เบลล่า-ราณี

สุดเลอค่า! เบลล่า-ราณี เฉิดฉายบนพรมม่วงด้วยเดรสงานปักจาก SIRIVANNAVARI

เบลล่า-ราณี
เบลล่า-ราณี

แม่นายการะเกด เบลล่า-ราณี  คว้ารางวัลขวัญใจมหาชนคนล่าสุดไปครอง พร้อมสง่าบนเวทีด้วยเดรสจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

เป็นกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างปฏิเสธไม่ได้สำหรับละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่ได้นางเอกสาว เบลล่า ราณี มารับบทนำและเป็นตัวดำเนินเรื่อง จนในที่สุดผู้ชมก็ต่างตกหลุมรักแม่นายเข้าอย่างจังด้วยเสน่ห์สุดน่ารักและความสามารถล้นมือ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีเสียงต้อนรับจากแฟนๆ มากมาย และแฟนๆ ต่างก็ตามไปให้กำลังใจกันทุกที่ เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีของเธอจริงๆ

ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เสียงปรบมือดังลั่นสนั่นฮอลล์หลังจากรายชื่อของผู้คว้ารางวัลขวัญใจมหาชนจากเวทีไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2018  เป็นแม่นายการะเกดที่รักของใครหลายคนเดินขึ้นมารับรางวัลพร้อมกับลุคสุดสง่าในเดรสสีขาวงานปักมือทั้งชุดจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI โดยช่างฝีมือคนไทย เครื่องประดับเสริมลุคให้ยิ่งโดดเด่นไม่ว่าจะต่างหู สร้อยข้อมือ หรือแหวน รวมมูลค่าหลักล้านจากแบรนด์ DER MOND ส่วนรองเท้ามาจากแบรนด์ GIUSEPPE ZANOTTI

ทั้งนี้สาวเบลล่าเผยความรู้สึกหลังจากได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนด้วยอารมณ์ดีว่า “จริงเหรอเนี่ย ประกาศชื่อผิดหรือเปล่าคะเนี่ย (ยิ้ม) จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะมาอยู่ตรงนี้ ได้เป็นขวัญใจมหาชน ต้องขอบคุณแฟนๆ มากเลยนะคะ” ทั้งนี้สาวเบลล่ายังขอบคุณผู้ใหญ่ที่ทำให้เธอมีโอกาสมอบความสุขให้กับแฟนๆ ทุกๆ คน และย้ำว่าตัวเองไม่ได้ born to be แต่จะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ ขอบคุณละคร บุพเพสันนิวาส ที่ทำให้คนรักเบลขนาดนี้ และได้ทิ้งท้ายพูดกับคุณพ่อของเธอบนสวรรค์ว่า “Daddy! Can you hear me?  I did it!”

 

เบลล่า-ราณี เฉิดฉายคว้ารางวัลด้วยเดรสจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI

 

ยินดีกับสาวเบลล่าด้วยนะจ๊ะ แม่นายคนเก่งของแฟนๆ

 

ยิ้มหวานรับรางวัล และชุดเดรสดีไซน์เลอค่าตัวนี้ก็ส่งให้สาวเบลสง่ามากจริงๆ

 

ซูมใกล้ๆ ยิ่งสวยทั้งคนทั้งชุด

คุณพ่อ วันนี้เบลทำสำเร็จแล้วนะคะ ซึ้งมาก

 

เรื่องรูปร่างไม่มีอะไรต้องห่วง เพราะเฟิร์มทุกสัดส่วน ยิ่งสวมเดรสตัวนี้ก็ยิ่งทำให้สาวเบลล่างดงาม

 

มุมนี้เห็นได้ชัดว่าหุ่นเป๊ะมากกกก เรียกได้ว่าทั้งคนและชุดเข้ากันสุดๆ แถมยังช่วยส่งกันและกันได้อย่างดี

 


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@ teychitar , hubsub_official , #nineentertainawards2018

Miss Universe Thailand 2018

ซูมชัดๆ สาวสวยตัวเต็ง! เวที Miss Universe Thailand 2018

Alternative Textaccount_circle
Miss Universe Thailand 2018
Miss Universe Thailand 2018

เผยโฉมหน้า 40 สาวสวยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าประกวด Miss Universe Thailand 2018 พร้อมซูมชัดๆ ใครตัวเต็งเวทีนี้

การประกวด Miss Universe Thailand 2018 (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ) ได้มาถึงช่วงสำคัญอีกครั้งโดยเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2561  ที่ ห้องรอยัล มณียา บอลรูม เอ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าวการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ครั้งที่ 2 พร้อมเปิดตัวสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ทั้ง 40 คน

นอกจากนี้ยังมีการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดเก็บตัวทำกิจกรรม ชัดว่ายน้ำ และชุดราตรี จากนางงามรุ่นพี่ พร้อมเปิดตัว“มงกุฎ Miss Universe Thailand 2018”  ออกแบบและผลิตโดย บิวตี้เจมส์ “มงกุฎ Miss Universe Thailand 2018  ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก  “นกยูง”ที่ยืนโดดเด่นสง่างามกลางป่ากว้างพร้อมรำแพนหาง สีรุ้งงามระยับจับแสงหลากสี เปล่งประกายเป็นลวดลายเอกลักษณ์ความสวยงามมาสร้างสรรค์เป็นมงกุฎอันเลอค่า สำหรับ “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018” ผู้มีความสง่างาม และเป็นตัวแทนสาวไทยในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018

Miss Universe Thailand 2018
เปิดตัวมงกุฏเพชร โดย มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017

สำหรับผู้ผ่านการคัดเลือก 40 คน ได้แก่

หมายเลข 1  นางสาวนิโคลีน พิชาภา บุญชู หรือ นิโคล อายุ 19 ปี สูง 170 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 คณะ General Education สาขา Genreral มหาวิทยาลัย Citrus College จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 2 นางสาวเมณิษา ชุมสายสกุล หรือ กานต์ อายุ 22 ปี สูง 169 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโท ชั้นปีที่ 1 คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 3 นางสาวพภัสสรณ์ จารุอัครพัฒน์ หรือ ฟิล์ม อายุ 20 ปี สูง 165 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาดนตรีตะวันตก เอก voiceมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 4 นางสาวปริญญานาฏ ด่านซ้าย หรือ ตัวเล็ก อายุ 19 ปี สูง 169 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ สาขาบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 5 นางสาวนัทธ์หฤทัย อัครกิจวัฒนากุล หรือ โซ่ อายุ 24 ปี สูง 174 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอักฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จังหวัดสมุทรปราการ

หมายเลข 6 นางสาวคุณัญญา ชมพูหลง หรือ แป้ง อายุ 25 ปี สูง 174 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรม สาขาสถาปัตยกรรมภายใน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม

หมายเลข 7 นางสาวภิรญา ศรีมุกข์ หรือ มาย อายุ 25 ปี สูง 175 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จังหวัดกาญจนบุรี

หมายเลข 8 นาวสาวมนัสนันท์ ภูธัญญบดินทร์ หรือ เทนเทน อายุ 25 ปี สูง 177 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญยาตรี คณะโบราณคดี สาขามนุษย์วิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 9 นางสาวอนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ หรือ นิต้า อายุ 25 ปี สูง 174 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาิทยาลัย จังหวัดลำปาง

Miss Universe Thailand 2018
นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ พี่สาวอนิพรณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์  2015

หมายเลข 10 นางสาวฐิดารีย์ เกษร หรือ นุ๊ก อายุ 22 ปี สูง173  เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรีปีที่ 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยศรีสครินทรวิโรฒ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 11 นางสาววาเลนตินา จาร์ดุลโล หรือ พลอย อายุ 24 ปี สูง 165 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโท ปีที่ 2 คณะ Letters สาขา Lauguages for International Cooperations มหาวิทยาลัย Suor Orsola Benincasa จังหวัดกรุงเทพมหานคร

Miss Universe Thailand 2018
วาเลนตินา จาร์ดุลโล หรือ พลอย เดอะวอยซ์

หมายเลข 12 นางสาวพลิตา พุทธรัสสุ หรือ จุ๊บจิ๊บ อายุ 25 ปี สูง 170 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาโท คณะ Business Management in Creative Industries มหาวิทยาลัย De Monfort University จังหวัดขอนแก่น

Miss Universe Thailand 2018

หมายเลข 13 นางสาวเพ็ญพิมล ศศิธรรมวงศ์ หรือ อุ้ย อายุ 22 ปี สูง 172  เซนติเมตร จบการศึกษาวิทยาลัยนานาชาติ สาขา Marketting  จาก  Bangkok University Internationalจังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 14 นางสาวปวีนา ซิงห์ หรือ วีนา อายุ 22 ปี สูง 178 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษารัซเซีย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดเชียงใหม่

Miss Universe Thailand 2018

หมายเลข 15 นางสาววรรณพร มรรคดวงแก้ว หรือ เอิงเอย อายุ 27 ปี สูง 170 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพมหานคร

หมายเลข 16 นางสาวศุทธนี วิเขียรซอย หรือ การ์ตูน อายุ 21 ปี สูง 170 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรีปีที่ 3 คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดชลบุรี

หมายเลข 17 นางสาวสุพัตรา เกียรติจรุงพันธ์ หรือโบว์ อายุ 24 ปี สูง 176 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่4 คณะศิลปะประยุกต์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบอุตสาหกรรม(สิ่งทอและแฟชั่น) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร

หมายเลข 18 ส.ต.หญิง เหมือนฝัน ณ น่าน หรือ โบนัส อายุ 25 ปี สูง 168 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่1 คณะนิเทศศาสตร์การตลาด สาขาสื่อสารการตลาดใหม่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จังหวัดน่าน

หมายเลข 19 นางสาวอรนารี วรรณประสาท หรือ ครีม อายุ 25 ปี สูง 175 เซนติเมตร จบการศึกษา คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน สาขาการโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดสระบุรี

หมายเลข 20 นางสาวโศภิตา กาญจนรินทร์ หรือ นิ้ง อายุ 23 ปี สูง 169 เซนติเมตร จบปริญญาตรีคณะ Business administration สาขา Finance จาก University of Nevada, Las Vegas จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 21 นางสาวกนกวรรณ คำเทพ หรือ ยีน อายุ 24 ปี สูง 174 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จังหวัดน่าน

หมายเลข 22 นางสาวฤาชนก มีแสง หรือ เทวี อายุ 23 ปี สูง 170 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาลัยสหวิทยาการ สาขาปรัชญา เศรษฐศาสตร์ การเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 23 นางสาวเจนจิรา เฉิน หรือ เจน อายุ 20 ปี สูง 168 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 คณะศิลปศาสตร์ สาขาโรงแรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จังหวัดบึงกาฬ

Miss Universe Thailand 2018

หมายเลข 24 นางสาววธูสิริ ใจกลาง หรือ คิตตี้ อายุ 24 ปี สูง 170 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโท ชั้นปีที่2 คณะมนุษศาสตร์ สาขาสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

หมายเลข 25 นางสาวพิชญาสุ วรรณเสวก หรือ โบว์ อายุ 23 ปี สูง 178 เซนติเมตร จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 26 นางสาวพีรชาดา ขันรักษ์ หรือ พลอย อายุ 23 ปี สูง 170 เซนติเมตร กำลังศึกษา ปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการประชุมนิทรรศการและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา

หมายเลข 27 นางสาวศรสวรรค์ ศิลาพรม หรือ ฝน อายุ 24 ปี สูง 175 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโท ชั้นปีที่1 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาหลักสูตรและการสอน(คณิตศาตร์)มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

หมายเลข 28 นางสาวชารีนา เฮงสาทร หรือ ชาช่า อายุ 25 ปี สูง 165 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะ Computer Information Systems สาขา Business มหาวิทยาลัยCal Poly,Pomona จังหวัดสมุทรปราการ

หมายเลข 29 นางสาวอุรชาภัทร เดชาเบญจานนท์ หรือ น่ารัก อายุ 23 ปี สูง 171 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จังหวัดนนทบุรี

หมายเลข 30 นางสาวพรรณธิญา พฤกษา หรือ ส้มโอ อายุ 23 ปี สูง 166 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดนครสวรรค์

หมายเลข 31 นางสาวพิจิตรา กองสอน หรือ แป้ง อายุ 24 ปี สูง 169 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่4 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง จังหวัดนครราชสีมา

หมายเลข 32 นางสาวรัตนรัตน์ ศรีคง หรือ จีน่า อายุ 24 ปี สูง 171 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่1 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 33 นางสาวอรรมณี อุ่นเมือง หรือ เอมี่ อายุ 24 ปี สูง 173 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดภูเก็ต

หมายเลข 34 นางสาวลลิตกาญจน์ พรนิพัทธ์กุล หรือ ปิ่น อายุ 24 ปีสูง 167 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรีคณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

หมายเลข 35 นางสาวณัฐรภัทร์ ศีรนาภัทราสิริ หรือ กิฟท์ อายุ 26 ปี สูง 178 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จังหวัดลพบุรี

หมายเลข 36 นางสาวสาลิกา ฟอร์เมิรต คมกลาง หรือ แครอท อายุ 22 ปี สูง 178 เซนติเมตร  จบการศึกษาปริญญาตรี คณะ Asia Pacific Management สาขา Strategic Management and Organization Asia Pacific university จังหวัดเชียงใหม่

หมายเลข 37 นางสาวปฏิมาภรณ์ ขยันชม หรือ มีน อายุ 20 ปี สูง 170 กำลังศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่3 คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทยและการสื่อสารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

หมายเลข 38 นางสาวอัปสร โอริญาเบลล์ เมนิล หรือเบลล์ อายุ 21 ปีสูง 168 เซนติเมตร จบการศึกษาปริญญาตรี คณะ Art – digital Film Making  SAE  institute (and Middle sex University) จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข39 นางสาวน้ำฝน ศิริกุล หรือ ฝน อายุ 26 ปีสูง 170 เซนติเมตร จบปริญญาตรีคณะศึกษาศาสตร์สาขา
คหกรรมศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

หมายเลข 40 นางสาวรัชนีกร จิรคุณากร หรือ เเนน อายุ 24 ปี สูง 168 เซนติเมตร กำลังศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่2 คณะวิทยาศาสตร์สาขาเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดระนอง

พร้อม มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017   ได้เชิญ มงกุฎเพชรมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018  ให้สื่อมวลชนได้ชม

สำหรับบัตรเข้าชมการประกวดรอบชุดว่ายน้ำ ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ การประกวดฯรอบ Preliminary  วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน เวลา 19.00-21.00 น. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์  และ  การประกวดฯรอบตัดสินในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 19.00-21.00น. ผู้สนใจดูรายละเอียดได้ที่ www.missuniversethailand.com หรือโทร. 02-271-1255

นักแสดงหญิงแห่งปี

แซ่บเจอแซ่บ อั้ม – หมิว เฉือนกันไม่ลง รับรางวัล นักแสดงหญิงแห่งปี

Alternative Textaccount_circle
นักแสดงหญิงแห่งปี
นักแสดงหญิงแห่งปี

เซอร์ไพร้ส์รางวัลนักแสดงหญิงแห่งปี แซ่บเจอแซ่บ อั้ม-พัชราภา จากละครเรื่อง เพลิงพระนาง และ หมิว-ลลิตา จากละครเรื่อง ล่า

หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2561 ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานประกาศรางวัล “ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2018” โดยมีทั้งหมด 12 รางวัล ซึ่งที่เซอร์ไพร้ส์มากที่สุดคงเป็นรางวัลนักแสดงหญิงแห่งปี ที่มีผู้ได้รับรางวัลนี้ถึง 2 คน คือ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ จากละครเรื่อง เพลิงพระนาง และ หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส จากละครเรื่อง ล่า ซึ่งต้องยอมรับว่าทั้งสองแสดงได้ดีเป็นอย่างมาก

นักแสดงหญิงแห่งปี
อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ

 

นักแสดงหญิงแห่งปี

นักแสดงหญิงแห่งปี

สำหรับรายชื่อรางวัลทั้งหมดมีดังต่อไปนี้ รางวัลพระราชทานบันเทิงเทิดธรรม ได้แก่ อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม), รางวัลบุคคลเบื้องหลังแห่งปี ได้แก่ ประวิทย์ มาลีนนท์, รางวัลครอบครัวแห่งปี ได้แก่ ฝันดีและฝันเด่น จรรยาธนากร, รางวัลเพลงแห่งปี ได้แก่ เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, รางวัลนักแสดงหญิงแห่งปี ได้แก่ หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส และ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, รางวัลนักแสดงชายแห่งปี ได้แก่ ณเดชน์ คูกิมิยะ, รางวัลศิลปินเดี่ยวแห่งปี ได้แก่ เดอะทอยส์, รางวัลศิลปินกลุ่มแห่งปี ได้แก่ บิ๊กแอส, รางวัลพิธีกรแห่งปี ได้แก่ กันต์ กันตถาวร, รางวัลละครโทรทัศน์แห่งปี ได้แก่ ละครเรื่อง รากนครา, รางวัลภาพยนตร์แห่งปี ได้แก่ ฉลาดเกมส์โกง แลพรางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ เบลล่า-ราณี แคมเปน

ผู้พันเบิร์ด

น่ารัก! ผู้พันเบิร์ด ผนึกเหล่าคุณพ่อฮีโร่ ก่อกองทรายบนชายหาดกับลูกๆ

ผู้พันเบิร์ด
ผู้พันเบิร์ด

น่ารัก! ผู้พันเบิร์ด ผนึกเหล่าคุณพ่อฮีโร่
ก่อกองทรายบนชายหาดกับลูกๆ 

เวลาผู้ชายที่เป็นแฟมิลี่แมน เป็นคุณพ่อมาอยู่รวมกันแล้วทำกิจกรรมด้วยกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นภาพที่น่ารักและอบอุ่นมากทีเดียว เพราะล่าสุด ผู้พันเบิร์ด ร่วมกับเหล่าคุณพ่อซูเปอร์ฮีโร่ท่านอื่นๆ ได้พาลูกสาว ลูกชายของแต่ละคนมาใช้เวลาด้วยกัน และทำกิจกรรมน่ารักสไตล์ผู้หญิงอย่าง การก่อกองทรายบนชายหาด โดยจะได้เห็นบรรยากาศพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายนนี้

ผู้พันเบิร์ด
ผู้พันเบิร์ด-น้องวิน ลูกชาย

ผู้ชายตัวโตหลายคนนั่งปั้นก่อกองทรายร่วมกับลูกๆ ตัวน้อย ถ้าคนภายนอกมองเข้ามาก็ช่างดูเป็นภาพที่น่ารักมากทีเดียว โดยภาพเหล่านี้ แฟนๆ จะได้ชมพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2561 ผ่านรายการ The Return of Superman Thailand ซีซั่น 2 ซึ่งเป็นเทปที่รวมเหล่าคุณพ่อซูเปอร์ฮีโร่หลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น พ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ พ่อกาย พ่อเจ ที่ต่างพาเจ้าตัวน้อยมาทำกิจกรรมบนชายหาดทะเลด้วยกัน และที่เป็นสีสันมากๆ จนถึงขั้นต้องปรบมือให้เลยก็คือ คุณพ่อผู้พันเบิร์ด ยอมลงทุนสร้างสีสันให้เด็กๆ ด้วยการลงทุนลงไปนอนบนทรายที่ขุดไว้ แถมยังอึดสุดๆ เพราะต้องให้เด็กๆ ถมทรายลงมาทับตัว งานนี้เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ถือเป็นรางวัลจากเด็กๆ ได้มากทีเดียว บทบาทมนุษย์ทราย (จำเป็น) ของผู้พันเบิร์ด รวมถึงภาพคุณพ่อและเด็กๆ จะน่ารัก น่าเอ็นดูขนาดไหน ก่อนจะได้ชมจริงในรายการเวลา 15.00 น. ทางช่อง 7 แพรวดอทคอม ก็ขอนำภาพตัวอย่างมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน

น่ารัก อบอุ่นมาก…ก

ผู้พันเบิร์ด ผู้พันเบิร์ด ผู้พันเบิร์ด ผู้พันเบิร์ด ผู้พันเบิร์ด ผู้พันเบิร์ด

 

 


ภาพ: IG @colonelbird, The Return of Superman Thailand

5 “เก้าอี้” ดีไซน์ระดับโลก โชว์แล้วโก้ นั่งก็ฟิน!!

5 “เก้าอี้” ดีไซน์ระดับโลก โชว์แล้วโก้ นั่งก็ฟิน!!…หากพูดถึงการเลือก เก้าอี้ ตัวโปรดสักตัว หลายคนคงเลือกจากรูปลักษณ์ดีไซน์ที่งดงาม

เพราะเก้าอี้นอกจากจะเป็นของแต่งบ้าน ยังช่วยสร้างแรงบรรดาลใจให้ผู้ใช้ ทั้งในบ้าน และ ในออฟฟิศ แต่สิ่งสำคัญมากที่สุดในการเลือกเก้าอี้คือ คำนึงถึงการใช้งาน ไม่ใช่รูปทรงเก๋ เท่ แต่ใช้งานจริงไม่ได้ นั่งแล้วปวดหลัง ปวดตัว เก้าอี้ตัวนั้นถึงจะดีไซน์งดงามขนาดไหนก็คงไม่มีความหมาย วันนี้จึงพามาชมงานดีไซน์เก้าอี้ จาก อิตาลี ประเทศที่ได้รับการยกย่องเรื่องที่สุดของงานดีไซน์ระดับโลก โดยเก้าอี้แต่ละชิ้นล้วนแต่ดีไซน์ผ่านกระบวนการความคิด ไม่ใช่แค่ออกแบบมาเพื่อความสวยงามลงตัว แต่ออกแบบคำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอยที่สอดรับกับสรีระผู้ใช้ เลือกว่าตั้งโชว์ก็เป็นเครื่องเรือนที่สวย จะนำไปใช้งานก็นั่งสบาย

 

เริ่มด้วย “ไซบอร์ก เดซี่ (Cyborg Daisy)” จากแบรนด์ มาจีส (Magis) ผลงานการออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อก้อง มาร์เซล วานเดอร์ส (Marcel Wanders) เก้าอี้เดซี่ ที่นั่งทำด้วยโพลีคาร์บอเนต ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนความร้อน และสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ นำมาประกอบกับพนักพิงที่ทำด้วยวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ ได้แก่ วัสดุโพลีคาร์บอเนตทำเป็นงานสานแบบหวาย จากไม้จริงมาเป็นไม้อัด นอกจากนี้มีรุ่นที่หุ้มด้วยผ้าหรือหนัง ทำให้นั่งได้สบาย มี 3 สี ได้แก่สีชมพู สีดำ และสีขาว ใช้งานได้หลากหลาย จัดวางได้ทั้งภายใน ภายนอกอาคาร และกลางแจ้ง

ตามมาด้วยเก้าอี้ที่เหมาะกับคนปวดหลัง ต้องการพักผ่อนที่แสนสบาย ต้องไม่พลาด เก้าอี้พักผ่อน “แอลซี4 แชสเลานจ์ (LC4 Chaise Lounge)” ของแบรนด์ คาสสินา (Cassina) ที่ชิ้นนี้ถือว่าเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ เพราะระดมสรรพกำลังความคิดจากดีไซเนอร์และสถาปนิกระดับโลกถึง 3 คน ได้แก่ ลอ คอร์บูซิเยร์ (Le Corbusier), ปิแอร์ จาเนอเร-กรี (Pierre Jeanneret) และ ชาร์ล็อตต์ เปร์ริอองด์ (Charlotte Perriand) ทำให้เก้าอี้ชิ้นนี้ลงตัวด้วยขนาด กว้าง 56 ซม.ยาว 136 ซม.สูง 69 ซม. ทำจากโลหะชุบโครเมียมขัดเงา นำมาดัดขึ้นรูปด้วยมืออย่างประณีต หุ้มทับโครงเหล็กด้วยหนังวัวแท้ รองรับทุกสรีระของร่างกายด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม เพิ่มสัมผัสที่แปลกใหม่และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถปรับองศาให้โค้งรับกับการนอนพักผ่อนได้ไม่สิ้นสุด เรียบหรูไม่เหมือนใคร ทุกรายละเอียดในการผลิตได้รับความใส่ใจสูงสุด ทั้งคุณภาพของวัสดุและการตัดเย็บที่บรรจงโดยฝีมือของช่างชาวอิตาลีด้วยความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งานนับเป็นผลงานการออกแบบมัลติฟังก์ชั่น ครบครันทั้งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม

ถัดมาคือ เก้าอี้ดีไซน์แสนเก๋ “เก้าอี้ตัวเอส (S Chair)หรือ “ดิ อีโรติก แชร์ (The Erotic chair) จากแบรนด์ แคปเปลลินี่ (Cappellini) ต้องบอกว่าชิ้นนี้ไม่ธรรมดาเพราะเคยถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สำคัญของโลกอย่าง Museum of Modern Art (MoMA) ออกแบบโดยดีไซเนอร์ ทอม ดิกซัน (Tom Dixon) ซึ่งโครงสร้างและฐานของเก้าอี้ผลิตจากโลหะเคลือบสีดำ ในส่วนของที่นั่งและพนักพิงถูกถักทอขึ้นมาอย่างประณีตด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงคงทนอย่างหวาย สร้างความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นให้กับชิ้นงาน เสริมสร้างความพริ้วไหวของเก้าอี้ด้วยรูปทรงตัวเอสโดยออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับรูปร่างของมนุษย์ที่มีความโค้งเว้า เอวบางและสะโพกผาย ถือว่าเป็นโมเดลไอคอนของการดีไซน์เก้าอี้ทั่วโลก เหมาะกับเป็นเก้าอี้ทำงาน หรือเก้าอี้อ่านหนังสือ ที่ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องให้ดูโมเดิร์นไปในตัว

แฟชั่นนิสต้าต้องห้ามพลาดกับเก้าอี้ มาดาม แชร์ (Madame Chair) ของแบรนด์ คาร์เทล (Kartell) ออกแบบโดย ฟิลิปป์ สตาร์ก (Philippe Starck) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก ผ้าพันคอ เอมิลิโอ ปุชชี่ (Pucci’s Cities of the World) อันมีสีสันและลวดลายลักษณะสถาปัตยกรรมภูมิประเทศและองค์ประกอบที่น่าสนใจ จากเมืองหลวงแห่งแฟชั่นทั้ง 5 เมืองของโลกได้แก่ นิวยอร์ก ปารีส โรม เซี่ยงไฮ้ และมิลาน ผลิตด้วยวัสดุทำจากผ้า และโพลีคาร์บอเนต ทำให้เก้าอี้ชิ้นนี้เป็นงานที่เปี่ยมล้นจินตนาการ และแรงบันดาลใจ เหมาะสำหรับแฟชั่นนิสต้า และคอดีไซน์ จัดวางไว้เป็นเก้าอี้พักผ่อนในห้องนอน หรือห้องทำงาน ก็ช่วยจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจ หรือจะวางไว้โดดเด่นในห้องรับแขกก็ช่วยสร้างสีสัน และสะท้อนความเป็นตัวตนให้กับแขกที่มาพบเห็น

และสุดท้ายกับ เก้าอี้ ดี.156.3 (D.156.3) ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่สะท้อนแนวคิด “ดีไซน์ ฟอร์ ไทม์เลส(Design for Timeless) การออกแบบเหนือกาลเวลา…สร้างคุณค่าเหนือระดับ เพราะเป็นชิ้นงานที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 ผ่านการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จิโอ ปอนติ (Gio Ponti) ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร ด้านหลังของพนักพิงโชว์โครงสร้างเส้นสายที่เรียงร้อยไขว้ประสานกันสร้างความสวยงามอย่างมีมิติและแข็งแรงรองรับกับทุกสรีระได้อย่างดี เก้าอี้ ดี.156.3 (D.156.3) เคยถูกจัดแสดงใน Altamira โชว์รูมที่นิวยอร์ก และยังได้ถูกเลือกเป็นชิ้นงานที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในงาน มิลาน เทรียนนาเล   ครั้งที่ 10 (Milan Triennale) ปัจจุบันเก้าอี้ ดี.156.3 (D.156.3) ถูกนำมาผลิตอีกครั้งโดยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อิตาลี โมลเทนี่ แอนด์ ซี กรุ๊ป (Molteni & C Group)

ใครสนใจอยากจะไปทดลองนั่งเก้าอี้ทั้ง 5 ตัวนี้ดูว่าจะแสนสบายขนาดไหนต้องไม่พลาดที่งาน “ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล 2018 (CDC Italian Festival 2018) งานแสดงนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแบรนด์ดังจากอิตาลี ในระหว่างวันที่ 21 29 มิถุนายน 2561 เวลา 10.0022.00 น.  ณ ซีดีซี “คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์” เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา อาคารบี ชั้น 1 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-101-5999

 

 

 

‘เอส แอนด์ พี’ รับตรา Thai Select การันตีคุณภาพอาหารไทยสำเร็จรูปส่งออก พร้อมปรับกลยุทธ์มุ่งฟู้ดเซอร์วิส

‘เอส แอนด์ พี’ รับตรา Thai Select การันตีคุณภาพอาหารไทยสำเร็จรูปส่งออก พร้อมปรับกลยุทธ์มุ่งฟู้ดเซอร์วิส รองรับการเติบโตธุรกิจท่องเที่ยว สอดรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

29 พฤษภาคม 2561 – บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) โดย วิทูร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายปฎิบัติการและบุคคล รับตรา Thai Select ในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ผลิตอาหารไทยสำเร็จรูป พร้อมร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าอาหาร “THAIFEX-World of Food Asia 2018” ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม –  2 มิถุนายน 2561 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เพื่อแสดงศักยภาพและความน่าเชื่อถือในการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารไทยและเบเกอรี่ (King of Thai Food & Bakery) ตลอดจนการใช้นวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย สะดวก สอดรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

วิทูร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายปฎิบัติการและบุคคล บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ด้วยพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านของกลุ่มคนเมืองที่มีมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง “ฟู้ดเซอร์วิส” จึงกลายเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่องทางกลุ่มธุรกิจร้านอาหารต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการด้านอาหาร วัตถุดิบปรุงอาหาร และอาหารพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อลดขั้นตอนการประกอบอาหารให้น้อยลง และสามารถให้บริการลูกค้าจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว เอส แอนด์ พี ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารด้านอาหารไทยและเบเกอรี่ จึงได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด “S&P Food Service Provider and Solution” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและจัดจำหน่ายให้กับธุรกิจช่องทางฟู้ดเซอร์วิสเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการให้พร้อมรับการเติบโตของธุรกิจในช่องทางฟู้ดเซอร์วิสมากขึ้น

สำหรับ Food Service Provider and Solution เป็นการจัดหาวัตถุดิบเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารที่มีความหลากหลาย สะดวก รวมทั้งยังมีบรรจุภัณฑ์ทั้งขนาดใหญ่และเล็กเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ประกอบการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้รวดเร็ว เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน นอกจากนี้เอส แอนด์ พี ยังร่วมพัฒนาสินค้าเสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดด้านอาหารและเบเกอรี่ให้กับผู้ประกอบการด้วย นอกจากนี้ ยังมีอาหารพร้อมรับประทาน (Ready meal) ทั้งรูปแบบอาหารคาวหวาน และเบเกอรี่ โดยได้พัฒนาหลากหลายเมนูอาหารสำหรับผู้ประกอบการ ในกลุ่มอาหารคาว เช่น น้ำแกงส้ม น้ำแกงเขียวหวาน สปาเกตตี้คาโบนาร่า ข้าวต้ม เป็นต้น กลุ่มขนมหวานไทย เช่น บัวลอยเผือกมะพร้าว ทับทิมกรอบ ข้าวเหนียวมูน และกลุ่มเบเกอรี่สำหรับอบสด เป็นต้น

นอกจากนี้ อีกหนึ่งวัตถุดิบของเอส แอนด์ พี ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในช่องทางฟู้ดเซอร์วิส คือ ข้าวเหนียวมูน ด้วยรสชาติอร่อย หอม นุ่ม เม็ดเรียวโต อันเป็นสูตรเฉพาะของเอส แอนด์ พี ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่จำนวนมาก ในการนำไปเป็นส่วนประกอบของทั้งเมนูของหวานและเครื่องดื่มในช่วงหน้าร้อนนี้

สำหรับภาพรวมของกลุ่มธุรกิจเอส แอนด์ พี ยังได้มีการจัดจำหน่ายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทาง ในประเทศ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ โดยในปี 2018 มุ่งยอดขายกว่า 950 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งในแต่ละปียังได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ รวมทั้งพัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายทั้งกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัวระดับกลางขึ้นไป อีกทั้งยังสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ การให้ความสำคัญกับแหล่งวัตถุดิบคุณภาพที่มีของผลิตภัณฑ์รสชาติอร่อย ในปีนี้เอส แอนด์ พี ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ดังนี้

  • กลุ่มอาหารมังสวิรัติ (Veggie) มี 4 เมนู ได้แก่ ข้าวผัดคีนัวสมุนไพรมังสวิรัติ วุ้นเส้นอบเต้าหู้เนื้อนิ่มเห็ดรวมมังสวิรัติ มักโรนีผักโขมอบชีสเห็ดออรินจิและเห็ดฟางมังสวิรัติ และข้าวพะแนงเต้าหู้มังสวิรัติ
  • กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค ซึ่งในปีนี้ได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ และปรับน้ำหนักและราคาลดลงจากเดิม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานเมนูข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิคที่หลากหลายและราคาย่อมเยาขึ้น มี 3 เมนู ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอร์รี่แกงเขียวหวานหมูและมะเขือม่วง ข้าวผัดไรซ์เบอร์รี่ไก่และธัญพืช และข้าวไรซ์เบอร์รี่แกงเผ็ดไก่และยอดมะพร้าวอ่อน
  • กลุ่มเยลลี่สูตรน้ำตาลน้อย (สูตรหญ้าหวาน Stevia) มี 4 รสชาติ ทั้งรสสละ ส้ม ลิ้นจี่ และสตอร์เบอร์รี่
  • กลุ่มขนมหวาน สินค้าใหม่ ในปี 2018 ได้แก่ บัวลอยมันม่วงมะพร้าวอ่อน (สูตรน้ำตาลน้อย)
  • กลุ่มเค้กแช่แข็ง สินค้าใหม่ ได้แก่ เค้กทุเรียน เค้กกล้วยหอม เค้กกล้วยหอมมะพร้าวอ่อน

ในส่วนของการส่งออก เอส แอนด์ พี ยังคงขยายผลิตภัณฑ์ไปตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น ทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยมีผลิตภัณฑ์ส่งออก เช่น อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และกลุ่มเครื่องแกงไทยที่สามารถหาซื้อได้ง่าย มีความสะดวกในการนำมาประกอบอาหาร เก็บไว้ได้นาน และที่สำคัญคือ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เจือสีและสารสังเคราะห์ ซึ่งดีต่อสุขภาพ อาทิ ชุดอาหารไทยน้ำแกงเขียวหวาน ชุดอาหารไทยน้ำปรุงผัดไทย ชุดอาหารไทยน้ำแกงมัสมั่น ชุดอาหารไทยน้ำแกงแดง และชุดอาหารไทยน้ำแกงพะแนง ในปีนี้มีสินค้าใหม่อีก 2 รายการ คือ น้ำส้มตำ และน้ำยำ เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ชื่นชอบรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ”

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของ เอส แอนด์ พี โดยได้รับตรา “Thai SELECT” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่มีรสชาติความเป็นไทยแท้และยังถือเป็นการการันตีมาตรฐานส่งออกในระดับสากล จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รวม 15 รายการ ได้แก่ 1.ต้มยำกุ้ง 2.ผัดไทยกุ้ง 3.มัสมั่นกุ้ง 4.แกงเขียวหวานกุ้ง 5.ข้าวผัดกระเพรากุ้ง 6.กุ้งอบวุ้นเส้น 7.ข้าวผัดธัญพืช 8.ข้าวเหนียวมะม่วง 9.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน 10.บัวลอยเผือก 11.สาคูถั่วดำมะพร้าวอ่อน 12.กล้วยบวดชี 13.ข้าวเหนียวทุเรียน 14.ข้าวเหนียวสังขยา และ 15.ขนมหม้อแกง

เอส แอนด์ พี ยังคงมุ่งมั่น พัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารไทยแท้ให้หลากหลายและรักษาคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนอาหารไทยและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน 

เท่ซะ! Nike จับมือ COMME des GRACONS ทำรองเท้าผ้าใบส้นสูง

เท่ซะ! Nike จับมือ COMME des GRACONS ทำรองเท้าผ้าใบส้นสูง…ลงตัวกว่าครั้งไหนๆ สำหรับไอเท็มชิ้นเด็ดประจำ SS 2018 นี้ ที่ได้สปอร์ตแบรนด์ระดับโลกร่วมกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังมาร่วมกันออกแบบรองเท้าผ้าใบให้ดูเก๋ขึ้นกว่าเดิม

ที่ผ่านมาไนกี้เคยทำรองเท้าส้นสูงมาบ้างแล้ว แต่น่าจะไม่มีแบบไหนที่ลงตัวเท่าคอลเลคชั่นนี้ ที่นำแบบของรองเท้านักมวยมาเป็นแรงบันดาลใจ เกิดเป็นรองเท้าหุ้มข้อตัดเย็บจากหนัง และวัตถุดิบที่ใช้ตัดเย็บรองเท้าผ้าใบ ร้อยเชือกสีขาวให้กระชับ ใส่รายละเอียดโดยการเติมส้นสูง 2 นิ้วและเสริมพื้นด้านหน้าให้หนารับกับความสูงของส้นรองเท้าที่ทาให้มีความเป็นผู้หญิงและแฟชั่นมากขึ้น และที่สาคัญคือทาให้เดินได้สบาย นอกจากแบบที่ดูปราดเปรียวแล้ว ความสวยงามของรองเท้าคอลเลคชั่นนี้อยู่ที่การผสมผสานระหว่าง สี 3 สีในหนึ่งคู่ ซึ่งจับคู่ออกแบบมา 3 สี คือ สีฟ้าแต่งด้วยสีขาวและโลโก้ไนกี้สีแดง สีเขียวกับสีขาว โลโก้ไนกี้สีแดง และสีดา 2 โทนกับโลโก้ไนกี้สีขาว ทุกคู่ Made in Japan จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ

เท่ซะ! Nike จับมือ COMME des GRACONS ทำรองเท้าผ้าใบส้นสูง

พบกับ COMME des GRACONS x Nike Boxing Boots SS18 ทั้ง 3 สีได้ที่ COMME des GARCONS ERAWAN ชั้น 2 Erawan Bangkok สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line@ : @cdg_th

ห้องครัวในฝัน สร้างได้ด้วย HomePro

ครัวในฝันที่แท้จริง นอกจากจะเป็นมีฟังก์ชั่นครับครัน ทันสมัย และ ทนทานต่อการใช้งานในทุกๆ วันแล้ว ต้องเป็นครัวที่ช่วยเติมความสุขทุกครั้งที่เข้าครัวอีกด้วย มาดูเชฟบุ๊ค แห่งรายการ Foodwork  มาบอกครัวที่เค้าใฝ่ฝันอยากได้มานานแสนนาน จะเป็นแบบไหนนั้นมาดูกัน homeprothailand homeservicebyhomepro Chefbook

 

 

ส่องไอเท็มคอมพลีทลุค! 4 เซเลบริตี้สาวรุ่นใหม่และไอเท็มที่ขาดไม่ได้ ในสไตล์ที่แตกต่าง

สำหรับสาวๆ กระเป๋าถือเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยเก็บสารพัดข้าวของแล้ว ยังช่วยคอมพลีทการแต่งตัวในแต่ละวันของสาวๆ ให้ออกมาเพอร์เฟ็กต์อีกด้วย

วันนี้แพรวดอทคอมจึงจะพาไปส่องไลฟ์สไตล์แฟชั่นของ 4 เซเลบริตี้สาวรุ่นใหม่ พร้อมกับไอเท็มคอมพลีทลุคชิ้นโปรดของพวกเธอ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีสไตล์เฉพาะตัวที่สะท้อนคาแร็คเตอร์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ใครจะสวยปังอย่างไรบ้างนั้น ต้องไปดูกันค่ะ

URBAN ESSENTIAL
เริ่มกันที่เซเลบริตี้สาวคนแรก ชมพู-พลอยชมพู อัมพุช Creative Retail Development The Mall Group สาวสวยสมาร์ทที่บทบาทในแต่ละวันของเธอต้องรับผิดชอบงานและพบปะผู้คนมากมาย ดังนั้นในวันทำงานจึงมักแต่งตัวในลุคโปรเฟสชั่นแนล เน้นเสื้อผ้าสีโมโนโทน ไม่ฉูดฉาด ให้ความสำคัญกับดีเทลและแพทเทิร์นของชุดเป็นหลัก และคอมพลีทลุคด้วยไอเท็มชิ้นโปรดอย่างกระเป๋าเริ่ดๆ โดยเธอเลือกใช้กระเป๋า Céline Nano Belt Bag สี Light Taupe ที่ดูน้อยแต่มาก สามารถแมชต์กับการแต่งตัวได้ง่าย เหมาะกับทั้งลุคในวันทำงานและวันชิลๆ แต่ถ้าวันไหนอยากอัพลุคเป็นสาวหวาน เธอจะเลือกใช้กระเป๋ารุ่น Frame ไซส์ Medium สี Pop Red / Clay ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากๆ เพราะสามารถสะพายข้างหรือครอสบอดี้ก็ได้ ทำให้ได้ลุคที่ทะมัดทะแมงยิ่งขึ้นอีกด้วย

SMART & CHIC
มาต่อกันที่เซเลบริตี้สาวสุดเท่ เบอร์ดี้-ปาวา นาคาศัย Creative Director PARVA และ PARV Board of Directors VSS Enterprise Co., Ltd. สาวเก่งซึ่งหลายคนยกให้เป็นแฟชั่นไอคอนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เธอมีสไตล์การแต่งตัวในแนวเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ เน้นการเลือกใช้แอคเซสเซอรี่มาช่วยเติมเต็มลุค ซึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกระเป๋าคู่ใจ Céline Micro Belt Bag สี Pop Red ที่สามารถใส่ของได้เยอะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเธอ อีกทั้งยังชิคสุดๆ ด้วยสีสันที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาอย่างสีแดง สำหรับในวันสบายๆ สาวคนนี้ชอบใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ ที่ให้ลุคชิลๆ และสมาร์ทในคราวเดียวกัน พร้อมกับไม่ลืมคอมพลีทลุคด้วยกระเป๋า Céline Clasp Bag ที่ดูเรียบโก้ ทำให้ได้ลุคแคชชวลอย่างมีสไตล์

PERFECT CASUAL
เซเลบริตี้สาวคนต่อมา ศิตา ชุติภาวรกานต์ CEO บริษัท Bchu Group CEO สาวที่มากความสามารถทั้งงานด้านธุรกิจและงานในวงการบันเทิง ซึ่งสไตล์การแต่งตัวของเธอคือแบบแคชชวล เน้นความสบาย คล่องตัว ส่วนในวันที่ต้องออกงานก็จะใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมและเข้ากับธีมงาน แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองไว้ โดยไอเท็มอัพลุคชิ้นสำคัญของเธอคือกระเป๋า Céline Mini Belt Bag สีดำ เพราะเป็นสีที่แมชต์กับการแต่งตัวได้ง่าย และอีกใบคือ Céline Big Bag ไซส์ Small ซึ่งสะท้อนสไตล์การแต่งตัวของเธอได้ดี บอกเลยว่ากระเป๋า 2 ใบนี้แหละที่ตอบโจทย์ทั้งวันทำงานและวันสบายๆ ของสาวเก่งคนนี้ได้ลงตัวที่สุด

SUMMER MATTER
ปิดท้ายกันด้วยเซเลบริตี้สาวสวย จินนี่-เขริกา โชติวิจิตร สาวที่คุ้นหน้าคุ้นตาในวงการบันเทิง ปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักธุรกิจสาว ซึ่งเธอเป็นคนที่รักการแต่งตัว และมีความชอบในด้านแฟชั่น เรียกว่าเป็นแฟชั่นนิสต้าสาวที่น่าสนใจมากอีกคนหนึ่ง โดยไอเท็มคอมพลีทลุคที่เธอเลิฟมากคือ กระเป๋า Céline Belt Bag ไซส์ Nano ที่สามารถแมชต์กับแฟชั่นลุคในแต่ละวันได้ง่าย ซึ่งในวันปกติเธอมักเลือกใช้สีดำหรือสีเทาเพราะเหมาะกับทุกโอกาส ส่วนถ้าเป็นวันพิเศษอย่างไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ก็จะเลือกใช้กระเป๋าดีไซน์เก๋ที่มีสีสันสดใสอย่าง Céline Big Bag Bucket สี Cobalt ซึ่งเพิ่มดีกรีความสนุกในการแต่งตัวให้กับสาวสายแฟอย่างเธอได้เป็นอย่างดี

แต่ละคนต่างก็สวยปังกันในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างลงตัวจริงๆ สำหรับสาวๆ ที่อยากมีไลฟ์สไตล์แฟชั่นสุดเริ่ดแบบนี้บ้าง

เตรียมพบกับ Céline สโตร์ใหม่ที่สยามพารากอนกันได้ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ บอกเลยว่าจัดเต็มด้วยกระเป๋าทุกรุ่น และแอคเซสเซอรี่รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้เลือกช้อปก่อนใคร จะเป็นสาวสไตล์ไหนก็ไม่ควรพลาดกันนะ    

CÉLINE STORE ชั้น M – The EmQuartier โทร. 0-2003-6003 และชั้น M – Siam Paragon โทร. 0-2610-9380

Jetts 24 Hour Fitness เปิดคลาสออกกำลังกายแนวใหม่ SH’BAM

Jetts 24 Hour Fitness ฟิตเนส 24 ชั่วโมงระดับโลกที่สร้างปรากฎเปิดฟิตเนส 4 สาขาใหม่ในประเทศไทยพร้อมกันในวันเดียวครั้งแรกของเอเชียเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอาใจหนุ่มสาวที่ชื่นชอบการออกกำลังกายแบบเข้าจังหวะด้วยคลาส SH’BAM (ชแบม) คลาสเต้นแนวใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากการออกสเต็ปแด๊นซ์เข้ากับท่วงทำนองสุดมันส์ในงานปาร์ตี้จนกลายเป็นคลาสออกกำลังกายกลุ่มที่เผาผลาญพลังงานได้มากกว่า 500 กิโลแคลอรี่ต่อครั้ง

SH’BAM (ชแบม) คือศาสตร์การออกกำลังกายกลุ่มแบบคาร์ดิโอรูปแบบใหม่ที่กำลังครองใจผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายทั่วโลก โดยต้นกำเนิดของ SH’BAM นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเต้นในคลับ ซึ่งรวมท่าเต้นหลากหลายสไตล์เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ แอโรบิก แจ๊ส ฮิปฮอป ฟังก์ ละตินอเมริกัน จนถึงบัลเล่ต์ นับเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ทั้งร่างกายและหัวใจสนุกไปตามจังหวะดนตรี คลาส SH’BAM นำเพลงจังหวะสนุกๆ ที่ได้รับความนิยมในงานปาร์ตี้มาใช้ประกอบการเต้น ทำให้สมาชิกที่เข้าคลาสรู้สึกสนุกและเพลิดเพลิน โดยท่าเต้นที่ออกแบบขึ้นมาสำหรับคลาส SH’BAM นั้น นอกจากจะมีความสวยงาม ทันสมัย ดึงเสน่ห์จากการเคลื่อนไหวผ่านท่วงท่าต่างๆ ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อ เพิ่มความคล่องตัว และเผาผลาญไขมันและพลังงานได้ถึง 500 กิโลแคลอรี่ต่อการเต้นหนึ่งครั้ง ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจและเสริมสร้างมวลกระดูกช่วงล่างของร่างกายได้เป็นอย่างดี

Jetts 24 Hour Fitness เปิดคลาสออกกำลังกายแนวใหม่ SH’BAM

สมาชิก Jetts 24 Hour Fitness สามารถเข้าคลาส SH’BAM ได้ฟรีทันทีทุกสัปดาห์หลังจากสมัครสมาชิก อัตราค่าสมัคร 1,500 บาทต่อเดือน สำหรับการสมัครในครั้งแรกจะมีโปรโมชั่นแตกต่างกัน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามตารางคลาส SH’BAM ได้ที่ www.facebook.com/JettsThailand หรือในสาขาของ Jetts 24 Hour Fitness

เคล็ดลับความสำเร็จ Yaks House Hostel ต้นฉบับ Low cost Hostel ชูจุดต่างความเป็นไทยที่จับต้องได้

The Secret of  Wealth เดินทางไปยัง Yaks House Hostel ย่านสี่แยกอรุณอมรินทร์ เพื่อพาไปคุยกับ 3 พี่น้องทายาทนักธุรกิจ ตระกูล “ถาวรวงษ์” คุณแนน-ไพลิน วัย 29 ปี, คุณนิว-ปิติ วัย 27 ปี และคุณนิก-ปิยะ วัย 24 ปี ที่เรียกว่ามีสายเลือดของเด็ก Gen Y ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ ความอิสระอยู่เต็มเปี่ยม และถ้าหากใครคิดว่าชีวิตลูกนักธุรกิจสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นแสนง่าย วันนี้คุณจะได้รู้จักอีกแง่มุมหนึ่งเพราะการนับหนึ่งสร้างธุรกิจใหม่ที่แตกต่างไปจากธุรกิจครอบครัวเดิม โดยเป็นธุรกิจที่คุณพ่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “Hostel” คืออะไร สามพี่น้องต้องใช้เวลาเจรจาพิสูจน์ให้ท่านมั่นใจและเห็นถึงความตั้งใจจริงมากกว่า 2-3 ปีเลยทีเดียว “อะไร” ที่เป็นคีย์เปิดทางให้เส้นทางธุรกิจใหม่สร้างขึ้นมาได้ เรื่องราวที่มาพร้อมเคล็ดลับ ข้อคิดดีๆ จาก 3 พี่น้องรุ่นใหม่ได้มาเปิดเผยพร้อมกันครั้งแรกที่นี่แล้ว

นำทรัพย์สินที่มีอยู่เดิม มาสร้างมูลค่าเพิ่ม

กระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วยวิธีแตกไลน์ธุรกิจเดิมของครอบครัวจากบริษัท วงศ์ถาวร เทรดดิ้ง จำกัด ธุรกิจประเภทจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องนอนและสิ่งทอแบรนด์ซาติน (Satin) ที่สั่งสมชื่อเสียงและลูกค้ามานานหลายสิบปี สู่ธุรกิจโรงแรมประเภทโฮสเทล (Hostel) ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งความคิดนี้มาจากคุณนิว ลูกชายคนกลางที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศมาตั้งแต่สมัยเรียนเป็นชีวิตจิตใจ แล้วมักจะเลือกพักโฮลเทล สังเกตจุดดี-จุดด้อยของที่พักแต่ละที่ ทั้งนี้ประจวบกับทำเลบริเวณสี่แยกอรุณอมรินทร์ ที่มีอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นครึ่ง 5 คูหา ซึ่งเป็นทรัพย์สินของคุณพ่อที่มีอยู่แล้วตั้งอยู่ หลังจากปล่อยให้เช่าแล้วหมดสัญญา สามพี่น้องได้เล็งเห็นศักยภาพด้าน Location ที่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่าน อยู่ย่านแหล่งท่องเที่ยวที่รายล้อมไปด้วยวัฒนธรรมไทย ใกล้ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล หนึ่งสาวสองหนุ่มจึงได้ตัดสินใจขอโอกาสจากคุณพ่อเพื่อรีโนเวทอาคารสร้างเป็น Yaks House Hostel

ในช่วงที่คิดไอเดียและเริ่มทำธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างนี้ สามพี่น้องเปิดใจว่าเกิดปัญหาความมั่นใจของคุณพ่อที่มองมาที่พวกเขาเช่นกันว่าจะทำธุรกิจสำเร็จไหม เพราะคุณแนนต้องดูแลควบ 2 กิจการทั้งธุรกิจครอบครัวและ Hostel ด้านคุณนิวมีงานประจำข้างนอกที่ทำอยู่ และคุณนิกก็อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวเรียนจบและเริ่มต้นชีวิตวัยทำงาน ฉะนั้นเพื่อแสดงความทุ่มเทว่าจะทำธุรกิจจริงจัง คุณนิวจึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ 3 ปีกว่ามาโฟกัสธุรกิจใหม่ที่เดียว “ที่บ้านให้ตัดสินใจว่า ถ้าจะทำธุรกิจต้องจริงจัง ตอนแรกตั้งใจว่าจะรอให้ที่นี่ (Yaks House Hostel) รีโนเวทเสร็จก่อนแล้วค่อยลาออกมาดู แต่คุณพ่ออยากเห็นความทุ่มเทของเราจริงๆ ว่าเรายอมทุ่มเทกับที่นี่มากขนาดไหนจึงลาออก แล้วก็ลุยเต็มที่ ดูการก่อสร้างตั้งแต่เป็นตึกเก่าจนมาเป็น Hostel ปัจจุบันก็นับว่า 1 ปีพอดีจนได้ฤกษ์เปิด”

มุ่งเป็นทำเลทอง สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชอบเสพความเป็นไทย

Yaks House Hostel เน้นเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แบ็คแพ็คเกอร์ ที่ต้องการที่พักแบบ Self-Service ราคาเบาลงกว่าโรงแรม แม้พิกัดที่ตั้งของ Hostel จะพบง่าย เดินทางสะดวก แต่ก็อยู่บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งรวม Hostel ที่มีให้นักท่องเที่ยวได้เลือกอย่างมาก อาทิ ย่านถนนข้าวสาร ทั้งสามจึงสร้างความต่างด้วยการนำเรื่องราวความเป็นไทยที่จับต้องได้ ใส่เข้าไปในที่พัก เพราะเล็งเห็นว่านอกจากนักท่องเที่ยวจะชอบพักสถานที่ที่มีทำเลดีแล้ว พวกเขายังต้องการเสพความเป็นไทย โดยจุดนี้ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาพักได้อีกด้วย

3P กลยุทธ์สร้างธุรกิจให้ครองใจลูกค้า กลับมาใช้บริการมากกว่าหนึ่งครั้ง

ปัจจัยสำคัญนอกจากเรื่องพิกัดที่ตั้งแล้ว สามพี่น้องยังปรับตัวและธุรกิจ Hostel ให้ทันเทรนด์ด้วยการสร้างกลยุทธ์ 3P อันประกอบด้วย Pricing, Privacy และ Pleasure มาพัฒนาธุรกิจนี้ให้โดดเด่น และกุมหัวใจลูกค้าตั้งแต่ก้าวขามาพักครั้งแรกให้เกิดความรู้สึกประทับใจ จนมาแล้วอยากกลับมาอีกหลายๆ ครั้ง

เริ่มจาก Pricing สามทายาทนักธุรกิจมองว่ากระแส Low Cost Airlines กำลังมาและเป็นที่นิยม พวกเขาจึงอยากจะเป็นธุรกิจ Low Cost Hostel ราคาน่ารัก และสถานที่น่าพักเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า อีกนัยหนึ่งคือต้องการให้ธุรกิจ Hostel ของตนเองเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แก่นักท่องเที่ยว ที่เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยแล้วจะต้องนึกถึง Yaks House Hostel เป็นที่แรกก่อนใคร

เน้น Privacy สร้างความต่างที่ไม่เหมือน Hostel ทั่วไป คุณนิวเล่าว่า กว่าจะทำให้คุณพ่อรู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาไม่ใช่แค่เด็กตามกระแสก็ใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 2-3 ปี ซึ่งท่านไม่รู้เลยว่าอะไรคือ Hostel คนจะมาอยู่กันเหรอ มีครัวกลางทำกินเอง ล้างจานเอง เป็นไปได้เหรอ คุณแนนและคุณนิวเล่าเสริม พวกเราต้องนำเหตุผลเข้าไปคุย คุยกันด้วยสถิติ เอกสาร เว็บไซต์ พูดถึงเทรนด์ว่าเป็นอย่างไร และพูดด้วยว่าเราจะเป็น Hostel ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งต้องยอมรับว่าสมัยนี้มีค่อนข้างมาก การหาจุดต่างที่ฉีกไปจากที่อื่นจึงสำคัญ ซึ่งพวกเขาได้คำตอบว่า “จะออกแบบ Hostel ในรูปแบบที่ไม่ใช่เตียง 2 ชั้น ไม่แชร์ห้องกับคนไม่รู้จัก โดยจะทำเป็นห้องแบบส่วนตัว และห้องน้ำรวมแยกตัวออกมาข้างนอก โดยเน้นความสะดวกสบาย มีความส่วนตัวที่ไม่เหมือนกับ Hostel ทั่วไปในตลาด” พร้อมทั้งเสริม Yaks Coffee บริการเครื่องดื่มและขนม มีโต๊ะสำหรับนั่งพักทำงาน อ่านหนังสือบริเวณด้านหน้า เพื่อเปิดรับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียง ไม่ใช่เพียงแค่แขกที่มาพัก Hostel

สุดท้าย Pleasure เน้นสร้างรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นอัตลักษณ์ โดยบิดเอกลักษณ์ ยักษ์ที่ดูดุร้าย พลิกหามุมน่ารัก ทันสมัย แต่คงความเป็นไทย การสร้างความโดดเด่น เป็นที่จดจำง่ายในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในยุคโซเชียลนี้เรื่องคอนเซ็ปต์สำคัญมาก ทั้งสามได้ตัดสินใจใช้คอนเซ็ปต์การตกแต่งให้มีเรื่องราวเป็น Gallery of Yaks โดยใช้ ยักษ์เป็นเอกลักษณ์ประจำ Hostel แล้วเปลี่ยนโฉมอาคารพาณิชย์เดิมทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ โดยการดีไซน์ การนำเสนอจะเน้นให้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และเข้าไปกุมหัวใจกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบเสพความเป็นไทยได้อย่างธรรมชาติ

คุณแนนเล่าที่มาที่ไปของคอนเซ็ปต์ Yaks House Hostel นี้ว่า เราไม่อยากให้ Hostel เป็นแค่ที่มานอนอย่างเดียว อยากให้ลูกค้ามีเรื่องราวอะไรให้พูดเมื่อกลับไปด้วย คิดๆ กันอยู่ก็ผุดขึ้นมาว่า เป็นธีมยักษ์ไหมล่ะ แต่จะเป็นยักษ์ที่ไม่เหมือนใคร ตอนนั้นคุณเก่ง-ธชย ยังไม่มาเลยนะ แล้วกลุ่มลูกค้าหลักของเราไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนต่างชาติแบบแบ็คแพ็คเกอร์ ซึ่งจะไม่ใช่แบบเที่ยวคนเดียว (Solo Traveller) อาจจะเป็นแบบมาคู่หรือมาเป็นครอบครัว เรามองว่าประเทศไทยคนจะนิยมพูดถึงวัด จึงอยากให้ยักษ์ได้รับการพูดถึงเพิ่มขึ้น โดยอยากสร้างคาแร็คเตอร์ยักษ์ไม่ให้เหมือนตามที่เห็นในวัดพระแก้ว หรือตามสนามบินสุวรรณภูมิที่ดูวิจิตรงดงาม ซึ่ง Hostel ของเราต้องมีความเฟรนด์ลี่ เป็นคนรุ่นใหม่ สุดท้ายจึงลงตัวด้วยการนำยักษ์ในวรรณคดีรามเกียรติ์ที่โด่งดังเข้ามาเป็นธีมจุดขาย โดยดึงสีและคาแร็คเตอร์หลักมานำเสนอ เช่น ทศกัณฑ์สีเขียว  สุริยาภพสีแดง ไมยราพณ์สีม่วง แล้วยักษ์แต่ละสีมีเรื่องราว มีจุดเด่นที่น่าสนใจต่างกัน จึงนำมาเป็นแนวคิดหลักของ Yaks House  Hotel ซึ่งทางเราได้ศึกษาและอ่านวรรณคดีแบบจริงจัง แล้วนำไอเดียใหม่ๆ ที่เข้ากับยุคปัจจุบันมาผสม ภาพรวมการตกแต่ง Hostel จึงออกมามีเอกลักษณ์ตามที่เห็นนี้

โดยแต่ละชั้นจะตกแต่งเป็นสีของยักษ์แต่ละตนที่แฝงเรื่องราวไว้ อย่างชั้นไมยราพณ์ ในรามเกียรติ์เป็นยักษ์ที่สามารถร่ายมนตร์เสกให้กองทัพของหนุมานหลับได้ แล้วได้เข้าไปขโมยตัวพระรามมาซ่อนไว้ในเมืองบาดาล เราก็ดีไซน์ตัวไมยราพณ์ให้เป็นสัญลักษณ์หลับอยู่ตลอดเวลา เพื่อสื่อว่าไมยราพณ์สามารถทำให้คุณนอนหลับฝันดีได้ด้วยนะ สิ่งเหล่านี้เมื่อชาวต่างชาติมาเห็น เขาไม่รู้ เขาถาม เราก็รู้สึกดีใจที่ได้เล่า รวมถึงเด็กไทยรุ่นใหม่ถ้ามาพักที่นี่ ก็จะได้ทราบข้อมูลที่เป็นเรื่องราวในวรรณคดี

เคล็ดลับสืบทอดจากรุ่นพ่อ ลุยเลย อย่าคิดเยอะ เจอปัญหาค่อยเรียนรู้ แก้ไข

หลักสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจที่ได้รับจากคุณพ่อ หัวหน้าครอบครัวผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน สามพี่น้องพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยคือ “เรื่องของเวลา” ในช่วงตอนแรกที่ทำงานจริงๆ พวกเขาคิดว่าอยากให้โฮสเทลเสร็จตอนนั้น ตอนนี้ แต่พอมันไม่เสร็จ บางทีติดอะไรบางอย่าง แล้วเผลอปล่อยให้เวลายืด คุณพ่อก็จะย้ำตลอดว่าในทางธุรกิจ เราอาจจะคิดรายละเอียดต่างๆ เยอะมาก แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือเรื่องเวลา เพราะเวลาเป็นมูลค่าที่แพงที่สุด ซึ่งสามนักธุรกิจรุ่นใหม่มักจะมัวแต่เลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด รอเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นๆ เพราะอยากช่วยประหยัดงบด้วย เมื่อเรามัวแต่คิด จึงทำให้เราเสียเวลาไปมากเมื่อเทียบกับเวลาที่วางไว้ตอนเริ่มทำโปรเจ็กต์

คุณพ่อจะพูดว่าถ้าเป็นรุ่นเขานะ เขาทำงานอะไรเขาลุยไปก่อนแล้วพอเวลามันผิดตรงไหนก็ค่อยมาแก้ ตรงไหนไม่สวยก็ค่อยมาปรับ ลุยไปก่อน ทำไปก่อน เขาไม่รอ เขามักพูดเสมอว่าเวลาสำคัญที่สุด

เมื่อได้ลุยงานจริง จากตอนแรกที่มองไว้กลุ่มลูกค้าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบ็คแพ็คเกอร์ ก็ทำให้สามพี่น้องพบโอกาส ช่องทางเพิ่มขึ้นเพราะยังได้กลุ่มคนไทย นิสิตนักศึกษารับปริญญาพร้อมครอบครัว คนสูงอายุที่ต้องมานัดพบคุณหมอที่โรงพยาบาลศิริราช หรือแม้กระทั่งนักวิ่งแถบสะพานพระราม 8 ก็ได้พบตัวเลือกที่เหมาะจาก Yaks House Hostel

บริหารความมั่งคั่งจากผู้ให้คำปรึกษาที่เชี่ยวชาญ

บริษัท วงศ์ถาวร เทรดดิ้ง จำกัด ของคุณพ่อเติบโตมากับ TMB ตั้งแต่สมัยกิจการยังเล็กอยู่ในย่านสำเพ็ง ซึ่งคุณพ่อติดต่อเลือกเป็นธนาคารแรกๆ ให้มาช่วยเหลือด้านความรู้การบริหารการเงิน จนปัจจุบันกิจการได้ขยับขยายสาขาออกไปมาก ก็ยังคงใช้บริการอยู่นับเป็นเวลากว่า 30 ปี คุณแนนเผยว่า คุณพ่อเป็นคนที่ดูแลการเงินเยอะมาก เขาจะคอยปลูกฝังเรารวมถึงบริหารเงินให้กับสมาชิกในครอบครัว โดยได้ไว้วางใจให้ TMB Wealth Management ช่วยดูแลการทำธุรกรรมเงินทุกด้าน อย่างตอนนี้คุณพ่อแนะนำเรื่องกองทุนของ TMB มาให้ เพราะโดดเด่นและมีข้อมูลให้เลือกดูค่อนข้างมาก ซึ่งจากแต่ก่อนพวกเราไม่ค่อยสนใจด้านการเงินเท่าไหร่ แต่เมื่อเริ่มทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจ จึงได้เริ่มศึกษาจริงจังรวมถึงบริหารเงินเอง ทั้งนี้ด้วยข้อมูลที่มากและอาจจะไม่มีเวลาศึกษารูปแบบกองทุนที่เหมาะสมกับตนเองมากนัก ซึ่งก็โชคดีได้ทีม TMB ที่ตั้งใจทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีจนมองทะลุว่า เราเป็นคนสไตล์ไหนแล้วจะแนะนำข้อมูลกองทุนที่โอเคกับเราอย่างไร ก็ทำให้รู้สึกมั่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น เพราะเขาช่วยสแกนและสกรีนให้ตั้งแต่ด่านแรก ทำให้เราบริหารเงินได้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยมีเวลามาดูแลธุรกิจใหม่ในมือนี้ได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ไม่ใช่มีเพียงเรื่องบริหารธุรกิจ และบริหารเงินที่ทั้งสามได้เรียนรู้จากครอบครัวและการทำงานจริงเท่านั้น สิ่งที่ถือว่าเป็นของขวัญย้อนกลับมาให้พวกเขาเลยก็คือ เมื่อได้มอบการบริการที่เป็นมิตร ประสบการณ์ที่เหมือนบ้าน และความยุติธรรมอันสำคัญให้แก่ลูกค้าอย่างเต็มที่แล้ว ลูกค้าเกิดความประทับใจ พูดต่อ แชร์ต่อบนโลกออนไลน์ รวมถึงกลับมาเลือกใช้บริการที่นี่อีกมากกว่าหนึ่งครั้ง นับว่าเป็นก้าวของคนรุ่นใหม่ที่ค่อยๆ แข็งแรงและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใครที่เดินทางผ่านสี่แยกอรุณอมรินทร์ ก็อย่าลืมไปทักทายยักษ์สุดน่ารักที่ Yaks House Hotel กันได้นะ

ขอขอบคุณ คุณไพลิน – คุณปิติ – คุณปิยะ ถาวรวงษ์ สมาชิก TMB WEALTH BANKING

สนใจบริการที่ปรึกษาด้านการลงุทน TMB ADVISORY เพิ่มเติม https://www.tmbbank.com/TMBADVISORY/wb2
ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยบริการวางแผนทางการเงินการลงทุน รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ TMB EXCLUSIVE LINE 0-2055-1558

‘สเป๊คสูงม๊าก!!! แต่ไม่เดือดร้อน ระหว่างนี้ก็ทำงานรอ’ ดูดวงรายวัน 8 มิถุนายน 2561

ดูดวงรายวัน 8 มิถุนายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : เป็นช่วงเวลาของการพิจารณาผลงาน ความดีความชอบ หรือให้คุณให้โทษกับหน้าที่การงานที่ทำ ท่านอาจมีปัญหาขัดแย้งกับคนอื่น แม้จะรู้สึกผิดหวัง เสียใจ ท้อแท้กับโชคชะตา ก็อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสิน อย่างไรท่านยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

การเงิน : อยู่ในช่วงร้อนเงิน ท่านเร่งหารายได้ทุกวิถีทาง หลีกเลี่ยงแหล่งเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก : วันนี้ท่านอยู่ 2 ขั้วคือ ความลุ่มหลงกับความตึงเป๊ะ และการปฏิบัติธรรม หากแบ่งภาคได้ดีจะเป็นความสมดุลที่มีความสุขเลยทีเดียว   คนโสด ศุกร์หรรษามาแล้ว ไปปาร์ตี้ที่ไหนก็ระวังตัวหน่อย หากมีแฟนแล้วระวังเป็นข่าวฉาว

สุขภาพ : ทานอะไรระวังนิด อาจเกิดโรคภูมิแพ้ หรืออาจแพ้อากาศทำให้เกิดไซนัส โพรงจมูกอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : ท่านสตรองกล้าลุยกล้าชน ไม่เกรงกลัวใครก็จริง แต่วันนี้ไม่ว่าท่านจะไปทางไหนก็จะพบทางตัน ตึงเครียด อึดอัดไปเสียทุกอย่าง จนท่านรู้สึกเบื่อหน่ายอยากลาออก อย่าเพิ่งด่วนวู่วาม ค่อยๆ คิด เพราะจะส่งผลไปถึงอนาคตเลยทีเดียว

การเงิน  : อย่าด่วนลงทุนหมดหน้าตัก เพราะมีเกณฑ์ได้ไม่คุ้มเสีย

ความรัก :  วันนี้ท่านลดๆ ความจู้จี้ขี้บ่นลงบ้างนะคะ เพราะรู้สึกว่าชีวิตรักเริ่มมีมือที่สามเข้ามาวุ่นวาย  อย่าเพิ่งไปจี้ถามมาก อาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ คนโสด ท่านมีเสน่ห์ แถมเจ้าชู้อีกต่างหาก ก็อย่าเพิ่งให้ใจใครง่ายๆ ละคะ เพราะไม่ใช่ตัวจริงสักราย

สุขภาพ : ระวังมลพิษทางอารมณ์ จะทำลายสุขภาพ ทำให้ปวดไมเกรน ความดันขึ้นได้ หากไปปาร์ตี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มและสูบอย่างหนัก จะทำให้ป่วยได้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : วันนี้ท่านเตรียมรับศึกหนักที่จะเข้ามาจากธุรกิจของครอบครัว หรือของคนสนิทที่ท่านเข้าไปช่วยรับหน้าที่ติดต่อประสานงาน ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่ไม่รอบคอบ ไม่มีแผนงานล่วงหน้า จะทำให้เกิดการผิดพลาด

การเงิน :  แปรปรวนสูง เหมาะกับการลงทุนระยะสั้น

ความรัก :  ท่านลงทุนทำกิจการกับคู่เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว พยายามมองในความเป็นจริง อย่าให้ความรักบังตา เพราะบางทีคู่ท่านอาจมีมุมมืดซ่อนอยู่โดยที่ท่านไม่รู้ คนโสด เหมือนท่านกำลังหลงเด็กอยู่นะเนี่ย ปรนเปรอให้ทุกอย่าง ยั้งไว้ อย่าเพิ่งทุ่มหมดหน้าตัก

สุขภาพ : ระวังติดไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ โดยที่ท่านไม่รู้ตัว

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : วันนี้ท่านได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานที่เสี่ยงต่ออันตราย ระวังถูกหักหลังไว้ด้วย เพราะฉะนั้นท่านจึงต้องรวบรวมพลังกายพลังใจ ความรู้ความสามารถเฉพาะตัวให้ผ่านไปให้ได้ และควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นจะเป็นปัจจัยให้ท่านไปสู่ความสำเร็จได้

การเงิน :  จากที่เคยมีปัญหา ตอนนี้ท่านรู้จักให้เงินทำงานได้ ก็พอจะเบาตัวขึ้น

ความรัก : ท่านอยากให้คู่คอยช่วยเหลือเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิต เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนหน้าที่การงานและความสำเร็จ เพราะฉะนั้นหากท่านเจอแล้วก็จะอยู่กันไปตราบฟ้าดินสลาย  คนโสด วันนี้ท่านรักง่ายหน่ายเร็ว รักๆ เลิกๆ รวดเร็วดุจกามนิตหนุ่ม แต่หากเมื่อไหร่ที่ท่านเจอตัวจริงแล้วก็จะหยุดแล้วแต่งงานทันที

สุขภาพ :  ระวังเรื่องลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหารแปรปรวน อาจเกิดจากความเครียดได้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  วันนี้ท่านปิดท้ายวันสุดท้ายของการทำงานด้วยงานสายบุญ ซึ่งท่านได้รับมอบหมายให้ต้องรับผิดชอบงานที่ติดต่อประสานงาน ที่งานนี้ต้องใช้เทคนิคทั้งบุ๋นและบู๊ในการเจรจาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้

การเงิน :  ท่านใจบุญ แบกรับความรับผิดชอบคนรอบข้างเยอะ ถึงวันนี้ควรปล่อยวางบ้าง เพราะท่านจะไม่ไหว

ความรัก :  ท่านต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เพราะฉะนั้นก็ต้องทำใจที่จะอยู่ห่างครอบครัวบ้าง แต่ไม่ต้องกลัวเพราะผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายดูแลอย่างดี   คนโสด เรื่องงานมาก่อนค่ะ เรื่องรักต้องใช้เวลาปรับตัวกันอีกเยอะ

สุขภาพ : ระวังจะบาดเจ็บตั้งแต่สะโพกลงไป ข้อและเอ็นอาจเสื่อม อาจเนื่องจากการเดินและยืนมาก

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ท่านจะกระโดดเข้าไปอยู่ท่ามกลางการแข่งขัน ผลที่ออกมาทำให้ต้องรับงานหนักเพิ่มขึ้น เดินทางไปหาลูกค้าบ่อยขึ้น ควรให้ความสำคัญกับการปกครองบริวารด้วย เพราะท่านให้ความสนิทสนมมากจนเขาไม่เกรงใจ ข้ามหน้าข้ามตาท่านไปแล้ว

การเงิน :  ท่านจะได้เงินพิเศษจากการทำงานเพิ่ม แต่ท่านก็ใช้เงินเก่งจนต้องขอผู้ใหญ่มาหมุน

ความรัก :  วันนี้ท่านทำงานหาเงินมาเพื่อครอบครัว จนอาจไม่ได้ให้เวลากับครอบครัวมากนัก ความห่างก็ทำให้ความรักจืดจาง วันหยุดวีคเอ็นท์นี้ วางงาน พาครอบครัวไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง จะทำให้ชีวิตคู่สดชื่นขึ้น คนโสด งานเยอะจนไม่มีเวลาสนใจความรัก สเป๊คท่านสูงด้วยละ ระหว่างนี้ก็ทำงานรอไป

สุขภาพ :  อย่าลืมพกยาดม ยาอม ยาหม่องติดกระเป๋าไว้ด้วยนะคะ ผลจากการโหมงานหนัก อาจมีวูบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ความมั่นใจในตัวเองสูง ทำให้ท่านมองข้ามความคิดของเพื่อนร่วมงาน จนถึงลูกน้อง เพราะฉะนั้นวันนี้ท่านอาจตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะคำพูดที่ท่านพูดไปแล้วอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวท่านเอง

การเงิน :  ท่านสนใจแต่งานมากกว่าเงิน จึงทำให้เกิดช่องว่างที่จะถูกหลอกได้ เพราะฉะนั้นอย่าหลงเชื่อหรือให้กู้เงิน หรือรับประกันใคร

ความรัก : วันนี้คำพูดของท่านจะมัดใจคู่ไว้ไม่ห่างไปไหน คนโสด ท่านยังมีความสับสน ลังเลใจมากจนอาจเลือกคู่ผิดได้ ก็ไม่ต้องรีบค่ะ ยังมีเวลาอีกเยอะ

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกายมีปัญหา ทำให้ระบบเลือด น้ำเหลืองไม่ค่อยดี

ฮันนีมูน ยังไงให้สวยเป๊ะตลอดทริป ต้องพกบิวตี้ไอเท็มอะไรบ้างมาดูกัน!

account_circle

ไป ฮันนีมูน เดี๋ยวนี้งานถ่ายรูปสวยต้องมา! แล้วจะพกไอเท็มความงามชิ้นไหนไปบ้างดีที่ไม่หนักกระเป๋าแถมมีประโยชน์จำเป็นจริงๆ? เรามาบอกคุณแล้ว!

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่แต่งงานเสร็จปุ๊บ ก็บินไปทริป ฮันนีมูน ปั๊บ ยกมือค่ะ! คุณเคยกังวลใจกับการจัดกระเป๋าไปทริปเหล่านี้ไหมคะ? เพราะยุคนี้ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องมีงานถ่ายรูป งานเซลฟี่ งานแชร์ลงโซเชียลกระหน่ำๆ แต่ครั้นจะพกเมกอัพอะไรไปมากมายก็หนักกระเป๋า แถมบางอย่างยังไม่ได้ใช้พกไปเปลืองที่เปล่าๆ (แต่บางอย่างที่ไม่ได้คิดจะพกมา ดั๊นนน เกิดเหตุต้องใช้ขึ้นมาซะอย่างนั้น!) เรามาบอกบิวตี้ไอเท็มที่เราการันตีว่าพกเถอะ! รอดทุกทริป ได้ใช้ชัวร์ แถมยังไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋ามากมายอีกด้วย มีอะไรบ้างมาดูกัน

 

  1. กันแดดแบบสเปรย์ เดี๋ยวนี้นวัตกรรมเค้าไปถึงแบบนี้แล้วคุณขา พกพาครีมกันแดดแบบหลอดนี่เอาท์แล้วเพราะเสี่ยต่อการเลอะเทอะหากแพ็คไม่ดี เราแนะนำให้ลองแบบสเปรย์ที่ทั้งใช้งานง่าย ซึมซาบเร็ว และหนึ่งขวดใช้ได้นานกว่าแบบครีมปกติ ใครที่ทริปฮันนีมูนนี้ไปทะเล เราแนะนำให้ลองซื้อติดกระเป๋ากันค่ะ

La Roche Posay – Anthelios Invisible Face Mist

ฮันนีมูน La Roche Posay Anthelios XL

2.  ครีมบลัช หรือบลัชแบบสติ๊ก อย่างที่บอกว่างานเซลฟี่ต้องมา ถ้าปล่อยให้หน้าซีดปากซีดแล้วหวังพึ่งแอป Camera 360 อย่างเดียวคงไม่เวิร์ค! ครีมบลัชหรือบลัชสติ๊กเนื้อครีมแท่งเดียวนอกจาจะพกพาง่ายแล้วยังใช้ได้ทั้งเติมสีสันให้แก้มและปากดูสดใสขึ้นด้วย

Bobbi Brown – Pot Rouge for Lips & Cheek

ฮันนีมูน Bobbi Brown Pot Rouge

3. ลิปมันเนื้อเลิศๆ ใครที่ไปประเทศหนาวอย่างญี่ปุ่นหรือยุโรป พกไว้เลยค่ะ เพราะปากแห้งแตกระหว่างทริปเป็นอะไรที่ไม่สวย เซลฟี่ไม่รอด และยังไม่สนุกแน่นอน แนะนำแบบที่ช่วยเติมสีสันให้เรียวปากพร้อมๆให้ความชุ่มชื่นเลยด้วยจะยิ่งเลิศค่ะ

Dior – Lip Glow Color Reviver Balm

ฮันนีมูน Dior Lip Glow

4. มาส์กหน้าแบบแคปซูลหรือกระปุกเล็ก เดี๋ยวนี้มีมาส์กหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ทำเอาใจสาวนักเดินทางด้วยการแบ่งเป็นชิ้นๆ ปริมาณใช้พอดีต่อหนึ่งครั้ง พกพาง่าย มีหลากหลายสูตรทั้งสำหรับให้ความชุ่มชื่น(สำหรับทริปเมืองหนาว) หรือปลอบประโลมผิวจากแดด (สำหรับทริปทะเล) พกง่ายไม่รกกระเป๋าชัวร์

Estee Lauder – Advanced Ninth Repair Intensive Recovery Ampoules, Laneige – White Plus Renew Purifying Mask

ฮันนีมูน บิวตี้ พกอะไร ดี

5. บาล์มอเนกประสงค์ สิ่งนี้ชัวร์ว่าหลายคนไม่ค่อยคิดจะพกพากันไปซักเท่าไร แต่เจ้าบาล์มอเนกประสงค์เหล่านี้แหละค่ะ ตัวช่วยชีวิตระหว่างทริปเลยทีเดียว เพราะชิ้นเดียวสามารถใช้ทาปากแห้งแตก ทาข้อศอก หัวเข่า ทาจมูกเล็บ ไปจนถึงทาแผลแมลงกัดต่อยได้ด้วย (เลือกสูตรที่ผสมน้ำผึ้งจะมีสารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้)

Burt’s Bees – REST-Q Ointment

ฮันนีมูน Burts Bees Rest-Q ointment

6. คลีนเซอร์ทำความสะอาดแบบอเนกประสงค์ คือเจ้าคลีนเซอร์ที่เป็นได้ทั้ง แชมพู ครีมอาบน้ำ และใช้ล้างหน้าได้ในหนึ่งเดียว เหมาะสำหรับคู่รักสายแอดเวนเจอร์ที่อาจจะไม่ได้ไปพักโรงแรมหรูหราในเมืองใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เจ้าคลีนเซอร์แบบออลอินวันนี้เป็นตัวช่วยชีวิตคุณได้มากๆเลยแหละแถมยังกินเนื้อที่ในกระเป๋าน้อยเพราะพกชิ้นเดียวใช้ได้หัวจรดเท้าเลย

One & All – One Stop Cleanser

ฮันนีมูน One and All Cleanser

7. มอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น สำหรับใครที่ไปทริปเมืองหนาว เราแนะนำให้หามอยซ์เจอไรเซอร์ที่เนื้อเข้มข้นกว่าปกติที่เราใช้อยู่ที่เมืองไทย อย่าคิดว่าพกพาสิ่งที่เราใช้ตามปกติจะเพียงพอ เพราะสภาพอากาศที่แห้งและเย็นมากขึ้นอาจจะทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื่นกว่าเดิมจนสกินแคร์ปกติเอาไม่อยู่ ลองหามอยซ์เจอไรเซอร์สูตรสำหรับอากาศแห้ง หนาว โดยเฉพาะ ติดไปซักชิ้นดีกว่าค่ะ

Cetaphil – Intensive Moisturizing Cream

ฮันนีมูน Cetaphil

8. ดรายแชมพูหรือแชมพูแบบแห้ง เจ้าดรายแชมพูนี้คือสเปรย์ที่ทำหน้าที่ดูดซับความมันและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากหนังศีรษะและเส้นผมของเราออกไป เสมือนการได้สระผมโดยไม่ต้องเปียกน้ำนั่นเองค่ะ ใครที่อยากเซลฟี่แบบดูผมพองฟูมีวอลูมสวยงามประหนึ่งเดินออกจากซาลอน หรือใครที่ขี้เกียจสระผมระหว่างทริป (เพราะบางทีดรายเป่าผมที่โรงแรมมีก็คาดเดาไม่ได้เนอะ…) พกชิ้นนี้เลยค่ะ

Percy and Reeds – Invisible Dry Shampoo

9.  แผ่นเช็ดทำความสะอาดเมกอัพ เพราะบางทีการพกพาเคลนซิ่งครีม อิมัลชั่น ออยล์ หรือต่างๆ ก็ลำบากและอาจจะหกเลอะเทอะด้วยความเป็นของเหลว เราก็เลยแนะนำว่าหากไปท่องเที่ยวควรเปลี่ยนมาใช้แบบแผ่นดีกว่า เดี๋ยวนี้ยี่ห้อใหม่ๆ ปรับสูตรให้อ่อนโยนขึ้น ไม่ผสมแอลกอฮอล์ แถมยังลบเมกอัพได้หมดจดไม่แพ้เคลนซิ่งแบบอื่นๆ แต่เราก็แนะนำให้ล้างหน้าตามอีกรอบอยู่ดีนะ

Bifesta – Bright Up Cleansing Sheet

10. อาฟเตอร์ซัน หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอมประโลมผิวหลังโดนแดด มีให้เลือกทั้งแบบโลชั่น แบบเจล หรือแบบสเปรย์ ใครที่ไปทริปทะเลแดดแรงๆ หรือทริปแนวแอดเวนเจอร์ท้าแดด ท้าลม ตัวนี้ถือว่าขาดไม่ได้ เพราะถ้าหากเราโดนแดดจัดๆ ไม่เพียงแค่ผิวจะคล้ำเป็นฝ้า แต่อาจจะถึงขั้นซันเบิร์น หรือผิวไหม้แดดจนต้องไปหาหมอได้ถ้าไม่รีบป้องกันก่อนนะ

Nature Republic – Aloe Vera Soothing Gel Mist

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 ชิ้นเด็ดที่เราแนะนำให้พกพาไปฮันนีมูนทริปสุดสวีท? หวังว่าบิวตี้ไอเท็มเหล่านี้จะช่วยให้ว่าที่เจ้าสาวสวยปิ๊งพร้อมเซลฟี่ตลอดทริป แถมยังประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา คลิกอ่านเลย! —> เส้นทางเที่ยวสวีทถูกและดีฮันนีมูนที่โครงการหลวง : ภาคกลางและภาคตะวันออก

Credit Photo: Heroimage.com

ฮันนีมูน กรุ่นกลิ่นอายญี่ปุ่น ในดินแดนล้านนา เที่ยวง่ายๆ ราคาเป็นมิตร

account_circle

เตรียมต้อนรับหน้าหนาว แล้วแพลนทริป ฮันนีมูน กันยาวๆ ตามนี้เลย

“ซากุระสีชมพูแสนหวาน สตอว์เบอร์รี่เนื้อแน่นผลโต ชาเขียวคุณภาพเลิศ บ่อน้ำพุร้อน อุณหภูมิเหมาะ” ไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมเสมอไป เพราะมีเงินแค่หลักพันคุณก็วางแผน ฮันนีมูน ภาคเหนือสไตล์เจแปนได้เหมือนกัน เพราะบ้านเราเมืองเรามีธรรมชาติและอากาศดี๊ดีไม่ต่างกับเที่ยวญี่ปุ่นเมืองซามูไร ว่าแล้วก็ควงแขนกันตาม แพรว wedding มาแอ่วเมืองเหนือกันดีกว่าเจ้าาา

ชมซากุระสีหวาน “Cherry Blossom in Thailand”

ถ้าตอนนี้คุณกำลังฝันถึงการชมซากุระกลางสวนสาธารณะในเมืองโตเกียว นะโงะยะหรือโอซะกะ บอกเลยว่าบ้านเราก็มีแหล่งชมซากุระเมืองไทยหรือ “ดอกพญาเสือโคร่ง” ให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน สถานีเกษตรหลวงขุนวาง ดอยแม่ตะมาน ดอยอ่างขางจังหวัดเชียงใหม่ ดอยแม่สลอง และดอยช้าง - ดอยวาวี จังหวัดเชียงราย ขุนแม่ยะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน เข้าหน้าหนาวเมื่อไรดอกสีชมพูก็พร้อมใจกันบานสะพรั่งให้คุณได้ควงแขนไปสวีทกัน ทีนี้ถ้าอยากจะปูเสื่อพกตะกร้าปิกนิกไปนั่งชิลก็เอาเลย

จิบมัตชะเด็ดยอดชา “Green Tea Farm Tour”

ฮันนีมูน

ภาพไร่ชาสีเขียวเรียงตัวแบบขั้นบันไดสลับสีอ่อนแก่ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ในจังหวัดเชียงรายพร้อมเสมอให้คนรักชาได้ตื่นแต่เช้าตรู่สะพายตะกร้าขึ้นหลังและลงมือเด็ดยอดอ่อนด้วยตัวเอง ก่อนจะเข้าโรงงานช่วงสายๆ เพื่อดูกรรมวิธีผลิตชาให้เห็นกับตา ยังไม่นับรวมเมนูอร่อยๆ จากผลิตภัณฑ์ชาที่พี่ไทยคิดขึ้นเองอีกสารพัดเมนู พูดได้เต็มปากเลยว่า แค่น้ำชายังน้อยไป จะกินทั้งทีต้องมีครบทั้งคาวหวาน

อาบน้ำแร่แช่อนเซ็น “Hot Spring”

_IGP8984

แหล่งท่องเที่ยวที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ ได้เสมอเมื่อไปเยือนญี่ปุ่นคือการแช่อนเซ็นให้เลือดลมสูบฉีด แต่รู้ไหมว่าอยู่บ้านเราก็เลือดลมพุ่งได้เหมือนกัน เพราะบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติมีให้เลือกหลายแห่งในหลายจังหวัด แถมแต่ละที่เพียบพร้อมบริการ ทั้งบ่อกลางแจ้งและในห้องมิดชิด ทั้งบ่อกลุ่มบ่อเดี่ยว อยู่ที่ว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน

หนาวเหน็บเด็ดสด “Strawberry Lover”

_IGP4307

เดี๋ยวนี้ไร่สตรอว์เบอร์รี่ทั้งหลายพร้อมใจกันเปิดไร่จัดโปรโมชั่นให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่กินกันสดๆ ถ้าอยากได้ฟีลกุ๊กกิ๊กกลางสายลมหนาวก็ตีตั๋วพาคนข้าง ๆ สวมเสื้อกันหนาวแล้วตะลุยเก็บสตรอว์เบอร์รี่กันได้เลย ส่วนจะจิ้มนมข้นหรือพริกกับเกลือก็แล้วแต่รสนิยม

แต่ถ้ายังไม่จุใจจะตามไปเช็กอินกันต่อก็ได้นะกับ ของมันแทนกันได้! ฮันนีมูนเมืองไทยไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

ภาพ : พิบูลย์ สัณฐิติเจริญวงศ์

งานแต่งไทยสเกลเล็ก แต่ยิ่งใหญ่ด้วยความสุขของคุณป่าน & คุณตั๋ง @เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา

account_circle

Full of Warmth งานแต่งไทยสเกลเล็ก สุดอบอุ่น

บ่อยครั้งที่ในช่วงนี้เราได้เห็นงานแต่งงานสเกลเล็กๆ ที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวจัดงานกันเองอย่างเรียบง่าย เน้นมีเพียงญาติๆ และเพื่อนสนิท เพื่อให้บรรยากาศของงานเปี่ยมด้วยความอบอุ่นและไม่เป็นทางการจนเกินไป คู่ของคุณตั๋ง-พันตำรวจตรี พัชรพงษ์ สารวัตรสืบสวนหนุ่มสุดเท่ และคุณป่าน-ชาลิสา แอร์โฮสเตสสาวแสนสวยก็เช่นกัน ทั้งคู่อยากให้ภาพความประทับใจจากวันสำคัญที่สุดของชีวิตเป็นภาพที่ทั้งคู่ห้อมล้อมด้วยเหล่าผู้คนอันเป็นที่รัก จึงเป็นที่มาของบรรยากาศงานแต่งแสนอบอุ่นงานนี้

จุดเริ่มต้นความรักของคุณตั๋งและคุณป่านคือเพื่อนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจกันและกัน จนกลายเป็นคนรู้ใจที่ขาดกันไม่ได้ เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันทั้งสองจึงหาฤกษ์วันมงคลและเริ่มเตรียมงานแต่งงานทันที คุณป่านเล่าว่า สิ่งแรกที่หาคือ สถานที่ ซึ่งใช้เวลาหาอยู่นานเพราะอยากได้สถานที่ซึ่งดูดีในงบประมาณที่ไม่แพงเกินไป จนได้จุดลงตัวสำหรับพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมไทยที่เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งโดดเด่นด้วยเรือนไทยสไตล์โบราณและสระบัวสีชมพูงามสะพรั่งบริเวณด้านหน้า ช่วยส่งให้ภาพถ่ายงานแต่งงานดูหรูหราแบบไทยแท้ๆ

รายละเอียดในงานแต่งงานอื่นๆ เช่น การ์ด ของชำร่วย คุณตั๋งและคุณป่านเป็นผู้จัดหาและตระเตรียมด้วยตนเอง ทั้งหมด เพราะอยากให้ผู้รับสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงๆ คุณป่านยังมีข้อความอยากส่งไปถึงเหล่าเจ้าสาวรุ่นน้องด้วยว่า ช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และช่างภาพงานแต่งงานเป็นสองสิ่งที่ต้องรีบหาและรีบจองคิว เพราะปัจจุบันนี้ช่างฝีมือดีที่ถูกใจอาจจะต้องจองกันข้ามปี

สุดท้ายแล้ว งานแต่งงานแสนอบอุ่นนี้จบลงอย่างสวยงาม พร้อมๆ กับชีวิตคู่ที่เปี่ยมด้วยความรักของคุณตั๋งและคุณป่านได้เริ่มต้นขึ้น

 

 

 

The Detail : The Traditionalist

Venue : เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนนทบุรี (เฟซบุ๊ก : DhabkwanResort)
Wedding Dress : Fullrichbride (ไอจี : @fullrichbride)
Makeup & Hair : คุณก๊อบแก๊บ (ไอจี : @gopgap_makeup)
Photo : Bigontheway photographer (ไอจี : @bigontheway_photography)

3 เมนู อาหารแบบคลีน ๆ ทำง่ายด้วยตัวคุณเอง ภายใน 10 นาที !

account_circle

          อาหารว่างแบบคลีน ที่เจ้าสาวสายเฮลตี้ต้องลอง

ในช่วงการเตรียมงานแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวอาจจะไม่ค่อยมีเวลาได้เตรียมอาหารทานเอง โดยเฉพาะในมื้อเช้าที่เป็นมื้อสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะมื้อเช้าจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเติมพลังงานให้กับร่างกายหลังจากพักผ่อนในตอนกลางคืนนั่นเอง และที่สำคัญเลย หากคุณพลาดมื้อเช้าไปล่ะก็ จะทำให้คุณทานหนักในมื้อเที่ยง ส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนัก เพื่อที่จะสวมชุดแต่งงานด้วยนะ! วันนี้ แพรว wedding เลยจะมาแนะนำ 3 เมนู อาหารว่างแบบคลีน ๆ ที่อิ่มท้องในมื้อเช้า หรือจะทานเล่นเป็นของหวานระหว่างมื้ออาหาร ก็อิ่มใจเช่นกัน ที่สำคัญทำง่ายจริง ๆ ภายใน 10 นาทีเท่านั้น ไม่เชื่อ จับเวลากันได้เลย

พุดดิ้งเมล็ดเจีย

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. เม็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ
  2. ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. นมถั่วเหลือง
  4. บลูเบอร์รี่/ เชอรี่/ ส้ม/ กีวี่/ กล้วย
  • ขั้นตอน
  1. เตรียมถ้วย หรือแก้ว แล้วใส่เม็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ และข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  2. เทนมถั่วเหลือง กะปริมาณให้เกินเม็ดเจียและข้าวโอ๊ตที่ผสมกันเล็กน้อย
  3. ใส่ช้อนคนส่วนผสมทั้งสามให้เข้ากัน และแช่ตู้เย็นประมาณ 10 นาที หรือสามารถทำค้างคืนแล้วรับประทานตอนเช้าก็ได้
  4. เมื่อพร้อมรับประทานแล้ว ให้ใส่ผลไม้ได้ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวาน เน้นพวกกลุ่มเบอร์รี่และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

 

ไข่ต้มอโวคาโด

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. ไข่ต้ม 3 ฟอง
  2. อโวคาโด 1 ผล
  3. กรีกโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
  5. เกลือ 1 ช้อนชา
  • ขั้นตอน
  1. นำไข่ต้มทั้งหมดมาผ่าครึ่ง แล้วใช้ช้อนตักไข่แดงออกมาใส่ถ้วยแยก
  2. นำอโวคาโดมาผ่าครึ่งแล้วตักเนื้ออโวคาโดมาใส่ถ้วยที่ใส่ไข่แดงไว้ พร้อมทั้งกรีกโยเกิร์ต น้ำมะนาว และเกลือเล็กน้อย เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม
  3. คนส่วนผสมในถ้วยให้เข้ากัน แล้วตักใส่ไข่ขาวที่ผ่าครึ่งไว้ก่อนหน้านี้ เท่านี้ก็เสร็จแล้วพร้อมรับประทาน

 

แพนเค้กกล้วยหอม

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. กล้วยหอมสุก 2 ใบ
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
  4. บลูเบอร์รี่
  5. น้ำผึ้ง
  • ขั้นตอน
  1. นำกล้วยมาแกะใส่ถ้วย แล้วบดด้วยส้อม
  2. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วยที่มีกล้วย แล้วคนให้เข้ากัน
  3. จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน และใส่น้ำมันมะพร้าว
  4. เทกล้วยหอมและไข่ไก่ที่ผสมกันแล้ว พลิกไปมาจนสุก
  5. นำแพนเค้กนั้นวางใส่จาน โดยจะทานเปล่าๆ เลยก็ได้ หรือจะทานพร้อมผลไม้ และน้ำผึ้งก็อร่อย

และในวันแต่งงานการทานอาหารเช้าก็สำคัญเช่นกันนะ นี่เลย Breakfast for Big Day! เมนูอาหารเช้าเพิ่มพลังเจ้าสาวในวันสำคัญ จะได้สวยแบบมีพลังในวันสำคัญ เนอะ ^^

เรียบเรียงข้อมูลและภาพจาก : lunchboxbunch.com/ rebecca-louise.com/ blogilates.com

7 แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดังที่ขายดีแบบไม่มีที่สิ้นสุด

account_circle

แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดัง กับคอลเลคชั่นที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ชุดแต่งงานนับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากของเจ้าสาวทุกคน เพราะถ้าเลือกผิดต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน แพรว wedding เลยจัดเช็กลิสต์ แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดัง ระดับตัวท็อปที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาให้คุณเจ้าสาวได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตัดสินใจก่อนเลือกชุดแต่งงานที่ใช่เป็นของตัวเอง ไม่แน่นะคะว่า หนึ่งในแบรนด์หรือชุดแต่งงานที่เรานำมาฝาก อาจเป็นชุดแต่งงานที่อยู่ในใจของเจ้าสาวอยู่แล้วก็ได้

1. Anne Barge style #617

ชุดแต่งงานชุดนี้วางขายเป็นครั้งแรกในปี 2011 ที่ร้าน Mark Ingram Atelier ที่นิว ยอร์ก และขายได้ถึง 46 ชุดเลยทีเดียว! กับชุดแต่งงานเกาะอกทรงเมอร์เมดที่เป็นผ้าลูกไม้ทั้งชุด ซึ่ง Anne Barge ยังคงรักษามาตรฐานความสมบูรณ์แบบของชุดแต่งงานได้แบบมือไม่เคยตก และเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยสไตล์และรูปแบบชุดแต่งงานที่หลากหลาย อีกทั้งผ้าลูกไม้ก็ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายสำหรับชุดแต่งงาน และชุดนี้ก็เป็นหนึ่งในชุดแต่งงานชุดแรกที่เป็นผ้าลูกไม้สีงาช้างตัดกับผ้าพื้นด้านในที่เป็นสีนู้ด เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ชุดแต่งงานแบบนี้จะยังคงครองเทรนด์บนรันเวย์และเป็นหนึ่งในชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์เสมอมา

2. Mira Zwillinger x Mark Ingram Beatrice Dress

Mira Zwillinger อีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ในวงการชุดแต่งงาน ซึ่งร้าน Mark Ingram Atelier เป็นร้านแรกที่ได้พบกันแบรนด์ดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน จึงได้จับมือกัน มิร่า ซวิลลิงเงอร์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ ทำชุดแต่งงานด้วยกันแล้วใช้ชื่อว่า Beatrice Dress ซึ่งวางขายครั้งแรกในปี 2013 และขายได้มากถึง 48 ชุดจนถึงปัจจุบัน (และคาดว่าน่าจะยังขายได้เรื่อยๆ) สิ่งที่ทำให้ชุดนี้ได้รับความนิยมคือ ตัวชุดมีน้ำหนักเบา และ Mira Zwillinger ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร กับการดีไซน์ชุดออกเป็นสองส่วนเพื่อช่วยให้รูปร่างของเจ้าสาวดูโดดเด่น และทำให้รอบเอวดูเล็กลงด้วยกระโปรงทรงเอ-ไลน์สุดเพอร์เฟกต์

3. Lazaro style #3108

ชุดแต่งงานสีเชอร์เบตผ้าทูลล์ทรงบอลกาวน์ ที่มาพร้อมเข็มขัดแบบเข้าชุด ชุดนี้เปิดตัวไปเมื่อปี 2010 ซึ่งแบรนด์ Lazaro ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เปิดโลกแห่งสีสันให้กับชุดแต่งงานอีกหนึ่งแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานในเฉดสีเชอร์เบตหรือสีพาสเทล ซึ่งร้าน Kleinfeld ที่นิว ยอร์ก ได้เลือกชุดแต่งงานชุดนี้ไปวางขาย โดยมีทั้งไซส์ใหญ่และไซส์ปกติ เพื่อรองรับทุกรูปร่างของเจ้าสาว และสาเหตุที่ทำให้เจ้าสาวหลงรักชุดสไตล์นี้ก็คือ เป็นชุดแต่งงานที่ดูเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยการเดรปผ้าที่ช่วงบนของชุดซึ่งเข้ากันได้ดีกับกระโปรงผ้าทูลล์ที่ดูสวยงามราวกับเจ้าหญิง

4. Sottero and Midgley

ร้าน Kleinfeld ขายชุดแต่งงานแบรนด์ Sottero and Midgley ได้กว่าร้อยชุด!! เพราะด้วยรูปทรงและฟอร์มของชุดที่สามารถเข้ากันได้ดีกับทุกรูปร่างของเจ้าสาว และช่วยให้เจ้าสาวทุกคนดูสวยโดดเด่นในชุดนี้ แถมราคาที่ไม่สูงมากก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุดจากแบรนด์นี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

5. Vera Wang คอลเลคชั่น Gemma

หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วแบรนด์ Vera Wang เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวเกือบทุกคนก็ว่าได้ และชุดแต่งงานคอลเลคชั่น Gemma ของแบรนด์นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย กับชุดแต่งงานทรงเมอร์เมดที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด โดดเด่นด้วยดีเทลช่วงปลายกระโปรงที่ดีไซน์ผ้าทูลล์เป็นชั้นๆ แบบไล่ระดับ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยได้อย่างลงตัว

6. Monique Lhuillier คอลเลคชั่น Severine

เป็นอีกหนึ่งชุดที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาว และเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีในเรื่องของดีเทลและสไตล์แบบเฟมินีนสุดโรแมนติก ซึ่งคอลเลคชั่น Severine นี้ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและได้แรงบันดาลใจมาจากชุดนักเต้นบัลเลต์ โดยใช้ผ้าลูกไม้ Alençon ในเฉดสีซอฟ์ตอ่อนละมุน พร้อมกระโปรงผ้าทูลล์ทรงเอ-ไลน์ ซึ่งชุดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟกต์ที่สุดหากเจ้าสาวกำลังมองหาลุคที่ดูคลาสสิคและโรแมนติกในเวลาเดียวกัน แถมยังดูเรียบง่ายไม่ฉูดฉาดจนเกินไปจึงช่วยให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัยได้เป็นอย่างดี

7. Romona Keveza 5ply : style #RK7402 และ #RK6463

ชุดแต่งงานสไตล์ใหม่ที่ทำจากผ้าเครปหนา 5 ชั้นจากแบรนด์ Romona Keveza จึงเป็นชุดแต่งงานที่มีโครงสร้างและสไตล์ที่สร้างความน่าดึงดูดใจให้กับลุคของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ซิกเนเจอร์แบบ 5-ply ก็ช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ของชุดให้ดูสง่างาม เรียบง่ายแต่ก็น่าตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆ กัน และเป็นชุดแต่งงานสีขาวสะอาดพร้อมที่จะขับจุดเด่นของการตัดเย็บที่ประณีต แถมยังเป็นชุดที่เข้ากับทุกรูปร่างของเจ้าสาว ไม่ว่าจะสูงหรือเตี้ย หุ่นเป็นเคิร์ฟหรือตรงเป็นไม้กระดานก็รอดทุกนางจริงๆ รับรองว่าคุณจะสวยมั่นไร้กังวลในวันสำคัญแน่นอน

บทความเพิ่มเติม 5 ดีไซเนอร์ชุดแต่งงานจากฝรั่งเศส สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่รักความแตกต่าง

ข้อมูลจาก brides.com
ภาพ : maggiesottero.com, lwdbridal.com, hitcpm.com, mirazwillinger.com, jlmcouture.com, thebridalbox.net, yapjules.blogspot.com, preownedweddingdresses.com, plumedserpentbridal.com, pinterest.com, twitter.com, weddinginspirasi.com, theweddingbellbride.com

ชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับชิ้นสำคัญ … ความลงตัวที่ต้องเข้ากัน

account_circle

เลือก ชุดเจ้าสาว มาอย่างดี แต่ดันมาตกม้าตายเพราะเครื่องประดับ ก็ไม่เวิร์กจริงไหมคะ

การเลือกเครื่องประดับสำหรับใช้ในวันงานเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ทำเอาเจ้าสาวผู้โชคดีทั้งหลายต้องกุมขมับ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีพื้นฐานทางด้านศิลปะหรือเซ้นส์เจ๋งๆ ที่จะแมทช์เพชรเม็ดงามให้เข้ากับ ชุดเจ้าสาว ที่เลือกไว้ แต่วันนี้ เราได้สรรหาเทคนิคง่ายๆ มาให้คุณลองใช้

งานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางการ

เทคนิคแรกไม่ยากเกินเข้าใจ คุณควรพิจารณาก่อนว่างานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางกา ทั้งนี้รวมถึงสถานที่และช่วงเวลาในการจัดงานด้วย เช่น หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางวันหรืองานในสวนที่ไม่เป็นทางการมากนัก สามารถเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย แต่หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางคืนที่เป็นทางการ เครื่องประดับก็ควรที่จะดูหรูหราและโดดเด่นมากกว่าปกติ

ชุดที่ใช้มีรายละเอียดในระดับไหน

ถ้ามีรายละเอียดมากอยู่แล้ว เครื่องประดับก็ ควรจะยิ่งเรียบและน้อยชิ้น แต่ถ้าชุดนั้นแสนเรียบ ไม่มีลวดลายใดๆ เครื่องประดับที่เลือก จะกลายเป็นนางเอกในทันที เพราะจะช่วยเสริมให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมาได้

เลือกเครื่องประดับที่ไม่ล้าสมัยและใช้ได้หลายโอกาส

เพื่อที่ว่าคุณสามารถใช้ได้หลายโอกาส ยิ่งใช้ได้นานยิ่งดี หากมีฟังก์ชันปรับเปลี่ยนได้มากกว่าการใช้งานหนึ่งอย่างยิ่งดีมาก

Make it You

ไม่ว่าชุดเจ้าสาวนั้นจะเป็นอย่างไร หรือเครื่องประดับตรงหน้าจะเริดแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใดคือความเป็น “ คุณ ” สำคัญที่สุด ฉะนั้นควรเลือกสวมใส่เครื่องประดับที่คุณรู้สึกมั่นใจ และแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของคุณจะดีที่สุด

นอกจากทฤษฎีง่ายๆ ที่ว่าไปแล้ว เพื่อความเข้าใจและเห็นภาพจริง เราขอเสนอ ตัวอย่างชุดแต่งงาน 4 แบบที่เจ้าสาวทั้งหลายนิยมสวมใส่กันมากที่สุด พร้อมเครื่องประดับเหมาะๆ ที่ขอบอกเลยว่า ก๊อปปี้ไปหามาใส่เลยดีกว่า

ชุดเจ้าสาวทรงหางปลา (Mermaid)

ภาพ : http://eatyourguitar.org

จับเดรปที่ช่วงบนคอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ จึงสามารถเลือกใช้เครื่องประดับได้ 2 แบบ คือ สร้อยคอสไตล์ตัว Y หรือสร้อยโช้กเกอร์แบบเรียบๆ แต่เนื่องจากชุดนี้มีรายละเอียดมากที่ชายกระโปรง จึงควรเลือกโช้กเกอร์เรียบๆ ให้ลุควินเทจ และเสริมช่วงคอขึ้นไป ให้ดูโดดเด่นด้วยต่างหูยาวระย้า

ชุดเจ้าสาวทรงตรง (Sheath)

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ เหมาะกับสร้อยคอสไตล์ตัว Y ดีไซน์เรียบๆ มีเพชรเรียงกันเป็นแถว เนื่องจากชุดมีระบายลูกไม้เป็นชั้นๆ ทั้งตัวอยู่แล้ว สร้อยที่รายละเอียดมากเกินไปจะแข่งกับชุด แต่ถ้างบประมาณจำกัด อาจใช้จี้อันใหญ่ร้อยกับริบบิ้นกำมะหยี่เส้นกว้างหรือผ้าลูกไม้ลายเข้าชุดก็ดูเก๋ไก๋ แถมยังนำมาใส่ในโอกาสอื่นๆ ได้ด้วย

ชุดเจ้าสาวสั้น

รูปแบบค่อนข้างเรียบ แต่ดีไซน์สมัยใหม่ เพิ่มความหวานด้วยลูกไม้ ชุดแบบนี้ดูไม่เป็นทางการมากนัก จึงเหมาะจะเป็นชุดหมั้นหรือสวมใส่ในงานเลี้ยงตอนกลางวัน ควรเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย เช่น ต่างหูแบบกลมติดหู หรือแบบห้อยห่วงกลมๆ ที่ถอดเปลี่ยนไปเป็นจี้ได้

ชุดเจ้าสาวเกาะอกยาว (Drop Waist)

หรือชุดเกาะอกฟูฟ่องสไตล์เจ้าหญิง (Princess) ควรเน้นโชว์เครื่องประดับช่วงหัวไหล่และคอมากกว่าส่วนอื่น เพราะว่าชุดมีความอลังการในตัว จึงควรเลือกเครื่อง-ประดับที่มีรายละเอียดและดูเยอะกว่าปกติสักหน่อย เช่น สร้อยคอระย้า ดีไซน์ผสมผสานเพชรหลายขนาดตลอดรอบคอ สร้อยข้อมือเพชร พร้อมต่างหูเข้าชุด

ปิดท้ายด้วยเทคนิคง่ายๆ อีกอย่างที่นอกจากจะใช้ได้กับชุดเจ้าสาวแล้ว ยังนำไปประยุกต์กับชุดทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ คือ การให้ คอเสื้อเป็นตัวกำหนด เพราะคอเสื้อจะเป็นตัวหลักสำคัญที่จะบอกว่าคุณควรสวมเครื่องประดับชิ้นไหน สไตล์ใด เช่น

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ

ควรเลือกสร้อยคอสไตล์ตัว Y เหมือนเสื้อคอวี เพราะมีลักษณะทรงเสื้อที่เว้าลง หรือจะเป็นการสวมโช้กเกอร์ติดคอ ให้ความรู้สึก เรียบ โก้ คลาสสิก แต่เวลาใส่จะต้องแนบสนิทพอดีกับช่วงกลางลำคอ ถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นสาวหวาน อาจเลือกเป็นโช้กเกอร์มุกสีขาวประดับเพชร นอกจากนี้คุณยังเลือกใส่เป็นจี้กับสร้อยคอเส้นบางก็ได้ นอกจากจะดูทันสมัยแล้วยังนำไปใช้ในโอกาสสำคัญอื่นๆ ได้

ชุดแบบเกาะอกหรือไร้สาย

ควรเลือกเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู ยิ่งถ้าเป็นโช้กเกอร์หรือแผงคอแผ่นกว้างยิ่งเหมาะ เพราะสร้อยแบบนี้มีลักษณะสมมาตรและขนานไปกับชุด ให้ความรู้สึกหรูหรา เย้ายวนใจ แต่ควรเลือกให้แผงโช้กเกอร์อยู่กึ่งกลางคอพอดี และควรสั้นเหนือไหปลาร้า

ภาพเปิด : marlenadupellejewelry.com

keyboard_arrow_up