THE CAPUCINES มนตร์เสน่ห์ที่เกินห้ามใจ หนึ่งใน กระเป๋าไอคอนิก หลุยส์ วิตตอง ที่สาวๆ อยากมีไว้ในครอบครองสักใบคือ “Capucines” กระเป๋าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์อันเกิดจาก การผสมผสานฝีมือในเชิงช่าง ความคิดสร้างสรรค์ และ คุณภาพเหนือระดับ กลายเป็นผลงานสุดหรูพร้อมให้คุณสาวๆ ได้คล้องแขนไปใช้ได้ในทุกช่วงจังหวะเวลาของชีวิต ตั้งแต่วันธรรมดา ค่ำคืนหรูหรา ไปจนถึงการเดินทางสุดสนุก
THE CAPUCINES กระเป๋าไอคอนิก หลุยส์ วิตตอง ที่สาวๆ ควรมีไว้ในครอบครอง
FROM HISTORY TO EVERYDAY COMPANION
ชื่อ Capucines ตั้งตามชื่อถนน Neuve-des-Capucines ในกรุงปารีส ที่สโตร์แห่งแรกของหลุยส์ วิตตอง (ที่เปิดในปี1854) ตั้งอยู่ กระเป๋า Capucines ได้รับการคิดค้นและออกแบบให้เป็น เหมือนหีบเดินทางใบย่อม ด้วยโครงกระเป๋าทรงเหลี่ยม ประดับหมุด โลหะ 6 ชิ้นบนอะไหล่รูปวงแหวน หูจับกระเป๋าออกแบบเชื่อมโยงไปกับ หีบเดินทางรุ่นคลาสสิกของหลุยส์ วิตตอง อีกทั้งยังมีการนำลวดลาย โมโนแกรม เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Georges Vuitton ลูกชายคนโตของหลุยส์ วิตตอง ที่เกิดในอาคารหมายเลข 4 บนถนน Neuve-des-Capucines เช่นกัน มาประยุกต์ใช้บนกระเป๋า ผ่านตัวอักษรย่อ LV ที่ประดับอยู่ด้านหน้า ส่วนปลายฝากระเป๋า รูปกลีบดอกไม้ประดับด้วยหมุดโลหะลายดอกไม้โมโนแกรมที่ได้ แรงบันดาลใจมาจากใบโคลเวอร์สี่แฉก
ไม่เพียงรูปลักษณ์ที่สวยหรูดูดีเหนือกาลเวลาเท่านั้น หากหีบ เดินทางแบบดั้งเดิมของหลุยส์ วิตตอง ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเก็บรักษา สิ่งของมีค่าให้ปลอดภัยยามเดินทางท่องโลกไปพร้อมๆกับการแครี่สไตล์ เหนือระดับฉันใด กระเป๋า Capucines ก็ออกแบบมาเพื่อเป็นเพื่อน ร่วมชีวิตของผู้หญิงฉันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ที่สวยสง่า ดูคลาสสิก แถมยังเป็นเครื่องหมายแห่งความโชคดีที่ส่งต่อกันจากแม่สู่ ลูกสาว และฟังก์ชันที่ผ่านการคิดค้นมาอย่างมีชั้นเชิงจนตอบโจทย์ ทุกการใช้งาน จึงสามารถถือได้ทั้งแบบหิ้วและคล้องแขน หากจะสะพาย ไหล่หรือพาดข้ามลำตัวก็ปรับแต่งได้ตามชอบ ส่วนตัวกระเป๋ายังมีช่อง ใส่ของแบบคู่ด้านใน ช่วยให้เหมาะสำหรับใช้งานในทุกวันและทุกโอกาส เช่นเดียวกับฝากระเป๋าที่สามารถเลือกปิดแบบซ่อนไว้ด้านในหรือปิดทับ ด้านหน้าก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้
ยิ่งเมื่อประกอบเข้ากับฝีมือสุดประณีตของช่างชั้นครูแล้ว อาจกล่าวได้ว่าทุกรายละเอียดของกระเป๋า Capucines ล้วนได้รับการ สร้างสรรค์ให้งดงามและคงทนที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่กระเป๋าใบนี้ จะกลายเป็นกระเป๋าไอคอนิกประจำแบรนด์
ปัจจุบัน Capucines มีให้เลือก 3 ขนาด (MINI, BB และ MM) แถมยังแตกแขนงให้มีรูปลักษณ์ที่หลากหลาย ทั้งจากสีสัน แพตเทิร์น และวัสดุ เพื่อให้คุณสาวๆได้เลือกสรรให้เหมาะกับสไตล์ เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นแบบหรูหราจากหนังเอกโซติกที่หายาก งานตกแต่งด้วยเทคนิคการปักประดับด้วยมือ หรือตกแต่งด้วยหินมีค่า กระเป๋ารุ่นนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบุคลิกของคุณได้ตามต้องการ หรือหากอยากได้ความแปลกใหม่ไปกว่านั้น ก็ยังมี Artycapucines คอลเล็คชั่นกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดที่หลุยส์ วิตตอง ผนวกงานศิลปะและ ความคิดสร้างสรรค์มาไว้รวมกัน ผ่านการร่วมงานกับศิลปินแถวหน้า ระดับโลก อย่างที่ผ่านมาก็เคยร่วมงานกับ Henry Taylor จิตรกรชาว อเมริกัน, Beatriz Milhazes ศิลปินหญิงชาวบราซิล, Urs Fischer ประติมากรหนุ่มชาวสวิส, Zhao Zhao นักศิลปะสื่อผสมดาวรุ่งชาวจีน ฯลฯ เพื่อร่วมกันออกแบบกระเป๋า Capucines ให้กลายเป็นงานศิลปะ ชิ้นพิเศษ โดยอาศัยงานฝีมือแบบดั้งเดิมผสานเข้ากับเทคนิคใหม่ล่าสุด เช่นเดียวกับปีนี้ที่รอติดตามได้เลยว่าหลุยส์ วิตตอง จะร่วมงานกับ ศิลปินคนใด
ด้วยเหตุนี้กระเป๋า Capucines จึงไม่ใช่แค่เครื่องประดับติดกาย เท่านั้น หากเป็นเหมือนเพื่อนร่วมเดินทางบนถนนสายชีวิตที่บ่งบอก ความเป็นตัวคุณในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ART AND CRAFT : สู่งานฝีมืออันประณีต
“น้อยแต่มาก”น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับการบรรยายเบื้องหลังขั้นตอนการทำงานอันสลับซับซ้อน และเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิงของงานฝีมือชั้นครูที่ต้องใช้เทคนิคการผลิตถึง 250 ขั้นตอน กว่าจะออกมา เป็นกระเป๋าใบโก้ที่มีรูปลักษณ์เรียบง่าย ทว่างดงามและแฝงไปด้วยดีเทล ด้วยเหตุนี้จึงมีเพียง ช่างฝีมือเปี่ยมประสบการณ์เพียงหยิบมือเท่านั้นที่ได้รับเลือกให้มาสร้างสรรค์กระเป๋าใบนี้
เริ่มจากการคัดเลือกหนังลูกวัว Taurillon คุณภาพเยี่ยมที่มีพื้นผิวเป็นลวดลายพิเศษ ก่อนจะนำมาฟอกสีด้วยเทคนิคย้อมแบบแห้งและเปียกหลายครั้ง จนได้ความยืดหยุ่นและสัมผัส อันสมบูรณ์แบบ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของแผ่นหนัง Taurillon จะช่วยทำให้สีสันชัดเจนขึ้น ตามกาลเวลา ส่วนด้านในของกระเป๋าถือบุด้วยหนังลูกวัวที่มีลวดลายเล็กน้อย แต่ยังมีความ นุ่มนวล ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความชำนาญในการขึ้นรูปกระเป๋าหนังจากหลุยส์ วิตตอง ได้เป็นอย่างดี
นอกจากการเตรียมแผ่นหนังที่ซับซ้อน ยังมีเทคนิค Beaux Gestes ซึ่งนำแผ่นหนัง แต่ละชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกันอย่างระมัดระวัง แล้วเย็บขึ้นรูปกระเป๋าจากด้านในสู่ด้านนอก ก่อนจะพลิกกลับให้หนังด้านที่ถูกต้องออกมาโชว์ความงดงาม ซึ่งวิธีการนี้ต้องอาศัยเทคนิคที่ แม่นยำที่สุด ปิดท้ายด้วยการเย็บตะเข็บคู่ เพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าทุกใบจะคงรูปทรงสง่างามโดดเด่น
เมื่อขึ้นรูปตัวกระเป๋าแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการนำฝากระเป๋ารูปกลีบดอกไม้มาประกอบ ด้วย การเย็บแบบอานม้าด้ายคู่ (Saddle Stitch) และการเย็บแบบตะเข็บสามเหลี่ยม (Point Cheval) ขณะที่ส่วนหูจับกระเป๋า ซึ่งออกแบบให้เหมาะกับการถือด้วยมือหรือคล้องแขน จะถูกนำมา ประกอบหลังจากการขึ้นรูปกระเป๋า ประกบทับด้วยชิ้นหนังเพื่อเย็บติดและตกแต่งรายละเอียด ให้เรียบร้อย
จากนั้นจึงเป็นการตกแต่งกระเป๋าด้วยชิ้นส่วนอะไหล่โลหะที่ผลิตขึ้นอย่างประณีตเฉกเช่น เครื่องประดับชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นหมุดลวดลายดอกไม้โมโนแกรมที่นำมาประดับบนฝากระเป๋า ด้วยการเจาะรูขนาดเล็ก ขณะที่โลโก้ตัวอักษรย่อ LV ถูกนำมาติดเข้ากับส่วนหน้าของกระเป๋า เพื่อโชว์ทักษะงานโลหะอันเยี่ยมยอด พร้อมด้วยแผ่นหนัง Taurillon ขนาดเล็กที่ช่างฝีมือบรรจง ฝังเข้าไปในอักษรแต่ละตัว
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 973