พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เฉลิมพระนาม พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ” พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “

Alternative Textaccount_circle
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

รัชกาลที่ ๑๐ เฉลิมพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” พระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” รัชกาล ๙

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2562 “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประทับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ซึ่งอยู่ในหมู่พระมหามณเฑียร เพื่อพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์

โดยหลังจากที่ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชานพระพุทธรูปประจำพระชนมวารรัชกาล ๑-๙ ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” เฉลิมพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙” และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์


พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า “โดยที่พระราชอนุสรณ์คำนึงถึง สมเด็จพระบรมชนกนาถ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” ซึ่งได้ทรงรับพระราชภาระสืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระองค์เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทย ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับประการ เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์แก่อาณาประชาราษฎร์ เป็นที่ประจักษ์แก่ตาแก่ใจของบรรดาพสกนิกรและนานาอารยประเทศ จนกระทั่งเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 แม้ระยะเวลาจะล่วงเลยมาจวบจนปัจจุบันแต่เหล่าพสกนิกรก็ยังคำนึงถึงพระกรุณาธิคุณเสมอมาไม่เสื่อมคลาย ในศุภสมัยอันเป็นมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ สมควรจะได้สนองพระเดชพระคุณถวายพระเกียรติยศให้ปรากฏแผ่ไพศาลยิ่งขึ้น ด้วยมีพระราชหฤทัยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมชนกนาถจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมชนกนาถตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า”พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ขอให้พระเกียรติยศปรากฏแผ่ไพศาลไปในสากลจักรวาลตลอดนิจนิรันดร์”

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

(คำอ่าน : พระ-บาด-สม-เด็ด-พระ-บอ-รม-ชะ-นะ-กา-ทิ-เบด มะ-หา-พู-มิ-พน-อะ-ดุน-ยะ-เดด-มะ-หา-ราด บอ-รม-มะ-นาด-บอ-พิด)

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า “โดยที่พระราชดำริด้วยพระราชหฤทัยประกอบด้วยพระกตัญญูกตเวทิตา ระลึกถึงพระเดชพระคุณ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” พระบรมราชนี ทรงดำเนินพระราชพระจริยวัตรด้วยพระราชปณิธานธรรมราชินีในศุภสมัยแห่งมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้สมควรจะเฉลิมพระเกียรติยศสนองพระคุณตามโบราณราชประเพณีอันจะอำนวยสวัสดิ์พิพัฒนมงคล แด่พระองค์สยามรัฐสีมาอาณาจักรจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ในรัชกาล ๙ ตามที่จารึกในพระสุพรรณธนบัตรว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” และถวายเหรียญรัตนาพรรัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1”

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

(คำอ่าน : สม-เด็ด-พระ-นาง-เจ้า-สิ-หริ-กิด พระ-บอ-รม-มะ-ราด-ชะ-ชน-นะ-นี-พัน-ปี-หลวง)

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


พระราชประวัติ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ หรือ พระพันปีหลวง (Queen Mother) พระนามเดิม “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร” พระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านของพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) บ้านเลขที่ 1808 ถนนพระรามที่ 6 ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร เป็นธิดาใน “หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร” (พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) กับ “หม่อมหลวงบัว กิติยากร”(ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์) มีพระเชษฐาสองคนคือ “หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร”และ “หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร” มีพระขนิษฐาหนึ่งคนคือ “ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงศ์”

พระนาม “สิริกิติ์” ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า “ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร” เรียกโดยลำลองว่า “คุณหญิงสิริ” ส่วนพระราชสวามีจะทรงเรียกว่า “แม่สิริ”

เมื่อ “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์” มีอายุราว 2 ปี ขณะที่พี่เลี้ยงอุ้มอยู่นั้นก็มีแขกเลี้ยงวัว ซึ่งเป็นเพื่อนของแขกยามประจำบ้านมาหากัน พอแขกที่มาเหลือบเห็น “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์” ก็จ้องพร้อมทั้งกวักมือเรียกพี่เลี้ยงขอให้เห็นใกล้ๆ หน่อย เมื่อ เข้ามาใกล้มองดูสักครู่ก็พูดว่า “ต่อไปจะเป็นมหาราชินี” พี่เลี้ยงก็ชอบใจ ถึงไม่เชื่อแต่ก็ปลื้มใจ แต่ก็สอดคล้องกับ “หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี”กล่าวถึง “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์” มีหมอดูทำนายทายทุกว่า “จะได้เป็นราชินี” ทำให้พระสหายขนานนามว่า “ราชินีสิริกิติ์” ไม่มีใครคาดคิดว่าหลายสิบปีผ่านไปคำทำนายนั้นได้กลายเป็นความจริง

28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับ “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์”จัดขึ้น ณ วังสระปทุม ในการนี้ได้สถาปนาให้ขึ้นเป็น”สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์”

ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ทรงพระราชดำริว่า ตามโบราณราชประเพณีเมื่อสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว ย่อมโปรดให้สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระอัครมเหสีขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ดังนั้น พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ “สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์” ขึ้นเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี” หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรักษาพระองค์และทรงศึกษาต่อ จนกระทั่ง พระองค์มีพระประสูติกาล “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” และเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอมีพระชันษาได้ 3 เดือน จึงเสด็จนิวัติประเทศไทย

เมื่อ พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชประสงค์จะผนวชเป็นพระภิกษุระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน เป็นระยะเวลา 15 วัน จึงต้องมีการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ดังนั้นพระองค์ทรงพระราชดำริว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี” เป็นผู้ทรงพระปรีชาสามารถในอันที่จะรับพระราชภารกิจในคราวนี้ได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี”เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างที่ผนวช ต่อมา ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคมปีเดียวกันนี้ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” มีพระบรมราชโองการประกาศว่าตามราชประเพณีเมื่อ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ได้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จึงได้เลื่อนเป็น”สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”นับว่าทรงเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพระองค์ที่ 2 ในประเทศไทย โดยพระองค์แรกคือ “สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ” (ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)

พระอิสริยยศ

• หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 – 28 เมษายน พ.ศ. 2493)

• สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ (28 เมษายน พ.ศ. 2493 – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493)

• สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี (5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 – 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499)

• สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 –13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 )

• สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 5 พฤษภาคม 2562 )

•สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (5 พฤษภาคม 2562 – ปัจจุบัน)


 

ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง

ความหมายการโปรย ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.๑o

Alternative Textaccount_circle
ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง
ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง

ภาพพระอิริยาบถเรียบง่ายของ พระบรมวงศานุวงศ์ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวานนี้ (4 พฤษภาคม 2562) ที่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงร่วมก้มเก็บดอกพิกุลเงินและพิกุลทองที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรยพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ เสมือนการพระราชทานพร เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นดั่งของที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีดังกล่าว

ซึ่งดอกพิกุลถือว่าเป็นต้นไม้ในสวนของพระอินทร์ จึงถือว่าเป็นดอกไม้จากสวรรค์และจัดทำด้วยเงินและทองคำให้เสมือนดอกพิกุลจริง สำหรับใช้ในพระราชพิธีสำคัญคือพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีโสกันต์เจ้านาย

โดยความหมายการโปรยดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นั้น ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าต้นพิกุลเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในสวนของพระอินทร์ ด้วยเหตุนี้คนไทยจึงนิยมนำดอกพิกุลมาใช้ประโยชน์ในงานพิธีมงคลต่างๆ ในการประกอบพระราชพิธีสำคัญๆ ในราชสำนักไทย เจ้านายชั้นสูง ผู้ซึ่งเป็นองค์ประธานในพิธีจะทรงโปรยดอกพิกุลที่ทำจากเงินและทองคำที่เรียกว่า “ดอกพิกุลเงิน ดอกพิกุลทอง” แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจนว่ามีที่มาตั้งแต่สมัยใด แต่ในสมัยรัตนโกสินทร์ การโปรยดอกพิกุลเงิน ดอกพิกุลทองในงานพระราชพิธีสำคัญนั้น ได้ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบต่อกันมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับดอกไม้มงคลที่มีต่อราชสำนักไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ที่มาและความหมาย ต้นพิกุล ชาวต่างประเทศเรียกว่า “Bullet wood” เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง ๑๐ – ๒๕ เมตร ผิวเปลือกสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะมัน สีเขียว ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบหรือยอด เป็นพันธุ์ไม้ที่มักพบตามป่าดิบชื้นทั่วไปในแถบประเทศที่มีอากาศร้อน ดอกพิกุลมีขนาดเล็กออกเป็นช่อ มีสีขาว เมื่อบานจะเห็นริมดอกเป็นจักๆ มีกลิ่นหอมเย็นทั้งเมื่อยังสดและแห้ง นิยมใช้บูชาพระ หรือทำเป็นยาแผนโบราณ แม้ร่วงหล่นกลายเป็นสีน้ำตาล แต่ก็ยังมีกลิ่นหอม สามารถนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยได้

คำว่า “พิกุล” มาจากภาษาอินเดีย แต่ในภาษาบาลีและสันสกฤต ออกเสียง “พิกุล” ว่า “พกุล” จากหนังสือมหาชาติคำหลวง กัณฑ์มหาพน ที่แต่งขึ้นในสมัยอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ.๒๐๒๕) ได้กล่าวถึงตอนอจุตฤาษี พรรณนาถึงต้นไม้ในป่าให้ชูชกฟังว่า “ปงกุรา พกุล เสลา ไม้พกุลศุรกรมก็มี”แสดงให้เห็นว่าในสมัยอยุธยายังคงเรียก “พกุล” กันอยู่ แต่ต่อมาภายหลังได้กลายเป็น “พิกุล” ซึ่งเป็นการแปลงคำแบบไทย โดยพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย) ได้อธิบายไว้ว่า “พกุลคำในบาลี ไทยใช้พาที เติมอิเป็นพิกุลไป”

คติความเชื่อเกี่ยวกับดอกพิกุล คนไทยในสมัยก่อนมีความเชื่อว่า หากปลูกต้นพิกุลไว้ในบริเวณบ้าน จะทำให้คนที่อาศัยอยู่มีอายุยืน เนื่องจากต้นพิกุลเป็นไม้ที่แข็งแรงทนทาน และมีอายุยาวนาน ดังนั้นจึงมักนำมาใช้ประโยชน์ในงานพิธีมงคล อาทิ เสาบ้าน พวงมาลัยเรือด้ามหอก ประกอบกับความเชื่อว่า ต้นพิกุล เป็นต้นไม้ที่มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ เป็นไม้ที่มีเทพสิงสถิตอยู่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อยู่อาศัยนอกจากนี้มีความเชื่อว่า ต้นพิกุล เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งในสวนของพระอินทร์ ดอกพิกุลจึงเปรียบเสมือนดอกไม้จากสวรรค์ การประกอบพระราชพิธีต่างๆ ของราชสำนักไทย จึงนิยมจำลองดอกพิกุลเสมือนจริงที่สร้างจากเงินและทองคำ สำหรับให้องค์ประธานทรงโปรยในระหว่างการประกอบพระราชพิธี เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีโสกันต์ พระราชพิธีลงสรง เป็นต้น ด้วยความเชื่อที่ว่าเจ้านายผู้เป็นองค์ประธานนั้นอยู่ในสภาวะสมมติเทพที่ได้อุบัติลงมาจากสวรรค์ การโปรยดอกพิกุลจึงเสมือนกับการที่องค์สมมติเทพทรงโปรยดอกไม้จากสวรรค์ลงมาให้มนุษย์ได้ชื่นชมนั่นเอง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมีพระราชหฤทัยโอบอ้อมอารีที่มีต่อเหล่าพสกนิกรที่มาเข้าร่วมในพระราชพิธี และเมื่อพิจารณาจากลักษณะของดอกพิกุลที่มีกลีบจำนวนมาก ซึ่งมีลักษณะคล้ายดอกเบญจมาศของจีน เป็นข้อสังเกตว่าอาจมีการผสมผสานความคิดอันเป็นมงคลเกี่ยวกับการเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ด้วยก็เป็นได้


ขอบคุณ สัตตมาลี เครื่องหอมตำรับในวัง
ขอบคุณที่มา tnews.co.th/ดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
via.#HS6NYY

 

 

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร โบราณราชประเพณีอันเป็นสิริมงคล

Alternative Textaccount_circle
พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

ในการพระราชพิธีบรมราชิภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อวานนี้ (4 พฤษภาคม 2562) มีอีกหนึ่งพระราชพิธีสำคัญ นั่นคือ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ซึ่งในการนี้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เฉลิมพระราชมณเฑียร ทรงพระสังวาลนพรัตน์ราชวราภรณ์ และพระสังวาลพระนพ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯออกจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงโปรยเหรียญกษาปณ์ หมุนเวียน รัชกาลที่ 10 ชนิดราคา 2 บาท พระราชทานตลอดเส้นทางขบวนเสด็จ

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปยังพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เพื่อประทับแรมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะบรรทมเหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์ พระแท่นที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประดิษฐานภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานองค์ตะวันออก สำหรับเป็นพระแท่นบรรทมเฉพาะพระมหากษัตริย์

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

ทั้งนี้ในพระราชพิธีมีเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร และเครื่องราชูปโภค หรือเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์ เช่น วิฬาร์ หรือแมว มีความหมายถึง การอยู่บ้านใหม่เป็นปกติสุขไม่โยกย้าย ศิลาบด หรือหินบดยา หมายถึง ความหนักแน่น หรือความไม่มีโรค พันธุ์พืชมงคล หมายถึงการงอกเงย ฟักเขียว หมายถึง การอยู่เย็นเป็นสุข กุญแจทอง หมายถึง กรรมสิทธ์ความเป็นเจ้าของบ้าน และจั่นหมากทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร

พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร


 

ภาพ : สำนักพระราชวัง


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

จารึกประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์

พระปฐมบรมราชโองการของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

สมพระเกียรติ ขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10

ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินี

“พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท” ที่ ในหลวง ร.10 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร

แผนการถ่ายทอดสด “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” 4 วัน ผ่าน ทรท.

ที่มาและความหมาย “ทีปังกร” พระนามมงคลพระราชทานจากทูลกระหม่อมปู่

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”

เผยพระนาม ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ความคืบหน้าพระอาการประชวรของ “พระองค์โสมฯ”

ประมวลภาพ พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ แกะพระราชลัญจกร

ความสำคัญและขั้นตอน พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ แกะพระราชลัญจกร

ทรงเปี่ยมด้วยพระวิริยะ เบื้องหลังการฝึกอบรมทรงม้าของ พระองค์หญิงฯ ครั้งล่าสุด

ประชาชนเฝ้าชื่นชม ขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ ไปยังวัดพระแก้ว

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ประมวลภาพ ขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศน์

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปประทับ ณ รพ. จุฬาฯ

รู้จัก 8 เครื่องสูง สิ่งประกอบพระราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ไทย

สมพระเกียรติ พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ประมวลภาพ “พิธีพลีกรรมตักน้ำ” ทั่วไทย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ใช้ให้ถูกต้อง! ตัวอย่างถ้อยคำถวายพระพรชัยมงคล ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ข้อควรรู้ ประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างถูกต้อง เพื่อเทิดพระเกียรติสูงสุด

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯปล่อยพันธุ์ปลาไทย ในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ

พระจริยวัตรงดงามตลอด 64 พรรษา เรื่องราวจาก “ทูลกระหม่อมน้อย” สู่ “สมเด็จพระเทพรัตนฯ”

‘อยากใช้เวลาอยู่กับสังคมมากกว่าจะสวีทหวานแหววตามลำพัง’ ดูดวงรายวัน 5 พฤษภาคม 2562

‘อยากใช้เวลาอยู่กับสังคมมากกว่าจะสวีทหวานแหววตามลำพัง’ดูดวงรายวัน 5 พฤษภาคม 2562 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้แม้จะเป็นวันหยุด แต่ความคิดและจินตนาการของคุณใหญ่มาก จนอยู่ไม่ติดที่ ต้องเดินทางติดต่อประสานงานทั้งวัน ก็ระวังๆ ความเชื่อมั่น กล้าได้กล้าเสียไว้บ้างนะคะ เพราะอาจทำให้คุณพลาดในเรื่องของสัญญา หรือเผลอไปตกปากรับคำกับใครโดยไม่วิเคราะห์ให้ถ้วนถี่

การเงิน :  หมดกับการช่วยเหลือผู้อื่น และเข้าสังคมเป็นหลัก แล้วเป็นสังคมหรูหราไฮโซเลยทีเดียว

ความรัก : คุณให้ความสำคัญกับสมาชิกในครอบครัวค่อนข้างมาก แต่จะเป็นในลักษณะความมั่นคงภายในครอบครัวมากกว่าความรักแบบโรแมนติก คนโสด คุณชอบใช้เวลาอยู่กับสังคมมากกว่าที่จะอยู่ด้วยกันตามลำพัง วันนี้อารมณ์คุณอาจผันผวน เข้าใจยาก

สุขภาพ : ร่างกายอาจไวต่อสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง จนอาจเป็นภูมิแพ้หรือไข้หวัด

                                                                        

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน :  หากคุณกำลังเกี่ยวข้องกับงานออกแบบตกแต่งภายใน หรืองานสารพัดช่างต่างๆ วันนี้อาจต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้คุณท้อ แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่ายๆ ใช้สติในการคิดทบทวนแก้ไขปัญหาอย่างละเอียดรอบคอบ หรือใช้เซ้นส์ประกอบการตัดสินใจ แล้วคุณจะผ่านไปได้

การเงิน :  หมุนเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อมาใช้ในการทำงาน ระวังอาจถูกโกงหรือถูกหักหลัง

ความรัก : วันนี้คุณอาจกำลังเตรียมทำเซอร์ไพร์สให้กับครอบครัวฉลองวาระพิเศษ อาจเป็นการปรับแต่งบ้านใหม่  เพื่อพิสูจน์ความรักที่คุณมีให้ครอบครัวตลอดมา น่าชื่นชมค่ะ คนโสด เสน่ห์ของคุณอยู่ที่เอาใจใส่กับบุคคลรอบข้าง มีความยืดหยุ่นสูง ใครอยู่ใกล้เป็นได้หลงเสน่ห์ทุกคน วันนี้เริ่มมีคนอยากผูกมัด ซึ่งทำให้คุณไม่ปลื้ม

สุขภาพ  : อากาศร้อนขนาดนี้ งดทานอาหารแซ่บเว่อร์ หรือสุกๆ ดิบๆ ก่อนนะคะ เพราะอาจทำให้ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : คุณกำลังใช้ความคิดวิเคราะห์อย่างหนักเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับบุคคลชั้นสูงที่มีอำนาจบารมี จากความกดดันและความคาดหวังทำให้คุณมั่นใจตัวเองสุดฤทธิ์ จนไม่ฟังคำแนะนำจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้รู้ วันนี้อาจเสี่ยงเกิดความขัดแย้งและทะเลาะกันได้

การเงิน : อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินที่ไม่ถูกต้อง จนเกิดความวุ่นวายเดือดร้อนตามมา

ความรัก :  คุณอยู่กับครอบครัวที่เป๊ะมาเป็นเวลานาน วันนี้อาจถึงเวลาที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะบางครั้งครอบครัวก็ต้องการเวลาส่วนตัว ง่ายที่สุดก็คือ หาโอกาสไปเที่ยวกันตามลำพังบ้าง คนโสด ที่บ้านค่อนข้างเป็นห่วงคุณมาก อาจเพราะก่อนหน้านี้ผิดหวังกับความรักบ่อย ฉะนั้นหากวันนี้คุณคบใครก็คงต้องผ่านด่านที่บ้านให้ได้ก่อน

สุขภาพ :  ดูแลระบบขับถ่ายให้ดี ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้ไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : หากวันนี้คุณต้องเข้าร่วมการประมูลหรือการแข่งขัน ที่คำตอบเดียวสำหรับคุณคือ ชนะ ก็ต้องบอกว่า อาจต้องเปลี่ยนคำตอบ เพราะพลังคุณมาไม่เต็มร้อย อาจต้องขอกำลังใจจากเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง

การเงิน : มีโชคทางธุรกิจ แต่ควรลงทุนทำคนเดียว ร่วมทุนร่วมหุ้นกับใครไม่เวิร์ค

ความรัก : ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงในครอบครัว อาจมีการแข่งขัน ชิงดีชิงดีเด่นกันในทางลับอยู่ ส่วนตัวคุณก็มีทิฐิสูง ชอบเรียกร้องความสนใจ วันนี้มาเจอกันอาจมีปัญหาไม่ลงรอยกัน คนโสด  วันนี้คุณอาจเปิดศึกหน้านางของจริง คือแย่งผู้หญิงจากผู้หญิงด้วยกัน

สุขภาพ : วันนี้หากคุณเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ให้ระวังภูมิแพ้ที่มาพร้อมกับอาหาร และอากาศ รวมทั้งการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  การติดต่อประสานงานวันนี้ต้องใช้ความสามารถรอบตัวทีเดียว ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ทางด้านทฤษฏี และทักษะความสามารถเฉพาะตัว แต่สิ่งที่ต้องใช้ให้น้อยก็คือ ความเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะจะทำให้คุณไม่รับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น ทำให้เสียการปกครอง

การเงิน : ได้รับการอุปถัมภ์อย่างดี อาจได้รับทรัพย์มรดก

ความรัก : คุณผูกพันกับครอบครัวมาก แบกรับทุกสิ่งทุกอย่างของบริวารและคนใกล้ชิดไว้ค่อนข้างมาก วันนี้เขาอาจนำเรื่องวุ่นวายใจหรือเดือดร้อนมาให้คุณอีก ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก จึงควรปล่อยวางและช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น คนโสด มีความโลเลสูง เพราะคุณคาดหวังสูง หากมีแฟนไม่ดีก็อยู่เป็นโสดดีกว่า

สุขภาพ  : ระวังอวัยวะตั้งแต่สะโพกลงมา อาจมีโอกาสบาดเจ็บเนื่องจากข้อและเอ็นเสื่อม

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : คุณอาจถูกตามตัวเข้าไปช่วยงานของครอบครัว ซึ่งเป็นงานเสริมจากงานประจำ หากเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ งานบันเทิง หรือเกี่ยวข้องกับความสวยความงาม รับรองไปโลด ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนอยู่ตลอด

การเงิน : หาเงินง่าย ก็ใช้เงินเก่งเช่นกัน จะหมดไปกับการปาร์ตี้เอ็นเทอร์เทน

ความรัก : Work Hard & Play Hard แต่ก็ควรระวังประเด็นเรื่องชู้สาวด้วยนะคะ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  คนโสด คุณมี 2 บุคลิก หากอยากอยู่คนเดียวก็ปลีกวิเวกเลย แต่หากไปปาร์ตี้ก็สามารถเปิดใจคบใครได้ง่ายๆ เลย

สุขภาพ : โรคประจำตัวที่คุณต้องระวังคือ โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหมุนเวียนเลือด ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : แม้เป็นช่วงที่คุณต้องใช้ความมานะอุตสาหะ ความวิริยะ ในการสะสางแก้ไขปัญหาต่างๆ ค่อนข้างหนัก แต่ด้วยภาวะผู้นำในตัวคุณ ทำให้วันนี้คุณสามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ จนผ่านไปได้ และได้รับการยอมรับจากลูกน้องและเพื่อนร่วมงาน

การเงิน : วันนี้สำหรับคุณ ต้องแลกมาด้วยความสามารถและหยาดเหงื่อแรงงานเป็นหลัก ฉะนั้นหากได้มาโดยที่ไม่เหนื่อย ถือว่าผิด

ความรัก : พึงระวังคนหวังดีแต่ประสงค์ร้าย มาพูดใส่ร้ายให้คุณเข้าใจผิดกัน ส่งผลให้วันนี้คุณอาจหงุดหงิดง่าย เหวี่ยงด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด แม้คุณจะไฮโซ สวยเลือกได้ แต่ก็อย่าวางใจนัก เพราะคู่แข่งวันนี้สมน้ำสมเนื้อทีเดียว

สุขภาพ  : พยายามทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย เพราะวันนี้คุณเสี่ยงกับอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และลำไส้อักเสบ

ประทับใจมิรู้ลืม พระบรมวงศานุวงศ์ ธ ทรงเป็นกำลังพระทัยของ ในหลวง ร.10

account_circle

ประทับใจมิรู้ลืม พระบรมวงศานุวงศ์ ธ ทรงเป็นกำลังพระทัยสำคัญของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก

๓-๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ วันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก นับเป็นห้วงเวลาที่สำคัญที่สุดของปวงชนชาวไทย โดยในห้วงเวลานี้นี้ได้มีเหตุการณ์ และพิธีการต่างที่ต้องจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งประชาชนชาวไทยเองต่างก็ประทับใจมิรู้ลืม

การนี้แพรวดอทคอมได้รวมภาพต่างๆ ตลอดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และ พระฉายาลักษณ์ ของพระบรมวงศานุวงศ์ ในพระอิริยาบถเรียบง่าย ซึ่งทุกภาพนั้นล้วนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

พระบรมวงศานุวงศ์

พระบรมวงศานุวงศ์

เมื่อวันศุกร์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา มีพระราชปฏิสันถารด้วย สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทรงสวมกอด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงก้มกราบ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน์ วรขัตติยราชนารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ณ หอพระธาตุมณเฑียร ทรงนมัสการพระรัตนตรัย ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒

พระบรมวงศานุวงศ์

วันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงทอดพระเนตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเสด็จฯ ในการพิธีสรงพระมุรธาภิเษก

พระบรมวงศานุวงศ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จฯ โดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ยาตราจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปเทียบเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ประทับทอดพระเนตร

พระบรมวงศานุวงศ์

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงประทับยืนชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระ​วชิรเกล้าเจ้าอยู่​หัว  ให้สังเกตว่าทั้งสามพระองค์ทรงจับพระหัตถ์กันไว้แน่น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก

สมเด็จพระ​นางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พร้อมพระราชธิดา​ และ ​พระราชโอรส​ ในพระบาท​สมเด็จพระ​วชิรเกล้าเจ้าอยู่​หัว​ ทอดพระเนตร​ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ​ เสด็จ​พระราช​ดำเนินประกาศพระองค์​เป็นพุทธ​ศาสนูปถัมภก และถวายบังคมพระบรมอัฐิ​และ​พระ​อัฐิ​ ในการพระราชพิธี​บรม​ราชาภิเษก​ 2562

อีกหนึ่งพระอิริยาบถเรียบง่ายของ พระบรมวงศานุวงศ์ ขณะที่กำลังทรงก้มเก็บดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรยให้ เพื่อเป็นสิริมงคล

การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำดอกพิกุลเงิน พิกุลทองที่ทรงเก็บได้ พระราชทานแด่ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม อีกด้วย

ครั้นถึง วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในการพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์ พระบรมวงศ์ ในการนี้ประชาชนชาวไทยได้เห็นภาพประทับใจที่เกิดขึ้นตลอดทั้งงาน นำมาซึ่งความสุข และความอิ่มเอมใจ ของพระอิริยาบถของทุกๆ พระองค์

สายสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่าง พระเชษฐา และ พระขนิษฐา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มสรวลอย่างอบอุ่นให้กับ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแตะพระหัตถ์ พร้อมแย้มสรวลให้กับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ อย่างแผ่วเบา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสวมกอดพระมารดา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เป็นภาพที่อบอุ่น เป็นอย่างมาก

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงสวมกอด และแย้มสรวล ให้กับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ขณะทรงพระดำเนินกลับที่ประทับ หลังจากพระองค์ทรงได้รับการสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ยังทรงช่วยจัดสายสะพาย เครื่องราชฯ ให้กับพระเชษฐภคินี (พี่สาว) อีกด้วย

พระเชษฐภคินี (พี่สาว) ทั้งสองพระองค์ ทรงยื่นพระหัตถ์ เพื่อสัมผัส พร้อมตรัสให้กำลังใจพระอนุชา (น้องชาย) ขณะที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงพระดำเนินกลับกลับมาจากที่ประทับ หลังจากที่พระองค์ได้รับการสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ขอทุกพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนยาน


ข้อมูล : welove_bajrakitiyabha

ภาพ : สำนักพระราชวัง

 

 

 

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย

ฉลองพระองค์งดงามวิจิตร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณฯ ทรงตามรอยสมเด็จย่า

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย
พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานปักประดับลายดอกพิกุล เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562

วันนี้ (4 พฤษภาคม 2562) หลังจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระบรมมหาราชวัง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในช่วงบ่ายของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระองค์ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมานปักประดับลายดอกพิกุล ประดับสายสะพายและดวงดารา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า ทรงประดับเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 แพรแถบเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แพรเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระเกศาประดับปิ่นทองประดับเพชร

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย

โดยฉลองพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มีความคล้ายคลึงกับฉลองพระองค์ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยพระราชนิยมลำดับที่ 8 ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งตัดเย็บจากผ้ายกทองลายโคมประยุกต์ ชุดกรวยเชิงลายหน้ากระดานประยุกต์ ปักประดับด้วยเลื่อมและลูกปัดสีทองทั่วทั้งองค์ ซึ่งออกแบบโดยห้องเสื้อบัลแมง

อีกทั้งยังเป็นฉลองพระองค์ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงในงานพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ถวายสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๒ ดยุกแห่งเอดินเบอระ และเจ้าหญิงแอนน์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ อีกด้วย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชกรณียกิจแรก สมเด็จพระราชินีสุทิดา งามสง่าตามเสด็จในหลวง ร.10

ในหลวงร.10 สถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีฯ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10


ภาพ : IG@praewmag , artsandculture.google.com

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จารึกประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Alternative Textaccount_circle
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

“พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” เป็นโบราณราชประเพณีสำคัญ เพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ โดยได้รับอิทธิพลจากคติอินเดีย แต่ลักษณะการพระราชพิธีแต่เดิมมีแบบแผนรายละเอียดเป็นอย่างไร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แม้แต่การเรียกชื่อพิธีก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละสมัย เช่น สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เรียกว่า “พระราชพิธีราชาภิเษก” หรือ “พิธีราชาภิเษก” ส่วนในปัจจุบัน เรียกว่า “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก”

ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่สามารถบันทึกความศักดิ์สิทธิ์ ความยิ่งใหญ่ และความงดงามของโบราณราชประเพณีนี้ได้ คือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์แต่ละยุคสมัยในขณะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ด้วยในสมัยก่อนประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ก้าวไกล จึงเริ่มมีการบันทึกพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ได้ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ซึ่ง แพรวดอทคอม ได้รวบรวมภาพประวัติศาสตร์ดังกล่าวมาให้ชมกันดังต่อไปนี้

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2394

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ครั้งแรก วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ครั้งหลัง วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416

สำหรับเหตุผลที่ ในหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2 ครั้ง เพราะครั้งแรกทรงมีพระชนมายุเพียง 16 พรรษา สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์จึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนทรงเจริญพระชนมายุครบ 20 พรรษา เสด็จออกทรงผนวช เมื่อทรงลาสิกขาแล้วจึงทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอีกครั้ง เพื่อเป็นเครื่องแสดงว่าทรงพร้อมที่จะทรงรับพระราชภาระในฐานะพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ ไม่จำต้องมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

 พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468

 

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

วันที่ 4 พฤษภาคม 2562

 

ทั้งนี้สำหรับ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ในหลวงรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคตก่อนทรงรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลว่ายังพอจะสนองพระเดชพระคุณให้สมพระเกียรติได้ ด้วยการเฉลิมพระปรมาภิไธยและถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์บางองค์ เช่น นพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งใช้กางกั้นพระบรมศพและพระบรมอัฐิ ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2489 จึงประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร  


 

ภาพ : หนังสือ ประมวลภาพประวัติศาสตร์ไทย พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมัยรัตนโกสินทร์


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์

พระปฐมบรมราชโองการของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

สมพระเกียรติ ขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10

ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินี

“พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท” ที่ ในหลวง ร.10 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร

แผนการถ่ายทอดสด “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” 4 วัน ผ่าน ทรท.

ที่มาและความหมาย “ทีปังกร” พระนามมงคลพระราชทานจากทูลกระหม่อมปู่

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”

เผยพระนาม ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ความคืบหน้าพระอาการประชวรของ “พระองค์โสมฯ”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐

Alternative Textaccount_circle
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ เสด็จพระราชดำเนินยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่เสาร์ 4 พฤษภาคม 2562 เวลา 15.00 น.  รัชกาลที่ ๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า  เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

16.42 น.ขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่จะออกจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ประทับพระราชยานพุดตาลทอง แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปเทียบเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินขึ้นชานพระอุโบสถ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก กลองชนะ ปี่ แตรงอน แตรฝรั่ง สังข์ เจ้าพนักงานเดินริ้วเครื่องสูงหักทองขวาง พระแสงหว่างเครื่อง ฉัตรกรรณภรมร์ พระแสงอัสดาวุฒ และเครื่องราชอิสริยยศงราชูปโภคยาตราตามขบวนจังหวะกลอง โดยออกจากเกยหน้าพระทวารเทเวศน์รักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอมรวิถีในพระบรมมหาราชวัง เลี้ยวขวาเข้าถนนจักรีจรัลผ่านประตูพิมานไชยศรี จากนั้นริ้วขบวนเลี้ยวขวาผ่านหน้าศาลาสหทัยสมาคมเทียบพระราชยานพุดตาลทองที่เกย หลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงศีลแล้วมีพระราชดำรัสประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดารามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังปราสาทพระเทพบิดรถวายบังคมพระบรมรูป สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเมื่อเสร็จพิธีแล้ว เสด็จออกจากปราสาทพระเทพบิดร ไปประทับพระราชยานพุดตาลทองที่เกย หลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศผ่านศาลาสหทัยสมาคม เลี้ยวซ้ายถนนจักรีจรัญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อริ้วขบวนยาตราผ่านประตูพิมานไชยศรีแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นเทียบพระราชยานพุดตาลทองที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท แล้วเสด็จเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายถวายบังคมพระบรมอัฐิและสดับปกรณ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุลศลถวายสมเด็จพระบรมราชบุพการี  ระยะทางรวม 500 เมตร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ สดับปกรณ์


ภาพ : โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

เกาะติดพระราชพิธีราชาภิเษก

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”

ความหมายของ ‘เบญจราชกกุธภัณฑ์’ เครื่องแสดงพระอิสริยศักดิ์ แห่งพระมหากษัตริย์

จารึกประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สืบทอดตามรอยพระราชบิดา ภาพประวัติศาสตร์พิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี

หมู่พระมหามณเฑียร สถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งองค์ประธาน ของหมู่พระมหามณเฑียร

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

จัดพิมพ์เพียง 3 ล้านดวง ตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ของพระมหากษัตริย์ ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

กระบวนพยุหยาตราสถลมารค พระราชพิธีโบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

รัชกาลที่ ๑๐

สมเด็จพระเทพฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อ รัชกาลที่ ๑๐

Alternative Textaccount_circle
รัชกาลที่ ๑๐
รัชกาลที่ ๑๐

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์แทน พระบรมวงศานุวงศ์ ได้นำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๑๐ )

พระบรมวงศานุวงศ์

วันที่เสาร์ 4 พฤษภาคม 2562 เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๑๐ ) ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง เสด็จฯ ออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน เพื่อให้ พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล

พระบรมวงศานุวงศ์

ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ผู้แทน พระบรมวงศานุวงศ์ ได้นำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

“ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์มีความปิติปราโมทย์เป็นพ้นประมาณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เสด็จเถลิงราชสมบัติสืบราชสมบัติสืบพระราชสันตติวงศ์ ฉลองพระองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถและได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลและแสดงความจงรักสวามิภักดิ์ในใต้เบื้องพระยุคลบาทในวาระแห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในอุดมสุภสมัยอันพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์จึงขอพระราชทานยกสัจธรรมขึ้นเป็นที่ตั้ง ร่วมจิตถวายถวายสัตย์ปฏิญาณว่า”

พระบรมวงศานุวงศ์

“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจะตั้งตนตั้งใจไว้ให้มั่นคง ในความซื่อสัตย์สุจริต และในความจงรักภักดี จะมุ่งมั่นประพฤติตนปฏิบัติงานและทำหน้าที่ของตนโดยเต็มกำลัง สติปัญา และความสามารถ เพื่อธำรงไว้เพื่อเกียรติศักดิ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและเทวาดิเทพน้อยใหญ่ ทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ อำนวยศรีสวัสดิ์มงคลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงสถิตย์สถาพรในมไหยสุริยะสมบัติ เป็นร่มรัตน์ฉัตรปกประเทศ ให้เป็นบุญเขตอันร่มเย็นเป็นสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าและประชาชนถ้วนหน้าตลอดไปชั่วกาลนานด้วย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสตอบความว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคมพรั่งพร้อมด้วยทุกท่านจากทุกสถาบันสำคัญของชาติ และได้รับคำอวยพรอันเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต ขอขอบพระทัยและขอบใจในคำอำนวยพรและน้ำใจไมตรีของทุกท่านเป็นอย่างมาก

“ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกท่าน ทุกฝ่าย ในมหาสมาคมนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคน ได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้าในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่ของตน โดยยึดเอาประโยชน์ คือความเจริญมั่นคงของประเทศชาติและความผาสุขร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด ขอคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครอง รักษาทุกท่านให้ประสบความสุข ความเจริญพร้อมด้วยพรอันเป็นมงคลทุกประการ”


ภาพ : โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

เกาะติดพระราชพิธีราชาภิเษก

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”

ความหมายของ ‘เบญจราชกกุธภัณฑ์’ เครื่องแสดงพระอิสริยศักดิ์ แห่งพระมหากษัตริย์

จารึกประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สืบทอดตามรอยพระราชบิดา ภาพประวัติศาสตร์พิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี

หมู่พระมหามณเฑียร สถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งองค์ประธาน ของหมู่พระมหามณเฑียร

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

จัดพิมพ์เพียง 3 ล้านดวง ตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ของพระมหากษัตริย์ ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

กระบวนพยุหยาตราสถลมารค พระราชพิธีโบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

รัชกาลที่

พระนามใหม่ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ อ่านอย่างไรให้ถูกต้อง?

Alternative Textaccount_circle
รัชกาลที่
รัชกาลที่

อ่านอย่างไรให้ถูกต้อง? พระนามใหม่ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ และ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

ภายหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันนี้ (4 พ.ค. 2562) เพื่อพระราชอิสริยยศแห่งพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ จึงได้มีการเปลี่ยนพระปรมาภิไธย หรือ พระนาม ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ จากเดิม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีคำอ่านที่ถูกต้องดังต่อไปนี้

รัชกาลที่

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

(คำอ่าน) พระ-บาด-สม-เด็ด-พระ-ปะ-ระ-เมน-ทะ-ระ-รา-มา-ทิบ-บอ-ดี สี-สิน-มะ-หา-วะ-ชิ-รา-ลง-กอน-มะ-หิ-สอน-ภู-มิ-พน-ราด-ชะ-วะ-ราง-กูน กิ-ติ-สิ-ริ-สม-บูน-อะ-ดุน-ยะ-เดต สะ-หยาม-มิน-ทรา-ทิ-เบด-ราด-วะ-โร-ดม บอ-รม-มะ-นาด-ถะ-บอ-พิต พระ-วะ-ชิ-ระ-เกล้า-เจ้า-อยู่-หัว

โดยในการออกพระปรมาภิไธยโดยย่อนั้น นอกจาก “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ตามที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปแล้ว ยังมีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการออกพระปรมาภิไธยโดยย่อว่า “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” อีกด้วย

อย่างไรก็ตามในส่วนของการอ่านออกเสียงพระนาม สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี มีดังต่อไปนี้

(คำอ่าน)  สม-เด็ด-พฺระ-นาง-เจ้า-สุ-ทิ-ดา พัด-ชะ-ระ-สุ-ทา-พิ-มน-ลัก พฺระ-บอ-รม-มะ-รา-ชิ-นี


ภาพ : โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย,www.gettyimages.com

ข้อมูลจาก : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีราชาภิเษก

เกาะติดพระราชพิธีราชาภิเษก

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”

ความหมายของ ‘เบญจราชกกุธภัณฑ์’ เครื่องแสดงพระอิสริยศักดิ์ แห่งพระมหากษัตริย์

จารึกประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สืบทอดตามรอยพระราชบิดา ภาพประวัติศาสตร์พิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี

หมู่พระมหามณเฑียร สถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งองค์ประธาน ของหมู่พระมหามณเฑียร

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

จัดพิมพ์เพียง 3 ล้านดวง ตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ของพระมหากษัตริย์ ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

กระบวนพยุหยาตราสถลมารค พระราชพิธีโบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

 

 

 

 

 

 

 

 

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระองค์หญิงฯ ทรงฉลองพระองค์ชุดไทย เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระสิริโฉมงดงาม  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562

วันนี้ (4 พฤษภาคม 2562) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯ เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ พระบรมมหาราชวัง ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ทรงสะพัก ประดับสายสะพายและดวงดารา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า ประดับเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 แพรแถบเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แพรเหรียญที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงสร้อยพระศอเพชรประดับจี้เพชรอักษรย่อ ภปร พระเกศาประดับมาลัยดอกรักและกระแตดอกไม้สด

พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พระราชกรณียกิจแรก สมเด็จพระราชินีสุทิดา งามสง่าตามเสด็จในหลวง ร.10

ในหลวงร.10 สถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีฯ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระราชินีสุทิดา”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10


ภาพ : IG@praewmag

สืบทอดตามรอยพระราชบิดา ภาพประวัติศาสตร์พิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี

ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ถูกจารึกอีกครั้งในวันนี้ (4 พ.ค. 2562 ) กับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดขึ้นเป็นไปตามโบราณราชประเพณีที่มีมายาวนาน เพื่อเป็นการสถาปนาพระเกียรติยศแห่งพระมหากษัตริย์ไทยอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี พ.ศ. 2493  ครั้งนั้นก็ยังคงเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ชาวไทยยังคงระลึกถึงจวบจนทุกวันนี้ และในครั้งนี้ (4 พ.ค. 2562) ถือเป็นมหาฤกษ์อีกครั้งที่ชาวไทยจะได้ชื่นชมพระบารมี และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งภาพประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หากลองมาเทียบกันแล้วแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ต่างกัน แต่ก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์และงดงามไม่เปลี่ยนแปลง


ภาพบางส่วนจาก : FB@royalworldthailand , FB@โบราณนานมา

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสมบูรณ์

Alternative Textaccount_circle
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ในการ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 วันนี้ (4 พฤษภาคม 2562) เวลา 10.09 น. ได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนับเป็นพระราชพิธีที่สำคัญที่สุด เพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงเข้าร่วมพระราชพิธีด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สำหรับพระราชพิธีในช่วงเช้าวันนี้ ประกอบด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงสรงพระมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เศวตพัสตร์ และทรงสะพักขาวขลิบทอง ในการทรงสรงพระมุรธาภิเษก ณ มณฑปพระกระยาสนาน และทรงรับน้ำพระพุทธมนต์ และน้ำเทพมนตร์

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จากนั้นทรงรับน้ำอภิเษก ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงฉลองพระองค์ครุย สายสะพายนพรัตน์ราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ในการทรงรับน้ำอภิเษกประจำทิศ ดังนี้ ทิศบูรพา (ตะวันออก) พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์, ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล, ทิศทักษิณ (ใต้) พลโท หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล, ทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี, ทิศประจิม (ตะวันตก) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, ทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, ทิศอุดร (เหนือ) นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา และทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) นายจรัส สุวรรณเวลา ราชบัณฑิต

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จากนั้นเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งภัทรบิฐ ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์และพระแสง และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ ใจความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยขน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และทรงหลั่งทักษิโณทกตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรม

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

จากนั้นทรงสถาปนา สมเด็จพระราชินีสุทิดา เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี จากนั้นพระสงฆ์ดับเทียนชัย ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก


 

ภาพ : โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

พระปฐมบรมราชโองการของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10”

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

สมพระเกียรติ ขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10

ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินี

“พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท” ที่ ในหลวง ร.10 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร

แผนการถ่ายทอดสด “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” 4 วัน ผ่าน ทรท.

ที่มาและความหมาย “ทีปังกร” พระนามมงคลพระราชทานจากทูลกระหม่อมปู่

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”

เผยพระนาม ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ความคืบหน้าพระอาการประชวรของ “พระองค์โสมฯ”

ประมวลภาพ พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ แกะพระราชลัญจกร

ความสำคัญและขั้นตอน พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ แกะพระราชลัญจกร

ทรงเปี่ยมด้วยพระวิริยะ เบื้องหลังการฝึกอบรมทรงม้าของ พระองค์หญิงฯ ครั้งล่าสุด

ประชาชนเฝ้าชื่นชม ขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ ไปยังวัดพระแก้ว

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ในหลวงร.10 สถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีฯ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ

วันนี้ (4 พ.ค. 2562) ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสรงพระมุรธาภิเษก ณ มณฑปพระกระยาสนาน บริเวณชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน โดยน้ำสรงพระมุรธาภิเษกเป็นน้ำจากเบญจสุทธคงคา น้ำจากสระ 4 สระที่จังหวัดสุพรรณบุรีและทรงรับน้ำพระพุทธมนต์และน้ำเทพมนตร์ และทรงรับการถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ พร้อมกับมีพระปฐมบรมราชโองการ

โดยหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับบรมราชาภิเษก เถลิงถวัลยราชสมบัติโดยสมบูรณ์แล้ว ตามที่เป็นไปตามโบราณประเพณีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสุทิดาให้ดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  โดยสมบูรณ์ทุกประการ

 

 

 

 

 

 

 

พระปฐมบรมราชโองการ

พระปฐมบรมราชโองการของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10” ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Alternative Textaccount_circle
พระปฐมบรมราชโองการ
พระปฐมบรมราชโองการ

ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อีกหนึ่งความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ที่จะได้รับการจารึกไว้ตลอดไป คือการที่พระมหากษัตริย์จะพระราชทาน พระปฐมบรมราชโองการ หลังจากพราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และเครื่องราชูปโภคแล้ว เพื่อแสดงถึงพระราชปณิธานในฐานะทรงเป็นผู้รับพระราชภาระแห่งชาติบ้านเมือง

สำหรับในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 10 ซึ่งเสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปแล้วนั้น พระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ใจความว่า

“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยขน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และทรงปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรม

พระปฐมบรมราชโองการ

พระปฐมบรมราชโองการ


 

ภาพ : โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สานต่อพระราชไมตรีจากรุ่นสู่รุ่น ราชวงศ์ไทย-ญี่ปุ่น ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนาน

สมพระเกียรติ ขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นักข่าวสายทหารเผย 10 พระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ”

ตามรอย “การสถาปนาสมเด็จพระราชินี” โบราณราชประเพณีที่เปี่ยมด้วยความหมาย

ภาพประวัติศาสตร์ พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระราชินีสุทิดา ในรัชกาลที่ 10

ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระราชินี

“พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท” ที่ ในหลวง ร.10 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร

แผนการถ่ายทอดสด “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” 4 วัน ผ่าน ทรท.

ที่มาและความหมาย “ทีปังกร” พระนามมงคลพระราชทานจากทูลกระหม่อมปู่

ย้อนชมภาพตราตรึงใจ พระราชไมตรีดุจพี่น้อง “ในหลวง ร.9 – จักรพรรดิอากิฮิโตะ”

เผยพระนาม ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ความคืบหน้าพระอาการประชวรของ “พระองค์โสมฯ”

ประมวลภาพ พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ แกะพระราชลัญจกร

ความสำคัญและขั้นตอน พิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ แกะพระราชลัญจกร

ทรงเปี่ยมด้วยพระวิริยะ เบื้องหลังการฝึกอบรมทรงม้าของ พระองค์หญิงฯ ครั้งล่าสุด

ประชาชนเฝ้าชื่นชม ขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ ไปยังวัดพระแก้ว

ศักดิ์สิทธิ์และสมพระเกียรติ พิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ประมวลภาพ ขบวนเชิญน้ำอภิเษก จากกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศน์

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปประทับ ณ รพ. จุฬาฯ

รู้จัก 8 เครื่องสูง สิ่งประกอบพระราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ไทย

สมพระเกียรติ พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ประมวลภาพ “พิธีพลีกรรมตักน้ำ” ทั่วไทย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ใช้ให้ถูกต้อง! ตัวอย่างถ้อยคำถวายพระพรชัยมงคล ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ข้อควรรู้ ประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างถูกต้อง เพื่อเทิดพระเกียรติสูงสุด

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯปล่อยพันธุ์ปลาไทย ในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ

พระจริยวัตรงดงามตลอด 64 พรรษา เรื่องราวจาก “ทูลกระหม่อมน้อย” สู่ “สมเด็จพระเทพรัตนฯ”

นางแบบกิตติมศักดิ์ “พระองค์หญิงฯ” พระสิริโฉมงดงามบนรันเวย์ของห้องเสื้อธีระพันธ์

กำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตลอดเดือนเมษายน-พฤษภาคม

ในหลวง ร.10 มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ “ทักษิณ ชินวัตร”

“พระองค์หริภา” ทรงมุ่งมั่นทำนุบำรุงศาสนา ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์บูรณะวิหารวัดเก่าแก่

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ อัญเชิญพระบรมราโชวาท ในหลวง ร.9 ‘ส่งเสริมคนดีปกครองบ้าน

พสกนิกรเฝ้ารับน้ำพระพุทธมนต์จาก ในหลวง ร.10 หลังพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.10 เสด็จฯพระราชทานเพลิงศพ วิชัย ศรีวัฒนประภา

นายกฯตู่ชื่นมื่น ในหลวง ร.10 พระราชทานแจกันดอกไม้ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด

ภาพความประทับใจนับครั้งไม่ถ้วน พระเมตตาที่ “สมเด็จพระเทพฯ” มีต่อบัณฑิตผู้พิการ

สมพระเกียรติ ประมวลภาพการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ทรงเสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้ง ในหลวง ร.10 มีพระราชสาส์นถึงเหตุกราดยิงที่นิวซีแลนด์

เลอค่าน่าสะสม แสตมป์ที่ระลึกชุดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร.10 อยากได้ต้องทำอย่างไร

ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัด นครชัยบุรินทร์ โครงการจากพระปณิธานของ “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์”

จัดพิมพ์เพียง 3 ล้านดวง ตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ออกเผยแพร่ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ตามแบบที่ทูลเกล้าฯ ถวาย

โดยแบบตราไปรษณียากรได้เชิญพระฉายาลักษณ์พระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารบกเต็มยศ เป็นแบบตราไปรษณียากร ประกอบอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และภาพพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับเมื่อครั้งการจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เมื่อปีพุทธศักราช 2493

ตราไปรษณียากรกำหนดเป็นชนิดราคา 10 บาท จัดพิมพ์จำนวน 3,000,000 ดวง และเพื่อให้ตราไปรษณียากรดังกล่าว มีความสวยงามสมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสอันสำคัญนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้จัดพิมพ์บนกระดาษเคลือบฟอยล์เงินกระจกเป็นครั้งแรก โดยจัดพิมพ์เทคนิคพิเศษ 5 สี คือ ฟ้า เหลือง แดง ดำ และขาว ซึ่งช่วยทำให้ภาพตราไปรษณียากรชุดนี้ มีความสวยงามและแวววาว พร้อมทั้งเพิ่มความพิเศษด้วยการพิมพ์สีเหลืองทองและปั๊มดุนนูน 3 จุด ได้แก่ อักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. คำว่า “ประเทศไทย THAILAND” และตัวเลขบอกชนิดราคา 10 นอกจากนี้ ยังมีการดุนนูนรอบพระฉายาลักษณ์ เพื่อทำให้ดูมีมิติสวยงามยิ่งขึ้น
โดยการผลิตกระดาษสำหรับพิมพ์ตราไปรษณียากรชุดนี้ยังจัดทำขึ้นพิเศษ โดยตัวกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์ จะได้รับการเคลือบฟอยล์เงินที่ประเทศอังกฤษ ก่อนส่งกลับมาพิมพ์ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยสำนักพิมพ์ Cartor Security Printing พร้อมทั้งเคลือบด้วยแผ่นฟอยล์เงินชั้นหนึ่ง และเคลือบทับด้วยฟิล์มใสอีกชั้นหนึ่ง เพื่อทำให้เกิดความเงาแวววาวสดใส

อย่างไรก็ตาม การจัดสร้างตราไปรษณียากรชุดดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกของตราไปรษณียากรไทย ที่จัดพิมพ์ตราไปรษณียากรบนกระดาษที่มีความหนาถึง 230 กรัมต่อตารางเมตร ซึ่งตามปกติที่ผ่านมาตราไปรษณียากรของไทยส่วนใหญ่จะพิมพ์บนกระดาษที่มีความหนาระหว่าง 85 – 110 กรัมต่อตารางเมตร

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

10 เพลงในหัวใจ เล่าชีวิตคนดนตรี ปั๊บ โปเตโต้ – พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

Alternative Textaccount_circle
พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข
พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

เพราะชีวิตมีความหลากหลาย เช่นเดียวกับความรู้สึก ที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ การบอกเล่าเรื่องราวชีวิตผ่านเพลง กับช่วงเวลาพิเศษ Goodtime Soundtrack of Live ที่คลื่นวิทยุ Goodtime 98.5 FM สร้างสรรค์ไว้ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่จะทำให้คุณได้รู้จักตัวตนของศิลปินมากขึ้น ซึ่งวันนี้ “ปั๊บ โปเตโต้” หรือ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข พร้อมแล้วที่จะมาเปิดเผยตัวตน ความเป็นคนดนตรี เล่าชีวิตผ่าน 10 บทเพลงที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่า เพลงเหล่านี้คือชีวิตของเขา

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

1. เธอคือความฝัน – พราว

“เพลงแรกที่ผมเลือกมา คือเพลง “เธอคือความฝัน” ของพี่ ๆ วงพราว เพลงนี้ เป็นเพลงที่ทำให้ผมเริ่มเล่นกีต้าร์โปร่งครั้งแรก เมื่อก่อนผมเล่นดนตรีไม่เป็นเลย แต่ว่าชอบร้องเพลงนะ สมัยก่อนเวลาจะอัดเพลงแต่ละเพลงต้องใช้วิทยุ 2 เครื่องเครื่องนึงเปิดแบบ Backing Track สมัยก่อนวิธีการทำ Backing Track คือ เอาสำลีเข้าไปอุดตรงตัวเทป และใส่ไปเนี่ยเสียงร้องมันจะเบาลง เสียงดนตรีมันจะดังกว่า ส่วนอีกเครื่องนึงกดอัด สิ่งที่ได้ออกมามันจะเหมือนคาราโอเกะ จากนั้นเราก็เปิดเครื่องนึงร้อง แล้วก็เอาอีกเครื่องมาอัด เพื่อที่เราจะได้ฟังว่าเราร้องเพลงเป็นยังไง ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย ตอนนั้นน่าจะประมาณ ม.2 คือทำเก็บเอาไว้ฟังเอง จนมันเริ่มรู้สึกว่า มันไม่เวิร์คเท่าไหร่ก็เลยเริ่มหยิบกีต้าร์ครับ เพราะว่าแบบอยากเล่นแล้วก็อัดเลย และเพลงแรกที่เริ่มหัดเล่น ก็คือ เพลงเธอคือความฝัน ตอนนั้นอยู่ประมาณ ม.4 เป็นช่วงที่ย้ายโรงเรียนพอดี แล้วได้เจอเพื่อนคนนึงเค้าเล่นกีต้าร์ได้ ก็เลยบอกเค้าว่าให้สอนหน่อย เค้าก็โอเค สำหรับผมเพลงนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับความรัก เพลงนี้มันเกี่ยวกับอารมณ์ตอนนั้น คืออยากเล่นกีต้าร์จริง ๆ อยากเล่นดนตรีให้เป็น เพราะจะได้เหมือนให้ตัวเองเป็นเครื่องดนตรีไม่ต้องไปเปิดจากเทปอีกแล้ว เวลาที่ได้ยินเพลงนี้หรือพูดถึงเพลงนี้ ก็จะมีภาพบรรยากาศเพื่อนๆ สมัยเรียนตอนนั้นตลอด

2. คนดีไม่มีที่อยู่ – POTATO

สำหรับเพลงนี้ มันทำให้ผมนึกถึงสมัยก่อนครับ ยุคที่เมื่อเราอัดเพลงและจะมีช่วงโปรโมท เราก็จะเดินสายไปตามคลื่นวิทยุต่าง ๆ เวลาโปรโมทก็จะมีการวางแผนว่า ในอัลบั้มนั้นเราจะโปรโมทเพลงไหน ซึ่งสมัยนั้นจะชอบมีเพลงที่้อยู่ดี ๆ ก็มีคนรู้จักขึ้นมา โดยที่ไม่ได้ถูกหยิบมาโปรโมทด้วยซ้ำ อารมณ์แบบมีคนเคยฟังแล้วก็โทรมาขอเพลงเหล่านั้นจากคลื่นวิทยุต่างๆ ซึ่งเพลง“คนดีไม่มีที่อยู่” ก็เป็นที่รู้จักได้เพราะแบบนี้ มันก็เป็นเพลงแรกๆ ด้วยแหละที่เหมือนทำให้หลายๆคน หันมารู้จักวงโปเตโต้มากขึ้น เป็นยุคโปเตโต้อัลบั้มที่หนึ่งเลยครับ แบบ pop ใสเลย ผมจำได้เลยเพลงนี้ คือ เป็นยุคที่ยังไม่ได้คิดเพลงเอง ยังไม่ได้ทำอะไรเองครับ เหมือนเรามีหน้าที่เป็นคนถ่ายทอด คือ เค้าเรียกไปอัดเราก็ไปอัด และเพลงนี้ก็เป็นเพลงแรกด้วย ที่ผมเข้าห้องอัด ต้องบอกว่าเป็นความโชคดี ที่ผมเป็นคนไม่มีประสบการณ์เยอะ เราไม่มีภาพอะไรในหัวเลย ว่าคนฟังจะเป็นยังไง เราก็ทำเหมือนตอนที่เราทำสมัยเราเด็กๆ พอไม่มีประสบการณ์มันทำอะไร มันก็สนุกไปหมด มีแต่ความสนุก มีแต่ความตื่นเต้น ตื่นเต้นไปในทางที่ดี ไม่ได้ตื่นเต้นแบบประหม่า เป็นเพลงแรก ๆ ด้วยที่ผมได้เข้าห้องอัด เป็นเพลงที่เราร้องด้วย ต้องบอกก่อนว่า ตัวผมเป็นคนที่มาหลังสุดในวงโปเตโต้ ผม Audition เข้ามาผ่านทางแกรมมี่Screen Test เข้ามา เป็นจังหวะที่วงเค้าต้องการนักร้องที่ร้องเพลงช้า เพราะว่า พี่ปีย์ จะเป็นคนที่มีลุคสนุกสนาน เพลงก็หนักไปทางสนุก เค้าก็อยากให้มีคนที่สื่อสารเพลงช้าอีกคนนึง ผมก็สกรีนเทสต์เข้ามา เลยได้มีโอกาสเข้ามาตรงนี้ เมื่อก่อนเค้าชื่อวง Backstage Boy เราก็ไปซ้อมดนตรีกัน เค้าก็เลือก แล้วก็ได้ร้องเพลงนี้ เวลาฟังเพลงนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกเขิน ๆ เพราะตอนนั้นที่เราร้องยังเป็นตามวัย กลับไปฟังก็มีแต่จับผิดเสียงตัวเอง แต่เพลงนี้สำหรับผม คือเพลงสำคัญสำหรับผมเลย เป็นเพลงที่ทำให้เราได้รู้จักกันครับ”

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

3. เจ้าหญิง – บอย โกสิยพงษ์

“สำหรับเพลงนี้ ผมว่าน่าจะอยู่ในชีวิตของคนมากมายเลยแหละ ตัวผมเองน่าจะฟังตอน ม.3 – ม.4 นะครับ สมัยเด็กๆ เราก็จะฟัง พี่เบิร์ด เป็นหลักฟังพี่ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง แล้วช่วงเวลานั้น เพลง ตระกูลของ พี่บอย โกสิยพงษ์ เพิ่งโผล่เข้ามา และเด็กเชียงใหม่ตอนนั้น เค้าชอบฟังเพลงอะไรประมาณนี้ คือฟังเพลงที่เป็นกลุ่มทางเลือก แล้วก็จะมาแชร์กัน ตัวผมเองตอนที่ฟังเพลง พี่บอย ครั้งแรก รู้สึกว่าทำนองเมโลดี้เพลงนี้ ทำไมมันเเปลก ๆ อาจจะเพราะผมไม่ค่อยได้ฟังเพลงสากล คือเชียงใหม่เวลานั้นจะเป็นต่างจังหวัดมากเลยนะ สมัยผมเด็กๆอ่ะ คือ เป็นทุ่งนา เพราะฉะนั้นเพลงสากลเนี่ยน้อยมากที่จะได้ฟัง สำหรับเพลงของพี่บอยเป็นเพลงไทย ที่ฟังแล้วดูมันมีความเป็นสากลอยู่เยอะมากครับ ในแต่ละเพลงเนี่ยมันก็ต้องใช้เวลาฟัง ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกชอบ เพลง “เจ้าหญิง” เป็นเพลงที่ พี่ป๊อด ร้อง เพลงนี้เป็นอีกเพลงนึงที่เอาไว้ใช้ฝึกร้องเพลงเลยแหละ และจังหวะที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ก็เป็นช่วงที่ผมเริ่มมีความรัก เป็นช่วงเวลาที่ผมอยู่ ม.4 ซึ่งอยู่สหะแล้ว ก่อนหน้านั้นเรียนชายล้วนมา พอมีความรักก็จะเป็นอีกฟีลหนึ่ง ผมก็เพิ่งเข้าใจว่าเวลามีความรักชอบฟังเพลงกัน เพลงที่ทำให้ชีวิตรู้สึกสดชื่น ตอนนั้นกำลังเริ่มเล่นกีตาร์แล้ว แต่สารภาพตามตรงว่าไม่ดีดกีตาร์ให้ผู้หญิงฟัง แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้มีความกล้าที่จะแสดงตัวตนออกมาเท่าไหร่ พ่อแม่ผมยังไม่รู้เลย คือ รู้แค่ว่าชอบเล่นดนตรี แต่ก็ไม่ได้รู้แบบว่าผมบ้าขนาดไหน บ้าแบบทุกครั้งเวลาเค้าขึ้นไปนอน ผมก็แอบเข้าไปในรถ ไปเปิดเพลงร้องในรถ แอบร้องเพลงในรถ มีความสุขมาก ในรถเป็นที่ฝึกการร้องเพลงได้ดี เป็นช่วงแรก ๆ ที่เหมือนเปิดโลกการฟังเพลงของผม ช่วงนั้นเป็นปั๊บปี้เลิฟของผม แล้วยุคนั้นก็จะต้องอัดเพลงให้สาว ๆ ฟัง ซึ่งเพลงนี้ทำให้ผมนึกถึงความหลังช่วงเวลานั้นขึ้นมาจริง ๆ ครับ”

4. รักของเธอมีจริงหรือเปล่า – P.O.P

“สำหรับเพลงนี้ ก็เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับเพลงเจ้าหญิง คือช่วงนั้นผมฟังแต่เพลงพี่บอย โกสิยพงษ์ ตระกูลของฝั่งเบเกอรี่ เพลงนี้เป็นของ P.O.P สำหรับผม เป็นเพลงแรก ๆ เลยที่ฟังแล้วแบบโหย.. นี่มันเป็นเพลงอะไร ทำไมมันเพราะจัง แล้วพอฟัง มันก็รู้สึกมีความสะใจผสมอยู่ในนั้นด้วย เพราะว่ามันเป็นการถามคำถาม คนที่เป็นคนรักในแบบที่น่ารักดี ซึ่งไม่ค่อยมีแบบนี้ในช่วงนั้น เป็นความน่ารักที่ดูแบบมีชั้นเชิง ไม่ได้แบบ คิดถึงฉันไหม? แบบเธอรักฉันจริงหรือป่าว? ผมอธิบายเป็นฟีลลิ่งไม่ถูก อาจจะด้วยเสียงพี่นภด้วย และก็ด้วยดนตรีด้วยสไตล์ของวงด้วย มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า เพลงนี้เป็นเพลงรัก ที่ทุกครั้งเวลาผมคิดว่า ถ้าเราส่งเพลงนี้ให้ใคร หรือว่าบอกใครว่าเราชอบเพลงนี้ เขาก็จะยิ้ม เพราะว่าเพลงนี้มันเป็นอย่างนั้น มันน่ารัก ตัวผมเป็นพวกชอบที่ฟังเพลง และก็ชอบจินตนาการกันไปเอง คือมันเหมือนคล้าย ๆ เราดูภาพยนตร์ แล้วเราก็ฟังเพลง ฟังเนื้อเพลงแล้วมันก็จะมีบรรยากาศของการสื่อสารออกมาให้เราคิดและรู้สึกตามได้ และผมฟังตอนขี่มอเตอร์ไซค์มันก็เพลิน และเพลงนี้ยังเป็นเหมือนครู เหมือนให้เทคนิค จริงๆ ครูสอนร้องเพลง คือ พี่ๆศิลปินทุกคนนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นใคร แขนงไหนก็ตาม ผมจะชอบหยิบเทคนิคเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง แล้วก็จำว่าเขาออกเสียงยังไงนะ ตรงนี้เขาเอื้อนเสียงแบบไหน ทำไมเขาถึงเอื้อนเสียงแบบนี้ตรงนี้ บางอย่างก็ค้นพบว่ามันทำได้ กับบางอย่างก็ค้นพบว่า อ้าวมันเป็นธรรมชาติที่เขาจะเป็นอย่างงั้นเอง”
พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

5. แค่คน – Silly Fools

“สำหรับ Silly Fools ต้องบอกว่าเหมือนเป็นแม่พิมพ์ เป็นวงหนึ่ง ในกลุ่มศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจส่งทอดให้กับรุ่นน้องหลายๆ คนได้พัฒนาได้แบบอย่าง อยากจะเล่นดนตรี อยากจะร้องเพลง อยากจะแต่งเพลง ผมสารภาพว่าผมเพิ่งมาฟังเพลงของพี่ๆ วง Silly Fools ตอนผมอยู่วงโปเตโต้อั้ลบั้มที่ 1 ตอนนั้นคือ พี่ปีย์ นักร้องคนเก่า แล้วก็ พี่บ๋อม มือกลองคนเก่าไปเล่นคอนเสิร์ตให้กับพี่ๆ Silly Fools ที่อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก นั่นเป็นครั้งแรกที่ผม ได้ไปดูคอนเสิร์ตเพลงร็อก ตั้งแต่นั้นมาพอกลับมาจากคอนเสิร์ตนั้น ก็ไล่ฟังทุกอย่าง ฟังแบบคิดตามไปด้วย เขาต้องการสื่อสารยังไง เขาสื่อสารด้วยความรู้สึกแบบไหน อะไรที่เป็นแบบสิ่งที่เขาอยากจะนำเสนอ ฟังไปเรื่อยๆ ผมก็มาสะดุดที่เพลงนี้ “แค่คน” เพราะมันอาจจะตรงกับเวลาที่เรารู้สึกว่า เราทำงานอยู่ตรงนี้เรามักจะโดนคนที่เขาไม่ได้รู้จักเรา เขามองว่าเราคืออะไร สมัยนั้นยังไม่ได้มีระบบออนไลน์ที่ชัดเจนแบบนี้ แต่เราจะสัมผัสได้ว่า เราจะชอบถูกอนุมานว่า เราคือสิ่งๆนี้เราคือแบบนี้ แม้กระทั่งเวลาที่เรามีประสบการณ์ความรัก เราก็มักจะถูกความคาดหวังในตัวของชีวิตของเรา คาดหวังว่าอย่าต้องเป็นอย่างนี้นะ ต้องเป็นอย่างนี้ต้องเป็นคนดี แต่ว่าผมว่ามันบอกถึงความรู้สึกว่าจริงๆแล้ว เราก็คือคน คนธรรมดาที่มีทั้งดีทั้งเลว ก็ต้องรับมันซะ แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกแบบ aggressive ก็เป็นแค่คนๆหนึ่ง บางวันเราก็อาจจะเหมือนแบบเป็นเทวดา บางวันก็อาจจะเป็นแบบซาตานอะไรอย่างนี้แต่มันคือ คน มันเป็นฟีลลิ่งแบบ คล้อยตามในเชิงของข้อความ ที่เขาจะพยายามจะสื่อบอก เหมือนฟังแล้วเราก็รู้สึกว่า เออใช่ ตระหนักด้วยว่า จริงๆแล้วมันก็ต้องมันก็เป็นแบบนี้แหละ และตัวเราเองด้วยซ้ำ ที่เวลาเราจะไปเจอคนอื่น เราก็จะได้เห็นว่า เขาก็คือคนเหมือนกัน เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปมองเขาแค่นั้นอ่ะ ไม่มีสิทธิคิดว่าเขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ มันฟังแล้วมันก็มีความเป็นแบบนั้นอยู่ในใจนะ”

6. ชีวิต (life) – Moderndog

“ชีวิต” เป็นเพลงที่ทุกวันนี้ผมก็ยังฟังอยู่ ต้องบอกว่า Soundtrack of Life ครึ่งหลังที่ผมเลือกมา ทุกวันนี้ก็ยังฟังอยู่ มีอยู่ในโทรศัพท์ มีอยู่ในรถ ผมต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ ชอบทุกเพลงของพี่ ๆ โมเดิร์นด็อก อยู่แล้ว แต่สำหรับเพลงนี้ เรารู้สึกเป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันครับ เป็นเพราะว่าเนื้อหาที่ค่อนข้างเปิดกว้างกับสิ่งที่เขาเล่ามา รู้สึกว่าการค้นหาคำตอบในชีวิตมันเป็นอะไรที่มันไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นเพลงที่อยู่ได้ทุกวัย วัยเรียนก็ฟังเพลงนี้ได้ วัยรักก็ฟังได้ วัยทำงานก็ฟังได้ มันเป็นเพลงที่เปิดกว้างมากและก็ทุกครั้งที่เวลาเหนื่อยพอเวลาฟังและเราก็ต้องดูกันต่อไป ต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ชีวิตมันก็ไม่ได้ง่าย แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ใครชอบฟังเนื้อเพลงแบบผม ก็คือหลับตาฟัง แล้วจะแบบ “อื้ม” โอเคอ่ะ มันจะทำให้เราเห็นภาพอะไรบางอย่างในตัวเองด้วย ตอนเด็กๆ ฟังแล้วไม่อินเลย ไม่เข้าใจแต่ก็ฟังสนุกปาก ฟังสนุกหู ฟังสนุก แต่พอเวลาผ่านมา ฟังอีกที ความหมายของเพลงที่เคยฟังตอนเด็กๆ กับฟังในวันนี้มันต่างกัน จะเข้าใจความรู้สึกของเพลงอีกแบบ”

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

7. ฝัน – Slot Machine

“Slot Machine เป็นวงที่ผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ไม่ได้มีเหตุผลเยอะ แต่ถ้าถามถึงเหตุผลก็ต้องมาค้น ตอนแรกชอบฟังเพลงเขาเฉยๆ เพลงสนุกดี เป็นวงดนตรีที่เล่นสดดี เฟิร์สก็ร้องเพลงเก่งมาก แต่ว่าเนื้อเพลงในอัลบั้มที่ผมมาฟังแทบทุกเพลง คือ ในอัลบั้ม Grey ของ Slot Machine แล้วเพลงที่สะดุดใจผมที่สุดก็คือ “เพลงฝัน” เป็นเพลงที่ผมบอกเลยว่า ผมฟังแล้ว ผมร้องไห้นะ เหมือนมีคนมาบอกว่า ถ้าเรามัวแต่ฝัน ฝันอย่างเดียว แต่ว่าไม่ได้ลงมือทำมันก็ไม่มีความหมายอะไร แล้วที่ลึกไปกว่านั้นผมคุยกับ พี่เฟิร์ส (นักร้องนำ) มาว่า ผมตีความเพลงถูกรึเปล่า? ผมตีความเพลงไว้ประมาณว่า ถ้าเกิดสมมุติเรามัวแต่ฝัน แล้วมันก็จะมีแต่ความเพ้อฝันแบบไม่มีวันสิ้นสุด แล้วก็สุดท้ายแล้ว เราก็จะต้องมาเสียใจ เพราะเราก็จะอยู่แต่ในโลกแบบนั้น ถ้าเราไม่ได้อยู่กับความเป็นจริง แล้วถ้าเกิดสิ่งที่สำคัญก็คือว่า เป็นการตีความฝันในแบบที่คนเวลาบอกว่าเราต้องมีความฝัน มันจะนึกถึงว่า การประสบความสำเร็จ การได้ถ้วยรางวัล การได้ที่ 1 หรือมีความฝันว่าจะต้องไปทำอะไรสักอย่าง แต่ฝันในนี้ หมายถึงว่า ถ้าเกิดมัวแต่ฝันก็จะมีแต่ความทุกข์ เพราะไม่ได้อยู่กับความเป็นจริง เฟิร์สเขาก็บอกว่า ใช่แล้วครับพี่ ซึ่งในเนื้อเพลง เขาก็แทรก Message ไว้แหละว่า สุดท้ายแล้วก็คือ “หากเธอไตร่ตรองทุกอย่าง ชีวิตก็คงสว่างและพบหนทางที่เธอตั้งใจ แต่อาจเป็นเพียงฝันไป ถ้าไม่ซึ้ง ซึ่งความหมาย ถ้าสุดท้ายไม่มีคำว่าพอ” มันก็เลยเหมือนเป็นการตีความเพลงฝันที่ฟังแล้วรู้สึกว่า มันดีจังเลย ให้เห็นอีกมุมนึงบ้าง”

8. เธอคือเรื่องจริง (ใคร) – POTATO

“เพลงนี้เป็นเพลงที่ 7 ใน อัลบั้มชุดที่เจ็ด ของวง POTATO ชื่อเพลงว่า “เธอคือเรื่องจริง” แล้วก็วงเล็บ (ใคร) สำหรับผมถ้าให้จัดอันดับว่าชอบเพลงไหนที่สุด จะชอบเพลงนี้เป็นอันดับที่ 1 ในอัลบั้ม เป็นเพลงที่ถูกทำไว้ร้องเก็บไว้เมื่อ ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว จริงๆ อยากร้องใหม่ แต่ พี่หั่งที่เป็นโปรดิวเซอร์และมือกีต้าร์ ได้บอกว่า ร้องยังไงก็ดูประดิษฐ์ แต่แบบนี้เขาเรียกว่ามันสดกว่า ความหมายของเพลงก็คือ ตอนที่เราทำเพลง ผมจะชอบไกด์เป็นทำนองลงไปด้วย แล้วการไกด์ทำนองจะไกด์เป็นทำนองภาษาไทย คือจะเป็นคำไทย ตอนนั้นมันมีคำว่า “ความสวยงามบนความโหดร้าย” โผล่ขึ้นมา แล้วถูกเอาไปขยายความทั้งหมดว่า ทุกวันนี้ต่อให้เราแก้ปัญหาอะไรสำเร็จแล้ว เราก็ต้องเจอปัญหาต่อไป ปัญหาใหม่ๆ มันจะเกิดขึ้นเสมอ เราก็พยายามมองให้เห็นจุดขาวในกระดาษสีดำดีกว่า มันก็เหมือนเราเดินอยู่บนกองขยะกองหนึ่งที่มันจะดูเครียด ดูอึดอัดหน่อย ขยะที่ว่า หมายถึง ความรู้สึกขยะในใจเรา แล้วอยู่ดี ๆ เราก็ไปเห็นดอกไม้ดอกนึงที่มันบานขึ้นมาท่ามกลางขยะกองนั้น แล้วเราก็มองว่า ดอกไม้ดอกนี้ แหละจะเป็นสิ่งที่นำพาเราไปสู่หนทางต่อไป เหมือนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว “เหมือนเธอคือเรื่องจริง” หมายถึงว่า เราอาจจะมีความฝันเยอะมากมาย มีเรื่องที่เราอยากจะไป มีเป้าหมายที่อยากจะทำ แต่ว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นอยู่จริงๆ ที่อยู่ข้างหน้า ก็คือ เธอ แล้วเธอคนนี้ก็คือ คนฟังเพลง ก็คือ แฟนเพลง ที่เหมือนเป็นคนคอยสะกิดเรา Underline ของเพลงนี้มาจากเรื่องพวกนี้ ตอนที่เราไกด์เพลงนี้ เราขึ้นต้นว่า ใครที่จะเข้าใจบางสิ่งกับหัวใจที่ฉันมีเคยถูกทำร้าย…. แค่นั้นเอง เราก็เลยเอาเพลงนี้เลยละกัน แต่พอร้องเพลงเสร็จ มัน งง อ่ะ ใครสักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน ใครมันงง ก็คุยกันเอาอย่างนี้ดีกว่า เอาชื่อเพลง เธอคือเรื่องจริงดีกว่า เข้าใจง่ายกว่า แล้วก็ค่อยวงเล็บว่าใคร

(ความรู้สึกที่ถูกอัดไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ตอนนี้ได้ออกมาสู่ทุกคนแล้ว) รู้สึกยังไงดีน้า ผมพยายามจะอธิบาย ยังไงก็อธิบายไม่ถูก คือมันก็เป็นความดีใจ มีความปีติ มีความอิ่มเอม คือเป็นเพลงที่ทุกครั้งเวลาผมฟัง เวลาเหนื่อย เป็นเพลงที่ยังใช้ฟัง เป็นเพลงตัวเองที่ฟังแล้วไม่เขิน เอางี้ละกัน สำหรับใครที่แบบรู้สึกว่า กำลังแย่ หรือว่ากำลังเหนื่อยกับ ชีวิตบ้าง การทำงาน ความรักบ้าง ผมว่าลองหาข้อดีในข้อเสียให้เจอ ยังไงในเลวมันต้องมีดีสักเรื่องนึง”

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

9. ไปเถอะ (Just Go.) – The Parkinson

“เป็นเพลงของพี่ ๆ The Parkinson ชื่อเพลงว่า “ไปเถอะ” เพราะผมคิดว่า Soundtrack of Life อย่างที่บอกก็คงไม่ได้หมายถึงที่ผ่านมาอย่างเดียว ก็หมายถึงที่มันเป็นปัจจุบันด้วย เพราะว่าปัจจุบัน ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมเอาเพลง “ไปเถอะ” เป็นเพลงที่ผมฟังครั้งแรกก็เป็นแฟนวง The Parkinson เหมือนกัน ฟังมาตั้งแต่แรกๆเหมือนกัน เป็นวงที่เล่นก็ดี ร้องก็เพราะ เพลงก็เรียบเรียงดี ฟังวนไปวนมาก็ไม่เบื่อ โดยเฉพาะเพลงนี้สะดุดหูเลย ไม่รู้ทำไม แล้วก็กลายเป็นเพลงที่ผมใช้วอร์มเสียงทุกวันก่อนที่จะเล่นคอนเสิร์ต ก็เปิดเพลงพี่ๆเขาฟัง แต่ไม่ได้เกี่ยวกับความหมาย เพราะว่ามันจะดูแบบอีกฟีลนึง เป็นสิ่งที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว แต่ไม่ค่อยได้เอามาใช้

เพลงนี้ผมว่า ไม่ต้องฟังแบบเอาความเยอะ แต่ฟังเอาความรู้สึกอย่างเดียว มันเพราะ ไม่ต้องหาเหตุผลเลย ฟังกีต้าร์ก็ได้ เบื่อฟังร้อง อยากฟังกลองก็ได้ ฟังเบสก็ได้ คือทุก instrument เขาคือแบบว้าวอ่ะครับ ชอบมาก ชอบเหลือเกิน”

10. อรุณ – POTATO

“คือเพลงนี้บอกเลยว่า กลายเป็นเพลงที่เอาไว้ปลุกใจตัวเอง เวลารู้สึกไม่มีแรง เวลาเหนื่อย เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่มีโอกาสได้ไปเล่นที่เรือนจำที่นครสวรรค์ พอไปเล่นให้กำลังใจให้เขาฟัง เหมือนแบบพี่คนนี้มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ ระหว่างที่พูดคำนี้ อยู่ดีๆก็รู้สึกแล้วก็พูดสวนกลับออกไปทันทีว่า ถ้าเกิดต่อไปถึงผมจะมาให้กำลังใจพี่ๆแค่ไหน แต่พี่ไม่ได้ให้กำลังใจตัวเองมันก็ไม่มีความหมาย ก็คือรู้สึกว่า สุดท้ายแล้วกำลังใจที่สำคัญในวันที่เราอ่อนแอ มันอาจจะต้องเป็นกำลังใจที่มาจากตัวเราเอง มันถึงจะทำให้เราลุกขึ้นเริ่มใหม่ ลุกขึ้นทำอะไรใหม่ๆ ลุกขึ้นมาอะไรสักอย่าง มันก็ต้องมาจากเรานี่แหละที่จะเข้มแข็งที่สุด ผมสังเกตว่า ถึงเราจะมีเพื่อนที่บอกกับเราว่าสู้ๆนะ เราก็รู้สึกดีนะ แต่สุดท้ายเราก็รู้สึกว่า เราฮึดขึ้นมา ทุกครั้งที่เราฮึดเอาจริงๆ มันก็มาจากข้างในของเราเอง มันก็เลยเป็นเหตุผลที่เลือกเพลงนี้ เพราะว่าเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่ทำเพลงแรกของอัลบั้มชุดที่เจ็ดด้วย ตอนที่เข้าห้องซ้อมกัน แจมเพลงกันครั้งแรก ดนตรีเกิดขึ้น คือ เพลงนี้ “อรุณ” เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ พระอาทิตย์ขึ้นใหม่

เพลงนี้อัดร้องใหม่ เป็นเพลงที่ดนตรีอัดกันไว้พร้อมกันประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ทำ โครงดนตรีกันไว้ แต่ว่ามันเป็นดนตรีที่ยาวมาก ค่อยมาตัดให้อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ Content ของเนื้อเพลง มันมาจากช่วงเวลาที่ตอนที่เรารู้สึกว่า เราจะต้องรวมอัลบั้ม โอเคเราจะได้ออกอัลบั้มแล้ว งั้นเราก็ไปเอาสิ่งที่เราอยากให้อยู่ในอัลบั้มนี้ เอามาจัดการให้มันเรียบร้อย เพลงนี้เป็นหนึ่งเพลงที่ทุกวันนี้ก็ยังเปิดฟัง การหามุมมองบางอย่างให้เจอมันก็ทำให้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตเรามันคลี่คลายขึ้น เพราะเดี๋ยวมันก็ต้องไปเจอกับสเต็ปต่อๆไป”

พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข

เต็มอิ่มกับตัวตนของศิลปินที่คุณชื่นชอบ ได้ในช่วงเวลาพิเศษ Goodtime Soundtrack of Live ครั้งต่อไปพบกับ ศิลปินหญิงมากความสามารถ “ดา เอ็นโดรฟิน” พร้อมรับชมภาพการบอกเล่าแบบสด ๆ ที่ www.goodtimeradio.fm , ทางแอปพลิเคชัน Goodtime 98.5 FM และ Facebook Live : Goodtime Radio


 

‘ชีวิตคุณไม่ได้มีแต่งาน ออกไปปาร์ตี้คืนนี้อาจได้คนรู้ใจ’ ดูดวงรายวัน 4 พฤษภาคม 2562

ดูดวงรายวัน 4 พฤษภาคม 2562 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  คุณอาจได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับการประนีประนอม หรือการต่อรอง ซึ่งคุณตั้งความหวังสูงเสียด้วยว่าจะต้องชนะ แต่ระวังจะมีปัญหาให้คุณต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ร้ายหน่อยก็อาจถูกใส่ร้ายจนกลายเป็นคดีความ ทางที่ดีคุณควรหารุ่นน้องฝีมือดี ไฟแรงมาช่วยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

การเงิน :  วันนี้ไม่ควรค้ำประกันเงินกู้ หรือทำสัญญากู้ยืมเงินแทนบุคคลอื่น คุณอาจต้องรับผิดชอบหนี้สินแทน

ความรัก : ใกล้เปิดเทอมแล้ว วันนี้จึงอาจต้องคุยกันยาวเรื่องของบุตรหลาน หรือสมาชิกในครอบครัวด้วยเรื่องของการศึกษา พยายามคุยกันด้วยเหตุผลนะคะ เพราะดูทรงแล้ว อาจคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะคุณทิฐิสูง คนโสด กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักเลยทีเดียว คราวนี้เป็นคุณหนูเอาแต่ใจเสียด้วย

สุขภาพ : ทานแคลเซียมเสริมบ้างนะคะ เพราะกระดูกเริ่มมีปัญหา

                                                                        

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน :  คุณกำลังเริ่มต้นคิดหรือลงมือทำอะไรบางอย่างที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ และท้าทายความสามารถในระยะอันใกล้นี้ หากเป็นงานที่ใช้คำพูดหรือวาทศิลป์ เกี่ยวกับพีอาร์ประชาสัมพันธ์คุณจะทำได้ดี แต่ก็ต้องทำใจ เพราะไม่สามารถไปขอความเห็นใจจากใครได้ คงต้องทำคนเดียว

การเงิน :  ทำงานได้เงินมา ไม่หมดไปกับการซื้อความสุขให้ตัวเอง ก็ต้องจ่ายให้คนอื่นหมด วันนี้ระวังถูกคนใกล้ตัวหลอก

ความรัก : อาจกำลังเข้าสู่ช่วงเบื่อหน่าย คุณเองก็มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ  จนคู่ขอแยกไปอยู่ห่างๆ ช่วงนี้ปล่อยเขาไปค่ะ เพราะไม่ว่าคุณจะอ้อนวอนอย่างไรเขาก็ยังไม่กลับมา คนโสด อาจได้พบเนื้อคู่ที่ถูกใจ ประมาณชายในฝัน แต่อย่าเพิ่งทุ่มจนหมดใจ เพราะเมื่อคบกันแล้ว เขาไม่เหมาะสมกับคุณในทุกๆ ด้าน

สุขภาพ  : นัดทันตแพทย์ได้แล้วค่ะ เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ หลอดลม และปอด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : คุณกำลังอยู่ในช่วงเตรียมข้อมูลอย่างหนัก เพื่อนำไปใช้ในงานที่เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคาร หรืองานช่างทุกประเภท ก็ไม่เสียแรงที่ทำการบ้านมาอย่างหนัก เพราะวันนี้คุณเต็มไปด้วยพลังความรู้และความสามารถ จนเพื่อนร่วมงานและลูกน้องให้การยอมรับ

การเงิน : รายได้หลักมาจากงานประจำ แต่วันนี้อาจมีรายได้พิเศษจากอสังหาริมทรัพย์

ความรัก :  คุณโชคดี ได้คู่ที่คอยช่วยเหลือและเติมเต็มความสมบูรณ์ในชีวิต และสนับสนุนหน้าที่การงานและความสำเร็จให้กับตนเองและครอบครัว คนโสด คุณสวยและรวยเสน่ห์ รักใครรักจริง  วันนี้เห็นผู้ใหญ่กำลังนัดเดทต่างชาติสูงวัยให้อยู่นะ

สุขภาพ :  ระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายอาจมีปัญหา ทำให้เกิดเหน็บชา รวมถึงความดัน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  วันนี้คุณต้องใช้ความรู้ความสามารถค่อนข้างสูง และการบริหารการจัดการ รวมถึงเซ้นส์ ในการพลิกแพลงกลยุทธ์ เพราะคุณอาจกำลังถูกทาบทามจากครอบครัว หรือคนรู้จักให้เข้าไปช่วยงานเพิ่ม

การเงิน : ผันผวนขึ้นลงตลอดเวลา หาเงินเก่ง แต่ก็ใช้เก่งเช่นกัน ควรเก็บออมไว้บ้าง

ความรัก :  คู่สามารถส่งเสริมหน้าที่การงานให้คุณเป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งคุณก็ทุ่มเทให้กับความรักค่อนข้างมาก แสดงความเป็นเจ้าของสูง จนวันนี้อาจมีประเด็นเรื่องหึงหวงตามมา   คนโสด  คุณกำลังอยู่ในห้วงสิเน่หานะคะ หลงเสน่ห์เด็กๆ จนไม่สนใจเรื่องอื่นใดเลย

สุขภาพ : ระวังโรคประจำตัวด้วยนะคะ อาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หากคุณทำงานอยู่ในแวดวงศิลปะทุกแขนง วันนี้ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต้องสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว แต่เส้นทางสายนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยังต้องมีปัญหาให้คุณต้องแก้ไขตลอดเวลา ควรหาเพื่อนที่รู้ใจมาช่วยคิดช่วยทำก็จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณไปได้อีกเยอะ

การเงิน :  จะได้ผู้ใหญ่อุปถัมภ์อย่างสม่ำเสมอ แต่หากใครมาขอให้ค้ำประกันให้ ก็อย่าเชียวนะ คุณอาจต้องรับภาระใช้หนี้แทน

ความรัก : คุณมีความเป็นผู้นำสูง ทั้งงานนอกบ้านและงานในบ้าน เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบจึงทำให้คุณเชื่อมั่นในตัวเองสูง เวลามีปัญหาคุณมักคุมตัวเองไม่อยู่ อาจเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตรักไม่ยั่งยืน คนโสด มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอย่างมาก เรียกว่าไลน์รัวๆ ตลอด แต่ก็ระวังตาลาย เลือกในสิ่งที่ไม่ใช่มานะคะ

สุขภาพ  : วันนี้ไม่เตือนไม่ได้แล้ว ระวังออกเดทบ่อย น้ำหนักอาจเกินมาตรฐานนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ปล่อยวางบ้างก็ได้ค่ะ อย่าเคร่งเครียดกับการทำงานนักเลย เพราะอาจทำให้คุณหลงเข้าไปพัวพันกับงานที่ไม่ใช่ตัวคุณ จึงควรเลือกเฟ้นบริวารที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงาน จะได้ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้งานประสบความสำเร็จ

การเงิน : ความที่คุณคร่ำเคร่งที่ตัวงาน จนไม่สนใจผลตอบแทน ระวังจะถูกหลอกใช้ให้ทำงาน ความรัก : ช่วงนี้คุณให้ความสำคัญกับเรื่องงานเป็นหลัก จนไม่ได้สนใจชีวิตประจำวัน รวมถึงให้เวลากับครอบครัว เพราะฉะนั้นคู่จึงต้องทำหน้าที่เติมเต็มสิ่งที่หายไป  คนโสด แบ่งเวลาให้ดีนะคะ เพราะชีวิตไม่ได้อยู่ที่งานอย่างเดียว วันนี้ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงบ้าง อาจได้เจอคนรู้ใจก็ได้

สุขภาพ : อย่าประมาทในการใช้ชีวิตประจำวันมีโอกาสได้รับบาดเจ็บได้โดยไม่รู้ตัว

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  คุณอาจต้องอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักหน่วงหรือมีเนื้อหาค่อนข้างละเอียด และวุ่นวาย แทนเด็กรุ่นน้องที่ทำงานแบบเอาแต่ใจตัว ซึ่งผลจากการกระทำของเขา ที่สุดแล้วก็อาจต้องปิดจ็อบก่อนเวลาที่ควร

การเงิน : อย่าหลงเชื่อคำพูดที่หว่านล้อมชักชวนให้ลงทุนหรือร่วมหุ้นใดๆ เพราะคุณจะเสียผลประโยชน์

ความรัก : ประเด็นที่คุณกับคู่อาจยังคุยค้างกันอยู่ในเรื่องของบุตรหลาน บริวาร หรือคนในครอบครัว วันนี้จบแบบไม่สวย คนโสด วันนี้ไม่ใช่วันของคุณ เพราะต่อมหึงหวงคุณทำงานสูงมากจนอาจต้องเกมโอเว่อร์

สุขภาพ  : ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกายอาจมีปัญหา มีโอกาสเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทาน เลือด และน้ำเหลืองไม่ดี

keyboard_arrow_up