แสนสิริ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่เผยโฉม NARASIRI PHAHOL
-WATCHARAPOL (นาราสิริ พหลฯ-วัชรพล) โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ 2 ชั้น อันทรงคุณค่าของการอยู่อาศัย หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection มูลค่าโครงการรวม 5,300 ล้านบาท รังสรรค์อย่างประณีตงดงามใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสนิยม ภายใต้แนวคิด “A Matter of Refinement งดงามในรายละเอียด” พร้อมส่งต่อคุณค่าเหนือกาลเวลาไร้ที่สิ้นสุดบนที่ตั้งทำเลที่ดีที่สุดในย่านพหลโยธิน-วัชรพล เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์และความสะดวกสบายอันเหนือระดับกับบ้านใน 4 รูปแบบ แรงบันดาลใจจากประเทศฝรั่งเศสกับสไตล์ Modern French Renaissance พื้นที่ใช้สอย 347 – 658 ตร.ม. ประกอบด้วย 4–5 ห้องนอน และ Double Parking ที่รองรับการจอดรถได้มากถึง 2 เท่า พร้อมส่วนกลางขนาดกว่า 6 ไร่ สำหรับเพียง 125 ครอบครัว ระดับราคา 35-90 ล้านบาท

คุณศรีอำไพ รัตนมยูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเดินทางของแรงบันดาลใจกว่าจะมาเป็นโครงการ NARASIRI PHAHOL-WATCHARAPOL ในวันนี้ว่า “ในฐานะเป็น Taste-Maker brand แสนสิริ เราลงลึกในทุกรายละเอียด เพื่อมุ่งมั่นรังสรรค์รสนิยมและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern French Renaissance ถ่ายทอดผ่านรสนิยมและ ไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด แสนสิริ คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อ ตอบโจทย์รสนิยมสูงสุด ดังจะเห็นได้จากงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นถอดแบบในทุกรายละเอียดในทุกพื้นที่ของโครงการ ตามปรัชญาของแสนสิริ ที่มุ่งมั่นส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าในแบรนด์และคุณภาพแสนสิริกับประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 39 ปี ตลอดจนบริการหลังการขายที่สร้าง Value Added มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น”

NARASIRI PHAHOL-WATCHARAPOL โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ 2 ชั้น มูลค่า 5,300 ลบ. ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยรสนิยมอันสมบูรณ์แบบ สำหรับ 125 ครอบครัว บนพื้นที่ 75ไร่ บนทำเลไพร์มที่ดีที่สุดของย่านพหลโยธิน-วัชรพล กับ 4 รูปแบบบ้าน ที่มาพร้อมกับ ที่จอดรถในรูปแบบ Double parking รอบรับการจอดรถได้มากถึง 2 เท่า ได้แก่ Manoir No.6 ขนาด 658 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน, Manoir No.5 ขนาด 524 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้า และที่จอดรถ 4 คัน, Manoir No.4 ขนาด 412 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน และ Manoir No.3 ขนาด 347 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ ที่จอดรถ 3 คัน

แสนสิริ เผยโฉม “NARASIRI PHAHOL-WATCHARAPOL” แรงบันดาลใจจากความงดงามยุครุ่งเรืองของฝรั่งเศส Modern French Renaissance หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection

นิยามใหม่ของบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่กับสไตล์ Modern French Renaissance ถ่ายทอดแรงบันดาลใจ
การออกแบบจากความงดงามยุครุ่งเรืองของฝรั่งเศส ในทุกๆรายละเอียดที่ผสานระหว่างความคลาสสิกและโมเดิร์นในยุคสมัยใหม่ ตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบงานสถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาสของฝรั่งเศส ตลอดจนการตั้งชื่อ แลนด์มาร์คสำคัญในโครงการ ได้แก่ผังโครงการ ออกแบบให้สอดคล้องกับผังเมืองกรุงปารีส สถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่บริเวณทางเข้าโครงการออกแบบให้มีความสง่างาม ประติมากรรมสิงโตมีปีก (Lelion De Victoire) ที่สื่อถึงความก้าวหน้าในด้านธุรกิจและความเจริญรุ่งเรือง Mini Maison (มินิ เมซง) หรือล็อบบี้ เลาจน์ พื้นที่นัดพบทางธุรกิจสำคัญโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในโครงการ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางขนาดกว่า 6 ไร่ แรงบันดาลใจการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์จากพระราชวังแวร์ซาย อาทิ การจัดสวนแบบปาร์แต (Parterre) ที่เน้นการใช้ไม้ตัดแต่งเป็นลวดลายอ่อนช้อยและสมมาตร และสวนสาธารณะตุยเลอรี (Jardin des Tuileries) ในกรุงปารีส แนวต้นไม้ที่ปลูกขนานกันสองฝั่งที่จำลองมาจากถนนฌ็องเซลิเซ่
(Champs-Élysées) ตลอดจนประติมากรรมงานฝีมือชั้นยอดซึ่งนำเข้าจากยุโรป อาทิ รูปปั้นน้ำพุ กระถางต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ในสวน

สำหรับสวนส่วนกลางโดดเด่นด้วย พาวิลเลียนทรงกลาสเฮาส์ ทำจากเหล็กดัดงานคราฟท์ แรงบันดาลใจจากหอไอเฟล Le Club คลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ในตำแหน่งที่สวยที่สุดของโครงการ ท่ามกลางทะเลสาบ สวนส่วนกลาง แรงบันดาลใจจากพระราชวังแวร์ซาย อาทิ หลังคาทรงกลาสเฮ้าส์ ภายในตกแต่อย่างในแบบฉบับของฝรั่งเศส อาทิ ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับการประชุมหรือติดต่อทางธุรกิจ และสระว่ายน้ำขนาด 10×25 เมตร พร้อมสระเด็ก และ GYM สำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่น และสนามบาสเก็ตบอล สำหรับทุกวัยของครอบครัวได้สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มที่

ขณะที่การออกแบบตัวบ้าน เลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นยอดและการออกแบบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสนิยม ผ่านเรื่องราวความสมบูรณ์แบบของความงามในสไตล์ของ Modern French Renaissance ที่นำจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนในกรุงปารีสในช่วงยุครุ่งเรือง สถาปัตยกรรมภายนอกบ้านโดดเด่นด้วย Façade  ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยประตูไม้บานใหญ่ทรงอาร์ช ภายในบ้านเพิ่มการตกแต่งภายในโดยใช้องค์ประกอบที่มีความ Over Scale เช่น Grand Stair กลางบ้านขนาดใหญ่ โถงภายในบ้านสูงถึง 7.20 เมตร ตลอดจนการตั้งชื่อบ้านตามแบบฉบับของประเทศฝรั่งเศส

ปัจจุบัน พอร์ตโฟลิโอโครงการภายใต้ Sansiri Luxury Collection มีมูลค่ารวมกว่า 35,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 8 โครงการ ได้แก่ 98Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม บ้านแสนสิริ พัฒนาการ แฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ย่านพัฒนาการ NARASIRI KRUNGTHEP KREETHA (นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา) โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่บนกรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ The Best Location ในย่านกรุงเทพกรีฑา บูก้าน โยธินพัฒนา (BuGaan Yothinpattana) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสสิเดนท์ 14 ยูนิต บูก้าน กรุงเทพกรีฑา (BuGaan Krungthep Kreetha) เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสสิเดนท์ 48 ยูนิต เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ใจกลางทองหล่อ คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by YOO inspired by Starck) ภายใต้ร่วมทุนกับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ 1st Design-Branded Residence หนึ่งเดียวในไทย และล่าสุดกับ NARASIRI PHAHOL WATCHARAPOL (นาราสิริ พหลฯ-วัชรพล)

สัมผัสรสนิยมแห่งการอยู่อาศัย NARASIRI PHAHOL-WATCHARAPOL

ระดับราคา 35-90 ล้านบาท แรงบันดาลจาก Modern French Renaissance 19-20 สิงหาคม นี้

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก : http://siri.ly/aI5Sqd6

Technogym ประเทศไทย ตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งด้านอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายระดับโลก เปิดตัว Technogym Run ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก ผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Power ในเครื่องเดียว พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ตอบโจทย์การออกกำลังกายที่หลากหลายมากขึ้น  

นายสุรเชษฐ์ อมรรัตนเวช กรรมการบริหาร Technogym ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน Technogym เป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะแบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายชั้นนำระดับโลก ที่ผสมผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการออกกำลังกายและสุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมด้วยการออกแบบสไตล์อิตาลี คุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์ และความสะดวกในการใช้งาน โดยมีความมุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์และนวัตกรรมการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้งจะมุ่งตอบโจทย์ลูกค้า แต่ละเซ็กเมนต์ที่มีความต้องการแตกต่างกัน ล่าสุดได้เปิดตัว “Technogym Run” ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการ มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก สามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น โดยรวบรวมการออกกำลังกายตั้งแต่การวิ่ง พาวเวอร์เทรนนิ่ง การฝึก Bootcamp ไว้ในลู่วิ่งเครื่องเดียว ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเทรนด์ของตลาดที่หลากหลายมากขึ้น

Technogym เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารับเทรนด์สุขภาพแรง ชูกลยุทธ์ Tailor-made solutions มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะบุคคล เปิดตัว “Technogym Run” นวัตกรรมลู่วิ่งไฟฟ้า ตอบสนองการออกกำลังกายที่หลากหลาย

 จุดแข็งของ Technogym คือการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้านอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายระดับโลกจากประเทศอิตาลี ทั้งยังเป็น Trends Setter ของวงการอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกาย หรือ ผู้นำเทรนด์ตลาดให้อยู่ในกระแสเสมอ โดยปัจจุบัน Technogym เป็นแบรนด์ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายหลากหลายที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม มาพร้อมกับหน้าจอคอนโซล TECHNOGYM LIVE ที่อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การฝึกการออกกำลังกายตามเป้าหมาย และทำให้เครื่องออกกำลังของ Technogym เพียงหนึ่งเครื่องสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น 

 “นักวิ่งแต่ละคนต่างมีเป้าหมายและความต้องการแตกต่างกัน ทั้งวิ่งเพื่อต้องการจะรักษาความฟิต เพื่อการลดน้ำหนัก เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น หรือ ภายในหนึ่งครอบครัวที่มีผู้ใช้งานตามจุดประสงค์ที่ต่างกัน เช่นผู้ฝึกวิ่งในระยะเริ่มต้นไปจนถึงนักวิ่งที่ฝึกซ้อมเพื่อการแข่งมาราธอนและไตรกีฬา จึงจำเป็นต้องมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกคนได้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว 

 ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของ Technogym แบ่งเป็นกลุ่ม B2B คือ โรงแรม, ที่อยู่อาศัย คอนโด หมู่บ้านจัดสรร, โรงพยาบาลและ Wellness Center, บริษัท สำนักงาน, สถานศึกษา, และฟิตเนส และกลุ่ม B2C คือลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายใช้ในบ้าน ซึ่งที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น

 “ลูกค้ากลุ่ม end-user หลายคนปรับพื้นที่ภายในบ้านให้สามารถวางอุปกรณ์ออกกำลังกายได้จนไปถึงการเปลี่ยนห้องที่ไม่ได้ใช้งานให้เป็น Home gym ทำให้ตลาดในกลุ่มของผู้ใช้งานส่วนตัวที่บ้านเติบโตอย่างมาก ในส่วนกลุ่ม B2B ธุรกิจต่างๆ ก็ปรับตัวให้สอดรับกับ Wellness trends มากขึ้น เช่น โรงแรมหรือคอนโดจะมีฟิตเนสมากกว่า 1 ที่ เพื่อให้แขกเข้าถึงการออกกำลังกายง่ายขึ้น โดยอาจมี Fitness studio ขนาดเล็กให้แขกสามารถจองไปใช้งานแบบส่วนตัว หรือใช้ในการจัดคลาสออกกำลังกายกับเพื่อนเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือในส่วนธุรกิจฟิตเนสเองก็มีการออกแบบโปรแกรมที่ personalized ให้กับ member มากขึ้น” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

 สำหรับกลยุทธ์การเติบโตของ Technogym มุ่งให้ความสำคัญทั้งในแง่การดูแล และประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ ทั้งลูกค้าปัจจุบันและการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ผ่านกลยุทธ์ Tailor-made เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้ามากที่สุด ในส่วนกลุ่มลูกค้าปัจุบัน ทางแบรนด์จะมีการดูแลประสบการณ์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อลูกค้าต้องการเลือกซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายเพิ่มเติม Technogym จะเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงด้วยคุณภาพและการบริการที่ตอบโจทย์ของลูกค้า ส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ จากเทรนด์การดูแลสุขภาพที่มาแรงต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มลูกค้าทั้ง end-user และธุรกิจต่างๆ เห็นถึงความสำคัญของการมีโซนสำหรับการออกกำลังกายมากขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น  

 “เราพบว่าผู้ใช้งานมีความต้องการที่ personalized มากขึ้น และต้องการเห็นผลลัพท์ของการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง รวมไปถึงความหลากหลายของการออกกำลังกาย ดังนั้นอุปกรณ์ออกกำลังกายต้องสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ Technogym เข้าใจและเห็นถึงความสำคัญในส่วนนี้จึงออกแบบอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์การออกกำลังกายแบบ personalized การแสดงผลลัพท์การออกกำลังกาย รวมไปถึง  wellness on the go หรือการเข้าถึงการออกกำลังกายได้ทุกที่ทุกเวลา” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

 ปัจจุบัน Technogym ในประเทศไทยมี 2 สาขา ที่เอกมัยและเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยมี 2 รูปแบบคือ Experience Center และ Boutique สำหรับสาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซีจะเป็น Boutique ที่มีการตกแต่งที่สวยงาม เน้นตอบโจทย์ลูกค้า B2C โดยวางไอเท็มหลักที่ลูกค้ามักเลือกไว้ใน Home gym ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ขณะที่สาขาเอกมัยจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Boutique และ Experience Center เข้าด้วยกัน ตอบโจทย์ทั้งลูกค้า B2B และ B2C โดยจำลองประสบการณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจากการออกกำลังกายในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ฟิตเนส, Wellness Center, Sport club ให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้เครื่องได้อย่างเต็มที่ โดยต้นปี 2567 มีแผนเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Boutique และ Experience Center ไว้ในที่เดียว

 สำหรับ Technogym Run คือลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ที่เกิดจากประสบการณ์ในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการออกกำลังกายมามากกว่า 30 ปี ของ Technogym ทำให้ Technogym Run เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน รวมการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่การวิ่ง พาวเวอร์เทรนนิ่ง และการฝึก Bootcamp ไว้ในลู่วิ่งเครื่องเดียว

 หน้าจอคอนโซล Technogym Live ขนาด 27 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกประสบการณ์การวิ่งที่ต้องการได้จากโปรแกรมและโหมดการฝึกที่หลากหลาย ได้แก่ cardio, strength หรือ high-intensity จากโปรแกรมออกกำลังกายบน Technogym Live ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ อย่างเช่น Trainer-led Sessions, Routines ที่ปรับการออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย และ Virtual Outdoor ที่จำลองการออกกำลังกายแบบเสมือนจริง สามารถปรับความเร็วและความชันได้ตามเส้นทางที่ผู้ใช้งานเลือก

 นอกจากนี้ Technogym Live ยังมีตัวเลือกความบันเทิงไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, YouTube, TV, โซเชียลมีเดีย และอีกมากมาย ยังรวมไปถึงการฝึก Bootcamp ที่ตัวคอนโซลยังมีโปรแกรมสำหรับออกกำลังกายที่สามารถใช้งานร่วมกับ Technogym Bench เพื่อผลลัพธ์การออกกำลังกายที่ดีที่สุด

บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์ระดับประเทศมากว่า     4 ทศวรรษ ร่วมกับ“ปอม–ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง” หรือ “Pomme Chan” ศิลปินนักวาดภาพชื่อดัง ร่วมสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์พิเศษในคอลเลกชัน “COUPLE CHAIR COLLECTION” อาร์มแชร์ที่ผสมผสานศิลปะและความสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ความสัมพันธ์ที่หลากหลาย เช่น คู่รัก พี่น้อง เพื่อน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกดีๆ ร่วมกัน

กิติพัฒก์ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “โมเดอร์นฟอร์มเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเฟอร์นิเจอร์ ทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์บ้าน และวัสดุตกแต่งภายใน ที่สร้างความสุขในการใช้ชีวิตและมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ผ่านการ Collaboration กับศิลปินต่างๆ มากมาย เพื่อเชื่อมโยงศิลปะกับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ในหลากหลายมิติ “สำหรับครั้งนี้ โมเดอร์นฟอร์ม ร่วมมือกับคุณปอม ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ “Pomme Chan” ศิลปินหญิงที่ฝากผลงานออกแบบร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลก เป็นการเพิ่มมุมมองใหม่ให้กับคอลเลกชันของโมเดอร์นฟอร์มด้วยการผสมผสานกับความงามทางศิลปะผ่านเส้นสายที่โค้งมนของเก้าอี้ เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ด้วย Iconic Piece ผ่านโปรเจกต์ “Modernform x Pomme Chan: COUPLE CHAIR COLLECTION” เพื่อเติมความงามและความสุขให้กับการอยู่อาศัย ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและสนใจในประโยชน์ใช้สอย รวมถึงเจ้าของบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่สวยงามและอบอุ่น หรือผู้ที่ชื่นชอบการออกแบบที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ โมเดอร์นฟอร์มที่จะสร้างสรรค์ความสุข และพื้นที่ในการอยู่อาศัยเพื่อลูกค้าคนสำคัญ”

Modernform x Pomme Chan เปิดตัว “Couple Chair Collection” อาร์มแชร์ตัวแรกของ ปอม-ธัชมาพรรณ ที่ออกแบบร่วมกันกับ Modernform ผสมผสานศิลปะและความสบายเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ “Pomme Chan” ศิลปินหญิงนักวาดภาพชื่อดังระดับโลก กล่าวถึงโปรเจ็กต์นี้ ว่า “เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ หลังจากที่มีคอลเลกชันแรกซึ่งเป็นของตกแต่งบ้าน Floral Collection ไปแล้ว และครั้งนี้เป็นการออกแบบอาร์มแชร์ครั้งแรก ภายใต้ชื่อคอลเลคชัน ‘COUPLE CHAIR COLLECTION’ โดยดีไซน์มาให้สามารถนั่งด้วยกันเป็นคู่ได้ เพื่อรองรับความสัมพันธ์ที่หลากหลาย เช่น พี่น้อง เพื่อน รวมถึงเพื่อนร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกร่วมกันและแบ่งปันประสบการณ์ต่อกัน

“สำหรับดีไซน์ของเก้าอี้โดดเด่นด้วยเส้นโค้งมนสื่อถึงความรู้สึกอ่อนโยนและปลอดภัยในการใช้งาน ส่วนของขาได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเครื่องประดับลูกปัดหรือตัวต่อในวัยเด็ก โดยเลือกนำมาจัดวางสลับสี เพื่อช่วยให้เก้าอี้ตัวนี้ดูสนุกมากยิ่งขึ้น และด้วยความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม โมเดอร์นฟอร์มจึงเลือกหุ้มด้วยผ้าชนิดพิเศษ ตอบโจทย์สายรักษ์โลกด้วยเทคโนโลยีที่ใช้เส้นด้ายจากขาด PET รีไซเคิล (ขวด PET รีไซเคิล 37 ขวดจะเปลี่ยนเป็นผ้าขนาด 1 เมตร) สะท้อนความเหมือนที่แตกต่างด้วยกิมมิค Reflection เมื่อนำมาวางต่อกันจะเป็นเคิร์ฟต่อเนื่องเพิ่มมิติให้ห้องดูสวยงามหรือจะวางแยกเดี่ยวก็ดูโดดเด่น”

ทั้งนี้ กิติพัฒก์ กล่าวเสริมถึงการนำมาจัดวางที่ Drop by Dough ว่า “เราตั้งใจที่จะให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์กับ COUPLEC CHAIR จริง ๆ ไม่เพียงแค่วางโชว์เท่านั้น แต่มาพรัอมดีไซน์ที่ผสานความสบายไว้ได้อย่างลงตัวและช่วยสร้างความสวยงามไปพร้อมกับเติมเต็มอรรถรสในทุกเมนู ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองของการตกแต่งในสไตล์ Drop by Dough”

ร่วมสัมผัส “COUPLE CHAIR COLLECTION” อาร์มแชร์ตัวแรกของ Pomme Chan ที่ออกแบบร่วมกับ Modernform ได้ที่โชว์รูม Modernform หรือจะไปเช็กอินนั่งเก้าอี้สุดชิคกันได้ที่ร้าน Drop By Dough เอ็มควอร์เทียร์ ชั้น 1 อาคาร C ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน – 19 กรกฎาคม 2566

พบกับ COUPLE CHAIR COLLECTION ได้ที่โชว์รูมโมเดอร์นฟอร์มทั้ง 4 สาขา ศรีนครินทร์, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, สุขุมวิท49 และราชพฤกษ์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

Facebook messenger m.me/modernformcompany

Line official account https://lin.ee/3FeNyaD

Call Center : 0-2094-9999

Website Modernform : http://bit.ly/3NC47By

ยาสีฟัน คอลเกต สมุนไพรดีท็อกซ์ เซสตี้ ยูสุ 120 กรัม

ฟินสดชื่นไปกับกลิ่นส้มยูซุ ผสานพลังสมุนไพรสกัดชั้นยอดจากธรรมชาติ สูตรที่ไม่ได้แค่ช่วยดีท็อกซ์ขจัดสิ่งตกค้างจากมุมต่างๆของช่องปาก แต่ยังช่วยเติมพลังให้ปัง พร้อมกลิ่นปากหอมฟินนาน

– ช่วยดีท็อกซ์ขจัดสิ่งตกค้างจากมุมต่างๆของช่องปาก

– ผสานสมุนไพรสกัดเข้มข้น 5 ชนิด

– ให้ความฟินสดชื่นไปกับกลิ่นส้มยูซุ

– ป้องกันฟันผุและช่วยลดปัญหาสุขภาพเหงือก

– เติมพลังให้ปังพร้อมกลิ่นปากหอมฟินนาน

คอลเกตดีท็อกซ์ ยูซุ ช่วยดีท็อกซ์ขจัดสิ่งตกค้างจากมุมต่างๆ ของช่องปากเเปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เช้า เเละก่อนนอน นานครั้งละ 2 นาที

ใหม่! คอลเกต ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก สมุนไพรดีท็อกซ์ กลิ่นเซสตี้ ยูสุ

คอลเกต พลักซ์ ยูซุ ดีท็อกซ์ 500 มล

– น้ำยาบ้วนปากสูตรไม่มีแอลกอฮอล์* ไม่แสบปาก

– กลิ่นยูซุฟินสดชื่น ผสานสมุนไพรสกัดเข้มข้น 5 ชนิด

– ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย 99.9%^

– เติมพลังให้ปัง พร้อมกลิ่นปากหอมฟินนาน

– ช่วยดูแลทั่วทั้งช่องปาก เมื่อใช้คู่กับยาสีฟัน คอลเกต

* ไม่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์

**เมื่อเปรียบเทียบกับการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว และใช้บ้วนปากวันละ 2 ครั้งหลังการแปรงฟัน

โปรโมชั่น พิเศษ! ลดทั้งร้านสูงสุด 63% + โค้ดลดสูงสุด 300.-
เฉพาะวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ : https://www.lazada.co.th/shop/colgate-palmolive 

1577 HOME SHOPPING ประกาศความพร้อมต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจ มุ่งเดินหน้าสยายปีกปูทางสู่ตลาดส่งออก เดินหน้าร่วมลงทุนในแบรนด์ ชล อโรมาทีค (CHOL Aromatique) เครื่องหอมจากน้ำมันหอมระเหยพรีเมียมเกรดบำบัด 100% เกาะเทรนด์ตลาดสุขภาพ และศาสตร์แห่งการบำบัดที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก  มุ่งเป็นผู้นำช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์เครื่องหอมแบรนด์ไทยให้เติบโตในระดับสากล นำร่องส่งสินค้าแบรนด์ CHOL Aromatique รุกตลาดจีนและตะวันออกกลาง ชูจุดแข็งคอนเซ็ปต์แบรนด์พรีเมียมลักชัวรี่ แทรกศาสตร์การบำบัดชัดเจน ตั้งเป้าแบรนด์เติบโตไกลขยาย Ecosystem สู่บริการ Wellness ครบวงจร

ปารย์ รัตนสุบรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท 1577 โฮมชอปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า 1577 โฮมชอปปิ้งคือผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์แบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ที่มีจุดแข็งในด้านการคัดสรรสินค้าที่ยอดเยี่ยม (Product Development) โดดเด่นในเรื่องการใช้คอลเซนเตอร์เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience) และเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้วยมาตรฐานการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ (Logistics)

1577 โฮมชอปปิ้ง สยายปีกแตกไลน์ธุรกิจ ร่วมปั้นธุรกิจเครื่องหอมแบรนด์ไทย CHOL Aromatique

แม้ว่าปัจจุบันตลาดโฮมชอปปิ้งของไทยจะมีการแข่งขันสูง และมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้น แต่ 1577 โฮมชอปปิ้ง ยังคงเป็นผู้นำในตลาด และมีเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจผ่านการเฟ้นหาพันธมิตรหรือแบรนด์ที่มีศักยภาพและคุณค่าร่วมกัน โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสุขด้วยสุขภาพที่ดี มีคุณค่าต่อสังคม และแน่นอนสามารถขยายธุรกิจไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นในต่างประเทศได้ โดยจากการศึกษามูลค่าตลาดของแบรนด์เครื่องหอมของไทย พบว่าปัจจุบันมูลค่าตลาดโดยรวมจากแบรนด์เครื่องหอมของไทย 20 อันดับแรก ในปี 2565 มีมูลค่าถึงกว่า 3.62 พันล้านบาท ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพนำเสนอความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน มีโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสอดรับกับการเติบโตของตลาด Health & Wellness ที่กำลังเป็นเทรนด์ในระดับโลก ผู้คนต่างต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการบำบัด และมองหาสินค้าตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะที่หลากหลายมากขึ้น นั่นทำให้ 1577 โฮมชอปปิ้ง เลือกที่จะร่วมลงทุนในแบรนด์ CHOL Aromatique เพื่อมุ่งผลักดันให้เติบโตเป็นแบรนด์สินค้าอโรมาเธอราปี (Aromatherapy) สำหรับรุกตลาดส่งออกของบริษัทฯ อย่างเต็มตัว ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำในการเปิดตลาดและยกระดับตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องหอมในประเทศไทยไปพร้อมกัน

“เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาด Health & Wellnessโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่สามารถเข้าถึงทุกมิติของชีวิต แบรนด์ CHOL Aromatique เป็นธุรกิจเครื่องหอมแบรนด์ไทยที่นอกจากกลิ่นที่หอมระดับพรีเมียม และเป็นธรรมชาติ 100% แล้ว ยังถูกสร้างสรรค์ให้มีจุดเด่นในเรื่องของการบำบัด ซึ่งทำให้ภาพรวมของแบรนด์มีศักยภาพการเติบโต สามารถขยายและต่อยอดไปสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา คาเฟ่ โรงแรม อีกด้วย ดังนั้น การเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้ ไม่เพียงตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจร่วมกันกับ CHOL Aromatique แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับก้าวต่อไปของธุรกิจ 1577 โฮมชอปปิ้งที่เดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ อีกด้วย” ปารย์ กล่าวเสริม

ชล อโรมาทีค (CHOL Aromatique) เป็นแบรนด์เครื่องหอมจากน้ำมันหอมระเหยพรีเมียมเกรดบำบัด 100% ที่ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วในกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยเอกลักษณ์และจุดขายที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองอันได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากวงจรการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน (Urban Lifecycle) ที่ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ อาทิ ความเครียดรุมเร้า ไมเกรน สมาธิสั้น ฮอร์โมนแปรปรวน ความรู้สึกหมดพลัง และการนอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ โดยผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนาขึ้นผ่านศาสตร์การบำบัดด้วยกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยคุณภาพสูง หรือสุคนธบำบัด (Aromatherapy) ผสานเข้ากับทฤษฏี Flow ของนักจิตวิทยา เกิดเป็นการค้นพบพลังอันน่าอัศจรรย์ของน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ส่งผลต่อคลื่นสมอง หนึ่งในตัวช่วยให้การพักผ่อนเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทิน โชคกมลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ชล แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ CHOL Aromatique ได้เริ่มทำตลาดมาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิดที่คนไทยมีเวลาอยู่บ้านเยอะขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความเครียดสะสมจากสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ต้องการการผ่อนคลายที่บ้าน ผลิตภัณฑ์แบรนด์ CHOL ได้เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด จึงได้รับการตอบรับอย่างดี โดยช่วงแรกเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ ขยายมาสู่ มาร์เก็ตเพลส และเว็บไซต์ของแบรนด์ (www.cholaromatique.com) ตามลำดับ จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกตินอกบ้าน รวมถึงมีการเปิดประเทศให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเป็นโอกาสดีที่แบรนด์ CHOL จะขยายการรับรู้ให้เพิ่มขึ้นด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) ผ่านการสร้างประสบการณ์จริงกับลูกค้า (Sensory Experience) จึงได้มีการเปิดร้านในศูนย์การค้าเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสกับกลิ่นหอมและศาสตร์การบำบัดของเรา อาทิ ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ และจุดจำหน่ายภายในคิงส์ พาวเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูเก็ต รวมทั้งอีโคโทเปีย สยามดิสคัฟเวอรี นอกจากนั้น ยังมีการทำความร่วมมือกับแกร็บคาร์ พรีเมียมเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงผ่านประสาทสัมผัสทางกลิ่นด้วยตัวเองบนรถแกร็บคาร์ พรีเมียมกว่า 1,000 คัน ทั่วกรุงเทพ

ทั้งนี้ เป้าหมายตลาดต่างประเทศของแบรนด์ CHOL จะมุ่งรุกตลาดจีนเป็นอันดับแรก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวจีน ซึ่งไม่ใช่แค่ชาวจีนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น แต่มองถึงชาวจีนจากทั่วโลก ที่ผ่านมาแบรนด์  CHOL เริ่มทำการตลาดในต่างประเทศไปแล้ว อย่าง ฮ่องกง โดยใช้ช่องทางออนไลน์ผ่านผู้แทนจำหน่าย ในขณะที่อีกกลุ่มที่มองว่ามีศักยภาพมากคือ ตลาดตะวันออกกลาง โดยมุ่งเจาะตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบกลิ่นหอมและมีวิถีชีวิตที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยล่าสุด ได้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและเจรจาการค้าในงาน Beauty World ที่ดูไบ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีนักธุรกิจ ผู้นำเข้า สนใจสินค้าจำนวนมาก จึงมั่นใจในศักยภาพของแบรนด์ว่าจะสามารถสร้างยอดขายในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว

“สำหรับความร่วมมือกับ 1577 โฮมชอปปิ้ง ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายการเติบโตของแบรนด์ โดยเชื่อมั่นในความเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการสนับสนุนด้านการขยายไลน์สินค้า การขยายสาขา และการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายทางธุรกิจที่ตรงกัน เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้แบรนด์ CHOL Aromatique เดินหน้าไปสู่เป้าหมายการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม” ทิน กล่าวสรุป

ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ CHOL Aromatique

ผลิตภัณฑ์เครื่องหอม CHOL Aromatique นำเสนอกลิ่นหอมบริสุทธิ์จากธรรมชาติสูตรซิกเนเจอร์คอลเลคชั่น URBAN RESCUE ของ CHOL ที่ประกอบไปด้วย 5 กลิ่น ได้แก่

• Stress Killer กลิ่นหอมสบาย ช่วยคลายความตึงเครียดจากการ WORK เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูง และขายดี
• Hyper Boost กลิ่นหอมสดชื่น ให้ความรู้สึกสดใส มีพลัง มีสมาธิ พร้อมลุย PLAY ได้มั่นใจ
• Love Attack กลิ่นหอมเย้ายวน เสมือนดอกไม้แห่ง LOVE ที่อ่อนหวาน พร้อมส่งต่อความรักให้คนรอบข้าง
• Rest is More กลิ่นหอมละมุน ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย เหมือนได้นอนเต็มอิ่ม ยิ่ง REST ยิ่งรีชาร์จ เป็นกลิ่นขายดีที่สุด
• Life Flow 365 กลิ่นหอมละมุนหรูหรา ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสงบนิ่ง เหมือนได้ปรับ BALANCE ให้ราบรื่น

ผู้สนใจสามารถเข้าถึงรูปแบบความหอมได้จากผลิตภัณฑ์หลากหลาย ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ ก้านหอมปรับอากาศ เครื่องพ่นอโรมา และบรีเธอร์ (น้ำมันหอมระเหยฉบับพกพา)  สนใจผลิตภัณฑ์ CHOL Aromatique สามารถดูข้อมูลสินค้าได้ทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านทาง Facebook : cholaromatique IG : cholaromatique LINE : @cholaromatique หรือเว็บไซต์ www.cholaromatique.com และช่องทางออฟไลน์ในศูนย์การค้า