อาย-พิมปพัทธ์ อรุณเนตรทอง ทายาท Wiz Auto Service ผู้นำเข้ารถซูเปอร์คาร์ เธอเป็นสาวหน้าหวานที่มีความเด็ดเดี่ยว หากตั้งใจทำอะไรแล้วจะมุ่งมั่นไปให้ถึงเป้าหมาย จึงเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยวัย 19 ปี พร้อมกับมีธุรกิจส่วนตัว ที่สร้างรายได้ถึง 6 หลัก

อาย-พิมปพัทธ สาวหน้าหวาน เจ้าของธุรกิจ 6 หลักที่สร้างเองในวัย 19 ปี

ทำทั้งที…ต้องให้ดีที่สุด

“อายเรียนชั้นประถมถึงมัธยม 4 ที่โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ความที่ อายมีนิสัยออกแนวห้าวๆ รักอิสระ ไม่ชอบถูกตีกรอบ และไม่ได้ตั้งใจเรียน มากนัก ประกอบกับเห็นรุ่นพี่และคนรอบข้างลาออกจากโรงเรียนเพื่อติวสอบเทียบ วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย GED Test (General Educational Development) แล้วสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้เหมือนกัน พอศึกษาข้อดีและข้อเสีย อายสนใจ ตรงที่มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเพื่อนๆที่เรียนตามหลักสูตรปกติ  เมื่อเรา เรียนไม่เก่งก็ต้องหาข้อดีด้านอื่นให้ตัวเอง คือเรียนจบให้ไวกว่าคนอื่นค่ะ ที่สุด เมื่อปรึกษาครอบครัวก็ตัดสินใจลาออกมาติวสอบ GED

“ต้องบอกว่าพอออกมาสู่โลกแห่งความจริง ได้มีอิสระก็จริง แต่กลับรู้สึก กดดันที่ต้องขยันขึ้นมากๆ เพราะไม่มีโรงเรียนรองรับแล้ว มีเพียงคำตอบเดียว คือต้องสอบให้ผ่านเท่านั้น จากเดิมที่ไม่ตั้งใจเรียนก็กลับมาตั้งใจเรียนพิเศษทุกวัน ประมาณ 6 เดือน กระทั่งสอบเข้า Business English มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ด้วยอายุ16 ปี(ยิ้ม) ขณะที่เพื่อนๆเรียนมัธยม 4 – 5 อายเรียนข้ามชั้นไป 3 ปี ส่วนเหตุผลที่เลือกเรียนคณะนี้ เพราะอยากเรียนเกี่ยวกับธุรกิจและได้เรียนภาษา อังกฤษด้วย

“ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เรื่องเรียนอายไม่กดดัน เพราะทุกคนต้องมาเริ่ม เรียนเนื้อหาใหม่ทั้งหมดพร้อมกัน แต่รู้สึกกดดันเรื่องความห่างระหว่างวัยมากกว่า โชคดีที่ลุคดูเป็นผู้ใหญ่และแก้ปัญหาด้วยการไม่บอกอายุ ทุกวันนี้เพื่อนที่เรียน ด้วยกันมาบางคนยังไม่รู้เลยว่าอายอายุเท่าไร (หัวเราะ)

“หลังจากเรียนจบด้วยอายุ 19 ปี อายเลือกเรียนต่อคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคบัณฑิต (นอกเวลาราชการ) หลักสูตร 3 ปี ตอนที่ เราคุยกันนี่อายเริ่มเรียนมาประมาณเดือนกว่า เลือกด้านนี้เพราะความชอบ อย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ได้มีการวางแผนหลังเรียนจบ ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะต้องเป็น ผู้พิพากษาหรืออัยการ อายมองว่าถ้ามีความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย  ไม่ว่าจะทำอาชีพ อะไรก็จะไม่ถูกใครเอาเปรียบง่ายๆ”

รางวัลของคนขยัน

 “ครอบครัวอายทำธุรกิจ Wiz Auto Service นำเข้ารถซูเปอร์คาร์มานาน กว่า 10 ปี โชว์รูมเราโดดเด่นด้านบริการ มีรถพร้อมส่งให้เลือกมากมาย อาทิ โรลส์-รอยซ์  เบนท์ลีย์ และอื่นๆ อายชอบด้านธุรกิจ จึงเข้ามาช่วยออกไอเดีย ด้านมาร์เก็ตติ้งและดูภาพรวมช่องทางออนไลน์บ้าง ความที่อายเป็นลูกคนโต มี น้องสาวอายุห่างกัน 10 ปี(คุณสิพิม-สวนใจเย็น อรุณเนตรทอง) แม้อายจะไม่ได้ ชอบเรื่องรถมากนัก แต่ในอนาคตก็อาจจะกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัวค่ะ

“ตอนนี้อายกำลังสนุกกับการขายตุ๊กตา Care Bears ทางอินสตาแกรม @wonderheartbears ทำมา 2 ปีแล้วค่ะ ยอดขาย 6 หลักต่อเดือน ขึ้นอยู่กับ ความขยันโพสต์ขายของด้วย ก่อนหน้านี้ขายเฉพาะตุ๊กตา ตอนนี้เริ่มมีชุดนอน และของกระจุกกระจิกเพิ่มขึ้น 

“ความภูมิใจของอายคือตั้งแต่ทำธุรกิจอายไม่ได้ขอเงินจากครอบครัวมา 2 ปีแล้วค่ะ (ยิ้ม) ก่อนหน้านี้อายเคยซื้อของขวัญให้ตัวเองเป็นเซต Cartier กำไลข้อมือรุ่นตะปูและกำไลข้อมือชนิดยาง รุ่น Love ราคาตอนนั้นคือ 600,000 บาท และล่าสุดซื้อกำไล Cartier ฝังเพชร รุ่น Love ราคา 1,200,000 บาท จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง (ยิ้ม) วิธีการทำงานของอายคือตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้ววางแผนหาวิธีไปให้ถึงเป้าหมาย เพื่อให้เกิดพัฒนาการอยู่เสมอ อายบอก ตัวเองไว้ว่าเราจะต้องเติบโตแบบเก่งขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงอาย แบบให้อิสระ ให้เรียนรู้และลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ท่านบอกว่าพ่อแม่ไม่ได้ อยู่ด้วยตลอดไป ถ้าทำตัวดีจะเกิดผลดีกับตัวเอง แต่ถ้าทำตัวไม่ดี ใครก็ช่วย ไม่ได้ค่ะ”

Beauty Lover

“ในหนึ่งวันของอายค่อนข้างยุ่งค่ะ ปกติเริ่มวันด้วยการไปออฟฟิศ ที่คุณแม่ ยกห้องด้านบนของโชว์รูมให้สำหรับเป็นสต๊อกสินค้า บางวันที่มีสินค้าเข้าใหม่ก็จะ ต้องไปตรวจความเรียบร้อยก่อน จึงจะออกไปทำธุระอย่างอื่น 

“สำหรับการดูแลตัวเอง อายชอบเรื่องสวยๆงามๆมาตลอด จนมีวีรกรรม สมัยเรียนมัธยม อายชอบแอบแต่งหน้าไปโรงเรียนเป็นลุคใสๆสไตล์นักเรียน ด้วยความที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน กฎระเบียบค่อนข้างเยอะ จึงโดนคุณครูดุ แทบทุกวัน เพราะพอตรวจกระเป๋านักเรียนมีแต่เครื่องสำอาง ไม่มีหนังสือเลย (หัวเราะ) เคยมีวันที่เผยหน้าสดไป ทั้งคุณครูและเพื่อนถึงกับตกใจกันเลยทีเดียว 

“ส่วนบิวตี้รูทีนของอายตอนนี้ต้องใช้คำว่าโบกครีมเลยค่ะ เพราะทาโลชั่น ครั้งละเยอะๆ ถ้าเป็นตอนกลางวันจะทาครีมกันแดดร่วมด้วย วันไหนมีเวลาว่าง ก็เข้าสปาขัดผิว ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด อายจึงต้องพกเสื้อแขนยาว ไว้ตลอด  โดยเฉพาะตอนขับรถ ซึ่งการลงทุนพวกนี้ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีนะคะ พอ ผิวดีจึงมีโอกาสได้ถ่ายโฆษณาแบรนด์สเนลไวท์ เป็นโฆษณาสั้นในช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีถ่ายแบบและรีวิวสินค้าบ้าง (ยิ้ม) แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ทางของอายเท่ากับการ ทำธุรกิจค่ะ 

“สำหรับเรื่องรูปร่าง อายเสพติดการออกกำลังกายมาก เพราะอยากรักษา หุ่นให้สวยงาม เมื่อก่อนกินอะไรก็ไม่อ้วน แต่ตอนนี้เริ่มมีอาการ (หัวเราะ) จึงพยายามออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เน้น การเล่นเวต แล้วพอออกกำลังกายมากๆก็เริ่มมีแพสชั่น ศึกษาลงลึกมากขึ้น ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากมีร่องสิบเอ็ด (ลอนกล้ามเนื้อหน้าท้อง) และหุ่นกระชับ ได้สัดส่วน โดยควบคู่กับการคุมอาหาร ตอนเช้ากินโปรตีนเชค (Protein Shakes) แทนข้าว จากนั้นข้ามมื้อกลางวันไปที่มื้อเย็นเลยค่ะ

“ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่อาจท้อกับการออกกำลังกาย อายเข้าใจเลยว่าตอน ออกกำลังกายจะรู้สึกเหนื่อยแทบแย่ แต่หลังจากนั้นจะรู้สึกดีมากๆ นะคะ และ นอกจากจะได้รูปร่างอย่างที่ต้องการแล้ว ผลพลอยได้ที่ดีมากคือไม่ป่วยเลย เพราะเห็นตัวเล็กๆแบบนี้ อายแข็งแรงมากค่ะ

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 987

ออกอากาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ ลายกินรี ผลงานละครฟอร์มยักษ์ย้อนยุคของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ผลิตโดย แอคอาร์ต เจเนเรชั่นกำกับโดย อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง โดยละครใช้เวลาถ่ายทำและผลิตหลายปีกว่าที่จะออกมาให้แฟนละครได้ชมกัน

โดยแค่เพียงเปิดฉากมาตอนแรกก็ทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ โดยเฉพาะบทของ ออกหลวงอินทราชภักดี  แสดงโดย  ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่ทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่าจะเรียกบทพระเอกดีหรือไม่ เพราะทั้งปากร้าย เจ้าอารมณ์ เจ้าบงการ ฯลฯ แต่แอดมินขอยืนยันว่านี่แหละพระเอกจริงๆ ! เพียงแต่ว่าตัวละครตัวนี้ก็มีชีวิตเบื้องหลังที่ยากลำบาก นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้

วันนี้แพรวจะพาทุกคนไปรู้จักตัวละครออกหลวงอินทราชภักดีให้ลึกอีกนิด ผ่านมุมของผู้ประพันธ์ พงศกร หรือ นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ และนักแสดง ณเดชน์ คูกิมิยะ

ณเดชน์ คูกิมิยะ กล่าวถึงตัวละครตัวนี้ว่า “ออกหลวงอินทราชภักดี เจ้ากรมกองกระเวนขวา รักแผ่นดินอโยธยา สำหรับบทบาทในละครเรื่องนี้ผมไม่เคยเล่นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น พีเรียด ออกหลวง ตำรวจวัง ซึ่งแค่นี้ผมมีความรู้สึกชอบและอยากที่จะลองค้นหาไปกับละครเรื่องนี้ดู”

“ส่วนตัวผมรู้สึกว่าทั้งรักและเกลียดตัวละครตัวนี้ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนเย็นชามาก และสงสัยว่าทำไมเขาถึงเป็นคนไม่เอาใครได้ขนาดนั้น บวกกับตัวผมเองในชีวิตไม่เคยเป็นคนแบบนั้นทำให้เราต้องหาเหตุผลของคนๆๆนี้ พอเล่นๆ ไปยิ่งรู้สึกสนุกขึ้น”

ขณะที่ผู้ประพันธ์ นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ ได้กล่าวถึงตัวละคร ออกหลวงอินทราชภักดี ผ่าน Facebook ว่า “ออกหลวงอินทราชภักดีเป็นข้าราชการในกรมพระตำรวจนอกขวาเป็นบุตรชายคนเดียวของ ออกญาวิไชยปราการ กับ คุณหญิงแสร์ โดยก่อนหน้าจะเจอกับพุดซ้อน ออกหลวงหนุ่มเคยแต่งงานแล้ว ภรรยาของเขาชื่อ แม่หญิงดวงจันทร์ ในปีที่เกิดการระบาดของโรคห่า แม่หญิงดวงจันทร์โชคร้าย ติดโรคและเสียชีวิตไป ตอนที่อาการของเธอทรุดหนักนั้น พ่ออินทร์พยายามทำทุกอย่างเพื่อยื้อชีวิตของแม่หญิงดวงจันทร์เอาไว้ เขารู้มาว่า หมอโหมด บิดาของพุดซ้อน เป็นหมอที่เก่งมาก ราวหมอเทวดา จึงเชิญให้หมอโหมดมาช่วยรักษาเมียของเขาแต่เพราะในเวลานั้นมีคนป่วยเยอะมาก หมอโหมดไม่สามารถช่วยได้ทุกคน เขาจำเป็นต้องช่วยคนที่มีโอกาสรอดมากกว่า ทำให้ไปช่วยแม่หญิงดวงจันทร์ช้าเกินไป ตอนที่หมอโหมดไปถึง อาการของเธอจึงเพียบหนักแล้ว”

“แม่หญิงดวงจันทร์จากไป พร้อมกับความเจ็บแค้นของออกหลวงหนุ่มเขาฝังใจมาตลอดว่าหมอโหมดไม่ยอมช่วยเมียของตนเมื่อวันหนึ่งมีโอกาสได้มาพบกับแม่หญิงพุดซ้อน ลูกสาวของหมอโหมดแถมยังต้องมาช่วยกันสืบคดีการตายของกัปตันชาวฝรั่งเศสออกหลวงอินทราชภักดีจึงรู้สึกทั้งรักทั้งแค้น”

“บทออกหลวงอินทราชภักดี เป็นบทที่มีมิติมาก มีอารมณ์อันหลากหลายอัดแน่นอยู่ข้างใน ภายใต้ท่าทีที่เยือกเย็นราวภูเขาน้ำแข็ง เขามีความร้อนรุ่มสุมอยู่ อยากจะรัก แต่ก็รักไม่ได้ อยากจะแก้แค้น แต่จะทำแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อแม่หญิงพุดซ้อนทั้งสวยงาม น่าทะนุถนอม แถมยังเป็นหมอที่ดี ช่วยเหลือคนป่วยไข้ได้ทุกข์หน้าที่ บ้านเมือง หัวใจ และความรักเป็นสิ่งที่เขาจะต้องเลือกและตัดสินใจ”