ปาร์คมินยอง

เสน่ห์เกินห้ามใจ ปาร์คมินยอง กับลุคนอกบท เลขาคิม ในซีรีส์ What’s Wrong With Secretary Kim?

ปาร์คมินยอง
ปาร์คมินยอง

สวย เก่ง ปาร์คมินยอง กับบทเลขาคิมมีโซ
ในซีรีส์ What’s Wrong With Secretary Kim?

อัพเดทซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ช่วงนี้ What’s Wrong With Secretary Kim? ได้คู่พระนาง พัคซอจุน (Park Seo Joon) ประกบคู่ ปาร์คมินยอง (Park Min Young) งานนี้คอซีรีส์สายเกากรี๊ดและฟินมากกับเรื่องราวแสนสนุก

ช่วงนี้มีซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ๆ ปล่อยออกมาให้คอซีรีส์สายเกาได้ชมกันไม่หวาดไม่ไหว แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือซีรีส์เรื่อง What’s Wrong With Secretary Kim? ที่ได้คู่พระนาง พัคซอจุน (Park Seo Joon) มาประกบคู่ปาร์คมินยอง (Park Min Young) นางเอกคนสวย ซึ่งฐานแฟนคลับชาวไทยของสาวปาร์คมินยองและหนุ่มพัคซอจุนก็จัดว่าไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อบวกกับเนื้อเรื่องของซีรีส์ที่สนุกจนหลายคนชมแค่ตัวอย่างก็วนดูซ้ำไปกว่า 10 รอบ จึงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งลิสต์ที่คอซีรีส์หลายคนให้ความสนใจอย่างมากและเตรียมเก็บไว้ดู

ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง

สำหรับเรื่องราวซีรีส์ What’s Wrong With Secretary Kim? ที่ฉายทางช่อง tvN ของเกาหลีใต้ และมาฉายทาง VIU ให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกันแล้ว เป็นเรื่องราวของ อียองจุน (พัคซอจุน) รองประธานบริษัทยักษ์ใหญ่จอมหลงตัวเอง หยิ่งและมีความมั่นใจในตัวเองสูง ซึ่งบริษัทที่เขาดูแลเป็นบริษัทใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ โดยมีเลขาสาวมากความสามารถ คิมมีโซ (สาวปาร์คมินยอง) ที่หน้าตา ฐานะ การศึกษาอยู่ในระดับที่ดีและเหมาะสมกับเขาคอยทำงานด้วย จนกระทั่งหลังจากทำงานร่วมกันมา 9 ปี ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเลขาคิมขอลาออกแบบไม่มีสาเหตุ จึงทำให้รองประธานนึกคิดว่า เขาจะปล่อยสิ่งมีค่าหลุดไปไม่ได้ การพิชิตใจเปิดศึกให้เลขาคิมกลับมา และห้ามลาออกจึงมีขึ้น ซึ่งใครที่ชอบซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ พระเอกมาดเนี้ยบ นางเอกสวย ฉลาด ต้องถูกใจกันแน่นอน

ปาร์คมินยอง
บทบาทเลขาคิม สวย เป๊ะทุกองศา
ปาร์คมินยอง
เลขาคิมมีโซ

และความเป็นสาวแพรวดอทคอมนี้ วันนี้จึงขอโฟกัสไปที่ตัวนางเอกปาร์คมินยอง ที่ความสวยสะดุดตาโดนใจ ซึ่งเธอเคยมาพิชิตใจแฟนๆ ชาวไทยจากซีรีส์หลายเรื่อง อาทิ บัณฑิตหน้าใส หัวใจว้าวุ่น, City Hunter ฯลฯ รวมถึงยังเป็นที่รู้จักกันดีในนามอดีตคนรักของพระเอกซุป’ตาร์เกาหลี ลีมินโฮ อีกทั้งยังมีแฟนๆ บางกลุ่มมองว่าสาวปาร์คมินยองกับนักแสดงสาวไทย จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ มีใบหน้าละม้ายคล้ายกัน …เห็นในซีรีส์กับบทเลขาสาว สวย เนี้ยบ และโซฮ็อต ในมุมส่วนตัวนอกบทเลขาสาว เสน่ห์ของปาร์คมินยองก็เปล่งประกาย สวย สดใสไม่น้อย วันนี้จึงขอรวมภาพของสาวปาร์คมินยองมาให้ได้ชมกัน บอกเลยว่า มองเพลินมาก…ก

ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง ปาร์คมินยอง

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG @rachel_mypark @parkminyoungofficial

เฌอปราง

เปิดทุกมุม..ความเป็นเฌอปราง! เพอร์เฟ็กชั่นนิสต์นิดๆ แต่ไม่ยึดติดความเพอร์เฟ็กต์

Alternative Textaccount_circle
เฌอปราง
เฌอปราง

เป็นคำถามที่เหล่าแฟนคลับของเธอขึ้นไว้ในเว็บไซต์ที่พวกเขารวมตัวทำเพื่อ “เฌอปราง” กัปตันวง BNK48 เรียกได้ว่าเธอเป็นหนึ่งในสมาชิกวงไอดอลที่ได้รับความนิยมและมีแฟนคลับมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีความรับผิดชอบสูงแล้ว ยังเก่งรอบด้านนาทีนี้ใครไม่รู้จัก “เฌอปราง” และเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ถือว่าเอ๊าต์มากๆ

เปิดทุกมุม..ความเป็นเฌอปราง! เป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์นิดๆ แต่ไม่ยึดติดความเพอร์เฟ็กต์

ตามรอยไอดอลสู่วงเกิร์ลกรุ๊ป BNK48

“มีหลายเหตุผลที่ทำให้เฌอมาอยู่จุดนี้ อย่างแรกคือ ความชอบ ส่วนตัวที่อยากรู้ว่าไอดอลที่เราชื่นชอบ ‘ยามาโมโตะ ซายากะ’ สมาชิกไอดอลวง AKB48 เป็นคนเท่ๆ มีความครบถ้วนรอบด้าน เป็นผู้นำ ร้องเต้นก็เก่ง เขามีเส้นทางอย่างไร ตอนแรกมาลองสมัครเล่นๆ จากผู้สมัครทั้งหมดกว่า 1,500 คน ค่อยๆ คัดจนเหลือ 300 คน คุณแม่คอยขับรถรับ – ส่งตลอด ท่านเป็นแนวว่าลูกอยากทำอะไรให้ลอง จนเหลือ 80 คน มีการสัมภาษณ์ ได้ไปเวิร์คชอปฝึกร้องและเต้น พอผ่านการคัดเลือกมาเรื่อยๆ เฌอก็ปรึกษาอาจารย์ว่าถ้ามาทำงานตรงนี้โอเคไหม ท่านแนะนำให้คิดมุมใหม่ว่า เฌอเรียนด้านเคมีและมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ถ้าได้เป็นนักวิทยาศาสตร์สวยๆ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก จะช่วยส่งเสริมงานด้านวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร

“ส่วนคุณพ่อ ตอนแรกท่านไม่โอเค จึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราโตแล้ว จะทำให้เต็มที่ ไม่ให้การเรียนตก พอท่านเห็นผลงาน เห็นสิ่งที่คนอื่นได้รับจากงานเรา ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจหรือประโยชน์ไม่ว่ามากหรือน้อยจากผลงานเรา พร้อมกับที่เฌอได้พัฒนาตัวเอง ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้หาเงินใช้เอง ไม่ต้องทำให้คุณพ่อคุณแม่ลำบาก ท่านจึงโอเค”

มอบกำลังใจ “งานจับมือ”

“ปกติเวลาขึ้นเวทีแสดง สิ่งที่เราได้รับคือ ได้ร้อง ได้เต้น ได้เจอผู้คนสนุกสนาน ได้รับเสียงเชียร์ แต่สิ่งที่ทำให้เฌอซึ้งและดีใจที่ได้ก้าว มาอยู่ตรงนี้จริงๆ คือ เวลาที่อ่านจดหมายหรือไดเร็กต์เมสเสจหรือแท็กมา ซึ่งเฌออ่านแต่ตอบไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ เพราะไม่สามารถติดต่อแฟนคลับได้โดยตรง รวมถึงได้รับกำลังใจจากโอตะ (แฟนคลับ) ที่มาเจอตัวต่อตัวในงานจับมือ

“ทุกคนมายืนต่อแถวเพื่อเจอเรา ซึ่งแต่ละคนที่มาหลากหลายมาก มีทั้งมาบอกขอบคุณที่ทำให้เขาเปลี่ยนตัวเอง บางคนร้องไห้ ซึ่งเฌอเข้าใจ ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงร้องไห้ เพราะเคยเป็นแฟนคลับมาก่อน รู้ว่าเวลาเจอไอดอลของตัวเองรู้สึกอย่างไร เฌอเองก็เคยร้องไห้กับคนคนหนึ่งที่ช่วยให้เราผ่านพ้นบางอย่างไปได้ เมื่อได้เจอเขาจริงๆ จึงรู้สึกตื้นตันใจ และวันนี้เรากลายเป็นไอดอลให้คนอื่น เมื่อเขาเจอเรา รู้สึกตื้นตันกับเรา ทำให้เฌอดีใจมากๆ

“น้องๆ บางคนยกเราเป็นไอดอล เขามาเพื่อบอกว่าเขาสอบผ่าน แล้วตามที่สัญญาไว้กับเรา บางคนเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งเขา ไม่คิดว่าจะมาเจอเราได้ เพราะไม่มีแรง จึงส่งจดหมายมาก่อนหน้านี้ แต่พอเขามางานนี้ได้ เขารู้สึกมีความสุข ทำให้เฌอดีใจที่ตัวเองได้ทำประโยชน์ให้หลายคน (น้ำตาคลอ)

“ขอบคุณทุกคน ทุกโอกาส ทุกอย่างที่ทำให้เฌอได้มาอยู่ตรงนี้ เพราะถ้าเราไม่ได้ยืนที่จุดนี้ เราอาจไม่มีส่วนช่วยคนอื่น ซึ่งเฌอตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่คุณพ่อคุณแม่และคนอื่นๆ บอกเสมอว่า เมื่อเรามีแล้ว ควรแบ่งปันออกไป เมื่อก่อนเฌอเคยช่วยสอนหนังสือในคลาส หรือใครต้องการให้ช่วยอะไร เฌอจะทำเท่าที่ทำได้ เท่าที่ตัวเองไหว ฉะนั้นวันนี้การมีโอกาสได้ช่วยคนมากขึ้นทำให้รู้สึกดีใจ ยิ่งได้รับรู้ความรู้สึกของเขากลับมา ยิ่งทำให้เฌอรู้สึกคุ้มค่ากับการที่ได้อยู่ตรงนี้จริงๆ”

กำลังใจยามท้อ

“เวลาท้อแท้หรือหมดกำลังใจ เฌอมีคนที่เป็นไอดอลของตัวเอง เราเห็นเขาทำงานหนัก เราก็ต้องทำแบบเขาได้สิ ในเมื่อมีคนที่พร้อมสู้ไปกับเรา แล้วทำไมเราจะหยุดสู้ หรือบางช่วงรู้สึกท้อจากการที่ทำงานด้วย เรียนด้วย บางวันเรียนต่อกัน 5 คลาสและต้องไปทำแล็ปต่ออีก เฌอก็ระบายความรู้สึกตัวเองออกไปด้วยการร้องไห้หรือคุยกับเพื่อนสนิท แค่นี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว อย่างช่วงนี้ได้อ่านจดหมายที่แฟนๆ เขียนมา เมื่อนึกถึงเขา นึกถึงงานจับมือ ทำให้เรากลับมาฮึดว่ายังมีคนรอเราอยู่ หรือเวลาโพสต์ไอจี รู้สึกเลยว่ามีคนรอคอมเมนต์ รอคำตอบจากเรา แค่นี้เราก็พร้อมทำหน้าที่ต่อแล้ว”

ความเป็นเฌอปราง

“ขึ้นอยู่กับว่าทำหน้าที่ไหน ถ้าเฌออยู่กับคุณพ่อคุณแม่จะเป็นลูกน่ารัก ง้องแง้ง เอาแต่ใจตัวเอง ช่วยทำงานบ้านบ้าง บางช่วงทำไม่ไหวก็จะอ้อน ‘คุณแม่คะ ช่วงนี้เฌอออกงานเยอะจริงๆ ขอความกรุณาด้วยนะคะ’ แต่ถ้าทำไหวก็จะพยายามทำเอง หรือถ้าให้สัมภาษณ์ก็จะให้ข้อมูลเต็มที่ ถ้าอยู่ในฐานะกัปตันวงต้องดูจริงจัง เครียดๆ หน่อย ถ้าอยู่ในลุคนางแบบจะอินเนอร์มา ถ้าเป็นฟีลเด็กๆ จะมีความโก๊ะ งงๆ หน่อย แต่โดยส่วนตัวเฌอค่อนข้างมีระเบียบ สตริ๊กต์กับตัวเอง ชอบเรียนรู้ เป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์นิดๆ อยากทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ยึดติดความเพอร์เฟ็กต์นั้น”

เยาวชนดีเด่น + ทูตทางพระพุทธศาสนา

“ดีใจและภูมิใจที่ตัวเองมีประโยชน์ สามารถเป็นไอดอลของเด็กๆ และคนรุ่นใหม่ สามารถพัฒนาตัวเอง เป็นคนดีของคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ท่านมีความสุขไปด้วย จากแต่ก่อนเรียนหนังสืออย่างเดียว แต่ตอนนี้ต้องทำทั้งเรียนและทำงานจริงจัง

“ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สนุกมาก แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยล้านิดหนึ่ง แต่ก็พยายามพักผ่อน ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อความพร้อมสำหรับงานต่อไปในทุกวัน”


เรื่องและภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 927 คอลัมน์ SPECIAL SCOOP หน้า 118 – 119
ภาพ IG : cherprang.bnk48official

 

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

ซูมทีละคน 5 ตัวเต็ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 กองเชียร์นางงามเชียร์แน่นมาก

Alternative Textaccount_circle
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

5 สาวตัวเต็งมงกุฎ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 หมายเลข 1, 10, 11,14 และ 15 สวย   หุ่นดี  ภาษาดี ตอบคำถามปัง นี่แหละ! ว่าที่นางงามจักรวาล

เข้มข้นเข้ามาทุกทีแล้วสำหรับการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 โดยล่าสุดบรรดาสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 40 คน ได้เดินทางไปทำกิจกรรมและถ่ายทำวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ โดยในระยะนี้ทางออกประกวดจะอัพเดทภาพของสาวๆ ทุกวัน ทำให้เห็นฐานแฟนคลับของแต่ละคน ซึ่งก็มีมากมาย และจากเหตุผลนี้เอง แพรวดอทคอม เลยเลือก 5 สาว ที่มีแฟนคลับหนาแน่น มาเจาะดูความสามารถทีละคน เพื่อให้เห็นชัดๆ ไปเลย!


หมายเลข 1 “นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

เริ่มต้นที่คนแรกนางงามอิมพอร์ต หมายเลข 1 “นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์” อายุ 19 ปี เธอเป็นลูกครึ่งไทย-สหรัฐอเมริกา กำลังศึกษาปริญญาตรีปี 2 คณะ General Education สาขา General Citrus College โดยก่อนที่จะมาประกวดในเวทีนี้เธอเคยได้ตำแหน่งสาวงามจากเวทีสหรัฐอเมริกา Miss Teen Asia USA ปี 2014 มาครอง ในด้านภาษาเธอเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงในเรื่องของภาษา อีกทั้งยังเป็นคนที่ฉลาดพูดและรอบรู้หลายเรื่องมากๆ

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

“นิโคลีน” มุ่งมั่นกับการประกวดในครั้งนี้ เธอลงทุนบินจากสหรัฐอเมริกา กลับมาประเทศไทย ซึ่งผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอมาประกวดคือ “พี่ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ไซมอน นาคหิรัญกนก” อดีตนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และอดีตนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของไทย  นอกจาก “พี่ปุ๋ย” จะเติบโตที่ลอสแอนเจลิส เหมือนกับเธอแล้ว “นิโคลีน”ยังอยากจะก่อตั้งมูลนิธิเพื่อคืนกลับให้สังคมอย่างเช่นนางงามรุ่นพี่ด้วย

แฟนคลับนางงามหลายคนบอกว่า  “นิโคลีน” เป็นผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองมาก นอกจากเรื่องของภาษาจะดีแล้ว การแสดงออกภาษากาย ท่วงท่าในการเดินและตอบคำถามก็ยังโดดเด่นมากๆ อีกด้วย


หมายเลข 10 “นุ๊ก-ชิชารีย์ เกษร”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

ออร่าโดดเด่นเตะตาอีกคนหนี่งก็คือ หมายเลข 10 “นุ๊ก-ชิชารีย์ เกษร” สาวสวยหน้าคม วัย 22 ปี เจ้าของส่วนสูง 173 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรี ชั้นปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยสื่อสายนางงามลงความเห็นว่า มีเค้าโครงใบหน้าละม้ายคล้ายคลึง “แนท-อนิพรณ์ เฉิลมบูรณะวงศ์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015

“นุ๊ก”เผยว่าแรงบันดาลใจสำคัญเลยมาจากการได้ชมการประกวดปีพี่แนท เพราะเขาแสดงให้เห็นว่านางงามไม่ใช่เรื่องไกลตัว เป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ ก็คิดตามว่าถ้าเราได้ยืนตรงนั้นจะเป็นอย่างไร แล้วก็ต่อเนื่องมาปีพี่น้ำตาล (ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016) ยิ่งทำให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงในสังคม

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

จุดเด่นของ”นุ๊ก”คือรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์ตัวตนที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีความสามารถด้านการวาดรูป ออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น และเคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนสาธิตประสานมิตร ไปแข่งขันในระดับโรงเรียนด้วย

สำหรับคติประจำใจของ “นุ๊ก” คือ “ไม่เคยมีความรู้สึกท้อแท้ เป็นคนชอบความพยายาม ชอบทำสิ่งที่ท้าทาย”


หมายเลข 11 “พลอย-วาเลนติน่า จาร์ดุลโล”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

อีกหนึ่งสาวที่เข้าตาหลายๆ คนคือนางงามลุคสดใส  หมายเลข 11 “พลอย-วาเลนติน่า จาร์ดุลโล” สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี วัย  24 ปี ปัจจุบันกำลังกำลังศึกษาปริญญาโท ที่ประเทศอิตาลี เธอพูดได้ถึง 5 ภาษา ไทย , อังกฤษ , อิตาลี , สเปน และฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีความสามารถด้านการร้องเพลงและเล่นกีตาร์ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยเข้าร่วมประกวด The Voice Thailand ซีซั่น 6 เป็นลูกทีมของ โค้ชโจอี้บอย

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018
สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี

“พลอย” ร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ในครั้งนี้เพราะอยากที่จะสานความฝันเกี่ยวกับงานเพื่อสังคม โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอทำงานนี้มาตลอดไม่ใช่ที่เมืองไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นอาสาในต่างประเทศอีกด้วย สวยแล้วยังจิตใจดีไปอีกกกก


หมายเลข 14 “วีนา-ปวีณา ซิงค์”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

หากพูดถึงผู้เข้าประกวดที่ทิ่มตากองเชียร์ และแฟนนางงามมาที่สุดในปีนี้ก็คือ หมายเลข 14 “วีนา-ปวีณา ซิงค์” สาวไทยเชื้อสายอินเดีย อายุ 22 ปี จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ วิชาภาษารัสเซีย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอจึงพูดได้ 3 ภาษา อังกฤษ , ไทย และ รัสเซีย และยังเป็นนางแบบมืออาชีพอีกด้วย

ในรอบแรกของการสัมภาษณ์ “วีนา” บอกว่าเธออยากที่จะประกวดเพื่อแสดงให้เห็นการยอมรับในความสวยที่แตกต่างในหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าความแตกต่างด้านรูปลักษณ์ สีผิว หรือเพศ ก็ไม่เป็นสาระสำคัญอีกต่อไป

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018
สาวไทยเชื้อสายอินเดีย

“วีนา” เป็นผู้เข้าประกวดที่มีความโดดเด่นมาก นอกจากเครื่องหน้าที่สวยคมแล้ว ท่วงท่าการเดินขงเธอก็ยังสะกดสายตาของผู้ชมได้อยู่หมัด


หมายเลข 15  “ทันตแพทย์หญิง วรรณพร มรรคดวงแก้ว”

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

ปิดท้ายที่สาวสวยโปรไฟล์ดี หมายเลข 15  “ทันตแพทย์หญิง วรรณพร มรรคดวงแก้ว” หรือ “หมอเอย” หมอฟันคนสวย พกความมั่นใจยื่นใบสมัครขอชิงมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 นอกจากเป็นสาวรักความสวยความงามมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยังได้แรงบันดาลใจจากการติดสอยห้อยตาม ผศ.ดร.ทพ.วัชรินทร์ มรรคดวงแก้ว คุณพ่อ ซึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตัดสินนางสาวไทย ไปชมการประกวดต่อเนื่อง นี่คือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018

อย่างไรก็ตาม นอกจากมีความรู้ ความสามารถ และปฏิภาณไหวพริบแล้ว เธอยังออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เป็นจิตอาสาไปบริการทันตกรรมให้กับคนที่อยู่ห่างไกลอีกด้วย สวย รวย จิตใจดี ครบเครื่องจริงๆ


สำหรับการประกวดรอบตัดสิน จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 19.00–21.30 น. ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ และถ่ายทอดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ช่อง 33 เวลา 22.45 หลังจบละครภาคค่ำ และจะแพร่ภาพเทปบันทึก ภาพการประกวดฯ อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ กรกฎาคม เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 SD ช่อง 28

ผู้หญิงต้องรู้! ตัวช่วยสำคัญของรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยของคุณ

เกิดเป็นผู้หญิงยุคนี้ มิใช่เรื่องง่ายนะจ้ะ โหมดแม่ศรีเรือนก็ต้องดี โหมดเวิร์กกิ้งวูแมนก็ต้องเด่น เรื่องเทคโนโลยีก็ต้องตามไม่ให้ตกเทรนด์ แถมยังต้องสตรองทำได้สารพัด รวมถึงเรื่องการขับรถ จะสักแค่ว่าขับเป็นก็คงไม่ดีนัก สิ่งสำคัญคือควรรู้จักรถยนต์ที่ใช้ด้วยว่ามีฟังก์ชั่นอะไรที่จะช่วยให้การขับรถเป็นเรื่องง่ายและมอบความปลอดภัยสูงสุดให้กับเรานั่นเอง

ฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถยนต์มีประโยชน์และวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้หญิงควรรู้จักไว้และใช้ให้เป็น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและครอบครัว เพราะชีวิตของเรามีเรื่องสนุกๆ ให้ทำกันอีกเยอะ

ขับรถทางไกลไม่มีหวั่น

ระยะทางจะไกลจะใกล้อย่าได้แคร์ เพราะฟังก์ชั่นแรกที่อยากแนะนำให้ผู้หญิงรู้จักกัน คือ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการขับรถทางไกล ที่ต้องขับตรงไปยาวๆ เช่น การเดินทางไปต่างจังหวัด โดยระบบนี้จะเริ่มการทำงานง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว หลังจากนั้น ระบบจะช่วยควบคุมความเร็วตามที่คุณกำหนด และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ ซึ่งระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่คุณไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง หรือ เปิด-ปิดระบบควบคุมความเร็วใหม่เลย

ใกล้ปุ๊บสัญญาณเตือนดังปั๊บ

หลายๆ คนอาจเคยขับรถใกล้รถคันหน้ามากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบเตือนการชนด้านหน้า ถือเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้คุณเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้นในการขับรถ โดยกล้องเรดาร์หน้ารถจะคอยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้า หากระบบพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชน  ไฟจะเตือนขึ้นบนกระจกหน้ารถ และถ้ารถยังเคลื่อนเข้าไปในระยะกระชั้นชิดกว่านั้น ไฟจะกระพริบพร้อมเสียงเตือน และระบบจะเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรคให้พร้อม เพื่อให้รถหยุดได้เร็วขึ้นเมื่อคุณแตะเบรก

ขับขี่ปลอดภัยในเลนตัวเอง

หากเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ๆ  รถของคุณผู้หญิงก็เบี่ยงออกจากช่องทางหรือเลนของตนโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวด้วย ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางจะช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อย เพื่อให้รถกลับเข้ามาอยู่ในเลน และหากทิศทางของรถยังคงเบี่ยงออกนอกเลนอีก ระบบก็จะเตือนด้วยการสั่นที่พวงมาลัย

เหนื่อยนักหยุดพักก่อน

ระบบแจ้งเตือนการขับขี่จะช่วยปกป้องคุณอีกระดับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คุณขับขี่ออกนอกเส้นทาง หรือขับรถส่ายไปส่ายมาหลายๆ ครั้ง เสมือนคุณเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้าในขณะขับรถ โดยระบบจะมีสัญลักษณ์รูปถ้วยกาแฟปรากฏที่หน้าปัด เพื่อเตือนให้รู้ว่าคุณต้องหยุดพักและเติมความสดชื่นให้กลับคืนมา เพื่อความพร้อมที่จะขับรถต่อไป

ไร้กังวลเรื่องจุดบอด

คุณผู้หญิงน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่อยู่ๆ ก็มีรถโผล่ขึ้นมาในขณะที่เรากำลังจะเปลี่ยนเลน ทั้งๆ ที่มองกระจกมองข้างอย่างถี่ถ้วนแล้ว นั่นเป็นเพราะรถยนต์ทุกคันมีจุดบอดหรือมุมอับ ซึ่งทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้  แต่ถ้ามีระบบตรวจจับรถในจุดบอดและตรวจจับรถขณะออกจากซองก็หมดห่วงกับปัญหานี้ไปได้เลย เพราะระบบนี้จะทำหน้าที่เป็นดวงตาอีกคู่ของคุณในเวลาที่ทำการเปลี่ยนเลน โดยจะมีไฟเตือนแสดงขึ้นเมื่อมีรถยนต์อยู่ในจุดบอดที่ไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้างได้ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจจับและคอยเตือนว่ามีรถยนต์กำลังมา ในขณะที่กำลังขับหรือถอยรถออกจากช่องจอดอีกด้วย

เอาอยู่บนทางลาดชัน

การออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชันเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้หญิงมักกังวล ซึ่งใช่ว่าจะเจอเหตุการณ์นี้แค่ตอนไปเที่ยวป่าเที่ยวเขาเท่านั้น อย่างตอนรถจอดติดบนสะพาน หรือตรงทางขึ้นลงลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าก็เช่นกัน เชื่อว่าคุณต้องกลัวรถไหลขณะถอนเท้าออกจากเบรกเพื่อไปเหยียบคันเร่งกันแน่นอน ซึ่งบอกเลยว่าระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชันสามารถช่วยคุณได้มากทีเดียว โดยระบบจะคงการเบรกไว้ให้ต่ออีก 2 วินาที เพื่อไม่ให้รถไหลหลังจากถอนเท้าออกจากเบรก ทำให้สามารถออกตัวได้อย่างนิ่มนวล มั่นใจ และปลอดภัย

เห็นไหมคะว่าฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถยนต์มีประโยชน์มากแค่ไหน เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ฟังก์ชั่นเหล่านี้สามารถช่วยชีวิตคุณได้ แถมยังช่วยลดความตึงเครียดในการขับรถ และมอบความอุ่นใจปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่คุณและครอบครัว

และหากนึกถึงรถยนต์ SUV ที่มีฟังก์ชั่นเพื่อความปลอดภัยเริ่ดๆ เหมาะสำหรับผู้หญิงสุดๆ ก็ต้องเป็น Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส ทั้ง 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เพราะรถยนต์รุ่นนี้มีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Advanced Driving Assist Technology) ที่รวบรวมฟังก์ชั่นเพื่อความปลอดภัยไว้ครบถ้วน ช่วยให้ผู้หญิงขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ และราบรื่นในทุกการเดินทางราวกับโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน

สามารถดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เกี่ยวกับฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้ที่ https://bit.ly/2Hq2hyc

แบรนด์ทั้งตัว! ไคลีย์ เจนเนอร์ ฟาดลุคแซ่บ ด้วยไอเท็มราคาหลักหมื่นทุกชิ้น

ไคลีย์ เจนเนอร์ คุณแม่สุดแซ่บ ที่เพิ่งคลอดลูกสาวไปได้ไม่กี่เดือน รูปร่างของเธอก็กลับมาเฟิร์มและเซ็กซี่แบบเกินพิกัดแล้ว ไม่ว่าจะจับอะไรมาแมทช์ มาแต่งก็ปัง และแน่นอนว่าระดับไคลีย์ ครีเอทลุคทั้งทีมีเหรอจะธรรมดา ทุกลุคคือฟาดได้ฟาด ที่สำคัญราคาไอเท็มแต่ละชิ้นของเธอก็ไม่เบานะจ๊ะ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีภาพของสาวไคลีย์กำลังเดินเล่นอยู่ในเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยลุคของเธอช่างเผ็ดซี๊ดดด…พริกทั้งสวนก็เอาไม่อยู่จ้า นี่แค่ออกมาชิคๆ ชิลๆ ยังเริ่ดขนาดนี้เลยนะ ซึ่งลุคนี้ไคลีย์เลือกมินิเดรสรุ่น Kyoto Calling Floral Brocade จากแบรนด์ Manning Cartell ราคา 550 เหรียญฯ  หรือประมาณ 18,000 บาท ส่วนกระเป๋าคลัชท์ใสโฮมเมด รุ่น Lucite Pagoda จาก L’AFSHAR ราคา 1,010 เหรียญฯ หรือประมาณ 33,065 บาท และปิดจ็อบลุคนี้ด้วยสนีกเกอร์ของ Chanel ราคาประมาณ 31,000 บาท นี่แค่ 3 ไอเท็ม ราคารวมกันก็ปาไปเกือบแสนแล้วจ้า

 

ไคลีย์ เจนเนอร์ ฟาดลุคแซ่บ อวดหุ่นเป๊ะ

 

ไคลีย์ เจนเนอร์

มองด้านข้างแล้วต้องกราบหุ่นสาวไคลีย์กันเลยทีเดียว

 

ไคลีย์ เจนเนอร์

ถอดแว่นออกมาโชว์หน้าสวยๆ ก็เก๋ไปอีกแบบ

 

ภาพเต็มตัวกับไอเท็มที่เลือกมาครีเอทลุค ก็เข้ากันได้ดีจริงๆ

 

ดีไซน์ของชุดโชว์แผ่นหลัง เผยความเซ็กซี่ให้สุดไปเลย

 

มองมุมไหน รูปร่างของสาวไคลีย์ก็น่าอิจฉามากกกก

 

รอยยิ้มของสาวแซ่บ ยิ่งทำให้ลุคนี้แซ่บทวีคูณ

ไม่มีคำว่าผิดคาด เพราะทุกครั้งที่มีภาพไคลีย์ออกมา ไม่มีครั้งไหนจะไม่เป๊ะ แม้วันนั้นคอสตูมจะไม่ได้จัดเต็ม แต่ด้วยรูปร่างของเธอ ก็ทำให้ลุคมีความพิเศษขึ้นมาได้


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Twitter@wonderarchives  , IG@manningcartell  , @lilianafshar

รุ่นท็อปฮิตตลอดกาล! กระเป๋า Givenchy แบรนด์สุดโปรดของดัชเชสเมแกน

พารู้จัก กระเป๋า Givenchy รุ่นท็อปฮิตตลอดกาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กระเป๋ารุ่นนี้ก็ยังคงครองใจแฟชั่นนิสต้าได้อยู่หมัด

แม้ว่า แบร์ เดอ จีวองชี (Hubert de Givenchy) ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ผู้สร้างภาพลักษณ์อันโด่งดังในการออกแบบเสื้อผ้าให้กับคนดังมากมาย เช่น Audrey Hepburn เจ้าหญิงแห่งฮอลลีวู้ด , เจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโก และ Jackie Kennedy สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1961 จะเสียชีวิตด้วยวัย 91 ปีไปแล้ว แต่แบรนด์ดังอย่างจีวองชีก็ยังเป็นที่นิยมไม่เปลี่ยนแปลง

ซึ่งนักออกแบบคนดังได้ก่อตั้งแฟชั่นเฮ้าส์ Givenchy ขึ้นในปี 1952 และก่อนที่กระเป๋า 2 รุ่นยอดฮิตจะเป็นที่ต้องการของสาวกแฟชั่นทั้งหลายอย่างทุกวันนี้ แบรนด์จีวองชีได้กลายเป็นตำนานและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก็เมื่อชุดที่ Audrey Hepburn ใส่ในฉากภาพยนตร์เรื่อง Sabrina ชนะรางวัลออสการ์ในปี 1954 จากนั้นก็ได้ตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งการครีเอทอีกครั้งกับชุดเดรสสีดำในตำนานอย่าง Little Black Dress ที่ Audrey Hepburn สวมในภาพยนตร์เรื่อง Breakfast At Tiffany’s เมื่อปี 1961

Audrey Hepburn จากภาพยนตร์เรื่อง Breakfast at Tiffany’s

ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกจริงๆ สำหรับ Givenchy ที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์หลายต่อหลายงาน และอย่างที่ได้เกริ่นไปว่านอกจากชุดในตำนานของแบรนด์แล้ว อีกหนึ่งไอเท็มสุดปังของแบรนด์ก็คือกระเป๋ารุ่นยอดนิยมอย่าง Antigona และ Horizon Bag ซึ่งคงไม่มีใครไม่รู้จักและไม่ว่าจะออกสีสันใหม่มากี่ครั้ง 2 รุ่นนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ ทั้งนี้ยังคงเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของจีวองชีเลยก็ว่าได้

 

รุ่นท็อปฮิตตลอดกาล! กระเป๋า Givenchy แบรนด์สุดโปรดของดัชเชสเมแกน

 

กระเป๋ารุ่นแอนธิโกน่า (Antigona)

กระเป๋ายอดฮิตของจีวองชีอย่างรุ่นแอนธิโกน่า (Antigona) กับรูปทรงสมมาตร ดูทะมัดทะแมง มาพร้อมกับการตกแต่งแบบใหม่ มีความหลากหลายตามคอลเล็คชั่น จนกลายเป็นกระเป๋าใบเด่นได้ในทุกโอกาส โดยมีด้วยกัน 3 ไซส์ ทั้ง Medium ราคาใบละ 89,000 บาท , Small ราคาใบละ 84,000  บาท  และ Mini ราคาใบละ 65,500 บาท ทั้งนี้ราคาในแต่ละรุ่นจะสูงขึ้นตามคุณภาพของหนัง

กระเป๋า Givenchy

กระเป๋า Givenchy

กระเป๋ารุ่นฮอไรซัน (Horizon Bag)

เป็นรุ่นที่รวบรวมเอกลักษณ์ต่างๆ ของแบรนด์ไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยรูปทรงสมมาตรที่มาพร้อมกับแถบคาดแนวนอนอันโดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงเรขาคณิตแบบเบาเฮาส์ ที่จีวองชีนำมาออกแบบตกแต่งบนเสื้อผ้าในคอลเล็คชั่นต่างๆ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กระเป๋ารุ่นนี้ออกแบบโดยเน้นความเรียบหรู การตัดเย็บที่เฉียบคม เพื่อสร้างความโดดเด่น เน้นความงดงามและคุณภาพของวัสดุ โดยมี 4 ไซส์ ได้แก่ Medium ราคาใบละ 101,500 บาท , Small ราคาใบละ 91,000  บาท  ,  Mini ราคาใบละ 81,000  บาท และ Nano ราคาใบละ 50,500  บาท

 

ใครเล็งรุ่นไหนไว้ก็รีบสอยเลยนะจ๊ะ เพราะถ้าพูดถึงกระเป๋า Givenchy ก็ต้องสองรุ่นนี้แหละยูว์ ที่ควรค่าแก่การครอบครอง


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : www.givenchy.com

 

‘เสียดาย อุตส่าห์มีดวงนารีอุปถัมภ์ แต่ดันพลาดเป้า’ ดูดวงรายวัน 21 มิถุนายน 2561

ดูดวงรายวัน 21 มิถุนายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้จะอยู่ท่ามกลางการแข่งขัน ซึ่งท่านก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ก็ถือว่าท่านโชคดี ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ หากอยากไปทำธุรกิจส่วนตัวก็สามารถทำได้

การเงิน :  จะมีโอกาสได้ทรัพย์มรดก ลาภลอยจากการเสี่ยงโชค หรือทรัพย์สินจากความสิเน่หา

ความรัก : ท่านอยู่กันแบบผู้ใหญ่ แม้บางครั้งไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็เข้าใจกัน คนโสด รักแล้วรักเลย แต่ไปรักคนเดียวกับคนอื่น ก็ต้องอาศัยผู้ใหญ่ให้คำปรึกษาแนะนำ

สุขภาพ :  ระวังหกล้มหรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : วันนี้ก็เช่นกัน ท่านรู้สึกกดดันค่อนข้างหนัก อึดอัด เพราะความคิดและจินตนาการของท่านล้ำหน้าจนเจ้านายตามไม่ทัน จึงมีทัศนคติไม่ตรงกันจนทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้

การเงิน  :  ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก เพราะเจรจาไม่ลงรอยกับหุ้นส่วน

ความรัก : วันนี้ท่านคาดหวังว่า คู่จะเป็นที่พึ่งให้กับท่านในทุกๆ เรื่อง ส่งเสริมหน้าที่การงาน แต่ปรากฏว่ากลับมีทัศนคติไม่ตรงกันเสียอีก จนนำพาไปสู่การทะเลาะกัน คนโสด บางทีการคิดที่จะเปลี่ยนโลกหรือเปลี่ยนตัวตนของเขา ก็ทำให้ทะเลาะกันได้

สุขภาพ : จะไวต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของงอากาศ จนเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้และไข้หวัด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ท่านเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้ต้องผิดหวังและเสียใจ และท้อแท้กับ

โชคชะตา อาจมีเรื่องไม่สบายใจ หรือวิตกกังวลกับงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการ ก็อย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาดเสียหายยากเกินที่จะแก้ไข ควรนิ่ง สงบและใช้ปัญญาให้มาก

การเงิน : ต้องเหนื่อยจึงจะได้มา ซึ่งท่านก็หมดไปกับการหาความสุขไปกับการดื่ม กิน เที่ยว อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความรัก :  ท่านกับคู่ก็เหมือนจะอยู่กันอย่างสงบสุข ธัมมะธัมโมดี แต่วันนี้อาจมีมือที่สามมาทำให้ฟุ้งซ่าน หรือไม่ท่านก็อาจอยู่กันก่อนแต่ง คนโสด เจ้าชู้ ซึ่งความเจ้าชู้นี้ละ อาจส่งผลให้ท่านมีความรักแบบซ่อนเร้น

สุขภาพ : เครียดจนส่งผลทั้งต่อระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืด ท้องผูก โรคกระเพาะ อาหารเป็นพิษ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : เอาจริงเอาจังกับการทำงานตลอดเวลา เพราะอยากให้งานประสบความสำเร็จจนไม่สนใจเรื่องอื่นใดในชีวิต แต่ปรากฏว่าท่านเสนอความคิดกลับไม่มีใครรับลูก เพราะตามไม่ทัน จึงทำให้ท่านเซ็งแล้วไม่สนใจอีกเลย

การเงิน : ช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้ใหญ่หรือเพื่อนให้การสนับสนุน

ความรัก : ท่านอาจสนใจแต่เรื่องงานจนไม่สนใจเรื่องในครอบครัว หรือแม้กระทั่งตัวเอง ก็อาจต้องพึ่งพาคนรักช่วยทำหน้าที่ไปพลางๆ ก่อน คนโสด สุดโต่งคือ อยากอยู่เป็นโสดกับลุ่มหลงในความรักมากมาย อยู่ที่อารมณ์ ณ ตอนนั้นว่าท่านจะเลือกแบบไหน

สุขภาพ :  ระวังระบบย่อยอาหารร โรคกระเพาะ ลำไส้ ทำให้มีอาการปวดเสียดท้องได้ง่าย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  ยังต้องทำใจร่มๆ ต่ออีกวันค่ะ วันนี้ท่านจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด อึดอัด คับข้องใจ ต้องการการตัดสินใจอย่างด่วนเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้ตัวเอง แม้จะมีคนมาช่วย แต่ท่านก็อาจต้องปิดจ็อบใดจ็อบหนึ่งเพื่อรักษาส่วนอื่นไว้

การเงิน :  แม้ท่านจะมีดวงนารีอุปถัมภ์ แต่ก็เข้ามือซ้ายออกมือขวาตลอด มีโอกาสเป็นหนี้ด้วย

ความรัก : จะมีวาระโอกาสให้มาอยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว แต่ไม่การันตีว่า บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความสุข อาจมีเครียดบ้างจากความจู้จี้ของท่าน หรือคาดหวังจากคนรักมากไปก็ทำให้ทะเลาะกันได้ คนโสด มีดวงนารีอุปถัมภ์ แต่วันนี้มีเหตุให้ท่านพลาดเป้า

สุขภาพ : ระวังเกิดอุบัติเหตุในการเดินทาง ทำให้มีปัญหาช่วงขาและข้อ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ท่านกำลังเริ่มต้นคิดหรือลงมือทำงานที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่ ท้าทายความสามารถ โดยเฉพาะงานทางด้านสื่อสารมวลชนจะประสบความสำเร็จมาก แต่ก็เตรียมรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ยากที่จะแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

การเงิน :  วันนี้จะได้เงินหรือเสียเงินอยู่ที่คำพูดของท่าน

ความรัก :  ท่านโลเลในเรื่องความรัก เอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก แต่วันนี้ท่านอาจมีปัญหารุนแรงจนอาจต้องแยกกันอยู่สักพัก คนโสด คนรักเก่าขอกลับมาคืนดี แต่ท่านตัดสินใจไม่ได้ แต่เขาก็รอไม่ได้เช่นกัน คราวนี้อาจตัดขาดเลยก็ได้

สุขภาพ :  ถึงคิวนัดหมอฟันได้แล้วค่ะ เพราะกำลังลามไปถึงทางเดินหายใจแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ก็ยังรับอาสาไปปฏิบัติงานแทนเจ้านาย ท่านอาจต้องไปเจรจาประนีประนอม ต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบสูง เพื่อหาทางให้ตัวเองรอดหรือดูแลรักษาตัวให้พันจากภยันตรายที่จะผ่านเข้ามาในชีวิต

การเงิน :  ท่านช่วยเหลือคนอื่นมากเกินไป โดยเฉพาะในเรื่องความรัก จนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :  กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก อาจกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน คนโสด ไม่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักจนหัวปักหัวปำ ก็โสดสนิทเลยค่ะ

สุขภาพ : ปกติไม่ค่อยป่วยไข้ แต่หากเป็นก็ล้มหมอนนอนเสื่อให้น้ำเกลือกันเลย

วิธีเซลฟี่

เฉิดฉายอย่างเซเลบริตี้ 7 วิธีเซลฟี่ ให้หน้าใสกิ๊กได้มุมสไตล์คนดัง

Alternative Textaccount_circle
วิธีเซลฟี่
วิธีเซลฟี่

ว่ากันไม่ได้ว่าในยุค Next G มือถือที่มีกล้องถ่ายรูปเป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคนต้องมีติดตัวไปแล้ว ไปที่ไหนเมื่อไหร่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเซลฟี่ แชะ แชะ เก็บภาพสวยงาม เอ๊ะ! แล้วเหล่าคนดังเขามีวิธีถ่ายรูปยังไงให้หล่อสวย ได้ไปเจอที่งาน “เอไอเอส เสียวหมี่ เซลฟี่ เดย์” (AIS-Xiaomi Selfie Day) เลยแอบกระแซะถามว่าแต่ละคนมี วิธีเซลฟี่ ให้หน้าใสกิ๊กแบบไหนกันบ้าง

เริ่มกันที่ “ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์” บอกถึง วิธีเซลฟี่ แบบฉบับคนหัวใจสีชมพูว่า “ชิปชอบที่จะเซลฟี่คนเดียว และกับแฟนคลับ เทคนิคของชิปคือเอียงหน้านิดๆ เพราะจะได้ดูหน้าเรียว ปกติชิปไม่ชอบใช้แอพฯ แต่งภาพ แต่เดี๋ยวนี้สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะกล้องหน้าจะมีโหมดบิวตี้มาพร้อมเลย ชอบมากค่ะ”

วิธีเซลฟี่
“ชิปปี้-ศิรินทร์ ปรีดียานนท์”

ด้านนางเอกหน้าใส  “มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์” เผยว่า “มุกเป็นผู้หญิงก็จะมีมุมของตัวเอง ต้องยกมุมสูงให้หน้าดูเรียวผอมที่สุด และใช้แอพฯ ที่ทำให้ผิวสวยดูวิ้งใส แต่ถ้าได้โทรศัพท์ที่สวยไม่ใช้แอพฯ ยิ่งดี เพราะเป็นคนชอบเซลฟี่มาก ทั้งวัน ทุกวัน เจออะไรจะชอบเซลฟี่คนเดียว ถ่ายเก็บบรรยากาศบันทึกความทรงจำไว้”

วิธีเซลฟี่
“มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์”

ฟากพระเอกหล่อล่ำ “อ้วน-เด่นคุณ งามเนตร” เผยว่า “ผมเป็นคนชอบใช้วิธีเซลฟี่ไปแกล้งเพื่อน มักจะแอบถ่ายเพื่อนทีเผลอ ตลกๆ ทำเป็นเซลฟี่ตัวเอง แต่ไม่ใช่ จริงๆ ถ่ายเพื่อน เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนแบบตลกๆ ครับ”

วิธีเซลฟี่
“อ้วน-เด่นคุณ งามเนตร”

มาที่วิธีแบบฉบับ “กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์” นักแสดงน้องใหม่ป้ายแดง “ผมเป็นคนตรงๆ ก็เลยชอบถ่ายมุมตรงๆ ไม่เอียงอะไรเลย (หัวเราะ) แล้วก็ชอบถ่ายเซลฟี่กับเพื่อนๆ ไม่ชอบถ่ายคนเดียวต้องหาคนถ่ายด้วยตลอด”

วิธีเซลฟี่
“กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์”

มาที่นักแสดงสาว “อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ” กล่าวว่า “อุ้มจะชอบเซลฟี่กับเพื่อน มันมีอะไรสนุกให้ทดลองด้วยกัน ได้แกล้งเพื่อนในกล้อง หรือเพื่อนแกล้งเราบ้าง เป็นโมเมนต์ที่สนุกดีค่ะ มุมโปรดเวลาเซลฟี่ของอุ้มจะเป็นเอียงหน้าด้านซ้าย 45 องศาค่ะ ส่วนใหญ่เวลาถ่ายเสร็จแล้วจะมีปรับแสงหน่อย ปกติไม่ใช่คนแต่งรูปเยอะ เลยมักจะชอบโทรศัพท์ที่ถ่ายออกมาแล้วสวยเลยค่ะ วันนี้ได้ทดลองใช้เสียวหมี่รู้สึกประทับใจค่ะ ถ่ายออกมาแล้วสวยไม่ต้องแต่งเลย สะดวกมากค่ะ”

วิธีเซลฟี่
“อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ”

ปิดท้ายที่คู่จิ้น “ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร” กับ “กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์” โดย “ออฟ” เผยว่า “ผมชอบถ่ายมุมเอียง 45 องศา และชอบถ่ายเซลฟี่กับแฟนๆ เพราะการเซลฟี่เป็นการใกล้ชิดกับแฟนคลับมากที่สุดแล้ว” ขณะที่ “กัน” เผยว่า “ผมชอบถ่ายหน้าตรงครับ แต่จะชอบเซลฟี่ โดยเฉพาะช่วงเวลาบนเตียงตอนตื่นนอน และก่อนนอน เป็นการทักทายกับแฟนๆ ครับ มีเทคนิคคือเปิดผ้าม่านให้แสงเข้าตกกระทบกับเตียงสีขาว ทำให้หน้าใส”

วิธีเซลฟี่
“ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร” กับ “กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์”

 

แวนเนส F4

แวนเนส F4 หย่าไฮโซหมื่นล้าน ปิดชีวิตแต่งงานอลังการดาวล้านดวง

Alternative Textaccount_circle
แวนเนส F4
แวนเนส F4

ปิดฉากชีวิตแต่งงานอลังการดาวล้านดวง! อริสซา เหยา ยอมเซ็นใบหย่าให้ แวนเนส F4 จบความสัมพันธ์คู่สามี-ภรรยา 5 ปี

แวนเนส F4

แวนเนส วู และ อริสซา เหยา

นับเป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิงไต้หวันเลยทีเดียว เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ชีวิตสมรสระหว่างนักร้องและนักแสดงชื่อดัง แวนเนส F4 กับภรรยาสุดแซ่บทายาทหมื่นล้านของนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ อริสซา เหยา ได้ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังที่ดาราหนุ่มยื่นเรื่องขอหย่ามาถึง 2 ครั้ง 2 ครา

โดยทนายความตัวแทนของ อริสซา เหยา ได้เผยว่า ลูกความของเขายังคงเชื่อในเรื่องการแต่งงาน อย่างไรก็ตาม เพราะ แวนเนส ได้ยื่นเอกสารขอหย่ามาให้เธออย่างต่อเนื่อง เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตัดสินใจที่จะยุติชีวิตคู่ที่มีแต่ความเจ็บปวด ความเสียใจในครั้งนี้ทำให้เธอตัดสินใจที่จะยุติทุกอย่างด้วยการหย่า

สำหรับ แวนเนส  และ อริสซา เหยา ก่อนที่จะแต่งงานกันทั้งคู่คบหาดูใจกันมากว่า 7 ปี โดยในระหว่างนั้นก็มีปัญหารักๆ เลิกๆ มาตลอด กระทั่งมีข่าวเรื่องแต่งงานความรักของทั้งคู่ยิ่งถูกจับตามองมากกว่าเดิม โดยเฉพาะความแตกต่างของครอบครัวทั้งสองคน

อริสซา คือลูกคุณหนูอย่างแท้จริง คุณพ่อของเธอทำธุรกิจน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เธอเกิดและเติบโตที่ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งอายุ 19 ปี จึงกลับมาเรียนภาษาแม่ที่ไต้หวัน ด้วยความที่หน้าตาดีเธอจึงถูกทาบทามเข้าวงการบันเทิง แต่ก็ไม่จริงจังเท่าไหร่ ทว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเธอมีความรักในเรื่องแฟชั่นมากๆ ดังนั้นข้าวของเครื่องใช้ของเธอจึงนำเทรนด์อยู่เสมอ

อริสซา เหยา

ขณะที่หนุ่ม แวนเนส มาจากครอบครัวที่คุณพ่อ-คุณแม่แยกทางกัน เขาเองต้องทำงานตั้งแต่อายุน้อยๆ ต่อมาก็กลายเป็นเสาหลักครอบครัว ดูแลค่าใช้จ่ายของคุณแม่-คุณพ่อเลี้ยง และพ่อของตัวเอง รวมถึงยังส่งเสียน้องชายมาตลอด เรียกว่าชีวิตต่างขั้วกันสุดๆ

หากยังจำกันได้ แวนเนส คือหนุ่มคนแรกของสมาชิก F4 ที่แต่งงาน ทำให้งานของเขาเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชน บวกกับเจ้าสาวของเขาเป็นทายาทหมื่นล้านเลยยิ่งเพิ่มความน่าสนใจว่างานวิวาห์ครั้งนี้จะอลังการแค่ไหน ซึ่งไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะทั้งคู่ประกาศจัดงาน 2 ประเทศ ทั้งในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และที่สิงคโปร์ ซึ่งรูปแบบของงานแต่งงานก็เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มากๆ โดยเฉพาะที่สิงคโปร์พวกเขาเนรมิตงานให้ออกมาราวกับเทพนิยาย เรียกว่าเป็นงานวิวาห์แห่งปีเลยก็ว่าได้

งานวิวาห์ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

 

งานวิวาห์ที่สิงคโปร์

แวนเนส F4

แวนเนส F4

แวนเนส F4

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็เดินทางมาฮันนีมูนที่ประเทศไทย และถึงแม้จะแต่งงานแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม  อริสซา ยังคงเป็นสาวปาร์ตี้อยู่ ซึ่งสื่อท้องถิ่นให้น้ำหนักกับประเด็นนี้ว่าอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้หย่าร้างกันในที่สุดนั่นเอง


 

มาดูไอเดีย สูจิบัตร สุดคิ้วท์! ใน พิธีแต่งงานไทย ของคุณแอ๊นท์ & คุณเบอร์นี่

account_circle

หมดปัญหาฝรั่ง งง พิธีแต่งงานไทย เพราะเรามีไอเดียสุดน่ารักในการทำสูจิบัตรพิธีไทยสำหรับชาวต่างชาติ ที่เจ้าสาวรุ่นพี่อยากบอกต่อ มาดูกันว่าน่ารักขนาดไหน!

เร็วๆนี้ แพรว เวดดิ้ง ได้ข่าวจากสปายงานแต่งงานของเราว่ามี พิธีแต่งงานไทย พิธีหนึ่ง ของ คุณแอ๊นท์ –กมลชนก พุคยาภรณ์ เจ้าสาวเวิร์คกิ้งวูแม่นคนเก่งเพราะมีดีกรีเป็นทั้งพิธีกร และ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ Money Channel กับ คุณเบอร์นี่ – Bernhard Sae-Rom Schulz เจ้าบ่าวลูกครึ่งเยอรมัน-เกาหลีสุดเท่ห์ ที่มีการนำเอาไอเดียสุดพิเศษมาใช้ภายในงาน เพื่ออธิบายลำดับขั้นตอนและรายละเอียดพิธีแต่งงานของไทยให้กับชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน แก้ปัญหาฝรั่ง งง กับพิธีแต่งงานไทยได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ แพรว เวดดิ้ง ไม่รอช้า โทรสัมภาษณ์เจ้าสาวคนเก่ง คุณแอ๊นท์ ของที่มาสำหรับไอเดียนี้ รวมถึงไอเดียเบื้องหลังธีมและการตกแต่งงานที่ผสมผสานความเป็นไทยพื้นบ้านกับความโมเดิร์นได้ลงตัวสุดๆ

พิธีแต่งงานไทย

ไอเดีย “สูจิบัตรพิธีแต่งงานไทย”

เริ่มจากเมื่อคุณแอ๊นท์และคุณเบอร์นี่เซตวันสำคัญได้แล้ว ทางคุณแอ๊นท์ทราบมาว่าคุณพ่อคุณแม่ ญาติๆ และเพื่อนๆของคุณเบอร์นี่จะเดินทางมาร่วมงานแต่งงานที่จัดขึ้นที่เมืองไทยประมาณร้อยกว่าคน และทุกคนมาอยู่กันยาวแบบ long stay เพื่อมาท่องเที่ยวด้วย คุณแอ๊นท์จึงตัดสินใจที่จะจัดพิธีแต่งงานแบบไทยแท้ๆ ที่มีดีเทลวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อจะได้ใช้โอกาสนี้ในการเผยแผ่วัฒนธรรมอันดีงามของไทย

พิธีแต่งงานไทย

และด้วยความที่คุณแอ๊นท์เห็นว่ารายละเอียดในพิธีแต่งงานไทยนั้นมีเยอะและอธิบายด้วยปากเปล่าคงลำบากและสับสน จึงตัดสินใจจัดทำ สูจิบัตรภาษาอังกฤษขนาดพ็อคเกตไซส์ เพื่อสำหรับแจกแขกช่าวต่างชาติโดยเฉพาะ ภายในสูจิบัตรนี้จะรวบรวมเอารายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอน ลำดับพิธี และความหมายของส่วนต่างๆ ในงานแต่งงานไทย ตั้งแต่ ลำดับขบวนขันหมาก ความหมายของพานขันหมากแต่ละพาน ไปจนถึงว่าถ้าหากคุณเป็นแขกฝั่งเจ้าบ่าว ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง หรือถ้าเป็นแขกฝั่งเจ้าสาวละ?ต้องทำอะไรบ้าง บอกเลยว่าเป็นไอเดียการอธิบายขั้นตอนพิธีไทยที่น่ารักสุดๆ เอาใจ แพรว เวดดิ้ง ไปเลย!

พิธีแต่งงานไทย

ที่ต้องยกนิ้วให้ยิ่งกว่านั้นคือ ตัวการ์ตูนที่ปรากฏอยู่ในภาพเป็นฝีมือของเจ้าสาว คุณแอ๊นท์ ทั้งหมด! เพราะว่าคุณแอ๊นท์เองเป็นคนที่ชอบวาดภาพอยู่แล้ว และเธอก็มีผลงานสติกเกอร์ใน LINE ที่เป็นคาแรคเตอร์ของตัวเธอเองนามว่า “น้องเหม่ง” (Nong Meng) ด้วย! (น่ารักแบบนี้ต้องรีบไปโหลดมาใช้แล้วละ) คุณแอ๊นท์แอบกระซิบว่า หากเจ้าสาวรุ่นน้องคนไหนสนใจไอเดียสูติบัตรงานแต่งงานพิธีไทยที่เธอทำอยู่ละก็ Direct Massage ไปหาคุณแอ๊นท์ที่ instagram : @ant.pk ได้นะ คุณแอ๊นท์ยินดีให้คำปรึกษาค่า

ภาพแผนผังอธิบายลำดับขบวนขันหมาก โดยคุณ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ที่ให้เกียรติมาเป็นเถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวในพิธี

พ็อคเก็ตบุ๊คสูจิบัตร แจกพร้อมพัดไม้ไผ่สานสุดน่ารักแถมใช้ได้จริง

ธีมงานแต่งงานที่ผสมผสานไทยพื้นบ้านเข้ากับความโมเดิร์น

และเมื่อพูดถึงธีม รวมถึงการตกแต่งงานแต่งงาน คุณแอ๊นท์เล่าให้ แพรว เวดดิ้ง ฟังว่า เมื่อได้โจทย์ชัดเจนว่าอยากได้งานแต่งงานไทยที่สามารถโชว์ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติเห็นได้ จึงได้ปรึกษากับ Purepada Wedding Planner แพลนเนอร์มืออาชีพที่คุณแอ๊นท์เลือกใช้ และได้ออกมาเป็นการตกแต่งงานจากของพื้นบ้านไทยที่น่ารักอย่าง ปลาตะเพียนสาน ใบจาก ผสมผสานการใช้ดอกไม้ไทยอย่าง ดอกรัก และดอกมะลิ

นอกจากนั้น ของชำร่วย ที่คุณแอ๊นท์และทางเวดดิ้ง แพลนเนอร์ เลือก ยังเก๋ไก๋แถมแฝงด้วยความหมายที่ดี นั่นก็คือขนมไทยมงคล 9 ชนิด ขนาดพอดีคำ บรรจุลงในภาชนะไม้ไผ่สานพร้อมส้อมไม้จิ๋วพร้อมทาน คิ้วท์สุดๆ

พิธีแต่งงานไทย

พิธีแต่งงานไทย

ทิปส์การจัดงานแต่งงานที่มีแขกเป็นชาวต่างชาติจากคุณแอ๊นท์

คุณแอ๊นท์แอบฝากทิปส์ถึงเจ้าสาวรุ่นน้องว่า หากว่าที่เจ้าบ่าวของเราเป็นชาวต่างชาติ อย่าลืมระวังเรื่องการสื่อสารระหว่างเวดดิ้ง แพลนเนอร์ และฝั่งพ่อแม่ ญาติ และเพื่อนๆของเจ้าบ่าว เพราะความแตกต่างระหว่างภาษาอาจจะสามารถทำให้เกิดการตกหล่นหรือเข้าใจผิดระหว่างทางได้ คุณแอ๊นท์แนะนำว่าเจ้าสาวควรเป็นตัวกลางในการช่วยประสานงานระหว่างทุกฝ่าย เหนื่อยหน่อยแต่ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่าจริงๆนะบอกเลย

พิธีแต่งงานไทย

สุดท้ายนี้ แพรว เวดดิ้ง ต้องขอขอบพระคุณข้อมูลจาก คุณแอ๊นท์–กมลชนก พุคยาภรณ์ สำหรับไอเดียดีๆที่ช่วยให้การจัดงานแต่งงานไทยที่มีชาวต่างชาติง่ายและน่ารักขึ้นเยอะเลยละค่ะ ว่าที่เจ้าสาวคนไหนจะเซฟไปทำตาม หรือขอคำปรึกษาแนะนำเพิ่มเติมจากคุณแอ๊นท์ บอกเลยว่าไม่ต้องรอช้าค่ะ 

คลิกดูภาพแต่งงานสวยๆ ของคุณแอ๊นท์ และคุณเบอร์นี่ ในแกลเลอรี่ของเราเลยค่ะ

Credit

สถานที่: ศาลาทิพย์, โรงแรม Shangri-La Hotel Bangkok

ชุดไทยเจ้าบ่าวและเจ้าสาว: Finale Wedding Studio

เครื่องประดับชุดไทยเจ้าสาว: ศรีทวี (IG: sritavie)

แต่งหน้า: คุณหลิน ( IG: lindsay_magic)

ทำผม: คุณโรเบิร์ต (IG: robirt_99)

ภาพ: คุณเคน (IG: ken13o), coffeoto (IG: coffeoto)

เวดดิ้ง แพลนเนอร์: Purepada Wedding Planner ( IG: purepadaweddingplanner)

ดอกไม้: Thinking Bloom (IG: thinkingbloom)

แหวนแต่งงานสวยๆ ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาจะงามเริดแค่ไหนไปดูกัน

account_circle

คงไม่มีเจ้าสาวคนไหนที่ไม่อยากใส่ แหวนแต่งงานสวยๆ จริงไหมคะ…รับรองเลยว่าสิ่งต่อไปนี้จะเป็นแรงบันดาลใจใหกับแหวนแต่งงานของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี

เสื้อผ้าหน้าผมล้วนเปลี่ยนไปตามเทรนด์แฟชั่น เครื่องประดับล้ำค่าอย่างแหวนหมั้นแทนใจเองก็มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยเช่นเดียวกัน เราจึงเอาคลิปจากต่างแดนที่เขาได้รวบรวมแบบ แหวนแต่งงานสวยๆ ตลอด 100 ปีมาให้ชมกันว่ามีพัฒนาการความสวยงามไปมากน้อยแค่ไหนกัน

ก่อนที่จะไปดูคลิป ขอเล่าเทรนด์แหวนให้ฟังเป็นน้ำจิ้มก่อนดีกว่า เริ่มกันที่ช่วงทศวรรษ 1910 แหวนจะเป็นแบบเรียบๆ เหลี่ยมทรงกุหลาบ ซึ่งเป็นเหลี่ยมเพชรแบบโบราณ ตัวเรือนเป็นทองคำเรียบง่าย ถัดมายุคแกสบี้ในทศวรรษที่ 20 แหวนหมั้นก็มีลูกเล่นพริ้งพราวมากขึ้นด้วยศิลปะแบบ อาร์ต เดโค ช่วงปี 50 เหมือนว่าจะเป็นยุคที่ผู้คนมีเงินเหลือกินเหลือใช้ เพชรจึงใหญ่บึ้มเตะตามากจริงๆ แต่10 ปีถัดมาก็เหมือนสูงสุดคืนสู่สามัญ เน้นความเรียบง่ายไม่หวือหวาเม็ดเป้งอีกแล้ว ด้วยเพชรทรง emerald-cut และยังคงเป็นทรงที่นิยมมาถึงทุกวันนี้ ในยุค 80 เพชรกลับมายิ่งใหญ่ที่กลางเรือนอีกครั้ง ส่วนปี 90 นั้นเพชรสี่เหลี่ยมมาแรงแซงทุกเพชร และแหวนยุคมิลเลเนี่ยมที่มีแหวนเม็ดเดี่ยวและใช้ pavé stones ประดับรอบตัวเรือนซึ่งยังคงนิยมมาจนถึงยุคนี้ รวมไปถึงแหวนสไตล์ Staking Ring ที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเช่นกัน 

ตลอด 100 ปี จะเห็นได้ว่าแหวนหมั้นมีการเปลี่ยนเทรนด์ไปต่างๆ นานา แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง คือหน้าที่บ่งบอกถึงรักแท้ของคนสองคน และแน่นอนมูลค่าของเพชรที่ไม่เคยตกต่ำลงเลย อยากดูคลิปจะแย่แล้วใช่ไหมล่ะ งั้นไปดูกันเล้ยย 

หากได้แบบแหวนที่ถูกใจแล้ว ก็อย่าลืมคิดช็อตถ่ายรูปอวดความฟินกันด้วยนะ >>> รวมช็อตเด็ดที่ต้องมีใน ภาพถ่ายงานแต่ง ลิสต์เตรียมไว้กันพลาด

ขอบคุณข้อมูลและคลิปจาก www.brides.com
ขอบคุณภาพ  uniquejewelers.biz

“พลิกไทยขยับ” ดีแทคคัดสุดยอด 5 นักพลิกไทย จิตอาสาสร้างสรรค์สังคม

Alternative Textaccount_circle

พลิกไทยขยับ… คัดสุดยอด 5 นักพลิกไทยจิตอาสาสร้างสรรค์สังคม อีกหนึ่งโครงการของดีแทคที่ใช้เวลาในการคัดสรรร่วมกับคณะกรรมการฝีมือคุณภาพ ผ่านการทำเวิร์คช็อปอย่างเข้มข้น จนคัดเหลือสุดยอด 5 โครงการนักพลิกไทย

 

       พลิก…วอล์คเกอร์ ไปได้ทุกที่ที่มีทาง

‘อาจารย์คะ หนูมีแบบสเก๊ตช์ Able Walker มานำเสนอ’

อาจารย์จีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ อาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สาธิตจุฬาฯ หันมาตามเสียงเรียก พร้อมกับดูภาพสเก๊ตช์วอล์คเกอร์ในมือของ ‘เด็กหญิงสุพิชญาณ์ เหมรัญช์โรจน์’ นักเรียนชั้นป.6 พร้อมเพื่อนร่วมทีม 4 คนที่เล่าอย่างตื่นเต้นว่า สามารถปรับตามระดับขึ้นลงของบันไดได้ โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์หลายตัวค่ะ ขณะที่ตามอง สมองเขาก็คิดว่า จะทำอย่างไรให้ไอเดียนี้เป็นจริง นี่จึงเป็นที่มาของการรวมองค์ความรู้ขั้นเทพ ทั้งอาจารย์ แพทย์ และวิศวะ

”เด็กนักเรียนคนนี้คือลูกสาวของคุณหมอโสฬพัทธ์นี่ละ เริ่มต้นจากน้องได้รับอุบัติเหตุสะโพกหลุดออกจากเบ้า ต้องนั่งวีลแชร์ พร้อมด้วยวอล์คเกอร์อีก 2 ตัว ตัวแรกใช้สำหรับทางเรียบ อีกตัวใช้สำหรับขึ้นบันได โดยขาหน้าจะสั้นกว่าขาหลัง พอถึงบริเวณชานพักก็ต้องเปลี่ยนใช้วอล์คเกอร์สำหรับทางราบ แล้วพอจะขึ้นบันไดต่อก็เปลี่ยนกลับมาใช้วอล์คเกอร์สำหรับขึ้นบันได เพื่อนต้องเดินหิ้ววอล์คเกอร์และวีลแชร์เดินตามเป็นขบวน เขาจึงเกิดความคิดว่า ทำไมจึงไม่มีวอล์คเกอร์ที่สามารถปรับเดินได้ทั้งทางราบและขึ้นบันได รักษาตัว 3 เดือนหาย เขาทิ้งวอล์กเกอร์ แต่ไม่ทิ้งไอเดีย ซึ่งผมอยากให้เขาทำในสิ่งที่นอกเหนือการเรียนหนังสือ ได้ทดลอง ไม่ต้องกลัวผิดถูก ผมจึงคุยกับคุณหมอโสฬพัทธ์ ซึ่งเป็นแพทย์ทางสมองของผู้สูงอายุ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่าน่าจะนำมาพัฒนาต่อ ต่อมาได้รู้จักกับ ผศ.ดร.สัณหพศ จันทรานุวัฒน์ จากภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ครบองค์ความรู้”

พญ.โสฬพัทธ์ เหมรัญช์โรจน์ ผู้เป็นทั้งแม่และแพทย์เล่าว่า “อาจารย์สัณหพศ เป็นพี่ที่น่ารัก ทำงานวิจัยด้วยกันมาหลายชิ้น กว่าจะออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เด็กๆ กับอาจารย์อยู่ในห้องแล๊ปอาจารย์ที่โรงเรียนถึงเที่ยงคืนติดต่อกันสองสามอาทิตย์ จำได้ตอนที่พัฒนาจนเป็นรูปเป็นร่าง เรานำไปประกวดที่เจนีวาโดยวางคอนเซ็ปท์ว่า เป็นวอล์คเกอร์สำหรับผู้พิการ แต่ปราฏว่ากลุ่มที่สนใจคือ กลุ่มผู้สูงอายุชาวสวิสหลายคนที่มาขอลองใช้ เดินขึ้นบันไดจำลองที่เราพกไปด้วย จนกระทั่งขอซื้อ จากที่ดิฉันทำงานในศูนย์ทางสมองผู้สูงอายุรู้เลยว่า เขารับสิ่งใหม่ๆ ยากมาก มีแค่ไม้เท้าหรือวอล์คเกอร์เท่านั้นที่ไม่ยอมให้อยู่ห่างตัว เปรียบเหมือนอวัยวะของเขาเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากเปลี่ยนธงมาที่กลุ่มผู้สูงอายุจะมีประโยชน์กับเขามากๆๆ แต่ก็อีกล่ะ หากเราไม่ได้พบกับโครงการพลิกไทยที่ไม่ได้จบอยู่ที่รางวัล ยังให้เงิน 100,000 บาทมาพัฒนางานต้นแบบเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้งาน ทำให้คอนเซ็ปท์จากหิ้งสู่ห้างของเราเป็นจริง อย่างน้อยได้ช่วยเปลี่ยนสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยขณะนี้ที่มีอัตราเร่งสูงมาก จนคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อชลอความเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้สูงอายุที่ต้องการการพึ่งพิง ให้เป็นผู้สูงอายุที่สามารถกำหนดคุณภาพชีวิตของตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของลูกหลานในการดูแลผู้สูงอายุได้มหาศาล เพราะเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคภัย ช่วยเหลือตัวเองได้ 200 บาทอยู่ได้สบายๆ แต่หากผู้สูงอายุที่อยู่ติดบ้าน ไม่กล้าไปไหน เริ่มต้องมีค่าผู้ดูแลเดือนละหมื่น หากติดเตียง ก็มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงทางการแพทย์อีกต้องเพิ่มจากวันละ 200 บาทเป็น 1,000 บาท ยิ่งเข้าโรงพยาบาลคืนละเป็นหมื่น ดังนั้นวอล์คเกอร์ตัวนี้ จะเป็นสื่อที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมั่นใจกล้าออกจากบ้าน ให้เขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้พบปะเพื่อนฝูง ไม่เหงา ซึ่งเราต้องการที่จะผลักดันให้สังคมไทย เป็นสังคมผู้สูงอายุตัวอย่างในเอเชียเลย

“เวอร์ชั่นที่เรานำเสนอโครงการพลิกไทย สามารถปรับ 2 ขาหน้าสำหรับขึ้นบันไดหรือทางลาดชันได้อัตโนมัติ” ผศ.ดร.สัณหพศ จันทรานุวัฒน์ อธิบายถึงจุดเด่น “วิธีการทำงานง่ายๆ คือเวลาขึ้นบันได ผู้สูงอายุกดปุ่มที่อยู่บนที่จับ แผงวงจรจะทำงานให้มอเตอร์หด 2 ขาหน้าสั้นขึ้นเท่ากับขั้นบันได ผู้สูงอายุสามารถยกวอล์คเกอร์เดินขึ้นบันไดได้ ต่อเมื่อถึงบริเวณชานพักก็กดปุ่มขาก็กลับมาตรงเหมือนเดิม การลงบันไดก็เช่นกัน และสามารถพับได้”

อาจารย์จีระศักดิ์เพิ่มเติมว่า “ตอนที่เราทดลองใช้กับศูนย์ผู้สูงอายุที่แพร่งภูธร ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ภายใต้การดูแลด้านสุขภาพของสภากาชาดไทย 2  โดยดึงผู้สูงอายุที่อยู่ติดบ้านออกมาร่วมทำกิจกรรม เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เด็กๆ ในทีมเป็นหน่วยให้กำลังใจผู้สูงอายุ บางคนยังยอมรับตัวเองไม่ได้จึงไม่ยอมใช้ ก็ต้องใช้ความน่ารักของเด็กไปช่วยจับจึงยอม มีอาม่าอายุ 80 กว่า สอนอยู่แค่ 2-3 นาทีก็ใช้เดินขึ้นบันไดบ้านตัวเองอย่างคล่องแคล่วมาก คือภาพแห่งความสำเร็จของพวกเราเลย ทั้งได้สร้างเยาวชนที่มีจิตสาธารณะ ขณะเดียวกันผู้สูงอายุก็มีคุณภาพ”

“ในอนาคตจะพัฒนาเป็นระดับไฮเอนท์ คือเพิ่มความปลอดภัยและดูแลสุขภาพมากขึ้น” คุณหมอเสริม “เช่น หากขาวอล์คเกอร์เอียงไปด้านหน้าหรือด้านหลังมากไปจะมีเสียงเตือน หรือหากขาไม่แตะพื้นครบทั้ง 4 ข้างก็จะร้องเตือนเช่นกัน เพิ่มล้อ มีระบบเบรคอัตโนมัติ แต่ในเบื้องต้นปรับน้ำหนักให้เบาก่อน ซึ่งตอนนี้เริ่มมีหลายฝ่ายเข้ามาช่วยสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ แล้วดูว่าตอบโจทย์ผู้สูงอายุไหม ด้วยความช่วยเหลือของดีแทคทำให้เราสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุในการใช้งานได้มากขึ้น คือติดตั้ง IOT (Internet of thing) หากผู้สูงอายุเกิดอุบัติเหตุ แค่กดปุ่มระบบโครงข่ายสัญญาณของดีแทคติดต่อถึงหน่วยงานทางการแพทย์ ลูกหลาน ญาติ สามารถมาช่วยเหลือได้ทันเวลา ต่อไปอาจพัฒนาถึงวิเคราะห์ชีพจรผู้สูงอายุหากสูงเกินมาตรฐาน ก็ส่งสัญญาณเตือนไปที่ลูกหลานได้เช่นกัน ภายใน 6 เดือนผู้สูงอายุได้ใช้แน่ๆ เบื้องต้นผลิต 10 ชิ้นไว้ที่ชุมชนแพร่งภูธร ในอนาคตจะมีขายราคาไม่แพง หรือแจกฟรี แต่ก็ต้องนำจำนวนก้าวมาแลก”

‘โครงการพลิกไทย ทำให้เราได้ทำความฝันให้เป็นจริง เสมือนรางวัลที่มีเกียรติและยิ่งใหญ่กว่าเหรียญทองจากเวทีใดๆ’

ชาวคณะนักพลิกไทย

  • นายคณิน เกียรติอร่ามกุล
  • ผศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ
  • รศ.พญ.กฤษณา พิรเวช
  • ดช.กร เหมรัญช์โรจน์
  • ดช.มัฌชิมา สุธีโสภณ
  • ดญ.กุลณัฐโตวกิกยั
  • ดญ.จ้าวไหม ตั้งสิริพัฒน์

 

   พลิก…อักษรเบรลล์ให้เป็นของเล่น

‘ครูครับ ครูครับ จังหวัดตากมีเสียงอยู่จังหวัดเดียว อันอื่นพังหมดแล้วครับ’

ครูเบนซ์ ของเด็กพิการทางสายตาในโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดนครราชสีมา มูลนิธิธรรมมิกชนเพื่อคนตาบอด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กำลังเดินขึ้นบันไดโรงเรียนหันไปตามเสียงเด็กชายกอล์ฟที่พูดรัวเร็ว เธอรู้เลยว่า เด็กชายหมายถึง แผนที่ประเทศไทยที่เธอนำความรู้ด้านอิเล็คโทรนิกส์กับความรู้ทางประวัติศาสตร์มารวมไว้ด้วยกัน เมื่อกดที่จังหวัดไหนจะมีเสียงอธิบายประวัติจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้เด็กพิการทางสายตาได้มีโอกาสรู้จักประเทศไทยได้เท่าเทียมคนตาปกติ คงไม่มีอะไรน่าดีใจเท่ากับงานที่สร้างสรรค์ได้ใช้งานจริง แม้จะพังสักกี่ครั้ง เธอก็ยินดีซ่อม

“จุดเริ่มต้นมาจากวิชาโปรเจ๊คท์ของนักศึกษา ส่วนใหญ่เมื่อเสร็จโครงการแล้วจะนำไปเก็บมากกว่าใช้งานจริง นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะเราอยากผลิตแล้วนำไปใช้งานได้จริง จึงเขียนโครงการบริการทางวิชาการ โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยเหลือชุมชน โรงพยาบาล และโรงเรียน รวมถึงที่นี่ แต่ละที่มีความต้องการจริง แต่เขาไม่ค่อยดีใจหรือภูมิใจกับเครื่องมือที่เรามอบให้เท่ากับโรงเรียนนี้ เพราะแม้เด็กๆ ไม่สามารถมองเห็นว่า ของที่เรามอบให้หน้าตาเป็นอย่างไร แต่เขายิ้ม แค่นี้เราก็มีความสุข ยิ่งเห็นเด็กใช้แล้วชอบ ก็ยิ่งภูมิใจ เพราะให้เงิน ให้สิ่งของยังมีวันหมด แต่หากให้องค์ความรู้จะติดตัวเขาไปจนตาย รู้สึกอยากทำสิ่งของมาให้อีก” ครูเบนซ์ หรือตำแหน่งอย่างเป็นทางการคือ ‘อาจารย์สุภาธิณี กรสิงห์’ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน เริ่มต้นด้วยรอยยิ้มก่อนเล่าต่อว่า

“เราพบว่า โรงเรียนเด็กตาบอดค่อนข้างขาดสื่อการเรียนการสอน ดิฉันกับทีมอาจารย์จึงเริ่มประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้ทางวิชาการให้กับนักเรียน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งเป็นเด็กเล็ก ตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถม 6 ชิ้นแรกคือแผนที่ประเทศไทย ชิ้นที่สองคือรีโมทนำทางคนตาบอด คล้ายๆ กับจีพีเอส แต่ใช้ได้เฉพาะในอาคาร จนกระทั่งคุ้นเคยกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และนักเรียน ก็พบอีกว่าเด็กบางกลุ่มไม่สามารถเรียนอักษรเบรลล์ได้ เพราะยากเกินความสามารถ แล้วเมื่อจบป.6 เด็กๆ ต้องออกไปเรียนร่วมกับเด็กในโรงเรียนปกติ เมื่อเรียนไม่ได้ก็ทำให้ขาดโอกาสทางการศึกษาไปอย่างน่าเสียดาย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำเครื่องมือที่ทำให้เด็กรู้สึกว่า การเรียนอักษรเบรลล์สนุก  เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นของเล่นได้ โดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัวที่เวลาเราอ่านหนังสือ หากโน๊ตไปด้วยจะทำให้จำแม่นขึ้น จึงคิดคอนเซ็ปท์การเรียนรู้อักษรเบรลล์ขั้นพื้นฐาน โดยใช้ทีมเดิม ซึ่งมีทั้งอาจารย์และอดีตนักศึกษาช่วยเขียนโปรแกรม โดยอยู่ภายใต้การช่วยเหลือเรื่องอักษรเบรลล์จากครูอ๋อง เป็นครูพิการทางสายตาที่สอนคอมพิวเตอร์ และมีห้องสมุดเบญญาลัยที่ช่วยตรวจเช็คความถูกต้อง โดยเฉพาะน้องกอล์ฟ เป็นเด็กพิการทางสายตาอย่างสมบูรณ์ ชอบอ่านหนังสือมาก เขานี่ล่ะ เป็นผู้ทดลองเครื่องได้ดีทีเดียว  หากผิดเขาบอกเลยว่า จังหวัดนี้อ่านไม่ถูกต้อง เจอกันวันนี้เขาบอกว่า เหลือจังหวัดตากมีเสียงอยู่จังหวัดเดียว นอกนั้นพังแล้ว (หัวเราะ)

“เครื่องนี้มีไว้เป็นผู้ช่วยครู ในการสอนอักษรเบรลล์ขั้นพื้นฐานให้กับเด็กพิการทางสายตาให้สามารถจดจำอักษรเบรลล์ได้แม่นยำขึ้น เหมาะกับเด็กเล็กและผู้ที่ไม่ได้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้อักษรเบรลล์ โดยถอดแบบมาจากเครื่องพิมพ์อักษรเบรลล์ จะมีหมวดหลักคือ ปุ่มเรียน กับปุ่มฝึก โดยปุ่มจะนูนขึ้นเพื่อให้เด็กได้คลำ ซึ่งผู้พิการทางสายตามีความสามารถพิเศษทางการสัมผัส การรู้จำ และเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนปกติ จึงไม่น่ามีปัญหากับการใช้เครื่อง แล้วเด็กตื่นเต้นกับเสียง เราจึงนำเสียงมาใช้ในการสื่อสาร เมื่อเด็กกดปุ่มเรียน เครื่องจะถามว่า อยากเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือตัวเลข ซึ่งเป็นแบบเรียนของป.1โหมดภาษาไทยจะมีพยัญชนะตั้งแต่ก.ถึง ฮ อย่างอักษรเบรลล์ 1 เซลล์ ประกอบด้วย 6 จุด ตัวอักษร ก.จะเป็นจุดที่ 1- 2-4- 5 เครื่องจะพูดว่าจุดที่ 1-2-4-5 ซึ่งบนเครื่องมีปุ่ม 1-2-3-4-5-6  เด็กก็จะกดที่เครื่อง หรือโหมดภาษาอังกฤษ ตัว G ใช้ 2 เซลล์ ก็จะเป็น 6+1-2-4-5 เด็กจะกดปุ่มหมายเลข 6 ก่อน แล้วกดปุ่มที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งแทนเครื่องหมายบวก แล้วกด 1-2-4-5 ไม่ว่ากดถูกหรือผิดจะมีเสียงบอก ขณะที่หมวดฝึก วิธีการทำงานเหมือนกัน แต่ไม่บอกจุด เด็กต้องจำให้ได้ ทำให้เขาสนุกและจดจำได้แม่นยำขึ้น จะมีหน้าจอขึ้นอักษรเบรลล์กับอักษรปกติ เพื่อให้ครูหรือผู้ปกครองสามารถทบทวนให้เด็กได้ ในอนาคตจะพัฒนาให้มีปุ่มใช้งานได้จริง คือสามารถเซฟไฟล์แล้วปริ้นท์ส่งให้ครูตรวจได้

“ตอนแรกเรานำโครงการนี้ไปประกวดสตาร์ทอัพของมหาวิทยาลัย แต่เราไม่ได้เข้ารอบ เพราะกรรมการบอกว่า สตาร์ทอัพต้องทำเร็วขายเร็ว แต่เครื่องนี้ต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล พร้อมกับแนะนำให้ส่งมาที่โครงการพลิกไทยของดีแทค เขาบอกว่า ดี เป็นแนวเดียวกับที่ดิฉันชอบคืองานบริการวิชาการ เมื่อได้มาเจอเพื่อนๆ ที่เข้าประกวดที่มาจากหลากหลายอาชีพมาก ตั้งแต่ตำรวจ ทันตแพทย์ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ จนกระทั่งชาวบ้านที่อยากช่วยเหลือชุมชน ได้เห็นกลุ่มคนที่มีใจที่อยากจะทำงานเพื่อสังคมจริงๆ จึงเป็นการช่วยเหลือกันมากกว่าแข่งขันกัน ตอนแรกคิดแค่ว่า อยากได้เงินทุนมาสร้างเครื่องให้เด็กได้ใช้ แต่ไม่คิดว่า โครงการพลิกไทยจะสนับสนุนด้วยการให้เงิน 100,000 บาท สร้างเครื่องต้นแบบก่อน พร้อมกับจัดหาอาจารย์มาช่วยวิเคราะห์ความเหมาะสมในการใช้งาน เพื่อออกแบบให้เด็กพิการทางสายตาได้ประโยชน์ที่สุด ดิฉันดีใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป ดิฉันสามารถพัฒนาเครื่องจนมาถึงจุดที่ต้องการได้ ในอนาคตที่ดีแทควางไว้คือ จะมอบให้กับโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศ โรงเรียนละ 10 เครื่อง

“ดิฉันอยากให้เด็กพิการทางสายตาได้ใช้เครื่องนี้แล้ว มีกำลังใจที่อยากจะเรียน  มองอักษรเบรลล์เป็นเรื่องง่าย หากมีผลการเรียนดีและมีความสุข ดิฉันก็มีความสุขด้วย”

ทีมสร้างสรรค์อักษรเบรลล์

  • ผู้ช่วยศาสตราจารยวัชรพล นาคทอง
  • ดร.นุชนาฏ สันทาลุนัย
  • ดร.อภิญญา อินทรนอก
  • นายเอกจิต คุ้มวงศ์
  • นายเฉลิมเกียรติ สุตาชา
  • นายสุทธินันท์ ชั้นกลาง
เตย-ปรีดิ์รติ

เตย-ปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี สาวแกร่งสุดเฮลท์ตี้ ควบตำแหน่งผู้บริหารและเทรนเนอร์

เตย-ปรีดิ์รติ
เตย-ปรีดิ์รติ

เตย-ปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี สาวแกร่งสุดเฮลท์ตี้
ควบตำแหน่งผู้บริหารและเทรนเนอร์

อาจจะไม่ค่อยได้ออกหน้าสื่อมากเท่าพี่ชายทั้งสอง แต่ถ้าอยู่ในวงการออกกำลังกาย คนรักสายเฮลท์ตี้แล้วล่ะก็… เตย-ปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี สาวแกร่งสุดสตรอง น่าจะเป็นที่รู้จักและคุ้นเคย รวมถึงเป็นไอดอลของสาวๆ หลายคนกันไม่น้อย

เตย-ปรีดิ์รติ

เตย-ปรีดิ์รติ

เป็นทายาทคนสุดท้องตระกูลเบียร์สิงห์ของ นายสันติ-นางอรุณี ภิรมย์ภักดี ซึ่งสาวเตย-ปรีดิ์รติ ภิรมย์ภักดี เป็นน้องสาวของ ต๊อด-ปิติ และเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี ซึ่งถ้าหากเทียบข่าวตามหน้าสื่อกับพี่ชายทั้งสองแล้ว สาวเตยอาจจะมีไม่มากนัก แต่ถ้าดูเรื่องกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของผู้หญิงคนนี้แล้ว ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

เตย-ปรีดิ์รติ เตย-ปรีดิ์รติ

ปัจจุบันสาวเตย ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแบรนด์ สิงห์ ไลฟ์ บริษัท สิงห์ เทรนด์ จำกัด ซึ่งมักจะจัดทำแคมเปญพิเศษร่วมกับนักกีฬา เช่น บัวชาว บัญชาเมฆ นำรายได้จากการขายกระเป๋าไปมอบให้แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อนำไปจัดตั้งกองทุนสำหรับนักกีฬาที่บาดเจ็บแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นต้น โดยมองว่าการช่วยเหลือด้านนี้จะช่วยสานต่อความฝันของนักกีฬาไทยที่ได้รับบาดเจ็บให้มีโอกาสได้รับการรักษาร่างกายให้กลับมาแข็งแรง และเติบโตในสายอาชีพ สู่ความสำเร็จได้อย่างกว้างไกล

เตย-ปรีดิ์รติ

และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่ก่อตัวเป็นรูปร่างใหญ่ขึ้น ที่มาจากความชื่นชอบออกกำลังกายของเธอเลยก็คือ การเป็นคุณครูหรือเทรนเนอร์สอนการออกกำลังกายให้แก่เด็กและผู้ใหญ่ โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากความรักและชื่นชอบของเธอจริงๆ ซึ่งถ้าหากใครติดตามไลฟ์สไตล์ของสาวเตยแล้ว ก็จะพบว่าสาวเตยออกกำลังกายบ่อยมากๆ โดยเฉพาะการเล่นฮูป เธอเคยให้สัมภาษณ์กับแพรวถึงความชอบนี้ไว้ว่า เธอชอบเล่น Aerial Hoop มาก และส่วนตัวตั้งแต่เด็กๆ ก็ชอบเล่นกีฬาและทำกิจกรรม ซึ่งเสน่ห์ของฮูปหลังจากเล่นไปแล้ว ไม่ใช่การจับห่วง แล้วโพสต์ท่าถ่ายรูปสวยๆ แต่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายทุกส่วน ซึ่งได้ฝึกความแข็งแรงทั้งทางกายและจิตใจเลย

แน่นอนว่า ออกกำลังกายบ่อยเป็นประจำแบบนี้ เรื่องรูปร่างต้องฟิตแอนด์เฟิร์มกันแน่นอน แพรวดอทคอม ก็ไม่ขอพลาดนำภาพการออกกำลังกายของสาวเตยมาให้ได้ชมกัน ซึ่งก็มีสาวๆ หลายคนไม่น้อยที่มองสาวเตยเป็นไอดอลที่อยากจะออกกำลังกายตาม เพื่อให้หุ่นเฟิร์ม ที่สำคัญยังได้สุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย

เตย-ปรีดิ์รติ เตย-ปรีดิ์รติ เตย-ปรีดิ์รติ เตย-ปรีดิ์รติ

เตย-ปรีดิ์รติ เตย-ปรีดิ์รติ

 

 


ภาพ: IG @preerati

อายแชโดว์พาเล็ตต์

ไอเท็มที่ต้องมี! รวม 8 อายแชโดว์พาเล็ตต์ โทนร้อนและโทนเย็น แต่งได้ทุกโอกาส

Alternative Textaccount_circle
อายแชโดว์พาเล็ตต์
อายแชโดว์พาเล็ตต์

เป็นบิวตี้ไอเท็มอีกหนึ่งลิสต์บนโต๊ะและกระเป๋าเครื่องสำอางของสาวๆ ที่ต้องมี! สำหรับ อายแชโดว์พาเล็ตต์ ตลับเดียวเปรี้ยวหวานได้หลากลุค เพราะมีหลายเฉดหลายโทนให้เลือกแต่งเปลือกตาได้ไม่ซ้ำ ไม่จำเจ รับรองว่าถูกใจทั้งสายออฟฟิศ สายเกา และสาย ฝ. อย่างแน่นอน และวันนี้ แพรวดอทคอม มี 3 วิธี ทาเปลือกตาให้สวยเนี้ยบ ไม่มีพลาดมาฝากด้วยค่ะ

  1. แหงนหน้าขึ้น ตอนทาอายแชโดว์ให้มองกระจกโดยแหงนหน้า แล้วใช้สายตามองลงล่างเพื่อให้เห็นเปลือกตาเต็มๆ อย่างชัดเจน
  2. มองตรง หลังเสร็จแต่ละขั้นตอนในการทาเปลือกตา ควรมองตรงไปที่กระจก เพื่อดูว่าอายแชโดว์อยู่ในมุมที่เราต้องการหรือไม่
  3. อายไลเนอร์ช่วยเสริมอายแชโดว์ได้ ใช้อายไลเนอร์สีครีมหรือสีขาวเขียนขอบตา ก่อนทาอายแชโดว์สีสดเพื่อให้สีอายแชโดว์ดูโดดเด่นขึ้น หรือใช้อายไลเนอร์สีเข้มอย่างดำหรือน้ำตาลในการทาบล็อกตา ก่อนปัดอายแชโดว์ทับเพื่อเพิ่มความคมเข้มและกลมโตให้ดวงตา

เป็นไงคะ 3 สเต็ปง่ายๆ ก็ได้ดวงตาที่สวยคมน่าค้นหาแล้ว พร้อมกันนี้ แพรวดอทคอม ยังคัดอายแชโดว์พาเล็ตต์ จาก 8 แบรนด์ดังมาแนะนำด้วยค่ะ เริ่มจาก…

ไอเท็มที่ต้องมี! รวม 8 อายแชโดว์พาเล็ตต์ โทนร้อนและโทนเย็น แต่งได้ทุกโอกาส

4U2 THE SHADOW No.04 THURSDAY
(299 บาท)

เปรี้ยวซ่าด้วยโทนส้มและน้ำตาลทองในเนื้อชิมเมอร์ งานนี้สาวผิวสองสีและผิวคล้ำจะดูโดดเด่นกว่าใคร เพราะอันเดอร์โทนผิวของคุณเข้ากับสีส้มได้ดีสุดๆ


 

SUQQU Designing Color Eyes (เฉดสี 08 Hikarikogare)
(3,100 บาท)

อายแชโดว์พาเล็ตต์เนื้อชิมเมอร์เพิ่มความเปล่งประกาย สีสันหรูหราด้วยส่วนผสมจากสีเงินและสีทอง ช่วยให้ดวงตาสวยโดดเด่นและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ฉูดฉาด ไม่จัดจ้าน แต่ให้ความงดงามน่ามอง


KATE Dimensional Palette
(850 บาท)

พาเล็ตต์รุ่นลิมิเต็ดที่พร้อมแต่งแต้มสีสันให้ทั้งคิ้ว ดวงตา และพวงแก้มในตลับเดียว ใช้ง่าย พกพาสะดวก ใช้แต่งตา และคอนทัวร์ในการสร้างมิติที่สวยงามให้กับใบหน้า มาพร้อมแปรงหัวเล็ก ที่ปัดแก้ม และกระจกขนาดใหญ่ในตลับ


ETUDE HOUSE Colorful Drawing Fantastic Color Eyes
(Vermilion Drawing #12 โทนสีแดง) 
(620 บาท)

อายแชโดว์พาเล็ตต์ 6 สีที่ช่วยให้ดวงตาดูสดใสได้หลายลุค ด้วยการใช้หลากหลายสีในตลับ ที่มีทั้งสีแมตต์และสีประกายมุก พร้อมแปรงและกระจกในตัว


BRONX COLORS Eyeshadow Palettes Fidji Palette

พาเล็ตต์เซ็ตนี้มีสีด้านและสีชิมเมอร์แบบโกลว์ให้เลือกถึง 12 เฉดสีธรรมชาติสุดสวย ที่มาพร้อมแปรง แต่งตา การันตีได้เลยว่าจะช่วยให้สาวๆ ครีเอทลุคหวานละมุนได้ดี ไม่ว่าจะใช้เพียงสีเดียว, ผสมสี หรือจะใช้เป็นสีพื้นก่อนลงสีที่เข้มกว่า


DIOR  5 Couleurs Cool Wave Eyeshadow Palette (Limited Edition)
(2,800 บาท)

อายแชโดว์ 5 เฉด สร้างลุคแต่งตาที่ดูลึกลับ กลุ่มสีน้ำเงินอย่าง สีฟ้าเทอร์คอยซ์, สีน้ำเงินเข้มมิดไนท์บลู, สีฟ้าพาสเทล และโทนสีผ้าเดนิม หรือสียีนส์ สาวๆ สามารถแต่งเติมผสมผสานกันอย่างง่ายดายด้วยเนื้อสัมผัสแบบครีมทำให้เกลี่ยไล้ง่ายแต่ละสีสามารถกลมกลืนเข้าด้วยกัน


YVES SAINT LAURENT Couture Palette Collector
(2,900 บาท)

อายแชโดว์โทนเย็น สีเทาอมฟ้าเข้ม ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ค้นพบความกลมกลืนในความย้อนแย้งไปกับสีเงินที่วาบวับสะท้อนให้ดวงตาดูน่าดึงดูดกว่าเดิม ถ้าไม่เคยแต่งสีอะไรแปลกๆ จากสีน้ำตาลทองก็ลองแต่งดู เพิ่มสีสันให้ชีวิต


URBAN DECAY Backtalk Palette
(1,950 บาท)

รวมอายแชโดว์ สีปัดแก้ม สีไฮไลท์ และกระจกถอดได้ไว้ครบในพาเล็ตต์เดียว จัดเต็มไม่มียั้งรวม 12 เฉดสีหรูหราไว้ในตลับสวยทันสมัยตลับเดียว กระจกเงาสองหน้าซึ่งถอดออกได้ทำหน้าที่เป็นเหมือนบานกั้นระหว่างอายแชโดว์กับสีปัดแก้มและสีไฮไลท์ อายแชโดว์เนื้อสัมผัสนุ่มดุจกำมะหยี่ สีสดอิ่ม และเกลี่ยให้กลมกลืนกันได้ง่าย ทุกเฉดยึดจับเม็ดสีไว้อย่างแน่นหนาและไม่เลื่อนหลุด

 


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม

ดัชเชสเมแกน

แบรนด์สุดเลิฟ! ดัชเชสเมแกน เลือกใช้ไอเท็ม Givenchy เกือบทั้งลุค ร่วมงานกีฬาฯ

ดัชเชสเมแกน
ดัชเชสเมแกน

ดัชเชสเมแกน ปรากฏตัวอีกครั้งในงานมหกรรมกีฬาแข่งม้าหลวง รอยัล แอสคอต ซึ่งลุคที่ออกมาเป็นเดรสเชิ้ตสีขาวสุดสง่าจากแบรนด์โปรด Givenchy ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกับชุดแต่งงานของดัชเชสนั่นเอง

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นในสหราชอาณาจักร เจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสแห่งซัสเซกส์เสด็จฯ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อเข้าร่วมงานมหกรรมกีฬาแข่งม้าหลวง รอยัล แอสคอต ประจำปี 2018 วันที่ 1 ณ สนามกีฬาแข่งม้า เมืองแอสคอต มณฑลเบิร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร

ดัชเชสเมแกน

ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์

โดยการแต่งกายของดัชเชสแห่งซัสเซกส์ก็ได้กลายเป็นกระแสทุกครั้งที่ออกงาน ดังนั้นงานนี้จึงไม่แปลกใจที่ไอเท็มต่างๆ ของดัชเชสจะเป็นที่น่าสนใจของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งหลายอีกเช่นเคย ซึ่งเดรสเชิ้ตสีขาวที่ดัชเชสเลือกมาใส่ในงานนี้เป็นผลงานของ Clare Waight Keller ดีไซเนอร์จากแบรนด์ดัง Givenchy ผู้ออกแบบชุดแต่งงานให้กับดัชเชสเมแกน ซึ่งก่อนหน้านี้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงโปรดให้เมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ตามเสด็จฯ ไปยังเมืองเชสเตอร์ เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกัน ดัชเชสก็ได้เลือกเดรสสีขาวสไตล์เรียบหรูจาก Givenchy มาครีเอทลุคเช่นกัน เรียกได้ว่าหลังจากพิธีเสกสมรส แบรนด์ดังนี้จะกลายเป็นแบรนด์โปรดของดัชเชสไปซะแล้ว ไม่ว่าจะออกงานไหนๆ ก็มักจะเลือกชุดจากแบรนด์นี้อยู่เสมอ

ในงานมหกรรมกีฬาฯ นี้ นอกจากเดรสที่เป็นตัวหลักของลุคแล้ว ไอเท็มอื่นๆ อย่างกระเป๋าคลัทช์ เข็มขัด และรองเท้า ดัชเชสเมแกนก็ยังไว้ใจแบรนด์ Givenchy โดยการเลือกมาเสริมเติมแต่งลุคให้คอมพลีทยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละไอเท็มราคาก็เป็นไปตามความเหมาะสม อย่างรองเท้าจาก Givenchy มาในราคา 493 ปอนด์ หรือประมาณ 21,244 บาท ส่วนข้าวของชิ้นอื่นๆ อย่างหมวกมาจากแบรนด์ Philip Treacy และเครื่องประดับก็เป็นแบรนด์โปรดอีกเช่นกันจาก Maison Birks ราคา 1,135 ปอนด์ หรือประมาณ 48,910 บาท

 

ดัชเชสเมแกน เลือกไอเท็ม Givenchy เกือบทั้งลุค ร่วมงานมหกรรมกีฬาแข่งม้าหลวง

 

ดัชเชสเมแกน

ดัชเชสเมแกนโบกมือทักทายประชาชน

 

เจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชส เสด็จฯ ออกงานด้วยกัน

 

เดรสเชิ้ตของดัชเชส ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งงามสง่าจริงๆ

 

สไตล์การแต่งกายของดัชเชสดูดีและเหมาะสมเสมอ

 

สายตาของดัชเชสที่มองเจ้าชายแฮร์รี่ ช่างอบอุ่นจริงๆ

 


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@harry_meghan_updates  ,  royaladdicted2

ร้ายได้ใจ

ร้ายได้ใจ “ซาร่า เล็กจ์” ตีบทแตกน้ำตาท่วมจอ แฟนละครชมยกใหญ่

Alternative Textaccount_circle
ร้ายได้ใจ
ร้ายได้ใจ

ชื่นชม “ซาร่า เล็กจ์” ร้ายได้ใจ ตีบทบาทแตกกระจุยจนคนดูน้ำตาท่วมจอในละครเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess” 

ร้ายได้ใจ
“ซาร่า เล็กจ์” รับบท “เจ้าหญิงเคธลีน วิลเลี่ยม แอน ฟิลลิปเป้”

เมื่อคืนที่ผ่านมา ใครที่ได้ชมละครเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess” คงเสียน้ำตาให้กับการตายของ นางร้าย เจ้าหญิงเคธลีนอย่างแน่นอน เพราะเป็นฉากที่รู้สึกบีบหัวใจเหลือเกิน เมื่อได้รู้ว่าเจ้าหญิงที่แสนร้ายกาจมีเบื้องหลังชีวิตที่น่าหดหู่เพราะถูกครอบครัวทำร้ายจิตใจ ดูไปแล้วก็รู้สึกสงสารจนเกลียดเธอไม่ลงจริงๆ

ไม่ใช่แค่บทที่มีมิติเท่านั้น แต่การแสดงของนักแสดงสาวหน้าหวาน “ซาร่า เล็กจ์” คนนี้ก็ยังมีมิติมากๆ ไม่ว่าจะเป็น สายตาที่ถ่ายทอดความอ้างว้าง, น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด  ถ่ายทอดได้ตรงบท เจ้าหญิงที่ถูกลืม ทำให้รู้สึกเลยว่าเธอถูกทำร้ายจิตใจมามากมายขนาดไหน ซึ่งต้องขอปรบมือให้กับการแสดงของ “ซาร่า เล็กจ์” อีกครั้ง

ร้ายได้ใจ
ฉากสำคัญในละครเรื่อง “ลิขิตรัก The Crown Princess”
ร้ายได้ใจ
เจ้าหญิงที่น่าสงสาร

ทั้งนี้ “ซาร่า เล็กจ์” เข้าวงการบันเทิงมาทั้งสิ้น 14 ปีแล้ว เริ่มต้นผลงานชิ้นแรกกับช่องไอทีวีเรื่อง “รักฝันวันฤดูหนาว” จากนั้นก็มีผลงานอีกหลายๆ เรื่องอาทิ นายกระจอก, มหัศจรรย์วันเกิด หลังจากนั้นได้ย้ายมาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 และมีผลงานร่วมกับนางเอกแถวหน้าหลายคนไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “หยกลายเมฆ”, “สวย เริ่ด เชิด โสด”, “กลรักลวงใจ” กับ “เจนี่-เทียนโพธิ์สุวรรณ” ในเรื่อง “รหัสทรชน” กับ “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต”

หลังจากที่รับบทรองมาหลายเรื่อง สาวซาร่า เล็กจ์ ก็ขึ้นแท่นนางเอกช่อง 3 โดยผลงานที่เป็นนางเอกเต็มตัวก็คือ “มณีแดนสรวง”, “กุหลาบไฟ”, “รักจัดเต็ม”, “เสือ สิงห์ กระทิง บ๊อง” และ “กระตุกหนวดเสือ”

จากผลงานที่กล่าวมาข้างต้นส่งให้ “ซาร่า เล็กจ์” มีชื่อเสียง ทว่าบทบาทที่ได้กระแสตอบรับอย่างท้วมท้นเห็นทีจะเป็นเพราะบท นางร้าย นั่นเอง เพราะไม่ว่าจะในซีรี่ส์ “กามเทพปราบมาร” ที่เธอรับบทเป็น “เหมือนดาว”, “บ่วงบรรจถรณ์” รับบท “เจ้านางเรืองระยับ” ทำให้ภาพของนักแสดงมืออาชีพชัดเจนขึ้น จนกระทั่งละครเรื่องล่าสุด “ลิขิตรัก The Crown Princess” ซึ่งรับบทเป็น “เจ้าหญิงเคธลีน วิลเลี่ยม แอน ฟิลลิปเป้” จากเรื่องนี้เองทำให้เธอกลายเป็นที่ชื่นชมและที่จดจำของแฟนๆ ว่ามีฝีไม้ลายมือที่ดี จนเรียกได้ว่าเธอคนนี้เป็นนางร้ายแห่งปีจริงๆ

ร้ายได้ใจ
ในซีรี่ส์ “กามเทพปราบมาร” ที่เธอรับบทเป็น “เหมือนดาว”
ร้ายได้ใจ
ในละครเรื่อง “บ่วงบรรจถรณ์” รับบท “เจ้านางเรืองระยับ”

 


เรื่อง : snowblack_แพรวดอทคอม

ภาพ : ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด

ใหม่-เต๋อ

ใหม่-เต๋อ โคจรมาเจอกันอีกครั้ง ลงล็อคละครรีเมค “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล”

ใหม่-เต๋อ
ใหม่-เต๋อ

ใหม่-เต๋อ โคจรลงละครคู่กันอีกครั้งใน “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล”

ปิ๊งรักกันกลางกองถ่ายละคร ชายไม่จริง หญิงแท้ จนทำเอาบรรดาแฟนคลับกรี๊ดกร๊าด แสดงความยินดีกันถ้วนหน้ากับ ใหม่-เต๋อ คู่รักคู่ใหม่ของวงการบันเทิง ซึ่งหลังจากแสดงละครด้วยกันครั้งแรกไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดทั้งคู่ได้กลับมาลงละครคู่กันอีกครั้งกับทางช่อง ONE31 ในเรื่อง นางสาวไม่จำกัดนามสกุล งานนี้พูดได้เลยว่า เหล่าสาวๆ ที่ชอบเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามแบบที่ผู้ชายชอบ พลาดเรื่องนี้ไม่ได้เลยนะ เพราะคาดว่ามีเรื่องราวสอนผู้หญิงที่ได้ทั้งความสนุกเพียบ

ใหม่-เต๋อ

ใหม่-เต๋อ

ความรักปะทุขึ้นหลังจากร่วมงานละครคู่กันครั้งแรกในเรื่อง ชายไม่จริง หญิงแท้ มาคราวนี้ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และเต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ก็ขอกลับมาเจอกันอีกครั้งกับละครเรื่องใหม่อย่างเรื่อง นางสาวไม่จำกัดนามสกุล ทางช่อง ONE31 ซึ่งเป็นการรีเมคละครเรื่องนี้ครั้งแรกเลยหลังจากเรื่องนี้ได้ออนแอร์ไปเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยมีคู่พระนางคือ มาช่า วัฒนพานิช แสดงคู่กับ โจ-จิรายุส วรรธนะสิน

ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ

สำหรับละครชื่อสุดแปลกอย่าง นางสาวไม่จำกัดนามสกุล นี้เป็นละครแนวโรแมนติก-ดราม่า ที่นำเสนอเรื่องราว เรียม (ใหม่-ดาวิกา) สาวสุดเฉิ่มที่อายุใกล้ 24 ปี แต่ยังไม่มีแฟนเสียที และอยู่ในช่วงที่พยายามค้นหาตัวเองว่าต้องการอะไร ซึ่งสิ่งที่ทำลำดับถัดมานั่นก็คือ การเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงหลายบุคลิก เพียงเพื่อที่จะตามผู้ชายสักคนมาเป็นคู่ชีวิต โดยงานนี้จะได้เห็นสาวใหม่เปลี่ยนแปลงตัวเองหลายแบบเลยเวลาที่เธอไปชอบผู้ชายสักคน เช่น ไปชอบเจ้านายก็ปรับลุคตัวเองให้ดูเป็นคุณหนู ไปชอบคนเจ้าชู้ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นสาวเปรี้ยว ไปชอบหนุ่มติสท์ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นสาวโบฮีเมียน ซึ่งสุดท้ายแล้วเนื้อคู่ก็คือคนใกล้ตัวที่อยู่ข้างบ้านเป็น ผู้ชายเท่ๆ แต่ปากจัดนั่นเอง

ใหม่-เต๋อ

เรื่องนี้ถือว่าเป็นละครมาสเตอร์พีชเรื่องหนึ่งของ มาช่า วัฒนพานิช เมื่อ 21 ปีก่อน เมื่อมีกระแสข่าวว่าทางช่อง ONE31 นำมาปัดฝุ่นโดยได้ ใหม่-ดาวิกา มาสวมบทเป็น เรียม ก็เรียกความตื่นเต้น ดีใจของแฟนละครเรื่องนี้กันได้ไม่น้อย ยิ่งผสมกับบทพระเอกปากจัดที่ได้ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ตรงตามคาแร็คเตอร์ตัวละคร องศา มาเล่น จึงยิ่งน่าจับตามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นละครในดวงใจใครหลายคน ฐานแฟนคลับใหม่-เต๋อ แฟนละครคู่นี้ที่ชื่นชอบมาจาก ชายไม่จริง หญิงแท้ และตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้ฟิตติ้งถ่ายภาพละครกันไปแล้วเรียบร้อย

ก่อนจะได้เห็นเริ่มเห็นภาพการถ่ายทำ และตัวละครจริงๆ แพรวดอทคอม จึงขอนำภาพฟิตติ้งของใหม่-เต๋อ รวมถึงภาพละครเวอร์ชั่นแรก มาช่า-โจ มาให้ได้ชมกัน ส่วนละครจะสนุกสนานแค่ไหน หรือพระนางเวอร์ชั่นรีเมคนี้จะมีการร้องเพลงประกอบหลายเพลงเหมือนเวอร์ชั่นแรกหรือเปล่านั้น ก็ต้องตามลุ้นกันเนอะ..

นางสาวไม่จำกัดนามสกุล เวอร์ชั่นรีเมค ใหม่-ดาวิกา & เต๋อ-ฉันทวิชช์

ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ

ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ

นางสาวไม่จำกัดนามสกุล เวอร์ชั่นแรก มาช่า วัฒนพานิช & โจ-จิรายุส

ใหม่-เต๋อ

ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ ใหม่-เต๋อ

 

 

 


เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: IG #นางสาวไม่จำกัดนามสกุล @nampraw @davikah @terchantavit,
https://pantip.com/topic/37788368https://www.pictasite.com/

10 นักบอลหล่อ เรามาบอกต่อให้ พร้อมสลัดลุคชุดฟุตบอลมาสวมสูทสุดเท่

account_circle

มามโนกันเถอะว่าถ้า นักบอลหล่อ ที่เราเห็นวิ่งเหงื่อโทรมกายในสนาม เมื่อสลัดภาพมาสวมชุดสูทนั้นจะฟินขนาดไหน

วินาทีนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นักบอลหล่อ ของฟุตบอลโลกปี 2018 นั้นกำลังครองสถิติในอินสตาแกรมและติดเทรนด์ทวิตเตอร์กันให้พรึ่บ เรียกได้ว่าสาวๆ ที่ไม่เคยจะสนใจเรื่องฟุตบอลบางคน ถึงขั้นอดตาหลับขับตานอนเพื่อที่จะได้ดูนักฟุตบอลสุดหล่อในเกมกีฬา (ถึงแม้ว่าจะเห็นวิ่งแว้บไปแว้บมาก็สุขใจแล้ว ^^) แพรว wedding เลยไม่รอช้ารีบคัดนักบอลสุดหล่อมาให้สาวๆ ได้ฟินกันถ้วนหน้า แถมงานนี้ไม่ได้พามาแบบธรรมดานะ แต่จะพามาในลุคใส่สูทผูกไทประหนึ่งว่าจะเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวเลยทีเดียว เอาล่ะ รักใครชอบใครก็ตามไปส่อง แล้วมโนว่าเป็นเจ้าบ่าวในฝันกันได้ตามสะดวกเลยค่า ^^

เควิน แทร็ปป์

นักบอลหล่อ

ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู / ทีมชาติเยอรมัน  / อายุ 28 ปี / ส่วนสูง 189 ซม.

หนุ่มเครางามนัยน์ตาหวานเยิ้มที่ทำเอาสาวๆ หัวใจละลายกันทั่วบ้านทั่วเมือง บางคนถึงขั้นมโนหนักว่าอยากเป็นลูกฟุตบอล เขาจะได้คอยรับทุกครั้งเมื่อเข้าหาตัว ฮิ้วววว… และขนาดว่าอยู่ในชุดนักบอลนั้นว่าเท่แล้ว แต่เมื่อสลัดคราบโกลด์มือกาว มาสวมสูทสุดเท่ก็เล่นเอาสาวๆ ถึงขั้นตาค้างในความหล่อ กับสูทแบบสามชิ้นสีดำพร้อมเนคไทสไตล์เป็นทางการ เท่านี้ก็ทำเอาสาวๆ มโนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่ความมโนนี้ก็ออกจะเป๋ๆ นิดหน่อยเพราะเขามีสาวเจ้าดูแลหัวใจแล้วแถมดีกรีแฟนสาวก็ไม่ธรรมดาเพราะเธอคือ อิซาเบล โกลาร์ต นางแบบวิกตอเรียซีเคร็ตส์ไปอีกกกกก

โรมัน เบอร์กี้

ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู / ทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ / อายุ  28 ปี / ส่วนสูง 187 ซม.

ผู้รักษาประตูหน้าหวานที่เมื่อยิ้มทีไรหัวใจสาวเจ้าก็ละลายเป็นไอติมโดนแดด แถมยังพกรอยสักมากระชากใจสาวๆ ไปอีก แต่ถึงแม้รอยสักจะเต็มท่อนแขนขนาดไหนก็ไม่อาจหักล้างความยิ้มละมุนละไมพร้อมฟันกระต่ายคู่นั้นได้หรอกหนา ยิ่งพอมาเปลี่ยนลุคจากชุดกีฬาเป็นชุดสูทด้วยแล้ว บอกเลยว่าความหล่อเข้าขั้นไม่ธรรมดาจริงๆ หนาคะคุณพี่ นี่ขนาดว่าสวมสูทผูกไทธรรมดายังทำเอาหัวใจสาวๆ เคลิบเคลิ้มไปถึงไหนต่อไป แถมเรายังแอบรู้มาว่ากิจกรรมยามว่างของพี่แกคือ การไปจิบเบียร์ชิลๆ กับแก๊งเพื่อน แต่ถ้าวันไหนเพื่อนไม่ว่างแอดมินพร้อมสแตนด์บายไปนั่งข้างๆ นะคะ อิอิ

ฌาราร์ ปิเก

ตำแหน่ง กองหลัง / ทีมชาติสเปน / อายุ  31 ปี / ส่วนสูง 193 ซม.

หล่อยวนใจนัยน์ตาสีฟ้า กับผู้เล่นกองหลังทีมชาติสเปน ที่เรียกได้ว่าทุกครั้งที่มีการจัดอันดับนักบอลหล่อ เขาคนนี้ไม่พลาดที่จะติดหนึ่งในลิสต์ทุกครั้ง ก็แหมหน้าคมตาสวยขนาดนี้ถ้าหลุดโผเห็นทีจะไม่ได้ ยิ่งพอได้อยู่ในชุดธรรมดาสบายๆ กึ่งทางการก็ยิ่งได้ภาพชวนฝันไปกันใหญ่ อย่างเช่น การแมตช์แจ็คเก็ตสูทผ้ายีนส์สีฟ้าเข้ากับเสื้อเชิ้ตและเนคไทในเฉดสีเดียวกันแบบไล่โทนสี แถมยังเข้ากับตาสีฟ้าสวยๆ คู่นั้นอีก แต่งานนี้สาวๆ อาจจะมโนได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นะจ๊ะ เพราะปิเก เขาเป็นคุณพ่อลูก 2 แล้วนะ ส่วนภรรยาหรือแม่ของลูกก็ไม่ใช่ใครอื่นคนไกลเป็นนักร้องสาวเสียงดีสายดีว่า “ชากีร่า” คนนี้นี่เอง

ซน ฮึง มิน

ตำแหน่ง กองหน้า / ทีมชาติเกาหลีใต้ / อายุ  26 ปี / ส่วนสูง 183 ซม.

บอกเลยว่าสาวๆ ที่คลั่งไคล้ชายหนุ่มสไตล์โอปป้าต้องกรีดร้อง กับนักบอลหน้าตี๋ ซนฮึงมิน แถมงานนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะจ๊ะ เพราะดีกรีทางด้านกีฬาของเขานั้นไม่ธรรมดานะจะบอกให้ พิสูจน์ได้จากเมื่อปี 2015 ที่เขาได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมกับทีมทอตนัมฮอตสเปอร์ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ จึงทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักเตะเอเชียที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมความสามารถก็หลากหลายเพราะเล่นได้หลายตำแหน่ง และล่าสุดเขายังติดอันดับที่ 13 ของคนดังผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีประจำปี 2018 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Forbes Korea อีกด้วย ส่วนสาวในสเปกจะประมาณไหน เราคิดว่าน่าจะประมาณสาวมินอา แห่งวง Girl’s Day อดีตแฟนสาวของเขามั้ง!!

ตอร์การ อาซาร์

ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก, ปีก / ทีมชาติเบลเยี่ยม / อายุ 25 ปี / ส่วนสูง 174 ซม.

บอกเลยว่าเบลเยี่ยมไม่ได้มีดีแค่ช็อคโกแลตที่เลื่องชื่อแสนอร่อยนะจ๊ะ เพราะนักบอลของประเทศนี้ก็แซ่บไม่แพ้กัน พิสูจน์ได้จาก ตอร์การ อาซาร์ ผู้เล่นทีมชาติเบลเยี่ยมกับหน้าตาอันตะมุตะมิที่มีโครงหน้าอันชัดเจน และจมูกที่เป็นสันซึ่งเป็นอาวุธพิชิตใจสาว ส่วนเรื่องรูปร่างนั้นไม่ต้องพูดถึงลองพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเองจากแผงอกที่เด้งกระแทกตาออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ติดกระดุมถึงคอตัวนั้นดูสิ!!

keyboard_arrow_up