Gucci : Double G
เรื่องน่าขำก็คือ ตัวอักษร G ไขว้ที่ Aldo Gucci ลูกชาย 1 ใน 3 ของ Guccio Gucci ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้ดีไซน์ไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายการค้าในปี 1933 นั้น ไปละม้ายคล้ายกับตัว C ไขว้ของ Coco เสียนี่ แต่มิสเตอร์ Aldo เขาบอกว่าได้ไอเดียมาจากการนำชื่อคุณพ่อและ G ของกุชชี่มาตอกย้ำ งานนี้ไม่รู้หรอกว่าลอกกันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเจ้า Double G นี้กำลังกลับมาโลดแล่นและเด่นเด้งสุดๆ Tom Ford แต่นั่นมันเอ๊าต์ไปละ ยุคใหม่ของมิคาเล่เก๋กว่าเยอะ Oops ว่าแล้วก็สอยกระเป๋ารัวๆสิครับ รออะไร
History
Maison Martin Margiela
นี่ก็อีกแบรนด์ที่อาร์ตเว่อร์ ถามว่าทำไมไม่ใช้ชื่อแบรนด์มาเป็นโลโก้ เพราะ “ไม่อยากให้ชื่อบนโลโก้มาสะกดจิตผู้ซื้อ” คือต้องซื้อเพราะอยากได้ ไม่ใช่เพราะแบรนด์ เอาซี้ ผ้าสีขาวที่ใช้ทำป้ายชื่อคือผ้าเย็บแผล ราวกับเสื้อนี้ผลิตขึ้นจากโรงพยาบาลผ้าหรือห้องแล็บลึกลับ ส่วนตัวเลขที่ไล่เรียงไว้ 0 – 23 มีความหมายว่า
0 – Garments remodeled by hand for women
010 – Garments remodeled by hand for men
1 – The collection for women
10 – The collection for men
4 – A wardrobe for women
14 – A wardrobe for men
11 – A collection of accessories for women and men
22 – A collection of shoes for women and men
13 – Objects and publications
6 – Garments for women and men
Rolex : Crown
เลอค่ากว่านี้มีอีกไหม ง่ายๆเลยครับกับแบรนด์นาฬิกาที่ได้ชื่อว่ารักษามาตรฐานความหรูหราและเที่ยงตรงได้เสมอต้นเสมอปลายมายาวนาน มงกุฎที่เห็นอยู่บนหน้าปัดนาฬิกาและกล่องอันเลอค่าของ Rolex ก็ได้มาจากสโลแกนที่ว่า “A Crown for Every Achievement” นั่นเองครับ
ผมเชียร์คุณอยู่ คุณก็รู้ รู้แล้วก็เมาท์ต่อกันนะคะสาวๆ
เรื่อง : Pound_Praewnista