ใบหยกสาหัส แต่เราไม่ปลดพนักงาน! บุ้ง-สะธี เผยในวันที่บริษัทเจอวิกฤต โควิด-19

account_circle

บุ้ง-สะธี หนึ่งในทายาทตระกูลใบหยก เผยในวันที่บริษัทเจอวิกฤต โควิด-19 แม้จะเจ็บหนักและสาหัส แต่ถึงอย่างไรเราก็ไม่เคยปลดพนักงาน ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด

หลังจากที่ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศปิดห้างสรรพสินค้า และสถานที่เพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ส่งผลให้พนักงานต้องหยุดงานด้วยความจำเป็น เมื่อไม่มีงานย่อมไม่มีรายได้ พวกเขาจึงเลือกที่จะกลับภูมิลำเนาเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่ เป็นต้น

แต่การเดินทางกลับจาก กทม. ซึ่งตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยสูงสุดนั้น สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายคนมากเลยทีเดียวว่า ถ้าทุกคนที่เดินกลับภูมิลำเนาไม่ปฏิบัติตัวตามกฎ คือ การกักตัวเอง 14 วัน จะมีการนำเชื้อกลับไปแพร่กระจายให้กับคนที่บ้านหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นการเดินทางกลับบ้านของพวกเขาอาจจะเป็นการแพร่เชื้อ โควิด-19 ให้ระบาดมากขึ้นจนยากเกินควบคุม

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เมื่อไม่มีงาน ก็ไม่มีเงิน แล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไร? ทั้งนี้หนึ่งในผู้ประกอบการอย่าง เครือใบหยกกรุ๊ปโดย คุณบุ้ง-สะธี จึงได้ออกมาประกาศชัดผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวจนกลายเป็นที่ฮือฮาว่า

โควิด-19

“ทางบริษัทจ่ายเงินเดือนคุณ ถึงแม้ว่าร้านจะปิด แต่ว่าถ้ามาลากลับบ้านไปในที่ที่เสี่ยง เราขอให้พ้นสภาพพนักงานไปเลย เพราะตอนนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ทุกที่ต้องลดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าใครทำตามกฎ ยอมทำตามสิ่งที่ควรจะทำ อยู่ห่างไม่ไปที่สุ่มเสี่ยง ทางบริษัทถือว่าให้ความร่วมมือ จะไม่มีการปลดออก ถ้าไปที่สุ่มเสี่ยงจะให้พ้นสภาพทันที”

ซึ่งคุณบุ้งยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า #ลงตามพี่ชาย ช่วยชาติได้แค่ไหนก็จะช่วย ห้ามได้จะช่วยห้าม บริษัทไม่เคยปลดคนออกไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหนๆ ถึงเวลาที่พนักงานต้องช่วยกันบ้าง #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

โควิด-19

อย่างไรก็ตาม แพรวดอทคอม ได้สัมภาษณ์คุณบุ้งเพิ่มเติมถึงกรณีที่ว่า ถ้าหากพนักงานไปในที่สุ่มเสี่ยงจะปลดออกโดยทันทีนั้น ถ้าใบหยกยังมีมาตรการช่วยเหลืออะไรบ้าง ซึ่งเธอได้เผยกับแพรวดอทคอมว่า

มาตรการของทางใบหยกกรุ๊ปคือ ดูแลพนักงานของเราให้ดีที่สุดเหมือนกับทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งเราไม่เคยปลดพนักงานเราออก ทางเราจะพยายามพยุงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนของเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ เราได้ใช้มาตรการทุกอย่างตามที่จะต้องทำ เพราะพนักงานเราค่อนข้างเยอะ ทั้งตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะในการทำงาน ทั้งในที่ประชุม ในห้องทำงาน มีหน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ สบู่ล้างมือ มีการพ่นฆ่าเชื้อ ซึ่งเราซัพพอร์ตทุกอย่าง ไม่ว่าหน้ากากจะหายากและราคาแพงแค่ไหน เพราะเราต้องป้องกันความปลอดภัยของพนักงานเราให้เหมือนสมาชิกของคนในครอบครัวเราค่ะ ทั้งนี้ที่ทำไปเพราะทางเราเป็นโรงแรมและมีคนเข้าออกมากหน้าหลายตา เรากันทั้งเราจะติดมาและกันที่จะไปเป็นพาหะกับคนอื่นด้วยค่ะ

และเมื่อถามถึง ในฐานะเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับการขาดทุน และยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แล้ว ทางใบหยกกรุ๊ปมีวิธีการรับมืออย่างไร เธอก็ได้ตอบว่า

เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มาเร็วมาก เราเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของกิจการทุกคนที่ต้องก้าวผ่านกับสถานการณ์นี้ไปให้ได้ อยากจะบอกว่า ทางใบหยกเราต้องใช้คำว่าสาหัสมาก แต่เราต้องยอมเจ็บสาหัส เพื่อส่วนรวม เพื่อพนักงานของเราซึ่งเป็นหลักพันคน เพื่อสิ่งที่ดีขึ้นในอนาคต จริงๆ เราสามารถบรรเทาความเจ็บเราได้โดยการปลดคนออก แต่เราไม่ทำ เราอยากจะยื้อให้ถึงที่สุดก่อน สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ มันทำได้เท่านี้จริงๆ


ภาพจาก : bungbaiyoke

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up