account_circleผ่านไปแล้วสำหรับค่ำคืนที่แสนจะพิเศษ เมื่อสาวงามทั้ง 95 ประเทศ ได้อวดโฉมความงามผ่านชุดผ้าไหม จากฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทยใน งาน Thai Night ซึ่งต้องบอกว่าเมื่อต่างชาติมาใส่ชุดไทย ก็สวยสดงดงามชนิดที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่างานที่รวมเหล่าสาวงามไว้ด้วยกันแล้ว ยิ่งเป็นงานที่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องแบบจัดเต็ม ก็ต้องมีดาวเด่นที่ฉายแสงออกมาจนโดดเด้งมากกว่าใครๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครจะเตะตาใครก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมด้วย ถ้าสองอย่างนี้แมทช์กัน เราก็มองว่าสวยโดนใจได้ไม่ยาก
แพรวดอทคอมเองก็ตามดูชุดผ้าไหมที่เหล่าดีไซเนอร์รังสรรค์ขึ้นมาให้นางงามแต่ละประเทศเช่นกัน เรียกได้ว่าส่องแล้วส่องอีก และก็ไปสะดุดตากับหลายๆ ชุด ที่เหล่านางงามใส่ เพราะตัวเดรสช่างส่งนางงามซะเหลือเกิน ทำให้เกิดไอเดียอยากรวม Best Dress ขึ้นมาซะงั้น ว่าแล้วก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปส่องแต่ละลุคของสาวงามอีกครั้ง สรุปผลก็มาจบที่ชุดผ้าไหมไทย 10 ชุดด้วยกัน เพราะมองแล้วดึงดูดสายตาไม่น้อย
แต่ก่อนจะไปชมว่าดาวเด่นในค่ำคืนของงาน Thai Night มีใครกันบ้าง ก็ขอเกริ่นก่อนว่าสาวงามทุกคนจะสวมใส่ชุดราตรีที่ตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มงคล” ไล่เรียงตามสีมงคลประจำวันของไทย ได้แก่ สีเหลือง, สีชมพู, สีเขียว, สีส้ม, สีฟ้า, สีม่วง และสีแดง นอกจากนี้ทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สยังเป็นผู้กำหนดประเทศให้กับทุกแบรนด์ ทางแบรนด์ไม่มีสิทธิ์เลือกประเทศหรือนางงามเอง
ต่อไปก็มาชมความงามของ 10 Best Dress ที่เราได้เลือกไว้กันบ้าง แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้เรียงตามลำดับแต่อย่างใด เนื่องจากตัดสินใจยากมาก…กกกจริงๆ เอาเป็นว่าเป็น 10 ชุดที่มีดีไซน์โดนใจมากที่สุดก็แล้วกันนะสาวๆ
ประชันชุดผ้าไหม! 10 Best Dress ดาวเด่นใน งาน Thai Night มีใครกันบ้าง
อันเดรอา โตสกาโน (Andrea Toscano) สาวงามจากประเทศเม็กซิโก ในชุดไทยจากแบรนด์ Kanapot Aunsorn ฝีมือการออกแบบของคณาพจน์ อุ่นศร ดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ที่ฝีมือไม่ธรรมดา ตัวชุดมีดีไซน์ที่แตกต่าง ความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ผลงาน เทคนิคที่หลากหลาย ไปจนถึงสไตล์ที่แสดงถึงความคอนทราสต์ระหว่างความเป็นเฟมินิสต์และสปอร์ตลุคเท่ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้แบรนด์นี้แตกต่าง และน่าจับตามองบนเวที Miss Universe 2018 อีกแบรนด์หนึ่ง
แคทรีโอนา เกรย์ (Catriona Gray) สาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์ ในชุดของแบรนด์อาซาว่า ที่ได้หยิบยกเค้าโครงชุดอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของอาซาว่ามาเป็นโครงสร้างชุดหลัก และเพิ่มดีเทลให้เกิดความน่าสนใจด้วยสีสันและเนื้อผ้า รวมไปถึงความงดงามอย่างมีระดับเหนือกาลเวลา สอดคล้องกับงานราตรี Thai Night จนก่อเกิดเป็นชุดพิเศษสำหรับสาวงามผู้เข้าประกวดได้อย่างลงตัว
เอสเตฟานิ กูติเอร์เรซ (Sthefany Gutiérrez) สาวงามจากประเทศเวเนซุเอลา มาในเดรสจากแบรนด์ Narong ที่วางคอนเซ็ปต์ The Horizon เป็นเส้นแบ่งระหว่างท้องฟ้ากับพื้นโลกเปรียบความงามกับสองสิ่งมาใช้ในการออกแบบ ลายเส้นของช่วงแสงแดดยามพระอาทิตย์ตกไล่โทนสีเข้มอ่อน ถูกนำมาใช้ในการดีไซน์ผ้าในโทนสีแดง เมื่อมารวมกับ DNA ของแบรนด์ คือ Craftsmanship, Sensunulity, Feminility, Exclusive ซึ่งงานของแบรนด์จะเกี่ยวข้องกับงานฝีมืองานปักทั้งหมด และหนึ่งชิ้นงานจะทำมาเฉพาะลูกค้าหนึ่งท่านเท่านั้น จึงมีความเป็นยูนิคสูง
ฟรันเชสกา มิฟซุด (Francesca Mifsud) สาวงามจากสาธารณรัฐมอลตา ในชุดของแบรนด์ Surface ในส่วนของการออกแบบชุดให้สาวงาม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 แฟชั่นยุคปลายปี 1950 – ต้นปี 1960 ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนยุโรปและอเมริกา มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบที่มีความโรแมนติกและคลาสสิกมากที่สุด ตามโจทย์โทนสีฟ้าและม่วง
บีร์ฆิเนีย ลิมอนยิ (Virginia Limongi) จากประเทศเอกวาดอร์ ในชุดของแบรนด์ Emotions Atelier รังสรรค์ผลงานผ้าไหมไทยออกมาเป็นชุดราตรี ด้วยการหยิบยกเอาแรงบันดาลใจมาจากชุดฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในสไตล์เนี้ยบ เรียบ โก้ และร่วมสมัย แบบไม่มากไม่น้อยจนเกินไป มาทำให้ดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นในสีโทนเย็นอย่างสีเขียว สีกรม เน้นการทำโครงสร้างชุดที่เข้ากับสัดส่วนรูปร่างของนางงาม เพราะเชื่อว่าเมื่อผู้สวมใส่ใส่แล้วมีความมั่นใจ ก็จะสามารถสื่อถึงความสวยงามออกมาได้
ซาราห์ โรส ซัมเมอร์ส สาวงามจากสหรัฐอเมริกา มาในชุดของแบรนด์ Milin ซึ่งผู้หญิงของ Milin คือหญิงสาวที่เป็นตัวของตัวเอง มองหาเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงรสนิยม ตัวตน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ที่ครั้งนี้ได้นำเสนอผ้าไหมมัดหมี่ในโทนสีม่วงจากศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้สาวงามแต่ละประเทศได้สะท้อนความงามของตัวเองออกมาอย่างมั่นใจผ่านชุดที่สวมใส่
ยูลียา โปเลียชีฮีนา (Yulia Polyachikhina) สาวงามจากประเทศรัสเซีย มาในชุดจากแบรนด์ Milin เช่นกัน เป็นการนำเสนอผ้าไหมมัดหมี่ในโทนสีม่วงจากศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้สาวงามแต่ละประเทศได้สะท้อนความงามของตัวเองออกมาอย่างมั่นใจผ่านชุดที่สวมใส่
นิโคล เรซนีคอฟ (Nikol Reznikov) สาวงามจากประเทศอิสราเอล มาในชุดของแบรนด์ Pattarat ซึ่งเสน่ห์ของงานคัตติ้งและการวางผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกนำมาใช้ในการออกแบบผ้าไหมไทย เพื่อสาวงามบนเวทีการประกวด Miss Universe 2018 แบรนด์ได้นำผ้าไหมไทยในโทนสีส้มมาออกแบบให้ดูสนุกมากขึ้น นำเสนอในแบบเรียบง่าย เพราะผ้าไทยมีความสวยงามในแบบฉบับของตัวเองอยู่แล้ว
มาร์ตา สแตเปียน (Marta Stepien) สาวงามจากประเทศแคนาดา มาในชุดของแบรนด์ Patinya ด้วยความคุ้นเคยกับการออกแบบผ้าไหมไทยทำให้เรื่องของเนื้อผ้าเป็นเรื่องถนัดสำหรับแบรนด์ Patinya แต่ความยากอยู่ที่สีและลวดลาย เป็นความท้าทายที่ต้องออกแบบชุดอย่างไร เพื่อส่งเสริมให้สาวงามผู้สวมใส่ออกมาสวยและดูดีที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วคอนเซ็ปต์ของมิสยูนิเวิร์สกับ Patinya คล้ายกันมาก เพราะผู้หญิงของ Patinya คือผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง ใส่ใจในรายละเอียดความประณีต และมีความเป็นตัวของตัวเอง
ปิดท้ายด้วยเจ้าบ้านอย่าง นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์ สาวงามจากประเทศไทย โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานชุดแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ถ่ายทอดความเป็นนกยูง ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่เปรียบให้เห็นว่านกยูงเป็นสัตว์ที่สะท้อนถึงความสง่างามและความอ่อนโยนในแบบผู้หญิงที่มีความสวยงาม และโดดเด่นในรูปแบบของตัวเอง
ทั้งหมดนี้คือ 10 Best Dress ในมุมมองของแพรวดอทคอม แล้วท่านผู้อ่านล่ะ มี Best Dress จากงาน Thai night อยู่ในใจกันบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็ลองเอามาแชร์ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะจ๊ะ
ภาพ : IG #missuniverse2018