เสพงานศิลป์ผ่านโลกแฟชั่น กับนิทรรศการ “Forever Valentino” ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์

account_circle

เนื่องในโอกาสงานขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมแห่งชาติประจำปีหรือ Qatar Creates พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์ Qatar Museums และ Maison Valentino จะจัดแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญในชื่อ “Forever Valentino” เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Valentino Garavani และเปิดเผยมรดกแห่งความเป็นเลิศทางโอต์กูตูร์ ณ ศูนย์ศิลปะนวัตกรรมและเทคโนโลยี M7 ที่ตั้งอยู่ในเอ็มชีเร็บ ดาวน์ทาวน์ เมืองโดฮา

โดยจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2022 จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2023 ร่วมตื่นตาตื่นใจกับการสำรวจสัญลักษณ์แห่งโอต์กูตูร์ของเมซงและการเดินทางผ่านกรุงโรมสถานที่ที่เป็นดั่งบ้าน จุดเริ่มต้นและตัวตนของ Valentino

เสพงานศิลป์ผ่านโลกแฟชั่น กับนิทรรศการ “Forever Valentino” ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกาตาร์

“Forever Valentino” นับเป็นนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ Valentino เคยจัดมาและยังเป็นนิทรรศการครั้งแรกที่จัดในตะวันออกกลาง งานนิทรรศการนี้ถือเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ของเมซงและเมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1959 ด้วยมุมมองรอบด้านเช่นเดียวกับนิทรรศการวันครบรอบ 90 ปีของ Valentino Garavani และการเปิดตัวคอลเล็กชันโอต์กูตูร์ประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 2022 ที่ผ่านมา ณ ใจกลางกรุงโรม เมืองอันเป็นนิรันดร์

“Forever Valentino” ถูกออกแบบให้มีลักษณะราวกับกรุงโรม โดยจะนำผู้เข้าชมเดินทางผ่านอาคาร จัตุรัสและลานขนาดใหญ่ในกรุงโรมสู่พื้นที่อันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของเมซง อย่างอเตลิเยร์และห้องลองชุดในสำนักงานใหญ่ของเมซงที่จัตุรัส Piazza Mignanelli

นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของเมืองที่เต็มไปด้วยตำนานการสร้างสรรค์ของ Valentino รวมถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลงานอันตระการตาของ Valentino Garavani และ Pierpaolo Piccioli

ผ่านการเปรียบเทียบกันระหว่างความแตกต่างของบรรยากาศและเรื่องเล่า นิทรรศการในครั้งนี้ได้รวบรวมอารมณ์ความรู้สึกและเรื่องราวต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบคาปริชโชแห่งศตวรรษที่ 18 ที่ผสมผสานมุมมองที่แตกต่างกันของเมืองและสถาปัตยกรรมโดยจินตนาการใหม่ให้เป็นสถานที่อันน่าค้นหา

โดยเหล่าอัจฉริยะของบาโรกอย่าง Giovanni Antonio Canaletto และ Giovanni Battista Piranesi เชื่อว่าศิลปะแบบคาปริชโชได้เปลี่ยนทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ของอิตาลีสู่ภาพฝันอันน่าหลงใหลที่สร้างสัญลักษณ์และตำนานมากมายให้มีอิทธิพลทั่วประเทศอิตาลีและประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงในโลกของแฟชั่นเองที่เต็มไปด้วย คาปริชโช หรือความไม่แน่นอนทั้งในเรื่องของจินตนาการ แรงบันดาลใจ วัสดุ ศิลปะ ดนตรีและวัฒนธรรมที่แปรเปลี่ยนพัฒนามาเป็นเสื้อผ้า

เสื้อผ้าทั้งแบบโอต์กูตูร์และ pret-à-porter กว่า 200 ชุดจะถูกจัดแสดงบนหุ่นที่ออกแบบโดย La Rosa พร้อมด้วยเครื่องประดับทั้งหมดในบรรยากาศอันชวนหลงใหล “Forever – Valentino” ถูกถักทอด้วยลวดลายอันวิจิตรและภาพวาดอันงดงามของกรุงโรมที่ถูกจารึกไว้ซึ่งในความทรงจำ เมืองแห่งจุดเริ่มต้นอันล้ำค่ำกว่าหกทศวรรษของเมซง

พบกับชุดที่ถูกออกแบบให้เหล่าศิลปินอย่าง Elizabeth Taylor, Jacqueline Kennedy  และ Zendaya พร้อมด้วยผลงานอันน่าทึ่งอีกมากมายที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานของ Valentino นิทรรศการนี้ยังได้รวบรวมผลงานคอลเล็กชันส่วนตัวของชีคเคาะห์ โมซา บินท์ นัสเซอร์แห่งกาตาร์ ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของ Valentino อีกด้วย

สัญลักษณ์ของ Valentino และหลักการของโอต์กูตูร์ได้แต่งเติมทุกพื้นที่ของการสร้างกรุงโรมในจินตนาการครั้งใหม่นี้ ผลงานการออกแบบเสื้อผ้าตลอดช่วงอายุของ Maison Valentino นั้นทั้งสะท้อนและขัดแย้งกับสภาพแวดล้อม เสื้อผ้าเหล่านี้ทั้งน่าดึงดูดและโดดเด่นไปพร้อมๆ กันเช่นเดียวกันกับกรุงโรม แทนที่จะจัดแสดงภายในกำแพงของพิพิธภัณฑ์ Valentino กลับเลือกที่จะสร้างสรรค์เรื่องราวของตนเองขึ้นมาใหม่และทำให้เกิดบริบทของตนเอง

โดยการนำร่องรอยของสถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของจินตนาการร่วมเดินทางไปกับผลงานของเมซง ทำให้ผลงานเหล่านี้ถูกเสื้อผ้าทั้งแบบโอต์กูตูร์และ pret-à-porter กว่า 200 ชุดจะถูกจัดแสดงบนหุ่นที่ออกแบบโดย La Rosa พร้อมด้วยเครื่องประดับทั้งหมดในบรรยากาศอันชวนหลงใหล “Forever – Valentino” ถูกถักทอด้วยลวดลายอันวิจิตรและภาพวาดอันงดงามของกรุงโรมที่ถูกจารึกไว้ซึ่งในความทรงจำ เมืองแห่งจุดเริ่มต้นอันล้ำค่ำกว่าหกทศวรรษของเมซง

พบกับชุดที่ถูกออกแบบให้เหล่าศิลปินค้นพบภายในสถานที่ที่อันเป็นบ้านเกิดที่คุ้นเคย ชิ้นงานที่ถูกคัดสรรโดยสัญชาตญาณ อารมณ์ และความรู้สึกที่เพลิดเพลินไปกับสีสัน ความสง่างามของสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ความรักที่ถูกถักทออยู่ในทุกๆ รอยเย็บ แว่วเสียงสะท้อนที่เป็นเป็น raison d’etre (จุดเริ่มต้น) ของโอต์กูตูร์ เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แห่งแฟชั่น เป็นวัฒนธรรมและเป็นส่วนหนึ่งของกรุงโรม และการสร้างสรรค์ของ Valentino นั้นได้หยั่งรากและปรากฏอยู่บนมรดกที่สืบผ่านต่อกันมาของเมซงและสถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้น

มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสถานที่บ้านเกิดอย่างที่ Valentino สร้างขึ้นร่วมกับกรุงโรม การปลูกฝังความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดกับเมืองอันเป็นนิรันดร์ที่ซึ่ง Valentino Garavani ได้ก่อตั้งเมซงขึ้นในปี 1959 และเปิดสำนักงานใหญ่ในใจกลางเมืองอันเป็นประวัติศาสตร์บน Dolce vita ในขณะที่ Pierpaolo Piccioli ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Valentino Garavani ได้ลดบทบาทของกรุงโรมในฐานะเมืองแห่งสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง หากแต่นำเสนอด้วยความมีชีวิตชีวาและความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งหล่อหลอมความคิดและเสียงที่แตกต่างของชุมชนโดยแปรเปลี่ยนเป็นโครงสร้างอันซับซ้อนในมุมมองที่กว้างใหญ่ขึ้นและความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นของผู้คน 

““Forever Valentino” จะนำเสนองานป๊อปอัพที่มีบรรยากาศเสมือนอยู่ในเมืองแห่งความฝันอย่างกรุงโรม ชวนให้น่าหลงไหลและน่าสนใจมากขึ้นเมื่อถูกจัดแสดงที่เมืองโดฮา เมืองที่อดีตและอนาคตมาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว


“Forever Valentino” จะถูกดูแลและจัดการโดย Massimiliano Gioni ผู้กำกับศิลป์ของ พิพิธภัณฑ์ New Museum New York รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและนักวิจารณ์ด้านแฟชั่นอย่าง Alexander Fury ซึ่งทั้งคู่จะทำงานใกล้ชิดกับผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Valentino อย่าง Pierpaolo Piccioli


Praew Recommend

keyboard_arrow_up