เซเลบนักสะสมเพชร ‘สุมณี’ แชร์เทคนิคสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลงทุนกับเพชรยังไงให้รุ่ง

‘สุมณี คุณะเกษม’ เซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งพ่วงตำแหน่งนักสะสมเพชรตัวยง แชร์เทคนิคในการลงทุนกับเพชรอย่างคุ้มค่า

ในช่วงวิกฤตทั่วโลกที่ล้วนคาดเดาไม่ได้ การสร้างเกราะประกันด้านการลงทุนไว้กับตัวเป็นเรื่องที่ควรรู้ไว้ ดังเช่นเซเลบริตี้ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ‘สุมณี คุณะเกษม’ นักสะสมเพชรตัวยง ที่เคยผ่านมาหลายวิกฤตเศรษฐกิจ และเปลี่ยนความหลงใหลส่วนตัวให้กลายเป็นมูลค่าได้ ครั้งนี้เธอจึงมีเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนกับเพชรมาฝากไว้อย่างน่าสนใจ

เลือกลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์

“สมัยรุ่นคุณตาคุณยาย ผู้คนนิยมสะสมที่ดินกัน ซึ่งมูลค่าก็ขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนมีที่ดินก็ใช่ว่าจะขายได้ง่าย ถ้าที่ดินผืนนั้นไม่ใช่ไพรม์แอเรียจริงๆ ต่างจากเพชรหรืออัญมณีที่จัดว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ที่ติดตัวเราไปไหนก็ได้ หากเกิดอะไรขึ้นสามารถนำไปขายได้ทั่วโลก แล้วใช้เป็นทุนในการดำเนินชีวิตต่อไป

“ปัจจุบันเราไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์อะไรได้ สมมติเกิดภัยพิบัติสงคราม อัญมณีและทองคำยังสามารถนำไปแลกเป็นเงินเพื่อใช้ดำรงชีพได้ อย่างสมัยสงครามมอสโก มีคนรู้จักคุณพ่อคนหนึ่งซึ่งเคยร่ำรวยมาก่อน พอเกิดการเปลี่ยนแปลงโดนยึดทรัพย์สมบัติไปเกือบหมด โชคดีมีแหวนมรกตแอบซ่อนติดตัวไว้ ก็ใช้ไปแลกขนมปังมาประทังชีวิตได้นานหลายวันตอนที่เกิดการสู้รบกันในประเทศเขา”

อัญมณีทวีมูลค่าเมื่อเลือกซื้อเป็น

“สมัยสาวๆ ดิฉันซื้อเครื่องประดับเพชรพลอยตามความชอบ แต่ที่จริงความรู้ในการเลือกซื้อเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะถ้าเรามองว่าเครื่องประดับนั้นจะเป็นการลงทุนให้ตัวเองและเพิ่มพูนมูลค่าให้ลูกหลานในอนาคต

“หลักในการซื้อเครื่องประดับ ควรเลือกโดยมุ่งเรื่องคุณภาพ อย่างเพชรสีขาวควรเป็นเพชรน้ำ 100 ซึ่งเป็นเพชรขาวไร้สีที่เรียกกันว่า D Color ความสะอาดของเพชรหรือ Clarity ควรเลือกระดับ Flawless (FL) หรือ Internally Flawless(IF) ซึ่งเป็นเพชรสะอาดที่สุดไร้ตำหนิ เพชรแบบนี้มีราคาสูงแบบก้าวกระโดดส่วน Cut หรือการกระจายแสงของเพชร สำหรับเพชรกลมควรเลือกเกรดสูงสุดตามมาตรฐานใบเซอร์ คือ 3 Excellent ซึ่งเพชรจะมีคุณสมบัติที่ดีครบหมดทั้งColor,Clarity,Cut,Carat โดยเฉพาะขนาดกะรัตที่ใหญ่ด้วยแล้วถือว่าหายาก

“สังเกตได้ว่าเพชรที่สวยมีคุณสมบัติครบ เวลาไปเทียบกับเพชรที่เกรดไม่ถึงต่อให้ใส่เป็นแผงใหญ่ก็จริง มองปราดเดียวจะเห็นถึงความต่างกันที่ชัดเจนทันที

“ฉะนั้นเวลาเห็นเครื่องประดับเซตติ้งสวยๆ แล้วชอบ ก็อยากให้ดูถึงคุณภาพที่เป็นรายละเอียดต่างๆประกอบด้วย ถ้าพอมีทุนทรัพย์ก็เลือกที่กะรัตใหญ่ไปเลย ถ้ายังไม่มีทุนทรัพย์ก็เลือกกะรัตที่เหมาะสม แต่ให้มีคุณสมบัติเจมส์ควอลิตี้ที่ครบถ้วนถึงจะดีที่สุด”

FANCY VIVID COLOR DIAMONDS ที่สุดของเพชรสี

“นอกจากเพชรขาว ตอนนี้เพชรสีต่างๆหรือเพชรแฟนซีคัลเลอร์ เช่น สีเหลือง ฟ้า เขียว ชมพู หรือสีแดงก็เป็นที่นิยม และโดยธรรมชาติเพชรประเภทนี้จะหาแบบที่ไร้ตำหนิเหมือนเพชรขาวได้ยาก ดังนั้นถ้าชิ้นไหนมีตำหนิน้อยสีสวยมูลค่าก็สูงขึ้นตามไป ถ้าเป็น Fancy Shaped เช่น ทรงหยดน้ำ สี่เหลี่ยมทรงมาร์คีส์ ฯลฯ จะต้องมีถึง 2 Excellent เป็นต้น แต่จะดีกว่าถ้าเป็นเจมส์ควอลิตี้  ราคาจะพุ่งลิ่วเพราะนักสะสมจะแย่งกัน

“เพชรประเภทนี้จะดูกันที่ระดับความเข้มและความอิ่มตัวของสี ซึ่งระดับสูงสุดคือ Fancy Vivid ฉะนั้นถ้าเพชรสีเข้มอิ่มชัดถึงระดับ Fancy Vivid และยังมีตำหนิน้อย ก็นับเป็นที่สุด ซึ่งหายากมากอย่างเพชรสีแดงสวย แดงก่ำเหมือนทับทิม มีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด  ยังมีมูลค่าถึงกว่าสิบล้านบาท

“เมื่อไม่นานมานี้มีเพชรสีเหลืองไม่มีตำหนิเลยและมีขนาดใหญ่กว่าร้อยกะรัตปรากฏว่าคนแย่งกันประมูลมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทประมูลเขาจะสนใจเฉพาะเม็ดที่มีความสวยระดับเจมส์ควอลิตี้เท่านั้น ถ้าไม่สมบูรณ์แบบเขาจะไม่รับประมูลให้ที่เปรียบกันว่าเอาไปใส่ตู้ปลาเสียดีกว่า เขาจะมองข้ามไปเลย เพราะรู้ว่ายังไงก็ขายไม่ออก แล้วยังจะเสียเนื้อที่ในหนังสือประมูลของเขาอีกต่างหาก”

COLORED GEMSTONES ทับทิมกับมรกตยังครองตำแหน่ง

“ทับทิมจัดเป็นอีกหนึ่งอัญมณีที่มีมูลค่าแพงไม่น้อย คนส่วนมากนิยมทับทิมพม่า ดิฉันชอบทับทิมไทย แต่ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนก็ควรเลือกความสวยระดับเจมส์ควอลิตี้เช่นกัน ใสสะอาด สีสวย ขนาดใหญ่ ซึ่งก็หายากไม่น้อย ทับทิมเจียระไนจะมีราคาสูงกว่าทับทิมหลังเบี้ย ซึ่งปัจจุบันพวกแซปไฟร์มีแบบหลังเบี้ยเช่นกัน แต่อย่างไรราคาก็สู้แบบเจียระไนไม่ได้ มรกตก็เป็นที่นิยมไม่น้อยยิ่งจากเหมืองที่มีชื่ออย่างเหมืองมูโซ (Muzo) ซึ่งคงขุดกันหมดบ่อแล้ว ตอนนี้มรกตจากเหมืองนี้ ชิ้นที่มีความสวยมากมีแต่ราคาขึ้น เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว เช่นเดียวกับพลอยหลังเบี้ยราคาจะต่ำกว่าเจียระไน เพราะถ้าหินคุณภาพดีเขาจะนำมาเจียระไน แต่ไม่ได้หมายความว่าหลังเบี้ยจะไม่สวย

“เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว คุณแม่ดิฉันเคยซื้อมรกตเม็ดใหญ่ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาไม่ใช่เล่นในตอนนั้น ต่อมาดิฉันเริ่มสะสมเครื่องประดับแบบลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ พอได้ศึกษาอย่างจริงจังก็ได้ความคิดว่าอะไรที่ความสวยไม่ถึงมาตรฐานขายไปดีกว่า แล้วรวบรวมเงินไปซื้อชิ้นใหม่ที่แจ๋วจริงเก็บไว้ให้ลูกหลาน รู้ไหมคะว่ามรกตเม็ดนั้นขายขาดทุนไปครึ่งหนึ่ง ขนาดตอนขายระยะเวลาห่างจากตอนที่คุณแม่ซื้อเป็นยี่สิบสามสิบปี ฉะนั้นเรื่องคุณภาพหรือมาตรฐานสำคัญกว่าขนาดมาก

“ไม่เพียงอัญมณีต่างๆ ทองคำเป็นอีกสิ่งที่ควรค่าลงทุน ในที่นี้ไม่ใช่ทองรูปพรรณแม้จะมีราคาขึ้นตามมูลค่าตลาดทองก็ตาม แต่ทองที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกคือทองคำแท่ง ในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนคนจะซื้อทองคำ มูลค่าทองก็จะขึ้น ซึ่งเราก็ต้องคอยดูสถานการณ์ว่าควรจะซื้อตอนไหนหรือขายตอนไหนเพื่อทำกำไร เพราะตอนนี้การฝากเงินสดไว้ในบัญชีใช่ว่าจะได้ดอกเบี้ยดี และยังมีภาษีอีก

“ช่วงบ้านเมืองสงบราบรื่นมีที่ดินหรือเงินสดไว้ก็ดี แต่ในบางสถานการณ์เราก็ต้องดูว่าควรมีการลงทุนในด้านอื่นเตรียมไว้หรือไม่ สังหาริมทรัพย์อย่างทองคำ และอัญมณีก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ลงทุนไว้ไม่เสียหาย”

---

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 956