จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

ชีวิตท็อปฟอร์มของ ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

วันนี้ คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ‘ท๊อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’  ผู้ก่อตั้งและ Group CEO บริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด

ต่อให้ไม่รู้จักคริปโตเคอร์เรนซี่ ก็ต้องเคยเห็นใบหน้าของเขาอยู่ตามบิลบอร์ดใหญ่ทั่วเมืองกรุง แพรว ขอย่อโปรไฟล์ของเขาสั้นๆ ตรงนี้ว่า

ในวัย 23 ปี เขาเปิดบริษัทเกี่ยวกับบิทคอยน์ครั้งแรก ในวันที่คนยังมองบิทคอยน์เป็นแชร์ลูกโซ่

เขาผ่านมาแล้วทั้งการล้มลุกคลุกคลาน การต่อสู้ทางความคิดกับครอบครัว กับหน่วยงานกำกับการดูแลของภาครัฐและกับสังคม โดยไร้ซึ่งที่ปรึกษา เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นไม่มีใครเข้าใจ หรือเคยทำมาก่อน

หลายครั้งที่ทั้งกลัว ทั้งท้อ และเสียน้ำตา แต่เขาไม่เคยหยุดทำในสิ่งที่เชื่อ…

ในวัย 32 ปี Bitkub บริษัทที่สองที่เขาก่อตั้งมาสามปี สามารถปิดดีลยักษ์กับ SCBS ส่งให้มูลค่าบริษัททั้งหมดสูงถึง 35,000 ล้านบาท จนขึ้นแท่นเป็น ‘ยูนิคอร์น’ (ธุรกิจ Startup ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญ USD) ตัวที่สาม (ต่อจาก Flash Express และAscend Money) ของประเทศไทยได้สำเร็จ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2021

จนถึงวันนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักเขา ท๊อปกลายเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ ที่ถูกประสบการณ์เคี่ยวกรำและกดดันอย่างหนักจนเกินวัย แพรว จึงขอคุยกับเขาในแง่มุมชีวิตและการทำงานของคนรุ่นใหม่ ที่คิดต่าง เป้าหมายชัด มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองและองค์กรไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนไม่มีอุปสรรคไหนหยุดเขาได้ และกลายมาเป็น Top of the Top

ชีวิตท็อปฟอร์มของ ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

ถ้าให้แบ่งชีวิตของคุณท๊อปออกเป็นเฟสเหมือนธุรกิจ จะแบ่งออกเป็นกี่ช่วง แต่ละช่วงให้คำนิยามว่าเป็นแบบไหนคะ

“อืม.. คำถามยากนะ (นิ่งคิด) ผมว่าชีวิตผมแบ่งออกเป็น 3 เฟสใหญ่ๆ เฟสแรกคือ ไร้กรอบ เกเร ไม่สนใจการเรียน มีเรื่องกับเพื่อนตลอด ไม่ทำตามกฎระเบียบ โดนครูตีทุกวัน มีเรื่องบ่อยจนเคยเกือบโดนไล่ออก ไม่เรียนหนังสือ ตอนนั้นรู้อย่างเดียวว่าชอบเล่นฟุตบอล ก็เล่นทุกวันจนเก่งได้เป็นกัปตันทีม คือผมเป็นประเภทถ้าชอบอะไรก็ชอบมากและจะโฟกัสอยู่อย่างเดียว ไม่สนใจอย่างอื่น แล้วก็ rebel (ขบถ) ไม่ชอบทำตามระบบระเบียบใคร ถ้าไม่พอใจอะไรก็จะสร้างลัทธิใหม่เป็นของตัวเองไปเลย อย่างเล่นฟุตบอลแล้วขัดใจกัน ก็หาลูกบอลใหม่แล้วตั้งทีมเอง ชวนเพื่อนย้ายทีมมา เป็นระบบที่เราสร้างเอง สุดท้ายคุณแม่ทนไม่ไหว จึงส่งผมกับน้องไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ หวังว่าการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมจะช่วยดัดนิสัยให้ตั้งใจเรียน แต่ผมก็ยังเหมือนเดิม

“ชีวิตมาเปลี่ยนตอนเฟสสอง คือตอนที่จบ year 13 จากนิวซีแลนด์ (มัธยมปีที่ 6) เป็นเฟสที่ผมกลับมาอยู่ในกรอบขั้นสุด คือเปลี่ยนเป็นเด็กเนิร์ดไปเลย สาเหตุเพราะเกรดแย่จนเข้ามหาวิทยาลัยในไทยไม่ได้ จึงลองดูมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ โดยเลือกตามทีมฟุตบอลที่ชอบ คือมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (The University of Manchester) เพราะผมชอบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาเป็นทีมที่ชนะมาตลอดในยุคนั้น แล้วก็เลือกเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะรู้เรื่องที่สุด คือไม่ได้คิดอะไรไกลเลย ไม่รู้หรอกว่าโตขึ้นมาจะทำอะไร

“พอเข้ามหาวิทยาลัยได้ ชีวิตก็เปลี่ยนเลย ด้วยความที่รู้สึกแย่ว่าเข้ามหาวิทยาลัยที่อยากเข้าไม่ได้ จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่า จบจากนี้แล้ว จะต้องเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับท็อปให้ได้ พยายามอ่านหนังสือทุกวันๆ ละ 10-12 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งพอเป้าหมายชัด ทุกเรื่องในชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนตาม เพื่อนที่คบ บทสนทนาที่คุย สิ่งที่ทำ ไม่แคร์แฟชั่น ไม่สนใจปาร์ตี้ ไม่อยากมีแฟน อ่านหนังสือกับคุยเรื่องการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ เท่านั้น สุดท้ายผมจึงจบมาแบบได้เหรียญทองของเหรียญทอง คือผมเรียนด้าน economics (เศรษฐศาสตร์) ซึ่งอยู่ในดีพาร์ทเมนต์ของ Social Sciences โดยในดีพาร์ทเมนต์นี้มีหลายภาควิชา เช่น Accounting, Finance, Business Administration ผมได้เหรียญทองทั้งของภาควิชาเศรษฐศาสตร์และเหรียญทองของทุกภาควิชาในดีพาร์ทเมนต์นี้รวมกัน เป็น top ของ top อีกที

          “หลังจากนั้น ผมจึงไม่ใช่ตัวเลือกอีกต่อไป แต่ผมเป็นฝ่ายเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าเรียนปริญญาโท เพราะผมได้การตอบรับจากทุกมหาวิทยาลัยระดับท็อป แต่ผมเลือกมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) เพราะตอนนั้นผมมี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขณะนั้น เป็นไอดอล คุณอภิสิทธิ์จบเศรษฐศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ด จึงฝังใจว่าอยากเรียนคอร์สเดียวกับคุณอภิสิทธิ์ให้ได้

จากเด็กเกเร สู่การได้เหรียญทอง และได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยระดับโลก ที่บ้านว่าอย่างไรคะ

“คุณพ่อคุณแม่ตื้นตันจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมจำได้เลยว่าผมส่งจดหมายจากทุกมหาวิทยาลัยที่ตอบรับผมกลับมาให้ท่านที่เมืองไทย เพื่อเซอร์ไพรส์ วันนั้นคุณพ่อกำลังขับรถ ส่วนคุณแม่นั่งข้างๆ แล้วเปิดจดหมายอ่าน ปราฏช็อคกันทั้งคู่ แล้วผมก็เขียนจดหมายระบายความในใจไปด้วยว่า ผมเสียสละ ไม่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น อ่านหนังสือทุกวัน เพราะปมในใจตอนไม่มีที่เรียน แล้วหวังว่า วันหนึ่งมหาวิทยาลัยจะเลือกท๊อป แต่วันนี้เป็นท๊อปแล้วที่เป็นฝ่ายเลือกพวกเขา แค่นั้นแหละคุณแม่บอกจอดรถก่อนแล้วก็ร้องไห้ใหญ่เลย รุ่งขึ้น คุณแม่แจกเสื้อฟรีให้กับลูกค้าที่เข้าร้านทุกคน คือท่านดีใจมากจนไม่รู้จะระบายออกยังไง (ยิ้ม)

ตัดภาพมาที่ออกซ์ฟอร์ด พออยู่มหาวิทยาลัยที่เลือกได้ ชีวิตเป็นอย่างไรคะ

“หนักกว่าเดิม เพราะนักเรียนที่นั่นคือเบอร์หนึ่งจากทุกประเทศมารวมกัน มีทั้งเด็กเคมีโอลิมปิกส์ มีเด็กอัจฉริยะที่ออกทีวีตั้งแต่เด็ก ผมเองไม่ชอบการแข่งขัน แต่คอร์สที่นั่นใช้ระบบ Curving system ถ้ามีคนหนึ่งทำได้ดีกว่าทั้งหมด เราอาจจะตกก็ได้ จึงบังคับให้ต้องแข่งขัน แล้วปริญญาโทที่ผมเรียนนั้น เรียกว่า MPhil (Master of Philosophy, Economics) อยู่กึ่งกลางระหว่างปริญญาโทกับปริญญาเอก จึงต้องเรียน 2 ปี จากปกติปีเดียว ส่วนอาจารย์ที่สอนก็ได้รางวัลโนเบล เป็นคนคิดสูตรต่างๆ ให้คนทั่วโลกเรียน ซึ่งข้อเสียคือ สมองเขาเร็วกว่าคนอื่น จึงถ่ายทอดได้ไม่ดี เรื่องที่เขาสอนแค่ 1-2 บรรทัด ผมต้องออกไปทำความเข้าใจเอง 8 ชั่วโมง

“ยิ่งตอนเข้าห้องสอบครั้งแรก จำได้ว่าก่อนนั้น ผมอ่านหนังสือชนิดหนักที่สุดในชีวิต อ่านทุกวันอยู่ 1 ปี ไม่ไปไหนเลย แต่เปิดกระดาษข้อสอบมา มีคำถามอยู่ 3 ข้อ ที่ผมตอบไม่ได้เลย งงมาก (เสียงดัง) เหมือนไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อน ตอนนั้นรู้สึกเหมือนเส้นเลือดในหัวจะระเบิด โมโหตัวเองว่า รู้อย่างนี้ไปเที่ยวดีกว่า จะอ่านหนังสือทำไม พอตั้งสติได้ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจดังลั่นห้อง คือทุกคนก็ทำไม่ได้เหมือนกัน สุดท้ายผมใช้วิธีกาคำถามในข้อสอบทิ้ง แล้วเขียนคำถามใหม่ 1 ข้อ จากนั้นใช้ข้อมูลจากทุกอย่างที่อ่านตลอด 1 ปี ออกมาตอบให้หมด ให้รู้ว่าเราอ่านมานะ โชคดีว่าสุดท้ายผมจบมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด”

หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยระดับโลกแล้ว ทำอะไรต่อคะ

          “พอเรียนจบ เพื่อนส่วนใหญ่ที่จบมหาวิทยาลัยนี้มักไปอยู่สถาบันการเงินระดับท็อปของโลก แต่ผมเข้าสู่เฟสสามคือ คิดต่างว่า ถ้าไปอยู่องค์กรใหญ่ เราคงได้ทำแต่งานเล็กๆ ไม่ได้เห็นภาพใหญ่ ผมจึงเลือกไปทำงานที่สถาบันการเงินเล็กในเมืองจีน เพราะเขาเปิดประเทศมา 20 ปีแล้ว กำลังบูม ซึ่งผมได้ลองทำทุกอย่าง แล้วก็อยู่กับหุ้น pink sheet (หุ้นที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์) ซึ่งไม่มีข้อบังคับ หรือการกำกับดูแลเลย ดังนั้นหุ้นจะขึ้นที 20-30 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็มี ซึ่งระหว่างที่ทำอยู่ที่นั่นจึงได้ไปเจอกับบิทคอยน์ ที่จู่ๆ ราคาก็พุ่ง 10,000 เปอร์เซ็นต์ เราสงสัยว่าคืออะไร ทำไมเร็วขนาดนี้ ขึ้นสูงกว่าพิงค์ชีทอีก ถามเพื่อนก็ไม่มีใครรู้ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติม จนไปเจอบล็อคของ “มาร์ค แอนเดอร์สัน” ที่เขียนเล่าว่า Why Bitcoin Matters และได้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า บิทคอยน์จะมาเปลี่ยนแปลงโลกการเงินอย่างไร ก็รู้สึกสนใจทันที

          “หลังจากนั้นผมเริ่มอึดอัดกับการทำงานในองค์กร รู้สึกทำอะไรก็ติดขัดต้องรอหัวหน้า รอเจ้าของบริษัทให้คำตอบ สุดท้ายจึงออกมาค้นหาตัวเอง ลองทำด้านอื่นๆ บ้าง ไปเป็น consulting ที่ซานฟรานซิสโกอยู่ช่วงหนึ่ง มีโอกาสได้ไปทำงานที่ฟิลิปปินส์เลยเจอเพื่อนที่นั่น จึงได้รู้จักกับคำว่า entrepreneurship ว่าการเป็นเจ้าของกิจการคืออะไร เดิมที่เคยคิดว่าจะทำงานไต่เต้าไปในองค์กรก็เปลี่ยนมาสนใจการทำสตาร์ทอัพ รู้สึกว่าเหมาะกับตัวเรามากกว่า อย่างที่บอกว่า ผมค่อนข้างขบถมาตั้งแต่เด็ก ไม่ตามคนอื่น แต่ชอบเซ็ตกฎของตัวเองขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ตัวหรอก แต่พอมองย้อนกลับไปก็เข้าใจ จึงเปลี่ยนมาทำบริษัทเกี่ยวกับบิทคอยน์ โดยบริษัทแรกเป็นศูนย์การซื้อขายบิทคอยน์ ชื่อ coins”

ประสบการณ์การเป็นเจ้าของกิจการครั้งแรกในวัยยี่สิบต้นๆ เป็นอย่างไรคะ

“ผมเป็น CEO ครั้งแรกในวัย 23 ปี คำว่า CEO ในที่นี้ หมายถึง Chief Everything Officer (หัวเราะ) คือทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่จดทะเบียนบริษัท ทำบัญชี process operation การตลาด ทำมาแล้วทุกตำแหน่ง ทุกข์ทรมานมาก แต่ทำให้ผมรู้ทุกด้านของการทำบริษัทแบบลงลึก มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เก่าๆ 1 เครื่อง โต๊ะเก้าอี้ที่ญาติบริจาคให้ ออฟฟิศคือชั้นลอยในร้านเสื้อผ้าที่ประตูน้ำของคุณพ่อคุณแม่ ส่วนการทำงาน ผมใช้วิธีสร้างแค่หน้ากากเว็บไซต์ แล้วไปใส่ลิงค์ไว้ตามกรุ๊ปต่างๆ ของเฟสบุ๊ค เพื่อให้คนคลิกลิงค์เข้ามา พอเขากดซื้อ เราก็แอบไปซื้อบิทคอยน์จากเว็บอื่นมาให้ เรียกว่าทั้งบริษัทมีแต่หน้ากาก ไม่มีเทคโนโลยีอะไรเลย กินค่าต่างอย่างเดียว ไม่นานแบงค์ชาติก็ส่งจดหมายเตือนแบงค์พานิชทั่วประเทศว่าบิทคอยน์อาจเป็นแชร์ลูกโซ่ มูลค่าอาจเหลือ 0 ได้ไม่นาน อย่าไปยุ่ง คุณพ่อเห็นจดหมายก็ทะเลาะกับผม ช่วงนั้นก็มีท้อ มีน้ำตา แต่ผมไม่ชอบแพ้ ผมเชื่อในสิ่งที่ทำและเชื่อว่า บิทคอยน์จะมาเปลี่ยนแปลงโลก ก็เลยยืนยันทำต่อ

“ผมทำคนเดียวอยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้พนักงานมาช่วย 2 คน ซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้อง เพราะจ้างใครก็ไม่มีใครมา พอผ่านไปสิบเดือนก็มีเงินเก็บราว 6-7 แสนก็ย้ายจากชั้นลอย ไปใช้ออฟฟิศที่ co-working space แถวเอกมัย แล้วจ้างคนเพิ่มเรื่อยๆ จนมีทีมประมาณ 9-10 คน สักพักก็โดน ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ส่งจดหมายมาเรียกตัวไปสอบสวน ผมนี่มือสั่นเลย พอให้คุณพ่อดูท่านถามว่า ทำไมครอบครัวเราต้องเสี่ยงขนาดนี้ ทำไมต้องเอาขาข้างหนึ่งไปไว้ในตะราง ปิดบริษัทเดี๋ยวนี้ แต่ผมยังยืนยันว่าบิทคอยน์จะมาเปลี่ยนแปลงโลก ตอนนั้นโทรไปปรึกษาเพื่อนที่จบจากมหาวิทยาลัยดังๆ ด้านกฎหมาย พอเขารู้ว่าเป็นเรื่องบิทคอยน์ แม้ผมจะมีเงินจ่าย แต่ไม่มีใครกล้ารับ เพราะตอนนั้นคนยังมองเป็นเรื่องฟอกเงิน ตลาดมืด เงินของเล่น ผมจึงหาข้อมูลไปแก้ต่างเอง ช่วงนั้น ผมทำงาน 10โมงเช้า -1 ทุ่ม พอทุกคนกลับ ผมก็แอบอยู่ออฟฟิศต่อถึงตี 3 ทุกวันอยู่ 3 เดือน เพื่ออ่านกฎหมายเรื่องการฟอกเงิน แล้วทำรีพอร์ตส่งไปให้ ปปง. เพราะแบงค์ไม่เคยมี reporting system ของบิทคอยน์ ผมต้องแก้ต่างให้ตัวเอง โดยมีคุณพ่อขับรถไปส่ง

“พอผมกลับมาจาก ปปง. พนักงานขอลาออกครึ่งบริษัท ซึ่งทำให้ผมท้อมาก อุตส่าห์สร้างทีมมาอย่างยากลำบาก เรื่องทำงานหนักจนไม่ได้พักผมเฉยๆ นะ แต่การที่ทีมแตกนี่ ผมไม่เคยเจอมาก่อน เจ็บปวดมาก บวกกับความเครียดที่ ปปง. เรียกตัว เราจะติดคุกไหม เครียดไปหมด แต่พอผ่านมาได้ก็พบว่าประสบการณ์เหล่านี้ทำให้แกร่งขึ้น จากนั้นแบงค์ชาติก็เรียกตัว ตามมาด้วยสรรพากร ตอนนี้เป็น กลต. เรียกว่าผมน่าจะมีประสบการณ์กับทุกหน่วยงานกำกับดูแลในไทยแล้ว”

ตอนนั้นอะไรที่ทำให้คุณท๊อปเชื่อว่าบริษัทจะไปต่อได้คะ

“ผมว่าคริปโตเคอร์เรนซี่คือ ทิศทางความเป็นไปของโลก บิทคอยน์และคริปโตฯ คือโลกอนาคตของการเงิน แน่นอนว่าโลกต้องเปลี่ยนแปลง แต่จากการศึกษาพบว่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อคนจำนวนมาก มันจะมาในแพทเทิร์นเดียวกัน คือคนจะกลัวและต่อต้าน อย่างสมัยรถยนต์ออกมาใหม่ๆ เขาให้คนถือธงวิ่งนำหน้ารถ ซึ่งไม่เมคเซนส์เลย ถ้าให้คนวิ่งนำก็วิ่งได้ช้ากว่าม้าอยู่ดี แล้วจะใช้รถทำไม หรือตอนมี Airbnb มี grab ใหม่ๆ ตอนแรกก็ผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้ถูกแล้ว เพราะกฎระเบียบนั้นสร้างมาโดยคน แต่พอถึงวันหนึ่งสิ่งที่ถูกสร้างมาแล้วไม่สมเหตุสมผลก็ต้องเปลี่ยนไปตามโลก สุดท้ายเทคโนโลยีเหล่านั้นจะมาเปลี่ยนวงการนั้นๆ ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อเราเข้าใจตรงนี้ก็จะไม่กลัว ทำไมเราต้องกลัวสิ่งที่จะเป็นความจริงของโลก ผมแค่เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่คิดตามใคร

“ซึ่งผลจากความเชื่อของผม ก็ทำให้ผมสามารถขายบริษัทแรกให้ Gojek ไป ซึ่งถือเป็นดีลที่เรียกว่าใหญ่ที่สุดในวงการสตาร์ทอัพของเอเซียนเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ต่อมา ผมก็เปิดบริษัทที่สอง คือ Bitkub ซึ่งตอนนั้นเรียกว่าผมขี่จักรยานเป็นแล้ว เพราะทำผิดพลาดมาเยอะในบริษัทแรก จึงรู้ว่าต้องวางแผนยังไง ต้องลงทุนอะไรบ้าง เตรียมไว้หมดแล้ว พอวันหนึ่งที่บริษัทเติบโตได้ ก็สามารถไปได้ไวโดยใช้เงินน้อยมาก ระดมทุนได้ 327 ล้านบาท แต่ใช้เงินจริงๆ แค่ 117 ล้าน ก่อนที่จะกำไรนะ ซึ่งการจะสร้างบริษัทมูลค่า 4 หมื่นล้าน โดยใช้เงินแค่ 117 ล้านนี่ ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก ปกติในอเมริกา จะสร้างบริษัทยูนิคอร์น ต้องใช้เงินอย่างน้อย 400-500 ล้าน USD แต่ผมใช้เงินแค่ 3.2 ล้าน USD เพราะผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ทำมา 8 ปี เปิดมา 2 บริษัท ก็ประสบความสำเร็จทั้งสองบริษัท ซึ่งผมก็ดีใจว่าปกติสตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะมีรอดแค่ 1 ในพันเท่านั้น ถือว่าผมโชคดี”

ตอนทำ Bitkub ช่วงไหนที่ถือว่าโหดหินที่สุด

“มีหลายเคส เคสแรกคือช่วงกัดก้อนเกลือกินจนลำบากสุดๆ คือช่วงปีที่สอง ย้อนกลับไป Bitkub ปีแรกทำเงินได้ 3 ล้าน ใช้เงินไป 40 ล้าน, ปีที่สองทำเงินได้ 33 ล้าน แต่ใช้เงินไป 50 ล้าน ถือว่ารายได้โต 1,000% เรียบร้อยแล้ว แต่ดันใช้เงินไป 50 ล้าน เพื่อวางโครงสร้างบริษัท คือผมรู้แล้วว่าต้องใช้อะไรบ้าง ก็ทำเผื่อไว้เลยเพื่อที่พอบริษัทเติบโจะได้ไปเร็ว จึงขาดทุน ซึ่งตอนปลายปีที่สองนี่หนักมาก เพราะเราเหลือเงินแค่ 2 เดือนสุดท้าย ก็ต้องปิดบริษัท เพราะเงินจะหมด ความจริงมีคนเสนอให้เงิน แต่เขาให้มูลค่าบริษัทเราน้อยกว่าที่ผมทำไว้ ผมจึงดื้อไม่รับ แล้วไปวิ่งหาเงินทุกวัน จนพนักงานตกใจว่าคุณท๊อปหายไปไหน จะได้โบนัสไหม (หัวเราะ) ตอนนั้นคิดทางเลือกไว้ 2 ทาง คือขายบิทคอยน์ให้หมดแล้วคืนเงินผู้ถือหุ้นดีไหม จะได้ไม่มีใครเจ็บตัว หรือ ขายบิทคอยน์มาแล้วนำเงินใส่เข้าไปเพื่อช่วยบริษัท แต่สุดท้ายก็มีนักลงทุนที่เชื่อใจในบริษัทเรา ให้ทุนมา 50 ล้าน โดยให้มูลค่าบริษัทสูงถึง 750 ล้านบาท (จาก 525 ล้าน) ช่วยต่อลมหายใจไปได้อีก 6 เดือน แต่ระหว่างนั้นผมก็ผลักดันจนบริษัททำกำไรได้ พอเข้าปีที่สาม บริษัททำเงินได้ 350 ล้าน จากเดิมปีก่อนที่ทำได้ 33 ล้าน เรียกว่าโตขึ้นอีกพันเปอร์เซ็นต์ โดยมีค่าใช้จ่าย 250 ล้าน เหลือกำไร 100 ล้าน ถือเป็นปีแรกที่ทำกำไรได้ ที่สำคัญ เงิน 50 ล้านที่ระดมทุนมาได้ก็ไม่ได้ใช้ เพราะหลังจากนั้นมา Bitkub ก็ทำรายได้ทะลุเป้าทุกเดือน แต่อย่างน้อยก็สบายใจว่ามี 50 ล้านติดกระเป๋าไว้ มีอะไรขึ้นมาก็ได้จ่าย

“อีกเคสคือปีที่แล้ว ถือเป็นช่วงที่ผมเครียดและเหนื่อยมากที่สุด เพราะบริษัทโต 2,000 เปอร์เซ็นต์ ในทุกด้าน แล้วพื้นฐานบริษัทเราเดิมก็ใหญ่อยู่แล้ว การที่โตขึ้นอีก 2,000 เปอร์เซ็นต์ นี่คือ ถ้าให้เปรียบเทียบ ปีที่แล้วเราทำเงินได้มากกว่าแบงค์เล็กๆ ในไทยที่เปิดมาไม่รู้กี่ปีแล้วอีก แต่เราใช้เวลาแค่ 4 ปีในการทำทุกอย่างให้ได้สเกลเท่าแบงค์ เหมือนเราขับรถยนต์ที่เหยียบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วเครื่องจักรพัง แต่เหยียบเบรกไม่ได้ ชิ้นส่วนหลุดไปหมดแล้วยังต้องไปต่อ แล้วเราก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ในไทยไม่มีใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ คนเดียวที่พอคุยกันได้คือ คุณคมสัน ลี (ผู้ก่อตั้ง Flash Express) เพราะเขายิ่งกว่าผมอีก ก็เหมือนได้แชร์ความทุกข์และความคิดกัน

“ปีที่แล้วนี่เหมือนมีไฟไหม้ทุกวัน ดับไฟเรื่องนี้ได้ เรื่องใหม่มาอีกแล้ว ผมวิ่งดับไฟวุ่นไปหมด อย่างตอนที่มีลูกค้าสมัครเข้าบิทคับเยอะมากจนแพล็ตฟอร์มจะระเบิด คือวันหนึ่ง มีคนเข้ามา 45,000 ทุกวัน แต่พนักงานทั้งบริษัทมีอยู่ 200 คน แล้วคนยังเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเราต้องปิดการให้บริการเพราะทำทุกอย่างไม่ทันจริงๆ ตอนนั้นคนด่าทั้งประเทศว่าหายไปไหน ส่วนผมก็ออกสื่อไม่ได้เพราะขออนุญาตอยู่ กลต. ตอนนั้นเหลือวันทำงาน 5 วัน ที่ต้องอัพเกรดระบบเพื่อให้รับคนจำนวนมากได้ทั้งหมด ตอนนั้นผมบอกพนักงานว่า 5 วันนี้ ต้องทำงานให้หนักที่สุดในชีวิต คือเราต้องทำงานที่ปกติใช้เวลาทำ 6 เดือนให้จบภายใน 5 วัน ซึ่งสุดท้ายก็ยืดเยื้อไปอีก เลยต้องควักเงิน 200 ล้านให้ลูกค้าเพื่อแก้ปัญหา แต่เราก็ผ่านกันมาได้ ผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร นอกจากคำว่า ปาฏิหาริย์ ผมโชคดีมากที่ทีมงานเต็มที่กับการแก้ปัญหาจนผ่านทุกวิกฤติมาได้”

คุณท๊อปพูดมาตลอดว่า อยากให้ Bitkub กลายเป็นยูนิคอร์นของไทย พอมาเดินถึงเส้นชัยจริงๆ แล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างคะ ได้ใช้ชีวิตแบบยูนิคอร์นแล้วหรือยัง

“รู้สึก Grateful ครับ คือทั้งดีใจและขอบคุณที่สุด รู้สึกว่าชีวิตมีประโยชน์ แต่ยอมรับว่า ตอนปีใหม่ผมมองย้อนกลับไปปีที่แล้ว รู้สึกว่าเป็นปีที่เหนื่อยและผจญภัยมาก โมเมนต์เหมือนตอนเรียนจบจากออกซ์ฟอร์ด คือ เป็นหนึ่งเรื่องในชีวิตที่ฉันทำได้แล้ว แต่ถ้าให้กลับไปทำอีก คือไม่เอาแล้ว ชีวิตนี้ขอครั้งเดียวพอ ถือเป็นประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้ ในห้องเรียนก็ไม่มีสอน มันหล่อหลอมให้เราเป็นตัวเราที่แตกต่างจากคนอื่นมากๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม แต่ขอทีเดียวพอนะ (ยิ้ม)

“ส่วนปีนี้ พูดตามตรง ผมยุ่งกว่าเดิม ทำงานหนักกว่าเดิม ก็ยังงงๆ อยู่ว่าจะหนักขึ้นกว่านี้ได้ยังไง เมื่อก่อนหนักแบบยังพอรับไหว อย่างที่ผ่านมาสื่อไหนขอสัมภาษณ์หรือให้ไปพูดที่ไหน จะคนเยอะคนน้อย ผมรับหมด เพราะรู้สึกว่าเขาให้เกียรติ ทำงานไปด้วย ให้ความรู้ไปด้วย ใครฟังจะได้โชคดี แต่ทุกวันนี้ยุ่งจนผมรู้สึกว่าเวลา 24 ชั่วโมงต่อ 7 วัน ไม่พอ จึงต้องปฏิเสธไปหลายงานเลยครับ ซึ่งความจริงไม่ชิน รู้สึกผิด แต่ผมรับไม่ไหวแล้วจริงๆ มีโจทย์ใหม่มาทุกวัน ผมต้องจัดทัพใหม่ทุกสัปดาห์ อย่างล่าสุด ผมประชุมไป 5-6 วงประชุมต่อวัน ซึ่งไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ทรมาน เหนื่อยแบบภาคภูมิใจ ไม่รู้จะอธิบายยังไง เหมือนเราเสียสละเพราะมันมีความหมาย เป็นชีวิตที่มีประโยชน์ เป็น A life of service คือเพื่อสร้างฐานเงินให้กับคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แค่หวังว่าปีนี้จะไม่หนักเท่าปีที่แล้ว” (ยิ้ม)

ปัจจุบันกลุ่มบริษัท Bitkub เติบโตไปถึงไหน จากบริษัทที่เริ่มต้นเพียงคนเดียว สู่พนักงานกว่าพันชีวิต คุณท๊อปต้องใช้กลยุทธ์ใดในการบริหารบ้างคะ

“ปีนี้ Bitkub มีอายุ 4 ปี นิดๆ แล้ว เราโตขึ้นมา 2,000 เปอร์เซ็นต์ แล้ว โดยทำรายได้ทั้งหมด 6,000 ล้าน กำไรสุทธิ 3,000 ล้าน พนักงานจาก 40 คน ขึ้นมาเป็น 1,600 คนแล้ว โดยปัจจุบันเรามี 9 บริษัท ส่วนใหญ่ทำเกี่ยวกับบล็อคเชนทั้งหมด  ทั้งตลาดซื้อขายคริปโตฯ, ตลาด NFT, Bitkub chain, Bitkub Academy, Bitkub Ventures ลงทุนในสตาร์ทอัพรุ่นน้อง, Bitkub M ที่เราไปพาร์ทเนอร์กับ The Mall, Bitkub World ที่พาร์ทเนอร์กับคุณวิชัย ทองแตง เปลี่ยนกลุ่มอาชีวะให้เขียนบล็อคเชนเป็น, Bitkub Tech ที่เปิดในเวียดนาม, Bitkub Infinity เป็น private fund ซึ่งอยู่ในช่วงขอใบอนุญาติ และ Bitkub Holdings อยู่บนสุด ถือ 100 เปอร์เซ็นต์  ในบริษัททั้งหมด ผมว่าเราน่าจะเป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในประเทศไทย ปีนี้ตั้งใจว่าจะเพิ่มพนักงานเป็น 2,000 คน

“ส่วนเรื่องการบริหาร ด้วยความที่ผมทำมาแล้วทุกเฟส รู้ว่าเฟสนี้ต้องทำตัวยังไง บริหารยังไง ตัดสินใจยังไง เหมือนเปลี่ยนประเภทกีฬาที่เล่นทุก 1 ปี เพราะบริษัทที่โต 1,000 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับทุก 1 ปี เราจะกลายเป็นบริษัทใหม่ การบริหารทีม 50 คน ต่างจาก 200 คน 500 คน 2,000 คน เข้าใจกฎใหม่ เปลี่ยนสกิลเซ็ตให้ได้ ก็ผ่านการเรียนรู้จากความผิดพลาดนี่แหละครับ ผมเพิ่งมารู้ทีหลังจากการอ่านหนังสือ Built to Last ของ Jim Collins เขาบอกว่า CEO มี 2 ประเภท ประเภทแรกคือคนบอกเวลา ประเภทที่ 2 คือคนสร้างนาฬิกา

“ผมเติบโตมาจากการเก็บเงินอย่างยากลำบาก ตั้งแต่ทำบริษัทแรก 10 เดือน ไม่ไปไหน  ได้เงินมา 6 แสนกว่าบาท พอจ้างพนักงานปุ๊บก็ต้องให้คุ้มสุดๆ  คือลงไป 1 บาท ต้องได้กลับมา 10 บาท ไม่อย่างนั้นบริษัทอยู่ไม่รอดครับ เราต้องบี้สุดๆ พอมาทำ Bitkub สองปีแรกนี่ถือเป็นช่วง Wartime คือต้องทำทุกอย่างให้มีกำไรเร็วที่สุด ผมจึงเป็นซีอีโอประเภทบอกเวลา เน้นคอนโทรลไปก่อน เหมือนเป็นเผด็จการ สั่งแบบไหนต้องได้แบบนั้น แต่ข้อเสียคือ พอคนที่บอกเวลาไม่อยู่ บริษัทไม่รู้จะไปต่อทางไหน

“จนพอ Bitkub เข้าปีที่ 3 ถือเป็นช่วง Rescale คือบริษัทเติบโตมหาศาล ดังนั้น ถ้าเห็นอะไรที่ไม่โอเค ผมก็จะทนไปก่อน เพราะน้ำขึ้นต้องรีบตัก เราโตประมาณ 1,000 เปอร์เซ็นต์น่ะ ถ้าจะมีอะไรไม่โอเคสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา 10 เปอร์เซ็นต์ พนักงานมี Culture Core Values ไม่เหมาะบ้าง ผมก็จะยอมปิดตาไปข้างหนึ่ง หรืออะไรที่ไม่ได้ทำเต็มที่ ผมก็จะโน้ตไว้แล้วเดี๋ยวตามคุยทีหลัง เพราะเรากำลังเติบโตมหาศาล

“ถัดมาคือช่วง Peace time หลังจากตักน้ำมาหมดแล้ว เราต้องทำอย่างไรให้บริษัทเป็น Long lasting company เผื่อว่าถ้าวันหนึ่งผมไม่อยู่ บริษัทก็ยังยิ่งใหญ่ต่อไปได้ เหมือนกับแอปเปิ้ลที่แม้ สตีฟ จ๊อบจะไม่อยู่แล้ว แต่ยังเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่อยู่ ดังนั้นเราต้องเน้นเรื่อง Core Value, Purpose, Mission, และ Vision ให้มากๆ รวมถึงกระจายอำนาจการตัดสินใจออกไปให้คนอื่นบ้าง (Decentralize decision-making) อย่างเมื่อก่อนผมมีประชุมทุกวันพุธ ที่ผมจะฟังทุกอย่างแล้วตัดสินใจเองคนเดียว ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นประชุมทุกวัน จันทร์ อังคาร พุธ โดยแต่ละวันจะมีแต่ละทีมนำ และมีซีอีโอของแต่ละบริษัทลูกมาช่วยกันออกความเห็น พอถึงวันพุธ ผมจะเข้าประชุมด้วย แต่เป็นการฟังสรุป ผมแค่รีวิวอย่างเดียว ไม่ได้ตัดสินใจเอง แต่ถ้าเรื่องไหนไม่เมคเซนส์ ผมก็มีสิทธิคัดค้านได้ ซึ่งเขาก็จะค่อยๆ เรียนรู้ว่าถ้าเรื่องไหนโดนค้านบ่อย ก็จะรู้แล้วว่าบอร์ดคิดอย่างไร ผมคิดอย่างไร จนนำไปสู่การตัดสินใจแบบเดียวกัน

“เพราะฉะนั้นมันก็จะเปลี่ยนวิธีการทำงาน เราเรียกว่า Organizational Design ในบริษัท เพื่อการสร้างนาฬิกา คราวนี้จะประชุมกันเยอะหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะการตัดสินใจหนึ่งครั้ง ถ้าพลาดจะเสียหายมหาศาล ยิ่งบริษัทใหญ่มากเท่าไร ผู้นำต้องตัดสินใจให้น้อยที่สุด แต่ต้องแม่นยำที่สุด และต้องกระจายอำนาจให้ถูกคน”

เป้าหมายต่อไปของ Bitkub คืออะไรคะ แล้วทำไมเราจึงตั้งเป้าไว้แบบนั้น

“Bitkub มี mission ที่ยึดมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนคือ เราเปิดมาเพื่อมุ่งสร้างโอกาสให้มากที่สุด ซึ่งโอกาสมีหลายรูปแบบ โอกาสทางความรู้ โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ดี ดังนั้น 9 บริษัทในกลุ่มบิทคับจะทำมาเพื่อสร้างโอกาสทั้งหมด แต่ Vision ของกลุ่มนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เดิมเราตั้งเป้าไว้ว่า จะเป็นยูนิคอร์นของประเทศไทย พอเป็นได้แล้ว เราก็เปลี่ยน Vision ใหม่ โดยมองให้ไกลกว่าเดิม คือ เราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับ World 3.0 เพราะผมเห็นว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า การมาของเว็บ 3.0 จะทำให้เราเข้าสู่เฟส 3 ของโลก อินเตอร์เน็ตจะเป็น 3 มิติ ไม่ใช่ 2 มิติเหมือนเดิม อย่างโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้เป็น 2 มิติ คืออ่านตัวหนังสือ แชร์รูปภาพและวิดีโอ ไลฟ์สตีมมิ่งได้ พอเข้าสู่เว็บ 3.0 มันจะเป็น Hologram ผมสามารถให้สัมภาษณ์เสมือนผมนั่งอยู่ด้วยได้ แล้วเครื่องใช้ทุกอย่าง โต๊ะ เก้าอี้ ก็จะฉลาดหมด ถึงตอนนั้น เราจะเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

“ดังนั้นเราต้องมีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเพื่อรองรับไว้ คนส่วนใหญ่อาจยังไม่เห็นภาพ หรือเข้าใจว่า โครงสร้างนี้จำเป็นอย่างไรต่อสังคมหรือประเทศ แต่ผมเข้าใจ จึงต้องสร้างเตรียมไว้ ผมมองว่าจากนี้ไปเศรษฐกิจแบบ Physical คือที่เป็นอยู่นี้จะเล็กลงเรื่อยๆ แต่เศรษฐกิจดิจิทัลจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงไว้รองรับ เหมือนยุคก่อนที่มีธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ ทางด่วน เราก็จะสร้างสิ่งเหล่านี้ในเศรษฐกิจ Digital เช่นกัน เราจึงตั้งเป้าหมายไว้เลยว่า เราจะไม่สร้างบริษัทที่เป็น Nice to have แต่สร้างบริษัทที่เป็น Must have คือจำเป็นต้องมี คือสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นของประเทศ ที่เซ็ตเป้าหมายไว้ขนาดนี้ เพราะมันต้องยิ่งใหญ่มากพอที่จะดึงคนที่เก่งไปรวมกันได้ เพราะสำหรับคนเก่ง เงินอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก ใครก็ให้เงินได้ สิ่งที่ต่างคือบริษัทนั้นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน จะทิ้งอะไรไว้ให้สังคม ทุกคนล้วนอยากเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในวงการ อยากโม้ให้ลูกหลานฟังว่าฉันเป็นทีมที่สร้างยูนิคอร์นของไทยนะ เราเป็นกลุ่มคนส่วนน้อยที่เห็นว่าอะไรจำเป็นในโลกอนาคต แล้วเราก็มีครบทั้ง ความรู้ ทรัพยากร เวลาที่ใช่ และกลุ่มคนที่มีความสามารถ ซึ่งไม่มีบริษัทไหนมีครบขนาดนี้นี้ ก็ต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

ผ่านมาหลายพายุแล้ว ยังมีเรื่องอะไรในการทำงานที่คุณท๊อปกลัวอีกไหมคะ

“เรื่องเซอร์ไพรส์…. ผมรู้สึกว่าผมเจอมาบ่อยจนไม่อยากเจอแล้ว เช่น การได้จดหมายจาก ปปง. จนมือสั่น คือถ้าเจอเรื่องเดิม ผมก็คงไม่สั่นแล้ว แต่แค่ไม่อยากเจออารมณ์แบบนั้นอีก คือทุกคนจะมีจุดทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง ผมแค่ไม่รู้ว่าเรื่องต่อไปของเราคืออะไร จะมีเซอร์ไพรส์อะไรที่ทำให้ตกอกตกใจอีกไหม คือกลัวสิ่งที่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะเจออะไรเหมือนกัน

“แต่เรื่องเครียด นี่เครียดจนชินละ ทุกวันนี้ถ้าไม่เครียดสิแปลก เพราะถ้าเราแคร์เรื่องไหนมากๆ เราจะเครียด ถ้าไม่เครียดคือไม่แคร์ ถ้ามีเรื่องอะไรเข้ามา เราก็ทำไปด้วยความเคยชิน ยิ่งอุปสรรคเข้ามาเยอะๆ ก็ยิ่งทำให้เราปรับตัวได้ดีขึ้น ผมกลับมองว่า ถ้าไม่เคยโดนอะไรมาเยอะๆ ในบริษัทแรก Bitkub ก็คงมาไม่ถึงจุดนี้เหมือนกัน เราคงทนไม่ไหว ยอมรับว่าผมก็มีวันที่รู้สึกว่ามืดไปหมดทุกด้าน หาทางออกไม่ได้ แต่ผมเชื่อเสมอว่าสุดท้ายจะต้องมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือถ้าแย่ที่สุดจนแย่กว่านี้ไม่ได้แล้ว มันก็ต้องหักหัวขึ้นน่ะครับ เป็น Logic ของชีวิต เราแค่ทำของเราให้เต็มที่ที่สุด ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ได้ เราก็จะไปต่อได้

ว่ากันว่า ชีวิตคนยิ่งสูงยิ่งหนาว คุณท๊อปเป็นอย่างนั้นไหมคะ

“ผมว่านี่คือเรื่องปกติของชีวิตอีกเหมือนกัน ทุกคนคงเจอเหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าเราจะรับมืออย่างไร ผมเพิ่งไปคุยกับพระอาจารย์ชยสาโร ท่านบอกว่า ยิ่งผมมีชื่อเสียง และมีคนรู้จักมากขึ้น จะมีคน 5 ประเภทเข้ามา ประเภทที่ 1 คือคนที่ชอบเรามาก ๆ แบบไม่ลืมหูลืมตา ชอบเราโดยที่ไม่มีเหตุผล  ประเภทที่ 2 คือคนที่ชอบเราแบบมีเหตุผล ได้ผลประโยชน์จากเรา จึงชอบเรา ประเภทที่ 3 คือ Neutral กลางๆ ไม่ชอบ ไม่แคร์ ไม่สนใจ ประเภทที่ 4 คือ ไม่ชอบเราแบบมีเหตุผล เพราะเขาเสียผลประโยชน์ ประเภทที่ 5 คือไม่ชอบแบบไม่มีเหตุผล แค่เห็นก็เหม็นหน้าแล้ว ดังนั้น ต่อให้เราทำตัวดีหรือไม่ดีแค่ไหน ก็ยังมีคน 5 ประเภทนี้อยู่ดี เราเปลี่ยนไม่ได้ ขนาดพระพุทธเจ้าก็ยังมีคนไม่ชอบเลย เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจ พอเราเข้าใจแบบนี้ก็ ต่อให้ยิ่งสูงยิ่งหนาว เราก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้”…..

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ต่อได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับเดือน เมษายน 2565

นิตยสารแพรวปกพีพี

อั้ม พัชราภา

เพื่อนลูกชายค่ะแม่ อั้ม พัชราภา สะดุ้งคนแซวว่าที่สะใภ้แม่ “ไฮโซพก”

อั้ม พัชราภา
อั้ม พัชราภา

ทำเอาซุปตาร์สาว อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ถึงกับสะดุ้ง เมื่อคนคอมเมนต์แซวด้วยคำว่าว่าที่สะใภ้ใหญ่สะใภ้เล็ก หลังถ่ายภาพร่วมเฟรมกับ แต้ว ณฐพร ขณะทั้งคู่ไปร่วมงานวันเกิดแม่ของแฟนหนุ่มอย่าง ไฮโซพก ประธานวงศ์ และ ไฮโซณัย ประณัย 2พี่น้องตระกูล พรประภา

อั้ม พัชราภา

เพื่อนลูกชายค่ะแม่ อั้ม พัชราภา สะดุ้งคนแซวว่าที่สะใภ้แม่ “ไฮโซพก”

อั้ม พัชราภา

โดย อั้ม เผยว่าก็เป็นเพื่อนลูกชายก่อนได้ไหมคะ เราก็เจอคุณแม่บ่อย พอเห็นคอมเมนต์แบบนี้อ่านแล้วสะดุ้งเลย(หัวเราะ) แต่คุณพกสะดุ้งด้วยไหม ก็ไม่ได้ถามค่ะ คือ ถ้าไม่มีอะไร เราก็ไม่ได้กันเจอค่ะ เป็นแบบนี้มา 2-3 ปีแล้ว ก่อนโควิด-19 ก็จะเจอกันอาทิตย์ละ 3-4 วัน พอโควิดมาบางที 10 วันหรือ 2 อาทิตย์หรือเดือนครั้ง เจอใครก็ต้องระวังตัวค่ะ

อั้ม พัชราภา

สำหรับน้องแต้ว จริงๆ เราเคยเจอกันอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่ได้ลงรูปเท่านั้นเอง แล้วที่อั้มข่วยโปรโมทแบรนด์ชุดว่ายน้ำของน้องแต้วลงไอจี คือ น้องน่ารัก ชุดก็น่ารักด้วย เราไม่ได้คุยกันบ่อย แต่ก็ทักกันในไอจี แล้วเจอกันบ้างค่ะ

อั้ม พัชราภา

ส่วนที่กลับมาเล่นหนังในรอบ 7 ปี คือ เรื่องนี้เราอยากเล่นมาก อ่านบทแล้วชอบ ตอนแรกก็ต่อต้านว่าบทจะเหมือนเดิมที่เราเคยเล่นหรือเปล่า แต่อั้มอ่านแล้วหัวเราะ ไม่ต้องคิดนานก็รับเล่นเลย แต่ก็แอบเครียดว่าจะไม่ขำเท่าที่อ่านหรือเปล่า ตัวจริงอั้มเป็นคนตลกอยู่แล้ว ชอบหัวเราะ ชอบเรื่องเฮฮาตลอดเวลา แต่อันนี้แบบตลกไปซะทุกอย่างเลย

อั้ม พัชราภา

เอาจริง พอถ่ายละครจากศัตรูสู่หัวใจจบก็อยากถ่ายต่อเลย แต่พอเจอโควิด-19 เราก็เริ่มขี้เกียจ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าต้องทำงานแล้ว จริง ละครเรามี แต่ก็รอให้เขาพูดเองแล้วกัน เอาเป็นว่าก็ถ่ายหนังก่อนเพื่อให้ปรับเวลาด้วย

อั้ม พัชราภา

ก่อนหน้านี้ที่ฟิตหุ่นเหลือเอว 23 นิ้ว เพราะจะถ่ายละคร แต่ตอนนี้อ้วนขึ้นมาแล้ว เราอยากผอมช่วงล่าง แต่อั้มชอบผอมช่วงบน ตอนนี้ออกกำลังกายเหมือนเดิม แค่เพิ่มโปรตีน เพราะว่าหน้าตอบไปเลย ไหปลาร้าขึ้น คือ ผอมก็ดีแต่เราจะโทรม จริงๆ จะเห็นว่าอั้มกินเยอะมาก กินของหวานเยอะมาก แต่ข้าวกินน้อย ก็เป็นปัญหาเราอ้วน เลยต้องลดค่ะ

อั้ม พัชราภา

แล้วเรื่องรถที่บอกว่าจะขาย ก็ยังค่ะ ตีราคาก่อน เขาบอกว่าตอนนี้ราคาดี ของทุกอย่างแพงหมด เราก็เลยอยากจะขายของทุกอย่างเลย ถ้าราคาสูงก็ขาย แต่ยังไม่ได้ขายสักชิ้นเลยนะคะ กลับมาดู ไม่เคยใช้เลย เพราะโควิดไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ก็เสียดาย คิดถึงด้วยค่ะ ก็เก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ(หัวเราะ)”


ภาพจาก @pokphornprapha , @aum_patchrapa

 

พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

MY CHALLENGE OF ‘CHANGING THE CHANCE’ เรื่องราวชวนอุ่นใจเกี่ยวกับ ‘การให้’ ของคุณหมอขนม-พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

Alternative Textaccount_circle
พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์
พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

หลายคนคงมีความคิดที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสและปัจจัยพร้อม สำหรับอาจารย์แพทย์ด้านความงามระดับสากลอย่าง หมอขนม พญ.ภัทรชนนอัศววรฤทธิ์ แห่ง RWC Clinic เธอเชื่อว่าสำหรับการช่วยเหลือนั้น ‘มากหรือน้อยไม่สำคัญ แต่ช่วยหรือไม่นั้นสำคัญยิ่งกว่า’

MY CHALLENGE OF ‘CHANGING THE CHANCE’ เรื่องราวชวนอุ่นใจเกี่ยวกับ ‘การให้’ ของคุณหมอขนม-พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

หมอขนม พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

เมื่อนึกย้อนกลับไปในช่วงที่อายุประมาณ 18 ปียังจำได้ดีว่าการก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ในสถาบันแพทย์แนวหน้าของไทยอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถือเป็นเรื่องท้าทายและไม่ง่ายเลย เพราะแม้จะสอบเข้าได้ แต่โอกาสในการเรียนให้จบก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้งทุนทรัพย์ ความพร้อม ความสามารถ ความมุมานะทุ่มเท

สิ่งสำคัญที่หมอไม่เคยลืมคือการให้ ‘โอกาสตัวเอง’ ที่จะต่อสู้ให้สุดแรงเพื่อไปถึงในทุกเป้าหมาย และ ‘โอกาส’ ที่ได้รับจากอาจารย์และครอบครัว ซึ่งเป็นเหมือนประตูเปิดทางให้เราไปสู่ความสำเร็จ ท่านเหล่านี้คอยมอบทั้งเวลา ความรัก และประสบการณ์ให้เรา ซึ่งถือว่าเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยผลักดันให้หมอมีแรงพลังพอที่จะก้าวไปยังเวทีใหม่ ๆ เพื่อแสดงความสามารถให้ผู้คนได้เห็น หากปราศจากโอกาส ทั้ง 2 รูปแบบนี้ ต่อให้เรามุ่งมั่นขนาดไหน หนทางสู่เส้นชัยก็อาจไปไม่ถึง

หมอไม่ปล่อยให้ตัวเองพลาดโอกาส จึงใช้ความพยายามและทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ช่วยให้เราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจสถาบัน Aesthetic & Wellness รวมถึงลูกค้าที่ได้ผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นของเรา รางวัลต่าง ๆ ที่ได้จากหลากหลายสถาบัน รวมถึง Praew Iconic Beautyในปีที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องยืนยันความตั้งใจและการทุ่มเท

ขณะเดียวกันหมอก็ตระหนักเสมอถึงความสำคัญของ ‘การให้และการได้รับโอกาส’ ที่หมอทำเป็นประจำคือการมอบโอกาสให้ผู้ที่ขาดแคลน อย่างล่าสุดมอบทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา - บ้านเด็กพิการ สังกัดมูลนิธิธรรมมิกชนสำหรับเด็กตาบอด ผู้พิการซ้ำซ้อน เพื่อสร้างโอกาสเล็ก ๆ ที่จะทำให้พวกเขาได้รับสิ่งที่เท่าเทียมอย่างที่เราเคยได้รับมาก่อน

แม้ร่างกายของพวกเขาไม่พร้อมเหมือนเด็กทั่วไป แต่กำลังแรงใจและความสามารถนั้นไม่ได้น้อยไปกว่ากัน สำหรับหมอขนม ที่อยากให้ไม่ใช่เพราะมากมี แต่เพราะเคยไม่มี จึงรู้ว่าเป็นอย่างไรจึงหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นการจุดประกายให้น้องรุ่นต่อ ๆ ไปได้ก้าวขึ้นมาสร้างโอกาสให้ตนเองเช่นกัน เพราะเชื่อว่าการพัฒนาจะเกิดผลที่ดีได้ ย่อมเกิดจากการมีจุดเริ่มต้นที่ดีและการสร้างโอกาสให้ตัวเองได้พัฒนาอยู่เสมอ รวมถึงการรักษาทุกโอกาสของชีวิตไม่ให้หลุดมือไป จะทำให้คนรุ่นใหม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต

เพื่อเติบโตมาเป็นแบบอย่างที่ดีและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นในอนาคตเช่นกัน


เรื่อง: PADCHA PRAEWNISTA

 

 

อนันดา

อนันดา ตื่นเต้นเล่น The World of the Married  ประกบ “แอนทอง-แพทริเซีย”

อนันดา
อนันดา

ได้รับความสนใจจากเหล่าแฟน ตั้งแต่มีการเปิดเผยว่าหนุ่ม อนันดา ถูกวางตัวให้มารับบทในซีรีส์ The World of the Married  เวอร์ชั่นไทยเลยทีเดียว

อนันดา

ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม ในงานบวงสรวงภาพยนตร์ ทิดน้อย 2565 เลยต้องให้เจ้าตัวพูดถึงความรู้สึกที่ได้รับบทอี แท โอประกบนางเอกสาว แอน ทองประสม และ แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด ให้ฟังทันที

อนันดา ตื่นเต้นเล่น The World of the Married  ประกบแอนทองแพทริเซีย

อนันดา

อนันดา เปิดเผยว่าจริง เป็นเรื่องที่เราคุยกันมาพักใหญ่แล้ว วันนี้ผมคุยกับพี่แอนว่าอยากร่วมงานกันสักเรื่องตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องนี้ พูดตรง ว่า The world of married ถูกวางตัวมาหลายครั้ง พอมาถึงผมก็ผ่านมาหลายคนแล้ว ไม่รู้เหมือนกัน เขาอาจจะหาพระเอกได้ไม่เลวพอมั้ง (หัวเราะ)

อนันดา

ผมคุยกับผู้กำกับ เขาอยากให้ผมดูเวอร์ชั่นของอังกฤษ พอดูแล้วก็ตกใจเหมือนกัน โทรไปหาพี่แอน ถามว่าจะเอาแบบนี้เลยใช่ไหม ผมโอเคนะ(ยิ้ม) จริง บทเจ้าชู้ลืมไปแล้ว ทำไม่เป็นแล้วนี่(หัวเราะ) เสน่ห์ของเรื่องนี้ไม่ใช่ว่ามีตัวไหนเลวหรอก

อนันดา

ตอนแรกผมเคยได้ยินซีรีส์เรื่องนี้ พอเขาติดต่อมาทุกคนตื่นเต้นมาก เราก็แบบจะขนาดนั้นเลยเหรอ แต่พอไปดูมันเป็นเนื้อหาที่นักแสดงทุกคนอยากแสดง ทุกบทน่าสนใจมาก ไม่มีใครดี ไม่มีใครเลว ทุกคนมีความเป็นมนุษย์มาก เราถึงเข้าใจได้ว่าทำไมพี่แอนถึงบอกว่าเรื่องนี้เขาอยากเล่น

อนันดา

นอกจากนี้ยังมีน้องแพทริเซียด้วย ความน่าตลกคือ ผมเล่นหนังกับน้อง และเพิ่งปิดกล้องไป เขาก็มาถามผมว่าพี่เล่นจริงใช่ไหม อย่างที่บอกว่าทุกตัวละครน่าสนใจ ผมค่อนข้างตื่นเต้นว่าเวอร์ชั่นเราจะเป็นยังไง เพราะของอังกฤษมี 10 ตอน ของเกาหลีมี 16 ตอน ส่วนของเรามีในบทมา 24 ตอน

อนันดา

แล้วคุณณัฐ ณิชชา แฟนผมเป็นแฟนคลับของพี่แอน เขากรี๊ดพี่แอนมาก อยากให้ผมได้เล่นกับพี่แอนอยู่แล้ว อีกอย่างเขาก็สนิทกับน้องแพทด้วย เลยบอกว่าเขาไม่หึงใครสักคน เต็มที่ (หัวเราะ) พอเราไปดูออริจินัลมาแล้ว ก็แบบโห ซึ่งปีนี้ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับทั้งพี่แอน และพี่อั้มเลย เดี๋ยวถ่ายหนังทิดน้อย 2556 กับพี่อั้มเสร็จ ก็ต่อด้วยซีรีส์กับพี่แอนน่าจะเปิดกล้อง มิ..นี้ครับ

อนันดา

ส่วนเรื่องแต่งงานของผม จริง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว มีเรื่องของครอบครัวด้วย ถ้าสมมติมีอะไรที่เป็นทางการจริง เดี๋ยวบอก ส่วนตัวผมว่าก็ถึงเวลาแล้วนะ ก็พร้อมมาพักนึง การหาคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของครอบครัว ประเพณีความถูกต้อง ซึ่งเราเคยคุยกันไว้ว่าถ้าเป็นต่างจังหวัดได้ก็ดี แต่ยังไม่ใช่เร็ว นี้ คงต้องใช้เวลาครับ

จาค็อบ เอโลดี

หล่อเหลา กล้ามแน่น จาค็อบ เอโลดี พระเอกหนุ่มออสเตรเลียที่พกส่วนสูง 193 ซม.

account_circle
จาค็อบ เอโลดี
จาค็อบ เอโลดี

จาค็อบ เอโลดี พระเอกหนุ่มชื่อดังจากออสเตรเลียที่มาพร้อมส่วนสูง 193 เซนติเมตรกับหุ่นงามๆ และใบหน้าหล่อเหลา ส่งให้เขาแจ้งเกิดจากผลงานเรื่อง The Kissing Booth เมื่อปี 2018 และตอนนี้เขากลับมาเรียกกระแสอีกครั้งจากซีรี่ส์ Euphoria ทางช่อง HBO แน่นอนว่ามีช็อตถอดเสื้อโชว์กล้ามสุดสตรอง

หล่อเหลา กล้ามแน่น จาค็อบ เอโลดี พระเอกหนุ่มออสเตรเลียที่พกส่วนสูง 193 ซม.

จาค็อบ เอโลดี

เขาเล่าถึงนิสัยการออกกำลังกายไว้ว่า “เดิมผมใส่เสื้อเวลาออกกำลังกาย แต่ช่วงหลัง ผมถอดออก สวมแค่หูฟัง เมื่อมองดูตัวเองผ่านกระจก ทำให้เข้าใจคนที่ถอดเสื้อตอน ออกกำลังกายแล้วว่า เฮ้ย รูปร่างเราดูดีมากเลย”

จาค็อบ เอโลดี
@vanityfair

ช่วงที่ไม่จำเป็นต้องฟิตกล้าม จาค็อบ จะเล่นกีฬาเบา ๆอย่างโยคะและพิลาทีสวันละ 45 – 60 นาที นอกจากจะช่วยรักษาหุ่น เบิร์น แคลอรีแบบไม่เจ็บกล้ามเนื้อแล้ว เขาบอกว่า โยคะกับพิลาทีสยังช่วยให้จิตใจสงบด้วย

แต่ถ้าต้องฝึกร่างกายอย่างหนักหน่วง เขาก็มีเคล็ดลับเพิ่มกล้ามเนื้อและซิกซ์แพ็ค โดยออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ด้วยสูตร 40 : 20 คือทำท่าละ 40 วินาที แล้วพัก 20 วินาที ทำทั้งหมด 4 รอบ ได้แก่ Tire Flip ผลักและดันล้อยางขนาดใหญ่ไปมา, Battle Rope Jumping Jack หรือการ กระโดดเชือกเส้นใหญ่, Ball Slam เป็นท่า ขว้างลูกบอล  โดยยกลูกบอลขนาดใหญ่ไว้ ระดับอก จากนั้นกระโดดแล้วยกบอลขึ้นเหนือ ศีรษะก่อนจะทุ่มลงไป แล้วย่อตัวรับบอลที่เด้งจากพื้น, Plank up เริ่มด้วยการทำท่า แพลงก์ปกติ โดยวางข้อศอกยันไว้ที่พื้น ยกลำตัวขนานกับพื้น จากนั้นดันแขนขวาขึ้น ให้ตั้งตรง ตามด้วยแขนซ้าย เหมือนกำลังทำท่าซิตอัพ

ในช่วงที่ต้องรักษาหุ่น เขาลดน้ำหนักลงถึง 10 กิโลกรัมเพื่อรับบทบาทใหม่ ในภาพยนตร์เรื่อง Deep Water ที่มีแพลนจะเข้าฉายปีนี้ เขาเล่าถึงวิธีการกินอาหาร ว่า “ผมกินไม่เยอะครับ  เน้นโปรตีน เพราะตอนนั้นต้องออกกำลังกาย อย่างหนัก แต่เดิมผมก็ไม่ได้สนุกกับการกินอาหารเท่าไร บางทีลืมกิน ด้วยซ้ำ จนต้องมีคนคอยเตือนว่ากินอาหารได้แล้วนะ  มื้อเช้าผม จะเลือกอะไรเบา ๆ อย่างผลไม้ และดูว่าผมอยู่ได้นานเท่าไรโดย ไม่ต้องกิน จากนั้นถ้าหิวผมจะกินอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างซูชิ นอกจากนี้ผมจะกินอาหารเสริมเป็นประจำด้วย เช่น น้ำมันตับปลา แมกนีเซียม และดอกเอคิเนเชียที่มาในรูปแบบเม็ด ช่วยเพิ่ม ภูมิคุ้มกันให้ร่างกายไม่ให้เป็นหวัดง่ายครับ

“แต่ถ้าวันไหนอยากกินอะไรที่ไม่สุขภาพ ผมก็ไม่เคยห้ามตัวเองนะ ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ เบียร์ ถ้าให้เลือกระหว่างพิซซ่ากับ อาหารคลีน ผมเลือกพิซซ่าครับ ให้รางวัลตัวเองสัปดาห์ละครั้ง”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 980

ภาพ : Instagram/@jacobelordi

เราอยากจะบอกว่า… เผยเคล็ดลับหุ่นแซ่บของ “แจ็คสัน หวัง” GOT 7

‘อดีตยังไม่ใช่ แต่วันนี้เขาคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ’ ดวงรายวัน 19 เมษายน 2565

ดวงรายวัน 19  เมษายน 2565 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘อดีตยังไม่ใช่ แต่วันนี้เขาคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ !’

ดวงรายวัน 19 เมษายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานขาย ฯลฯ มีโอกาสที่คุณจะได้ทำงานพิเศษ ซึ่งเป็นงานระดับบริหารหรือเป็นที่ปรึกษาทางด้านความบันเทิงเริงรมย์ แม้คุณจะเต็มเปี่ยมด้วยพลังกายพลังใจในการทำงานเพื่อให้สมกับที่ถูกคาดหวังไว้ก็ตาม แต่วันนี้มีโอกาสที่คุณจะหลุดได้ง่ายๆ จึงควรพยายามยึดอยู่บนหลักเหตุและผลให้มากๆ รวมถึงคิดให้อยู่ในกรอบของความเป็นจริง

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง ด้วยความที่คุณใจดีมีเมตตา จึงไม่สามารถเก็บเงินอยู่กับตัวได้นาน ได้มาเท่าไหร่ก็ให้คนอื่นใช้หมด ทั้งที่เต็มใจจนถึงถูกมิจฉาชีพหลอก ถูกโกง

ความรัก  :   วันนี้ก็ยังมีโอกาสที่คุณจะซีเรียส เครียดและจริงจังไปหมดทุกเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่องคู่ที่เป็นไปได้ว่าคุณจะเริ่มคิดว่าแต่งงานกันเร็วไปหรือเปล่า แต่ถึงวันนี้ก็สายไปแล้ว     คนโสด  มีโอกาสที่แฟนเก่าจะติดต่อกลับมา ในอดีตเขาอาจยังไม่ใช่คนที่ใช่ แต่วันนี้ใครจะรู้ เขาอาจเป็นคนที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณก็ได้

สุขภาพ  :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ หากในกรณีรุนแรงเชื้อมีโอกาสเข้าไปในกระแสเลือดได้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับผู้ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้สติปัญญา และความรู้ความชำนาญขั้นสูง เช่น แพทย์ ซินแส นักวิชาการ นักบริหาร  นักการเมือง การปกครอง เจ้าของกิจการ ทหาร ตำรวจฯลฯ คุณมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานหรือขยายสาขาในเอเชีย  หรือไม่ก็ได้ทำงานกับชาวต่างชาติในเมืองไทยนี่ล่ะ เป็นไปได้ว่าจะเป็นงานที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น โรงแรม การท่องเที่ยว รับ-ส่งเอกสาร เดลิเวอรี่ โลจิสติกส์ รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งวันนี้คุณไม่ควรใจร้อน หรือใช้อีโก้ในการทำงาน แต่ควรจะอดทน รอคอย จังหวะและโอกาสที่จะมาถึงมากกว่า หรือจะใช้เซ้นส์ก็ได้ เพราะเซ้นส์คุณแม่นพอๆ กับหมอดูเลยทีเดียว

การเงิน :  จริงๆ แล้วคุณมีความสามารถในการบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากจะเดินทางไปเจรจาธุรกิจก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ แต่ก็อย่าประมาท เพราะมีโอกาสที่คุณจะไม่เหลือเงินเลย

ความรัก :   หากชีวิตคู่ของคุณอยู่บนหลักเหตุและผล และดำเนินตามหลักประเพณีตรงเป๊ะมาตลอด จนวันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะได้รับอิสระกับการเดินทางไปใช้ชีวิตในแผ่นดินใหม่ก็ได้นะ   คนโสด   มีโอกาสที่คุณจะได้เดินทางไปต่างประเทศ หรือมีโอกาสได้พบปะกับชาวต่างชาติ ซึ่งวันนี้เสน่ห์ของคุณอยู่ที่การประนีประนอมก็อาจได้แฟนตี๋ หรือโอปป้ามาควงก็ได้นะ

สุขภาพ :  คุณเครียดและซีเรียสง่าย จึงมีโอกาสที่จะปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง จึงควรระวังหัวใจและระบบเส้นเลือด นอกจากนั้นหากวันนี้จะเดินทางก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สุกๆ ดิบๆ เพราะจะมีผลให้คุณท้องเสียได้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน งานขาย ฯลฯ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้ทำงานพิเศษที่ท้าทายและมีการแข่งขันสูง แต่ก็เป็นไปได้ที่คุณจะถูกลดบทบาทความสำคัญ ไม่ว่าจะร้องขอความเห็นใจใดๆ เจ้านายก็ไม่สนใจ จนถึงเพื่อนที่สนิทที่สุดลาออกไปโดยไม่บอกกล่าว ส่วนที่มีอยู่ก็มีแต่พวกหน้าไหว้หลังหลอก ปากพูดอย่าง แต่ลับหลังนำคุณไปนินทา แต่หากคุณผ่านจุดนี้ไปได้ก็เท่ากับพิสูจน์ให้พวกเขายอมรับได้ว่าคุณมีความสามารถจริงๆ

การเงิน :  จากความใจดี ชอบช่วยเหลือของคุณ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะเสียรู้คนใกล้ชิดจนเสียเงินให้กับเขาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งมีโอกาสที่คุณจะถึงกับเป็นหนี้สินได้เลย

ความรัก :   หากคุณตัดสินใจแต่งงานอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นไปได้ว่าความคิดเห็นจะไม่ลงรอยกัน ซึ่งคุณมีโอกาสที่จะตกอยู่ในสถานะที่ถูกทำร้ายจิตใจ แม้คุณจะร้องขอความเห็นใจอย่างไร เขาก็ไม่สนใจ  คนโสด  วันนี้คุณไม่ควรดึงดันกับความคิดของตัวเองที่อยากจะคบกับเขา เพราะที่สุดแล้วมีโอกาสสูงมากที่เขาจะไม่เหมาะสมกับคุณในทุกๆ ด้านเลยจ้า

สุขภาพ :   ฟันจะเป็นปัญหาใหญ่ของคุณ ถึงเวลาที่ไปหาหมอฟันได้แล้ว นอกจากนั้นเป็นไปได้ว่าจะมีอาการเหมือนจะเป็นไข้  ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา มึนงง ซึ่งอาจเป็นผลจากการจ้องโทรศัพท์มือถือนานๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  หากคุณอยู่ในตำแหน่งหัวหน้างาน หรือหัวหน้าชุดปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณรับอาสาเจ้านาย หรือเป็นจิตอาสาไปทำงานที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดเสียหาย ทางที่ดีคุณไม่ควรใช้อารมณ์หรืออีโก้ในการทำงาน จนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย เพราะจริงๆ แล้ววันนี้คุณมีความเป็นผู้นำสูง เต็มเปี่ยมด้วยพลังกายพลังใจที่จะปกครองลูกน้องเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงลงไปด้วยดี เช่นนั้นแล้ว ก็อย่าให้งานต้องสะดุดหยุดลงกลางคันเพราะอารมณ์ของตัวเองเลย

การเงิน :  คุณให้ความสำคัญกับงานมากกว่าผลตอบแทน ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่เงินที่ลงทุนไว้ในกองทุนต่างๆ หรือในหุ้นจะสามารถสร้างรายได้ที่สูงให้คุณ

ความรัก :  คุณเป็นหลักของครอบครัว ขณะเดียวกันคุณก็ยังมีความเจ้าชู้อยู่เยอะ ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะซีเรียสและจริงจังไปหมดทุกเรื่อง ตรงนี้เพื่อจะกลบเกลื่อนอะไรหรือเปล่าคะ  คนโสด หากคุณเป็นพวกบ้างาน ส่วนความรักก็เจ้าชู้ไปเรื่อย รักๆ เลิกๆ วนไป วันนี้มีโอกาสที่คุณจะหยุดความเจ้าชู้ เพราะได้พบกับคนที่ใช่

สุขภาพ :  ควรระวังลำไส้อักเสบ ระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ ท้องอืดท้องเฟ้อ หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ก่อน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หากคุณทำงานหรือทำธุรกิจร่วมกับครอบครัว หรือคนรู้จัก หรือทำงานอยู่กับบ้าน เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกายพลังใจที่จะทำงานให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือธุรกิจสายสารพัดช่าง นักประดิษฐ์ คิดค้น ค้นคว้า เพื่อสังคมด้วยแล้ว วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะสามารถคิดค้นผลงานใหม่ๆ ซึ่งมีโอกาสจะสร้างชื่อเสียงให้คุณได้ในอนาคต

การเงิน  :  เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว หรือจากหุ้น กองทุนต่างๆ ที่ได้ลงทุนไว้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าคุณจะนำมาใช้ในการซ่อมแซมบ้าน

ความรัก :  หากคุณเพิ่งแต่งงาน หรือกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน วันนี้ก็ไม่ควรจะเครียดจนกลายเป็นซีเรียสไปเสียทุกเรื่องนะคะ เพราะจะทำให้คนอยู่ด้วยพลอยเครียดไปด้วย คนโสด  คุณมีโอกาสได้พบกับคนรักที่อยู่ในฝันมาตลอด ซึ่งเป็นไปได้ยากมากว่าคนในฝันจะเป็นบุคคลเดียวกับในชีวิตจริง ต้องคอยลุ้นกันวันนี้

สุขภาพ :  ออฟฟิศซินโดรมถามหาแล้วนะคะ หากคุณนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ จนปวดตามแนวกระดูกสันหลัง เส้นตึงไปหมดทั่วร่าง ควรต้องหาหมอนวด หรือไม่ก็ยืดเหยียดกล้ามเนื้อบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายสารพัดช่าง นักประดิษฐ์ นักค้นคว้า วิจัย นักทดลอง เพื่อสาธารณะกุศล สาธารณะประโยชน์ วันนี้คุณก็ยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีความรู้ระดับเทพเลยทีเดียว ในการสร้างงานใหม่ที่มีความท้าทายและการแข่งขันสูง ซึ่งหากสำเร็จจะนำชื่อเสียงมาให้กับคุณและทีมงาน รวมถึงผลตอบแทนอย่างงดงามเลยทีเดียว

การเงิน :   คุณมีความสามารถหาช่องทางในการทำมาหากินได้ตลอดๆ  ซึ่งวันนี้คุณยังได้ทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดีช่วยสนับสนุนด้วย

ความรัก :  เป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะคิดถึงบ้านหลังใหม่ เพื่อที่จะรองรับสมาชิกในครอบครัวกับผู้ใหญ่ที่จะได้มาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คนโสด  มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะจัดสรรคู่ครองมาให้ เพราะด้วยความที่คุณมีเสน่ห์มาก ท่านจึงกลัวว่าจะได้ลูกเขยโดยไม่ผ่านการพิจารณา

สุขภาพ :   มีโอกาสที่คุณจะเป็นภูมิแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาทำความสะอาด โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ ทั้งสเปรย์และเจล จนเป็นผื่นคัน หรือหากแพ้รุนแรงก็เสี่ยงที่จะอักเสบ บวมแดง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายศิลปะ ศิลปิน ความสวยความงาม ความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านออนไลน์ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น รวมถึงอุปกรณ์สื่อสาร ไฮเทค อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด มีความเป็นไปได้ว่าคุณจะประสบความสำเร็จ มีผู้ให้การช่วยเหลือ…ยังมี ‘แต่’ ค่ะ วันนี้คุณไม่ควรวางตัวสนิทสนมกับลูกน้องมากเกินไป เพราะเขาจะตัดสินใจแทนคุณโดยพลการ

การเงิน :  มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ แต่เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะใช้เงินอย่างสำเริงสำราญ เลี้ยงเพื่อนฝูง เลี้ยงแฟน จนเงินหมด ต้องกลับไปขอที่บ้านอีก

ความรัก :  สำหรับคุณผู้หญิงที่ทำหน้าที่ศรีภรรยาที่ดี ดูแลทั้งงานบ้าน งานนอกบ้าน รวมถึงส่งเสริมหน้าที่การงานของสามีมาตลอด แต่หากแต่งงานมานาน ไม่ว่าคุณจะรับผิดชอบดีขนาดไหนก็มีโอกาสถูกมองอย่างเคยชิน จนวันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะออกไปหาความสุขนอกบ้านบ้าง  คนโสด  คุณมีเสน่ห์ แต่รักง่ายหน่ายเร็วมาก คบแป๊บเดียวก็เปลี่ยนใจแล้ว

สุขภาพ :  ช่วงนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะมีคิวเดทเยอะ จนมีโอกาสที่น้ำหนักจะขึ้นนะคะ จึงควรงดของหวาน ของมัน ของทอด แล้วรับประทานอาหาร ผักผลไม้ ที่ช่วยบำรุงเลือด เพราะวันนี้ระบบเลือดของคุณจะทำงานไม่เต็มร้อย มีความเสี่ยงที่จะหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลมวูบไปได้

 

 

แทมิน SHINee

เมคอัพอาร์ติสต์คู่ใจ เผยสกินแคร์รูทีนพิชิตผิวใสของ “แทมิน SHINee”

Alternative Textaccount_circle
แทมิน SHINee
แทมิน SHINee

หนุ่มผิวใสขนาด “แทมิน SHINee” ใครจะรู้ว่าในชีวิตก็ยังต้องต่อสู้กับทั้งปัญหาสิวและผิวมัน เมคอัพอาร์ติสต์คู่ใจเผยว่า มีช่วงที่แทมินผิวมัน และแพ้ง่าย ใช้อะไรก็สิวขึ้น และมีรูขุมขนกว้างอันเนื่องมาจากฮอร์โมน ปัญหาผิวมันทำให้เขารำคาญและยิ่งล้างหน้าบ่อย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

เมคอัพอาร์ติสต์คู่ใจ เผสกินแคร์รูทีนพิชิตผิวใสของ “แทมิน SHINee”

แทมิน SHINee 3

“การล้างหน้าบ่อยทำให้ผิวยิ่งแห้งและพยายามสร้างน้ำมันออกมามากขึ้นกว่าเดิม ฉันจึงแนะนำให้แทมินล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้ง และเลือกใช้สกินแคร์ที่เป็นเนื้อเจล มีความเบาเป็นพิเศษ และยังต้องเลือกสูตรที่เป็นออยล์ฟรีเท่านั้น

แทมิน SHINee 2

“ระหว่างสัปดาห์เพิ่มการมาสก์หน้าด้วยโคลนประมาณ 1 – 2 ครั้ง เพื่อลดความมันและทำความสะอาดรูขุมขน เมื่อเปลี่ยนบิวตี้รูทีนและเลือกสกินแคร์ได้ถูกต้อง ปัญหาผิวก็น้อยลงตามลำดับ”

แทมิน SHINee 1


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 981
ภาพ : lm_____ltm , #taeminshinee

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เผยเคล็ดลับหุ่นแซ่บของ “แจ็คสัน หวัง” GOT 7

How to ล็อกผิวอิ่มน้ำแบบ Jung Ho-Yeon แม้เปลือยผิวหมดก็ยังสวยสดใส

4 ทริคความงามของ “ซอฮยอน” นายหญิงสุดแซ่บจากหนัง Love and Leashes  

 

 

 

น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ

5 น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดอย่างแรง

Alternative Textaccount_circle
น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ
น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ

นาทีนี้จะเป็นสาวขาลุย หนุ่มหวาน หรือแม้จะเป็นหนุ่มแซ่บจี๊ด โลกของน้ำหอมนั้น เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ ความหอมแบบใดก็ได้ที่แสดงออกถึงตัวตนอันมีเอกลักษณ์ นาทีนี้กุหลาบไม่ใช่สำหรับผู้หญิง และมัสก์ก็ไม่ใช่สำหรับผู้ชายอีกต่อไป เข้าใจตรงกันนะ และนี่คือ 5 น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ หอมติดทนนานจนคนต้องทัก!

5 น้ำหอมสุดคูล เปิดกว้างด้วยกลิ่นแบบไม่จำกัดเพศ เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดอย่างแรง

น้ำหอมสุดคูล
BYREDO VELVET HAZE EAU DE PARFUM

BYREDO VELVET HAZE EAU DE PARFUM

กลิ่นหอมแนววู้ดดี้โอเรียนทัล ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกเพศ ด้วยกลิ่นชวนเคลิ้ม เปิดด้วยกลิ่นของน้ำมะพร้าวผสานกับกลิ่นหนักแน่นของพิมเสน ความหวานขมละมุนของโกโก้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเสน่ห์เย้ายวนของมัสก์

น้ำหอมสุดคูล 2
SANTAL 33 LE LABO

SANTAL 33 LE LABO

ความหอมแบบยูนิเซ็กซ์ที่ผสมผสานกลิ่นแนว Floral ที่เป็นเสมือนตัวแทนฝั่งเพศหญิงและ Leather ที่มีความเป็นชายเข้าด้วยกัน อย่างกลมกล่อม ความน่าสนใจคือเมื่ออยู่บนผิวแล้วจะไม่ออกกลิ่นชัดเจน ทำให้กลายเป็นน้ำหอมที่เหมาะกับหลากหลายโอกาสและสภาพอากาศ

น้ำหอมสุดคูล 3
REPLICA AT THE BARBER’S EAU DE TOILETTE

REPLICA AT THE BARBER’S EAU DE TOILETTE

น้ำหอมสุดเก๋ที่จะพากลับไปแวะเวียนที่ร้านตัดผมร้านโปรด รำลึกถึงความทรงจำชวนยิ้มในวัยเยาว์ กลิ่นหอมสะอาดสดชื่นของโหระพา ลาเวนเดอร์ ถั่วตองก้า และมัสก์สีขาว บอกเล่าถึงกลิ่นอายดั้งเดิมของย่านชุมชนที่มีเรื่องราวน่าจดจำส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น

น้ำหอมสุดคูล 5
TOM FORD BLACK ORCHID EAU DE PARFUM

TOM FORD BLACK ORCHID EAU DE PARFUM

ความหอมลึกลับที่เต็มไปด้วยความหรูหรามีรสนิยม ส่วนผสมจากกล้วยไม้สีดำที่มีความทันสมัย ผสานกับกลิ่นเครื่องเทศสุดละมุน ที่ทำให้จินตนาการได้ทั้งลุคของหญิงสาวและชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างร้ายแรง

น้ำหอมสุดคูล 4
DOLCE & GABBANA THE ONLY ONE EAU DE PARFUM INTENSE

DOLCE & GABBANA THE ONLY ONE EAU DE PARFUM INTENSE

จัดเป็นน้ำหอมผู้หญิงที่มีผู้ชายแอบมาตกหลุมรักมากมาย ด้วยกลิ่นที่เซ็กซี่เหลือร้าย กลิ่นหอมของดอกไม้ตะวันออกที่ชวนหลงใหล ผสานด้วยไม้หอมล้ำค่า แถมยังปิดท้ายด้วยความเย้ายวนของแอ๊ปเปิ้ลเขียว รสหวานฉ่ำ ได้กลิ่นแล้วซู่ซ่า ไม่ว่าเพศไหนก็ต้องยอม


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 981
ภาพ : Courtesy of Brands

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แพงก็พร้อมเปย์! 5 สกินแคร์ลักชัวรี่ คุณภาพแน่น เนื้อสัมผัสเข้มข้น แพ็คเก็จจิ้งสวยเนี้ยบ

รวมลิสต์ “บิวตี้แก็ดเจ็ต” สุดฮ็อต แม้ราคาสูงแต่น่าลงทุน แอบเล็งชิ้นไหนสอยเลย

บอกลาปากแห้ง! 6 ลิปทรีตเมนต์ เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอิ่มฟู เนียนนุ่ม

 

 

The World of the Married

เคาะแล้ว 3 นักแสดงร่วมซีรีส์สุดเชือดเฉือน The World of the Married เวอร์ชั่นไทย

The World of the Married
The World of the Married

เมื่อครั้งเป็นเวอร์ชั่นของเกาหลีใต้ก็โกยเรตติ้งพุ่งไม่หยุดทุกอีพีที่ออนแอร์ มาวันนี้ ซีรีส์เรื่องดังอย่าง The World of the Married จากบทประพันธ์เรื่อง Doctor Foster ของอังกฤษ ก็เตรียมเปิดตัวในเวอร์ชั่นไทยแล้ว โดย 3 นักแสดงที่จะมาร่วมเชือดเฉือนบทบาทกันข่าวว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ 2  นางเอกของช่อง 3 อย่างแอน ทองประสม กับแพทริเซีย กู๊ด ที่มารับบทเมียหลวง และเมียน้อย ส่วนสามีจอมเจ้าชู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดก็คือ พระเอกหนุ่มลูกครึ่งเจ้าเสน่ห์อย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

The World of the Married

เคาะแล้ว 3 นักแสดงร่วมซีรีส์สุดเชือดเฉือน The World of the Married เวอร์ชั่นไทย

ฮือฮามาตั้งแต่ช่วงที่ซีรีส์เรื่อง The World of the Married เวอร์ชั่นเกาหลีใต้ออนแอร์แล้ว และฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง แม้กระทั่งดารานักแสดงแถวหน้าของไทยอย่าง แอน ทองประสมก็ยังอินกับซีรีส์เรื่องนี้ จนถึงขั้นออกปากว่าถ้ามีเวอร์ชั่นไทย ก็อยากจะร่วมแสดงด้วย ล่าสุดไทยรัฐออนไลน์ได้ออกมาเผยว่าช่อง 3  กำลังเตรียมตัวนำซีรีส์เรื่องดังมาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย โดยได้เลือก 3 นักแสดงหลักอย่าง แอน ทองประสม มารับบท หมอจี , อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม รับบทอีแทโอ และแพทริเซีย กู๊ด รับบท ยอดาคยอง

The World of the Married  The World of the Married  The World of the Married

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้ดุเดือดมาก แน่นอนว่าบทบาทของตัวละครแต่ละตัวก็ต้องเชือดเฉือนฟาดกันมันหยดแน่นอน และคงจะถูกใจคอละครชาวไทยไม่น้อยทีเดียว ส่วนจะโดนใจกันหรือไม่แน่นอนว่าคงเกิดการเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเกาหลีใต้อยู่แล้ว เอาเป็นว่ารอชมกันดีกว่าว่าเวอร์ชั่นรีเมกของไทยจะแซ่บขนาดไหน เพราะที่ผ่านมา นอกจากเวอร์ชั่นเกาหลีใต้แล้ว ประเทศอื่นๆ ที่ซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ Doctor Foster ของอังกฤษไปทำ อย่าง ฟิลิปปินส์,ฝรั่งเศส,,อินเดีย,รัสเซีย และตุรกี ก็ยัประสบความสำเร็จเช่นกัน

 

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อที่นี่

 

รู้หรือไม่! นางเอกเกาหลีใต้ ไม่จำเป็นต้องอายุน้อย 50 กะรัตก็ยังสามารถเฉิดฉายได้

 

จับตา! ชอนจินซอ คิมทันตอนเด็ก ในซีรี่ส์สุดร้อนแรง The World of the Married

ชุดว่ายน้ำ Chanel

โสดแล้ว สวยแซ่บ “เก้า สุภัสรา” เซ็กซี่ไม่แผ่วใน ชุดว่ายน้ำ Chanel

account_circle
ชุดว่ายน้ำ Chanel
ชุดว่ายน้ำ Chanel

โสดแล้ว สวยแซ่บ “เก้า สุภัสรา ธนชาต” เซ็กซี่ไม่แผ่ว เผยเอวเอส หุ่นสุดปังใน ชุดว่ายน้ำ Chanel คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2022

โสดแล้ว สวยแซ่บ “เก้า สุภัสรา” เซ็กซี่ไม่แผ่วใน ชุดว่ายน้ำ Chanel

ชุดว่ายน้ำ Chanel

อากาศจะร้อนขนาดไหนก็สู้ความฮ็อตของ “เก้า สุภัสรา ธนชาต” ไปไม่ได้ ต้องบอกเลยว่า ช่วงนี้เธอออร่าจับ สวยสับและหุ่นปัง 100% เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างการเล่น พิลาทิส

ชุดว่ายน้ำ Chanel

ชุดว่ายน้ำ Chanel

ล่าสุดสาวเก้าทำไอจีร้อนฉ่า เมื่อเธอมาในลุคสุดแซ่บพริกมาเป็นสวนยังต้องแพ้อย่าง การสวมชุดว่ายน้ำวันพีชที่ส่งรูปตรงจาก เบเวอร์ลีฮิลส์ อเมริกา ซึ่งชุดว่ายน้ำที่เธอใส่นั้นมาจากรันเวย์ Chanel คอลเล็คชั่น Spring/Summer 2022 โดยชุดว่ายน้ำนี้ทำมาจากผ้าเจอร์ซีย์ยืดทอลายทางสีดำและสีขาว สนนราคา 29,000 บาท สาวๆ คนไหนสนใจสามารถไปตำกันได้นะจ๊ะ


ภาพ : Instagram/@supassra_sp

สวยแซ่บรับซัมเมอร์ ดาราสาวแฟชั่นนิสต้า แท็กทีมอวดลุคสุดฮ็อตในชุดว่ายน้ำ

สวยเท่ไม่โป๊! ชุดว่ายน้ำ Louis Vuitton ‘ญาญ่า’ เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย

ซูซี่ เอสส์แมน

ตลกแบบไร้ขีดจำกัด Marc Jacobs ชูเอกลักษณ์ “ซูซี่ เอสส์แมน” ในแคมเปญพิเศษ

account_circle
ซูซี่ เอสส์แมน
ซูซี่ เอสส์แมน

ออกไอเท็มใหม่มาให้แฟนๆ ไปตำกันอีกแล้ว ล่าสุด มาร์ค เจค็อบส์ (Marc Jacobs) ดึงนักแสดงตลกชาวอเมริกัน “ซูซี่ เอสส์แมน” (Susie Essman) นำเอกลักษณ์ความตลกแบบไม่มีขีดจำกัดมาสู่แคมเปญคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2022 ใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังได้ไบรอันน่า คาโพสซิ (Brianna Capozzi) ช่างภาพแฟชั่นชื่อดัง เป็นผู้ถ่ายทอดแคมเปญสุดไอคอนิก

ตลกแบบไร้ขีดจำกัด Marc Jacobs ชูเอกลักษณ์ “ซูซี่ เอสส์แมน” ในแคมเปญพิเศษ

ซูซี่ เอสส์แมน

ไฮไลต์แอคเซสเซอรีกลุ่มใหม่ของฤดูกาลนี้ อาทิ กระเป๋ารุ่น The Tote BagSnapshot และ สนีกเกอร์รุ่น Jogger ซึ่งล้วนปรับโฉมให้มีชีวิตชีวาขึ้นด้วยพาเลทสีสันสะท้อนแสง (fluorescent) การจับคู่สีสันตัดกันแบบคัลเลอร์บล็อก (color-blocked) และกระบวนการผลิตวัสดุหนังหรูหรา ไม่ว่าโอกาสไหน แฟชั่นไอเท็มใหม่จาก มาร์ค เจค็อบส์ จะสะกดทุกสายตาและมอบลุคสุดจัดจ้านอย่างแน่นอน

ซูซี่ เอสส์แมน

สำหรับ ซูซี่ เอสส์แมน ผู้เป็นที่รู้จักจากบทบาทอันมีชีวิตชีวาและโลดโผนในโทรทัศน์ (เช่น ตัวละครชื่อ Susie Green จาก ซีรีส์เรื่อง Curb Your Enthusiasm ปี ค.ศ. 2000 ของ HBO) ซึ่งเธอได้ถ่ายทอดทัศนคติเริงร่าและความขบขันอย่างไร้ข้อกังขา


5 กระเป๋าใบโปรด ราคาหลักหมื่น ของ “คาลิสต้า คูอาการ์” ทายาทเศรษฐี แห่งสิงคโปร์

ม่วงไหนก็ปัง! 8 กระเป๋าแบรนด์เนม สีแพนโทนปี 2022 เริ่มต้นหลักหมื่น

FORUM LO 84 M&M’S

5 ความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร FORUM LO 84 M&M’S สนีกเกอร์ตัวจี๊ดจาก Adidas

FORUM LO 84 M&M’S
FORUM LO 84 M&M’S

ในเดือนเมษายนนี้ PRAEW Survey พามาอัพเดทร้องเท้ารุ่นดังจากแบรนด์ อาดิดาส ออริจินอลส์ ที่ล่าสุดได้เปิดตัว FORUM LO 84 M&M’S ผลงานชิ้นแรกจากการร่วมมือกับบริษัทมาร์ส ผู้ผลิตช็อกโกแลตและขนมยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน โดยการแต่งแต้มสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของถุงขนม M&M’S รสพีนัทมาใส่ลงบนโมเดลรองเท้าสุดคลาสสิกของอาดิดาส ออริจินอลส์อย่าง Forum Lo 84

FORUM LO 84 M&M’S

 

5 ความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร FORUM LO 84 M&M’S สนีกเกอร์ตัวจี๊ดจาก Adidas

โดย FORUM LO 84 M&M’S ที่เตรียมปล่อยออกมาในครั้งนี้ เป็นการถ่ายทอดความขี้เล่นของ M&M’S ในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น

  1. ส่วนอัปเปอร์หนังสีเหลืองที่ตัดกับสีน้ำตาลช็อกโกแลตของเส้นสามแถบ ป้ายโลโก้ M&M’S วัสดุ TPU ที่สามารถถอดออกได้

2.ส่วน Sock-liner รวมถึงข้อความบริเวณส้นเท้าที่บ่งบอกความเป็นมาร์สได้เป็นอย่างดี

3. เพิ่มความโดดเด่นด้วยตัวอักษร M ที่ส่วนปลายเท้าของรองเท้าทั้งสองข้าง

4. สามารถปรับแต่งรองเท้าตามสไตล์ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น การให้เชือกรองเท้ามาถึง 6 คู่ lace jewel อีก 19 ชิ้น แถบรัดบนเชือกรองเท้า 4 คู่ และตัวติดรูปขนม M&M’S อีก 7 แบบ

5. กล่องรองเท้าแบบ co-branded สีเหลืองที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถุงขนม M&M’S รสพีนัท

FORUM LO 84 M&M’S

สีสันจี๊ดจ๊าดขนาดนี้แถมยังอยู่ในสนีกเกอร์รุ่นดัง แน่นอนว่าต้องเป็นที่จับตามองของนักสะสมสนีกเกอร์รุ่นพิเศษอยู่แล้ว โดย FORUM LO 84 M&M’S จะเปิดวางขายในวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 ในราคา 3,200 บาท ที่อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ อาดิดาส ออริจินอลส์ สาขาสยามเซ็นเตอร์ และไอคอนสยาม ร้านคาร์นิวาล ร้านแอทมอส รวมถึงทางออนไลน์ที่ www.adidas.co.th แอปพลิเคชัน adidas และไลน์ @adidasthailand เท่านั้นนะ

FORUM LO 84 M&M’S

 

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่นี่

 

กระเป๋าทรง Bucket ไอเท็มที่ฆ่าไม่ตาย และ2022 นี้ยังมาแรงที่สุดในซัมเมอร์

 

Vans x Lizzie Armanto สนีกเกอร์รุ่นล่าสุด ให้ผู้หญิงออกแบบในรอบ 20 ปี

 

2022 ยังฮ็อตไม่หยุด! เช็คราคา Balenciaga Triple S สนีกเกอร์ที่มาแรงสุดในยุคนี้

ป๊อก-มาร์กี้

ป๊อก-มาร์กี้ ว่าไง เจ้าสัวสุทธิเกียรติ ขอหลานเพิ่ม “มีก้า-มีญ่า” อยากได้น้อง

ป๊อก-มาร์กี้
ป๊อก-มาร์กี้

อยากมีเบบี๋เพิ่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเจ้าสัวสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ รีเควสขอหลานเพิ่มสักคนสองคน อีกทั้งลูกแฝดของ ป๊อก-มาร์กี้ อย่าง น้องมีก้า และ น้องมีญ่า ก็พร้อมใจกันบอกว่าอยากมีน้องแล้ว ทำเอาหนุ่ม ป๊อก-ภัสสรกรณ์ ตาลุกวาวรอฟังคำตอบจากภรรยาสาว มาร์กี้ ราศรี บาเล็นเอก้า จิราธิวัฒน์ ทันที

ป๊อก-มาร์กี้

ป๊อก-มาร์กี้ ว่าไง เจ้าสัวสุทธิเกียรติ ขอหลานเพิ่ม “มีก้า-มีญ่า” อยากได้น้อง

ป๊อก-มาร์กี้

โดย ป๊อก-มาร์กี้ ถือโอกาสพาลูก ๆ ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทั้งคู่รดน้ำดำหัว เจ้าสัวสุทธิเกียรติ คุณพ่อของ หนุ่มป๊อก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้อวยพรให้ทั้งสองคนรักกันมาก ๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “ขอให้มีหลานอีกสักคนสองคนให้แดดดี๊นะ” ทำเอาทั้งคู่ออกอาการเลิกลั่กทันที

ป๊อก-มาร์กี้

ป๊อก-มาร์กี้

นอกจากนี้ น้องมีญ่า ยังบอกกับพี่เลี้ยงว่าอยากได้น้องอีกด้วย ซึ่งพอ หนุ่มป๊อก ได้ยินถึงกับตกใจและรีบถามย้ำกับลูกสาวทันทีเพื่อความชัวร์ ทั้งยังให้ น้องมีญ่า ถาม น้องมีก้า ด้วยว่าอยากมีน้องด้วยไหม พอสองพี่น้องฝาแฝดตกลงกันว่าอยากมีน้องชาย หนุ่มป๊อกก็รีบให้น้องมีญ่าวิ่งไปบอกกับมาร์กี้ด้วยตัวเองทันที เพราะกลัวภรรยาจะไม่เชื่อ

ป๊อก-มาร์กี้

ป๊อก-มาร์กี้

งานนี้คุณแม่อย่าง สาวมาร์กี้ ที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ พอได้สิ่งที่ลูกสาวพูดถึงกับหยุดฟังด้วยความตั้งใจ แถมสามียังพูดสนับสนุนลูก ๆ ทำเอาสาว มาร์กี้ ถึงกับหัวเราะแทนคำตอบทันที

ป๊อก-มาร์กี้

คงก็ต้องมาลุ้นกันว่าลูกอ้อนของสามีและลูก ๆ รวมถึงแรงเชียร์จากคนรอบข้าง จะทำให้ สาวมาร์กี้ ใจอ่อน ยอมมีน้องแฝดอีกคู่มาเล่นเป็นเพื่อนน้องมีก้า-มีญ่า หรือเปล่าน้าาาา


ข้อมูลจาก : รายการป๊อกกี้ออนเดอะรัน

ภาพจาก @pokmindset , @margie_rasri

‘คนอยู่ไกลกันมีความเสี่ยงสูง เพราะมีดวงรักแท้แพ้หนึ่งมิตรชิดใกล้แล้ว’ ดวงรายวัน 18 เมษายน 2565

ดวงรายวัน 18  เมษายน 2565 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘คนอยู่ไกลกันมีความเสี่ยงสูง เพราะมีดวงรักแท้แพ้หนึ่งมิตรชิดใกล้แล้ว !’

ดวงรายวัน 18 เมษายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  จริงๆ แล้วคุณมีปัญญาล้ำเลิศ มีความรับผิดชอบดี มีความคิดฝันและความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มบุคคลระดับผู้นำ ไม่ว่าจะข้าราชการ นักการเมือง การปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้บริหาร เจ้าของกิจการ ฯลฯ  ซึ่งวันนี้ต้องระวัง หากคุณทำงานหรือธุรกิจทางด้านบันเทิง ศิลปะ ความสวยความงาม ออกแบบดีไซน์ ฯลฯ เป็นไปได้ว่าคุณจะเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่อย่างเหนื่อย งานหรือธุรกิจจะมีปัญหาจนถึงขั้นไปต่อไม่ได้ ผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลือก็หายไป

การเงิน  :   สำหรับนักลงทุน วันนี้แม้คุณจะสามารถทำผลกำไรอย่างงดงาม แต่เพราะความใจใหญ่ของคุณที่ชอบเลี้ยงเพื่อน ชอบสังสรรค์ปาร์ตี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเงินจะหมดจนถึงขั้นเดือดร้อนเลยทีเดียว

ความรัก  : หากชีวิตคู่ของคุณพูดกันด้วยหลักเหตุและผล กับความเป็นจริง มากกว่าจะใช้ความรักและใจคุยกัน แล้วเมื่อตึงไปก็มีความเป็นไปได้ที่จะแตกหักได้โดยง่าย    คนโสด  หากคุณเพิ่งอกหัก วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะออกไปลั้ลลา โดยสามารถเริ่มต้นใหม่กับใครได้เลย แล้วหากไปกันไม่ได้ คุณก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่วนไป

สุขภาพ  :  หากคุณหักโหมทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนและไม่สนใจดูแลตัวเอง วันนี้เป็นไปได้ว่าระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือด และหัวใจจะมีปัญหา รวมถึงการรับประทานอาหารด้วย ควรหลีกเลี่ยงพวกของมัน ของทอด และของหวาน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับผู้ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงงานส่งเสริมการขาย เป็นไปได้ว่าคุณจะเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยการทำงานพิเศษที่ท้าทาย และมีการแข่งขันสูง ซึ่งคุณคาดหวังความสำเร็จสูงมาก ทุ่มเทให้กับการทำงานสุดๆ จนไม่ได้หยุดพักเลยทีเดียว  แต่บอกเลยว่า วันนี้คุณมีความคิดเป็นของตัวเองสูงมากจนยากที่จะร่วมงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น ทางที่ดีควรรับงานไปทำคนเดียวดีกว่า หรือไม่ก็ทำธุรกิจของตัวเองเลย

การเงิน :  จริงๆ แล้วคุณสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองอย่างงดงาม แต่วันนี้คุณมีโอกาสเสียเงินจากความใจอ่อนของตัวเองที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อน จนตัวเองเดือดร้อนเสียเอง

ความรัก :  วันนี้คุณจะรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจในตัวคู่ ขณะเดียวกันจะรู้สึกมั่นใจอย่างมากกับตัวเอง กับความคิดของตัวเอง จนมีโอกาสสูงมากที่คุณจะอยู่บ้านไม่ติด ต้องออกไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสังคมภายนอก คนโสด   หากคุณตกลงปลงใจไปแล้วอย่างรวดเร็ว วันนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะรู้สึกเสียดายโอกาส เพราะจริงๆ แล้วคุณชอบที่จะอยู่ท่ามกลางแสงไฟมากกว่า

สุขภาพ :  หากวันนี้ฝนตกก็อย่าออกไปตากฝนนะคะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะเป็นหวัด และภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  ก็ยังเป็นไปได้ที่คุณจะร้อนรุ่มและอึดอัดไปหมด ทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย จนอยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป ก็ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งด่วนใช้อารมณ์ตัดสิน เพราะจากความรู้ ความสามารถ และบารมีจากหน้าที่การงานของคุณจะสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้ แต่ต้องอาศัยความอดทนและรอคอยโอกาสและจังหวะที่จะมาถึง หรือจะใช้เซ้นส์ก็ได้ เพราะวันนี้เซ้นส์คุณแม่นพอๆ กับหมอดูเลยทีเดียว

การเงิน :  ก็ยังมีโอกาสที่จะเดือดร้อนอยู่ ยิ่งวันนี้คุณจะบริหารจัดการการเงินตัวเป็นเกลียวเลย แต่ด้วยความรู้ ความสามารถของคุณก็สามารถรอดพ้นจากวิกฤติได้ไม่ยาก

ความรัก :   ก็ยังอยู่กับปัญหาเรื่องมือที่สามมาสร้างความวุ่นวายจนคุณเกิดความหึงหวง ปรับความเข้าใจไม่ได้ ซึ่งวันนี้หากคุณจะตัดสินใจอะไร ใครก็ห้ามคุณไม่ได้ คนโสด  มีโอกาสที่ความรักจะสะดุดเพราะมือที่สาม หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี มีดราม่า จนเป็นไปได้ว่าคุณจะรำคาญจนถอนตัวออกมาดีกว่า

สุขภาพ :  จริงๆ แล้วคุณพลังเยอะ ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยกับใครง่ายๆ แต่วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะพลาดเรื่องการรับประทานอาหารจนท้องไส้ไม่ดี มีโอกาสที่อาหารจะเป็นพิษ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงของดิบ ของดอง รสชาติแซ่บเว่อร์

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้หลักวิชาและความเชี่ยวชาญชำนาญงานระดับเทพ เช่น อาจารย์ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย  แพทย์ ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย ฯลฯ วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้คุณได้ทำงานในสิ่งที่ตั้งใจไว้  จนถึงมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งทีเดียว

การเงิน :  คุณมีทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดีที่ช่วยแบคอัพให้มีช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ ตลอดๆ หรือหากคุณอยากจะเรียนต่อ หรือเรียนเสริมก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดี

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าคุณจะอยู่ภายใต้การดูแลจากผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณก็ให้ความรักและความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวมากจนคุณยอมเชื่อฟังทุกอย่าง คนโสด  มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะเข้ามาช่วยคัดสรรแฟนให้คุณ  แต่วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะเลือกในสิ่งที่มีความสุขที่สุด

สุขภาพ :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า เป็นไปได้ว่าคุณจะแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาทำความสะอาด พวกแอลกอฮอล์ ทั้งเจลและสเปรย์ นอกจากนั้นยังมีอาการแพ้อาหาร เห็นอะไรก็แพ้ใจไปหมดจนอดรับประทานไม่ได้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  จากที่คุณเคยมีผู้ใหญ่ส่งเสริมและสนับสนุนการทำงาน ส่วนเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็รักและเมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ จนเป็นที่มาของงานใหม่ หรือได้ฤกษ์ปัดฝุ่นโครงการที่มีอยู่เดิมกลับมาพัฒนาและปรับปรุงใหม่ แต่ก็อย่าได้ประมาทและชะล่าใจไป เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่นี้มีความเสี่ยงสูงมากที่งานจะเกิดปัญหาและอุปสรรคร้ายแรงจนถึงขั้นไปต่อไม่ไหว

การเงิน  :  ก็ยังมีโอกาสที่คุณจะเดือดร้อนจนเข้าขั้นวิกฤติ ดังนั้น ก่อนจะรับปากหรือเซ็นสัญญากับใคร โดยเฉพาะเรื่องการเงินและผลประโยชน์จึงควรพิจารณาให้รอบคอบ

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าปัญหาต่างๆ จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงจะมีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย วันนี้จึงมีโอกาสที่จะไปต่อกันไม่ได้ คนโสด  หากคุณกำลังหลงรักชายสูงวัย แล้วหากคุณได้รักใครแล้วก็จะรักเดียวใจเดียว ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ แต่วันนี้คุณอาจต้องเผื่อใจไว้นิด เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน

สุขภาพ :   เดินดีๆ นะคะ ยิ่งหากฝนตกถนนลื่นด้วยแล้ว คุณมีโอกาสที่จะลื่นปรื๊ดตกบันได ตกจากขอบฟุตบาท จนข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นอักเสบได้ง่ายๆ เลย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายบันเทิง หรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ดีไซเนอร์ ฯลฯ เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เข้าสู่การประมูลงาน หรือสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หรือลงสนามแข่งขัน ซึ่งคุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้า จนคุณสามารถทำได้ทุกวิถีทางแม้จะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องนักก็ตาม ก็นับว่าวันนี้คุณเป็นต่อ เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีมีความรู้ความสามารถขั้นเทพเลยทีเดียว

การเงิน :  มีโอกาสที่คุณจะได้รับเงินพิเศษ โบนัส หรือเงินรางวัลจากการทำงานจากผู้ใหญ่และผู้บังคับบัญชา จนถึงขั้นได้รับมรดกเลยทีเดียว

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะรู้สึกไม่มั่นใจกับชีวิตคู่ของคุณในอนาคต อาจเพราะเสียใจกับความรักมาบ่อยครั้ง จนคุณตัดสินใจที่จะขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ หรืออาจขอไปเรียนต่อ  คนโสด  เป็นไปได้ว่า วันนี้ผู้ใหญ่จะเป็นแม่สื่อนัดเดทให้คุณ แต่คาดว่าคุณยังมีบาดแผลเก่าๆ ที่ยังลืมไม่ได้ ดังนั้น การจะเริ่มต้นกับใครใหม่จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด

สุขภาพ :   เป็นไปได้ว่าระบบย่อยอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ ถุงน้ำดี จะมีปัญหา นอกจากนี้จะมีอาการปวดศีรษะ ไมเกรน ความดันขึ้น ซึ่งเป็นผลจากความเครียดและวิตกกังวล

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น โรงแรม ท่องเที่ยว รับ-ส่งสินค้า เดลิเวอรี่ โลจิสติกส์ ไรเดอร์ รถยนต์ ฯลฯ หากคุณมีโครงการที่จะเดินทางไปขยายสาขายังสถานที่แปลกใหม่ เปิดสัปดาห์ใหม่คุณอาจต้องระวังเพื่อนร่วมงาน และคนใกล้ชิดไว้หน่อย เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะถูกแทงข้างหลัง หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี เพื่อหวังเสียบตำแหน่งหน้าที่แทนคุณ

การเงิน :  หากคุณเดินทางไปเจรจาธุรกิจ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะมีโชคอย่างคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ควรเชื่อใจคนใกล้ตัว เพราะมีโอกาสขัดผลประโยชน์กันเอง

ความรัก :  ก็ยังไม่พ้นจากสถานการณ์มือที่สาม ยิ่งหากคุณมีโครงการที่จะเดินทางไกลด้วยแล้ว แม้คุณจะรักเดียวใจเดียวมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่อีกฝ่ายอาจดีใจที่ได้อยู่ไกลกันก็ได้  คนโสด คนอยู่ไกลกันมีความเสี่ยงสูง เป็นไปได้ว่ารักแท้จะแพ้ใกล้ชิดเสียแล้ว

สุขภาพ :   มีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บจากของแหลม หรือของมีคมบาดเป็นแผลตามร่างกายในระหว่างการเดินทาง หรือขณะอยู่บนรถ ยานพาหนะทุกประเภท ทางที่ดีควรไปหาหมอ เพราะหากเก็บไว้มีความเสี่ยงที่จะรุนแรง

 

 

ศิลปิน K-POP

เปิดลิสต์รายชื่อ 15 ศิลปิน K-POP ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก  

ศิลปิน K-POP
ศิลปิน K-POP

จากความนิยมทางวัฒนธรรมเกาหลี ที่แพร่ขยายผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน K-POP , ภาพยนตร์ ,ซีรีส์ ,การ์ตูน รวมถึงแอนิเมชั่นต่าง ๆ จนกลายกระแสเกาหลีฟีเวอร์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ศิลปิน K-POP

เปิดลิสต์รายชื่อ 15 ศิลปิน K-POP ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก

ล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของประเทศเกาหลี ได้ทำการสำรวจเหล่าศิลปิน K-pop ที่ประชาชนลงความเห็นว่าพวกเขาเหล่านี้ คือ ศิลปินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ซึ่งผลสำรวจพบว่ามีจำนวน 15 รายชื่อด้วยกัน

ศิลปิน K-POP

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลี ได้เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับศิลปิน K-POP ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แบบสำรวจนี้ได้รวมชื่อศิลปินเคป๊อปมาจนถึงปัจจุบัน และมีกีสำรวจจากจำนวนประชากรทั้งหมด 4,679 คน จาก 18 ประเทศ

ศิลปิน K-POP

แบบสำรวจดังกล่าวดำเนินการสำรวจโดยรัฐบาล และรายชื่อศิลปินที่ผ่านเข้ารอบ มีทั้งศิลปินกลุ่มและศิลปินเดี่ยวที่มีความโดดเด่น ที่อาจสร้างความเซอร์ไพรส์ให้คุณไม่น้อย มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีใครบ้าง

ศิลปิน K-POP

1. BTS 

ไม่น่าแปลกใจที่บีทีเอสอยู่ในอันดับต้น ๆ เพราะชื่อเสียงของพวกเขาไม่ได้จำกัดแค่ในเกาหลีหรือเอเชียเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดที่ยากลำบากอย่างอเมริกา นอกจากนี้บีทีเอสยังเป็นวงที่ได้รับเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 5(ฮวา-กวัน) ในปี 2561 จากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่มอบให้กับผู้ที่ทำคุณงามความดีด้านวัฒนธรรมและศิลปะเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของชาติและการพัฒนาประเทศอีกด้วย

ศิลปิน K-POP

 2.BLACKPINK

ด้วยเสน่ห์ที่โดดเด่นของสาว ๆ  BLACKPINK ทำให้ทั้ง 4 สาว ได้เป็นโกลบอลแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ 4 แบรนด์หรูชั้นนำของโลก  ลิซ่า(CELINE และ BVLGALY) , เจนนี่ (CHANEL) , คิมจีซู (Dior) และ โรเซ่ ( Yves Saint Laurent)  ไม่เพียงเท่านั้นเพลงของพวกเธอยังดังไกลไปทั่วโลก โดยคอนเสิร์ตครั้งแรกในอเมริกาเหนือ ในปี 2019 ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนสร้างปรากฏการณ์ Sold out ภายในเวลาอันรวดเร็ว

ศิลปิน K-POP

3.IU

ไอยู หรือ อีจีอึน (Lee Ji Eun) ถือเป็นหนึ่งในศิลปินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน แม้ว่าเธอจะเน้นตลาดเกาหลีเป็นหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสน่ห์ของสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้เปล่งประกายไปทั่วทั้งเอเชีย

ศิลปิน K-POP

4. ลิซ่า BLACKPINK

โดย ลิซ่า เป็นสมาชิกเพียงคนเดียว ที่ไม่ได้จัดอันดับความนิยมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เนื่องผลงานส่วนตัวที่โดดเด่น ส่งผลให้เกิดกระแสลิซ่าฟีเวอร์ไปทั่วโลก

ศิลปิน K-POP

5.Psy 

แม้ว่า ไซ จะไม่ได้มีเพลงฮิตออกมาตั้งแต่  New Face, Gentleman  แต่เขายังคงได้รับกระแสชื่นชมเป็นอย่างมาก จากเพลงฮิตอย่าง “GANGNAM STYLE”  ที่โด่งดังไปทั่วโลก การันตีด้วยยอดวิวกว่า 4,000 ล้านวิว ทั้งยังเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดอเมริกา

ศิลปิน K-POP

6.TWICE

สำหรับ TWICE เป็นที่รู้จักในฐานะวงที่ทำงานหนักที่สุดในบรรดาศิลปิน K-POP เมื่อในปี 2011 เพียงปีเดียว พวกเธอมีซิงเกิ้ลออกมาถึง 6 เพลง จากการทำงานหนักและเพลงฮิตติดหู ช่วยให้สาว ๆ  TWICE ยังคงรักษาเสน่ห์ของพวกเธอไว้ได้เสมอ

ศิลปิน K-POP

7. EXO

แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา EXO จะไม่มีกิจกรรมที่โดดเด่น แต่สมาชิกส่วนใหญ่ต่างแยกย้ายไปมีผลงานของตัวเอง ซึ่งก็ช่วยให้พวกเขารักษาชื่อเสียงของวงไว้ได้

ศิลปิน K-POP

8.BIGBANK

แม้ว่าบิ๊กแบงจะไม่มีสมาชิกเต็มรูปแบบอีกต่อไป แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาชิกแต่ละคนได้สร้างชื่อเสียงที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาของเพลง “Still Life” ได้แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของบิ๊กแบงนั้นทรงพลังเพียงใด

ศิลปิน K-POP

9.Girls’ Generation

เมื่อพูดถึงศิลปินK-POP ไอดอลสาว ๆ  เราต้องนึกถึงเกิร์ลกรุ๊ปในตำนานอย่าง Girls’ Generation  ที่มีเพลงฮิตที่คนทั่วโลกชื่นชอบ

ศิลปิน K-POP

 

10.จี ดราก้อน BIGBANK

จี ดรากอน ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของเขา ในการทำกิจกรรมของกลุ่ม รวมถึงการใช้ชีวิตส่วนตัว

ศิลปิน K-POP

11.Jeon Jungkook

ช็อน จองกุก น้องคนเล็กสุดของวง BTS ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามของเขา การปรากฏตัวของเขาสร้างความโดดเด่นจนติดเทรนด์ทุกครั้ง นอกจากนี้เขายังสามารถสร้างไอเทมที่ใช้ขายได้ทั่วโลก จึงไม่แปลกที่จะถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 11

ศิลปิน K-POP

12. GOT7

หนุ่ม ๆ GOT7 ถูกอยู่ในอันดับที่ 12 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของพวกเขา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานกลุ่มออกมาให้เห็นสักเท่าไหร่ แต่ผลงานของแต่ละคนก็ยังได้รับความสนใจจากเหล่าอากาเซ่อยู่เสมอ 

ศิลปิน K-POP

13.Super Junior

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิลปินเจเนอเรชันที่ 2 ที่โดดเด่นที่สุดในวงการ K-POP จึงไม่ยากที่จะเห็นชื่อซูเปอร์จูเนียร์ในการจัดอันดับในลิสต์นี้

ศิลปิน K-POP

14.Kim Taehyung

คิมแทฮยอง หรือ วี สมาชิกวง BTS ด้วยความความหล่อ ภาพลักษณ์ที่ดี และพรสวรรค์ของเขา ซึ่งทุกครั้งที่เขาไปงานอีเวนต์ แฟนๆ ต่างพากันคลั่งไคล้ความหล่อที่เหนือจริงของเขา

ศิลปิน K-POP

15.Park Jimin

จีมินเป็นหนึ่งในศิลปินเคป็อปที่โดดเด่นที่สุดที่มีแฟนๆ เป็นจำนวน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงเสน่ห์อันไร้ขีดจำกัดของเขานั่นเอง

ศิลปิน K-POP

 


ข้อมูลและภาพจาก : kpoptop.com , @dlwlrma , @lalalalisa_m , @42psy42 ,@jungkook.97,@xxxibgdrgn,@thv, @j.m

ลีเดีย ศรันย์รัชต์

สมใจ แมทธิว แล้ว ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ เผยข่าวดีตั้งท้องลูกคนที่ 3

ลีเดีย ศรันย์รัชต์
ลีเดีย ศรันย์รัชต์

ขึ้นแท่นเป็นคุณแม่ลูกสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักร้องสาวสุดแซ่บ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ที่ตอนนี้เจ้าตัวได้ออกมาประกาศข่าวดี ผ่านอินสตาแกรมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ ว่าตอนนี้ดีแลนและเดมี่กำลังจะมีน้องมาเล่นเป็นเพื่อนแล้ว

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

สมใจ แมทธิว แล้ว  ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ เผยข่าวดีตั้งท้องลูกคนที่ 3

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

โดย ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ การถ่ายภาพพร้อมหน้าทั้งครอบครัวที่แต่งตัวต้อนรับเทศกาลอีสเตอร์ในธีมมนุษย์ยุคหิน ซึ่งมีหีบสมบัติวางอยู่ด้วย และให้ลูก น้องดีแลนและน้องเดมี่ เปิดหีบซึ่งข้างในมีภาพอัลตร้าซาวด์ ไข่มังกร และที่ตรวจตั้งครรภ์ที่ขึ้น2 ขีด หมายถึงการตั้งครรภ์ พร้อมกับข้อความว่า The Last Dragon is Coming

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

ทั้งนี้เจ้าตัวได้เขียนบรรยายใต้คลิปว่าลูกมังกรตัวสุดท้ายกำลังจะมา The Last Dragon… hatching in October  ลีเดียยังได้บอกอีกว่าท้องนี้ยอมพ่อเป็นคนสุดท้าย เพราะรอบนี้แพ้ท้องหนักที่สุด หลังจากนี้ครอบครัวจะมีกัน 5 คน และเดมี่กำลังจะเป็นเจเจ๊แล้ว

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

ด้านสามีหนุ่ม แมทธิว  ก็ได้โพสต์ภาพคู่กับภรรยา ด้วยสีหน้าที่แสดงความดีใจสุด ทั้งยังเอามือลืบท้องสาวลีเดียด้วยความทะนุถนอม พร้อมกับเขียนข้อความระบุว่ามามามามามามามาดิ! Baby number 3 on the way!!!

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

งานนี้คนที่ดูจะดีใจเป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้นคุณพ่อ เพราะเจ้าตัวรบเร้าขอภรรยาขอมีลูกอีกคนเพิ่มมานาน แต่ก็โดนสาวลีเดียเบรกมาตลอด จนในที่สุดวันนี้ฝันของพ่อเป็นจริงแล้ว เพราะเดือน .. ที่กำลังจะถึงนี้ แมทธิวจะกลายเป็นคุณพ่อลูกสามอย่างสมบูรณ์

ลีเดีย ศรัณย์รัชต์

ขณะที่เหล่าเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่ลูกสามกันอย่างล้นหลาม

 


ภาพจาก @lydiasrunrat , @matthew.deane1

‘มีดวงถูกใจเพื่อนสนิทผู้หญิง ซึ่งจะเป็นความรักที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้’ ดวงรายวัน 17 เมษายน 2565

ดวงรายวัน 17  เมษายน 2565 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘มีดวงถูกใจเพื่อนสนิทผู้หญิง ซึ่งจะเป็นความรักที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้ !’

ดวงรายวัน 17 เมษายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้พลังกาย พลังใจ เพื่อจะเอาชนะกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ด้วยสติปัญญาและความสามารถ เช่น บุคคลในเครื่องแบบ นักกฎหมาย อัยการ ผู้พิพากษา นักการเมือง นักการปกครอง ฯลฯ หากคุณต้องเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การเจรจาประนีประนอม หรือต่อรอง อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วล่ะก็ ทางที่ดีวันนี้คุณควรยึดความถูกต้อง โปร่งใสเป็นหลัก ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา หรือไม่ถูกหลักศีลธรรมอันดีงาม

การเงิน  :   จริงๆ แล้วคุณเป็นคนขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ ไม่เกี่ยงงาน จึงสามารถหาเงินได้ตลอดๆ  ซึ่งคุณชอบที่จะดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง กินอยู่อย่างสมถะ แต่วันนี้เป็นไปได้ว่าจะมีเพื่อนมาชักชวนให้คุณออกจากเซฟโซนไปเข้าสังคม หรือเดินทางท่องเที่ยว จนถึงลงทุน หากได้เพื่อนดีก็โชคดีไป แต่หากเป็นเพื่อนที่หวังผลประโยชน์ จะส่งผลให้คุณต้องเสียเงินเยอะมาก

ความรัก  :  เป็นไปได้ว่าเพราะคุณแบกรับเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้คนเดียว รวมถึงปัญหาในชีวิตคู่ของคุณ จนเริ่มปลง ก็ยังโชคดีที่วันนี้คู่คุณจะยอมมาร่วมคลายความทุกข์ด้วย  คนโสด  หากคุณเป็นนักเที่ยว สายสังสรรค์ปาร์ตี้ เจ้าชู้  เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะซาบซึ้งในรสพระธรรม เห็นสัจธรรมว่า มีรักก็มีทุกข์

สุขภาพ  :   โรคชรามาเยือนแล้ว เป็นไปได้ว่าคุณจะมีอาการปวดเนื้อเมื่อยตัว โดยเฉพาะช่วงขาตั้งแต่สะโพกลงมาเลย มีโอกาสที่ข้อและเอ็นจะเสื่อม จึงควรลดการเดินทาง และกิจกรรมที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานานๆ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   หากคุณเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติงาน หรือหัวหน้างาน ยิ่งหากอยู่ในช่วงทดลองงานด้วยแล้ว ทางที่ดีวันนี้คุณไม่ควรมีอีโก้ หรือบ้าพลัง โดยเฉพาะเป็นงานที่ต้องติดต่อประสานงาน เจรจาต่อรอง หรือประนีประนอม อย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะเดียวกันคุณควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากๆ เพราะมีโอกาสสูงมากที่คุณจะถูกใส่ร้ายป้ายสี หรืออิจฉาริษยา จนงานสะดุดหยุดลงกลางคัน แต่หากคุณอดทนจนผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ผลตอบแทนที่ได้รับจะคุ้มค่ากับความเหนื่อย

การเงิน :  เป็นไปได้ว่าจะมีรายได้จากหยาดเหงื่อและแรงงาน แต่วันนี้ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง หรือการเสี่ยงโชค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนใหม่ๆ การเข้าสังคม การเดินทางท่องเที่ยว เพราะมีโอกาสที่คุณจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ความรัก :  สำหรับหัวหน้าครอบครัว วันนี้มีโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวจะนำปัญหามาปรึกษา รวมถึงคุณเองก็จะเป็นหนึ่งในประเด็นนั้นด้วย เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะถูกเม้ามอยว่าแอบมีความสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ คนโสด   หากคุณเป็นหลักของครอบครัว เวลาส่วนใหญ่จะอยู่ที่การทำงาน ส่วนเรื่องรักคุณจะใช้เวลาศึกษาและเปรียบเทียบอย่างมากกว่าจะตกลงปลงใจกับใครสักคน

สุขภาพ :  มีโอกาสได้รับบาดเจ็บที่บริเวณช่วงขาไล่ตั้งแต่สะโพกลงมา เป็นไปได้ว่าจะข้อและเอ็นเสื่อม สืบเนื่องจากการเดินทาง ยืน และเดินมาก

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจบันเทิง ความคิดสร้างสรรค์ โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เป็นไปได้ว่าคุณจะได้ร่วมหุ้นร่วมงานกับเพื่อนสนิทผู้หญิงทำงานพิเศษ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายและมีการแข่งขันสูง ทางที่ดีวันนี้คุณไม่ควรยึดติดที่อีโก้จนไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเธอเลย เพราะมีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้ง จนถึงขั้นงานสะดุดหยุดลงกลางคัน แล้วหากงานเกิดความผิดพลาดเสียหาย ก็มีโอกาสที่คุณจะถูกซ้ำเติมอีกต่างหาก

การเงิน :  เป็นไปได้ว่าคุณจะใช้เงินซื้อความสุขให้ตัวเองอย่างฟุ่มเฟือย จนเงินไม่พอใช้ ต้องเร่งหาเงินทุกวิถีทาง แม้ว่าจะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องนักก็ตาม

ความรัก :   หากคุณเกิดในราศีเมษ อิทธิพลของพระราหูจะส่งผลให้คุณมีปัญหากับญาติผู้หญิง หรือเพื่อนสนิทผู้หญิง เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย คนโสด  ก็เช่นกัน วันนี้คุณมีโอกาสใจเร็วด่วนได้ จึงเป็นไปได้ว่าจะถูกใจเพื่อนสนิทผู้หญิง ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้

สุขภาพ :  หากเป็นไปตามที่กรมอุตุฯ พยากรณ์ว่าช่วงนี้จะมีพายุฤดูร้อน ก็ไม่ควรออกไปตากฝนนะคะ เพราะมีโอกาสที่คุณจะไม่สบาย ปอดบวม รวมถึงโรคโลหิตจาง หากเป็นความดัน หรือน้ำในหูไม่เท่ากันอยู่แล้ว ระวังจะกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :   แม้คุณจะมีเทคนิคและแทกติกในการทำงานแพรวพราว สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทำงานได้หลากหลายแนว กระนั้นก็ตามดวงการงานของคุณก็ยังไม่ค่อยดี วันนี้ก็ยังต้องระวังเอกสารทางราชการที่มีโอกาสเป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่งและอาญา แต่หากคุณมีเพื่อนที่รู้ใจหรือผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยกันทำงาน ก็มีโอกาสที่จะได้พบช่องทางทำมาหากินใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเขียน นักประพันธ์ นักวิทยาศาสตร์ ค้นคว้าต่างๆ ผลงานที่ติดขัดอยู่ก็มีหนทางที่จะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  จริงๆ แล้วคุณมีโชคลาภเฮงๆ ปังๆ  ที่มาจากอำนาจ วาสนา บารมีในตัวเอง แต่วันนี้จะเป็นแบบเบี้ยหัวแตก มาทีละนิดทีละหน่อย ไม่ได้เป็นก้อนใหญ่

ความรัก :  วันนี้คู่คุณจะให้เกียรติและยอมรับคุณกับครอบครัวเขาเป็นอย่างดี แต่เป็นไปได้ว่าจะทำด้วยหน้าที่ ไม่ได้ออกมาจากจิตใจเบื้องลึก ต้องค่อยๆ ใช้เวลาในการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกันและกัน คนโสด  มีโอกาสได้พบรักกับข้าราชการหนุ่มไฟแรง ซึ่งในอนาคตเขาจะสามารถส่งเสริมหน้าที่การงานให้คุณได้ แต่ก็คงต้องใช้เวลาในการศึกษานิสัยใจคอกันและกัน

สุขภาพ :  มีโอกาสที่คุณจะได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการปฏิบัติงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นโรคหัวใจ หรือเกี่ยวข้องกับหัวใจอยู่แล้ว มีโอกาสที่จะกำเริบ นอกจากนั้นยังต้องระวังเรื่องสายตาด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายกฎหมาย เช่น ทนายความ นักกฎหมาย ผู้พิพากษา ตำรวจ ฯลฯ วันนี้ไม่เป็นการดีหากคุณจะสตรอง บุกเบิกงาน ลุยเดี่ยวโดยไม่เกรงกลัวใคร เพราะจากการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดสติ กับการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะมีโอกาสที่งานจะเกิดความผิดพลาดเสียหายเกินกว่าจะแก้ไขได้ทัน จนมีความเสี่ยงที่จะไปต่อไม่ได้

การเงิน  :  หากคุณร่วมหุ้นลงทุนกับคู่รัก มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ แต่หากคิดจะลงทุนเพียงคนเดียว ก็ระวังจะไปต่อไม่ได้นะคะ

ความรัก :  หากชีวิตคู่ของคุณกำลังอยู่ในช่วงคดีความ หรือมีการใช้กฎหมาย เงื่อนไข ข้อตกลงใดๆ ก็ตาม ก็อาจต้องทำใจหน่อยนะคะว่าคุณจะเป็นรอง คนโสด เพราะคุณตั้งมาตรฐานของคนที่จะมาแฟนไว้สูงมากจึงเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะยังไม่ตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ

สุขภาพ :   ควรระวังเรื่องการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะมีโอกาสที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะติดเชื้อได้ หากในกรณีรุนแรงมีความเสี่ยงที่เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจติดต่อประสานงาน เจรจาประนีประนอม หรือต่อรอง เพื่อที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงลงไปด้วยดี รวมถึงโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และงานทางด้านภาษาด้วย เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะได้ทำงานพิเศษที่มีความท้าทาย และแข่งขันสูง แต่นั่นเท่ากับเป็นการพิสูจน์ความสามารถของคุณเลย หากทำได้ก็จะได้รับการยอมรับ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์

การเงิน :  มีโชคลาภเข้ามาไม่ขาด แต่วันนี้คุณจะหมดเงินไปกับการเข้าสังคม การเดินทางท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ๆ เป็นไปได้ว่าคุณจะเป็นเจ๊ใหญ่จ่ายตลอดรายการ

ความรัก :  เป็นไปได้ว่าคุณจะแบกรับปัญหาต่างๆ ในครอบครัวไว้อย่างหนักอึ้ง โดยเฉพาะวันนี้จะเป็นเรื่องลูกกับสามี ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนและวุ่นวายใจให้กับคุณมาก  คนโสด  คุณกำลังมีความรักหรือเปล่า ก็ศึกษาดูใจกันให้นานๆ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจทั้งที่ยังลังเล สับสน ไม่มั่นใจ เพราะมีโอกาสที่คุณจะมาเสียใจในภายหลัง

สุขภาพ :   วันนี้สำหรับผู้ที่จะเดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์ ก็อย่าประมาท เมาไม่ขับ ง่วงก็ไม่ควรฝืน เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้หากคุณประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยืนและเดินมากๆ ก็ควรระวังปวดขาตั้งแต่สะโพกลงมาจนถึงข้อและเอ็นเสื่อม

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจบันเทิง ความคิดสร้างสรรค์ โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เป็นไปได้ว่าจะได้ร่วมหุ้นหรือร่วมงานกับเพื่อนสนิทผู้หญิง แต่ก็เป็นไปได้อีกว่าคุณจะได้ทำงานที่ไม่อยากทำ หรือฝืนความรู้สึก แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะติดสัญญา เงื่อนไข ข้อตกลง ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงสัญญาใจ เมื่อถึงจุดนั้นแล้วคุณก็จะคาดหวังความสำเร็จไว้สูงมาก ทุ่มเททำงานจนเหมือนประชด เพราะคุณจะไม่หยุดพักเลย

การเงิน :  เป็นไปได้ว่าคุณจะใช้เงินซื้อความสุขให้กับตัวเองอย่างฟุ่มเฟือย วันนี้ก็อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะเป็นนายหน้าไปกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกัน เพราะมีโอกาสที่จะถูกหลอก ถูกโกง สารพัด

ความรัก :  จะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างญาติผู้หญิง หรือเพื่อนสนิทผู้หญิง เป็นไปได้ว่าวันนี้เธอจะมาทำตีสนิท ทำดีกับคุณอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งลึกๆ แล้วมีผลประโยชน์แอบแฝง หวังทั้งทรัพย์และคน คนโสด  หากคุณมีความรู้สึกกับเพื่อนสนิทผู้หญิงลึกซึ้งเกินเพื่อน เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณอยากจะเอาจริงเอาจังกับการทำงาน แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถตัดขาดจากเธอได้

สุขภาพ :   หากคุณให้เวลากับการทำงานจนไม่ได้หยุดพักผ่อนเลย ยิ่งหากคุณเป็นโรคประจำตัว พวกดีซ่าน ไวรัสตับอักเสบ ความดัน น้ำในหูไม่เท่ากัน อยู่แล้ว ยิ่งต้องระวัง เพราะมีโอกาสที่จะกำเริบ

 

 

โลกไม่เคยลืม! แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้ กับเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้

account_circle

แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ทั้งเรื่องชีวิต และยังเป็นแฟชั่นไอคอนให้กับสาวๆ ทั่วโลก

ปฎิเสธไม่ได้ว่าในบรรดาสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา  แจ๊คเกอลีนเป็นผู้หญิงที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะนอกจากเธอจะเป็นภริยาของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกาแล้ว

เธอยังถูกจัดให้เป็นสุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลกอีกด้วย

จากเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก เธอก้าวขึ้นเป็น The First Lady ผู้หญิงที่คอยสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกได้อย่างไร

บอกเลยว่าชีวิตเธอ แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้ ไม่ได้โรยกลีบกุหลาบไปซะทีเดียว แพรวจะพาคุณไปทำความรู้จักเธอให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งบางเรื่องคุณอาจไม่เคยรู้

แจ๊คกี้ หรือ แจ๊คเกอลีน ลี โบว์เวียร์ เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2472 ที่เมืองเซาธ์แฮมป์ตัน รัฐนิวยอร์ก เป็นบุตรสาวของ นาย John Vernou Bouvier III.โบรกเกอร์ตลาดหุ้นในวอลสตรีท (ตลาดหลักทรัพย์) และมารดา นาง Janet Norton Lee มีน้องสาวชื่อ  Caroline Lee

หนูน้อยแจ๊คกี้เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียน Miss Chapin เธอเป็นเด็กน่ารัก ฉลาด และมีอารมณ์ศิลปินค่อนข้างสูง แต่ขณะเดียวกันก็แอบดื้อไม่น้อย

ในวัย 10 ปีเป็นช่วงเวลาที่ แจ๊คกี้ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่พ่อแม่หย่าร้างกัน มันดูเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กวัยนี้ และยิ่งเธอมาจากครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิค แถมทางโบสถ์ก็ไม่เห็นดีด้วยสำหรับการหย่าครั้งนี้ของพ่อแม่เธอสักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แจ๊คกี้ต้องเผชิญกับสภาวะที่ตึงเครียด

จากเด็กสาวร่าเริง กลายเป็นเด็กที่เงียบ และไม่ค่อยพูด ทว่าแม้จะต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งกายและใจ  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หนูน้อยย่อท้อ เธอกลับได้รับโอกาสดีๆ มากมายในชีวิต เธอได้เรียนบัลเลต์คลาสสิคในโรงละครโอเปล่า และยังเริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศสอีกด้วย

แจ๊คกี้และ เจเน็ต แม่ของเธอในงาน East Hampton Horse Show เมื่อปี 1935

นอกจากนี้ แจ๊คกี้ ยังชื่นชอบการขี่ม้ามากๆ ด้วย เธอเคยชนะและได้เหรียญทองในการแข่งขันขี่ม้าเมื่อตอนอายุ 11 ปี พรสวรรค์ที่ได้มานี้ อาจจะเป็นเพราะแม่ของเธอนั้นชื่นชอบกีฬาขี่ม้า และเคยแข่งขัน จนได้แชมป์ถึงสามครั้งที่งานประจำปี National Horse Show

Bert Morgan Archive

เมื่อครั้งที่แจ๊คกี้ อายุ 1 ขวบ แม่ของเธอได้จับเธอขึ้นบนหลังม้าพร้อมกับเธอด้วย และยังให้เธอเริ่มขี่ม้าเอง โดยเริ่มหัดจากม้าแคระก่อน ฝึกจากการขี่ข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ จนชำนาญ จึงมาขี่ม้าไซส์ปกติ

jfklibrary

หลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอหย่าร้างกันได้ไม่นาน สามปีถัดมา แม่ของแจ๊คกี้ก็แต่งงานใหม่กับ Hugh Auchincloss นักธุรกิจ พ่อม่ายลูกติด ซึ่งนั่นทำให้แจ๊คกี้มีพี่สาวและน้องชายเพิ่มขึ้นโดยปริยาย

ในปี 1947 หลังจากที่แจ๊คกี้จบการศึกษาจากโรงเรียน Miss Porter เธอได้เรียนต่อวิทยาลัย Vassar ในเมืองนิวยอร์ก โดยวิชาที่เลือกเรียนคือ ประวัติศาสตร์,วรรณกรรม, ศิลปะ และภาษาฝรั่งเศส

ในช่วงที่เธอเป็นนักศึกษาปี 1 แจ๊คกี้ได้เดินทางไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส และได้ไปอาศัยอยู่กับครอบครัว Renty หลังจากครบหนึ่งปี เธอต้องเดินทางกลับบ้าน แจ๊คกี้ได้เขียนถึงประสบการณ์ที่ใช้ชีวิตช่วงสั้นๆ อยู่ที่นั่นว่า

“เป็นอีกปีที่ฉันชอบมากที่สุดในชีวิต ถึงแม้จะอยู่ห่างจากบ้าน แต่ก็มีโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้อย่างแท้จริง

“ที่สำคัญคือบางสิ่งที่ฉันพยายามซ่อนมันมาตลอด แต่มาที่นี่ฉันได้เปิดมันขึ้นมาอีกครั้ง ฉันรักยุโรป แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็กลัวว่าที่นี่จะไม่ปล่อยให้ฉันไป”

เมื่อแจ๊คกี้กลับจากประเทศฝรั่งเศส เธอได้โอนย้ายที่เรียนจากวิทยาลัย Vassar ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากอาศัยอยู่ในเมือง และอยากอยู่ใกล้ครอบครัวของเธอด้วย

แจ๊คกี้กำลังพิมพ์บทความ ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ที่บ้านในเมืองจอร์จทาวน์เมื่อปี 1960

หลังจากเรียนจบ แจ๊คกี้เริ่มทำงานครั้งแรกในปี 1951 โดยเป็นช่างภาพฝึกหัดให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตัน ไทม์ส-เฮรัลด์ โดยหน้าที่ของเธอคือถ่ายรูป ถามคำถาม และเผยแพร่คำตอบในคอลัมน์

ในช่วงที่เธอทำงานอยู่ที่นี่ แจ๊คกี้เคยสัมภาษณ์ ริชาร์ด มิลเฮาส์ นิกสัน อดีตประธานาธิบดีคนที่ 37 ของสหรัฐอเมริกา และรองประธานาธิบดีคนที่ 36 อีกทั้งยังเคยร่วมถ่ายภาพงานพิธีบรมราชาภิเษกของพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ด้วย

Keystone
Glamour

ปีเดียวกันนั้น เธอได้พบรักกับจอห์น เอฟ เคนเนดี้ สส.หนุ่ม ในงานเลี้ยงสังสรรค์ ในเมืองจอร์จทาวน์ ทั้งคู่คบหาดูใจกันเรื่อยมา และหลังจากที่จอห์นได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา พวกเขาจึงได้ตัดสินใจหมั้นในวันที่ 25 มิถุนายน 2496

แหวนหมั้นที่จอห์นเลือกให้กับคู่ชีวิตของเขานั้น เป็นแหวนเพชร 2.88 กะรัต ประดับด้วยมรกต 2.84 กะรัต จากแบรนด์ Van Cleef & Arpels

จากนั้นในวันที่ 12 กันยายน 2496 ทั้งคู่ได้เข้าพิธีแต่งงานที่โบสถ์เซนต์แมรี่ เมืองนิวพอร์ต รัฐโรดไอแลนด์ และในปี 2500 แจ๊คกี้ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ชื่อ แคโรลีน เคนเนดี้

ในช่วงที่จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ กำลังหาเสียงเพื่อลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา แจ๊คกี้ก็ยังคงใช้เวลาว่างในขณะอยู่บ้าน เขียนคอลัมน์ Campaign Wife ให้กับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ซึ่งในช่วงนั้นเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 

นอกจากนี้เธอยังได้ตอบจดหมายนับร้อยฉบับ บันทึกเทปโฆษณาทางโทรทัศน์ และยังให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ว่าที่สตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้กลับไม่มีวันหยุดพัก จนกระทั่งเธอได้ให้กำเนิดลูกชาย จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์

แน่นอนว่าเป็นถึงสตรีหมายเลขหนึ่ง คงไม่มีทางอยู่เฉยแน่นอน ในปี 1961-1963 แจ๊คกี้เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของผู้หญิงทีมีหัวค่อนข้างทันสมัย เธอมีโครงการที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และฟื้นฟูห้องต่างๆ ในทำเนียบขาวให้ดูสวยขึ้น

ที่คึกโครมที่สุดคือการเปลี่ยนทำเนียบขาวให้เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยเธอได้ขอความช่วยเหลือจากนักสะสมงานศิลปะต่างๆ และนักออกแบบที่ได้รับการตกแต่งทำเนียบขาวให้มาช่วยบูรณะในครั้งนี้

นอกจากจะเนรมิตทำเนียบขาวให้เป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว เธอยังเปิดโรงเรียนในทำเนียบขาวอีกด้วย แจ๊คกี้เปลี่ยนระเบียงชั้นสามของทำเนียบขาวให้เป็นโรงเรียนสำหรับลูกสาวของเธอ รวมถึงเด็กคนอื่นๆ ด้วย และยังสร้างสระว่ายน้ำ ชิงช้า และบ้านต้นไม้บนสนามหญ้าให้กับลูกชายสุดที่รัก

พูดถึงทำเนียบขาวหลายคนอาจจะฟังดูแล้วคงเข้าถึงยาก แต่ในสมัยที่แจ๊คกี้เป็นสตรีหมายเลขหนึ่งนั้น เธอได้เปิดทำเนียบขาว พาสื่อทัวร์ รวมถึงให้เข้ามาถ่ายทำรายการโทรทัศน์เมื่อตอนที่บูรณะทำเนียบขาว และแน่นอนว่านั่นทำให้เธอได้รับรางวัลชนะเลิศจาก เอมมี่ อวอร์ด

อีกเรื่องที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ในยุคนั้น แจ๊คกี้เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นไอคอนให้กับสาวๆ ทั่วโลก เธอเป็นผู้นำเทรนด์ในการแต่งตัว เธอมีสไตล์ที่ดูเรียบหรู ทันสมัย และมีความชิคในคราเดียวกัน

ไม่มีครั้งไหนที่แจ๊คกี้ออกงานแล้วจะไม่โดดเด่น ทุกๆ ครั้งที่ปรากฎตัวแจ๊คกี้จะมาพร้อมหมวกทรง pillbox แว่นกันแดดขนาดโอเว่อร์ไซส์ ถุงมือยาวถึงศอก

ชุดสไตล์ Jackie O

และชุดที่เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบ ได้รับคำนิยามว่าเป็นชุดสไตล์ Jackie จนไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน สาวๆ ก็ยังหยิบมาใส่กันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในปี 1962 แจ๊คกี้ได้รับการโหวตจากผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเครื่องแต่งกายสตรีของโลก ให้เป็น 1 ใน 10 สตรีที่แต่งกายดีที่สุดในโลก ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่เธอได้รับรางวัลจาก เอมมี่ อวอร์ด

ในปี 1963 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ขณะที่ จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และ แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้ กำลังนั่งอยู่ในรถเปิดประทุน รถได้เคลื่อนตัวช้าๆ ไปตามถนน จอห์นและแจ๊คกี้กำลังโบกมือทักทายให้กับประชาชนในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส

และแล้วเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจอห์นถูกลอบสังหารโดยมือปืน กระสุนได้พุ่งเข้าที่ศีรษะของประธานาธิบดีคนที่ 35 ของอเมริกา จอห์นเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความตกใจสุดขีดของแจ๊คกี้ และประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์

ร่างของจอหน์ถูกนำขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เพื่อกลับไปทำพิธีที่กรุงวอชิงตัน แจ๊คกี้ยังคงอยู่ในชุดที่เปรอะเปรื้อนไปด้วยเลือด และเข้าพิธีด้วยชุดนี้ ซึ่งเหตุผลที่เธอไม่เปลี่ยนชุดเพราะอยากให้โลกรับรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับจอห์น สามีของเธอ

หลังจากที่จอห์นเสียชีวิตไปแล้ว แจ๊คกี้ได้ย้ายครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก และห้าปีถัดมา เธอก็ได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ นายอริสโตเติล โอนาซิส มหาเศรษฐีชาวกรีก ชายที่มีอายุมากกว่าเธอถึง 20 ปี และเป็นอีกครั้งที่เธอได้กลับไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศส

ในช่วงนั้นเธอและลูกๆ มักถูกปาปารัสซีที่ชื่อว่า Ron Galella คุกคามถ่ายภาพตลอด จนมีคำสั่งศาลออกมาว่าห้ามเขาเข้าใกล้พวกเธอในระยะ 25-30 ฟุต แต่ถึงอย่างไร ข้อห้ามนี้ก็ถูกละเมิดอยู่ดี นั่นทำให้แจ๊คกี้หมดความอดทน จนต้องฟ้องชายคนนี้ และแน่นอนว่าศาลตัดสินให้เธอชนะ

ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต สามีที่รักได้จากไปต่อหน้าตา แต่แจ๊คกี้ก็ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง และใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตกับลูกๆ และงานที่เธอรัก

แจ๊คกี้ประสบความสำเร็จเรื่องงานเป็นอย่างมาก เธอได้กลับไปเป็นบรรณาธิการหนังสืออีกครั้ง ผลงานทุกๆ เรื่องต่างมีคนจดจำและยังคงกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน

ถึงวันนี้ชื่อของเธอยังคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของโลก เป็นสตรีที่โลกต้องจดจำไว้ตลอดไป

 

ที่มา : www.jfklibrary.org, www.thisisinsider.com

 

keyboard_arrow_up