหรับแพ็คเกจ Stay Human นั้น อิงตามผลสำรวจ global consumer survey ครั้งล่าสุดของคิมป์ตัน ซึ่งพบว่า 85% ของผู้ตอบแบบสำรวจต้องการให้แบรนด์ท่องเที่ยวออกแบบประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น

จากผลสำรวจดังกล่าว คิมป์ตัน ได้เปิดตัวแคมเปญระดับโลกภายใต้ชื่อ Stay Human ครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 2565 อันเป็นการประกาศการเปิดตัวของ Stay Human Creator Collective ครั้งแรก พร้อมตอกย้ำคำมั่นสัญญาของคิมป์ตัน ในการเปลี่ยนโฉมเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย

แคทลีน เรเดนบาก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของคิมป์ตัน โฮเต็ล แอนด์ เรสเตอรองส์ กล่าวว่า “คิมป์ตันมีรากฐานมาจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และการมอบประสบการณ์ที่ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางทุกประเภท ทุกวันนี้เราใช้ข้อมูลจากผู้บริโภคในการพัฒนาบริการของเราเพื่อปิดจุดบอดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากที่เราพบว่าผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายกว่าเดิมสำหรับความต้องการที่แตกต่างของนักเดินทาง คิมป์ตันจึงออกแบบประสบการณ์เฉพาะในแต่ละโรงแรมของเรา เพื่อช่วยให้แขกที่เข้าพักสามารถเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด” “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคิมป์ตันในการทำตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์เราให้กลายเป็นจริงเพื่อเปลี่ยนวิธีการที่เราทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ รวมถึงวิสัยทัศน์ร่วมของเราและประสบการณ์ที่เราต้องการส่งมอบ”

“คิมป์ตัน” เปิดตัว Stay Human Concierges พร้อมแพ็คเกจประสบการณ์สำหรับโรงแรมคิมป์ตันทั่วโลก ตอบโจทย์สไตล์การเดินทางที่หลากหลาย

แพ็คเกจ Stay Human

โรงแรมแบรนด์คิมป์ตันที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของ แพ็คเกจ Stay Human แต่ละโรงแรมได้ทำการสร้างประสบการณ์ต่าง ๆ ให้แขกที่เข้าพักสามารถเลือกจองได้แบบตามใจชอบ ซึ่งแขกจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับ Stay Human Concierge ประจำโรงแรมในการเลือกประสบการณ์ที่ตนเองอยากลองสัมผัสจากเมนูประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย จาก elixir shot และคอร์สเรียนปรุงน้ำหอมแบบส่วนตัว ไปจนถึงการอาบคลื่นเสียงเพื่อการบำบัดและคอร์สเรียนมวยไทย จะเห็นได้ว่าแพ็คเกจ Stay Human คัดสรรประสบการณ์ที่หลากหลายไม่เหมือนใครมาให้แขกที่เข้าพักได้ลองสัมผัส โดยโรงแรมคิมป์ตันที่ร่วมแคมเปญนี้ได้แก่:

ในเดือนถัด ๆ ไป Stay Human Creator Collective ของคิมป์ตัน จะเดินทางไปยังโรงแรมที่ได้รับคัดเลือกทั่วโลกเพื่อสัมผัสประสบการณ์ในแพ็คเกจ Stay Human ด้วยตนเอง อันมาจากการที่แบรนด์ คิมป์ตัน พยายามผลักดันให้มีความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันที่เท่าเทียมมากขึ้น ซึ่งเหล่าครีเอเตอร์ได้รวมตัวกันเป็นครั้งแรกที่กรุงลอนดอนในเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ที่ คิมป์ตัน ฟิตซ์รอย ลอนดอน โฮเต็ล โดยที่คิมป์ตันเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ เพื่อสำรวจรูปแบบการเดินทางและความชอบการเข้าพักที่หลากหลาย ซึ่งกลุ่ม Stay Human Creator Collective ปี 2566 ของคิมป์ตันกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและในปัจจุบันประกอบไปด้วย:

  • Shayne Tino (@shaynetino) ออสเตรเลีย – Shayne เป็นผู้กำกับศิลป์ นักออกแบบ นายแบบ และผู้มีชื่อเสียงด้านงานครีเอทีฟ ผู้ซึ่งร่วมเปิดตัวแคมเปญค้าปลีกทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้กำกับแบรนด์แฟชั่นของตนเองภายใต้ชื่อ Rimagind และ C&talyst
  • MYRNE (@myrne) สิงคโปร์ – MYRNE เป็นดีเจ โปรดิวเซอร์ และศิลปินจากสิงคโปร์ ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จบนเวทีในประเทศสิงคโปร์แล้ว ยังมีประวัติการแสดงสดที่น่าประทับใจอีกด้วย โดยในปี 2561 MYRNE ถือเป็นชาวสิงคโปร์คนแรกที่ได้เล่นในเทศกาลดนตรีอย่าง Ultra Miami และ Tommorow Belgium อีกด้วย
  • Anna Whitehouse (@mother_pukka) สหราชอาณาจักร – Anna Whitehouse เป็นนักข่าว บรรณาธิการ นักเขียน และพรีเซนเตอร์สำหรับ Heart Radio และมีรายการพอดแคสต์ของตนเองที่มีชื่อว่า Dirty Mother Pukka ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อีกทั้งเธอยังเป็นผู้ก่อตั้ง Mother Pukka ซึ่งเป็นเว็บพอร์ทัลสำหรับข่าวสาร กิจกรรม และเป็นแหล่งสำหรับรีวิวแบบตรงไปตรงมาว่าด้วยเรื่องของความยากลำบากของการเป็นพ่อแม่ เธออาศัยอยู่ที่กรุงลอนดอนกับสามีและลูกสองคนที่มีชื่อว่า Mae และ Eve
  • Tess Daly (@tess.daly) สหราชอาณาจักร Tess เป็นอินฟลูเอนเซอร์ผู้พิการจากเมืองเชฟฟีลด์ เธอสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์จากมุมมองที่ไม่เหมือนใครในฐานะที่เธอต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น
  • Dan Brown (@simplydanbrown) ออสเตรเลีย – Dan Brown เป็นนายแบบแฟชั่นประจำอยู่ที่ซิดนีย์ที่ได้เซ็นสัญญากับ Chadwick Models โดยที่เขาเคยปรากฏตัวบนนิตยสาร GQ ออสเดตรเลีย ในปี  2564 ในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชายออสซี่กล้าที่จะแต่งตัวแตกต่าง
  • Rei Shito (@reishito) ญี่ปุ่น – Rei เป็นช่างภาพแนวสตรีท รวมถึงเป็นนักข่าว เธอเคยปรากฏตัวบนนิตยสาร Vogue ในปี 2563 โดยที่เธอได้ทำงานให้กับสื่อสิ่งพิมพ์นับไม่ถ้วน รวมถึงนิตยสาร ‘Street’ ‘Fruits’ และ ‘Tune’ ก่อนจะผันตัวไปเปิดบล็อกของตัวเองที่มีชื่อว่า STYLE ซึ่งเป็นบล็อกเกี่ยวกับสไตล์สตรีทในฮาราจูกุ
  • Roxanne Gould (@roxmod) สหรัฐอเมริกา – Roxanne เป็นนางแบบแฟชั่นและโค้ชด้านสุขภาพ เธอนำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับการแก่ตัวลงพร้อมเป็นโค้ชสอนผู้หญิงในทุกช่วงอายุ บันทึกความทรงจำของเธอที่มีชื่อว่า Not Just Another Pretty Face ได้รับการตีพิมพ์ในเดือนมกราคม ปี 2566 และพร้อมจำหน่ายแล้วในขณะนี้
เจนนี่ BLACKPINK

ตีไม่ได้ แต่ใช้งานได้จริง! ส่องกระเป๋าไม้เทนนิส CHANEL ของ เจนนี่ BLACKPINK

Alternative Textaccount_circle
เจนนี่ BLACKPINK
เจนนี่ BLACKPINK

หากต้องอัพเดทแฟชั่นไอเท็มเด็ด ๆ ‘เจนนี่ BLACKPINK’ ไม่เคยพลาด!

เรื่องแฟชั่นไอเท็มเก๋ ๆ ต้องไว้ใจ เจนนี่ BLACKPINK เพราะเธอเป็นถึง House Ambassador ของ CHANEL จึงไม่แปลกว่าทำไมแต่ละอย่างที่เธอใช้ถึงมีแต่ของชิค ๆ นำเทรนด์ทั้งนั้น เหมือนกับกระเป๋าใบล่าสุดของเธอที่เหมือนมีไม้เทนนิสยื่นออกมา ทำเอาคนสงสัยกันยกใหญ่ว่าเธอกำลังจะไปเล่นกีฬาที่ไหนหรือเปล่า แต่ไม้ที่เห็นก็เล็กเกินกว่าจะใช้งานได้จริง ฉะนั้นเราจะมาไขข้อข้องใจไปด้วยกันว่ากระเป๋าใบนี้มีดีไซน์เป็นยังไงกันแน่!

กระเป๋า CHANEL ที่เราเห็นอยู่นี้มีชื่อรุ่นว่า Chain Clutch in Cotton Canvas and Calfskin – White & Black เป็นแฟชั่นไอเท็มที่ผสมระหว่างหนังลูกวัวและผ้าแคนวาสในดีไซน์สุดเก๋ และถูกออกแบบให้มีกระเป๋าใบเล็กไว้ข้างหน้าเป็นที่สำหรับเสียบไม้เทนนิส ซึ่งความจริงมันคือ ‘กระจกจิ๋ว’ ที่สามารถใช้งานได้จริง แต่เห็นน่ารัก ๆ แบบนี้ บอกเลยว่าค่าตัวโหดพอสมควร เพราะกระเป๋าใบนี้มาในราคา 150,000 บาทเลยทีเดียว หากใครถูกชะตาคงต้องรีบไปตำตาม ก่อนที่เว็บไซต์จะขึ้น Out of Stock! นะคะ

ภาพ : Instagram @jennierubyjane

ข้อมูล : Chanel.com

Pharrell Williams

Pharrell Williams ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Creative Director ของ Louis Vuitton

account_circle
Pharrell Williams
Pharrell Williams

14 กุมภาพันธ์ “Louis Vuitton” แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสได้ประกาศแต่งตั้งให้ “Pharrell Williams” นักร้องแร็ปเปอร์ และผู้ประกอบการด้านแฟชั่นชาวอเมริกันดำรงตำแหน่ง “Creative Director (ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์)” ประจำแบรนด์อย่างเป็นทางการ

Pharrell Williams ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Creative Director ของ Louis Vuitton

(Photo by Michael Buckner/Variety via Getty Images)

อีกหนึ่งศิลปินที่มีความสามารถในด้านแฟชั่นต้องยกให้กับ Pharrell Williams (ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์) ซึ่งล่าสุด Louis Vuitton ได้ประกาศแต่งตั้งให้เขาเป็น Creative Director แผนกสุภาพบุรุษ โดยผลงานคอลเล็คชั่นแรกของ ฟาร์เรลล์ จะเปิดตัวในงาน Men’s Fashion Week เดือนมิถุนายนนี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นับตั้งแต่ที่ Virgil Abloh (เวอร์จิล แอบโลห์) อดีต Creative Director ผู้ล่วงลับได้เสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน 2021 นับเป็นอีกครั้งที่นักออกแบบชาวอเมริกันผิวดำได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ของ Louis Vuitton โดย เวอร์จิลได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนแรก ซึ่งเขาได้รับการแต่งตั้งในเดือนมีนาคม 2018

ทั้งนี้ เว็บไซต์ theguardian ได้รายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการคาดเดาถึงผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ว่าอาจจะเป็นนักออกแบบ Martine Rose ชาวจาไมก้า และ Grace Wales Bonner นักออกแบบชาวอังกฤษ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือ ดังนั้นการประกาศให้ ฟาร์เรลล์ ได้รับตำแหน่งนี้ จึงเป็นสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง

(Photo by Jeff Kravitz/FilmMagic)

อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งของ ฟาร์เรลล์ นั้นเป็นการบอกทิศทางของ LVMH ที่ตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจนของตัวแบรนด์ว่ามีวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เมื่อครั้งที่ เวอร์จิล ยังมีชีวิตอยู่ เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดด้านแฟชั่น และ เป็นผู้ที่ทำให้ Louis Vuitton มีเสน่ห์มากขึ้น โดยเขาเริ่มต้นนำแนวคิดเรื่องความหรูหรามาผสมผสานกับโลกของฮิปฮอปและวัฒนธรรมที่กำลังเป็นกระแส เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย และ กลุ่มคนรุ่นใหม่

ไม่เพียง ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ จะเป็นนักร้อง และ นักแต่งเพลงแล้ว เขายังเป็นเจ้าของแบรนด์สตรีทแวร์ Human Made ร่วมกับ Nigo ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Kenzo รวมถึงยังมีค่ายเพลง Billionaire Boys Club และ Ice Cream ของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังเป็นหุ้นส่วนกับ Adidas Originals และเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Humanrace

ในปี 2019 ฟาร์เรลล์ยังได้ร่วมออกแบบคอลเล็คชั่นสำหรับ Chanel ขณะที่ในเดือนมกราคม 2022 เขาได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นที่ร่วมออกแบบกับ Tiffany & Co. ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องประดับชื่อดังในเครือ LVMH Group ที่เข้าซื้อกิจการในปี 2021

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เขายังเคยร่วมงานกับ Louis Vuitton มาก่อน โดยการออกแบบแว่นกันแดดในปี 2008 และได้รับการออกแบบใหม่อีกครั้งโดย Abloh ในปี 2018

Louis Vuitton

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ทางอินสตาแกรมของแบรนด์หรู “Pietro Beccari” ประธานและซีอีโอของ Louis Vuitton ได้กล่าวว่า “ผมดีใจที่ได้ต้อนรับฟาร์เรลล์กลับบ้าน หลังจากความร่วมมือของเราในปี 2004 และ 2008 สำหรับ Louis Vuitton ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ วิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ นอกเหนือจากแฟชั่นของเขาจะนำ Louis Vuitton ไปสู่บทใหม่และน่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัย”


โครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย-Cover

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย : โครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จังหวัดสกลนคร

โครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย-Cover
โครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย-Cover

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย อาจารย์หัสดี พลวงษ์ จากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ ฯ สกลนคร ลงพื้นที่กลุ่ม OTOP ประเภทผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าย้อมคราม ในเขตพื้นที่ จังหวัดสกลนคร ตามโครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อรวบรวมองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย อัตลักษณ์ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาการทอผ้า และองค์ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ลายผ้าที่เป็นที่นิยม การย้อมสีธรรมชาติ ที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นนิทรรศการองค์ความรู้เพื่อต่อยอดให้กับกลุ่มเป้าหมาย และให้เยาวชนนำไปศึกษาเรียนรู้ สืบสานทางด้านอาชีพ วัฒนธรรมพื้นถิ่น ณ พิพิธภัณฑ์บ้านยายทุ้ม ยายไท้ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

โดยมีสมาชิกของกลุ่มพิพิธภัณฑ์บ้านยายทุ้ม ยายไท้ เป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมา การทอผ้า การย้อมสี ผ้าลายโบราณ อัตลักษณ์ของกลุ่ม นับตั้งแต่พ.ศ. 2515 สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ราชเลขานุการในพระองค์ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้าน และชวนให้ทอผ้าเพื่อทรงรับซื้อ ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากการทำไร่ทำนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรบ้านหนองแข้ ทรงถามไถ่ทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด ทรงฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์พื้นเมืองของไทย และการทอผ้าไทย ทรงรับราษฎรบ้านหนองแข้เป็นสมาชิกศิลปาชีพ เพื่อให้มีรายได้เสริมจากการทอผ้าและอนุรักษ์ลวดลายผ้าไทย เยี่ยมราษฎรบ้านหนองแข้เป็นการส่วนพระองค์ถึง 3 ครั้ง ใน พ.ศ. 2521, 2523 และ 2525 เพื่อพระราชทานกำลังใจในการทอผ้าไหมและประทับอยู่ที่ชานเรือนเป็นเวลานานจนมืดค่ำ ทรงไต่ถามเรื่องความเป็นอยู่ และพระราชทานฉลองพระองค์คลุมไหลมัดหมี่สีม่วง เพื่อเป็นแบบให้แก่นางไท้ทอผ้า ซึ่งภายหลังนางไท้ได้เชิญฉลองพระองค์นั้นไว้บนหิ้ง และบูชาด้วยดอกไม้มหา หงส์ตามประเพณีของชาวอีสานด้วยความผูกพันและความจงรักภักดี ฉลองพระองค์ดังกล่าว พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เคยยืมไปจัดแสดงในนิทรรศการศิลปาชีพ พระหัตถ์ที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน ในนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้จัดแสดงเรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับป้าทุ้ม ป้าไท้ และพระมหากรุณาธิคุณต่อราษฎรบ้านหนองแข้

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย : โครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จังหวัดสกลนคร

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดดำเนินงานโครงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา การฟื้นฟูองค์ความรู้สำคัญเกี่ยวกับไหมไทย อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาการทอผ้าในท้องถิ่นต่าง ๆ จาก 4 ภูมิภาค และส่งเสริมให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ช่างทอผ้า ทายาทและเยาวชนของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และผู้ที่สนใจ ได้นำองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ต้นแบบ มาต่อยอดทางความคิดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย

เพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทางด้านการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาการทอผ้าไหมของไทย พร้อมทั้งเผยแพร่พระอัจฉริยภาพ และพระกรณียกิจในด้านต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ล้วนสร้างประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนชาวไทย นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี จากการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ชุมชนอย่างมั่นคงและยั่งยืน

อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์

สตอรี่ความหวานของคู่รักแห่งวงการกีฬา “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ – มูนี่ เหอ”

Alternative Textaccount_circle
อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์
อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์

ในแวดวงนักกีฬาระดับโลก คู่ฮ็อตระดับอินฟลูเอนเซอร์ที่แฟนๆ ทั้งเชียร์และอิจฉาหนักมากคือ อเล็กซ์ – อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ (Alexander Albon) นักแข่งรถสูตรหนึ่ง Formula 1 (F1) ลูกครึ่งไทย – อังกฤษคนแรกที่ขึ้นโพเดียม (อันดับที่สาม) ในการแข่งขันรถ F1 รายการ ทัสกัน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลี ปี 2020 และ ลิลี่ – มูนี่ เหอ (Lily Muni He) โปรกอล์ฟหญิงชาวจีนดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทำคะแนนได้น่าสนใจในหลากหลายการแข่งขัน ด้วยทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวหน้าตาดีที่มีฝีไม้ลายมือโดดเด่นไม่ธรรมดา จนทั้งวงการต้องจับตามอง ครั้งนี้ทั้งคู่เดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทย แพรว จึงถือโอกาสนี้ชวนมาเล่าเรื่องเส้นทางสายกีฬา และอัพเดตเลิฟสตอรี่หวานๆ ที่ชวนให้อิจฉาหนักมาก

สตอรี่ความหวานของคู่รักแห่งวงการกีฬา “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ – มูนี่ เหอ”

ยินดีที่ได้พบสองซุป’ตาร์ของวงการกีฬานะคะ ครั้งนี้มาทำอะไรที่เมืองไทย อัพเดตให้ฟังหน่อยค่ะ

อเล็กซ์ตอบก่อน “ยินดีที่ได้พบเช่นกันครับ ต้องขอโทษด้วยที่ผมพูดไทยได้นิดหน่อย แม้คุณแม่ (คุณกัญญ์กมล) เป็นคนไทย แต่ผมเกิดและโตที่ประเทศอังกฤษ จึงใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คุณแม่คุยกับผมเป็นภาษาไทยตลอด ผมฟังออก แต่มักตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทยของผม จึงเป็นแบบนี้ครับ

“ตอบคำถามก่อนว่า ครั้งนี้ผมมาเมืองไทยสั้น ๆ 4 วัน เพื่อทำเรื่องการตลาดร่วมกับสปอนเซอร์ แต่เดี๋ยวผมจะกลับมาอีกพร้อมครอบครัวและครอบครัวของลิลี่ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส (2022) และ อยู่ยาวถึงปีใหม่ (ยิ้ม) ซึ่งเป็นอะไรที่ผมรอคอยมาก เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมได้กลับมา เมืองไทยหลังจากเกิดโควิด ก่อนหน้านั้นผมมาประมาณปีละ 1 – 3 ครั้ง ทั้งทำธุระกับเจอญาติ ๆ กรุงเทพฯคือบ้านสำหรับผม รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กลับมา”

ลิลี่ตอบบ้าง “ส่วนฉัน ตอนนี้อยู่ในช่วงออฟซีซั่นค่ะ ไม่มีการแข่งขัน จึงอาศัยจังหวะนี้ ตามอเล็กซ์มาเที่ยวด้วย ฉันเคยมาเมืองไทย 3 ครั้งเพื่อแข่งขันรายการ Thailand LPGA แต่ ไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวไหนเลย อยู่แค่กรุงเทพฯกับพัทยา ฉันอยากไปภูเก็ตมาก แต่ยังไม่เคยไป จึงดีใจมากที่เดี๋ยวจะได้กลับมาพร้อมกับครอบครัวอย่างที่อเล็กซ์บอก แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ ฉัน อยากลองสตรีตฟู้ดด้วย ฉันชอบส้มตำและกินเผ็ดได้เพราะครอบครัวก็กินเผ็ดมาก ๆ จึงรักอาหารไทย แล้วก็อยากไปวัดสวย ๆ ด้วยค่ะ”

อเล็กซ์เสริม “โชคดีที่ลิลี่กินเผ็ดได้ เพราะผมกินเผ็ด แล้วก็ชอบกินอาหารไทยด้วย ชอบสุด คือผัดกะเพรา เวลาเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ผมมักมีปัญหากับการหา ผัดกะเพราที่อร่อยเหมือนเมืองไทยได้ยาก ปกติผู้จัดการจะสั่งมาให้กินในห้องพัก ที่โรงแรม เพราะไม่ค่อยมีเวลา ยังดีว่าที่ลอนดอนพอมีอาหารไทยอร่อยบ้าง”

อเล็กซ์ - อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ลิลี่ - มูนี่ เหอ

ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ที่ไหนเป็นหลักคะ

อเล็กซ์ช่วยตอบแทนลิลี่ว่า “ลิลี่อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ส่วนผม อยู่ที่โมนาโกเป็นหลักครับ เพราะมีสนามแข่งกับรายการสำคัญ นักแข่งรถส่วนใหญ่ มักอยู่กันที่โมนาโก เพราะสะดวกกับการเดินทางบ่อย ๆ อีกอย่างทีมของผมอยู่ที่ ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ไกลกันมาก”

อยู่ไกลกันขนาดนี้ ดูแลกันอย่างไรคะ

อเล็กซ์ตอบจริงจัง “ต้องบอกว่าความสัมพันธ์ของเราเริ่มและเติบโตจากการ เป็น long distance relationship มาแต่แรก ไม่เหมือนกับคู่อื่น ๆ ที่เริ่มจากการ อยู่ด้วยกัน แล้วค่อยแยกกันไปเป็นความสัมพันธ์ระยะไกลทีหลัง ผมว่าแบบนั้น น่าจะยากกว่า คู่เราอยู่ในรูทีนแบบนี้มาตลอด เช่น พอตื่นมาผมจะเฟซไทม์โทร.หาลิลี่ ซึ่งตรงกับเวลาที่เธอกำลังจะเข้านอน พอบ่ายสามโมง ผมก็จะโทร.หาเธออีกที เพราะ รู้ว่าเวลานั้นเธอตื่นแล้ว เราพยายามทำให้ดีที่สุด ให้เหมือนว่าไม่ได้อยู่ห่างกันครับ”

ลิลี่แชร์บ้าง “ฉันคิดว่าคู่เราค่อนข้างไปกันได้ดี เพราะเราต่างต้องเดินทาง เพื่อแข่งขันเยอะ คือไม่ว่าจะคบกับใครก็ต้องเป็นความสัมพันธ์แบบทางไกลนี่แหละ นอกจากว่าอีกคนหนึ่งจะมาอยู่กับเราตลอดเวลา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และเราทั้งคู่ก็ไม่ได้ อยากได้คนที่คอยตามติดโดยไม่ทำอะไรเลย ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทำให้เรา ไปกันได้ดีคือการที่เราต่างทำหน้าที่และอาชีพของเราเป็นหลัก แล้วพอใครมีเวลาพัก จากการแข่งขันค่อยบินไปหาอีกฝ่ายเพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อย่างตอนที่เขาบินมา เล่นกอล์ฟด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีและพิเศษมากค่ะ”

ขออนุญาตย้อนถามกลับไปที่จุดเริ่มต้น โปรกอล์ฟสาวสุดฮ็อตกับนักแข่งรถ F1 มาเจอกันได้อย่างไรคะ

ลิลี่ยิ้มพลางตอบว่า “เรารู้จักกันทางโซเชียลมีเดียค่ะ ตอนนั้นฉันบังเอิญ ดูหนังเกี่ยวกับการแข่งรถก็เลยสนใจ ก่อนจะพบว่าอเล็กซ์เป็นนักแข่งรถ F1 ชาวเอเชีย คนเดียวในตอนนั้น จึงกดติดตามเขาไปแบบบริสุทธิ์ใจ แล้วอเล็กซ์ DM (Direct Message) มาหา ซึ่งฉันคิดว่ามันถูกวางแผนไว้แล้วเหมือนในเพลง Master Plan ของเทย์เลอร์ สวิฟต์” (หัวเราะ)

อเล็กซ์แก้ตัว “ผมก็ DM ไปแบบบริสุทธิ์ใจนะ! ความจริงต้องบอกว่าช่วงนั้น ผมเพิ่งเริ่มฝึกเล่นกอล์ฟได้ประมาณ 2 เดือนก่อนจะเจอเธอ พอรู้จักกันจึงได้เธอมา ช่วยสอนพื้นฐานกอล์ฟไปในตัว”

ลิลี่เล่าต่อ “พอเขาทักมา เราก็คุยกันแบบเพื่อนมาเรื่อย ๆ ความสัมพันธ์จึง เริ่มจากเป็นเพื่อนที่คอยผลัดกันชมผลงานของกันและกัน เวลาที่ฉันหรือเขาแข่งได้ดี เราก็จะแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย ก่อนจะขยับมาคุยทางโทรศัพท์ถึงเรื่องราวชีวิต ประจำวันของแต่ละคน ซึ่งฉันมักจะบ่นถึงวันของฉัน โดยมีเขาคอยรับฟังอย่างเข้าใจ กระทั่งถึงวันเกิดเขาก็โทร.มาอวยพร ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกดีมากเลย”

อเล็กซ์สรุป “เราได้มาเจอกันแบบเห็นตัวจริงครั้งแรกที่แอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ครับ เรานัดไปดินเนอร์กันที่ ร้านอาหารเม็กซิกันแบบวีแกนแนวฮิปสเตอร์ เขาชอบร้านนี้ครับ แต่เขาคิดว่าผมไม่ชอบ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้แย่นะ เรายังวนกลับไปกินร้านนี้อีกรอบในวันครบรอบคบกันด้วย”

อะไรที่ทำให้ประทับใจกันและกันคะ

ลิลี่ตอบทันที “ฉันสัมผัสได้ตั้งแต่คุยกันทางโทรศัพท์ว่าอเล็กซ์ตลก สวีต และใจดี จึงชอบตั้งแต่ก่อนจะได้เจอตัวเขาจริง ๆ เสียอีก แล้วพอได้เจอ เขาก็เป็น เหมือนที่ฉันคิดไว้”

อเล็กซ์พูดบ้าง “ผมชอบที่เธอยืนหยัดบนความคิดเห็นของตัวเอง ไม่พยายาม ซ่อนตัวตนที่เธอเป็น ลิลี่เป็นตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ เป็น ผู้หญิง sassy เริด ๆ คูล ๆ” (ยิ้ม)

ในฐานะที่เป็นนักกีฬาทั้งคู่ อะไรที่คุณสองคนรู้สึกว่าเหมือนหรือแตกต่างคะ แล้วมีวิธีการปรับจูนเข้าหากันอย่างไร

ลิลี่ตอบก่อน “ฉันว่าเราทั้งคู่มี rookie year หรือการเริ่มต้นชีวิตการเป็น นักกีฬามืออาชีพในช่วงใกล้ ๆ กัน จึงมีประสบการณ์คล้ายกัน ซึ่งพอมองย้อนกลับไป ในวัยเด็กของเราก็มีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง ทั้งการเติบโต รวมถึงวิธีที่เรา เผชิญหน้ากับการแข่งขันต่าง ๆ ฉันคิดว่าเรามีอะไรที่เหมือนกันมากกว่าที่คิด อย่าง เวลาแข่งขัน เราจะมีความเชื่อเรื่องโชคลางเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมือนกันด้วย”

อเล็กซ์เสริมว่า “จริง ๆ แล้วประเภทกีฬาที่เราสองคนเล่นค่อนข้างต่างกัน มากนะครับ กอล์ฟเป็นกีฬาที่ค่อนข้างช้า ขณะที่การแข่งรถคือความเร็ว การแชร์ ไอเดียเรื่องกีฬาจึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ในแง่ความเป็นนักกีฬา เราต่างถูกกดดัน ให้ทำผลงานอยู่ในระดับท็อปตลอดเวลา เรื่องผลงานจึงมาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต เสมอ ซึ่งตรงนี้นักกีฬาจะเข้าใจกันดีว่ายากแค่ไหน ผมกับลิลี่จึงมีค่านิยมและ มุมมองในการทำงานที่เหมือนกัน ในแง่ที่ว่านักกีฬาต้องอุทิศตนอย่างมาก ดังนั้น แม้เราจะเล่นกีฬาคนละประเภท แต่เราสามารถแชร์ความรู้สึกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ความทุ่มเท ตลอดจนข้อดีและข้อเสียของการเป็นนักกีฬาให้อีกฝ่ายฟังได้ เพราะ เราเข้าใจกัน”

อเล็กซ์ - อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์

คุณสองคนได้แลกเปลี่ยนทักษะทางกีฬากับอีกฝ่ายไหมคะ

ลิลี่ตอบกึ่งฟ้อง “ฉันพยายามสอนเขาเล่นกอล์ฟนะคะ แต่อเล็กซ์ดื้อมาก จึงดูเหมือนว่าฉันไม่ได้สอนอะไรเขาเลย กระทั่งเขาเจอปัญหาอะไรสักอย่างแล้วกลับมา ถามแบบยอมฟังฉัน แต่ต้องยอมรับว่าทักษะการตีกอล์ฟของเขาพัฒนาขึ้นมาก นับจากครั้งแรกที่เราเจอกัน เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งเริ่มเล่น ตอนนี้เราจึงเอนจอย การเล่นกอล์ฟด้วยกันมากเลย”

อเล็กซ์ตอบบ้าง “บอกเลยว่างานอดิเรกยามว่างของผมในตอนนี้คือการเล่น กอล์ฟ (ยิ้ม) โดยเฉพาะในเมืองไทย…ผมต้องลำเอียงอยู่แล้วละครับ เพราะแฟนผม เป็นโปรกอล์ฟ (หัวเราะ) แล้วสนามกอล์ฟในเมืองไทยดีมากจริง ๆ ส่วนเรื่องการขับรถ ผมก็เคยสอนลิลี่ขับรถแข่งนะ ที่บ้านผมมี simulator (รถแข่งจำลอง) ซึ่งเธอทำได้ ค่อนข้างดี ผมทั้งเซอร์ไพร้ส์และภูมิใจที่เห็นเธอขับได้ครบรอบ”

ลิลี่กระซิบว่า “อเล็กซ์เป็นครูสอนขับรถที่ดีมากเลยค่ะ”

เวลาไปไหนด้วยกัน ใครเป็นคนขับรถคะ

อเล็กซ์ตอบทันที “ต้องเป็นผมอยู่แล้ว คงจะแปลกมากถ้าผมไม่ขับรถ ให้แฟนนั่ง แต่ไม่อยากบอกเลยว่าลิลี่เป็นผู้โดยสารที่ไม่ค่อยดี เธอมักประหม่า และกังวลเวลาผมขับ ต่างจากสมัยเพิ่งเริ่มคบกัน ตอนนั้นเธอมั่นใจในการขับรถ ของผมมากเลย แต่ยิ่งใช้เวลากับผม ลิลี่ยิ่งกลัวผมขับรถ” (หัวเราะ)

ลิลี่แย้ง “ก็เขาเปิดเผยตัวตนให้ฉันเห็นเยอะไปนี่คะ ทำให้ฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่ หุ่นยนต์ เขาก็ขับรถพลาดได้เหมือนกัน จริง ๆ ฉันขับรถได้นะคะ แค่รู้สึกว่าถ้าเขา ขับให้จะเป็นธรรมชาติกว่า เพราะเขาเป็นนักแข่งรถ”

ในชีวิตจริงอเล็กซ์ขับรถเร็วไหมคะ

ลิลี่ชิงตอบก่อนเลยว่า “เร็วค่ะ! ยิ่งช่วงแรก เขาเคยขับรถเร็วมากเพื่อทำให้ ฉันประทับใจ แต่กลายเป็นว่าฉันกลัว เขาก็เลยเลิก”

อเล็กซ์หัวเราะ “ผมก็อยากจะตอบว่าไม่นะ แต่ต้องยอมรับว่าตัวเองขับรถเร็ว เพราะผมรู้สึกว่าการขับรถบนถนนที่อังกฤษค่อนข้างน่าเบื่อ จึงต้องขับรถเร็วเพื่อให้ มีอะไรน่าตื่นเต้นนิดหนึ่ง แต่ยังอยู่ภายใต้กฎจราจรนะครับ แต่กับถนนที่เมืองไทยนี่ คนละเรื่องเลย เรียกว่าท้าทายกว่าการขับรถที่อังกฤษมาก (ยิ้ม) ทั้งที่เราขับรถ ฝั่งเดียวกัน เพราะที่นี่มีมอเตอร์ไซค์เยอะ การจราจรก็คับคั่ง แล้วถนนก็มีคาแร็คเตอร์ กว่ามาก ผมว่าขับรถที่เมืองไทยสนุก ยกเว้นตอนรถติดมาก ๆ อีกอย่างกฎจราจร ของไทยก็ไม่เข้มงวดเท่าที่อังกฤษด้วย ถ้าขับรถที่อังกฤษแบบที่ขับในเมืองไทย คงโดนใบสั่งเพียบเลย” (หัวเราะ)

การเป็นคู่รักที่มีชื่อเสียง อยู่ในความสนใจของสื่อและแฟนๆ สร้างความกดดันไหมคะ

ลิลี่หยุดคิดแล้วตอบว่า “ฉันคิดว่าคู่ของเราค่อนข้างชัดเจน คุณเห็นเราใน โลกออนไลน์อย่างไร ชีวิตจริงเราก็เป็นอย่างนั้น ฉันว่าเราก็เหมือนคู่อื่น ๆ ที่ต้อง อาศัยความพยายามจากทั้งสองฝ่ายที่จะทำให้ความสัมพันธ์เวิร์ค ซึ่งสิ่งสำคัญคือ เราเป็นพวก 50/50 กันทั้งคู่ คือเท่าเทียมกันในทุก ๆ เรื่อง ทั้งในแง่ของการสนับสนุน ซึ่งกันและกัน และการใช้เวลาในการแข่งขัน ซึ่งพวกเราต่างพยายามอย่างที่สุด“ฉันไม่คิดว่าแฟน ๆ จะคาดหวังอะไรมากกับความสัมพันธ์ของเรา แต่ถ้าเป็น ผลงานการแข่งขัน ส่วนใหญ่จะเป็นความคาดหวังจากตัวเราที่กดดันตัวเองหนักที่สุด ฉันจึงไม่ได้รู้สึกถึงความกดดันอื่น ๆ อาจจะมีคอมเมนต์ทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ บ้าง แต่เมื่อเราได้คุยกัน ฉันก็จะบอกเขาว่า ช่างเถอะ ไม่สำคัญหรอก”

อเล็กซ์พยักหน้า “ผมเห็นด้วยกับลิลี่ครับ พวกเราค่อนข้างเปิดเผยเรื่อง ความสัมพันธ์ของเราทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ จึงไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เรา ทั้งคู่โชคดีที่มีแฟน ๆ ใจดี ขณะเดียวกันเราก็ไม่ใช่ดาราดัง จึงไม่มีเรื่องให้กังวลใจ อะไรขนาดนั้น ทั้งหมดนี้ผมแค่อยากจะบอกว่าความรักระยะไกลของเรานั้นดีมาก แม้จะไม่ง่ายที่จะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ ต้องอาศัยความพยายามและความเข้าใจ พอสมควร”

ขอเข้าสู่คำถามเรื่องงานบ้าง เมื่อครู่คุณลิลี่บอกว่า คุณสองคนมีจุดเริ่มต้นและเส้นทางนักกีฬาที่ค่อนข้างคล้ายกัน

ลิลี่ตอบ “ค่ะ เราทั้งคู่ต่างมีคุณพ่อเป็นจุดเริ่มต้นและคอยผลักดันให้เรา เข้าสู่เส้นทางสายกีฬาเหมือนกัน เล่าก่อนว่า ฉันเกิดที่เฉิงตู ประเทศจีน ก่อนที่ ครอบครัวจะย้ายมาอยู่ที่แคนาดาและสหรัฐอเมริกาตามลำดับ ฉันรู้จักกีฬากอล์ฟ มาจากคุณพ่อที่เป็นนักกอล์ฟ จึงพาฉันไปสนามด้วย เรียกว่าฉันโตมาในสนามและ เริ่มเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่ 5 ขวบ ก่อนจะเริ่มเเข่งขันครั้งแรกตอนอายุ 6 ขวบ และ ตั้งแต่นั้นฉันก็แข่งมาตลอดทุกปีเลย (ยิ้ม)

“ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่ฉันฝึกซ้อมกอล์ฟ คุณพ่อจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเพื่อให้ กำลังใจและผลักดันให้ฉันซ้อมสม่ำเสมอ เพราะท่านเข้าใจว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่ ค่อนข้างโดดเดี่ยวและต้องอาศัยการฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลานาน แม้ตอนนั้น จะเป็นเรื่องยาก แต่เพราะมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย ทำให้ฉันผ่านมาได้ ต้อง ขอบคุณท่านที่ทำให้ฉันมายืนอยู่ตรงนี้ได้”

อเล็กซ์แชร์จุดเริ่มต้นที่เกิดจากคุณพ่อเหมือนกัน “ผมเหมือนลิลี่ตรงที่คุณพ่อ มีส่วนสำคัญในอาชีพ เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักแข่งรถ แต่ท่านเริ่มแข่งช้าเกินไป ที่จะได้เป็นนักแข่งรถ F1 พอท่านเห็นแววว่าผมน่าจะชอบรถและการแข่งรถ ท่านจึง พยายามสร้างสิ่งแวดล้อมและผลักดันให้ผมเริ่มได้เร็ว เท่าที่จำได้ ผมเริ่มชอบรถ และตกหลุมรัก F1 ตั้งแต่ 4 – 5 ขวบ ในห้องนอนผมมีรถของเล่นเต็มไปหมด แล้ว ผมกับคุณพ่อก็ดูรายการแข่งรถ F1 ด้วยกันตลอด รวมถึงกีฬามอเตอร์สปอร์ตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งมอเตอร์ไซค์หรือเรือ

“พออายุ 7 ขวบ คุณพ่อก็ซื้อรถโกคาร์ตให้และพาผมไปแข่ง แล้วยังทำหน้าที่ เป็นทุกอย่างให้ด้วย ทั้งช่างเครื่องและวิศวกร คอยเตรียมเครื่องยนต์ เตรียมรถ ให้พร้อม เป็นโค้ชสอนขับรถ แถมยังเป็นที่ปรึกษาทางจิตวิทยาให้ด้วย ผมจึงรู้สึก ว่าการแข่งรถเป็นเหมือนกีฬาของเราพ่อลูก สมัยนั้นพ่อเป็นเหมือนบอส ที่พูดอะไร ผมก็เชื่อทุกอย่าง เพราะผมรู้สึกว่าพ่อเป็นนักขับรถและนักแข่งรถที่ดี อย่างเวลาพ่อ แนะนำว่าโค้งนี้ควรทำแบบนี้นะ ผมก็ทำตาม ซึ่งพอเวลาผ่านไปเราก็เก่งขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งผมได้เข้าไปอยู่ในทีมใหญ่ตอนอายุ 11 ปี แล้วเริ่มแข่งในยุโรปและทั่วโลก พ่อก็เลิกสอนผม ท่านพูดแค่ว่าผมรู้ดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรอีก” (ยิ้ม)

แล้วทั้งสองคนเข้าสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพของวงการกอล์ฟและวงการแข่งรถได้อย่างไรคะ

อเล็กซ์ให้ลิลี่เล่าก่อน “ต้องบอกว่าฉันโชคดีที่รู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าชอบกีฬา กอล์ฟ และต้องการเติบโตไปเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ ฉันจึงรู้อยู่แล้วว่าต้อง ‘เทิร์นโปร’ (นักกีฬากอล์ฟมืออาชีพ) ไม่ช้าก็เร็ว เป้าหมายของฉันจึงเป็นกอล์ฟมาตลอด ฉันคิดว่านี่คือสิ่งสำคัญที่คอยผลักดันและกระตุ้นให้มาถึงจุดนี้ แม้จะไม่รู้แน่ชัดนัก ว่าต้องทำอย่างไร แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจนก็ช่วยให้ฉันอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง อาจมีวันที่เหนื่อย งอแง ไม่อยากซ้อมบ้าง แต่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองพลาดช่วงเวลา วัยรุ่นเลย เพราะฉันมีเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่ในแวดวงกอล์ฟ ทำให้เราเติบโตมากับ การฝึกซ้อมและเล่นไปด้วยกันเป็นเรื่องปกติ

“แล้วก็โชคดีสองเด้งที่คุณพ่อคุณแม่ก็ให้การสนับสนุน ทำให้ฉันไม่กดดันว่า ต้องเลือกระหว่างการเรียนกับการเล่นกอล์ฟ เพราะบ้านเราให้ความสำคัญชัดเจนว่า กอล์ฟเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น อย่างตอนเรียนไฮสกูลเราก็ตัดสินใจ ร่วมกันว่าฉันจะเปลี่ยนมาเรียนแบบโฮมสกูลแทนการไปโรงเรียน เนื่องจากต้อง เดินทางแข่งขันบ่อยมาก ไม่สะดวกที่จะไปโรงเรียน ซึ่งฉันก็แฮ็ปปี้ แต่พอเข้าช่วง ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฉันก็เครียดและกดดันตัวเองพอสมควร เพราะ อยากเข้า University of Southern California ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในฝันให้ได้ ต้องพยายามบาลานซ์ทั้งการเรียนและการเล่นกอล์ฟ ซึ่งสุดท้ายฉันก็ทำสำเร็จ หลังจาก เข้ามหาวิทยาลัยสองเทอมและได้เล่นกอล์ฟให้มหาวิทยาลัย ฉันก็ตัดสินใจเทิร์นโปร ตอนอายุ 19 ปีในการแข่งขันที่ดูไบ เพราะการแข่งขันกอล์ฟหญิง นับวันนักกีฬา เก่ง ๆ ยิ่งอายุน้อยลงทุกที ฉันจึงคิดว่าอายุ 19 ก็สมควรแก่เวลาแล้ว”

หลังจากเทิร์นโปร โลกการแข่งขันแบบมืออาชีพเป็นอย่างไรคะ

“ต้องบอกว่ายากกว่าที่คิดไว้มาก โดยเฉพาะปีแรกที่ฉันเริ่มเล่นกอล์ฟอาชีพ เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดเลยค่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้สมัยแข่ง junior golf ที่มีแต่คนเก่ง ๆ จากทั่วโลกมาแข่งกันก็ว่ายากแล้ว พอชนะมาได้จึงคิดว่านั่นคือที่สุดของที่สุดละ แต่พอก้าวเข้าสู่สนามแข่งที่ใหญ่ขึ้น คือ LPGA Tour (LPGA – Ladies Professional Golf Association หรือสมาพันธ์สำหรับนักกอล์ฟอาชีพหญิงที่เก่าแก่ ที่สุดอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีองค์กร LPGA ของ แต่ละประเทศเช่นกัน แล้วร่วมมือจัดการแข่งขันระดับโลกที่เรียกว่า LPGA Tour ที่เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นปีของทุกปี ถือเป็นลีคกีฬากอล์ฟหญิงมืออาชีพ ที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุด) ก็ต้องยอมรับว่าช่วงแรกฉันช็อกจนไปไม่ถูกเหมือนกัน เพราะต้องแข่งกับบรรดาโปรกอล์ฟที่เป็นระดับไอดอลของฉันเลย ทำให้เครียดและ กดดันมาก หลังจากพยายามดิ้นรนอย่างยากลำบากอยู่พักใหญ่ จึงลองปรึกษา นักจิตวิทยาและเทอราปิสต์ ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดี ทำให้เรามีความสุขกับการออกไป แข่งกอล์ฟมากขึ้น และสามารถนำศักยภาพออกมาใช้ในการแข่งขันได้มากที่สุด ตอนนี้ฉันจึงปรึกษาทั้งกับ sport psychologist (นักจิตวิทยาทางกีฬา) สำหรับ การแข่งขันกอล์ฟ รวมถึงนักจิตวิทยาเพื่อให้คำแนะนำสำหรับชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป ด้วย ซึ่งช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ยังมีเรื่องดีที่ฉันได้รับ การสนับสนุนจากครอบครัวและอเล็กซ์อยู่ตลอด”

ลิลี่ - มูนี่ เหอ

อเล็กซ์ล่ะคะ จากนักแข่งโกคาร์ตที่มีคุณพ่อเป็นทุกอย่างให้ ก้าวเข้าสู่นักแข่งรถอาชีพได้อย่างไร

อเล็กซ์เล่าอย่างสบายใจ “เส้นทางสู่มืออาชีพของผมค่อนข้างสมู้ตนะครับ ต้องเล่าก่อนว่าการแข่งรถจะเริ่มจากการขับโกคาร์ต แล้วค่อย ๆ ขยับไป F4, F3, F2 และสุดท้ายจึงเป็น F1 ซึ่งเป็นสนามสำคัญที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ผมเองเริ่มจากแข่งแบบปีต่อปี โดยมีคุณพ่อคอยดูแลมาตลอด พออายุประมาณ 12 ปี ผมก็เริ่มเข้าสู่การแข่งขัน F4 ซึ่งถ้าเทียบกับการขับโกคาร์ตแล้วคนละเรื่องเลย เพราะรถที่ใช้แข่ง F4 มีขนาดใหญ่และเร็วขึ้นมาก อีกทั้งยังใช้สนามแข่งเดียวกับ F1 ผมจึงต้องจริงจังมากขึ้น โดยตอนนั้นผมได้รับสปอนเซอร์ให้เป็นนักแข่งของทีม Red Bull พออายุ 15 ผมก็ก้าวไปอีกขั้น โดยได้เป็นนักแข่งทีม F1 ของ Red Bull อีกเช่นกัน ซึ่งเขาจะคอยดูความก้าวหน้าและผลงานของนักแข่ง เพื่อตัดสินใจว่า นักแข่งคนนั้นดีพอที่จะเป็นนักแข่ง F1 หรือไม่ แรงกดดันของผมจึงเริ่มขึ้นตอนช่วง อายุ 15 นั่นแหละครับ”

ยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่ลงสนาม F1 ได้ไหมคะ

“จำได้ครับ แม้จะสมู้ตในช่วงแรก แต่ต้องยอมรับว่าการแข่ง F1 ครั้งแรก ค่อนข้างน่าผิดหวัง ตอนนั้นแข่งที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูครับ อากาศก็หนาวมาก อุณหภูมิติดลบ 5 องศา ซึ่งครั้งนั้นรถผมมีปัญหาตอนออกมาจาก pit lane [เส้นทางวิ่งที่อยู่ระหว่างพิท (pit – จุดที่ทีมเซอร์วิสรถคอยเปลี่ยนล้อ ซ่อมเครื่องยนต์) กับแทรค (เส้นทางวิ่งในสนาม) จะเป็นทางที่วิ่งตรงไปยังทางออกพิทหรือทางเข้าแทรค] หลังจากผ่านไป 3 โค้ง รถผมก็หลุดโค้งหมุนติ้วไปหยุดอยู่ตรงบ่อกรวด (ไว้ชะลอความเร็วให้รถแข่ง ที่หลุดออกจากทางวิ่งเพื่อความปลอดภัย) ทำให้ครั้งแรกของผมในการขับรถ F1 ผมขับไปได้แค่ประมาณ 1 – 4 ของ lap (หนึ่งรอบสนาม) แล้วก็ต้องออกมา จำได้ตอนที่ กลับไปที่ pit lane มีกล้องมากมายจ่อมาที่ผม จนรู้สึกเลยว่า โอเค…นี่คือการ เริ่มต้นสู่การแข่ง F1 ของผมสินะ แต่หลังจากนั้นมา การแข่ง F1 สำหรับผมก็เป็นไป ด้วยดีครับ”

อเล็กซ์ - อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์

การแข่งขันครั้งไหนที่ท้าทายหรือทำให้คุณภูมิใจที่สุดคะ

อเล็กซ์ตอบก่อน “แน่นอนว่าการแข่งขันที่ผมภูมิใจที่สุด ณ ตอนนี้คือ การได้ที่ 3 แล้วได้ขึ้นโพเดียมครั้งแรกในฐานะตัวแทนจากประเทศไทยในการแข่งขัน ปี 2020 รายการทัสกัน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลี ส่วนสนามแข่ง ที่ท้าทายและโหดที่สุดสำหรับผมคือที่โมนาโก ลักษณะเป็นสนามแบบ street circuit (สนามที่แข่งบนถนนจริง) แคบมาก ซึ่งความแตกต่างระหว่างนอร์มัลเซอร์กิต หรือสนามแข่งมาตรฐานสากล กับสตรีตเซอร์กิต คือ ถ้าแข่งในสนามแข่ง นอร์มัลเซอร์กิตยังพอทำพลาดได้บ้าง เพราะสนามออกแบบมาให้เหมาะกับการแข่งขัน มีความปลอดภัยสูง แต่สตรีตเซอร์กิต ถ้ามีแม้เพียงข้อผิดพลาดเล็ก ๆ ก็จะชน ดังนั้นการแข่งบนถนนจริงจึงมีความยากทางด้านจิตใจ เพราะเราต้องโฟกัสแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการแข่ง 2 ชั่วโมงหลุดไม่ได้เลย ซึ่งยากมาก”

ลิลี่เล่าในส่วนของการแข่งขันกอล์ฟบ้าง “จริง ๆ แล้วฉันปฏิบัติกับทุกการ แข่งขันเหมือนกันหมดค่ะ แต่บางครั้งก็มีบางสนามที่ตัวสนามกอล์ฟหรือสภาพ อากาศท้าทายมากกว่าครั้งอื่น ๆ อย่างการมาแข่งที่ประเทศไทย เพราะอากาศร้อน และชื้นมาก แล้วฉันต้องเล่นหกวันติดต่อกัน คือซ้อม 2 วัน และแข่งจริงอีก 4 วัน ซึ่งร่างกายฉันค่อนข้างช็อกกับอากาศร้อนพอสมควร เพราะไม่คุ้น จึงต้อง เตรียมตัวโดยการดื่มน้ำให้มาก เพื่อให้มีน้ำในร่างกายเพียงพอ แล้วก็พักผ่อนให้พอ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม“อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่ฉันภูมิใจที่สุดคือชัยชนะครั้งแรกในการเล่น สายอาชีพที่ Prasco Charity Championship ค่ะ ทำให้ฉันรู้สึกว่าเราทำได้และ สมควรจะได้อยู่ตรงนี้ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในเส้นทางอาชีพนักกอล์ฟของฉันได้ เป็นอย่างดีเลย”

คุณสมบัติสำคัญที่นักกอล์ฟต้องมีคืออะไร แล้วคุณมีวิธีฝึกซ้อมเตรียมตัวแข่งอย่างไรคะ

ลิลี่ตอบว่า “กอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทุกอย่างเลยค่ะ ทั้งร่างกาย ความสามารถ และจิตใจที่ต้องแข็งแกร่งมาก ๆ อีกอย่างเราเดินทางตลอด และต้องแข่งขันติดกันหลายสัปดาห์ อาจแข่งสี่วันก็จริง แต่ต้องซ้อมก่อนหน้าแข่งอีก 2 – 3 วัน พอ แข่งเสร็จก็บินไปอีกเมืองเพื่อแข่งต่อ ร่างกายจึงต้องพร้อมตลอดเวลา ยิ่งกับการ แข่งขัน LPGA ซึ่งมีผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกมารวมตัวกัน ยิ่งไม่ง่ายเลยที่ทำให้จบ ในอันดับที่ดีและทำเงินได้เยอะ ๆ 

“สำหรับกอล์ฟ ยิ่งนักกีฬาตัวสูงหรือตัวใหญ่เท่าไร (ลิลี่สูง 163 เซนติเมตร) ยิ่งเป็นประโยชน์เท่านั้น เพราะจะส่งผลต่อความแข็งแรงและพละกำลังในการตี ซึ่ง ต้องยอมรับว่านักแข่งรุ่นใหม่ ๆ ทุกวันนี้แข็งแรงขึ้น ตัวสูงขึ้น และตีได้ไกลขึ้น สนามกอล์ฟก็ยาวมาก ดังนั้นกอล์ฟในปัจจุบันจึงเป็นกีฬาที่ยากขึ้นมาก ๆ สำหรับ ทั้งนักกอล์ฟผู้หญิงและผู้ชาย หากเทียบกับประมาณ 3 หรือ 5 ปีที่แล้ว 

“ฉันเองก็พยายามที่จะทำให้ตัวเองตีได้ไกลขึ้น โดยการเข้ายิมเพื่อสร้าง กล้ามเนื้อ และวางแผนการกินเพื่อให้สุขภาพดีและแข็งแรงที่สุด เป้าหมายของฉัน คือการเพิ่มน้ำหนักและกล้ามเนื้อ ซึ่งฉันคิดว่าช่วยได้มาก ในช่วงที่มีการแข่งขัน ฉันจะพยายามกินอาหารให้ดีและเพียงพอ แล้วก็ซ้อมทุกวัน ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมงต่อวัน กับเข้ายิม 5 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วงพรีซีซั่น แต่ในช่วงออฟซีซั่นที่ ไม่มีการแข่งขัน ฉันก็จะเบรกบ้าง เพราะช่วงที่มีการแข่งมักแข่งติด ๆ กัน บางครั้ง 7 สัปดาห์ติดกัน หลังจากนั้นพอมีช่วง 1 – 2 สัปดาห์ให้ฉันเบรกจากกอล์ฟ ฉันแทบจะไม่จับไม้กอล์ฟเลย ท้ายที่สุดแล้ว เวลาเหนื่อย ๆ การกินอาหารดี ๆ และได้นอนเล่นรีแล็กซ์บนเตียงก็ช่วยลดความกดดันได้ค่ะ” 

ลิลี่ - มูนี่ เหอ

กลับมาที่อเล็กซ์บ้าง ความยากของการแข่ง Formula 1 ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลกความเร็วคืออะไรคะ 

“อย่างแรกคือ การแข่งขัน F1 มีที่นั่งสำหรับนักแข่งแค่ 20 ที่เท่านั้นครับ แต่มีคนเป็นพันอยากจะเข้าสู่สนามนี้โอกาสที่จะได้เข้าไปจึงน้อยมาก ดังนั้นนักแข่ง จึงต้องอุทิศตนให้กับกีฬาชนิดนี้และต้องโฟกัสกับการแข่งขันอย่างมาก ไม่ใช่แค่ ทักษะในการแข่งรถ แต่คุณจะต้องตามเทคโนโลยีและความก้าวหน้าให้ทัน ต้องมี ความเข้าใจด้านวิศวกรรมและคณิตศาสตร์ นอกจากนั้นคุณยังต้องมีความเป็น นักธุรกิจด้วย เพราะต้องเข้าใจว่าจะหาสปอนเซอร์ได้อย่างไร เนื่องจากการแข่งรถ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก นักแข่งหลายคนที่ผมเจอล้วนมาจากครอบครัวที่มีฐานะ ถ้า คุณไม่ได้มาจากครอบครัวเช่นนั้นก็ต้องหาสปอนเซอร์มาช่วย จึงต้องคิดในแง่นี้ ด้วยครับ

“ที่สำคัญการจะเป็นนักแข่ง F1 คุณต้องทำผลงานให้ดีตลอดเวลาในทุกๆ ปี ไม่สามารถพลาดได้เลยสักปีเดียว คือกีฬาอื่นหากพลาด คุณอาจจะกลับมาได้ แต่ F1 คุณมีแค่โอกาสเดียว นักแข่งจึงมีความกดดันตลอดเวลา นี่จึงเป็นกีฬาที่ ค่อนข้างยากและต้องอาศัยการเทรนหนักมากครับ ขณะเดียวกันการที่มีนักกีฬา F1 แค่ไม่กี่คน แต่มีแฟน ๆ ให้ความสนใจเยอะ นักแข่งจึงกลายเป็นศูนย์กลางของ ความสนใจอย่างช่วยไม่ได้ มีแต่คนอยากจะคุยด้วย ซึ่งก็ยากในการรับมืออีก ตอนผมเริ่มแข่ง F1 ใหม่ ๆ ผมเอนจอยกับการแข่งรถมาก แต่รู้สึกอึดอัดกับสื่อ และการอยู่ในสปอตไลต์ ต้องค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะรับมือและพยายามโฟกัสกับการ ขับรถอย่างเดียว ซึ่งแม้จะยาก แต่ก็โชคดีที่ผมมีทีมที่ดี ทั้งผู้จัดการและเทรนเนอร์ ที่อยู่ด้วยกันตลอดตั้งแต่เริ่มต้น F1 คอยให้คำแนะนำ รวมถึงครอบครัวด้วย” 

แล้วคุณเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งอย่างไรคะ 

อเล็กซ์เล่าต่อว่า “กีฬาแข่งรถต่างจากกีฬาอื่นตรงที่เราใช้จิตใจ 80 เปอร์เซ็นต์ และใช้ร่างกาย 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผมต้องมีทั้งเทรนเนอร์ส่วนตัวที่จะเดินทาง ไปกับผมตลอด มีนักจิตวิทยา นักโภชนาการ และ sleep doctor หรือแพทย์ ที่เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ มาทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าผมจะจัดการกับ อาการเจ็ตแล็กจากการเดินทางได้ 

“หลักๆ การเทรนจะเริ่มช่วงต้นปี ประมาณเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ โดยโฟกัสที่การสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงก่อน เพราะเมื่อเริ่มฤดูกาลแข่งแล้ว ผมจะต้องเดินทางบ่อย ทำให้มีอุปสรรคในการเข้าฟิตเนส สำหรับนักแข่งแล้ว ฟิตเนส ที่ดีที่สุดของเราคือการขับรถนี่แหละครับ แต่กีฬาของเราใช้กล้ามเนื้อที่กีฬาอื่น ไม่ได้ใช้ นั่นก็คือคอ เพราะเวลาเข้าโค้งต้องใช้กล้ามเนื้อคอในการฝืนไม่ให้ศีรษะ โยกไปตามแรงโน้มถ่วง ดังนั้นเราต้องฝึกขับรถเรื่อย ๆ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแรง ให้กล้ามเนื้อคอ ถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกกล้ามเนื้อคอ จะไม่สามารถเข้าโค้งได้ เกิน 3 โค้งเลยครับ ความยากอีกอย่างของกีฬาแข่งรถคือ แต่ละสนามมีความ แตกต่างกัน และเราไม่สามารถลองสนามก่อนล่วงหน้านาน ๆ ได้ เพราะค่าใช้จ่าย สูงมาก ไม่เหมือนฟุตบอลหรือกอล์ฟที่คุณซ้อมในสนามได้ทุกวัน แต่การแข่งรถ จะซ้อมได้แค่ 3 วันก่อนการแข่งสนามแรก ก่อนหน้านั้นต้องซ้อมกับเครื่องจำลอง เหมือนขับรถในเกมน่ะครับ แต่เครื่องจำลองนี้จะแม่นยำมากและมีตัวเลขเหมือนกับ ในเซอร์กิตเลย ผมจะใช้เวลา 2 วันต่อสัปดาห์ฝึกในเครื่องจำลองนี้ เพื่อประเมินเกี่ยวกับรถและการอัพเกรดต่าง ๆ 

“ส่วนการเทรนด้านจิตใจ ผมฝึกทำ visual focus ก่อนลงแข่ง โดยอยู่ คนเดียวเงียบ ๆ และโฟกัสถึงแล็ป (Lap คือ รอบหรือครั้งในการแข่งขันเส้นทาง แข่งรถ) ที่จะขับก่อน และทำซ้ำ ๆ ในหัวหลายครั้ง จนผมได้แล็ปที่เพอร์เฟ็กต์ อยู่ในหัวก่อนที่จะลงแข่งจริง “นอกจากนี้ต้องคอยระวังไม่กินอาหารหนักจนเกินไปก่อนแข่งด้วยครับ เพราะ รถจะเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา สำคัญที่สุดคือต้องควบคุมน้ำหนัก นักแข่งรถควรมี น้ำหนักตัวรวมกับชุดแข่ง หมวกกันน็อก และที่นั่งบนรถแล้วอยู่ที่ 80 กิโลกรัม แต่ผมตัวสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว (เกือบ 190 เซนติเมตร) น้ำหนักจึงมากกว่าคนอื่น ต้อง คอยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ที่ 73 กิโลกรัม ถ้ามากกว่านี้จะส่งผลกระทบ”

หนึ่งในสิ่งที่คนภายนอกมองกีฬาแข่งรถคืออันตรายจากอุบัติเหตุที่มาพร้อมความเร็ว คุณเคยผ่านประสบการณ์เฉียดมาบ้างไหม

อเล็กซ์ตอบอย่างมั่นใจ “ผมโชคดีที่ไม่เคยเจอเรื่องร้ายแรง มีแค่อุบัติเหตุ นิดหน่อย 2 – 3 ครั้ง พูดตามตรงว่าผมไม่เคยกลัวเลย นักแข่งรถจะกลัวเรื่องนี้ ไม่ได้ครับ เพราะถ้ากลัวเมื่อไรความเร็วจะลดลง และจะส่งผลต่อการแข่งขันทันที ดังนั้นทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย ผมต้องรู้สึกมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ผมกล้าพูด ว่าผมรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งเวลาอยู่ในรถแข่ง แม้กระทั่งตอนที่รถกำลังจะชน หรือมีคันอื่นมาชนรถผม ผมไม่เคยคิดว่าผมจะต้องเจ็บตัวอะไรเลย แต่จะคิดว่า ช่างเครื่องต้องมาซ่อมรถอีกแล้ว!

“แต่สิ่งที่แย่กว่าอุบัติเหตุคือ ปีที่แล้วผมตื่นมาแล้วปวดท้องมาก ตอนแรก คิดว่าคงกินอะไรผิดสำแดงเข้าไป เพราะผมชอบกินเผ็ด เลยพยายามนอนต่อ แต่ อาการปวดก็เพิ่มขึ้นจนทนไม่ไหว ต้องโทร.หาเทรนเนอร์ให้มาช่วยดู สุดท้ายไปจบ ที่โรงพยาบาลและพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ต้องเข้าผ่าตัดวันนั้นเลย ซึ่งเรื่องไส้ติ่ง ผ่านไปด้วยดี แต่ดันมีปัญหาที่ปอดตามมา เนื่องจากตอนวางยาสลบต้องสอดท่อ ลงไปในคอ แล้วตอนดึงท่อออก ผมหยุดหายใจไปประมาณ 1 นาทีครึ่ง ซึ่งเป็นเรื่อง ซีเรียสมาก ความจริงผมต้องกลับไปเข้าแข่งขันต่อ แต่ร่างกายไม่พร้อม เนื่องจาก มีน้ำและเลือดเข้าไปขังในปอดเยอะ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากท่อที่สอดลงไปในคอ ตอนผ่าตัด ก็เลยไม่พร้อมสำหรับการแข่งขัน ต้องถอนตัวจากการแข่งขันที่มอนซา ประเทศอิตาลี ซึ่งเสียดายมากครับ แต่หลังจากพักแล้วอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ ร่างกายผมกลับมาดีพอที่จะเตรียมตัวแข่งต่อไปได้แล้ว อาจจะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีเวลาพอที่จะเทรนให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม แต่ก็ดีพอที่จะเข้าแข่งขัน ให้จบฤดูกาลได้”

ตอนนี้คุณย้ายจากทีม Red Bull มาอยู่ทีม Williams มีแผนในอนาคตและเป้าหมายต่อไปอย่างไรคะ

อเล็กซ์เปิดใจ “ต้องบอกว่าช่วงเวลาที่ผมได้เป็น main driver หรือนักแข่งตัวจริงของ Red Bull ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของการแข่ง F1 เป็นเรื่องทำให้ผม รู้สึกขอบคุณมาก ๆ ผมรู้สึกว่าช่วงนั้นเป็นการเริ่มต้นการแข่ง F1 ที่ดีมาก ๆ แต่ โชคไม่ดีที่ปีถัดมาไม่ค่อยดีเท่าไร และในปีสุดท้ายผมถูกเปลี่ยนเป็น reserve driver (นักแข่งสำรอง) ผมจึงห่างหายจากการแข่งขันไปพักหนึ่ง แต่ปีนี้ผมเริ่มต้น ใหม่ โดยเปลี่ยนไปเซ็นสัญญาใหม่อยู่กับทีม Williams แล้ว ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นปีที่ค่อนข้างดีของผม ดังนั้นผมก็คงจะโฟกัสอยู่กับที่นี่ไปอีก 2 – 3 ปี โดยการแข่งขันครั้งต่อไปน่าจะเป็นรายการ A Bahrain Grand Prix ที่จะจัดขึ้น ช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ครับ อย่างไรก็ตาม ความฝันของผมคือการเป็นคนไทย ที่ได้ F1 World Champion ซึ่งเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่มาก คงจะรู้สึกดีมากที่ได้ ยืนอยู่บนโพเดียมโดยมีธงชาติไทยอยู่ข้างหลัง (ยิ้ม) ผมจะมุ่งมั่นต่อไปครับ”

ลิลี่ล่ะคะ มีแผนอนาคตอย่างไรบ้าง

ลิลี่เล่าถึงการแข่งขันในปีนี้ “ฉันคิดว่าการแข่งขันกอล์ฟทัวร์นาเมนต์แรก ของปี 2023 น่าจะเป็นที่ประเทศไทยช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในระยะยาวแล้ว เป้าหมายของฉันคือการชนะ LPGA Tour ฉันคิดว่ามีความเป็นไปได้และจะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน แค่ต้องมุ่งมั่นและฝึกหนักต่อไป ฉันมีความหวังมาก ๆ กับการแข่งขัน ในปี 2023 นี้ค่ะ”

ต้องบอกว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของลิลี่นอกจากฝีไม้ลายมือการเล่นกอล์ฟแล้ว ก็คือลุคที่สวยเตะตาในทุกทัวร์นาเมนต์การแข่งขันจนได้ชื่อว่าเป็นนางฟ้าแห่งวงการกอล์ฟ คุณดูแลตัวเองยังไงคะ

ลิลี่เล่าอย่างสนุก “ฉันชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ติดว่าชอบกอล์ฟมากกว่า ก็คงจะไปทางแฟชั่นนี่แหละค่ะ (ยิ้ม) เวลาว่างฉันชอบดูแฟชั่นโชว์ออนไลน์ หรือ ดูภาพใน Pinterest เพื่อหาแรงบันดาลใจ แต่สไตล์ของฉันก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตาม เวลา ถ้าเป็นลุคกีฬาฉันชอบชุดของแบรนด์ FILA golf เพราะมีสไตล์หลากหลาย ให้เลือก ความจริงไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรมาก ฉันแค่รู้ว่ากระโปรงหรือเสื้อแบบไหน ที่เข้ากับรูปร่างของฉัน และแบบไหนที่ใส่แล้วสบายและมั่นใจที่สุด ดังนั้นฉันจึง มักจะใส่อะไรเดิม ๆ อย่างหมวกและรองเท้าที่ใส่เหมือนเดิมตลอด เพราะฉันต้อง อยู่ในสนามนาน ดังนั้นต้องมั่นใจว่าสิ่งที่สวมใส่ โดยเฉพาะรองเท้านั้นใส่สบายจริง ๆ แล้วฉันก็ชอบใส่สีโมโนโครม ดำหรือขาวทั้งชุด เพราะใส่ง่ายกว่าการมิกซ์แอนด์ แมตช์ชุดหลากสี

“ส่วนเรื่องผิว ศัตรูที่สำคัญของกีฬากอล์ฟคือแสงแดด เพราะเราต้องอยู่ กลางแจ้งนาน ๆ ซึ่งฉันก็เป็นคนหนึ่งที่สมัยเด็กเคยเกลียดครีมกันแดดมาก แต่ พอโตขึ้นมาก็ตระหนักได้ว่ามันสำคัญแค่ไหน จึงกลายเป็นคลั่งครีมกันแดดไปเลย ปกติฉันจะทาครีมกันแดด 3 ชนิดก่อนลงเมคอัพ อาจจะฟังดูเกินไปหน่อย แต่ฉัน ทำจริง ๆ ส่วนเครื่องสำอาง ฉันก็จะเลือกแบบที่มีส่วนผสมของ SPF ด้วย แล้ว ระหว่างวันในช่วงมีการแข่งขัน ฉันจะทาครีมกันแดดที่ใบหน้าซ้ำ 1 – 2 ครั้งด้วย ต้องคอยเติมค่ะ ส่วนผิวกายฉันจะใช้ oil spray ฉีดผิว ซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด หรือสวยที่สุดนะคะ เพราะพอใช้แล้วมักจะมีรอยแทน ๆ สีผิวเราจะไม่ค่อยเท่ากัน เท่าไร แต่ฉันชอบเพราะมันใช้ง่ายที่สุด ฉันไม่อยากมือเปื้อนน่ะค่ะ

“นอกจากนี้ฉันยังแต่งหน้าเองเวลาลงสนามทุกครั้ง เคยมีช่วงปีแรก ๆ ที่ เข้าแข่งขันกอล์ฟ ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันแต่งหน้าน้อยลง ฉันน่าจะโฟกัสกับการเล่นกอล์ฟ ได้มากขึ้น ซึ่งพอมองย้อนกลับไปจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย สำหรับฉันการลงสนามแข่งขัน คือการออกไปเพอร์ฟอร์มรูปแบบหนึ่ง มีผู้คนจับจ้องเรามากมาย ฉันจึงต้องรู้สึกดี ที่สุดเพื่อให้ตัวเองเล่นได้ดีที่สุด ดังนั้นในทุก ๆ เช้า ไม่ว่าจะเช้าหรือรีบแค่ไหน แม้กระทั่งแค่ 5 นาทีบนรถ ก็ขอให้ได้แต่งหน้า เพราะการแต่งหน้าเป็นเหมือนการ บำบัดอย่างหนึ่งก่อนเริ่มวันค่ะ” (ยิ้ม)

อเล็กซ์ - อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ลิลี่ - มูนี่ เหอ

มีแฟนสวยและฮ็อตขนาดนี้ อเล็กซ์หวงบ้างไหมคะ

อเล็กซ์ยิ้มพลางตอบว่า “เคยมีช่วงแรกที่คบกัน ผมชอบแกล้งแหย่ว่าผม หึงนะ แต่จริง ๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมเชื่อใจลิลี่ แล้วก็ภูมิใจในตัวเธอมาก ๆ โดยเฉพาะการเป็นนักกอล์ฟของเธอ”

สุดท้าย ในฐานะนักกีฬารุ่นใหม่ที่น่าจับตา ฝากอะไรถึงเยาวชนที่อยากตามฝันให้สำเร็จเหมือนคุณสองคนบ้าง

ลิลี่ตอบอย่างตั้งใจ “ฉันคิดว่าไม่ว่าจะมีเป้าหมายหรือทำอะไรก็ตาม เรา ต้องมุ่งมั่นและผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับสภาพจิตใจ และความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงต้องเชื่อในตัวเองด้วย ตราบใดที่คุณไปในทางที่ ถูกต้อง ทุกอย่างจะผ่านไปได้ ไม่จำเป็นต้องคิดมากกับทุก ๆ เรื่องในชีวิต แค่ เอนจอยกับชีวิตให้มากขึ้น อยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้น”

อเล็กซ์ปิดท้าย “อย่างที่ผมบอกว่า F1 เป็นกีฬาที่ค่อนข้างยาก และต้อง อาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งทักษะ ความรู้ทางธุรกิจ และต้นทุนทางการเงิน ดังนั้นคุณต้องอุทิศเวลาและมุ่งมั่นกับเป้าหมาย ต้องมีทั้งความรู้ ความเข้าใจ และ ความหลงใหล แม้จะไม่ง่าย แต่ถ้าคุณสนใจกีฬานี้ ผมแนะนำให้ลองเริ่มจาก local kart circuit ก่อนเพื่อดูว่าชอบกีฬานี้จริงหรือเปล่า ถ้าชอบ…ลุยเลยครับ” 


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 990

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

keyboard_arrow_up