JOICO เติมความมั่นใจให้ผมสวย พร้อมนำทีมสาวไทย ไปได้อีก…ในแบบคุณ

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม JOICO ผู้นำเทรนด์ผมชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้การดูแลของชวาร์สคอฟ  โปรเฟสชั่นนอล ประเทศไทย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่นำทีมโดยเหล่า Influencer ชื่อดัง ซึ่งเป็นตัวแทนของสาวๆ ยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันใน 4 ลุค  ภายใต้ธีม “Joico Care ไปได้อีก…ในแบบคุณ” ซึ่งงานนี้ จัดขึ้นเพื่อชวนคุณสาวๆ ร่วมออกเดินทางไปพร้อมกัน เพื่อค้นหานิยามของคำว่า “ไปได้อีก” เปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับเรา พร้อมตอบโจทย์ และเติมเต็มทุกความมั่นใจให้ผู้หญิงมีสุขภาพดี และสวยขึ้นไปอีกใน แบบที่เป็นตัวคุณ

ภายในงานเริ่มต้นด้วยการเปิดตัว 4 สาว 4 ลุค ตัวแทนสาวไทย นั่งพูดคุยกันบนเวทีแบบเป็นกันเอง โดยแต่ละคนต่างก็เล่าถึงปัญหาเรื่องเส้นผมที่เคยเผชิญมา ก่อนได้รู้จัก และทดลองลองใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ JOICO

เริ่มจาก ตัวแม่สายยูทูปเบอร์ Pimwa ที่มาในลุคสาว Trendy หลังจากที่เธอได้ลองใช้ JOICO Color Balance (คัลเลอร์ บาลานซ์) ผลิตภัณฑ์เพื่อการปกป้องสีผมด้วยการขจัดโทนส้ม ช่วยถนอมสีผมด้วยสารประกอบป้องกันการซีดจางของสีผม Multi Spectrum Defense Complex (มัลติ สเปคตรัม ดีเฟนส์ คอมเพล็กซ์) อุดมด้วยสารสกัดจากชาเขียว สารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสารป้องกันรังสียูวี ปกป้องการซีดจางของสีผม ช่วยในการยึดเกาะสีผมจากด้านในอย่างแท้จริง

ตามด้วยสายเอ้าต์ดอร์ ที่มีไลฟ์สไตล์กลางแจ้งและรักการดำน้ำ เธอคือบล็อกเกอร์สาวเจ้าของเพจ Happy Nancy  กับมาดสาว Active ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอกังวลเรื่องปัญหาที่ผมแห้งเสีย ขาดน้ำ ตัวช่วยในการฟื้นบำรุงผมสวยสุขภาพดีของเธอ ก็คือ  JOICO Moisture Recovery ผลิตภัณฑ์ที่มาเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้แก่ผมแห้งและขาดน้ำ หรือผมเส้นใหญ่ ที่แห้งหยาบ ด้วยสาร Hydramine Sea Complex (ไฮดรามีน ซี คอมเพล็กซ์) ซึ่งประกอบไปด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติ และกรดอะมิโนจากทะเลที่สมบูรณ์ที่สุด ผสานน้ำมันและไขมันจากพืชธรรมชาติ ทำให้บำรุงได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น  

ตามมาด้วยนางเอกสาวมะปราง-อลิสา ขุนแขวง ในลุคสาว Glamorous  ที่แต่ละวันของเธอนั้น ต้องเจอกับการเปลี่ยนทรงผมทั้ง ไดร์ หนีบ และม้วนผม ไปตามคาแรคเตอร์ที่ได้รับ เส้นผมโดนความร้อนอยู่บ่อยๆ เธอวางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ JOICO K-PAK สำหรับผมแห้งเสีย ผสานคุณประโยชน์ที่หลากหลาย พร้อมด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ Joico อย่าง Bio-Advanced Peptide Complex สุดยอดเทคโนโลยีในการบำรุงซ่อมแซมเส้นผม ช่วยปกป้อง ฟื้นฟู สร้างความแข็งแรงและคืนความยืดหยุ่นได้อย่างตรงจุด ให้ผมธรรมดา หรือผมที่ผ่านการดัด ยืด ทำสีที่แห้งเสีย  กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง 

สำหรับสาวคนสุดท้าย…ได้อีก ในแบบดาราสาวอารมณ์ดี ซาร่า โฮเลอร์  ตัวแทนสาว Strong กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลโครงสร้างเส้นผม พร้อมปกป้องสีผม ที่เริ่มดูแลตั้งแต่ซาลอนต่อเนื่องถึงที่บ้านกับ JOICO Defy Damage Pro Series (จอยโก้ ดีฟาย ดาเมจ โปร ซีรี่ย์) สำหรับใช้ในซาลอนเท่านั้น เพียง 2 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยปกป้อง ฟื้นฟู เติมเต็ม โครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการทำเคมี มั่นใจได้ว่า ผมสวยสุขภาพดีทุกครั้งหลังการทำเคมี ปกป้องโครงสร้างผมลดการเปราะขาดได้ถึง 80% ต่อด้วย JOICO Defy Damage Home Care System  (จอยโก้ ดีฟาย ดาเมจ โฮม แคร์ ซิสเต็ม) ปกป้องผมต่อเนื่องที่บ้านได้ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผมแบบครบวงจร ช่วยปกป้องทุกสภาพผม จากการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน, รังสียูวี และมลภาวะต่างๆ  ที่ส่งผลให้ผมแห้ง ไม่เงางาม ขาดชีวิตชีวา เปลี่ยนผมให้สุขภาพดีขึ้นจนรู้สึกได้ในทันที ด้วยเทคโนโลยี Smart Release (สมาร์ทรีลีส) เอกสิทธิ์เฉพาะของจอยโก้ ที่ช่วยฟื้นบำรุงผมเสียให้แข็งแรงขึ้นถึง 5 เท่า

งานดำเนินไปอย่างสนุกสนาน กระทั่งจบช่วงพูดคุยแล้ว ทั้ง 4 ท่าน ก็กลับเข้าไปหลังเวที เพื่อเตรียมตัวอัพลุคใหม่ให้สวยมากขึ้นไปอีก ในสไตล์ของตนเอง

โดยระหว่างนี้ บนเวทีก็คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง กับบรรดาสาวไทยกลุ่มแรก ที่ได้รับเลือกจากการร่วมกิจกรรมในหน้าเพจเฟซบุ๊ค ให้เข้ามาเปลี่ยนลุคกับทางแบรนด์ ทั้ง 16 ท่าน ซึ่งพวกเธอได้รับความรู้ เติมเต็มความมั่นใจจากทีม KOL  ทั้งเทคนิคด้านบุคลิกภาพ การเดินและที่สำคัญ คือผมสวยสุขภาพดี มั่นใจในตัวเองได้อีก 

หลังจากนั้น สปอตไลต์ ก็โฟกัสไปที่ทั้ง 4 สาว กลับมาอีกครั้งกับลุคใหม่ มั่นใจ  ไปต่อได้อีก จนผู้เข้าร่วมงานตะลึงไปตามๆ กัน

ตัวแม่สายยูทูปเบอร์ Pimwa ที่มาในลุคสาว Trendy

บล็อกเกอร์สาวเจ้าของเพจ Happy Nancy  กับมาดสาว Active

นางเอกสาวมะปราง-อลิสา ขุนแขวง ในลุคสาว Glamorous 

ดาราสาวอารมณ์ดี ซาร่า โฮเลอร์  ตัวแทนสาว Strong

ก่อนที่พิธีกรจะเรียนเชิญคุณธีรศักดิ์ ไตรทิพย์  General Manager Henkel Beauty Care Thailand พร้อมด้วย  Joi Star & Joi Influencer ทั้ง 4 ท่าน นำโดยคุณพัฒนพงษ์ ญาณสิทธิ์ จากร้าน The Best Salon, คุณธารากร ธาราธำรงฤทธิ์ และคุณ ธนกฤต ธนาธำรงฤทธิ์ จากร้าน Kudos by Tarakorn และคุณคุณไวคูณฐ์ ยิ่งวัชรศิริโชติ จากร้าน IDA Stylish Salon ถ่ายภาพพร้อมกับบนเวที

ไม่เพียงเท่านั้น ไปต่อได้อีก กับไฮไลต์สุดท้าย ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับได้อย่างมาก กับมินิคอนเสิร์ตของหนุ่มกัน-นภัทร อินใจเอื้อ ที่ขนเพลงฮิตมามอบความสุขให้ผู้เข้าร่วมงาน ทำเอาเคลิ้มไปตามๆกัน เรียกได้ว่าเป็นฟินาเล่ปิดท้ายงาน “Joico Care ไปได้อีก…ในแบบคุณ”  ได้อย่างน่าประทับใจ  

ติดตามความเคลื่อนไหว และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ JoicoThailand

โรเม สไตรด์

อีกหนึ่งไฮไลท์! ‘โรเม สไตรด์’ ได้สวม ชุดคริสตัล Swarovski กว่าแสนเม็ดใน VSFS 2018

โรเม สไตรด์
โรเม สไตรด์

คอนเฟิร์มอีกหนึ่งไฮไลท์! โรเม สไตรด์ นางแบบวัย 23 ปี จะได้สวม ชุดคริสตัล Swarovski ใน Victoria Secret Fashion Show 2018 ซึ่งใช้เวลาในการทำถึง 250 ชั่วโมง

หากจะบอกว่า Victoria Secret Fashion Show 2018 เป็นโชว์แห่งปีก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะกองทัพนางฟ้าที่จะร่วมสับขาบนรันเวย์ในปีนี้ เรียกได้ว่ามีแต่ระดับตัวท็อปที่หลายๆ คนตั้งตารอ ซึ่งทางวิคตอเรีย ซีเคร็ทก็ทยอยอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับโชว์ออกมาเรื่อยๆ แพรวดอทคอมเองก็ได้หยิบเรื่องแฟนตาซีบรามาแชร์ให้ผู้อ่านได้ทราบกันไปแล้วว่า นางฟ้าผมบลอนด์ เอลซ่า ฮอสค์ (Elsa Hosk) จะเป็นคนได้สวม Fantasy Bra ในปีนี้ ซึ่งบรามีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 พ.ย.) ก็มีความเคลื่อนไหวอีกหนึ่งไฮไลท์ออกมา นั่นคือนางฟ้าผู้ที่จะได้ใส่ชุดคริสตัลของสวารอฟสกี้ในโชว์ปีนี้ ตกเป็นของ โรเม สไตรด์ (Romee Strijd) นางแบบวัย 23 ปี ที่ได้ร่วมงานกับวิคตอเรีย ซีเคร็ทมาตั้งแต่ปี 2015 โดยความพิเศษของชุดคริสตัลนี้คือการใช้คริสตัลกว่า 125,000 เม็ด ที่ติดอยู่ทั้งบนปีกรูปดาวและตัวบอดี้สูท มีน้ำหนักประมาณ 27 ปอนด์ และใช้เวลาในการบรรจงสร้างกว่า 250 ชั่วโมง

โรเม สไตรด์

เห็นชุดแบบเต็มๆ ก็ยิ่งอยากดูโชว์แล้ว

 

โรเม สไตรด์

เป็นชุดที่มีรายละเอียดไม่น้อย งานนี้ปักกันตาแตกอีกแล้วค่า

 

โรเม สไตรด์

ตัวดาวด้านหลังถูกครีเอทออกมาเพื่อซัพพอร์ทตัวชุดคริสตัลได้ดีเลยทีเดียว

 

โรเม สไตรด์

สาวโรเมโพสต์ท่าสดใส ร่าเริง ตามสไตล์นางฟ้าวิคตอเรีย

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 

ประกาศแล้ว! นางฟ้าผู้ถูกเลือกให้สวม Fantasy Bra มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ใน VSFS 2018

แฟนนางฟ้าอัพเดทด่วน! 6 ข้อต้องรู้ ก่อนจะถึง Victoria Secret Fashion Show 2018

ปีนี้ไม่หวาน! Victoria Secret Fashion Show 2018 เปลี่ยนเสื้อคลุมเป็นสีดำสุดเท่

รันเวย์ใกล้เดือด! ส่องนางแบบที่จะเข้าร่วมแคสติ้ง Victoria Secret Fashion Show 2018

เปิดโผ Top 10 นางฟ้า ‘วิคตอเรีย ซีเคร็ท’ ที่มีรายได้สูงสุด

 สยายปีกให้ปัง! ชมภาพแฟชั่นโชว์สุดเซ็กซี่จากนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท ร้อนแรงเขย่ารันเวย์

แขวนปีกแล้ว! “อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ้” นางฟ้าวิคตอเรีย วัย 36 ปี ขอยุติเส้นทางนางแบบ

ส่องลุค “Roos marijn De Kok” นางแบบคนนี้ที่ใครก็บอกว่าเหมือน “จีจี้ ฮาดิด”


ภาพและที่มา : www.dailymail.co.uk

ดาราผู้ชาย

แมนๆ ก็เป็นได้! ดาราผู้ชาย ไทย – เทศ พรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์บิวตี้

Alternative Textaccount_circle
ดาราผู้ชาย
ดาราผู้ชาย

ถ้าพูดถึงพรีเซ็นเตอร์แบรนด์บิวตี้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เรามักจะได้เห็นซูเปอร์สตาร์ ดาราผู้หญิงตัวท็อปๆ ที่มักได้รับเลือกมาทำหน้าที่ตรงนี้ แต่เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว วงการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางมีความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมาย การไม่จำกัดเพศดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยในการสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างเหล่าแฟนคลับที่พร้อมสนับสนุนคนที่เขารัก ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็น ดาราผู้ชาย ที่ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์บิวตี้ในไลน์เครื่องสำอางเยอะขึ้น วันนี้ แพรวดอทคอม จะรวบรวมคนดังผู้ชายที่ทั้งไทยและเทศที่ได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์บิวตี้

โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พรีเซ็นเตอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์เครื่องสำอาง BSC Cosmetology

ดังเปรี้ยงปร้างแบบฉุดไม่อยู่จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส จนเมื่อไม่นานมานี้หนุ่มโป๊ป – ธนวรรธน์ ได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ผู้ชายคนแรกให้กับแบรนด์เครื่องสำอาง BSC Cosmetology พร้อมสร้างกระแส “ผู้หญิงของโป๊ปใช้ BSC” ดังกระหึ่มเพียงชั่วข้ามคืน ในงานเปิดตัวไลน์เมคอัพคอลเล็คชั่นใหม่ BSC Orchid Collection โดย บุษบง มิ่งขวัญยืน กรรมการบริหาร บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เล่าถึงไอเดียในการเลือกหนุ่มโป๊ปเป็นพรีเซ็นเตอร์ชายคนแรกให้กับแบรนด์ BSC Cosmetology เพราะคาแร็กเตอร์ที่ตรงกับแบรนด์ประกอบกับภาพลักษณ์ความเป็นหนุ่มอาร์ตของโป๊ปที่ชื่นชอบการวาดภาพและรักงานศิลปะ เปรียบเสมือนการตกแต่งความงามบนใบหน้าด้วยเครื่องสำอาง BSC ที่เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งในการเพิ่มเสน่ห์สีสันให้ผู้หญิงสวยสะกดทุกสายตา


ลีมินโฮ (Lee Minho) พรีเซนเตอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์ innisfree ผลิตภัณฑ์ความงามธรรมชาติจากเกาะเชจู

สำหรับหนุ่มคนต่อมาเป็นที่รักของทั้งสาวไทย สาวเกา สาวเกือบทั่วโลกเลยก็ได้สำหรับซูเปอร์สตาร์เกาหลีใต้ ลีมินโฮ (Lee Minho) แบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์ innisfree แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติ ซึ่งได้รับความเชื่อถือ ไว้วางใจ และได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลี ล่าสุดยังสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้เหล่าติ่งได้ฟินเบอร์แรง กับโปรเจ็กค์ VR ให้สาวๆ ได้ออกเดทกับลีมินโฮแบบ Virtual reality เริ่ดมากเลยทีเดียว


ลีดงวุค (Lee Dong Wook) เฟซคนแรกของไลน์เมคอัพคอลเล็คชั่น BOY DE CHANEL

เดี่ยวนี้ผู้ชายแมนๆ เขาก็เจ้าสำอางกันนะจ๊ะ แบรนด์ดังสุดหรูอย่าง CHANEL เล็งเห็นข้อนี้จึงเปิดเมคอัพไลน์สำหรับคุณผู้ชายเป็นครั้งแรก ในชื่อคอลเล็คชั่น BOY DE CHANEL และที่สำคัญสำหรับไลน์นี้ได้ ลี ดงวุค ( Lee Dong Wook ) ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดฮ็อตจากเกาหลีใต้ มาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์หนุ่มชาเนลนั่นเองจ้า ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเปิดทางการที่ประเทศเกาหลีเป็นที่แรก ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายที่ผ่านมา พร้อมทยอยเปิดตัวในประเทศต่างๆ ทั่วโลกในเดือนถัดไป และจะเริ่มจำหน่ายออนไลน์ให้หนุ่มๆ ได้เลือกช้อปเพิ่มความมั่นใจภายในเดือนพฤศจิกายน 2018 แล้วจะเข้าช็อปชาเนลในไทยช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 อีกด้วยค่ะ


คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) พรีเซนเตอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์ The Face Shop

ตั้งแต่เมื่อปี 2548 คิมฮยอนจุงได้รับความนิยมจากแฟนๆ ไปทั่วทั้งเอเชีย เรียกได้ว่าความนิยมที่เขาได้รับนั้นมีทั้งจากบรรดาแฟนคลับวัย 10 กว่าปี จนถึงวัย 40 ปีเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เขาได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์เครื่องสำอาง THE FACE SHOP ทำให้ตอนนั้น THE FACE SHOP ได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องสำอางอันดับที่ 1 ของเกาหลี ซึ่งทางแบรนด์ให้เหตุผลที่เลือกคิมฮยอนจุง ก็เพราะว่าเป็นผู้ชายที่มีภาพลักษณ์แบบสดใหม่และดูหรูหราไปพร้อมๆ กัน โดยการที่เราได้เลือกเขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เขาสามารถเข้ากันกับคอนเซ็ปต์ ‘คุณค่าในความงามแบบธรรมชาติ’ ได้อย่างลงตัว


Manny Gutierrez ยูทูปเบอร์เจ้าของช่องแชนแนลและกูรูการแต่งหน้าชื่อดัง พรีเซ็นเตอร์ผู้ชายคนแรกของแบรนด์ Maybelline  คอลเล็คชั่นเครื่องสำอาง Beauty Boy

สาวกบิวตี้ไทยเทศทั้งหลาย ไม่รู้จัก Manny Gutierrez บิวตี้ยูทูปเบอร์คนนี้ ถือว่าเชยระเบิด Manny เป็น YouTuber เจ้าของยอด Subscribe ถึงกว่า 4.8 ล้านคน และมียอด Followers ในอินสตาแกรมมากกว่า 4.7 ล้านคน ด้วยความสามารถและมีอิทธิพลในวงการบิวตี้ จึงไม่น่าแปลกที่ Manny จะได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ Maybelline ในคอลเล็คชั่น Mascara โดย Manny ได้แสดงความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของเขาว่า ตื้นตันและรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ทาง Maybelline มองเห็นข้อดีในตัวของเขา ที่เป็นผู้ให้แรงบันดาลใจเรื่องความสวยความงามตามแบบฉบับของผู้ชาย และเปิดโอกาสให้เขาได้ฉายแสงในแคมเปญพิเศษ


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : popezaap, mannymua733, Lee Minho (이민호), #boydechanel, 김현중 (Kim Hyun Joong),

 

ย้อนเวลา! ซูมลุค 20 Top Model บนรันเวย์แรก ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น

มีใครทันกันหรือเปล่า กับลุคบนรันเวย์แรกของเหล่า Top Model ก่อนที่จะมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ บอกเลยว่าตอนนั้นออร่าของว่าที่ซูเปอร์โมเดลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยล่ะ 

ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่ามีนางแบบหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่โมเดลตัวแม่ที่ใครๆ ก็ให้การยอมรับในฝีมือ จนถึงตอนนี้พวกเธอก็ยังคงครองตำแหน่งซูเปอร์โมเดลระดับท็อป กลับมีจำนวนที่แทบจะนับคนได้ หรือไม่ก็กลุ่มนางแบบที่มีอายุช่วง 20 ต้นๆ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและผลงานไว้มากมาย จนกลายเป็นนางแบบที่หลายคนจับตามอง ก็มักจะเป็นคนเดิมๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการจะเข้าสู่เส้นทางนางแบบว่ายากแล้ว แต่การทำให้คนยอมรับและมีชื่อเสียงยากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นการจะมีชื่อเสียงยาวๆ มาหลายปี และยังมีผู้คนพูดถึงอยู่ตลอดนั้นยิ่งยากเข้าไปอีก เรียกได้ว่าต้องเจ๋งจริงๆ ถึงจะฝ่าลมอุปสรรคต่างๆ มาได้จนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ และแน่นอนว่าก่อนที่พวกเธอจะมายืนตรงจุดนี้ มันต้องมีจุดเริ่มต้น

ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของพวกเธอ ก่อนที่จะมีคนรู้จักมากมายขนาดนี้ เหล่านางแบบดังทั้งหลายได้ปรากฏตัวครั้งแรกบนรันเวย์ของแบรนด์ใด และลุคของแต่ละคนจะน่าจดจำมากแค่ไหน เรามาส่องไปพร้อมๆ กันเลย

 

ย้อนเวลา! ซูมลุค 20 Top Model บนรันเวย์แรก ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น

 

Top Model
ลินดา อีวานเกลิสตา บนรันเวย์ Michael Kors คอลเล็คชั่น Spring 1988

 

Top Model
นาโอมิ แคมป์เบลล์ บนรันเวย์ Yves Saint Laurent คอลเล็คชั่น Fall 1987

 

Top Model
ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด บนรันเวย์ Donna Karan คอลเล็คชั่น Spring 1991

 

Top Model
ไทรา แบงส์ บนรันเวย์ Yves-Saint Laurent คอลเล็คชั่น Spring 1992

 

Top Model
ไฮดี้ คลุม บนรันเวย์วิคตอเรีย ซีเคร็ท ใน Victoria’s Secret Fashion Show ปี 1997

 

Top Model
เคท มอส บนรันเวย์ Versace ปี 1990

 

Top Model
จิเซล บุนเชน บนรันเวย์ Marc Jacobs ปี 1994

 

Top Model
อาเดรียนา ลิมา  บนรันเวย์วิคตอเรีย ซีเคร็ท ใน Victoria’s Secret Fashion Show ปี 1999

 

Top Model
อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ้ บนรันเวย์วิคตอเรีย ซีเคร็ท ใน Victoria’s Secret Fashion Show ปี 2000

 

Top Model
มิแรนดา เคอร์ บนรันเวย์ Heatherette คอลเล็คชั่น Spring 2005

 

Top Model
โรซี่ ฮันทิงตัน ไวท์ลีย์  บนรันเวย์ Vivienne Tam คอลเล็คชั่น Spring 2005

 

Top Model
แคนดิช สแวนโพเอล บนรันเวย์ Tommy Hilfiger คอลเล็คชั่น Spring 2006

 

Top Model
ลิลี อัลดริดจ์ บนรันเวย์  Yigal Azrouel คอลเล็คชั่น Fall 2007

 

Top Model
คาร์ลี คลอสส์ บนรันเวย์ Calvin Klein คอลเล็คชั่น Spring 2008

 

Top Model
คาร่า เดอเลวีญ บนรันเวย์ Burberry คอลเล็คชั่น Spring 2012

 

Top Model
เคนดัลล์ เจนเนอร์ บนรันเวย์ Sherri Hill คอลเล็คชั่น Spring 2012

 

Top Model
จีจี้ ฮาดิด บนรันเวย์ Desigual คอลเล็คชั่น Fall 2014

 

Top Model
เบลล่า ฮาดิด บนรันเวย์ Desigual คอลเล็คชั่น Spring 2015

 

Top Model
เฮลีย์ บัลด์วิน บนรันเวย์ Tommy Hilfiger คอลเล็คชั่น spring 2016

 

Top Model
ไคอา เกอร์เบอร์ บนรันเวย์ Calvin Klein คอลเล็คชั่น Spring 2017

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

ลุคนอกพรม! ปู-ไปรยา สมาร์ทเซ็กซี่ ร่วมงานกาล่าการกุศลส่งท้ายคานส์ 2019

น่ารัก…น่าช้อป พาบุก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ สโตร์แห่งแรกในไทย ที่ชวนให้คิดถึงปู่

สวยสะพรึง ไอศวรรยา ราย ผู้หญิงที่ ชมพู่-อารยา มองเป็นต้นแบบบนพรมแดงคานส์

คอสตูมพัง! แฟนละครตั้งคำถาม นี่เหรอชุดแต่งงาน เจนี่ ในแรงเงา 2

ชุดแน่นเกินไป? แอล แฟนนิง เป็นลมในงานปาร์ตี้ เทศกาลหนังเมืองคานส์

Day 2 ลุคแกลมสะกดตา ปู-ไปรยา สวยสังหารบนพรมแดงคานส์

แดงระเบิดพรม! ชมพู่-อารยา เปล่งออร่านางพญาส่งท้ายคานส์ 2019

Day 3 ลุคแกลมชวนหลง ชมพู่-อารยา ตลบพรมแดงคานส์ด้วยคริสตัล

Day 2 อินคานส์ พรมแดงบนทุ่งลาเวนเดอร์ ศรีริต้า เจนเซ่น จัดเต็มยิ่งกว่าวันแรก

เผ็ดบดพรมแดง! รวมลุคเซ็กซี่ ชมพู่-อารยา ตลอด 7 ปี ในเทศกาลหนังเมืองคานส์

ฟ้าทลายคานส์! ลุคพรมแดงแม่ชม ซีทรูเซ็กซี่ ยืนหนึ่งเป็นวันที่ 2

อารยาลาเวนเดอร์! ลุคแรกแม่ชม สวยพิฆาตคานส์ 2019

ย้อนพรมแดงคานส์ รวมลุคทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ของ ชมพู่-อารยา ตลอด 6 ปี

สไตล์วินเทจคัมแบ็ค! เจ้าหญิงเคท งามสง่าในเดรสยาวลาย Polka-Dot

เหตุเรตติ้งฮวบ! แฟชั่นโชว์ วิคตอเรีย ซีเคร็ท ปี 2019 งดออกอากาศทางทีวีแล้ว


ภาพและที่มา : stylecaster.com , fashionista.com

‘ไมค์ พิรัชต์’

‘ไมค์ พิรัชต์’ สานฝัน ‘แม่ตุ๊ก ปราศรัย’ จัดรถสปอร์ตราคา 7 ล้าน เป็นของขวัญวันเกิด

‘ไมค์ พิรัชต์’
‘ไมค์ พิรัชต์’

กตัญญูสุดๆ ‘ไมค์ พิรัชต์’ ถอยรถสปอร์ตสุดหรู ยี่ห้อ Porsche ให้ ‘แม่ตุ๊ก ปราศรัย’ เป็นของขวัญวันเกิด เพราะรถคันดังกล่าว เป็นรถในฝันของคุณแม่

     ‘ไมค์ พิรัชต์’ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตจริงๆ สำหรับ ไมค์ พิรัชต์ นิธิพาศาลกุล ที่บินไป บินมา ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทย เพราะต้องไปถ่ายซีรีส์ที่เมืองจีน โดยตอนนี้หนุ่มไมค์ถือเป็นดาราไทยอีกคนที่โกอินเตอร์เป็นที่เรียบร้อย และมีชื่อเสียงมากที่จีน

‘ไมค์ พิรัชต์’แน่นอนว่าเมื่องานเยอะ รายได้ก็ต้องเยอะตามมาด้วย และในวันเกิด อายุ 59 ปี ของคุณแม่สุดที่รัก อย่าง ‘แม่ตุ๊ก ปราศรัย’ ทั้งที มีเหรอจะธรรมดา งานนี้หนุ่มไมค์ถือโอกาสทำบิ๊กเซอร์ไพร้ส์คุณแม่ด้วยการ ถอยรถสปอร์ต สุดหรู ยี่ห้อ Porsche ราคา 7 ล้านอัพ มาให้คุณแม่ถึงงานวันเกิด

‘ไมค์ พิรัชต์’พร้อมทั้งบอกเหตุผลที่ซื้อรถคันนี้ให้คุณแม่ว่า “รถในฝันของแม่ ลูกซื้อให้แล้วนะ แม่ดูแลลูก 5 คนคงเหนื่อยแย่เลย ขอบคุณที่คอยสนับสนุนกันมาตลอดจนวันที่ไมค์ไปได้ถึงฝัน วันนี้ขอทำฝันของแม่ให้เป็นจริงบ้าง มีความสุขมากๆ หน้าเด็กลงทุกปีน้า อาจไม่ค่อยอยู่ไทย แต่รักและคิดถึงทุกคนที่นี่เสมอ Happy Birthday”

‘ไมค์ พิรัชต์’อย่างไรก็ตาม สำหรับ วันเกิดของคุณแม่ตุ๊ก ในทุกๆ ปี ‘ไมค์ พิรัชต์’ จะมีของขวัญวันเกิดมาเซอร์ไพร้ส์คุณแม่เสมอ อย่างปีที่แล้วที่เจ้าตัวไม่ได้มาร่วมฉลองด้วยเพราะติดงานที่จีน แต่ไมค์ก็ยังส่งเช็คเงินสด 1 ล้านบาท มอบให้คุณแม่ตุ๊กด้วย เรียกได้ว่าแต่ละปี ของขวัญที่ลูกชายคนนี้มอบให้แม่ ใหญ่ขึ้นทุกปีจริงๆ ปีหน้ามาลุ้นกันต่อว่าหนุ่มไมค์จะซื้ออะไรให้คุณแม่เป็นของขวัญวันเกิดอีก

‘ไมค์ พิรัชต์’

‘ไมค์ พิรัชต์’


ภาพจาก IG @m1keangelo

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ ไมค์ พิรัชต์

เจ๋งอ่ะ! ‘ไมค์-พิรัชต์’ โชว์ของดี…เล่นเอาคนจีนถึงกับทึ่ง!

ไมค์-พิรัชต์ เปิดกล้องซีรีส์ My Amazing Boyfriend 2 ที่นานกิง สู้ต้องพูดภาษาจีนทั้งเรื่อง

5 ดารา โกอินเตอร์ ชีวิตดี๊ดี ดังกว่าอยู่เมืองไทย

อดเป็นห่วงไม่ได้ “ไมค์-พิรัชต์” ส่งกำลังใจข้ามประเทศไปถึงน้องแม็กซ์เวลล์ที่ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV

“เราต้องไม่ถอยหลังเข้าคลอง” ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงห่วงการท่องเที่ยวไทย แนะอย่าสร้างช่องโหว่ให้ต่างชาติโจมตีเรา

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน World Travel Market (WTM) 2018 ครั้งที่ 38  และทอดพระเนตรคูหาประเทศไทย ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานจำนวน 41 ราย ภายใต้แนวคิด Amazing Thailand วิถีกิน วิถีถิ่น (Eat Thai. Visit Thai) ในโอกาสนี้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีประทานสัมภาษณ์แก่คณะสื่อมวลชนไทย
Q : ปัจจุบันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ขอพระราชทานคำแนะนำ ว่าเราจะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างไร
 A : การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง คล้ายกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วๆ ไป ที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ พวกเราสื่อมวลชนต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ช่วยกันให้ข้อมูล โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อให้ทั่วถึงทุกคนในประเทศไทย สำหรับพวกเราที่เป็นประชาชนและคนที่อยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ ก็สามารถช่วยกันเล่าเรื่องราวและโชว์ความสวยงามของท้องถิ่นที่อยู่ใน 55 จังหวัดเมืองรอง
Q : ขอพระราชทานแนะนำแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื
A : สิ่งสำคัญของการท่องเที่ยวคือ เรื่องของความยั่งยืน ประเทศไทยโชคดีที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย สวยงามและมีวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ อันที่จริงไม่ได้ยากที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องดีที่สถานที่เหล่านั้นยังไม่ถูกทำลายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นทะเลก็จะไม่สวย สกปรก ไม่สามารถที่จะไปว่ายน้ำได้ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกไม่ประทับใจ เราต้องช่วยกันอนุรักษ์สิ่งเหล่านั้นไว้
อย่างการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อยากชักชวนนักท่องเที่ยวและพวกเราคนไทยทุกคน ต้องอนุรักษ์ธรรมชาติไม่ใช่ว่า โลกร้อนไม่มี ความเสียหายของธรรมชาติที่เกิดจากการทิ้งขยะไม่ใช่ไม่มี เพราะฉะนั้นต้องรณรงค์ให้รักธรรมชาติ รักแหล่งท่องเที่ยวเพราะสถานที่เหล่านั้นเป็นสมบัติของชาติ ตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้รักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ ด้วยการไม่ทิ้งขยะ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มีการรณรงค์เรื่องการลดใช้พลาสติกกันทั่วโลกและเมืองไทยก็เริ่มรณรงค์ด้วยเช่นกัน และมี #4ocean อย่างไรก็ชอให้ช่วยกันกำจัดขยะพลาสติก เราต้องสร้างกระแสในการรักษาธรรมชาติไว้ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีความยั่งยืนในด้านท่องเที่ยว
Q : ปัจจุบันมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 55 จังหวัดเมืองรอง พระองค์ทรงประทับใจเมืองรองเมืองใดเป็นพิเศษ และอย่างไร
A : อันที่จริงเวลาไปต่างจังหวัดก็ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว เมื่ออายุมากขึ้นก็จะไปกลับเลย หรือจะไปจังหวัดใกล้ๆ พักเพียงหนึ่งวัน อันที่จริงเมืองรองที่อยากไปเที่ยวมากที่สุดคือ เมืองน่าน อยากไปดูภาพกระซิบรัก เป็นภาพเขียนปู่ม่าน ย่าม่าน วัดภูมินทร์ และได้เคยไปวัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิด 2-3 ครั้ง และเคยไปดูซากุระเมืองไทยที่เมืองเลยแล้ว
Q : ปัจจุบันวัยรุ่นไทยหันมาให้ความสนใจกับสื่อโซเชียลมีเดียมากกว่าการอ่านหนังสือ ขอพระราชทานคำแนะนำในการให้วัยรุ่นไทยใช้สื่อโซเชียลอย่างสร้างสรรค์
A : ตอนนี้กระแสสังคมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ฉะนั้นเราไม่ถอยหลังเข้าคลอง คนไทยต้องไม่ถอยหลังเข้าคลอง ไม่ย้อนกลับไปในอดีต กระแสสังคมและกระแสเทคโนโลยีเปลี่ยนไปแล้ว ฉะนั้นเราต้องใช้โอกาสนั้นในการที่จะเพิ่มศักยภาพประเทศ ทำให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น ถึงเวลาที่เราจะต้องใช้สื่อโซเชียล สื่ออินเตอร์เน็ตในการโปรโมท ประเทศเรา เด็กไทยไม่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาสนใจและหาความรู้ได้ โดยส่งเสริมให้หาความรู้จาก Google อ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต และสื่อโซเชียล อีกทั้งใช้สื่อโซเชียลในการเผยแพร่ ประเทศชาติของเรา อันที่จริงตอนนี้เราใช้อินสตาแกรมได้ เช่น แข่งขันกันส่งรูปมาว่าบ้านของเขาสวยแค่ไหน ทุกคนทั่วโลกก็จะได้เห็น
Q : ขอพระราชทานคำแนะนำเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยว
A : เสน่ห์ของประเทศไทยคือความมี friendly และความเป็นมิตร เรามียิ้มสยาม และเราต้องขายความจริงใจ ความเป็นมิตร เรามีน้ำใจ เราโชคดีเรามีธรรมชาติที่สวยงามมีวัฒนธรรมที่ดี อย่างไรก็ตามต้องขายความจริงใจ ความเป็นมิตร และสิ่งสำคัญที่สุด เราต้องไม่ไปหลอก เขาไม่ไปขโมยของเขา และไม่ไปข่มขืนเขา ไม่เช่นนั้นฝรั่งจะเอาเราไปว่าได้ อย่าทำให้มีช่องโหว่ให้คนมาโจมตีเราได้
Q: ขอพระราชทานคำแนะนำในการให้คนไทยหันมาใช้ผ้าไทยให้มากขึ้น
A : แพคเกจจิ้งและการดีไซน์สำคัญมาก ทำให้สบาย และทำให้เด็กๆ และวัยรุ่นชอบ ในการทำตลาดทุกอย่างที่ทำต้องให้โดนใจวัยรุ่น ทำให้น่ารัก สามารถทำเป็นตุ๊กตาหรือที่ติดกระเป๋าก็ได้ เป็นเคสใส่โทรศัพท์มือถือหรือเอามาตกแต่งต่างๆ นานา ซึ่งคนไทยออกแบบเก่งอยู่แล้ว สามารถทำได้สวยงาม ผ้าไทยต้องโปรโมทในรูปแบบนี้บ้าง
Q : พระองค์ทรงมีการดูแลสุขภาพมีการพักผ่อนอย่างไรบ้าง
A : รับประทานของที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ สลัด และดื่มน้ำเยอะๆ ต้องออกกำลังกายเยอะๆ ทุกวัน พักผ่อนให้เพียงพอ ต้องไม่เครียดต้องไม่โกรธใคร ต้องแฮ็ปปี้ๆ
เรื่อง/ภาพ : กิดานันท์ สุดเสน่หา

“EVERY CHILD DESERVES A HAPPY SMILE” คอลเล็กชั่นสร้างรอยยิ้ม ช่วยเด็กปากแหว่งเพดานโหว่

ขอเชิญชวนทุกท่านมีส่วนร่วมในการสร้างรอยยิ้มใหม่ให้กับน้องๆ ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่โดยกำเนิด  ด้วยการสนับสนุนสินค้าที่ระลึกคอลเล็กชั่นพิเศษในโครงการ “EVERY CHILD DESERVES A HAPPY SMILE”

ในแต่ละปี มีเด็กประมาณ 2,000 คนในประเทศไทยที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติบนใบหน้าจากภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย อาทิ ความยากลำบากในการรับประทานอาหาร ปัญหาทางทันตกรรม โรคทางหู ความบกพร่องในการพูด และนำไปสู่ผลกระทบทางด้านอารมณ์และจิตใจของเด็กเหล่านั้นในที่สุด โดยคอลเล็กชั่นนี้สินค้าที่ระลึกเหล่านี้ ออกแบบลายโดย เบล-เศรษฐพร ก่อวาณิชกุล (Painterbell) ศิลปินนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ ประกอบด้วย เสื้อยืด (ตัวละ 360 บาท) ถุงผ้า (ใบละ 320 บาท) และกระเป๋าใบเล็ก (ใบละ 220 บาท) ให้คุณได้เลือกซื้อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่สุขใจทั้งผู้ให้และถูกใจผู้รับ ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายสินค้า (โดยไม่หักค่าใช้จ่าย) จะมอบให้กับ “มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย” (Operation  Smile Thailand) เพื่อใช้ในการผ่าตัดช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ในถิ่นทุรกันดาร

สามารถชมตัวอย่างสินค้าได้ที่ http://www.operationsmile.or.th/pepsicoxpainterbell  ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ผ่านทาง LINE (เพียง add LINE ID @operationsmileth) ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายนเป็นต้นไป (จนกว่าสินค้าจะหมด)

 

#pepsicoxpainterbell #operationsmilethailand

 

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี เหล่านักธุรกิจแถวหน้าของไทย เคยทำอาชีพอะไรมาก่อน?

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี
กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี

ก่อนจะประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย และกว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี ก็ต้องต่อสู้ ดิ้นรน เพราะหนทางที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

คำว่า อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ประโยคนี้ยังใช้ได้ดีทุกยุค ทุกสมัย เพราะมหาเศรษฐี บางคนก็เริ่มจากอาชีพเล็กๆ และทุกคนต่างก็เคยมีอาชีพแรกที่เคยทำกันทั้งนั้น แต่เคยรู้ไหมว่ามหาเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับต้นๆ ของเมืองไทย กว่าที่พวกเขาเหล่านั้นจะมาถึงวันนี้ กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐี เขาเคยประกอบอาชีพอะไร เป็นอาชีพแรก

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพนักงานแบกของ

ตัน ภาสกรนที เป็นลูกคนสุดท้องจากลูกๆ 6 คน ในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีฐานะปานกลาง โดยบิดาของเขาอพยพมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และตั้งรกรากที่จังหวัดชลบุรี คุณตันจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 3 และเริ่มทำงานแรกเป็นพนักงานแบกของ และหันมาเป็นเจ้าของแผงหนังสือที่ชลบุรี และเริ่มต้นขยายกิจการไปซื้อห้องแถว จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ต่อมา เป็นนักธุรกิจ ผู้ก่อตั้งบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และขายหุ้นใหญ่ของ บมจ.โออิชิกรุ๊ป ที่มีอยู่ให้กับบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) และลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิกรุ๊ป แล้วไปก่อตั้งบริษัท ไม่ตัน จำกัด ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นอิชิตัน กรุ๊ป

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีขายถั่วคั่ว

วิกรม กรมดิษฐ์ เกิดที่จังหวัดกาญจนบุรี บรรพบุรุษสืบเชื้อสายมาจากชาวจีนแคะ ซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนท่าเรือเมื่อ 150 กว่าปีมาแล้ว นอกจากนี้เขายังมีเชื้อสายมอญจากยาย เขาเป็นบุตรชายคนโตของตระกูล มีน้องมารดาเดียวกันและต่างมารดา 23 คน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน มีความสนใจการค้าตั้งแต่ยังเล็ก อาชีพแรกของเขาคือการรับช่วงต่อกิจการร้านถั่วคั่วจากป้า ขณะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จนเมื่อเรียนจบปริญญาตรีกลับมาเปิดบริษัท วี แอนด์ เค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้า – ส่งออก เมื่อปี พ.ศ. 2518 ต่อมาหันมาบุกเบิกธุรกิจด้านนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง ของประเทศไทยและ 2 แห่งในประเทศเวียดนาม ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท การจ้างงานกว่า 200,000 คน มีโรงงานกว่า 850 โรง

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ ตลอดจนสนใจการเขียนหนังสือเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้ประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง ในปี 2549 ถึง 2551 ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้ติดอันดับ 40 มหาเศรษฐีในเมืองไทย และในปี 2551 Foreign Direct Investment magazine (fDi) ในเครือของFinancial Times Group จากลอนดอน ได้มอบรางวัล fDi Personality of the Year 2008-Asia แต่ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในต่างจังหวัด

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีแคชเชียร์

ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของประเทศไทยจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บ โดยข้อมูลกุมภาพันธ์ ปี 2018 มีทรัพย์สิน 9.377 แสนล้านบาท ติดอันดับ 95 ของโลก ธนินท์ เจียรวนนท์ เกิดที่ย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนที่ 5 ในบรรดาบุตรทั้ง 5 คนของ นายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพ นายธนินท์เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมื่ออายุได้ 19 ปี หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านพาณิชยกรรมที่ฮ่องกง โดยทำงานในตำแหน่ง แคชเชียร์ คุณธนินท์ เข้ารับการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2492 และได้ไปศึกษาชั้นมัธยมจนจบในปี พ.ศ. 2494 จากโรงเรียนซัวเถา ประเทศจีน และอุดมศึกษาในปี พ.ศ. 2499 จากสถาบันศึกษาฮ่องกงวิทยาลัย รวมทั้งผ่านการศึกษาอบรมจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 1 ปี พ.ศ. 2532

ต่อมาได้โยกย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทย และบริษัท สหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด ตามลำดับ กระทั่งเมื่ออายุ 25 ปี ได้กลับมาทำงานอีกครั้งที่เจริญโภคภัณฑ์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับผิดชอบบริหารงานในตำแหน่งประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีซื้อ-ขายไอเท็มเกม

อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เขาเคยถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน ไม่สนใจการเรียน ชีวิตของเขา มีแต่คำว่า “เกม” เท่านั้น โดย ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เริ่มเล่นเกมออนไลน์ Everquest มาตั้งแต่ ม.4 ถึงขนาดสะสมแต้มจนรวยที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ และกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเกมดังกล่าว จนมีฝรั่งมาขอซื้อไอเท็มเด็ดๆ ไอเท็มเจ๋งๆ ที่หายากในเกมจากเขา และนั่นก็เป็นการเริ่มต้นสร้างรายได้ของต๊อบ ซึ่งการซื้อขายไอเท็มเกมดังกล่าว บวกกับการที่เป็นผู้ทดสอบระบบเกมในฐานะคนเล่น ก็สร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ จนมีเงินเก็บเป็นหลักแสนบาทเลยทีเดียว

ด้วยความที่เป็นเด็กติดเกม ต๊อบ อิทธิพัทธ์ จึงเรียนจบชั้นระดับมัธยมมาได้อย่างยากลำบาก และเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งตอนนั้นนั่นเองเขาก็เริ่มก้าวเข้าสู่ถนนแห่งเส้นทางธุรกิจ พร้อมตั้งใจจะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงด้วยการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และในช่วงจังหวะที่เกมออนไลน์เริ่มไม่เป็นที่นิยมเหมือนเคย เขาก็หารายได้จากช่องทางอื่น ทั้งขายเครื่องเล่นวีซีดี ดูทำเลเปิดร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จ  จนกระทั่งเขาได้ไปเดินงานแฟร์ ช่องทางธุรกิจ ซึ่งในงานนั้นมีแฟรนไชส์จากประเทศญี่ปุ่นมาออกบูธ ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบกินเกาลัดอยู่แล้วเลยสนใจธุรกิจนี้เป็นพิเศษ จึงเข้าไปสอบถามค่าแฟรนไชส์เกาลัดดังกล่าว แต่ราคาสูงเกินกำลังที่เขามี เลยขอแค่เช่าตู้คั่วเกาลัดเท่านั้น แล้วมาสร้างแฟรนไชส์เป็นของตัวเอง และเมื่อวันที่เขาต้องไปเซ็นสัญญาซื้อขายเกาลัดที่ห้างแห่งหนึ่ง ก่อนออกจากบ้านเขาได้ยินคุณพ่อพูดกับเพื่อนว่า “ลูกอั้วกำลังจะเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว” คำว่าเถ้าแก่น้อยที่ได้ยินในตอนนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อ “เถ้าแก่น้อย” สาหร่ายทอดกรอบในปัจจุบันนี้

กว่าจะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีนักแสดงประกอบ

ปัญญา นิรันดร์กุล เป็นพิธีกรและนักแสดงชาวไทย เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการแสดงภาพยนตร์ไทย เรื่องแรกคือ สืบยัดไส้ ในปี พ.ศ. 2521 ในบทบาท นักแสดงประกอบ และต่อมาในปีเดียวกัน ปัญญาจึงได้แสดงละครในบทพระเอกเป็นเรื่องแรกคือ ศรีธนญชัย ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จากการชักชวนของ ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ และยังได้รับโอกาสแสดงบทพระเอกในภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง โดยมีชื่อเสียงคู่กับ อรพรรณ พานทอง และ เพ็ญพิสุทธิ์ คงสมุทร ปัจจุบัน ปัญญา นิรันดร์กุล ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)

เอมี่ กลิ่นประทุม

เอมี่ กลิ่นประทุม เผยวิธีถอดเขี้ยวเสือ “ซี ศิวัฒน์” จากเพลย์บอยกลายเป็นสามีสั่งได้

Alternative Textaccount_circle
เอมี่ กลิ่นประทุม
เอมี่ กลิ่นประทุม

แต่งงานมาพักใหญ่แล้ว สำหรับ นางเอกสาว เอมี่ กลิ่นประทุม และนักแสดงหนุ่ม ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แต่ความหวานของทั้งคู่ก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย จนหลายคนแอบอิจฉา ล่าสุด สาวเอมี่ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง ONE 31

เอมี่ กลิ่นประทุม

เอมี่ กลิ่นประทุม คบกับ ซี-ศิวัฒน์ มา 13 ปี ความรักยาวนานขนาดนี้อยากรู้ว่ามีเรื่องเบื่อหน่ายกันบ้างไหม?

เอมี่ : มีค่ะ รู้สึกเหมือนมาระบายในรายการนะ(หัวเราะ) ก็มีแหละ เหมือนทุกคู่นะมี่ว่า มันคงไม่มีที่จะแบบรักกันตลอดหรอก มันก็ต้องมีเบื่อหน่ายกันบ้าง ครอบครัวของเราเอง เรายังเบื่อเลยเหมือนพี่น้องอะไรแบบนี้ แล้วกับคนที่เราจะต้องมาอยู่ด้วยตลอดเวลามันก็ต้องมีช่วงที่เบื่อบ้าง

เอมี่ : คือเบื่อในที่นี้มันก็แค่เรื่องที่เบื่อ ไม่ใช่จะแบบว่า ฉันไม่เอาแล้วคนนี้ หรือว่าไม่อยากมีเขาแล้วในชีวิตมันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ อันนี้แค่เบื่อในเรื่องที่ธรรมดาเช่น เบื่อนิสัยแบบนี้ เหมือนกับเวลาเราพูดอะไรออกไปแล้วไม่มีผลตอบรับอะไรทั้งสิ้น คือเหมือนกับว่าผู้ชายเขาก็จะมีโลกส่วนตัวของเขา เหมือนเราพูดอยู่คนเดียว คือเราแค่อยากให้ มี feedback กลับมาหาเราแค่นั้นเอง หรือว่าเบื่อเรื่องที่ติดเกมมาก

เห็นว่าทั้งคู่มีนิสัยแบบคนละขั้วกันเลยจริงไหม และปรับตัวเข้าหากันอย่างไร?

เอมี่ : ใช่ค่ะ เอมี่จะเป็นคนที่ชอบอยู่กับเพื่อน ชอบสังสรรค์ ชอบออกจากบ้าน ชอบไปลองร้านอาหารใหม่ๆ แต่ว่าพี่ซีเขาจะเป็นคนที่แบบว่ามีโลกส่วนตัวสูง เขาชอบอยู่บ้าน แต่ถ้าเขาออกไปข้างนอกเขาก็จะออกไปเพื่อกินข้าว แล้วก็กลับบ้าน คือถ้าเรากินข้าวเสร็จแล้วอยากจะนั่งดูบรรยากาศ เขาก็จะแบบว่า ดูเสร็จยัง? กลับได้ยัง? อะไรแบบนี้ คือมันมีหลายๆ อย่างที่เราไม่เหมือนกันค่ะ อันนี้เป็นตอนแรกๆ ที่เราคบกัน พอคบกันไปสักพักหนึ่งเขาก็จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้น

แสดงว่าหนุ่มซีเองก็ยอมเอมี่มากขึ้นใช่หรือเปล่า?

เอมี่ : ก็ยอมมากขึ้น แต่ว่ามี่ก็ไม่ได้อยากที่จะต้องออกไปกินข้าวตลอดเวลา เราก็มีการกินข้าวที่บ้านหรือว่าทำอาหารด้วยกัน เราก็จะมีการปรับกิจกรรมของแต่ละคนให้ลงตัวกัน แบบที่โอเคกันทั้งคู่ เรื่องงานก็เหมือนกันค่ะ เขาก็จะยอมให้เราจัดแจงวางแผนได้ ว่าช่วงไหนจะรับงานหรือว่าช่วงไหนไม่รับ มีแพลนที่จะไปเที่ยวกันอะไรแบบนี้

เห็นบอกว่าพี่ซีติดเกมหนักมาก ขนาดไหน?

เอมี่ : ติดเกมมากค่ะ เป็นเกม playstation แล้วก็มือถือด้วย คือเมื่อก่อนติดหนักมากแบบที่ว่าไม่ออกไปข้างนอกเลย หรือบางครั้งทะเลาะกับเราเรื่องออกนอกบ้าน แล้วก็ต้องยอมออก แต่ออกไปแล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนะ คือถ้าโดนบังคับเขาจะไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย แต่ว่าเขาก็จะเป็นพักๆ คือเวลาถ้ามีเกมใหม่ออกมาเมื่อไหร่เขาก็จะเป็นอยู่ช่วงหนึ่ง พอเขาเล่นเสร็จทุกด่านก็จะเรียบร้อยแล้ว

ติดเกมถึงขนาดลืมภรรยาไปเลยจริงหรือเปล่า?

เอมี่ : ค่ะคือลืมเราไปเลยจริงๆ คือเวลาไม่อยู่บ้านจะเป็นคนที่ไม่เล่นเกมเลย แต่ว่าเคยพยายามแล้วนะ แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ สุดๆ ก็แค่ชั่วโมงเดียว เหมือนกับจะบอกว่า อยากให้รู้นะว่ายังมีฉันอยู่ตรงนี้อะไรแบบนี้ แต่พออยู่กันไปนานๆ เราก็เริ่มที่จะเข้าใจกันมากขึ้นค่ะ เราก็ได้แต่คิดว่าการติดเกมมันก็ดีกว่าไปติดอย่างอื่น

ส่วนเอมี่เองก็ค่อนข้างติดเพื่อน และก็มีบ้างที่แอบลืมหนุ่มซีเหมือนกัน?

เอมี่ : จริงค่ะ มันก็มีบ้างค่ะ เราก็ผลัดกัน คือเขาเล่นเกมแล้วเราก็ไม่รู้จะทำอะไร อยู่บ้านฉันก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเธอ งั้นฉันออกไปข้างนอกดีกว่า ก็ไปอยู่กับเพื่อนค่ะ เกือบจะทุกครั้งแค่นั้นเอง ซึ่งนางก็จะโอเค แฮ็ปปี้นะ เพราะว่าไม่มีใครกวนเขา แล้วเราก็จะออกไปแบบไม่มีใครตามอะไรแบบนี้ ไปไม่นานค่ะแค่เที่ยงคืน กินข้าวเย็นแล้วก็นั่งด้วยกันนิดหน่อย คือกลับดึกแล้วรถมันไม่ติดค่ะ(หัวเราะ)

ถ้าซีเขาถามว่า “ระหว่างเพื่อนกับสามีเอมี่จะเลือกอะไร” เราจะตอบอย่างไรดี?

เอมี่ : สามีค่ะ แต่คือต้องแล้วแต่สถานการณ์ บางทีเราเลิกงานเร็วแล้วเราอยากอยู่กับเขา แล้วบังเอิญเพื่อนโทรมาเราก็จะไม่ไปนะ แต่บางทีเราอยู่กับเขา เขาก็เอาแต่เล่นเกม คือมันก็เป็นปัญหาโลกแตกนะ แบบบ่นไปเรื่อย และมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งไปด้วยกันก็มีค่ะ คือเพื่อนมี่กับเพื่อนเขา มันคือกลุ่มเดียวกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเวลาไปก็จะแฮ็ปปี้อยู่แล้ว

เอมี่ กลิ่นประทุม

เห็นว่าเอมี่ขี้งอนมาก งอนเรื่องที่เขาไม่ขอแต่งงานด้วย จริงไหม?

เอมี่ : คือเราคบกันมานานมาก ตลอดระยะเวลา 7 ปีเราไม่เคยพูดถึงในเรื่องของการแต่งงาน ซึ่งทุกคนก็จะมาถามเราเยอะมากว่าเมื่อไหร่จะแต่ง 7 ปีอะไรแบบนี้ คือเราทำงานในวงการด้วย พอแต่งงานแล้วบทบาทมันจะเป็นยังไงเราก็คิด แต่พอผ่านมาเรื่อยๆ ก็ต้องพูดแล้วแหละ แบบฉันก็แก่แล้วนะ คิดจะแต่งแต่ยังไม่พร้อมหรือว่าคิดจะไม่แต่งเลยกันแน่ จะเอายังไงให้พูดมาเลย เขาก็บอกว่าแต่ง แต่แค่คือแบบอยากมีบ้านให้ก่อน อยากให้สบาย อยากให้ทุกอย่างพร้อมหมดก่อนอะไรแบบนี้ และสุดท้ายเขาก็มาขอเราแต่งงาน

โมเม้นต์ตอนขอแต่งงานเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย?

เอมี่ : คือพี่ซีเวลาเขาจะเซอร์ไพร้ส์หรือว่าทำอะไรเขาไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย มี่จะรู้ทันทุกเรื่อง เซอร์ไพร้ส์ไม่เก่งแล้วก็เป็นคนวางแผนอะไรไม่ได้ แล้วตอนที่ขอแต่งงานมี่ไม่รู้เลย ซึ่งปกติมี่แต่จับพิรุธเขาได้แทบทุกเรื่อง วันนั้นเป็นวันเกิดของมี่ เราก็ไปกินข้าวกัน ซึ่งวันนั้นมี่ไม่สบายแล้วก็อยากกลับเร็ว แล้วเขาก็จะแบบว่าเดี๋ยวสิ สั่งอะไรมากินอีกสิ แล้วอยู่ๆ เขาก็บอกไปนั่งมุมนู้นกัน เราก็ย้ายโต๊ะกันไป อยู่ๆ เขาก็ลงไปนั่งคุกเข่า แล้วหาแหวนไม่เจอเงอะๆงะๆ พอเจอก็เอาออกมา อันนี้ถือว่าเซอร์ไพร้ส์มาก เพราะเราไม่ได้ตั้งตัวเลย

ซีพูดอย่างไรตอนขอเอมี่แต่งงาน?

เอมี่ : คือตอนนั้นเป็นช่วงที่แม่ของพี่ซีพึ่งเสียไปประมาณปีหนึ่ง เขาก็บอกว่า เขารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน แล้วถ้าเกิดว่าเขาเจอคนที่ใช่แล้ว เขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาพร้อมแล้ว เขาก็ถามว่า พร้อมไหมที่จะให้เขาดูแล เราแต่งงานกันเถอะ มี่ก็ตอบ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างอะไรประมาณนี้ แล้วก็ Happy Ending ค่ะ

เอมี่ กลิ่นประทุม

“ซี ศิวัฒน์” ไร้น้ำยาจริงหรือเปล่า?

เอมี่ : ไม่ค่ะ คือเหมือนกับว่าเรายังคุยกันอยู่ว่าเรายังไม่พร้อมมีตัวน้อย คือเราก็ยังมีความสุขกับการที่จะอยู่กันสองคน ตอนนี้ก็ยังคุมอยู่ค่ะ ความรู้สึกมันยังไม่อยากมี มันเหมือนกับแบบว่าที่ผ่านมาเราทำงานทั้งคู่ แล้วไม่ค่อยมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันมาก มันเพิ่งมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันก็ตอนที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ แล้วก็แต่งงาน มันเป็นช่วงที่เพิ่งอยู่ด้วยกัน มันรู้สึกยังไม่อิ่มความเป็น 2 คน มี่ก็เลยยังไม่อยากมีตัวน้อยๆ แล้วทุกวันนี้ก็ยังมีความสุขกับชีวิตแบบนี้อยู่ คือเหตุผลที่ เอมี่ และซี ศิวัฒน์ ยังไม่อยากมีลูกในตอนนี้


 

ฟลุค เกริกพล

เคล็ดลับกระชับความหวาน 8 ปี ฟลุค เกริกพล – นาตาลี เถียงกันหนักๆ ยิ่งรักกันกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle
ฟลุค เกริกพล
ฟลุค เกริกพล

คู่รักที่น่ารัก  ฟลุค เกริกพล กับ นาตาลี เปิดใจถึงข่าวลือแต่งงาน และเคล็ดลับกระชับความหวานที่ทำให้ครองรักกันมาถึง  8 ปี

ฟลุค เกริกพล

8 ปีแล้ว สำหรับความรักเหนียวแน่นระหว่าง ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช กับ “ลี-นาตาลี เจียรวนนท์” แม้ความรักจะมีอุปสรรคบ้างจากความคิดเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่องแต่ก็ยังประคับประคองความรักได้อย่างราบรื่น และยิ่งบ่มความรักยิ่งหวานกว่าคู่รักวัยรุ่น และท่ามกลางความรักที่ราบรื่นก็มีกระแสข่าวลือว่าทั้งคู่จะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้ ซึ่งล่าสุดฟลุคได้ออกมาเปิดใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบอกว่ามีที่คิดไว้ แต่ไม่ได้แพลนว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

“ผมสัญญาว่ามีเมื่อไหร่จะบอกเลย เพราะถ้าผมมีแพลนแล้วผมบอกไป มันก็จะกลายเป็นไม่เซอร์ไพร้ส์ ตอนนี้มันยังไม่มีแพลนแบบนั้น มันต้องขอก่อน และการขอแต่งงานก็ไม่ใช่ว่าดินห้างอยู่แล้วจะไปขอ มันก็ไม่ใช่ถูกไหม มันไม่มีอะไรตื่นเต้น มันต้องตื่นเต้นหน่อย”

ขณะที่นาตาลีกล่าวว่า “คือยังไม่ถึงเวลานั้น ลีไม่ได้อยากไปคาดหวังอะไร เดี๋ยวรู้สึกผิดหวัง ฉะนั้นอะไรจะเกิด มันก็เกิด อย่างที่บอก พอมาถามกัน ก็เลยไม่กล้าตอบอะไรเยอะจริงๆ เพราะว่าเราไม่มีแพลนอะไรที่เป็นทางการจริงๆ ไม่ได้แอบ หรือว่าแพลนแล้วไม่บอก ไม่ใช่ มันก็เลยเหมือนเป็นคนที่ยังไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้น เชื่อว่าถ้าถึงเวลาของมัน ก็น่าจะมีค่ะ (หัวเราะ)”

คู่รักคบหาดูใจกันมานาน 8 ปีแล้ว แม้จะมีข่าวระหองระแหงบ้าง แต่ในวันนี้ก็ยังคงจับมือกันอย่างเหนียวแน่นเสมอ ซึ่งฟลุคได้เปิดเผยว่าเคล็ดลับความรักนั้นก็คือการเถียงกันบ่อยๆ โดยฟลุคมองว่าการเถียงกันนั้นไม่ใช่การทะเลาะแต่เป็นการรับความคิดซึ่งกันและกันมากกว่า

“เถียงกันบ่อยๆ ครับ (หัวเราะ) คือการที่เรารับความคิดซึ่งกันและกัน ไม่ใช่หมายความว่าเราไม่ได้รักกันนะครับ แต่เราเถียงกันเพื่อที่จะได้ปรับความเข้าใจกันและกัน เราปรับความเข้าใจกันบ่อยๆ ก็ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ทุกวันนี้ถึงเราจะคุยกันมานานแล้ว คบกันมานานแล้ว เราก็ยังต้องมีเรื่องที่ต้องเถียงกัน เล็กๆ น้อยๆ และอีกอย่างพอเราโตขึ้น ทุกคนโตขึ้นเรื่อยๆ บางทีโตขึ้นแล้วไปคนละทาง แต่การที่เราคุยกันเรื่อยๆ มันเป็นการปรับจูน ให้คุยกันรู้เรื่องตลอดเวลาครับ”

แต่ถึงแม้แต่ฟลุคบอกว่าสุดท้ายคนที่ยอมลงให้ก็คือเขานั่นเอง “ส่วนใหญ่จะเป็นเราโดน เป็นเรื่องปกติแหละครับ”

ด้านสาวนาตาลีเสริมว่า “ใครถกชนะ คนนั้นได้ เป็นการโต้วาที เราไม่ได้ทะเลาะกันหรอกค่ะ เราจะเถียงเอาเหตุผลมาพูดกัน ข้อดีคือพวกเรายังเป็นคนที่ไม่ได้เอาตัวเองเป็นใหญ่ขนาดนั้น เราก็ฟังเหตุผลไง ถ้าเหตุผลพี่ฟลุคจริง เราก็เงียบไปตามนั้น หรือถ้าเราพูดเหตุผลแล้วเขายอม บางครั้งมันก็จบๆ แล้วลงท้ายด้วยว่าเออจริง คือเลยกลายเป็นว่าเราจบสวย เลยไม่มีอะไรแตกหัก ทุกวันนี้ก็คือว่าแฮ็ปปี้ดี บางคนอาจจะถามว่า ทำไมถึงไม่แต่งสักที ก็เพราะทุกวันนี้มันก็แฮ็ปปี้ดี เนอะฟลุคเนอะ” ซึ่งหนุ่มฟลุคก็ได้แต่ตอบรับ “อื้มครับ” เท่านั้น

ฟลุค เกริกพล

ฟลุค เกริกพล

ฟลุค เกริกพล

ฟลุค เกริกพล

ฟลุค เกริกพล ฟลุค เกริกพล


ถาพจาก : IG @lee_natalie @fluke777

‘เซอร์ไพร์ส!!! พบชายในฝันขอแต่งงานในร้านเหล้า’ ดูดวงรายวัน 7 พฤศจิกายน 2561

ดูดวงรายวัน 7 พฤศจิกายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ในช่วงนี้ท่านกำลังคิดสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่และท้าทายความสามารถ โดยทำคู่กับงานประจำ ท่านพลังเยอะ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ แต่จะมีปัญหาขลุกขลักจากการไม่วางแผนงานล่วงหน้า ทำให้การตัดสินใจผิดพลาด ทางที่ดีควรหาเพื่อนหรือบริวารที่รู้ใจมาช่วยก็สามารถสร้างผลงานที่ดีเป็นที่ยอมรับ

การเงิน :  ได้มาด้วยอำนาจวาสนา ซึ่งท่านก็ใช้จ่ายไม่อั้น หมดไปกับการเลี้ยงดูบริวารเพื่อนฝูง

ความรัก : ท่านอาจใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเร็วไปหน่อย ยังไม่ทันศึกษานิสัยใจคอกันดีนัก จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีทิฐิมานะมากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเวลาทะเลาะกันมักไม่หันหน้าเข้าหากัน ต้องการเอาชนะ จนอดคิดไม่ได้ว่า เราเหมาะสมกันจริงหรือ คนโสด วันนี้มีโอกาสได้พบรักกับชายในฝัน แล้วไม่ต้องรออีกต่อไป แต่งงานเลย

สุขภาพ :  โรคที่เกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนเลือด ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย วิงเวียนศีรษะ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : นวัตกรรมที่เกี่ยวกับเรือกสวน ไร่นา ที่ดิน ผลิตผลทางการเกษตร อาจเป็นของครอบครัวที่ได้ลงมือทำไว้ วันนี้จะสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้ โดยสามารถทำคู่กับงานประจำได้ยาวเลย

การเงิน : มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนไม่ขาด การลงทุนจะประสบความสำเร็จ

ความรัก : ได้คู่ดี แม้จะคบกันไม่นาน แต่เขาก็อยู่ช่วยเหลือสร้างเนื้อสร้างตัวร่วมกัน เลี้ยงดูครอบครัวให้สุขสบายทั้งกายและใจ คนโสด มีคนมาติดพันมากมาย แล้วแต่ละคนก็พร้อมที่จะแต่งงานร่วมชีวิตกับท่านทั้งนั้น แต่วันนี้เปิดปุ๊บติดปั๊บ ใครมาก่อนได้ก่อน

สุขภาพ : ทานอาหารรยาก จึงควรระวังการขาดสารอาหาร และวิตามินบางตัวน้อยเกินไป

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ท่านอาจมีแผนที่จะสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่และท้าทายความสามารถ ในเรื่องของการออกแบบตกแต่งสถานที่ หรืองานช่างต่างๆ แต่งานนี้ไม่ง่าย เพราะท่านต้องไฟล์ทกับเจ้าของงานให้ได้ ก็ถือเป็นโอกาสให้ท่านได้แสดงศักยภาพให้คนยอมรับ

การเงิน : ผันผวนไม่แน่นอน ไม่ควรทุ่มลงทุนแบบใจใหญ่ เพราะจะทำให้เป็นหนี้ได้

ความรัก :  ท่านมีความคิดก้าวหน้า และทันสมัย รักศักดิ์ศรีและสิทธิสตรีอย่างดีเยี่ยม อยู่ด้วยกันจึงต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียมมากกว่าจะอ่อนไหวโรแมนติก คนโสด จะพบรักกับชายในฝัน แต่อย่าฟุ้งที่จะเปลี่ยนเขาให้เหมือนท่าน เพราะเขาอาจรับไม่ได้

สุขภาพ :  มีอาการปวดตามแนวกระดูกสันหลัง ทำให้ปวดกล้ามเนื้อหลัง เคล็ดขัดยอก

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : ท่านอยู่ในภาวะที่อึดอัด วิตกกังวล เพราะกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาความดีความชอบ หรือผลงาน ทำให้เบื่อหน่ายกับการทำงานอย่างมาก เพราะไม่สามารถทำตามแผนที่จะเริ่มต้นสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่ได้ตรงตามเวลาอย่างที่ตั้งใจไว้

การเงิน : มีโชคในการเดินทางหาเงินนอกบ้าน สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

ความรัก : ที่ผ่านมาแม้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ แต่วันนี้ท่านได้พบคู่ที่มีจิตใจดี มีนิสัยใจคอคล้ายคลึงกัน มีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิตเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม คนโสด  เซอร์ไพร์ส!!! ท่านมีโอกาสได้พบชายในฝันในร้านเหล้า แล้วแต่งงานกันเลย

สุขภาพ :  หมั่นดูแลเรื่องการขับถ่าย โดยเฉพาะการกลั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เป็นโรคกรวยไตอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หากกำลังเข้าสู่การประมูลหรือลงสนามแข่งขัน วันนี้ท่านทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชัยชนะ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกล ถือว่าท่านโชคดี เพราะผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ จนอาจทำให้ถูกอิจฉาตาร้อนได้โดยไม่รู้ตัว

การเงิน : อาจได้เงินพิเศษเป็นผลตอบแทนจากการทำงาน

ความรัก :  แม้ท่านจะเคยผิดหวังมาจนกลัวกับการเริ่มต้นใหม่ แต่วันนี้ท่านได้คู่ที่เป็นผู้ใหญ่มาก จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีเหตุผลและทัศนคติที่ดี  คนโสด ใช้ชีวิต Work hard & Play hard  จนไม่ได้สนใจเรื่องคู่ จนผู้ใหญ่ต้องนัดเดทให้ หากเป็นต่างชาติวัยผู้ใหญ่ก็ใช่เลย

สุขภาพ : ระวังหกล้มหรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ที่ผ่านมาท่านมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ ต้องผจญกับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามา ทั้งถูกอิจฉาริษยาจนถึงเป็นคดีความ จึงทำให้ท่านเหนื่อยอยากลาพักร้อนแล้ว

การเงิน :  มีเงินไม่เก็บ ชอบนำเงินไปลงทุน ก็ถือว่ามีโชค แต่ต้องทำเอง ร่วมหุ้นร่วมทุนไม่เวิร์ค

ความรัก : ท่านแต่งงานกันเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง ซึ่งวันนี้ความคิดเห็นเริ่มไม่ลงรอยกันแล้ว ควรลดทิฐิ อีโก้ ความเป็นตัวเองลงบ้าง เพราะต่างก็คิดว่าตัวเองถูกจนไม่ยอมหันหน้าคุยกันดีๆ ยอมพบกันคนละครึ่งทาง   คนโสด ขออยู่เป็นโสด ต่างคนต่างอยู่ดูใจกันก่อน

สุขภาพ :  หากเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ระวังการติดเชื้อไวรัสและโรคภูมิแพ้ จากอาหารและอากาศ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : หากท่านกำลังคิดจะเรียนต่อหรือเปิดธุรกิจใหม่ที่ต่างประเทศ หรือมีต่างประเทศเข้ามาร่วมทุนด้วย ท่านจะได้รับความสนับสนุนช่วยเหลือด้วยดีจากผู้ใหญ่ผู้หญิง อีกทั้งผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานก็เอ็นดูเป็นอย่างดี โดยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่ต่าง จะยิ่งทำให้ท่านเป็นที่รักมากยิ่งขึ้น

การเงิน :  หมดเงินไปกับการเลี้ยงดูญาติพี่น้อง บริวาร ลูกน้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย

ความรัก :  จะเป็นวันที่ครอบครัวได้มาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า อาจเป็นการเลี้ยงต้อนรับลูกหลานที่จะเดินทางกลับจากสำเร็จการศึกษา คนโสด ท่านมีดวงนารีอุปถัมภ์ อาจมีผู้ใหญ่ใจดีส่งเสียให้ค่าเทอม

สุขภาพ : ระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับการรย่อยอาหาร การเจ็บป่วยในช่องท้องและลำไส้

เค้กแต่งงาน สำคัญขนาดไหน ทำไมถึงต้องมี เรามีเฉลย!

account_circle

เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมในงานแต่งต้องมี เค้กแต่งงาน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องเสมอ ไม่ว่าจะงานเล็ก งานใหญ่ หรืองานเอ้าท์ดอร์ก็จะขาดของหวานชนิดนี้ไปไม่ได้เลย สำหรับใครที่สงสัยและใคร่รู้ แพรว wedding มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ว่าเค้กแต่งงานนั้นมีไว้เพื่ออะไร 

ย้อนเวลากลับไปราวๆ 1,900 ปีที่แล้ว ชาวโรมันในสมัยนั้นนิยมนำข้าวสาลีอันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์มาอบกับเกลือให้เป็นเค้กชิ้นเล็กๆ สำหรับรับประทานในงานแต่ง แต่ว่าเขาจะไม่ได้ใช้มีดตัดแบบในปัจจุบันนะคะ แต่วิธีการในสมัยนั้นคือ เจ้าบ่าวจะต้องกินในส่วนหัวหรือส่วนด้านบนของเค้ก จากนั้นก็หักแบ่งออกมาแล้วนำไปโปรยลงบนหัวของเจ้าสาว (ก่อนหน้านี้ใช้ปาใส่เจ้าสาว แหมโหดอะไรเบอร์นั้น) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงชีวิตคู่ที่ยืนยาว มีความสุข และถือเป็นการอวยพรให้เจ้าสาวแข็งแรง มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง ส่วนแขกที่มาในงานก็จะได้รับแบ่งเค้กไปด้วยคนละนิดละหน่อย เนื่องจากเชื่อกันว่าจะได้มีชีวิตที่ดี มีความสุข และประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับบ่าวสาวนั่นเอง

เค้กแต่งงาน

แต่ถ้าใครคิดว่าเค้กแต่งงานจะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของการมีชีวิตคู่ที่มีความสุขล่ะก็ บอกเลยค่ะว่า ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเค้กแต่งงานก็คือ “การเปิดบริสุทธิ์ของเจ้าสาว” เพราะชาวโรมันเชื่อว่าการหักขนมปังเปรียบเสมือนกับการที่เจ้าสาวยอมสละพรหมจรรย์ และแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นมีชายหนุ่มตีตราจองและมีพันธะทางครอบครัวอย่างเป็นทางการ

คราวนี้เขยิบจากฝั่งโรมันมาทางเกาะอังกฤษกันบ้าง ในสมัยนั้นเค้กแต่งงานยังเป็นเพียงแค่ก้อนแป้งจืดๆ ไม่มีความหวานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเค้กเหล่านั้นจะถูกนำมาวางซ้อนกันหลายๆ ชั้น ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของคู่บ่าวสาว จากนั้นจะให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาจูบกันเหนือยอดเค้ก หากเค้กไม่ล้มคว่ำลงมา แสดงว่าทั้งคู่จะมีชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและมีความสุข แน่นอนว่ายิ่งสูงเท่าไหร่บ่าวสาวจะจูบกันได้ยากเท่านั้น นั่นจึงเป็นที่มาของตุ๊กตาตัวแทนบ่าวสาวที่ยืนจูบกันอยู่บนยอดเค้กแทน

เค้กแต่งงาน

และสำหรับเค้กเป็นชั้นๆ ที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 1660 ในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 มีเชฟชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเดินทางไปที่ลอนดอน และได้เห็นประเพณีการวางเค้กซ้อนๆ กันแล้วพังครืนลงมา เขาจึงเริ่มคิดสูตรทำเค้กแยกออกมาเป็นชั้นๆ ซึ่งจะต้องเตรียมล่วงหน้าก่อนวันใช้งานจริงหลายวัน และเนื่องจากสมัยนั้นไม่มีตู้เย็น วีธีการถนอมเค้กให้อยู่ได้นานก็คือ ใช้มันหมูเคลือบเค้กให้แข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเค้กแห้งและล้มลง เมื่อถึงวันแต่งงานก็แค่ขูดเอามันหมูออก แล้วจึงเสิร์ฟให้แขกรับประทาน ใช่ค่ะ ถูกอย่างที่คุณกำลังคิดว่า แล้วใครจะไปกินลง ต่อมาจึงได้เปลี่ยนจากมันหมูมาใช้เป็นน้ำตาลแทน นอกจากจะไม่เหม็นแล้วยังหวานน่ารักประทานอีกด้วย

หวังว่าหลายคนคงจะหายสงสัยกันแล้วนะคะว่าทำไมงานแต่งถึงต้องมีเค้กกับเขาด้วย หลังจากนี้เห็นเค้กแต่งงานที่ไหนคงไม่ได้มองแค่ความสวยงามน่าทานแล้ว แต่คงต้องนึกไปถึงความหมายและสัญลักษณ์ต่างๆ ตามแบบประเพณีดั้งเดิมด้วย หรือบ่าวสาวคู่ไหนอยากจะลองจูบกันจริงๆ เหนือยอดเค้กก็ได้นะคะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้เราฟังด้วยว่าสำเร็จหรือไม่

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวความเชื่อต่างๆ ในเรื่องงานแต่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพเค้กแต่งงานของคุณนก & คุณมิค ถ่ายโดย Punnakanfoto และงานแต่งงานคุณอูน & คุณแพ็ค ถ่ายโดย OAT-CHAIYASITH’s team

เอลซ่า Fantasy Bra

ประกาศแล้ว! นางฟ้าผู้ถูกเลือกให้สวม Fantasy Bra มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ใน VSFS 2018

เอลซ่า Fantasy Bra
เอลซ่า Fantasy Bra

หลังจากที่ถูกจับตามองมานาน เมื่อต้นสัปดาห์ทางวิคตอเรีย ซีเคร็ทก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า Fantasy Bra ในปีนี้ตกเป็นของนางฟ้าผมบลอนด์ เอลซ่า ฮอสค์ (Elsa Hosk) ซึ่งบรามีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ทางแพรวดอทคอมได้อัพเดท 6 ข้อต้องรู้ ก่อนจะถึง Victoria Secret Fashion Show 2018 ให้ได้ทราบกันไปแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในโชว์ที่กำลังจะถึงบ้าง และความเคลื่อนไหวของแฟชั่นโชว์สยายปีกก็ยังคงมีออกมาให้ได้อัพเดทกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ทางวิคตอเรีย ซีเคร็ท ก็ได้เปิดเผยว่า เอลซ่า ฮอสค์ วัย 29 ปี นางแบบที่ร่วมงานกับทางแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2015 ได้รับเลือกให้สวมแฟนตาซีบราใน Victoria Secret Fashion Show 2018 ที่ปีนี้มาในธีม “Dream Angels Fantasy Bra” โดยบรามีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท

แฟนตาซีบราถูกออกแบบโดย Atelier Swarovski มีการประดับประดาด้วยเพชรสวารอฟสกี้ 100% กว่า 2,100 ชิ้น ผลิตในห้องปฏิบัติงานของสวารอฟสกี้ ทั้งนี้ยังมีบุษราคัมและเงินสเตอร์ลิงเข้ามาเป็นส่วนประกอบด้วย รวมแล้วมีจำนวนมากกว่า 71 กะรัต โดยเพชรสวารอฟสกี้ตรงกลางบราจะมีขนาดใหญ่ที่สุด และยังมีโซ่คล้องตัวเพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นมาอีกระดับ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการทำกว่า 930 ชั่วโมง

เอลซ่าได้เผยความรู้สึกว่า “ครั้งนี้ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นมากเลยค่ะ ที่จะได้ลองสวมแฟนตาซีบราเป็นครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน ร่างกายของฉันสั่นอย่างรุนแรง และมันไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกกระวนกระวายใจ แต่ฉันตื่นเต้นมาก รู้สึกหนาวชนิดที่ว่าฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน และมันเป็นช่วงเวลาที่ฉันจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน”

Fantasy Bra

เอลซ่า ฮอสค์ ในแฟนตาซีบรา สวยพิฆาตมากกก…กกก

 

Fantasy Bra

เอลซ่าออกมาโปรโมทแฟนตาซีบราที่เธอจะได้สวมในนิวยอร์ก

 

Fantasy Bra

โพสต์ท่าคู่กับแฟนตาซีบราต้องมีอินเนอร์แบบนี้

 

Fantasy Bra

นอกจากแฟนตาซีบราแล้ว ชั้นในที่เธอใส่อยู่ก็ทำมาจากคริลตัส และจะเปิดวางขายในราคาประมาณ 8,230 บาท

 

Fantasy Bra

ภาพรวมของแฟนตาซีบรา ความระยิบระยับของเพชรมันช่างกระแทกตาจริงๆ 

 

Fantasy Bra

Zoom in! บราสวยตาแตกจริงๆ ทำจากเพชรสวารอฟสกี้ที่มีจำนวนมากกว่า 71 กะรัตเลยทีเดียว

 

Fantasy Bra

ไม่แปลกใจเลยที่งานชิ้นนี้จะใช้เวลาทำถึง 930 ชั่วโมง เพราะมองใกล้ๆ ยิ่งสวยและดูประณีต

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 

แฟนนางฟ้าอัพเดทด่วน! 6 ข้อต้องรู้ ก่อนจะถึง Victoria Secret Fashion Show 2018

ปีนี้ไม่หวาน! Victoria Secret Fashion Show 2018 เปลี่ยนเสื้อคลุมเป็นสีดำสุดเท่

รันเวย์ใกล้เดือด! ส่องนางแบบที่จะเข้าร่วมแคสติ้ง Victoria Secret Fashion Show 2018

เปิดโผ Top 10 นางฟ้า ‘วิคตอเรีย ซีเคร็ท’ ที่มีรายได้สูงสุด

 สยายปีกให้ปัง! ชมภาพแฟชั่นโชว์สุดเซ็กซี่จากนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท ร้อนแรงเขย่ารันเวย์

สะบัดปีกเดินต่อ! Ming Xi นางฟ้าวิคตอเรียซีเคร็ท สะดุดล้มกลางเวที เสียงเชียร์ส่งให้เพียบ

แขวนปีกแล้ว! “อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ้” นางฟ้าวิคตอเรีย วัย 36 ปี ขอยุติเส้นทางนางแบบ

คาร์ลี่ คลอส ซูเปอร์โมเดลระดับโลก สวยหวาน ดุจเจ้าหญิงในชุดแต่งงานจาก Dior

ส่องลุค “Roos marijn De Kok” นางแบบคนนี้ที่ใครก็บอกว่าเหมือน “จีจี้ ฮาดิด”

 Karlie Kloss เฉลยเคล็ดลับหุ่นเพอร์เฟ็คท์ แค่กินขนมก่อนขึ้นโชว์บนรันเวย์ Victoria’s Secret


ภาพและที่มา : www.dailymail.co.uk

ตุลย์-ภากร

หล่อที่ความคิด มีเสน่ห์ในแบบ ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย

Alternative Textaccount_circle
ตุลย์-ภากร
ตุลย์-ภากร

ทำความรู้จักนักแสดงหนุ่ม ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย หล่อ หุ่นแซ่บ ความสามารถรอบด้าน ลูกชายของ ผศ.ทญ.เจนจิรา ถิระวัฒน์ ทายาทรุ่นสองของสนามกอล์ฟเมืองแก้ว และ สนามกอล์ฟเชียงใหม่ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปารีสอร์ท

นาทีนี้เป็นยุคของทีวีออนไลน์ครองเมืองจริงๆ ละครหลายเรื่องแม้ไม่ได้มาจากช่องหลัก แต่กลับมีกระแสและการพูดถึงไม่แพ้ละครจากช่องหลักเลย รวมถึงซีรีส์ทางเลือก หรือ ซีรีส์วาย ได้กระแสจากผู้ชมอย่างถล่มทลาย ซึ่งไม่ใช่แค่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ความดังยังโกอินเตอร์ไปยังในต่างประเทศอีกด้วย

ซึ่งหนึ่งในนักแสดงหนุ่มที่เนื้อหอมไม่แพ้ใครเลยคือ  ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย  นักแสดงหนุ่มเจ้าของผลงาน “Bad Romance The Series”, “Together With Me”, “Beauty War The Series สงครามโลกสวย”, “Manner of Death พฤติการณ์ที่ตาย” ฯลฯ วันนี้เลยจะขอพาทุกคนไปรู้จักหนุ่มคนนี้ กันให้มากขึ้นค่ะ

ทำความรู้จักหนุ่มหล่อมากความสามารถ ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย

สำหรับ “ตุลย์” หรือ “ภากร ธนศรีวนิชชัย” เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2535 เป็นลูกชายของ คุณสมเกียรติ ธนศรีวนิชชัย คุณแม่ของเขาคือ “ผศ.ทญ.เจนจิรา ถิระวัฒน์” ทายาทรุ่นที่สองของสนามกอล์ฟเมืองแก้ว และสนามกอล์ฟเชียงใหม่ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปารีสอร์ท

ตุลย์จบการศึกษาจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ก่อนที่จะมารับงานแสดงเคยเป็นหนุ่มออฟฟิศมาก่อน ตุลย์บอกว่าถึงแม้ตอนนี้จะเป็นนักแสดงแต่ก็ไม่เคยคิดทิ้งอาชีพนี้เลย

ตุลย์-ภากร

“ผมชอบงานสถาปนิกตอนฝึกงานก็ค่อนข้างเอ็นจอย เราอยากทำงานประจำด้วย เพราะเราไม่อยากทิ้งตรงนี้ไป เพราะเราเรียนมา แต่ว่ามันลาไม่ได้ สมมติมีละครเรื่องหนึ่งต้องลาอาทิตย์ละสามวัน วันลามันก็ไม่พอ มันเสียผลประโยชน์บริษัทเขา แต่ผมก็ยังทำอยู่นะครับสถาปนิก รับเองเป็นจ๊อบๆ แต่ก็คิดไว้ว่าอยากต่อยอด อยากไปเรียนโท ด้านสถาปัตย์ ที่อเมริกาครับ”

อันที่จริงแล้วตุลย์ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ เขามีผลงานในวงการบันเทิงมาเกือบ 10 เรื่องแล้ว แต่ซีรี่ส์ที่ทำให้หนุ่มคนนี้แจ้งเกิดเป็นพลุแตกก็คือซีรี่ส์ภาคต่อสุดฮิต “Together With Me” ของค่ายทีวีธันเดอร์ นั่นเอง

“ละครเรื่องแรกของผมคือ ตะวันบ้านทุ่ง เป็นละครเย็นทางช่อง 3 ผมอยู่วงการมานี่ปีที่ 5 แล้วครับ แล้วก็มีละครช่อง 3 มาเรื่อยๆ เช่น ทางผ่านกามเทพ แล้วก็มีหลวงตามหาชน ก็หลายเรื่องแล้วครับ แต่คนจำเราได้จากซีรี่ส์ “Together With Me เรื่องนี้เยอะมาก ผมจึงรู้สึกดีใจมากครับ คือปลื้มปริ่มที่เห็นคนที่คอยสนับสนุน”

ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ดังพลุแตกจนดำเนินมาถึง 3 ซีซั่นเพราะกระแสคู่จิ้น “#กรน็อค” โดยตุลย์เล่าว่า “แม็กซ์ ” เป็นน้องที่มหาวิทยาลัยไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งต้องมาเข้าฉากจูบกัน

“แม็กซ์ (ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์ )เป็นรุ่นน้องผม เขาค่อนข้างความเคารพผม แต่พอถึงวันที่ประกาศตัวละคร ก็รู้สึกเซอร์ไพร้ส์ที่ได้มีโอกาสมาเล่นคู่กัน ย้อนกลับไป 2-3 ปีที่แล้ว ซีรี่ส์วายมันใหม่มากเลยครับ แต่ตอนนี้ซีรี่ส์วายเยอะมาก ก็เกิดการเปรียบเทียบเยอะครับ จริงๆ เราก็ไม่อยากเปรียบเทียบกับใคร ตุลย์กับแม็กซ์เราคุยกันแล้ว ว่าเราอยากให้มันออกมาเป็นตัวละครที่เราทำให้มันดีที่สุดมากกว่า เราไม่จำเป็นต้องว่าเรื่องนั้นเขาทำแบบนี้ เรื่องนี้เขาทำแบบนี้ เราทำตามบท ทำตามนิยาย คู่กร-น็อค จะมีความโต ฉากเลิฟซีน ฉากรัก ก็เล่นจริง จูบจริง เรามีการเวิร์คช็อปเยอะมาก ต้องทำความรู้จักกันใหม่ ตั้งแต่เริ่มแตะตัวแตะแขนสัมผัสร่างกาย” ทั้งนี้ตุลย์ยังบอกติดตลกว่า “หนวดมันก็ถูกกัน มันก็คงไม่นุ่มเท่าผู้หญิงหรอก (หัวเราะ)”

ตุลย์-ภากร

แม้ว่าซีรี่ส์ที่เล่นจะเป็นซีรี่ส์วายแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตุลย์ไขว้เขวและยืนยันหนักแน่นว่ายังชอบผู้หญิงเหมือนเดิม

“ตอนนี้ผมกับแม็กซ์สนิทกันแล้ว ล่าสุดไปถ่ายรายการที่ญี่ปุ่นมา ก็ลงออนเซ็นด้วยกัน คือเราเป็นพี่น้องกันครับ หมายถึงเรารักกันแบบมากๆ จนมันมองข้ามทุกอย่าง ถือเป็นการทำงานแบบโปรเฟสชั่นแนลเวิร์ค ผมแมนครับ ผมยังไม่ได้รู้สึกอะไร (หัวเราะ) ก็ยอมรับว่าเราก็มีถามตัวเองนะ ได้คำตอบว่ายังชอบผู้หญิงอยู่ครับ”

ตุลย์-ภากร

จากจุดที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่วันนี้มีแฟนคลัยเยอะทั้งในไทยและต่างประเทศ ตุลย์บอกว่ามันทำให้เขาได้ประสบการณ์หลายอย่างและค้นพบว่าเรามีความสุขกับปัจจุบัน ความสุขของเรามีได้โดยไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับใคร

“ปีนี้ผมบวชไปเมื่อต้นปี แล้วเราก็พบว่าเรามีความสุขได้โดยที่เราไม่ต้องเปรียบเทียบกับใครเลย เรามีความสุขกับปัจจุบัน สุขที่เรารู้จักทำสัมมาอาชีพ ทำงานที่ดี ได้เจอคนดีๆ ชื่อเสียงมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่ามันก็มีเรื่องไม่ดีของมัน มันมีขึ้นก็ต้องมีลง เราจะไปยึดติดกับคำว่าดังตลอดไปไม่ได้ มันเป็นผลรางวัลมาจากสิ่งที่คุณทำเนี่ยแหละ ก็รู้สึกว่าถ้าใครที่ดังและมีชื่อเสียง เรายินดีกับเขาอยู่แล้ว ถึงใครจะลงมา วันหนึ่งเขาอาจจะกลับขึ้นไปก็ได้ครับ เราไม่ไปตัดสินอะไร เพียงแต่ว่าอยากให้ทุกคนเป็นส่วนของสังคม เป็นแรงบันดาลใจ ในเมื่อคุณอยู่ในแสงไฟแล้ว คุณเป็นตัวอย่างที่ดีหน่อยให้กับคนที่อยู่รอบๆ ให้กับเยาวชน ให้กับสังคม ว่าประเทศไทยมันดีนะ แล้วเราต้องการส่งเสริมให้ทุกคนเติบโตไปในทางที่ดี เป็นคนที่ดี คอยซัพพอร์ตกันและกัน ตั้งใจเรียน”

“หลังจากที่ผมได้มีโอกสบวช ก็พบว่าเรามีความสุขได้โดยที่เราไม่ต้องเปรียบเทียบกับใครเลย เรามีความสุขกับปัจจุบัน สุขที่เรารู้จักทำสัมมาอาชีพ ทำงานที่ดี ได้เจอคนดีๆ ชื่อเสียงมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่ามันก็มีเรื่องไม่ดีของมัน มันมีขึ้นก็ต้องมีลง เราจะไปยึดติดกับคำว่าดังตลอดไปไม่ได้”

ตุลย์-ภากร

ไม่ใช่แค่หล่อและแสดงดีเท่านั้น แต่หนุ่มคนนี้ยังรูปร่างดีสุดๆ ตุลย์เล่าว่าทุกอย่างเป็นผลมาจากการออกกำลังกายที่ต้องมีวินัยและทำอย่างสม่ำเสมอ

“ผมเป็นคนผลักดันตัวเองในด้านการออกกำลังกายเยอะมาก แล้วก็จะคอยผลักดันคนอื่นด้วย ผมคิดว่าสุขภาพจิตที่ดี มันออกมาจากสุขภาพกายที่ดีครับ เราก็หาเวลาเข้าฟิตเนสตลอด ถ้าวันไหนไม่ได้ทำงาน เราจะจัดตารางนัดกับเทรนเนอร์ไว้เลย เพราะว่าผมชอบเทรนกับเทรนเนอร์ มันเห็นการพัฒนาได้เยอะครับ ก็ออกกำลังให้ได้อาทิตย์ละ 3-4 วัน แล้วผมแบ่งส่วนว่าวันหนึ่งเล่นอกกับเล่นหลัง วันหนึ่งเล่นขา เล่นแขน วันหนึ่งเล่นไหล่ครับ ก็มีควบคุมการกินด้วย ก็จะได้ผลเยอะขึ้น คือผมก็จะคอยบอกเพื่อนๆ ตลอดว่าต้องดูแลนะ อย่ากินอะไรมั่วซั่วนะ ต้องนอนเป็นเวลา”

“ตอนที่ผมเรียนคณะสถาปัตย์ ผมนอนน้อยมาก จนสุขภาพมันเสีย บางทีขับรถมันหลับใน จัดเวลาไม่เป็น บางทีผมร่วงด้วยนะ นอนน้อยจนมีปัญหาสุขภาพ เพราะว่าปั่นงานไม่ทัน จนมีจุดหนึ่งเราคิดว่า เราเริ่มเข้าวงการ แล้วเราก็เริ่มคิดว่าจริงๆ ถ้าเราตายไปตอนที่เราเรียน มันก็เสียหรือเปล่า มันไม่ได้อะไรเลย มันก็จบกันตรงนี้ ถ้าเราแบ่งกันครึ่งทาง เอาเรื่องเรียนให้สุด สุดแค่ไหนแค่นั้น แล้วก็ดูแลตัวเอง นอนให้เป็นเวลาจะดีกว่าไหม แล้วช่วงปี 3 เป็นต้นมาเราก็เปลี่ยนเลย เราต้องนอนให้พอก่อนแล้วค่อยเอาเวลาที่เหลือทำงาน(หัวเราะ)”

“แล้วเราก็เริ่มคิดว่าจริงๆ ถ้าเราตายไปตอนที่เราเรียน มันก็เสียหรือเปล่ามันไม่ได้อะไรเลย มันก็จบกันตรงนี้ ถ้าเราแบ่งกันครึ่งทาง เอาเรื่องเรียนให้สุด สุดแค่ไหนแค่นั้น แล้วก็ดูแลตัวเอง นอนให้เป็นเวลาจะดีกว่าไหม”

ตุลย์-ภากร

ตุลย์เชื่อว่าโอกาสจะเป็นของคนที่พร้อมเสมอ และการเรียนไม่มีที่สิ้นสุด แม้จะจบการศึกษาแล้วแต่เขาก็ยังขวนขวายที่จะเรียนรู้เสมอ

“คือตุลย์เป็นคนที่จะแก้ปัญหาจากตัวเราก่อน แต่ก่อน เรารู้สึกว่าเราไม่เข้าใจการแสดงเลย เรื่องแรกที่เล่นยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเข้าฉากแล้วต้องเอามือไปไว้ตรงไหน การเป็นนักแสดงมันไม่ได้ มันต้องออกมาด้วยตัวเอง ในฐานะตัวละคร เราก็เลยแบบ มีอยู่ 2-3 เรื่องแรก เล่นโดยที่เราดีไซน์ตลอด เราไม่เข้าใจ พี่ที่ค่ายทุกคนก็รวมหัวกันว่าทำยังไง ทำไมตุลย์ถึงเล่นไม่ได้ ก็เห็นเป็นเด็กที่ดูจำอะไรเร็ว ก็เลยเรียนการแสดง พอเรียนจบเขาให้เข้าไปทำคลาส เขาเรียกว่า ทรานซ์ เหมือนกับการสะกดจิตดูตัวเอง แล้วก็พบว่าผมเป็นเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสต์ ซึ่งเรากลัวผิดไปทุกอย่างเลย เราไม่เคยปล่อยให้ชีวิตเราได้ใช้หัวใจ พอเรียนคลาสนั้นจบก็ปลดแอกได้ แล้วก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาในการแสดง ก็รู้สึกว่าอันนี้เป็นเรื่องที่เราพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องการทำงานมากๆ เลย เราเปิดใจยอมรับว่าเราทำอะไรไม่ได้ ทำอะไรได้ จากนั้นเราก็พยายามหาเวลาว่างเรียนภาษาเพิ่ม เรียนจีนเพิ่ม มีงานพิธีกร งานดีเจมาแล้ว”

“หลักๆ ก็ 3 ภาษาครับ ก็คิดอยากเรียนเพิ่มเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเอาจีนให้ดีก่อนก็ ภาษาจีนเป็นภาษาที่น่าสนใจครับ เดี๋ยวนี้ฟังคนบนบีทีเอสรู้เรื่อง แต่ก่อนเราไม่เข้าใจเลย เห็นคนพูดจีนเราก็ส่ายหน้า แต่ว่าจริงๆ เขาก็เป็นคนที่มีความหมาย ยิ่งใหญ่ในชนชาติเขา ทุกวันนี้ไปที่ไหนก็เจอแต่คนจีน พอเรียนจีนแล้วผมรู้สึกว่าเราเข้าใจคนอีกหลายร้อยล้านคน”

ตุลย์-ภากร

สุดท้ายอยากบอกอะไรกับแฟนคลับของเราบ้าง

“การอยู่ในวงการของตุลย์ ก็คิดว่าตัวเองผ่านเรื่องต่างๆ มาเยอะ มีการพัฒนาตัวเอง เจอเรื่องในชีวิตจริงในฐานะนักแสดง ในฐานะคนคนหนึ่ง ผมก็คิดว่าผมโตขึ้น แล้วก็อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนกันต่อไปครับ”

ประวัติ ตุลย์-ภากร

  • ชื่อจริง : ภากร ธนศรีวนิชชัย
  • เกิดเมื่อ : 8 ตุลาคม พ.ศ. 2535
  • การศึกษา : คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ผลงาน : อินสตาแกรม @tul_pakorn

 

แม่แมท ภีรนีย์

แม่แมท ภีรนีย์ ให้กำลังใจลูกสาว “อย่าไปกังวลกับความไม่ชัดเจน”

แม่แมท ภีรนีย์
แม่แมท ภีรนีย์

แม่แมท ภีรนีย์ เคลื่อนไหวหลังลูกสาว เจอมรสุมข่าวฉาว โพสต์ข้อความให้กำลังใจนางเอกสาว ขอให้ข้ามผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และ “อย่าไปกังวลกับความไม่ชัดเจน”

     แม่แมท ภีรนีย์หลังจากลูกสาวสุดที่รัก แมท ภีรนีย์ คงไทย เจอมรสุมข่าวฉาว เพราะไฮโซหนุ่ม “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ออกมายอมรับว่ากำลังคบกับสาวแมทอยู่จริง กระแสโจมตีก็ไปตกอยู่ที่สาวแมท เพราะบรรดาชาวเน็ตต่างก็พุ่งเป้าไปที่เธอ หาว่าเป็นมือที่สาม ทั้งที่จริงแล้ว “แอฟ ทักษอร” กับ “สงกรานต์” เลิกราและแยกกันอยู่มา 2 ปีแล้ว แต่กระแสดราม่าต่างๆ ก็ถาโถมไปที่สาวแมท

แม่แมท ภีรนีย์จนแม่นีย์ คุณแม่ของแมท ทนไม่ไหวที่เห็นลูกสาวเจอกระแสข่าวโจมตีหนักมาก ล่าสุด แม่แมท ภีรนีย์ ได้โพสต์ภาพข้อความให้กำลังใจลูกสาวโดยมีเนื้อหาว่า

แม่แมท ภีรนีย์“อย่าไปกังวลกับ “ความไม่ชัดเจน” บางเรื่อง ชีวิตเราจะให้ชัดทุกเรื่องก็คงลำบาก ชัดเฉพาะเรื่องสำคัญก็พอ ที่เหลือก็จะเบลอๆ หรือจางๆ ไม่ชัดก็ปล่อยไป “การเดินทางของชีวิตก็เหมือนการเดินทางข้ามภูเขา” เวลามองไปข้างหน้า ทิวเขาใกล้ไกล ก็ชัดไม่เท่ากัน เป็นเสน่ห์ที่สวยงามเสียอีก มันคือ “ระยะ” ที่ธรรมชาติกำหนดไว้ หลายเรื่องในชีวิตเรามีระยะความสำคัญไม่เท่ากัน “ปล่อยเบลอบ้าง” ก็เป็นธรรมชาติดี”

แม่แมท ภีรนีย์ทั้งนี้ ยังมีแฟนๆ ที่เข้าไปร่วมให้กำลังใจสาวแมท โดยแสดงความคิดเห็นว่า “เป็นกำลังใจให้ทั้งแม่นีย์ และลูกแมท หญิงแกร่งทั้งคู่ ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี, เป็นกำลังใจให้คุณแม่กับน้องแมท ในชีวิตต้องเจอเรื่องราวเบลอๆ บ้างค่ะ จะได้เข้มแข็ง แล้วมันจะผ่านไป ต่อแต่นี้จะมีแต่เรื่องราวที่น่าชื่นชมแน่นอนค่ะ, รักแม่นีย์และดวงใจของแม่ที่สุดเลย, รักแม่นีย์รักพี่แมทเสมอ กอดๆๆ กำลังใจอยู่ตรงนี้เสมอ, สู้ๆ ค่ะ แคร์แต่คนที่รักเราก็พอ, รักแม่นะคะ หนูจะอยู่ข้างๆ แม่และพี่แมทเสมอนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ”

แม่แมท ภีรนีย์งานนี้แฟนๆ แห่ให้กำลังใจทั้งสาวแมทและคุณแม่นีย์เพียบ ส่วนเรื่องราวความรักของ “สงกรานต์” กับ “แมท” จะเป็นอย่างไรนั้น วันที่ 7 พ.ย. นี้ รอฟังคำตอบจากปาก แมท ภีรนีย์ กันอีกที เพราะเธอจะไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์การค้า The Market Bangkok  ที่โรงแรม Novotel Bangkok Platinum Pratunam


ภาพจาก IG @neephat

 

เบื้องหลังแชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้ เพราะเจ้าของทีม วิชัย ศรีวัฒนประภา ทุ่มขนาดนี้!

ราว 4 ปีก่อน การได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งสามารถพลิกประวัติศาสตร์ครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งสโมสรมา 132 ปี  ทำให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้ดำรงประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจจากทั้งสื่อไทยและอังกฤษขึ้นมาในพริบตา

แพรวมีคำสัมภาษณ์จากปาก “ท่านประธาน”  วิชัย ศรีวัฒนประภา ถึงเบื้องหลังกว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้ บอกเลยว่ารู้แล้วทึ่งมาก

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์

เลสเตอร์ซิตี้ ความท้าทายนี้ต้องทุ่มสุดตัว
ครั้งหนึ่งคุณวิชัยเคยพูดถึงการทำทีมฟุตบอลว่า “ทําฟุตบอลเมคมันนี่ยาก มีแต่เสียเงิน แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําฟุตบอลเป็นธุรกิจอยู่แล้ว ที่ทําเพราะอยากให้คนรู้จักประเทศของเรามากขึ้น เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนทั้งโลกชอบและคนไทยก็ชอบ ตอนแรกผมอยากซื้อทีมในลอนดอน ในตอนนั้นชอบทีมเชลซี ไม่ถึงกับเป็นทีมในดวงใจ แต่แค่เห็นวิธีการเตะของทีมเขาแล้วรู้สึกว่าเป็นทีมที่น่าสนใจทีมหนึ่งแต่เช็คราคาไปแล้วสูงมาก กับคิดอีกทีรู้สึกไม่ค่อยจะท้าทายสักเท่าไร ที่สำคัญคือถ้าซื้อมาทําตกชั้น อาจโดนแฟนๆ เขาต่อว่าได้ ขณะที่ถ้าอยู่ในลีกรองลงมาอย่างแชมเปี้ยนชิปถ้าทําให้สูงขึ้นไปได้ หนึ่ง ราคาไม่แพง สอง คนก็จะมีความสุข

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์“บังเอิญมีคนบอกว่าทีมเลสเตอร์ซิตี้อยากขาย บอกมาวันเสาร์ รุ่งขึ้นผมไปดูเลย เจอเจ้าของ มร.มิลาน มันดาริชบอกราคามา 20 ล้านปอนด์ ผมตกลงวันนั้นเลย จากนั้นภายใน 7 วันเซ็นสัญญา เป็นอะไรที่ได้มาง่ายมาก ตอนหลังเมื่อมาตรวจสอบเอกสารโดยละเอียดจึงเจอเรื่องที่ซ่อนอยู่หลายเรื่องมาก เช่น สนามเขาเอาไปจํานองไว้กับกองทุน หรือสัญญาเช่าร้านค้าที่เซ็นเช่าไประยะยาวแล้ว แต่เงินไม่ถึงเรา สรุปผมต้องจ่ายเงินใช้หนี้มากกว่าเงินที่ซื้อสนามอีก แต่ไม่เป็นไรถือว่าเราตกลงไปแล้ว ที่สําคัญผมมั่นใจว่าน่าจะทําให้ดีขึ้นได้”
ความมั่นใจ คำนี้มีพลังสูงส่ง เพราะวันนี้ นาทีนี้ สิ่งที่ทุกคนประจักษ์คือเขาทำสำเร็จสมวาจาที่ลั่นไว้ แถมยังทำได้ดีมากกว่าดีขึ้น ด้วยการก้าวขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยที่รู้ว่าทีมอังกฤษทีมนี้มีคนไทยเป็นเจ้าของ

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์แต่นอกจากการปั้นทีมจนคว้าชัยแล้ว คุณวิชัยยังมีความมุ่งหวังแรงกล้าอีกอย่าง นั่นคือการปั้นนักเตะไทยเพื่อไปบอลโลก
“ผมต้องการสร้างอะคาเดมีขึ้นมา จากนั้นปั้นเด็กให้เก่งๆ เพื่อขายเด็ก 300-400 คน ถ้าปีหนึ่งขายได้ 5-6 คนก็คัฟเวอร์แล้ว แต่กว่าจะถึงวันนั้นคงต้องใช้เวลาเป็นสิบปี แต่เรื่องรายได้ไม่ใช่เป้าหลัก เป้าของผมคืออยากให้นักเตะเยาวชนไทยมีโอกาสมาเล่นในยุโรป วันนี้ต้องบอกว่านักเตะไทยยังไม่มีโอกาสนั้นจริงๆ ซึ่งมาจากกฎหมาย และข้อจํากัดที่มีมากมาย กฎข้อหนึ่งคือถ้าไม่ติดอันดับโลก 1ใน 10 เขาจะไม่ให้เด็กประเทศนั้นมาเล่นเป็นมืออาชีพในลีก ความจริงเป็นอย่างนั้น แต่คนไทยเราไม่ค่อยเข้าใจ คิดว่าถ้าเตะดีก็สามารถจะไปได้ ความจริงไม่ใช่ ผมจึงคิดว่าน่าจะใช้เวลาทําให้ฐานทีมฟุตบอลของเราแข็งเสียก่อน ระหว่างนี้ผมก็คัดเด็กไทยสัก 1-5 คนต่อปี ส่งมาอยู่ในอะคาเดมีของเรา ปั้นมันทุกตําแหน่งเลย คนไหนมีความสามารถจริง เราก็จะให้เขาเล่น เพราะเราได้ศึกษาเรื่องกฎหมายทั้งหมดแล้วว่าถ้าเขามาเป็นนักเรียนอะคาเดมีตั้งแต่เด็กและอยู่เกินสองปี เขาก็จะเหมือนมีเรซิเด้นท์วีซ่า และมีโอกาสเล่นอาชีพในลีก ถึงตอนนั้นก็อยู่ที่ความสามารถของเด็กล้วนๆ แล้ว

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์ทุ่มงบไม่อั้นเพื่อคุณภาพของนักเตะในทีม
ในวงการฟุตบอลมักมีข่าวซื้อขายนักฟุตบอลเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะทีมที่มีตำแหน่งแชมป์เป็นแบ็คอัพ ชื่อเสียงยิ่งหอมหวลชวนให้เป็นที่หมายตามากขึ้น กับเรื่องนี้คุณวิชัยมีมุมมองน่าคิดมากว่า “คนมักมองว่าการซื้อขายนักเตะเป็นเรื่องธรรมดาของวงการนี้ ผมไม่เถียง สมมุติมีทีมดังๆ เช่นแมนยูฯ เชลซี ลิเวอร์พูลมาขอซื้อนักเตะของผม ผมอาจให้เขาเพราะอยากให้เด็กเรามีโอกาส อนาคตเขาอาจมีค่าตัว 50-100 ล้าน แต่ผมเชื่อว่านักเตะทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ไม่มีใครอยากไปไหนหรอก เพราะวันนี้เขามีโอกาสเข้ามาเล่นพรีเมียร์ลีกแล้ว ขณะที่ถ้าย้ายไปอยู่ทีมใหญ่เขาก็เป็นได้แค่ตัวสํารอง และชาตินี้ทั้งชาติอาจไม่ได้ลงเล่นสักนัดหนึ่งเลยก็ได้ แต่ถ้าอยู่ที่นี่เขาเป็นตัวจริง

แชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ซิตี้,เลสเตอร์ซิตี้,วิชัย ศรีวัฒนประภา, คิง เพาเวอร์“ที่ผ่านมาผมทุ่มงบให้กับนักกีฬาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟิตเนส การจัดระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย เอื้อกับการฝึกซ้อม เด็กของเราต้องมีที่วัดติดตัวตลอด ดูว่าออกกําลังกายแล้วกี่ชั่วโมงทถ้าโอเวอร์เครื่องจะมีสัญญาณบอกว่าหยุดซ้อมได้ หรือน้อยเกินไปเครื่องก็บอกสมมุติวันนี้เขาซ้อมวิ่งตอนเช้าไม่ถึงเวลาที่เครื่องกําหนดให้ เขาก็ต้องนําเครื่องนี้ผูกติดตัวกลับไปซ้อมที่บ้าน ซ้อมเสร็จกลับมา ก็ต้องเอาเครื่องนี้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ดูว่าเล่นจริงหรือเปล่า และต้องตรวจปัสสาวะทุกเช้าเพื่อดูว่าเขาขาดอาหารอะไร ทุกเช้าจะมีตารางออกมาเลยว่าใครต้องกินอาหารอะไร หมวดหมู่ไหนและวันนั้นทั้งวันเขาต้องกินอาหารหมวดหมู่นี้ทั้งหมดเพื่อให้ได้สิ่งที่ร่างกายเขาต้องการ สนามที่ใช้ในการฝึกซ้อมก็เช่นกันผมทุ่มงบประมาณกับตรงนี้ไปเยอะ เงินสิบล้านถ้าต้องทําคือต้องทํา เช่น สั่งเปลี่ยนสนามหญ้าทั้งสนามเพื่อให้เด็กมีความรู้สึกว่าซ้อมแล้วไม่เจ็บ หญ้าดีดินนิ่มหรือในช่วงหน้าหนาว ผมก็สร้างสนามในร่มอย่างดีให้เขา ถามว่าสโมสรอื่นมีไหม อาจจะมี แต่ไม่ดีเท่าเรา ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราเสริมสร้างเขาซึ่งผมคิดว่าการใช้เงินกับตรงนี้น่าจะดีกว่าไปซื้อซูเปอร์สตาร์จากทีมดังๆ มาอยู่กับเรา เพื่อขายความดังของเขา”

ทุ่มขนาดนี้สมแล้วที่ได้แชมป์

ที่มา : นิตยสารแพรว

 

พบเรื่องราวอื่นๆ ของ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่อ คิง เพาเวอร์

เป็นทางการ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่ออาณาจักรแสนล้าน คิงเพาเวอร์ เสียชีวิต

ไขความลับชีวิตของ ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’ มหาเศรษฐีผู้ให้ เจ้าสัวหัวใจเพชร!

บททดสอบธุรกิจยักษ์ใหญ่จากพ่อสู่ลูก “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ทายาทคิง เพาเวอร์

ยกย่อง “เจ้าสัววิชัย” มหาเศรษฐีใจบุญ บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง

“ขอให้สู้กับมาเฟียชนะ” เจ้าสัววิชัยเล่าถึง ที่มาของชื่อ King Power เส้นทางนี้ไม่ได้ราบเรียบอย่างที่คิด

สามัคคี 4 พี่น้อง ‘ศรีวัฒนประภา’ วิสัยทัศน์เจ้าสัววิชัย ปูทางอนาคต แบ่งการบริหารงานชัดเจน

เจ้าชายบรูไน ดารา เซเลบ ร่วมอาลัย ต่อการจากไปของ “เจ้าสัววิชัย”

แพร วทานิกา

ถอดสูตรเมคอัพ Everyday Look พร้อมลิสต์ 27 บิวตี้ไอเท็มคู่ใจของ “แพร วทานิกา”

Alternative Textaccount_circle
แพร วทานิกา
แพร วทานิกา

เชื่อว่าสาวๆ ค่อนประเทศต้องเคยดูรายการเรียลลิตี้โชว์ชื่อดัง This Is Me Vatanika รายการที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวและการทำงานของเซเลบริตี้สาวสวยหน้าคมนามว่า “แพร วทานิกา หรือ วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา” ซึ่ง แพรวดอทคอม เชื่อว่าคนติดตามดูและรู้จักรายการนี้ไม่น้อย ถึงขั้นมีแฮชแท็กจากวดีเด็ดในรายการ #สาจ๋า ว่อนอินสตาแกรมและทวิตเตอร์เลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้คุณแพรได้ออกตอนพิเศษขึ้น MAKE UP TUTORIAL #1 เป็นการเมคอัพแบบ Everyday Look ฉบับแพร วทานิกา งานนี้ แพรวดอทคอม เลยขอถอดสูตรเมคอัพ พร้อมลิสต์บิวตี้ไอเท็ม มาฝากสาวๆ กันค่า บอกเลยว่าทั้งเด็ดทั้งเพียบ!!!

เมคอัพแบบ Everyday Look ฉบับ “แพร วทานิกา” ไล่สเต็ปตามนี้…

เริ่มเขียนทรงคิ้วด้วย SOAP & GLORY Archery D-I-Y Brow Bar ปกติทุกวันแพรจะวาดไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าเราแต่งหน้ายังไง ถ้าเป็นวันสบายๆ คิ้วก็จะเป็นทรงที่หนาหน่อย และแพรไม่เคยลบคิ้วเลย เพราะแพรไม่มีคิ้ว ตามด้วยใช้ BENEFIT COSMETICS Ka-Brow! เจลเขียนคิ้วแต่งทรงคิ้วเพิ่มให้เป๊ะขึ้น คิ้วจะเป็นอย่างแรกเลยที่แพรจะแต่งก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีคิ้ว เป็นคนเขียนคิ้วนอนด้วย!! จากนั้นแพรจะใช้ M.A.C Pro Longwear Waterproof Brow Set ปัดขนคิ้วให้เป็นสีที่คล้ายกับสีผมแพร ส่วนอันนี้ขาดไม่ได้เลย ชอบมากเป็นสีใส M.A.C Brow Set Colour-Free ถ้าเป็นวันที่แต่งหน้าน้อยๆ แล้วไม่มีเวลาเขียนคิ้ว จะใช้ตัวนี้ปัดให้คิ้วดูมีเชฟขึ้น

จากนั้นเป็นขั้นตอนการเตรียมผิว ก่อนที่จะลงทั้งหมด แพรจะใช้ GUERLAIN Abeille Royale Youth Watery Oil ก่อนบริเวณใต้ตาที่จะค่อนข้างแห้งและล้ามาก เพราะเป็นไมเกรนและภูมิแพ้ แพรจะใช้หยดลงบริเวณใต้ตา ถ้าเวลาเสาร์อาทิตย์อยู่บ้านจะหยดทั้งวันเลย ใช้บำรุงได้ทั่วหน้านะคะ แต่ถ้าใช้บำรุงก่อนแต่งหน้าตอนเช้าแพรจะทาบริเวณช่วงใต้ตาและโหนกแก้มเป็นหลัก และตัวที่ใช้เป็นประจำก็คือ Guerlain Orchidee Imperiale The Care ทาทั่วผิวหน้า ตามด้วยใช้ Charlotte Tilbury Magic Cream ตัวนี้ก็ชอบมาก เพราะหลังจากที่เราลงเมคอัพ จะยิ่งช่วยสมูทเมคอัพกับผิว ทำให้เมคอัพติดทนนานขึ้น ปกติแพรทาถึงคอเลย

หลังจากที่นวดตัวครีมให้เบลนด์ไปกับผิวหมดแล้ว ก็จะลงทิ้นต์ M.A.C Hyper Real Foundation สำหรับแพรว่าเหมือนกึ่งทิ้นต์กึ่งรองพื้น โดยผสมกับ La Mer Reparative Skin Tint SPF30 และใช้แปรงค่อยๆ เบลนด์เข้ากันก่อนมาลงที่ผิว แพรชอบใช้แปรงของลาแมร์มากๆ เพราะช่วยทำให้รองพื้นสมูทกับผิวได้ดี

สำหรับสีเปลือกตาที่ขาดไม่ได้เลยคือ M.A.C Eyeshadow Palette X15: Warm Neutral เริ่มจากแพรใช้สีโอลด์โรสเบลนด์ลงที่เปลือกตา และใช้สีชมพูลงที่เปลือกตาด้านบนบริเวณเบ้าตา และช่วงนี้กำลังอินมาก PAT McGRATH Eyeshadow Collection & Eye Palettes สี Copper ทาทับเปลือกตาจนถึงหางตา วาดแบบเชิ่ดขึ้น จะทำให้ตาดูมีประกายมากขึ้น และสำหรับใครที่คิดว่าแพรทำตามา แพรไม่ได้ทำค่ะ แต่ใช้สติ๊กเกอร์ตาสองชั้น Eyelid by เบนซ์ พรชิตา ทำให้ตาดูลึกขึ้น โดยใช้กาวติดขนตา D.UP Eyelashes Fixer EX ติดก่อนลงสติ๊กเกอร์ เวิร์คมาก ทำให้ชั้นตามีมิติขึ้น จากนั้นตามด้วยเขียนอายไลเนอร์ Chanel Stylo Yeux Eyeliner ปกติแพรจะเขียนชิดขอบตาแค่บางๆ ไม่ชอบให้ดูหนาเกินไป ชอบไลเนอร์ของ Chanel ตัวนี้ ช่วยทำให้อายไลเนอร์ที่กรีดไปตอนแรกกับขนตาสมูทกัน และใช้ Maybelline Hypersharp Power Black Liner กรีดหางตาให้ดูยาวขึ้น

ต่อไปขั้นตอนการแต่งแก้ม คอนทัวร์ แพรใช้ Kat Von D Lock-It Concealer Creme รู้สึกว่าเท็กเจอร์ช่วยทำให้คอนทัวร์สวยขึ้น จากนั้นแต่งใต้ตาใช้ M.A.C Studio Finish Concealer ลงก่อนบริเวณใต้ตา ร่องจมูก ร่องแก้ม จากนั้นใช้ M.A.C Pro Longwear Concealer ทาทับเป็นเทคนิคที่แพรคิดว่าช่วยทำให้ใบหน้าดูไบร์ทขึ้น ปิดใต้ตาดำด้วย แถมเอามาปัดช่วงโครงคิ้วช่วยให้มีโครงคิ้วขึ้นอีกด้วย

จากนั้นใช้ La Mer The Renewal Oil เป็นออยล์บำรุงใช้ได้ทั้งหน้า แต่แพรชอบเอามาทาปาก ลงปุ๊บปากไม่ลอกเลยทั้งวัน เสร็จแล้วใช้ Tom Ford Beauty Bronzing Powder ปัดทั่วโหนกแก้ม ตามด้วย M.A.C Powder Blush ปัดตรงโหนกแก้มเหนือบริเวณที่ปัดตรงคอนทัวร์ให้แก้มมีสีสันนิดหนึ่ง จากนั้นใช้แป้ง Chanel Les Beiges Healthy Glow Sheer Powder SPF15 PA++ ปัดตรงใต้ตา ร่องแก้ม ช่วยให้เมคอัพที่ลงก่อนหน้านี้ติดทนขึ้น และใช้แป้งไฮไลท์ Hourglass Ambient Lighting Powder ปัดตรงบริเวณโหนกแก้มและปลายจมูกนิดหนึ่ง อย่าเยอะมาก

สีปากที่ใช้ลงตัวแรกเลยคือ Lime Crime Metallic Velvetines สี Elle (ก่อนหน้านี้ทา La Mer The Renewal Oil เซ็ตผิวปากให้นุ่มก่อน) หลังสีปากตัวแรกแห้ง ทาต่อด้วย Tom Ford Lip Color Sable Smoke เป็นสีที่แพรทาประจำตั้งแต่เป็นนักเรียน เลิฟมาก แพรไม่ชอบเขียนขอบปาก ปิดท้ายด้วยการปัดขนตาด้วย Eyeko Black Magic Mascara เท็กเจอร์เบา ไม่ครีมมี่เกินไป ทำให้ขนตายาวเบาสบายขึ้น และถ้าอยากให้ผิวหน้ามีประกายมากขึ้น แพรแนะนำปัดแก้มทับด้วย Fenty Beauty Killawatt Highlighter Duo ค่ะ

 


ที่มา : ภาพและคลิป : VATANIKA

 

 

พี่โปรด อัษศดิณย์

น่าเอ็นดู พี่โปรด อัษศดิณย์ ช่วยแม่เป้ย เลี้ยงน้องปาลิน

พี่โปรด อัษศดิณย์
พี่โปรด อัษศดิณย์

พี่โปรด อัษศดิณย์ สวมบทพี่ชายที่แสนดี ช่วยคุณแม่เป้ย ปานวาด เลี้ยงน้องสาว แบบทะนุถนอม แตะตัวน้องอย่างเบามือ ดูแล้วละมุน อบอุ่นมากๆ

พี่โปรด อัษศดิณย์เป็นพี่ชายที่น่ารักมากๆ สำหรับ พี่โปรด อัษศดิณย์ บุญยรัตกลิน ลูกชายของ แม่เป้ย ปานวาด กับ พ่อป๊อป นิธิ ที่ออกอาการเห่อน้องสาว อย่าง น้องปาลิน เอามากๆ เพราะหลังกลับมาจากโรงเรียน น้องโปรดก็มักจะตรงมาหาน้องสาวก่อนทันที

พี่โปรด อัษศดิณย์โดยภาพที่เห็นกันบ่อยๆ คือ น้องโปรดจะช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องตลอด ทั้งอุ้ม ทั้งเล่นกับน้อง  เรียกว่าทำได้แทบทุกอย่างซึ่งน้องโปรดเองเป็นเด็กที่อ่อนโยน เวลาช่วยคุณแม่ดูแลน้อง ก็จะทะนุถนอมสุดๆ แถมยังดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จนแม่เป้ยยังต้องออกปากชมว่า

พี่โปรด อัษศดิณย์“ตลอดช่วงเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาโปรดทำให้แม่ได้รู้ว่า โปรดโตขึ้นมากๆ ตั้งแต่ที่มีน้อง โปรดรู้จักเสียสละ เข้าใจเวลาที่แม่อยู่กับน้อง โปรดช่วยแม่เล่นกับน้องเวลาแม่ปั๊มนม โปรดดูแลน้องทะนุถนอมน้องอย่างเบามือ และที่สำคัญที่สุดคือโปรดคอยปกป้องน้อง หลายๆ เหตุการณ์ทำให้แม่รู้สึกประทับใจในตัวโปรด เช่นพี่เลี้ยงตบก้นเบาๆ เพื่อทำให้น้องหลับ โปรดก็จะถามตีน้องทำไม? วันก่อนแม่สั่งส้มตำ(พริกเม็ดเดียว)โปรดก็จะพูดว่าเดี๋ยวน้องกินนมแม่ก็เผ็ดหรอก หรือแม่แกล้งถามว่า โปรด แม่ทำโทษน้องได้ไหม  โปรดรีบบอกไม่ได้น้องยังเล็กอยู่ และน้องทำอะไรผิด? ทั้งหมดในคำพูดที่โปรดได้พูดออกมาเป็นคำพูดเล็กๆ น้อยๆ แต่ทำให้แม่รู้สึกได้ถึงสิ่งที่โปรดคิดและรู้สึกอย่างไร โปรดถึงได้พูดประโยคเหล่านั้นออกมา ยังมีเรื่องราวเยอะแยะมากมายที่โปรดทำให้แม่รู้สึกประทับใจและภูมิใจในตัวของโปรด”

พี่โปรด อัษศดิณย์“ขอบคุณโปรดมากๆ เลยน้า สำหรับความเป็นพี่ชายที่แสนดี ที่แม่แทบไม่เคยต้องบอกหรือสอนให้โปรดทำเลย แต่โปรดทำของโปรดเอง จนทำให้แม่รู้สึกว่าโปรดโตขึ้นมากๆ วันนี้โปรด 6 ขวบแล้ว โปรดอาจจะยังไม่เข้าใจประโยคที่แม่พูดว่า “น้องจะมาเป็นของขวัญให้กับโปรด”  มันคืออะไร แต่โปรดโตไป ยามที่พ่อและแม่แก่ตัวไปแล้วหรือไม่ได้อยู่กับโปรดแล้ว โปรดจะเข้าใจมันเอง…คำอวยพรของแม่ยังคงเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ขอให้โปรดได้รับสิ่งเหล่านั้นคุ้มครองตัวโปรดตลอดไปนะครับลูก สิ่งนึงที่แม่อยากพูดกับโปรดเพิ่มคือแม่เป็นผู้หญิงที่โชคดีเหลือเกินที่มีโปรดเป็นลูกนะครับ รักโปรดมากเหลือเกิน และบันทึกนี้ต่อไปปาลินได้อ่าน ปาลินจะได้รับรู้ว่าพี่ชายรักเค้ามากแค่ไหน @prod_palin #prodassadin #palin”

พี่โปรด อัษศดิณย์

เรียกว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ ทำเอาแฟนๆ ถึงกับออกปากชื่นชมว่าโตขึ้นน้องโปรดต้องเป็นพี่ชายที่หวงน้องมากๆ แน่เลย


ภาพจาก IG @ppanward

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ครอบครัว บุญยรัตกลิน

“เป้ย” ประกาศปิดอู่ “ป๊อป-นิธิ” ยอมลาออกจากราชการเพื่อดูแลครอบครัว

เห่อหนักมาก “ป๊อป นิธิ” ไม่ได้คิดไปเอง ชี้ชัดลูกสาวหน้าเหมือนพ่อ

ไม่เจ็บก็คงไม่เรียนรู้! เป้ยเผย 4 บทเรียนจากมรสุมรัก เหมือนการชาร์จแบต ชีวิตคู่ต้องมีตรงนี้!

keyboard_arrow_up