“ความทุกข์ของประชาชนนั้น รอไม่ได้” 7 ทศวรรษ เอกอัครราชาแห่งแผ่นดิน

นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลสวรรคตอย่างกะทันหัน ในท่ามกลางความทุกข์โศกสลดทั้งแผ่นดิน รัฐสภาได้เปิดประชุมเป็นกรณีเร่งด่วนในช่วงค่ำคืนนั้น พร้อมกับลงมติเห็นชอบตามกฎมนเทียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่

70 years king bhumibol

ขณะนั้น หลายฝ่ายต่างวิตกกังวลกันว่า สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ (พระอิสริยศักดิ์ในเวลานั้น) อาจไม่ทรงยินยอม จนเมื่อเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ตลอดถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รวมถึงนายกรัฐมนตรีและคณะนายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้าฯกราบบังคมทูลว่า สมเด็จพระอนุชาธิราชทรงเป็นผู้มีสิทธิในราชบังลังก์นั้น

สมเด็จพระราชชนนีจึงได้ตรัสถามพระราชโอรสต่อหน้าที่ประชุมทั้งมวลว่า “รับไหมลูก”

สมเด็จฯ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชมีรับสั่งสั้น ๆ เพียงว่า “รับ”

70 years king bhumibol
นับจากนาทีนั้น ประวัติศาสตร์ของยุวกษัตริย์พระองค์ที่สามแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพระองค์ที่สองแห่งราชสกุล “มหิดล” ได้เริ่มต้นขึ้นจากวันนั้นถึงวันนี้ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทยและของโลก ทรงเป็นพระราชาผู้ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนของพสกนิกรมาอย่างยาวนานจนครบ 70 ปีบริบูรณ์ในปีนี้

เมื่อแรกเถลิงราชย์

เมื่อแรกเริ่มของการครองราชย์ ขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 18 พรรษา และไม่เคยตระเตรียมพระราชหฤทัยที่จะมาทำหน้าที่นี้ พระองค์ทรงคิดแค่ว่าจะครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อจัดงานพระบรมศพให้กับพระเชษฐาอย่างสมเกียรติเท่านั้น แต่การเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ก็ทรงตระหนักถึงหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ให้สำเร็จเพื่อกลับมาพัฒนาประเทศและดูแลประชาชน

70 years king bhumibol

ราชาภิเษกสมรสและบรมราชาภิเษก

ในช่วงระหว่างที่ทรงศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงพระราชประดิพัทธ์กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาในพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้านักขัตรมงคล กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว(สนิทวงศ์) จึงทรงหมั้นด้วยพระธำมรงค์เพชรมีหนามเตยเป็นรูปหัวใจเล็กๆ ที่สมเด็จพระบรมราชชนกเคยพระราชทานหมั้นสมเด็จพระราชชนนี โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้นอย่างเรียบง่าย ณ วังสระปทุม และโปรดเกล้าฯให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ต่อมา ในวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง พระองค์ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับเหนือราชอาสน์บัลลังก์ทอง เฉลิมพระปรมาภิไธย ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” และพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการด้วยพระราชอำนาจสมบูรณ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า

70 years king bhumibol
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

อีกทั้งในวารมหามงคลนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศให้สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นเสด็จฯกลับไปทรงรักษาพระพลานามัยที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันเนื่องมาจากทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 จนกระทั่งเสด็จนิวัตเมืองไทยเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 และประทับในแผ่นดินอันเป็นมาตุภูมิอย่างเป็นการถาวรนับแต่นั้น

ทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา

ปลายเดือนตุลาคม พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชด้วยทรงพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ด้วยมีพระราชดำริว่าเป็นศาสนาประจำชาติ ยิ่งทรงมีโอกาสคุ้นเคยกับหลักการและทางปฏิบัติ
ของพุทธศาสนิกชน ระหว่างที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ก็ทรงพระราชศรัทธายิ่งขึ้น เพราะทรงประจักษ์แก่พระราชหฤทัยว่า พระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกอบด้วยเหตุผลและ
สัจธรรม ทั้งจักเป็นทางสนองพระเดชพระคุณพระราชบูรพการีตามคตินิยมอีกทางหนึ่งด้วย จึงทรงลาผนวชและทรงออกผนวช ณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง และเสด็จฯ
ไปประทับที่พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

70 years king bhumibol

เสด็จเยือนต่างประเทศเพื่อสานไมตรี

นอกจากเสด็จฯเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยังได้เสด็จฯเยือนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสานสร้างสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศ ระหว่างประชาชนกับประชาชน ทั้งในยุโรปและอเมริกาในช่วง ปี พ.ศ. 2503 – 2504  แต่ประเทศแรกที่ทรงเสด็จเยือนต่างประเทศนั้นอยู่ในแถบอาเซียนเพื่อนบ้านเรา ก็คือประเทศเวียดนาม เมื่อปลายปี พ.ศ. 2502

70 years king bhumibol

องค์อัครศิลปิน ผู้เปี่ยมความสามารถ

ตลอดช่วงเวลานับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองสิริราชสมบัตินั้น ทรงแสดงถึงพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ให้พสกนิกรไทยและชาวโลกได้ประจักษ์ ทรงได้รับการยกย่องว่า ทรงเป็นพหูสูตร
ในศาสตร์แทบทุกสาขา ทั้งทางสายวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์โดยเฉพาะทางศิลปศาสตร์นั้น ทรงเป็นเอตทัคคะ ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถทางศิลปกรรมประกอบด้วย จิตรกรรม ประติมากรรม
การถ่ายภาพ หัตถกรรม วรรณศิลป์ และดนตรี ฯลฯ จนทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “อัครศิลปิน” หมายถึง ผู้มีศิลปะอันเลอเลิศหรือผู้เป็นใหญ่ในศิลปิน
70 years king bhumibol

พระราชาแห่งการพัฒนา

พระอัจฉริยภาพด้านหนึ่งที่มิอาจกล่าวข้ามได้คือ “ในด้านการพัฒนา” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกษตรกรรม ทรงเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่อง
มาจากพระราชดำริต่าง ๆ จึงปรากฏขึ้นมากมายทั่วประเทศ และส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการจัดการพัฒนาแหล่งน้ำตั้งแต่ฝนหลวง เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำใต้ดิน ตั้งแต่ภูเขาสู่ทะเล ทรงฟื้นป่า มีฝายชะลอความชุ่มชื้น ทรงเน้นถึงการดูแลฟื้นฟูทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืน ให้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดไป

หน้าที่ของพระเจ้าแผ่นดิน

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ. 2503 นั้นบรรดานักหนังสือพิมพ์อเมริกันได้กราบทูลถามถึง “หน้าที่พระเจ้าแผ่นดินของพระองค์เป็นอย่างไร” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส
ตอบด้วยพระปรีชา ซึ่งหนึ่งในพระราชดำรัสที่น่าจดจำครั้งนั้น พระองค์ทรงพระราชทานสัมภาษณ์ไว้ว่า

70 years king bhumibol

“…ตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินในปัจจุบันนี้ไม่มีหน้าที่ที่จะบริหารประเทศ ต้องมีฝ่ายบริหารทำให้งานการทุกอย่างของชาติดำเนินไปได้ด้วยดี ต่างคนต่างมีหน้าที่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น
เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัวโดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกัน จะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นและก็ช่วยกันทำ…”

ตลอด 70 ปีบริบูรณ์ที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์
ที่ทรงงานหนักมากที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก แม้ในยามที่ทรงพระประชวรก็ยังทรงงานอยู่ ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินตลอด 24ชั่วโมง หากจะเปรียบประเทศไทยเป็นดังรูปพีระมิด พระองค์ก็เปรียบดังประทับอยู่บนยอดพีระมิดของสังคมแต่เป็นพีระมิดหัวกลับ นั่นหมายถึงว่าพระองค์ได้ประทับอยู่ด้านล่าง ทำให้ทรงต้องเป็นผู้รองและแบกรับปัญหาทุก ๆ อย่างของประชาชน จึงทรงมีรับสั่งกับบรรดาบุคคลที่ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ อยู่เสมอว่า…

“ความทุกข์ของประชาชนนั้น รอไม่ได้”

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 883 ปักษ์ 10 มิถุนายน 2559

3 สปาไทยสวยได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก

account_circle

Story : Princess Hydrangea

               วีคนี้ Princess Hydrangea ขอพาว่าที่เจ้าสาวไปชุบผิวสวยด้วยทรีทเม้นต์แบบไทยๆ กับ 3 สปาสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ
grang-hyatt-erawan               1. ไอยสวรรค์ เรสซิเดนเชียล สปา แอนด์ คลับ @ Grand Hyatt Erawan
               สปาวิลล่าส่วนตัวในบรรยากาศสบายบนชั้น 5 ของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ กับทรีทเม้นต์ Thai Revival ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและคืนความชุ่มชื้นให้ผิวอีกครั้ง ด้วยสครับเนื้อทรายที่สกัดจากข้าวหอมมะลิผสานกลิ่นหอมของครีมตะไคร้ ก่อนปลดปล่อยความเมื่อยล้าจากการทำงานหน้าคอมนานๆด้วยการนวดไทยที่ขอบอกว่าน้ำหนักมือของเธอราพิสที่นี่ดีงามมาก
               ไอยสวรรค์ เรสซิเดนเชียล สปา แอนด์ คลับ ชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
               โทร.0-2254-1234

centara               2. สปาเซ็นวารี @ Centara Grand CentralWorld
               ว่าที่เจ้าสาวที่คร่ำเคร่งกับการเตรียมงานจนหลังยึด ขอแนะนำให้มาปลดเปลื้องความเหนื่อยล้ากับ Kati Basti ทรีทเม้นต์ที่เน้นบำบัดแผ่นหลังโดยเฉพาะ เริ่มจากใช้น้ำมันร้อนนวดทั้งตัวเพื่อปรับสมดุลร่างกาย ก่อนนำแป้งโดว (dough) ที่อุ่นไว้มาวางกลางแผ่นหลัง และค่อยๆ หยดน้ำมันร้อนลงไปจนเต็มแป้งโดวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าสู่ผิวแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่าง และตามด้วยการประคบสมุนไพรไทยจากก้นครัว อาทิ มะกรูด ขิงสด โหระพา กะเพรา ตะไคร้ สาระแหน่ ผักชี และอบเชย ช่วงสะบัก ร่องกระดูกสันหลัง เอว สะโพก และเส้นตรงกล้ามเนื้อต่างๆ
               สปาเซ็นวารี ชั้น 26 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
               โทร.0-2100-1234 ต่อ 6511, 6516

sukhothai               3. สปา โบทานิก้า @ The Sukhothai Bangkok
               เติมเต็มความสดชื่นให้ร่างกายด้วยปลายนิ้วกับ Sukhothai Signature Massage ทรีทเม้นต์สูตรต้นตำรับจากสมุนไพรไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ โดดเด่นด้วยท่วงท่าการนวดแบบไทยโบราณที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ณ สปา โบทานิก้า ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น ภายในตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนดูสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถทำทรีทเม้นต์ได้ทุกโปรแกรม อาทิ ถังไม้อาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่น ห้องอบไอน้ำ อ่างน้ำวน ฯลฯ
               สปา โบทานิก้า โรงแรม สุโขทัย แบงค็อก
               โทร.0-2344-8900

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน พฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : อุปสรรควันนี้มาจากเพื่อนร่วมงานไม่สามัคคีกัน บางคน ท่านเคยช่วยเหลือเกื้อกูล แต่พอถึงคราวท่านลำบากกลับไหว้วานยาก พยายามทำงานด้วยตัวเองดีที่สุด

การเงิน : แม้จะหาเงินได้มาก แต่มีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้เงิน จนอาจสะดุด

ความรัก : ระวังเพื่อนสนิทของคู่ท่านจะมาป่วน สร้างความรำคาญใจ วุ่นวายกับครอบครัวเกินไป ควรเตือนคู่ของท่านด้วย คนโสด รักใครชอบใครอย่าเพิ่งใจร้อน ด่วนตัดสินใจ เพราะท่านกำลังอยู่ในอารมณ์ประชดแฟน อาจพลาดได้

สุขภาพ : ขับรถระวังอุบัติเหตุ เช็ครถก่อนเดินทางทุกครั้ง

ช่วงนี้ควรทำบุญถวายน้ำเปล่าแด่พระสงฆ์ และปล่อยกบ ปล่อยหอยขมบ้าง ชีวิตจะได้ไม่ขมขื่น

        

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : อย่ามัวนอนใจว่ามีแต่วันดี เพราะบริษัทจะปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ทำให้ท่าน อาจมีงานเพิ่ม ต้องเร่งมือทำงานเก่าให้เสร็จ

การเงิน : จะมีรายจ่ายในเรื่องงานบุญและภาษีสังคม

ความรัก : ระวังจะผิดใจกัน ควรหนักแน่น อย่าสนใจคำพูดคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว คนโสด เริ่มหวั่นไหวกับคนมีคู่แล้ว แต่คงต้องบอกให้ตัดใจเสีย จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจภายหลัง

สุขภาพ : ระวังจะมีปัญหาทางลำไส้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : สำหรับคนที่รับราชการมีสิทธิ์ถูกปรับเปลี่ยนงาน และโยกย้ายตำแหน่งสูงขึ้น ขอให้มั่นใจว่าทำได้ ก็จะผ่านไปได้

การเงิน : จะหมดเงินกับการแต่งบ้าน

ความรัก : มีขัดแย้ง ทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดาของสามีภรรยา ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความใจร้อนด้วยกันทั้งคู่ คนโสด มีคนเข้ามาให้เลือกหลายรูปแบบ แล้วแต่พิจารณาว่า ชอบ หรือโดนใจแบบไหน

สุขภาพ : ระวังโรคที่เกิดจากเพศสัมพันธ์

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานหลายอย่าง และได้เรียนรู้งานเพิ่ม ขอให้ตั้งใจ จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นำไปใช้ในอนาคต

การเงิน : ต้องชำระหนี้สิน เพราะผัดผ่อนมานานแล้ว

ความรัก : ระวังจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเครียดจากที่ทำงานแล้วมาลงที่ครอบครัว คนโสด มีคนเข้ามาทักทาย แต่ยังไม่ถูกใจ คงต้องรออีกหน่อย

สุขภาพ : ระยะนี้ไปนวดน้ำมันรีดเส้นบ้างก็ดี เพราะเริ่มมีอาการปวดบ่า และไหล่

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ระวังทำงานสองอย่างในเวลาเดียวกัน จะทำให้งานประจำผิดพลาด

การเงิน : ต้องเสียเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้คนอื่น

ความรัก : ไปในทิศทางที่ดี เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น คนโสดน่าอิจฉา เพราะจะมีคนอายุอ่อนกว่ามาชอบ ต้องพยายามทำความเข้าใจกับวัยของเขาด้วย เผื่ออาจพัฒนาเป็นคู่ครองในอนาคตได้

สุขภาพ : อาจเจอปัญหาเรื่องวัยทอง

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ใช้ใครก็ไม่ได้ดังใจ ท่านต้องลงมือทำเอง เพราะเริ่มมีงานค้าง แล้วเมื่อมีเวลาก็ค่อยๆ สอนกันไป

การเงิน : มีโครงการซื้อบ้าน หรือคอนโด

ความรัก : คู่ครองต้องพยายามอย่าทะเลาะกัน นิ่งปล่อยให้อารมณ์โกรธ โมโห ไม่เข้าใจผ่านไปก่อน แล้วค่อยคุยกัน คนโสด กำลังลังเลว่าจะคบกันต่อหรือหยุดไว้แค่เพื่อนดี เพราะคบกันก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ต้องปรับปรุง หรือพูดให้เข้าใจกัน

สุขภาพ : ระวังเรื่องระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องเสีย ท้องผูก

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : เริ่มเข้าที่เข้าทาง รอจังหวะเสริม หรือเพิ่มอีกนิด งานก็จะสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ท่านด้วย ต้องใจเย็น งานจึงจะไม่ผิดพลาด

การเงิน : มีเงินจากอาชีพเสริมเข้ามาบ้าง

ความรัก : เตรียมฉลองได้เลย หากกำลังรอข่าวดีเรื่องสมาชิกใหม่ของครอบครัว ส่วนคนโสดก็มีข่าวดีเหมือนกัน คือจะมีคนเข้ามา คราวนี้มีแนวโน้มจะใช่ด้วย

สุบภาพ : ระวังโรคไหลเวียนเลือดไม่ดี หูอักเสบ

ย้อนดูคอสตูมสไตล์วินเทจสุดแหว๋ว ‘ชมพู่-อารยา’เล่นหนังจัดเต็มทุกลุค หลุดโลกขนาดไหนก็ยังสวย!

ย้อนดูคอสตูมสุดฮาของ ‘ชมพู่-อารยา’เล่นหนังจัดเต็มทุกลุค

‘ชมพู่-อารยา’เล่นหนังจัดเต็มทุกลุค สมเป็นตัวแม่ในเรื่องแฟชั่นจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเล่นละคร หรือหนัง คอสตูมต้องไม่ธรรมดา ถ้าไม่สวยเริ่ดอินเทรนด์ตามแฟชั่นก็ฉีกลุคเปลี่ยนแนวไปเลย ดูอย่างหนังทั้ง3เรื่องที่สาวชมเล่นขอบอกเลยว่าสะลัดภาพความเป็นนางเอกสวยๆ เริ่ดๆ สิ้นเชิง เพราะนางไปเน้นเอาฮาซะส่วนมาก

'ชมพู่-อารยา'เล่นหนัง

'ชมพู่-อารยา'เล่นหนังเริ่มที่หนังเรื่องแรกในชีวิตอย่าง สาระแนสิบล้อ โปรเจ็คต์ที่ 2 ได้นางเอกสาวสุดฮอตชมพู่ มาประเดิมเปิดซิงในฐานะนางเอกหนังครั้งแรก หลังจากคร่ำหวอดในวงการบันเทิงทำมาแล้วสารพัด ทั้งเดินแบบ, ถ่ายแบบ, เล่นละคร, ร้องเพลง, พิธีกรนับ 10 ปี และที่สำคัญคือ ไม่เคยเล่นเป็นนางเอกหนังตลกมาก่อนด้วย ซึ่งเสื้อผ้าในหนังเรื่องนี้ทุกชุดเน้นสวยหวาน ลายดอกสีสันสดใส (more…)

รวมลิสต์บิวตี้ไอเท็มส่งตรงจากญี่ปุ่น ปักหมุดไว้ อยู่เมืองไทยก็ซื้อได้

เวลาสาวๆ ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เราคิดว่าผู้หญิงไม่น้อยเลย ต้องปักหมุดแหล่งช้อปปิ้ง แล้วหอบเหล่าครีมบำรุงประทินผิว และเครื่องสำอางกลับมาที่ไทยจำนวนมากกันแน่นอน

พูดถึงไอเท็มบิวตี้ทางฝั่งญี่ปุ่น ยอมรับว่า ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีประสิทธิภาพดีพอสมควร ที่สำคัญเหมาะกับผิวสาวเอเชียอย่าง สาวไทยด้วย เราเลยจะอาสาพาสาวแพรวทั้งหลาย ไปอัพเดตเทรนด์เรื่องความสวยความงามที่กำลังฮิตในญี่ปุ่นกันหน่อย ว่าตอนนี้ไอเท็มบิวตี้ เทรนด์แต่งหน้า หรือเครื่องสำอางแบบไหนที่สาวๆ กำลังฮิต และเหมาะกับสาวไทยอย่างเรากันบ้าง

สำหรับไอเท็มบิวตี้ที่เรานำมาอัพเดตนั้น อยู่ที่ร้าน มัทสึโมโตะ คิโยชิ ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ภายในร้านมีสินค้ามากมายเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ และมีบิวตี้ไอเท็มที่ไม่ควรพลาด ที่มีเฉพาะที่นี่ เราได้นำมาฝากกัน 10 ไอเท็ม ตามด้านล่างนี้เลย

LuLuLun Face Mask Acacia Honey 7 Days (7+1 sheets)

ญี่ปุ่นแผ่นมาส์กลิมิเต็ด เอ็กซ์คลูซีฟ ปริมาณสุดคุ้มจากปกติ 7 แผ่น แถมอีก 1 แผ่น เข้าบำรุงผิวด้วยไฮยาลูรอน น้ำผึ้งอาคาเซีย เซราไมด์จากข้าว และสารสกัดเปลือกส้มแมนดาริน

Maikohan oshiroi face powder

ญี่ปุ่นแป้ง loose powder เนื้อเนียนละเอียด ช่วยกระจายแสง อำพรางรูขุมขนให้ผิวดูสว่างเป็นธรรมชาติ มีให้เลือก 2 เฉดสี คือ Sheer Pink และ Sheer beige

แม่ชนแม่! ‘อั้ม-นุ่น-กบ’3นางพญาวิก7สีหวนลงจอทวงบัลลังค์ เตรียมเปิดศึกชิงเรตติ้ง!

‘อั้ม-นุ่น-กบ’3นางพญาวิก7สีหวนลงจอทวงบัลลังค์ ขึ้นชื่อว่า ‘ตัวแม่’ มีหรือจะธรรมดา! !

‘อั้ม-นุ่น-กบ’3นางพญาวิก7สีหวนลงจอทวงบัลลังค์ ความเป็นนางเอกเบอร์1 ซึ่งแต่ละนางล้วนเป็นนักแสดงฝีมือระดับเทพทั้งนั้น แถมเป็นไอดอลของนักแสดงรุ่นน้องวงการอีกเพียบ งานนี้บอกได้เลยว่ามีศึกชิงเรตติ้งดุเดือดแน่นอน!

Screen Shot 2016-06-15 at 10.21.11 AM2 ซุปตาร์แห่ลงละครพีเรียด สวยอลังการกับคอสตูมระดับบิ๊กชนบิ๊ก!

เริ่มที่นุ่น วรนุช หลังจากทำกระอักกระอ่วนใจจนเกิดเป็นกระแสวิพากวิจารณ์เรื่องของคอสตูมในบทซุปตาร์น้องนางฟ้าจากละคร “เพื่อนรัก เพื่อนริษยา”

 นุ่น วรนุช พิษสวาท

 นุ่น วรนุช พิษสวาทวันนี้สาวนุ่นขอแก้มืออีกครั้งด้วยการหวนกลับมาลงจอละครอีกครั้งทางช่อง ONE   กับละครพีเรียดเรื่อง “พิษสวาท” นวนิยายของทมยันตี ในบทของคุณอุบล นางรำแห่งราชสำนักในแผ่นดินพระเจ้าเอกทัศน์ ปลายรัชสมัยอยุธยา

 นุ่น วรนุช พิษสวาท นุ่น วรนุช พิษสวาทต้องบอกว่ายังไม่ทันจะออนแอร์ก็เป็นที่สนอกสนใจสุดๆ โดยเฉพาะในเรื่องของชุดไทยที่นุ่นใส่  ซึ่งได้อาจารย์พีรมณฑ์ ชมธวัช (คณะละครอาภรณ์งาม) มาดูแลในเรื่องของคอสตูมให้ แม่คุณเอ๋ย…งดงาม อ่อนช้อยสุดๆ ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่ดวยความที่นุ่นเรียนรำมาด้วยเป็นทุนเดิม ยิ่งเสริมให้ท่วงท่า และกิริยาท่าทางทุกอย่างเข้ากับชุดไทยที่สุด เหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดีเลย

 นุ่น วรนุช พิษสวาทขนาดชุดอยู่บ้านเบาๆ ยังสวยปัง สง่างามอะไนเบอร์นี้!

ภาพ : @thawi_tle,@numay_pat,@nuneworanuch,@siraphat.xx

(more…)

คิดถึงเธอ… อ่านความรู้สึก อุ้ม-สิริยากร เมื่อครั้งแสดงเป็น ‘แม่พลอย-สี่แผ่นดิน’

อุ้ม-สิริยากร ห่างหายไปจากหน้าจอทีวี ถ้านับเนื่องถึงก่อนปีนี้ก็เท่ากับ 12 ปีพอดิบพอดี และราวกับจอทีวีจะซึมซับถึงเสียงบ่นคิดถึงเธอได้ เพราะพอขยับเข้าปี 2559 ก็มีละครของเธอ 2 เรื่อง กลับมารีรันให้ได้ชมกันอีกครั้ง

เรื่องแรก ‘อาญารัก’ ทางช่อง 3SD และล่าสุดคือ ‘สี่แผ่นดิน’ ทางช่อง PPTV HD ที่ข่าวว่าเป็นการนำกลับมารีรันโดยใช้เทคโนโลยีการแปลงไฟล์ภาพจากระบบเบต้า เป็นระบบดิจิทัลภาพคมชัดสูง

03สี่แผ่นดินเวอร์ชั่นนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2546 จากการกำกับของผู้กำกับม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล หรือ หม่อมน้อย ที่ช่วงหลังๆ หันมาเอาดีด้านงานกำกับหนังอีโรติก อาทิ ชั่วฟ้าดินสลาย (2553), อุโมงค์ผาเมือง (2554), จัน ดารา ปฐมบท (2555),  จัน ดารา ปัจฉิมบท (2556)  และ แม่เบี้ย (2558) โดยเหตุที่ช่อง‘คุณหมอเสริฐ’ นำกลับมารีรันอีกครั้ง นัยว่าเพื่อเฉลิมฉลองวาระกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 234 ปี เพราะด้วยเนื้อหาสาระที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์น่าจะทำให้คนไทยตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในละครก็ยังได้แฝงความรู้ด้านขนบธรรมเนียมประเพณีทีดีของชาติ บรรพบุรุษความภูมิใจในชาติ และการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยร่มเย็นใต้ร่มพระบารมีมาทุกยุคทุกสมัย สรุปรวมแล้วเรียกว่าพูดได้เต็มปากว่านี่คือละคร ‘น้ำดี’ ที่ควรค่าแก่การชมอย่างแท้จริง

A9400337-vote1และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือกระแสรีรันที่ได้รับความสนใจอยู่มากในขณะนี้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากความคิดถึงนางเอก อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส ผู้รับบท ‘แม่พลอย’ ของเรื่อง แพรวดอทคอมจึงเข้าไปทำการค้นหาบทสัมภาษณ์เมื่อครั้งที่เธอพูดไว้กับนิตยสารแพรวถึงการทำงานชิ้นนี้ ดังนี้

“ตอนที่รู้ว่าได้เล่นเป็น ‘แม่พลอย’ ก็ฮู้… ดีใจจังเลย เพราะอีกประมาณสิบปีจากนี้ไปคงยังไม่มีการนำมาสร้างใหม่ เนื่องจากทำค่อนข้างยากฉะนั้นในรุ่นนี้ก็มีอุ้มที่ได้เล่น ยิ่งได้ร่วมงานกับหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) อีกครั้ง ก็ยิ่งรู้สึกดี

06-สี่แผ่นดิน“อุ้มอ่าน ‘สี่แผ่นดิน’Ž มาตั้งแต่เด็กๆ อ่านแล้วอ่านอีกได้ไม่เบื่อ พอรู้ว่าต้องเป็นแม่พลอย ก็อ่านในอีกมุมหนึ่งเหมือนเอาตัวเองไปแทน แม่พลอยสำหรับอุ้มตอนนี้ไม่ใช่คนแล้ว แต่เป็นแผ่นดิน เป็นอุดมคติ เป็นตัวแทนแห่งความดีงามที่ตั้งมั่นอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง

Thai278“จากที่คุณย่าเคยเล่าเรื่องเก่าๆ ให้ฟังบ้าง บวกกับภาพที่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กว่าบ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่กันหลายครัวเรือน ครัวเบ้อเริ่มเทิ่ม ทำกับข้าวที หม้อ กระทะ เท่ายางรถยนต์ พอมาเจอบรรยากาศคล้ายๆ สี่แผ่นดินตอนที่อ่าน อุ้มจึงอินมากแล้วเรื่องนี้อุ้มต้องห่มผ้าแถบ นุ่งโจงกระเบน คนอื่นไม่ค่อยมีปัญหา แต่สิริยากรนุ่งได้แป๊บเดียว โจงจะสั้นข้างยาวข้าง ผ้าแถบจะกองๆ เหมือนพลอยท้องก่อนแต่งทุกที (หัวเราะ) พอถึงซีนที่พลอยท้อง ทีมงานหล่อยางทำท้องปลอมมาให้ใส่  ใหญ่มาก มีสะดือจุ่นด้วย ตอนที่ปลุกคุณเปรมให้ตื่นมาฟังลูกดิ้น ในบทต้องพูดว่า ‘ขอให้ลูกเราเป็นผู้ชาย’ แต่ความที่ท้องเราประหลาดเหลือเกิน อุ้มเลยบอกว่า ‘ขอให้ลูกเราเป็นคนก็พอ (หัวเราะ)’

“พอมาเป็นคนดู อุ้มก็รู้สึกอิ่มใจกับความสมจริงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระตำหนัก บ้าน หรือท่าน้ำ ที่พอย้อมสีขาวดำแล้วเหมือนภาพในประวัติศาสตร์ นักแสดงโดยรวมก็ใช่ โปรดักชั่นใหญ่โตมาก ซึ่งคู่ควรแล้วกับคุณค่าของวรรณกรรมชิ้นนี้

“ยอมรับว่าอุ้มดูแบบอิ่มเอมใจเลยล่ะ  เป็นความรู้สึกฮึกเหิมแบบโชคดีเนอะที่ได้เป็นนักแสดงและได้สร้างความรู้สึกดีๆ ให้คนดู”

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 613 (10 มี.ค. 48)

อนุมูลอิสระ ภัยร้ายคุกคามชีวิตคนเมือง ที่ทำลายมากกว่าผิวพรรณ

อนุมูลอิสระ ภัยร้ายคุกคามชีวิตคนเมือง ที่ทำลายมากกว่าผิวพรรณ

เคยสังเกตหรือไม่ว่าผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆ มักชอบเป็นหวัดง่ายเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจหอบหืดภูมิแพ้ไซนัสปอดอักเสบบ่อยๆ หรือมีอาการวิงเวียนอ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียนเครียด นอนไม่หลับซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาการที่เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารพิษเกินขนาด สาวๆ หลายคนพอได้ยิน อนุมูลอิสระ ก็มักจะนึกถึงตัวร้ายที่ทำลายผิวพรรณให้เหี่ยวย่นก่อนวัย แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้าอนุมูลอิสระนี้เป็นสาเหตุของโรคที่อันตรายต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบัน ส่งผลให้เราเชื้อเชิญเจ้าอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายอย่างง่ายดายโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ได้อธิบายว่า“อนุมูลอิสระถูกสร้างขึ้นในกระบวนการเผาผลาญหรือเมตาโบลิซึมของเซลล์ในร่างกาย ส่งผลต่อการทำลายเซลล์และอาจทำให้การทำงานของเอนไซม์ที่สำคัญเปลี่ยนแปลงไป มีงานวิจัยมากมายพบว่าอนุมูลอิสระมีผลต่อการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย และมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ซึ่งวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันโดยเฉพาะในสังคมเมืองแวดล้อมไปด้วยสาเหตุที่บั่นทอนสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน ความเครียดจากการทำงาน รวมถึงการไม่มีโอกาสคัดเลือกคุณค่าและปริมาณของอาหารที่รับประทานเพื่อดูแลสุขภาพ เนื่องจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบทำให้ต้องทานอาหารนอกบ้าน หรืออาหารจานด่วนฟาสต์ฟู้ดซึ่งอาจจะมียาฆ่าแมลงตกค้างในผักที่ไม่ล้างให้สะอาด สารก่อมะเร็งจากน้ำมันที่ใช้ทอด หรือแม้แต่สารกันบูดก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ฯลฯ

อนุมูลอิสระรวมถึงมลภาวะและควันพิษต่างๆทั้งควันพิษรถยนต์ ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือควันบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งสหประชาชาติสำรวจพบว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอากาศเต็มด้วยสารพิษก่อมะเร็งเกินมาตรฐานองค์การอนามัยโลกถึง 2 เท่า ในขณะที่ มหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยฮาวายศึกษาพบว่าตั้งแต่ปี 2553 กรุงเทพฯ มีสารพิษก่อมะเร็งซึ่งเกิดจากการเผาไหม้น้ำมันเบนซินถึง 18 ชนิด ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้อนุมูลอิสระในร่างกายคนเมืองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากกระบวนการนี้ไม่ถูกยับยั้งโดยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้อ๊อกซิแด้นท์(Antioxidant)เมื่อปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนัง หัวใจ สมอง ผนังหลอดเลือด ฯลฯ ส่งผลต่อสุขภาพด้านต่างๆ ได้แก่ โรคติดเชื้อ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน ต้อกระจก มะเร็ง และความแก่ชราก่อนวัยอันควร เป็นต้น”

อนุมูลอิสระสารอาหารต้านอนุมูลอิสระจึงจำเป็นอย่างมากเพื่อช่วยยับยั้งการเกิดกระบวนการอนุมูลอิสระในร่างกาย โดยสารอาหารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ได้แก่ วิตามินอี ซึ่งมีรายงานทางการแพทย์จำนวนมากที่ยืนยันประโยชน์ของวิตามินอีว่าสามารถช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น หัวใจ หลอดเลือด และผิวหนังได้ นอกจากนี้ วิตามินซี และเบต้าคาโรทีนก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งหากร่างกายเรามีสารอาหารทั้งสี่ตัวอยู่ด้วยกันจะช่วยทำงานและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้ ดังนี้

  1. โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน–โรคหลอดเลือดอุดตันเกิดจากไขมันอุดตันชั้นในของหลอดเลือดแดง ซึ่งทำให้ชั้นในของหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นหลอดเลือดอุดตัน สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยชะลอกระบวนการนี้ได้ โดยพบว่าวิตามินอีจะช่วยลดการเกาะตัวของไขมันกับผนังชั้นในของหลอดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
  2. โรคมะเร็ง – อนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็ง และทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตมากขึ้น สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์และป้องกันการเติบโตของมะเร็งได้ โดยวิตามินอีและวิตามินซี สามารถยับยั้งกระบวนการเสื่อมของเซลล์ และป้องกันการสร้างสารไนโตรซามีนที่เกิดจากอาหาร ควันพิษ ได้ นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยกล่าวว่า การรับประทานวิตามินอีในปริมาณสูง สามารถลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และเต้านม เบต้าคาโรทีนสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งจากแสงยูวีได้
  3. โรคต้อกระจก – มีรายงานพบว่าผู้ป่วยโรคต้อกระจก มีระดับวิตามินซี วิตามินอี และคาร์โรทีนอยด์ในเลือดต่ำกว่าปกติ ดังนั้น วิตามินซีและวิตามินอี จะช่วยป้องกันและยืดเวลาการเกิดโรคนี้ได้
  4. โรคติดเชื้อ – มักเกิดจากการที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งวิตามินซีมีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่การวิจัยพบว่าวิตามินอี และเบต้าแคโรทีนสามารถทำให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น
  5. แก่ก่อนวัย –อนุมูลอิสระทำให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ ทำให้เกิดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกายเสื่อมโทรมก่อนวัยอันควรได้ มีการค้นคว้าโดยสมาคมการค้นคว้าโรคผิวหนัง ประเทศเยอรมนี พบว่า วิตามินอี สามารถช่วยให้เซลล์ผิวหนังทนต่อรังสียูวี บี (UV B) ในแสงแดดได้ดีขึ้น

อนุมูลอิสระจะเห็นได้ว่าอนุมูลอิสระนั้นเป็นภัยร้ายที่ทำลายสุขภาพและชีวิตคนเมืองอย่างไม่รู้ตัว แต่เราก็สามารถป้องกันได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากพอ นอกจากการเลือกรับประทานอาหารแล้ว การออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอก็ช่วยให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วย

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : เมก้าวีแคร์

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่
Instagram : @praewmag
และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

 

ทีเด็ด Kade Spade ออกไอเท็มน่าใช้ ใหม่ล่าสุดรับAutumn 2016

Kade Spade แบรนด์แฟชั่นจากฝั่งอเมริกามีอะไรมาให้เราเซอร์ไพรส์ตลอด ล่าสุดกับคอลเล็คชั่น Autumn 2016 ก็ขนไอเท็มเด็ดมาเพียบ ขอเตือนเลยว่าใครที่เป็นสาวกแบรนด์นี้อดใจไม่ไหวแน่ๆ

เพิ่งจะมีงานเปิดตัวคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าซีซั่นใหม่ไปหมาดๆ งานนี้เลยได้เวลาอวดโฉมบรรดาไอเท็มเด็ดๆ อย่างกระเป๋า เครื่องประดับ และของใช้น่ารักๆ เพียบ

kade spade 2016

โดยซีซั่นนี้ได้หยิบเอาแรงบันดาลใจจากหลายสิ่งมาผสมผสานเป็นชิ้นงานสุดเก๋ ทั้งกลุ่มคนรักเสียงดนตรี และสไตล์โบฮีเมียน รวมถึงนักร้องของกลุ่มละครเวทีเรื่องไฟเออร์เบิร์ด (Firebirds) โดยบิลลี่ ฮอลิเดย์ ศิลปินบลูส์แห่งแจ๊สคลับ,ทามารา โรโจ กับช่อดอกกุหลาบแดง และไลซ่า มินเนลลิ ราชินีแห่งคาบาเร่ต์

kade spade 2016kade spade 2016

ทั้งนี้ไอเท็มเด่นๆ อย่างกระเป๋าเรียกว่าทั้งสีสัน และรูปแบบของดีไซน์มีให้เลือกหลากหลายสไตล์มาก ทั้งแฟนตาซี มินิมอล และสนุกสนาน ในส่วนของของใช้กระจุกกระจิกและเครื่องประดับต่างๆ ก็สร้างสรรค์ออกมาให้เกิดจุดเด่นได้ที่สอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์ของคอลเล็คชั่นนี้ แต่ก็สามารถเปล่งประกายได้อย่างมีเอกลักษณ์ และส่วนใหญ่ก็เป็นไอเท็มน่าใช้ที่ส่วนใหญ่ขาดไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาSwan, พวงกุญแจSwan หรือเคสสำหรับใส่สมาร์ทโฟน

kade spade 2016

อัพเดตกันให้ขนาดนี้แล้ว เตรียมตัวไปจัดมาสักชิ้นดีไหมล่ะ

 

เรื่อง : sriploi

 

 

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน พุธที่ 15 มิถุนายน 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ดวงตกอีกแล้วชาวอาทิตย์ ต้องรับภาระหนักในการติดตามงาน ซึ่งไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ และจะมีงานเร่งด่วนให้มีภาระหนักใจ เพราะต้องทำงานป้อนทุกคน แล้วก็ต่างจิตต่างใจ เรียกว่าหายใจหายคอไม่ทันกันเลยทีเดียว

การเงิน : ต้องช่วยเหลือคนอื่น หรือญาติ ให้ไปแล้วก็ทำใจได้เลยว่าจะไม่ได้คืน

ความรัก : คนมีคู่อยู่ในช่วงที่รอความอดทนเพื่อให้ถึงจุดอิ่มตัว ไม่ไหวจะเคลียร์ ต่างคนต่างก็มีเหตุผล คนโสด แม้จะรู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่ท่านก็ยังจะคบอีก ระวังวันนี้อาจโดนจับได้ และอาจอื้อฉาว ถูกประจาน

สุขภาพ : ระวังลื่นล้มจนบาดเจ็บที่กระดูก

         หากมีโอกาสไปบริจาคเงินซื้อโลงศพนะ หรือหากมีเวลาก็พิมพ์หนังสือธรรมะแจกบ้าง ค่อยๆ สะสมบุญที่ร้ายก็จะกลับกลายเป็นดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : วันนี้เป็นวันของชาวจันทร์จะมีผู้ใหญ่ชี้แนะ และให้ความอุปถัมภ์ อาจออกทุนให้ทำธุรกิจ เรียกว่าแค่คิดก็มีคนช่วยแล้ว

การเงิน : มีเพศตรงข้ามอุปถัมภ์

ความรัก : คนมีคู่ก็ดูแลกันดีขึ้น พูดจากันรู้เรื่องมากขึ้น มีการวางแผนจะมีทายาท อาจได้ข่าวดีเร็วๆ นี้ คนโสดโชคดี ได้พบคนที่ใช่เลย และจะมีข่าวดีตามมา

สุขภาพ : ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : จะต้องไปติดต่องานนอกสถานที่หรือในหน่วยงานใหญ่ ท่านต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม บางจุดอาจต้องจู้จี้ ขณะที่บางจุดก็ต้องใช้คำพูดดีๆ จึงจะสำเร็จ

การเงิน : ได้ลาภลอย แต่ก็จะใช้เยอะ

ความรัก : คนในครอบครัวอาจเจ็บป่วย ควรดูแลใส่ใจกันบ้าง อย่ามัวแต่หลงทำงาน คนโสดมีผู้ใหญ่ที่เคารพแนะนำคนมาให้รู้จัก ลองคบดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจภายหลัง

สุขภาพ : ระวังปวดหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : สำหรับท่านที่รับราชการจะมีการปรับเปลี่ยนงานในทางที่เหนื่อย และรับผิดชอบมากขึ้น ต้องทำตามคำสั่งและหน้าที่

การเงิน : มีเรื่องใช้เงินเกี่ยวกับที่ดิน หรือปรับปรุงบ้านใหม่

ความรัก : คนมีคู่ต่างคนต่างทำงานกันหนักแทบจะไม่เจอหน้ากันเลย สวนทางกันตลอด ขอให้อดทนแล้วจะสบายในบั้นปลาย คนโสดมีคนที่คบกันอยู่แล้ว กำลังเริ่มเบื่อกันและค่อยๆ ห่างกัน เพราะยิ่งคบแล้วต่างคนต่างรู้ใจกันว่า คงได้แค่เพื่อน

สุขภาพ : ช่วงนี้ฝนตกบ่อย รักษาสุขภาพนะ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : สำหรับท่านที่ทำธุรกิจเองจะเหนื่อยใจกับบริวาร เพราะงานเข้าเยอะ แต่ขาดลูกน้อง ท่านจึงต้องทำเอง ทำเท่าที่ทำได้แล้วกัน

การเงิน : ได้เงินมาก็หมดไปกับการซื้อของลงทุนอีก

ความรัก : อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร เพราะอารมณ์ไม่ดีใส่กันมาหลายวันแล้ว พูดเปิดใจกันเลยจะได้ปรับปรุงตัวให้ถูกใจทั้งสองฝ่าย     คนโสด มีสว.รุ่นใหญ่มาจีบ พร้อมซื้อของกำนัลมาให้ อยู่ที่ตัวท่านชอบรึไม่ก็บอกเขาไป

สุขภาพ : ปวดฟัน หรือต้องรักษาอนามัยในช่องปาก

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : มีแนวโน้มจะเสียเปรียบคนได้ อย่าเชื่อใจใคร การทำธุรกิจต้องศึกษาและใจซื้อใจต้องรักษาคำพูดด้วย และความซื่อสัตย์ ทางจึงจะเปิดให้กับท่าน

การเงิน : จะเสียเงินให้กับบริวารลูกน้อง

ความรัก : เครียดทั้งงานและคนในครอบครัว พวกเขาอาจไม่รู้ว่า ท่านต้องทำงานหนักแค่ไหน ระบายให้ฟังบ้างจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระกัน คนโสด ช่วงนี้มีแต่ปัญหา ระแวง หึงหวง หาเรื่องทะเลาะกันเรื่อยๆ นี่ขนาดยังไม่แต่งงานยังขนาดนี้ ควรทบทวนใหม่ได้แล้ว

สุขภาพ : ระวังระดับไขมันสูง

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : อาจมีอุปสรรคในการทำงาน เพราะงานยังไม่เข้าที่และขาดคนช่วย ต้องขอร้องหรือขอให้คนมาช่วยชี้แนะ งานจึงจะผ่านไปได้

การเงิน : ใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับบริวารลูกหลานเรื่องเรียน

ความรัก : อย่าวู่วาม พูดโดยไม่คิด จะเดือดร้อนเพราะปากได้ ควรต้องรู้ใจคู่ของท่านว่าไม่ชอบให้ใครจู้จี้มากนัก เพราะเขาอาจมีโลกส่วนตัวสูง จะพูดจาอะไรก็เบาๆ ลงบ้าง คนโสด มีเรื่องกังวลใจเรื่องของคนที่ท่านคบ ชักเริ่มมีพฤติกรรมไม่ค่อยดี ทำให้ท่านเครียด ระวังเขานิสัยไม่ดีอย่างที่ท่านคิดนะ

สุบภาพ : ระวังโรคภูมิแพ้กำเริบ

PAJAMAS จ๋า…ชุดนอนก็เปรี้ยวได้งี้?!?!

ชุดนอน แต่ไม่ได้ใส่นอน เพราะนี่เป็นเทรนด์ร้อนๆ ที่ส่งตรงจากรันเวย์เมืองนอก และเป็นอะไรที่มาแรงมาก เด่นมากในซีซั่นนี้ซะด้วย

อย่าปล่อยให้ Summer ผ่านไปอย่างไร้สไตล์นะครับ

วันนี้ ผม pound_praewnista ขอหยิบเอาเรื่องเทรนด์มาเม้าท์ให้อินกันดีกว่า

ว่าด้วยเรื่องของ ‘ชุดนอน on street’ ครับ ที่ถือได้ว่าเป็นเมเจอร์เทรนด์ของร้อนนี้เลยละ โชคดีที่บ้านเราร้อนยาวนานกว่าที่อื่น สาวไทยจะมาอินตอนนี้ก็ถือว่าไม่สายไปครับ เชื่อผม!

ชุดนอน

แต่แม้เทรนด์ชุดนอน หรือ PAJAMAS จะเด่นมากที่ซีซั่นนี้ แต่ก็ใช่ว่าคุณจะใส่ชุดนอนออกนอกบ้านจริงๆ ได้ซะเมื่อไร เอาเป็นว่าลองมาทำความเข้าใจพร้อมๆ กันไปสักนิดดีกว่าครับว่า เจ้าพาจามาส์นี่มีลักษณะเป็นชุดที่ต้องมา ‘เป็นคู่’  คือมาเป็นแบบ ‘เสื้อและกางเกง’ ส่วนชุดนอนอีกแบบที่เด่นไม่แพ้กันของซีซั่นนี้ จะมาเป็นเดรสผ้าลื่นๆ แต่งลูกไม้ พวกหลังนี่เรียกว่า ‘Slip-Dress’ ครับ

ชุดนอน          แฟชั่นนี่แปลกนะครับ เทรนด์บางเทรนด์ดูแล้วน่าสงสัยว่าทำไมมันถึงขึ้นแท่นเป็น Big Trend ของแต่ละซีซั่นได้ อย่างเจ้า Pajamas นี่ก็ด้วย ก่อนหน้านี้มีหลายแฟชั่นเซ็ตเตอร์พยายามดันแต่ไม่สำเร็จ จนมาเปรี้ยงจริงๆ ในปีนี้ อาจด้วยเนื้อผ้าที่ดูหรูหราขึ้น ดีเทลที่ตั้งใจมากขึ้น รวมถึงความพยายามอย่างหนักหลายปีด้วยละครับ ปีนี้จึงกลายเป็นปีของ ‘ชุดนอน’ เสียที

ชุดนอน

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า ถึงแม้จะเป็นที่รู้จักกันในนามชุดใส่นอน แต่แท้จริงแล้วเจ้าพาจามาส์มีรากฐานดั้งเดิมจากคนฮินดี้ (Hindi) หรือคนที่นับถือศาสนาฮินดูครับ โดยคำ Pajamas เพี้ยนมาจากคำว่า pae jama หรือ pai jama ซึ่งมีมาตั้งแต่จักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) โน่นเลยละ เป็นชุดที่มาในแบบหลวมๆ ทั้งบนและล่าง ใส่ได้ทั้งชายและหญิง และแม้ว่าเดิมจะเกิดขึ้นที่เอเชียใต้อย่างอินเดียและอิหร่าน แต่พาจามาส์กลับได้รับการรับรู้ว่าเป็นชุดที่สร้างขึ้นโดยชาวยุโรปมากกว่า โดย British Colonials ในปี 1870s ไม่น่าแปลกใจครับ เพราะช่วงนั้นเป็นยุคล่าอาณานิคม ยุโรปก็ยิ่งใหญ่เป็นธรรมดา แต่เดี๋ยวก่อน ถึงอย่างไรพาจามาส์ก็ยังไม่ได้รู้จักกันในฐานะแฟชั่นสไตล์ เพราะยุคนั้นมันถูกสร้างมาเพื่อใส่นอนจริงจังนั่นเอง

ชุดนอน

จนกระทั่ง Gabrielle “Coco” Chanel ปลุกชีวิตให้เจ้าชุดนอนนี่อีกครั้งเมื่อเธอดีไซน์มันออกมาเพื่อเป็นลุคเดินชายหาด รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลอันหรูหราของเธอ นี่ถือเป็นประวัติศาสตร์แรกในโลกแฟชั่นของชุดนอนออนสรีทก็ว่าได้ครับ ก่อนจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ชุดนอน

จนกลายมาเป็น palazzo pajamas ในปี 1960s ที่หรูหราขึ้นกว่าชุดนอนเดิน Beach ของ Chanel ตรงที่มาบนลักษณะแบบขากว่้าง (Wild Lags) ผ่านวัศดุผ้าไหมพริ้วนุ่มลื่น และก็พัฒนาต่อมาจนถึงปักหินสีเรื่อยไปจนถึงขนนก โดยดีไซเนอร์ยุคนั้นต้องยกให้กับ Irene Galitzine ที่ทำให้เจ้าพาจามาส์ยุคนั้นดังยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว

แต่แฟชั่นก็อย่างนี้ มีดังแล้วก็ต้องมีดับ และพาจามาส์ดันดับยาวนานเสียด้วยน่ะสิ จนมา 2016 นี้แหละที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ

โชคดีของเราแค่ไหนที่เทรนด์นี้กลับมาในปีนี้ เพราะถ้าไม่ใส่ตอนนี้ อาจต้องรออีก 50 ปีเลยนะกว่าจะเปรี้ยงอีก แฟชั่นเป็นเรื่องสนุกครับ แต่ผมขอให้ดู ‘What When Where’ ด้วยนะ ถ้าตอบสาม ‘W’ ได้ว่าใส่ได้! ถูกกาลเทศะชัวร์! ก็เชิญสนุกกับมันเต็มที่ไปเลยครับ

ผมเชียร์คุณอยุ่! คุณก็รู้!

 

 

อุ๊ยตาย! ตาบวมหลังตื่นนอน 8 ทริค ช่วยชีวิต พิชิตความสดใสรับยามเช้า

ตื่นนอนยามเช้าว่ายากแล้ว แต่ถ้าตื่นนอนแล้วพบว่า ตาบวม ใต้ตาคล้ำ จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ ดูเหนื่อยล้า ไม่สดชื่นขึ้นทันที ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีเท่าไหร่ ที่จะออกจากบ้านด้วยสภาพนั้นๆ

การตื่นนอนด้วยใบหน้าสดใส สดชื่นยามเช้า เป็นเรื่องที่สาวๆ หลายคน ทำได้ยากพอสมควร เพราะไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ต้องเดินทางหนัก นอนดึก พักผ่อนน้อย จึงทำให้ใครหลายคนรู้สึกเพลีย เหนื่อยล้า ยากจะตื่น ยิ่งถ้าช่วงไหนมีซีรีส์ฮิตเผลอร้องไห้น้ำตาท่วมขึ้นมา การตื่นนอนแล้วพบว่า ใต้ตาเราบวม จึงเป็นเรื่องที่ต้องหาวิธีแก้แบบเร่งด่วน วันนี้เราเลยนำทริคดีๆ มาฝากกัน ซึ่งอาจไม่ได้ช่วยให้สาวๆ ดูสวย วิ้งไปเลย แต่จะช่วยให้ใบหน้าดูสวย แบบไม่โทรมเมื่อออกจากบ้าน

ตาบวม

ล้างหน้ายามเช้าด้วยน้ำเย็น

น้ำเย็นจะช่วยให้เลือดเราหมุนเวียน รูขุมขนกระชับ และยังช่วยให้ผิวของเราสดชื่นและแจ่มใสต้อนรับวันใหม่เลย

ตาบวม

เก็บครีมบำรุงไว้ในตู้เย็น

ข้อนี้สาวๆ หลายคนน่าจะทำกัน เมื่อเราล้างหน้าเสร็จแล้วยามเช้า ก็ให้นำครีมบำรุงที่แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นตอนกลางคืนมาลงใบหน้า ความเย็นจะช่วยลดอาการบวมและยังทำให้ผิวหน้าเราดูไบรท์ สดใสขึ้นด้วย

ตาบวม

โบกมือบ๊าย บาย ตาบวมด้วยถุงชา

บางคนตื่นเช้ามามีอาการตาบวม อย่างน้อยก็อาจเกิดขึ้นสำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้ ถุงชาที่เราใช้ต้มดื่มก็ช่วยลดอาการตาบวมได้เช่นกัน ใส่ถุงชาในถ้วยน้ำร้อน เหมือนที่เราทำดื่มกันปกติ จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็น รอจนน้ำชาเย็น แล้วเอาถุงชามาวางลงบนตาของเราสัก 2-3 นาที จะเห็นความแตกต่างเลยว่า อาการตาบวมจะลดลงและดูเรียบเนียนขึ้น

ตาบวม

คอนซีลเลอร์ (Concealer)

แต่ถ้ามีเวลาไม่มากนัก ก็ใช้คอนซีลเลอร์มาช่วยได้ เพราะสาวๆ ก็มักจะใช้มาแต้มใต้ตาเพื่อปกปิดร่องรอยหมองคล้ำใต้ตา และยังช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอเนียนขึ้นด้วย

ตาบวม

บรอนเซอร์ (Bronzer) และบลัช (Blush)

เมื่อตาเราบวมออกจากบ้าน อาจจะทำให้ใบหน้าเราดูเหนื่อยล้า การใช้เครื่องสำอางมาช่วยอย่าง บรอนเซอร์ ปัดลงบนผิวหน้าจะทำให้ผิวเราดูสุขภาพดี ดูโกลว์ และบลัช อาจจะเป็นสีชมพูอ่อน ส้มพีซ มาช่วยก็จะช่วยให้ผิวหน้าเราดูสว่าง สดใสและดูไม่ป่วย

ตาบวม

น้ำเกลือ

ใช้น้ำเกลือทาลงใต้ตาบวมของเรา น้ำเกลือจะกำจัดภาวะการคั่งน้ำใต้ตา ที่เป็นสาเหตุทำให้ตาบวม

ตาบวม

เจลว่านหางจรเข้

นอกจากเจลว่านหางจรเข้ จะช่วยลดตาบวมเราได้แล้ว ยังช่วยลดริ้วรอยใต้ตาเราด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะ

ตาบวม

ดื่มน้ำสะอาด

ปิดท้ายด้วย สิ่งที่เรารู้กันมาตลอด นั่นก็คือ ให้เราดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำจะช่วยไปขับไล่ภาวะการคั่งน้ำที่เป็นสาเหตุทำให้ตาเราบวมนั่นเอง

เรียบเรียงโดย : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : www.brickandglitter.com
ภาพ : www.brickandglitter.com, www.pinterest.com

5 วิธีบาลานซ์ชีวิต ค้นพบความสุข สร้างได้ด้วยตัวคุณเอง

ปัจจัยหลายอย่างในชีวิตของมนุษย์ที่ยังต้องเผชิญกับการทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ หลายคนอาจจะเบื่อกับความกดดัน ปัญหาในชีวิตกระจำวันอย่างรถติดหลายๆ ชั่วโมง รวมถึงมลพิษที่รายล้อมอยู่ทั่วพื้นที่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องเหล่านี้คือสาเหตุที่ทำให้คนกรุงอยากย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกันแล้ว แต่ถ้าชีวิตของคุณยังต้องอยู่ในเมืองใหญ่ การเรียนรู้และเลือกที่จะปรับตัวตาม 5 ข้อนี้ ก็น่าจะทำให้ชีวิตมีความสุขได้มากขึ้น

Exercise

ไม่ได้มองว่าเป็นเทรนด์ที่คนยุคนี้นิยมทำกัน แต่เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีที่สร้างความสุขได้จริงๆ นะ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยึดติดอยู่กับการทำงานจนใช้มันมาเป็นข้ออ้างในการไม่ดูแลตัวเอง บ้างก็ไม่มีเวลา บ้างก็เหนื่อยจากการทำงานแล้ว ไม่อยากทำอะไร ก็เท่ากับว่าคุณกำลังทำร้ายตัวเองทางอ้อม คนส่วนใหญ่ยิ่งทำงานเหนื่อย ก็มักจะหาวิธีระบายออกโดยการกินซะเยอะ นอนดึกกินดึก จนวงจรชีวิตรวนไปหมด สิ่งที่ตามมานอกจากร่างกายอ่อนแอ หน้าตาไม่สดใสแล้ว อีกหนึ่งความทุกข์ที่เกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือรูปร่างที่เปลี่ยนไปของคุณเอง ดังนั้นเริ่มต้นลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เจียดเวลามาออกกำลังกายให้เป็นประจำ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์บ้าง อย่างน้อยๆ ความรู้สึกพอใจในตัวเองก็จะกลับมา ปัญหานอกบ้านจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ในที่สุดคุณก็เอาชนะตัวเองและมีความสุขขึ้นโดยอัตโนมัติแล้ว

1
https://www.theodysseyonline.com/will-fail-your-diet-exercise-this-time

Find relax place

เรียกว่าเป็นการชาร์ตแบตให้กับตัวเองก็ได้ ถ้าเกิดคุณเครียดมากกับชีวิตที่ต้องอยู่กับงาน เผขิญกับความกดดันมาทั้งสัปดาห์ การหาพื้นที่สงบๆ นั่งชิลๆ ก็ช่วยผ่อนคลายได้เยอะ ถ้าเวลาไม่ได้มีมากสุดสัปดาห์ลองหาร้านกาแฟเก๋ๆ นั่งอ่านหนังสือ หรือไปเดินเล่นตามพิพิธภัณฑ์ดูเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ชมงานศิลปะตามแกลลอรี่ที่มีอยู่ทั่วเมืองกรุง ก็ช่วยให้คุณมีสมาธิและนิ่งได้มากขึ้นนะ ลองเปลี่ยนบรรยากาศเดิมๆ จากหน้าคอมพิวเตอร์บ้างก็ดี

2
http://bk.asia-city.com/city-living/news/new-co-working-spaces-bangkok
3
https://theartgalleryumd.wordpress.com/about/

Enjoin with friends

การออกไปสังสรรค์นอกบ้านกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน สำหรับหนุ่ม-สาวออฟฟิศที่เรียนจบกันมาหลายปี หมกมุ่นอยู่กับหน้าที่ความรับผิดชอบ ทำงานก็เหนื่อยแล้ว เลิกงานก็อยากกลับบ้านนอกพักผ่อน ถ้าลองเปลี่ยนเป็นช่วงวันศุกร์สัก 1 เดือน พบปะกันสักครั้ง หาเวลานัดหมายกินข้าวพูดคุยกับเพื่อนเก่าๆ บ้าง ก็ช่วยให้ลืมคิดถึงเรื่องหนักๆ ที่อยู่ในหัวได้ เพราะวินาทีนั้นคุณกับเพื่อนคงจะมีแต่เรื่องสนุกๆ มาคุยย้อนความหลัง ประหนึ่งเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งยังไงล่ะ

4

Forgiveness

การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง แน่นอนว่าภาวะที่ก่อให้เกิดความเครียดก็มีมาก ปัญหาต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความกดดันจากที่ทำงาน หรือบางครั้งเราอาจจะต้องเจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก หากเราเลือกที่จะปรับทัศนคติ มองโลกในแง่ดี ที่สำคัญรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกันได้ เพียงเท่านี้ไม่ว่าคุณจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ขนาดไหน ชีวิตก็สามารถมีความสุขได้มากขึ้นแล้ว

5
http://www.gurjotnewyork.com/blog/page/13/

Easy for life

สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินทางไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เหนื่อยหน่ายกับความวุ่นวายบนท้องถนนที่เจอมาทั้งสัปดาห์ จริงๆ แล้ว การได้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และพื้นที่ทำกิจกรรมอยู่ในบริเวณใกล้ที่พัก ก็ช่วยลดความเครียดได้

6

7

โดยเฉพาะใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท แม้ว่าจะหาสถานที่ที่สมบูรณ์แบบอย่างนั้นได้ยาก แต่สำหรับ เดอะเบส พาร์คเวสต์และ เดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท 77 สามารถสร้างความสุขให้กับทุกไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น ที่นี่มีพื้นที่ผ่อนคลายหลากหลายรูปแบบ

8

ทั้งห้องออกกำลังกาย พื้นที่กลางแจ้งดีไซน์เป็นสวนสีเขียวรายล้อมรอบด้าน Community Mall สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง ซึ่งมีร้านค้า และคาเฟ่ต่างๆ รองรับการพักผ่อนให้ทุกคนมี Quality Time ได้อย่างสะดวกสบายที่สุด เห็นได้ชัดเลยว่า ทั้งโครงการ เดอะเบส พาร์คเวสต์ และ เดอะเบส พาร์คอีสต์ ที่เดียวก็สามารถเติมเต็มความสุข ชีวิตบาลานซ์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมแล้ว

9

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : The Base  สนใจโทร 1685 หรือ www.sansiri.com

สัมผัสงานศิลป์ผ่านเฟอร์นิเจอร์ด้วยเทคนิคการแต่งบ้านให้เป็น “อาร์ตแกลลอรี่” ระดับโลก

การแต่งบ้านถือเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่กำลังนิยม เรียกได้ว่าการช็อปปิ้งเฟอร์ฯ กลายเป็นเรื่องปกติเหมือนช็อปสินค้าทั่วๆ ไป ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นงานศิลปะที่สามารถตกแต่งบ้านให้มีดีไซน์

ซึ่งเมื่อพูดถึงประเทศแห่งงานศิลปะของโลก หลายคนต้องนึกนึง“อิตาลี” เป็นอันดับต้นๆ เพราะมักจะมีงานศิลปะผ่านงานเฟอร์นิเจอร์ออกมาให้ผู้ที่หลงใหลตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ

ล่าสุดเตรียมโชว์งานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ต้อนรับซีซั่นใหม่ ในงาน “ซีดีซี อิตาเลี่ยน เฟสติวัล 2016” (CDC ITALIAN FESTIVAL 2016) เพื่อร่วมฉลองวันชาติอิตาลี ในระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 5 กรกฎาคม 2559 วันนี้มีเทคนิคการแต่งบ้านให้เป็นอาร์ตแกลลอรี่ระดับโลกมาฝาก โดยถ่ายทอดผ่านเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ล้วนแต่มีเรื่องราวและที่มาที่ไปอย่างน่าสนใจ ทำให้บ้านของคุณหลายเป็นอาร์ตแกลลอรี่ขึ้นมาทันทีเลยแหละ

เริ่มจากคนที่หลงรักงานตกแต่งประเภทไลท์ติ้ง (lighting) จะต้องชื่นชอบกับ แชนเดอเลียร์ “บูซาโต้” (Busato) รุ่น IRIS VAN GOGH 24 Lights ผลงานที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยมือทั้งชิ้น (Handmade) โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากภาพวาดสีน้ำมันดอกไอริส ของจิตรกรเอกของโลก วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh) ซึ่งเขาวาดไว้ในขณะที่รักษาตัวโรควิกลจริตที่โรงพยาบาล แชนเดอร์เลีย IRIS ผลงานชิ้นนี้ได้รับการจดลิขสิทธิ์เมื่อ 28 ตุลาคม 2008

12ส่วนเก้าที่นั่งสบายแถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้อง เก้าอี้ แบรนด์ มาจิส (Magis) เฟอร์นิเจอร์อิตาเลี่ยนแบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1976 (พ.ศ.2519) โดย มร.ยูจีนิโอ เปราซซา (Eugenio Perazza) เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่เริ่มต้นผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยใช้พลาสติก และพลาสติกของ ‘มาจิส’ ทุกชิ้นเป็นออร์แกนิค สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน เพราะนำเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ ‘การฉีดขึ้นรูป’ มาผสมผสานกับการผลิตแบบ Mass product ไซบอร์ก อาร์มแชร์ (Cyborg Armchair) ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต พนักพิงทำเหมือนหวายสานขัดลายให้ดูโปร่ง ได้อารมณ์หวายธรรมชาติ

3สำหรับสาวก แคนโทรี (CANTORI) เฟอร์นิเจอร์งานฝีมือสไตล์อิตาลีของแท้ อาจต้องเตรียมสตางค์ช็อปเฟอร์ฯ ชิ้นใหม่ กับ ฉากกั้นห้อง เซอ ชีท สกรีน (Sir Sheet screen) ขนาด 180 x 2.5 x 168 เซนติเมตร ที่มีไฮไลต์อยู่ที่การออกแบบ คาแรกเตอร์ อักษร “C” มาจากคำว่า CANTORI เป็นลายทั้งฉาก โดยมีกรรมวิธีการผลิตชั้นสูงด้วยการใช้เลเซอร์คัต ทำให้งานละเอียด กว่าการใช้เครื่องตัดธรรมดา พ่นสีเหล็กด้าน (Antique Iron) แบบเรียบหรู ดีไซน์ร่วมสมัย

4ส่วนบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดและชอบเฟอร์นิเจอร์แนวโมเดิร์น คาลิคการีส (CALLIGARIS) ออกแบบ โต๊ะออร์บิทัล (Orbital) โดยนำแนวคิดหุ่นยนต์และการออกแบบรถยนต์มาผสมกับนวัตกรรมการปรับขนาดหน้าโต๊ะแบบล้ำสมัย ด้วยการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนแขนโลหะที่ยึดติดไว้ใต้แผ่นกระจก ที่ทำจากวัสดุกระจกนิรภัยชนิดใสพิเศษ สามารถลดขนาดหน้าโต๊ะได้ง่ายเพียงปลดสลักที่ยึดไว้ใต้โต๊ะ แล้วจับแผ่นกระจกด้านใดด้านหนึ่งหมุนทวนเข็ม หน้าโต๊ะกระจกส่วนขยายจะถูกหมุนเก็บไว้ใต้โต๊ะอย่างเรียบร้อย ตัวหน้าโต๊ะเป็นกระจกใส เพื่อไม่ให้ดูทึบ เหมาะกับห้องเล็กๆ ขนาดกว้าง 105 เซ็นติเมตร ยาว 255 เซ็นติเมตร หรือปรับขนาดได้ตามความต้องการ ลดได้เล็กสุดที่ 165 เซ็นติเมตร

5โคมไฟตั้งโต๊ะคิวปิดสีทอง สไตล์คอนเทมโพลาลี-คลาสสิก แบรนด์อิตาลี ลุกซ์ สไตล์ (LUXE STYLE) นำจากวัสดุทองเหลืองเคลือบด้วยทองสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากให้แสงสว่าง ยังเป็นของประดับตกแต่งบ้านที่เพิ่มความหรู โก้ และคลาสสิก ทนทานและรักษาง่าย

7ส่วนใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบจัดห้องรับแขกใหม่บ่อยๆ รับรองว่าจะสนุกกับ โซฟาหนัง ซาน เรโม (San Remo Sofa) แบรนด์ VERDE (เวอร์เด่) โซฟาหนังแท้เย็บแบบดึงดุมทำให้เหมาะกับสรีระการนั่ง ที่มีไฮไลต์อยู่ที่ฟังค์ชั่น ออกแบบให้จัดรูปแบบโซฟาได้ตามที่ต้องการด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น แบบ U Shape, L Shape ในที่กว้าง หรือ แคบ ได้หมด  โดย 1 ชุด ประกอบไปด้วยโซฟาชิ้นย่อยทั้งหมด 5 ชิ้น แต่ละตัวจะสามารถถอดแยกจากกันได้ และถ้าต้องการประกอบเป็นรูปทรงแบบไหนจะมีตัวล็อคเกี่ยวกับขาด้านล่างเพื่อความคงทน

8

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : ซีดีซี อิตาเลี่ยน เฟสติวัล 2016

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน อังคารที่ 14 มิถุนายน 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : การงานไม่ค่อยราบรื่น จะขัดแย้งกับหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมทีม แต่ท่านคงรับมือได้ละ เพราะน่าจะชินแล้ว

การเงิน : เงินทองขาดมือ ประหยัดได้แล้ว

ความรัก : คู่ท่านจะได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ครอบครัวจึงเริ่มมีความหวังถึงการสร้างอนาคตที่ดี คนโสดจะได้พบรักอันเกี่ยวเนื่องจากการทำงาน แล้วค่อยๆ พัฒนากันต่อไป

สุขภาพ : ระวังแพ้อาหาร หรือแพ้อากาศ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนจะประสบความสำเร็จ หากพยายามอีกจะก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิม

การเงิน : เริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน

ความรัก : หากกำลังรอสมาชิกใหม่ของครอบครัว ท่านจะได้รับข่าวดี คนโสดจะได้พบรักแท้ในโซเชียลมิเดีย

สุขภาพ : อย่าหักโหมงานหนัก พักผ่อนเยอะๆ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งงานนอกและงานประจำ ควรจัดระบบให้ดีว่าจะทำอะไรก่อนหลังจะได้ไม่เหนื่อย

การเงิน : กำลังมองหาช่องทางทำประกันชีวิตเพิ่ม

ความรัก : จะมีปัญหากับคู่ครองหรือคนในครอบครัวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีอันต้องห่างเหินกันสักระยะหนึ่ง คนโสด ช่วงนี้พยายามออกงานสังคมบ่อยๆ จะได้เจอคนถูกใจ แต่ต้องดูดีๆ เพราะภาพที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น

สุขภาพ : ระวังโรคประจำตัวกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : เริ่มทำงานด้วยความมั่นใจมากขึ้น เพราะท่านเดินมาตรงจุดแล้ว อุปสรรคจึงน้อยลง

การเงิน : อย่าเพิ่งไปคาดหวังถึงอนาคตที่สวยหรู ควรประหยัดไว้จะดีกว่า

ความรัก : อย่าหลงใหลกับคนที่ไม่ใช่คู่ของท่านนัก เพราะอาจทำให้ครอบครัวมีปัญหา คนโสดจะมีคนเป็นม่ายมาจีบ ซึ่งพร้อมทั้งฐานะและตำแหน่งทางสังคม ท่านควรเลือกได้แล้ว

สุขภาพ : ระวังข้อเข่ามีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : งานไปได้ดี สบายๆ แต่ยังไม่โดดเด่นมากนัก

การเงิน : จะมีรายได้เสริมจากการค้าขาย

ความรัก : ท่านอาจต้องรับดูแลญาติผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ท่านเหนื่อยใจบ้าง แต่คงต้องดูแลเพราะได้บุญกุศลแรง คนโสดมีคนเข้ามา แต่ยังไม่ถูกใจท่าน รอเลือกก่อนนะ

สุขภาพ : ระวังโรคหอบ หืด หรือมีปัญหาเรื่องไขข้อ

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : คนที่มีงานประจำอยู่แล้วจะได้ตำแหน่งที่มั่นคง และได้ก้าวหน้าขึ้น ท่านจะขยัน ทำงานได้อย่างชัดเจนและก้าวไปสู่เป้าหมาย

การเงิน : จะหมดเงินไปกับความอยากได้เครื่องประดับราคาแพง

ความรัก : ช่วงนี้จะมีปากเสียงและมีเรื่องบาดหมางกัน เพราะอาจมีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง ขอให้ตั้งสติดูว่าใช่หรือไม่ คนโสดจะเจอคนที่รอคอยมานาน แบบเจอแล้วใช่เลย

สุขภาพ : มีการปวดตา และตาอักเสบ

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : จะได้รับภาระหนักหน่อย ทั้งงานนอก งานใน และต้องแก้ไขข้อบกพร่องหลายจุด รวมทั้งงานบัญชี ตัวเลขอาจถูกเรียกตรวจสอบ ต้องวางระบบใหม่ให้ดี ต้องหาแนวร่วมมาช่วยแก้ปัญหายากตรงที่ไม่มีใครถนัดเลย ขอให้ท่านเลือกให้ดี หาโอกาสไปถวายสังฆทาน และปล่อยปลาตัวโตๆ จะช่วยเสริมพลัง

การเงิน : มีปัญหาเรื่องเงิน เพราะต้องจ่ายหลายด้านเลย

ความรัก : เกิดความระแวงกันอย่างหนัก จริงๆ แล้วพวกท่านอาจเบื่อกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จนอยากหาคนคุยใหม่ที่ถูกใจกว่า คนโสด มีคนมาจีบแบบเจาะจงเป็นท่านเลย ระวังจะเจอจับมัดมือชกแต่งงานโดยไม่รู้ตัว อย่าเผลอ อย่าพลาด

สุบภาพ : ระวังโรคภูมิแพ้กำเริบ หอบ หืด

 

Sunny&โอ๊ปป้าเกาหลี ต่างชาติงานดี! ดังไม่รู้เรื่อง รวยไม่รู้ตัว แต่ละคนมาไกลมาก !

Sunny&โอ๊ปป้าเกาหลี ติดใจเมืองไทย แต่ละคนมาไกลมากๆ

Sunny&โอ๊ปป้าเกาหลี 3 หนุ่มชาวต่างชาติที่ตกลงปลงใจมาฝังตัวใช้ชีวิตอยู่ที่ไทย เพราะในขณะทีหลายคนบ่นเบื่อความวุ่นวายของกรุงเทพฯเต็มแก่ แต่พวกเขากลับยิ่งหลงรัก แถมยังสร้างชื่อโด่งดังในโลกโซเซียลสุดๆ บอกเลยว่าแต่ละคนมาไกลมาก

 

Sunny&โอ๊ปป้าเกาหลีเริ่มที่ซันนี่เจ้าของนัยน์ตาทรมานใจสาว จากเด็กหนุ่มที่เติบโตในเมืองชนบทเล็กๆ แห่งหนึ่งในออสเตรเลีย จนได้ย้ายมาอยู่ซิดนีย์ แล้วทำงานเป็นบรรณาธิการด้านแฟขั่นและบันเทิงมานาน5ปี แต่ด้วยหน้าตาที่หล่อเลยได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบกับโมเดลลิ่งเอเจนซี่ทำให้ได้เดินทางไปทั่โลก แต่ช่วงที่อยู่โตเกียว จู่ๆ ก็ได้ข้อเสนอให้มากรุงเทพฯ จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะอยู่แค่3เดือน เพราะมีสัญญาต้องบินไปอินเดีย สิงคโปร์ และลอนดอน กลายเป็นว่าตอนนี้อยู่เมืองไทยมา2 ปีแล้วจ้าา

รู้ยัง! แค่ นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง…ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!

น่าตกใจ! แค่ นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง…ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง…ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง เป็นเรื่องจริงที่สุด ฟังไว้เลยสำหรับใครที่อยากจะใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ตามเทรนด์ แต่เล่นนั่งแหมะอยู่หน้าคอมฯ ก้มหน้าก้มตาอัพเฟสบุ๊คโชว์ไลฟ์สไตล์ให้เพื่อนๆ ชาวโซเซียลอิจฉาเล่น แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ แถมยังเสี่ยงเป็นโรคด้วย…
นี่ไม่ได้พูดเกินจริง เพราะตอนที่อะพินรู้จากคุณหมอก็แอบตกใจเหมือนกันว่า เฮ้ย! อะไรจะขนาดนั้น..ชั้นก็ไม่ได้ผูกติดอยู่กับหน้าจอคอมฯ หรือโลกโซเซียลตลอด 24 ชั่วโมงสักหน่อย แต่พอลองมานั่งนับชั่วโมงการทำงาน และไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันแล้ว เอิ่มมม…แอบมองบนเบาๆ เพราะแทบจะไม่ได้ขยับร่างไปไหนเลยจริงๆ นับวันขยับร่างกายน้อยลงเรื่อยๆ ถ้ายังขืนปล่อยแบบนี้อยู่ ‘พฤติกรรมเนือยนิ่ง’ ถามหาแน่จ้า อยู่นิ่งไม่ได้ละ ต้องหาทางออก!

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!มาเสียเหงื่อ สลัดความ ‘เนือยนิ่ง’ กันเถอะ!
ความนิ่งไม่ได้สยบทุกสิ่ง แถมก่อเกิดโรคอย่างแรง เพราะการนิ่งอยู่กับที่นานเกินกว่า 4 ชั่วโมงในแต่ละวันจะเป็นสาเหตุของการสะสมผลเสียด้านสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นะ เพราะ ผศ.นพ.สมเกียรติ แสงวัฒนาโรจน์ หัวหน้าสาขาวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุชัดเจนว่า สถิติในปี 2557 พบสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยร้อยละ 71 มาจากโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่ออย่าง เบาหวาน มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการมีไลฟ์สไตล์ที่ผิดๆ ตั้งแต่เรื่องการกินรสหวานจัดเค็มจัด ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ และการมีพฤติกรรมนั่งนอนมาก แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะโรคเหล่านี้สามารถป้องกันด้วยตนเองได้ทันที หากรู้จักปรับพฤติกรรมใหม่ แล้วลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ใครมีเวลาจะมาสายโยคะ เต้นซุมบ้า หรือบ็อกซิ่ง ตามเทรนด์ก็เลือกเอาที่ชอบเลย

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!
นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!ลดเวลานั่ง เพิ่มเวลายืน ยืดเวลาเดิน

อ่ะ! ก็เข้าใจหัวอกหนุ่มๆ สาวๆ ชาวออฟฟิศทั้งหลายที่ไม่มีเวลาออกกำลังเหมือนกันนะ คุณหมอแนะนำว่าควรท่องประโยคนี้ไว้ให้ขึ้นใจคือ “ลดเวลานั่ง เพิ่มเวลายืน ยืดเวลาเดิน” โดยอาจจะตั้งมั่นให้ตัวเองต้องพักเบรกจากโต๊ะทำงานทุก 2 ชั่วโมง ด้วยการลุกไปเดิน ไปดื่มน้ำ หรือออกไปเดินนอกอาคารสักครู่ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้าง สมองยังได้พักและอาจจะช่วยให้คิดงานออกด้วยนะ แล้วจะเวิร์คมากถ้าลองพักเบรกด้วยการยืดเส้นยืดสายท่าง่ายๆ ที่ทำได้ที่โต๊ะทำงาน เช่น ไขว้แขนทั้งสองข้างเหนือศีรษะแล้วเหยียดขึ้นสุดสัก 10-15 วินาที หรือไขว้แขนไว้หลังศีรษะแล้วเอี้ยวตัวซ้าย-ขวาสลับไปมารวม 8-10 วินาที เอาท่าที่แล้วแต่จะครีเอทเลยละกัน เพราะแค่ได้ยืดนิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี  จะช่วยให้ไม่เนือยนิ่งกันจนเกินไป

สุขภาพดีได้ด้วย 5E
เคล็ดลับการเช็คอัพสุขภาพด้วยตัวเองนี้ คุณหมอสมเกียรติแนะนำอะพินมา ว่าลองใช้วิธี E-Checkup ดู ซึ่งมีด้วยกันอยู่ 5E คือ

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!Every Day
ต้องรู้ว่าในแต่ละวันเราควรเดินกี่ก้าว ถ้าน้อยกว่า 5,000 ก้าวถือว่ามีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ส่วนเครื่องมือในการวัดก้าวนั้นให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในมือถือได้เลย มีให้เลือกเพียบ

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!Every Week
ทุกสัปดาห์เลือกมา 1 วัน ลองชั่งน้ำหนักตัวเองตอนตื่นเช้า แล้วอีกสัปดาห์ถัดไปให้ลองชั่งใหม่อีกครั้งด้วยการใส่เสื้อผ้าชุดเดิมเวลาเดิมเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!
Every Month
วัดความดันโลหิตอย่างน้อยเดือนละครั้ง

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!

ทุก 2-3 เดือนวัดรอบเอวว่ามากขึ้นผิดปกติหรือไม่ โดยทั่วไป รอบเอวไม่ควรเกินส่วนสูงหารด้วย 2

Every Moment

นิ่งอยู่กับที่เกิน4ชั่วโมง...ทำร้ายสุขภาพอย่างแรง!
คุณหมอหมายถึงการไม่สูบบุหรี่ในทุกเวลา

เอาจริงๆ เรื่องการปรับพฤติกรรมทางกายให้ห่างไกลจากความเนือยนิ่งนั้นที่จริงทำไม่ยาก และทำได้ตลอดเวลา

แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ขี้เกียจนะจ๊ะสาวๆ

เรื่อง : @apin_praewnista

ภาพ : www.pinterst.com,http://i.telegraph.co.uk/multimedia/archive/02863/Smoking_2863037b.jpg

FASHION OF THE WEEK : 2 สาวตัวเล็กพริกขี้หนู แต้ว-มิว กับแฟชั่นสุดปัง! สวยครบทุกรสชาติ

“รากนครา” เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามองมากในขณะนี้ เพราะได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์ และ มิว – นิษฐา จิรยั่งยืน รับบทเป็นพี่น้องกันในเรื่องนี้

ซึ่งนอกจากสองคนนี้จะมีใบหน้าละม้ายคล้ายกันจนถูกจับมาแสดงเป็นพี่น้องคู่กันในละครแล้ว ชีวิตจริงของสองสาวนี้เขาก็มีอะไรคล้ายๆ กันหลายอย่างนะ โดยเฉพาะเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว เพราะทั้งคู่ค่อนข้างแต่งตัวเก่ง มีสไตล์การแต่งตัวที่เรายอมรับว่าเป็นแฟชั่นนิสต้าสาวฉบับมินิของวงการบันเทิงเลยแหละ จึงยกให้แฟชั่นการแต่งตัวของสาวแต้วกับสาวมิว เป็น FASHION OF THE WEEK ของเราสัปดาห์นี้! ตามไปดูแฟชั่นของพวกเธอกันเลยจ้า

1-1

แฟชั่นชุดออกงาน

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าตอนนี้สาวแต้วเขาสลัดลุคสาวหวานได้อย่างสิ้นเชิง ด้วยบทพิสูจน์นี้ทำให้หลายคนเห็นว่า สาวแต้วเธอก็แซ่บ! ได้นะจ๊ะ แถมยังส่งอินเนอร์เซ็กซี่นิดๆ ออกมาได้อย่างดี เป็นลุคที่แปลกตาสำหรับสาวแต้ว แต่เราชอบมาก รู้สึกว่าแต้วเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา ส่วนสาวมิวอาจยังไม่มีมุมเผ็ดๆ ให้เราได้เห็นกันมากนักแต่เธอก็มีสไตล์ของตัวเอง เอาจริงๆ แล้วมิวเป็นคนที่ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนเราจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เธอดูหรูและแพงมากจริงๆ

21

ลุคสาวหวานฟรุ๊งฟริ๊งของแต้ว-มิว

ลุคสาวหวานเป็นลุคที่พวกเรามั่นใจว่าสองสาวแต่งออกมาได้สวยหายห่วง หวานจนน้ำตาลเรียกแม่เลยแหละ เพราะถ้าตัดเรื่องชุดออกไป แค่หน้าตาของทั้งคู่ก็หวานจนละลายใจหนุ่มๆ อยู่ละ จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นสองสาวมาในลุคนี้บ่อยๆ ทั้งชุดเดรส ชุดราตรีสีหวานๆ ก็ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อพวกเธอ

34

แฟชั่นลายดอกก็ไม่ควรพลาดนะเออ

แฟชั่นลายดอกของทั้งคู่ เราชอบตรงที่มีความหลากหลายของชุด บางทีคนจะคิดว่าลายดอกต้องเป็นชุดหวานๆ แต่ทั้งสาวแต้วและสาวมิวก็มาให้ลุคลายดอกที่ให้ความรู้สึกแต่งต่างกัน ทั้งลายดอกที่ใส่แล้วดูโมเดิร์น ดูเป็นสาวเท่ด้วยชุดกางเกง เป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ เลยแหละ

65

ชุดสีขาวสุดคลาสสิก เรียบหรู ดูดี

ที่จริงลุคทั้งหมดที่พูดมา เราชอบลุคนี้ของทั้งคู่มากที่สุด เพราะชุดสีขาวที่พวกเธอใส่ มีครบทุกรสชาติจริงๆ นะ ทั้งเปรี้ยว เผ็ด หวาน แถมทั้งคู่ยังดูแพงมากกก เป็นสองสาวตัวเล็กที่เล็กพริกขี้หนู ถึงจะไม่ได้แต่งตัวเก่งหรือเเป็นตัวแม่ด้านแฟชั่นแบบสาวชมพู่-อารยา แต่แฟชั่นการแต่งตัวของสาวแต้วกับสาวมิวก็ดูสนุกสนาน มีสีสันไม่แพ้ใครเลยแหละ

78

ลุคสีสันสดใส คัลเลอร์ฟูลแบบนี้ทั้งคู่ก็ใส่ออกมาได้ดีมากๆ

แน่นอนว่าลุคนี้เป็นลุคที่เห็นได้บ่อยไม่แพ้ลุคอื่นๆ ทั้งชุดออกงาน ออกอีเว้นท์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นชุดสีคัลเลอร์ฟูล โดยภาพที่เรานำมาเทียบกันของทั้งสาวแต้วและสาวมิวจะเห็นได้ชัดว่า ทั้งคู่มาในสไตล์ที่แตกต่างกันนะ สาวแต้วดูจะเผ็ดกว่าสาวมิว แต่เอาจริงๆ ลุคนี้ไม่มีใครแพ้ใครหรอกสวยทั้งคู่ แค่ใส่ออกมาคนละสไตล์เท่านั้นเอง

910

ลุคสบายๆ ของทั้งคู่

วันสบายๆ ทั้งคู่ไม่ต่างกันมาก โดยจะมาในชุดสุดชิว กางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต หรือชุดเดรสกระโปรงง่ายๆ แต่ก็สวยได้ สาวแต้วจะมาในสไตล์สดใส เป็นธรรมชาติ ส่วนสาวมิวเราขอพูดคำนี้อีกทีว่าดูเป็นคุณหนูมากๆ อันนี้ถือว่าเป็นคำชมนะจ๊ะ เพราะแค่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ สาวมิวก็ยังดูแพงอะคิดดู

1112

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : @Mewnittha, taewaew_natapohn

keyboard_arrow_up