ว่าด้วยพระอิสริยยศในราชวงศ์อังกฤษ! ไม่ใช่ Royal Blood มีสิทธิ์เป็น Princess ไหม? หาคำตอบได้ที่นี่

หลายคนเข้าใจว่า หญิงสาวคนใดก็ตามที่ได้แต่งงานกับเจ้าชาย จะกลายเป็น Princess หรือเจ้าหญิงไปโดยปริยาย

ความเข้าใจนี้ไม่ถูกเสมอไป โดยเฉพาะในราชวงศ์อังกฤษ

ราชวงศ์อังกฤษมีพระราชประเพณีหนึ่งที่สืบทอดมาช้านาน นั่นคือการโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศแก่พระราชวงศ์เนื่องในพิธีเสกสมรส  ดังที่ เจ้าชายวิลเลียม และนางสาวแคเทอรีน  มิดเดิลตัน ได้รับพระราชทานเป็น Duke และ Duchess of Cambridge รวมทั้งยังได้รับพระยศรองๆ ลงมาคือเป็น Earl และ Countess of Strathearn กับ Baron และ Baroness Carrickfergus ด้วย

Image result for prince william wedding

เฉกเช่นเดียวกับพระอนุชาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คือ เจ้าชายแอนดรูว์ ที่หลังพิธีเสกสมรสก็ได้เป็น Duke of York, Earl of Inverness และ Baron Killyleagh ส่งผลให้ ซาราห์ มาร์กาเร็ต เฟอร์กูสัน ได้รับการสถาปนาเป็นดัชเชสแห่งยอกร์ก และถึงจะหย่าขาดจากกัน พระยศดัชเชสก็ยังติดตัวเธออยู่จนถึงทุกวันนี้

Image result for sarah ferguson wedding

ขณะที่ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเสกสมรสกับโซฟี เฮเลน ไรส์-โจนส์  สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงสถาปนาเจ้าชายให้เป็นเอิร์ลแห่งเว็สเซ็กส์ และไวเคานต์เซเวิร์น ตามครอบครัวของโซฟีซึ่งมีบ้านเดิมอยู่ที่ชายแดนของแคว้นเวลส์ ส่วนโซฟี พระชายา ก็ได้เป็นเคาน์เตสแห่งเว็สเซ็กส์

Related image

ส่วนพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พริ้นซ์ออฟเวลส์ กับเลดี้ไดอะน่า สเปนเซอร์  เมื่อปี 2524 ห้วงเวลานั้นไม่มีการโปรดเกล้าฯพระราชทานอิสริยยศใด  ทั้งนี้เพราะในขณะนั้นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ นอกจากดำรงพระยศ Prince of Wales แล้ว ยังเป็น Duke of Cornwall, Duke of Rothesay,  Earl of Carrick,  Baron of Renfrew,  Lord of the Isles  และ Prince and Great Steward of Scotland  และ Earl of Chester อยู่แล้ว โดยหลังการเสกสมรส เลดี้ไดอานา ซึ่งถือกำเนิดในตระกูลขุนนางที่สืบทอดเชื้อสายจากราชวงศ์อังกฤษโบราณ ได้รับพระยศเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์ และมีลำดับพระอิสริยยศเป็นลำดับที่ 3 แห่งพระราชวงศ์ฝ่ายในของอังกฤษ ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และสมเด็จพระราชชนนีอลิซาเบธ ที่ ณ ตอนนั้นยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

Image result for lady diana wedding

ผิดกับพิธีอภิเษกสมรสรอบสองกับ คามิลลา ปากเกอร์ โบลส์  ให้สังเกตว่าพระชายาองค์ปัจจุบันได้รับการสถาปนาเป็น “ดัชเชสแห่งคอร์นวอล” เท่านั้น Image result for prince charles and camilla wedding

สำหรับคนที่ยังงงๆ กับพระอิสริยยศของเจ้านายอังกฤษ เอาเป็นว่าคุณต้องเข้าใจก่อนว่าราชวงศ์นี้มีลำดับพระอิสริยยศอยู่ 5 ชั้น สูงสุดคือ Duke – Duchess(ชาย-หญิง) รองลงไป Marquis (หรือ Marquess) –Marchioness(หรือ Marquise), Earl (ชาติอื่นในยุโรปใช้ Count) – Countess, Viscount – Viscountess  และ Baron – Baroness  ตามลำดับ

โดยตามกฎมณเฑียรบาลของอังกฤษ สตรีที่ไม่มี “เชื้อเจ้า” หรือ Royal Blood แม้จะได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายในราชวงศ์ ก็จะไม่ได้คำว่า Princess หรือเจ้าหญิง มานำหน้าพระนาม

นั่นเป็นที่มาว่าช่วงหลังๆ ราชวงศ์อังกฤษไม่มี ‘เจ้าหญิง’ เพิ่มขึ้นเลย เพราะบรรดาเจ้าชายล้วนเลือกที่จะเสกสมรสกับหญิงสามัญชน คนธรรมดา ไร้เลือด Blue Blood กันทุกพระองค์

เพราะฉะนั้น เมแกน มาร์เคิล ก็จะเป็นเช่นเดียวกับพระสุณิสา (สะใภ้) อื่นๆ ที่มาจากสามัญชน คือจะไม่ได้เป็นเจ้าหญิง  แต่จะมีพระนามตามพระสวามีต่อท้าย  เหมือนคามิลลา  ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ (พระชายาในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์) ซาราห์  เฟอร์กูสัน  ดัชเชสแห่งยอร์ก (พระชายาในเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก) และแคเทอรีน มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ (พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์)

ทั้งนี้ในวันทำพิธีเสกสมรส 19 พฤษภาคมนี้ (2561) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เพิ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรรดาศักดิ์แก่เจ้าชายเฮนรี่แห่งเวลส์ หรือเจ้าชายแฮร์รี่ เป็น ดยุคแห่งซัสเซกส์ เอิร์ลแห่งดัมบาร์ตัน และบารอนคิลเคล

นั่นทำให้ เมแกน มาร์เคิล พระชายา ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศักดิ์ตามพระสวามีที่ ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ เคานต์เตสแห่งดัมบาร์ตัน และบารอนเนสคิลเคล โดยอัตโนมัติในทันทีหลังพิธีเสกสมรสเช่นกัน

 

ที่มาภาพ : IG@kensingtonroyal

 

 

“กล้าที่จะแตกต่าง” แก้ม – วิชญาณี เปียกลิ่น

หากพูดถึง ‘ดีว่า’ เมืองไทย คุณนึกถึงใครคะ? แน่นอนว่าต้องมีชื่อของสาวเสียงทรงพลังคนนี้อย่างแน่นอน ‘แก้ม – วิชญาณี เปียกลิ่น’ ครั้งนี้แพรวได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถึงทุกเรื่องตลอด 10 ปี ในวงการบันเทิง ทั้งความกล้าที่จะเดินตามความฝัน ความสามารถที่โดดเด่น รวมไปถึงความมั่นใจและความสวยในแบบของเธอเอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคน และเมื่ออ่านจบคุณจะพบว่า “ถ้าคุณกล้าที่จะแตกต่าง…คุณจะพบความสำเร็จในแบบของคุณ”

จากวันแรกที่เข้าประกวดจนถึงวันนี้ แก้มคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างคะ

“ในทุกๆ วันของแก้ม มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตลอดเวลานะคะ (ยิ้ม)หนึ่งคือ แก้มมีความสุขกับการทำงานในทุกวัน  พร้อมที่จะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ถ้าทางผู้ใหญ่เห็นว่างานอะไรที่เหมาะกับเรา แก้มก็พร้อมจะทำอย่างเต็มที่ เพราะเราอยากพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งงานพิธีกร ละคร ซึ่งทุกงานล้วนซัพพอร์ตกันหมด

“อย่างงานพิธีกรช่วยฝึกทักษะการพูด การเรียนแอคติ้งก็ช่วยในเรื่องการแสดงบนเวที ทำให้เวลาพูดบนเวที น่าสนใจมากขึ้น ทุกอย่างคือประสบการณ์ที่ดีมากๆ แก้มเชื่อว่ายิ่งเราฝึกฝนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เราค้นพบสไตล์ของตัวเอง มีความชัดเจน และแตกต่าง

“ทุกวันนี้แก้มยังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลานะคะ หยุดไม่ได้เลยเพราะถ้าเราหยุดเรียนรู้ หยุดฝึกฝนเมื่อไหร่ เท่ากับว่าเราเดินอยู่กับที่ หรือลดถอยลง ฉะนั้นเราต้องฝึกทุกวัน เพื่อให้ตัวเองพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าเสมอ”

แสดงว่า 10 ปีของแก้ม มีการเรียนรู้อยู่ทุกวัน?

“ใช่ค่ะ ถ้าไม่ป่วยก็จะฝึกตลอด อย่างตอนเข้ามหาวิทยาลัย แก้มเลือกเรียนคณะดุริยางคศาสตร์เอก Voice Jazz มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักและได้พัฒนาตัวเองขึ้นเยอะมากจากเมื่อก่อนเราปฏิบัติอย่างเดียวไม่เคยรู้ทฤษฎี แต่พอเรียนจึงนำทฤษฎีมาปรับใช้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ รู้ว่าต้องผ่อนช่วงไหน เร่งช่วงไหน และทำยังไงคนฟังถึงจะขนลุกไปกับเพลงของเรา แก้มฝึกฝนการร้องมาหลายวิธี สุดท้ายจึงพบว่า เราเชื่ออย่างไร ให้ร้องออกมาแบบนั้น คือ การร้องออกมาจากใจ ถ่ายทอดเนื้อหาของเพลงผ่านเสียงของเรา นั่นคือ สิ่งที่คนฟังอินที่สุดค่ะ”

รู้สึกอย่างไรกับคำว่า แก้มเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะเวทีการประกวด

“สำหรับแก้ม ดีใจที่ได้รับคำนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ค่ะ เพราะเป็นตำแหน่งที่มาจากเสียงของของประชาชน และเป็นครั้งแรกที่นักร้องหญิงชนะการโหวต แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าแก้มจะเป็นแชมป์ไปตลอด คนที่โหวตแก้มในตอนนั้นเขาอาจไม่ได้ฟังเพลงเราในตอนนี้ หรือบางคนที่เพิ่งเห็นผลงานของแก้มตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้ว่าแก้มเป็นแชมป์ผู้หญิงคนแรกนะ

“ฉะนั้นแก้มไม่เคยยึดติดว่าตัวเองคือแชมป์ แต่ยึดว่าเราไม่ใช่แค่นักร้อง แต่เป็นศิลปินคนหนึ่งที่อยากสร้างสรรค์ผลงานที่ดีๆ ในทุกวัน อย่างเต็มที่ที่สุดจะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องใหญ่ จริงอยู่ที่แก้มประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กพูดตรงๆ ว่าส่วนใหญ่ชนะ น้อยมากที่จะได้ที่สองหรือที่สาม แต่แก้มไม่เคยยึดติดกับตรงนั้น แก้มทำทุกอย่างจากความชอบ ทำเพื่อประสบการณ์ ถ้ามัวแต่คิดว่าฉันต้องชนะ ทุกอย่างจะกดดัน เราแค่ชนะตัวเอง ชนะในโจทย์ของตัวเองที่ตั้งไว้ในแต่ละข้อให้ได้ก็พอ

“แก้มคิดแต่ว่า เราจะพัฒนาตัวเองต่อไปได้แค่ไหน เราจะอยู่ตรงนี้ต่อไปได้จริงหรือเปล่า ตั้งใจทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพราะบางครั้งการคาดหวังยิ่งทำให้เรากดดันตัวเอง สำหรับแก้มแค่ได้อยู่บนเวทีมอบความสุขให้คนดูนั่นคือ ความสำเร็จของแก้มค่ะ

แน่นอนว่าเส้นทางตลอด 10 ปี ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แก้มเจออุปสรรคระหว่างทางอะไรบ้าง และรับมือกับสิ่งไหนอย่างไรคะ

“จริงๆ แก้มเจอปัญหาตั้งแต่เด็กเลยนะแก้มเป็นเด็กตัวใหญ่ หาเสื้อผ้าใส่ยาก เวลาไปประกวดก็ต้องใส่ชุดซ้ำตลอด แต่แก้มมองว่าเราใช้ความสามารถในการประกวด เราต้องมั่นใจและกล้าทำตามฝัน ชุดซ้ำก็ไม่เป็นไร ร้องเพลงให้ดีที่สุดก็พอ

“พอเข้าวงการส่วนใหญ่ที่เจอก็คือ แก้มร้องเพลงเบาๆ ไม่ได้เหรอ? (หัวเราะ) จริงๆ ก็ได้นะ แต่แก้มรู้สึกว่าตอนที่ประกวดเรามีเวลาแค่ 3 นาทีบนเวที แก้มต้องให้ทุกอย่างเกิดที่สุด เกิดในที่นี้คือการร้องเพลงและการสื่อสารที่ส่งไปยังผู้ชมมีพลังเท่าไหร่…แก้มใส่เต็มที่ เต็มร้อยทุกรอบ เพราะการร้องเพลงคือ สิ่งที่เราฝันมาตั้งแต่เด็กฉะนั้นฉันต้องเต็มที่ แม้ว่าจะแพ้…ก็แพ้แบบภูมิใจค่ะ

“หรือบางคำติ แก้มก็มองว่าเป็นเรื่องดีนะคะ นำมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น หรือแต่เรื่องที่แซวว่า แก้มอ้วน ดำ แก้มอย่างนู่นอย่างนี้ แก้มรู้สึกว่าสีผิวมันเปลี่ยนกันไม่ได้นะแต่ทำให้ดีขึ้นได้แก้มจึงดูแลตัวเอง บำรุงให้ผิวสวย ผิวใส ออกกำลังกายให้สุขภาพดีขึ้นฉะนั้นคำเหล่านั้นจะถูกแก้มเพิกเฉย ไม่เก็บมาใส่ใจ อาจจะมีนอยด์บ้างนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าแม่เลี้ยงดีไงคะ ถึงได้กินเยอะ ตัวถึงใหญ่ได้แบบนี้ (หัวเราะ)”

สไตล์การทำงานของแก้มเป็นอย่างไรคะ

“แก้มตั้งใจทำงานมาก ทุกอย่างต้องทุ่มสุด แต่บางครั้งก็มากไป จนคนข้างๆ เครียดตามเรา แก้มจึงรู้สึกว่าบางทีเราต้องหย่อนบ้าง ปรับตัวเองให้เบาลง เมื่อเราบอกเหตุผลของตัวเองไปแล้ว แต่เห็นไม่ตรงกันก็ต้องหาตรงกลางให้ได้ เพราะไม่มีอะไรถูกใจเราทุกอย่าง

“หรือบางครั้งลุคแก้มอาจจะดูเป็นสาวมั่นใจ แต่หลายครั้งก็ยังกังวลนะคะ ยิ่งช่วงก่อนขึ้นเวที แก้มยังตื่นเต้นอยู่ตลอด ด้วยความที่อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแต่ส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องที่ว่า ชุดนี้สวยหรือยังคะ อันนี้เข้ากับหนูหรือยังก็นิสัยผู้หญิงอ่ะเนอะ (ยิ้ม)”

แก้มมีตัวช่วยหรือวิธีเพิ่มความมั่นใจอย่างไรบ้างคะ

“แน่นอนว่าในการทำงานนอกจากความสามารถแล้ว ความสวยก็ต้องควบคู่กันไปด้วย เพราะเป็นสิ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับเรา ช่วงหลังแก้มดูแลตัวเองขึ้นเยอะมาก เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น

“ที่เน้นเป็นพิเศษคือการบำรุงผิวหน้าค่ะแต่ไม่ต้องใช้เยอะชิ้นนะคะ แค่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง จึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพราะในการทำงานต้องแต่งหน้าทุกวัน จึงต้องบำรุงหน่อยแก้มใช้น้ำตบSK-II Facial Treatment Essence มาหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่อายุ 24 ปี เริ่มจากมีพี่แนะนำให้ใช้ แล้วก็รู้สึกว่าได้ผลจริงๆ จึงแนะนำให้คุณแม่ใช้ด้วยเลยค่ะ

“ขั้นตอนการบำรุงผิวของแก้มทุกวัน จึงต้องเริ่มจากน้ำตบเป็นอันดับแรก เพราะช่วยให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส คือไม่จำเป็นต้องขาว แต่ผิวต้องดี ผิวต้องสวย ซึ่งเป็นความสวยในแบบของตัวเอง ที่ไม่ต้องเหมือนใคร

“แก้มไม่ได้จำกัดความคำว่าสวย ว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ นะคะ บางวันแก้มอาจจะหน้าโล้น ไม่ได้แต่งหน้า แต่ถ้าผิวเราดี เราก็มีความสุขในแบบของเรานะความสวยของแก้มคือมีความสุขกับสิ่งที่เป็น กล้าที่จะแตกต่าง และภูมิใจในตัวเองเพราะเมื่อรู้สึกแบบนั้น เราจะมีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง สนุก ร่าเริง ซึ่งทั้งหมดนี้คือ เสน่ห์ภายในตัวเราที่ปรากฏออกมา

“เป็นความสวยในแบบของตัวเองค่ะ”

SK-II Facial Treatment Essence ลาย Little Red Symbol limited edition ร่วมถ่ายทอดความหมายพิเศษของผู้หญิงทุกคน ด้วยลวดลายนกบนขวด พร้อมด้วยนกสีดำหนึ่งตัวที่แตกต่างอยู่ท่ามกลางนกสีขาว ที่เปรียบเสมือน “ความกล้าที่จะแตกต่างเพื่อเดินตามความฝัน” เช่นเดียวกับเจ้าของบทสัมภาษณ์ของเราในวันนี้ค่ะ

SK-II Facial Treatment Essence ลาย Little Red Symbol limited edition วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ SK-II ทุกสาขา หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sk-ii.co.th/th/product-detail.aspx?name=little-red-symbol-limited-edition-facial-treatment-essence

ทีโอที –ดีแทคเปิดสัญญาณทดสอบ dtac-T บนคลื่น 2300 MHz 10 แห่ง พื้นที่ใจกลางกทม.

วันนี้ ทีโอทีและดีแทคได้เปิดทดสอบ dtac-T คลื่น 2300 MHz จำนวน 10 แห่ง ใจกลางกรุงเทพ เน้นจุดพื้นที่ใช้งานหนาแน่นในการเปิด 10 เสาแรกในไทย อาทิ สุขุมวิท สาทร-นราธิวาสราชนครินทร์ สีลม ราชประสงค์ พระราม 3 เป็นต้น เพื่อเปิดทดสอบสัญญาณเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าทั่วไปเร็วๆ นี้

โดย พล.อ.อ.ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดทดสอบการใช้งานเป็นครั้งแรกในไทย พร้อม ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ให้เกียรติร่วมในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงทีโอที และมีบทบาทในการขับเคลื่อนตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ดร. มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที  กล่าวว่า “สัญญาทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่างทีโอทีและดีแทคในการใช้งานคลื่นความถี่ 2300 MHz บนแบนด์วิดท์ที่กว้างที่สุดถึง 60 MHz (2310 – 2370 MHz) เพื่อให้บริการการสื่อสารความเร็วสูงมิติใหม่ของประเทศ เป็นการปักหมุดความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีล่าสุดของโลก 4G  LTE-TDD มาให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งบนโทรศัพท์เคลื่อนที่  และอินเทอร์เน็ตไร้สายประจำที่ (Fixed Wireless broadband) เพื่อขยายบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ที่สำคัญความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทยให้ก้าวทันกับนานาประเทศตามนโยบายรัฐบาลที่จะนำพาประเทศก้าวสู่  “ไทยแลนด์ 4.0” ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก  โดยบริการคลื่น 2300 MHz นับเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของระบบโทรคมนาคม และระบบดิจิทัลในประเทศไทย”

ดร. มนต์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดให้บริการคลื่น 2300 MHz จะเป็นการเสริมศักยภาพบริการของ ทีโอที ทั้งบริการโมบายบนคลื่น 2100 MHz และบริการบรอดแบนด์ของ ทีโอที ซึ่งจะรองรับความต้องการใช้งานของภาครัฐ ของธุรกิจเอกชน ธุรกิจ SME และประชาชนได้มากขึ้น โดย ทีโอที พร้อมเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดโมบายและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทีโอที เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีจุดแข็งที่ได้เปรียบทั้งในเรื่องของแบนด์วิดท์และความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการ  โดยจะสามารถสร้างยอดลูกค้เพิ่ม Market Share ให้กับทีโอที”

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้วางแผนการให้บริการคลื่น 2300 MHz ด้วยงบลงทุน(CAPEX) ปีพ.ศ. 2561 ประมาณ 15,000  18,000 ล้านบาท สำหรับการขยายสถานีฐานและเสาสัญญาณ โดยเมื่อหักกลบค่าใช้บริการระหว่างกันดีแทคสามารถให้ค่าตอบแทนแก่ทีโอทีเป็นจำนวน 4,510 ล้านบาทต่อปีจนถึง ปี พ.ศ. 2568 ทั้งนี้ ดีแทควางแผนที่จะขยายบริการบนคลื่น 2300 MHz ไม่ต่ำกว่า 37 จังหวัดในปีนี้ โดยพื้นที่แรกที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จะเน้นไปที่บริเวณที่มีการใช้งานดาต้าสูง และพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ของปีนี้

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการใช้งานข้อมูลในประเทศไทย ที่มีอัตราเฉลี่ยมากกว่า 8 GB ต่อผู้ใช้งานต่อเดือน และการที่โครงข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้กลายเป็นส่วนที่สำคัญมากของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจของชาติ

นายลาร์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “ดีแทคเลือกเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อการสื่อสารมาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยคลื่นความถี่ 2300 MHz และเทคโนโลยีTime Division Duplex (TDD) จะถูกนำมาใช้งาน โดย TDD สามารถจัดการแบนด์วิดท์สำหรับการอัพลิงค์ และดาวน์ลิงค์บนแบนด์วิดท์เดียวได้พร้อมกันตลอดเวลา ความร่วมมือกันระหว่างดีแทคและทีโอทีครั้งนี้มีความสำคัญที่นำคลื่นความถี่กว้าง 60MHz ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมาใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น”

TDD และ Massive MIMO คือเทคโนโลยีที่ปฏิวัติเพิ่มการรับและส่งดาต้าในแต่ละเสาสัญญาณได้มากกว่าเดิม นับเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ก้าวสู่  “5G-ready”    โดยคลื่นใหม่ที่จะนำมาให้บริการจะมีความจุที่มากที่สุด และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนี้

นายลาร์ส กล่าวต่อไปว่า “สมาร์ทโฟนจำนวนมากกว่า 70% ที่รองรับ 4G ในขณะนี้ จะสามารถใช้งานบนคลื่นความถี่ 2300 MHz TDD ได้ อีกทั้ง ไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานบนคลื่น 2300 MHz จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น แต่ผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนบนคลื่น 2100 MHz ยังจะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย จากที่มีการเพิ่มคลื่นความถี่หรือ Off Load จากผู้ใช้งานบนระบบ TDD ทั้งนี้ทำให้ลูกค้าดีแทคทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง”

นี่เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่ใช่เฉพาะสำหรับทีโอทีและดีแทค  แต่ยังสำคัญกับประเทศไทย 4.0 อีกด้วย ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ประเทศไทยต้องการในการก้าวเป็นผู้นำด้านดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังทำให้การบริการดิจิทัลของทีโอทีมีการเติบโตอย่างมั่นใจในระยะยาว นอกจากนั้น ยังเพิ่มความแข็งแกร่งของโครงข่ายดีแทคในการให้บริการในประเทศ และช่วยให้คนไทยยกระดับการใช้งานดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากที่สุด

ทั้งนี้ 10 เสาแรกในไทยที่ทีโอทีและดีแทคร่วมเปิดทดสอบการใช้บริการในพื้นที่ใจกลางเมืองสำคัญของกทม ก่อนที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าทั่วไปเร็วๆ นี้ ได้แก่ สาทร แหล่งธุรกิจ ย่านนัดพบของคนทำงาน สังสรรค์ ย่านของกินอร่อยใจกลางเมือง, พระราม 3 ย่านเมืองใหม่ จุดเชื่อมต่อกรุงเทพและเส้นทางเข้าสู่ใจกลางเมืองจุดสำคัญ, สีลม ถนนธุรกิจใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร หรือ “วอลล์สตรีตของกรุงเทพ” แหล่งรวมธนาคาร โรงแรม สำนักงานชั้นนำขนาดใหญ่ และศูนย์การค้า  พร้อมแหล่งท่องเที่ยว แหล่งซื้อสินค้าที่ระลึก ทั้งกลางวันและกลางคืน, ราชประสงค์ ศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สุขุมวิท ย่านที่พักไฮเอนท์ ศูนย์การค้าชั้นนำ แหล่งธุรกิจ และจุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ เจริญกรุง แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเก่าใจกลางกรุงเทพมหานคร ทางเลือกในการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของคนในชุมชนสไตล์อันซีน ของนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ เป็นต้น

อาเล็ก

อาเล็ก – เต้ย ร่วมทุกข์ร่วมสุข 1 ปีเต็ม หมดดราม่างานนี้มีแต่ความหวาน

Alternative Textaccount_circle
อาเล็ก
อาเล็ก

อาเล็ก เผยพา เต้ย สาวคนพิเศษออกเดททริปแรก ภายหลังจากที่สานสัมพันธ์ครบ 1 ปี โดยฝ่ายชายเผยแฮ็ปปี้ ทั้งคุณพ่อ-คุณแม่ รักและเอ็นดูฝ่ายหญิงมาก

อาเล็ก

อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ

ถึงตอนเริ่มต้นคบหากันจะมีคนวิจารณ์อื้ออึง แต่ด้วยความรักที่มั่นคงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกหนุ่ม อาเล็ก -ธีรเดช เมธาวรายุทธ และนางเอกสาว เต้ย -จรินทร์พร จุนเกียรติ ยังคงดำเนินมาเรื่อยๆ จวบจนวันนี้ครบรอบ 1 ปีแล้วที่ทั้งคู่คบหาดูใจกัน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ทั้งสองได้จัดทริปที่เรียกว่าเดทแรกด้วย

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ในงานพฤกษานนท์และไม้ดอกไม้ประดับ “พฤกษานนท์ 61” นักแสดงหนุ่มได้เผยถึงความสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้ โดยกล่าวว่า “ก็ครบรอบ 1 ปี พอมันขึ้นหลักปี ก็เริ่มเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจริงจัง เล็กเองก็รอวันที่จะลงรูปคู่เหมือนกันนะ ก่อนหน้านี้หลายคนคิดว่าเราคงไปด้วยกันไม่ค่อยได้ ไม่เข้ากันและมีกระแสข่าวที่มันไม่ดีออกมา แต่ว่าสำหรับตัวเล็กเองพอมันมาถึงจุดนี้ มันก็ค่อนข้างนาน ปีหนึ่งแล้ว เราก็รู้สึกว่าเราสองคนผ่านอุปสรรค กระแสต่างๆ มาได้ 1 ปี เป็นโอกาสพิเศษของเล็กที่จะลงรูป รูปที่ลงก็เป็นทริปแรกที่ไปเที่ยวด้วยกันครับ ที่เขาสามร้อยยอด เราไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันครับ ไปเช้าเย็นกลับ”

อาเล็ก

ออกเดทแรกที่เขาสามร้อยยอด

“สำหรับความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ รู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ รู้จักนิสัยของกันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อย เราเองก็ไม่ได้หวังว่าจะพิสูจน์อะไร ความรู้สึกของเราเอง ก็จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ อยากจะให้ทุกคนที่มองไม่เหมือนเรา ลองมองดูใหม่ ผมเองก็โดนติโดนว่ามาเยอะในช่วงแรกๆ ก็เป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วย เป็นการเริ่มต้นที่ทุลักทุเลกว่ารักครั้งอื่น ก่อนหน้านี้ไม่เคยโดนว่า”

อาเล็ก

เมื่อถามถึงเพื่อนๆ​ ว่าอย่างไรกับภาพคู่หวานๆ​ ที่ลงไป พระเอกหนุ่มก็เปิดเผยว่าก็มีมาแซวบ้างแต่ก็ไม่ได้เขินแล้ว พร้อมอมยิ้มเบาๆ “ก็มีมาแซวๆ บ้าง ก็ไม่ได้เขินแล้วครับ (ยิ้ม) ส่วนเต้ยก็ไม่น่าเขิน หรืออาจจะมีนิดๆ หน่อยๆ ถ้ามีพี่ๆ มาแซวก็เขิน ถามว่าเปิดขนาดนี้เรียกแฟนได้รึยังคือเราก็ยังไม่เคยใช้คำนั้นครับ เล็กว่าบางทีคำที่ใช้เรียกอาจจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้นครับ เล็กเชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดว่าตอบแบบดาราไม่เรียกแฟนซักที แต่เล็กคิดว่าคำว่าแฟนมันก็ไม่ได้สำคัญกับเราทั้งคู่ ความสัมพันธ์ความเข้าใจกันมันสำคัญกว่า เราก็ไม่ได้หวังอะไรที่มากกว่าไปนี้ แต่ก็อยากให้เราเข้าใจกันและรู้จักกัน เขาก็เป็นคนพิเศษสำหรับเล็กครับ คนจะคิดว่าเราลงรูปคู่เพื่อสร้างกระแสเรียกงานหรือเปล่า คงยังไม่รับ ณ ตอนที่มีข่าว อยากจะเงียบๆ อยากให้คนจ้างมองเห็นศักยภาพของเรามากกว่า ได้มีปฏิเสธงานคู่ไปเหมือนกันครับ”

อาเล็ก

ทั้งนี้อาเล็กยังเผยว่าต่อไปนี้อยากที่จะลงภาพคู่เรื่อยๆเพราะอยากให้ชีวิตแบบปกติ ไม่อยากต้องกังวลอะไรแล้ว “จริงๆ ตั้งแต่แรกแล้วเราเองก็อยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ไปไหนเขาก็ลงรูปคู่กัน ไม่อยากจะต้องมานั่งคิดว่าลงแล้วจะโดนว่าไหม มีกระแสอะไรไหม ไม่อยากจะต้องคิดเยอะ สำหรับผมพอข้ามหนึ่งปีมาได้ ทุกอย่างมันเริ่มชัดเจน การที่เราจะไปไหนมาไหนด้วยกัน การที่เราจะลงรูปหรือไม่ลงรูป มันเป็นเรื่องที่เราไม่ต้องคิดเยอะแล้ว แต่ยังไงเราก็ยังต้องปรับตัวเข้าหากัน คนสองคนไม่มีทางรู้จักกัน100เปอร์เซ็นต์ ก็ศึกษาเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ 1 ปีที่ผ่านมาเราแฮ็ปปี้กันมากครับ”


ภาพจาก : elle_phattaranun

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน

ชาวอังกฤษตื่นเต้น! กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน เตรียมพิธีเสกสมรส เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน
กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน
พระราชพิธีเสกสมรส เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน มาร์เคิล

สร้างความตื่นเต้นและความยินดีแก่ประชาชนชาวอังกฤษรวมทั้งคนทั่วโลกไม่น้อย เมื่อพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวชาวอเมริกันใกล้จะเกิดขึ้นเข้ามาทุกที ล่าสุดได้มีการอัพเดทในส่วนของ กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน ผ่านเมืองวินเซอร์ไปตามท้องถนน เพื่อเตรียมพร้อมพระราชพิธีเสกสมรสที่จะเกิดขึ้นจริงในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 ซึ่งรอบถนนหนทางรายล้อมไปด้วยประชาชนชาวอังกฤษที่ให้ความสนใจมาดู และบันทึกภาพกันจำนวนมาก

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน

เจ้าชายแฮร์รี่ – เมแกน มาร์เคิล

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน

รถม้าพระที่นั่งที่เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนทรงเลือกเอง

เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อังกฤษครั้งใหญ่ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียด การอัพเดทข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ล่าสุดทางทวิตเตอร์สำนักพระราชวังเคนซิงตัน (Kensinton Palace) ได้มีการอัพเดทการเตรียมพระราชพิธีในส่วนของกองทัพทหารที่เป็นหนึ่งในบรรดาขบวนรถที่จะเดินขบวนไปตามท้องถนนของเมืองวินเซอร์ และแน่นอนว่าหลังพิธีเสกสมรสเสร็จสิ้นที่โบสถ์เซนต์จอร์จ เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนจะเสด็จโดยรถม้าพระที่นั่ง (The Ascot Landau carriage) เคลื่อนขบวนผ่านสายตาประชาชน

นับว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง และวันนี้ แพรวดอทคอม ก็ได้นำภาพบรรยากาศการซักซ้อมของกองทัพทหารมาให้ได้ชมกัน ก่อนบรรยากาศจริงจะเริ่มขึ้นอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

บรรยากาศการซักซ้อมเดินขบวนของกองทัพกว่า 250 คน

กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน กองทัพทหารกว่า 250 คนซ้อมเดินขบวน

 

 

 


ภาพ: Twitter @

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ใช่แบรนด์นี้ไหม! ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท ที่จะได้เห็นในพิธีเสกสมรสปรินซ์แฮร์รี่

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท
ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท ในงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนก็จับตามอง เพราะพระองค์ทรงเป็นแฟชั่นไอคอน ที่ไม่ว่าจะแต่งฉลองพระองค์แบบไหนก็เป็นที่กล่าวถึงเสมอ

พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว (19 พ.ค.61) แน่นอนว่าชุดเจ้าสาวของเมแกนเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างตั้งตารอดูความงดงามในวันสำคัญนี้ แต่นอกจากชุดแต่งงานของสาวแมเกนแล้ว เชื่อว่าแฟชั่นของแขกที่เข้าร่วมงานก็จะถูกสื่อและประชาชนจับตามองไม่แพ้กัน ดั่งเช่น ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ แฟชั่นไอคอนแห่งเกาะอังกฤษ

ซึ่งเจ้าหญิงเคทจะทรงเข้าร่วมพิธีเสกสมรสในครั้งนี้ และถือเป็นแขกคนสำคัญอีกหนึ่งคนของราชวงศ์ ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการแต่งตัวของพระองค์ ลุคที่เราจะได้เห็นกันในพิธีจะต้องงดงามอย่างแน่นอน และพระองค์ทรงรู้ดีว่าควรเลือกฉลองพระองค์แบบไหน เพื่อป้องกันการขโมยซีนจากคู่บ่าวสาว และต้องไม่ใช่ฉลองพระองค์จากแบรนด์เดียวกันกับสาวเมแกนด้วย

ทั้งนี้ลุคสุดเรียบหรูที่เจ้าหญิงเคททรงเลือกแต่งในงานสมรสของพิปพา มิดเดิลตัน ก็ยังคงตราตรึงและเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสง่างาม จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ในพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกน มาร์เคิล ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ มีผู้คนรอชมแฟชั่นฉลองพระองค์ของเจ้าหญิงเคท

ทั้งนี้เจ้าหญิงเคทเพิ่งมีพระประสูติกาลเจ้าชายหลุยส์ ไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน เรียกได้ว่าผ่านการคลอดยังไม่ถึงเดือน ก็ต้องร่วมงานใหญ่ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สื่อมวลชนให้ความสนใจและรอดูฉลองพระองค์ของดัชเชสในวันงาน

ด้วยองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ นักออกแบบหลายคนจึงได้คาดการณ์ฉลองพระองค์ไว้ว่าดัชเชสแห่งเคมบริดจ์จะทรงเลือกฉลองพระองค์จาก 1 ใน 5 แบรนด์นี้ เพื่อทรงสวมในพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่

 

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท จาก 5 แบรนด์ทรงโปรด

 

Alexander McQueen

เริ่มที่แบรนด์แรก เป็นแบรนด์ที่ใครก็รู้กันว่านี่แหละแบรนด์โปรดของดัชเชส เพราะพระองค์ทรงเลือกชุดแต่งงานจากแบรนด์นี้ รวมถึงงานสมรสของพิปพา มิดเดิลตัน ก็ทรงสวมชุดจาก Alexander McQueen เช่นกัน

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

 

Dolce & Gabbana

แบรนด์ดังจากอิตาลีอย่าง D&G ก็มักจะถูกเลือกทุกครั้งเมื่อเจ้าหญิงเคทเสด็จฯ ไปรอยัลทัวร์ หรือเมื่อทรงออกงานต่างๆ ก็ทรงเลือกแบรนด์นี้อยู่บ่อยครั้ง

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

 

Emilia Wickstead

สำหรับแบรนด์ Emilia Wickstead ดีไซน์เรียบ แต่สีสันสดใสชวนมอง และเมื่อเจ้าหญิงเคททรงสวมแล้วได้ลุคที่สะดุดตา งดงามทุกครั้ง

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

 

Erdem

Erdem เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เจ้าหญิงเคทเลือกสวมในงานสำคัญเสมอ ด้วยดีไซน์ที่ผสานทั้งความหรูและความสนุกไว้ด้วยกัน ทำให้ลุคโดดเด่นทุกครั้งที่ทรงแต่งออกมา

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

 

Jenny Packham

สุดท้ายกับแบรนด์ Jenny Packham เมื่อนึกถึงงานกาล่า หรือดินเนอร์มื้อพิเศษ แบรนด์นี้ก็จะถูกเลือกจากเจ้าหญิงเคทเสมอ ซึ่งแบรนด์นี้มีแต่งานดีไซน์งดงามจริงๆ

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท

ฉลองพระองค์เจ้าหญิงเคท


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : IG@katemidleton

 

ทึ่งสุดๆ! เผยโฉมหน้าแขกพิเศษ ผู้ได้รับบัตรเชิญร่วมพิธีเสกสมรสของ Prince Harry & Meghan

คุณได้รับบัตรเชิญไปร่วมพิธีเสกสมรสของ Prince Harry & Meghan (เจ้าชายเฮร์รีแห่งเวลส์ กับ ราเชล เมแกน มาร์เคิล) ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้แล้วหรือยัง?

ถ้าจนถึงป่านนี้ยังไม่ได้รับ  แสดงว่าคุณไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีเกียรติร่วมงาน เพราะจะต้องมีการตอบรับผู้ได้รับเชิญร่วมงานพิธี สื่อในอังกฤษรายงานว่ามี 2,030-2,640 คน แต่จะมีผู้สามารถเข้าร่วมพิธีใน โบสถ์เซนต์จอร์จ ของพระราชวังวินด์เซอร์เท่าที่จะรองรับได้เพียง 800 คนเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับโบสถ์เวสต์มินสเตอร์ สถานที่จัดงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมแห่งเคมบริดจ์กับดัชเชทเคท ซึ่งจุคนได้ถึง 2,000 คน น่าจะทำให้คุณพอนึกออกใช่ไหมว่า งานเสกสมรสของพริ้นซ์แฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล มีสเกลย่อมกว่าขนาดไหน

The invites to Prince Harry and Meghan Markle's wedding have now been printed

แต่ผู้ที่ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธีในโบสถ์ก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอก เพราะจะได้ร่วมพิธีภายในบริเวณพระราชวัง ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นคนพิเศษอยู่ดีนั่นแหละ

ความต่างระหว่างงานพิธีเสกสมรสสองครั้งนี้มีหลายประการ รวมทั้งผู้มาร่วมงานพิธี  ซึ่งในงานของเจ้าชายวิลเลียม มีทั้งนักการเมืองและนักการทูตจำนวนมาก  ทว่าคราวนี้ไม่มีการเชิญแขกระดับประเทศเลย  แม้แต่ระดับหัวหน้ารัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษเอง  หรือผู้นำต่างชาติอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งอดีตประธานาธิบดีบารัก  โอบามา ที่มีความคุ้นเคยกับเจ้าชายแฮร์รี่และราชวงศ์อังกฤษเป็นอย่างดีก็ยังไม่ได้รับเชิญ

ถ้างั้นใครล่ะ? ที่ได้รับบัตรเชิญวาระแสนพิเศษนี้ แพรวจะบอกให้คุณตาโต

บุคคลสำคัญของเจ้าบ่าว เจ้าชายแฮร์รี่ และเจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล คือสามัญชนคนธรรมดาในวัยต่างๆ ที่มีภูมิหลังและอาชีพหลากหลาย แต่ล้วนมีจุดเชื่อมโยงเดียวกันนั่นคือ ทุกคนเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน มีประวัติบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมเป็นเกียรติเป็นศรีในชีวิต

และนี่คือโฉมหน้าของแขกพิเศษ ผู้ได้รับบัตรเชิญร่วมพิธีเสกสมรสของ Prince Harry & Meghan

Philip Gillespie จาก Ballymena ชายหนุ่มอายุ 30 ผู้สูญเสียขาขวาในเหตุการณ์ IED ที่ประเทศอัฟกานิสถาน และทำงานให้ ABF The Soldiers Charity เพื่อระดมทุนสร้างความตระหนักรู้ในความเสียสละของทหาร 

Pamela Anomneze จาก Haringey ผู้จัดการสตูดิโอ 306 Collective CIC ซึ่งเป็นองค์กรทางสังคมที่ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิตให้ฟื้นตัวด้วยงานศิลปะบำบัด

Reuben Litherland, 14, who was born deaf, has started lunchtime lessons to teach sign language at his school

Reuben Litherland จาก Derby เด็กหนุ่มวัย 14 ผู้เกิดมาพร้อมภาวะพร่องในการได้ยิน(หูหนวก) แต่กลับก้าวข้ามปัญหาของตัวเองด้วยการสอนภาษามือในโรงเรียนช่วงเวลาอาหารกลางวัน

Amy Wright  จาก Annan อาสาสมัครวัย 26 ปี ประธานกรรมการของคาเฟ่ Usual Place ซึ่งอยู่ในเมืองดัมเฟิร์ส เป็นคาเฟ่ที่มุ่งให้การฝึกอบรมและการสนับสนุนการจ้างงานสำหรับเยาวชนอายุ 16-25 ปีที่มีความต้องการพิเศษ

Related image

Amelia Thompson เด็กหญิงวัย 12 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บทางกายและสภาพจิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ปีที่แล้ว(2560)

Related image

Zoe Ardunell  สาวน้อยอายุ 20 ปี อาสาสมัครในองค์กรการกุศล Valley Kids ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งช่วยเหลือครอบครัวที่ด้อยโอกาส

Image result for daniella timperley royal wedding

Daniella Timperley  นักเรียนจากโรงเรียนเซนต์หลุยส์แกรมม่าสกูล ที่ได้รับรางวัล All-Ireland Youth Volunteer of the Year 2018 ในฐานะเยาวชนอาสาสมัครดีเด่นประจำปี (สื่อในอังกฤษบางรายอ้างว่าบัตรเชิญที่ทยอยส่งตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมมาถึงมือเธอเป็นคนแรก)

Image result for Rosie Ginday royal wedding

Rosie Gindway เจ้าของร้านขนมในเบอร์มิงแฮม  ที่ทำการค้าเพื่อตอบแทนสังคมมากกว่าหวังผลกำไร

Image result for Jorja Furze royal wedding

Jorja Furze เด็กนักเรียนหญิงอายุ 12 ปี ผู้เกิดมาโดยมีขาขวาเพียงข้างเดียว แต่ได้รับเเลือกให้เป็นแอมบาสซาเดอร์ด้านสุขภาพจิตดีเด่น โดยปัจจุบันเธออุทิศตนเป็นทูตการกุศลด้วย

เห็นโปรไฟล์ของแขกเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิลแล้ว บอกตรง น้ำตารื้นกับความน่ารักของคู่บ่าวสาวคู่นี้จริงๆ 

 

 

IMAGE: PA:PRESS ASSOCIATION

Source : www.thesun.co.uk  และ “ปอมอ-ส่องกระจกข้ามโลก” นิตยสารแพรว

 

รองพื้น

ผิวต้องเนียน! ชี้เป้า 8 รองพื้น ตัวเด็ดเริ่มหลักร้อยถึงหลักพัน แบรนด์ไหนถูกจริต..ตำเลย

Alternative Textaccount_circle
รองพื้น
รองพื้น

ว่ากันด้วยเรื่องงานผิวคงหนีไม่พ้น “รองพื้น” ซึ่งส่วนใหญ่สาวๆ จำเป็นต้องแต่งหน้าทุกวัน เพื่อให้ใบหน้าเนียนใส ปกปิดริ้วรอย และปรับให้สีผิวสม่ำเสมอ จนถือได้ว่ารองพื้นเป็นไอเท็ม Must Have ของสาวๆ สมัยนี้เลยก็ว่าได้ เพราะตอบโจทย์เรื่องปัญหาผิวที่แก้ยากและต้องใช้เวลาในการรักษา เลยเป็นตัวช่วยสวยด่วนเพื่อเมคอัพให้สาวๆ หน้าเนียนเนี้ยบไม่ต้องอายสายตาใคร

และหลังจากได้ทดลองรุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาช่วงนี้ พบว่าหลายแบรนด์มีการพัฒนาสูตร ปรับเนื้อสัมผัส และฟินิชชิ่งให้เหมาะกับอากาศบ้านเรามากยิ่งขึ้น และแล้ว แพรวดอทคอม ก็ค้นพบรองพื้นโปรไฟล์ดีที่จะมาแนะนำสาวๆ แบบครบทุกสเปคที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นคุมมัน บางเบาแต่ปกปิด เฉดสีเข้าเป้า และอยู่ยาวได้ตลอดวัน

ผิวต้องเนียน! ชี้เป้า 8 รองพื้น ตัวเด็ดเริ่มหลักร้อยถึงหลักพัน แบรนด์ไหนถูกจริต..ตำเลย

Dior Diorskin Forever Undercover 24H Full Coverage
(40 มิลลิลิตร / 2,150 บาท)

พัฒนาสูตรมาเพื่อแต่งโทนผิวให้กลมกลืนเป็นธรรมชาติไปกับผิวจริง แต่ยังคงสเต็ปเรื่องความปกปิดริ้วรอยไว้ บอกเลยว่าตัวนี้อำพรางผิวอย่างแนบเนียนตลอดคืน ตลอดวันถึง 24 ชม. เนื้อฟลูอิดบางเบา ลื่นเนียนเป็นพิเศษ ไม่ยึดตัวเกาะติดผิวในทันทีเพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆ ได้มีเวลาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ให้กลมกลืนกับผิว เพราะเป็นการใช้โพลีเมอร์สายพันธุ์ใหม่สองชนิดมาผสมสูตร เหมือนตัวล็อค ยึดตรึงเนื้อรองพื้นให้ผนึกแน่น ทนทานต่อเหงื่อ น้ำ และซีบัม ในขณะที่โพลีเมอร์อีกประเภทช่วยควบคุมความมัน หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้รองพื้นยากจะติดทน เด็ดจริง ควรลอง


Giorgio Armani Luminous Silk Foundation 
(30 มิลลิลิตร / 2,450 บาท)

อย่างที่ทราบกันดีว่า เรื่องเมคอัพ จิออร์จิโอ อาร์มานี่ เชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการเผยผิวที่สวยที่สุด ด้วยรองพื้นอันโดดเด่นลือเลื่อง Luminous Silk เนื้อรองพื้นบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ฟองน้ำหรือแปรงช่วยเลย แค่ 1 – 2 ปั๊มก็เกลี่ยพอดีทั้งหน้าแล้ว แถมเทคโนโลยี Micro-fil technology ส่งเส้นใยเล็กถึงขีดสุดระดับไมโคร เข้ากระชับผิวหน้าและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างกลมกลืน


Lancome Teint Idole Ultrawear Liquid Foundation
(30 มิลลิลิตร / 1,950 บาท)

รองพื้นรุ่นที่ใครต่อใครต่างก็บอกดีที่สุดของลังโคม​ ตอนนี้ออกเฉดสีใหม่ 12 เฉดสีอิงจากผิวสาวเอเชียโดยเฉพาะ เสริมทัพกับ 12 เฉดสีเดิมที่มีอยู่ รวมเป็นทั้งหมด 24 เฉดสี ผิวเนียนบางเบาไม่หนักหน้า​ ปกปิดเนียนสนิทติดทนนานแต่ผิวยังคงดูเป็นธรรมชาติราวกับไม่ได้ลงรองพื้น และผิวยังคงรู้สึกโปร่งสบายแม้ว่าจะผ่านไปหลายชั่วโมง เฉดใหม่นี้เพิ่งเปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย บอกเลยว่ารองพื้นชนิดน้ำสูตรนี้ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์แต่งผิวที่ “ต้องมี” ติดโต๊ะเครื่องแป้งและกระเป๋าเครื่องสำอางไว้เสมอไปแล้ว


Clarins Teint Haute Tenue+ Everlasting Foundation+ SPF 15
(30 มิลลิลิตร / 1,700 บาท)

ตัวนี้ก็เด็ดไม่แพ้เพื่อน รองพื้นเนื้อเหลว เกลี่ยง่าย ปกปิด ติดทนนาน ช่วยให้ผิวเนียนสวยสมบูรณ์แบบ ไร้ความมันเงา ต่อเนื่องตลอด 18 ชั่วโมง แต่ยังรู้สึกเบาสบายผิว พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสไร้ที่ติให้แก่ผิวตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ด้วยการผสมผสานระหว่าง Bamboo Powder กับเทคโนโลยี High Fidelity System ทำให้เมคอัพติดทนนาน ที่สำคัญสำหับสาวมีอายุหน่อยๆ ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ และไม่อุดตันรูขุมขนด้วย


THREE Angelic Synthesis Foundation Serum
(30 มิลลิลิตร / 2,450 บาท)

เป็นมากกว่าการใช้รองพื้นทั่วไป นั่นคือ เซรั่มในรูปแบบรองพื้น ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวมาก อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อการบำรุงล้ำลึกถึง 75% ให้ผิวรู้สึกสดชื่น ผิวโกลว์ดูสุขภาพดี ราวกับผิวธรรมชาติที่แท้จริง เนื้อสัมผัสโปร่งเบาสบาย เกลี่ยง่าย แต่สามารถปกปิดริ้วรอยและข้อบกพร่องได้แนบเนียน ไม่ทิ้งตัวเป็นคราบ สามารถใช้ทาทับได้ตามความต้องการ พร้อมเฉดสีที่ลืมคำว่าหนาหนักไปได้เลย แถมหมดกังวลเรื่องเหงื่อหรือความมันที่ทำให้ผิวหมองคล้ำระหว่างวันด้วย


BRONX COLORS Studioline HD TV Foundation
(20 มิลลิลิตร / 895บาท)

รองพื้นสูตรออยล์ฟรี มีคุณสมบัติในการกระจายตัวกลมกลืนไปกับพื้นผิวได้อย่างแนบเนียน สามารถปกปิดไปทุกอณูของผิวหน้า จนไม่สามารถแยกออกได้ระหว่างเครื่องสำอางกับผิวหน้าที่แท้จริง เพื่อผิวหน้าสวยเรียบเนียนไร้ที่ติ  ดุจดาราดัง ที่พร้อมออกทีวีได้ตลอดเวลา ต้องลองแล้วละมั้งสาวๆ


L’Oreal Paris True Match Liquid Foundation SPF16PA++
(30 มิลลิลิตร / 449 บาท)

เป็นรองพื้นที่การันตีแล้วว่าเข้ากับสีผิวของสาวไทยมากที่สุดและมีเฉดสีให้เลือกมากที่สุดถึง 8 เฉดสี โดยมี 2 เฉดสีใหม่ คือ G2 ผิวสีเนื้ออมชมพู และ G4 ผิวสองสี และคงไว้ด้วยเทคโนโลยีไมโครแมช ที่มีการผสมผสานอณูเม็ดสีพิเศษถึง 7 ชนิด ทำให้สร้างสีผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมกระบวนการบดพิกเมนต์แบบแห้งเพื่อให้ได้เนื้อรองพื้นที่มีอณูละเอียด ทำให้ซึมซาบและเรียบเนียนไปกับผิว และท้ายสุดกับการผสานน้ำมันสกัดที่ระเหยเร็วขึ้นถึง 2 เท่า ทำให้การเกลี่ยเนื้อรองพื้นง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังควบคุมความมันและให้สัมผัสเบาสบายบนผิวหน้าอีกด้วย


L’Oreal Paris Infallible Pro-Matte
(30 มิลลิลิตร / 479 บาท)

ผิวแมตต์เป๊ะ ไม่หลงเหลือความมันให้โป๊ะแตกได้แล้ว สำหรับสาวๆ ผิวมันต้องไม่พลาดกับกระแสรองพื้นเนื้อแมตต์ที่ฮ็อตสุดๆ จากเมืองนอกในขณะนี้กับรองพื้นเนื้อแมตต์สูตรกันน้ำที่มาในรูปแบบหลอด ติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมง เปลี่ยนหน้ามันเป็นแมตต์ทันที ไม่มีพลาดในทุกสถานการณ์ เพราะโพลีเมอร์ชนิดติดทนนานช่วยยึดเนื้อรองพื้นเอาไว้กับผิว ไม่ว่าสาวๆ จะเปลี่ยนกี่ลุคผิวก็แมตต์ทนไม่มีหลุดแม้จะเจอกับน้ำหรือน้ำมัน แถมยังเบาสบายไม่รู้สึกหนักหน้าอีกด้วย

 

การแต่งหน้าก็เหมือนการวาดรูป ภาพจะออกมาสวยหรือไม่นั้น ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การสเก็ตภาพ วางโครงสร้าง ไปจนถึงการลงสี การแต่งหน้าก็เช่นเดียวกัน ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการการลงรองพื้นและไม่ใช่แค่การทาๆ ให้ทั่วใบหน้าก็เสร็จ แต่รวมถึงการใส่ใจเลือกรองพื้นสูตรที่ใช่เหมาะกับผิว นั่นแหละจะเป็นอะไรที่เสริมให้ผิวเนียนสวยน่ามองมากขึ้นไปอีกนะคะซิสสสสสส!


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์ อวดโฉมเสื้อผ้าบนรันเวย์ระดับโลก ใน Shenzhen fashion week 2018

ลาบูทีคส์
ลาบูทีคส์

ยกระดับวงการแฟชั่นของเมืองไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เมื่อแบรนด์ดังอย่าง ลาบูทีคส์  (La Boutique) ได้อวดโฉมเสื้อผ้าดีไซน์หรู ให้สะกดทุกสายตาบนรันเวย์ระดับโลก ในงาน  Shenzhen fashion week 2018

หากจะเอ่ยถึงแบรนด์แฟชั่นไทยชั้นนำที่ได้รับการตอบรับจากเหล่าแฟชั่นนิสต้ามาโดยตลอด คงจะต้องมีชื่อของแบรนด์ ‘ลาบูทีคส์’ (La Boutique) ติดอยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะด้วยเทคนิคการดีไซน์เสื้อผ้าที่มีความร่วมสมัย ภายใต้ฝีมือของ โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ประจำแบรนด์ ผู้ถ่ายทอดไอเดียสดใหม่สู่เครื่องแต่งกายดีไซน์หรูที่สามารถทำให้หญิงสาวผู้สวมใส่ดูโดดเด่นได้อย่างมีรสนิยม จึงส่งผลให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างเลือกสวมใส่ชุดของลาบูทีคส์ (La Boutique) อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลกอย่าง Olivia Palermo, Kristina Bazan หรือซูเปอร์โมเดลสาวสวย Chanel Iman โดยล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้รับคำเชิญจาก Shenzhen fashion week ให้ไปร่วมเนรมิตรันเวย์อวดโฉมเสื้อผ้าบนเวทีแฟชั่นวีคชั้นนำของประเทศจีน

โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำแฟชั่นโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรกในต่างประเทศ “หลังจากได้รับเชิญให้นำแบรนด์ไปร่วมโชว์บนเวทีเซินเจิ้นแฟชั่นวีค เราและทีมงานก็เริ่มทำการบ้านกันอย่างหนัก โดยสิ่งแรกเลยก็คือเสื้อผ้าที่จะนำไปโชว์ ต้องเป็นชุดที่สามารถนำเสนอความเป็นเดอะนิวโรแมนติก ซึ่งคือดีเอ็นเอหลักของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ต่อมาก็คือเรื่องของการทำโชว์ ซึ่งเราครีเอทไว้ว่าอยากจะทำแฟชั่นโชว์ให้มีมูฟเมนต์มากขึ้น และทำออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด เพราะเวทีนี้เป็นเวทีที่ค่อนข้างใหญ่ มีแบรนด์ดังจากทั่วโลกทั้งจากสิงคโปร์ อิตาลี และนิวยอร์ก เข้าร่วมทำโชว์กันมากมาย ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งแบรนด์ที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทย”

โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ประจำแบรนด์

การร่วมเดินแฟชั่นโชว์ครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำให้ลาบูทีคส์ (La Boutique) เป็นที่รู้จักในระดับสากลอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดีไซน์เนอร์ชาวไทย โดยไฮไลท์ของการทำโชว์ครั้งนี้ทางแบรนด์ได้เนรมิตรันเวย์ให้เป็นเสมือนพรมวิเศษสำหรับหญิงสาว ด้วยการโรยกลีบกุหลาบลงบนพื้น ซึ่งจะมีการปลิวเคลื่อนไหวทุกครั้งเมื่อนางแบบเดินผ่าน ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถสร้างอารมณ์ความรู้สึกและความเคลื่อนไหวให้กับรันเวย์ได้มากขึ้น รวมถึงการทำเครื่องประดับที่ใช้ในการทำโชว์ ทางแบรนด์ได้สรรสร้างแอคเซสเซอรี่ชิ้นพิเศษขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อครีเอทให้แต่ละลุคสมบูรณ์แบบ และสามารถสะกดทุกสายตาเมื่อดนตรีเริ่มบรรเลงและนางแบบคนแรกถูกปล่อยตัวออกมา

นอกจากนี้ โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ยังได้ร่วมเผยประสบการณ์และเทคนิคการทำงานกับต่างประเทศสู่ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ว่า “การเตรียมตัวและทำการบ้านไปให้พร้อมคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเวทีระดับสากล ทีมงานทุกคนจะต้องมีความเป็นอาชีพ และเขาทำงานกันเร็วมาก รวมถึงตัวเราก็เช่นกันที่จะต้องโฟกัสอยู่กับงานตลอดเวลา เราต้องรู้ทุกขั้นตอนของการทำโชว์และเตรียมเสื้อผ้า เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดก็ต้องรีบตัดสินใจและแก้ไขอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ควรรู้ก็คือเรื่องของวัฒนธรรม เราควรศึกษาวิธีการทำงานของแต่ละที่ เพราะเขาก็จะมีธรรมชาติการทำงานที่ต่างกัน อย่างการทำงานกับคนจีนภาษานับเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะโดยธรรมชาติของคนจีนเขาจะทำงานและทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ฉะนั้นหากเราสามารถเจรจากับเขาได้โดยตรง จะแสดงถึงความเข้าใจและความพึงพอใจซึ่งกันและกันได้ง่ายกว่า”

แน่นอนว่าลาบูทีคส์ (La Boutique) จะยังคงสร้างสรรค์อาภรณ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของหญิงสาวได้ทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล ซึ่งทางดีไซเนอร์ฝีมือเฉียบก็ยังได้แนะนำเคล็ดลับการครีเอทลุคให้อินเตอร์ได้ง่ายๆ ว่า “การจะแต่งตัวให้ดูอินเตอร์เราต้องสร้างจุดเด่นให้กับร่างกาย อาจจะเป็นเสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่มีดีไซน์แปลกตา หรือมีดีเทลที่เด่นชัด อาจจะเป็นชุดเดรสตัวยาวที่เพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยระบายรัฟเฟิลหลายชั้น ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้ชุดมีความโอเวอร์ไซส์มากขึ้น โดยอาจจะเอามาแมทช์กับหมวกปีกใบใหญ่ก็จะได้ลุคอินเตอร์ที่มีความเฟมินีนแฝงอยู่ หรืออาจจะเป็นชุดเดรสลายพิมพ์แมทช์กับรองเท้าบู๊ทยาวเท่ๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครชอบสไตล์บอยอิชหน่อยก็อาจจะเลือกชุดลายพิมพ์ที่เป็นแจ็คเก็ตกับกระโปรงสั้นเข้าชุดแล้วแมทช์กับเสื้อตัวในสีพื้นคอเต่า และเพิ่มความเก๋ด้วยหมวกเบเร่ต์ที่มีลวดลายเดียวกับชุด”

 

ลาบูทีคส์ บนรันเวย์ระดับโลก ในงาน Shenzhen fashion week 2018

 

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

ลาบูทีคส์

สัจธรรมชีวิต

เปิดตัวสาวเรตติ้งตก “เจมส์จิ” ไม่กลัว! มีสติมองเป็น สัจธรรมชีวิต

Alternative Textaccount_circle
สัจธรรมชีวิต
สัจธรรมชีวิต

 “เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข” ยอมเผยถึงเรื่องความรัก รับเริ่มคุยสาวมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ไม่กลัวเรตติ้งตกหลังออกมาเปิดใจ มองเป็นเรื่องปกติเพราะนี่คือ สัจธรรมชีวิต

สัจธรรมชีวิต

“เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข”

ทำแฟนคลับอกหักรวดเดียวเลย สำหรับบรรดาพระเอกดังของช่อง 3 ที่เปิดตัวสาวคนรู้ใจตามกันมาติดๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน พระเอกผิวเข้ม “เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์” เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่ามีสาวที่คุยด้วยแล้ว ล่าสุด “เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข” น้องชายสุดที่รักในวงการของหนุ่ม“เกรท”ก็ได้ออกมาประกาศตามรอยพระเอกรุ่นพี่ว่าตอนนี้เขาก็มีสาวที่คุยๆ กันอยู่แล้ว โดยพระเอกหนุ่มระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิด ทั้งยังเผยอีกด้วยว่าใครอยากสืบเชิญเลย

สัจธรรมชีวิต

แฮ็ปปี้ดูโอ้ เพราะกำลังอินเลิฟทั้งคู่

เห็นว่าตอนนี้กำลังมีสาวที่คุยอยู่ด้วย?

“ผมมีคนคุยครับแต่คือยังไม่ได้เปิดตัวหรือยังไม่ได้บอกอะไร คือผมก็ยังไม่ได้จะเปิดอะไรขนาดนั้น เนื่องจากเพิ่งจะคุยกันสักระยะ ผมโอเคนะครับ เราแค่บอกว่าเรามีคนคุย ถามว่ามั่นใจไหม ผมคิดว่าก็ต้องรอดูต่อไปครับตอนนี้มีคนคุยก็โอเคครับ”

พูดค้างๆ แบบนี้สาวๆ อาจไปตามสืบต่อก็ได้?

“ก็แล้วแต่ครับ แต่ถ้าเกิดเราใช้ชีวิตปกติของเรา มันก็น่าจะปกติแหละครับ คนที่คุยด้วยเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ คือก่อนหน้านี้เราก็มีบอกไว้ว่าจะบอกสื่อนะ เพราะเราก็ไม่ได้อยากปิดอะไร แต่เราแค่ไม่ได้บอกว่าเป็นใครเท่านั้นเอง เราแค่บอกว่ามีคนคุย ก็มีไปไหนมาไหนกันบ้างนะครับ ไปกินข้าวเป็นเรื่องปกติ”

สัจธรรมชีวิต

เวลาออกไปด้วยกันต้องปลอมตัวไหม?

“ผมก็ไม่ถึงกับต้องปลอมตัวอะไรนะครับ ไปแบบปกติที่ผมไปเลย”

ออกมาเปิดเผยแบบนี้ไม่กลัวกระแสแอนตี้หรือมีผลกระทบงานบ้างหรือ?

“มันก็เป็นเรื่องปกตินะครับหรือจะให้ผมปิด มันก็ไม่ได้อยู่ดี มันเป็นเรื่องสัจธรรมของมนุษย์อยู่แล้วที่จะมีคนที่ชอบ และมีคนที่ไม่ชอบ เท่านั้นเอง เราก็แค่ต้องเข้าใจครับ ถามว่ากลัวความดังจะลดลงไหมผมว่ามันก็โอเคแล้วนะครับ ในตอนนี้การทำงานของผม งานทุกชิ้นที่ผมทำ ผมก็อยากทำให้มันเป็นงานศิลปะครับ เราอยากจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด สำหรับคนที่ชื่นชอบได้ดูก็จะได้ความบันเทิงไป หรือจะได้ความรู้ ได้สาระ จากสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ผมว่าในจุดๆ นั้นผมโอเคกับตัวเองแล้ว”


ภาพจาก : @jirayu_jj และ แฟนคลับ

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล ใส่ต่างหูเพชรราคาหลักแสน เพื่อเข้าซ้อมพิธีเสกสมรส

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล เดินทางพร้อมเจ้าชายแฮร์รี่ เพื่อเข้าซ้อมพิธีเสกสมรสที่กำลังจะถึงในวันที่ 19 พ.ค. นี้ ซึ่งสาวเมแกนที่นั่งอยู่ในรถกลับโดดเด่นด้วยต่างหูเพชรคู่งามกระแทกตา ราคากว่า 7,000 ปอนด์

เมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล เดินทางไปยังเมืองบาร์กเชอร์ สถานที่ตั้งของพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อเข้าซ้อมพิธีเสกสมรสของทั้งคู่ โดยว่าที่เจ้าสาวอย่างเมแกนมาในชุดสีขาวดีไซน์แบบ Pussy-Bow และต่างหูเพชรสุดหรูที่เด่นเด้งออกมานอกรถจากแบรนด์ดัง Maison Birks ในรุ่น Snowstorm Diamond ที่มีทองคำขาวเป็นส่วนประกอบด้วย โดยราคาของต่างหูคู่งามนี้อยู่ที่ 7,000 ปอนด์ หรือราคาประมาณ 303,333 บาท แต่หากเทียบจากคุณภาพที่ดีและวิธีการอันแสนจะประณีตก็ถือว่าคุุ้มค่ากับราคา และถ้าสังเกตลุคที่ผ่านๆ มาของเธอจะทราบดีกว่าส่วนมากแล้วเมแกนมักจะเลือกใส่เครื่องประดับดีไซน์เล็กๆ น่ารักกำลังดี และนอกจากนี้แบรนด์เครื่องประดับลูกรักของเธอก็ยังรวมไปถึงแบรนด์ Missoma และ Zofia Day ด้วย

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล
เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล
Maison Birks Snowstorm Diamond

โดยก่อนหน้านี้สาวเมแกนก็ได้เลือกต่างหูรูปสโนว์เฟลกของ Maison Birks ในราคา 4,500 ปอนด์ หรือราคาประมาณ 195,000 บาท มาใส่ประดับลุคในวันคริสมาสต์เมื่อปีที่ผ่านมาเช่นกัน เพื่อเข้าร่วมพิธีทางศาสนาพร้อมกับพระบรมวงศานุวงศ์อังกฤษ และเมแกน มาร์เคิล ถือเป็นพระคู่หมั้นของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษคนแรกที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เข้าร่วมในพิธีนี้ ณ โบสถ์เซนต์ แมรี แม็กดาลีน ใกล้พระตำหนักซานดริงแฮม มณฑลนอร์ฟอล์ก

ลุคของเมแกนในวันคริสมาสต์ 2017
ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล
ต่างหูรูปสโนว์เฟลกของ Maison Birks

ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ล่าสุดที่เราได้เกริ่นไปในตอนแรก ถึงการเดินทางเพื่อเข้าซ้อมพิธีเสกสมรส ซึ่งระหว่างทางไปพระราชวังวินด์เซอร์ สาวเมแกนได้โบกมือขณะนั่งอยู่บนรถเพื่อทักทายประชาชนที่ยืนอยู่สองข้างทางอย่างเป็นมิตร และดูเหมือนว่านักแสดงสาวคนเดิมจะมีการตัดแต่งทรงผมก่อนงานแต่งงานของเธอจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้

 

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล ระหว่างเดินทางเพื่อเข้าซ้อมพิธีเสกสมรส

 

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล

ว่าที่เจ้าสาว เมแกน มาร์เคิล

สุดท้ายนี้หากจะพูดถึงเรื่องเครื่องประดับแล้ว เราก็ขอพูดถึงเครื่องประดับอีกหนึ่งชิ้นที่แสนจะสำคัญในพิธีเสกสมรส นั่นก็คือ เทียร่า เครื่องประดับสุดหรูอันล้ำค่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และยังเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละราชวงศ์ทั่วโลก ที่สำคัญคือเจ้าหญิงจากราชวงศ์ต่างๆ จะทรงสวมใส่เทียร่าในวันแต่งงานอีกด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าทางตระกูลสเปนเซอร์เสนอให้สาวเมแกนสวมใส่ Spencer tiara ในพิธีเสกมรสของเธอ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงไดอาน่า โดยเทียร่าเก่าแก่ของตระกูลสเปนเซอร์ เป็นเทียร่าที่ผู้หญิงในตระกูลใช้เป็นเทียร่าเจ้าสาวมาแล้วรุ่นต่อรุ่น ถึงแม้ว่าเทียร่าองค์นี้จะไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากราชวงศ์ แต่ก็มีความสำคัญและเป็นที่จดจำ เพราะเจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกเทียร่าองค์นี้ในวันอภิเษกสมรสกับเจ้าชายชาลส์ เมื่อปี 1981

เจ้าหญิงไดอาน่าทรงสวมสเปนเซอร์ เทียร่าในพิธีอภิเษกสมรส

แต่บางความเห็นก็มองว่าเมแกนจะมีเทียร่าของราชวงศ์วินด์เซอร์ที่เหมาะสมกับเธอแล้ว ขณะที่มงกุฎของสเปนเซอร์เป็นของครอบครัวสเปนเซอร์ จากความคิดเห็นนี้ สามารถสรุปได้ว่าเทียร่าที่สาวเมแกนจะสวมในพิธีเสกสมรสน่าจะเป็นของครอบครัววินด์เซอร์มากกว่ามงกุฎของสเปนเซอร์อย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสาวเมแกนจะสวมเทียร่าของตระกูลไหน ก็เชื่อว่าเธอจะเป็นเจ้าสาวที่งดงามอย่างแน่นอน


ที่มา : www.mirror.co.uk

ภาพ : www.maisonbirks.com , www.mirror.co.uk

 

‘สวยเลือกได้อีกแล้ว เลือกเด็กโลกสวยนะจ๊ะ ไม่ใช่ไก่กา แต่คือตัวจริง’ ดูดวงรายวัน 18 พฤษภาคม 2561

ดูดวงรายวัน 18 พฤษภาคม 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านอาจมีโอกาสได้เปลี่ยนงานในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทาย และมีการแข่งขันสูง ซึ่งเข้าทางท่านเลย แต่ระวังการตัดสินใจที่รวดเร็วขาดสติจะนำพาปัญหาและอุปสรรคตามมาโดยที่ท่านแก้ไขไม่ทัน

การเงิน : ระวังจะหมุนเงินผิดพลาด ไม่เหมาะกับการเสี่ยงใดๆ

ความรัก :  วันนี้ท่านให้ความรักความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่อาจมีปัญหาเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่ขึ้นลงอย่างสุดโต่ง ไม่สามารถควบคุมได้ คนโสด เจ้าชู้ เจ้าเสน่ห์ ระวังไปเจอความรักที่ต้องซ่อนเร้นไม่เปิดเผย

สุขภาพ :  ระวังปัญหาเรื่องหัวใจและสมองที่เป็นปัญหามาตลอด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  วันนี้หากท่านกำลังทำงานที่เกี่ยวกับศิลปะศิลปิน ความสวยงาม บันเทิง ดนตรี เจ้านายจะให้การส่งเสริมและสนับสนุนด้วยดี เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ จนถูกอิจฉาตาร้อน อย่าเผลอใช้อารมณ์ด้านลบตอบโต้จะยิ่งทำให้แย่ลง

การเงิน  :  ท่านหมุนเงินเก่งจนร่ำรวย ส่วนมากจะหมดไปกับการช่วยเหลือญาติสนิทมิตรสหาย คนใกล้ชิด

ความรัก : วันนี้ผู้หญิงมีภาวะผู้นำสูง ดูแลเศรษฐกิจครัวเรือน เพราะฉะนั้นจึงเชื่อมั่นในตัวสูงทำให้มีปากเสียงกัน จนผู้ใหญ่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง คนโสด สวยรวยเสน่ห์เลือกได้ ก็เลือกแบบชาวต่างชาติสูงวัยนะคะจึงจะถูกโฉลก

สุขภาพ : ระวังหกล้มหรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเอ็น โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  วันนี้เป็นวันแห่งความขัดแย้งของท่านค่ะ ท่านกำลังอยู่ในเกมการแข่งขัน ซึ่งเกมนี้ท่านต้องใช้ความรู้ความสามารถ ทักษะเฉพาะตัวสูงในการทำงาน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา จนมองข้ามความเห็นของเพื่อนร่วมงาน จึงหนีไม่พ้นถูกแค้นฝังหุ่นอีก เพราะฉะนั้นควรรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้างจะทำให้งานประสบความสำเร็จ

การเงิน :  ผันผวนไม่แน่นอน อาจได้รับรางวัลพิเศษตอบแทนการทำงาน

ความรัก : วันนี้ท่านมีความคิดที่ก้าวหน้าและทันสมัย รักศักดิ์ศรีและสิทธิสตรีดีเยี่ยม จึงมักหาเหตุผลมาโต้แย้งเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ รอบข้างอยู่เสมอ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งกันตลอด คนโสด ท่านอาจเปิดศึกหน้านางหรือหน้านาย เพื่อให้ได้คนที่ท่านหมายปอง โดยไม่สนใจว่าจะด้วยวิธีการเช่นไร

สุขภาพ  :  ไม่มีอะไรน่าห่วง ยกเว้นเรื่องความเครียด คิดมาก ย้ำคิดย้ำทำ จนอาจเป็นไมเกรนได้

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : วันนี้ไม่ลังเลแล้ว เพราะท่านมีธงมีเป้าหมายชัดเจน ที่จะโยกย้ายและเปลี่ยนแปลงงานในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทำใจหน่อยนะคะว่า ท่านต้องทำงานหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับ

การเงิน :  หาเงินเก่ง มีไหวพริบในการหาเงินทุกรูปแบบ แต่เก็บเงินไม่อยู่ จะหมดไปกับการเดินทางและเข้าสังคม

ความรัก  : ท่านให้ความรักความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นอย่างมาก ท่านรับภาระดูแลคนในบ้านเยอะ คงต้องเลือกเฉพาะที่จำเป็นแล้วละ เพราะหากท่านได้งานใหม่ งานจะหนักกว่าเดิม ท่านเองก็จะไม่ไหว คนโสด ทำตัวโดดเด่น หว่านเสน่ห์ไปก็เท่านั้น เพราะวันนี้เรื่องงานมาก่อน

สุขภาพ : ระวังหักโหมงานหนักจนร่างกายล้มป่วย อวัยวะที่ต้องระวัง ตั้งแต่ช่วงขาลงมา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  ท่านก็ยังอยู่กับงานที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหารายละเอียดตลอดเวลา ซึ่งท่านใช้ความรู้ความสามารถ พลังกาย พลังใจทำงานอย่างเต็มที่ ยิ่งวันนี้ท่านโชคดีได้ทีมงานคุณภาพที่จะช่วยให้งานผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

การเงิน :  โชคดีๆๆ ทุกคนร่วมมือกันทำงานจนมีเงินทองเข้ามา แต่ท่านอาจเสียเงินกับการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม

ความรัก  : ท่านอาจแต่งงานกันเพราะความเหมาะสมในทุกๆ ด้าน จนไม่ค่อยมีความสุขในชีวิตการแต่งงาน ระวังการจู้จี้จุกจิกมากเกินไปจะทำให้ยิ่งเพิ่มความเบื่อหน่ายมากขึ้น คนโสด แอบเจ้าชู้เหมือนกันนะคะ ก็ต้องลองผิดลองถูกนานเหมือนกันกว่าจะได้พบรักแท้

สุขภาพ :  ปัญหาในช่องคอ ตั้งแต่หลอดลม ทอลซิน จนถึงกระเพาะอาหารก็ยังมีอยู่นะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้ท่านโดดเด่นเรื่องการติดต่อประสานงาน จะเกี่ยวข้องกับงานศิลปะศิลปิน งานขีดเขียน บันเทิงเริงรมย์ ความสวยงาม จะได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับแวดวงราชการ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดี

การเงิน :  มีผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ ระวังจะหมดกับการซื้อเครื่องประดับราคาแพง และให้คนอื่นหยิบยืมเงิน

ความรัก :  วันนี้ท่านมีความสง่า มีอำนาจบารมีอยู่ในตัว เหมือนเป็นคุณนายข้าราชการระดับสูง ดูแลเศรษฐกิจในครัวเรือน ตรวจตราความเรียบร้อยต่างๆ เป็นอย่างดี คนโสด เจ้าชู้ เจ้าเสน่ห์มากมาย วันนี้เลือกเด็กโลกสวยนะคะ เพราะไม่ใช่ไก่กา แต่คือตัวจริงเลย

สุขภาพ :  นัดเดทบ่อยก็อย่างนี้ละ น้ำหนักขึ้นแล้วนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : วันนี้ท่านอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้าน และที่ดิน ซึ่งท่านต้องใช้ความรู้ความสามารถและทักษะเฉพาะตัวในการวิเคราะห์สถานที่ ควรเตรียมตัวให้ดี มีการวางแผนล่วงหน้า จะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาด

การเงิน :   มีเงินเข้าออกตลอดเวลา แต่ท่านก็ใช้ไม่เคยชนเดือน ต้องเดือดร้อนผู้ใหญ่ตลอดๆๆ

ความรัก :  วันนี้การมีชีวิตคู่ก็คือการช่วยกันทำมาหากิน ซึ่งบางทีอยู่กับการงานมากไปก็เครียดได้ วันศุกร์แล้วทิ้งทุกอย่างหาโปรแกรมไปเที่ยวกันบ้างดีกว่า จะได้เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง  คนโสด สเป๊คสูงค่ะท่าน แล้วก็คาดหวังด้วย ก็ต้องรอหน่อยนะ

สุขภาพ :  พกยาอม ยาดม ยาหม่องไปด้วยนะคะ อาจมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม

เมแกน

สำนักพระราชวังยืนยัน พ่อของ เมแกน จะไม่ทำหน้าที่พาบุตรสาวเดินเข้าโบสถ์

Alternative Textaccount_circle
เมแกน
เมแกน

สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ยืนยัน นายโธมัส มาร์เคิล บิดาของ เมแกน มาร์เคิล จะไม่ทำหน้าที่พาบุตรสาวเดินเข้าโบสถ์ในพิธีเสกสมรสกับ เจ้าชายแฮร์รี่ ด้วยปัญหาสุขภาพ

เมแกน

เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล 

หลังจากก่อนหน้านี้ นายโธมัส มาร์เคิล บิดาของ เมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้นของ เจ้าชายแฮร์รี่แห่งเวลส์ รัชทายาทอันดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ได้เปลี่ยนใจไปมาหลายครั้งในการร่วมพิธีเสกสมรส ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2561 สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ในกรุงลอนดอน ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “เป็นเรื่องเศร้า, พ่อของชั้นจะไม่เข้าร่วมการแต่งงาน ฉันแคร์ความรู้สึกของพ่อเสมอ และเขาจะโฟกัสกับสุขภาพของตัวเอง ฉันขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน โปรดรู้ไว้ว่าเจ้าชายแฮร์รี่และฉันอยากแชร์วันที่พิเศษกับคุณเสาร์นี้”

เมแกน

แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังเคนซิงตัน

อย่างไรก็ตามที่ กรุงลอนดอน ท้องถนน เต็มไปด้วยความชื่นมื่นและการเฉลิมฉลองของชาวอังกฤษ โดยถนนหลายสายต่างถูกปิดและประดับประดาด้วยสีสันสดใส ขณะที่พิธีเสกสมรสระบุว่า “ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในวันพิธี แต่เพราะว่านี่คือภารกิจการรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดของทีมตำรวจเธมส์วาลเล่ย์ จึงต้องมีการเรียกกองกำลังอื่นมาสมทบ และเนื่องจากเมื่อปีที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายขึ้น 4 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 36 ราย ทำให้ตอนนี้ระดับภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นบนเกาะอังกฤษถูกจัดให้อยู่ในระดับมีความอันตรายสูง อาจเกิดการโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายได้ทุกเมื่อ”

เมแกน

นายโธมัส มาร์เคิล บิดาของ เมแกน มาร์เคิล 

อย่างไรก็ตามมีการคาดไว้ว่าในวันเสาร์ ที่ 19 พ.ค. นี้ จะมีฝูงชนกว่า 1แสนคนมาร่วมงานที่บริเวณหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่จัดพระราชพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่แห่งเวลส์ และ เมแกน มาร์เคิล

แพงได้อีก! 10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง ดีไซน์เก๋ แพทเทิร์นดี วัสดุเป๊ะ

งานนี้อาจจะทำให้สาวๆ กรีดร้อง ในความแพงได้อีก ! ของ 10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง ซึ่งแต่ละชุดนั้นแพงหูฉี่ แต่พอเห็นดีไซน์ และวัสดุ เศรษฐีนีก็ต้องยอมใจ เพราะของเขาดีจริง ถึงราคาแพงแค่ไหนใจก็สู้ ที่สำคัญไม่ต้องไปถึงช็อป แค่คลิกเข้าเว็บ กดสั่ง จ่ายตังค์ ของก็มาเสิร์ฟถึงที่

การปรากฏตัวตามงานสำคัญต่างๆ ของดาราและเซเลบคนดัง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมีส่วนช่วยเรียกแสงแฟลช และดึงดูดทุกสายตาให้หันมามอง โดยเฉพาะงานสำคัญระดับโลก อย่างล่าสุด กับงาน Met Gala 2018 ที่ดาราและเซเลบชื่อดังต่างจัดเต็มเสื้อผ้า ใส่มาประชันกันสุดฤทธิ์ เหมือนได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองอย่างไร อย่างนั้น และแน่นอนชุดที่พวกเธอใส่ ก็ถูกนำมาจัดอันดับไว้ในเรื่อง…

แพงได้อีก ! 10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง ดีไซน์เก๋ แพทเทิร์นดี วัสดุเป๊ะ

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

เริ่มกันที่ อันดับ 10 Calvin Klein’s แบรนด์นี้คนไทยหลายคนพอได้ยินอาจจะคุ้นเคยและนึกถึงว่าเป็นชุดชั้นใน แต่อันที่จริง เสื้อผ้าเขาก็ทำนะยู และมีหลายสไตล์ด้วย อย่างเช่นโค้ทตัวนี้อาจจะดูฮาร์ดคอร์ไปหน่อยสำหรับสาวๆ แต่มองดูดีๆ ก็สวยนะเออ แมทช์กับรองเท้าในคอลเล็คชั่นเดียวกัน เป๊ะไปอีก สนนราคาโค้ทตัวนี้อยู่ที่ 6,940$ (222,080 บาท)

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง
Red Oversized Tie-Dye Corduroy ‘Blind for Love’ Jacket

อันดับ 9 GUCCI เอาไปครอบครอง ต้องยอมให้แบรนด์นี้จริงๆ เรื่องของราคา แต่อย่างว่า ทั้งดีไซน์ แพทเทิร์นและวัสดุเขามีคุณภาพจริงๆ สำหรับแจ็กเก็ตโอเวอร์ไซต์ตัวนี้ เหมาะกับสาวเท่ห์มีสไตล์ ใครอยากเปลี่ยนลุคให้ดูแปลกตา แจ็กเก็ตตัวนี้ช่วยท่านได้ กับราคาที่แสนจะประทับใจ เพียง 6,495$ (207,840 บาท) ถ้าสนก็คลิกเปลี่ยนลุคได้ที่ www.ssense.com

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

มากันที่ อันดับ 8 เดรสยาวจากแบรนด์ Valentino ผ้าที่นำมาใช้ตัดนั้นเป็นการผสมผสานของผ้าไหมและผ้าทูลล์ ทำให้เดรสมีความพริ้วไหวแต่ก็ยังอยู่ทรงในขณะเดียวกัน หากใครใจกล้าพอจะใส่แบบข้างในโนสรรพสิ่งก็ดูเซ็กซี่ น่าค้นหา หรือ ยังอายๆ จะใส่ชุดเดรสยาวแบบเรียบข้างใน ก็คอมพลีทลุคได้ดีเช่นกัน สาวคนไหนสนใจคลิกไปซื้อกันได้ที่ www.italist.com ราคา $19,253 (ุ616,096 บาท)

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง
Lily James บนพรมแดงในงาน Pride And Prejudice

อันดับ 7 ชุดราตรีผ้าทูลปักลายดอกไม้ทั้งตัวของ Alexander Mcqueen ชุดนี้ถูกใส่โดย Lily James นางเอกภาพยนตร์เรื่อง Cinderella โดยเธอใส่ชุดนี้เดินบนพรมแดงในงาน Pride And Prejudice เมื่อปี 2016 ใส่แล้วเหมือนซินเดอเรลล่า หลุดออกมานอกจอ เดินเฉิดฉายบนพรมแดงไม่มีผิด ด้วยสรีระและทรวดทรงองค์เอวของ Lily ทำให้ชุดนี้ดูสวยมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าคอลเล็คชั่นนี้จะเก่ามากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังตามหาซื้อได้ที่ www.yoox.com ราคาเบาๆ เพียง $20,298 (ุ649,536) แต่ได้ข่าวมาว่าเขาลดอยู่นะ ลองคลิกไปดูกัน

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

อันดับ 6 มาจากแบรนด์ GUCCI อีกแล้วนะจ๊ะ และยังเป็นคอลเลคชั่นเดียวกับชุดสีชมพูด้านบนอีกด้วย สำหรับคอลเลคชั่นนี้มาในคอนเซปต์ Hippie-Maximalists ย้อนยุคไปให้เห็นถึงภาพของความเป็นฮิปปี้และความรุ่งเรืองในยุคดิสโก้ ผสมผสานและตีความออกมาเป็นคอลเลคชั่นนี้ สลัดภาพความแข็งทื่อของกุชชี่ในสมัยก่อนได้อย่างไม่มีที่ติ เสื้อผ้าของกุชชี่ทั้งหมดในปัจจุบันจึงแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับแบรนด์อื่น อย่างเช่นเดรสยาวผ้าทูลอิตาลี ปักลวดลายมังกรและดาวเสาร์ชุดนี้ ที่ละเอียดเลอค่าด้วยตัวผ้าทูลสกรีนลายจุดกลิตเตอร์ทั้งตัว เพิ่มเติมด้วยดอกไม้ปักซึ่งเป็นลูกเล่นให้ชุดนี้ดูมีดีเทลมากขึ้นไปอีก ส่วนปลายแขนเสื้อหุ้มด้วยเฟอร์ขนมิงค์ สนนราคาชุดนี้อยู่ที่ 20,000$ (640,000 บาท) สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.mytheresa.com

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

โปรดอย่าเข้าใจผิด คิดว่าเป็นชุดคลุมอาบน้ำ ถึงแม้ว่าจะคล้ายคลึงก็ตาม เพราะ อันดับ 5 ตัวนี้ มาจากแบรนด์ Block Collection โค้ทเฟอร์ขนมิงค์เต็มตัว 100% สีพีชนู้ด ด้านในบุด้วยผ้าไหม แบบอาจจะใส่ยากไปสักนิด แต่ถ้าแมทช์ให้ดีแล้วล่ะก็ รับรองเกิดแน่นอน ส่วนราคาชุดคลุมอาบน้ำ อุ้ยไม่ใช่ โค้ทตัวนี้อยู่ที่  21,380$ (684,160 บาท) อาจจะโหดไปหน่อยแต่เทียบกับวัสดุที่นำมาใช้แล้วล่ะก็ ถือว่าไม่แพงนะจ๊ะ ไปจับจองกันเป็นเจ้าของได้ที่ www.matchesfashion.com

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง 10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

อีกหนึ่งชุดจากแบรนด์ GUCCI ที่คว้า อันดับ 4 ไปครอง ชุดราตรีผ้าพลีทชิฟฟ่อน สีชมพู เอาใจสาวหวาน ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากยุค 1940s  ดีเทลชุดมีความพิเศษเลอค่าคือ ใช้คริสตัลสวารอฟสกี้ปักทั้งตัว จึงทำให้ดูโดดเด่น และหรูหรา ราคาของชุดนี้ก็สวยหวานอีกเช่นกัน 25,000$ (800,000 บาท) สาวสายหวานมีกะตังค์บอกเลยชุดนี้เหมาะมาก เชิญไปตำกันได้ที่ www.net-a-porter.com

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง
งานละเอียดต้องยกให้แบรนด์นี้เขาล่ะ

อันดับ 3 เดรสคอรฺเซ็ทซีทรูปักมือทั้งชุด จากแบรนด์ Julien Macdonald แบรนด์โปรดของสาวๆ หลายคน เดรสตัวนี้มีความพิเศษคือปักเลื่อมและลูกปัดทั้งชุดบนผ้าไนลอนและผ้าไหม 100% อีกทั้งยังมีวัสดุอื่นๆ ที่ช่างบรรจงปักลงบนชุด เช่น แก้ว อลูมิเนียม และ พลาสติก เรียกได้ว่าเป็นงานปราณีตเบอร์ใหญ่ ส่วนราคาก็ใหญ่ละเอียดตามงาน 33,712 ดอลลาห์ (1,079,000 บาท) สาวๆ คนไหนกำลังหาชุดออกงานก็ไปฟาดกันได้ที่ www.luisaviaroma.com

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง
ไดแอน ครูเกอร์ ในงาน Met Gala 2018

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

อันดับ 2 ชุดราตรีสีฟ้าปักเลื่อมทรงบอลลูน ปล่อยชายยาว จากแบรนด์ Prabal Gurung  สำหรับชุดนี้ตัดขึ้นมาเพื่อ ไดแอน ครูเกอร์ นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง เพื่อใส่ไปงาน Met Gala 2018 ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทันทีที่เธอเดินเข้างานนั้นเรียกแสงแฟลชจากช่างภาพและสายตานับพันได้อย่างไม่มีที่ติ ความพิเศษของชุดนี้คือ ทั้งชุดทำมาจากผ้าซาตินและซิลค์ทาฟต้า 100% ปักเลื่อมด้วยช่างฝีมือชาวอินเดียมากกว่า 300 ชม. อลังการสวยงามตามท้องเรื่อง สำหรับราคาชุดอยู่ที่ 37,995 ดอลลาห์ (1,215,840 บาท) หากใครไม่ชอบสีฟ้า ก็ยังมีสีเหลืองและสีดำให้สั่งตัดได้อีกด้วย คลิกสั่งซื้อได้ที่ www.modaoperandi.com ราคาเบาๆ สวยๆ แบบนี้สาวไทยจ่ายได้สบายอยู่แล้วเนอะ

10 อันดับเสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง

เดินทางมาถึง อันดับ 1 กันแล้ว ปิดท้ายกันที่แบรนด์ GUCCI แจ๊คเก็ตเฟอร์ ปั้มโลโก้กุชชี่ทั้งตัว ทำจากขนมิงค์ 100% ด้านในบุด้วยผ้าไหม 100% เช่นเดียวกัน เสื้อผ้าแบรนด์นี้ใครใส่บอกเลยมองแว่บเดียวก็รู้ เพราะเขามีดีไซน์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร เป็นที่ถูกใจของเหล่าดารา เซเลบคนดังทั่วโลก ส่วนราคาตัวนี้ก็เบาๆ เพียง 38,000 ดอลลาห์ (1,216,000 บาท) ราคาน่ารักม้าก มาก หากใครสนใจสามารถไปสั่งซื้อได้ที่เว็บนี้นะจ๊ะ www.farfetch.com

เสร็จสิ้นแล้วทั้ง 10 อันดับ แต่ละชิ้นนั้นบอกเลยราคาได้ใจเดี๊ยนจริงๆ แต่ถ้าเทียบกับดีไซน์ แพทเทิร์น และวัสดุ ก็ต้องยอมให้ ฉะนั้นใครใคร่ซื้อก็จัดไปเลยจ้า ของมันต้องมี กิเลสก็เลยมา !

งดงาม เลอค่า! เผย Royal Wedding Dresses 16 ชุด ตั้งแต่อดีตจนถึงปี 2011

Royal Wedding Dresses ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ล้วนเต็มไปด้วยความประณีตงดงามและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังเช่นที่แพรวดอทคอมจะนำเสนอในวันนี้กับชุดเจ้าสาวทั้ง 16 ชุดของราชวงศ์อังกฤษ 

นับถอยหลังสู่งานพิธีเสกสมรสสุดยิ่งใหญ่อีกครั้งของราชวงศ์อังกฤษ ผู้คนนับพันๆ คนที่เดินไปตามถนนจะแสดงความยินดีกับเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล รวมทั้งอีกหลายล้านคนทั่วโลกจะชมถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์และออนไลน์

โดยว่าที่สะใภ้คนใหม่แห่งราชวงศ์อังกฤษอย่างสาวเมแกนก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากหลายฝ่าย ทั้งราชวงศ์และประชาชนชาวอังกฤษ ทำให้ชุดแต่งงานของเมแกนได้รับความสนใจไม่น้อย เรียกได้ว่าถูกจับตามองจากสื่อทั่วโลกเลยก็ว่าได้

เช่นเดียวกับพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทในปี 2011 ที่ผู้คนให้ความสนใจและเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก

ในขณะที่หลายคนรอดูว่าชุดแต่งงานของสาวเมแกนจะถูกออกแบบมาในดีไซน์ไหน ตอนนี้เรามาย้อนดูความงดงามของชุดแต่งงานแห่งราชวงศ์อังกฤษในช่วงหลายปีที่ผ่านมากันก่อนดีกว่า บางชุดย้อนกลับไปเป็นร้อยปีเลยล่ะ

 

ย้อนชม Royal Wedding Dresses ทั้ง 16 ชุด

จากลูกไม้ Honiton ไปจนถึง Orange Blossom ชุดแต่งงานของราชวงศ์อังกฤษในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้รวมเอาประเพณีมาผสานเข้าไว้ด้วยกัน แม้ว่าโลกของแฟชั่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

เมื่อเปรียบเทียบการแต่งงานของพระมหากษัตริย์จอร์จที่ 4 กับเจ้าหญิงมาเรียแห่งเท็ค (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีแมรี) เมื่อ 125 ปีที่แล้วในปี 1893 เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเงียบ ทั้งคู่แต่งงานกันที่โบสถ์ชาแนลรอยัล ณ พระราชวังเซนต์เจมส์ ซึ่งสามารถจุแขกได้ไม่เกิน 100 คนเท่านั้น

ในขณะที่การมีส่วนร่วมของประชาชนและการเฉลิมฉลองในงานแต่งงานของราชวงศ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ประเพณีหลายอย่างในงานแต่งงานของราชวงศ์ยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าจะแตกต่างกันเล็กน้อยจากงานแต่งที่ผ่านๆ มาบ้างก็ตาม

Royal Wedding Dresses
พระราชินีวิคตอเรีย

 

Royal Wedding Dresses
เจ้าหญิงวิคตอเรีย

 

เจ้าหญิงอลิซ

 

เจ้าหญิงเฮเลนา

 

เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก ซึ่งภายหลังคือ สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร

 

เจ้าหญิงลูอิส

 

เจ้าหญิงลูอิส มาร์กาเรต แห่งปรัสเซีย

 

เจ้าหญิงเฮเลนาแห่งวัลเด็คและไพร์มอนต์

 

เจ้าหญิงเบียทริซ

 

เจ้าหญิงมาเรียแห่งเท็ค

 

พระนางเอลิซาเบธ พระราชมารดา (Queen Elizabeth the Queen Mother) เป็นพระราชมารดาของสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2

 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

 

ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์

 

โซฟี เคาน์เตสแห่งเวสเซ็กส์

 

คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอล

 

เจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์

 


ภาพและที่มา : www.royal.uk

 

Pearypie

ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก Pearypie บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ สไตล์สร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร

Alternative Textaccount_circle
Pearypie
Pearypie

1.5 ล้านคือยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของ Pearypie หรือ “แพร – อมตา” บล็อกเกอร์คนสวยสายบิวตี้ หากใครเป็นแฟนไอจีของเธอจะพบว่า ที่นี่เป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ ทั้งภาพสวยๆ สีสันสดใส บิวตี้ไอเท็มชิ้นใหม่ เมคอัพไอเดียเริ่ด การเดินทางสุดชิค และสไตล์แต่งตัวเก๋ๆ จะว่าไป…ไม่ว่าแพรี่พายหยิบจับอะไร ก็ดูเหมือนสิ่งนั้นจะดีงามกว่าที่เคยเป็น

ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรัก Pearypie บิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ สไตล์สร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร

ชอบคือ “ใช่”

“แพรทำตรงนี้มา 7 ปีแล้ว โดยเริ่มจากการค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร สิ่งหนึ่งที่ถูกปลูกฝังมาตลอดจากการเรียนที่ Central Saint Martins College of Art and Design คือ การมองหาแรงบันดาลใจและการค้นคว้า ทดลอง เพื่อดูว่าสิ่งไหนเวิร์คหรือไม่เวิร์ค แล้วค่อยนำมาพัฒนาต่อจนกลายเป็นผลงานไฟนอล เช่นเดียวกับการแต่งหน้าที่มีหลายแบบ แพรใช้วิธีลองทำมาเรื่อยๆ ว่าเราชอบแบบไหน ทั้งบอดี้เพ้นท์ สายแฟชั่น ทำแบ็คสเตจ ฯลฯ จากนั้นนำสิ่งที่เราชอบและความรู้ที่ได้มาผสมผสาน แล้วแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ว่า ฉันต้องเป็นบล็อกเกอร์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย แค่รู้สึกว่า รู้อะไรใหม่ๆ มาก็อยากเล่าต่อ เช่น พบวิธีเขียนคิ้วแบบนี้ หรือกรีดอายไลเนอร์แบบนั้น คือเราสนุกที่ได้ทำ ซึ่งปรากฏว่าคนชอบ”

ใช่แล้วต้องแตกต่าง

“ขณะเดียวกันเราทำเพราะชอบหรือสนุกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปเพื่อให้แตกต่างจากคนอื่น เช่น สองปีที่แล้วแพรทำวิดีโอสอนแต่งหน้าช่วงหน้าร้อน โดยใช้กิมมิกสนุกๆ อย่างการนำผลไม้เย็นๆ หรือของรอบตัวมาผสมผสาน เช่น การนำเมล็ดแตงโมมาแปะหน้าเก๋ๆ หรือนำเส้นทาโร่ถักเป็นผมเปีย ซึ่งข้อดีของโซเชียลมีเดียคือ สามารถเชื่อมต่อกับคนทั่วโลก พอมีคนเห็นแล้วสนใจ ติดต่อให้ไปงานนั้นงานนี้ ทำให้แพรได้เดินทางไปงานใหญ่ๆ อย่างงานแฟชั่นวีคที่ต่างประเทศ หรืองานเปิดตัวสินค้าใหม่จากแบรนด์ดัง ช่วยต่อยอดให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ

“ขณะเดียวกันแพรและคนในโลกออนไลน์อื่นๆ ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น จากเดิมที่อยู่แต่ในโลกออนไลน์ ก็กลายมาเป็น Influencer ที่มีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ซึ่งกว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ อย่างแรกคือ แพรต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากให้ใครตีมูลค่าตัวเราได้ จึงไม่เคยหยิบจับสินค้าไหนโดยพูดตามสคริปต์ที่ให้มา การรีวิวเครื่องสำอางหรืออะไรก็ตาม แพรจะศึกษาและทดลองใช้จริง และพูดจากความคิดเรา เพื่อให้ทุกคนรู้ว่านี่คือ ฉันนะ

“และแพรยอมเสียเวลาทำวิดีโอบางตัวนานเป็นเดือนเพื่อให้ออกมาดีที่สุด ยอมซื้อไฟถ่ายทำดีๆ ราคาเป็นล้านเพราะต้องใช้ไปอีกนาน หรือลงทุนหาความรู้ให้สมอง อ่านหนังสือให้เยอะ เรียนภาษาให้มากขึ้น แพรว่าการเติบโตของทุกอย่างต้องใช้เวลา จะทำอะไรก็ตาม เราต้อง Master the basic คือเชี่ยวชาญในสิ่งที่ทำ เพื่อให้พื้นฐานแข็งแรง แล้วมันจะต่อยอดทุกอย่างไปเอง

“สุดท้ายคือ เราต้องอยากเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องทำตัวเองให้มีไฟอยู่เสมอ แพรไม่ชอบอยู่นิ่งอยู่แล้ว อยากเดินทางไปทั่วโลก อยากทำโน่นทำนี่ อยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา จึงมักพาตัวเองไปทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำเสมอ เช่น ไปเรียนชงชา เล่นไทชิ ตีปิงปอง ชกมวย ซึ่งการได้ทำอะไรใหม่ๆ ช่วยนำเราไปสู่แรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่างที่หันมาใส่ผ้าไทยเพราะได้รับเชิญให้ไปสอนนักเรียนที่ขอนแก่น เห็นผ้าไทยและวิธีการทำผ้าชนิดต่างๆ รู้สึกประทับใจ จึงลองนำผ้าไทยตัดเป็นเสื้อผ้าสไตล์เรา ทั้งกางเกงแบ็กกี้ ชุดหมี ชุดเอี๊ยม ฯลฯ กลายเป็นว่ามีคนไทยและต่างชาติถามเยอะมาก เรายิ่งรู้สึกดีใจที่ทำให้คนเห็นคุณค่าตรงนี้ เป็นตัวจุดประกายให้เราอยากทำเพื่อสังคมมากขึ้น”

แตกต่างเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

“แม้แพรจะเริ่มต้นจากเรื่องเมคอัพ แต่พอโตขึ้น ความคิดแพรก็เปลี่ยนไป ช่วงหนึ่งแพรเคยอยากมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่มีก็ดี ไม่มีภาระ (ยิ้ม) คือแพรมองว่าตัวเองเกิดมาเพื่อที่จะ ‘ครีเอท’ และ ‘อินสไปร์’ มากกว่า

“ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าหรือการแต่งตัว ด้วยผ้าไทยในสไตล์แพร ทั้งหมดนี้คือการสร้างสรรค์และส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านตัวเรา แพรยังคงอยากทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป และสร้างเรื่องราวใหม่ๆ เพื่อส่งต่อไปให้คนอื่น รวมทั้งทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อช่วยเหลือชุมชน แพรอยากทำตัวเองให้ดีขึ้น เพราะยิ่งมียอดคนฟอลโลว์เยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากทำให้พื้นที่ของเราสร้างประโยชน์ให้ประเทศและโลกของเรามากขึ้น

“แต่ที่แน่ๆ สไตล์แพรี่พายต้องสร้างสรรค์ ไม่เหมือนใคร”


เรื่อง : นิตยสารแพรว ฉบับ 927 คอลัมน์ SPECIAL SCOOP หน้า 120 – 121
ภาพ IG : pearypie และ Pearypie Studio and The OfficeHappy Hours

แสงไหนก็ไม่หวั่น! JUV Superfruit Skincare ไอเท็ม 2 in 1 ปกป้องทุกรังสี พร้อมบำรุงผิวด้วยพลังของสุดยอดผลไม้

เป็นที่รู้กันดีว่าแสงแดดเมืองไทยนั้นร้อนและร้ายยิ่งกว่ามนต์กฤษณะกาลี นอกจากนี้ยังมีรังสีอื่นๆ ที่เป็นศัตรูตัวร้ายบ่อนทำลายผิวสวยๆ ของเราอีก ใกล้ตัวที่สุดก็เห็นจะเป็นแสงสีฟ้าจากหน้าจอสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ที่ต้องพบเจอเป็นประจำ ซึ่งบอกเลยว่าถ้าไม่ปกป้องผิวให้ดี มีหวังคงพังไม่เป็นท่าแน่

แล้วจะดีต่อผิวดีต่อใจสาวๆ กว่าไหม ถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีต่างๆ ได้อยู่หมัด และช่วยบำรุงผิวด้วยในคราวเดียวกัน อย่าง JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ (จุ๊ฟ ซูเปอร์ฟรุต สกินแคร์ วอเตอร์ เจล ยูวี โพรเทคชั่น เอสพีเอฟ 50 พีเอ +++) ไอเท็ม 2 in 1 ซึ่งจะทำให้การปกป้องและดูแลผิวไปพร้อมๆ กันเป็นเรื่องง่ายขึ้น

JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดประสิทธิภาพสูงที่ช่วยปกป้องผิวจากทุกแสงและรังสีได้สูงสุดถึง 5 เท่า ได้แก่ ปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าของหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปกป้องผิวจากคลื่นความร้อนสูง และปกป้องผิวจากมลภาวะ ที่สำคัญยังเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่รวมเทคโนโลยีแบบ Physical Sunscreen และ Chemical Sunscreen เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งทำหน้าที่ทั้งสะท้อนและดูดซับพลังงานแสง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดดมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังผ่านกระบวนการ Encapsulated ให้มีขนาดเล็กเพียง 1 ไมครอน ทำให้การกันแดดมีความเสถียรมากขึ้น สามารถปกคลุมผิวได้ดี ครอบคลุม UVC UVB UVA ปกป้องผิวตั้งแต่ช่วงคลื่น 250-400 นาโนเมตร รวมถึงปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่นละอองขนาดเล็ก

อีกหนึ่งคุณค่าของ JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ ที่เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์กันแดด คือช่วยบำรุงผิวด้วยพลังของสุดยอดผลไม้ หรือ Superfruits ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ กีวี แครอท โกจิเบอร์รี่ ใบชาเขียว และว่านหางจระเข้ ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านเทคโนโลยีการเก็บรักษาและคงคุณค่าของเซลล์สารสกัดธรรมชาติไว้เหมือนพืชสดๆ ทำให้สารบำรุงและวิตามินจากธรรมชาติอยู่ครบถ้วน และเข้าบำรุงผิวได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบความเหนอะหนะของครีมกันแดดทั่วไป ต้องหลงรัก JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ แน่นอน เพราะตัวนี้สามารถใช้ได้ทุกวัน มีเนื้อสัมผัสที่เบาสบาย ผ่านการทดสอบความปลอดภัยว่าไม่อุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวหายใจได้ อีกทั้งยังผ่านการทดสอบแล้วว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่าย เนื่องจากไร้ 10 สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความมัน และกันน้ำกันเหงื่อได้อีกด้วย

อีกหนึ่งความเริ่ดของ JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ คือบรรจุมาในขวดปั๊มสุญญากาศ ซึ่งเนื้อครีมจะไม่สัมผัสกับอากาศและแสงเลย ทำให้ช่วยรักษาคุณภาพของเนื้อครีมได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดการปนเปื้อนจากฝุ่นละอองหรือเชื้อโรค และสุดท้ายคือสาวๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างคุ้มค่าจนหยดสุดท้าย โดยที่ไม่ต้องเปิดฝาหรือพยายามบีบเลย ทั้งนี้ในการใช้ครั้งแรกอาจปั๊มเนื้อครีมออกมาได้ยาก สาวๆ ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นเรื่องปกติของขวดปั๊มสุญญากาศ เพียงแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการถือขวดปั๊มในลักษณะหัวชี้ลง สะบัดขวดหลายๆ ครั้ง เพื่อให้เนื้อครีมไหลลงไปแตะคอปั๊ม จากนั้นลองกดปั๊มเร็วๆ ติดกันจนกว่าจะออก

สำหรับสาวๆ ที่สนใจสามารถหาซื้อ JUV Superfruit Skincare : Water-Gel UV Protection SPF50 PA+++ ได้ที่ร้าน ALL ABOUT YOU ทุกสาขา ในราคา 890 บาท แล้วจะพบว่าแสงไหนๆ ก็ทำร้ายผิวสวยๆ ของเราไม่ได้ ถ้าปกป้องด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดประสิทธิภาพเยี่ยมขนาดนี้

ปลา-ปริม

ลูกสาวบ้านนี้สวย! ปลา-ปริม 2 สาวต่างสไตล์แห่ง Miss Grand และ The Face

ปลา-ปริม
ปลา-ปริม

2 สาวต่างสไตล์ ปลา-ปริม แห่ง Miss Grand และ The Face

เดินสายประกวดตามเวทีต่างๆ จนตอนนี้คุ้นหน้าคุ้นตาแฟนๆ กันอย่างดี สำหรับสองสาวพี่น้อง ปลา-ปริม ที่ไม่ว่าจะโพสต์ท่า หันข้าง หรือถ่ายรูปแบบไหน เรื่องหน้าตาสวยคม รูปร่างเฟิร์มเป๊ะนั้นก็โดดเด่น กินขาดไม่มีมุมดับเลยจริงๆ

ไม่รู้ว่าพ่อแม่บ้านนี้จะหวงลูกสาวมากขนาดไหน เพราะมีลูกสาว 2 คนทั้งที ก็สวย เก่งแพ็คคู่ แถมทั้งสองยังมีเวทีประกวดการันตีความสามารถไปอีก สำหรับใครที่ติดตามรายการ The Face Thailand 4 All-Stars ที่ผ่านมา เชื่อว่ารอบสุดท้ายนั้นมีเสียงเชียร์และฐานแฟนคลับส่งกำลังให้ ปริม The Face หรือ ปริม-กนกวรรณ หลอดสันเทียะ ให้คว้าแชมป์จำนวนไม่น้อย และถึงแม้สาวปริมจะพลาดแชมป์ครั้งนี้ แต่ก็เชื่อว่าเธอคว้าใจคนดูไปอย่างท่วมท้น รวมถึงยังชนะใจครอบครัวที่มีทั้ง คุณพ่อ คุณแม่ และพี่สาวอย่าง ปลา-ปรภัสสร สาวสวยเจ้าของตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2014 ที่มาเชียร์เกาะติดขอบเวทีด้วย

ปลา-ปริม
ครอบครัวหลอดสันเทียะ

โดยการมาปรากฏตัวครบทีมครอบครัวของสาวปริมครั้งนี้ ก็ทำให้แฟนๆ ไม่น้อยถึงกับร้องว้าว เซอร์ไพร้ส์ เพราะเพิ่งมาทราบว่า ปริมมีพี่สาวที่สวยมาก และพี่สาวก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เพราะมีดีกรีเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ปี 2014 แถมยังเคยเดินสายประกวดเวทีนางแบบ นางงามชื่อดังอื่นๆ อีกมากด้วย ไม่ว่าจะเป็น เวทีไทยซุปเปอร์โมเดล 2009 (เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย), มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2011 (เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย และรางวัลขวัญใจช่างภาพ), มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2014 (คว้ารางวัลชนะเลิศ และรางวัลพิเศษขวัญใจช่างภาพ), มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2014 (เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย และรางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม) และมิสซูปราเนชันแนล 2014 (รองชนะเลิศอันดับ 1)

ปลา-ปริม
ปลา-ปรภัสสร มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2014
ปลา-ปริม
พี่น้องร่วมเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์
ปลา-ปริม
คอยอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจกันเสมอ

เห็นพี่สาวมากประสบการณ์แบบนี้ ทางด้านสาวปริมก็มีไม่แพ้กันนะ เพราะก่อนจะมาเวที The Face Thailand ปริมเป็นนางแบบอิสระ และติด 10 คนสุดท้ายเวที Miss Grand Thailand 2016 โดยปริมเป็นตัวแทนมิสแกรนด์ชัยภูมิ ประจำปี 2016 ซึ่งทั้งสองพี่น้องก็สนใจศึกษาคณะนิเทศศาสตร์เหมือนกันด้วย

เห็นเดินสายประกวด เรียนเหมือนกัน ชอบอะไรคล้ายกันแบบนี้ แต่ถ้ามองเรื่องสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคนแล้ว ปลา-ปริม ก็มีสไตล์ที่ต่างกันนะ โดยสาวปลาจะมาแนวเป็นสาวผมยาว สวย เซ็กซี่ ส่วนสาวปริมเป็นสาวผมสั้น ลุคสวย เท่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า แม้จะเป็นพี่น้องต่างสไตล์กัน แต่ก็ลงตัวเข้ากันไม่น้อย และแพรวดอทคอมก็ไม่พลาด นำภาพของสองสาวมาเทียบให้แฟนๆ ได้ดู แต่ละช็อตบอกเลยว่า น่าเลิฟสุดๆ

ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม ปลา-ปริม

 

ลูกสาวบ้านนี้สวยมาก ว่ามะ?! อิอิ

 


ภาพ: IG @porra_pla @koraprim

keyboard_arrow_up