“The Florist Bar” แรงบันดาลใจที่เกิดจากรักและหลงไหลในการจัดดอกไม้สไตล์ตะวันตก กลิ่นไอของการเล่าเรื่องศิลปะชั้นสูง ทำให้เกิด Arrangement นี้ โดย คุณมุก-เอื้อการย์ อมรกิจวณิชย์ Founder ที่เริ่มต้นจากธุรกิจการทำแบรนด์ “Karrat” โดนัททองคำ 24K ซึ่งเป็นกระแสไปทั่วเมืองและโลกออนไลน์ โดยการเปิดงาน “Exclusive Moment of Floristy Workshop” ครั้งนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมยินดีมากมาย อาทิ ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช, ไอซ์ อามีนา, จินนี่ เขริกา, พลอยฝน เณอปัณฐ์, กีต้าร์ ปฏิญญา ณ ร้าน The Florist Bar สุขุมวิท49 (ใกล้โรงพยาบาลสมิติเวชสาขาสุขุมวิท)

The Florist Bar พาเปิดประสบการณ์ British Tailored Flower Arrangement & Wine Bar สู่ห้วงกลิ่นไอลักชัวรี่ Flower Therapy ที่แรกในประเทศไทย

การจัดดอกไม้ คือศาสตร์ของการผ่อนคลายจิตใจ ช่วยขลัดเกลา และดึงจิตวิญญาณความเป็นอาร์ติสด้านที่สวยงามของแต่ละคน ให้เป็นรูปเป็นร่าง จากดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่สื่อความหมายความลึกซึ้งในตัวบุปผาเหล่านั้น ด้วยบรรยากาศการ Arrangement ณ โซน Flower Therapy Space เสมือนพากลับไปยังยุคของเหล่าสุภาพสตรีสูงศักดิ์ ที่ขนมธรรมเนียมในอดีต การจัดดอกไม้ยังเป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์วิชาที่เรียนรู้เพื่อการเตรียมตัวก่อนเข้าสังคม กับภาพลักษณ์ของสตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถไม่ขาดตกบกพร่อง

“เราว่าการจัดดอกไม้มันเหมาะกับคนที่ต้องการผ่อนคลาย โดยใช้ศิลปะบำบัดมากๆ ซึ่งมุกตั้งใจไปเรียนจัดดอกไม้สไตล์ British ถึงอังกฤษ เลยอยากถ่ายทอดความรู้สึกกับประสบการณ์ที่ได้รับต่อๆ ไป จนเกิดไอเดียนี้ ที่ได้ทั้งเสพย์บรรยากาศแล้ว คนที่เข้ามาร่วมจัดดอกไม้ ก็อาจจะได้ค้นพบมุมใหม่ๆ หรือความเป็นศิลปินในตัวเองด้วย” นอกจากนี้ร้านยังตกแต่งสไตล์คลาสสิก ที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายแบบอังกฤษ  เน้นโทนสีขาว ดำ พร้อมเนรมิตมุม Flower Bar ที่เพิ่มดีเทลลอบล้อมด้วยดอกไม้หลากหลายสีเรียงร้อยในรอบๆ บาร์ ที่ให้บรรยากาศเสมือนนั่งจิบชาอยู่ท่ามกลาง แสงแดดอุ่นๆ และมีพื้นที่ Event Space สำหรับกิจกรรมเอนจอยไปกับชุดชา ของว่างทั้งของคาว และของหวาน ที่เป็นทั้ง Light Snack & Bakery ให้เลือกรับประทานแบบเบาๆ เสิร์ฟพร้อม ไวน์ กับ แชมเปญ ประเภทต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก มาให้เลือกตามเทสต์

และ ความชอบกว่า 20 รายการ และมีบริการ Flower Arrangement แนะนำและจัดดอกไม้ตามสั่งโดย Florist มืออาชีพ ที่มีดอกไม้ทั้งไทยและเทศให้เลือกสรรกว่า 40 ชนิด เพื่อส่งมอบแด่คนสำคัญของคุณอีกด้วย

โดยเริ่มต้นดอกไม้ชิ้นพิเศษของคุณที่ 990 บาท สามารถเลือกดอกไม้มาจัดเองได้ตาม A La Carte Flower Menu หรือ ตามแพ็คเกจที่ทางร้านคัดสรรไว้ และยังมีแพคเกจ Exclusive จัดดอกไม้พร้อมทาน Afternoon tea ในราคา 2,490 บาท เปิดจำนวนรอบละ 15 ท่านต่อรอบ แบ่งเป็น 2 รอบต่อวัน 13.00-14.30 น., 15.00-16.30 น.

The Florist Bar พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ที่ซอย สุขุมวิท 49 (ข้างโรงพยาบาลสมิติเวช) ทุกวัน 10.00-21.00 น. ติดตามรายละเอียดได้ที่ IG : @Floristbar.bkk หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 095-914-6644

เรียกว่าน้อยคนนักที่จะได้สัมผัสโหมดสวยเฉี่ยว ดุดันไม่เกรงใจใคร! ของนางเอกสาว “แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในความเร็วไม่แพ้แก๊งนักซิ่งอย่าง “แอริน-สิรีภรณ์ ยุกตะทัต”, “ญิ๋งญิ๋ง-ศรุชา เพชรโรจน์”, “แอนดรูว์-กรเศก โคนินทร์” และ “ปังปอนด์-อัครวุฒิ มังคลสุต” งานนี้เลยแท็กทีมกันมาร่วมงานเปิดตัว “Manthey Performance Kit” (มานทาย เพอร์ฟอร์มมานซ์ คิท) สำหรับปอร์เช่ 911 GT3 รุ่นปัจจุบัน ครั้งแรกในไทย! ชุดแต่งที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพการขับขี่ในสนามแข่งความเร็วสูง ในราคาเริ่มต้น 1.99 ลบ. ด้วยเวลาต่อรอบลดลงถึง 4.19 วินาที (พิสูจน์บนสนาม Nurburgring Nordschleife) โดยงานนี้จัดขึ้น ณ บริเวณชั้น 2 โชว์รูมและศูนย์บริการ Porsche Centre Bangkok โดย เอเอเอส เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ภายในงาน เปิดตัวด้วยไฮไลท์สุดพิเศษกับ ยนตรกรรมสปอร์ต “ปอร์เช่ 911 GT3” ที่ได้รับการติดตั้ง Manthey Performance Kit คันแรกในประเทศไทย พร้อมยกมาไว้ให้ยลโฉมและสัมผัสกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเป็นชุดแต่งที่เพิ่มสมรรถนะจาก Manthey ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่างวิศวกรของปอร์เช่ในโรงงาน Weissach และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบรถแข่งเพื่อลงสนาม Nordschleife จากสำนักแต่ง Manthey ในเมือง Meuspath และผลลัพธ์ที่ได้จากการติดตั้งชุดแต่งดังกล่าว สามารถทำเวลาจากการทดสอบวิ่งรอบสนาม Nürburgring Nordschleife ได้ในระยะเวลาเพียง 6:55.737 นาที ซึ่งเร็วกว่าปอร์เช่ 911 GT3 รุ่นมาตรฐานที่ไม่ได้ติดตั้งชุดแต่งถึง 4.19 วินาที งานนี้นอกจากจะเป็นการเปิดตัว Manthey Performance Kit แล้ว ยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ปอร์เช่ ประเทศไทย และเป็นโอกาสพิเศษที่ทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Manthey Racing Certified อย่างเป็นทางการ อีกด้วย

แอฟ เผยว่า “ส่วนตัวแอฟก็ชื่นชอบในเรื่องรถ และชุดแต่งรถอยู่แล้ว อาจจะด้วยเพราะอยู่กับคุณพ่อเยอะก็เลยซึมซับมาตั้งแต่เด็กด้วย อย่าง ปอร์เช่ 911 ก็น่าจะเป็นตัวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด ด้วยความคลาสสิคมันอยู่ได้ตลอด ในเรื่องของชุดแต่งรถสำหรับแอฟ มันอาจจะไม่จำเป็นแต่มันมีความหมาย เพราะมันสามารถบ่งบอกความเป็นเราได้ชัดเจนที่สุดในสิ่งที่เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ต่างๆ ความสวยงาม ความปลอดภัย การตอบโจทย์ในการใช้งาน คือต้องตอบโจทย์เราได้ทุกข้อจริงๆ มันจะมีข้อไหนบกพร่องไปไม่ได้เลย”

แอริน เผย “ตอนนี้ไม่เน้นซิ่ง เน้นซอฟแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่รักเรื่องความเร็วอยู่ ทุกคนอาจจะคิดว่าการแข่งรถเป็นกีฬาที่ผาดโผน แต่สำหรับแอมันคือการฝึกสมาธิอย่างนึง เพราะมันต้องคุ้มว่าโค้งนี้เข้าช้าออกเร็ว คุมรอบรถอะไรต่างๆ มันมีอะไรมากกว่าแค่ขับเร็วอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนว่าการแข่งต้องมาคู่กับ ชุดแต่งมันสำคัญมากๆ มันไม่ได้แต่งเพิ่มให้ดูเท่ หรู โก้ อย่างเดียว แต่มันเพิ่มความปลอดภัยและ Performance ในการขับขี่ที่ดีขึ้นด้วย”

ด้าน แอนดรูว์ เสริม “ขึ้นชื่อว่าปอร์เช่ ก็คือตำนานที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนอะไรเค้าได้จริงๆ ถึงแม้วิวัฒนาการมันจะไกลแค่ไหน ผมก็ยังชอบรถที่เป็นเครื่องยนต์วางกลางอยู่ดี ผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ แต่ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นสายประโคม ดังนั้นอะไรออกมาใหม่ผมเปลี่ยนเลย ซึ่งผมว่าแต่ละคนมีสไตล์การขับที่แตกต่างกัน การที่เรามีชุดแต่งเข้ามาเสริม นอกจากจะเพิ่มในเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ชัดขึ้นด้วย”

ของมันต้องมี.. สาวกปอร์เช่ 911 GT3 ห้ามพลาด! สัมผัสชุดแต่งรถเพิ่มสมรรถนะจาก Manthey ได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ใ

Maa-Lai Library และ CRAFT เสิร์ฟช็อคโกแลตที่สร้างสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเอเชียโดย
Janice Wong Pure Imagination

โรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ  ร่วมมือกับเชฟและศิลปินมากผีมือชาวสิงคโปร์ Janice Wong เพื่อเฉลิมฉลอง “วันช็อคโกแลตโลก” นำเสนอช็อคโกแลตบอนบอนซิกเนเจอร์ขนาดพอดีคำฝีมือการสร้างสรรค์ที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชีย ได้แก่ Kaffir Lime Caramel ที่มีความเปรี้ยวนิด ๆ เพิ่มความสดชื่น ด้วยมะกรูด ตัดกับรสชาติหวานหอมของคาราเมล Praline Pop Rocks ที่กรุบกรอบและกลอมกล่อม Salted Pecan ที่มีทั้งความหวานและเค็มลงตัวอร่อยเกินห้ามใจ ตั้งแต่วันนี้ถึง-31 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไปปวันพุธถึงอาทิตย์ ตั้งเวลา 13.00 น. ถึง 17.00 น. สำรองที่นั่ง โทร.02 056 9999 อีเมล [email protected] หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kimptonmaalaibangkok.com  (ราคาทั้งหมดยังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษี 7%)

โรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ร่วมมือกับเชฟและศิลปิน Janice Wong นำเสนอช็อคโกแลตหอมหวานสุดสร้างสรรค์ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้

การ์นิเย่ (Garnier) แบรนด์สกินแคร์ชั้นนำระดับโลกด้านความงามที่เป็นธรรมชาติ ส่วนหนึ่งของลอรีอัล กรุ๊ป ที่ต้องการขับเคลื่อนความงามเพื่อโลก เดินหน้าสนับสนุนเทรนด์บิวตี้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกับก้าวใหม่ของแคมเปญ Garnier Green Beauty #สวยใส่ใจโลก จัดกิจกรรม “การ์นิเย่กรีนกันทุกวันพุธ” เชิญชวนให้ทุกคนออกมาเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทุกคนยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือโลกใบนี้ เริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หรือในทุกๆ วันพุธ พร้อมลุ้นรับของรางวัลและส่วนลดสุดพิเศษมากมายจากแบรนด์ตลอดแคมเปญ

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่การ์นิเย่ได้เล็งเห็นในความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรม Green Beauty มาโดยตลอดและได้ทำการสำรวจจากกลุ่มผู้บริโภคจำนวน 20,000 คน ใน 9 ประเทศ พบว่ามีคนถึง 79% ที่ต้องการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่มีเพียงแค่ 4% เท่านั้นที่สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันเพื่อปกป้องโลกของเรา หลายคนกล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่ดูยุ่งยากและราคาแพง สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้การ์นิเย่คิดค้นแคมเปญด้าน Green Beauty มากมาย เพื่อทำให้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเข้าใจได้ง่ายขึ้นและต่อยอดทุกความสวยสู่นิยามใหม่ “สวยใส่ใจโลก” ที่เราเชื่อว่าทุกคนสามารถใส่ใจตัวเองและโลกไปพร้อมกันได้ พร้อมสานต่อคำมั่นสัญญา Green Beauty 5 ข้อ ได้แก่ การจัดซื้อวัตถุดิบที่สนับสนุนชุมชน, พัฒนาสูตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลได้, ใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต และไม่ทดสอบผลิตภัณฑ์กับสัตว์มาตั้งแต่ปี 1989 และภายในปี 2025 การ์นิเย่มีเป้าหมายทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกของเรารีไซเคิลได้ 100% และย่อยสลายได้ เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ Micellar ที่ผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิล และสามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตที่ใส่ใจโลกได้มากขึ้น

คุณสุมิตา อัครโรจน์กิจ Garnier Brand General Manager กล่าวว่า “การ์นิเย่เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยจำนวนมาก และเราผลักดันให้ลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น อย่างการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดพลาสติกที่ไม่จำเป็น และรณรงค์ให้เกิดการรีไซเคิลขยะพลาสติกเพื่อนำกลับมาหมุนเวียนเป็นพลาสติกตั้งต้น ลดพลาสติกเกิดใหม่ โดยปี 2023 นี้ การ์นิเย่ ตั้งเป้าหมายที่จะเก็บขยะพลาสติกให้ได้ถึง 240 ตัน และนำไปเข้าสู่ระบบการจัดการขยะรีไซเคิล ผ่านกิจกรรมที่ง่ายและสามารถทำได้ตลอดจนเกิดเป็นที่มาของ ‘การ์นิเย่กรีนกันทุกวันพุธ’ นอกจากจะเป็นการก้าวสู่อีกขั้นของแบรนด์รักษ์โลก การ์นิเย่ยังตระหนักถึงเรื่องของความยั่งยืน และต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสออกมามีส่วนร่วมกับโลกใบนี้ ทุกคนสามารถใส่ใจดูแลตัวเอง ไปพร้อมกับการใส่ใจโลกให้ยั่งยืนได้”

Garnier ชวนทุกคนสวยใส่ใจโลกไปด้วยกัน เปิดตัวแคมเปญใหม่! “การ์นิเย่กรีนกันทุกวันพุธ” ตั้งเป้ากำจัดขยะพลาสติกให้ได้ถึง 240 ตัน อีกก้าวสำคัญของการเป็นแบรนด์ Green Beauty

อีกก้าวสำคัญที่การ์นิเย่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดขยะพลาสติก โดยร่วมมือกับศูนย์การค้าโลตัส และ Cirplas Zero Waste Hero ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการขยะพลาสติก เพียงนำขวด Micellar ที่ใช้แล้วหรือขวดน้ำพลาสติกไปส่งคืนที่จุดรีไซเคิลที่โลตัส 10 สาขา และ จุดรับขยะของ Cirplas กว่า 60 จุดทั่วประเทศ เริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรือในทุกๆ วันพุธ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงจุดรีไซเคิลได้อย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่ 5 กรกฎาคม ยาวไปตลอดจนถึงสิ้นปี 2023 พร้อมตอบรับกับกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจและได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยลูกค้าที่นำขวดพลาสติกมารีไซเคิล จะได้รับแต้มคะแนนสะสม Green Beauty Points โดย 1 ขวด Micellar จะมีคะแนนเท่ากับ 10 Points และขวดพลาสติกจะมีคะแนนเท่ากับ 1 Point ผู้ที่ร่วมกิจกรรมนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบแล้วยังนำคะแนนมาแลกของรางวัลกับการ์นิเย่ได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากการ์นิเย่ คูปองส่วนลดจากโลตัส และรางวัลใหญ่อีกมากมายอย่างไอแพด และ ทองคำ ผ่าน Line Official @GarnierThailand ขยะที่รวบรวมมาจะถูกนำไปจัดการโดย CirPlas ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการขยะพลาสติก เพื่อส่งเสริมการจัดการขยะต้นทาง ลดการเกิดของพลาสติกใหม่ โดยพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลทั้งหมด จะถูกนำไปพัฒนาต่อในรูปแบบของผ้า และ วัสดุในการผลิตเครื่องใช้ต่างๆ ต่อไป

การ์นิเย่เชิญชวนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการลดขยะ และเปลี่ยนแปลงโลกไปด้วยกัน ผ่านกิจกรรม “การ์นิเย่กรีนกันทุกวันพุธ” ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในงานตกแต่งด้วยวัสดุที่สามารถนำไปใช้ต่อได้ โดยเราพยายามจะสร้างขยะเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด เพื่อเน้นสร้างความตระหนักถึงความยั่งยืนเพื่อที่จะทำให้ทุกคนหันมาสนใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น มาพร้อมมิชชั่นรักษ์โลก นำโดย ‘อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม’ พรีเซนเตอร์ของการ์นิเย่ ขนทัพพิธีกรและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ให้ความสนใจในการรักษ์โลกเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ชวนคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้ทุกคนดูแลตัวเองและดูแลโลกไปพร้อมๆ กัน โดยการนำขวด Micellar หรือ ขวดน้ำพลาสติก PET แบบใดก็ได้มาทิ้งหน้างานตรงจุด Drop Point เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วย รีไซเคิลและลดจำนวนขยะพลาสติกได้ พร้อมเป็นสายสวยเซฟโลก และพบกับบ้าน House of Green Beauty โซนจัดแสดง 5 คำมั่นสัญญาของการ์นิเย่ที่บอกเล่าเรื่องราวและความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นแบรนด์บิวตี้รักษ์โลกที่ทั้งสนุกและเข้าใจง่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงาน

การ์นิเย่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามชั้นนำที่ส่งมอบประสิทธิภาพสูง มาพร้อมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ร่วมขับเคลื่อนโลกที่ดีกว่าเดิม ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://www.garnier.co.th และช่องทาง Facebook : https://www.facebook.com/Garnier.Thailand และทาง Line Official : @GarnierThailand

คอนเสิร์ตจบแต่ความสนุกยังติดอยู่ในอก ยกออกไม่ได้ ประทับใจในความ เกินคิ้ม เกินคาด เกินคุ้มม๊าก!! เตือนแล้วนะเล็กๆไม่ ถ้าเล่นใหญ่ต้องยกให้ดีกว่าตัวแม่นัมเบอร์วัน เจนนิเฟอร์ คิ้ม กับปรากฏการณ์ ครั้งที่ 7 “เกินคิ้ม คอนเสิร์ต” ขนทุกนิยามมาเติมความเกินลงไปใหม่ ให้เกินเยอะ เกินใหญ่ เกินอึ้ง เกินเริ่ด เกินอะไรเบอร์นี้ แบบเกินในเกิน ทั้งแขกรับเชิญที่เกินคาด ฟาดกันด้วยเพลงและฝีปาก ตามมาด้วยเพลงดังที่ร้องได้ทุกรุ่น การันตีความสนุกโดย WORLD ARTISTS (เวิลด์ อาร์ทิส) ที่มี “พี่ณณ” ณัฐฏ์ฐพัฒฑุ์ ฉันทะนิธิ กรรมการผู้จัดการ ควบตำแหน่งโชว์ ไดเรกเตอร์ จัดเต็ม แสง สี เสียง โปรดักชั่น ยิ่งใหญ่ อลังการ สมศักดิ์ศรีตัวแม่ แถมรวม Music Director ตัวพ่ออย่าง หนึ่ง อภิวัฒน์, โซ่ แมนลักษณ์ และ บี โสตถินันท์ จากวง ETC สำหรับความขลังของ Symphony Orchestra ได้ Frank Herrgott (ฟร้องค์ แฮร์ก็อต) นักเปียโนชาวฝรั่งเศส และ  อ.จิ๊บ วิชชุเดช  เนตรสิน  มือเบสผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงร่วมสร้างสรรค์ เมื่อเหล่าเทพรวมตัวกันขนาดนี้ ไม่มีคำว่าแผ่วแน่นอน

“เจนนิเฟอร์ คิ้ม” สร้างปรากฏการณ์ครั้งที่ 7 แซ่บถึงใจ ใครก็ต้านไม่อยู่ โชว์พลังเสียงซะลูกหลานเอามือทาบอก จดจำดีว่าตัวแม่ “เกินคิ้ม Concert” เกินคาด เกินคุ้ม แขกรับเชิญล้นเวที แสง สี เสียง โปรดักชั่น สุดอลัง ปังเวอร์

แค่ซีนเปิดตัวก็เล่นใหญ่ให้แฟนคลับใน อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี หวิดหัวใจวาย ที่เห็น เจนนิเฟอร์ คิ้ม ควงไมค์ร่ายมนต์เพลง คาถาขุนแผน นะหน้าทอง บนกระเช้าสูงเกือบติดเพดาน มีเพียงสลิงเส้นบางยึดเกาะ แต่เสียงนางยังไพเราะไม่แกว่งและขาไม่สั่นนะ เริ่ดแค่ไหน คิดดู๊! ร่ายมนต์เสร็จก็ร่ำเพลง “สหายสุรา” คู่กับแขกรับเชิญคนแรก จ๊ะ นงผณี ลูกทุ่งสาวเกินเผ็ด เด็ดทุกช็อตทั้งเสียงร้องและท่าแดนซ์ จ๊ะ ขอจัดเต็มด้วยเพลงเดี่ยว คอแห้ง ให้แฟนเพลงได้โยกกันพอเหงื่อซึมหน้า

กลับสู่โหมดเพลงรักกับเมดเล่ย์เพลงดังของ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ศิลปินที่ คิ้ม รักจัดมาเต็ม 5 เพลงรวด ต้องโทษดาว กลับไม่ได้ไปไม่ถึง ก็เลิกกันแล้ว ถ่านไฟเก่า คนไม่มีแฟน แหม!คนวัยมันส์ร้องตามกันลั่นฮอลล์ทีเดียว ต่อด้วยเมดเล่ย์เพลงฮิตจี๊ดใจวัยรุ่นยุค 90 อย่าง หัวใจสลาย ที่ได้ดีว่าตัวแม่รุ่นน้อง ปาน ธนพร แวกประยูร ร่วมโชว์พลังเสียงต่อด้วย พิษรัก สิ่งสุดท้าย เทพธิดาดอย ก่อนต้อนรับแขกรับเชิญคนที่ 3 ที่แค่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด สวยสง่ามาในชุดราตรีหางปลา ยีผมฟาร่า แต่งหน้าฉ่ำ ร่วมร้องเพลง เกลียดคนสวย ต่อด้วย สุดฤทธิ์สุดเดช สะบัดแดนซ์จัดหนัก สมฉายา สาวใหญ่ เกินลีลา ส่วนมุกนั้นฮากระจาย กรี๊ดกันลั่นฮอลล์​

ความสนุกยังคงดำเนินไปอย่างไม่มีสะดุด คิ้ม เปลี่ยนชุดออกมาโชว์เพลงดังร่วมสมัยอย่าง Hello Mama สลักจิต โต๊ะริม ถ้าเราเจอกันอีก ความเป็นดีว่า ต้องยอมรับว่าสะกดผู้ชมชนิดฟังไปขนลุกไป ไพเราะเกิ๊นนนน ผสานกับโปรดักชั่น แสง สี เสียงล้ำสมัยไม่ซ้ำกันซักซีน คนดูคุ้มสุดๆ ยิ่งเข้าสู่โซนเพลงร็อค ทิ้งรักลงแม่น้ำ เลิกรา 100 เหตุผล เคยรักฉันบ้างไหม กระแทกใจทุกดอกจ้ะแม่! ก่อนปล่อยให้สาวๆกรี๊ดรับร็อคพ่อลูกอ่อน ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หยิบเพลงรักของ คิ้ม  “คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว” มาสะกดคนฟังด้วยความหล่อและเสียงร็อค ละมุนของพี่ตูน ต่อด้วยเพลงคู่ อกหัก ของ คิ้ม-ตูน ตามด้วยสามพลังเสียงอันยิ่งใหญ่ในเพลง ความเชื่อ คิ้ม-ตูน เปิดตัวแจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก มาร่วมบวกพลังความแรงขึ่นไปอีก ก่อนคิ้มจะส่งเวทีให้ ตูน-แจ๊ส ขยี้เพลงยาพิษ ให้สั่นสะเทือนไปทั้งอิมแพ็คอารีน่า สร้างความประทับใจกับครั้งแรกกับการดวลไมค์ด้วยกันของศิลปินคุณภาพ เพลงก็เพราะแถมสาดมุกสะเทือนไปอีก บอกได้คำเดียวว่าคุ้มมาก แจ๊ส ขอโชว์เพลงรัก หมอกหรือควัน และ ไม่อยู่ในชีวิตแต่อยู่ในหัวใจ ขอมอบเพลงนี้ให้คนบนฟ้า “คุณพ่ออุดม ทรงแสง” ความคิดถึงพ่อทำให้ แจ๊ส ร้องเพลงนี้ทั้งน้ำตา ทำเอาคนดูน้ำตาซึมตามกันทั้งฮอลล์

ผ่านช่วงซึ้งกลับมาซ่ากันต่อกับเมดเล่ย์เพลงแดนซ์ พลิกล็อค พูดอีกที  Music Lover ผีเสื้อราตรี และ OK บนเวทีร้องเต้นกันสุดมันส์ คนดูด้านล่างไม่น้อยหน้า ลุกขึ้นสะบัดขาชนิดไม่แคร์ข้อเข่า ต่อความสนุกด้วยเมดเล่ย์รถแห่กับแก็งค์แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ เอม ตามใจตุ๊ด (วิทวัส รัตนบุญบารมี) โชว์เพลง ธาตุทองซาวด์  ก่อนส่งเวทีให้ ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ควงคู่ซี้ ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ ในเพลง มาทำไม หมากัด สัญญาเดือนหก รักคุณยิ่งกว่าใคร และ มาทำไม ที่ได้ คิ้ม โดดแจม มันส์เหงื่อหยด ต้องสะกิดขอยาดมคนข้างๆ เพราะเกินจะหายใจทัน

ปิดท้ายคอนเสิร์ตกับ 3 เพลงดังที่สร้างชื่อให้ เจนนิเฟอร์ คิ้ม  อย่าง สายลม ไม่ยอมหมดหวัง และ คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว โดยมี “โก้ มิสเตอร์แซกแมน โผล่เซอร์ไพรซ์กลางเวที ทำเอาคิ้มตกอกตกใจ ส่งท้ายปรากฏการณ์คอนเสิร์ตครั้งที่ 7 คอนเสิร์ตที่ คิ้ม ลั่นวาจาว่าจัดหนักเหมือนเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ซึ่งต้องยอมรับจริงอย่างที่กล่าวไว้ ใส่พลังสุดซะลูกหลานต้องเอามือทาบอกและจดจำตัวแม่ เจนนิเฟอร์ คิ้ม บนเวทีคุณภาพ “เกินคิ้ม คอนเสิร์ต” ครั้งนี้ไปอีกนานแสนนาน