ทิสโซต์ เฮอริเทจ เมมฟิส ลิมิเต็ด เอดิชั่น แก่นแท้ของดีไซน์แห่งยุค ’80s

ทิสโซต์ เฮอริเทจ เมมฟิส ลิมิเต็ด เอดิชั่น แก่นแท้ของดีไซน์แห่งยุค ’80s

ในปีค.ศ. 1988 ทิสโซต์ได้ร่วมมือกับ เอตโตเร ซอตต์ซาส (Ettore Sottsass) ผู้ก่อตั้งเมมฟิส กรุ๊ป (Memphis Group) กลุ่มนักออกแบบที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสถาปัตยกรรมและงานดีไซน์ เขาคือนักออกแบบชาวอิตาเลียนที่สร้างสรรค์นาฬิกาเรือนหนึ่งซึ่งรวมไว้ทั้งความกล้าหาญ สีสันที่สดใส การปฏิวัติวงการ และฉีกกฎเดิมๆ ในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี ของแนวคิดการออกแบบดังกล่าว ทิสโซต์จึงได้เปิดตัวนาฬิการุ่น Heritage Memphis ซึ่งเป็นการย้อนกลับไปสู่สไตล์แห่งยุค ’80s มีทั้งหมด 4 แบบสุดอาร์ต สำหรับผู้ที่มุ่งไปสู่ความเป็นอาว็อง–การ์ด มีสไตล์ ไปจนถึงความไม่กลัวที่จะแตกต่าง

ทิสโซต์คือ “Innovator by tradition” (ผู้สร้างนวัตกรรมที่สืบทอดกันมา) มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งบริษัท โดดเด่นในการคาดการณ์แนวโน้มล่วงหน้าและขับเคลื่อนเทรนด์แฟชั่น เห็นได้ชัดจากการร่วมมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง เอตโตเร ซอตต์ซาสส์ ในช่วงทศวรรษที่ 80 ก่อนที่ทิสโซต์จะมีการเปิดตัวนาฬิการุ่น เฮอริเทจ เมมฟิส ลิมิเต็ด เอดิชั่น ในอีก 40 ปีถัดมา

ต้นกำเนิด

ในปี 1988 เอตโตเร ซอตต์ซาสส์ นำเสนอนาฬิกาที่แสดงออกถึงสไตล์การออกแบบของเขาโดยความร่วมมือกับแบรนด์ เลอ โลค  (Le Locle) เขาแหวกกฎประเพณีและธรรมเนียมดั้งเดิมในการออกแบบนาฬิกา เช่นเดียวกับที่เขาออกแบบเฟอร์นิเจอร์ เกิดเป็น ทิสโซต์ ซอตต์ซาสส์ นาฬิกาตัวเรือนกลม แต่มีโครงร่างเหมือนเลนส์ ทั้งฝาหลังและขอบตัวเรือนถูกทำให้เอียง ทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกันบนรูปทรงเรขาคณิตซึ่งสะท้อนการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของซอตต์ซาสส์ อย่าง Totem หรือชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดกลไก ในขณะที่ตัวเรือนถูกออกแบบใหม่ให้ไม่มีขายื่นออกมาแต่สามารถยึดติดกับสายได้เองในตัว เป็นรูปทรงแบบใหม่ที่ถูกห่อหุ้มไว้เหมือนเป็นเซ็ตลูกบาศก์ ซึ่งถือเป็นลายเซ็นการออกแบบในสไตล์ของซอตต์ซาสส์

เครื่องหมายบอกชั่วโมงมีลักษณะหนาและสั้น แตกต่างสลับกันไป ดูสนุกสนาน เป็นอีกหนึ่งพาร์ตที่ตอกย้ำให้เห็นภาพการออกแบบของเมมฟิส และที่น่าสนใจก็คือ นาฬิกาทิสโซต์ ซอตต์ซาสส์ แตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป ด้วยการทำรอยบากตรงส่วนกลาง เพื่อให้ติดตั้งเม็ดมะยมได้โดยไม่ไปรบกวนความเป็นทรงกลมอันสมบูรณ์แบบของตัวเรือน

แม้จะเป็นการใช้องค์ประกอบทางกราฟิกที่ดูเรียบง่าย แต่ที่จริงแล้ว การออกแบบนาฬิกาของซอตต์ซาสส์มีความซับซ้อนมาก โดดเด่นด้วยโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมซึ่งเผยให้เห็นอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์ของสถาปนิกและดีไซเนอร์ตามเจตนารมณ์ของเมมฟิส กรุ๊ป

“นาฬิกาที่ผมออกแบบสำหรับทิสโซต์ ใช้สัญลักษณ์และการใช้งานเป็นตัวช่วยให้เชื่อมโยงกับการสื่อสารกับจักรวาล อย่างที่เคยมีมาในสมัยโบราณ ผ่านเส้นสายกราฟิกเป็นส่วนใหญ่และรวมถึงตัวโครงสร้างของมันด้วย อย่างน้อยๆ ก็ในความหมายเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็คือแมนดาลา”

จุดเชื่อมโยงกันระหว่างซอตต์ซาสส์กับทิสโซต์ ก็คือ การมองนาฬิกาเป็นเหมือนวิธีหนึ่งในการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิก ปรัชญาความเชื่อ และการที่เรามีประสบการณ์กับช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างไร

การนำกลับมาตีความใหม่

ปี 2020 ทิสโซต์มาพร้อมกับเมมฟิสคอลเลกชั่นใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการกลับมาของแนวคิดจากกลุ่มนักออกแบบนี้ที่เริ่มเป็นที่พูดถึงอีกครั้งทั้งตามสื่อต่างๆ และในตลาด โดยจะเผยโฉมทั้งหมด 4 แบบ แต่ละแบบผลิตจำนวนจำกัด และล้วนอิงจากการออกแบบของเอตโตเร ซอตต์ซาสส์ในปี 1988 แต่นำเสนอในรูปแบบร่วมสมัยมากขึ้น ทิสโซต์ไม่ได้ดึงเอารูปแบบในอดีตมาทั้งหมด แต่หยิบเอาสัญลักษณ์ที่เด่นๆ ของสไตล์การออกแบบยุคนั้นมาประยุกต์เพื่อนำเสนอในช่วงเวลาปัจจุบัน

หน้าปัดยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางสุนทรียศาสตร์ดั้งเดิม แต่ขยายสัดส่วนให้ใหญ่ขึ้น ตัวเรือนได้รับการปรับใหม่ด้วยเส้นสายที่ยืดออกและดูร่วมสมัยมากขึ้น กระจกตัวเรือนออกแบบใหม่เป็นทรงโดมให้เข้ากับตัวเรือนและขอบตัวเรือนที่เรียงซ้อนอยู่ด้วยกัน นาฬิกาทิสโซต์ เฮอริเทจ เมมฟิส โดดเด่นจากนาฬิกาทั่วไปด้วยตัวบอกวินาทีตรงกลางที่ทำงานโดยปราศจากเข็ม แต่ใช้การทำสัญลักษณ์เป็นจุดบนแผ่นดิสก์ขนาดเล็กแทน และสุดท้าย ฝาหลังของตัวเรือนใช้ลวดลายเรขาคณิตวางปนๆ กัน ชวนให้นึกถึงที่มาของการออกแบบตกแต่งสไตล์เมมฟิส โดยมีลวดลายเดียวกันนี้ปรากฏบนผิวด้านในของสายรับเบอร์ด้วย

คอลเลกชั่น

คอลเลกชั่นเมมฟิสประกอบด้วยนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี 2 รุ่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 34 มม. แบ่งเป็นรุ่นตัวเรือนสตีล หน้าปัดสีขาว และอีกรุ่นเป็นตัวเรือนสตีล พร้อมขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีเยลโลวโกลด์ แต่ละรุ่นผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,700 เรือน ขณะที่อีกสองรุ่นสำหรับสุภาพบุรุษ มาในลุคมาสคิวลีนด้วยหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม. รุ่นแรกเป็นตัวเรือนสตีล พร้อมขอบตัวเรือนเคลือบ PVD สีเยลโลวโกลด์ เสริม PVD สีดำ สำหรับสามรุ่นดังกล่าวนี้จะใช้หน้าปัดสีขาวและเครื่องหมายบอกชั่วโมงสีดำเช่นเดียวกับรุ่นดั้งเดิม แต่สำหรับรุ่นที่ 4 ที่เผยโฉมเป็นเรือนสุดท้าย ถือเป็นเกียรติแด่ยุคสมัยปัจจุบัน เพราะใส่ความเป็นแฟชั่นลงไปด้วยการทำตัวเรือนสตีลและขอบตัวเรือนเคลือบ PVD เป็นสีดำทั้งหมดเข้ากับหน้าปัด มีเพียงเครื่องหมายบอกชั่วโมงเท่านั้นที่เป็นสีขาว ให้เกิดความคอนทราสต์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสไตล์การออกแบบของเมมฟิส นาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษทั้งสองรุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเช่นกัน โดยมี 3,000 เรือน สำหรับรุ่นเคลือบ PVD สีดำ และ 2,500 เรือนสำหรับรุ่นสองสี

เพิ่มเติม

แต่ละรุ่นเหล่านี้ใช้สายหนังสังเคราะห์สีดำ ทำจากวัสดุวีแกน และแต่ละรุ่นมาพร้อมสายสำรองอีกเส้นเป็นสีสันสดใสเอาไว้สลับสับเปลี่ยนเองได้ ความคอนทราสต์นี้ไม่ได้มีแค่เฉพาะบนตัวเรือนและหน้าปัดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรูปแบบ ด้วยความที่สไตล์ของเมมฟิสเป็นที่รู้จักในเรื่องของการใช้สีอย่างฟุ่มเฟือย โดยมักใช้สีสันสดใสมีชีวิตชีวา ทิสโซต์จึงได้นำแนวทางเดียวกันนี้มานำเสนอด้วยการใช้สีชมพู สีแดง น้ำเงิน และสีน้ำตาลแกมเหลือง ผสมผสานกันให้เกิดความมีชีวิตชีวา สนุกสนาน ซึ่งตอกย้ำสไตล์แบบเมมฟิสแบบสุดๆ

ข้อมูลทางเทคนิค

• วัสดุตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L เคลือบ PVD สีทองและสีดำ
• ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ กลไกการทำงานระบบควอตซ์ PreciDrive
• กระจกแซฟไฟร์
• กันน้ำที่ความลึก 50 เมตร (5 บาร์)
• ฝาหลังแกะสลัก
• บอกชั่วโมง นาที วินาที
• สายสามารถถอดเปลี่ยนได้
• ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 34 มม. (สำหรับรุ่นสุภาพสตรี) และเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม. (สำหรับรุ่นสุภาพบุรุษ)
• ผลิตจำนวนจำกัด

วางจำหน่ายแล้วที่ร้านทิสโซต์  ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์     โทร. 02-613-1172, ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช โทร 038-111-305, ชั้น 1 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 พัทยา โทร 033-252-608 และเคาน์เตอร์ทิสโซต์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shopee.co.th/tissotofficialstore หรือ https://www.lazada.co.th/shop/tissot-official-store/  จัดส่งฟรีทั่วประเทศ

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมคลิก www.tissotwatches.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ LINE Official Accout @Tissot_TH, https://th-th.facebook.com/TissotTh หรือ โทร. 02-610-0200