เมคอัพอาร์ติสต์คิวทอง “น้องฉัตร” กว่าจะมาถึงวันนี้ ชีวิตไม่ง่าย!
เมคอัพอาร์ติสต์คิวทอง เบอร์ต้นๆ ของประเทศ นาทีนี้ต้องยกให้ “น้องฉัตร” โดยเฉพาะงานแต่งหน้าเจ้าสาวที่มีคนจองคิวยาวถึงปี พ.ศ. 2561 โน่น
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เจ้าตัวก็ผ่านมรสุมเบอร์หนักๆ มาเพียบ ตั้งแต่ข่าวแย่งงานรุ่นพี่ และอีกสารพัดสารเพ วันนี้ Mr. PRAEW ชวนน้องฉัตรมาเปิดใจให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
MR. PRAEW : ก่อนเปิดเครื่องอัดเสียง คุณเล่าว่ากว่าจะมีวันนี้ก็โดนดูถูกมาเยอะ
น้องฉัตร : ใช่ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ทำงานในวงการนี้ ลูกค้าพูดว่าเด็กขนาดนี้จะทำได้เหรอ ครั้งหนึ่งไปทำผมเจ้าสาว แล้วเราอาจทำได้ไม่ถูกใจ เขาจึงให้ช่างผมที่อยู่อีกห้องรื้อผมแล้วทำใหม่ รู้สึกเสียเซลฟ์เหมือนกัน แต่ก็ยอมรับว่า ตอนนั้นประสบการณ์ยังน้อย เพราะฉะนั้นกว่าจะมีวันนี้ ฉัตรก็สู้มาเยอะ เริ่มจากเป็นช่างผม ผู้ช่วยช่างแต่งหน้า ไปฝึกงานตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง จนได้ทำงานแฟชั่น ไม่ว่าโอกาสอะไรเข้ามา ฉัตรทำหมด
MR. PRAEW : รู้สึกอย่างไรถ้ามีคนบอกว่าดังได้เพราะข่าวดราม่าแย่งงานช่างรุ่นพี่
น้องฉัตร : เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้ว่าควรวางตัวและอยู่ในโลกความจริงอย่างไร อย่างที่มีข่าวเรื่องแย่งงาน เราไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ลูกค้าติดต่อมาเอง โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาคุยอะไรกับใครไว้ สุดท้ายมีคนพูดว่าเราเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ ไปแย่งงานผู้ใหญ่ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ไม่เคยมีใครถามเราว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เราไม่ชอบการเข้าใจผิดแบบนี้ และหลายคนก็ไม่น่าจะชอบเหมือนกัน
ฉัตรเคยโดนว่า เด็กคนนี้ไม่มีสัมมาคารวะ จะบอยคอต จะข่มให้จม ไม่ให้ได้เกิด แต่ที่ผ่านมาได้เพราะมีแม่และผู้ใหญ่ที่สอนมาดีว่า ถ้ามีจุดเปื้อนบนผ้าขาว การแก้ตัวหรือเที่ยวเดินไปบอกคนอื่นว่าเราไม่ได้ทำ จากจุดเล็กๆ อาจขยายออกเป็นจุดใหญ่ แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ จุดนั้นจะจาง มันอาจไม่ใช่ผ้าที่ขาวสะอาดหมดจด แต่รอยจะหาย
ฉัตรไม่เคยพูดถึงช่างคนอื่นว่าแต่งหน้าไม่สวย เพราะความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในประเทศไทยมีตั้ง 60 ล้านคน ช่างแต่งหน้ามีน้อยกว่านั้นมาก เพราะฉะนั้นไม่มีใครว่างหรอก ทุกคนที่มีความสามารถไม่จำเป็นต้องแย่งงานใคร แค่พิสูจน์ว่ามีฝีมือจริง งานจะเป็นตัวบอกเอง
MR. PRAEW : ภาพจริงๆ ในวงการบันเทิงและแฟชั่นในความคิดของคุณเป็นอย่างไร
น้องฉัตร : ภาพที่ทุกคนตั้งใจทำงาน ไม่ว่าเป็นช่างใหญ่หรือช่างรุ่นเด็ก แต่ในมุมกลับ วงการนี้ก็ชอบบลัฟกัน เราเคยคุยกับพี่คนหนึ่งที่พูดถึงอีกคนในทางที่ไม่โอเค แต่พอทั้งคู่เจอกันก็ยิ้มแย้ม อ้าว…แล้วเมื่อกี้คืออะไร ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ฉัตรพูดอย่างนี้ละกัน
แต่ไม่ใช่ว่าวงการนี้ไม่มีคนจริงใจนะครับ มีเยอะ แต่อีกมุมที่เป็นความจริงคือละคร ซึ่งบางทีฉัตรก็เป็นแบบนั้น ต้องยิ้มทั้งๆ ที่รู้ว่าคนนี้เกลียดเรา แต่เราเป็นเด็ก ต้องมีสัมมาคารวะ ฉัตรไม่คิดมาก ใครดีมา เราก็ดีด้วย จะบอกว่าอยู่ในวงการนี้ด้วยความรู้สึกโลกสวยเหมือนเดินบนทุ่งลาเวนเดอร์ก็ได้ วันหนึ่งมีแค่ 24 ชั่วโมงเอง ถ้ามัวแต่คิดเรื่องแย่ๆ ก็เสียเวลาไปเปล่าๆ
MR. PRAEW : รู้มาว่าคิวงานของคุณถูกจองล่วงหน้าถึง พ.ศ. 2561
น้องฉัตร : ครับ ลูกค้าเจ้าสาวส่วนใหญ่จะจองล่วงหน้า 1 – 2 ปี จริงๆ ไม่ใช่เพราะเราหรอก การแต่งงานยังมีปัจจัยของโรงแรม ช่างภาพ ช่างผม เดี๋ยวนี้ช่างที่มีชื่อเสียงจะมีคิวงานข้ามปีกันเยอะ ส่วนใหญ่เป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ในเดือนกุมภาพันธ์หรือพฤศจิกายน
อาชีพนี้ทำงานกับความคาดหวัง การแต่งหน้าให้สวยทำแบบส่งๆ ไม่ได้ ต้องเริ่มจากการบิลด์อารมณ์ตัวเอง ทำอย่างไรให้เวลา 3 ชั่วโมงที่ลูกค้าอยู่ด้วยแล้วแฮ็ปปี้ ซึ่งเหนื่อยนะครับ ลูกค้า 100 คนก็ 100 แบบ เราต้องทำให้เขาออกไปงานด้วยความรู้สึกมั่นใจที่สุด โดยเฉพาะในงานแต่งงาน ผู้หญิงทุกคนก็อยากได้งานแต่งในฝันทั้งนั้น
เราก็ต้องทำเต็มที่ที่สุด
เรื่อง : Mr. Praew
ภาพ : นิตยสารแพรว / IG @nongchat
*อ่านแบบเต็มๆ ได้ในคอลัมน์ Talk Around by Mr. Praew นิตยสารแพรวฉบับ 10 มีนาคม 2560