เปิดปฏิบัติการ “BMA x True Safe Internet” เร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน

จากงานวิจัยขององค์การเอ็คแพท องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ และองค์การยูนิเซฟ พบว่าในปี 2565 เพียงปีเดียว มีเด็กที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ช่วงอายุ 12 – 17 ปี กว่า 400,000 คน ตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกแสวงหาผลประโยชน์และละเมิดทางเพศ และจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้น ป.4 – ป.6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ดำเนินการเพื่อเก็บข้อมูลในปีนี้ พบว่ากว่า 93% นักเรียนมีบัญชีโซเชียลส่วนตัว โดยสมัครเองถึง 89% ยิ่งไปกว่านั้น 84% ใช้เน็ตเล่นเกมออนไลน์ โดยมากกว่า 60% ของนักเรียนกลุ่มนี้ เคยคุยกับคนแปลกหน้าและรู้จักกันผ่านเกมออนไลน์ ดังนั้น เพื่อสร้างเกราะป้องกันคนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่อไอซีทีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้ปลอดภัยจากการคุกคามในโลกไซเบอร์ ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงสานต่อความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เดินหน้าโครงการ “BMA x True Safe Internet” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ลงพื้นที่จัดหลักสูตรอบรมแก่ครูและนักเรียนกว่า 19,000 คน ในโรงเรียน 50 แห่งทั่วกทม.

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “หนึ่งในความท้าทายสำคัญด้านการศึกษา คือเยาวชนในยุคดิจิทัลนี้ ใช้ชีวิตในสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น เข้าสู่ภาวะติดการใช้มือถือ ซึ่งปัจจุบัน มีหลากหลายคอนเทนต์ในโลกอินเทอร์เน็ตที่แม้จะมีมาตรการควบคุมและติดตั้งระบบเพื่อห้ามไม่ให้เยาวชนเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ดังนั้นหัวใจ คือต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่น้องๆ นักเรียน รวมถึงคุณครูและผู้ปกครอง ซึ่งโครงการ BMA x True Safe Internet มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเกราะป้องกันดังกล่าวให้แก่เยาวชน ด้วยการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เนื้อหาสนุก สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบัน ภัยคุกคามไซเบอร์มีหลากหลายรูปแบบ มิจฉาชีพต่างมีวิธีการใหม่ๆ ซึ่งต้องปรับเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ เชื่อว่าโครงการนี้ จะนำความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปันเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่กรุงเทพมหานครและสังคมต่อไป”

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับกรุงเทพมหานคร จัดโครงการ “BMA x True Safe Internet” ปีที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ True Cyber Care ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้มุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการผสานศักยภาพของทั้งทรูและดีแทค ในการก้าวเป็นเทเลคอม-เทคคอมปานี ที่ต้องการร่วมยกระดับการศึกษายุคดิจิทัล ขับเคลื่อนสังคมแห่งการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์และบริการโทรคมนาคมอย่างปลอดภัย พร้อมป้องกันและเฝ้าระวังภัยไซเบอร์ เพื่อไม่ให้เยาวชนและคนในสังคมตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ อันสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนองค์กรในการสร้างสังคมดิจิทัลสำหรับทุกคน หรือ Digital Inclusion ให้บรรลุ 36 ล้านคนภายในปี 2573 โดยมุ่งเน้นกลุ่มเยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพในทุกมิติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป”

สำหรับกิจกรรมปีนี้ ยังคงครบเครื่อง โดยในส่วน School Tour ลงพื้นที่พบปะน้องๆ นักเรียนนั้น ได้จัดคอร์สเข้มข้นให้ความรู้ “การล่อลวงเด็กในโลกออนไลน์” เรียนรู้การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ตรวจสอบแยกแยะข่าวไหนจริงหรือหลอกลวง รู้เท่าทันเทคนิกของพวกมิจฉาชีพ โดยเฉพาะการแสวงหาประโยชน์ทางเพศบนโลกออนไลน์ หลอกให้โอนเงิน วิธีป้องกันและขอความช่วยเหลือเมื่อเจอผู้ไม่หวังดี ซึ่งปีนี้ จะเสริมด้วยหลักสูตร “รู้ทันโลกออนไลน์” จากทรูปลูกปัญญา ทั้งป้องกันภัยจากโลกไซเบอร์ การตั้งพาสเวิร์ด รูปแบบและโทษของ Cyberbullying ภัยโซเชียลมีเดียใกล้ตัว กฎหมายอินเทอร์เน็ตน่ารู้ และ Fake News ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังมีมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และมูลนิธิศานติวัฒนธรรม ให้การสนับสนุนหลักสูตร “พอกันที กรูมมิ่ง” จัดอบรมให้ครูมีความรู้ ทักษะ และสามารถสร้างเครื่องมือสื่อสารกับเด็ก ช่วยสอดส่องดูแลให้เด็กรู้จักระวังภัยและป้องกันตัวเองจากการกรูมมิ่งในโลกออนไลน์  และเตรียมพบกับอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ยอดนิยมกับการแข่งขันโต้วาที “Battle for Better” ที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ เปิดเวทีให้ผู้กล้าวัยใสได้ปล่อยพลัง นำเสนอไอเดียและข้อคิดเห็นด้านจริยธรรมเทคโนโลยีและสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนจะต้องทึ่งและประทับใจแน่นอน

เซียวจ้าน

ส่องรายได้ เซียวจ้าน (Xiao Zhan)  พระเอกฮ็อตแห่งวงการบันเทิงแดนมังกร

Alternative Textaccount_circle
เซียวจ้าน
เซียวจ้าน

เซียวจ้าน (Xiao Zhan)  เป็นดาราที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในลำดับต้นๆของวงการบันเทิงแดนมังกร และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากแฟนๆ ทั้งในและนอกประเทศ  จากผลงานซีรีส์ที่โด่งดังอย่างสุดขีดปี 2019   ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed) แม้ไม่ใช่ผลงานชิ้นแรกแต่กลับเป็นมาสเตอร์พีซ ที่ผลักดันชื่อเสียงของนักแสดงหนุ่มคนนี้ให้ไปอยู่ในระดับเมกะสตาร์ของวงการ

ไม่ว่า Xiao Zhan จะประสบความสำเร็จมากขนาดไหนกับผลงานชิ้นดังกล่าว  แต่เขาไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เพื่อทุ่มเทให้กับการท้าทายบทบาทใหม่ๆ เพื่อมอบผลงานคุณภาพให้กับแฟนคลับได้ชื่นชม อย่างไรก็ตามด้วยความนิยมของเขาทำให้หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ รายได้ ของนักแสดงหนุ่มคนนี้ เช่นนั้นวันนี้แพรวจะพาทุกคนไปค้นหาเกี่ยวกับเรื่องนี้

เซียวจ้าน

อย่างที่ทราบกันช่วงหลังมานี้ วงการบันเทิงไม่เปิดเผยเกี่ยวกับรายได้ของนักแสดงเลย แต่สามารถอ้างอิงได้จากการเปิดเผยของสื่อในปี 2020 ที่ระบุเกี่ยวกับรายได้ของ 40 คนดัง ระหว่างปี 2017- 2020 โดยรายได้ของ Xiao Zhan อยู่ในลำดับที่ 39 คือ 660 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 3,174 ล้านบาท แม้จะดูเหมือนมาก แต่หลายคนให้ความเห็นว่านักแสดงหนุ่มสามารถโกยรายได้มากกว่านี้หากไม่เกิดปัญหาที่คาดไม่ถึง เพราะเทียบกับ หวังอี้ป๋อ ซึ่งแจ้งเกิดจากช่วงเดียวกันสามารถทำรายได้มากกว่าเท่าตัว

เซียวจ้าน

สำหรับในส่วนของค่าตัวพรีเซนต์เตอร์นั้น แม้จะไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีข่าวเล็ดลอดออกมาเรื่อยๆ ในปี 2019 ช่วงที่กำลังไต่ระดับ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลความงามให้ค่าตอบแทนประมาณ 3.6 ล้านหยวน ประมาณ 17 ล้านบาท สำหรับการจ้างนักแสดงหนุ่มเป็นพรีเซนเตอร์ 1 ปี แต่ต่อมามีเหตุการณ์ที่ดูจะทำให้เห็นว่านักแสดงหนุ่มมีความสามารถในการนำสินค้าได้อย่างโดดเด่นคือ การที่เขาได้สตรีมมิ่งให้กับแบรนด์หนึ่งซึ่งมีผู้ทำธุรกรรม มากถึง 500 ล้านรายการในเวลาเพียง 25 นาที ทำให้มีเจ้าของสินค้ามากมายอยากร่วมงานกับเขา อาทิ GUCCI,TOD’S, Estee Lauder, YSL,, ROSEONLY, Usmile, Breo, Zwilling, MOLSION ฯลฯ

เซียวจ้าน

อย่างไรก็ตามมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าค่าตัวพรีเซนต์เตอร์ปัจจุบันของ Xiao Zhan พุ่งไปถึง 131 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าเดิมหลายร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ส่องความลับ! Lamborghini Huracán Sterrato ซูเปอร์สปอร์ตที่ทลายทุกข้อจำกัด

account_circle

Huracán Sterrato รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแรกที่ถูกออกแบบเพื่อส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในถนนทางเรียบและทางฝุ่น สร้างนิยามใหม่แห่งยานยนต์สปอร์ตชั้นเยี่ยมและตอกย้ำปรัชญาของแบรนด์กับภาพลักษณ์อันกร้าวแกร่ง แบบฉบับที่ไม่ซ้ำใคร พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ

ส่องความลับ! Lamborghini Huracán Sterrato ซูเปอร์สปอร์ตที่ทลายทุกข้อจำกัด

และนี่คือดีเทลของ Huracán Sterrato ที่เรารวบมาให้คุณท้าพิสูจน์จิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและสมรรถนะไปพร้อมๆ กัน

  • ส่งมอบการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติและการควบคุมที่สมบูรณ์แบบในทุกสภาวะ ตั้งแต่ทางหลวงไปจนถึง
    ถนนดิน มาพร้อมระบบ LDVI (Lamborghini Integrated Vehicle Dynamics) เวอร์ชันล่าสุด พ่วงด้วยโหมด RALLY สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่มีกริพน้อยให้แก่ตระกูล Huracán เป็นครั้งแรก
  • สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย มาพร้อมระบบกันสะเทือนที่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่เพิ่มระยะความสูงใต้ท้องรถและความกว้างช่วงล้อ อีกทั้งยังติดตั้งท่อลมเข้าแบบคลาสสิกบนฝากระโปรงหลังซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมจิตวิญญาณแบบรถสปอร์ต หากยังช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์เมื่อต้องวิ่งบนลู่แข่งที่มีฝุ่นดินเยอะ
  • มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V10 มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจด้วยกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 610 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ผสานระบบส่งกำลังคลัตช์คู่ 7 สปีดและระบบขับเคลื่อน All-wheel drive ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเฟืองท้ายระบบกลไกแบบล็อกตัวเอง โดยสามารถเร่งความเร็วตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 260 กม./ชม. เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดแม้วิ่งบนพื้นถนนทางหลักจนถึงถนนทางฝุ่น
  • ยาง Bridgestone ที่ถูกออกแบบมาให้สอดรับกับดีเอ็นเอของแบรนด์แบบ 100% เพราะมีการออกแบบลายดอกยางใหม่และใช้สารประกอบที่ล้ำสมัย ที่ช่วยให้ยางมีแรงยึดเกาะที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะวิ่งบนทางกรวดหรือถนนราดยาง พร้อมการควบคุมที่ดีเยี่ยมและสุดยอดประสิทธิภาพเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง
  • ดีไซน์ห้องโดยสารภายในได้รับแรงบันดาลใจจากเบาะรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟใน Alcantara Verde Sterrato ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญา ‘Feel like a pilot’ ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ Huracán เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมขั้นสุดควบคุมทุกฟีเจอร์ด้วยหน้าจอแบบทัชสกรีน กับการแสดงผลกราฟิกแบบใหม่และฟีเจอร์พิเศษสำหรับการขับขี่ออฟโร้ด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ให้มาตรวัดความลาดเอียงแบบดิจิทัลพร้อมด้วยตัวบอกระยะการยกตัวและการเอียงตัวของรถ เข็มทิศ ตัวบ่งชี้พิกัดทางภูมิศาสตร์ และตัวบ่งชี้มุมบังคับเลี้ยวแบบครบครัน
  • มาพร้อมระบบเชื่อมต่อระยะไกลที่ช่วยให้นักขับสามารถตรวจสอบสมรรถนะรถยนต์และวิเคราะห์ข้อมูลผ่านทางแอป UNICA โดยผู้ที่ใช้ Apple Watch ยังสามารถซิงค์ข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจเข้ากับระบบเชื่อมต่อ  เพื่อตรวจวัดสมรรถนะการขับขี่ของตัวเอง โดยสามารถใช้ฟังก์ชั่น Lamborghini Drive Recorder เพื่อบันทึกประสบการณ์การขับขี่ได้ตามต้องการ ให้นักขับเก็บช่วงเวลาแสนเร้าใจในรูปแบบคลิปวิดีโอ
  • อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ Huracán Sterrato นำเสนอออปชันการตกแต่งอย่างไร้ข้อจำกัดเพื่อการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ในฝันให้ตรงกับสไตล์นักขับมากที่สุดด้วย Lamborghini Ad Personam โดยลูกค้าสามารถเลือกโทนสีภายนอกได้มากถึง 350 เฉดสี ตลอดจนสีของหนังและการตกแต่งแบบ Alcantara ได้มากกว่า 60 โทน

มาเซราติ เกรคาเล่

สตอรี่เบื้องหลังรถหรูในฝันระดับลักซ์ชูรี่อย่าง ‘มาเซราติ เกรคาเล่’ (Maserati Grecale)

Alternative Textaccount_circle
มาเซราติ เกรคาเล่
มาเซราติ เกรคาเล่

เรื่องราวเบื้องหลังของ มาเซราติ เกรคาเล่ (Maserati Grecale) ทางแบรนด์มาเซราติจะให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว (Visual Longevity) เนื่องจากมาเซราติอยู่ในระดับ Luxury Class และยึดมั่นว่าดีไซน์ของผลิตภัณฑ์นั้นจะยังดูสวย ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้เวลาผ่านไปหลายปี

แรงบันดาลใจในการออกแบบ มาเซราติ เกรคาเล่ คือการส่งต่อความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์ วิศวกรรม และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพ สมรรถนะ ดีไซน์ และความสะดวกสบายสำหรับรถที่สามารถนำไปใช้ได้ตลอดทุกวัน

สำหรับ มาเซราติ เกรคาเล่ ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบได้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงการเตรียมข้อมูลสำหรับการออกแบบอย่างครบครัน แต่เมื่อมีรถออกมาเป็นโมเดลจริง ทีมงานยังต้องมีการติดตามผลและคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้สามารถส่งสารและใจความสำคัญที่ทีมต้องการสื่อสารได้อย่างครบถ้วน

ในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพ เนื่องจากมาเซราติมีต้นกำเนิดจากรถแข่ง ทุกคนจึงมองเห็นว่าความเร็ว นวัตกรรม อนาคต และเทคโนโลยี เป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นมาเซราติได้อย่างสมบูรณ์ สปอร์ตคาร์ที่มาวิ่งบนท้องถนนของค่ายตรีศูลนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมเข้าด้วยกันของรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนนและรถแข่งที่วิ่งบนสนามแข่ง มาเซราติได้นำรถแข่งมาดัดแปลงและปรับดีไซน์ให้เข้ากับการวิ่งบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการครอบวงล้อหรือการติดไฟสำหรับใช้วิ่งบนท้องถนนทั่วไป และมีการนำองค์ประกอบของซูเปอร์สปอร์ตคาร์ มาเซราติ เอ็มซี 20 (MC20) และสปอร์ตคาร์ กรันทูริสโม (GranTurismo) มานำเสนอในรุ่นนี้อีกด้วย

ในด้านการออกแบบ มาเซราติ และมาเซราติ เกรคาเล่ มีแรงบันดาลใจจากความเป็นอิตาเลียน และรูปปั้นเดวิด (ของไมเคิลแองเจโล) ที่มีความชัดเจนของกล้ามเนื้อ ความโค้งมนของเส้นร่างกาย ทั้งหมดนี้ถูกผสมผสานเข้าเป็นรูปทรงของสปอร์ตคาร์จากค่ายตรีศูล เพราะทุกคนมี perception ต่อรูปทรงและรูปร่างที่ไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว หากเป็นเส้นความโค้งมนของร่างกายจะให้ความรู้สึกด้านบวก แต่หากเป็นรูปอาวุธ เส้นคม ความโฉบเฉี่ยว จะให้ความรู้สึกด้านลบ มาเซราติอยากให้ดีไซน์ของสปอร์ตคาร์และซูเปอร์สปอร์ตคาร์เน้นให้ความรู้สึกด้านบวกกับผู้ใช้งานและผู้ที่พบเห็น

มาเซราติ เกรคาเล่ ถือเป็นความสมดุลของความแตกต่าง เป็นการผสมผสานความดั้งเดิมและความโมเดิร์นเข้าด้วยกัน ผ่านการดีไซน์ที่ยึดในความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม แต่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามายกระดับทั้งในด้านสมรรถนะและการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น Virtual Reality, Artificial Intelligence, 3D Scanning & Printing และ Driving Simulator เพื่อให้มั่นใจว่าจะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน

มาเซราติ เกรคาเล่ ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของความเป็นอิตาเลียน เป็นงานฝีมือสัญชาติอิตาเลียนที่ทันสมัย มาพร้อมกับคอนเซปต์ ‘Everyday Exceptional’ โดยตั้งมั่นว่าทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่เหนือระดับผ่านการใช้งานสปอร์ตคาร์รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหน อายุเท่าไรก็ตาม

รูปลักษณ์ภายนอกของมาเซราติ เกรคาเล่

  • การออกแบบตัวรถและตัวถังจะเน้นความเรียบ ไม่เน้นการประดับด้วยลวดลายต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงรูปทรง สัดส่วน และเส้นสายที่สวยงามและเหมาะสมตามสไตล์อิตาเลียนของมาเซราติ
  • จะเลือกใช้สีสันสดใสเป็นหลัก และมีคอลเลคชั่นที่ทำขึ้นเป็นพิเศษให้กับบุคคลดัง เช่น เดวิด เบคแฮม หรือตัวละครบาร์บี้ แต่ยังมีตัวเลือกเป็นสีพื้นฐานสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบความคลาสสิกให้เลือกด้วยเช่นกัน
  • ออกแบบตามคอนเซปต์ Tridentity (Trident + Identity) เป็นการนำตรีศูล หรืออาวุธของเทพเจ้า สอดแทรกเข้าไปในดีไซน์รถของมาเซราติ เช่น การทำให้ล้อเป็นสามแฉก หรือการใส่สัญลักษณ์เข้าไปที่ฝาเครื่องยนต์ และกระจังหน้ารถ เพื่อแสดงออกถึงสมรรถนะและความเข้มแข็งของรถแบบไม่โฉ่งฉ่าง

รูปแบบภายในของมาเซราติ เกรคาเล่

  • การออกแบบให้หน้าปัดมีมาตรวัดอย่างครบถ้วน โดยใช้ดีไซน์ที่เรียบหรู และอยู่ในตำแหน่งที่เป็นช่องว่างของพวงมาลัยอย่างพอดี เพื่อให้ผู้ขับรถสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
  • หน้าจอควบคุมส่วนกลาง เป็นกระจกที่มีขอบเป็นเหล็ก และถูกแบ่งเป็นสองจอแต่สามารถใช้งาน และเห็นข้อมูลสองส่วนได้พร้อม ๆ กัน เช่นการใช้หนึ่งจอแสดงผลแผนที่ และอีกหนึ่งจอเป็นการแสดงระบบควบคุมการปรับอากาศภายในห้องโดยสาร
  • มีการออกแบบส่วนต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารเพื่อไม่ให้บดบังสายตาและรบกวนการมองเห็น ทีมออกแบบเล็งเห็นว่าศูนย์กลางของสปอร์ตคาร์รุ่นนี้ไม่ใช่หน้าจอควบคุมส่วนกลาง แต่เป็นคนขับและผู้โดยสาร โดยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถมีปฏิสัมพันธ์และเกิดความรู้สึกใกล้ชิดกับรถคันนี้มากที่สุด ทุกคนจะได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่สวยงาม สะดวกสบาย และการโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ได้มีสิ่งอื่นมารบกวน
  • นาฬิกาภายในห้องโดยสาร สามารถเปลี่ยนเป็นนาฬิการูปแบบอื่น หรือเปลี่ยนข้อมูลที่นำมาแสดงได้ เช่น เข็มทิศ
  • มีการใช้ไนลอนที่รีไซเคิลจากแหตกปลาสำหรับการตกแต่งภายใน ของรถประเภท EV

มายมายด์-ธีรดา เอี่ยมสำอางค์

มายมายด์-ธีรดา เอี่ยมสำอางค์  นางงามผู้มีใจรักสิ่งแวดล้อม ผู้เข้าประกวด Miss Earth Thailand 2023

Alternative Textaccount_circle
มายมายด์-ธีรดา เอี่ยมสำอางค์
มายมายด์-ธีรดา เอี่ยมสำอางค์

เรียกว่ากระแสเวทีการประกวดนางงามหลายเวทีกำลังมาแรง หนึ่งในนั้นคือเวที “Miss Earth Thailand 2023” ที่มีวัตถุประสงค์จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนให้ทุกคนมีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์รณรงค์เชิญชวนให้อนุรักษ์และความรับผิดชอบต่อสังคม ออกมาเป็นระยะ

วันนี้จะพาไปรู้จักผู้เข้าประกวดอีกหนึ่งคนจากเวทีดังกล่าว Content Creator ผู้มาพร้อมสกิลและวิสัยทัศน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุดๆ เธอคือ “มายมายด์ ธีรดา เอี่ยมสำอางค์” ผู้เข้าประกวดเวที “Miss Earth Thailand 2023” หมายเลข MET01 ปัจจุบันอายุ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เธอเคยพูดเอาไว้ในรอบออดิชั่น ว่า “มายด์มีโอกาสได้พูดคุยกับใบตอง-จรีรัตน์ ทำให้มายด์ค้นพบว่าธรรมชาติ และสัตว์พูดคุยกับเราไม่ได้ก็จริง แต่ปัญหาสภาพอากาศ ฝุ่น ควัน มลภาวะ หรือแม้กระทั่งแสงแดดที่ทำร้ายผิว นั่นแหละค่ะคือสารที่เขากำลังส่งมาถึงเรา ว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาตรงนี้โดยเร็วที่สุด”

มายมายด์-ธีรดา เอี่ยมสำอางค์

ก่อนจะบอกถึง Goal ในการเข้ามาประกวดเวทีดังกว่างต่อว่า “มายด์ตั้งใจจะนำสกิลและความสามารถทั้งหมดของมายด์เอง นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะการแก้ไขจุดบกพร่องด้านสิ่งแวดล้อมในบ้านเรา เพื่อคนไทย และเพื่ออีกหลายล้านชีวิตที่กำลังจะเกิด เพื่อเราทุกคนค่ะ”

 “มายด์มายด์” สวยหวานครบเครื่อง กับสปีชที่กองประกวดสอบถามเธอว่า “ถ้าได้เป็น Miss Earth Thailand 2023 จะทำให้ทุกคนตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร” เธอตอบออกมาอย่างภาคภูมิใจว่า “ถ้ามายด์ได้เป็น Miss Earth Thailand มายด์อยากเริ่มที่ตัวมายด์เองก่อน ทำให้ตัวมายด์เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความคิด ทั้งจิตใจ และนำสิ่งๆนี้ ออกไปบอกต่อวงกว้างที่อยู่รอบข้างมายด์ได้ เพราะมายด์เชื่อเสมอว่าวงกว้างนี่แหละค่ะที่จะเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่พูดแทนธรรมชาติได้”

ตลอดการประกวดที่ผ่านมา มายด์มายด์บอกเสมอว่าเธอทำเต็มที่ทุกิจกรรม ไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งการจัดเตรียมเสื้อผ้าลุคต่างๆ หน้าผมที่เธอทำเอง เพื่อพิสูจน์ศักยภาพว่าเธอพร้อมที่จะเป็น “Miss Earth Thailand 2023” คนต่อไป มาร่วมเป็นกำลังใจให้เธอในรอบตัดสิน ในวันที่ 1 กันยายน 2566

มินิมอลแต่ครึ่งล้าน! คิมจีซู ในลุคชิลๆ กับราคาไอเท็มที่แพงตะโกน

Alternative Textaccount_circle

‘คิมจีซู’ กับลุค All Black เรียบๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าความมินิมอลมินิใจนี้ราคารวมกว่าครึ่งล้านเลยทีเดียว! ไอเท็มชิ้นไหนเป็นตัวการทำให้แพงหูฉี่ขนาดนี้ ต้องตามไปดู

เมื่อ จีซู BLACKPINK อัพโหลดรูปบนอินสตาแกรมทีไรก็ต้องหยุดดูอยู่เรื่อยไป เพราะแต่ละไอเท็มที่ประกอบร่างมาเป็นหนึ่งลุคช่างน่าเป็นที่จับตามอง เช่นเดียวกับลุคล่าสุดที่เธอได้ใส่ไปเที่ยวกับเพื่อนขณะอยู่ที่ Los Angeles ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะความคอนทราสต์ของลุคมินิมอลๆ ที่มีราคาไอเท็มชนิดแพงสุดๆ

โดยคิมจีซูได้เลือกใส่เป็นเดรสสีดำตัวเดียวแบบง่ายๆ ‘Tape Tie Grunge Slip – Black and Satin’ จาก R13 ราคาประมาณ 42,000 บาท แมตช์คู่กับรองเท้าง่ายๆ จาก Courreges รุ่น Wave Platform Sandals ราคา 18,000 บวกแค่นี้อาจจะยังไม่ครบครึ่งล้าน

ฉะนั้นไอเท็มบนตัวเธอจึงยังไม่หมด เพราะถ้ามีแค่สองชิ้นก็น้อยจนเกินไปเธอจึงหยิบเครื่องประดับจาก Cartier แบรนด์คู่ใจมาเสริมลุคทั้งแหวน Trinity Ring – Classic ราคา 47,000 บาท และ Etincelle de Cartier Wedding Band ราคา 123,000 บาท อีกทั้งยังมีกำไลข้อมือ Juste un Clou Bracelet – White Gold ราคา 280,000 บาท และไอเท็มชิ้นสุดท้ายที่เตะตาเหลือเกิน นั่นคือ กล้อง Fuji รุ่น X-Pro3 DR – F FX-X-PRO3-DS ราคาประมาณ 64,000 บาท รวมๆ แล้วลุคนี้มีมูลค่าสูงถึง 574,000 บาทเลยทีเดียว สมกับที่เป็นหนึ่งในสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป K-POP อันดับ 1 ของโลกจริงๆ


รูปภาพ: Instagram @sooyaaa__

ไอรีน Red Velvet

Sold Out ใน 1 นาที! หลัง ‘ไอรีน Red Velvet’ คัมแบ็กวงการบิวตี้ในรอบ 3 ปี พิสูจน์ความเป็น ‘CF Queen’

Alternative Textaccount_circle
ไอรีน Red Velvet
ไอรีน Red Velvet

หลังจากห่างหายไปนานถึง 3 ปี ในที่สุด ‘ไอรีน Red Velvet’ ก็กลับมาโดดเด่นอีก ครั้งคราวนี้เป็นแรงบันดาลใจใหม่สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีสาขาญี่ปุ่น 2aN ถือเป็นการคัมแบ็กสู่โลกโฆษณาเดี่ยวของเธอหลังจากหายไปนานถึง 3 ปี มีแฟนๆ และผู้ชื่นชอบความงามมารวมตัวกันซัพพอร์ตเธอ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าอิทธิพลของเธอในอุตสาหกรรมนี้ยังคงไม่สั่นคลอน แสดงให้เห็นถึงพลังของเธอในฐานะ “CF Queen”

Sold Out ใน 1 นาที! หลัง ‘ไอรีน Red Velvet‘ คัมแบ็กวงการบิวตี้ในรอบ 3 ปี พิสูจน์ความเป็น ‘CF Queen’

และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี 2aN ในญี่ปุ่นได้ยืนยันและต้อนรับไอรีนเป็นแรงบันดาลใจใหม่ล่าสุด และเปิดเผยภาพถ่ายที่งดงามและดูเยาว์วัยของเธอ เหมือนตอนที่เธอเดบิวต์ใหม่ๆ ใครจะคิดว่าปีนี้เธออายุ 33 ปีแล้ว

ถึงแม้ในระหว่างที่เธอเงียบหายไปจากวงการโฆษณาเป็นเวลาสามปี จนมีเหล่าไอดอลอายุน้อยกว่าจำนวนมากได้ครองตำแหน่งและเป็นตัวแทนของแบรนด์ต่างๆ แต่อิทธิพลของไอรีนในฐานะ “CF Queen” ยังคงไม่สั่นคลอน หลังจากแบรนด์สินค้าที่เธอเป็นตัวแทนโปรโมท สินค้าก็ขายหมดภายใน 1 นาที นอกจากเธอจะทำให้สินค้าของ 2aN ขายดิบขายดี ไม่เพียงแต่บนเว็บไซต์ทางการของแบรนด์เท่านั้น แต่แฟนๆ ยังซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ของผู้ค้าปลีก เช่น Qoo10 ด้วย

นอกจากนี้ เธอยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หรือ X (ชื่อเดิมคือ Twitter) เพื่อต้อนรับการกลับมาของเธอด้วยแฮชแท็ก เช่น #IRENEx2aN และ “Welcome Back CF Queen”

แฟนๆ หวังว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และไอรีนจะทำข้อตกลงกับแบรนด์เพิ่มเติมในอนาคต การตอบรับครั้งแรกนี้เป็นสิ่งบ่งชี้แสดงให้เห็นถึงพลังของไอรีนที่ทำให้สินค้าขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว แฮชแท็กที่กำลังมาแรง และความรักที่มีต่อไอรีน Red Velvet มากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแฟนๆ รอซัพพอร์ตเธอจำนวนไม่น้อย


ภาพ : renebaebae, 2aN

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แฟรงค์ มุลเลอร์ “เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์” เรียบง่าย สง่างาม คูลอย่างมีสไตล์

account_circle

“เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์” เรือนเวลาคอลเล็คชั่นใหม่จากแบรนด์นาฬิกาหรู แฟรงค์ มุลเลอร์ ที่อยู่ภายใต้ตัวเรือนโค้งและโครงร่างอันสมบูรณ์แบบของ ซินทรี เคอร์เว็กซ์ (Cintrée Curvex) ซึ่งได้กลายเป็นรูปลักษณ์อันโดดเด่นสูงสุดของ แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) มานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992

ซินทรี เคอร์เว็กซ์ (Cintrée Curvex) มาพร้อมกับงานออกแบบตัวเลขที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสวยงาม ซึ่งได้สร้างให้ ซินทรี เคอร์เว็กซ์​ เป็นหนึ่งในตัวเรือนและหน้าปัดนาฬิกาอันเป็นที่จดจำได้มากที่สุด

แฟรงค์ มุลเลอร์ “เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์” เรียบง่าย สง่างาม คูลอย่างมีสไตล์

หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกภายในรุ่น แกรนด์ เซ็นทรัล ทูร์บิญอง (Grand Central Tourbillon) มาแล้ว ในวันนี้ ซินทรี เคอร์เว็กซ์ ได้ผสมผสานอยู่ในคอลเล็คชั่นหลักใหม่ของแบรนด์ ภายใต้ความสง่างามของตัวเรือน เคอร์เว็กซ์ (Curvex) ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ประกอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ซึ่งขยายครอบคลุมไปจนถึงสายนาฬิกา เพื่อมอบความสามารถในการมองเห็นได้มากยิ่งขึ้นสู่หน้าปัด

ขณะที่ขอบตัวเรือนเพรียวบางที่แยกออกจากตัวเรือนนั้นยังช่วยให้สามารถตกแต่งด้วยสองโทนสีอันโดดเด่น โดยขอบตัวเรือน “อินวิซิเบิล” (“invisible”) ซึ่งอาศัยการจำกัดวัสดุที่นำมาใช้บนด้านข้างนี้ยังยกระดับความสามารถในการมองเห็นบนหน้าปัดได้มากขึ้น นับเป็นชัยชนะอันท้าทายทางเทคนิคและมอบความมีชีวิตชีวาครั้งใหม่ให้กับรูปทรงตัวเรือนอันคลาสสิก พร้อมด้วยสายที่ผสานเข้ากับตัวเรือนโดยตรง ทำให้ เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์ (Curvex CX) นี้มอบความสะดวกสบายได้อย่างมากเมื่อสวมใส่บนข้อมือ 

เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์ โดดเด่นด้วยลวดลายกิโยเช่ (guilloché) ใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก กลูส์ เดอ ปารีส์ (Clous de Paris) ซึ่งนำมาปรับใช้เพื่อมอบภาพการเคลื่อนไหวของแสงสะท้อนบนหน้าปัด จากการประกอบด้วยรูปทรงพีระมิดสามมิติเล็กๆ ที่สะท้อนกับแสงในมุมต่างๆ มอบเป็นมิติของประกายแสงอันแวววาวเจิดจรัสขณะที่พีระมิดเหล่านี้มีขนาดใหญ่ขึ้นนับจากศูนย์กลางของหน้าปัดสู่ขอบรอบนอกในสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ การวิจัยและพัฒนาอันเข้มข้นนี้ยังเกี่ยวข้องกับการคำนวณอย่างแม่นยำของลวดลายขด กลูส์ เดอ ปารีส์ ใหม่ อันสมบูรณ์

ขณะที่ เคอร์เว็กซ์ ซีเอ็กซ์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ และสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง เป็นเรือนเวลาที่เหมาะสมอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย และหลงใหลในความเรียบง่าย สง่างาม และความคูลอย่างมีสไตล์ 


แกะรอย ‘Baggy Jeans’ เมื่อไอเท็มยุค 70s กลายเป็นชื่อเพลงของ NCT U

Alternative Textaccount_circle

ทำความรู้จัก ‘Baggy Jeans‘ กางเกงสุดฮ็อตปี 1970 ก่อนกลายมาเป็นชื่อเพลงของ K-POP ยูนิตในตำนานอย่าง NCT U

สิ้นสุดการรอคอยกับยูนิต NCT U กับ 5 สมาชิก Taeyong, Doyoung, Ten, Jaehyun และ Mark ที่เคยรวมตัวกันสร้างตำนานในเพลง The 7th Sense เมื่อ 7 ปีก่อน สำหรับ 2023 พวกเขาได้กลับมาอีกครั้งในเพลง Baggy Jeans ที่บอกเล่าความเท่ และความดุเดือดในแบบของตัวเอง ผ่านธีมเพลงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุค 70s ตั้งแต่ทรงผม Mullet ไปจนถึงแฟชั่นไอเท็มอย่าง Baggy Jeans ที่นิยมมากๆ ในช่วง 1970 ไปจนถึงต้นปี 1980

‘Baggy Jeans’ ที่ว่าเป็นเดนิมที่ทรงหลวมโดยเฉพาะส่วนสะโพกและขาที่จะใหญ่โคร่งเป็นพิเศษ ในตอนแรกถูกดีไซน์ขึ้นมาให้สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดเหมือนยีนส์ที่รัดรูป แต่เมื่อได้ออกสู่ตลาดก็กลับได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่วัยรุ่นโดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักความเท่และ Swag เป็นชีวิตจิตใจ แอบกระซิบว่าภาษาไทยมีคนเรียกว่ากางเกงยีนส์ทรง ‘คุณพ่อ’ แต่เมื่ออยู่บนตัวของทั้ง 5 คน เห็นทีต้องเปลี่ยนเป็น ‘กางเกงยีนส์ทรงตัวพ่อ’ แล้วล่ะค่ะ

เมื่อรับรู้ถึงที่มาที่ไปของ ‘Baggy Jeans’ อันเป็นเหมือนเส้นเรื่องหลักของการนำเสนอเพลงใหม่นี้จึงไม่แปลกที่ทั้งคอสตูม ทรงผม ฉาก รวมถึงเนื้อเพลงจึงมีเนื้อหาที่บ่งบอกถึงยุค 70s อีกทั้งยังมีการวางคาแร็คเตอร์ของทั้ง 5 คนให้ออกมาเป็นวัยรุ่นที่มีความเท่ Swag และมีสไตล์โดดเด่นเป็นของตัวเอง


รูปภาพ: Instagram @nct

‘เลือกมากจนกลายเป็นเจ้าชู้ วันนี้มีโอกาสแตะของร้อนคนร้อน มีสะดุ้งราวกับถูกไฟ ใครกันหนอ?? ต้องเช็กแล้ว!!’ ดวงรายวัน 29 สิงหาคม 2566

‘เลือกมากจนกลายเป็นเจ้าชู้ วันนี้มีโอกาสแตะของร้อนคนร้อน มีสะดุ้งราวกับถูกไฟ ใครกันหนอ??

ดวงรายวัน 29 สิงหาคม 2566

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  มีโอกาสที่คุณจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงานที่เอกอุของคุณ ริเริ่มงานหรือธุรกิจใหม่ๆ เป็นไปได้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับงานประจำเลย และก็มีโอกาสที่คุณจะนำงานหรือธุรกิจนั้นๆ เข้าสู่การแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการประมูลงาน ประกวด สอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง สอบสัมภาษณ์ ฯลฯ  ซึ่งคุณคาดหวังความสำเร็จไว้สูงมาก จนสามารถทำได้ทุกวิถีทาง แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมนักก็ตาม

การเงิน  :  คุณสามารถทำงานสร้างรายได้ด้วยตัวเองและเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งวันนี้มีโอกาสได้รับเงินรางวัลจากการทำงาน แต่ก็ต้องระวังความใจดีใจบุญของคุณที่จะช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน  

ความรัก  :  คุณต้องการคู่ครองที่จะมาเติมเต็มชีวิตของคุณให้สมบูรณ์ขึ้น แต่เป็นไปได้ที่คุณจะตัดสินใจเร็วเกินไป จนไม่แน่ใจว่าที่อยู่ด้วยกันนี่คือรักกันจริงๆ ใช่ไหม เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกเสียเหลี่ยมที่ได้อยู่กับเขา คนโสด อย่ายอมเสียเหลี่ยมใครง่ายๆ นะคะ เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะตัดสินใจรับรักใครง่ายเกินไป ซึ่งที่สุดแล้วมีโอกาสผิดหวังสูงมากด้วย

สุขภาพ  :  ฟันจะสร้างปัญหาให้กับคุณ นอกจากนั้นยังต้องระวังความฟุ้งซ่าน วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ เก็บกด อมทุกข์ ซึ่งจะทำร้ายสุขภาพให้แย่ลง

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ การเงินการธนาคาร การแพทย์และสาธารณสุข เป็นไปได้ว่าคุณจะได้เข้าไปทำงานที่เกี่ยวกับการสืบสวน สอบสวน ค้นคว้า วิจัย กฎหมาย ฯลฯ เป็นไปได้สูงมากว่าคุณจะเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่จะทำให้ผิดหวัง เสียใจ จนถึงขั้นท้อแท้กับโชคชะตาที่ไม่ดี จากที่คาดหวังว่าจะยึดอาชีพนี้ไปยาวๆ แต่วันนี้มีโอกาสที่คุณจะร้อนรุ่มอึดอัดไปหมด ทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายจนแทบอยากจะลาออกให้จบๆ ไป

การเงิน  :  ต้องใช้ความสามารถและความเหน็ดเหนื่อยทั้งทางกายและใจ เพื่อแลกกับเงินทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งคุณพยายามเก็บออมจนมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่วันนี้เป็นไปได้ว่ารายจ่ายจะบานปลายจนเงินไม่พอใช้  

ความรัก  :  คุณคาดหวังที่จะประสบความสำเร็จกับชีวิตคู่สูง กับลูกมากเกินไปหรือเปล่า จนกลายเป็นความกดดันทั้งคุณและพวกเขา ก็ต้องระวัง เพราะวันนี้มีโอกาสจับได้ว่าคู่ครองมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ เกิดความหึงหวง ปรับความเข้าใจไม่ได้  คนโสด  คุณเลือกมากจนดูเหมือนไม่จริงจัง ซึ่งวันนี้มีโอกาสเจอของร้อนคนร้อน แตะไปถึงกับสะดุ้ง เพราะเขามีแฟนแล้ว  

 สุขภาพ  :  มีโอกาสที่คุณจะเครียดกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา ไม่ว่างาน เงิน ความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอารมณ์เชิงลบต่างๆ เช่น โกรธ โมโห แค้น หึง อิจฉาริษยา ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นปัญหาสุขภาพของคุณ

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :    สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายช่าง นักประดิษฐ์ คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม เป็นไปได้ว่าวันนี้คุณจะได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากเจ้านายผู้หญิง โดยจะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณรับผิดชอบงานหรือธุรกิจนั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะนำมาซึ่งตำแหน่งหน้าที่การงานในอนาคต

การเงิน  :  หากคุณทำงานเพื่อความสุขในชีวิตและเพื่อสังคมมากกว่าจะคิดถึงผลตอบแทน ก็มีความเป็นไปได้ที่ คุณจะได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ผู้หญิง ที่ท่านเล็งเห็นถึงความขยันขันแข็งของคุณ

ความรัก  :   คุณให้ความสำคัญกับความรัก ความซื่อสัตย์ มั่นคงมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งวันนี้ครอบครัวคุณก็ดูแลและทนุถนอมราวกับไข่ในหินอยู่แล้ว ดังนั้น คุณจึงสามารถที่จะทำงานได้เต็มที่โดยไม่ต้องห่วงกังวลอะไร คนโสด  หากคุณรักใคร ก็ขอแค่รักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์มั่นคง เพื่อที่คุณจะเดินหน้าทำงานได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ

 สุขภาพ  : ออฟฟิศซินโดรมมาเยือนแล้ว หากคุณนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ วันนี้คงต้องลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เพราะมีโอกาสที่จะตึงยึดไปหมดทั้งร่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นด้านหลัง นอกจากนั้นหากเพิ่งผ่าตัดหรือผ่าคลอด ก็ไม่ควรยกของหนัก เพราะแผลด้านในจะปริแตกได้

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน   :   หากคุณกำลังรับผิดชอบงานหนักอยู่คนเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้เป็นไปได้ว่างานจะเข้า เพราะคุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ หรือโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปสู่หน่วยงานที่มั่นคงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ เป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวกับงานหรือธุรกิจด้านการบริการ เช่น โรงแรม ท่องเที่ยว อาหาร สปา จนถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับเด็ก  ก็ไม่ควรทำตัวเหมือนเด็กนะคะ

การเงิน   :  คุณขยันทำงาน หนักเอาเบาสู้ สามารถจัดสรรการเงินได้ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้ช่องทางที่คุณจะมีโอกาสเสียเงินคือ ถูกหยิบยืมจากเพื่อนฝูงหรือญาติสนิท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กน้อย

ความรัก  :  หากงานนอกบ้านก็ยุ่งอยู่แล้ว วันนี้เป็นไปได้ว่างานในบ้านยิ่งยุ่งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเด็กๆ ที่คุณต้องจู้จี้จุกจิกกันมากหน่อย คนโสด  ไม่รู้ว่าอะไรมาก่อน ระหว่างงานยุ่งกับความเจ้าชู้ เพราะวันนี้คุณมีครบ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม วันนี้จะมีเด็กน้อยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

สุขภาพ  :  เป็นไปได้ว่าวันนี้การย่อยอาหารจะมีปัญหา เช่น  ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือหลอดลมอักเสบ เป็นต้น

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  หากคุณกำลังยึดติดอยู่กับอีโก้ของตัวเอง จนไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานหรือดำเนินธุรกิจเอ็นเทอร์เทน เช่น นักร้อง นักดนตรี พิธีกร สถานบันเทิง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยแล้ว วันนี้คุณมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับคนประเภท ต่อหน้าก็ ‘ได้ครับพี่ ดีครับท่าน’ แต่ลับหลังไม่ทำอะไรเลย ซึ่งมีโอกาสที่งานหรือธุรกิจจะผิดพลาดเสียหาย แล้วเมื่อถึงตอนนั้นคุณก็จะถูกซ้ำเติมอีกต่างหาก

การเงิน  :   มีโอกาสได้เงินก้อนโตจากงานเทาเงินเทา แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะอยู่กับคุณไม่นาน จึงเป็นไปได้ที่รายได้ของคุณจะขึ้นๆ ลงๆ เข้าๆ ออก ไม่แน่นอน

 ความรัก  :  หากคุณกำลังเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะคู่ครองคุณกำลังมีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งวันนี้คุณมีอุดมการณ์ของตัวเองแน่วแน่ที่จะไม่โอนอ่อนไม่ยอมใช้สามีร่วมกับใคร คนโสด หากกำลังเข้าไปยุ่งกับแฟนคนอื่น เป็นความรักที่เปิดเผยไม่ได้ วันนี้คุณก็ไม่ยอมถอยเหมือนกัน

สุขภาพ  :  หากเป็นนักดื่ม สายปาร์ตี้ วันนี้ควรดื่มอย่างมีสติ ไม่ควรดื่มเพื่อให้ลืมเธอ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบย่อยอาหาร เช่น กระเพาะอาหาร และลำไส้   

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจในสายงานที่เกี่ยวกับการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย ค้นคว้า ไลฟ์โค้ช เทรนเนอร์ ติวเตอร์ ฯลฯ  เป็นไปได้ว่าคุณกำลังถูกลดบทบาทความสำคัญ หรือเพื่อนที่รู้ใจถูกชิงตัวหรือลาออกไปโดยไม่บอกล่วงหน้า แล้วไม่ว่าจะเรียกร้องขอความเห็นใจใดๆ ก็ไม่ได้รับการตอบรับ จึงเป็นไปได้ที่คุณจะใช้เทคนิคแทกติกที่มีอยู่แพรวพราว รวมถึงเซ้นท์ที่แม่นยำประดุจหมอดู ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำงานใหม่ อาจเปลี่ยนไปเรียนต่อเลยก็ได้  

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะเสียเงินให้กับคนใกล้ชิดอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนสุดท้ายเหลือใช้แค่เงินเดือนประจำ

ความรัก  :  ก็ยังคงอยู่กับการโหยหาความรักความอบอุ่นจากคู่ครอง วันนี้มีโอกาสที่จะถึงขั้นเรียกร้องความสนใจ แสดงความหึงหวงอย่างออกนอกหน้า ทางที่ดีคุณอาจต้องปลีกวิเวกไปเลย   คนโสด  เป็นไปได้ว่าคุณจะได้พบคนรักที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง วันนี้ควรมองผู้ใหญ่หรือชาวต่างชาติจะดีกว่า

สุขภาพ  :   ก็ยังมีโอกาสที่จะอยู่กับความโหยหา โหยไห้ จนสุขภาพจิตแย่ มองอะไรก็หงุดหงิดขัดหูขัดตาไปหมด นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานได้

ผู้ที่เกิดวันเสาร์                           

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายสาธารณะประโยชน์ สาธารณะกุศล มูลนิธิ จิตอาสา สังคมสงเคราะห์ เป็นไปได้ว่าคุณจะได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นกับเพื่อนหรือญาติสนิทผู้หญิงในงานที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ความรู้สึกในการแสดงออก เช่น งานบันเทิง โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ ออร์แกไนซ์ สื่อมวลชน จนถึงสินค้าและบริการที่มีน้ำมาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามวันนี้คุณจะเครียดและกดดัน เพราะต้องทำให้สมกับที่เจ้านายคาดหวังคุณไว้สูง

การเงิน  :   มีโอกาสที่คุณจะได้ทำบุญทำกุศล บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสังคม เมื่อมีจิตเป็นกุศลแล้วก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินสินบน เงินใต้โต๊ะ ส่วย เพราะมีโอกาสล้มละลายได้เลย

ความรัก  :   เป็นไปได้ว่าวันนี้คู่ครองคุณจะเป็นสามีแห่งชาติ คอยช่วยเหลือและส่งเสริมหน้าที่การงาน จนมีโอกาสที่เพื่อนหรือญาติผู้หญิงจะมาให้สามีคุณช่วยด้วยน้า…คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะอยู่กับเพื่อนผู้หญิงหรือญาติสนิท วันนี้จะหึงหวงพวกเธอมากกว่าจะมองหาแฟนอีก

สุขภาพ   :  มีโอกาสที่คุณจะเจ็บป่วยด้วยโรคเลือดจาง ปอดบวม นอกจากนั้นมีโอกาสเป็นความดัน และน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งวันนี้ไม่ใช่อาการธรรมดา

คัลโซวอน

10 ปีผ่านไปสวยจึ้ง! คัลโซวอน นักแสดงเด็ก ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7

Alternative Textaccount_circle
คัลโซวอน
คัลโซวอน

ยังจำ “เยซึง” จากภาพยนตร์เกาหลี “ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข” (Miracle In Cell No. 7) กันได้ไหม บทบาทนี้แสดงโดยนักแสดงเด็กผู้มีพรสวรรค์ คัลโซวอน แม้ในตอนนั้นเธอจะอายุเพียง 7 ขวบ แต่กลับทำให้ผู้ชมประทับใจและเสียน้ำตาเป็นจำนวนมาก และหลังจากผลงานนิ้โซวอนยังได้รับบทสำคัญๆ ในอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น Legend Of The Blue Sea,A Korean Odyssey ฯลฯ

จากผลงานในวันนั้นผ่านไป 10 ปีแล้ว หนูน้อยโซวอน ได้เติบโตมาเป็นสาวสะพรั่ง โดยปัจจุบันเธออายุ 17 ปี เป็นนักแสดงในสังกัด YG Entertainment ดูเหมือนว่าเธอไม่เพียงมีพรสวรรค์ทางด้านการแสดงเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถด้านการเรียนและกีฬาอีกด้วย

คัลโซวอน
คัลโซวอน

ในรายการ Strong Heart League ได้เปิดเผยว่ามีข่าวลือมากมายว่าเธอหันไปเอาดีด้านกีฬามากกว่าการเป็นนักแสดงมันไม่ใช่เลย เธอเพียงแค่คนที่ชื่นชอบการออกกำลังเท่านั้น ก่อนจะเปิดเผยว่าเเธอได้เข้าร่วมสโมสรเน็ตบอล และเคยแข่งขันทำประตูได้มากถึง 7 จาก 12

ในเรื่องวิชาการก็ไม่เป็นรอง โซวอน ถนัดคณิตศาสตร์เธอสามารถรวบรวมลูกบาศก์ได้ภายใน 34 วินาที เมื่อถูกถามว่าคุณเป็นที่ 1 ในโรงเรียนใช่หรือไม่? นักแสดงสาวกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ติดอันดับหนึ่งในทุกวิชา”

คัลโซวอน

เคล็ดลับดูแลผิวของ 'โกฮยอนจอง'

เคล็ดลับดูแลผิวของ ‘โกฮยอนจอง’ นักแสดงหญิงวัยเลข 5 ผู้รับบท ‘คิมโมมี’ จากซีรีส์ Mask Girl

Alternative Textaccount_circle
เคล็ดลับดูแลผิวของ 'โกฮยอนจอง'
เคล็ดลับดูแลผิวของ 'โกฮยอนจอง'

“โกฮยอนจอง” (Go Hyun Jung) อีกหนึ่งตัวแม่วงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น ด้วยวัยที่เลข 5 ที่ดูยังไงก็ไม่น่าถึง เพราะสวยอ่อนเว่าวัยมาก ก่อนอื่นขอพาไปรู้จักเธอกันก่อนสำหรับคนดูที่อาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตา เธอมีมากมายอย่างเรื่อง Queen Seondeok จากบทบาท Lady Mishil ที่เธอได้แสดงเป็นราชินี ด้วยความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้คนดูเกิดความประทับใจและเรียกเรตติ้งไม่น้อย

ด้วยภาพลักษณ์ที่งดามของเธอจึงน่าแปลกใจจริงๆ ว่าเธอแทบจะไม่ดูอายุไม่น่าถึงเลข 5 ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในวงการบันเทิงเกาหลีมาเกือบสามทศวรรษแล้ว ล่าสุดกับบทบาท ‘คิมโมมี ช่วงวัยกลางคน’ โดยในซีรีส์ Mask Girl ที่ดำเนินมาถึงช่วงวัยที่ก้าวเข้าสู่วัยกลางคนของคิมโมมี หลังจากที่ผ่านเรื่องราวที่สร้างทั้งบาดแผลและความทรงจำต่าง ๆ นานา มาทั้งชีวิตแล้ว ทำให้ตัวละครช่วงวัยนี้นิ่งขึ้น ระวัง มีสติ ไม่วู่วาม แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องออกโรงบู๊ ตัวแม่อย่างคิมโมมีก็สู้ไม่ถอย และที่สำคัญเธอยังคงสวยไม่สร่างสมกับที่โกฮยอนจองมารับบทคิมโมมีช่วงวัยนี้

ซึ่งเคล็ดลับความงามของ โกฮยอนจุง จริงๆ แล้วก็ไม่ยาก สาวๆ ทำตามได้แน่นอน เริ่มจากให้ความสำคัญในการทำความสะอาดใบหน้า ซึ่งวิธีการทำความสะอาดใบหน้านี้มีชื่อเสียงนับตั้งแต่เธอออกหนังสือแนะนำความงามเล่มแรก “Go Hyun-Jung’s Texture” เมื่อปี 2012 ซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดีและขายหมดภายในสองวัน

#1 ใส่ใจบริเวณต่างๆ ของใบหน้าขณะทำความสะอาด
กิจวัตรการทำความสะอาดใบหน้า 15 นาที โดยเริ่มบริเวณหลังใบหู แนวกราม และจากนั้นไปที่ใบหน้า เธอผสมเคลนเซอร์กับน้ำอุ่นและทำให้เกิดฟองเพื่อการทำความสะอาดที่อ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ แล้วทำความสะอาดบริเวณทีโซน (หน้าผากและจมูก) ก่อนตามด้วยโซนยู (แก้ม) ซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่แห้งกว่า การออกจากโซน U เป็นลำดับสุดท้าย จโดยเธอแนะนำให้นวดเคลนเซอร์เคลื่อนขึ้นไปด้านบนแล้วล้างออก ลักษณะเหมือนเอาฝ่ามือนวดย้อนขึ้น เพื่อขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

#2 มาส์กหน้า 2 ขั้นตอน
ส่วนใหญ่นักแสดงเกาหลีมักใช้มาส์กสองขั้นตอนทุกสัปดาห์ ขั้นตอนแรกคือการใช้มาส์กบูสเตอร์เพื่อเตรียมผิว แล้วตามด้วยมาส์กแบบแผ่นเพื่อบำรุงและให้ความชุ่มชื้น เพื่อผิวที่เปล่งปลั่งและแลดูกระจ่างใส

#3 รักษาสิวด้วยสารละลายเกลือและน้ำ
เพื่อป้องกันการแพร่กระจายแบคทีเรียที่เป็นอันตรายบนผิว อย่าลืมล้างมือก่อนทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สำหรับการรักษาสิว เธอแนะนำให้ล้างบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยเกลือและน้ำอุ่น ซึ่งจะฆ่าเชื้อบริเวณนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สิวแย่ลง

#4 อย่าลืมคอ
เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เธอมักจะนวดครีมจากกึ่งกลางใบหน้าและออกไปด้านนอก ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้เป็นประจำ เช่น โทนเนอร์และเอสเซ้นส์ด้วยมือแทนการใช้สำลีเพื่อลดรอยแดงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมลงผิว แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากจะลืมบริเวณคอของคุณด้วย หากใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมทาคอที่คอ ให้เริ่มจากด้านข้างของแนวกรามลงมาจนถึงบริเวณร่องแก้มโดยทำเป็นรูปตัว C ออกไปด้านนอก

อีกเรื่องคือแม้จะฟังดูแปลก แต่เธอจะทิ้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเธอหลังจากใช้ไปสองเดือน (หากยังไม่หมด) แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีอายุการเก็บรักษาตามปกติคือ 12 เดือน แต่เธอทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัย

#5 บริหารกล้ามเนื้อใบหน้า
จริงๆ แล้ว เธอไม่เชื่อในผลิตภัณฑ์ต่อต้านวัย เธอจึงมักฝึกการหายใจเพื่อบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า

  • ขยายกล้ามเนื้อใบหน้าและกรามเมื่อหายใจออก
  • เมื่อหายใจเข้า ให้เกร็งกล้ามเนื้อใบหน้าทั้งหมด รวมทั้งตา จมูก และแก้ม
  • พูดว่า “มา มี มิ โม มู” 10 ครั้ง เพื่อบริหารกล้ามเนื้อริมฝีปากและแก้ม

#6 รับวิตามินในแต่ละวัน
การเลือกกินอาหารมีบทบาทอย่างมากในการรักษาสุขภาพโดยรวม ซึ่งรวมถึงผิวหนังของเราด้วย อาหารเพื่อความงามยอดนิยมของเธอ ได้แก่ สลัด แอปเปิ้ล บลูเบอร์รี่ น้ำแครอท และน้ำผึ้ง ซึ่งหลายชนิดเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และเธอยังกินวิตามินบีออร์แกนิก ซึ่งช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่และวิตามินซี วิตามินซีเป็นสารต่อต้านการสร้างเม็ดสีและต่อต้านวัยที่รู้จักกันดี สามารถยับยั้งการผลิตเมลานินในผิวหนัง ซึ่งทำให้รอยดำและจุดด่างดำดูจางลง สีผิวสม่ำเสมอขึ้น


ภาพ : kohyunjungie , kohyunjung_serenity

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Lancôme เปิดตัว “มินนี่ ณิชา ยนตรรักษ์” Fragrance Muse คนล่าสุด พร้อมปล่อย IDÔLE NOW น้ำหอมกลิ่นฟลอรัลรุ่นใหม่

Alternative Textaccount_circle

LET’S MEET OUR LANCÔME FRAGRANCE MUSE! ขอต้อนรับ “มินนี่ ณิชา ยนตรรักษ์” ในฐานะ Fragrance Muse คนใหม่ล่าสุดของลังโคมประเทศไทย ศิลปินสาวมากความสามารถที่มาพร้อมกับ IDÔLE NOW EDP FLORALE น้ำหอมใหม่ล่าสุดของลังโคม เตรียมพบกับเสน่ห์อันเหลือล้นของมินนี่ที่จะมาปลุกพลังและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคน ร่วมเป็นกำลังใจและติดตามมินนี่ในฐานะมิวส์คนใหม่ได้ที่ Facebook และ Twitter Lancôme Thailand

IDÔLE NOW EDP FLORALE ผสานกลิ่นหอมจากส่วนผสมธรรมชาติที่แต่งแต้มให้ยิ่งโดดเด่นด้วยพลังแห่งวิทยาศาสตร์จากกุหลาบ กลิ่นหอมบริสุทธิ์ เอกลักษณ์จากลังโคม ผสานด้วย กล้วยไม้มาเลเซียที่ให้ความรู้สึกสะอาดและอ่อนเบา เสริมความสง่างามและอบอุ่น พร้อมเผยมิติใหม่ที่เย้ายวนเกินห้ามใจด้วยวานิลลา ให้น่าหลงใหลยิ่งกว่าที่เคย พร้อมให้คุณสัมผัสความหอมแล้ววันนี้ที่ เคาน์เตอร์ลังโคมทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ที่ LINE @Lancomethailand , E-Boutique และ Lazada


Work with Passion เส้นทางสู่นักธุรกิจหน้าใหม่ ของคุณบีม-กนกพร สินล้อมทรัพย์

แพรว ขอแนะนำอีกหนึ่งนักธุรกิจหน้า ใหม่ คุณบีม-กนกพร สินล้อมทรัพย์ วัย 26 ปี เธอคนนี้ฮ็อตด้วยแผนงานหลากหลาย เริ่มสร้างธุรกิจด้วยแพสชั่นในแฟชั่น ความงาม และกำลังเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ให้คอยติดตาม ไม่รวมการสืบทอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากครอบครัว

ศึกษาก่อนลงทุน

“ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง บีมเริ่มจากหุ้นกับเพื่อนทำแบรนด์เสื้อผ้าตั้งแต่อายุ 21 ปี หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยก็มาหุ้นกับรุ่นพี่เปิดร้านทำเล็บ กับร้านทำผม และสะสมแบรนด์เนม เช่น กระเป๋า เครื่องประดับ รองเท้า ซึ่งบีมมักจะเลือกชิ้นที่มีความคลาสสิก ใช้ได้นาน และราคาขึ้น มองไปถึงเรื่องการลงทุนมากกว่าการซื้อของตาม เทรนด์แฟชั่น

“ย้อนไปช่วงเด็กๆ บีมชอบแบรนด์เนม ซึ่งจะมีทั้งคุณแม่ชื้อให้และใช้ด้วยกัน แต่ใบที่บีมรักมากคือกระเป๋า Hermes Birkin สี Etoupe เพราะเป็นสีที่อยากได้ และคุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบ 24 ปี มีบางใบซื้อมาขายไปบ้าง พอขายก็ได้กำไรมาบ้างเนื่องจากแบรนด์เนมบางรุ่นราคาขึ้นตลอด ทำให้เริ่มมีไอเดียอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับแบรนด์เนม พอถึงวันที่ตัดสินใจจะทำจริง ก็ไปเรียนคอร์สสอนดูแบรนด์เนมแท้หรือปลอมเพื่อให้มีความรู้มากขึ้น ก่อนจะเปิดร้าน ขายแบรนด์เนม ทางอินสตาแกรม

“จุดเด่นของแบรนด์เราอยู่ที่ความจริงใจและการบริการ ปกติจะมีแอดมิน แต่ถ้ามีเวลาบีมจะเข้าไปตอบแชท แพ็กของ ส่งของด้วยตัวเอง ทำให้ลูกค้าประทับใจแล้วกลับมาซื้อช้ำเรื่อยๆ บีมคิดว่าการขายของแบรนด์เนมหลักคือ ความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือ เข้าใจความร้อนใจของลูกค้า เมื่อได้รับการโอนเงินแล้วจึงพยายามส่งของให้ภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นไปได้ “เรายังมีบริการหลังการขายด้วยค่ะ ลูกค้าสามารถปรึกษาเรื่องการขายแบรนด์เนมมือสองได้ตลอด เรามีทั้งสินค้ามือหนึ่ง และมือสองสภาพเยี่ยม ใครที่ซื้อของไปใช้แล้วรู้สึกเบื่อ อยากขายต่อ หรือซื้อเก็บไว้ขายเก็งกำไร บีมก็ยินดีให้คำปรึกษาว่าควรตั้งราคาขายอย่างไร สอนวิธีขาย การถ่ายรูปสินค้า การเขียนแคปชั่น ที่สุดเกิดเป็นไอเดียต่อยอดเปิดอีกแบรนด์@ Knp_Brandname สำหรับรับฝากขายโดยเฉพาะด้วย

The First Step Is Always The Hardest

“ยอมรับว่าช่วงเริ่มต้นธุรกิจกังวลว่าคนจะไม่ซื้อของ ซึ่งปัญหานั้นอยู่แค่ช่วงแรก แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็อยู่ตัว จากการที่เพื่อนๆ ช่วยกันซื้อและบอกต่อ รวมถึงเพื่อนที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็ช่วยโปรโมต พร้อมกับการยิงแอดโฆษณา ทำให้มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา พอซื้อครั้งแรกแล้วเขาประทับใจในบริการ การแนะนำ ส่งของไว ทำให้กลับมาซื้อซ้ำ กลายเป็นเพื่อบีมยังให้ความสำคัญกับภาพที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อของโดยจ้างช่างภาพ เซตฉากจริงจัง รวมถึงการตั้งราคาที่เหมาะสม เคยโดนต่อราคาบ้าง ก็ต้องอธิบายให้กับลูกค้าเข้าใจถึงเหตุผลของการตั้งราคาขาย

“การทำธุรกิจนี้ ต้องคอยอัพเดตเทรนด์อยู่ตลอด เพราะในตลาดแบรนด์เนมจะมีรุ่นที่เป็นในกระแส ทำให้ขายได้ราคาดี ต้องอัพเดทราคาตลาดของสินค้าต่างๆ อยู่เสมอ

“ตั้งแต่ทำแบรนด์มายังไม่มีประสบการณ์ไม่ดีหรือถูกหลอก เพราะอย่างที่บอกว่ากว่าที่บีมจะตัดสินใจทำแบรนด์ก็เรียนและศึกษาข้อมูลมาอย่างมั่นใจแล้ว รวมถึงยังมีสถาบันสำหรับตรวจสอบ ถ้ามีเหตุชวนสงสัยใดๆ ก็สามารถส่งไปตรวจให้แน่ใจได้ค่ะ

Better Tomorrow

“ครอบครัวบีมทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่า ซื้อขายที่ดิน และทำอพาร์ทเม้นท์ ตั้งแต่เด็กจนโตบีมจึงได้เห็นการทำงานของคุณพ่อและคุณแม่มาโดยตลอด มีโอกาสเข้าไปช่วยออกไอเดียตกแต่งและคุมงานบ้าง กระทั่งหลังจากที่บีมทำธุรกิจแบรนด์เนมได้ 3 ปี รู้สึกว่าเริ่มอยู่ตัว จึงกลับมาช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูแลธุรกิจจริงจัง ทำด้วยตัวเองทุกอย่าง ตั้งแต่ขั้นตอนมองหา บ้าน คอนโด ที่น่าลงทุน ที่ดินทำเลดี พร้อมกับปรึกษาครอบครัวก่อนตัดสินใจ ทำให้ไม่ค่อยผิดพลาด จากนั้นก็คุมการออกแบบและตกแต่ง รวมถึงหาลูกค้า

“บีมทำงานหนักโดยมีเป้าหมายอยากรีบทำธุรกิจหลายอย่าง แล้วเซตระบบให้อยู่ตัว จนธุรกิจสามารถรันตัวเองได้โดยที่บีมไม่ต้องทุ่มเทเวลามากนัก อยากเกษียณก่อนที่ตัวเองจะแก่หรือหมดแรงทำงาน ทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงแล้ว สำหรับธุรกิจแบรนด์เนม ตอนนี้กำลังมองหาที่เปิดหน้าร้าน เล็งไว้แถวย่านทองหล่อ และเตรียมเปิดธุรกิจใหม่ที่อยากฝากไว้ให้คอยติดตามค่ะ

คติของบีมคือ อย่าทำธุรกิจแบบคิดถึงเงินอย่างเดียว เพราะผลจะออกมาไม่ดี แต่ถ้าทำด้วยความชอบด้วย อย่างน้อยที่สุดเราจะไม่เจอภาวะหมดไฟในการทำงานค่ะ”

Satoru Koizumi

Maison JE Bangkok อาร์ตสเปซใหม่ใจกลางกรุงฯ พร้อมนิทรรศการศิลปินระดับโลก ‘Satoru Koizumi’ ครั้งแรกในไทย

Alternative Textaccount_circle
Satoru Koizumi
Satoru Koizumi

Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพ) อาร์ตสเปซแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ถือกำเนิดขึ้นในฐานะสวรรค์แห่งศิลปะอันน่าหลงใหลใจกลางเมือง ด้วยนิทรรศการแรก ‘Disney Collection by Satoru Koizumi’ (คอลเล็คชั่นดิสนีย์ ของ ซาโตรุ โคอิซูมิ) โชว์เคสผลงานอาร์ตของศิลปินระดับโลกชาวญี่ปุ่นที่ทุกคนรอคอย ซึ่งเป็นงานแสดงครั้งแรกในกรุงเทพฯ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ชวนคนรักศิลปะและนักสะสมผู้งานศิลป์ร่วมเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงพร้อมดื่มด่ำกับพื้นที่แห่งจินตนาการ เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 24 กันยายน 2566 

‘Maison JE’ จุดหมายปลายทางของศิลปะชั้นนำแห่งใหม่ ตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์ ย่านที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดย Elsie Lu (เอลซี่ ลู) คอลเลกเตอร์ที่หลงใหลงานศิลปะอย่างมาก จึงตั้งใจสร้างสรรค์พื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นอาร์สเปซที่รวบรวมผลงานของศิลปินที่โดดเด่นทั้งในท้องถิ่นและศิลปินนานาชาติ ผ่านการผสานศิลปะและชีวิตเข้ากับแบรนด์ไลฟ์สไตล์ และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนงานศิลปะไว้อย่างลงตัว ภายใต้ภารกิจที่จะสร้างความสุขและความอิ่มเอมให้กับผู้มาเยือน ได้ดื่มด่ำกับผลงานศิลปะที่แท้จริงได้ในทุกๆ วัน

อาร์ตสเปซของ Maison JE Bangkok เผยให้เห็นสวรรค์แห่งศิลปะ 2 ชั้น ที่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟและความหลงใหลในศิลปะ ตั้งแต่ผนังภายนอกอาคารที่ติดตั้งภาพซิกเนเจอร์ของนิทรรศการแรกอย่างโดดเด่น ไปจนถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการภายในที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน รวมถึงมุมถ่ายภาพที่เหล่าอินสตาแกรมเมอร์ต้องชื่นชอบ ซึ่งจะทำให้ Maison JE Bangkok ดึงดูดโซเชียลมีเดียที่ร้อนแรงที่สุดของกรุงเทพฯ

Maison JE Bangkok เปิดประตูต้อนรับคนรักงานอาร์ตพร้อมงานแสดงแรก ‘Disney Collection by Satoru Koizumi’ นิทรรศการอันโด่งดังทั่วโลก ซึ่งเป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในกรุงเทพฯ บนความร่วมมือกับ “Disney” (ดิสนีย์) ค่ายการ์ตูนยักษ์ใหญ่ระดับโลก และ “APPortfolio” (แอพพอร์ตฟอลิโอ) แพลตฟอร์มงานศิลปะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเครือ ARTOX GROUP มีชื่อเสียงด้านการพัฒนาและจัดจำหน่ายงานศิลปะรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น และงานศิลปะต้นฉบับของศิลปินและนักออกแบบชื่อดังทั่วเอเชีย โดยมีศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคนที่เข้าร่วมบนแพลตฟอร์ม อาทิ Kenny Scharf, Daniel Arsham, Nobuyoshi Araki, Felipe Pantone, André Saraiva, Takeru Amano และอีกมากมาย

นิทรรศการสุดพิเศษนี้จะนำผู้ชมเดินทางไปสู่ดินแดนของดิสนีย์อันน่าหลงใหล ถ่ายทอดแก่นแท้ของตัวละครอันเป็นที่รักของแฟน ๆ พร้อมสัมผัสความลึกล้ำของอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ ผ่านผลงานศิลปะที่มีวิสัยทัศน์ของ Satoru Koizumi (ซาโตรุ โคอิซูมิ) ศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักจากงานแกะสลักไม้ที่มีเสน่ห์ ประติมากรรมของเขามีบทบาทในงานแสดงศิลปะและนิทรรศการระดับนานาชาติมากมาย งานแกะสลักไม้รูปละมั่ง (figure-antelope wood carving) ของเขาเคยถูกตั้งราคาซื้อขายไว้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3.6 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ในการประมูลในปี 2021

ในวันเปิดงาน สปอตไลต์ส่องไปที่  คอลเล็คชันชุดดิสนีย์เรซิน (Resin Sculptures) “Piglet” และ “Stitch” ที่หายากและมีจำนวนจำกัด รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยใช้เทคนิคการแกะสลักที่โดดเด่นของ Satoru KOIZUMI แสดงลักษณะเฉพาะและสาระสำคัญของตัวละครดิสนีย์อันเป็นที่รักได้อย่างสวยงาม บวกรวมกับสีสันสดใสและความแวววาวของวัสดุเรซินที่โดดเด่น ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่ Maison JE ในช่วงระยะเวลานิทรรศการเท่านั้น จำกัดเพียง 300 ชิ้นทั่วโลก Art toy เหล่านี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของนักสะสม ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่ Maison JE ในช่วงระยะเวลานิทรรศการเท่านั้น

ไฮไลท์ที่ไม่เคยมีมาก่อนคือ ประติมากรรมตัวการ์ตูนดิสนีย์ขนาดใหญ่ มีขนาดสูงถึง 150 เซนติเมตร ออกแบบเป็นพิเศษในคาแรกเตอร์ของ Satoru Koizumi x Mickey ด้วยจำนวนการผลิตทั่วโลกที่จำกัดเพียง 8 ชิ้น ประติมากรรมเหล่านี้จึง Sold Out อย่างรวดเร็วโดยนักสะสมชาวกรุงเทพฯ ไต้หวัน เวียดนาม ฮ่องกง และจีน และครั้งนี้จะเป็นโอกาสพิเศษให้ผู้เข้าชมได้ชื่นชมผลงานชิ้นเอกของ Satoru Koizumi ที่หายากชิ้นนี้ที่ Maison JE Bangkok เท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ ผลงานที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น Alien, Lotso, Cheshire Cat, Tiger, Piglet, Stitch, Chip และ Dale ล้วนสร้างสรรค์ขึ้นในมุมมองของ Satoru Koizumi ที่ทำให้ตัวการ์ตูนอันเป็นที่รักมีชีวิตขึ้นมา รวมถึงงานแกะสลักไม้คลาสสิกและต้นฉบับ (the manuscript series) รำลึกถึงเส้นทางสร้างสรรค์ของศิลปิน จัดแสดงควบคู่กับงานศิลปะจริง นำเสนอแนวคิดและผลลัพธ์ที่หลากหลายของศิลปิน นำเสนอการดำดิ่งสู่อาณาจักรแห่งการสร้างสรรค์ของ Satoru Koizumi ประสบการณ์นี้จะพาคุณไปยังสตูดิโอของศิลปินโดยตรง ส่งเสริมความรู้สึกมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้

นอกจากนั้น ยังมีไอเท็มตัวละครดิสนีย์ในรูปแบบหมอน ตุ๊กตาโมเดลผ้ากำมะหยี่ (plushie) และDisney and Mickey aroma wood diffusers อีกหลากหลายชิ้น ที่จะสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับงานแสดง เชื่อมช่องว่างระหว่างผู้ชมกับศิลปิน และดึงดูดผู้ชมทุกวัย

ก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะและทำความรู้จักกับสมาชิกดิสนีย์ที่น่าหลงใหลในมุมมองใหม่ ๆ ที่ Maison JE Bangkok สัมผัสอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้ง และความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดที่แฝงอยู่ ที่งานนิทรรศการ ‘Disney Collection by Satoru KOIZUMI’ ตั้งแต่วันนี้ – 24 กันยายน 2566 ทุกวัน เวลา 10:00 – 19:00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.maisonje.com, Facebook: Maison JE, Instagram: maisonje_bkk


แซ่บแบบรักษ์โลก! ซูมอินคอสตูมรีไซเคิล ‘ใหม่ ดาวิกา’ ในเพลง Sunset Sensory

Alternative Textaccount_circle

ไม่มีแผ่วจริงๆ ไม่ว่าซิงเกิลไหนก็ทวีความฮ็อตแบบไม่หยุดยั้ง ล่าสุด ใหม่ ดาวิกา มาพร้อมกับเพลง Sunset Sensory ในคอสตูมสุดเซ็กซี่

ความสามารถล้นเหลือจริงๆ กับ ‘ใหม่ ดาวิกา’ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ถ่ายแบบ หรือแฟชั่นโชว์และล่าสุดที่พลิกบทบาทมาเป็นศิลปนก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เพราะสองเพลงก่อนหน้าที่ถูกปล่อยออกมาก็ติดหูจนคนร้องตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง และตอนนี้เธอก็ได้เตรียมปล่อยซิงเกิลที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยในเพลงชื่อว่า ‘Sunset Sensory’ โดยจะปล่อยมิวสิกวีดีโอมาให้รับชมในวันที่ 30 สิงหาคมนี้

แต่ก่อนที่จะไปดูความแซ่บแบบเต็มๆ เราก็เผลอไปสะดุดตากับคอสตูมของใหม่ ดาวิกาที่มาพร้อมกับบราสีดำสุดเซ็กซี่จากแบรนด์ไทยดีไซเนอร์อย่าง PIPATCHARA ที่นำฝาขวดน้ำพลาสติกและพลาสติกชนิดอื่นๆ มาดีไซน์เป็นแฟชั่นไอเท็มแบบ 100% เรียกได้ว่าเป็นความแซ่บที่เป็นมิตรต่อโลกจริงๆ ซึ่งถ้าได้ไปส่องไอเท็มแต่ละชิ้นจะเห็นได้ถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์นี้อย่างชัดเจน

Haidilao All Stars – International Championship ชูความเป็นเลิศด้านการบริการ และมอบประสบการณ์ความบันเทิง

Alternative Textaccount_circle

Haidilao Hot Pot เครือร้านหม้อไฟชื่อดังระดับโลก ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ซูเปอร์ ไฮ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลล์ดิ้งส์ จำกัด (Super Hi International Holdings Ltd.) เป็นเจ้าภาพจัดงานการแข่งขัน “Haidilao All Stars – International Championship” สุดยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประเทศไทย คับคั่งด้วยผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 51 คนจาก 10 ประเทศที่มารวมตัวกันในวันนี้ ซึ่งทุกคนล้วนเป็นตัวแทนของบนพนักงานระดับแนวหน้าที่นำความสุข และประสบการณ์ที่แสนประทับใจมาสู่ลูกค้า Haidilao

ในงานเข้มข้นด้วยการแข่งขัน ทั้งหมด 4 รายการ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันการรำเส้นกังฟู การแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้า พนักงานบริการ พนักงานเก็บโต๊ะเพื่อชิงตำแหน่ง “All stars” ของ Haidilao ซึ่งผู้ชนะจะได้รับรางวัลเงินสดมูลค่าตั้งแต่ 5,000 ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

สำหรับรอบชิงชนะเลิศไม่ได้มีเพียงพนักงานจากประเทศจีนซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์ Haidilao เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานในท้องถิ่นจากทั่วโลกที่ชื่นชอบวัฒนธรรมจีนและอาหารหม้อไฟอีกด้วย โดยผู้เข้ารอบสุดท้าย 51 คนนั้น มาจากทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนามและออสเตรเลีย ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวแทนจากผู้ที่มีความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาค

            ส่วนบรรยากาศการแข่งขัน ได้มีการทดสอบภาคทฤษฎีตำแหน่งต่างๆ ในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันและพนักงานอย่างเป็นทางการ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องให้บริการเป็นภาษาจีน อังกฤษ และภาษาท้องถิ่นของประเทศของตน ส่วนเกณฑ์การตัดสิน นอกจากประสิทธิภาพและความแม่นยำในการปฏิบัติงานแล้ว ผู้ตัดสินยังประเมินผู้เข้าแข่งขันด้านต่างๆ อีก เช่น ประสบการณ์การบริการ ความเป็นมิตร และการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองกับลูกค้า

และไฮไลท์สำคัญของงานในช่วงบ่ายอยู่ที่การแข่งขันรำเส้นกังฟูและงิ้วเปลี่ยนหน้า ซึ่งเรียกว่าเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ โดยกรรมการตัดสินจากองค์ประกอบอันสร้างสรรค์ต่างๆ เช่น ท่วงท่าการรำและความชำนาญ

หลังจากการแข่งขันอันดุเดือดมาตลอดทั้งวัน พนักงาน Haidilao จากประเทศแคนาดาได้คว้าแชมป์ในประเภทแข่งขันรำเส้นกังฟูไปครอง ในขณะที่พนักงานจากประเทศญี่ปุ่นคว้าตำแหน่งในประเภทการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้า พนักงานจากเวียดนามเป็นผู้คว้าตำแหน่งแชมป์การแข่งขันประเภทพนักงานเก็บโต๊ะ หรือ Buzzer ในขณะที่พนักงานจากภูมิภาคออสเตรเลียเป็นผู้คว้าตำแหน่งแชมป์ประเภทพนักงงานบริการ โดยรองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับรางวัลมูลค่าสูงสุด $10,000, $8,000 และ $5,000 ตามลำดับ

คุณลีโอ ลี ซีอีโอของ SuperHi International Holdings Ltd. กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่มีผู้เข้ารอบสุดท้ายจาก 10 ประเทศสำหรับ Haidilao All Stars – International Championship งานนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของพนักงานบริการแถวหน้าของเราเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรหลักของ Haidilao ในด้านความยืดหยุ่นและการอุทิศตนอย่างสุดใจในการสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า”

คุณลีกล่าวเสริมอีกด้วยว่า Haidilao ยึดมั่นในปรัชญา “ให้ความสำคัญกับหัวใจผู้คน และให้ความสำคัญกับการบริการเป็นอันดับแรก” มาโดยตลอด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท บริษัทได้ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นธรรมและเท่าเทียม โดยใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่มีผู้คนเป็นศูนย์กลาง จัดให้มีการฝึกอบรมและสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เพื่อช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษะทางวิชาชีพและเพิ่มคุณค่าส่วนบุคคล ที่สำคัญกว่านั้น Haidilao มุ่งหวังให้พนักงานได้มีความรู้สึกของความสำเร็จและความสุขในการทำงาน เนื่องจากสิ่งนี้จะถูกส่งต่อไปยังลูกค้า

     สำหรับการแข่งขัน Haidilao All Stars – International Championship จะเป็นการแสดงทักษะ พรสวรรค์และแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทอันน่าทึ่งที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของไหตี่เลา ชูเสน่ห์ของการบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่รำเส้นกังฟูไปจนถึงการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้า และการบริการอันยอดเยี่ยมของพนักงานเสิร์ฟในทุกขั้นตอน ในฐานะที่ไหตี่เลามีชื่อเสียงในด้านของการบริการที่โดดเด่น จึงภูมิใจที่จะจัดการแข่งขันแสดงทักษะและความทุ่มเทของพนักงานในการแข่งขันครั้งนี้

ลดน้ำหนักไม่กลับมาอ้วนอีก

6 ข้อที่ทำให้คน ‘ลดความอ้วน’ ล้มเหลวเสมอ และเสี่ยงน้ำหนักมากกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle
ลดน้ำหนักไม่กลับมาอ้วนอีก
ลดน้ำหนักไม่กลับมาอ้วนอีก

แน่นอนว่าการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจ แต่ในบางคนทำไมถึงลดน้ำหนักได้ 2-3 กิโลกรัมเสมอแล้วกลับมามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทันที? บทความนี้จะพามาดูวิธีการลดน้ำหนักให้ได้ผลจริงและไม่กลับมาอ้วนอีก และวิธีลดน้ำหนักแบบไหนที่เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวแต่ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจะสอน “ความลับ 6 ประการ” ของการ ลดความอ้วน และหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 

#1 กินอาหารทดแทน
ทุกคนคิดเสมอว่าการกินอาหารทดแทนเท่ากับการลดน้ำหนัก แท้จริงแล้ว สามารถช่วยปรับปริมาณแคลอรี่ได้ แต่เราไม่สามารถกินอาหารทดแทนได้ตลอดชีวิต ดังนั้น ตั้งแต่วันที่คุณกลับมากินอาหารตามปกติ หากคุณไม่ควบคุมปริมาณแคลอรี่อย่างเคร่งครัด ประตูสู่การเพิ่มน้ำหนักจะเปิดรอคุณอยู่ และยังทำให้คุณอ้วนเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะคุณกินอาหารประเภทเดียวเป็นเวลานานจึงทำให้เกิดภาวะโภชนาการผิดปกติได้ง่าย

#2 ไม่ต้องออกกำลังกายก็ได้
แม้ว่าการลดน้ำหนักจะแบ่งเป็น 7 คะแนนสำหรับการควบคุมอาหารและ 3 คะแนนสำหรับการออกกำลังกาย แต่การเชื่อมโยงของการควบคุมอาหารมีความสำคัญมากในการลดน้ำหนัก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะเกิดขึ้นหลังจากกลับไปกินอาหารแบบเดิม และการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษารูปร่าง นอกจากช่วยเผาผลาญไขมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความไวของกล้ามเนื้อต่ออินซูลิน และหลีกเลี่ยงการสะสมความร้อนเนื่องจากความผันผวนของน้ำตาลในเลือดมากเกินไป

#3 กินน้อยลง
การกินน้อยเกินไปก็ก่อให้เกิดปัญหาเช่นกัน โดยเฉลี่ยอัตราการเผาผลาญพื้นฐานของผู้หญิงอยู่ที่ 1,100-1,400 แคลอรี่ ส่วนผู้ชายอยู่ที่ 1,400-1,700 แคลอรี่ สูตรการคำนวณมีดังนี้

●BMR (ชาย)=(13.7×น้ำหนัก (กก.))+(5.0×สูง (ซม.))-(6.8×อายุ)+66

●BMR (เพศหญิง)=(9.6×น้ำหนัก (กก.))+(1.8×สูง (ซม.))-(4.7×อายุ)+655

หากปริมาณแคลอรี่ของคุณต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และร่างกายไม่ได้เติมแคลอรี่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ร่างกายจะกระตุ้นกลไกการป้องกันโดยอัตโนมัติ และลดอัตราการเผาผลาญโดยรวม ด้วยวิธีนี้แม้ว่าปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับจะน้อยลง แต่ระบบการเผาผลาญของร่างกายก็จะช้าลงเช่นกัน หลังจากนั้นอาหารในกระเพาะจะย่อยและดูดซึมได้ไม่ง่ายจนนำไปสู่การสะสมไขมันในที่สุด

#4 ดื่มน้ำปริมาณมากก่อนมื้ออาหาร
การดื่มน้ำและซดซุปเยอะๆ ก่อนมื้ออาหารจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและลดแคลอรี่ได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นวิธีลดน้ำหนักแบบลับๆ ที่หลายคนใช้กัน แต่การกินซุปและน้ำมากเกินไปจะทำให้กรดในกระเพาะเจือจางและส่งผลต่อระบบย่อยอาหารืทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะและลำไส้ ความร้อนไม่สามารถดูดซึมได้ในที่สุดกลายเป็นไขมันสะสมในร่างกาย

#5 งดกินคาร์โบไฮเดรตเลย
การไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลยทำให้ธาตุเหล็กเป็นสามเหลี่ยมของสารอาหาร ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน น้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดปกติของระบบเผาผลาญไขมันได้ง่าย ส่งผลให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย ไม่เพียงน้ำหนักกลับคืนมาได้ง่ายมาก แต่ยังอ้วนขึ้นอีกด้วย จริงๆ แล้ว การบริโภคคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอสามารถให้พลังงานที่สมองต้องการและรักษาระดับการเผาผลาญ โดยเฉพาะเมื่อเสริมด้วยโปรตีนหลังออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและเร่งการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ คนส่วนใหญ่คิดว่าคาร์โบไฮเดรตเป็นเพียงแป้ง เช่น ข้าว บะหมี่ ขนมปัง ฯลฯ แต่ก็มีคาร์โบไฮเดรตที่ดีอีกมากมาย เช่น ผักและผลไม้ ราก ถั่ว เป็นต้น ดังนั้น สิ่งที่ควรเลิกควรเป็นแป้งขัดสี ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรตชนิดดี

#6 กินโปรตีนน้อยเกินไป
เมื่อควบคุมอาหารหรือกินอาหารทดแทนมื้ออาหาร มักละเลยการบริโภคโปรตีนได้ง่าย หากยังร่วมมือกับ Weight Training หรือแอโรบิก และมีสารอาหารในร่างกายไม่เพียงพอ ร่างกายจะสลายกล้ามเนื้อเป็นเชื้อเพลิงเพื่อรองรับพลังงานจำเป็นระหว่างออกกำลังกาย ซึ่งจะส่งผลให้สูญเสียกล้ามเนื้อจำนวนมากและลดผลกระทบจากการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้การขาดโปรตีนยังส่งผลต่อการหลั่งเมลาโทนินและทำให้คุณภาพการนอนหลับแย่ลง คุณต้องรู้ว่าเลปตินเกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับฮอร์โมนที่ต่ำนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณอ้วนได้

#7 ไม่กินของว่างเลย
คุณสามารถกินของว่างระหว่างลดน้ำหนักได้ไหม? หลายคนมีคำถามนี้ และคำตอบคือ “ได้” อย่างไรก็ตาม ขนมชิ้นนี้อาจแตกต่างไปจากที่คิดไว้เพราะการลดแคลลอรี่จะทำให้รู้สึกหิว กินง่ายในมื้อถัดไป แต่หากออกแบบขนมเพื่อสุขภาพระหว่างมื้ออาหาร ของว่าง เช่น ถั่วไม่ปรุงแต่ง ผลไม้ ฯลฯ นอกจากจะเพิ่มความรู้สึกอิ่มและหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไปแล้ว น้ำมันถั่วชั้นดีและใยอาหารของผักและผลไม้ยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

#8 ตั้งเป้าหมายสูงเกินไป
รู้ว่าใครๆ ก็อยากมีรูปร่างสมส่วนโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อออกแบบแผนการลดน้ำหนักความคืบหน้าก็เร็วเกินไป เช่น ถ้าคุณลดน้ำหนักได้ 5 หรือ 6 กิโลกรัมในหนึ่งสัปดาห์ ก็จะให้ผลตรงกันข้าม เพราะการเตรียมจิตใจเช่นนี้อาจทำให้ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารได้ไม่ดีนักและผลที่ได้จะไม่ราบรื่นจนเกินไปจะทำให้คุณท้อแท้จนทำให้กินมากเกินไป ดังนั้น เป้าหมายนี้เท่ากับเป็นการตั้งเป้าหมายที่ไร้ผล


ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

keyboard_arrow_up