ธีมงานแต่ง Game of Thrones, Game of Love

account_circle

ปล่อยทีเซอร์พร้อมเดือนฉายออกมาแล้วสำหรับ Game of Thrones ซีซั่น 8 ซึ่งจะเป็นซีซั่นสุดท้ายสำหรับ ใครที่ลุ้นว่าใครจะได้ขึ้นครองบังลังก์เหล็กก็ซีซั่นนี้แล้ว แต่เราเว็บไซต์แต่งงาน ก็ขอพาทุกท่านไปครองบัลลังค์รักดีกว่า ด้วยไอเดีย ธีมงานแต่ง Game of Thrones, Game of Love

ชุดแต่งงาน

ธีมงานแต่ง

ชุดแต่งงานในธีม Game of Thrones เป็นชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงยุคกลางของประเทศอังกฤษ ดังนั้นชุดจึงมีความเทพนิยาย ความอลังการ และดูสง่างาม ไอเท็มหลักของชุดเจ้าสาวคงหนีไม่พ้นการใช้ผ้าผืนบางเบา หรือจะเป็นชายชุดที่ลากยาว ในขณะที่ผู้ชายผ้าคลุมไหล่เท่ๆ หรือเสื้อสูทตัวยาว หรือถ้าเคอะเขิน จะเหลือแค่เข็มกลัดมือขวาสักอัน ก็โอเคแล้ว

 

สถานที่

การจัดตาม ธีมงานแต่ง Game of Thrones มีทางเลือกเรื่องสถานที่ได้หลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้งในสวน ที่มีต้นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นสถานที่ที่ได้บรรยากาศแบบวังในยุคกลาง ที่เน้นการตกแต่งอลังการ โครงสร้างเป็นหิน ซึ่งเดี๋ยวนี้ในเมืองไทยมีสตูดิโอหลายแห่งที่ตกแต่งในสไตล์ หรือจะเป็นการจัดงานแต่งในห้องบอลรูมตกแต่งด้วยสีขาว สไตล์ Winter is Coming ก็ได้  และให้ดีควรได้จัดงานแบบ ซิทดาวน์ดินเนอร์เพื่อยิ่งให้อินกับบรรยากาศของซีรีย์เรื่องนี้

เค้ก

สำหรับเค้กแต่งงานในธีมแบบนี้ ความหรูหราอลังการจำเป็นต้องมา สีทองคือสีที่ขาดไม่ได้ แล้วคราวนี้ก็แล้วแต่ว่าคู่บ่าวสาวจะหยิบส่วนไหนมาเป็นกิมมิค ไม่ว่าจะเป็น มังกร ดาบ หรือตัวบัลลังก์

 

การ์ดแต่งงาน

การ์ดแต่งงานสามารถทำได้ถึง 2 สไตล์ ทั้งแบบหรูหรา อู้ฟ่า เน้นสีทอง มีความเป็นการ์ดแต่งงานแบบชาว King’s Landing ที่เน้นความหรูหรา ด้วยสีทอง และครั่ง หรือจะเป็นแบบชาวอาณาจักรอื่นๆ ก็อาจใช้เพียงกระดาษสีน้ำตาลเท่านั้นเอง เอาเป็นว่า ชอบแบบไหนเลือกได้เลย

กิมมิค

กิมมิคในงานแต่งธีมนี้มีได้มากมายเลยทีเดียว แถมใช้ได้ทั้งเป็นของตกแต่งในงาน และของชำร่วย เริ่มต้นที่ เข็มกลัด The Hand of King pin ไข่มังกร ดาบ ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลต่างๆ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่แสนซื่อสัตว์อย่างพวกไดร์วูลฟ์

หากบ่าวสาวคู่ไหนยังนึกไม่ออกว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร เรามีภาพจากงานจริงของบ่าวสาวมาฝากด้วยนะ คลิกเลย ส่วนครั้งหน้าจะเป็นธีมงานแต่งแบบไหนต้องมาดูกัน

ภาพ Pinterest

เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรรู้ไว้ ปรนนิบัติผิว อย่างไรให้ชุ่มชื่นสดใสรับลมหนาว

account_circle

ใกล้หน้าหนาวแล้ว ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะจัดงานในช่วงนี้คงต้อง ปรนนิบัติผิว กันเป็นพิเศษ หรือคู่รักที่ต้องการแพ็คกระเป๋าไปฮันนีมูนรับลมหนาวก็เช่นกัน นอกจากการเตรียมชุดสวยๆและอบอุ่นป้องกันความหนาวแล้วอย่าลืมเตรียมผิวรับมือกับลมหนาวกันด้วยละ

แพรว wedding มีคำแนะนำในการ ปรนนิบัติผิว จาก คุณหมอนีน่า – พญ. ชุติมา อัศวอารี (Medical Director , CEO The Medici Aesthetic and Anti-aging Clinic) มาฝากกันค่ะ

พญ.ชุติมา

“เพราะอากาศหนาวมาพร้อมกับอากาศที่แห้ง ทำให้ผิวแห้งเสียความชุ่มชื้น ผิวแตกเป็นขุยแต่งหน้ายากและระคายเคืองง่ายเข้าไปอีกหมอมีเทคนิคง่ายๆในการดูแลผิวให้สวยรับลมหนาวมาฝากกันคะ”

ปรนนิบัติผิว

  • ปกป้องผิวจากแสงแดด

“ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวแต่อย่าลืมว่าพระอาทิตย์ยังยังคงส่องแสงตลอดทุกวัน ยิ่งถ้าทำกิจกรรมกลางแจ้ง หิมะหรือน้ำแข็งต่างๆเป็นตัวสะท้อนแสงแดดได้เป็นอย่างดี และสามารถทำให้ผิวไหม้ได้เหมือนแดดหน้าร้อนริมทะเลแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ดังนั้นครีมกันแดดที่มีSPF มากกว่า30และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ zinc oxide หรือ titanium dioxide เพื่อปกป้องผิวยังคงเป็นไอแทมจำเป็นของหน้าหนาวอยู่นะคะ”

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

“ในหน้าหนาวการอาบน้ำอุ่นอาจช่วยให้ผ่อนคลายแต่น้ำร้อนจะชะล้างไขมันบนผิวทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นและกระตุ้นการเกิดเม็ดสีหรือฝ้ากระบนใบหน้าได้ ถ้าจำเป็นควรใช้น้ำอุ่นแทนน้ำร้อนใช้เวลาอาบน้ำให้สั้นที่สุดและรีบทาครีมให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการเสียความชุ่มชื้นจากผิว”

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ

“ในช่วงหน้าหนาวเรามักจะดื่มน้ำน้อยกว่าปกติโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่รู้สึกร้อนหรือเสียเหงื่อมากนัก แต่อย่าลืมว่าน้ำสำคัญกับผิวนุ่มชุ่มชื้น ควรจิบน้ำอุ่นบ่อยๆแทนชา กาแฟและเครื่องดื่ม alcohol ที่จะทำให้เพิ่มการขับน้ำออกทางปัสสาวะ”

  • เติมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก

“การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำมากๆ จะช่วยบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก เช่นแตงกวา ส้ม กีวี มะเขือเทศ อาหารเหล่านี้ยังมีสารอาหารบำรุงผิว เช่นวิตามินชี zinc ช่วยในการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอีกด้วย การเพิ่มอาหารที่ให้ไขมันดีช่วยเพิ่ม skin protection barrier เช่น avocado, almond, walnut.”

  • ในช่วงนี้การบำรุงผิวด้วย skin care ปกติ อาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะ ผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือ ผิวที่ขาดการดูแลเป็นระยะเวลายาวนาน ควรดูแลเพิ่มเติมจากปกติเช่นทรีทเม้นท์บำรุงผิว หรือ การผลักวิตามิน 1-2 ครั้ง/สัปดาห์

ปรนนิบัติผิว

  • สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย และมีปัญหาผิวหลายอย่าง ตั้งแต่ ผิวขาดน้ำ ริ้วรอย ผิวระคายเคืองง่าย ตอนนีมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมมากในหมู่ดารา Hollywood รวมถึงสาวๆญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นการบำรุงถึงระดับ DNA ด้วยโปรแกรม Innoglitter skin booster
  • Innoglitter skin booster เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่มีส่วนผสมของ PDRN ที่ให้การบำรุงถึง DNA ร่วมกับ hyarolonic acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และ วิตามินกว่า 50 ชนิด รวมถึง growth factor หรืออาหารผิวและ coenzyme ช่วยเร่งการฟื้นฟูและสร้างผิวใหม่ ดูแลในทุกปัญหาผิว เห็นการเปลี่ยนแปลงและผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ได้ตั้งแต่ครั้งแรก ช่วยเรื่องจุดด่างดำและริ้วรอยลงอย่างชัดเจนหลังทำ 3-5 ครั้ง
  • เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย โดย ควรรับการดูแล 1-2 ครั้ง/เดือน ใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้น เดือนละ 1 ครั่ง เพื่อการดูแลต่อเนื่อง
  • PDRN ย่อมาจาก polydeoxyribonucleotide เป็นสารสกัดจาก DNA มีคุณสมบัติ ลดการอักเสบและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ จึงกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เป็นอย่างดี เมื่อฉีดเข้าไปที่ผิว ผิวก็จะไดรับการซ่อมแซมฟื้นฟูอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวตามธรรมชาติลึกถึงระดับ DNA เมื่อนำมารักษาผิว จึงได้ผลดีและมีความปลอดภัยสูง เพราะ PDRN เป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ฟื้นฟูผิวหน้าได้ดีเยี่ยม

ปรนนิบัติผิวเจ้าสาว

The Medici clinic

208B ชั้น 2 ศูนย์การค้า K village สุขุมวิท 26

โทร.: 0926455542 026615006

เฟซบุ๊ก : The Medici clinic

ไอจี : themediciclinic

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

ช้างคู่แผ่นดิน

เปิดตัวชุดจริง เวทีจักรวาล! ช้างคู่แผ่นดิน Chang The Icon Of Siam

Alternative Textaccount_circle
ช้างคู่แผ่นดิน
ช้างคู่แผ่นดิน

ซูมความสวยของชุดจริง ช้างคู่แผ่นดิน Chang The Icon Of Siam ชุดประจำชาติไทย บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ของ “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” 

Chang The Icon Of Siam

หลังจากนายธีร์ ผาสุก เจ้าของผลงาน ช้างคู่แผ่นดิน Chang The Icon Of Siam ชนะเลิศการออกแบบชุดประจำชาติ ที่จะให้ตัวแทนสาวไทย “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” สวมใส่สู้ศึกการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ล่าสุดชุดที่ใช้เวลาทำมานานกว่า 1 เดือน ก็พร้อมให้แฟนๆ ทั่วประเทศได้เห็นชุดจริงกันแล้ว โดยเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ท่ามกลางแฟนนางามที่มาลุ้นอย่างติดขอบเวที

โดยผลงานชุดช้างคู่แผ่นดิน ผู้ออกแบบได้อธิบายถึงผลงานนี้ไว้ว่า ช้างคือความเป็นไทยวัฒนธรรมอารยธรรม และวิถีของคนไทยช้างผูกพันกับคนไทยมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยในอดีตช้างได้ร่วมการสร้างชาติกู้บ้านกู้เมือง ไม่ว่ายามสุขหรือยามสงบ จวบจนถึงปัจจุบันช้างยังคงอยู่ในวิถีของชาวไทย อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของคนไทยเมื่อทุกคนนึกถึงสัตว์ประจำชาติไทยก็จะนึก ถึงช้างเป็นอย่างแรกไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติก็ตามที่สำคัญเรายังใช้ช้างเป็นทูตวัฒนธรรมในการเจริญสัมพันธไมตรี ระหว่างประเทศอีกด้วยดังนั้นจึงนำแรงบันดาลใจจากช้างมาสร้างสรรค์ชุดประจำชาติไทยในรูปแบบใหม่ที่มีความร่วมสมัยแต่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นไทยเปรียบเสมือนกับผู้หญิงไทยที่มีความแข็งแกร่งสวยงามอ่อนโยนและทันสมัย จึงนำโครงสร้างของช้างมาเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างสรรค์ ชุดช้างคู่แผ่นดิน โดยผสมผสานความเป็นไทยและความเป็นสากลเข้าด้วยกันโดยใช้โครงเสื้อแบบชุดไทยพระราชนิยมผสมผสานเทคนิคการปักลายไทยแบบสองมิติและเทคนิคทรานส์ฟอร์เมอร์จากชุดหนึ่งเป็นอีกชุดหนึ่ง อีกทั้งนำเทคนิคแสงสีเสียงมาเป็นส่วนประกอบของชุดอีกด้วย

ทั้งนี้ในส่วนของดีเทลชุดประจำชาติ มีองค์ประกอบชุดเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 “ชุดไทยประยุกต์” ออกแบบชุดขึ้นใหม่โดยดัดแปลงจากชุดไทยพระราชนิยมโดยใช้ผ้าไหม เพิ่มความ ทันสมัยด้วยชายผ้า ฟอร์มไหล่ยกสูงมาจากชุดไทยพระราชนิยมมาประยุกต์โดยอิงโครงสร้างมาจากหน้าช้าง ส่วนลายผ้าดัดแปลงจากลายประจำยามและลายกระจัง ซึ่งเป็นลายไทยมาตรฐาน ปักและรีดลายด้วยคริสตัล จากสวารอฟสกี้

ส่วนที่ 2  “ชุดเครื่องประดับ” มี  3 ชิ้นหลัก คือ  “เครื่องหัว” ดัดแปลงมาจากชฎา  ออกแบบใส่ลายเส้น  ลดทอนลายไทยเพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น  ชิ้นที่ 2   “กรองคอ” รูปตัว V ออกแบบการออกแบบเน้นช่วงหัวไหล่ และให้เข้ากับรูปทรงของฟอร์มชุด  เพิ่มความอ่อนหวานด้วยโลหะชุบทองจัดช่อเป็นดอกไม้ไหว และใช้เทคนิค เดียวกันในการจัดทำเครื่องประดับชิ้น 3 คือ “เข็มขัดประดับเอว”  โดยเครื่องประดับทุกชิ้นประดับด้วยคริสตัลจาก สวารอฟสกี้

ส่วนที่ 3 “โครงสร้าง”  ซึ่งเป็นส่วนกลไกเพื่อแปลง (Transform) ชุดไทยประยุกต์เป็นชุดช้าง โดยกลไก และโครงสร้างช้างออกแบบและจัดทำโดย ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทค โนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  โครงสร้างช้างผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม และเพลาแสตนเลส  ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง  สามารถรองรับน้ำหนักในส่วนงวงช้างและชายผ้า   โดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน  ผ้าที่คลุมโครงสร้าง คือผ้าซีทรูกลิตเตอร์ ประดับสวารอฟสกี้ ปักกรุรีดลายประจำยามและลายกระจัง

สำหรับทีมงานออกแบบและสร้างสรรค์ชุดประกอบด้วย นายธีร์ ผาสุก (ผู้ออกแบบชุด) นายศิริวัฒน์ วรวงษ์ และนายฐิติกร หอมหวล (ผู้ช่วยผู้ออกแบบชุด) นายณัฐกิตติ์ แหยมเจริญ (ผู้ตัดเย็บ) นายพลัฏฐ์ จิรพุฒินันท์และนายพอพันธ์ ทองเฟื่อง (ผู้ออกแบบและจัดทำเครื่องประดับ) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศกรรมเครื่องกลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ผู้จัดทำโครงสร้างและกลไกส่วนหัวช้าง)

ทั้งนี้ “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 มีกำหนดเข้ารายงานตัวต่อกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา 15.00 น.

ช้างคู่แผ่นดิน

ช้างคู่แผ่นดิน

Chang The Icon Of Siam


 

เริ่ดทุกราย! 8 ซูเปอร์สตาร์เอเชีย และคนดังฮอลลีวู้ด พรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์บิวตี้

Alternative Textaccount_circle

ก่อนหน้านี้ แพรวดอทคอม เคยเสนอบทความเรื่อง สวยลุคดี! รวม 9 ดาราหญิงไทยที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับแบรนด์บิวตี้  ซึ่งอย่างที่เคยเกริ่นไว้ว่า ผลิตภัณฑ์ความงามกับพรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงสวยๆ ถือเป็นของคู่กัน ยิ่งได้ซูเปอร์สตาร์ ดาราดังที่มีฐานแฟนคลับเยอะๆ ยิ่งส่งผลดีต่อแบรนด์ เพราะเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายและยอดจำหน่ายให้พุ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ แถมได้ภาพลักษณ์ที่ดีต่อตัวแบรนด์นั้นๆ ด้วย ซึ่งเรื่องพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ต่างๆ ทุกคนคงเห็นและเคยชินกันไปแล้ว หรือแม้กระทั่งจำได้ว่าใครเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์อะไรบ้าง แล้วแบรนด์บิวตี้หลายๆ แบรนด์ที่ทั้งมีมานานแล้ว และเพิ่งเปิดตัวไม่นาน ทุกคนรู้จักบ้างหรือเปล่าว่า ใคร? ดาราคนไหน? เป็น พรีเซ็นเตอร์คนแรก ให้กับแบรนด์นั้นๆ วันนี้ แพรวดอทคอม ได้รวบรวม ซูเปอร์สตาร์สาวชาวเอเชีย และคนดังฮอลลีวู้ด ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกให้กับแบรนด์บิวตี้มาฝากค่ะ

 

เริ่ดทุกราย! 8 ซูเปอร์สตาร์เอเชีย และคนดังฮอลลีวู้ด พรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์บิวตี้

คลอเดีย คิม (Claudia Kim หรือ Soo Hyun Kim) พรีเซ็นเตอร์ชาวเอเชียคนแรกของ Bobbi Brown

เริ่มกันที่คนแรก คลอเดีย คิม หรือ นากินี จาก Fantastic Beasts 2 ตอนนี้เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักเธอในฐานะงูข้างกายและฮอร์ครักซ์ของพ่อมดร้ายลอร์ดโวลเดอมอร์ เธอเป็นนักแสดงและนางแบบชาวเกาหลีใต้ ที่หลายคนลงมติแล้วว่าเป็นงูสาวที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ และก่อนหน้านี้เธอยังมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับ Hollywood Blockbuster เรื่อง ‘The Avengers 2: Age of Ultron’ และนอกเหนือจากความสามารถและความสวยแล้ว คลอเดียยังมีความมั่นใจสูง บวกกับผิวพรรณสุขภาพดีซึ่งเข้ากับปรัชญาที่บอกว่า จงเป็นตัวของตัวเอง และด้วยเหตุนี้เธอจึงได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่ Celebrity Face ชาวเอเชียคนแรกของ Bobbi Brown ภาพของเธอจะปรากฎไปทั่วภูมิภาคเอเชียตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 เป็นต้นไป


หลิว เหวิน (Liu Wen) พรีเซ็นเตอร์ชาวเอเชียคนแรกตัวแทนจากแบรนด์ Estee Lauder

หลิว เหวิน ซูเปอร์โมเดลชาวจีน เริ่มเข้าสู่วงการนางแบบจากการเข้าประกวด เพราะต้องการได้รางวัลแล็ปท็อปยี่ห้อ Lemon จนกลายเป็นบันไดสู่เส้นทางการเป็นหนึ่งในนางแบบระดับโลกที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาในเกือบทุกรันเวย์ระดับโลก และแผงปกนิตยสารชื่อดังต่างๆ และยังเป็นนางแบบชาวเอเชียคนแรกที่ได้เป็นนางฟ้าเดินบนรันเวย์ Victoria’s Secret นอกจากนี้ ยังเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้เซ็นสัญญาเป็นนางแบบโฆษณาเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่อย่างแบรนด์ Estee Lauder อีกด้วย


กิโกะ มิซูฮาร่า (Kiko Mizuhara) พรีเซ็นเตอร์ชาวเอเชียคนแรกของ Christian Dior 

ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวเอเชียกับ เมื่อ Christian Dior ได้ประกาศแต่งตั้งให้ Kiko Mizuhara เป็น Dior Beauty Asia Ambassador ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรก ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Dior เพราะกิโกะเป็นผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แฟนๆ มักจะชื่นชอบในความเป็นตัวตนของเธอ ทั้งความน่ารัก สวย และไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูชิคและคูลสุดๆ ซึ่งเธอได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ Dior Beauty Asia ของผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดด้วยกัน ทั้งด้านน้ำหอม เครื่องสำอาง และสกินแคร์


ริฮานน่า (Rihanna) เป็นเจ้าของและพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ตัวเอง Fenty Beauty

เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งครบรอบ 1 ขวบของเครื่องสำอางแบรนด์ FENTY BEAUTY by Rihanna หลังจากเปิดขายมาแล้ว 17 ประเทศทั่วโลก เหตุผลที่แม่ริริ หรือ ริฮานน่า สร้างแบรนด์ FENTY BEAUTY ขึ้นมาเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียว ไม่รู้สึกแปลกแยก โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์โทนสีต่างๆ ที่เข้าได้กับทุกสีผิว รวมถึงการพัฒนาสูตรเครื่องสำอางให้เหมาะกับทุกสภาพผิว และคลอบคลุมทุกโทนสีผิว วิสัยทัศน์ของริฮานน่าคือการให้แรงบันดาลใจผู้หญิงทุกคนว่า “การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องสนุกไปกับมัน แบบไม่มีความรู้สึกว่ากำลังถูกกดดัน  และรู้สึกปลดปล่อยแบบไร้ขีดจำกัด จงกล้าที่จะเปิดรับโอกาสใหม่ๆ กล้าที่จะเสี่ยง และกล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป”


ไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) เป็นเจ้าของและพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ตัวเอง Kylie Cosmetics

Kylie Lip Kit คือคอลเล็คชันแรกที่เธอเปิดตัวปล่อยออกมาแค่ 3 เฉดสี และขายทางออนไลน์เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2015 ซึ่งในตอนนั้นต้องยกให้เป็นปรากฏการณ์ที่ฮือฮามากสำหรับสาวๆ ทั่วโลก และขายเกลี้ยงสต็อกในไม่กี่นาทีของวงการเครื่องสำอางเลยก็ว่าได้ เพราะแบรนด์ใหญ่ๆ บางแบรนด์ยังทำแบบนี้ไม่ได้ หลังจากปรากฏการณ์นั้น เธอจึงต่อยอดทำแบรนด์เครื่องสำอางเกือบครบไลน์บิวตี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2016 ซึ่งทุกครั้งที่ออกคอลเล็คชั่นใหม่ๆ มา ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันตอนแรกๆ เลยเช่นกัน


ซงฮเยคโย (Hyekyo Song) พรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ Sulwhasoo

เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา หากสาวๆ ได้ติดตามอินสตาแกรมของ ซงฮเยคโย (Hyekyo Song) คงได้เห็นคลิปที่นางเอกสาวได้พูดถึงความทรงจำดีๆ ที่มีร่วมกับแบรนด์ลาเนจที่มากว่าสิบปีตั้งแต่ 2008 – 2017 แล้ว และในปีนี้ ซงฮเยคโย ได้ย้ายไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้บ้านหลังใหม่อย่าง Sulwhasoo ซึ่งอยู่ในเครือ AMOREPACIFIC เดียวกันกับแบรนด์ Laneige นั่นเอง โดยล่าสุด Sulwhasoo แบรนด์ความงามแบบองค์รวมจากประเทศเกาหลี ได้เปิดตัว “ซงฮเยคโย” นักแสดงอันดับหนึ่งแห่งเอเชียอย่างเป็นทางการ ในฐานะ Muse คนแรกของโซลวาซู ฑูตความงามแห่งวัฒนธรรมเกาหลี ซึ่งเธอได้พิสูจน์ฝีมือด้วยผลงานการแสดงที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย อาทิ Descendants of the Sun, That Winter,the Wind Blows และ Worlds Within นอกจากนี้ ซงฮเยคโย ยังทำหน้าที่เป็นแอมบาสเดอร์ประชาสัมพันธ์งานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเกาหลี-จีน อีกด้วย


ฮันแชยอง (Han Chae Young) พรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงคนแรกของแบรนด์ innisfree

อินนิสฟรี แบรนด์ธรรมชาตินิยมจากประเทศเกาหลีแบรนด์แรกที่ตามหาความงามอย่างมีสุขภาพดี โดยการแบ่งปันพลังงานธรรมชาติที่สะอาด และบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถูกทำขึ้นมาจากส่วนประกอบที่มีคุณภาพสูงจากผืนป่า ดิน และมหาสมุทรในเกาะเชจู นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอินนิสฟรีถึงเป็นที่ไว้วางใจ และเป็นที่รักอย่างยิ่ง โดยไม่ใช่แค่ในประเทศเกาหลีเท่านั้น แต่ยังมีประเทศอื่นๆ ในเอเชียที่รักด้วย ซึ่งที่ผ่านมาอินนิสฟรีได้มีพรีเซ็นเตอร์หมุนเวียนมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนมากมาย เริ่มที่คนแรก คือ ฮันแชยอง (Han Chae Young) นักแสดงสาวสวยเจ้าเสน่ห์ ต่อมาจึงเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์เรื่อย ไม่ว่าจะเป็น คิมแทฮี, นัมซังมี,  ซงฮเยคโย, มุนกึนยอง และยุนอา สมาชิกคนสวยจากเกิร์ลกรุ๊ป Girls’ Generation พรีเซ็นเตอร์คนปัจจุบัน


มินฮโยริน (Min Hyo-Rin) พรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ Banila Co.

Banila Co. เป็นแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 โดยมีพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์เป็นนักแสดงและนางแบบชื่อดัง มินฮโยริน ปัจจุบันตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญตกเป็นของ คิมแทยอน ตัวแทนสาวสวยยุคใหม่ที่ตรงกับคาแรกเตอร์ที่ต้องการนำเสนอความงดงามที่มาจากกรุงโซล และตลอดเวลาที่แบรนด์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งสกินแคร์และเมคอัพที่มียอดขายอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากกรุงโซลทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเสน่ห์ความงามแบบตะวันออกนั่นเอง


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ IG : claudiashkim, liuwenlw, i_am_kiko, badgalriri, kyo1122, kyliejenner, hyorin_min, Han Chae Young

 

 

พ่อน็อต-น้องพายุ

เหมือนกันยันเงา! พ่อน็อต-น้องพายุ ยิ่งโตหน้ายิ่งเหมือน

พ่อน็อต-น้องพายุ
พ่อน็อต-น้องพายุ

พ่อน็อต-น้องพายุ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ สำเนาถูกต้องเป๊ะเวอร์! เหมือนกันทุกองศา แถมได้ความหล่อและสมาร์ทจากพ่อน็อตมาแบบเต็มๆ

      พ่อน็อต-น้องพายุเพิ่งฉลองอายุครบ 1 ขวบไปหมาดๆ สำหรับ ฝาแฝดสุดหล่อ น้องสายฟ้าและน้องพายุ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ที่บินไปเป่าเค้กไกลถึงประเทศอิตาลี เพราะต้องตามคุณแม่ซูเปอร์สตาร์ ชมพู่ อารยา รังษีสิงห์พิพัฒน์ ไปทำงานด้วย ซึ่งพออายุครบ 1 ขวบ สองหนุ่มก็มีพัฒนาการตามลำดับ แถมยังเป็นเด็กทะเล้น ขี้เล่น ยิ่งโต ยิ่งมีเสน่ห์ จนสาวๆ หลงรักเพียบ

พ่อน็อต-น้องพายุยิ่งล่าสุดน้องๆ ทั้งสองสามารถพูดคำว่า “แม่” ได้แล้ว คุณแม่ชมพู่ก็ยิ่งดีใจสุดๆ เรียกว่าพัฒนาการของสองแฝดนั้นค่อนข้างไวพอสมควร และที่เห็นกันจนชินตาของบ้านนี้คือ คุณแม่ชมมักจะถ่ายคลิปวิดีโอตอนที่สองหนุ่มกินผลไม้ให้แฟนๆ ได้ชมกันบ่อยๆ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ชมพู่” เคยให้สัมภาษณ์ว่า “อยากให้เขากินผักกินผลไม้เป็น ไม่อยากให้เป็นเด็กเลือกกิน กินยาก พอเริ่มจับอะไรได้ก็ให้เขาลองให้หมด เขาก็ค่อนข้างทานง่าย คืออายุแค่นี้ ก็รู้จักตัวเองแล้วว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ถึงจะเป็นแฝดแต่เขาก็จะชอบไม่เหมือนกัน แต่ชมก็พยายามให้เขากินทุกอย่าง”

พ่อน็อต-น้องพายุ“ส่วนเรื่องความเป็นห่วงอยากขอบคุณทุกคน แต่คอนเซ็ปต์ชมคือไม่อยากเอาความกลัวมาปิดกั้นลูก ชมอยากให้เขาอยู่ง่ายกินง่าย ทำได้ทุกอย่าง เราก็ช่วยกันดูแล ไม่ใช่ว่าเอาข้าวโพดไปฝักนึงแล้วก็ทิ้งเขา ปล่อยให้เขาเผชิญโลกกันเอง เราเฝ้ากันมีทั้งพี่เลี้ยง ทั้งเรา ทั้งยาย เขาสนุกกันมาก อย่างมะเฟืองมันก็ได้แต่แทะๆ เลียๆ ให้รับรู้รสชาติ คือฟันเขาก็มีอยู่ 2 ซี่ ก็ได้ประมาณหนึ่ง ได้สัมผัสพอแล้ว”

พ่อน็อต-น้องพายุเรื่องไลฟ์สไตล์การเลี้ยงลูกของบ้านนี้ เรียกว่าเลี้ยงง่าย อยู่ง่าย กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ซื้อให้สองแฝด สาวชมยังเคยบอกว่าเธอซื้อเสื้อผ้าลดราคาด้วยซ้ำ เพราะเด็กโตไวจะซื้อเสื้อผ้าแพงๆ ก็เสียดายเงิน ถึงแม้พ่อแม่จะรวยมากขนาดนี้ แต่จะเห็นได้ว่าบ้านนี้รู้จักใช้เงินสุดๆ

พ่อน็อต-น้องพายุที่สำคัญคือ เมื่อสองหนุ่มยิ่งโต คาแรกเตอร์ก็ยิ่งชัดมาก โดย น้องสายฟ้าจะออกแนวหล่อเท่ หน้าจะเหมือนแม่ชม ส่วนน้องพายุ หล่อละมุนหน้านี่ถอดคุณพ่อ น็อต วิศรุต มาเป๊ะเว่อร์! ซึ่งยิ่งโตหน้าก็ยิ่งเหมือน วันนี้ แพรวดอทคอม เลยนำภาพของ พ่อน็อต-น้องพายุ มาให้ชมกันแบบช็อตต่อช็อต ขอบอกว่ายิ่งโตก็ยิ่งเหมือน แถมน้องพายุยังได้ความหล่อละมุนและสมาร์ทจากพ่อน็อตมาแบบเต็มๆ

พ่อน็อต-น้องพายุ

พ่อน็อต-น้องพายุ

พ่อน็อต-น้องพายุ


ภาพจาก IG @nottvisrut

สนีกเกอร์

เหล่าสาวกอาจไม่เคยเห็น! เผยโฉม สนีกเกอร์รุ่นแรก จากแบรนด์ดังที่ใครก็รู้จัก

สนีกเกอร์
สนีกเกอร์

หลายคนอาจไม่เคยเห็น! สนีกเกอร์รุ่นแรก จากแบรนด์ดังทั่วโลก ที่แค่เพียงเอ่ยชื่อ ทุกคนต้องร้อง…อ๋อ! วันนี้เรามีภาพสนีกเกอร์รุ่นแรกมาเสิร์ฟเหล่าสาวกกันด้วย จะมีแบรนด์โปรดของคุณหรือเปล่า ตามมาส่องเลย

สนีกเกอร์ถือเป็นไอเท็มที่หลายๆ คนชื่นชอบ ชนิดที่ว่าจะต้องมีติดบ้านกันเลยทีเดียว  อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีสักหนึ่งคู่ ที่จะคอยเป็นคู่เก่งให้เราใส่ลุยไปได้ทุกที่ ซึ่งแต่ละคนจะมีแบรนด์โปรดในดวงใจไม่เหมือนกัน และไม่ว่าแบรนด์ลูกรักจะออกรองเท้ามากี่รุ่นก็พร้อมจะละลายทรัพย์ในกระเป๋าได้ในทันที ยิ่งบางคนเป็นนักสะสมสนีกเกอร์ด้วยแล้ว พวกคอลเล็คชั่นหายากหรือรุ่นลิมิเต็ดก็ต้องรีบคว้าเอามาไว้ในอ้อมอกกันเลยล่ะ

แต่นักสะสมสนีกเกอร์ตัวยง หรือแฟนรองเท้าสนีกเกอร์รู้กันหรือเปล่าว่า กว่าสนีกเกอร์ของแต่ละแบรนด์จะมีหน้าตาอย่างที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้ รองเท้ารุ่นแรกของแต่ละแบรนด์มีดีไซน์ยังไง เหมือนหรือแตกต่างจากรุ่นซิกเนเจอร์ในปัจจุบันของแบรนด์หรือเปล่า วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว สำหรับสาวกสนีกเกอร์ผู้ชื่นชอบความคล่องตัวทั้งหลาย มาเช็คกันหน่อยว่ารองเท้ารุ่นแรกของแบรนด์โปรดคุณ หน้าตาเป็นยังไง

 

เหล่าสาวกอาจไม่เคยเห็น! เผยโฉม สนีกเกอร์รุ่นแรก จากแบรนด์ดังที่ใครก็รู้จัก

 

Adidas ปี 1936

สนีกเกอร์รุ่นแรก

เมือง Herzogenaurach ประเทศเยอรมนี เป็นเมืองที่มีการแข่งขันดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับกีฬาทุกประเภท โดยมีสองพี่น้อง Adolf และ Rudolf Dassler ที่เกิดและเติบโตที่นั่น ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรง ทั้งสองจึงได้สร้างรองเท้ากีฬาคุณภาพดีขึ้นมา ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1936 ในกรุงเบอร์ลิน นักกรีฑาชาวผิวสี เจสซี โอเวนส์ ได้ร่วมแข่งขันวิ่งด้วยรองเท้าของ Dassler และเขาได้รับรางวัลเหรียญทองถึง 4 เหรียญ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงพลังของรองเท้ากีฬาที่มีคุณภาพจาก Dasslers แต่ภายหลังสองพี่น้องไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่ Adolf Dassler จึงแยกออกมาก่อตั้งแบรนด์ Adidas

 

Onitsuka Tiger ปี 1949

สนีกเกอร์รุ่นแรก

Onitsuka Tiger ถือเป็นผู้ผลิตรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และไอเท็มแรกของแบรนด์คือรองเท้าบาสเกตบอล ที่มีรูปแบบคล้ายรองเท้าฟางสานโบราณ ซึ่งรูปแบบดีไซน์นี้ได้ถูกต่อต้านและไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่าย ทำให้คุณโอนิซูกะต้องกลับไปสู่กระบวนการออกแบบอีกครั้ง เพื่อให้รูปแบบของรองเท้าสามารถตอบสนองการใช้งานของนักกีฬาได้อย่างคล่องตัว ทั้งในการออกตัวและหยุดการเคลื่อนไหวในสนามกีฬาระหว่างการแข่งขัน โดยการเสริมรอยนูนและเพิ่มช่องว่างไว้ใต้พื้นรองเท้าบาสเกตบอล จากดีไซน์ที่คุณโอนิซูกะออกแบบใหม่นี้ สามารถทำให้รองเท้าของเขามีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ในปี 1955 บริษัทมียอดการค้าที่สูงขึ้นและสามารถขยายสาขาได้สูงถึง 500 สาขาทั่วญี่ปุ่น

 

Nike ปี 1970

สนีกเกอร์รุ่นแรก

ในปี 1970 โค้ช บิลล์ บาวเวอร์แมน ได้ทดลองทำพื้นรองเท้ายางจากเครื่องอบขนมวาฟเฟิลของภรรยา ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำหรับรองเท้ากีฬา ที่พื้นรองเท้าเป็นแบบที่เห็นในทุกวันนี้ ถัดมาในปี 1971 บาวเวอร์แมนจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า Nike Inc. ในปีถัดมา BRS Inc. และ Onitsuka Tiger ได้แยกบริษัทออกจากกัน อันเนื่องจากความขัดแย้งกันทางธุรกิจ ในปีนี้เองได้ออกแบรนด์ไนกี้เพื่อเจาะกลุ่มนักกีฬากรีฑาในโอลิมปิก ต่อมาในปี 1981 BRS Inc. และ Nike Inc. ได้รวมบริษัทเข้าด้วยกัน

 

Reebok  ปี 1895

สนีกเกอร์รุ่นแรก

 

รีบอค ก่อตั้งขึ้นในปี 1895 ที่เมืองโบลตัน ประเทศอังกฤษ โดยนายเจ.ดับเบิลยู. ฟอสเตอร์ และลูกชาย ได้ตั้งชื่อแบรนด์ว่า เจ.ดับเบิลยู. ฟอสเตอร์ แอนด์ ซันส์ (J.W. Foster and Sons) ต่อมาในปี 1958 โจและเจฟฟ์ ฟอสเตอร์ หลานชายของผู้ก่อตั้งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น รีบอค อย่างในปัจจุบัน โดยคำว่า รีบอค นั้นมาจากภาษาแอฟริคานส์  “รีบอคสีเทา” ซึ่งเป็นสัตว์กีบจำพวกแอนทีโลป และในปี 2005 ได้รวมกิจการกับ Adidas จนประสบความสำเร็จ สามารถถือสัญญาในสโมสรบาสเกตบอลและเบสบอลเอาไว้ได้

 

Keds ปี 1892

สนีกเกอร์รุ่นแรก

บริษัท U.S. Rubber ได้ผลิตรองเท้าผ้าใบที่มียางเป็นส่วนประกอบ ซึ่งทำให้รองเท้าสวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น ในช่วงแรกหลายคนจะเรียก Keds ว่า sneakers ซึ่งแปลได้ว่า พื้นรองเท้าที่เป็นยาง สามารถเดินได้โดยไม่มีเสียง ต่างจากรองเท้าแบบเดิมๆ  แต่หลังจากรองเท้ารุ่นแรกออกมา กว่าที่ Keds จะเป็นที่นิยมก็เข้าสู่ปี 1916 ซึ่งรองเท้าของแบรนด์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันก็ยังคงใช้ความร้อนในการผสานยางและผ้าเข้าด้วยกัน

 

Converse All Star ปี 1917

สนีกเกอร์รุ่นแรก

รองเท้าที่โดดเด่นนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1917  ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแบรนด์ เมื่อได้ออกรองเท้ารุ่น All-Star ออกมา ก็ไปเตะตานักบาสเกตบอลชื่อดัง Chuck Taylor และเขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมทำงานด้วย ในส่วนของการเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทรองเท้า All-Star เมื่อต้องเข้าร่วมการแข่งขันบาสเกตบอล ทำให้ Converse All-Star เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในกลุ่มนักกีฬาบาสเกตบอลและวัยรุ่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก

 

Puma ปี 1952

สนีกเกอร์รุ่นแรก

หลังจากที่พี่น้องได้แตกหักกันในปี 1948  Rudolf ก็หันไปสร้างแบรนด์ Puma และได้เปิดตัวรองเท้าฟุตบอลหรือรองเท้าสตั๊ดขึ้น โดยรองเท้ารุ่น Super Atom ของพูม่าได้เปิดตัวเมื่อปี 1952 ความพิเศษคือตัวปุ่มสตั๊ดเป็นสกรู สามารถหมุนถอดเปลี่ยนได้

 

Vans ปี 1966

สนีกเกอร์รุ่นแรก

VANS รุ่น AUTHENTIC #44 เกิดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นโดย Paul Van Doren ช่างผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตรองเท้ามากว่า 20 ปี เขามีความรักและชื่นชอบในรองเท้าเป็นอย่างมาก ทำให้เขาต้องการผลิตรองเท้าที่มีความทนทานต่อทุกสภาพการใช้งานและมีราคาไม่แพง ซึ่งรองเท้าคู่แรกของ Vans คือ Vans #44 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Authentic


ภาพและที่มา : theidleman.com , soleseek.co.uk , retrobok.com , th.wikipedia.org

 

บทประพันธ์แห่งคุณธรรม..เปิดฉากลอดลายมังกร The Epic Musical at LHONG 1919

ล้ง 1919 สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ “ลอดลายมังกร The Epic Musical at LHONG 1919″ ถ่ายทอดเรื่องราวเสื่อผืนหมอนใบ ผ่านการแสดงกลางแจ้งผสมผสานมัลติมีเดีย บนแผ่นดินท้องมังกร โดยเปิดลานกลางแจ้งบ้านหวั่งหลี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นฉากหลังการแสดง เปิดม่านการแสดงรอบพรีวิวท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมชมการแสดงอย่างคับคั่ง เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ก่อนเริ่มเปิดการแสดงจริงในวันที่ 16 – 25 พฤศจิกายน 2561 เพียง 7 รอบการแสดงเท่านั้น

“ลอดลายมังกร The Epic Musical at LHONG 1919″ ถ่ายทอดเรื่องราวจากเป็นบทประพันธ์ทรงคุณค่าของ คุณประภัสสร เสวิกุล บอกเล่าความมานะพยายามชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย สอดแทรกข้อคิดและคติในการดำเนินชีวิตด้วยคุณธรรม ความดี ความซื่อสัตย์ จึงเป็นเป็นเรื่องราวที่เหมาะแก่การเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองวาระสำคัญดังกล่าว ความพิเศษของการแสดงในครั้งนี้ เปิดให้จัดที่ลานกลางแจ้งบ้านหวั่งหลี ซึ่งเป็นบ้านโบราณของตระกูล อายุกว่า 100 ปี

งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่อนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ส่วนตัวของตระกูลหวั่งหลี ซึ่งปกติไม่ได้เปิดให้สาธารณะเข้าชม ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งเดียวที่เปิดให้ผู้ชมการแสดงได้ชมความงดงามของบ้านหวั่งหลีอย่างใกล้ชิด พร้อมกับแสง เสียง มัลติมีเดีย เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังสามารถกล่าวได้ว่าพื้นที่บริเวณบ้านหวั่งหลี – ล้ง 1919 เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของเรื่องราวลอดลายมังกร

“ลอดลายมังกร The Epic Musical at LHONG 1919″ จะเปิดการแสดงครั้งแรกและครั้งเดียว เพียง 7 รอบการแสดงเท่านั้น ในวันที่ 16 / 17 / 18 / 22 / 23 / 24 / 25 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.30 น. ราคาบัตร 6,000 บาท / 3,500 บาท / 3,000 บาท / 2,500 บาท /  2,000 บาท และ 1,500 บาท บัตรมีจำหน่ายที่ ไทยทิตเก็ต เมเจอร์ หรือติดต่อ โครงการล้ง 1919 โทร. 091-387-1919 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook: LHONG1919

 

5 เคล็ดลับดูแลจากภายใน กินอะไรถึงผิวสวย

5 เคล็ดลับดูแลจากภายใน กินอะไรถึงผิวสวย…ทุกวันนี้มลภาวะที่เป็นพิษอยู่รอบตัวเรา รวมถึงปัจจัยต่างๆในการใช้ชีวิตที่ขาดสมดุล มีส่วนทำร้ายผิวพรรณของเราให้อ่อนล้าลงอย่างน่าใจหาย ถ้าเทียบกับผู้คนในยุคสมัยอดีต ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านั้นได้ส่งผลให้ผิวของเราสูญเสียสิ่งที่เรียกว่า “คอลลาเจน” ผู้ช่วยตามธรรมชาติที่จะรักษาผิวพรรณ ให้คงความสดใสและเปล่งประกายลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะข้ามไปสู่คำแนะนำขั้นตอนการดูแลรักษาผิวพรรณรวมถึงสุขภาพโดยรวมนั้น เรามาทำความเข้าใจกับคอลลาเจนในร่างกายของเราก่อน

คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของ กรดอะมิโน (Amino Acid) หลายชนิดต่อกัน ซึ่งกรดอะมิโน ที่พบเจอเยอะสุด ที่อยู่ในคอลลาเจน ประกอบด้วย กรดอะมิ Glycine, Proline และ Hydroxyproline คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของ ผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ          ของร่างกาย ทำหน้าที่ในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย และเชื่อมเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มมีการสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง แต่จะค่อย ๆ สูญเสียคอลลาเจนเหล่านี้ไปถึงปีละ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่ออ่อนแอลง           เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดลงจะทำให้เราสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เช่น มีริ้วรอยตามมา ผิวขาดความยืดหยุ่น ผม เล็บ เปราะแตกง่าย หรือมีอาการปวดตามข้อของร่างกายเกิดขึ้นนั่นเอง

เราสามารถลดปัจจัยการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในร่างกายได้ โดยการดูแลสุขภาพผิวจากภายใน       ได้หลายวิธีตามศาสตร์การดูแลรักษาสุขภาพด้วยธรรมชาติและสมุนไพร รวมถึงอาหารการกินที่บริโภคก็มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว อย่างการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยผลิตคอลลาเจนทดแทนให้กับร่างกาย เช่น

ผักผลไม้สีแดง

เช่น มะเขือเทศ, หอมแดง, แอปเปิลสีแดง, สตรอเบอร์รี่, เชอรี่, ส้มโอสีชมพู, ทับทิม, องุ่นแดง,     แตงโม, บีทรูท, แอปเปิ้ลสีแดง เป็นต้น จะมีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์              มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ ต้องเลือกรับประทานผักผลไม้เหล่านี้     หรืออาหารเสริมสกัดเข้าไป โดยสารอาหารเหล่านี้จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้      ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ชลอริ้วรอยก่อนวัย ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนัง

กระเทียม

กระเทียมเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่อุดมไปด้วยซัลเฟอร์ อีกทั้งยังมีกรดไลโปอิก (Lipoic acid) และกรดอะมิโนทอรีน (Taurine) ตัวช่วยเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกทำลายได้อย่างดี อีกทั้งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง อาการอักเสบต่างๆ รวมถึงอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารแก้ท้องอืด ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย เส้นเลือดเปราะ ขับลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ขับประจำเดือนและพยาธิไส้เดือน ใช้บำบัดอาการไอ หวัด หลอดลมอักเสบ และยังสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น หิด กลากเกลื้อน เป็นต้น

วิตามินซี

ไม่ว่าจะเป็น ส้ม ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระผสานกับพลังแห่งวิตามินซี มีส่วนช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย ปกป้องผิวจากมลพิษ และช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรง มะนาว มีวิตามินซีสูงที่  จะช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด และบรรเทาอาการปวดตามข้อได้ รวมถึงผลไม้อื่นๆ อาทิ ฝรั่ง กีวี่ องุ่น    และสตรอเบอร์รี่ ก็ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ที่จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน อีกทั้งยังเสริมความแข็งแรงของเซลล์ผิวได้อย่างดี

เห็ดทุกชนิด

เห็ดมีหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 30,000 ชนิด ทั้งที่กินได้และกินไม่ได้  ซึ่งเห็ดจะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วน คือ ก้านเห็ด (Stipe) และ ดอกเห็ด (Pileus) มีสรรพคุณและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก มีโปรตีนสูงปราศจากไขมันและมีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารอาหารที่สามารถช่วยในกระบวนการผลิตคอลลาเจนให้กับผิวได้ดี ซึ่งเห็ดเข็มทอง (Golden Mushroom) ช่วยรักษาโรคตับ       โรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรัง อีกทั้งยังยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ดี  เห็ดกระดุมหรือ   เห็ดแชมปิญอง (Champignon Mushroom) ช่วยป้องกันและต้านทานโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด  ช่วยให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรคได้ดี       เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) มีฤทธิ์เสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง           ยับยั้งเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด รวมถึงป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความดันโลหิตในร่างกายได้อีกด้วย

ฉะนั้นแล้วคนที่รักผิวพรรณและอยากมีผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก จะต้องศึกษาหาข้อมูลการดูแลผิวอย่างละเอียดลึกซึ้ง และควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด  เป็นเวลานาน  ไม่สร้างความเครียดให้กับตัวเอง เพราะเป็นสิ่งที่กระตุ้นในร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เลือดสามารถสูบฉีดเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆภายในร่างกาย และเลือกรับประทาน ผัก และ ผลไม้   หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย  ที่ได้รับการวิจัยโดยแพทย์และผ่านมาตรฐาน       จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สารอาหารเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบในภายหลังหากบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ เท่านี้เราก็จะสามารถมีทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกด้วยวิถีธรรมชาติและสมุนไพร

 

ข้อมูลจาก NB.Care Center

ที่มา : https://bit.ly/2EMsOcQ

‘เล็ก ณพาภรณ์’

ไอดอลแห่งการกิน ‘เล็ก ณพาภรณ์’ ฟาดเรียบ ตั้งแต่ มิชลิน ยัน สตรีทฟู้ด

‘เล็ก ณพาภรณ์’
‘เล็ก ณพาภรณ์’

ส่องไลฟ์สไตล์การกินของ ‘เล็ก ณพาภรณ์’ ที่หันมาเอาดีกับการเปิดร้านอาหาร จนถูกตั้งฉายาว่า ไอดอลแห่งการกิน เพราะชิมตั้งแต่ มิชลิน ยัน สตรีทฟู้ด

      ‘เล็ก ณพาภรณ์’หลังจากขายโรงแรมและที่ดินไป 15 ไร่ ปัจจุบันยังเหลือ 20 ไร่ ซึ่งยังเพียงพอให้ ทายาทปาร์คนายเลิศ ทำอะไรต่อยอดได้อีกเยอะ โดย เล็ก – ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ทายาทปาร์คนายเลิศ รุ่นที่ 4 ก็หันมาจับธุรกิจร้านอาหารไทย มา เมซอง (Ma Maison), ร้านอาหารตะวันตก เลดี้ แอล การ์เดน บิสโทร (Lady L Garden Bistro), ธุรกิจจัดเลี้ยง ไวท์บัส เคเทอริ่ง (White Bus Catering), บ้านปาร์คนายเลิศ เรือนไม้สักอายุกว่า 100 ปีของพระยาภักดีนรเศรษฐ (นายเลิศ เศรษฐบุตร) ที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม, และโปรเจ็กต์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดก็คือ โรงแรมใหม่ ซึ่งเธอบอกว่าทุกอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้สามารถเลี้ยงตัวเองได้

‘เล็ก ณพาภรณ์’แต่ที่เห็นเธอจริงจังมากเป็นพิเศษ น่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร เพราะมักจะเห็นเธอเช็คอินอยู่ที่ร้านบ่อยๆ นั่นก็คือร้าน LADY L Garden Bistro (เลดี้ แอล การ์เดน บริสโทร) ร้านอาหารเปิดใหม่จาก บ้านปาร์ค นายเลิศ ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ถนนเพลินจิต เป็นร้านอาหารในบรรยากาศคลาสสิกที่ภายในร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบหรูดูดีและทันสมัย ซึ่งร้านนี้ ก่อตั้งขึ้นเพื่ออุทิศถึงท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ โดยที่มาของชื่อร้านคำว่า Lady หมายถึง ท่านผู้หญิง ส่วน L ย่อมาจากเลอศักดิ์ ซึ่งเมนูอาหารและการตกแต่งร้านทั้งหมดได้แรงบันดาลใจจากท่านผู้หญิง เลอศักดิ์ สมบัติศิริ โดยอาหารที่ร้านเป็นอาหารตะวันตกสไตล์ Home Cook (โฮมคุ๊ก) เน้นอาหารฝรั่งอย่าง สตู, สปาเก็ตตี้, ซุป, สลัด, เค้ก, และ ครัวซองสไตล์ฝรั่งเศส เป็นต้น

‘เล็ก ณพาภรณ์’ส่วนอีกร้านคือ Ma Maison (มา เมซอง) ร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมในบรรยากาศดีๆ ในแบบฉบับของบ้านปาร์คนายเลิศ กับบรรยากาศกลางใจเมืองย่านชิดลม ซึ่งแต่เดิม Ma Maison เป็นชื่อร้านอาหารฝรั่งเศสที่ คุณพินิจ สมบัติศิริ เป็นผู้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2526 เพื่อเป็นสถานที่สังสรรค์ของนักชิมอาหาร และในวันนี้ Ma Maison ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอาหารไทยในแบบฉบับของบ้านปาร์ค นายเลิศ ตัวร้านตกแต่งด้วยกระจกใสตัดกับโครงสีเทาเข้มให้เหมือนเรือนกระจกเพื่อรับแสงธรรมชาติจากด้านนอก ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมของบ้านนายเลิศ พร้อมด้วยกิมมิกเป็นของที่มีความหมายกับนายเลิศอย่าง ดอกไม้สวยๆ รูปปั้นนก หนังสือ ลูกโลกและแผนที่

‘เล็ก ณพาภรณ์’เนื่องจากต้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงอาหาร งานนี้ ‘เล็ก ณพาภรณ์’ เลยต้องออกไปชิมอาหารตามสถานที่ต่างๆ เพื่อมาต่อยอดในการปรับสูตรหรือคิดเมนูใหม่ๆ ให้กับร้านอาหารของตัวเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าไฮโซสาวคนนี้ เธอทานได้หมด ตั้งแต่ ระดับมิชลินสตาร์ ยัน สตรีทฟู้ด เรียกว่าเป็นนักชิมตัวยง จนถูกตั้งฉายาว่า ไอดอลแห่งการกิน

‘เล็ก ณพาภรณ์’

‘เล็ก ณพาภรณ์’แต่เมื่อส่องหุ่นของคุณเล็ก สาวๆ ยังต้องแอบอิจฉาเพราะเธอกินหนักมาก แต่รูปร่างก็ยังเป๊ะ ปัง เหมือนเดิม ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหุ่นถึงไม่พัง เพราะเธอเป็นคนที่ขยันออกกำลังกายด้วยโยคะอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง แบบนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแน่นอน

‘เล็ก ณพาภรณ์’


ภาพจาก IG @lek_nai_lert_park

THE BREATHING SHOES

ถ้าบอกว่ารองเท้าหายใจได้… หลายคนต้องมีคำถามผุดขึ้นมาในใจว่า จะเป็นไปได้เหรอ! แต่กับรองเท้าไลฟ์สไตล์สัญชาติอิตาเลียน นั้นทำให้เรื่องเป็นไปไม่ได้… เป็นไปได้!

ผู้นำนวัตกรรมที่กำลังพูดถึงคือ ‘เจอ็อกซ์’ (GEOX) แบรนด์รองเท้าที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในกลุ่มรองเท้าไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ชายผู้หญิงและเด็ก

ก่อนจะพาไปสู่เรื่องเทคโนโลยีที่ทำให้รองเท้าหายใจได้ เรามาไขข้อสงสัยกับชื่อแบรนด์กันดีกว่า ‘GEOX’ มาจากการผสมของคำว่า เจโอ (GEO) แปลว่า แผ่นดิน ซึ่งเป็นคำกรีกโบราณ เพราะว่ารองเท้าที่ดีที่สุดก็เหมือนกับการที่เดินโดยที่ไม่ใส่รองเท้าเลยบนพื้นดิน ส่วน X เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยี รวมกันเป็น GEOX

แล้วเทคโนโลยีหรือตัว X ที่ใส่เข้าไปในชื่อแบรนด์ ที่ทำให้รองเท้าขึ้นชื่อเรื่องของการระบายอากาศและป้องกันไม่ให้น้ำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพในมาตรฐานระดับโลกมีที่มาอย่างไร มร.มาริโอ้ โมเรตติ โพลีกาโต้ (Mr.Mario Moretti Polegato) ประธานบริษัท เจอ็อกซ์ กรุ๊ป และผู้ก่อตั้งแบรนด์เจอ็อกซ์ (GEOX) เป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด “ตอนยุค 90s ผมไปที่อเมริกาแถบทะเลทราย จำได้ว่าใส่สนิกเกอร์ที่มีพื้นเป็นยางบนทะเลทรายก็ทรมานมากเพราะไม่ถ่ายเทความร้อน เผอิญในกระเป๋ามีมีดพกติดตัวอยู่ เลยหยิบเอามีดเล็กออกมาเจาะรูที่พื้นยางด้านขวา แล้วก็ด้านซ้าย จากนั้นผมก็ไปเจอวิธีเพิ่มเติมคือการใส่เมมเบรนเข้าไปในพื้นรองเท้าด้วยเพื่อกันน้ำไม่ให้เข้าทั้งที่มีรู พอเทคโนโลยี 2 อย่างมาอยู่รวมกัน ก็ได้ไปจดทะเบียนใน 100 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ตอนแรกผมไม่ได้อยากจะผลิตรองเท้า ก็เลยไปเสนอไอเดียกับร้านรองเท้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงเวลานั้น แต่ไม่มีใครสนใจ ผมก็เลยเริ่มเองที่อิตาลีจากทีม 5 คน จาก 5 คนก็กลายเป็น 50… 500… 5000 ตอนนี้ในกรุ๊ปเจอ็อกซ์ทั่วโลกก็กลายเป็น 30,000 คน นี่ก็คือเรื่องราวของแบรนด์นี้ ก็สำคัญตรงที่ว่าตอนนี้ทุกๆ คนก็รู้แล้วว่าเทคโนโลยีสำคัญแค่ไหนในทุกๆ เรื่อง”

มร.มาริโอ้ โมเรตติ โพลีกาโต้ ขยายความต่อ “พื้นรองเท้าเจอ็อกซ์ที่ทำจากยางมีความสามารถในการระบายอากาศ, การควบคุมอุณหภูมิในรองเท้าขณะสวมใส่ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและการป้องกันน้ำ ปกติพื้นรองเท้าจะเป็นยาง ทำให้มีปัญหาเบื้องต้นเรื่องระบายความร้อนไม่ได้ ผมจึงคิดค้นทำพื้นรองเท้าให้มีดีไซน์เป็นรูขึ้นมา แต่เวลาที่ฝนตกน้ำก็ไม่สามารถเข้าไปข้างในเพราะข้างในมีเทคโนโลยีพื้นรองเท้าที่ชื่อ “Membrane” (เมมเบรน) ซึ่งโมเลกุลมีขนาดเล็กกว่าน้ำแต่ใหญ่กว่าอากาศ จึงทำให้อากาศผ่านได้ แต่น้ำผ่านไม่ได้ช่วยกันน้ำและยังสามารถถ่ายเทอากาศได้อีกด้วย เป็นการคิดค้นที่มีต่อโลกใบนี้เลย ซึ่งทางแบรนด์ได้จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เทคโนโลยีสำคัญที่ว่าทำให้คนเดินได้ดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น และก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

“นอกจากนี้เรายังได้คิดค้นพื้นรองเท้าที่ทำจากหนังแต่สามารถระบายอากาศได้ดี โดยต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่าง เจอ็อกซ์ คัวโย (GeoxCuoio) ที่ทำให้แผ่นหนังที่นำมาทำพื้นรองเท้านั้นมีความสามารถในการกันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน”

ไม่เพียงเด่นเทคโนโลยี เจอ็อกซ์ยังต่อยอดถึงความเป็นแฟชั่นแบบอิตาเลียนในรองเท้าหนัง, รองเท้าบูธ, รองเท้าสนีกเกอร์, รองเท้าทำงาน, รองเท้าส้นสูงสำหรับงานกลางคืน และรองเท้าสำหรับเด็ก “ทุกคนรู้จักชื่อเสียงแบรนด์รองเท้าจากอิตาเลียนกันดีอยู่แล้วในเรื่องความงดงามทางด้านดีไซน์ มีสไตล์ที่สวยงาม และหลายๆคนก็ฝันอยากจะมีรองเท้าสไตล์อิตาเลียน พอพูดถึงรองเท้าอิตาเลียน ทุกคนก็จะรู้สึกว่าเป็นของหรูหราอยู่แล้ว แต่เขามีราคาที่ทำให้คนรู้สึกว่าเป็นของหรูหราแต่จริงๆ อยู่ในราคาที่จับต้องได้”

มร.มาริโอ้ ยังแนะนำรองเท้าเจอ็อกซ์ รุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ประเภทต่างๆ

MEN

สำหรับสุภาพบุรุษในวันทำงานเหมาะกับรุ่น Hampstead รองเท้าหนังสีดำทรงคลาสสิก ราคา 9,990 บาท

และรุ่น Nebula รองเท้าสนีกเกอร์ ราคา 8,990 บาท

สำหรับสุภาพบุรุษในวันสบายๆ แนะนำรุ่น Deivenc รองเท้าสนีกเกอร์ลายหนังงู ราคา 6,990 บาท

WOMEN

สำหรับสุภาพสตรีวันสบายๆ รุ่น  Myria สนีกเกอร์หนังสีขาว

และรุ่น  Hosmos รุ่นขายดี รองเท้าบูทแบบสั้นและแบบยาว ราคา 5,990 บาท

สำหรับวันทำงาน รุ่น Annya รองเท้าส้นสูงสีดำทรงคลาสสิก ราคา 6,990 บาท

KIDS

สำหรับเด็กวันสบายๆ แนะนำรุ่น GEOX X Music รองเท้าผ้าใบเพิ่มลูกเล่นเทคโนโลยีแสนสนุกด้วยไฟบริเวณส้นเท้า ที่สามารถพิมพ์คำที่ต้องให้แสดงที่ส้นเท้าได้ตามต้องการ ผ่านการพิมพ์ลงแอพพลิเคชั่นของเจอ็อกซ์ผ่านมือถือ ราคา 5,990 บาท

รองเท้านักเรียนของเด็กผู้ชายรุ่น Riddock ราคา 3,290 บาท

DO YOU KNOW

ทางเจอ็อกซ์ได้ส่งออกมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกแล้ว มีร้านของเจออกซ์มากกว่า 1,100 ร้าน ๆจะอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ แถบทั่วโลกทั้ง ลอสแอนเจลิส, นิวยอร์ก, ฮ่องกง, กรุงเทพ, สิงค์โปร, โตเกียว, ปักกิ่ง, มิลาน, โรม ร้านจะอยู่ในถนนสายหลักที่เป็นแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าอีกด้วย

ล่าสุดจัดงานฉลองเปิดร้าน “GEOX X-STORE” คอนเซปต์สโตร์รูปแบบใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย ณ โซนบีคอน 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แบรนด์ใหม่เข้าสู่กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา พร้อมเปิดตัวคอลเลกชั่นล่าสุด “Fall-Winter 2018/2019” (ฟอลล์-วินเทอร์ 2018/2019)

ผ้าพันคอ Jim Thompson

กว่าจะมาเป็น ผ้าพันคอ Jim Thompson ไอเท็มซิกเนเจอร์ยอดนิยมของแบรนด์

ผ้าพันคอ Jim Thompson
ผ้าพันคอ Jim Thompson

เปิดกรุ พร้อมเผยความเป็นมาของ ผ้าพันคอ Jim Thompson ไอเท็มยอดนิยมจากนักช้อปทั่วโลก 

จิม ทอมป์สัน เผยเรื่องราวต้นกำเนิดความงามของผ้าพันคอ จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Scarves) ซิกเนเจอร์ไอเท็มจาก จิม ทอมป์สัน ที่สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการดีไซน์และกรรมวิธีการผลิตที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งตลอด 53 ปีจากยุคมิสเตอร์จิม ทอมป์สัน จนถึงปัจจุบัน สู่ผ้าพันคอหลากหลายลวดลายเปี่ยมอัตลักษณ์ที่สะท้อนมรดกทางความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ผสานเอกลักษณ์แห่งวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนเนื้อผ้าคุณภาพที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งผ้าแจ็คการ์ด (Jim Thompson Jacquard) ผ้าไหมทวิลล์ (Jim Thompson Silk Twill) ผ้าไหมชิฟฟ่อน (Jim Thompson Silk Chiffon) ผ้าทอมือ (Jim Thompson Hand-woven) และผืนผ้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมเผยโฉมความงามในอนาคตอีกมากมาย

ผ้าพันคอ Jim Thompson

ตลอดระยะเวลาการดำเนินการของจิม ทอมป์สัน ได้พัฒนากรรมวิธีการผลิตผืนผ้าที่โดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยความชำนาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 67 ปี ควบคู่ไปกับกระบวนการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เปี่ยมแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้ก่อตั้งอย่าง มิสเตอร์ จิม ทอมป์สัน ผสานกับเรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแบรนด์อย่างลงตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงซิกเนเจอร์ไอเท็มตลอดกาลอย่าง ผ้าพันคอ จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson Scarves) ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก

ผ้าพันคอ จิม ทอมป์สัน  คือหนึ่งในซิกเนเจอร์ไอเท็มของแบรนด์ ซึ่งได้เริ่มต้นผลิตออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1965 หรือประมาณกว่า 53 ปีที่แล้ว ถือเป็นไอเท็มที่มีความโดดเด่นทั้งกระบวนการออกแบบและการผลิตที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอน เริ่มต้นจากกระบวนการออกแบบ ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็น จิม ทอมป์สัน รวมถึงแรงบันดาลใจจากคอลเล็คชั่นของสะสม งานศิลปะส่วนตัวที่หายาก (Archive) ของมิสเตอร์ จิม ทอมป์สัน ที่สื่อถึงวัฒนธรรม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ลวดลาย “เรนฟอเรส” (Rainforest) ซึ่งเป็นลวดลายที่ค้นพบจากงานศิลปะหายาก (Archive) โดยเป็นลวดลายที่เคยใช้กับคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าในยุคก่อตั้งแบรนด์ ประมาณช่วงปี ค.ศ. 1960 นอกจากนี้ ยังมีผลงานพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกับศิลปินชื่อดังมากมาย ทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ คุณสุทธิภา คำแย้ม คุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล คุณเคิร์สเตน ซินจ์ (Kirsten Synge) ซึ่งศิลปินทั้งไทยและต่างชาติทุกท่านที่ได้ร่วมงานกับจิม ทอมป์สัน เป็นศิลปินที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี

ผ้าพันคอ Jim Thompson
ลวดลาย “เรนฟอเรส” (Rainforest)

นอกจากลวดลายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผ้าพันคอจาก จิม ทอมป์สัน โดนเด่นจากแบรนด์อื่นๆ คือ เนื้อผ้าที่เกิดจากกรรมวิธีการผลิตที่มีคุณภาพ และทอจากโรงงานของ จิม ทอมป์สัน ที่จังหวัดนครราชสีมา จึงทำให้สามารถควบคุมคุณภาพได้ในทุกกระบวนการ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ซึ่งได้พัฒนามาอย่างไม่หยุดยั้งกว่า 53 ปี โดยปัจจุบันมีเนื้อผ้าที่จำหน่ายทั้งหมด 4 เนื้อผ้า ได้แก่

ผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) ผ้าพันคอที่ผลิตจากเครื่องทอและเทคนิคชั้นสูง ซึ่งมีความละเอียดและความซับซ้อนในการทอ ทำให้ผ้าชนิดนี้พบได้ไม่บ่อยนัก โดยเครื่องทอที่ซับซ้อนนี้สามารถบังคับเส้นไหมทุกเส้นให้ขึ้นลงได้ตามต้องการ เกิดสีสันและลวดลายที่สวยสดงดงามเสมือนภาพวาด และยังเกิดเป็นลักษณะพิเศษอีกประการคือ สีที่เกิดขึ้นด้านหน้าและด้านหลังจะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความสวยงามและสามารถใช้ได้ทั้งสองด้าน

ผ้าพันคอ Jim Thompson

ผ้าไหมทวิลล์ (Silk Twill) ความพิเศษของผ้าไหมทวิลล์จาก จิม ทอมป์สัน คือ การคัดเลือกเส้นไหมที่ดีที่สุดมาใช้ในการทอ ซึ่งพื้นผ้า (Ground) ของผ้าพิมพ์ที่ทอขึ้นนี้จะมีความพิเศษ คือ ลายทอเป็นลายเฉียงเรียกว่า ทวิลล์ (Twill) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ ผ้าจะนิ่ม พลิ้ว ทน ไม่ยับง่ายเมื่อเทียบกับผ้าพื้น ในส่วนของลวดลายที่ใช้พิมพ์มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีมากกว่า 2,000 ลาย โดยลายพิมพ์จะวาดด้วยมือเท่าขนาดจริง ด้วยฝีมือของศิลปินประจำที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี แต่ละลายใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่าย รวมถึงรายละเอียดและจำนวนสีที่ใช้ในแต่ละชิ้นงาน จากนั้นภาพวาดที่สมบูรณ์จะผ่านขั้นตอนการแยกสีเพื่อเข้าสู่ระบบพิมพ์ การแยกสีจำเป็นต้องใช้ช่างที่มีความเข้าใจเรื่องเทคนิคการพิมพ์และความสวยงามในเวลาเดียวกัน

ผ้าพันคอ Jim Thompson

โดยเครื่องพิมพ์ที่ใช้มีตั้งแต่เครื่องพิมพ์ไม้แบบโบราณ เครื่องพิมพ์แบบพิมพ์สกรีน และเครื่องพิมพ์แบบสมัยใหม่ คือแบบดิจิทัล  ผ้าทุกชิ้นจะเน้นการพิมพ์ทะลุด้านหลัง เพื่อเวลานำไปใช้งานแล้ว จะสามารถเห็นสีและความคมชัดของลายได้ทั้งสองด้าน นอกจากนี้การจบงานผ้าพันคอด้วยการม้วนขอบสอยมือ ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าพันคอ จิม ทอมป์สัน ซึ่งต้องใช้มือและความชำนาญของช่างฝีมือโดยเฉพาะเท่านั้น โดยผ้าพันคอขนาดมาตรฐาน 33 นิ้ว x 33 นิ้ว ใช้เวลาสอยมืออย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อผืน ซึ่งการสอยมือจะทำให้ผ้าผูกแล้วขอบยังจะกลมปมอวบ ไม่แบนแฟบ ดูมีโครงและรูปร่าง (Body) เมื่อเทียบกับผ้าที่เย็บริมด้วยจักรเย็บผ้า

ผ้าไหมชิฟฟ่อน (Silk Chiffon) ด้วยลักษณะโปร่งใสและเนื้อผ้าที่บางเบา เมื่อนำผ้าพันคอชนิดนี้มาพันทบกัน จะเห็นลายซ้อนทับกันเป็นมิติ โดยความพิเศษของผ้าชิฟฟ่อนจาก จิม ทอมป์สัน คือความคงทนของวัสดุจากไหมดิบที่ถูกตีเกลียวสูง จนได้เนื้อผ้าที่บางเบาที่สุด แต่แข็งแรง ไม่แยกปริง่าย แตกต่างจากในท้องตลาดทั่วไปที่มักใช้ใยสังเคราะห์ที่ไม่คงทน

ผ้าพันคอ Jim Thompson

ผ้าทอมือ (Hand-woven) ผ้าทอมือของ จิม ทอมป์สัน มีลักษณะพิเศษซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยการผสานเทคนิคที่ทันสมัยเข้าไปในกระบวนการผลิต อาทิ การมัดย้อม การพ่นสีเส้นด้าย การพิมพ์เส้นยืน การผสมเส้นด้ายที่มีคุณสมบัติพิเศษลงไปทำให้เกิดงานศิลป์ระหว่างการทำมือและเทคนิคสมัยใหม่ โดยทุกผืนทอด้วยไหมสาวมือ ซึ่งไม่สามารถทอได้ด้วยเครื่องจักร และผลิตมาในจำนวนจำกัดในแต่ละลวดลาย นับว่าผ้าทอมือของจิม ทอมป์สัน คือผลงานศิลปะอย่างแท้จริง

ผ้าพันคอ Jim Thompson

นอกจากเนื้อผ้าทั้ง 4 เนื้อผ้าแล้ว จิม ทอมป์สัน ยังคงพัฒนาและผลิตผ้าพันคอใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ เช่น

ผ้าไหมแคชเมียร์ (Silk Cashmere) ด้วยคุณสมบัติของไหมที่มีความลื่นเย็นและแวววาว ส่วนแคชเมียร์มีความนุ่มเนียนและอบอุ่น ทางจิม ทอมป์สัน จึงได้พัฒนาผ้าไหมผสมแคชเมียร์ เพื่อนำเอาคุณสมบัติของเส้นใยธรรมชาติที่สูงค่าทั้งสองชนิดนี้มาไว้ด้วยกัน ซึ่งการที่จะทำให้เนื้อผ้าบางเบาที่สุด จะต้องใช้เส้นใยแคชเมียร์ที่มีขนาดเล็กมากจนยากที่จะทอได้ จิม ทอมป์สัน จึงเคลือบสารพิเศษเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นใยแคชเมียร์ เมื่อทอเสร็จจึงนำไปล้างออกจนเหลือแต่ไหมกับแคชเมียร์ล้วนๆ ผ้าไหมผสมแคชเมียร์ของ จิม ทอมป์สัน จึงให้ความนุ่มแต่ก็บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ นับเป็นผลงานและเทคนิคที่ภาคภูมิใจของฝ่ายวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะออกผลิตออกจำหน่ายในเวลาอันใกล้นี้

ผ้าพันคอ Jim Thompson
จากผลงานศิลป์ สู่ลวดลายบนผืนผ้าพันคอ

ผ้าพลีท (Pleat) ผ้าพันคอไหมอัดพลีทของ จิม ทอมป์สัน ถูกพัฒนาไม่ให้รอยอัดพลีทหายไปหลังการซัก สามารถนำไปซักได้และรอยอัดพลีทจะยังคงอยู่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาไม่ได้ง่ายนัก เพราะโดยส่วนใหญ่ผ้าอัดพลีทในท้องตลาดที่เห็นจะเป็นผ้าใยสังเคราะห์แทบทั้งสิ้น

ผ้าไหมโมดัล (Silk Modal) โมดัล (Modal) เป็นเส้นใยที่สังเคราะห์ขึ้นจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติดูแลรักษาง่ายคล้ายฝ้าย แต่ละเอียด นุ่ม เหมือนเส้นไหม ขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติเย็นสบาย โปร่งอากาศ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและไม่เป็นทางการ (Casual) แต่ยังมีสัมผัสความรู้สึกที่หรูหราด้วยส่วนผสมของไหม

ชมลวดลายอื่นๆ ที่บ่งบอกความเป็นไทย

ผ้าพันคอ Jim Thompson
ลวดลายของนกกระตั้ว
ผ้าพันคอ Jim Thompson
ลวดลายที่ดัดแปลงมาจากนกกระตั้ว

 

ผ้าพันคอ Jim Thompson
ลวดลายพญานาค

 

ผ้าพันคอ Jim Thompson
ลวดลายช้างไทย

 

เฟียซแบบไทยๆ “เมคอัพลุคนางนพมาศ” สวยแพงทองอร่ามงามดุจนางในวรรณคดี

Alternative Textaccount_circle

ซิสสายแซ่บพร้อมสำหรับวันลอยกระทงกันหรือยัง? 1 ปีมีครั้ง อย่าไปลอยแบบหน้าสดค่ะ เปลี่ยนลุคให้ดูเฟียซที่สุด รับรองว่าใครเห็นก็ต้องบอกว่าแซ่บคงคอนเซ็ปต์ความเปรี้ยวซ่าเก๋ไก๋สไตล์นิกซ์เกิร์ลพร้อมเฉิดฉายทุกงาน งานนี้ แพรวดอทคอม เลยพาไปดูเทคนิค เมคอัพลุคนางนพมาศ เป็นการแต่งหน้าไปลอยกระทงแบบงามอย่างไทยแต่ซ่อนความเฟียซไม่เหมือนใครสไตล์สาวนิกซ์ กัน แน่นอนว่าโททัลลุคต้องดูสวยแพงโดยเน้นสีทองอร่ามงามดุจนางในวรรณคดี แต่มีลูกเล่นที่แตกต่างสไตล์นิกซ์ โดยใช้ทองจริงเป็นกิมมิคในลุคนี้

เฟียซแบบไทยๆ “เมคอัพลุคนางนพมาศ” สวยแพงทองอร่ามงามดุจนางในวรรณคดี

เริ่มจากงานผิว ปกปิดเป๊ะด้วย Can’t Stop Won’t Stop Foundation เช้าจรดเย็นสวยปังทั้งวัน รับรองไม่บ้ง แถมคุมมันกันเยิ้ม 24 ชม. ไปเลยจ้า ส่วนงานคอนทัวร์ก็อย่าให้ขาดค่ะ ยังไงก็ต้องฟาดหน้าให้ดูมีมิติ หน้าเล็กไว้ก่อน รับรองว่าถ่ายรูปมารอดทุกรูป

ขุ่นพระ อายแชโดว์โทนสีเหลือง ดำ มีอยู่ในพาเล็ตต์นี้ Sugartrip Licorice Lane และ Swear by it สีแน่น สดชัด เกลี่ยเข้าด้วยกันแล้วลงตัวสุดๆ เข้ากับชฎาสีทองมากค่ะ ทาแล้วแซ่บลืม แต่ก่อนจะฟาดอายแชโดว์สีสดใสให้ติดแน่นทนนาน ควรลงอายไพร์เมอร์ก่อน แค่นี้ก็ส่งสายตาพิฆาตหนุ่มๆ ได้แบบมั่นใจแล้วล่ะค่ะ

งานปิดทองก็มาค่ะซิส ระดับนิกซ์แล้วต้องไม่ธรรมดา ใช้แผ่นทองจริงๆ มาติดบนเปลือกตาและริมฝีปากให้ดูระยิบระยับเหมือนงานกลิตเตอร์โกลว์ๆ ไปเลยจ้า เพิ่มความแน่นโดยใช้กาวติดขนตาช่วย ตาและปากจะดูเด่นพุ่งไปอีก ในส่วนของปาก สาวๆลองใช้ Lingerie Gloss ทาทับบนทองได้เลย ปากก็จะดูอิ่มสวยขึ้นไปอีกค่า

เป็นนางนพมาศ สไตล์นางนพนิกซ์ ทั้งที งานหน้าโกลว์โหนกพุ่ง เราต้องสู้ค่ะ โกลว์ให้สุดด้วย Duo Chromatic ไฮไลท์ปั๊วะๆ ด้วยพาเล็ตต์นี้คุ้มมากซิส ฟาดทีเดียวรู้เรื่อง จะผิวขาว ผิวแทนใช้ได้หมด เปล่งประกายระยิบระยับระเรื่อขั้นสุด

คอมพลีทลุคด้วย Glitter บริเวณหัวตาเพื่อเพิ่มความออร่า วิ้งวับเบาๆ และปิดท้ายด้วย Dewy Setting Spray เพิ่มความดิวอี้ฉ่ำน้ำให้ผิว แถมล็อคเมคอัพไม่ให้ไหลเยิ้มอีก สวยตาแตกจริงๆ ค่ะซิส ไปตำให้ไวเลยจ้า

รู้ทริคแล้วก็อย่าลืมแต่งหน้าไปลอยกระทงแบบนางนพมาศ สไตล์นางนพนิกซ์กันนะคะ 


MODEL: @jane_kero
ARTIST: @aomjin
@NYXcosmetics_th

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แมนๆ ก็เมคอัพได้! “เจมส์ ธีรดนย์” โชว์ทักษะแต่งหน้าราวกับเมคอัพอาร์ติสต์มืออาชีพ

 แชร์ทริค”แพท ณปภา”ลุคหน้ากระแบบสาวฝรั่งผิวบ่มแดดจาก JiBbie Rubiie เมคอัพอาร์ติสต์

ถอดสูตรเมคอัพ Everyday Look พร้อมลิสต์ 27 บิวตี้ไอเท็มคู่ใจของ “แพร วทานิกา”

5 เคล็ดลับเมคอัพปรับลุคสวยหรูดูแพง สไตล์สาวอิตาเลียนแบบ “แพนเค้ก เขมนิจ”

 

‘เทรนด์รักเด็กมาแรงหรืออย่างไร แม้เขาเอาแต่ใจก็ยอมตามใจ’ ดูดวงรายวัน 19 พฤศจิกายน 2561

ดูดวงรายวัน 19 พฤศจิกายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  ท่านไม่สามารถที่จะหยุดทำงานได้ แถมวันนี้ยิ่งต้องขยันมากขึ้น นอกจากงานประจำที่ต้องลงแรงด้วยตัวเองแล้วยังต้องไปช่วยงานรุ่นน้องให้เขาได้ค่าขนมอีก

การเงิน : ใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : วันนี้ค่อนข้างราบเรียบราบรื่น ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ติดอยู่นิดเดียวตรงที่ท่านขี้หึง ขี้น้อยใจ แสนงอน และเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็ก จึงทำให้หงุดหงิดง่าย คนโสด ท่านอาจได้อุปการะเด็ก ซึ่งเด็กคนนี้มีนิสัยเอาแต่ใจ ดื้อ  แต่หากเขารักใครแล้วก็จะซื่อสัตย์และซื่อตรงไปจนวันตายเลยทีเดียว

สุขภาพ : จะมีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ปวดหลัง และปวดกล้ามเนื้อ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์         

การงาน : หากท่านจะเดินทางไปติดต่อประสานงาน หรือบริหารจัดการและเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำกับบุคคลอื่น ก็อย่าพกอีโก้และความเชื่อมั่นไปมาก เพราะวันนี้ท่านมีความคิดเห็นและทัศนคติขัดแย้งกับเขาไปหมด จนท่านกล้าได้กล้าเสีย และเสี่ยงจนน่ากลัว

การเงิน : เล็งผลตอบแทนในการทำธุรกิจ การลงทุน ค่อนข้างสูง จึงทุ่มเงินก้อนใหญ่ ซึ่งวันนี้ท่านอาจเก็งผิดจนมีหนี้สิน

ความรัก : ควรลดทิฐิมานะและความเชื่อมั่นลงบ้าง เพราะเวลาทะเลาะกัน โดยเฉพาะเรื่องลูก หรือบริวารในบ้าน ท่านจะยึดถือความถูกต้องของตัวเองมากกว่าเหตุผล จึงทำให้เรื่องลุกลามบานปลาย คนโสด จะมีเด็กๆ มากิ๊วก๊าว ซึ่งท่านก็พยายามเปลี่ยนเด็กให้เหมือนท่าน แต่เด็กคนนี้ก็เอาแต่ใจได้โล่ ดูท่าแล้วน่าจะไปด้วยกันลำบาก

สุขภาพ : อย่าคิดฟุ้งมาก เพราะจะทำให้เครียด เดี๋ยวไมเกรนจะถามหาเสียก่อน

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : งานที่ท่านกำลังทำอยู่ขณะนี้ แม้ท่านจะตั้งใจ ให้เวลาทั้งหมดจนไม่สนใจเรื่องอื่นใดเลย แต่ก็จะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เอาแรงกายแรงใจทั้งหมดมารับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่กำลังจะเข้ามาในทุกๆ ด้านดีกว่า ฝืนทำไปก็ไม่มีประโยชน์

การเงิน : ความสำเร็จความมั่นคงที่ท่านคาดหวังจะได้แค่ 50-50 ไม่สามารถพึ่งใครได้เลย

ความรัก :  ท่านงานยุ่ง จนไม่สามารถที่จะแบ่งเวลาระหว่างครอบครัวกับงานได้ จึงปล่อยให้ครอบครัวอยู่กันตามลำพังมานานจนวันนี้อาจเกิดปัญหาบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง คนโสด อยู่เป็นโสดก่อนดีกว่าค่ะ ไม่อย่างนั้นท่านมีเกณฑ์มีความรักที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้

สุขภาพ :  ระวังเรื่องระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ และลำไส้ จะทำให้มีอาการปวดเสียดท้อง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  ท่านผ่านปัญหามาเยอะ วันนี้พักก่อนค่ะ ไม่ต้องห่วงงานบริการหรือสถานบันเทิงยามราตรีที่ข้องเกี่ยวอยู่จะมีผู้หญิงมาช่วยดูแลงานให้ผ่านไปได้ด้วยดี ท่านพักให้สบายใจแล้วค่อยมาทำงานต่อ

การเงิน :  วันนี้ทำธุรกิจคนเดียวจะเวิร์คกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่น

ความรัก : ที่ผ่านมาท่านได้รับการดูแลที่ดีจากครอบครัว ซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน แต่ด้วยทิฐิและความคิดอ่านแบบเด็กๆ ทำให้ท่านเรียกร้องสูง ทำให้การครองรักไม่ราบรื่น โดยเฉพาะอาจมีปัญหาเรื่องบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง  คนโสด จากความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ท่านอาจหลงชอบเพื่อน แต่เขามีคู่อยู่แล้ว จึงต้องตัดใจ

สุขภาพ :  ระวังติดเชื้อไวรัสและโรคภูมิแพ้จะทำให้ร่างกายเจ็บป่วย ยิ่งหากไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยด้วยแล้วก็จะยิ่งติดเชื้อได้ง่ายมาก

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  ยังคงยืนยันความสำเร็จที่ได้รับจากเมื่อวาน แต่ควรระวังคำพูดในการตกลงโดยเฉพาะในเรื่องของผลประโยชน์ รวมทั้งเอกสารสัญญาด้วย ควรดูให้รอบคอบ ไม่อย่างนั้นอาจเสียเปรียบ

การเงิน :  หมดไปกับการช็อปปิ้งของราคาแพง ควรแบ่งเงินไปซื้อที่ดิน หรืออสังหาฯ เก็บไว้บ้าง

ความรัก :  มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวน ไม่ค่อยมีเหตุผล หากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากๆ พอห่างกันก็หงุดหงิด หรือหึงหวงโดยไร้เหตุผล แต่หากท่านเบื่อก็เบื่อแบบเข้าหน้าไม่ติดเลย คนโสด ขอความสำเร็จก่อนแล้วจึงคิดถึงความรัก

สุขภาพ : หักโหมงานหนัก ไม่พักผ่อนและไม่สนใจดูแลตัวเอง ควรระวังหลายโรคเลยคือ โรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ หลอดเลือด หัวใจ นอกจากนั้นก็มีสายตา และอาการปวดหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  ท่านต้องใช้พลังกาย พลังใจและพลังสมองในการทำงาน เพื่อให้ผ่านพ้นจากความอึดอัดที่ท่านกำลังเผชิญอยู่จนอยากลาออกไปให้ได้ แม้วันนี้ไอเดียของท่านจะไม่มีใครเก็ท ต้องปล่อยให้ผ่านไปอย่างน่าเสียดายก็ตามที

การเงิน :  มีรายจ่ายเยอะ ร้อนเงิน มีเกณฑ์ต้องหยิบยืมเงินมาหมุนเพื่อให้ไปต่อได้

ความรัก : มีปัญหาเรื่องมือที่สามเข้ามาวุ่นวายใจ ทำให้ความรักสะดุด เพราะความหึงหวงทำให้ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจึงอาจเลือกที่จะคุยกันเฉพาะเรื่องงาน เรื่องอื่นไม่ยุ่ง คนโสด ท่านอาจผิดหวังกับความรักมามากจนไม่หวังเรื่องแต่งงานแล้ว

สุขภาพ :  สภาพร่างกายไวต่อความเปลี่ยนแปลงของอากาศมาก อาจป่วยหรือเกิดโรคภูมิแพ้ได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : นวัตกรรมที่กำลังสร้างสรรค์อยู่ จะมีปัญหาและอุปสรรคถาโถมเข้ามาทุกๆ ด้าน ซึ่งท่านก็มีพลังกายและพลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปอย่างไม่ยอมแพ้ วันนี้อาจรามือก่อนก็ได้ เพราะลูกน้องหรือบริวารอาจไม่สู้อย่างที่ท่านคาดหวัง

การเงิน :  เงินที่ท่านไปติดต่อหรือลงทุนไว้ เพื่อนำมาสร้างผลงานอาจติดขัด ช่วงนี้คงต้องพึ่งตัวเองก่อนละ

ความรัก : ระวังอาจมีปัญหาความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน ซึ่งท่านก็ไม่ยอม จึงลุกลามใหญ่โต คนโสด มีเสน่ห์ เนื้อหอม มีคนหมายปองมากมาย แต่วันนี้ท่านจะเจอแต่คนมีคู่แล้วทั้งนั้น

สุขภาพ : ควรดูแลใส่ใจเรื่องการขับถ่าย โดยเฉพาะอย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กรีน-อัษฎาพร กับแฟชั่น ชุดแต่งงานไทย สไตล์เรียบหรูในนิตยสารแพรว wedding

account_circle

กรีน – อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล นักแสดงสาวหน้าหวาน ที่ฝากผลงานโดนใจใครต่อใครไว้หลายเรื่อง และตีบทได้แตกกระจุยจนคนอินตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง แพรว wedding เลยชักชวนกรีน ให้มาสวมบทบาทเป็นแม่หญิงไทยสวม ชุดแต่งงานไทย สวยๆ ดูบ้าง และเธอคนนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ คะ เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดไทยแบบไหนเธอก็ทั้งสวยหวานและสวยหรูดูดีในทุกชุด

ซึ่งแฟชั่นชุดแต่งงานเซตนี้มีมาในโทนสีหวานที่ดูเป็นแม่หญิงไทยสุดๆ และเป็นเฉดสีที่ว่าที่เจ้าสาวทุกสีผิวสามารถใส่ตามได้ง่ายอีกด้วย

กรีน อัษฎาพร
ชุดไทย Modern Wedding Studio

งดงามแสนหวานด้วยชุดไทยจักรีสีชมพูและเทาหม่น ห่มสไบปักดิ้นเงินอย่างประณีตทั้งตัว สวมใส่เครื่องประดับเงินและอัญมณีสีชมพูเลียนอย่างโบราณดูอ่อนหวานงามสง่า ชุดจาก Modern Wedding Studio

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทย Modern Wedding Studio

ชุดไทยจักรพรรดิห่มสไบสีแดงมะฮอกกานีทับด้วยสไบกรองสีเงินปักเลื่อมด้วยดิ้นเงินทั้งตัว ผ้านุ่งสีแดงปักด้วยดิ้นเงินสีสันและลวดลายรับกับท่อนบนดูหรูหราสง่างาม ชุดจาก Modern Wedding Studio

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทย Smile in Love & Wedding Studio

งามสง่าดุจสตรีสูงศักดิ์ด้วยชุดไทยศิวาลัยสีขาวมุกปักดิ้นเงินทั้งตัว ผ้านุ่งไหมปักลายรับกับท่อนบนนุ่งแบบจีบหน้านางและเชิงล่างมีชายพกดูประณีตงดงาม ชุดจาก Smile in Love & Wedding Studio

ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย เจ้านางเวดดิ้ง

แปลงกายเป็นแม่หญิงไทยอ่อนหวาน ในชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูอมส้มห่มสไบรองสีชมพูอ่อน ทับด้วยสไบกรองปักเลื่อมสีชมพูทองทั้งตัว ผ้านุ่งไหมปักลวดลายรับกับสไบ ชุดจาก เจ้านางเวดดิ้ง

ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย Vanus Couture

หวานละมุนละไมด้วยชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูกลีบบัวห่มสไบจีบสีชมพูอ่อนทับด้วยสไบกรองปักเลื่อมสองกษัตริย์ลวดลายสุดวิจิตร นุ่งสดผ้าไหมพาราณสีแบบจีบหน้านางและชายพกดูอ่อนช้อยงดงาม ชุดจาก Vanus Couture

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทย Deep Love Wedding

ชุดไทยประยุกต์สีชมพูแสนหวาน ท่อนบนคล้ายชุดไทยจักรพรรดิห่มสไบรองสีชมพูทับด้วยสไบกรองปักเลื่อมเงิน ส่วนท่อนล่างคือกระโปรงทรงเมอร์เมดผ้าไหมสีชมพูเหลือบเงินยกสอดดิ้นเงินแบบจีบหน้านางพร้อมชายพก ชุดจาก Deep Love Wedding 

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทย Modern Wedding Studio

สวยสง่าในชุดไทยจักรพรรดิสีทองห่มสไบรองสีชมพูอ่อนทับด้วยสไบกรองปักเลื่อมสีทองทั้งตัว ผ้านุ่งแบบจีบหน้านางมีชายพกปักเลื่อมอย่างละเอียดลอองามพร้อมด้วยเครื่องประดับสีทองแบบโบราณ ชุดจาก Modern Wedding Studio

ชุดแต่งงานไทย
ชุดไทย วสันต์ ชุดไทย Wasan Shudthai

งามสง่าสะกดทุกสายตาด้วยชุดไทยจักรีสไบสีทองปักเลื่อมทองทั้งตัว นุ่งผ้าไหมสีส้มทองปักเลื่อมเชิงล่างอย่างประณีตงดงาม เสริมความงามยิ่งขึ้นด้วยเครื่องประดับสีทอง ชุดจาก วสันต์ชุดไทย Wasan Shudthai

เสื้อผ้า : Deep Love Wedding โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556, Smile in Love & Wedding Studio โทร. 06-3224-6647, Vanus Couture โทร. 0-2002-4895, 0-2002-4896, วสันต์ ชุดไทย Wasan Shudthai โทร. 06-2223-5050, 08-2669-6959, เจ้านางเวดดิ้ง โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999, Modern Wedding Studio โทร. 0-7621-4966, 09-7265-5491

สถานที่ : The Botanical House Bangkok เว็บไซต์ : www.thebotanicalhousebangkok.com

อัพเดต เทรนด์เล็บเจ้าสาว ที่จะฮอตฮิตและมาแรงสุดๆในปี 2019

account_circle

เพราะความสวยไม่ได้ดูกันแค่ที่ใบหน้า เรียวเล็บก็ต้องสวยเจิดจรัสเช่นกัน ดังนั้นคุณเจ้าสาวจะละทิ้งความงามของเล็บไปไม่ได้ เทรนด์เล็บเจ้าสาว ที่จะเกิดขึ้นในปี 2019 นี้มีเทรนด์อะไรบ้าง รีบมาดูกันก่อนได้อินเทรนด์กันก่อนใคร

เทรนด์เล็บเจ้าสาว ปี 2019

  • White Nail Designs

nail

 

  • Add Some Colors

เทรนด์เล็บเจ้าสาว

  • Nude Nails With Black Flowers And Leaves

เล็บ

  • Original Nail Designs With Rhinestones

เล็บเจ้าสาว

 

  • Trendy Gradient Wedding Nails

เล็บเจ้าสาว

  • Lovely Pink Designs

เล็บเจ้าสาว

  • Inspiring Wedding Designs

เล็บ

  • Perfect Nail With Golden Touch

เล็บทอง

  • Stylish French Nails Ideas

เล็บเจ้าสาว

  • Gentle Flowers On Bridal Nails

แต่ละแบบน่าสนใจทั้งนั้นเลย ชอบแบบไหนจัดกันได้เลยนะคะ

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการบำรุงทั้งจากภายในหรือภายนอกที่เราเสนอไป ถึงแม้จะเห็นผลช้าสักหน่อยก็อย่าเพิ่งท้อใจแล้วหยุดทำไปเสียก่อนนะคะ เพราะผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน การที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บนั้นอาจจะต้องใช้กระบวนการที่นานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล การดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงเส้นชัยได้มากที่สุด ให้เวลาเล็บของคุณได้ตอบสนองกับอาหารและวิตามินต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปสักหน่อย และถ้าหากเล็บของคุณมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่แนะนำให้คุณเข้าร้านเพื่อให้มืออาชีพทำการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย รับรองว่าเล็บสวยอยู่แค่ปลายนิ้วมือแน่นอน

เครดิตภาพ : pinterest

เครดิตเรื่อง : weddingforward

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการบำรุงทั้งจากภายในหรือภายนอกที่เราเสนอไป ถึงแม้จะเห็นผลช้าสักหน่อยก็อย่าเพิ่งท้อใจแล้วหยุดทำไปเสียก่อนนะคะ เพราะผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน การที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บนั้นอาจจะต้องใช้กระบวนการที่นานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล การดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงเส้นชัยได้มากที่สุด ให้เวลาเล็บของคุณได้ตอบสนองกับอาหารและวิตามินต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปสักหน่อย และถ้าหากเล็บของคุณมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่แนะนำให้คุณเข้าร้านเพื่อให้มืออาชีพทำการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย รับรองว่าเล็บสวยอยู่แค่ปลายนิ้วมือแน่นอนสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการบำรุงทั้งจากภายในหรือภายนอกที่เราเสนอไป ถึงแม้จะเห็นผลช้าสักหน่อยก็อย่าเพิ่งท้อใจแล้วหยุดทำไปเสียก่อนนะคะ เพราะผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน การที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บนั้นอาจจะต้องใช้กระบวนการที่นานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล การดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงเส้นชัยได้มากที่สุด ให้เวลาเล็บของคุณได้ตอบสนองกับอาหารและวิตามินต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปสักหน่อย และถ้าหากเล็บของคุณมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่แนะนำให้คุณเข้าร้านเพื่อให้มืออาชีพทำการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย รับรองว่าเล็บสวยอยู่แค่ปลายนิ้วมือแน่นอนสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการบำรุงทั้งจากภายในหรือภายนอกที่เราเสนอไป ถึงแม้จะเห็นผลช้าสักหน่อยก็อย่าเพิ่งท้อใจแล้วหยุดทำไปเสียก่อนนะคะ เพราะผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน การที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บนั้นอาจจะต้องใช้กระบวนการที่นานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล การดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงเส้นชัยได้มากที่สุด ให้เวลาเล็บของคุณได้ตอบสนองกับอาหารและวิตามินต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปสักหน่อย และถ้าหากเล็บของคุณมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่แนะนำให้คุณเข้าร้านเพื่อให้มืออาชีพทำการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย รับรองว่าเล็บสวยอยู่แค่ปลายนิ้วมือแน่นอนสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการบำรุงทั้งจากภายในหรือภายนอกที่เราเสนอไป ถึงแม้จะเห็นผลช้าสักหน่อยก็อย่าเพิ่งท้อใจแล้วหยุดทำไปเสียก่อนนะคะ เพราะผลลัพธ์ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน การที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บนั้นอาจจะต้องใช้กระบวนการที่นานสักหน่อยกว่าจะเห็นผล การดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าถึงเส้นชัยได้มากที่สุด ให้เวลาเล็บของคุณได้ตอบสนองกับอาหารและวิตามินต่างๆ ที่คุณกินเข้าไปสักหน่อย และถ้าหากเล็บของคุณมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่แนะนำให้คุณเข้าร้านเพื่อให้มืออาชีพทำการช่วยเหลือหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย รับรองว่าเล็บสวยอยู่แค่ปลายนิ้วมือแน่นอน

รังสรรค์ค่ำคืนแห่งความสุข กับเอ็กซ์คลูซีฟดินเนอร์ระดับเวิลด์คลาสโดยเชฟมิชลินสตาร์

กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (KRUNGSRI EXCLUSIVE) นำโดย กนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความมั่งคั่งและลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ และสายงานธุรกิจสาขากลาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จัดงาน “กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มิชลิน ดินเนอร์ (KRUNGSRI EXCLUSIVE Michelin Dinner)” รังสรรค์มื้ออาหารค่ำสุดพิเศษจากสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์เพื่อลูกค้าคนสำคัญ ณ ห้องอาหารฝรั่งเศส La VIE – Creative French Cuisine โรงแรม วี กรุงเทพฯ เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล

กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มิชลิน ดินเนอร์ (KRUNGSRI EXCLUSIVE Michelin Dinner) ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจในการสร้างสรรค์และนำเสนอสิทธิพิเศษที่นอกเหนือจากเอกสิทธิ์ทางด้านการเงินการลงทุนเพื่อตอบโจทย์ความสุขอย่างรอบด้านให้แก่ลูกค้าคนสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟเชื่อว่าความสุขคือผลตอบแทนที่มีค่าที่สุดของชีวิต โดยในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก สเตฟาน บูคง

เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “สุดยอดเชฟแห่งเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส” บินตรงมาโชว์ฝีมือการทำอาหารชั้นเลิศกับ 7 ซิกเนเจอร์เมนูที่น่าสนใจ ทันสมัยและดูมีชีวิตชีวา โดดเด่นด้วยรสชาติที่อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ เมนูทูน่าทาร์ทาร์ สูตรลับเฉพาะของเชฟมิชลิน เพิ่มความอร่อยด้วยคาเวียร์ และซอสส้มจากญี่ปุ่น, เมนูไข่ปรุงด้วยกรรมวิธี ซูวี ใช้ความร้อนคงที่ปรุงอย่างพิถีพิถันและเสิร์ฟพร้อมเห็ดแชมปิญองสด หรือจะเป็นเมนูของหวานที่มาในธีมสีเขียว คลอโรฟิลล์ พาสลี่พุดดิ้ง เสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ต และดอกไม้สมุนไพรจากประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น และทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเติมเต็มความสุขและตอบแทนคำขอบคุณที่ทุกท่านไว้วางใจให้กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ

นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากบรรดาเซเลบริตี้ผู้ชื่นชอบในมนต์เสน่ห์อันกลมกล่อมของอาหารสไตล์ฝรั่งเศสมาร่วมงาน อาทิ กรณ์วิภา โชติกเสถียร, วสุ วิรัชศิลป์, จงกล พลาฤทธิ์ และ ญาณินท์ วีระไวทยะ โดยมี สาวิตรี โรจนพฤกษ์ รับหน้าที่เป็นพิธีกร

ร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับพร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายที่คัดสรรมาให้ลูกค้าคนสำคัญตลอดทั้งปี ให้กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟเป็นผู้ดูแลทุกเรื่องการเงินของคุณเพื่อพบกับที่สุดของเอกสิทธิ์แห่งความสุขในทุกวันของชีวิต ติดต่อได้ที่ 02-296-5566 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.30 น. หรือwww.krungsri.com/bank/th/Contact/ExclusiveContact.html

‘วันนี้คบเด็กไม่เวิร์ค เพราะเป็นแบ๊ดบอยเกินรับไหว’ ดูดวงรายวัน 18 พฤศจิกายน 2561

ดูดวงรายวัน 18 พฤศจิกายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ภายในองค์กรมีการทะเลาะกัน หรือการตัดสินใจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ท่านอึดอัดร้อนรุ่ม เบื่อหน่ายไปหมด ทั้งบรรยากาศในองค์กร เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย จนอยากลาออก ก็อย่าเพิ่งตีตนไปก่อน เพราะไม่ซีเรียสขนาดนั้น ท่านยังสามารถทำงานต่อไปได้

การเงิน : มีช่องทางได้เงินพิเศษเป็นค่าผลงาน แต่ท่านก็มีรายจ่ายเยอะจนอาจเป็นหนี้

ความรัก : อาจมีปัญหาวุ่นวายเรื่องการเข้าใจผิด หรือมีเหตุสะดุดเพราะมือที่สามเข้ามาแทรกแซง จนมีปากเสียงกันเพราะความหึงหวง ทางที่ดีท่านควรทำหูไปนาตาไปไร่ไม่ต้องใส่ใจ เดี๋ยวก็เลิกไปเอง คนโสด ท่านพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คนที่หมายปองมา แต่เจ้าตัวกลับชิล ไม่รับรู้ใดๆ

สุขภาพ : ระวังเดินชนนั่นนี่จนเกิดบาดแผลฟกช้ำดำเขียวตามร่างกาย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : หากท่านกำลังคิดจะเปิดธุรกิจส่วนตัว ควรลดอีโก้หรือความเชื่อมั่นในตัวเองลงบ้าง เพราะทำให้ท่านไม่สนใจความคิดเห็นของคนในครอบครัวเลย ซึ่งเสี่ยงต่อการขัดแย้งกันอย่างยิ่ง แล้วหากล้มหรือผิดพลาดเมื่อไหร่ถูกซ้ำเติมเละเลย

การเงิน : ระวังเงินทองที่หามาได้อาจเป็นเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก : ครอบครัวที่เคยดูแลท่านอย่างดี วันนี้ท่านอาจสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ นิ่งเฉยไว้ก่อนอย่าเพิ่งด่วนประชดประชัน ค่อยๆ คุยกัน คนโสด หากท่านพบกับความผิดหวังประมาณ 2 ครั้งแล้ว วันนี้ท่านจะได้พบคู่แท้

สุขภาพ : ดูแลเรื่องระบบขับถ่าย โดยเฉพาะการกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : งานที่ท่านพยายามบุกเบิกหรือเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาให้ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงาน อาจล้มเหลวไปต่อไม่ได้ ซึ่งท่านต้องเริ่มต้นใหม่และอาจต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานในสถานที่อโคจรด้วย ควรหลีกเลี่ยงเพราะทำให้เสียเวลา

การเงิน : อาจต้องเสียเงินกับการเลี้ยงดูปูเสื่อบริวาร หรือผู้ใต้บังคับบัญชา จนการเงินท่านสะดุด

ความรัก :  ท่านอาจแต่งงานกับคนที่อายุน้อยกว่า แม้โดยรวมจะมีความสุขดี แต่คู่ท่านยังชอบดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอยู่ ขณะที่ท่านห่างมาแล้ว จึงทำให้มีปัญหา คนโสด วันนี้คบกับเด็กไม่เวิร์คค่ะ เพราะเขาเป็นแบ๊ดบอยเกิ๊น

สุขภาพ :  อย่าประมาท อยู่ห่างไกลจากของมีคม และอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดประกายไฟทุกชนิด

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  อารมณ์ท่านแปรปรวนมาก เพราะความสำเร็จที่ตั้งไว้ไม่เป็นไปตามเป้า ควรลดอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวเองลงบ้าง แล้วหาเพื่อนที่ไว้ใจ ซึ่งวันนี้น่าจะเป็นรุ่นน้องมาช่วยทำงานก็จะทำให้สร้างผลงานได้

การเงิน :  หมดกับการเดินทาง ความรัก และลูกหลาน จนเงินไม่พอใช้ ต้องกลับไปขอผู้ใหญ่ที่บ้าน

ความรัก : ด้วยทิฐิและความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมาก ทำให้ภายในครอบครัวมีแต่ใส่อารมณ์เข้าหากัน วันอาทิตย์ทั้งทีชวนกันไปหาความสุขนอกบ้านพร้อมหน้าพร้อมตาบ้าง จะช่วยลดบรรยากาศที่ตึงเครียดลง  คนโสด วันนี้ท่านจะเจอเด็กเอาแต่ใจ สามารถคบกันได้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

สุขภาพ :  ควรพกยาดม ยาลม ยาหม่องไปด้วย เพราะท่านอาจเวียนศีรษะหน้ามืด ตาลาย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  ท่านพยายามบุกเบิกงานให้เป็นที่รู้จัก ด้วยการโหมทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างหนัก จนอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงยามราตรีด้วย หากท่านขยันทำงาน ผลตอบรับก็ย่อมดีเป็นธรรมดา ตอนเย็นเหมือนมีการเฉลิมฉลองความสำเร็จด้วย

การเงิน :  ต้องเสียเหงื่อจึงจะได้มา ซึ่งก็จะหมดอย่างรวดเร็วกับการกินดื่ม และซื้อของราคาแพง

ความรัก :  ท่านแต่งงานกับคนหนุ่มเลือดร้อน ดื่มกินเที่ยวมาอย่างโชกโชน แต่เมื่อมีครอบครัวเขาก็เปลี่ยนเป็นคนหนุ่มที่ดูแลเอาใจใส่ครอบครัวอย่างดี แต่ท่านยังไม่วางใจนัก วันนี้จึงมีอารมณ์หึงหวงเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน คนโสด ท่านมีโอกาสได้เจอเด็กหนุ่มในสถานบันเทิง ที่มีไลฟ์สไตล์ work hard และ play hard

สุขภาพ : ท่านรักษาสุขภาพอย่างดี แต่จะพลาดท่าเสียทีไปติดเชื้อไวรัสจากคนอื่นโดยไม่รู้ตัวนี่ละ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  วันนี้ต้องใช้องค์ประกอบ 3 ประสานงานจึงสำเร็จค่ะ คือความกล้าท้าลุยที่ไม่เกรงกลัวใคร ความรู้สึกจินตนาการ และความเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านมีครบ เหลือเพียงแค่พยายามเลือกใช้ให้ถูกช่องถูกจังหวะ รับรองงานไปโลด

การเงิน :  ก่อนลงทุนควรคิดพิจารณาให้รอบคอบ อย่าด่วนทุ่ม เพราะท่านอาจขาดทุนได้

ความรัก : อารมณ์ 2 ขั้วมาก ท่านสตรอง ขณะเดียวกันก็มีความมโนสูง อาจเป็นเพราะเริ่มต้นชีวิตคู่จากความเหมาะสมหลายๆ อย่าง แต่ไม่ใช่ความรัก จึงทำให้ความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน ต้องพยายามปรับตัวกันไป คนโสด ท่านเป็นผู้หญิงสตรอง อยู่คนเดียวได้ แม้อดีตคนรักเก่าจะกลับมาขอคืนดี ก็ไม่สนใจ

สุขภาพ :  ควรระวังปัญหาเกี่ยวกับโรคทางสมองและหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่อง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ลดๆ อีโก้ และความเชื่อมั่นในตัวเองลงบ้างค่ะ เพราะท่านจะมีทัศนคติขัดแย้งกับหน่วยงานหรือบุคคลที่ไปติดต่องานด้วย ซึ่งท่านไม่ฟังความคิดเห็นของเขาเลย ทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีกัน หากท่านพลาดเมื่อไหร่ มีหวังโดนซ้ำเติมแน่

การเงิน :  อาจมีปากเสียงกับหุ้นส่วน จนทำให้เงินตึงตัว

ความรัก :  อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนรวดเร็วมาก ระวังการมีปากเสียง อยู่ห่างๆ กันไว้ดีที่สุด คนโสด อยู่เป็นโสดก่อนนะคะ เพราะวันนี้ท่านมีเกณฑ์ขัดแย้งและมีปากเสียง

สุขภาพ : วันอาทิตย์ทั้งทีอย่าเครียด หากิจกรรมทำผ่อนคลาย ไปเที่ยวดูหนัง ช็อปปิ้งก็ดีนะ

ชวนว่าที่เจ้าสาวตามส่อง สกินแคร์ เลิศๆ บำรุงให้ผิวมีออร่าเจิดสุดๆ

account_circle

เมคอัพช่วยให้เจ้าสาวสวยในวันงานก็จริง แต่การมีผิวที่ดีย่อมส่งให้เจ้าสาวเจิดจรัสยิ่งกว่า แพรวเวดดิ้ง ขอพาว่าที่เจ้าสาว มาส่อง สกินแคร์ เลิศๆของปลายปีนี้กัน

สกินแคร์ ตัวไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

ชะลอการก่อตัวของริ้วรอยแห่งวัย

  • IPSA Skin Charge CS Essence

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง คือตัวเร่งให้ผิวไปสู่จุดเปลี่ยนแห่งวัย อิปซ่าคิดค้นเอสเซนส์ถนอมผิว ชะลอการก่อตัวของริ้วรอยแห่งวัย รับมือกับปัญหา “สภาพผิวหย่อนคล้อยปัญหารูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด” เพื่อผิวรู้สึกยืดหยุ่นแน่นกระชับ ดูกระจ่างใส รูขุมขนดูกระชับเล็กลง พร้อมช่วยเสริมให้การแต่งหน้าเรียบเนียน ติดทน

สกินแคร์
IPSA Skin Charge CS Essence (อิปซ่า สกินชาร์จ ซี เอส เอสเซนส์) ขนาด 30 มล. ราคา 3,500บาท

“IPSA Skin Charge CS Essence” เป็นผลิตภัณฑ์ชะลอการก่อตัวริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งรับมือกับปัจจัยต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นพร้อมกัน อันเป็นสาเหตุทำให้เนื้อผิวหย่อนคล้อย เร่งให้รูขุมขนขยายตัวกว้างอย่างเห็นได้ชัด นี่คือเอสเซ้นส์สำหรับผิวที่กำลังเผชิญกับปัญหารูขุมขนขยายกว้าง ปรากฏชัดเมื่อโครงสร้างผิวหย่อนตัว ขาดความยืดหยุ่น แน่นกระชับ

  1. ฟื้นบำรุงความแข็งแรงผิว ถนอมความแน่นกระชับ ชะลอการหย่อนคล้อยของเนื้อผิว
  • Ginkgo Biloba Extract (ส่วนผสมมอบความชุ่มชื่น) และ Peony Extract ฟื้นบำรุงสภาพผิว คืนความรู้สึกยืดหยุ่นแน่นกระชับ ลดการผลิตซีบัมส่วนเกิน
  1. ปกป้องสภาพแวดล้อมผิวเพื่อเปิดโอกาสให้กระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวดำเนินไปตามธรรมชาติ จึงเท่ากับช่วยคงความยืดหยุ่นให้เนื้อผิว ชะลอการเกิดปัญหารูขุมขนขยายกว้าง ผิวแห้ง ฯลฯ ก่อสภาพผิวชุ่มชื่น อิ่มเอิบ รู้สึกแน่นกระชับ
  • Neo Active Yeast Extract EX, RubusSuavissimus Extract, Glycerin ส่วนผสมมอบความชุ่มชื้น
  1. คลี่ตัวเคลือบผิว ลดเลือนปัญหารูขุมขนขยายกว้าง
  • ส่วนผสมมอบความชุ่มชื่น “Double Barrier Actor IV” (Polyquaternium-51, Fermented Soybean Extract, Trehalose, Glycerin) คลี่ตัวเคลือบผิวเสมือนเป็นปราการปกป้องชั้นนอกสุด

 

ผิวสว่างกระจ่างใส

  •  นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ เอฟวรีเดย์ ไวท์เทนนิ่ง

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากกลุ่มนัมเบอร์เซเว่น ประกอบด้วย 8 ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีสาหร่ายสีแดงสารสกัดจากใบมัลเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น สารสกัดจากเลมอนช่วยในการปรับโทนสีผิวให้ดูเรียบเนียน รวมทั้งสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจนถึงขั้นตอนบำรุง มอบผลลัพธ์ให้ผิวเนียนนุ่มกระจ่างใส มีสีผิวเนียนเรียบสม่ำเสมอ

สกินแคร์
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ เคลนซิ่ง โฟม:ทำความสะอาดผิวเพื่อความกระจ่างใส (No7 White & Bright Cleansing Foam)ขนาด 150 มล. ราคา 495 บาท เคลนเซอร์เนื้อโฟมสัมผัสละมุนนี้สามารถชำระล้างคราบเมคอัพและสิ่งสกปรกออกอย่างอ่อนโยน ให้ผิวคุณกระจ่างใสขึ้น

 

นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ไฮเดรติ้ง โทนเนอร์:มอบความกระจ่างใส (No7 White & Bright HydratingToner)ขนาด 200 มล. ราคา 495 บาท โทนเนอร์ช่วยเติมความสดชื่น ให้ผิวดูกระจ่างใสยิ่งขึ้นพร้อมกระชับรูขุมขน
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ คอนเซนเทรเท็ตเอสเซนส์ โลชั่น: เพื่อผิวแลดูสว่าง กระจ่างใสยิ่งขึ้น (No7 White & Bright Concentrated Essence Lotion)ขนาด 150มล. ราคา 950 บาท ซึมซาบเร็วและตรงเข้ามอบความชุ่มชื้นสู่ผิวทันที
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์สลีปปิ้งมาสก์: ตื่นขึ้นมาพร้อมผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น (No7 White & Bright Sleeping Mask)ขนาด 50มล. ราคา 850 บาท ปรนนิบัติและฟื้นฟูความสว่างกระจ่างใสแก่ผิวที่แลดูอ่อนล้าในชั่วข้ามคืน
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ เดย์ครีม เอสพีเอฟ 25 พีเอ++ (No7 White & Bright Day Cream SPF25 PA++)ขนาด 50 มล. ราคา 750 บาท ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าผสมสารป้องกันแสงแดด SPF25 PA++ มีส่วนผสมของสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ช่วยให้ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ ไนท์ ทรีทเมนต์ (No7 White & Bright Night Treatment)ขนาด 50 มล. ราคา 750 บาท ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสูตรกลางคืน อุดมไปด้วยวิตามินซี พร้อมด้วยสารสกัดจากมัลเบอร์รี่ และโสมทำหน้าที่เป็น Anti-oxidant และสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ พร้อมเผยผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนกว่าวัย
นัมเบอร์เซเว่น ไวท์แอนด์ไบรท์ อินเทนซีฟ อายครีม (No7 White & Bright Intensive Eye Cream)ขนาด 15มล. ราคา 700 บาท ผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตา ด้วยส่วนผสมจากวิตามินซี และสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ช่วยให้ผิวรอบดวงตาที่ดูเหนื่อยล้า แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ไวท์แอนด์ไบรท์ เฟเชียล ยูวี โพรเท็คชั่น เอสพีเอฟ50 พีเอ++++ (No7 White & Bright Facial UV Protection SPF50/ PA++++) ขนาด 30มล. ราคา 700 บาท ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด SPF50/PA++++ สำหรับผิวหน้าและบริเวณลำคอ อุดมไปด้วยวิตามินซีและสาหร่ายสีแดง ช่วยให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ และกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

keyboard_arrow_up