แบรนด์สุดล้ำ

ยิ่งกว่านำเทรนด์! รวม 3 แบรนด์สุดล้ำ ออกไอเดียฟาดรันเวย์ Paris Fashion Week

แบรนด์สุดล้ำ
แบรนด์สุดล้ำ

เก็บตกปารีสแฟชั่นวีคที่เพิ่งปิดฉากลงไปเมื่อวานนี้  (3 ต.ค.) กับ 3 แบรนด์สุดล้ำ ที่ออกไอเดียแหวกแนวไม่ซ้ำใคร ชนิดที่ว่าเห็นแล้วเป็นต้องอึ้ง!

ถือเป็นสีสันของงานแฟชั่นวีคเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากแฟชั่นสวยๆ ที่เราเห็นกันจนชินตาแล้ว ก็ต้องยกให้แฟชั่นสุดแปลกแหวกแนวนี่แหละ ที่มีไม่กี่แบรนด์กล้าจะนำเสนอโชว์ออกมาจากเซฟโซน แล้วสาดไอเดียความคิดล้ำๆ จนเป็นเสื้อผ้าเก๋ๆ ที่อาจจะเข้าใจยากหน่อย แต่แฝงไปด้วยศิลปะและความเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นตัวของตัวเองและมีสไตล์ที่โดดเด้งกว่าแบรนด์ทั่วไปจริงๆ

สำหรับ Paris Fashion Week คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2019 ที่เพิ่งผ่านไปนั้น ก็มีหลายแบรนด์ที่สร้างสรรค์ผลงานแบบโลกต้องจำ โดยวันนี้แพรวดอทคอมขอเลือก 3 แบรนด์ดังที่เห็นโชว์แล้ว ต้องโฟกัสไปที่เสื้อผ้าและข้าวของที่ประดับอยู่บนตัวนางแบบ นายแบบจนละลายตาไปไม่ได้เลย เพราะมันแปลกมาก…กกก ส่วนจะมีแบรนด์อะไรบ้าง แล้วดีไซน์จะน่าตะลึงขนาดไหน มาชมกันเลย

 

ยิ่งกว่านำเทรนด์! รวม 3 แบรนด์สุดล้ำ ออกไอเดียฟาดรันเวย์ Paris Fashion Week

 

Rick Owens

เริ่มกันที่ ริค โอเวนส์ (Rick Owens) แบรนด์ของดีไซเนอร์สายดาร์กผู้มากไปด้วยความสามารถ หากได้ยินชื่อแบรนด์หลายคนจะต้องนึกภาพโชว์สีหม่นๆ เสื้อผ้าแปลกๆ ออกอย่างแน่นอน ผลงานของเขามักจะได้รับอิทธิพลทางศิลปะมาจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ส่วนมากจะเล่นไปทางโทนขาว-ดำ และความดิบต่างๆ มาใส่ลงในผลงาน โดยริค โอเวนส์ ได้จัดแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งแรกในนิวยอร์ก เมื่อปี 2001 จากนั้นปี 2002 ก็ได้รับรางวัลดาวรุ่งผู้มีความสามารถหน้าใหม่ของ CFDA หรือ Council of Fashion Designers of America

ส่วนในคอลเล็คชั่นล่าสุด Spring/Summer 2019 ก็เช่นเคย มาในสไตล์ที่มีความเป็น Rick Owens ผสมกับกลิ่นอายของชนเผ่าเบาๆ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย เพราะคบเพลิงที่เหล่านางแบบถือออกมา มันช่างเข้ากับคอสตูมซะเหลือเกิน ถือเป็นโชว์ที่สร้างความตื่นเต้นให้คนดูได้ตลอดจนจบการแสดงเลยก็ว่าได้

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

 

Vivienne Westwood 

มาถึงแบรนด์ของเจ้าแม่สายพั้งค์ ดีไซเนอร์สุดซ่า วิเวียน เวสต์วูด ที่เพิ่งมีหนังสารคดีออกมาให้ได้ดูกัน และประโยคที่ยังติดอยู่ในหัวก็คือ “ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับตัวคุณ คุณก็คือเหยื่อของวงการแฟชั่น ฉะนั้นแทนที่จะซื้อของใหม่ 6 ชิ้น จงซื้อชิ้นเดียวที่คุณชอบจริงๆ ก็พอ คนเราต้องใส่เสื้อผ้าที่ทำให้ตัวเองดูดีขึ้นเท่านั้น”

ล่าสุดกับแฟชั่นโชว์ของดีไซเนอร์วัย 77 กะรัต วิเวียน เวสต์วูด ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฎการของวงการแฟชั่น เพราะทุกครั้งโชว์ของเธอจะเป็นที่พูดถึงตลอด ด้วยความเป็นตัวของตัวเองสูงปรี๊ดแบบไม่มีลดตั้งแต่เริ่มทำแบรนด์ และมีแนวโน้มว่าจะทวีความแซ่บ ความแปลก ความล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างปารีสแฟชั่นวีค เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่สนุก ไม่น่าเบื่อ เพราะนางแบบ นายแบบ เล่นขนเกาอี้มาเป็นพร็อพ โต๊ะจิบชามาถือ หยิบสกู๊ตเตอร์มาขับเล่น และเอาสเก็ตบอร์ดมาถือเท่ๆ ถือว่ารันเวย์นี้เต็มอิ่มไปด้วยความคิดครีเอทและลุ้นได้ตลอดว่าต่อไปจะมีอะไรออกมาโชว์อีก

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

 

Thom Browne 

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ THOM BROWNE แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากนิวยอร์ก ที่ถ้าพูดถึงเสื้อผ้าผู้ชายในสไตล์เรียบหรูก็ต้องนึกถึง THOM BROWNE แต่ถ้าต้องขึ้นโชว์บนรันเวย์ ไอเดียที่ไม่เหมือนใครก็จะบรรเจิดขึ้นทันใด เพราะแต่ละโชว์มักจะเต็มไปด้วยงานศิลปะที่มากกว่าความเป็นแฟชั่น แม้บางครั้งจะดูหลุดโลกไม่ซ้ำใคร แต่นั่นแหละคือเอกลักษณ์ของ THOM BROWNE

ในคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2019 นั้น โชว์เต็มไปด้วยสีสันของลูกเล่นที่มีความสนุกสนาน และในขณะเดียวกันก็มองเป็นงานศิลปะได้ ทำให้โชว์ไหลลื่น น่ามอง ตาทุกคู่ของผู้ชมจ้องไปที่นางแบบ นายแบบ อย่างไม่กระพริบ (อันนี้ก็เว่อร์ไป อิอิ) บอกเลยว่าเป็นโชว์ที่ดูแล้วต้องลุ้นไปด้วยว่าจะมีเซอร์ไพร้ส์อีกไหม ดูแล้วเพลินมากๆ ทำให้จบโชว์ไปโดยไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

แบรนด์สุดล้ำ

 

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Fashion Show : 

สับขาลุยน้ำ! ไคอา เกอร์เบอร์ โมเดลดาวรุ่ง นำทีมบนรันเวย์ YSL ใน Paris Fashion Week

ล้ำจนยากจะเข้าถึง! แฟชั่นโอต์กูตูร์จาก Maison Margiela แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส

เดรสคาดเข็มขัดต้องมา! Elie Saab ปลุกเทรนด์คลาสสิก ใน Paris Fashion Week

คนดังเต็มรันเวย์! แฟชั่นโชว์ Miu Miu Croisiere 2019 จัดให้ผู้ชมใกล้ชิดนางแบบสุดๆ

รันเวย์นี้มีหลอน! แฟชั่นโชว์ Gucci Cruise 2019 บุกสุสานโบราณ

สยายปีกให้ปัง! ชมภาพแฟชั่นโชว์สุดเซ็กซี่จากนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท ร้อนแรงเขย่ารันเวย์

ชวนสยอง! แฟชั่นโชว์ ‘Gucci’ ใน Milan Fashion Week เนรมิตรันเวย์เป็นห้องทดลอง

รวมลุคนางแบบตัวแม่ อวดแฟชั่นเขย่ารันเวย์ Milan Fashion Week 2017


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@viviennewestwood , fashiontomax

สปอร์ตเกิร์ล

หุ่นเซ็กซี่มีได้ไม่ยาก! “เมจิ อโณมา” แชร์ทริคถึงสาวๆ ที่กำลังลดหุ่นผิดวิธี

Alternative Textaccount_circle
สปอร์ตเกิร์ล
สปอร์ตเกิร์ล

“เมจิ อโณมา” สปอร์ตเกิร์ล ผู้เปลี่ยนทัศนคติของสาวไทยให้หันมามั่นใจว่าหุ่นเซ็กซี่มีได้ไม่ยาก!! อยากฝากถึงสาวๆ ที่กำลังลดหุ่นผิดวิธี บางคนเลือกทางลัด กินยากินอาหารเสริมตามโฆษณา ถ้าได้ผลจริงป่านนี้คงไม่มีใครอ้วน ในขณะที่การเลือกกินอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันมันได้ผลมากจริงๆ อาจจะลำบากในช่วง 2 – 3 อาทิตย์แรก แต่ถ้าชินแล้วการออกกำลังกายจะไม่ใช่เรื่องยาก สุดท้ายแล้วเมจิคิดว่าการออกกำลังกายนอกจากจะได้หุ่นที่สวยแล้ว ยังให้ความแข็งแรง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเรา

สปอร์ตเกิร์ล

จุดเปลี่ยนจากสาวปาร์ตี้สู่สปอร์ตเกิร์ล “เมื่อก่อนเมจิปาร์ตี้หนักมาก ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แล้วก็เข้าโรงพยาบาลเป็นวัฏจักร เลยรู้สึกว่าเราอายุยังน้อยแต่หาหมอบ่อยมาก ไม่มีการดูแลตัวเองเลย จนวันหนึ่งมันก็เบื่อ อยากดูแลตัวเอง เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราต้องการอะไร ต้องการบุหรี่จริงๆ หรือเปล่า? พอคิดได้แล้วหยุด ร่างกายก็ดีขึ้น แข็งแรง ไม่ป่วยอีกเลย”

ลองผิดลองถูก “โอ๊ย ลองมาเยอะค่ะ ทั้งออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงรวด เสร็จแล้วไปกินพิซซ่า กินไอศกรีมเป็นสกู๊ปๆ แต่น้ำหนักก็เท่าเดิม ไม่ลดลงเลย หรือแบบที่ว่ากินข้าววันละมื้อ สุดท้ายมันก็อยู่ไม่ได้เลยได้รู้ว่ามันต้องควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง ทั้งเลือกกินอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ”

หุ่นเซ็กซี่มีได้ไม่ยาก! “เมจิ อโณมา” ฝากถึงสาวๆ ที่กำลังลดหุ่นผิดวิธี

สปอร์ตเกิร์ล

ออกกำลังกายมากๆ หุ่นจะล่ำไปไหม “ไม่หรอก (หัวเราะ) ถ้าใหญ่นั่นเพราะไขมัน ไม่ใช่กล้ามเนื้อ ผู้หญิงจะมีหุ่นล่ำก้ามปูไม่ใช่ง่ายๆ ต้องเล่นหนักมาก เพราะฉะนั้นมาเริ่มต้นออกกำลังกายกันก่อน”

ไอดอลของเมจิ “นักกีฬาโอลิมปิกทุกประเภทเลยค่ะ เพราะกว่าจะถึงวันที่ลงแข่งได้ เขาต้องซ้อม ต้องมีวินัย ต้องมีความมุ่งมั่นกับสิ่งที่ตัวเองทำเป็นอย่างมาก”

38 ยังแจ๋วหน้าเด้งดูเด็กอยู่เลย “เมจิใช้ครีมกระปุกละ 200 บาทเองนะ แต่ออกกำลังกายทุกวัน ทำให้เราสุขภาพดีและผิวก็ดี ที่สำคัญคือกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีนช่วยได้มากเพราะเต็มไปด้วยคอลลาเจนทำให้ผิวตึง โดยไม่ต้องพึ่งโบท็อกซ์ เมจิกินโปรตีนให้ได้วันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช้ากินไข่ไก่ กลางวันกินเนื้อไก่ไม่ติดหนัง ตอนเย็นกินเนื้อปลา”


ที่มา : นิตยสาร Lemonade (ปี 2559) ในเครืออมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง 
ภาพ IG : meiji_27anorma

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อยากหุ่นดีอย่าขี้เกียจ! “ออร์แกน” แนะเทคนิคเฟิร์มเฉพาะส่วน ไม่เอาแบบผอมเกินไป

เปิดทริคผิวดีของ “แคทรียา อิงลิช” ยังสวยดูเด็ก แถมหุ่นเปรี๊ยะอยู่..โอเคนะคะ!

จากคนไม่เคยคิดจะออกกำลังกาย! “ฮารุ สุประกอบ” ฟิตร่างหนักจนหุ่นเปลี่ยนไป

เบิร์นไวไม่ต้องโดด! เบเบ้ แนะทริคฟิตหุ่นสำหรับคนอยู่หอ น้ำหนักตัวเยอะ ข้อเข่ามีปัญหา

หุ่นดีมาก “ชญาณิศา ชมชื่นดี” นักกระโดดค้ำสาวทีมชาติไทย กล้ามท้องฟิตเปรี๊ยะจนน่าอิจฉา

ทริคเด็ดผิวสวยร่างเป๊ะของ “เบฮาติ” ซูเปอร์โมเดลระดับโลก และ “ชเวซูยอง” แห่งเกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น

หุ่นในฝัน “ซูซี่-สุษิรา” อวดกล้ามท้องเซ็กซี่ พร้อมแชร์ทริคบอดี้เฟิร์มแบบสาวๆ วิคตอเรียซีเคร็ท

 

 

ตุลาฮาเฮ เช็คลิสต์เทศกาลสุดหรรษา สายช้อป สายบุญ สายปาร์ตี้ ห้ามพลาด

เผลอแป๊บเดียวก็ได้เซย์ไฮเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีกันแล้ว กลิ่นอายความสนุกสนานของเทศกาลรื่นเริงบันเทิงใจต่างๆ ก็เริ่มลอยมาพร้อมๆ กับลมหนาว โดยในเดือนตุลาคม 2561 นี้มีเทศกาลดีๆ อยู่หลายเทศกาล ทั้งเทศกาลของบ้านเราและสากล แถมยังมีหลายแนวด้วย ทั้งสำหรับสายปาร์ตี้ สายบุญ และสายช้อป ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้จัดการลิสต์มาให้ทุกคนแล้ว รับรองว่าดีต่อใจทุกเทศกาล และจะเป็นการเปิดฉากโมเม้นต์แห่งความสุขของช่วงส่งท้ายปีที่เริ่ดสุดๆ แน่นอน

Oktoberfest

ถ้าเอ่ยถึงเบียร์ก็ต้องเป็นเบียร์เยอรมัน ฉะนั้นคอเบียร์ตัวจริงคงไม่อยากพลาดงานนี้อย่างแน่นอน สำหรับ Oktoberfest เทศกาลเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง 7 ตุลาคม 2561

สำหรับเทศกาล Oktoberfest จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2353 เพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสของมกุฎราชกุมารลุดวิคกับเจ้าหญิงเทเรซ ความสุขสนุกสนานในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Oktoberfest กลายเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นงานที่คนรักเบียร์ต้องมาให้ได้สักครั้ง เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับเบียร์รสเลิศอย่างจุใจแล้ว งานนี้ยังจัดเต็มด้วยสารพัดอาหารคาวหวานที่น่าลิ้มลองสุดๆ รวมถึงมีความสนุกสนานจากดนตรี ขบวนพาเหรด และสวนสนุก สำหรับปีนี้หากคอเบียร์คนไหนที่อยากไปก็ยังทันอยู่ แต่ถ้าเตรียมตัวไม่ทันล่ะก็ ขอให้เคลียร์คิวช่วงต้นเดือนตุลาคมปีหน้าไว้รอกันได้เลย

กินเจ

มาถึงเทศกาลของสายบุญที่จะได้อิ่มท้องไปพร้อมๆ กับอิ่มเอมใจกันบ้าง อย่างเทศกาลกินเจ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 9-17 ตุลาคม 2561 สำหรับประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินเจนั้นถูกเล่าขานไว้หลากหลายตำนานด้วยกัน บ้างก็ว่าเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม บางแห่งก็เชื่อว่าเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้า อีกทั้งยังมีตำนานที่เชื่อว่าเป็นการบูชากษัตริย์เป๊ง ซึ่งเป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซ้อง ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อใด เทศกาลนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเทศกาลแห่งความอิ่มบุญ เพราะจะได้ละเว้นจากการกินเนื้อสัตว์ รวมถึงได้สุขภาพดีเป็นของแถม เพราะอาหารเจเป็นอาหารชีวจิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกว่าเป็นเทศกาลที่เหมาะสำหรับสายบุญและสายเฮลท์ตี้ทั้งหลายจริงๆ

10.10 MEGA SHOPPING DAY  

ต้อนรับความหรรษาของเดือนตุลาคมกันด้วยเทศกาลที่เหล่านักช้อปตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด สำหรับ 10.10 MEGA SHOPPING DAY ลดทะลุพิกัด จัดหนักทุกดีล แคมเปญเอาใจสายช้อปออนไลน์จาก Shopee  ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม 2561 วันดีเดย์เลขสวยฤกษ์ยามเริ่ดที่จะทำให้ขาช้อปจดจำกันได้อย่างแม่นยำ ตามกระแสของแวดวงอีคอมเมิร์ซตอนนี้ที่จัดแคมเปญการช้อปปิ้งประจำเดือนในวันที่มีเลขซ้ำ เช่น  9.9, 10.10 เรียกว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการช้อปปิ้งยุคใหม่บนโลกออนไลน์

โดยงานนี้ Shopee จะยกกองทัพสินค้าจากร้านค้าชั้นนำและแบรนด์ดังมาลดกระหน่ำพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมาย มีทั้งสินค้าราคาพิเศษที่เริ่มต้นเพียง 10 บาท สินค้านาทีทอง Super Flash Sale จำนวน 9 รอบ และ Super Voucher แจกโค้ดจัดหนักถึง 5 รอบในวันนั้น

บอกเลยว่าถ้ากำลังอยากได้อะไรอยู่ล่ะก็ ขอให้เล็งกันไว้ให้ดี เพราะ Shopee จะขนไอเท็มต่างๆ มาให้เลือกช้อปเยอะมาก เรียกว่าครบทุกหมวดหมู่เลยทีเดียว สำหรับขาช้อปขอให้ท่องไว้ว่าเลยว่า วันที่ 10 เดือน 10 นี้มีนัดช้อปปิ้งกันที่ Shopee ปักหมุดลงปฏิทินเอาไว้เลยก็ยิ่งดี หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชั่น 10.10 MEGA SHOPPING DAY ลดทะลุพิกัด จัดหนักทุกดีล กันได้ที่ https://shopee.co.th/m/10-10

บั้งไฟพญานาค

บั้งไฟพญานาค เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 24 ตุลาคม 2561 โดยความมหัศจรรย์คือจะมีลูกไฟประหลาดโผล่ขึ้นจากแม่น้ำโขง สามารถมองเห็นได้จากทั้งฝั่งไทยและลาว แม้จะเป็นปรากฏการณ์ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือการกระทำของมนุษย์ แต่ก็เป็นความเหลือเชื่อที่น่าไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งนี้สามารถชมบั้งไฟพญานาคกันได้จากสถานที่ต่างๆ ตลอดริมแม่น้ำโขง เช่น อำเภอโพนพิสัย, อำเภอรัตนวาปี, อำเภอศรีเชียงใหม่, อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย และอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ โดยแต่ละสถานที่จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการและคึกคักมากเลยทีเดียว

Halloween

เทศกาลสุดป็อปปูลาร์ของชาวตะวันตกในเดือนตุลาคม คงต้องยกให้กับวันฮาโลวีน หรือที่คนไทยมักเรียกกันง่ายๆ ว่าวันปล่อยผี ซึ่งจะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี โดยมีความเป็นมาจากวันฉลองปีใหม่ของชาวเซลท์ (Celt) ชนพื้นเมืองของไอร์แลนด์ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี ชาวเซลท์เชื่อกันว่าวันก่อนหน้าวันปีใหม่เป็นวันที่โลกของคนตายและคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงกัน ทำให้เหล่าวิญญาณสามารถผ่านเข้าออกได้อย่างอิสระ มีทั้งวิญญาณบรรพบุรุษที่ได้รับการต้อนรับ และวิญญาณร้ายที่ถูกขับไล่ โดยชาวเซลท์จะปลอมตัวเป็นผีเสียเอง เพื่อให้ผีร้ายตัวจริงหวาดกลัวจนหนีหายไป

ปัจจุบันความเชื่อดั้งเดิมได้จางหายไปแล้ว วันฮาโลวีนกลายเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองด้วยการแต่งชุดแฟนซีเป็นภูตผีปีศาจรูปแบบต่างๆ แล้วมาปาร์ตี้สังสรรค์กัน ซึ่งบ้านเราก็อินกับกิจกรรมนี้อยู่ไม่น้อย บรรดาร้านอาหารหรือสถานที่ต่างๆ มักมีการตกแต่งในธีมฮาโลวีน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดฮิตของเด็กๆ อย่าง  Trick or Treat ที่เด็กๆ จะพากันแต่งชุดผีไปเคาะประตูขอขนมตามบ้านอีกด้วย

หากถูกอกถูกใจเทศกาลไหน ก็อย่าลืมลิสต์ไว้ในใจให้แม่นๆ แล้วตามไปร่วมสนุก ร่วมทำบุญ และร่วมช้อปกันให้สนั่น เพื่อส่งท้ายความสุขของปีนี้กันนะคะ

มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

“ยักษ์ ยักษิณี” ชุดประจำชาติบนเวที มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

Alternative Textaccount_circle
มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018
มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

 “เจนิส-จณิสตา กลับทับลัง” ได้เฮ! “ยักษ์ ยักษิณี” ชนะคว้ารางวัลชุดประจำชาติจากเวทีการประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

หากพูดถึงเวทีการประกวดนางงาม นอกจากความสวยเก่งของผู้เข้าประกวดแล้ว ชุดประจำชาติก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน ในหลายๆ เวทีถึงตัวแทนสาวไทยจะไม่สามารถคว้ามงกุฎกลับมาได้ แต่หลายคนก็ไม่ได้กลับมามือเปล่า เพราะในหลายๆ ครั้งไอเดียชุดไทย ในการประกวดรอบชุดประจำชาติ ทำให้พวกเธอได้รับรางวัลกลับมาให้คนไทยได้ภูมิใจ

และเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เราได้เห็นไอเดียชุดประจำชาติไทยหลากหลายไอเดีย ผ่านการประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018 (Miss International Thailand 2018) รอบชุดประจำชาติ ที่ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพ รามคำแหง ซ.5   ซึ่งจะสวย อลังการขนาดไหนไปติดตามกันเลย

มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

การประกวด Miss International Thailand 2018

มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2018

ทั้งนี้เมื่อผู้เข้าประกวด 23 คนสุดท้าย ขึ้นเวทีอวดโฉมในชุดประจำชาติ จากห้องเสื้อต่างๆ ที่ออกแบบสร้างสรรค์กันมาอย่างวิจิตรตระการตา ต่อหน้าคณะกรรมการ โดยสาวงามที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “เจนิส-จณิสตา กลับทับลัง” อายุ 19 ปี เจ้าของส่วนสูง 170 ซม. น้ำหนัก 55 กก. สัดส่วน 32-25-37 กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ที่มาในชุด “ยักษ์ ยักษิณี” ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และของรางวัลจากผู้สนับสนุนการประกวด

มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2018

“เจนิส-จณิสตา กลับทับลัง”

มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2018

ชุด “ยักษ์ ยักษิณี”

มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2018 มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2018

อย่างไรก็ตามกองประกวดฯ ได้จัดให้มีการประกวดรอบชุดว่ายน้ำ และครีเอทีฟดีไซน์ ในวันที่ 4 ค.ค. ที่ ตรัยญา (หลัง รพ.ปิยะเวท) การประกวดรอบพรีลิมมินารี่ จัดในวันที่ 5 ต.ค. และการประกวดรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ต.ค. ที่ โรงแรมอัล มีรอซ กรุงเทพ รามคำแหง ซ.5


 

สายออร์แกนิก

สวยสู้แดดสู้ฝนกับ 6 Must Have Item สำหรับสายออร์แกนิกไร้สารเคมีโดยเฉพาะ

Alternative Textaccount_circle
สายออร์แกนิก
สายออร์แกนิก

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ถึงอากาศและแดดจะไม่ร้อนเท่าช่วงหน้าร้อนแบบขีดสุด แต่หลายคนก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาความงามที่มาพร้อมกับสายฝนและแดดร้อนอ้าวอยู่ดี นอกจากปัญหาหยุมหยิมพวกนี้ที่ทำให้สาวๆ หลายคนรำคาญใจและสวยไม่สุดแล้ว อีกปัญหาหนึ่งก็มาจากโปรดักส์ที่เลือกใช้ สาวๆ หลายคนหรือส่วนมากมักมีผิวแพ้ง่าย แพ้สารเคมีจากไอเท็มความงาม ไม่ว่าจะเป็นเมคอัพหรือสกินแคร์บางชนิด แต่ทุกวันนี้เทรนด์ออร์แกนิกได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปราศจากสารเคมีที่ทำลายผิว แพรวดอทคอม เลยคัดเคล็ดลับจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสุดธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมีของร้าน All About You มาฝาก ให้สาวๆ พร้อมสวยสู้แดดสู้ฝนแบบสตรองยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นทางเลือกให้กับ สายออร์แกนิก ได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกใช้อีกด้วย

สวยสู้แดดสู้ฝนกับ 6 Must Have Item สำหรับ สายออร์แกนิก ไร้สารเคมีโดยเฉพาะ

สายออร์แกนิก

เริ่มต้นกันด้วยปัญหาที่มักเจอในช่วงหน้าฝน นั่นคือ ต้องสระผมบ่อยขึ้น เนื่องจากโดนฝน ทำให้หลายคนมักจะกังวลว่าถ้าสระผมบ่อยเกินไป จะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้ง รวมไปถึงจะเป็นการทำให้ผมร่วงมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่กังวลในจุดนี้ ลองใช้แชมพูและครีมนวดผม Giovanni Eco Chic® Tea Tree Triple Treat Invigorating Shampoo & Conditioner แชมพูและครีมนวดบำรุงรากผม ลดการหลุดร่วงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม พร้อมบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมานุ่มชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา มีสารสกัด Tea Tree ผนวกกับ Organic 3 ชนิด Peppermint, Rosemary, Eucalyptus อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีน แถมเวลาสระยังผ่อนคลายไปกับกลิ่นหอมเย็น สดชื่น เบาสบายของชาเขียวและเปปเปอร์มินต์

สายออร์แกนิก

ดูแลเส้นผมกันไปแล้ว มาถึงผิวหน้ากันบ้าง หน้าฝนเป็นฤดูกาลที่มีเชื้อโรคมาตามละอองฝนเยอะ เพราะฉะนั้นเราต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อป้องกันแบคทีเรียและสิ่งสกปรกทำร้ายและอุดตันบนผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก แต่อ่อนโยน หลังจากเช็ดเครื่องสำอางแล้ว แนะนำ Alteya Pure Facial Cleanser & Wash สูตร Pure Lavender เจลทำความสะอาดผิวหน้า สูตรเพียว ลาเวนเดอร์ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการปรับสมดุลผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มน้ำ ด้วยคุณค่าของน้ำมันดอกลาเวนเดอร์บริสุทธิ์จากบัลแกเรีย ช่วยทำความสะอาดผิวจากความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก มลภาวะที่เราต้องเจอได้อย่างหมดจด ที่สำคัญเมื่อใช้ล้างหน้าแล้วจะรู้สึกว่าหน้านุ๊ม..นุ่ม ผิวไม่แห้งตึงหรือมีความลื่นติดอยู่ที่ผิว แถมกลิ่นลาเวนเดอร์ยังช่วยทำให้ผ่อนคลายสุดๆ ไปเลย

สายออร์แกนิก

หลังล้างหน้าเสร็จก่อนขั้นตอนการบำรุง อย่าลืมใช้โทนเนอร์ เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดยิ่งขึ้นและเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับครีมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพราะในหน้าฝน ผิวเราจะแห้งมากกว่าปกติ และแอลกอฮอล์อาจทำให้หน้าของเราแห้งมากยิ่งขึ้น  นาทีนี้ขอนำเสนอโทนเนอร์ที่กำลังมาแรง อยู่ในกระแสบอกต่อนั่นคือ Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์จากสารสกัดออร์แกนิกจากต้น Witch Hazel พร้อมด้วยว่านหางจระเข้ สำหรับสูตร Rose Petal จะอุดมไปด้วยน้ำมันธรรมชาติที่จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม น้ำตาลธรรมชาติในกลีบกุหลาบจะช่วยปลอบประโลมผิว คุณสมบัติจากกลีบกุหลาบช่วยมอบความชุ่มชื้นและกระชับรูขุมขน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน C ที่จะช่วยสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวแข็งแรงและมีคุณสมบัติในการสมานแผล เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว และสิ่งที่ทำให้หลายคนรักโทนเนอร์ตัวนี้ คือใช้แล้วรูขุมขนเล็กลง ลดการเกิดสิว ผิวนุ่มชุ่มชื่น และไม่ระคายเคือง แถมกลิ่นกุหลาบยังหอมละมุนใจ

สายออร์แกนิก

ช่วงหน้าฝนนอกจากควรทานวิตามินซีเพื่อป้องกันการเป็นหวัดแล้ว อย่าลืมเติมวิตามินซีให้ผิว เพื่อให้ผิวกระจ่างใส เปล่งออร่าสู้วันขมุกขมัว แนะนำ Mad Hippie Vitamin C Serum วิตามินซีอนุพันธ์ Sodium Ascorbyl Phosphate หรือ STAY C® 50  ซึ่งเสถียรกว่าวิตามินซีทั่วไปและระคายเคืองได้น้อยกว่า มีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำ ฝ้ากระ และริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระชับรูขุมขน ลดโอกาสการเกิดสิว

สายออร์แกนิก

ถึงแม้หน้าฝนเราจะรู้สึกเหนอะหนะได้ง่ายจากความชื้นในอากาศ แต่อย่าลืมว่าผิวเราจะแห้งได้ง่ายกว่าปกติเช่นกัน ห้ามลืมเติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เด็ดขาด ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวหรือมีริ้วรอย ลองเลือกครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีและซึมลงผิวได้ง่าย อย่าง Oliv Blooming Face Care ครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อนุ่มลื่นบางเบา สูตรต่อต้านริ้วรอย ช่วยต่อสู้กับกาลเวลาย้อนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ด้วยสาร oligopeptides และ Sepilift® ที่ช่วยยกกระชับผิวและเสริมสร้างกระบวนการผลิตคอลลาเจนให้ผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่งและแข็งแรงขึ้น พร้อมซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ได้รับความเสียหาย ลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง

ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด แม้เราจะคิดว่าหน้าฝนไม่ค่อยมีแดดก็อย่าชะล่าใจ เพราะรังสี UVA UVB ยังสามารถทะลุชั้นบรรยากาศลงมาทำร้ายผิวเราได้ ลองกันแดดที่มีส่วนผสมจาก “Superfruits” ที่ช่วยกันแดดและบำรุงไปในตัว อย่าง JUV Water Gel UV Protection SPF50 PA+++  กันแดดเนื้อสัมผัสเบาสบาย ทาแล้วรู้สึกสบายผิว ช่วยคุมความมัน ไม่อุดตัน และยังมีประสิทธิภาพปกป้องผิวได้จากทุกแสงที่ทำร้ายผิว เช่น UVA UVB แสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงฝุ่นละอองมลภาวะ

คราวหน้าไม่ว่าจะเจอฝนปรอยๆ หรือพายุลูกใหญ่ ก็สวยมั่นใจและยังปลอดภัยไว้ก่อนแล้วค่า


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : All About You

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เหตุผลที่ควรใช้โทนเนอร์! พร้อมแนะ 5 โทนเนอร์ ช่วยกระชับรูขุมขน ปรับสมดุลผิว

ใช้เองชอบเอง! “สรัย วัชรพล” ชี้เป้า 7 สกินแคร์ตัวเด็ดที่ใช้เป็นประจำ

สวยฉ่ำเบอร์แรง! “ซงฮเยคโย” ออร่าจับในงานเปิดตัวสกินแคร์ชื่อดังที่ฮ่องกง

เกิดมาเพื่อบำรุง! แนะ 12 สกินแคร์น่าลอง และชี้ความต่าง Essence กับ Serum

ของมันต้องใช้! แนะสุดยอด 5 สกินแคร์ ดูแลผิวรอบดวงตาขจัดปัญหาตีนกา ใต้ตาบวมคล้ำ

ผิวมันแต่ดันขาดน้ำ! หยุดทู่ซี้ใช้สกินแคร์แบบเดิมๆ แนะ 5 ไอเท็มกู้ภัยผิวพังเชิงรุก

ที่สุดของการดูแลผิว! 4 ส่วนผสมธรรมชาติ ดาวเด่นดวงใหม่ในวงการสกินแคร์

น่าใช้มากๆ “5 สกินแคร์” ที่มี Vitamin C เป็นส่วนผสมหลัก ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้ขาวใสออร่าจับขั้นสุด

ระวังหน้าพัง!! สารอันตรายที่ไม่ควรมีในสกินแคร์และเครื่องสำอาง พร้อมวิธีทดสอบด้วยตัวเองเบื้องต้น

รู้แล้ว…ทำไม “เดย์ครีมกับไนท์ครีม” ถึงใช้บำรุงแทนกันไม่ได้!! พร้อมชี้เป้า 9 แบรนด์สกินแคร์น่าลอง

แชร์ 10 สกินแคร์ถนอมผิวสวยดูอ่อนเยาว์ของเซเลบสาว พอลลี่-พรพรรณ สิทธินววิธ

 

 

 

บรู๊ค - ดนุพร

บรู๊ค – ดนุพร ในฐานะผู้จัดฯ มองงานบันเทิงกับการเมืองเหมือนกัน คือทำให้คนมีความสุข

บรู๊ค - ดนุพร
บรู๊ค - ดนุพร

บรู๊ค – ดนุพร ยังติดใจงานในวงการ ขอทำควบคู่ เพราะมองว่าบันเทิงกับการเมืองคืองานที่ทำให้คนมีความสุขเหมือนกัน

บรู๊ค - ดนุพร กับน้องณดา

กลับมารับงานในวงการบันเทิงในฐานะผู้จัดละครมา 3 ปีแล้ว สำหรับนักการเมืองหนุ่ม บรู๊ค – ดนุพร ปุณณกันต์ ที่ตอนนี้กำลังจะมีผลงานละครซีรีส์ Diamond Eyes ตาสัมผัสผี ซีซั่น 2 ทางช่อง MONO29 และเจ้าตัวได้ควงลูกสาว “น้องณดา” มาร่วมงาน OPEN HOUSE เปิดจักรวาลความบันเทิง MONO GROUP ที่ Studio Mono 29 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา

บรู๊คในฐานะที่เคยผ่านงานมาทั้งบันเทิงและการเมือง ได้เล่าให้ฟังว่า งานทั้งสองอย่างเหมือนกัน คือทำให้คนมีความสุข และตนก็ชอบทำทั้งสองอย่าง แต่ยังไม่ได้ทิ้งงานการเมือง เพียงแค่ถอยมาทำงานด้านบันเทิงที่เคยทำ จากเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไปทำเบื้องหลัง ซึ่งตอนนี้ก็แฮ็ปปี้กับงานตรงนี้ดี และเจ้าตัวก็ได้อัพเดตถึงงานละครเรื่องนี้ให้ฟังอีกว่า ตอนนี้ปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บรู๊ค - ดนุพร ปุณณกันต์

ละครของบรู๊คที่เป็นผู้จัดฯมีกี่เรื่อง

“ก็มีไดมอนด์ อายส์ ซีซั่น 2 ที่ผมเป็นผู้จัดฯด้วย เล่นเองด้วย ภาคที่แล้วไม่ได้เล่น”

ภาคนี้ทำไมถึงยอมเล่นเอง

“มันเป็นการปรับเปลี่ยนในเรื่องความยาวของซีรีส์ อย่างภาคแรก 1 ชั่วโมง พอซีซั่นที่ 2 ปรับเป็น 2 ชั่วโมง ยาวขึ้น แล้วประจวบกับเรารีบที่จะเปิดกล้อง พอดีคิวน้องชาคริตไม่ว่าง เราต้องมาปรับรูปแบบกันใหม่เพื่อที่จะเปิดซีซั่น 2 ให้ได้ตามที่ช่องวางไว้ ก็เลยมีการปรับเปลี่ยน ผมก็เลยไปช่วยเล่นด้วย เพราะต้องไปกองอยู่แล้ว ก็เล่นไปด้วยเลย แล้วภาคนี้ก็มีการปรับเปลี่ยน เชิญแขกรับเชิญมาเป็นตอนๆ”

ห่างจากงานละครไปกี่ปีแล้ว

“โอ้โห 10 กว่าครับ 12 – 13 ปี ตั้งแต่ไปอยู่การเมือง ก็เพิ่งได้กลับมานี่แหละครับ”

ต้องเคาะสนิมเยอะไหม

“พอสมควรครับ ก็ต้องทำความเข้าใจเรื่องของบทใหม่อะไรใหม่ เราอยู่ตรงนี้มาพอสมควร ก็ไม่ได้ยากมาก”

ซีซั่น 2 ถ่ายไปถึงไหนแล้ว

“ตอนนี้ปิดกล้องแล้วครับ”

บรู๊ค - ดนุพร กับน้องณดา

ได้กลับมาเล่นละครอีกครั้งในรอบ 10 กว่าปี รู้สึกยังไงบ้าง

“ก็สนุกดีครับ เป็นซีรีส์บู๊ แอ๊คชั่น ถูกใจผู้ชายอยู่แล้ว ผู้ชายชอบ ก็เลยมีความรู้สึกว่าสนุกดี เรื่องนี้น้องกบ (สุวนันท์) มาเล่นด้วย เป็นแขกรับเชิญ ก็มีได้เข้าฉากด้วยกันครับ”

แบบนี้เตรียมวางมืองานการเมืองเลยหรือเปล่า

“การเมืองยังไม่ทราบครับ เพราะจะมีเลือกตั้งปีหน้า ก็ยังไม่รู้ว่าจะยังไง ตอนนี้ถอยเรื่องการเมืองออกมา ก็มาทำบันเทิง งานที่เราเคยทำ เมื่อก่อนอาจจะทำเบื้องหน้า ตอนนี้ถอยไปทำเบื้องหลัง การเมืองไม่ได้ทิ้ง แต่ยังไม่ได้เข้าไป ยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งแน่ๆ เมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นรอดูก่อน”

ตอนนี้เลยทุ่มเทให้งานบันเทิงเป็นหลัก

“ใช่ครับ ตอนนี้เหมือนซีซั่น 2 ปิดกล้องไปแล้ว ช่องก็เรียกถามว่าซีซั่น 3 จะมาเมื่อไหร่ ก็กำลังวางแผนกันอยู่ครับ”

กลับมาทำงานบันเทิงกี่ปีแล้ว

“3 ปีแล้วครับ”

ช่องอื่นมีติดต่อมาไหม

“มีเหมือนกัน แต่คิวไม่ค่อยมีครับ ตอนนี้ก็ต้องทุ่มเทที่เรื่องนี้ก่อน”

บรู๊ค - ดนุพร กับน้องณดา

ระหว่างงานบันเทิงกับการเมือง ชอบงานไหนมากกว่ากัน

“จริงๆ ชอบหมดแหละครับ งานบันเทิงกับการเมืองมันก็เหมือนกัน คือทำให้คนมีความสุข เพียงแต่ว่าบันเทิงอาจจะทำให้คนยิ้มสนุก แต่การเมืองก็จะอีกแบบหนึ่ง คือใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น อย่างที่เห็นในทีวีก็คนละรูปแบบกัน แต่เป็นงานที่ทำให้ประชาชนทั้งสองแบบ อยู่ที่ว่าจังหวะความเหมาะสมจะเป็นช่วงไหนมากกว่ากันครับ”

 

 

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

เห็นแล้วแพ้ทาง! คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal เน้นงานลายเส้นวาดมือตามแบบฉบับดั้งเดิม

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal
คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

ความสนุกและการเดินทางครั้งใหม่ที่แฝงไปด้วยความน่าสนใจกับ คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

ยัสปาล (JASPAL) แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย เปิดการเดินทางและความสนุกครั้งใหม่ใน ‘คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal’ ที่ร่วมกับ วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส (Walt Disney Pictures) รังสรรค์ความ Sophisticate แต่แฝงด้วยความสนุกในคอลเล็คชั่นนี้ ด้วยคาแร็คเตอร์แสนคลาสสิกตลอดกาล อย่าง “มิกกี้ เม้าส์” ที่นำเอาความวินเทจ แต่เพิ่มความสนุกสนานด้วยลายเส้นและเทคนิคการตัดเย็บในแบบฉบับของ ยัสปาล ไว้ด้วยกัน ที่แม้จะมีความคลาสสิกจากตัวการ์ตูน แต่สามารถสวมใส่ในบริบทต่างๆ ได้

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

เมื่อการเดินทางครั้งใหม่ของ “มิกกี้ เม้าส์” ที่นำเอามาคอลลาบอเรทกับ “ยัสปาล” ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าจะรังสรรค์ความสนุกสนานกับตำนานอมตะตลอดกาล เข้ากับความ Sophisticate ไว้อย่างลงตัว โดยนำเอาแรงบันดาลใจจากคาแร็คเตอร์ในช่วงปี ค.ศ.1928 – 1938 หรือช่วง 10 ปีแรกของการ์ตูนเรื่องนี้มาออกแบบ ด้วยความที่เป็นช่วงแรก จึงยังคงความออริจินัลไว้มากที่สุด กล่าวคือ การเป็นการ์ตูน 2D จะคงความวินเทจที่คงเสน่ห์แบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นเอกลักษณ์ในช่วง 10 ปีแรกคาแร็คเตอร์จาก “มิกกี้ เม้าส์” นั้น ดวงตาจะเป็นจุดกลมดำ ซึ่งมีความแตกต่างและแปลกตากว่ามิกกี้ เม้าส์ ในปัจจุบัน ทำให้ดีไซน์ในครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานความแคชชวล ที่สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาสตามแบบฉบับยัสปาล มาผสานกับความสนุกที่คลาสสิก ที่กำลังได้รับความนิยมในโลกแห่งแฟชั่นขณะนี้

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น “Disney x Jaspal”นี้ ยัสปาล ใส่ใจในรายละเอียดในการทำให้ตัวมิกกี้ เม้าส์มาอยู่บนเสื้อผ้าได้อย่างมีเรื่องราว ไม่ใช่แค่การวางภาพลงไป ฉะนั้นไม่เพียงแฟนมิกกี้ เม้าส์ เท่านั้น แต่ทุกคนจะยังสามารถสนุกกับทุกไอเท็มที่บรรจงสร้างเรื่องราวลงบนเสื้อผ้าแต่ละชิ้น มีการปรับลายเส้นที่ยังคงรูปร่างเดิม แต่เปลี่ยนเท็กเจอร์ให้เป็นลายเส้นแบบฟรัแฮนด์เพิ่มความสนุก ไม่ซีเรียส เป็นความไม่สมบูรณ์ที่ตั้งใจ นอกจากนั้นลายเส้นแบบวาดมือ ยังแสดงถึงอินเนอร์ของคอลเล็คชั่นนี้ที่ต้องการสื่อสารภาพที่นำเสนอได้ดีกว่าภาพที่ลงสีแล้วอย่างเพอร์เฟ็คท์

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

สำหรับเทคนิคการตัดเย็บพิเศษที่ยัสปาล เลือกใช้คือการปักมือ การใช้ลูกเล่นลายเส้นด้าย รวมทั้งงานแพ็ทช์เวิร์ค ใช้เท็กซ์เจอร์ผ้ากำมะหยี่มารังสรรค์เป็น มิกกี้ เม้าส์ เพิ่มความหรูหราด้วยเทคนิค Glitter screen แต่ก็มีบางไอเท็มที่ต้องการเน้นถึงความเป็นสตรีทแวร์ สวมใส่สไตล์แคชชวลได้ในทุกๆ วัน

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

คอลเล็คชั่น Disney x Jaspal

‘ปิ๊งต่างชาติในที่ทำงาน แต่ไม่ได้มีท่านคนเดียว ต้องดูว่ามงจะลงที่ใคร’ ดูดวงรายวัน 4 ตุลาคม 2561

ดูดวงรายวัน 4 ตุลาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  แม้รอบกายท่านจะเต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์ หรือหน้าที่การงาน แต่วันนี้ท่านไม่ขอยุ่งด้วย ขอพักหลังจากสู้กับวิกฤติมายาวนาน เพื่อรอโอกาสและจังหวะที่จะกลับมาสู้ใหม่

การเงิน :  หมุนเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อนำไปใช้ในการลงทุน ทั้งที่ท่านก็ยังไม่เห็นผลที่จะกลับเข้ามาเลย จึงมีโอกาสพลาดสูง

ความรัก : รักและผูกพันกับครอบครัวมาก แต่เพราะท่านมีทิฐิ ไม่ชอบให้คู่มาจำกัดความคิดอิสรภาพมากนักจึงทำให้ครองรักไม่ราบรื่นเท่าที่ควร คนโสด  รักใครรักจริง แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ก็ต้องผ่านศึกมาพอสมควร

สุขภาพ : หากเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ควรระวังเรื่องอาหาร และการใช้ของร่วมกับคนอื่น ท่านอาจติดเชื้อไวรัส หรือภูมิแพ้ได้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : ท่านอยู่ในสถานการณ์การแข่งขันแย่งชิง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา อาจเป็นการสอบชิงทุนเรียนต่อ หรือการสอบเลื่อนขั้น โดยที่ไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมนัก ควรให้ความสำคัญในการเลือกบริวารที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงาน เพราะจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ให้ประสบความสำเร็จ

การเงิน :  สนใจเนื้อหาของงานมากกว่าผลประโยชน์ ซึ่งท่านก็จะมีโอกาสได้รับเงินรางวัล

ความรัก : จะอยู่กันแบบเพื่อนคู่คิด หรือเพื่อนที่คอยสนับสนุนและดูแลชีวิตส่วนตัวของท่านให้สมบูรณ์ เพราะช่วงนี้อาจงานยุ่งจนไม่ได้สนใจเรื่องของตัวเองและครอบครัวเลย คนโสด ปิ๊งๆๆ กับชาวต่างชาติในที่ทำงาน แต่ก็ไม่ได้มีท่านมองคนเดียว อยากได้ก็ต้องแย่งชิงกันหน่อย

สุขภาพ : อย่าประมาท เพราะท่านอาจได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิดในชีวิตประจำวัน

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : เตรียมรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว จนท่านต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบในเรื่องของการตกแต่งอาคารบ้านเรือน หรืองานสารพัดช่างต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเงิน : มีปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องในงานรับเหมาก่อสร้าง หรืองานช่างต่างๆ

ความรัก : อาจมีโครงการที่จะตกแต่งต่อเติมบ้าน หรือซ่อมแซมต่างๆ ซึ่งท่านพยายามทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้ในการณ์นี้ แต่วันนี้จะมีปัญหาระหว่างกันจนงานต้องยกเลิก    คนโสด   ท่านอาจมีความรักที่ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย ไปอยู่ด้วยกันแบบลับๆ

สุขภาพ :  ควรระวังอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงานหนัก โดยเฉพาะในแนวกระดูกสันหลังอาจบาดเจ็บได้

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  วันนี้ท่านมีหลายอารมณ์มาก คือมีเป้าหมายความสำเร็จชัดเจน แต่ขณะเดียวกันท่านก็รู้สึกร้อนรุ่มอึดอัดกับบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาจนอยากพัก ไม่อยากทำงานแล้ว แต่สุดท้ายท่านก็ต้องทำต่อไป

การเงิน : มีโชคลาภตลอดเวลา แต่จะหมดกับการเดินทาง การเข้าสังคม และการลงทุนใหม่ๆ วันนี้ระวังท่านอาจเป็นหนี้ได้

ความรัก :  ท่านแบกรับภาระเรื่องราวของบริวาร คนรัก คนใกล้ชิดค่อนข้างมาก ทำให้มีเรื่องวุ่นวายใจหรือเดือดร้อนใจเพราะคนใกล้ชิดอยู่เสมอ จึงควรปล่อยวางและช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น เพราะไม่เช่นนั้นท่านอาจนำความเครียดมาให้กับคู่ จนทะเลาะกันเอง คนโสด มีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาวุ่นวาย จนพวกท่านทะเลาะกันเพราะความหึงหวง

สุขภาพ :  อวัยวะที่ต้องระวังคือ ตั้งแต่สะโพกจนถึงช่วงขา มีโอกาสบาดเจ็บจากโรคข้อและเอ็นเสื่อมจากการเดินทาง การทำงานที่ต้องยืน เดินเป็นเวลานาน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : หากท่านอยู่ในแวดวงของศิลปะ ความสวยความงาม ความบันเทิงเริงรมย์ วันนี้ขอให้มุ่งไปสู่เป้าหมายที่วางไว้จะทำให้ท่านได้พบกับความสำเร็จ และมีชื่อเสียง

การเงิน : ความคิดสร้างสรรค์จะนำทรัพย์และชื่อเสียงมาให้

ความรัก :  ท่านมีภาวะผู้นำสูง แม้จะถูกเลี้ยงมาแบบคุณหนู แต่ท่านก็สามารถรับผิดชอบเศรษฐกิจในครัวเรือน และส่งเสริมหน้าที่การงานของคู่ได้ คนโสด ท่านสวยรวยเสน่ห์ เพียบพร้อมทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกหน่อยล่ะ ไม่ใช่ใครก็ได้

สุขภาพ :  ระวังเรื่องน้ำหนัก เพราะจะทำให้สะโพกจนถึงขารับน้ำหนักมาก จนอาจมีอาการปวดและเสื่อมได้

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ท่านรับอาสาเจ้านายไปปฏิบัติงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งท่านครุ่นคิดถึงการทำงานตลอดเวลา เพราะอยากให้สำเร็จ จนอาจถูกหักหลังได้ จึงควรใช้ความเป็นศิลปินที่มีอยู่ในตัวให้เป็นประโยชน์สูงสุด

การเงิน :  จะหมดเงินกับการช่วยเหลือบุคลลอื่นจนตัวเองเดือดร้อน แต่ก็โชคดีที่ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

ความรัก : ท่านทำแต่งานจนไม่ได้สนใจคู่หรือตัวเองเลย ก็อาจมีการแยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ชอบของตัวเอง เช่น คู่อยากไปเที่ยวก็ไปกับเพื่อน ท่านอยากทำงานก็ทำไป  คนโสด วันนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะอยู่คนเดียวหรือจะมีคู่ดี

สุขภาพ : ระวังเรื่องระบบการย่อยอาหาร โรคกระเพาะ ลำไส้ จะมีอาการปวดหรือเสียดท้องได้ง่าย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งระหว่างทางจะมีปัญหาและอุปสรรคให้ตามแก้อยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ท่านไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ ควรหาเพื่อนร่วมงานหรือบริวารที่เป็นเด็กไฟแรงก็จะสามารถสร้างผลงานที่ดีและโดดเด่นได้

การเงิน :  หลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้การงานมัวหมองได้

ความรัก : จะมีผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายแอบกระซิบท่านว่า แฟนมีกิ๊ก จะจริงหรือไม่ ก็ขอให้รู้ไว้ว่า คนนี้มาเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างเดียว คนโสด ติดอยู่ในบ่วงรักจนไม่เป็นอันทำมาหากินใดๆ

สุขภาพ :  ก็ยังต้องระวังเรื่องการทานอาหาร งดของแซ่บๆๆ ไปก่อน เพราะวันนี้ท่านอาจมีอาการอาหารเป็นพิษ

แบบแหวนแต่งงาน สุดคลาสสิค กับดีไซน์เรียบง่าย ที่ใส่ได้ยาวๆ

account_circle

นอกจากเรื่องชุดแต่งงานแล้วก็มี แบบแหวนแต่งงาน นี่แหละที่สาวๆ เลือกยากไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะมีแค่วงเดียวในโลกแล้ว สาวๆ ยังต้องสวมแหวนวงนี้ติดนิ้วไว้ตลอดเวลาอีกด้วย จนบางครั้งอาจแอบถามตัวเองเบาๆ ว่า “ถ้าใส่ไปเรื่อยๆ แล้วจะเบื่อไหมนะ” แพรว wedding เลยมีแบบแหวนสวยๆ ประดับเพชรรูปทรงคลาสสิค ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายที่ใส่เท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อมาฝาก

หรือถ้าหากจะให้ดีสาวๆ อาจจะเลือกแหวนแต่งงานแบบประดับเพชรเม็ดเดียวในตอนแรก แล้วค่อยๆ เพิ่มการประดับเพชรเพิ่มไปทีละเม็ดๆ ทุกปีในวันครบรอบ เท่านี้ก็เหมือนได้แหวนแต่งงานวงใหม่ทุกปีแล้ว

ติดตามแบบแหวนสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ brides.com, unsplash.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

NESPRESSO ชวนสัมผัสประสบการณ์การเดินทาง กับ 5 รสชาติใหม่จากต้นกำเนิดกาแฟทั่วโลก

Nespresso (เนสเพรสโซ) นําโดย ซามูเอล แดมเบรวิลล์ ผู้อํานวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์เนสเพรสโซ ประเทศไทย จัดงาน Nespresso Back to the Origin ชวนบรรดาคอกาแฟร่วมเปิดประสบการณ์การเดินทางแห่งการ เสาะหาแหล่งกาแฟที่มีคุณภาพและลิ้มลองกาแฟ Master Origin 5 รสชาติใหม่ ที่ดึงเอกลัษณ์ของประเทศต้นกําเนิด ผสานกับกรรมวิธีพิเศษ ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศได้อย่างลงตัว ซึ่งกว่าจะค้นพบกาแฟมาสเตอร์ ออริจิน แต่ละชนิด ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของเนสเพรสโซได้มีการสํารวจค้นหาแหล่งต้นกําเนิดกาแฟ โดยเริ่มจากภูเขา สุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ไปจนถึงเนินสูงประเทศนิการากัว เพราะเนสเพรสโซเชื่อว่ากาแฟในแต่ละภูมิประเทศมี เอกลักษณ์และความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และได้ร่วมมือกับเกษตรกรผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกกาแฟท้องถิ่น ผสมผสานกับ 5 เทคนิคการแปรรูปกาแฟอย่างเชี่ยวชาญของแต่ละท้องถิ่น และในที่สุดก็ได้กาแฟ Master Origin 5 กาแฟ รสชาติใหม่ที่มีรสชาติและความหอมกรุ่นเป็นเอกลักษณ์

ภายในงาน Nespresso ได้เนรมิตพื้นที่คอมมูนิตี้โกดัง Warehouse 30 ซอยเจริญกรุง 30 ออกมาในคอนเซ็ปต์ Back to the Origin ซึ่งพาบรรดากาแฟเลิฟเวอร์กลับไปสํารวจจุดเริ่มต้นของการกําเนิดกาแฟอย่างแท้จริงท่ามกลาง บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแหล่งกําเนิดกาแฟ และอบอวลไปด้วยกรุ่นกลิ่นหอม ของกาแฟที่ชวนให้ทุกคนหลงใหล

โดยภายในงานมีกิจกรรม DIY เริ่มจาก Calligraphy ที่ให้เขียนชื่อตัวเองลงบนที่รองแก้วลายไม้ ตามด้วย Candle DIY รังสรรค์เทียนหอมกลิ่นเฉพาะตัวที่ดึงเอาความหอมที่แตกต่างจากกาแฟ Master Origin ทั้ง 5 รสชาติ ไม่ว่า จะเป็นกลิ่นหวานคล้ายน้ําผึ้ง ที่ได้แรงบรรดาลใจมาจากจากกระบวนการการแปรรูปกาแฟ Black Honey ของกาแฟ Master Origin Nicaragua หรือ กลิ่นหอมคล้ายผลไม้ จากกระบวนการตามธรรมชาติ ซึ่งได้แรงบรรดาลใจมาจากกาแฟ Master Origin Ethiopia หลังจากนั้นจะได้พบกับการเดินทางสุดพิเศษซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของงานที่ได้นำ 5 แหล่งต้น

กำเนิดกาแฟ ที่ผสมผสานกระบวนการการแปรรูปกาแฟอย่างเป็นเอกลักษณ์ รังสรรค์มาเป็นกาแฟรสชาติใหม่ ทั้ง 5 รสชาติอันประกอบด้วย Master Origin Ethiopia (มาสเตอร์ออริจินเอธิโอเปีย), Master Origin Colombia (มาสเตอร์ออริจิน โคลอมเบีย), Master Origin Indonesia (มาสเตอร์ออริจินอินโดนีเซีย), Master Origin India (มาสเตอร์ออริจินอินเดีย) และ Master Origin Nicaragua (มาสเตอร์ออริจินนิการากัว) มาให้ได้สัมผัสครั้งแรกอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ยังได้รับ เกียรติจาก คุณบอย – สาธิต กลิ่นสาโรจน์ Coffee Specialist จากเนสเพรสโซมาเล่าเรื่องราวของต้นกําเนิด และกระบวนการแปรรูปของกาแฟที่แตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น พร้อมการนําเสนอร่วมกับมัลติมีเดียที่เปลี่ยนบรรยากาศไป ตามแต่ละต้นกําเนิดกาแฟ ให้ความรู้สึกราวกับได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์ยังสถานที่จริง

งานนี้ยังได้รับเกียรติจากบรรดาเซเลบริตี้คอกาแฟ อาทิ ดวงฤทธิ์ บุนนาค, พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ, พิมพ์เลิศ ใบหยก, จารุจิต ใบหยก, สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล, วรรณพร โปษยานนท์, อธิชัย โปษยานนท์, จริยดี สเปนเซอร์, เจ สเปนเซอร์, หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ, ภูวนาท คุนผลิน, สาวิตรี โรจนพฤกษ์, จงกล พลาฤทธิ์, ศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย และวสุ วิรัชศิลป์ มาร่วมลิ้มลองกาแฟ Master Origin 5 รสชาติใหม่ของเนสเพรสโซ และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมและบรรยากาศในงาน

คุณสามารถดื่มกับกาแฟพิเศษจากแต่ละท้องถิ่นได้ในรูปแบบของเอสเปรสโซ (40 มล.) หรือแบบลุงโก้ (110 มล.) และกาแฟจากท้องถิ่นเหล่านี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ของเนสเพรสโซทั่วโลกอย่างถาวร ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2561 ราคากล่องละ 240 บาท

สามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของ Nespresso ได้ที่ Nespresso boutique, ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1, Nespresso Pop-Up Boutique, Emquatier Helix Quatier ชั้น G, Nespresso Central Embassy ชั้น 2, โทร ฟรี 1800-019090,

เว็บไซต์ www.nespresso.com หรือแอปพลิเคชันมือถือ Nespresso และสามารถติดตามข่าวสาร รวมทั้งกิจกรรมของ Nespresso ได้ที่ Facebook.com/Nespresso thailand , Instagram : @Nespresso.th หรือ LINE@ : @Nespress0TH

นางแบบข้ามเพศ

ไม่ด้อยกว่าใคร! Aaron Philip นางแบบข้ามเพศสุดสตรอง แม้พิการก็ทำงานได้

Alternative Textaccount_circle
นางแบบข้ามเพศ
นางแบบข้ามเพศ

“ฉันอยากเป็นนางแบบ เพราะฉันมีความสนใจเรื่องแฟชั่น รันเวย์ และการจัดแต่งทรงผมมาตั้งแต่เด็ก แต่ฉันไม่เคยเห็นคนพิการในนิตยสารแฟชั่น หรือบนรันเวย์ หรือแม้แต่การแสดงที่สวยงามเลยสักครั้ง” (“I want to be a model because I grew up with such a keen interest for fashion, runway and styling yet not once did I ever see people with disabilities in any fashion magazines or on the runway or even represented as beautiful in the first place,’ Aaron tells us.”) Aaron Philip นางแบบข้ามเพศ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ใน metro.co.uk

แต่ตอนนี้ฝันก็เป็นจริงสักทีเมื่อ Aaron Philip สาวข้ามเพศ ชาวอเมริกันวัย 17 ปี ที่เป็นโรคสมองพิการตั้งแต่เกิด ได้มีโอกาสเป็นนางแบบกับเขาแล้ว แม้ความพิการจะเป็นอุปสรรคต่ออาชีพนางแบบ เพราะเธอมีความผิดปกติด้านการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ เธอจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วว่องไวเหมือนคนอื่นทั่วไป และต้องนั่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่เคยท้อถอยต่อความลำบากของร่างกาย และคำดูถูกหรือสายตาของคนอื่นๆ เธอยังพยายามสมัครเข้าโมเดลลิ่งเอเจนซี่ไปเรื่อยๆ แม้ตอนนี้จะยังไม่มีโมเดลลิ่งไหนตอบรับหรือเรียกไปเซ็นสัญญาจริงจัง แต่เธอก็มีงานถ่ายแบบกับแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าชื่อดังและนิตยสารเข้ามาบ้าง ถือเป็นโอกาสและจุดเริ่มต้นให้เธอได้พิสูจน์ตัวเอง และพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้ยิ่งขึ้น

เรียกได้ว่าเธอก็เป็นตัวแทนให้สาวประเภทสองที่มีใจรักในแฟชั่นได้กล้าเปิดตัวเองมากขึ้น เพราะขนาดเธอร่างกายพิการยังสู้ไม่ถอยและไม่เคยอายใครเลย

ส่อง Aaron Philip นางแบบข้ามเพศ สุดสตรอง แม้พิการก็ทำงานได้

 


เรียบเรียง : PP_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : metro.co.uk
ภาพ IG : aaron___philip

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่องสไตล์ Kelsey Merritt นางแบบฟิลิปปินส์คนแรกที่ได้เดินรันเวย์ Victoria’s Secret

น่ารักจิ้มลิ้ม! ส่อง Ella Gross นางแบบเด็กลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน ศิลปินฝึกหัดค่าย YG

สวยไม่ต้องปกปิด! Swantje Paulina นางแบบหน้าสวยมาก แต่มีกระขึ้นเต็มใบหน้า

ฟิตอย่างหนัก…อกกลับแฟบ “เมจิ อโณมา” มีความลับของนางแบบฟิตเนสมาบอก

รวม 6 นางแบบ สวยเพอร์เฟ็คในมุมที่แตกต่างจากคนทั่วไป

สวยสุดในโลก! ‘อนก ยาอี’ นางแบบผิวสี ผู้มีค่าตัวหลายแสนบาทต่อชั่วโมง

ว่าที่ซูเปอร์โมเดล! ส่องนางแบบวัยทีน ออร่าแรง สวยจนละลาย

หุ่นสวยราวกับนางแบบไม่ยาก “ลูกเกด – เมทินี” แนะทริคฟิตแอนด์เฟิร์มไว้อวดบอดี้แสนแซ่บ

ส่องสไตล์สุดชิค “ไคอา เกอร์เบอร์” นางแบบวัยทีน ลูกสาวซูเปอร์โมเดล “ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด”

โนสน!! นางแบบคิ้วดกหนาเป็นแพ แม้โดนมองว่าแปลก…แต่สะดวกแบบนี้

แชร์ทริคไดเอ็ตของ “เคนดัลล์ เจนเนอร์” นางแบบสุดฮ็อตหุ่นเซ็กซี่ พร้อมวิธีดูแลผิวสวย

 

 

 

เลือดข้นไม่มีจาง 4 พี่น้องทรัพย์มณีอนันต์ ‘ก๊อป-ภาณุวัฒน์’ หัวเรือใหญ่ลุยธุรกิจจิวเวลรี่

เลือดข้นไม่มีจาง 4 พี่น้องทรัพย์มณีอนันต์ ‘ก๊อป-ภาณุวัฒน์’ หัวเรือใหญ่ลุยธุรกิจจิวเวลรี่…เป็นเวลากว่า 40 ปี ตังแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่เริ่มก่อร่างสร้างธุรกิจจิวเวลรี่ของตระกูลทรัพย์มณีอนันต์จนแข็งแกร่ง ในวันนี้ทายาทที่มารับช่วงต่อก็คือลูกายและลูกสาว  4 พี่น้องของตระกูล ซึ่งก็ได้หัวเรือใหญ่อย่าง ‘ก๊อป-ภาณุวัฒน์’ มาเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป

โดยหลังจากที่เขาร่วมกับพี่น้องเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจจิวเวลรี่ของคุณพ่อคุณแม่ ก็ได้มองการณ์ไกล รื้อระบบเดิม ปรับเรื่องดีไซน์ไม่ให้ดูฟู่ฟ่าเกินไป เพื่อให้สาวๆ รวมถึงหนุ่มๆ สามารถเลือกนำไปมิกซ์กับการแต่งตัวในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นและไม่อยากให้จิวเวลรี่เป็นเพียงไอเท็มที่ใส่ได้เฉพาะออกงานสังคม รวมถึงยังคงรักษาคาแรคเตอร์ที่สั่งสมมานานในเรื่องของความจริงใจ และการให้คำปรึกษาที่เหมาะสมแก่คนที่มาเลือกจิวเวลรี่

ส่วนความยากของผู้ชายที่มาดูแลธุรกิจจิวเวลรี่ที่มีความสวยงามในแบบคุณผู้หญิงเช่นนี้ คุณก๊อป ผู้รับผิดชอบหน้าที่ผลิตและออกแบบจิวเวลรี่ได้เผยให้ฟังด้วยว่า

“จริงๆ ผมเติบโตมากับหลังบ้านของธุรกิจครับ ไม่ได้เติบโตมาทางสายแฟชั่น อีกอย่างหนึ่งส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าเป็นหญิงหรือชายจะแตกต่างกันด้วยนะ แต่ถามว่าเข้าใจตลาดที่เป็นลูกค้าทั้งหมดที่เป็นผู้หญิงไหม ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ เพราะว่าโดยชีวิตของความเป็นผู้ชายก็ต้องดูแลผู้หญิงอยู่แล้ว จีบผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ต้องพยายามคิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงต้องการอะไรชอบแบบไหน อะไรที่ใส่เข้าไปแล้วทำให้เคืองหรือรำคาญ ผมเก็บหมดเรื่องดีไซน์ เราตามเทรนด์ได้ แต่เรื่องการผลิตก็ต้องใส่ความใส่ใจลงไป ดูความหนาของก้านเพชร ก้านแหวน หากหนาไปจะทำให้ผู้หญิงรำคาญไหม เวลาเสยผมจะเกี่ยวผมหรือเปล่า หรืออย่างต่างหู ถ้าทำห่วงไม่แข็งแรงจนไปเกี่ยวกับอะไรจะทำอย่างไร จิวเวลรี่จึงไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่มีเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานที่สำคัญด้วย และความสวยงามก็ขึ้นอยู่กับมุมมองความชอบของแต่ละคน”

ส่วนโหมดโหดหลังความสวยงามของจิวเวลรี่เมื่อได้ฟังก็รู้สึกทึ่งเช่นกัน เพราะคุณก๊อปเล่าว่า “งานจิวเวลรี่เป็นงานที่ค่อนข้างหนักพอสมควรทั้งในด้านจิตใจและร่างกาย เพราะต้องทำงานอยู่กับช่างที่อาจจะเป็นผู้ชายกร่างๆ หน่อย นึกออกไหมครับ รวมถึงกว่าจะได้เป็นวัตถุดิบแต่ละชิ้น ในเรื่องการต่อรอง การเล่นเกม และการบินไปถึงเหมืองเพื่อแย่งชิงเพชรพลอยจากหลากหลายชนชาติ ก็ทำให้เหนื่อยมากๆ เรียกว่าหลังบ้านเป็นสนามรบของผู้ชายกันเลยครับ”

เมื่อถามถึงการมาทำงานร่วมกับพี่น้องที่มีความถนัดและมีสไตล์แตกต่างกัน คุณก๊อปเผยว่ามีความยากและความท้าท้ายไม่น้อย “มีความยากพอสมควรนะ เพราะเราตัดสินใจมาทำงานร่วมกัน ไม่ได้มาจากเหตุผลทางธุรกิจและไม่ได้มาจากเหตุผลทางความสามารถในการทำงาน ฉะนั้นจิ๊กซอว์ที่เราเอามา ไม่ได้เป็นจิ๊กซอว์ที่สามารถรันธุรกิจได้เลย มันเป็นแค่พี่น้องที่ไว้ใจกัน ก็จะต้องมีการปรับจูนความถนัดของแต่ละคนให้อยู่ในที่ต่างๆ อย่างลงตัว ซึ่งความยากมันอยู่ตรงนี้”

ส่วนแรงบันดาลใจในการออกแบบสิ่งใหม่ๆ ก็มาจากการเดินทาง การได้พูดคุยกับแก๊งเพื่อน หรือแม้แต่นอกเวลางานที่ได้มีเวลาว่างอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวเล็กทั้งสองคน

“ผมชอบเดินทาง ชอบร้านอาหารครับ แล้วก็ชอบอยู่กับภรรยา (หัวเราะ) ด้วยธรรมชาติเลยเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เพราะฉะนั้นอะไรที่ผมไม่ชอบ ผมไม่เสียเวลา ไม่เอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น ที่ไหนที่ผมไม่อยากไป ผมก็ไม่ไป คนแบบไหนที่ผมไม่อยากไปอยู่ด้วย ผมก็ไม่ไป (หัวเราะ) มันก็เลยจะเหลืออยู่ไม่กี่ที่ ไม่กี่คน แล้วก็ไม่กี่อย่างที่ผมจะไป เพราะฉะนั้นจึงเหลือแค่ภรรยา ถ้าเลือกได้ผมก็จะเดินทางกับภรรยา 2 คน เดินทางได้ทั่วโลกเลย ไม่มีปัญหา เพราะผมโอเคที่จะอยู่กับเขา ถ้ามีเวลาว่างจริงๆ ก็จะจัดทริปไปกับภรรยา 1-2 ทริป แล้วค่อยไปกับลูก เพราะลูกยังไม่โตเท่าไหร่ ส่วนเพื่อนก็จะเป็นกลุ่มเล็กๆ นัดทานข้าวกับเพื่อนตลอด นัดอยู่ร้านเดียวไม่เปลี่ยนนะ นั่งคุยยาวจนร้านปิด เพราะส่วนตัวผมเป็นคนไม่ค่อยดูโทรทัศน์ เป็นคนไม่อ่านในอินเทอร์เน็ต ผมรู้เรื่องราวข้างนอกจากการคุยกับเพื่อนๆ นี่แหละ ส่วนเวลาคุยกับแฟน ท็อปปิคของแฟนก็จะเป็นแนวกอสซิปหน่อย (หัวเราะ)”

หลังจากรับรู้เรื่องราวอีกด้านของจิวเวลรี่ที่ไม่ได้มีเฉพาะด้านความสวยงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้เลยคือ หากไม่รักในงานที่ทำ ความสำเร็จก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ นอกจากนี้ คุณก๊อป-ภาณุวัฒน์ ผู้บริหารแห่งแบรนด์ JASMIN ยังได้ทิ้งท้ายถึงหัวใจสำคัญของการทำงานนี้ที่ใช้ได้กับอีกหลายอาชีพด้วยว่า การพูดกับเขาตรงๆ จริงใจมากๆ ไม่ได้มีแค่ใน agenda เพื่ออยากจะขายของ ใช้ความรู้ที่มีพยายามตอบเขาให้มากที่สุด แก้ปัญหาให้เขาได้มากที่สุด สิ่งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาหาเรา

 

 

 

BNK48

เผยเบื้องหลัง BNK48 ปัญหาผู้หญิงหยุมหยิม กลุ่มเด็กเทพ ชราไลน์ และแฟนหนุ่ม

Alternative Textaccount_circle
BNK48
BNK48

“เอ๊ะ ละอองฟอง” Music Director ของ BNK48 เปิดเผย เบื้องหลังการปั้นเกิร์ลกรุ๊ปไม่ใช่เรื่องง่าย ปัญหาผู้หญิงหยุมหยิม กลุ่มเด็กเทพ ชราไลน์ และแฟนหนุ่ม คือบทพิสูจน์ที่ต้องผ่านไปให้ได้

ปีที่ผ่านมาหลายคนคงได้เห็นกับตาแล้วว่า กระแสความนิยมของเกิร์ลกรุ๊ปสายเลือดไทย บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต (BNK48) ท่วมท้นขนาดไหน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักได้ยินเพลงฮิตของพวกเธอเสมอๆ และล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการเปิดตัวน้องๆ รุ่นที่ 2 ออกมาอีกหลายสิบคน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าจะเป็นการแย่งชิงตลาดกันเองหรือเปล่า รวมถึงอนาคตของน้องๆ รุ่นที่ 1 จะเป็นอย่างไรต่อไป 

และเมื่อไม่นานมานี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “เอ๊ะ – พงศ์จักร พิษฐานพร” หรือ “เอ๊ะ ละอองฟอง” Music Director ของ BNK48 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการปั้นเกิร์ลกรุ๊ป รวมถึงอุปสรรคและอนาคตของพวกเธอให้ได้ฟังอย่างตรงไปตรงมา

เอ๊ะ - ละอองฟอง
“เอ๊ะ ละอองฟอง” Music Director ของ BNK48

หลายคนบอกว่า BNK48 ที่ยังสามารถไปต่อได้เพราะมีเฮดเป็น “กัปตันเฌอปราง”?

“เหมือนหัวหน้าห้อง เขาเป็นตัวแทนวง วันนี้คนก็ไนซ์กับ BNK เพราะเฌอปราง แล้วเขาเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ เป็นไอดอลจริงๆ ไม่ว่าจะหน้าตาน่ารัก บุคลิกภาพ รวมถึงความคิด ซึ่งก็อยากให้มีทุกคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาโดดเด่นที่สุด อีกอย่างเขาเป็นกัปตันด้วย เหมือนกับหัวหน้าห้องที่ย่อมต้องออกงานเยอะอยู่แล้ว แต่จริงๆ เราก็พัฒนาน้องๆ คนอื่นด้วย”

ถ้ามือวางอันดับ 1 เป็นเฌอปราง ใครกันที่เป็นมือวางอันดับถัดมา?

“ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า BNK48 มีกลุ่มเทพ ก็คือ เฌอปราง, เจนนิส, ปัญ, อร, โมบายล์, เนย ก็จะเป็น 6 – 7 คนที่อยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นก็จะออกข้างหน้าเยอะสุด”

เฌอปราง กัปตัน BNK48
กัปตันเฌอปราง

ในฐานะครูใหญ่ มองไว้ว่าน้องๆ ที่จะสามารถพัฒนาเป็นกลุ่มเทพต้องมีอะไรบ้าง?

“ก็ต้องพยายาม พยายามในที่นี้คือรักษาฐานแฟนคลับ คือมันมีหลายปัจจัยในการเลือกเซ็มบัตสึอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือพัฒนาการของเขา ความนิยมก็มีส่วนเหมือนกัน เด็กๆ จะมี Live ของเขา เขามีการสื่อสารกับแฟนคลับ เขาต้องแสดงคาแร็คเตอร์ออกมา งานจับมือเขาก็ต้องแสดงคาแร็คเตอร์ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นและสนับสนุนเขา นี่คือสิ่งที่เขาต้องทำ เพราะฉะนั้นก็เลยมีความเครียดและกดดันในกลุ่ม เลยเป็นที่มาของเรื่องการเปรียบเทียบว่าคนนั้นมีแฟนคลับเยอะกว่าคนนี้ เอาจริงๆ ส่วนตัวน้องๆไม่ได้ซีเรียส แต่แฟนคลับไปเมาท์กันเอง เด็กก็เครียด เพราะเขาเสพสื่อออนไลน์”

วิธีการที่จะเลือกใครสักคนขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์?

“ต้องประกอบด้วยทัศนคติ แอตติจูด พัฒนาการ สกิล ความเหมาะสมกับเรื่องราวของเพลง และความนิยม บัตรจับมือมีผล มันจะบอกเลยว่าใครในช่วงนี้เป็นที่นิยม เพราะมันเป็นการทำงานร่วมกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เด็กๆ ก็ต้องให้แฟนๆ สนับสนุนเขาเพื่อที่จะได้ไปอยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นติ่งอย่างเดียวไม่ได้ พยายามอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องทำทุกอย่าง สู้กันมากๆ เลย”

การรักษาชื่อเสียงและความนิยม เพราะวงการบันเทิงดังเร็วก็ไปเร็ว?

“พี่บอกเด็กตั้งแต่วันแรกที่ทำ BNK48 ยังไม่มีใครรู้จัก ยังเป็นสก๊อยกันอยู่เลย คือด้วยความที่เราอยู่วงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน เราก็เห็นวัฏจักร ของแท้เท่านั้นที่จะอยู่ได้ ของสดหมดอายุก็หายไป มันคือเรื่องจริง เพราะฉะนั้นตอนนี้น้องๆ เหมือนสตรอว์เบอร์รี่ ทุกคนอยากจะกินเพราะมันสด แต่อย่าลืมว่ามันมีวันหมดอายุ มีเน่าได้ ถึงเวลานั้นก็มีแผงใหม่ขึ้นมาตั้ง”

กรุ๊ปเก่ามีใครที่มีแววเป็นตัวจริงบ้าง?

“หลายคนนะ พี่ว่าเกินครึ่ง โดยตอนนี้เราก็พยายามพูดคุยกับน้องๆ รุ่น 1 ไม่ใช่แค่มาเต้นหรือมาร้องเพลงเท่านั้น เราอยากให้เขาเห็นเป้าหมายในชีวิตชัดเจน บอกมาเลยว่าอยากเป็นอะไร ถ้ายังนึกไม่ออกก็ให้ไปคิดมา หรือครูช่วยคิดไหม เพราะเรามีหน้าที่ดันเด็กๆ คล้ายๆ เรียนมหาวิทยาลัยที่ปี 1 เราเรียนวิชาเบสิก ปีต่อไปก็ต้องเลือกวิชาเอกวิชาโทแล้ว ถ้าไม่เลือก จบไปก็ไม่มีงานทำ มันก็เหมือนกันเลย ตอนนี้ก็รีบเตือนรุ่น 1 ว่า ถ้าเขายังหาตัวเองไม่เจอ เขาจะกลายเป็นชราไลน์ ความน่ารักสดใสมันไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไปนะ

“เอาจริงๆ นับหัวได้เลย ศิลปินผู้หญิงในเมืองไทยมีกี่คนกัน ดา เอ็นโดรฟิน, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, นิว – จิ๋ว ฯลฯ แล้วถามว่าพวกเขาเก่งได้ครึ่งหนึ่งของพี่ๆ หรือยัง ถ้ายังไม่ได้ก็ต้องพัฒนาต่อไป บอกเลยว่าตอนนี้เป็นช่วงทำคอร์ดของรุ่น 1 อยู่ เขาจะไม่ใช่แค่สตรอว์เบอร์รี่ แต่จะเป็นสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ที่คนสามารถหยิบใช้ได้ตลอดเวลา ส่วนรุ่น 2 ตอนนี้ก็ลุยไปในวิชาเบสิกก่อน ลุยให้เต็มที่เพราะเขายังไฟแรงอยู่ ลุยให้รู้ว่ามันเป็นอย่างไรแล้วค่อยมาว่ากัน”

BNK48 รุ่น 1 คุกกี้เสี่ยงทาย
BNK48 รุ่น 1

มันยากขึ้นไหมกับการทำ BNK48 รุ่น 2 เพราะตอนที่รุ่น 1 เราขายความสดใหม่ ส่วนนี้เลยไปอยู่ที่รุ่น 1 หมดแล้ว ดังนั้นพอรุ่น 2 ออกมา มันก็ดูไม่ค่อยมีอะไรที่น่าตื่นเต้นเลย?

“อาจจะเพราะแฟนๆ ยังไม่ค่อยได้รู้จักรุ่น 2 เพราะอย่างตอนรุ่น 1 ก่อนที่เขาจะเดบิวต์ เราได้ดูรายการ ได้ทำความรู้จักเขาก่อนที่จะออกเพลง แต่รุ่น 2 เพลงออกก่อน แล้วค่อยมาเล่าเรื่องทีหลัง ช่วงนี้ก็เหมือนเป็นช่วงเล่าเรื่องว่าเด็กๆ แต่ละคนเป็นยังไง สำหรับส่วนใหญ่ที่คนชอบรุ่น 2 ก็เพราะหน้าตา ดังนั้นต่อไปเด็กๆ ก็ต้องทำให้คนชื่นชอบเรามากกว่านี้ ต้องแสดงตัวตนและสื่อสารกับแฟนๆ มากขึ้น สำหรับอีกอย่างที่น่ากลัวมากเลยก็คือ การที่คิดว่าตัวเองป็อปปูลาร์ มันไม่ได้ ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด 30 ปีเธอจะมาเต้นเหมียวๆ ไปตลอดก็ไม่ได้ มันคือเรื่องจริงของวงการบันเทิง

“ในอดีตโดโจหรือกามิกาเซ่ก็ปั้นนักร้องหญิงมาเยอะ ถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ คือเด็กผู้หญิงมักมาพร้อมกับความน่ารักและความสดใส แต่พอวันหนึ่งมันหมดอายุไป ถ้าเธอไม่ใช่ตัวจริง เธอก็อยู่ไม่ได้นะ สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก พี่ออม – สุชาร์, ยิปโซ – รมิตา ฯลฯ เขาอยู่ได้เพราะอะไร ก็เพราะเขามีของ ผมก็เอาไปพูดในห้องให้เด็กๆ ฟัง เพราะเราค่อนข้างเป็นห่วง อยากให้เด็กอยู่ได้ ไม่ใช่อยู่แค่ตรงนี้อย่างเดียว”

“พี่เอ๊ะ” เชื่อว่าน้องๆ มีความสามารถ ไม่ใช่แบ๊วๆ ไปวันๆ?

“ไม่ใช่ มันคือความสามารถและความพยายามล้วนๆ อย่างที่บอก ความพยายามมันก็คงต้องพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง เขาไม่ได้แข่งกับใคร แต่เขาต้องแข่งกับตัวเอง ซึ่งคนที่รู้สึกได้เลยก็คือแฟนๆ ที่ติดตามเขามาโดยตลอด จะเห็นว่าเขาไปได้ไกลแค่ไหน เพราะฉะนั้นเราก็ทำหน้าที่บ่มเพาะเขา ฝึกฝนเขา พาเขาไปให้ได้ แต่จะไกลแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง”

ในฐานะครูใหญ่ หนักใจอะไรไหมกับลูกศิษย์ 50 คน?

“ห่วง 2 เรื่อง คือเรื่องของคุณภาพและความรู้สึก คือต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า วันแรกมันเริ่มจากโปรเจ็กต์ที่มันเป็นศูนย์จริงๆ วันนั้นเราเห็นเด็กๆ ตาเป็นประกาย แต่เราก็ไม่อยากให้วงการบันเทิงหล่อหลอมให้เขาเปลี่ยนจนไม่มีแววตาแบบนั้น ไอดอลต้องมีแววตาเป็นประกายตลอดเวลา คุณต้องส่งออกตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่คุณต้องมี ซึ่งการที่จะเป็นแบบนั้นได้ เราก็ต้องมีเป้าหมายในชีวิต ทางไปมันอาจจะเจอปัญหาไม่รู้กี่อย่าง เหนื่อยก็พัก ในขณะที่เป้านั้นมันก็ยังรอเราอยู่เสมอ ระหว่างทางถ้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ เราก็อาจจะเลิกล้มความตั้งใจ เพราะเหนื่อย หมดกำลังใจไปก็ได้”

BNK48 รุ่น 2
BNK48 รุ่น 2

ทำไมต้องแบ๊วตลอดเวลา?

“มันก็เป็นคาแร็คเตอร์ของผู้หญิง อย่างที่บอกว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงเยอะ กับเด็กๆ พี่ก็บอกเขานะว่า ถ้าเธอไม่น่ารัก คนก็หมั่นไส้เธอ ตอนแรกๆ พี่ก็จะดูเองว่าอะไรคือความพอดี ปรับให้มันดูโอเค แต่อย่างที่บอกว่าเด็กเยอะ เราก็ไม่สามารถขีดเส้นให้เด็กอยู่ในเส้นนี้หมดได้ อาจจะมีอะไรที่เลยไปบ้าง เราก็ต้องตบๆ กลับมาให้ได้ มันคือสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ อย่าลืมว่าเราเข้ามาเป็นอะไร”

เรื่องมีแฟนต้องบอกน้องยังไงบ้าง?

“เราจะบอกเด็กทั้งโรงเรียนว่าห้ามมีแฟนก็เป็นไปไม่ได้ แต่เด็กต้องรู้ ถามว่าวันหนึ่งเขามีแฟน คนที่เปย์เธอ 1 แสนบาทเขารู้สึกอย่างไร จ่ายเงินเธอ 1 แสนบาทเพื่อไปจับมือเธอ 1 แสนบาทซื้อรูปเป็นแสนๆ วันหนึ่งเธอบอกว่าเธอมีแฟนขึ้นมา เขาจะอกหักไหม เขาจะเสียใจไหม ถ้าเธอเดินเข้ามาในนี้แล้ว เธอต้องแฟร์กับทุกคน เธอคือคนของทุกคน ไม่ใช่คนของใครคนใดคนหนึ่ง แม้ว่ามันไม่ใช่กฏหมายหรือข้อกำหนด แต่มันคือสิ่งที่เขาควรรู้ ถ้าฝืน สุดท้ายมันก็จะตีกลับมาหาตัวเด็กเอง แฟนคลับไม่สนับสนุนและต้องออกไปในที่สุด ซึ่งเมื่อเขาเห็นแล้ว เขาก็จะไม่ทำ”


 

ก้อย รัชวิน

ก้าวไปด้วยกัน! ตูน & ก้อย รัชวิน กับเส้นทางความรักที่กำลังขยับเข้าสู่เส้นชัย

Alternative Textaccount_circle
ก้อย รัชวิน
ก้อย รัชวิน

ระยะเวลา 9 ปี บนเส้นทางความรัก นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะสำหรับ ตูน บอดี้สแลม & ก้อย รัชวิน คู่รักที่จะเรียกว่าเป็นไอดอลตัวจริงของยุคนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่แรกที่ทั้งคู่มาเปิดใจพร้อมกันถึงเรื่องราวความรัก เมื่อผู้ชายคนหนึ่งมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ผู้หญิงข้างกายต้องเป็นยังไง อยากให้ทุกคนไปฟังกันค่ะ

ก้าวไปด้วยกัน! ตูน บอดี้สแลม & ก้อย รัชวิน 9 ปี บนเส้นทางความรักที่กำลังขยับเข้าสู่เส้นชัย

ตูน-ก้อย

ความรู้สึกต่อความรักที่เติบโตมานานถึง 9 ปี

ตูน : “ผมว่ามันคือการเดินทางนะ สะสมเรื่องราวต่างๆ ได้เรียนรู้กันในหลายมิติขึ้น”

ก้อย : “ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยสัมภาษณ์คู่กันแบบนี้ ก้อยก็เลยไปไม่ค่อยเป็น ไม่เคยฟังพี่ตูนพูดถึงความสัมพันธ์ต่อหน้าคนอื่นด้วย อย่างเวลาไปอีเว้นต์ ก้อยจะพูดในมุมของตัวเอง พี่ตูนก็พูดในฝั่งของเขา ก้อยไม่เคยรู้หรอกว่าเขาพูดถึงเรายังไง วันนี้เป็นครั้งแรกที่นั่งคุยด้วยกัน เขิน

“ถ้าให้พูดถึงความรักที่เติบโต ก็คล้ายกันค่ะ ไม่น่าเชื่อว่ากำลังจะเข้าสู่การเดินทางในปีที่ 9 แล้ว ตั้งแต่วันแรกก็ไม่ได้คิดภาพไกล คือมองแค่ใกล้ๆ ทำทุกวันให้ดีที่สุด ระหว่างทางก็มีเรื่องให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัว ซึ่งพี่ตูนชอบพาก้อยไปเจอดินแดนใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น การออกกำลังกาย การวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย รวมถึงเรื่องที่เราชอบตรงกันอย่างการไปดูคอนเสิร์ต คือเวลาก้อยรักใครจะอยากอยู่ในโลกของเขา อยากมีส่วนในกิจกรรมที่เขาชอบ แล้วโชคดีที่เราชอบเรื่องนี้เหมือนกัน ก็เลยพากันไปได้ในทุกๆ ที่บนโลก พี่ตูนอยากไปดูคอนเสิร์ตอะไร ก้อยไปด้วย”

ตูน-ก้อย

มุมน่ารักของตูนจากปากก้อย

ก้อย : “เวลาอยู่กับก้อย เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนั่นแหละ เป็นสิ่งที่เรารู้กันอยู่สองคน ซึ่งมันพิเศษที่สุดแล้ว เราเติมเต็มในสิ่งที่อีกคนไม่มี ซึ่งเป็นธรรมดาของคนที่คบกัน ต้องหาจุดพอดีให้เจอ บนโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ เราแค่หาตรงกลางของคู่เราว่าอะไรคือสิ่งที่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจที่สุด”

ตูน-ก้อย

มุมหนักๆ ในวันที่ทะเลาะกัน

ตูน : “ทุกคู่ก็ต้องมี เราเคยไม่คุยกันเป็นสัปดาห์”

ก้อย : “มีครั้งนั้นครั้งเดียวที่หนักที่สุด น่าจะปีที่ 5 ที่คบกัน ปกติเราไม่คุยกันนานสุด 3 วัน แต่ตอนนั้น 1 สัปดาห์ คือตอนทะเลาะกัน พี่ตูนจะนิ่งแล้วเดินออกไปจากสถานการณ์ ขณะที่ก้อยอยากเคลียร์และขอคำตอบให้ได้ตรงนั้น ซึ่งจะพังทุกที พอเขาเดินไปก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง แต่พอตอนนั้นห่างกันสักพัก ให้แต่ละฝ่ายมีสเปซ ทั้งสองฝ่ายก็ใจเย็นลงแล้วเริ่มจูนกลับมาได้ หลังจากนั้นเราก็ไม่ทะเลาะกันแรงๆ อีกเลย ถ้ามีก็แค่วันเดียวจบ แล้วกลายเป็นก้อยเดินหนีไปก่อนบ้าง เหมือนเราโตขึ้น เริ่มเข้าใจว่าทำไมพี่ตูนจึงเลือกเดินออกไปก่อน เขาทำให้ก้อยเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ในหลายๆ ด้านจริงๆ คือทุกมิติเลย บางทีพี่ตูนก็สอนโดยที่เขาไม่รู้ตัว พอก้อยเดินทางมาอยู่ในอายุที่ใกล้เคียงกับเขาในวันนั้นจึงเข้าใจว่า โอเค มันเป็นแบบนี้”

ตูน-ก้อย

ความในใจที่ก้อยไม่เคยบอกตูนมาก่อน

ก้อย : “สำหรับก้อย พี่ตูนเป็นคนถ่อมตัวมากๆ ยิ่งเขาใหญ่แค่ไหนจะยิ่งทำตัวเองให้เล็ก เขาเป็นคนที่เวลาอยู่ใกล้ๆ แล้วทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้น บางทีเวลาเห็นสิ่งที่พี่ตูนทำแล้วเรารู้สึกว่า เฮ้อ อยากจะดีได้แบบที่เขาดีจัง อยากทำได้แบบที่เขาทำบ้าง ซึ่งสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ ก้อยคงไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วเขาก็ไม่เคยพูดด้วย เขาทำจนเราเห็น ซึมซับ แล้วพยายามปรับปรุงตัวเอง โดยที่เขาไม่เคยพยายามจะเปลี่ยนก้อย ไม่ได้บอกว่าหนูต้องทำอย่างนี้ เป็นอย่างนี้ๆ ไม่เคย แต่เขาจะทำให้ดู แล้วพอวันหนึ่งที่เวลาได้พิสูจน์ทุกอย่าง ทำให้ก้อยเชื่อมั่นในคนคนนี้ และก้อยรู้สึกว่า ก้อยกลายเป็นก้อยในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้ เพราะได้แรงบันดาลใจจากเขานี่แหละ”

ตูน-ก้อย

ในมุมกลับกัน ก้อยก็เป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้ตูน

ตูน : “มีเรื่องหนึ่งที่เมื่อก่อนผมไม่คิดว่าจะชอบเลยคือละครเวที ซึ่งผมเรียนรู้จากเขา เวลาเราไปดูคอนเสิร์ตต่างประเทศ ก้อยจะชวนไปดูละครเวที ละครใบ้บ้าง ไปดูการแสดงแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งแต่ก่อนผมไม่รู้จัก และไม่รู้ว่าเราเหมาะกับมันหรือเปล่า แต่สุดท้ายผมก็ชอบไปโดยปริยาย เป็นอีกศาสตร์ที่ดีและมีบางอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ นอกจากนี้เขาให้ความอยากรู้ในศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง เป็นโลกในมุมผู้หญิง คือนิสัยผมจะผู้ชายมาก พอคบกับเขาถึงรู้ว่าผู้หญิงมีแบบนี้ด้วยเหรอ เช่น พวกความสวยงามต่างๆ”

ตูน-ก้อย

ก้าวต่อไปของความรักหลังจากปีที่ 9

ตูน : “ผมก็อยากให้มันไปได้ตลอดรอดฝั่งนะครับ ในรูปแบบของวัยรุ่นคู่หนึ่งที่คบกันมา ผมคิดว่า 9 ปีไม่ง่ายที่จะประคับประคองเรียนรู้กันมา ผมก็อยากเดินหน้าในฐานะการเป็นมนุษย์คนหนึ่ง อยากมีครอบครัว พยายามไปสู่จุดนั้น โดยที่เราก็ต้องดูแลในหลายๆ มิติด้วย ผมไม่ได้มีแต่เรื่องความรัก ยังมีครอบครัวที่ต้องบาลานซ์ให้ดีที่สุด เพราะผมเป็นพวกสุดโต่ง งาน ครอบครัว ความรัก เป็นคนที่แชร์ในแต่ละช่วงเวลาไม่ค่อยได้ จึงพยายามเรียนรู้ในการมีทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีด้วยเลเวลสุดยอด แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป”

ก้อย : “ตามนั้นค่ะ ก้อยเชื่อว่าทุกอย่างมีเวลาของมัน ถ้าเร่งมากก็อาจไม่ดี ถ้าช้าไปก็จะส่งผลลัพธ์อีกแบบหนึ่ง เวลาจะบอกเอง และต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจด้วย เพราะพี่ตูนไม่ได้ตัวคนเดียว เขามีความรับผิดชอบในชีวิตเยอะ เป้าหมายในชีวิตก็ใหญ่ คิดทำอะไรเพื่อคนอื่นก็มาก ที่ผ่านมาก้อยรู้สึกว่าอะไรที่ช่วยซัพพอร์ตเขาได้ ก็อยากทำตรงนี้ ก้อยเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่อยากสนับสนุนให้เขาได้ทำในสิ่งที่รักและตั้งใจให้สำเร็จ เพราะสุดท้ายแล้ววันที่เขาเดินถึงเส้นชัย เราจะอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจุดเริ่มต้นหรือเป้าหมายของเขาจะใหญ่ เป้าหมายเราจะเล็ก แต่สุดท้ายจะไปบรรจบที่เดียวกัน”

ตูน-ก้อย

เป็นความรักที่เติบโตแบบก้าวไปด้วยกันจริงๆ และเชื่อว่าความรักดีๆ แบบนี้ อีกไม่นานก็คงก้าวเข้าสู่เส้นชัย ซึ่งสำหรับใครที่อยากรู้เรื่องราวเต็มๆ ของคู่รักคู่นี้ ชนิดที่เก็บครบทุกเม็ดทั้งเรื่องความรักและเรื่องวิ่ง ก็สามารถตามไปอ่านกันได้ที่นิตยสารแพรว ฉบับ 938 หรือดูได้ที่ Praew Talk EP.4 จ้า


 

ที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 938

ภาพ : @rachwinwong, @artiwara

โชคดีอีก

“ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” ทำบุญด้วยอะไร? ถึงได้เกิดมา โชคดีแล้ว โชคดีอีก

โชคดีอีก
โชคดีอีก

น่าอิจฉา อดีตนางงามจักรวาล “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” ที่เกิดมาชีวิตดีเว่อร์ โชคดีแล้ว โชคดีอีก มีสามีดีแถมลูกๆ ยังน่ารักกับเธอมากๆ อีกด้วย

หนึ่งในนางงามที่อยู่ในใจคนไทยทุกคนตลอดกาล คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์  ไซมอน นาคหิรัญกนก อดีตนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และอดีตนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทย ซึ่งหลังจากแต่งงานกับเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน นายเฮอร์เบิร์ต ไซมอน เฮิร์บ ก็ได้ย้ายครอบครัวไปลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ซึ่งทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ฌอน และ โซฟี ไซมอน

โชคดีอีก

โดยมีบุตรบุญธรรมอีก 3 คน คือ แจ๊คเกอรีน ไซมอน หลานสาวแท้ๆ ของปุ๋ย ส่วน แอนดี้ และ เทเลอร์ ก็อยู่ในอุปการะเช่นเดียวกับ ลูกๆ ของเธอเอง

โชคดีอีก

ชีวิตของปุ๋ยถือว่าโชคดีมาก ตั้งแต่ประกวดนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ทำงานเพื่อสังคมมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องเด็กๆ ที่เคยตอบคำถามไว้บนเวทีว่า “ปุ๋ยรักเด็กค่ะ” ซึ่งเธอก็ยึดถือเป็นปฏิบัติงานด้านการช่วยเหลือเด็กๆ มาตลอด

โชคดีอีก

ทั้งนี้ ปุ๋ย ยัง โชคดีอีก เมื่อเธอได้พบกับ “เฮอร์เบิร์ต ไซมอน เฮิร์บ” สามีมหาเศรษฐี จิตใจดี และสนับสนุนให้ปุ๋ยเป็นนางฟ้าของเหล่าเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาสต่อไป ซึ่งความสุขและความโชคดีของเธอยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีความโชคดีบางอย่างที่ได้มาโดยไม่ต้องเสาะหา หรือเอาเงินมาแลก หากแต่เป็นความสุข ความโชคดี ที่หามาได้แบบเรียบง่ายและอบอุ่นชื่นใจที่สุด

โชคดีอีก

สิ่งที่ว่าก็คือความรักของลูกๆ ทุกคนที่มีให้เธอ โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็กที่บรรจงเขียนข้อความบอกรักเธอมากๆ ทุกวัน ซึ่งปุ๋ยได้โพสต์ลงอินสตาแกรม จากนั้นก็มีแฟนคลับเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันว่า น่ารักมาก, คุณปุ๋ยเป็นผู้หญิงที่โชคดีสุดๆ มีสามี สามีก็ดี มีลูก ลูกก็น่ารัก, เป็นความรักที่บริสุทธิ์จริงๆ, ลูกสาวเขียนการ์ดบอกรักคุณแม่ได้น่าประทับใจมากค่ะ” ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ปุ๋ยโพสต์ลงอินสตาแกรมให้แฟนๆ ได้เห็นในความน่ารักของลูกสาวตัวน้อย

โชคดีอีก

ปัจจุบัน ครอบครัว ไซมอน อาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา แต่ยังคงเดินทางไป-กลับประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือการกุศลอยู่เป็นประจำ อีกทั้ง ปุ๋ย ยังดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีให้กับ โครงการเกี่ยวกับผู้หญิงและเด็กภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยความร่วมมือกับสหประชาชาติ


ภาพจาก  IG @bui.simon

Cool Style! ญาญ่า ฉีกกฎสาวหวาน งัดลุคสวยเท่ ชมโชว์ Louis Vuitton

ญาญ่า ฉีกกฎสาวหวาน อีกครั้ง เมื่อได้รับเทียบเชิญร่วมชมแฟชั่นโชว์แบรนด์ดัง  Louis Vuitton ใน Paris Fashion week SS 2019

ถือเป็นโชว์ปิดท้ายของรันเวย์ปารีสแฟชั่นวีคในวันที่ 2 ต.ค. ได้อย่างงดงาม สำหรับแบรนด์ระดับโลก Louis Vuitton ที่คอลเล็คชั่นนี้เต็มไปด้วยสีสันและความสนุก ไม่ว่าจะลายกราฟิกหรืองานเพ้นต์ที่บ่งบอกถึงความเป็นหลุยส์ วิตตองได้อย่างดี ซึ่งแน่นอนว่างานใหญ่ของแบรนด์ดัง เซเลบจากทั่วทุกมุมโลกต้องพร้อมสแตนบายอยู่ตรงฟร้อนท์โรว์ และสาวไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเทียบเชิญเพื่อชมโชว์ในครั้งนี้ก็คือนางเอกสาว ญาญ่า-อุรัสยา ในฐานะ Friend of Louis Vuitton และยังพิเศษสุดๆ กับกระเป๋า Louis Vuitton ที่มีตัวอักษร U.S ซึ่งมาจากชื่อของสาวญาญ่า Urassaya นั่นเอง จะบอกว่าเป็นกระเป๋าใบเดียวในโลก ก็คงไม่เว่อร์เกินไป

ญาญ่า ฉีกกฎสาวหวาน

กระเป๋า Louis Vuitton สลักตัวอักษร U.S

โดยก่อนหน้านี้ ช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แบรนด์ดังระดับโลก Louis Vuitton ได้จัดแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ประจำฤดูกาล ณ Fondation Maeght พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีอายุกว่า 5 ทศวรรษ ในประเทศฝรั่งเศส สาวญาญ่าก็ได้เข้าร่วมชมโชว์เช่นกัน และในปี 2017 ญาญ่า–อุรัสยา เสปอร์บันด์ นางเอกสาวสวยคนเก่งของไทย ก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชม แฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Collection Cruise 2018 ณ กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ทั้งนี้ยังได้นั่งฟร้อนท์โรว์เพื่อชมโชว์อีกด้วย

ส่วนลุคใน Paris Fashion week SS 2019 ของสาวญาญ่า จะสวยเด่นแค่ไหน ไปส่องกันเลย

 

Cool Style! ญาญ่า ฉีกกฎสาวหวาน งัดลุคสวยเท่ ชมโชว์ Louis Vuitton 

 

ญาญ่า

น้องญ่าแชะภาพคู่กับ “นีโกลาส์ เฌสกีแยร์” ดีไซเนอร์ระดับโลก

 

ญาญ่า

ลุคนี้ให้ความรู้สึกเท่แอนด์คูลมาก…กกก ดูเป็นสาวสวยสตรองสุดๆ

 

(ซ้ายไปขวา) Shailene Woodley นักแสดงชาวอเมริกัน, ญาญ่า-อุรัสยา และ Amandla Sternberg นักแสดงชาวอเมริกัน ในโชว์ Louis Vuitton Spring 2019

 

ญาญ่า

เป็นภาพที่น่ารักๆ เมื่อทั้ง 4 คนทักทายกัน (ซ้ายไปขวา) Shailene Woodley, ญาญ่า-อุรัสยา , Amandla Stenberg และ Nina Dobrev 

 

สนุกสนานกับเพื่อนชาวอเมริกันก่อนโชว์จะเริ่ม

 

 ถือเป็นมิตรภาพที่มองแล้วก็ได้แต่ยิ้มตามไปด้วย

 

อ่านบทความอื่นๆ ของ ญาญ่า-อุรัสยา ได้ที่ :

“นีโกลาส์ เฌสกีแยร์” ดีไซเนอร์ระดับโลก มอบของขวัญหนึ่งเดียวในโลกให้ “ญาญ่า”

รับเทียบเชิญ! ญาญ่า ชมแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton cruise 2019 กระทบไหล่คนดัง

สวยปังไม่แพ้ใคร! ญาญ่า ร่วมเฟรมคนดังจากทั่วโลก ดูแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Cruise 2018

เจาะดีเทล “Tambour Horizon” สมาร์ทวอตช์จาก LV รุ่นนี้แหละที่ญาญ่าจะไปร่วมกระทบไหล่เซเลบทั่วโลก

พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ ประทานเครื่องแต่งกายให้คู่จิ้น ณเดชน์ – ญาญ่า ใส่ในละครลิขิตรักฯ

ส่องคอสตูมแบรนด์ไทยพลิกโฉม “ญาญ่า” สวยสง่าสมลุคเจ้าหญิงในละครลิขิตรัก

ส่องแฟชั่น “ญาญ่า” จาก “เล่ห์ลับสลับร่าง” ตอนแรก! คอสตูมสวยเลิศ เพลินตาทุกฉาก

กองทัพคนดังรวมตัว! บุกแฟชั่นโชว์ครบรอบ 12 ปี ‘โพเอม’ ญาญ่า-อุรัสยา เดินฟินาเล่ปิดโชว์

บางข้อไม่รู้มาก่อน 20 คำตอบ ญาญ่า-อุรัสยา จริงหรือที่เขาว่าเป็นนางเอกสายแบ๊ว

ประชันความแซ่บ! ซินดี้-เจนี่-ญาญ่า เผยออร่าเซ็กซี่ในแฟชั่นโชว์ ‘วทานิกา’ ส่งความร้อนแรงไปทั่วรันเวย์

“ญาญ่า – ริต้า – ซอนย่า” แซ่บไฟลุกในงาน Maybelline New York Super Stay Matte Ink

 แบ๊วละมุนดั่งตุ๊กตา! แชร์เทคนิคแต่งหน้า “ญาญ่า” ในลุคสาวน้อยจากนอร์เวย์


เรื่อง : Hana_แพรวดอคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@shailenewoodleyarmy , urassayas , @alepix , csperb 

มงต้องลง ! น้ำหวาน – เพลง ตัวแทนสาวไทย คว้าตำแหน่ง นางงามหูหนวกโลก

account_circle

น้ำหวาน – เพลง นางงามหูหนวก สองสาวไทย คว้าตำแหน่งจากเวที นางงามหูหนวกโลก มาให้คนไทยได้เฮกันถึงสองปีซ้อนบนเวที  Miss Deaf World 2017 และ 2018

นางงามหูหนวกโลก

นางงามหูหนวกโลก

น่าปลาบปลื้มใจจริงๆ เมื่อสองสาวไทย คว้าตำแหน่งจากเวทีนางงามหูหนวกโลก Miss Deaf World มาให้คนไทยได้เฮกันถึงสองปีซ้อน ซึ่งมงกุฎแรกนั้นมาจาก น้ำหวาน ชุติมา เนตรสุริวงค์ สาวไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่ง Miss Deaf World เมื่อปี 2017

การประกวดในปีนี้น้ำหวาน ยังเดินทางไปอำลาตำแหน่ง รวมทั้งแสดงความยินดีกับน้องเพลง รุ่นน้องนางงามที่สามารถชนะใจกรรมจนคว้าตำแหน่ง รองอันดับ 1 มาแบบสวยๆ

นางงามหูหนวกโลก

และปีนี้สาวไทยก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังอีกครั้งเมื่อ น้องเพลง จุฑาทิพย์ ศรีธำรงวัช นางงามหูหนวก ตัวแทนของประเทศไทยปี 2018 คว้าตำแหน่ง รองอันดับ 1 “1st Runner up Miss Deaf World 2018” มาครอง ซึ่งการประกวดครั้งนี้จัดขึ้น ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก เมื่อวันที่ 24 กันยายน – 2 ตุลาคม 2561

นางงามหูหนวกโลก
น้ำหวาน ชุติมา เนตรสุริวงค์ Miss Deaf World 2017

นางงามหูหนวกโลก

ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของสองสาว ที่สามารถคว้ามงกุฎจากเวทีระดับโลกอย่าง Miss Deaf World เวทีการประกวดสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งทั้งคู่ต้องผ่านขั้นตอนการประกวดชุดว่ายน้ำ ชุดการแสดงความสามารถ ชุดราตรี และชุดประจำชาติ เพื่อเอาชนะใจกรรมการ จนมงลง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยถึงสองปีซ้อน

เรียกได้ว่าสองสาวคู่ควรกับตำแหน่งจริงๆ นอกจากสวยบนเวทีแล้ว สไตล์การแต่งตัวของทั้งคู่ก็ยังน่ารักไม่เบา โดยเฉพาะน้องเพลง ที่ปัจจุบันนี้เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา 

นอกจากจะนำความภาคภูมิใจกลับมาให้คนไทยได้ดีใจกันแล้ว สองสาวยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งยังช่วยเหลืองานสังคมต่างๆ รวมถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากกองประกวด และ สมาคมหูหนวกแห่งประเทศไทย ทั้งสวย และเก่ง แบบนี้ น่าชื่นชมจริงๆ ค่ะ

ภาพและที่มา : FB : missmisterdeafthailand, juthathipx

 

 

 

 

เซนต์ ธราภุช

ไม่พูดเยอะ! มิว นิษฐา ให้คำจำกัดความ เซนต์ ธราภุช คือคนที่หวังดีต่อกัน

เซนต์ ธราภุช
เซนต์ ธราภุช

มิว นิษฐา ยอมรับยังกั๊กความสัมพันธ์ ไม่พร้อมเรียก เซนต์ ธราภุช ว่าแฟน ขอศึกษาจนกว่าจะแน่ใจก่อน

เซนต์ ธราภุช
เป็นนางเอกสาวที่ระมัดระวังในการวางตัวมาก สำหรับ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน เพราะถึงแม้จะประกาศว่าคบหาดูใจอยู่กับ ไฮโซหนุ่ม เซนต์ ธราภุช คูหาเปรมกิจ มาสักพักแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่พร้อมใช้คำว่าแฟนกับหนุ่มเซนต์ โดยให้เหตุผลว่าติดที่ตัวเธอเองที่ยังไม่พร้อม เพราะมีความรู้สึกว่าการที่คนจะคบกันก็ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าอะไร แต่ถ้าเป็นสถานะกับไฮโซหนุ่ม สาวมิวบอกว่าเขาคือคนที่หวังดีต่อเรานั่นแหละ

เซนต์ ธราภุช
ความรักเป็นยังไงบ้าง
“ก็ดีค่ะ เรื่อยๆ มีพาไปเจอผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาบ้างแล้ว”

ไม่ค่อยลงรูปคู่ด้วยกันเลย
“เราอยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ทางเขาไม่มีอะไร น่าจะโอเค ชิน แต่เราไม่ได้สั่งห้ามลงนะคะ คิดว่าคงช่วยกันระมัดระวังมากกว่าค่ะ”

เซนต์ ธราภุช
ความสัมพันธ์คืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ ไหม
“ค่อยๆ ดูกันไป รู้จักกันมากขึ้น มีเจอกันบ้างตามโอกาส ก็มีได้เจอผู้ใหญ่บ้าง ท่านน่ารักค่ะ ทางครอบครัวมิวพ่อแม่ก็เป็นห่วงให้ดูๆ กันไป

เซนต์ ธราภุช
มิวมองรักครั้งนี้เป็นอย่างไร
“ก็เป็นเหมือนเดิมเลย ไม่ใช่ว่าครั้งนี้เปิดมากขึ้นหรืออะไร ยอมรับว่าตอนนี้มีคนจับตามองมากขึ้นก็วางตัวลำบากนิดนึง คือจากเดิมเราก็รู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ แต่อันนี้คือเราอยู่ในวงการอยู่แล้ว คนก็ให้ความสนใจมากขึ้นว่าเราจะศึกษากันไปหรืออะไรอย่างนี้ แต่ทุกวันนี้มิวก็ยังใช้ชีวิตปกตินะ ไม่ได้อยากปิดหรืออยากเปิดอะไร เราก็ใช้ชีวิตสะดวกแบบนี้ก็เอาที่เราสบายใจ สำหรับสถานะกับคุณเซนต์เขาก็เป็นคนที่หวังดีต่อกัน แต่ยังไม่เรียกแฟนค่ะ ถามว่าติดตรงไหน ติดที่มิวนี่แหละ เรารู้สึกว่าการที่เราศึกษากัน มันไม่ได้จำเป็นต้องใช้คำว่าอะไรค่ะ”

เซนต์ ธราภุช

 


ภาพจาก IG @mewnittha

keyboard_arrow_up