ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า” หนังสืออันทรงคุณค่าที่น่าอ่าน

Alternative Textaccount_circle
ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า
ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า” หนังสืออันทรงคุณค่าที่น่าอ่าน… เนื่องในโอกาสครบรอบ 125 ปีแห่งวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือโอกาสที่เหมาะสมนี้จัดทำหนังสือ “ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า” ขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเผยแพร่ให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจที่สำคัญหลากหลายประการที่พระองค์ท่านได้ทรงบำเพ็ญไว้อย่างมากมาย

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

แรงบันดาลใจด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

คุณสรวิช ภิรมย์ภักดี เหลนของพระยาภิรมย์ภักดี ผู้ก่อตั้งบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในฐานะกรรมการ บริษัท พิพิธภัณฑ์สิงห์ จำกัด และเป็นผู้อำนวยการโครงการจัดพิมพ์หนังสืออันทรงคุณค่าเล่มนี้ ได้เล่าถึง จุดเริ่มต้นว่า

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า
คุณสรวิช ภิรมย์ภักดี

“แรงบันดาลใจที่คิดจะทำหนังสือ ‘ประชาธิปก พระบารมี ปกเกล้า’ เริ่มต้นจากที่ผมได้อ่านบันทึกประจำวันของพระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) ที่จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพท่าน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 ผมได้เรียนรู้ว่า ด้วยเศรษฐกิจไทยในขณะนั้นไม่สู้ดีนัก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างอุตสาหกรรมของไทยให้แข็งแรง เพื่อลดปัญหาเงินตราไหลออกนอกประเทศ และสามารถสร้างงานให้คนไทยได้เป็นอย่างดี พระองค์ท่านจึงทรงสนับสนุนให้คนไทยสร้างธุรกิจของตัวเอง

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“เนื่องด้วยเราเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 และพระองค์ท่านทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโรงงานแห่งแรก ที่ถนนสามเสนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่หลายครั้งด้วยความสนพระราชหฤทัยยิ่ง จากนั้นผมได้ศึกษาพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่านมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีบทบาทมาก ทรงห่วงใยคิดถึงประชาชนและประเทศชาติก่อนเสมอ และ ตั้งพระราชหฤทัยที่จะสานต่อพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมราชชนกนาถ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในการที่จะ พระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนไทยอยู่แล้ว

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“นอกจากนี้ผมได้เริ่มเก็บสะสมภาพและเอกสารเก่าของบรรพบุรุษ ทั้งของพระยาภิรมย์ภักดี ทวดทางพ่อ (คุณวาปี ภิรมย์ภักดี) และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี ต้นราชสกุลประวิตร เสด็จทวดทางแม่ (ท่านผู้หญิงเหมือนจิต ภิรมย์ภักดี) รวมถึงพระราชวงศ์และขุนนางไทยและต่างประเทศ ต่อมามีคนเสนอขายพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ผมเริ่มต้นสะสมภาพเก่า เอกสารและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านด้วย จนกลายเป็นคอลเล็คชั่น แล้วมีผู้ใหญ่หลายท่านที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ และของสะสมเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 7 ของผม ก็ทักว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ น่าจะนำออกมาเผยแพร่เป็นการ ‘ต่ออายุ’ ผมฟังแล้วชอบคำนี้ ทั้งยังเป็นการบอกเล่าให้คนรุ่นใหม่ได้รู้เรื่องราวของพระองค์ท่านมากขึ้น

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“ต่อมาผมมีโอกาสไปชมพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวตรงแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เห็นว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของไทย เล่าพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 อย่างละเอียด แต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือไปชม ผมจึงคิดว่าน่าจะจัดทำหนังสือสรรเสริญพระเกียรติคุณพระองค์ท่าน ในฐานะลูกหลานของพระยาภิรมย์ภักดีและประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ประกอบกับปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมาครบรอบปีที่ 125 แห่งวันพระราชสมภพ และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เองก็ก่อตั้งครบ 85 ปี จึงเป็นโอกาสดีที่จะมีทั้งหนังสือและกิจกรรมเผยแพร่พระเกียรติคุณเกี่ยวกับพระองค์ท่าน และบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินกิจการของบริษัทบุญรอดฯครับ”

หนังสือสุดพิเศษ

คุณสรวิชเล่าถึงความพิเศษที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วยความภูมิใจว่า “ดังที่ผมบอกครับว่าการจัดทำหนังสือเล่มนี้มีจุดประสงค์ให้คนไทยทราบเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมากขึ้น เป็นการเผยแพร่พระบรมฉายาลักษณ์และภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านที่ผมมีอยู่ ผมจึงคิดตั้งแต่ต้นว่าหนังสือเล่มนี้จะทำเป็นสมุดภาพ มีเนื้อหาอ่านง่าย เรื่องราวเป็นการขยายความจากพระบรมฉายาลักษณ์และภาพต่างๆ ที่ตีพิมพ์ ส่วนหนึ่ง เป็นพระบรมฉายาลักษณ์และภาพที่ผมสะสมอยู่ อีกส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และหม่อมราชวงศ์สุนิดา กิติยากร ความพิเศษในเล่มนี้อยู่ตรงที่หลายคนได้เห็นภาพในหนังสือเล่มนี้แล้วบอกว่า หลายๆ ภาพไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะภาพที่ผมตื่นเต้นมากตอนที่ได้มา และได้เชิญลงในเล่มนี้ด้วย คือ ภาพโปสการ์ดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะที่ยังทรงศึกษาอยู่ในประเทศอังกฤษ และมีลายพระราชหัตถเลขาว่า ‘คิดถึงมาก…’ ซึ่งผมถือว่าเดินมาถูกทาง และเป็นการ ‘ต่ออายุ’ ของภาพสมความตั้งใจ

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า
ภาพโปสต์การ์ดที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะที่ยังทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ

“และเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านอีกหลายเรื่องที่ผมได้ศึกษาพบและคิดว่าน่าสนใจ จึงรวบรวมและเชิญมาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย ดังเช่น พระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ ที่กลายเป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ เช่น ด้านการศึกษา ด้านการคมนาคม ด้านกิจการวิทยุ ด้านวิทยุโทรเลขและวิทยุโทรศัพท์ด้านการพิพิธภัณฑ์ และพระราชจริยวัตร พระราชนิยมอีกหลากหลายประการ อาทิ ด้านการกีฬา ด้านการภาพยนตร์และภาพนิ่งด้านดนตรี และพระราชจริยวัตรประการหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจ อยากเชิญมาเป็นตัวอย่างคือ พระราชจริยวัตรด้านการอ่าน ซึ่งพระองค์ท่านสนพระราชหฤทัยการอ่านหนังสือมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ซึ่งทรงรับอิทธิพลมาจากการไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษ เพราะชาวอังกฤษจะปลูกฝังให้เด็กๆ อ่านหนังสือเสมอ หนังสือที่ทรงอ่านมีหลายด้าน สะท้อนให้เห็นความสนพระราชหฤทัย ความใฝ่รู้ของพระองค์เป็นอย่างดี เนื้อหาของหนังสือเหล่านี้ประกอบด้วยเรื่องราวด้านศาสนา ปรัชญา ภาษา กฎหมาย การเมือง การปกครอง การทหาร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ กีฬา วรรณคดี ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ นวนิยาย ภาษาที่ใช้ในหนังสือมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการอ่านหนังสือวรรณคดีของไทยด้วยว่า ‘ควรหัดอ่านโคลงและกลอนด้วย เพราะถ้าไม่รู้จักโคลงและกลอนของไทยก็ออกจะโง่อยู่บ้าง เพราะของเราไม่เลวเลย’ ”

คุณสรวิชยังเล่าถึงงานนิทรรศการใหญ่ที่ได้จัดขึ้นในโอกาสพิเศษนี้ และเพิ่งจบลงหลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “หลังจากผมเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับได้จัดนิทรรศการใหญ่ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 3 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนสนใจเข้าชมเป็นอย่างมาก โดยคอนเซ็ปต์ของนิทรรศการผมใช้บันทึกประจำวันของพระยาภิรมย์ภักดีเป็นตัวเล่าเรื่อง เรื่องเอกคือเรื่องของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการแสดงสิ่งของและพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาชมยาก เช่น ชุดพระบรมฉายาลักษณ์ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ชุดพระบรมฉายาลักษณ์ในการเสด็จฯภาคเหนือหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระบรมฉายาลักษณ์ระหว่างเสด็จฯเยือนต่างประเทศ เหรียญตรา และสิ่งของพระราชทานต่างๆ มีเรื่องการก่อตั้งบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในการก่อตั้ง อาทิ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (หม่อมราชวงศ์มูลดารากร) และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน สุดท้ายเป็นเรื่องของมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และสิงห์อาสา

ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า

“การจัดทำหนังสือพระราชประวัติและนิทรรศการที่เพิ่งจบไป ผมหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายๆ คนได้รู้จักและได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่านมากขึ้น ซึ่งเราคนไทยน่าจะภาคภูมิใจ และอาจจะเป็นการจุดประกายให้คนไทยสนใจเกี่ยวกับพระองค์ท่านมากขึ้น พอที่จะหาเวลาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จะได้เรียนรู้อย่างเต็มอิ่มเกี่ยวกับพระองค์ท่าน และมีโอกาสชมของเก่าและของสวยของงาม
ด้วยครับ”

ในตอนท้ายคุณสรวิชยังเล่าถึงโครงการจัดทำหนังสือพิเศษเล่มต่อไปว่า “มีหลายโปรเจ็กต์เลยครับ แต่คงเป็นเรื่องของบุคคลที่เป็นเครือญาติก่อน เช่น เสด็จทวด-พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม กรมหลวงปราจิณกิติบดี เมื่อครั้งทรงได้รับแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณทวด-เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (หม่อมราชวงศ์มูล ดารากร) อดีตอธิบดีกรมพระคลังข้างที่ และเป็นองคมนตรีในรัชกาลที่ 7 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายท่านที่มีประวัติรวมถึงเรื่องราวที่พวกเราน่าจะศึกษาค้นคว้า และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้ ซึ่งท่านเหล่านี้ล้วนสร้างผลงานและคุณความดีฝากไว้ให้เมืองไทยมากมาย แต่คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักหรือลืมเลือนไป ผมจึงอยากนำเรื่องราวของท่านทั้งหลายมาบันทึกไว้ไม่ให้สูญหายไปครับ”

หนังสือชีวประวัติของบุคคลที่มีคุณค่าเหล่านี้ อีกไม่นานคงจะได้รับการรื้อฟื้นมาเผยแพร่ เพื่อรำลึกในคุณูปการที่ท่านทั้งหลายได้ทำและฝากไว้ให้แก่ชาติบ้านเมืองตลอดไป


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 943

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up