เช็คอิน SCape by HARNN ไลฟ์สไตล์สปาระดับพรีเมียมแห่งใหม่ใจกลางเมือง จุดสร้างสมดุลสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ

Alternative Textaccount_circle

HARNN Wellness & Hospitality กลุ่มธุรกิจสปาและเวลเนสต่อยอดจาก “HARNN” (หาญ) แบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลก ผู้บุกเบิกบอดี้แคร์ สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีแบบออร์แกนิกรายแรกของไทย เปิดตัว ไลฟ์สไตล์สปาระดับพรีเมียมแห่งใหม่ใจกลางเมือง “SCape by HARNN at centralwOrld” เป็นสาขาที่ 3 ภายใต้แนวคิด “Enrich Your Life in the Meaningful Ways” สร้างความสมดุลแก่สุขภาพ ร่างกาย และจิตใจที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของคนเมือง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Beacon

คุณธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทธนจิรา ผู้บริหารแบรนด์หาญ (HARNN) กล่าวว่า SCape by HARNN at centralwOrld เป็นสปาระดับพรีเมียมในเครือ HARNN Wellness & Hospitality ซึ่งเป็นสาขาที่ 3 ต่อจากสาขา EmQuatier และสาขา Central Pinklao โดยสาขาใหม่นี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Enrich Your Life in the Meaningful Ways” สร้างความสมดุลแก่สุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของคนเมือง ที่ต้องการหลบหลีกจากความวุ่นวาย มาค้นพบพื้นที่ส่วนตัวเพื่อคืนความผ่อนคลายให้กับตัวเองได้ง่ายและลงตัวมากยิ่งขึ้น ผ่านสุนทรียแห่งการปรนนิบัติสัมผัสทั้ง 5 ภายใต้บรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนตั้งแต่ก้าวแรกที่สัมผัส

โดยคอนเซ็ปต์การตกแต่งร้าน SCape by HARNN ออกแบบด้วยการใช้เส้นโค้งนำสายตา ช่องว่างบนตัว S ในโลโก้ ถูกดึงมาใช้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่ง ช่วยสร้างความลื่นไหลไปสู่บรรยากาศด้านในห้องทรีตเมนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง ให้ความรู้สึกเงียบสงบราวกับหลุดไปอยู่สถานที่แห่งความผ่อนคลาย โดยเฉพาะโทนสีที่เลือกมาใช้เป็นองค์ประกอบหลัก คือโทนสีธรรมชาติ (Natural Earth) ที่นอกจากจะให้ความรู้สึกรื่นรมย์ใจแล้ว ยังแสดงถึงความร่วมสมัยมากขึ้น

นอกจากนี้ SCape by HARNN ยังโดดเด่นเชี่ยวชาญในศาสตร์ผสมผสานองค์ความรู้ด้านกายภาพบำบัด (Physiotherapy) และ การนวดแบบอโรมาเธอราพี (Aromatherapy) รวมถึงให้ความสำคัญของการนำคุณค่าจากธรรมชาติพร้อมทั้งนวัตกรรมสมัยใหม่รังสรรค์สู่การบริการสปา โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ทรีตเมนต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มการดูแล ได้แก่

“Protect” ด้วยทรีตเมนต์ Urbanista’s SCape ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเมื่อยล้าจากทำงาน ดูแลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ช่วยให้จิตใจสงบและหลับสบายยิ่งขึ้น ถัดมาเป็นกลุ่ม “Beauty” สำหรับผู้ที่่ชื่นชอบการปรนนิบัติผิวหน้า

มาพร้อม SCape Glamour ทรีตเมนต์สูตรเฉพาะของ SCape by HARNN ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก คืนความสมดุลให้ผิวกระชับแลดูอ่อนเยาว์ และกลุ่ม “Office” มุ่งเน้นแก้ปัญหาของคนวัยทำงานโดยมีทรีตเมนต์ Desk Dwellers ด้วยศาสตร์แห่งการบำบัดและผ่อนคลายไปกับการนวดคอ แขน นิ้ว บ่า ไหล่ เพื่อลดการปวดเมื่อย ปิดท้ายด้วยกลุ่ม “Fit” กับ SCape Sphere ทรีตเมนต์ใหม่ล่าสุดที่สร้างขึ้นมาตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการออกกำลังกาย ด้วยการนำเทคนิคความเย็น (Cryotherapy) มาช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ สลับกับการนวดกดจุดที่เน้นน้ำหนัก

ไม่เพียงแค่ Signature Treatment แต่ที่ SCape by HARNN ยังประกอบไปด้วยทรีตเมนต์ Specialty Massage ซึ่งเป็นการนวดใช้น้ำมันอโรมาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการนวดไทย ได้แก่ Slow Life, Inner Balance, Thai Stretching และ Muscle Relieve หรือแม้แต่การดูแลผิวหน้า เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวกับ Restorative Facial หรือเพิ่มความกระจ่างใสด้วยทรีตเมนต์ Brightening Facial พร้อมความพิเศษกับกลุ่มทรีตเมนต์ Grab & Go ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจคนที่มีเวลาน้อยด้วยโปรแกรมเริ่มต้นที่ 30 นาทีที่สามารถแวะมาผ่อนคลายได้ระหว่างวัน อาทิ Foot Reviver นวดเท้า Happy Crown นวดศีรษะ และ Facial Espresso สครับผิวหน้าและผิวกาย

SCape by HARNN at centralwOrld ประกอบไปด้วยบริเวณสำหรับพักผ่อน เพื่อรอทำทรีตเมนต์ หรือรับประทานของว่างหลังทำทรีตเมนต์แบบส่วนตัว, บริเวณสำหรับนวดเท้า และ ห้องทรีตเมนต์แบบ ไพรเวทจำนวน 3 ห้อง พร้อม 1 ห้องคู่ ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มากไปกว่านั้นยังมีการจัดสรรพื้นที่พิเศษภายในบริเวณด้านหน้าของสปา สำหรับทำกิจกรรมเวิร์กช็อปพิเศษ เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Enrich Your Life in the Meaningful Ways” โดยประเดิมกิจกรรมแรกด้วย Aromatic Perfume Roller สำหรับผู้ที่มาใช้บริการ Signature Treatment ให้สามารถเลือกปรุงกลิ่นน้ำหอมในสไตล์ของคุณเอง จากกลิ่นยอดนิยม 3 กลุ่มอย่าง Rejuvenate, Relax และ Restore ที่นอกจากให้ความหอมแล้ว ยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้ ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่มีเฉพาะที่ SCape by HARNN at centralwOrld ที่เดียวเท่านั้น

พบช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายและรื่นรมย์ไปกับบริการที่เป็นเอกลักษณ์ จาก SCape by HARNN ได้ที่ ศูนย์การค้า CentralwOrld ชั้น 1 โซน Beacon, ศูนย์การค้า EmQuartier ชั้น 1 อาคาร The Waterfall Quartier และศูนย์การค้า Central Pinklao ชั้น 1 โซน C พร้อมสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook: @harnnwellnessandhospitality, LINE: @HARNN คลิก https://lin.ee/xntdZ46 หรือ www.harnnhospitality.com


สวยแบบลักซ์ชูรี่ Happening ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ แฮร์แอนด์เนล สปา แห่งใหม่ล่าสุด

Alternative Textaccount_circle

Happening ร้านทำผมและทำเล็บ เพื่อความงามและความผ่อนคลาย จัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งความสำเร็จในการเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อความงามที่สาวๆ ให้ความไว้วางใจ พร้อมเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ แฮร์ แอนด์ เนลสปา แห่งใหม่ล่าสุด Happening Relaxing Hair & Nail Spa ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้า ดิเอ็มโพเรียม ที่จะมามอบประสบการณ์ใหม่
ในการปรนนิบัติเส้นผมและเล็บด้วยบริการที่ผสานสุนทรียศาสตร์เพื่อความงามและความเพลิดเพลินผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 งานนี้เหล่าคนดังให้ความสนใจร่วมรับบริการ อาทิ พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์, พลอยพยัพ ศรีกาญจนา, พิมพ์เลิศ ใบหยก, มิลิน ยุวจรัสกุล, นภัสสร บุรณศิริ, ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา, ปฏิญญา เกี่ยวข้อง, กรวรรณ หลอดสันเทียะ

Happening ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ แฮร์แอนด์เนล สปา แห่งใหม่ล่าสุด

จากจุดเริ่มต้นจากร้านทำเล็บชื่อดังสุดฮิตในใจสาวๆ ย่านทองหล่อ ที่โดดเด่นด้วยบริการสปามือเท้าสุดผ่อนคลายด้วยหลากหลาย ผลิตภัณฑ์ชั้นนำและดีไซน์เล็บนำเทรนด์ Happening ได้เพิ่มบริการด้านผมในปี 2020 ซึ่งมีซิกเนเจอร์เซอร์วิส คือ บริการสปาผมและหนังศีรษะที่มอบที่สุดของความผ่อนคลายภายในห้องดูดาว พร้อมให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ผมชั้นนำ Hand picked โดยผู้เชี่ยวชาญ

และในปีนี้ที่ Happening เดินทางสู่ความสำเร็จเป็นปีที่ 10 ทางแบรนด์เตรียมมอบประสบการณ์ใหม่ในการดูแลทั้ง
เส้นผมและเล็บ กับการเปิดตัวเอ็กซ์คลูซีฟ แฮร์ แอนด์ เนล สปา ซึ่งยังคงตอกย้ำจุดเด่นในการมอบความผ่อนคลายในทุกบริการ พร้อมนำเอาความเชี่ยวชาญทั้งด้านผมและเล็บมาให้บริการในพื้นที่เดียว ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งประสบการณ์และพลังความสร้างสรรค์เพื่อมอบการดูแลอีกระดับให้กับทุกความต้องการเรื่องความงาม โดย Happening ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ Paul Mitchell ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม, Gelly Fit แบรนด์ยาทาเล็บชั้นนำจากเกาหลี และ Dr.Spiller แบรนด์สกินแคร์คุณภาพสูงที่มาช่วยออกแบบบริการสปามือเท้าให้มีความละเมียดละไมมากยิ่งขึ้น

ด้วยความใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน Happening Relaxing Hair & Nail Spaแห่งใหม่ ณ ศูนย์การค้า ดิเอ็มโพเรียม ได้นำเอาเรื่องราวของประสาทสัมผัสทั้ง 5 หรือ 5 Senses มาเป็นหัวใจสำคัญในการให้บริการ โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบบรรยากาศเพื่อให้ความรื่นรมย์ทางสายตา (Sight) การคัดสรรเพลงเพื่อสร้างสงบและปลอดโปร่ง (Hearing) การออกแบบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เพื่อสร้างความทรงจำถึงสถานที่ที่ประทับใจ (Scent) การดูแลด้วยเวลคัมดริงก์และขนมหวานจากมินิบาร์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งทำสวยที่บ้านเพื่อน (Taste)

นอกจากนั้น ในวันงานครบรอบยังให้บริการด้วย SHOTT REAL FRUIT & NATURAL FLAVOURS ไซรัปสกัดจากผลไม้แท้ๆ และไอศกรีมจาก MÖVENPICK และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือทุกๆ การสัมผัสที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีของ Happening Relaxing Hair & Nail Spa แห่งนี้ (Touch) เป็นการเตรียมร่างกายให้เบาสบายและพร้อมสำหรับการรับ
บริการอย่างผ่อนคลายที่สุด สำหรับบริการใหม่ซึ่งเป็น Signature ของสาขานี้ คือ Ultimate Happening Relaxing hair & scalp treatment with FlowerFall เป็นการผสมผสานการทำทรีทเมนท์เพื่อมอบทั้งความสะอาด เงางาม และการบำบัด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน

โดยเริ่มจากการทำความสะอาดหนังศรีษะและบำรุงเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์Awapuhi Wild Ginger จาก Paul Mitchell ที่มีขั้นตอนบำรุงผมด้วย Keratriplex และ Hydratriplex เพื่อช่วยให้ผมทั้งแข็งแรง นุ่มสลวย และอวบอิ่ม พร้อมเสริมการปรนนิบัติเส้นผมและศีรษะด้วยกลิ่นบำบัด โดยใช้เครื่อง Hydro Dhara หยดน้ำมัน essential oils ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 กลิ่นน้ำลงบนศีรษะ เพื่อสร้างความผ่อนคลายและเติมเต็มการบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น

Happening Relaxing Hair & Nail Spa เอ็กซ์คลูซีฟ แฮร์ แอนด์ เนล สปา แห่งใหม่ล่าสุด ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้า ดิเอ็มโพเรียม พร้อมให้บริการแล้ว สามารถติดตามอัพเดทความงามของ Happening ได้ทาง Instagram @Happeningnailhairspa และ @Happeningemporium


ไอเท็มดับร้อนที่คนคูลๆ และสายแคมป์ปิ้งต้องมี ‘แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley’

Alternative Textaccount_circle

หลังจากที่แคมเปญโฆษณา “Chang Cold Brew Cool Club เปิดโลกความชิลให้คูล” ออกอากาศไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สิ่งที่หลายคนโฟกัสนอกจาก 2 พรีเซนเตอร์หนุ่มหล่อมาดคูลอย่าง “ไบร์ท วชิรวิชญ์” และ “เฟย ภัทร” แล้ว “แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley” ที่ทั้งสองคนถือตอนไปแคมป์ปิ้ง ก็โดดเด่นเข้าตาหลายๆ คน จนต้องตามหาและซื้อมาใช้อีกด้วย เรียกว่าเป็นไอเท็มที่ตอบโจทย์ความชิลของคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์คูลๆ จริงๆ แค่เดือนเดียวของในร้าน Lazada: Chang Cold Brew Cool Club ก็ขายดีจน Sold out ไปถึง 3 รอบ

สำหรับ “แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley” เป็นแก้วที่ Chang Cold Brew Cool Club – คลับที่รวมตัวของคนคูลที่ชอบทำกิจกรรมชิลๆ และชอบเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยกันกับแก๊งเพื่อน คอลแลปส์กับ Stanley แบรนด์ Outdoor Lifestyle ชื่อดัง ผู้ผลิตแก้วมัคเก็บความเย็นยอดนิยมระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้เป็นไอเทมที่สายแคมป์ปิ้งและเอาท์ดอร์ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์ไหน ก็สามารถอัพเลเวลการดื่มให้ได้อารมณ์ชิลและคูลไปพร้อมกัน

ร้อนนี้บอกเลยว่าต้องจัดอย่างไว ตามไปที่นี้ได้เลย FB: Chang Cold Brew Cool Club หรือ Lazada: Chang Cold Brew Cool Club โดย “แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley” มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่

  • แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley (รุ่นมีฝา) ราคา 1,550 บาท สามารถเก็บความเย็นได้ยาวนาน เหมาะกับสายแคมป์ปิ้งหรือสายท่องเที่ยว
  • แก้วมัคเก็บความเย็น Chang Cold Brew Cool Club x Stanley (รุ่นไม่มีฝา) ราคา 1,150 บาท
    เหมาะสุดๆ สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งสายชิลกับเพื่อนที่บ้านหรือสายชิลในที่ทำงาน

พบไอเท็มคอลแลปส์อีกมากมาย ที่จะพาไปเปิดโลกความชิลให้คูล จาก Chang Cold Brew Cool Club
ได้เร็วๆ นี้ ติดตามได้ทาง FB: Chang Cold Brew Cool Club


ชวนสัมผัสโฉมใหม่ Yogibo Flagship Store ทองหล่อ 13 ที่สุดแห่งความนุ่มสบายอย่างมีสไตล์

Alternative Textaccount_circle

Yogibo (โยกิโบ) พรีเมี่ยมโซฟาอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีสาขามากถึง 100 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น ปรับโฉมใหม่! แฟล็กชิป สโตร์ ใจกลางทองหล่อ 13 ชูคอนเซ็ปต์ “Discover The Feel” สัมผัสความรู้สึกใหม่กับ Yogibo ชวนคนรักบ้านมาสร้างอินสไปเรชั่นตกแต่งบ้านตามสไตล์ของตัวเองให้สนุกยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่น และทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว พร้อมเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด “Yogibo Disney Mickey & Friends และ Disney Pixar Toy Story” ครั้งแรกของการ collaboration กันอย่างลงตัวระหว่าง Yogibo x Disney โดยมี แป้ง-อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, ฝ้าย-สุภาพร มะลิซ้อน และ ดัช-ณัฐกิจ แตงไทย ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความนุ่มสบายอย่างมีสไตล์

คุณภัทร ณรงค์ชัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายแบรนด์และการตลาด บริษัท ทีดีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ Yogibo (โยกิโบ)

ล่าสุด ทางแบรนด์ได้รีโนเวท Yogibo Flagship Store ที่ทองหล่อ 13 ให้มีความโคซี่ โล่ง โปร่ง สบายมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับขบวนสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่กำลังทยอยเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีความหลากหลายและตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ตรงกับสินค้าด้วยตนเอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Discover The Feel’ สัมผัสความรู้สึกใหม่กับ Yogibo พร้อมยืนหนึ่งความเป็น ‘Awesome Furniture!’ ที่มอบอินสไปเรชั่นในการตกแต่งบ้านให้สนุกยิ่งขึ้น เพราะเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของ Yogibo สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามสไตล์ ปรับเปลี่ยนตามอารมณ์ในแต่ละช่วง และยังรวมถึงการใช้งานที่สามารถใช้ได้หลากหลายฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ทุกแอคทิวิตี้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการ collaboration กันอย่างลงตัวระหว่าง Yogibo x Disney ที่ดึงเอาคาแรคเตอร์เด็ดขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ตลอดกาล กับการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Yogibo Disney Mickey & Friends และ Disney Pixar Toy Story” โดย Yogibo Disney Mickey & Friends มาพร้อมกับ มิกกี้ มินนี่ โดนัล ดั๊ก ในรูปแบบของ Disney Hugger Disney Bubble Disney Support และ Disney Traybo2.0 และ Disney Pixar Toy Story นำทีมโดย นายอำเภอ วู้ดดี้ บัซ ไลท์เยียร์ และของเล่น เอเลี่ยน มาพร้อมกับ Toy Story Hugger และ Toy Story Traybo2.0

นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว Yogibo ยังเต็มไปด้วยของตกแต่งบ้าน ที่จะเข้ามาช่วยแต่งแต้มสีสัน เติมเต็มความสนุกให้กับบ้านมากยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความสบาย การผ่อนคลายสูงสุด ให้กับตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก

ไม่ว่าจะเป็นหมอนอิง หมอนข้าง หมอนข้างรูปสัตว์หลากหลายแบบ ที่มีการออกแบบฟังชั่นให้เหมาะกับการใช้งาน ร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่สุดแห่งความนุ่มสบายอย่างมีสไตล์ได้ที่ Yogibo Flagship Store ทองหล่อ 13 และอีก 5 สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล วิลเลจ เทอร์มินอล 21 พระราม 3 คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ และ เซ็นทรัล เฟสติวัลเชียงใหม่ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yogibo.co.th และ www.facebook.com/yogibothailand


รองเท้าวิ่ง ตระกูล ADIZERO

เจาะลึก รองเท้าวิ่ง ตระกูล ADIZERO จากอาดิดาส เหมาะกับการวิ่งแบบไหน

Alternative Textaccount_circle
รองเท้าวิ่ง ตระกูล ADIZERO
รองเท้าวิ่ง ตระกูล ADIZERO

หากพูดถึง รองเท้าวิ่ง ระดับตำนานซึ่งสามารถสร้างประวัติศาสตร์และเข้ามาพลิกโฉมวงการวิ่งจากการแข่งขันทั่วโลก หลายคนคงนึกถึงรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติการเป็นรองเท้าเพื่อฝึกซ้อมและแข่งขัน จนสามารถพานักวิ่งระดับอีลิทคว้าแชมป์โลกในรายการวิ่งกว่า 10 รายการ ทำลายสถิติโลกถึง 2 ครั้ง และคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการหลักระดับโลกมากถึง 50% รวมถึงยังทำให้นักวิ่งระดับอีลิทชาวไทย อย่าง สัญชัย นามเขต คว้าแชมป์ในการแข่งวิ่งมาราธอนต่างๆ อาทิ ฮานอย ฮาล์ฟ มาราธอน 2022 อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2022 และล่าสุดอย่าง บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 ขณะสวมใส่ ADIZERO Adios Pro 3 ในปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

พัฒนาการ ผลงาน ตลอดจนรางวัลมากมายจากทั้งนักกีฬาและชุมชนนักวิ่งตลอด 19 ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนผลลัพธ์แห่งความสำเร็จและการสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือทางด้านกีฬา (Sport Credibility) ที่อาดิดาสทุ่มเทพลังมากว่าหลายทศวรรษเพื่อพัฒนารองเท้าวิ่งที่สร้างนิยามใหม่ของคำว่าความเร็วให้เกิดขึ้น จนทำให้ชื่อเสียงของตระกูล ADIZERO เป็นที่เลื่องลือในวงการวิ่งทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ 

รองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ได้กลายมาเป็นคู่หูสุดเพอร์เฟกต์สำหรับนักวิ่งผู้ทะเยอทะยาน เหมาะสำหรับทั้ง ใช้ซ้อมเพื่อการแข่งขัน (TRAIN TO RACE) และใช้ในวันแข่งขันชิงชัย (RACE TO WIN) โดยในปีนี้ก็กลับมาสร้างตำนานอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวเฉดสีใหม่สุดร้อนแรงอย่าง Solar Red และ Coral Fusion เพื่อเพิ่มสีสันและพลังให้กับนักวิ่งทุกคน

รองเท้าวิ่งสายทำความเร็ว: สำหรับวันแข่งขันเพื่อชิงชัยชนะ (RACE TO WIN)

รองเท้าวิ่งกลุ่มนี้ถูกออกแบบอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี LIGHTSTRIKE PRO ที่สามารถรองรับแรงกระแทกและส่งพลังงานคืนกลับไปได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นรองเท้าชั้นนอกด้วยยาง Continental™ ที่มีคุณสมบัติช่วยยึดเกาะพื้นผิวทุกรูปแบบได้ดีแม้ในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ทำให้สามารถซัพพอร์ตการวิ่งทำความเร็วได้ยอดเยี่ยมและช่วยให้นักวิ่งพุ่งทะยานสู่ชัยชนะได้อย่างเต็มสูบ โดยรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วในตระกูล ADIZERO ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย ดังนี้

ADIZERO ADIOS PRO 3 – รองเท้าวิ่งสายทำความเร็วรุ่นเรือธงของตระกูล ADIZERO ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการวิ่งในปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยการช่วยคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการหลักระดับโลกถึง 3 รายการ ภายในเวลาเพียง 5 เดือนหลังเปิดตัว ทั้งนี้ ADIZERO ADIOS PRO 3 ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักวิ่งสามารถทำความเร็วได้อย่างสูงสุดด้วยการวาง ENERGYRODS 2.0 แท่งคาร์บอนชิ้นเดียวตามแนวกระดูกฝ่าเท้าเพื่อมอบความแข็งแกร่งและส่งคืนพลังอย่างเต็มขั้น จำหน่ายในราคา 8,000 บาท

A pair of red and white sneakers

Description automatically generated with medium confidence

ADIZERO TAKUMI SEN 9 – รองเท้าวิ่งที่ทำลายสถิติโลกมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการคว้าชัยชนะในการแข่งขันวิ่งทำความเร็วระยะสั้นตั้งแต่ 5 – 10 กิโลเมตร จำหน่ายในราคา 6,500 บาท

ADIZERO ADIOS 7 – รองเท้าวิ่งสายทำความเร็วน้ำหนักเบา ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการวิ่งในรูปแบบฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร) มาพร้อมกับส่วนรับแรงกระแทกที่เบาและคืนตัวได้เป็นอย่างดี รวมถึงแกน torsion ที่ช่วยถ่ายเทแรงในทุกย่างก้าว (สี Solar Red และ Coral Fusion ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย)

A pair of red and white shoes on a road

Description automatically generated with low confidence

ADIZERO PRIME X STRUNG – รองเท้าวิ่งรุ่นแรกในตระกูล ADIZERO ที่นำเทคโนโลยี STRUNG มาใช้ในส่วนอัปเปอร์ของรองเท้าด้วยการถักทอด้ายเส้นต่อเส้นอย่างพิถีพิถันเพื่อโอบอุ้มเท้าแบบไร้รอยต่อ อีกทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรมแท่งคาร์บอน ENERGYRODS และโฟม LIGHSTRIKE PRO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพถึงขีดสุด พร้อมสำหรับการทำลายสถิติการวิ่งยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา จำหน่ายในราคา 9,400 บาท

รองเท้าซ้อมวิ่ง: สำหรับซ้อมเพื่อการแข่งขัน (TRAIN TO RACE)

รองเท้าวิ่งกลุ่มนี้ถูกออกแบบโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีที่ใช้ในรองเท้าวิ่งสายทำความเร็ว อย่าง โฟม LIGHSTRIKE PRO และพื้นรองเท้าชั้นกลางแบบ LIGHSTRIKE EVA ที่เบาและซัพพอร์ตได้ดี โดยรองเท้าสำหรับซ้อมวิ่งในตระกูล ADIZERO มี 2 รุ่นย่อย ดังนี้

A red and white shoe

Description automatically generated with medium confidence

ADIZERO SL – รองเท้าซ้อมวิ่งที่ออกแบบมาพร้อมเทคโนโลยีเหนือระดับเหมือนที่มีในรองเท้าวิ่งระดับอีลีท แต่มาในราคาที่เอื้อมถึงได้ เพื่อรองรับการซ้อมในทุกรูปแบบ จำหน่ายในราคา 4,500 บาท

A tennis shoe on a red carpet

Description automatically generated with low confidence

ADIZERO BOSTON 11 – รองเท้าซ้อมวิ่งอเนกประสงค์ที่นำเทคโนโลยี ENERGYRODS ของรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วมาประยุกต์ใช้ในพื้นรองเท้าชั้นกลาง ช่วยให้การซ้อมวิ่งในแต่ละวันให้ความรู้สึกเหมือนวันแข่งจริง จำหน่ายในราคา 5,500 บาท

เปเรส เจปเชอร์เชียร์ (Peres Jepchirchir) นักวิ่งหญิงมืออาชีพของอาดิดาส ดีกรีแชมป์โอลิมปิกและเจ้าของสถิติโลกสามสมัยจากเคนยา กล่าวว่า “โดยปกติ ตารางการแข่งขันและความเข้มข้นของการฝึกซ้อมจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์ที่คาดหวัง ทำให้เราจำเป็นต้องมีรองเท้าวิ่งแบบต่างๆ เพื่อรองรับการวิ่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมวิ่งประจำวัน การซ้อมวิ่งแบบ tempo ไปจนถึงการใช้แข่งจริงเพื่อคว้าชัยชนะ ซึ่งรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO สามารถตอบโจทย์การวิ่งรูปแบบต่างๆ ได้อย่างครบครัน”

จากการเป็นตระกูลรองเท้าวิ่งที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนักวิ่งทั่วโลก ทำให้ ADIZERO ได้กลายมาเป็นหมุดหมายสำคัญของอาดิดาส ที่ผู้คนต่างคอยจับตาและเฝ้ามองถึงพัฒนาการความสำเร็จมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อาดิดาสยังคงสานต่อตำนานของรองเท้าวิ่งตระกูลนี้อย่างต่อเนื่องและคงต้องรอติดตามกันว่าในอนาคตอาดิดาสจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาเพื่อทลายขีดจำกัดเดิมๆ ของวงการวิ่งได้อย่างไร

รองเท้าวิ่งคอลเลคชัน SS23 ADIZERO ในเฉดสีใหม่ Solar Red และ Coral Fusion ยกเว้นรุ่น ADIZERO Adios 7 จะวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, LINE Shopping: @adidasthailand, อาริ รันนิ่ง, ซูเปอร์สปอร์ต และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำที่ร่วมรายการทั่วประเทศ


ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

เรียบง่ายตามสไตล์! เปิดกรุ 8 สนีกเกอร์ แมตช์ลุคสบายๆ ฉบับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

Alternative Textaccount_circle
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก

เมื่อพูดถึงนักแสดงที่มีชีวิตประจำวันแสนเรียบง่าย คงนึกถึงใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ ’ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก‘ ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยออกมาเผยถึงความรู้สึกกระเป๋าแบรนด์เนมว่า “ที่เห็นใช้ถุงผ้า เพราะถุงผ้าใส่ของได้เยอะ อีกอย่างเราเป็นคนไม่จัดกระเป๋า ไม่เตรียมตัว ซึ่งถุงผ้ามันก็เก็บได้ครบ นานๆ ทีถึงจะซื้อแบรนด์สักใบ ถ้าชอบจริงๆ’

หากเราไปส่องอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอก็จะพบว่าในวันหยุด เธอก็มักจะแต่งตัวสบายๆ อย่างเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ฮู้ดดี้ หรือแม้จะไปต่างประเทศใบเฟิร์นของเราก็ไปแบบชิลๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่มีไลฟ์สไตล์เรียบง่ายสุดๆ ซึ่งหนึ่งไอเท็มประจำตัวที่ขาดไม่ได้คือ ‘สนีกเกอร์’ ตัวช่วยในการแมตช์ลุคสำหรับวันธรรมดา

เริ่มต้นด้วยคู่แรกแบบแพงๆ กับ CHANEL CC Logo Suede ซึ่งหากไม่ชอบจริงก็คงไม่ซื้อ ราคาเปิดตัวของรองเท้าคู่นี้อยู่ที่ 42,000 บาท แต่ตอนนี้ราคารีเซลพุ่งขึ้นกว่า 60,000 บาทเลยทีเดียว

คู่ที่สองเรียกได้ว่าเป็นคู่โปรดของหลายๆ คนเช่นกันอย่าง Court Classic Leather-Trimmed Logo-Embroidered Distressed Canvas Sneakers จาก Saint Laurent ราคาประมาณ 27,000 บาท

สำหรับคู่ต่อๆ มาราคาก็เริ่มเบาขึ้นกับ Onitsuka Tiger ที่เมื่อเธอได้รับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เราก็จะเห็นรองสนีกเกอร์แบรนด์นี้บ่อยมาขึ้น โดยราคาแต่ละคู่จะอยู่ในหลักพันเป็นส่วนใหญ่

MEXICO 66 ราคา 5,000 บาท
SCLAW ราคา 6,700 บาท

สองคู่สุดท้ายเรียกได้ว่ามาแบบราคาย่อมเยาว์สุดๆ เพาะมาจากแบรนด์ยอดฮิต คุณภาพดี ดีไซน์สวยและไม่ต้องกินมาม่าตอนสิ้นเดือน นั่นคือ Keds ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เด็กๆ นักศึกษาใส่กันเยอะเพราะราคาที่เข้าถึงง่ายนั่นเอง สำหรับคู่นี้ราคาไม่เกิน 3,000 บาทนแน่นอน

SwatchPAY!

Swatch จับมือ KTC พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เปิดตัว SwatchPAY!

account_circle
SwatchPAY!
SwatchPAY!

Swatch จับมือ KTC พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เปิดตัว SwatchPAY! กระเป๋าสตางค์ขนาดกะทัดรัดบนข้อมือคุณ ทางเลือกใหม่สำหรับการใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกๆ ไลฟ์สไตล์

Swatch จับมือ KTC พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เปิดตัว SwatchPAY!

สวอท์ช (Swatch) จับมือ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรเครดิตเปิดตัวสวอท์ชเพย์ (SwatchPAY!) ครั้งแรกในเอเชีย ณ ประเทศไทย พร้อมพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ความสะดวกสบายแบบเหนือชั้นสำหรับการใช้จ่าย ง่ายเพียงการพลิกข้อมือ คุณก็สามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ในทุกที่ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านไดรฟ์ทรู และที่อื่นๆ อีกมากมาย สวอท์ชรักในการสร้างเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจ เพราะกลไกการทำงานของฟังก์ชัน สวอท์ชเพย์ (SwatchPAY!) ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนในตัวเรือนประหนึ่งนาฬิกาธรรมดาเรือนหนึ่ง ให้คุณพร้อมสร้างโมเมนต์เจ๋งๆ อาทิเช่นตอนที่คุณเชคบิลเลี้ยงเครื่องดื่มเพื่อนรอบวงด้วยนาฬิกา

นายกฤษณ์ ภีมะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สวอท์ชเป็นแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี1983 เราไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา ทั้งเรื่องดีไซน์และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยล่าสุดได้เปิดตัว SwatchPAY! ฟีเจอร์ที่สำคัญในนาฬิกาที่ถูกพัฒนามาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ช่วยตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด แต่ยังคงไว้ซึ่งนาฬิกาดีไซน์อนาล็อกอันเป็นเอกลักษณ์ฉบับสวอท์ช และ SwatchPAY! ยังครอบคลุมในหลากหลายคอลเลกชัน เพื่อตอบโจทย์แฟนๆ ของสวอท์ชอีกด้วย”

นายธศพงษ์ รังควร ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและบริหารข้อมูลลูกค้า บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังวิกฤตโควิด-19 พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของสมาชิกปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด โดยสมาชิกคุ้นชินกับการใช้จ่ายแบบไร้สัมผัส หรือ Contactless มากขึ้น เคทีซีถือเป็นผู้นำด้าน Device Pay การร่วมมือกับสวอท์ช เปิดตัวสวอท์ช เพย์ที่เป็นมากกว่านาฬิกา แตะจ่ายสะดวกกับบัตรเครดิตเคทีซีในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของช่องทางการชำระเงินแบบไร้สัมผัสให้กับสมาชิก ซึ่งเคทีซีเน้นเรื่องความปลอดภัยด้วยระบบ Tokenization และรองรับการใช้งานผ่านบัตรเครดิตเคทีซีทั้งวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด นอกจากนี้ เคทีซียังเตรียมสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกระหว่างวันที่ 4 เมษายน 2566 – 30 มิถุนายน 2566 ดังนี้

  1. ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืน 20% พร้อมรับสายคล้องคอจากสวอท์ชมูลค่า 500 บาท เมื่อซื้อนาฬิกาในคอลเลกชันสวอท์ชเพย์ ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า หรือ เคทีซี มาสเตอร์การ์ดทุกประเภท และทำการผูกบัตรฯกับแอปพลิเคชัน สวอท์ชเพย์ ณ ร้านสวอท์ชสาขาที่ร่วมรายการ ภายในวันที่ชำระค่าสินค้า ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ktc.promo/ktcswp
  2. รับคะแนน KTC สูงสุด 3,000 คะแนนตลอดรายการ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าด้วยสวอท์ชเพย์ตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไปต่อเดือน ณ ร้านค้าใดก็ได้ที่มีสัญลักษณ์การชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ktc.promo/visa-swatch-pay

SwatchPAY! ทำงานด้วยกลไกที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรือนนาฬิกาที่รองรับทุกรุ่น ชิป NFC หรือ Near Field Communication เล็กๆ นี้ ทำงานเช่นเดียวกันกับชิปบนบัตรเครดิตทุกใบ ช่วยให้คุณสามารถทำงานชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่นาฬิกาในการทำงาน เพียงแค่นำตัวเรือนนาฬิกาเข้าใกล้เครื่องรูดบัตรเครดิตตอนชำระเงินเท่านั้น โดยจะสื่อสารกับชิปในนาฬิกา SwatchPAY! เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการชำระเงินอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย หากคุณเผลอทำนาฬิกาสูญหาย ไม่ต้องเป็นกังวล คุณสามารถระงับฟังก์ชันการชำระเงินได้ง่ายๆ เพียงการควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น SwatchPAY! บนโทรศัพท์มือถือของคุณ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ถึงระดับความลึก 30 เมตรตามมาตรฐานนาฬิกา
สวอท์ชทุกรุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงชื่อดังพ่วงดีกรีสาวนักช้อปอย่าง คุณจันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย ร่วมแชร์ประสบการณ์บอกเล่าความประทับใจหลังการใช้ SwatchPAY! “การมี SwatchPAY! ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมาก จะใช้จ่ายอะไรก็ง่ายไปหมด เลิกควานหากระเป๋าสตางค์ แบตเตอรี่มือถือหมดก็ไม่กลัวเพราะยังสามารถจ่ายเงินได้อยู่ เพียงแค่พลิกข้อมือก็ชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความมั่นใจให้กับเราอย่างมาก และไม่ต้องเสียเวลากดเข้าแอปพลิเคชัน ช้อปสนุก ใช้จ่ายสะดวกในทุกๆ สถานการณ์จริงๆ”

โดยสวอท์ชมอบทางเลือกในการเปิดใช้งานฟังก์ชัน SwatchPAY! ง่ายๆ 2 ช่องทางในประเทศไทย ซึ่งจะรองรับเฉพาะบัตรเครดิต KTC ในขณะนี้ ผ่านการเปิดใช้งานด้วยตัวคุณเองตามขั้นตอนบนแอปพลิเคชัน SwatchPAY! หรือเปิดการใช้งานด้วยการเข้ารับบริการจากพนักงานสวอท์ชทุกสาขา

SwatchPAY! ครอบคลุมนาฬิกาหลายคอลเลกชันและหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Gent, New Gent, หรือ BIG BOLD คุณคือผู้ออกแบบเวลาของคุณเอง และ SwatchPAY! ช่วยให้คุณสามารถใช้เวลาไปกับสิ่งที่คุณรักได้มากยิ่งขึ้น

สามารถเป็นเจ้าของนาฬิกา SwatchPAY! ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านค้าสวอท์ชทุกสาขา และ swatch.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สาขา หรือช่องทางไลน์ @swatch_th

Facebook: Swatch Instagram: @Swatch_TH


อเวดา จัดกิจกรรม “Aveda Walks For Water” ชวนดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ

Alternative Textaccount_circle

ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่และมุ่งมั่นต่อการรับผิดชอบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมเฉลิมฉลองวาระเดือนแห่งการคุ้มครองโลก อเวดา ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ทรงประสิทธิภาพซึ่งมีภารกิจหลักเพื่อการดูแลเส้นผมพร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษ์โลกด้วยผลิตภัณฑ์วีแกนที่คัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงสานต่อพันธกิจใน การกระตุ้นให้คนไทยได้เข้ามาร่วมมือกันเพื่อการดูแลทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ โดยมีสิงห์ คอร์เปอเรชั่นร่วมเป็นผู้สนับสนุนน้ำดื่มสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยได้จัดกิจกรรม “Aveda Walks For Water” ขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ณ สวนวชิรเบญจทัศ พร้อมชวนผู้คนที่สนใจทั้งในและนอกองค์กร ให้เข้ามาร่วมกิจกรรมเดิน ระดมทุนและรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญ ในการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการน้ำสะอาดให้มีพอเพียงและทั่วถึง โดยกิจกรรมนี้ยังนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์แคมเปญประจำปี Aveda Earth Month ที่ได้มีการระดมทุนตั้งแต่ปี 2542 และได้ระดมทุนกว่า 69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อจัดหาน้ำสะอาดให้แก่ผู้คนกว่า 1.5 ล้านคน และการดูแลรักษาแหล่งน้ำกว่า 2,000 แห่งทั่วโลก

สานต่อพันธกิจเพื่อมอบน้ำสะอาดให้แก่ผู้คนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

เพราะน้ำสะอาดนั้นช่วยให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดีและสร้างความแข็งแรงให้กับชุมชน ผลักดันให้ทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีกำลังและก้าวไปทำสิ่งดีๆ ให้กับโลกได้อีกมาก อเวดาขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนพันธกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแหล่งต้นกำเนิดของน้ำผ่านการร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ จัดทำน้ำสะอาดให้กับชุมชน เริ่มต้นด้วยกิจกรรม “Aveda Walks For Water” ที่ผู้คนทั่วไปที่ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม ได้มาพบกันที่สวนวชิรเบญจทัศหรือสวนรถไฟ เพื่อร่วมระดมทุนและร่วมกันผลักดัน และรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยมีสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ร่วมสนับสนุนน้ำดื่มให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนด้วย

โดยทุกๆ 6 กิโลเมตรของกิจกรรม อเวดายังร่วมบริจาคเพิ่มเติม 200 บาทต่อคน และทำให้ได้ยอดเงินบริจาคจากกิจกรรม “Aveda Walks For Water” รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 27,222 บาท

และตลอดเดือนแห่งการคุ้มครองโลกประจำปี 2566 อเวดายังขอมอบโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจการจัดหาน้ำสะอาดให้แก่ผู้คนทั่วที่ขาดแคลน ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ Botanical Repair™ strengthening leave-in treatment ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ อเวดาจากทั่วโลกจะนำไปสมทบเพื่อร่วมบริจาคให้กับมูลนิธิ Charity Water

Botanical Repair™ strengthening leave-in treatment ทรีทเมนต์บำรุงผมที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ไม่ทำการทดลองในสัตว์ และเป็นผลิตภัณฑ์วีแกน 100% มอบทั้งการดูแลเส้นผมและโลกใบนี้อย่างอ่อนโยน Botanical Repair™ strengthening leave-in treatment สามารถฟื้นบำรุงผมเสีย ป้องกัน และปกป้องผมจากการถูกทำลาย พร้อมกับเสริมพันธะให้กับเส้นผม จึงลดการแตกปลาย เสริมสร้างให้ผมแข็งแรงขึ้นและยังช่วยปกป้องผมจากการจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนได้สูงถึง 450°F หรือ 230°C พร้อมทั้งปกป้องผมจากความแห้งเสียที่เกิดจากแสงแดด วางจำหน่ายแล้วที่ Aveda ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ในราคา 1,900 บาท


Guerlain เปิดตัว Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate

เริ่ดกว่าเดิม! Guerlain ปล่อย Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate เซรั่มเข้มข้นสูตรใหม่

Alternative Textaccount_circle
Guerlain เปิดตัว Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate
Guerlain เปิดตัว Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate

GUERLAIN (เกอร์แลง) แบรนด์ความงามระดับสูงจากฝรั่งเศสในเครือ LVMH นำโดย วรรษา ตั้งนิมิตโชค ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์เกอร์แลง จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate เซรั่มประสิทธิภาพเข้มข้นสูตรใหม่กับการค้นพบความลับของ “ศาสตร์แห่งกล้วยไม้” จากสถาบันวิจัย Orchidarium® ของ เกอร์แลง สู่ปฏิบัติการเหนือชั้นในการฟื้นฟูสร้างพลังงานหล่อเลี้ยงผิว ด้วย Orchid Totum™ Molecular Extract โมเลกุลสกัดมวลรวมและอณูแคปซูล 12,000 แคปซูล พร้อมชวนเซเลบริตี้และคนดัง อาทิ กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล, ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ, เจนิส-เจณิสตา พรหมผดุงชีพ, ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก, เปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์, เอย-ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ภิญญาดา จันทร์แจ่มจรูญ ร่วมงาน

วรรษา ตั้งนิมิตโชค ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์เกอร์แลง กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 หรือ เมื่อ 18 ปีก่อน Guerlain (เกอร์แลง) ได้ก่อตั้ง “สถาบันวิจัย Orchidarium®” (ออร์คิดาเรียม) ขึ้น และได้ค้นคว้าวิจัยและบ่มเพาะพัฒนาศาสตร์แห่ง “กล้วยไม้” (Orchid’s Science) ดอกไม้ที่ได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งมวลพฤกษา” ดอกไม้ที่มีความแข็งแกร่งในการปรับตัวสูงสุดจนได้รับการจัดให้เป็น Fibonacci Flower (ฟิโบแน็กซี ฟลาเวอร์) อันหมายถึงไม้ดอกที่มีวงจรชีวิตยังชีพอยู่รอดได้ในทุกสภาวการณ์ ราวกับไม่มีวันตาย การค้นพบความลับของดอกกล้วยไม้เลอค่าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวครั้งแรกขึ้นในชุดผลิตภัณฑ์ Orchidée Impérialeที่มีประสิทธิภาพเข้มข้นในการฟื้นบำรุงความงามระดับสูง โดยทางสถาบันวิจัย Orchidarium® ของ Guerlain ได้เก็บรวบรวมตัวอย่างกล้วยไม้จากทั่วโลกมากกว่า 3,000 สายพันธุ์ จนได้พบกล้วยไม้ 2 สายพันธุ์ที่มีอายุยืนยาวเป็นพิเศษและได้พัฒนาค้นคว้ากระบวนการวิเคราะห์จัดระเบียบโครงสร้างการเรียงตัวของโมเลกุลของกล้วยไม้ 2 สายพันธุ์นี้จนสามารถกำหนด 42 โมเลกุลปฏิบัติการและนำมาพัฒนาขึ้นเป็น “โมเลกุลสกัดมวลรวม” หรือ Orchid Totum™ Molecular Extract สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Orchidée Impériale ที่ช่วยฟื้นฟูสร้างพลังงานหล่อเลี้ยงผิว กระชับเนื้อผิว และ ยกเนื้อผิวให้อิ่มเอิบ

ล่าสุดในปี 2023 ทางสถาบันวิจัย Orchidarium® (ออร์คิดาเรียม) ของ Guerlainได้ก้าวล้ำรุดหน้าไปอีกขั้นในการพัฒนาศาสตร์แห่งกล้วยไม้ ด้วยการหลอมรวมโมเลกุลสกัดจากทุกองค์ประกอบของกล้วยไม้ 2 สายพันธุ์ ตั้งแต่ ราก ไปจนถึง ลำต้น กิ่งก้าน ปลายใบ และ ยอดดอก โดย เซรั่ม Micro-Lift Concentrate สูตรสัมผัสแบบไมโครฟลูอิด หลังใช้ ผิวจะได้รูปทรงคมชัดสามมิติ รู้สึกได้ในทันทีว่าสภาพผิวแลดูอิ่มเอิบยิ่งขึ้น นุ่มกระชับ เรียบเนียน เกลี้ยงเกลา ละมุนละไมดุจแพรไหม เป็นความมหัศจรรย์ทางประสบการณ์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวอย่างแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพของโมเลกุลสกัดมวลรวม Orchid Totum Molecular Extract ที่เข้มข้นกว่าสูตรครีมถึง 2 เท่าจากกล้วยไม้ 2 สายพันธุ์

ทางด้านเซเลบริตี้คนดังที่ได้ร่วมค้นพบความลับของศาสตร์แห่งกล้วยไม้ของเกอร์แลงมาแล้วอย่าง กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล “มีโอกาสได้ใช้ชุดผลิตภัณฑ์ Orchidée Impériale ของเกอร์แลงตอนที่เข้าไปทดลองนวดหน้าที่เกอร์แลง สปา ตอนนั้นเป็นครั้งแรก สัมผัสได้ว่าผิวได้รับการฟื้นบำรุงความแข็งแรงให้ผิวแลดูเต่งตึงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองเลย จนช่างแต่งหน้าที่แต่งหน้าให้ทุกวันยังทักว่าไปทำอะไรมา ทำไมหน้าแลดูกระชับมากกว่าเมื่อวาน ตอนนั้นเข้าใจเลยว่าสวยด้วยมือเป็นอย่างไร และจากนั้นก็ใช้เซรั่ม Micro-Lift Concentrate มาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะเมื่อเราอายุเข้าปีที่ 35 จะดูแลเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ต้องถูกคิดค้นมาเพื่อกระชับผิวให้ได้รูปทรง แลดูอิ่มเอิบ เพราะแต่ละวันเราต้องเจอกับคลื่นความร้อน มลภาวะ PM 2.5 ที่ทำให้ผิวระคายเคืองง่าย เพราะฉะนั้นทุกการดูแลวันนี้ผิวเราต้องแข็งแรงจากภายในจริงๆ ถึงจะเอาอยู่”

ทางด้าน ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ “เมื่อก่อนเวลาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เราก็จะมองหาตัวที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสเป็นอันดับแรก แต่ตอนนี้พออายุมากขึ้นต้องเพิ่มขั้นตอนบำรุงเพื่อผิวกระชับเข้ามาในรูทีนด้วย ส่วนตัวเชื่อในเรื่องการนวดหน้าเพราะเทคนิคการนวดที่ดีจะช่วยถนอมความอ่อนเยาว์ของผิวได้ สำหรับการดูแลตัวเองต้องดีตั้งแต่พื้นฐาน การดูแลความสะอาดของผิวหน้า การนอนพักผ่อนและการดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นใด เพราะผิวเราจะดีได้มันต้องมาจากหลายองค์ประกอบ การดูแลตัวเองที่ดีจะทำให้ผิวเราพร้อมรับการบำรุงอื่นๆ ที่จะตามมา”

Orchidée Impériale Micro-Lift Concentrate สูตรใหม่ อุดมส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติในปริมาณสัดส่วนสูงกว่า 95% เนื้อเซรั่มบางเบา สัมผัสหรูหรา ประสิทธิภาพเหนือชั้นในการฟื้นบํารุงด้วย วิทยาการอณูแคปซูลระดับบุกเบิกที่เรียกว่า Tri-Concentration อันหมายถึงการผสาน 3 ส่วนผสมเข้มข้นให้อยู่ร่วมกันในสูตรเดียวเพื่อการทำงานอย่างสอดประสาน เติมเต็มประสิทธิภาพให้แก่กันได้อย่างลงตัวเช่นนี้ เกิดขึ้นจากกรรมวิธีผลิต 8 ขั้นตอน อันกินเวลายาวนานกว่า 500 ชั่วโมง นับเป็นความสําเร็จระดับสูงในการค้นพบการหลอมรวมโมเลกุลขับเคลื่อนกระบวนการสร้างพลังงานยังชีพและสร้างเซลล์ใหม่จากโมเลกุลของดอกกล้วยไม้ที่ได้สกัดออกมาในรูปแบบของเอสเซนส์ เข้ากับอณูแคปซูลไว้ในสูตร Microfluidic (ไมโครฟลูอิด) พร้อมลําเลียงสารบำรุงสู่ผิวอย่างเต็มเปี่ยมในทันทีที่ใช้ ขนาด 30 มล. ราคา 23,900 บาท และ ขนาด 50 มล. ราคา 31,900 บาท ลองได้ที่เคาท์เตอร์ Guerlain ทุกสาขา หรือสั่งซื้อได้ทางช่องทางออนไลน์ Central Online: https://bit.ly/3E1s7ss Sephora Online: sephora.co.th/Guerlain และ Line Official Account @guerlainth


เข้าไทยแล้ว! ESPOIR เมคอัพแบรนด์เกาหลี ขนทัพเครื่องสำอางฮิตกว่า 30 ไอเท็มให้ครีเอทลุคจัดเต็ม

Alternative Textaccount_circle

ESPOIR (เอสปัวร์) โปรเฟสชั่นนอลเมคอัพแบรนด์ ภายใต้บริษัท Amore Pacific ประเทศเกาหลี เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนรังสรรค์ลุคสวยในทุกๆวัน มาพร้อมกับสโลแกน Expect Better You เพราะอยากให้ทุกคนสวยมั่นใจ และ ดูดีอยู่เสมอ โดยเอสปัวร์มุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานง่าย ให้ลุคสวยเป็นธรรมชาติ อีกทั้งราคายังจับต้องได้ จึงทำให้เอสปัวร์กลายเป็นเมคอัพแบรนด์ที่ได้รับรางวัลการันตีจากนิตยสาร และร้านบิวตี้มัลติแบรนด์สโตร์ชื่อดังในประเทศเกาหลี อาทิ Olive Young Online Best Seller Awards, 2019 ALLURE Editor’s Pick, 2020 Glow Pick Awards และอีกมากมาย

เข้าไทยแล้ว! ESPOIR เมคอัพแบรนด์เกาหลี ขนทัพเครื่องสำอางฮิตกว่า 30 ไอเท็มให้ครีเอทลุคจัดเต็ม

ESPOIR (เอสปัวร์) โปรเฟสชั่นนอลเมคอัพแบรนด์เกาหลี เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่งาน ESPOIR Exclusive Launching Event -#CreateyourBe(_) in Thailand เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ร้าน Tempered Cooperatives ซอยร่วมฤดี 2 ภายในงานมี คุณยูมิ และ
คุณไอเดน ปาร์ค โปรเฟสชั่นนอลเมคอัพอาร์ติสต์ และยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ

ผลิตภัณฑ์ของเอสปัวร์ ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประเภทเบส ไปจนถึงคัลเลอร์ริ่งต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกสรรกว่า 30 ผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ทุกเฉดผิว และสภาพผิวคนไทย โดยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ คือ คุชชั่นทั้ง 2 รุ่น และ เมคอัพเบสที่เป็นผลิตภัณฑ์ Vegan ของทางแบรนด์ ซึ่งคุชชั่นรุ่น Be Glow จะให้ฟิชนิชแบบฉ่ำวาว มีความบางเบาเป็นธรรมชาติ สีไม่ดรอประหว่างวัน และ รุ่น Be Velvet ที่มีฟินิชแบบแมตต์ ปกปิดสูงสุด และ ติดทนตลอดทั้งวัน ส่วนเมกอัพเบสตัวดังที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 จาก Olive Young & Beauty Community คือ Peach Skin Fitting Base เมกอัพเบสที่ช่วยปรับสีผิว เพิ่มกระจ่างใส และ ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน

สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์จาก ESPOIR ได้แล้วที่หน้าร้าน BEAUTRIUM ทั้ง 9 สาขา ได้แก่ สยามสแควร์ ซอย 7, เซ็นทรัล พระราม 9, ซีคอน บางแค, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, ซีคอน สแควร์, ICS, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล พระราม 3 และ ช่องทางออนไลน์ theBEAUTRIUM.com และ Lazada Official Store: ESPOIR_Thailand ติดตามข่าวสาร และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง Social Media ของทางแบรนด์ Facebook: espoirthailandofficial และ Instagram: espoir_thailand


ELIXIR ส่งต่อประสบการณ์ผิวสวยแบบ TSUYADAMA เหมือนดั่งไข่มุกด้วย Aesthetic Essence ใหม่รับซัมเมอร์

Alternative Textaccount_circle

ELIXIR (อิลิคเซอร์) แบรนด์สกินแคร์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ครองยอดขายอันดับ 1 ยาวนาน 16 ปีในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้เครือ SHISEIDO (ชิเซโด้) ประเดิมปี 2023 เปิดตัวผลิตใหม่ล่าสุด Aesthetic Essence เซรั่มฟื้นบำรุงผิวแลดูกระชับ คืนความรู้สึกเฟิร์ม ผ่าน 3 เทคโนโลยีส่วนผสมสำคัญ Tight Keep CP ที่มาพร้อมกับ Hydrolyzed Yeast Extract ทำหน้าที่มอบความรู้สึกกระชับให้ผิว และ Caffeine หรือ สารสกัดจากกาเฟอีน ที่ช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิว รวมถึง Licorice extract หรือ สารสกัดจากรากชะเอมเทศ ที่จะมาทำงานร่วมกับหัวลูกบอลกลิ้ง (Aesthetic Roller) ขั้นกว่าในการดูแลผิว

คุณวิทยา รัตนโกมล Head of Premium Division บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ELIXIR มุ่งเน้นที่จะตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านสกินแคร์ anti-aging ที่พัฒนามาจากการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับคอลลาเจนโดยเฉพาะ ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา รวมถึงในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ ELIXIR เรายังได้คัดสรรส่วนผสมอย่างพิถีพิถัน ผสานเทคโนโลยีทรงประสิทธิภาพ เพื่อให้ผิวสวยแบบ TSUYADAMA (สึยาดามะ) หรือนิยามของผิวเปล่งประกายแบบไข่มุกในทุกๆ วัน โดยในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ เราได้ประเดิมการเปิดปีเอาใจคนไทยที่ต้องการสกินแคร์ที่เน้นหนักในเรื่องการดูแลผิวกระชับ โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เซรั่มฟื้นบำรุงผิวแลดูกระชับ ELIXIR Aesthetic Essence เพื่อต้องการมอบประสบการณ์ผิวสวยที่ครบทั้ง 3 มิติ มาพร้อม Aesthetic Roller หัวลูกบอลกลิ้งนวดผิวในตัว ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่หย่อนคล้อย  

สำหรับผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ของ ELIXIR สามารถเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่าน 3 เคาน์เตอร์หลักของเราคือ เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลเวิลด์ ในแผนก Beauty Galerie รวมถึงที่แผนก Beauty Hall ณ ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม 


‘มีดวงได้พบคนในฝัน แต่ต้องดูดีๆ มีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่น่าจะคบต่อ ใครกัน?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 6 เมษายน 2566

‘มีดวงได้พบคนในฝัน แต่ต้องดูดีๆ มีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่น่าจะคบต่อ’

ดวงรายวัน 6 เมษายน 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  วันนี้ก็ยังอยู่กับงานหรือธุรกิจในสายการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ นักวิชาการ ไลฟ์โค้ช เทรนเนอร์ ติวเตอร์ ฯลฯ  โดยที่คุณก็ยังมีทักษะความรู้ความสามารถ และความรับผิดชอบที่ดี ซึ่เป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมหากจะเดินทางไปสะสมประสบการณ์ยังหลากหลายสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการติดต่อประสานงาน  โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ออร์แกไนซ์ จนถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา

การเงิน  :   ก็ยังอยู่ที่รายได้จากงานประจำ ซึ่งวันนี้หากคิดจะหารายได้พิเศษ ควรทำด้วยตัวเองดีกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่น เป็นไปได้ที่คุณจะเสียเงินให้กับคนรักหรือลูกหลานในครอบครัว

ความรัก  :   ก็ยังอยู่กับการปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวก แต่วันนี้ทัศนคติจะเริ่มขัดแย้งกันแล้ว คู่คุณอาจต้องการที่จะมีเวลาอยู่กับคุณบ้าง หรือไม่คุณก็ชวนเขาไปด้วยกันเลย คนโสด  หากคุณเบื่อหน่ายกับความรักถึงขั้นเข้าวัดปลีกวิเวกแล้วล่ะก็ วันนี้มีโอกาสได้พบรักท่ามกลางธรรมะ

สุขภาพ  :    หากออกไปใช้ชีวิตในวันหยุดราชการ ก็ควรดูแลตัวเองทางด้านความสะอาด ทั้งอาหาร ที่อยู่อาศัย และการใช้สถานที่สาธารณะ เพราะคุณมีความเสี่ยงที่จะนำไวรัสกลับบ้านมาด้วย รวมถึงควรระวังเรื่องการเจ็บตัวไว้บ้าง   

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  หากคุณคาดหวังความสำเร็จทางด้านเงินทอง ชื่อเสียง และตำแหน่งหน้าที่การงาน สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารระดับสูง CEO รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม้คุณจะเต็มเปี่ยมด้วยพลังกายพลังใจที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ แต่เพราะช่วงนี้ดวงคุณยังไม่ค่อยดี ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรจึงขลุกขลักไปหมด ควรระวังเอกสารทางราชการจะพลาด สามารถเป็นคดีความได้ทั้ง ทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีจึงควรหาเพื่อนที่รู้ใจมาช่วยกันทำงาน หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์

การเงิน  :   จริงๆ คุณสามารถหาเงินทองได้ด้วยวาสนาและบารมี รวมถึงเงินที่ลงทุนไว้ตามกองทุนต่างๆ วันนี้ก็ทำงานสร้างผลกำไรให้อย่างงดงาม แต่ก็ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือค้ำประกันใคร เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับผิดชอบแทน

ความรัก  :  หากคุณกับคู่ครองอยู่ด้วยกันเพราะเรื่องเงินและเรื่องงานเป็นหลัก วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะซีเรียสและเครียดไปหมดทุกสิ่ง จนทำให้บรรยากาศในครอบครัวพลอยเครียดไปด้วย คนโสด  เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะมองความรักเป็นเรื่องของงานและเงินเป็นหลัก ก็นับว่าคุณโชคดีที่มีโอกาสได้พบกับคนที่ใช่อย่างที่คุณต้องการด้วยสิ

สุขภาพ  :   หากคุณกำลังโหมงานหนักมากขึ้นจนไม่ได้นอนหลับพักผ่อน หรือรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา วันนี้อวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญคือหัวใจ และโรคหัวใจ ที่อาจกำเริบได้ นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องสายตา ตระกูลต้อมาเยี่ยมแล้ว   

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม การออกแบบดีไซน์ งานบันเทิง จนถึงงานด้านวิชาการ เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้างานหรือหัวหน้าโครงการ ซึ่งวันนี้คุณมีความคิดและจินตนาการกว้างไกล นอกจากนั้นยังมีอีโก้สูงจนยากที่จะร่วมงานกับใครได้อย่างราบรื่น  มีความเสี่ยงที่จะขัดแย้งจนถึงงานสะดุดหยุดลงกลางคัน ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรรับงานอิสระ หรือทำกิจการของตัวเองเลย

การเงิน  :  มีโอกาสได้รับมรดก เฮงๆ ปังๆ ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะไม่สนใจโชคลาภเลยก็ได้ สนใจแต่ตัวงาน ส่วนเงินหาได้เท่าไหร่ก็ให้คนอื่นหมดจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :   มีโอกาสที่คุณจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจว่าชีวิตครอบครัวจะเป็นไปในทิศทางใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังรับภาระหนัก ทั้งส่วนครอบครัวและส่วนงาน รวมถึงวันนี้ยังมีส่วนสังคมอีกด้วย   คนโสด  หากกำลังลังเลไม่แน่ใจว่า จะสามารถมีความรักได้หรือเปล่า วันนี้จากภาระที่ต้องเป็นหลักทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ก็คงทำให้คุณพอจะได้คำตอบแล้ว  

สุขภาพ   :  หากคุณโหมงานหนักจนไม่ได้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จึงเป็นไปได้ที่น้ำย่อยจะทำงานผิดปกติ กระเพาะอาหาร และลำไส้ก็จะมีปัญหาตามไปด้วย รวมถึงวันนี้เขาว่าจะร้อนกว่าปกติ ก็ระวังร่างกายจะปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะอากาศ  ยิ่งอ่อนเพลียอยู่แล้ว มีโอกาสวูบได้ง่ายๆ

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน จนถึงงานส่งเสริมการขาย วันนี้เทพประจำวันพุธอยู่กับคุณทำให้มีโอกาสที่จะได้เริ่มต้นงานใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานประจำเลย นับว่าเป็นงานที่ท้าทายและแข่งขันสูง แต่มีอนาคต จึงเป็นไปได้ที่ช่วงแรงคุณจะอึดอัดและร้อนรุ่มกับบรรยากาศของการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย แต่หากอดทนทำต่อไป มีโอกาสที่คุณจะได้รับการยอมรับในความสามารถจนได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหรือเจ้าของกิจการของตัวเองเลย  

การเงิน  :  หากได้เงินมาเท่าไหร่ก็ให้คนอื่นใช้หมด เมื่อรวมกับรายจ่ายที่มี จึงเป็นไปได้ที่เงินจะไม่พอใช้ แต่วันนี้นับว่าเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ลืมตาอ้าปากได้กว้างด้วย เพราะไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด

ความรัก  :   หากคุณตัดสินใจครองคู่กันในเวลาที่ไม่ปกติ เช่นเร็วหรือช้าเกินไป วันนี้มีโอกาสที่จะพบว่าคู่คุณมีพฤติกรรรมไม่น่าไว้วางใจ คุยกับใครนานเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งเดียวที่จะยืดความรักความสัมพันธ์ให้ยืนยาวต่อไปได้ ก็ด้วยความมั่นคงและซื่อสัตย์ในความรักที่คุณมีให้ คนโสด  อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจคบใครเป็นแฟนเร็วเกินไป เพราะมีโอกาสที่คุณจะปวดใจเมื่อพบว่าเขามีแฟนแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือคุณไม่สามารถถอนใจได้แล้ว

สุขภาพ  :   ต้องระวังอารมณ์โกรธ ความหึงหวง ความอาฆาตแค้นที่จะทำให้หัวใจทำงานหนัก ยิ่งหากเป็นโรคหัวใจและความดันอยู่แล้ว ยิ่งมีความเสี่ยงสูง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือทำธุรกิจกับครอบครัว คนรัก หรือคนสนิท ไม่ว่าจะเป็นงานหลักหรือจ็อบ  วันนี้ควรเตรียมตัวเตรียมใจไว้หน่อย เพราะมีโอกาสที่คุณจะถูกลดบทบาทความสำคัญ หรือเพื่อนที่รู้ใจชิงลาออกโดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า ซึ่งเป็นไปได้ที่คุณจะอึดอัดทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายจนอยากจะลาออกตามไปเลยทีเดียว หรือหากคุณอยู่ต่อก็เป็นไปได้ว่าจะอยู่อย่างคนที่ถูกลืม  

การเงิน  :  หากได้รับเงินปันผลหรือสินน้ำใจจากธุรกิจของครอบครัว วันนี้มีความเสี่ยงที่นอกจากจะไม่ได้รับแล้ว ยังต้องเสียเงินให้กับคนใกล้ชิดอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วย    

ความรัก  :  สำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานหรือคู่ครองที่เพิ่งกลับมาคืนดีกัน วันนี้ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน เพราะยังไม่ทันไร ไม่ใครก็ใครนี่ล่ะที่จะมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หว่านเสน่ห์กับคนอื่นอีก จนอีกคนร้องขอหรือขอร้องอย่างไรก็ไม่ฟัง  คนโสด  หากคุณกำลังได้พบกับบุคคลในฝันจนอยากมาอยู่ด้วยกันเลย วันนี้เป็นไปได้ว่าเขาจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่น่าไว้วางใจให้คุณเห็น จนอาจกลายเป็นไม่อยากคบต่อเลยก็ได้

สุขภาพ  :  จากพยากรณ์อากาศ เขาว่าจะร้อนกว่าปกติ ซึ่งตามธรรมดาก็ร้อนมากมายอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้คุณมีความเสี่ยงที่เลือดลมจะทำงานไม่ปกติ จึงมีโอกาสที่จะเป็นลมแดดได้น้า ควรอยู่ในร่ม จิบน้ำบ่อยๆ   

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  คุณมีความรู้ ความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์และมีความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน ออร์แกไนซ์ จนถึงงานส่งเสริมการขาย ทางที่ดีวันนี้อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ เพราะมีโอกาสได้พบกับคนหน้าไหว้หลังหลอก ปากบอกอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง ซึ่งจะมีผลให้งานจากที่จะสำเร็จกลับเป๋ไปได้

การเงิน  :   จริงๆ คุณมีโชคด้านการลงทุน และทรัพย์สิน แต่วันนี้จะเริ่มติดขัด ไม่แน่นอน จากยอดรายจ่ายที่สะสมและพฤติกรรมในการใช้จ่ายของหรูหราราคาแพงของคุณ

ความรัก :   คุณก็ยังคงยึดในความเป็นผู้นำของตัวเอง ยึดในหลักการและความเหมาะสมของการสร้างครอบครัวที่ดีมากกว่าความรักความอบอุ่นในครอบครัว โดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย ซึ่งวันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะหงุดหงิดง่าย จึงมีโอกาสที่จะเกิดการขัดแย้งกันได้ง่าย คนโสด  เป็นไปได้ว่าคุณจะมีอีโก้สูงมาก หากใครจะเป็นแฟนต้องตามใจสุดๆ แถมอารมณ์ยังเหวี่ยงวีนได้ง่ายด้วย

สุขภาพ  :  หากคุณเคร่งเครียดและซีเรียสไปทุกๆ เรื่อง เป็นไปได้ว่าจะทำให้สภาพจิตของคุณป่วยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่จะแสดงอาการเตือนขึ้นมา จึงควรสังเกตุและใส่ใจตัวเองด้วย

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  หากคุณกำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย ข้อตกลง หรือสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล มูลนิธิ จิตอาสา และสังคมสงเคราะห์ วันนี้ทางที่ดีควรเตรียมแผนสำรองไว้หน่อยนะ  เพราะมีโอกาสที่งานหรือธุรกิจจะไปต่อไม่ได้

การเงิน  :   หากคุณกำลังที่จะร่วมหุ้นทำงานกับคู่รัก หรือคู่ครอง ในงานบุญ งานกุศล หากเป็นไปได้ ควรชะลอไว้ก่อน เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะเดือดร้อนจนถึงขั้นวิกฤติเลยทีเดียว   

ความรัก  :   หากชีวิตครอบครัวของคุณกำลังราบเรียบและราบรื่นดี ก็ควรจะทำใจไว้หน่อย เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน มีโอกาสที่จะไปต่อกันไม่ได้ เป็นไปได้ว่าจะเป็นในเรื่องของกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ คนโสด  วันนี้หากคุณเรียกร้องความสนใจจากแฟนมากๆ หรือหึงหวงมากเกินน่ารัก มีโอกาสไปต่อกันไม่ได้สูงมาก

สุขภาพ   :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ ซึ่งวันนี้มีความเสี่ยงที่จะรุนแรงจนเข้าสู่กระแสเลือดได้

5 เหตุผลที่คุณควรมาเช็คอินที่ ‘สเปคทรัม เลาจน์ แอนด์ บาร์’ @โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท

account_circle

1.คอนเซปต์ดีมีอะไร : ที่นี่มาในคอนเซปต์ Mix-used คือเป็นทั้งห้องอาหาร บาร์บนดาดฟ้า และสถานที่จัดงาน ซึ่งได้บริษัทสถาปนิกชั้นนำจากญี่ปุ่นอย่าง ‘ซูเปอร์ โปเตโต้’ มาออกแบบให้ แรงบันดาลใจของที่นี่มาจากคู่รักที่อินเลิฟการท่องเที่ยวและชื่นชอบหาประสบการณ์แปลกใหม่

2.อาหารอร่อยมาก…ก: ถ้าคุณชอบอาหารสไตล์ตะวันตกพรีเมียม คุณจะต้องปลื้ม แนะนำเมนูยอดฮิตอย่าง ‘เมนูสเต็กเนื้อวากิวริบอายยางเตาถ่าน’ หรือจะเป็น เมนู’เนื้อแกะออสเตรเลีย’ ก็อร่อยละมุนลิ้นมาก หากชอบแนวคาโบนาร่า จะต้องติดใจ ‘สปาเกตตี้ ทรัฟเฟิล คาโบนารา’ เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มหอมทรัฟเฟิล แต่ถ้าเป็นสายสุขภาพ ละเว้นเนื้อสัตว์ ที่นี่ก็มีเมนู Plant based ให้เลือกหลากหลาย อาทิ ญ็อกกี้ซอสโบโลเนสมะเขือเทศ พาสต้าหน้าตาคล้ายลูกชิ้นมันฝรั่งราดด้วยซอสมะเขือเทศ อร่อยฉ่ำใจสุด

3.จิบค็อกเทลเก๋ๆ ท่ามกลางวิวดาดฟ้าสวยๆ : ห้องอาหารสเปคทรัม เลาจน์ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชั้น 29 และ 30 สำหรับชั้น 29 ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งพื้นที่อินดอร์และเอาท์ดอร์ในบรรยากาศผ่อนคลายด้วยดนตรีสดจากนักร้องชื่อดัง แต่ถ้าคุณอยากชมวิวรูฟท็อป ฟีลโรแมนติกบนดาดฟ้า แนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 30  นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ ที่นี่ยังสร้างความคึกครื้นให้ค่ำคืนของคุณมีอะไรด้วยเสียงเพลงแนว R&B, House, EDM

.

ขอแนะสักนิดว่า ให้ลองสั่งเมนูค็อกเทลสูตรพิเศษอย่าง ‘อินเลิฟ วิธ สเปคทรัม’ มาลองดื่มดู เครื่องดื่มจินผสมกับอะเพโรล น้ำส้ม น้ำมะนาว ไซรัปวานิลลา ท็อปด้วยไข่ขาว ให้ความรู้สึกสดชื่น ซาบซ่า หรือจะเป็นเมนู ‘เซ็กซี่ ออน เดอะ รูฟ’ ต้นตำรับจากไอริชวิสกี้ มีส่วนผสมของเหล้าส้ม เหล้าไวน์โรโซ่ น้ำมะนาว น้ำส้ม และไซรัปพีช แต่ถ้าคุณเป็นสายม็อกเทลที่นี่ก็มีให้บริการ แถมตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษในราคาเริ่มต้น 999++ บาท ให้คุณเพลิดเพลินกับการดื่มไวน์ได้ตลอด 2 ชั่วโมงเต็มอีกด้วย โปรดีๆ แบบนี้คุ้มสุด

4.สายปาร์ตี้ห้ามพลาด :ที่สเปคทรัม เลาจน์ แอนด์ บาร์ มีอีเวนท์เอาใจสายปาร์ตี้ตลอดทั้งปี ซึ่งหนึ่งในอีเว้นท์ที่คุณไม่ควรพลาดคือ Spectrum Live From Roof the series ปาร์ตี้สุดเอกซ์คลูซีฟทุกต้นเดือนที่จะให้แฟนๆ มาสนุกสนานกับศิลปินคนโปรดอย่างใกล้ชิด สำหรับบัตรคอนเสิร์ตก็มีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ จะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มก็มาร่วมสนุกและรับเครื่องดื่มไปจิบเพลินๆ ตลอดงานจ้า

5. เดินทางง่ายใกล้รถไฟฟ้า : ที่เริ่ดสุดก็คือ โรงแรมเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา กดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 29 และ 30 ก็ถึงเลย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ในเว็บไซต์ https://bit.ly/3JvJdSE โทร  02 -098-1234 หรืออีเมล [email protected]

พรุ่งนี้มีแพลนไปไหนแล้วยัง ถ้ายังแนะนำให้ไปที่นี่โลดๆ ค่ะ

@SpectrumRooftopBKK #SpectrumRooftopBKK  


Goodmate Cover

นมโอ๊ต ‘Goodmate’ ดึง ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก’ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรก ตอกย้ำภาพลักษณ์สายเฮลท์ตี้ พร้อมปล่อยหนังโฆษณาเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

Goodmate Cover
Goodmate Cover

Goodmate (กู๊ดเมท) ผลิตภัณฑ์นมทางเลือกที่ผลิตจากข้าวโอ๊ตธรรมชาติเต็มเมล็ดจากออสเตรเลีย 100%เปิดตัว “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ พร้อมปล่อยหนังโฆษณาชิ้นใหม่ล่าสุด ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นมโอ๊ตเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่

คุณกันต์ กุลปิยะวาจา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพและความนิยมด้านการบริโภคอาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก หรือ Plant-Based Diet ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคสายรักสุขภาพที่หลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ โดยพบข้อมูลว่าประเทศไทยมีอัตราการแพ้นมวัวหรือมีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง (Lactose Intolerance) อยู่ที่ 50-60% เทียบเท่าประชากร 35-42 ล้านคนทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจผลิตภัณฑ์นมจากพืชมากขึ้นรวมถึงส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่มีแนวคิดและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งGoodmateเป็นสินค้าในกลุ่มพรีเมียมที่ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญ เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบเมล็ดโอ๊ตแบบเต็มเมล็ด นำเข้าจากออสเตรเลียที่ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกข้าวโอ๊ตที่ดีที่สุดในโลก ทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยนมโอ๊ต Goodmateเป็นผลิตภัณฑ์นมทางเลือกที่ใช้พลังงานและทรัพยากรในการปลูกและผลิตน้อยกว่านมประเภทอื่นอีกด้วย

นมโอ๊ต ‘Goodmate’ ดึง ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก’ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรก ตอกย้ำภาพลักษณ์สายเฮลท์ตี้ พร้อมปล่อยหนังโฆษณาเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

นอกจากนี้ Goodmate ยังให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคมาเป็นอันดับแรกจึงเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100%ผลิตจากข้าวโอ๊ตธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยใยอาหาร โปรตีน วิตามินอัดแน่นด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ และยังมีเบต้ากลูแคนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยพัฒนาให้มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมในแบบฉบับเฉพาะตัวเป็นเครื่องดื่ม Plant Basedที่ปราศจากการเติมน้ำตาล และไม่มีส่วนผสมของนมวัวหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ นมถั่วเหลือง ถั่วทุกชนิด รวมถึงกลูเตน จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวหรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ซึ่งมีให้เลือกถึง3รสชาติ ได้แก่ The Original Oatmilk รสออริจินัลไม่มีการเติมน้ำตาลหรือสารเพิ่มความหวานใดๆ, Chocolate Deluxe Oatmilk รสช็อคโกแลต หอมอร่อยเข้มข้นและ Oat-Barista Professional สร้างสรรค์รสชาติได้กลมกล่อม สำหรับคอกาแฟและบาริสต้า นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายเดียวในไทยที่รับประกันหน้ากล่องผลิตภัณฑ์ว่าไม่มีสารก่อภูมิแพ้หรือสารใดๆปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสามารถตอบโจทย์ได้กับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง

เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านสุขภาพของแบรนด์และส่งเสริมภาพการจดจำมากยิ่งขึ้น ในครั้งนี้จึงได้จัดงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ซึ่งเป็นตัวแทนผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ คล่องแคล่วพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้าและรักในการดูแลสุขภาพตัวเองด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายพร้อมปล่อยหนังโฆษณาเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพโดยทางแบรนด์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์นมโอ๊ต Goodmate จะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคหันมาดูแลตัวเองและมีสุขภาพที่ดี ตัดสินใจเลือกให้ผลิตภัณฑ์นมโอ๊ต Goodmate เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มคู่กาย เมื่อนึกถึงสุขภาพดี เสริมด้านโภชนาการที่ดีและมีประโยชน์ ต้องนึกถึง Goodmate”

สำหรับภายในงานยังได้พบกับเซเลบริตี้สายสุขภาพ “มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์” ที่ได้มารังสรรค์เมนูเครื่องดื่มสุขภาพที่สามารถก็ทำได้ง่าย ๆด้วยส่วนผสมของนมโอ๊ต Goodmate ภายใต้คอนเซ็ปท์ “นมโอ๊ตกู๊ดเมท อร่อย ใครๆ ก็ดื่มได้” โดยมี “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” มาร่วมทำอาหารและเครื่องดื่มด้วยกันเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

หากสนใจผลิตภัณฑ์นมโอ๊ต Goodmate สามารถหาซื้อได้ที่ 7-Eleven, Tops,ร้านค้าทั่วไปและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศหรือสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.goodmateglobal.com และ Facebook Page ได้ที่ https://www.facebook.com/goodmateglobal รวมถึงแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ Lazada : https://s.lazada.co.th/s.83qLY และ Shopee : https://shp.ee/kg9egzc

Levi’s NIGO Cover

Levi’s® และ NIGO ร่วมงานกันอีกครั้งกับคอลเลคชั่นพิเศษ สำหรับ Spring / Summer 2023 นี้

Levi’s NIGO Cover
Levi’s NIGO Cover

เมื่อ Levi’s® และ NIGO สองตัวพ่อแห่งวงการแฟชั่นวินเทจ กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เพื่อส่งต่อคอลเลคชั่นวินเทจสตรีทแวร์สำหรับ Spring/Summer 2023 และเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 150 ปี ยีนส์ 501® การคอลแลปครั้งสำคัญนี้ นำเสนอออกมา 2 ไอเทมพิเศษ มาพร้อมกระเป๋าผ้า โดยใช้โมเดล 501® ผสมผสานกลิ่นอายจากคอลเลคชั่นของแบรนด์ Human Made นำมาปรับสไตล์ให้ดูเรียบเท่ เก๋ไก๋มากยิ่งขึ้น

Levi’s® และ NIGO ร่วมงานกันอีกครั้งกับคอลเลคชั่นพิเศษ สำหรับ Spring / Summer 2023 นี้

ไอเทมพิเศษในคอลเลคชั่นนี้ได้แก่

Hickory Stripe 501® jeans ราคา 7,690 บาท

คราฟท์ 501®  ลายผ้ายีนส์ริม 13 ออนส์ ผลิตด้วยเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพิ่มดีเทลคลาสสิคอย่าง Red Tab กระดุมหมุด ป้ายแพทช์หลังกางเกงลายม้า 2 ตัว และ การเย็บลายกระเป๋าด้านหลังแบบโค้ง ผ่านกระบวนการแช่ การะการเย็บด้วยด้ายเฉพาะ เพื่อให้ตรงกับคอลเลคชั่นรุ่นก่อน

557XX Trucker Jacket ราคา 10,290 บาท

คราฟท์ 501® ลายผ้ายีนส์ริม 13 ออนส์ ผลิตด้วยเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ผ่านกระบวนการแช่ การการเย็บด้วยด้ายเฉพาะเพื่อให้แมชท์กับโมเดล 501®

นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าผ้า Levi’s® x NIGO 150th anniversary ที่มาพร้อมสินค้า และเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงการโคแบรนด์ครั้งสำคัญ

คอลเลคชั่น Levi’s® x NIGO 150th anniversary มีเพียง 22 ตัว ในประเทศไทยเท่านั้น และ พร้อมขาย วันที่ 6 เมษายน นี้ เฉพาะที่เว็บไซต์ www.levi.co.th  เวลา 11.00 น.

MenariniAestheticsThailand Cover

‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ นวัตกรรมความงามใหม่สุดเทรนดี้ ที่ตอบทุกโจทย์ชาวมิลเลนเนียลผู้รักสวย

MenariniAestheticsThailand Cover
MenariniAestheticsThailand Cover

หากจะยกให้ยุคนี้เป็นยุคทองของเรื่องความสวยความงาม ก็คงไม่เกินจริง เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็เห็นใครๆ ใส่ใจดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะชาวมิลเลนเนียล หรือหนุ่มสาวในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นกลุ่มคนที่หลงใหลการดูแลตัวเองชนิดเป๊ะทุกกระเบียด พร้อมออกสื่อได้อย่างโดดเด่นเป็นศูนย์รวมของสปอตไลท์

ซึ่งวันนี้ ‘พัดชา แพรวนิสต้า’ จะขอพาคนรักสวยมารู้จักกับเทรนด์ใหม่ โปรดักส์ใหม่ในงาน ‘SPARKLE YOUR WAY’ with Italian Filler by Menarini Aesthetics Thailand เทรนด์ฮิตที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘PREJUVENATION’ ที่มาจากคำว่า Prevention (ป้องกัน) + Rejuvenation (ฟื้นฟู) ซึ่งเป็นทฤษฎีความงามแนวใหม่ ที่เน้นการปกป้องไว้ก่อนปัญหาใหญ่มาเยือน เพื่อเซฟความสวยก่อนจะสายเกินไป ตรงกันข้ามกับความคิดเดิมๆ ที่เน้นเซฟมันนี่ไว้ก่อนรอให้ถึงจุดที่ไปต่อไม่ไหวค่อยจัดการครั้งใหญ่ในรอบเดียว ซึ่งแพทย์ยุคใหม่นั้นลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ามันย้อนเวลาขนาดนั้นไม่ได้ ยิ่งดูแลช้าผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยิ่งเห็นผลน้อยหรือดูไม่เป็นธรรมชาติ หนุ่มสาวยุคใหม่เลยเข้าใจตรงกัน เราต้อง ‘กันไว้ดีกว่าแก้’

ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความงามของชาวมิลเลนเนียลวันนี้พัดชาเลยไม่พลาด ที่จะพาไปทำความรู้จักกับ ‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ ซึ่งเป็นนวัตกรรมความงามใหม่ที่น่าจับตามองสุดๆ ในตอนนี้

ความน่าสนใจของ ‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ คือเขาเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Fillers โดย Menarini Aesthetics Thailand ที่เกิดขึ้นจากการจับมือกันของ บริษัทเอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทยาชั้นนำจากประเทศอิตาลี ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนายาและเครื่องมือแพทย์มาอย่างยาวนาน ร่วมกับบริษัท RELIFE Menarini Group ผู้นำด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลกจากประเทศอิตาลี พร้อมได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

โดยคุณทอม เบอร์ซิงเกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด และ Regional Vice President Thailand, Vietnam & Emerging Markets เผยถึงนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ว่า

“ด้วยความมุ่งมั่นของเราและความพร้อมทางเทคโนโลยีด้านความงามที่ล้ำหน้า เราจึงได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในกลุ่มสารเติมเต็ม HA Dermal Fillers ที่มีอยู่ใน Italian Filler ให้กับแพทย์ความงาม และด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนา Medical Education และเพิ่มศักยภาพด้านการแพทย์เวชศาสตร์ความงามในประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ในการดูแลรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น”

‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ มีจุดเด่นคือการใช้ XTRTM Technology ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติเฉพาะ ด้วยคอนเซ็ปต์ Optimal Volumization & Less is MORE โดยใช้ในปริมาณพอเหมาะในแต่ละบุคคลแต่ให้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจในการเติมเต็ม ยกกระชับ และปรับรูปหน้าให้ดูดีในแบบที่เป็นตัวเองและดูเป็นธรรมชาติ ดังเช่นนิยาม The Better Version of Yourself ดูดีขึ้นในแบบของตัวเอง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่อินสำหรับหนุ่มสาวยุคนี้ 

และมาพร้อมกับ Innovative Glass Syringe ช่วยให้สัมผัสที่เบา ลดแรงกดบนใบหน้าขณะทำการรักษา มอบประสบการณ์ที่เบามือ สะดวกต่อการใช้งานของแพทย์และความพึงพอใจของคนไข้อีกทั้งยังรักษ์โลกช่วยลดขยะพลาสติกอีกด้วย

นอกจากนี้ Menarini Aesthetics Thailand ยังเผยถึงความพยายามความมุ่งมั่นในการพัฒนา Medical Education โดยได้รับเกียรติจาก นพ.วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม The Master of Aesthetics ในประเทศไทย และ The Master of Menarini Aesthetics Faculty ประเทศไทยและระดับ Regional มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์อันยาวนานผ่าน Visual Aesthetics Methodology ในหัวข้อ The Experience of Creating Millennials Beauty เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแพทย์เวชศาสตร์ความงามในประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดผลลัพธ์ในการดูแลรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแนะนำ Visual Aesthetics Curriculum 2023  ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

อีกไฮไลท์หนึ่งของงานคือ Menarini Aesthetics Thailand ยังได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ ‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ ในปี 2023 นั่นคือ “พรีม รณิดา เตชสิทธิ์” นักแสดงสาวสวย ลูกครึ่งไทย-อิตาลี ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่รักในการดูแลตัวเองตามคอนเซ็ปต์ The Better Version of Yourself สาวพรีมมีประสบการณ์ความประทับใจที่ได้ลอง ‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ มาแชร์แบบปลาบปลื้มสุดๆ กับผลลัพธ์ที่ทำให้เธอสวยขึ้นในทุกมิติแบบที่คนรอบตัวจับไม่ได้ว่า ไปทำอะไรมานะ…ทำไมจึงสวยขึ้น!

งานนี้เรายังได้รับความรู้และคำแนะนำจากกูรูตัวจริงอย่าง 3 แพทย์ความงามผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้เผยทริคเกี่ยวกับการดูแลตัวเองตามแนวคิด PREJUVENATION และ The Better Version of Yourself เอาไว้อย่างน่าสนใจ

นพ.วรพจน์ ศิรามังคลานนท์

“เทรนด์ความงามของผู้หญิงสมัยนี้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น แต่หลักๆ คือมุ่งเน้นความสวยที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลที่ต้องการความสวยแบบ Natural Look และต้องการคงความสวยเอาไว้ให้ยาวนาน ดังนั้นในการตอบโจทย์คนไข้กลุ่มนี้

“จึงใช้แนวคิด PREJUVENATION ในการป้องกันและฟื้นฟูความสวยไปพร้อมๆ กัน ควบคู่กับการสร้างความสวยในคอนเซ็ปต์ Less is MORE คือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด แต่เกิด Impact กับชีวิตมากที่สุด เรียกว่าเป็นความสวยที่ดูไม่ออกว่าทำอะไรมาบ้าง หรือสวยขึ้นแบบไม่เอะอะ และที่สำคัญคือสวยในแบบที่ยังคงความเป็นตัวเองเอาไว้” 

พญ.แพรมาลา ฉายาวิจิตรศิลป์
“ความสวยแบบ The Better Version of Yourself ถือเป็นเทรนด์ความงามยุคนี้ โดยคนไข้ส่วนใหญ่จะมีความต้องการอยู่ในใจประมาณหนึ่ง แต่จะไม่ถึงขั้นอยากสวยเหมือนคนนั้นคนนี้ เป็นความต้องการแบบ Individual คือสวยขึ้นในเวอร์ชั่นที่เป็นตัวเอง”   

นพ.วรพล เวชชาภินันท์

“ด้วยความที่ฟิลเลอร์อิตาลีใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง XTRTM Technology ในการผลิต ทำให้เนื้อฟิลเลอร์คงตัวได้ดี ใช้งานง่าย อยู่ได้นาน และด้วยความสามารถของเทคโนโลยีนี้ยังทำให้หลังการรักษาด้วยฟิลเลอร์ไม่บวม ถือเป็นฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์แนวคิด PREJUVENATION และ The Better Version of Yourself”

‘ฟิลเลอร์อิตาลี’ น้องใหม่คุณภาพแน่นนี้ถือเป็นทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่จะมาช่วย Sparkle Your Way เสริมความมั่นใจให้ใกล้ความสำเร็จ แนวคิด PREJUVENATION ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมาย The Better Version of Yourself กันค่ะ

หมอหลวง

ลายสไบละลานตา! ส่อง 9 ลุค คิมเบอร์ลี่ ในบทบาท ’แม่บัว’ แห่งหมอหลวง

Alternative Textaccount_circle
หมอหลวง
หมอหลวง

ลงจอไปไม่นานกับละครเรื่อง ‘หมอหลวง‘ เรื่องราวของนักศึกษาแพทย์หญิงคนหนึ่งมีชื่อว่า ‘บัว’ ได้ย้อนกาลเวลากลับมาในรัชกาลที่ 3 ได้มาพบกับนักเรียนหมออย่าง ‘ทองอ้น’ ลูกชายจากตระกูลหมอหลวงที่ไม่เอาไหน ได้สองนักแสดงอย่าง คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส และมาริโอ้ เมาเร่อ มารับบทนำ ซึ่งทั่งคู่เคยเจอกันในละครเรื่อง ‘ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง’ จนทำให้แฟนละครติดหนึบกันไปแล้วครั้งหนึ่ง เชื่อว่าเรื่องนี้เรตติ้งก็คงดีไม่แพ้กัน

เมื่อพูดถึงเสน่ห์ของละครแนวพีเรียดที่นอกเหนือจากตัวบท คงต้องยกให้กับคอสตูมที่ปรากฏในเรื่อง ด้วยความที่ต่างยุคต่างสมัยทีมงานทุกคนต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อให้ทุกลุคของตัวละครออกมาสมบูรณ์แบบ เพลิดเพลินตาสำหรับผู้ชม

เช่นเดียวกับ ‘แม่บัว’ เมื่อย้อนกลับไปยังรัชกาลที่ 3 การแต่งกายก็แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง โดยในสมัยนั้นจะเน้นความเรียบง่าย ผู้หญิงจะสวมเพียงสไบคู่กับท่อนล่างแบบที่แม่บัวสวมใส่อยู่

ความโดดเด่นของแต่ละลุคอยู่บนลวดลายบนสไบที่มีทั้งดอกไม้นานาชนิด และลายไทยที่สวยงาม รวมถึงยังมีสีของสไบที่สดใสและหลากหลายเหมาะสมกับคาแร็คเตอร์ของแม่บัวที่มีความแก่นแก้วได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในแต่ละลุคการเลือกจับคู่สีก็สำคัญ ถ้าอยากให้ปลอดภัย การจับคู่สีเดียวกันจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดเพราะไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ถ้าอยากให้ดูสะดุดตามายิ่งขึ้นการใช้คู่สีตรงข้ามก็เป็นเรื่องน่าสนใจ หรือจะเลือกให้สีหนึ่งสีใดโดดออกมาเลยก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

AICCLINIC Cover

AIC Clinic คว้า 4 รางวัล คลินิกต้นแบบฟิลเลอร์ของเมืองไทย จากเวทีงาน กัลเดอร์ม่า ประจำปี 2023

AICCLINIC Cover
AICCLINIC Cover

เรียกว่ากระแสซีรี่ย์เกาหลีที่เกี่ยวกับวงการแพทย์กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่างซีรี่ย์เกาหลี The Glory 2 ที่จะมีฉากที่คุณหมอ ที่เป็นพระเอกในซีรีย์ได้อธิบายเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ให้กับนางร้าย ประมาณว่า “การฉีดฟิลเลอร์ให้ส่วนเป็นธรรมชาติ ให้คนจับไม่ได้ว่าฉีดฟิลเลอร์มานั้น มันจะต้องสลายหมดไปได้ตามกาลเวลา” ซึ่งนั่นเป็นบ่งบอกว่าเทรนการฉีดฟิลเลอร์ยังคงได้รับความนิยมอยู่มาก แต่หากเราจะฉีดฟิลเลอร์ให้สวยออกมาเป็นธรรมชาติแล้วละก็ ไม่ใช่แค่การพึ่งเพียงฟิลเลอร์แท้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องอยู่ที่ศัลยแพทย์ผู้ฉีด มีฝีมือ มีประสบการณ์มากน้อยเพียงใดด้วย 

อย่าง AIC Clinic ได้รับรางวัลที่ยืนยันได้ว่าเป็นคลินิกเฉพาะด้านฟิลเลอร์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย จากเวลางานระดับโลก บริษัท กัลเดอร์ม่า ประเทศไทย ประจำปี 2023 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเราได้รับรางวัลมากถึง 4 รางวัลเลยทีเดียว

AIC Clinic คว้า 4 รางวัล คลินิกต้นแบบฟิลเลอร์ของเมืองไทย จากเวทีงาน กัลเดอร์ม่า ประจำปี 2023

ซึ่งในแต่ละรางวัลนั้น ก็ไม่ธรรมดา เราไปดูกันดีกว่าว่ามีรางวัลอะไรบ้าง ?

  1. รางวัล Country Mentor Trainer รางวัล แพทย์ผู้สอนให้ความรู้ การฉีดฟิลเลอร์ระดับสูงสุดของประเทศไทย ที่ได้มอบให้ไว้กับ อาจารย์บอย นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ที่มีผลงานเป็นคุโณปการให้วงการแพทย์ไทย โดยท่านได้คิดค้นเทคนิคพิเศษสำหรับการฉีดฟิลเลอร์สัมผัสกระดูกแก้ไขโครงหน้าเป็นคนแรกของไทยที่ได้รับการการันตรีผลงาน ตีพิมพ์ตำราแพทย์นานาชาติ ที่ใช้เข็มปลายทู่มาฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคนไข้
  2. รางวัล Champion of Advocacy Awards เรียกว่า รางวัลนี้ AIC Clinic เป็นคลินิกเดียวของไทยที่ได้รับรางวัลนี้ และแสดงดังความเชื่อมันของ Partner ที่ช่วยสนับสนุนจนฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จาก บริษัทกัลเดอร์มา ให้เป็นที่ยอมรับและติดอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
  3. รางวัล Top 10 คลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์สูงสุดระดับประเทศ
  4. รางวัล GAIN Rising Star 2023 รางวัลสำหรับแพทย์ดาวรุ่ง ที่คุณหมอบี นพ.สมยศ จงไพรัตน์ แพทย์ประจำ AIC Clinic ก็คว้ามาได้

ต้องบอกว่าเป็น 4 รางวัลที่ได้รับมาอย่างภาคภูมิใจ และผ่านการคัดกรอง มอบรางวัลให้ด้วยความยุติธรรมโปร่งใส จากบริษัท  กัลเดอร์ม่า ประเทศไทย AIC Clinic เราจึงมีความเชื่อมั่นได้ว่า หากท่านใดต้องการปรับรูปหน้า หรือจะเลือกฉีดปากอวบอิ่ม ฉีดถุงใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ ให้ออกมาดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ดูดี ปลอดภัย ต้องเลือกมาฉีดกับ AIC Clinic เท่านั้น

keyboard_arrow_up